ม.ค.282019ศาสนา620128_รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 36 อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1yFGJ3xqalQXK7vbYOheqqxAwwaDbDJv24M06oYwX8XA/edit?usp=sharing ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1zMfTlBKDD20pG1de-v0JyFHSierHsNSQ พ่อครูว่า…วันนี้วันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2562 ที่บวรราชธานีอโศก SMS วันที่ 27 ม.ค. 2562 (วิถีอาริยธรรม) _3867ผู้น้อยเคยเห็นภาพหลวงพ่อคูณ(ขณะ มีชีวิต)วัยชรานั่งรถเข็นช่วยตนเองไม่ ได้โดยมีลูกศิษย์ประคองมือให้จับสายสิญจน์เพื่อปลุกเสกพระเครื่อง!ตอน นั้นสังคมวิพากษ์วิจารณ์วัดที่มีปรศิษย์เหลือบไรปะปน!กระทำไม่เหมาะสม!โยมที่เคยกราบหลวงพ่อคูณสอนด้วย ไม้โขกหัวให้มีชีวิตด้วยสติสมบรูณ์! พ่อครูว่า….ก็มีคำสอนที่ดี ทำดีอย่าทำชั่วนะ คำสอนพวกนี้เป็นคำสอนที่เป็นของกัลยาณชน ซึ่งต่างจากคำสอนของพระพุทธเจ้า ท่านสอนให้รู้ทุกข์รู้สุขรู้จิตใจรู้กายกรรมวจีกรรมมโนกรรม ไม่ใช่คำสอนที่กว้างรวมหลวมๆ สามัญสำนึกใครก็สอนได้ให้ต้องเป็นอาจารย์ใหญ่ศาสดาก็สอนได้ ซึ่งมันก็มีทั่วไป พระพุทธเจ้าท่านสอนสิ่งที่ไม่เหมือนเขาที่เขาสอนแล้วก็ซ้ำซากปนเปท่านก็สอนสิ่งที่มันพิเศษดีกว่าเหนือกว่าสูงกว่าเป็นปรมัตถ์เป็นโลกุตระ ผู้ที่เป็นนักบวชมาก็ตามถ้ามีผมก็จะสอนโลกุตระแล้วก็จะว่าโลกียะ เหมือนมีเชิงลบหลู่ ข่ม แต่ไม่ใช่ เพราะโดยความจริงแล้วมันเป็นความจริงว่าโลกียมันต้องต่ำกว่าโลกุตระพูดทีไรมันก็ต้องมีนัยยะที่สูงกว่าเสมอ เพราะโลกุตระนั้นรู้ทั้งโลกียะสามัญรู้แล้วทำตนเองให้เจริญขึ้นสูงขึ้นกว่านั้นแล้วก็ต้องรู้ทฤษฎีที่จะเข้าหาปรมัตถ์ทั้งกายกรรมวจีกรรมมโนกรรม กายกรรมวจีกรรมก็มาจากจิตวิญญาณสั่งให้กายและบัญชีทำเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ไปแก้ที่ต้นทางที่จิตใจที่ปรมัตถ์ซึ่งมันมีเหตุก็คือกิเลสตัณหาอุปทานอกุศลจิตที่มีโลภโกรธหลงเป็นต้นแล้วก็ลดละตัวนั้น เมื่อลดละได้ก็จะเกิดภูมิปัญญา ผู้ที่สามารถลดกิเลสได้ปัญญาก็จะเกิดโดยธรรมชาติ ได้เพราะอะไร ปัญญาจะเกิดด้วยธรรมชาติได้เพราะว่าธรรมชาติของธาตุรู้ ถ้ามันเหมือนกับเพชรเหมือนกับกระจกไม่มีอะไรมาบังมันก็จะเห็นไม่ชัดเมื่อเอาที่เป็นความเปื้อนออกมันก็ใสกระจ่างชัดเป็นสิ่งที่ง่ายธรรมดาแต่มันจะเป็นอย่างนั้นมันเป็นปัญญาโดยธรรมชาติเลย เมื่อทำให้กิเลสออกจากจิตจิตใจจึงเป็นธาตุรู้ที่ใสขึ้นกว่าเก่า ไม่ใช่ไปนั่งสะกดจิตหลับตาแล้วปัญญาจะเกิดไม่ใช่มันต้องรู้กิเลส ทำลายกิเลสได้ พูดอย่างไรก็จะไปข่ม มันเลี่ยงไม่ได้ เพราะว่าเราพูดสิ่งที่สูงกว่าก็เลยเหมือนไปข่มคนที่ไม่สูง คนก็รู้สึกเหมือนถูกข่ม ขออภัย ก็ทำตนให้สูงขึ้นจะได้มาข่มอาตมาไง อาตมาก็จะไม่ถือสาหรอก _พ่อครูฯเป็นนักบวชชาวมังสวิรัติที่สุขสวัสดิภาพปลอดภัยโลกียะที่โชคดีที่สุดในพุทธสยามที่ไม่มีอำนาจลาภยศสักการะสรรเสริญโลกียะสุข จึงรอดพ้นภัยปรศิษย์เหลือบไรที่ชอบหากินกับผลปย.วัดมิชอบ! ศิษย์แวดล้อมพ่อครูจึงปลอดภัยด้วยจิตอาริยะชนคนพอเพียง!สาธุ _น้อมอภัย · คุณรจนา ก็เหมือนกบค่ะ กบถูกผ่าทั้งตัว หัวใจก็ยังเต้นอยู่ค่ะ ตอนเรียนวิทย์ อาจารย์ให้ผ่ากบ ดูการทำงานของอวัยวะ หัวใจกบเต้นตลอดทั้งร่างแหลกแล้วค่ะ _นันท์มนัส · อากาศเย็น พ่อครู ข้างในสวมเสื้อ อุ่นแขนยาว _สุชาดา · อโศกอยู่ไกลไปอีกฟากฟ้าหนึงที่เค้าตามไปไม่ถึง พ่อครูว่า…ก็ต้องสอนโลกุตระ แต่คนไม่เข้าใจโลกุตระก็สอนไม่ได้ อย่างเช่นหลวงพ่อคูณไม่ใช่โลกุตระอะไรแต่เป็นพระที่ดีมีคุณสมบัติความเมตตาแต่ไม่มีโลกุตระ ถ้าหากหลวงพ่อคูณรู้โลกุตระจะสอนโลกุตระได้ดีเพราะมีลูกศิษย์ลูกหาเยอะ แต่คนที่มาล้วนแต่มีภูมิโลกียะมีเดรัจฉานวิชาด้วยเยอะ เพราะฉะนั้นอาตมาจึงไม่ประมาทที่หลวงพ่อคูณจะมีลูกศิษย์ลูกหาเยอะและลงใหลได้ปลื้มถ้าเป็นสิ่งงมงาย คนเหล่านั้นไม่มีภูมิปัญญา ที่พูดนี้เป็นภาษาวิชาการ อันนี้สูงกว่า อันนี้ต่ำกว่าพูดอย่างชัดๆไม่ได้เกรงใจไม่ได้ไว้หน้า ไม่ได้ไปนึกถึงว่าจะไปกระทบใคร แต่ไขสัจธรรม พูดเนื้อหาสัจธรรมให้ง่าย ใครจะเข้าใจผิดว่าไปดูถูกคนนั้นคนนี้ไปว่าคนนั้นคนนี้ ไปข่ม ดูถูกคนนั้นคนนี้ก็แล้วแต่อาตมาก็ยอมรับให้เขาเข้าใจผิด แต่อาตมาไม่มีจิตตัวนี้ อาตมาพูดการกระทำมันหาคนพูดสัจธรรมโดยที่ไม่ติดในตัวตนบุคคลเราเขาที่เป็นปรมัตถ์พูดแต่สภาวะธรรมตรงๆเอาบัญญัติภาษามาใส่ในสภาวะ อธิบายไป คนฟังอาตมาหัวไม่ถึงพูดง่ายๆ ก็เลยตำหนิและดูถูกอาตมาไป อาตมาบอกแล้วว่าอาตมาเป็นคนไม่มีมารยาทเพราะว่าอาตมามีเวลาไม่มาก ถ้าหากลากสังขารตัวเองไปอีก 151 ปีก็อีกแค่ 60 กว่าปีที่อาตมาจะอยู่ แล้วอาตมาจะทำงานได้แค่ไหนกันเชียว ในขณะที่สิ่งที่มันได้ผิดเพี้ยนมันไม่เจริญมันจะต้องช่วยให้มันถูกต้องขึ้นมาใหม่ใช้เวลา 50 60 ปีแต่ที่เขาทำลายไปเป็นเวลานับพันปี จนไม่เหลือเชื้อของศาสนาพุทธแล้ว ขอยืนยันว่าศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาโลกียชนธรรมดาแต่ศาสนาพุทธเป็นศาสนาโลกุตระ เป็นศาสนาที่มีนิพพานเป็นศาสนาที่พัฒนาจิตวิญญาณเป็นหลักแล้วจิตวิญญาณเป็นประธานสิ่งทั้งปวง เจริญกายกรรมวจีกรรมมโนกรรมอย่างพร้อมไปช่วยเหนือชั้นด้วย เช่น การแก้ปัญหาสังคม คุณจะมองไปในแง่เศรษฐศาสตร์ในแง่รัฐศาสตร์ในแง่สังคมศาสตร์ก็ตาม การแก้ปัญหาสังคมพัฒนาแก้ปัญหาสังคมตั้งแต่ต้นมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ เป็นการแก้ปัญหาโดยที่ทฤษฎี นี้คือทฤษฎี พาคนมาจน ทำให้คนมาจนให้ได้จริงๆ นี่เป็นการแก้ปัญหาของอาตมาแก้ปัญหาสังคมเศรษฐกิจแก้ปัญหาการเมือง มันได้หมดเลย การแก้ปัญหาของอาตมามีจุดสำคัญคือจะต้องมาเป็นคนมีวรรณะ 9 มีสาราณียธรรม 6 ตามทฤษฎีพระพุทธเจ้าหรือตามศาสตร์พระราชารัชกาลที่ 9 ของราชวงศ์จักรีนี่แหละ อาตมาจะไม่แก้ปัญหาด้วยการพาคนไปรวยเด็ดขาด ไม่ได้พูดเล่น และอาตมามั่นใจว่ามีความรู้ด้วย มั่นใจว่าพาคนไปมันแก้ปัญหาเศรษฐกิจการเมืองสังคมไม่ได้ คนทั่วโลกนี้ ขออภัยเขาจะต้องพยายามให้คนไปรวย ทำให้คนมาจนมารู้จักความจนอย่ากลัวความจน แล้วมีชีวิตอยู่เป็นคนจนใครมาทำตัวให้เป็นคนจนจนเข้าใจมีปัญญาแล้วไม่ต้องไปแย่งความรวยกับใครเลยคนๆนี้ช่วยปัญหาเศรษฐกิจให้สังคมและประเทศชาติแล้ว แต่ว่าหากอยากจะรวยหาทางเอาเปรียบดีไม่ดีคนดีไม่ดีขึ้นเอาเปรียบมันเป็นอย่างนั้นใช่ไหม คนที่ไม่มีปัญญามีแต่กิเลสเต็มหน้าเต็มตัวถ้าจะทำไปอย่างนั้นเพราะฉะนั้นต้องลึกซึ้งไปถึงสัจธรรม จะทำให้สังคมเจริญคนเจริญคืออย่างไร คือต้องทำคนให้มารู้จักความจน อย่าไปกลัวเลยความจน ความจนเป็นความพิเศษความประเสริฐ พระพุทธเจ้าจนหรือรวย ท่านจน ท่านอยู่ในฐานะของกษัตริย์มีสมบัติพัสถานมีบัลลังก์ แล้วท่านก็มาเปลี่ยนเป็นรองพระบาทก็ไม่ใส่ ดำเนินพระบาทเปล่า ชุดก็เป็นผ้าบังสุกุลที่เขาทิ้งแล้ว ไม่ใช่ว่าท่านเสแสร้ง หรือท่านทำอย่างไม่เต็มใจ ท่านทำด้วยเต็มใจของท่าน ท่านทำอย่างสบายทำแล้วไม่ได้ฝืนด้วย พวกเรามาจนสำเร็จและความดีดดิ้นความจะต้องไปแย่งที่เป็นปัญหาสังคมในพวกเรานั้นลด นี่คือการแก้ปัญหาสังคมประเทศแล้ว แต่ว่ามีความขยันสร้างสรรค์ แล้วมีปัญญารู้ด้วยว่าอะไรที่เป็นสิ่งควรสร้าง อะไรควรทำอะไรขึ้นมา อะไรที่ไปเสียเวลาแรงงานทุนรอนเราไม่ไปทำ ของเป็นพิษภัยด้วยเราก็ไม่ทำ เราก็เอาเวลาทุนรอนแรงงานมาทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ อาตมาพาทำได้จริง จะบอกว่าไม่ได้ทำหรือทำไม่ได้ก็ไม่ได้ใช้ อาตมาก็ไม่มีจิตที่อยากจะอวดด้วย ไม่มีสาเฐยจิตอยากอวดอ้าง มันไม่มีจิตตัวนี้ จิตเป็นจริงอย่างนั้นก็พูดให้ฟังเขาก็หาว่าอวดอุตตริมนุสสธรรมอีก ก็ยืนยันได้ว่าปริมาณอุตส่าห์ทำเป็นสิ่งประเสริฐเหนือมนุษย์เหนือธรรมดามันเป็นได้นะคนสมัยนี้ก็มีได้อาตมาเป็นตัวอย่าง อย่าเดา บอกแล้วเป็นของจริงอย่าไปเดาว่าคนนั้นคนนี้เป็นพระอาริยะนั้นอย่าไปเดาเขาเลย อย่างเช่นหลวงพ่อคูณ บอกว่าเป็นพระอาริยะอย่างนี้ ยังอยู่ในส่วนที่อาตมาไม่เห็นว่าเป็นพระอาริยะเลย ในคำสอนที่หลวงพ่อคูณปฏิบัติ แล้วไปทำเดรัจฉานวิชาทำไม อบายมุขสิ่งที่หยาบ โลกุตระของพุทธเจ้านั้นรู้ก่อนเลยที่จะพ้นจากสิ่งที่อยากทำเดรัจฉานวิชาเป็นอบายมุขมันมีขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นปลาย อย่าไปเอาพระอรหันต์ที่เคี้ยวหมากปากเปรอะอยู่ เป็นอรหันต์ไม่ได้หรอก จับตามองว่าเป็นสิ่งเล็กน้อย ไม่ใช่หรอก มันเป็นสิ่งที่หยาบก็ไม่รู้จะเป็นพระอาริยะได้อย่างไร เพราะเสพติดก็ไม่รู้ว่าตัวเองเสพติดอบายขั้นต่ำ เป็นสิ่งภายนอกขั้นต่ำก็ยังไม่รู้เลยมันน่าอายก็ยังไม่รู้ ถ้าหากปฏิบัติอย่างมีลำดับมันจะมีความอัศจรรย์ลาดลุ่มเหมือนฝั่งทะเล ซึ่งมันสับสน เอาต้นเป็นปลายเอาหัวเดินต่างตีน อาตมาจะไม่แก้ปัญหาด้วยการพาให้คนไปรวยเด็ดขาด นี่คือการแก้ปัญหาการเมืองเศรษฐกิจสังคมทั้งโลกเลย ถ้าหากประเทศเราพาคนมาจนได้ อย่างที่ในหลวงตรัสว่าเราไม่บริหารประเทศแบบคนรวย เราบริหารประเทศแบบคนจน อาตมาก็เห็นใจเหมือนกันว่าคนเข้าใจไม่ได้ นักบริหารแก้ปัญหาเศรษฐกิจทุกวันนี้ ถ้าไม่กล้าพูดตามในหลวง ว่าจะแก้ปัญหาแบบคนจน แต่ในหลวงท่านเป็นในหลวงแท้ๆท่านยังกล้าพูดเลยต่อหน้าประชากรโลก เมืองไทยควรเข้าใจประเด็นนี้ก่อนเพราะมันเป็นหัวใจเลยต้องให้แก้ปัญหาแบบคนจน จะแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจการเมือง