620206_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ตอบปัญหาอย่างนานาสังวาส
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1vt4k_g3w_4iHd7wXBE9KDBWVMzqD02052FKkOia7oYg/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1uo0JVCerQ9PuF88wy7K-mDJt-S36hldU
สมณะเดินดินว่า…วันนี้วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บวรราชธานีอโศก อีกประมาณ 1 สัปดาห์ก็จะเข้าสู่งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ครั้งที่ 43 ตอนนี้ดูเหมือนว่างานทุกงานจะโฟกัสที่บ้านราชฯ ทำให้เร่งวันเร่งคืนทุ่มเททุกอย่างให้เกิดการพัฒนาทั้งบุคคลและสถานที่
ตอนนี้ยอดจองคอนโดฯ ใกล้เคียงความเป็นจริงแล้ว พวกที่มาอยู่น่าจะเป็นชาวโลกุตระ ก็จะให้มาออกความเห็นว่าจะเอาแบบไหน
อาตมาก็คิดว่า นึกถึงบางศาสนาก็ต้องไปแสวงบุญไกล ของเราไม่ต้องไปไกลขนาดนั้น แต่รวมระยะทางในการเดินทางของพวกเราก็มากเหมือนกัน เราก็จะได้มาเพิ่มเติมฝึกฝน
พ่อครูว่า..ก่อนอื่นก็ปราศรัย sms เขียนด่ามาก็เยอะ มันไม่เป็นประเด็นก็เลยไม่เอามาเท่าไหร่ไม่เป็นสาระ เป็นเรื่องไร้สาระเสียจน แล้วแสดงตัวเองด้วย หยาบคาย ตัวเองเป็นคนต่ำขนาดไหน สำเนียงส่อภาษากิริยาส่อสกุลมันก็เป็นไป สังคมก็ดูตามพยัญชนะกับสภาวะ 2 อย่าง บางคนก็แสดงออกทางพยาบาท ก็พ่วงทางสภาวะให้เห็นให้รู้อย่างที่ขณะนี้ ประเทศไทยมีคนจะเปลี่ยนชื่อเป็นทักษิณกับยิ่งลักษณ์ (สม.กล้าฯว่าเปลี่ยนชื่อเป็นทักษิณ 11 คนเปลี่ยนชื่อเป็นยิ่งลักษณ์ 4 คน ) มันแสดงให้เห็นถึงคนไทยเรานี่ ในด้านของการเมือง เขาเรียกว่าพวกเขาเป็นพวกประชาธิปไตย แสดงออกให้เห็นถึงภูมิรู้ของคนมันต่ำสุดขีดแล้ว
ในต้นไม้ต้นหนึ่งมีแก่น มีเนื้อมีกระพี้มีเปลือก มีสะเก็ด แต่อันนี้ไม่มีแม้สะเก็ด มีแต่ขี้ขยะที่อยู่ข้างต้นไม้ ไม่ได้เป็นอะไรของต้นไม้เลย ไม่มีสักอย่างเลยของต้นไม้ รวมแล้วเป็นขี้ขยะของต้นไม้เต็มไปหมด มันแสดงให้เห็นเลยว่า คนมันไม่เป็นตัวตนไม่มีความคิด เป็นความหลงใหลคลั่งไคล้ติดยึดขนาดหนัก คือ จะเรียกว่าโง่ยกกำลังสิบก็น้อยไป เห็นได้ว่า อาตมาขอพูดอย่างเปิดอกเลยว่า หนังสือพิมพ์วันนี้ก็บอกว่า…
มีคนไปถามพลเอกประยุทธ์ ว่าจะเป็นนายกฯต่อไปไหม แล้วก็มีเสียงบอกว่า ถ้าตอบว่าจะเป็นก็จะมีคำถามต่อมา จะเป็นแล้วจะเป็นในบัญชีพรรคไหน ลุงตู่ก็กั้นหมดเลยไม่ให้ถาม แต่เปิดใจว่า ถ้าเป็นต่อ จะทำให้ดีที่สุด เพราะว่ายังมีอะไรให้ทําอีกเยอะ นี่เป็นคำตอบที่น่าจะพอไขความ อาตมาก็ยิ่งรู้ลึกในใจของท่านว่ามีอีกเยอะ งานที่จะทำ แล้วท่านทำงานมา 4-5 ปีมีผลเข้าตามาก อยากให้ทำต่อไปอีก ทนไปเถอะแม้จะเหนื่อย