คนเข้าใจแล้วจะไปวุ่นวายทำไม มีแต่จะไปช่วยบ้านเมืองไม่เป็นปัญหาแก่บ้านเมืองไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ ด้านการบริหาร รัฐบาลที่มาบริหารที่ดีอย่างพลเอกประยุทธ์ก็บริหารดีเราก็ส่งเสริม เราทำการเมือง หรือจะพูดว่าเล่นการเมืองก็ตาม เราก็ส่งเสริมสำหรับคนดี ถ้าหากใครบริหารไม่ดีอย่างเช่นทักษิณกับนอมินีเราก็ออกไปประท้วงเราไล่ไป ไม่ได้ดูดาย เราก็เป็นพลเมืองที่ดีและมีความรู้จากพระพุทธเจ้าสอนให้เราเป็นศาสนาสังคมไม่ใช่ศาสนาป่าเถื่อน ที่ไม่มีประโยชน์ต่อมวลชนแต่ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ พหุชนหิตายะ(เพื่อหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก)พหุชนสุขายะ(เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ(รับใช้โลก ช่วยโลก) พระพุทธเจ้าสอนเป็นอย่างไร ในหลวงเราก็เป็นโพธิสัตว์ สอนมาตลอด ท่านทรงงาน เป็นตัวอย่างให้ดู รับใช้ประชาชน ติดดิน อดทน เสียสละทุกอย่าง มักน้อยสันโดษเป็นคนมีวรรณะ 9 มีสาราณียธรรม 6 ถูกต้องทุกอย่างเลย เราก็ต้องพยายามเสริมสร้างสิ่งที่พระพุทธเจ้า สิ่งที่ในหลวงได้ตรัสไว้ทรงงานไว้ มีพระจริยวัตรไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างมาตั้ง 70 พรรษา ในขณะที่ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดิน _ถุงเงิน ปิ่นแก้ว · โสด..แปลว่าไม่มีเกิด อัตภาพของจิตวิญญาณพ้นทุกข์พ้นสุข..หลุดพ้นความเป็นขั้นเทพ พ่อครูว่า…ทั้งโลกตีไม่แตกในความเป็นเทพหรือเทวะ ที่แปลว่า 2 ส่วนสภาวะเขาหมายความว่า มันเป็นความสุขเป็นสวรรค์ แล้วก็เข้าใจไปเป็น จิตวิญญาณอัตภาพ เป็นสิ่งที่ดีเป็นแต่ความสุขเป็นแต่ความเจริญ มีความหมายไปทางโลกียสุขเป็นโลกียธรรม ดีและเจริญ เจริญด้วย ลาภ ยศ สรรเสริญ สุขด้วยโลกธรรม เสื่อมลาภ ยศ ไม่เอา นินทาไม่เอาทุกข์ไม่เอาแต่ไม่เอาไม่ได้ เพราะว่าความทุกข์กับความสุขเป็นของคู่กัน ศาสนาพุทธสอนให้เลิกสุขและทุกข์ พ้นจากความสุขความทุกข์ให้ได้ ขั้นแรกเริ่มจากสิ่งที่เสพติดเบาๆจัดจ้านอบายมุข สิ่งที่เป็นสิ่งเสพติดการพนันจัดจ้านทางบันเทิงโดยรวมการละเล่นอะไรก็แล้วแต่ คนที่มีปัญญารู้แล้วก็เลิกจนหมดรส หมดความสุขหมดความทุกข์กับอบายมุข พ้นได้เป็นลำดับที่หนึ่งเราก็จะรู้จะเห็นสัจธรรมว่าจิตหลุดพ้นเป็นอย่างนี้ แม้จะเป็นโลกขั้นต่ำที่สุดแล้ว โลกขั้นอบายเราก็หลุดพ้นมาได้ ก็มีตัวอย่าง มีความเป็นปัจจัตตังเวทิตัพโพวิญญูหิเป็นโมเดล เป็นตัวอย่าง เราจะรู้จักมันเป็นอย่างนี้ เรายังติดต่อกับโลกกามคุณรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ที่ยังติดอยู่อีกเยอะ เราก็เรียนรู้ที่จะล้างกิเลสพวกนี้ออกไปอีกจนไม่สุขไม่ทุกข์ เราจะมีหรือไม่มีก็เข้าใจแล้ว เราก็ควรจะอยู่กับฐานที่ไม่ต้องไปแย่งชิงกับโลก มาอยู่กับความมักน้อย อัปปิจฉะสันตุฏฐิ แค่นี้ก็พอแล้ว ถ้ามันยังมากอยู่ก็ขัดเกลา สัลเลข สร้างสรรค์ขยันและแจกจ่ายแก่โลกเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ มันมีไม่มาก แต่อุดมสมบูรณ์เพราะมีใจพอ หลุดพ้นได้ ไม่ได้ยากเย็นอะไร คำว่าเทวะหรือเดวะ คำเดียวนี้ยิ่งใหญ่มาก สายเทวนิยมที่เป็นเทวอยู่กับเทพอยู่กับความเป็น 2 ตีไม่แตกในเทวะ มีสุขมีทุกข์วนเวียนอยู่อย่างนั้นตลอดกาล ศาสนาพุทธหลุดพ้นจากสิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นคนอีกชนิดหนึ่ง พูดแล้วก็ข่มโลกีย์อย่างที่ว่านี้ มันดีกว่าเหนือกว่าจริงๆ พูดสัจจะไม่ได้ไปข่มอะไรหรอก แต่เลี่ยงไม่ออก สิ่งที่อยู่เหนือก็ต้องข่มสิ่งที่อยู่ใต้ _จรูญลักษณ์ ศรัทธาพ่อครูดูและฟังธรรมของพ่อครูตลอดมา10กว่าปีแล้วค่ะ และกินเจมาเกือบ10ปี จะครบ10ปี วันที่18สค.62ค่ะ ถ้าโลกนี้มีแต่สัตว์ ก็จะไม่กินมันอีก ยอมตายค่ะ มั่นใจในคำสอนของพ่อครู ตอนนี้กำลัง จัดสรรเวลาเพื่อจะไปอยู่กับหมู่ชาวอโศก พ่อครูว่า… มาเลย welcome _พิกุล คนที่เขียนมาต่อว่า พ่อท่าน และชาวอโศก ฟังดูแล้ว เขาไม่รู้ธรรมะของแท้ของจริง เขาไปตามภูมิที่รู้และเชื่อแบบผิดๆ ตามเถรสมาคม สอนเรามาตลอด แมนได้เจอได้ฟังของจริงแล้วเขาก็ยังไม่เข้าใจ แสดงว่าเขาต้องฟังต้องดูบุญนิยมทีวีอยู่ เขาต้องดูต้องฟังบ่อยๆซ้ำๆซ้ำๆสักวันถ้าเขามีบุญบารมีเก่ามาบ้างเขาอาจจะเข้าถึงธรรมะที่ถูกต้องของแท้ของจริงได้ ขอบคุณพ่อท่านที่ตอบได้ชัดเจนและถ่อมตนไม่ตอบโต้ท่านนี่แหละของจริง ของแท้ ดิฉันฟังพ่อท่านเกือบทุกวัน ไม่หวั่นไหวเลยกับคําติต่อว่าพวกนี้ …เชื่อมั่นศรัทธา และจะเดินตามท่านแน่นอน ขอเวลาอีกนิด ขอเคลียร์อะไรให้ลงตัวก่อนจะตามไปแน่นอนขอบพระคุณค่ะ _กราบเรียนแจ้งข่าว จากหนังสือพิมพ์เราคิดอะไร ..(พ่อครูว่าจะให้หยุดก็ไม่ยอมหยุดบอกให้เลิกเถอะก็ไม่ยอมเลิก) เผยแพร่เนื้อหาสาระด้วยเอกลักษณ์ ไร้มายา เข้มคุณค่า ยืนยงมาจนถึงปีที่ 25 แล้ว คณะผู้ทำงานสำนักพิมพ์กลั่นแก่น พร้อมใจสนับสนุนพาณิชย์บุญนิยมระดับ4 (แจกฟรี) ดังนั้น เราคิดอะไรตั้งแต่ฉบับที่ 343 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป จะไม่เก็บค่าสมาชิกรายได้ใดๆอ่านกันฟรี ท่านใดประสงค์จะสมัครสมาชิกใหม่(ฟรี)แจกเลย ส่งให้ถึงบ้านฟรี พ่อครูว่า…อาตมาบอกความลับหลังไมค์ให้ฟัง จริงๆแล้ว หนังสือพิมพ์เราคิดอะไร จะไปคิดทุนการทำมันอยู่ไม่ได้มาตั้งนานแล้ว เพราะฉะนั้นแม้แค่ค่าสมัครสมาชิกก็มีนิดหน่อย ก็ไม่ถึงรายได้จากการโฆษณา แม้แต่รายได้จากการซื้อหนังสือ หนังสือเราคิดอะไรไม่ได้ขายซะมากหรอกแจกมากกว่าขาย เราแจกมากกว่าขายแล้วก็อยู่ได้ เบื้องหลังอยู่ได้เพราะอะไร เพราะทำอุปกรณ์การแพทย์ จนซื้อตึกที่ดินบ้านได้เลย เอารายได้มาทำหนังสือ เปิดเผยอุปกรณ์การแพทย์นั้นคืออะไรก็คือขวดดีท็อกซ์กับสายดีท็อกซ์ หน่วยที่ทำชื่อฟ้ารินขวัญ เพราะฉะนั้นเลิกเลยที่จะขาย ให้ฟรีเลยดีกว่า แจกเลย ตกลงแต่จะมาเป็นสมาชิกใหม่ก็เชิญ ที่คุณใบแก้ว สำนักพิมพ์กลั่นแก่น 644 ซอย นวมินทร์ 44 ถ.นวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม บึงกุ่ม 10240 เบอร์โทรศัพท์ 086 4867868 _ด.ญ.น้ำมนต์(ใสกลางเพ็ญ)..พ่อแม่คู่แรกเกิดมาได้อย่างไร ตอบ…เกิดมาได้เพราะพระเจ้าสร้างชื่ออดัมกับอีฟ ….ตอบ หลวงปู่ไม่รู้ พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้บอกไว้ ท่านว่าเราไม่รู้ที่ต้นของการเกิดโลก ในสิ่งที่เป็นนิยาม 5 ท่านแยกเป็น อุตุนิยาม พีชนิยาม จิตนิยาม กรรมนิยาม ธรรมนิยาม ธรรมะสองก็คือสภาวะที่จะเกิดจากพ่อและแม่ แต่คู่แรกท่านไม่รู้ พิสูจน์ไม่ได้ท่านก็ไม่เอามายืนยันพิสูจน์เราใช้สิ่งที่พิสูจน์ได้สามารถพิสูจน์ได้ ถ้าเรารู้ธรรมะ 2 ทำให้เกิดลูกได้ที่สุดอยู่คนเดียวเป็นโสด สามารถรู้อุตุธาตุ พีชธาตุ ทำให้จิตวิญญาณสลายเป็นอุตุนิยามหรือมีพีชนิยามนิดหน่อยแต่ก็ไม่สามารถรวมเป็นจิตนิยามได้อีกแล้ว ก็จบ ท่านไม่ได้ไปเสียเวลาหาที่ต้น เปรียบกับคนคนหนึ่งถูกลูกศรเสียบ คนจะช่วยรักษา จะเอาลูกศรออก เขาก็ไม่ยอมต้องให้รู้ก่อนว่าใครเป็นคนยิงมีลูกศรอาบยาพิษอะไรอยู่แล้วมีที่ต้นมาจากไหนคนนี้ก็มัวแต่เสียเวลาหาที่ต้น ตายก่อน คนเราเกิดมาเป็นคนแล้วไม่ต้องไปย้อนหาว่าเรามาเกิดจากสิ่งใดอันดับแรก แต่ให้แก้ปัญหาความทุกข์ที่ไปยึดถือผิดความไม่รู้ การเกิดความทุกข์ความสุข ตั้งแต่ระดับต่ำสุดคืออบายมุขที่ไปหลงเสพติดคือ เมื่อล้างได้ก็จะต่อไปที่กามภพ รูปภพจนกระทั่งล้างหมดทุกภพภูมิ เลิกยึดถือได้ก็สลายจิตนิยามได้ หรือจะให้เกิดอยู่ก็ได้ ทำให้กิเลสที่เป็นเหตุให้หมดไปจะรู้ตัวต้นรู้จักพ่อรู้จักแม่ ที่เป็นจิตวิญญาณ เมื่อมีจิตวิญญาณแล้วก็จะรู้ตัวตนบุคคลเราเขาเอง พูดเป็นภาษาว่า พระเจ้าสร้างอีฟกับอดัมแต่คนเป็นไม่ได้ แต่นี่พูดเป็นพ่อแม่ อิตถีภาวะปุริสภาวะ ก็ปฏิบัติได้ไม่ต้องมีคู่ก็ไม่ต้องมีลูกก็เป็นโสดได้ เป็นปุริสภาวะ หมดสุขหมดทุกข์ไม่ต้องไปตามหาที่เกิด พ่อแม่คือพระเจ้าสร้างการเกิด ต้นตอจิตวิญญาณที่สร้างการเกิด ทำลายอันนี้ได้เท่ากับรู้จักพระเจ้า จบเลย เพราะฉะนั้นจะไปตามหาที่เกิดตามหาพระเจ้าจินตนาการอย่างเดียวเลย แต่นี่สัมผัสอาการ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณได้หมดเลย รู้ทฤษฎีทำให้เกิดก็ได้ทำให้ตายก็ได้ ทำให้เกิดดีทำให้สูญก็ได้ อาตมาไม่มีปัญหาเลย เราอยากจะอยู่ก็อยู่ เราอยากจะสูญก็ทำได้พระเจ้าทำอะไรแก่เราไม่ได้ด้วย ศาสนาเทวนิยมตายไปแล้วต้องขึ้นอยู่กับพระเจ้า และพระเจ้าเป็นใครเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ ศาสนาพุทธตีแตกสุขทุกข์ทำให้สูญได้ รู้แยกธาตุได้ด้วย ยิ่งกว่าวิทยาศาสตร์ที่เขาแยกธาตุวัตถุแต่นี่แยกธาตุนามธรรม มันก็หมดความเป็นชีวะหมดทุกข์สุข หมดวิญญาณ ศาสนาพุทธจึงเข้าใจวิญญาณจะอยู่เป็นวิญญาณเทวะพระอวโลกิเตศวรเป็นโพธิสัตว์ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ยอมปรินิพพานเป็นปริโยสาน ก็จะอยู่นิรันดรเพื่อทำประโยชน์แล้วท่านก็ไม่ทำโทษภัยอะไรอีกแล้ว เป็นจิตวิญญาณดีสูงสุดแล้วมีหลักประกันแล้วคุณจะเกิดเป็นมนุษย์อีกกี่ชาติ อย่างอาตมาจะอยู่ต่อไปก็ได้ พระอวโลกิเตศวรมีปณิธานว่าจะช่วยคนให้ปรินิพพานไปหมดก่อนตนเองถึงจะปรินิพพานไป อาตมาขอบรรลุเป็นพระพุทธเจ้าสมัยเดียวก็ไปแล้วไม่เอาอย่างพระอวโลกิเตศวร ทุกวันนี้ก็สอนจะทำให้คนสืบทอดศาสนานี้เราได้แล้วก็ต้องกตัญญูต่อศาสนา เราจะปรินิพพานเป็นปริโยสานสูญไปก็ได้แล้ว แต่เราก็มาสืบทอดสิ่งที่ประเสริฐเป็นความกตัญญูของท่านสืบต่อสิ่งที่ประเสริฐให้เป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติมันไม่ได้เป็นความเสียหายอะไรและมีความเหน็ดเหนื่อยเราก็พัก เราไม่พักเราไม่เพียร _รักธรรม…จะขอรายงานสิ่งที่ได้ทำประโยชน์ผ่านสื่อถึงพล.