ที่อาตมาทำงานกู้ศาสนามาเกือบ50 ปี ซึ่งศาสนาได้สูญเสียไปหมดแล้ว จนเขาหาว่าอาตมาเป็นพวกอวดดีรู้คนเดียวมันใหญ่มาจากไหน ก็น่าสงสารเขาเห็นใจเขา อาตมาพูดถูกทุกอย่างแต่เขาเข้าใจอาตมาไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าในโลกนี้มีคนดี เช่น พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาใน โลก ท่านดีที่สุดสูงที่สุด ท่านพูดได้เต็มพระโอษฐ์ ศาสนามันเสื่อมสุดแล้วต้องมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติ อาตมาเกิดมาในยุคครึ่งศาสนาพุทธ ศาสนาพุทธได้เสื่อมจะบอกว่าหมดแล้วก็ เท่าละอองธุลีนิดหน่อย ที่มันเหลือเชื้ออยู่ อาตมาก็อยู่ในลักษณะที่เห็น นัยยะเดียวกับที่พระพุทธเจ้าเห็น แต่อาตมามาอยู่ในครึ่งหนึ่งของศาสนาพุทธ ครึ่งหนึ่งก็เท่ากับเต็มรูปโดยโลกุตระ แต่ครึ่งหนึ่งของศาสนานั้นเหลือโลกียะครึ่งหนึ่ง แล้วเป็นโลกียะที่เลอะเทอะ เต็มไปด้วยอบายมุข เดรัจฉานวิชชา ส่วนโลกุตระนั้นสูญแล้ว อาตมาจึงจำเป็นต้องมาด่า เดรัจฉานวิชาไสยศาสตร์ 2.ต้องกู้โลกุตระขึ้นมาใหม่ เพราะมันไม่มีเชื้อแล้วอาตมาต้องเอาเชื้อมาปลูกขึ้นมาใหม่มันไม่ง่ายนะ เชื้อมันขาดไปแล้ว เชื้อของโลกุตระศาสนาพุทธมันขาดไปแล้ว เหลือแต่โลกียะ แล้วเป็นโลกียะที่เละเทะเต็มไปด้วยเดรัจฉานวิชากับไสยศาสตร์ ถ้าเป็นโรคก็เรียกว่าโรคที่เลยขั้นโคม่าแล้ว เหลือแต่ให้ต่อสายช่วยหัวใจถ้าถอดสายให้อาหารออก ร่างนี้ก็ตายแล้วนานแล้ว เหลือแต่ให้หัวใจเต้นอยู่และให้ท่ออาหาร มันถึงหนักหนาสาหัสจริงๆ
ก่อนจะไปสู่ sms ก็ย้ำอีกว่า ขอร้องเถอะลุงตู่ อย่างไรจะไปฟังเสียงนกเสียงกาไม่ใช่แต่ว่า มันเป็นเสียงสัตว์ที่ร้าย เป็นเสียงร้องโหวกเหวกๆอย่าไปฟังไม่ต้องนำพาเลย ตั้งหน้าตั้งตาเห็นประโยชน์ที่ควรทำ ขณะนี้อาตมาว่าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่ดีที่สุดในโลก ไม่ได้พูดอย่างบ้าบอคอแตกไม่ได้พูดอย่างงมงายไม่มีสติสัมปชัญญะ และไม่ใช่พูดอย่างไม่มีความรู้เรื่องประชาธิปไตย อาตมานี้รู้เรื่องการบริหารประเทศมาไม่รู้กี่ชาติ และก็เคยบริหารมาไม่รู้กี่ชาติจึงรู้หมดเลยในระบบของประชาธิปไตยเผด็จการ ขออภัยพูดใหญ่โต แต่อาตมาพูดเรื่องจริง อาตมาพูดเรื่องจริงแต่คนไม่เชื่อถือเลย ก็น่าสงสารเขา แต่อาตมาจำเป็นต้องพูดถึงสัจจะสาระพูดถึงเนื้อแท้ของสภาวะ คนเหล่านั้นจะมาดึงอาตมาก็เสียประโยชน์เขาถึงทำอาตมา ขออภัยไม่นำพาเสียงนกกาเสียงสัตว์เหล่านั้น อาตมาไม่ได้ฟังให้เสียเวลา อาตมาย่อมรู้ความจริงอันนี้ ก็ขอย้ำอีกก่อนจะจากว่า