อ.ประยุทธ์ พ่อครูว่า..ไม่เอา…ตอนนี้เราปรารถนาดีเจตนาดีเท่านี้ เราก็ช่วยผู้ที่ท่านทำงานต่อไป _หนึ่งฟ้า…ขอเรียนถามพ่อครูเพื่อสร้างบรรทัดฐานชาวอโศกเท่าที่ดิฉันเข้าใจ เข้าใจว่ามีคนสองกลุ่ม หนึ่งฆราวาสทั่วไป ไปมาปกติหรือช่วยในชุมชน อีกกลุ่มหนึ่งคือคนวัด ตั้งแต่อาคันตุกะจร ประจำ อยู่ในที่ส่วนกลางแล้วยกฐานะเป็นอารามิก อารามิกา ปะ กรัก นาค เณร สมณะ สิกขมาตุ พ่อครูเคยเขียนไว้ว่า ชาวอโศกมีปกติ ถือศีลเป็นปกติ ถ้าทานอาหารมังสวิรัติไม่มีอบายมุข ดิฉันได้รับคำกล่าวว่าเป็นคนนอก ดิฉันไม่เข้าใจ ถ้าจะแยกเป็นกรรมการกับไม่กรรมการแต่หากใช้คำว่าคนนอกคนใน ดิฉันไม่เข้าใจ และไม่ใช่แค่ดิฉันมีคนอื่นอีกด้วยถูกเรียกแบบนี้ มีบางคนเป็นชาวอโศกมา 40 ปี หลายคนได้ข้อหาชนิดนี้ เลยไม่รู้จะอธิบายได้อย่างไร จะได้อธิบายให้คนอื่นเข้าใจ พ่อครูว่า…คุณก็จบ Doctor มันน่าจะมีความเข้าใจ เรื่องกิเลสของคนมันก็มีแน่ ก็ต้องเข้าใจเขาและยอมให้เขา ถึงอย่างนั้น แม้คนเรานั้นจะไปเป็นกรรมการของชุมชน เขาก็มีเพิ่มแค่นั้นก็น่าจะเข้าใจเขา เพราะฉะนั้นถ้าคุณเองไม่ได้ติดใจไม่ได้ไปถือสาอะไร อย่างที่คุณก็ได้ช่วยชาวอโศกช่วยหมู่บ้านนี้มาเยอะแยะ แค่หางช้างติดพวยกาแค่นี้จะไปติดใจอะไร จะต้องแหมไม่ได้รับสิ่งนั้นนี้ อาตมาไม่ได้อยากอธิบายละเอียด มันจะฉีกหน้าคุณ ฉีกหน้าเรื่องอะไร คือนิสัยกิริยาคุณมันไม่ต้องใจคนอื่นเยอะ แต่คุณแก้ไม่ได้มันเป็นวาสนาคุณ ต้องมีที่มาที่คุณจะไม่ได้รับการยอมรับแม้จะให้สิทธิ์เป็นคนใน ทั้งๆที่ที่ดินคุณก็เป็นคนยกให้เป็นคนแรก คุณเป็นคนเริ่มต้นอะไรอีกตั้งเยอะแยะ เขาไม่ได้ทำทุกวันเลยแต่คุณต้องยอมรับ อาตมาไม่อยากพูดหรอกว่ามันเป็นเรื่องของวิบากคุณด้วย วาสนาของคุณด้วย คนแก้วาสนาไม่ได้ วิบากก็ไปแก้ไม่ได้เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องเป็นอย่างนี้ อาตมามีวิบาก ขนาดอาตมาโพธิสัตว์ระดับ 7 ก็ยังมีวิบากขนาดนี้ถูกต่อต้านคุณเห็นไหม เถรสมาคมควรจะยอมรับอาตมาอย่างเต็มรูปก็ยังไม่ได้ อาตมายังไม่เห็นจะน้อยใจหรือต่อว่าเลย ถ้าคุณเข้าใจอย่างอาตมาก็ช่วยตอบด้วย _สุดคำฟ้า…กำหนดการรับกลดของพี่ม.6 เมื่อไหร่คะ พ่อครูว่า…หลวงปู่ไม่ได้ไปกำหนดกับเขาตอนนี้หลวงปู่วางงานพวกนี้แล้ว ประมาณหลังงานปลุกเสกฯตลาดอาริยะ _ใจดิน…น้องภูมิพุทธ…เมื่อวานตอนเช้าเขาอุ้มขวดใหญ่ใส่ลูกปูสองตัว บอกว่ามีคนจับให้ก็รีบอุ้ม จะเอาไปเลี้ยง ปรากฏว่าพี่ป้าน้าอาเห็น ก็บอกว่า จะมีวิบากโดนขัง คุยไปมาน้องภูมิเปลี่ยนใจ อุ้มลูกปูมาปล่อย ทีนี้อารามดีใจมาก พอตอนเย็น เขาซนมาก ยายเอาไม่อยู่ ก็เลยจับขังในห้อง ปิดล็อคประตูเลย ภูมิก็ร้องว่า ช่วยด้วย ย่าๆๆ ก็เลยอดไม่ได้ นำมาเรียนพ่อครูค่ะ พ่อครูว่า…ทันตาเห็นเลยวิบากนี้ ไปขังปู เลยถูกย่าจับใส่กรงเลย _ไปหาสำนักเจ้าแม่บงกช ทันใดนั้นเจอทางสามแยก เจอผู้หญิงคนหนึ่งท่านอุทานออกมาพร้อมเสียงดังว่า นี่ละหรือ นกมันบอกมาให้เก็บเห็ด แล้วพ่อท่านว่าผู้หญิงคนนั้นอธิษฐานอะไรเกี่ยวกับดิฉันหรือเกี่ยวกับนก พ่อครูว่า…อ่านที่คุณเขียนมาชักรู้สึกว่าแม่บงกชไม่ปกติแล้วนะ อยู่ในภพมากตกภพ ที่จะสื่อสารกับคนไม่รู้เรื่องแล้ว ก็ตอบไม่ได้ที่ถามมา _คำว่าพ่อครู มาจากพ่อแม่ครูอาจารย์หรือเปล่า เพราะหลวงปู่มีคุณสมบัติเป็นได้ทั้งพ่อแม่ครูอาจารย์ พ่อครูว่า…พ่อครูนี้จำไม่ได้แล้วว่าเกิดตอนไหน(มีโยมบอกว่าช่วงสอบว.บบบ.) ตอนนั้นมีใบปัญญาบัตร _หลวงปู่หายเหนื่อยหรือยังครับ ชาวอโศกปฏิบัติบูชาได้เต็มที่หรือยัง พ่อครูว่า..เหนื่อยแล้วก็พักก็หายเหนื่อย ออกกำลังใช้พลังงานก็ต้องเหนื่อยเป็นธรรมดา ไม่ใช่อุตริเหนื่อยแล้วไม่พักก็บ้ากันพอดี แล้วตอบแทนอาตมาว่าปฏิบัติบูชาได้เต็มที่หรือยัง …ยัง _ทำไมเวลาคนเรา มีความรักแล้วถึงทุกข์ พ่อครูว่า…พระพุทธเจ้าตรัสว่ามีรัก 100 ก็ทุกข์ 100 มีรักหนึ่งก็ทุกข์หนึ่งไม่มีรักเลยไม่ทุกข์เลยแต่อาตมาชื่อรัก และอาตมาก็ไม่ทุกข์ เพราะเข้าใจรักก็เลยเขียนความรัก 10 มิติ คือคุณสมบัติจิตวิญญาณ ความรักคือการเผยแผ่เกื้อกูลถ้าเป็นความรักเรื่องกามก็แคบ รักแค่พ่อแม่ลูกก็แคบ ก็รักแค่ญาติก็กว้างขึ้น เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นมากขึ้น จะกลายเป็นความเกื้อกูลเมตตาเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นไปเรื่อยๆ ความรักที่เห็นแก่ตัวที่สุดคือความรักระหว่างคู่เมถุน บางคนลูกก็ไม่เอา เอาแต่คู่ บางทีฆ่าลูกด้วยมันแย่จริง คนทุกวันนี้จิตใจต่ำมาก หากเข้าใจจิตวิญญาณก็ควรจะทำให้เป็นความรักที่กว้างขึ้น จนกระทั่งเรามีพลังงานในความเมตตาช่วยเหลือเกื้อกูลกว้างจนกระทั่งเราไม่เหลือตัวเราเลย เป็นมิติที่ 6 7 8 9 สูยขงขึ้นไปเรื่อยๆนั่นแหละเป็นพลังงานแห่งความเมตตาเกื้อกูลช่วยเหลือ ความรักจริงๆไม่ใช่ความเห็นแก่ตัวและไม่ใช่แคบแค่เสพรสกาม ได้สมใจก็สุข ไม่สมใจก็ทุกข์ สุดท้ายแม้ทำเป็นเรื่องราวที่เป็นประโยชน์ก็ทำ โลกทุกวันนี้มีประชากรเกือบ 8,000 ล้านแล้ว คนมันมากเกินไป ไม่ต้องไปเพิ่มเติมอีกตั้งแต่ในยุคพระพุทธเจ้าอุบัติท่านก็ลดการมีลูก คือ กำหนดคุมกำเนิด แต่ไม่ได้แบบบังคับ ใครมาสมัครใจคุมกำเนิดท่านก็ถือว่าดี ท่านคุมกำเนิดด้วยศีล 8 ถ้ามีศีล 5 ก็ผัวเดียวเมียเดียวมีขั้นตอนให้ ถ้าสำส่อนเละก็ไม่ดี ใครมาถือศีล 8 ก็เป็นโสด ถือว่าเป็นบัณฑิต คนใฝ่เมถุนมีคู่แน่นอนจิตย่อมเศร้าหมอง จะสะอาดเบิกบานร่าเริงตลอดก็ไม่ได้ เพราะมันต้องกระทบอยู่ เราจะรู้ทำจิตใจให้เป็นความรักที่สูงขึ้น อย่างเช่นอาตมาเข้าใจความรักลึกซึ้ง อาตมาชื่อรัก แล้วก็รู้จักทำใจให้เป็นความรัก 10 มิติ ไม่ใช่เขียนอย่างตรรกศาสตร์ แต่เขียนอย่างเอาสภาวะมาเรียงร้อยออกมา อาตมาถึงไม่แปลกใจว่าทำไมชาตินี้อาตมาต้องมาชื่อว่ารัก ทั้งที่ชื่อแรกคือ สไมย์ ชื่อที่สองคือมงคล(สมเด็จติสโส อ้วน) ตั้งให้ ท่านเป็นอาจารย์ของลุงอาตมา ต่อมาอาตมาก็มาเปลี่ยนเป็นชื่อรัก ชาวอโศกเรามีความรักมิติที่สูงมิติที่ 8 มิติที่ 9 รักกันอยู่กันอย่างโดยค่าเฉลี่ยในชาวอโศกเป็นคนโสด คนที่ไม่ได้ก็แต่งงานก็มีผัวเดียวเมียเดียว ตามฐานะของแต่ละคน ทำตนให้ได้รับคำสอนของพระพุทธเจ้าตามลำดับ ในชุมชนของเราชาวอโศกมีคนเป็นคนโสดเยอะ นอกนั้นก็แม้จะไม่โสดก็พยายามตั้งตนให้เป็นคนโสดก็สำเร็จไปเป็นคน เรื่องนี้เทวนิยมก็ไม่เข้าใจ คนมาทำปริญญาเอกศาสนาพุทธเป็นคนฝรั่งก็ว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ทำไมต้องมาห้าม คนทำป.เอกนะ ถาม ก็บอกว่า ศาสนาพุทธไม่เหมือนกับศาสนาเทวนิยมเพราะตีแตกความเป็นคู่จนกระทั่งถึงนิพพาน จึงพูดกันไม่ค่อยรู้เรื่องในศาสนาเทวนิยมว่าทำไมต้องเป็นอย่างนี้ เขาก็หาว่าเป็นไปไม่ได้เป็นเพียงตรรกะ ไม่เข้าถึงจิตวิญญาณ แต่ศาสนาพุทธนั้นเข้าใจจิตเป็นอย่างดี เข้าใจพระเจ้าไม่ต้องให้พระเจ้ามาประทานความเป็นสวรรค์นรกตั้งแต่ตอนเป็นๆก็ไม่มีสวรรค์เป็นนรกเป็นอรหันต์ก็หมดสวรรค์หมดนรก เพราะเขาตีไม่แตกเทวะ ที่เป็นพระเจ้าใหญ่ของสวรรค์ และสั่งให้ลงนรกด้วย เลยเป็นนายทุนใหญ่ของสวรรค์ แต่ศาสนาพุทธชัดเจนเทวะ หมดสุขหมดทุกข์อยู่อย่างปรมังสุขังคือยิ่งกว่าสุข ไม่มีรสโลกีย์ ทางลาภ ยศ สรรเสริญ กามคุณ อัตตา ก็รู้สิ่งที่เกิดที่มีที่เป็นตามเหตุปัจจัยไม่ต้องมีสุขทุกข์อะไร _บารมี 10 ทัศคือหนทางการสู่อรหันต์หรือไม่ (ท่านสม.ผุสดีอธิบายบ่อย) พ่อครูว่า…บารมี 10 ทัศมันก็เป็นทางบรรลุอรหันต์จริงๆแล้วก็เป็นทางบรรลุสู่พระพุทธเจ้าด้วย ทาน ศีล ภาวนา เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา อุเบกขา _ข้อวัตรปฏิบัติสมัยแดนอโศกมีอย่างไรบ้าง พ่อครูว่า…เอาแค่ตอนนี้ก็พอแล้ว อาตมาจำไม่ได้ด้วย ตอนโน้นเคร่งครัดมาก เดินนี่นิ่งไม่เงยหน้าเลย สุขุม สำรวม แต่ก่อน เดี๋ยวนี้อย่างกับลิง _เรื่องของพระธาตุ ไม่ใช่เครื่องบ่งชี้ความเป็นอริยะ พระพุทธเจ้าพระอรหันต์สาวกก็มีกระดูกเป็นพระธาตุถมเถไป แล้วพระธาตุมันเกิดจากอะไร พ่อครูว่า…ธาตุ ก็เอามาเรียกกระดูกของคนที่ตายแล้ว ก็มีแคลเซี่ยมเป็นหลัก ปฏิกิริยาของแคลเซี่ยม เมื่อถูกต้องกับความร้อนความเย็น กับพลังงาน สายเจโตเทวนิยมก็สะสมพลังงานเย็น ก็ทำให้กระดูกจับตัวกันได้ บางทีจับเป็นเม็ดมันๆเหมือนมุก เป็นธรรมชาติของวิทยาศาสตร์ พระธาตุเอามายืนยันความเป็นพระอรหันต์ไม่ได้ แต่ก็ได้บ้างสำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติเย็นและร้อนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก็จะได้เป็นพระธาตุมาบ้าง แต่ทีนี้เกิดเป็นเม็ดๆมันๆเหมือนเพชรพลอยมีสีสันด้วย ถ้าอย่างนั้นเป็นพวกฤาษีหนักก็จะเป็น ซึ่งไม่ใช่เครื่องสืบสานอรหันต์เลย แต่ขี้ตู่กันมากหลงใหลเลอะเทอะ ไม่รู้จะยืนหยัดอย่างไรก็เลยอาศัยพวกเหล่านี้ พระพุทธเจ้าสอนเรื่องอนุสาสนีปาฏิหาริย์ อย่าไปเอาใจใส่เรื่องอื่นเลย แต่ทำไมอาตมายังรับสภาพอยู่แล้วบอกว่าเป็นของพระพุทธเจ้า อาตมาอยู่ตามโลกสมมุติก็ต้องมีเครื่องอะไร เคยอธิบายมามากแล้ว แน่ใจอย่างไรว่าเป็นพระธาตุของพระพุทธเจ้า ก็ไม่ต้องไปแน่ใจ แน่ใจว่าไม่ใช่ก็ได้แต่เราก็กราบเคารพได้ แม้แต่พระพุทธรูปเราก็กราบก็ได้ เขาเอาดินข้างส้วมมาปั้นเราก็ยังกราบไหว้ แต่อันนี้เป็นสิ่งที่แทนพระพุทธเจ้าถ้าเป็นจริงก็ดีไป เราก็เอาที่คําสอนพระพุทธเจ้าที่เราจะฝึกฝนศึกษา ก็อยู่ที่สมมุติว่าอันนี้เป็นวัตถุอุปกรณ์อันหนึ่งที่จะใช้ เราก็รู้ความหมายมันเท่านั้นก็จบแล้ว เพราะฉะนั้นอาตมาก็ทำตามอนุโลมด้วยกับเขาที่ไม่เข้าใจสัจธรรมนักยังยึดถืออยู่ อาตมาไม่ได้ให้ทำพิธีการเสียเวลากับมันมากมาย พิธีกรรมที่ทำมากมาย จุดไฟไหม้อาคารเยอะแยะ อาตมาไม่ได้ใช้เดรัจฉานวิชชา ไม่ได้ทำนอกรีตพระพุทธเจ้าเลย เขาทำนอกรีต อาตมาก็ว่าเขาเสียหายศาสนา ขายขี้หน้าจัง แต่เราก็มาทำถูกต้องยืนยัน สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนแต่เขาก็หาว่าเรานอกรีตอีก _การทำงานคือการได้ลดกิเลส เกิดจากการทำหน้าที่ แต่คนเห็นแก่ตัวและขี้เกียจ มักจะพูดว่าไม่มีเวลาและขี้เกียจหมายความว่าอย่างไร ทำให้พ่อครูเกิดความลำบากใจไหม พ่อครูว่า…ก็ไม่ได้ลำบากใจ แต่ก็ช่วยบอกกัน ให้เขาแก้ไข ถ้าขี้เกียจก็สั่งสมความไร้สาระความไม่มีคุณค่าเขาก็เพิ่มกิเลสเราก็ควรบอกเขาบ้าง จริงๆแล้วพวกเราหาคนขี้เกียจได้น้อย แต่มีบ้างก็ค่อยบอกเตือนกัน _จิตสะอาดใจสบาย เกิดจากอาหาร 4 ผู้เจริญแล้วคือผู้บริหารผู้บริการและช่วยดูแลแก้ปัญหาพึ่งพาตนเองได้แล้วใช่หรือไม่ การบริหารต้องเอาจิตวิญญาณเป็นตัวตั้งไม่ได้วัตถุเป็นตัวตั้ง พ่อครูว่า…ก็ใช้จิตวิญญาณแต่ว่าก็มีการบริหารวัตถุไปร่วมกันไม่มากไม่น้อยให้พอดี _ผู้หญิงกับทอมรักกันมันผิดไหมคะ พ่อครูว่า…ผิด แม้แต่ผู้หญิงกับผู้ชายก็ยังผิดในที่นี้ หากเขาจะรักกันในวัย ฐานะที่จะรักกันได้ไม่สำส่อนก็ว่ากันตามฐานะ แต่ถ้าเลิกกันได้ดีกว่า ที่นี่มีคนคู่น้อยมีคนโสดเยอะ อย่าไปใส่ใจไปหา เพราะว่าในอนุสัยจิตเรามันมีมาแต่เดรัจฉานแล้ว ความเป็นคู่จึงเป็นความยากที่จะถอดถอน การถอดถอนให้จิตใจเราไม่มีอาการกามจึงเป็นความยิ่งใหญ่ที่สุดในความเป็นมนุษย์โลก ยิ่งยุคนี้สมสมัย แปลว่าไม่จำเป็นต้องมีลูกไปสู่ต่อเผ่าพันธุ์ หลายคนที่นี่เอาลูกคนอื่นมาเลี้ยงมาดูแลเยอะแยะไม่ต้องกลัวจะไม่มีลูก ให้เลี้ยงเด็กให้ดีเถอะ ที่นี่มีเด็กให้เลี้ยง ที่นี่ ที่ไม่ดีก็จะมาอยู่ไม่ได้ด้วยเพราะเป็นดินแดนที่เป็น ปฏิรูปเทสวาโส พูดโดยโลกว่าบุญไม่ถึงมาอยู่ไม่ได้ _ผู้ที่มีจิตมุ่งมั่นจะทำอะไรให้สำเร็จดังใจทุกอย่าง กับ การอยากฆ่าสัตว์เป็นปุริสภาวะหรือไม่ พ่อครูว่า…ไม่ต้องไปฆ่าสัตว์ก็ไม่ใช่ปุริสภาวะแล้ว การตั้งใจให้ได้ตามเป้าหมายที่จะให้สำเร็จมันก็เป็นเป้าหมาย คนมีเป้าหมายทำเป้าหมายแล้วรู้เหตุปัจจัยทำให้เกิดผลตามเป้าหมายได้ให้ถูกต้องก็แล้วกัน ไม่ต้องอยากได้นิพพานเลยแต่คุณศึกษาเหตุและทำเหตุให้ถึงนิพพาน เราอยู่ในฐานะของโสดาบันก็ยังไม่ได้ จะไปเอาสกิทาคามีพระอนาคามีก็ต้องศึกษา ให้เอาระดับโสดาบันก่อน ทำไปตามขั้นตอน คุณก็จะถึงเป้าหมายเอง ศึกษาพอรู้ทิศทางสำคัญต้องดูตัวเองแล้วทฤษฎีแต่ละขั้นตอน เราอยู่ในฐานะนี้เราก็ทำตามฐานะให้ตรงแล้วเราก็จะก้าวหน้าอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา ไปตามลำดับ คุณจะเร็วแล้วได้จริง แต่ถ้าหากรู้มากแล้วทำไม่ได้ก็จะไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรวุ่นวายเละเทะไปหมดเลย อยากฆ่าสัตว์ เป็นสภาวะของสัตว์นรกนะ สัตว์มันก็คือสัตว์มีชีวิตมีวิบากของเขา จะเป็นสัตว์เซลล์เดียวหรือกี่ล้านเซลล์ก็ตามเขาก็มีวิบากของเขา เราก็หวังประโยชน์เพื่อสัตว์ทั้งปวง อย่าไปเกี่ยวข้องกับสัตว์เลย สัตว์ที่มายุ่งกับเราเราก็เอาไปปล่อย อย่างนกพิราบ สัตว์ที่เป็นพิษเราก็เอาไปปล่อย แต่ถ้ามันไม่เกี่ยวกับเราๆก็ให้มันอยู่ไป มันจะทุกข์จะร้อนบ้าง หากเราจะช่วยมันได้ก็ช่วยมันบ้าง เราจะช่วยมันเมื่อไหร่ก็ร่วมวิบากกับมันทันที วิบากกรรมเป็นอันทำมันเป็นเรื่องอจินไตย ดูที่คนดีกว่า เราก็ร่วมวิบากมาเยอะ ช่วยกันแค่นี้ก็เหลือแหล่ เพราะฉะนั้นสัตว์เดรัจฉานปล่อยไปได้เลยอย่าไปยุ่งกับมัน มันเป็นวิบากของมัน เราก็พยายามดูให้มันเป็นไปตามสัตว์โลกมันก็น่าเวทนา หรือคำว่าน่าสงสาร เวทนาคือรู้สึก สงสารคือความหมุนเวียนไม่รู้จบ คนถ้าช่วยคนแล้วคนจะไปช่วยคนและสัตว์ คนที่อยากช่วยสัตว์ก็ดีเราก็อยากช่วย แต่เราไม่มีเวลาพอหรอกเกิดมา 100 ปีก็ตายไม่พอที่จะไปช่วยสัตว์หรอก ช่วยคนที่น่าสงสารก็มีเยอะแล้ว จะอ้าขาผวาปีกอะไรมากมายไร้ขอบเขตเสียเวลาเปล่า สรุป อย่าไปอยากฆ่าสัตว์ หากมันเป็นภัยก็เอามันออกไป _อ้วน…ท้าวความไปตอนปีใหม่ ตอนนั้นทำเอกสารหาย แต่สุดท้ายหน้าแตกอยากเอาปี๊บคลุมหัว คือไปสัญญาผิด นึกว่าหาย แต่จริงๆแล้วอยู่ที่บ้าน จะถามว่า…ความจำหากอายุมากก็จะเสื่อม อยากถามว่า เชื่อมั่นใน 8 อ. จะช่วยได้ไหม พ่อครูว่า…ถูกวิธีแล้ว คุณรู้วิธีแต่ไม่แน่ใจเท่านั้นเอง _น้อมยอดธรรม…เรื่องความซ้ำซาก ต้องให้ได้ดั่งใจอย่างนี้ในสิ่งที่ไม่ดีก็มีความซ้ำซากเยอะ แต่ในปัจจุบันนี้มาฟังธรรม ก็ทำให้รู้สติรู้ตัวรู้ใจอ่านใจเป็น เพราะว่าได้ฟังธรรมซ้ำซากจากสัตบุรุษทั้งหลาย ยิ่งมีความยินดีเหมือนว่าเราติดเลย ฟังไปแล้วมันได้ไปทีละนิดละหน่อยแต่เราถือว่าซ้ำซากยิ่งดี แล้วขอถามพ่อครูว่า…ฟังธรรมซ้ำซากพาพ้นทุกข์แล้วได้พ้นนิวรณ์ 5 ใช่ไหมคะ พ่อครูว่า..นิวรณ์ 5 มีกาม พยาบาท ตกภพ ฟุ้งซ่าน สงสัย _เกื้อกูล …อยากให้กำลังใจพี่หนึ่งฟ้า เห็นใจพี่เขาเลย พี่เขามาก็สั่งๆๆ แต่ไม่นานมานี้ ดิฉันเห็นความน่ารักของพี่เขานะ ที่เขามีความไม่ถือตัวทั้งที่เราเป็นคนกระจอก พ่อครูว่า…ถ้าหากเราไม่ชอบใครเราก็มองสิ่งที่ดีของเขาเสมอ หลายสิ่งที่เขาดีเราก็ทำไม่ได้อย่างเขา แล้วอ่านอาการจิต เราอย่าไปมองสิ่งที่ไม่ชอบ บางทีสิ่งไม่ดีนิดเดียวก็ไปกลบสิ่งที่ดีมีเยอะของเขาซวยเลย คนเราด้วยธรรมชาติก็จะมีทั้งสิ่งดีและสิ่งที่ชั่ว เราสามารถบอกเขาให้แก้ไขก็บอกไปบอกไม่ได้ก็ให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ผู้ที่มีหน้าที่ดูแลกันไปในฐานะของคนระดับเดียวกัน หรือถ้าเป็นเด็กเล็ก เราก็บอกด้วยเมตตา การจะไปมองสิ่งไม่ดีแล้วทำให้ใจเราหมองก็อย่าไปทำ _วันนี้คุณแม่โทรมาบอกว่าพ่อครูเทศน์ดีมากเลย แบบนี้ถึงเป็นศาสนาที่แท้จริง พ่อครูว่า…ถูกแล้วหากคุณรับรอง ก็ดี อาตมาก็อนุโมทนาสาธุด้วย _คณะอาที่เอาไม้เรียวตีก้นเด็กจะบาปไหม คนเหลาไม้เรียวรับวิบากด้วยไหม พ่อครูว่า…คนทำไม้เรียวมาตีคงไม่โหดร้าย หากโหดร้ายก็ไม่ทำอย่างนั้นก็เอาไม้ที่ไหนได้ก็ตีเลย หากเขาเหลาไม้มาก็คงปรารถนาดีที่จะตีให้เกิดความดีขึ้น แต่ถ้าตีด้วยความโกรธก็จะเป็นเรื่องไม่ดี ไม่ได้เรื่อง หากโกรธแล้วจะตี ก็รู้ให้ทันด้วยความโกรธทำความโกรธให้หาย เย็นเสียก่อน แล้วก็คิดจะตี ยิ่งคิดจะตีก็ต้องพูดให้รู้เรื่องว่าอย่าโกรธกันนะ ตีเพราะเหตุอะไร เหมือนกับคนที่ได้รับการตัดสินให้จำคุกก็ต้องให้เข็ดหลาบอันนี้ก็ตีให้เข็ดหลาบ พูดให้มีเหตุมีผลพวกนี้ เราจะเป็นคนที่มีเหตุมีผลทำอะไรมีหลักฐานมีกฎเกณฑ์ ที่นี่ นี่ อาตมาถึงบอกว่าครู หากเด็กคนไหนต้องทำโทษถึงตี ที่นี่ให้ตีเด็กได้ แต่ถ้าครูเป็นคู่กรณีกับเด็กก็อย่าให้ตีเด็กให้คนอื่นตีแทน มันจะเป็นกฎเกณฑ์ที่ดีมากเลยแล้วกิเลสคุณก็ไม่เพิ่มด้วย ใครมาว่าไม่ได้ด้วย จะบอกว่าโรงเรียนไม่ให้ตีไม่ได้ ต้องมีตี แต่ตีต้องมีเหตุผลหลักเกณฑ์ _การทำใจในใจกับการปล่อยวางต่างกันอย่างไร พ่อครูว่า…การทำใจในใจของเราจะทำให้อาการใจมีการปล่อยวาง ก็ต้องดูว่าอาการปล่อยวางต้องทำอย่างไร อาการปล่อยวางก็ตรงกันข้ามกับอาการที่ยึดติด ใจมันอย่าไปดูดดึงเหนี่ยวรั้งติดยึด อาการตามพยัญชนะ ห่วงหาอาวรณ์ก็คือไม่ปล่อย เราต้องรู้อาการจิต หากเราได้ทำใจของเราให้รู้ตามอาการเหล่านั้น จนใจหมดอาการเหล่านั้นก็คือการปล่อยวางหมดจากความยึดติดถือสาอะไรอย่างนี้ การทำใจในใจ คือการปฏิบัติธรรมยิ่งใหญ่ ภาษาบาลีคือมนสิกโรติ คำนามคือมนสิการ กิริยาคือมนสิกโรติ เป็นการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง คนที่ทำใจในใจไม่เป็นก็หมดหวังที่จะปฏิบัติธรรมของศาสนาพุทธ เพราะว่าศาสนาต้องเข้าถึงใจแล้วทำใจในใจให้ได้ เพราะฉะนั้นโยนิโสมนสิการจึงจะสามารถทำใจในใจได้ ถ้าคุณไม่มีโยนิโสมนสิการไม่มีความถ่องแท้ไม่มีความเฉลียวฉลาดพอที่จะรู้ใจในใจแล้วทำใจในใจให้ถูกต้อง ตามความหมายว่าคุณจะปล่อยวางเป็นต้น จะทำใจให้เกิดเมตตาจะทำใจให้เกิดความเอ็นดู ทำใจให้เกิดความเสียสละไม่หวงแหนไม่ขี้เหนียว ดีใจที่ให้ ก็แล้วแต่พยัญชนะมันจะบอกสภาวะ เราก็ต้องเข้าใจทั้งพยัญชนะและสภาวะแล้วทำให้ถูกต้องทั้งสภาวะที่ตรงกับความหมายของพยัญชนะนั้น พยัญชนะกับสภาวะเป็นเทวเป็นคู่ ผู้ใดที่ทำคู่นี้ให้ลงตัวแล้วทำให้เป็นผลสำเร็จได้ ผู้นั้นจะเป็นเทวดาจริง คือผู้เจริญ _ถ้ามีคนไม่ปกติมาด่ามาว่าเรา ควรใช้เจโตและปัญญาใช่ไหมคะ พ่อครูว่า…ใช่ ..คนที่มาด่าอาจจะพูดกันไม่ค่อยรู้เรื่องไม่ค่อยมีเหตุผลไม่ค่อยเข้าใจกันได้ง่าย มาด่ามาว่าเรา เขาเป็นคนไม่ปกติก็จะไปถือสาได้อย่างไร จบ… Category: ศาสนาBy Samanasandin28 มกราคม 2019Tags: สำมะปี๋ซี่วิต Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:ปั้นแต่งสมุนพระรามให้เป็นเด็กดีที่สวนพระคุณพ่อNextNext post:ข่าวอโศก มกราคม ๖๒ รวมปักษ์Related Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024