นายกฯตู่อย่าออกจากการเป็นนายกฯเพราะท่านยังไม่แก่ ท่านทำไปได้อีก อาตมาอายุ 85 ก็ยังทนทำ พยายามทำอยู่ ท่านช่วยประเทศไทยหน่อย ทนทำหน่อย พยายามพากเพียร อย่าใจเสาะ(ขออภัย)ให้แข็งแรงๆ ช่วยประเทศไทยหน่อย อาตมาเห็นอย่างนั้นจริงๆถึงพูดด้วยความจริงใจ ไม่อย่างนั้นอาตมามองไม่เห็นเลย มันยิ่งกว่าเสือสิงห์กระทิงแรด มันไม่ใช่แล้วนกกามันไม่ใช่ เสือสิงห์กระทิงเเรดก็ไม่ใช่ มันยิ่งกว่าสัตว์พวกนั้นน่ะ
_SMS วันที่ 4 ก.พ. 2562 (สำมะปี๋ซี๋วิต)
_5515น้อมกราบนมัสการพ่อท่าน เมื่อวานลูกเครียดมากนอนไม่หลับเลยลูกยอมรับว่ายังโง่อยู่ โกรธมากไม่อยากให้พ่ออ่านข้อความที่เข้ามาด่าหยาบคายมากใส่ท่าน ตัดทิ้งไปเลยได้ไหมคะ
พ่อครูว่า…ตัดทิ้งไปเลยเราจะไม่รู้ว่าโลกลูกนี้มันเบี้ยวไปขนาดไหน ก็เราอยู่ในโลกเราก็จะบอกโลกว่า โลกมีขนาดนี้แล้วนะ เราก็ฝึกเสีย ถือว่าตัดทางใจว่าพวกมีหยาบคายไม่รู้ที่ต่ำที่สูงด่าทอ โง่เง่าได้ขนาดนี้ คุณก็จะได้รู้ว่าโลกมันขนาดนี้แล้ว
_จั่นจาง นิตยา · นานแล้วเคยได้ยินลูกศิษย์หลวงพ่อคูณเถียงกันเรื่องสร้างเหรียญ รุ่น 5 รุ่น 6 ว่าตัวเองอยากเอารุ่นไหนสร้างก่อนสร้างหลังตั้งแต่ได้ยินมาครั้งนั้น แล้วเห็นหลวงพ่อคูณสูบบุหรี่ก็เลยเฉยๆ แล้วได้ยินลูกศิษย์เถียงกันเรื่องรายได้ยิ่งหมดศรัทธาค่ะ
ที่ไหน สิ่งไหนที่เรายังไม่รู้ หรือยังรู้ไม่จริงอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าสิ่งนั้นดี หรือสิ่งนี้ดี แชร์แล้วเพื่อน ๆ ช่วยกันรับชมหน่อยนะคะ ว่าชีวิตของกลุ่มชาวอโศกเค้าอยู่กันได้อย่างไรโดยไม่ต้องเพิ่งสิ่งจอมปลอมเหมือนที่คนข้างนอกเสาะแสวงหากัน
นี่ถ้าลูกศิษย์เค้าดูเค้าต้องว่าว่าหลวงพ่อเค้าศักดิ์สิทธิ์ อยู่ๆเสียงหาย 5555
_คอยไท ไมตรีวงษ์ · ผมว่าพวกที่เห่าๆอาจเป็นคนเดียวหรือคนกลุ่มเดียวแต่อาจใช้หลายๆชื่อมาโจมตีพ่อครูครับสิ้นเดือนนี้ผมจะลางาน3วันไปบ้านราชคับ
_เอสบี ลา · กราบนมัสการพ่อครู ด้วยความเคารพ ครับ คนที่ชงคำถาม ให้พ่อครูกล่าวถึงพระรูปอื่น ทำให้คนส่วนใหญ่ที่ภูมิธรรมไม่ถึงเข้าใจพ่อครูผิด คนชงคำถามบาปไหม ครับ
พ่อครูว่า…ไม่บาปหรอก คุณหาเรื่องจัง คุณพูดอย่างนี้ อาตมาก็ไม่ได้รู้อะไรดีๆสิ
_ปาลิตา ทองสุขนอก · ในฐานะลูกศิษย์ทางไกลหนูเหนื่อยแทนพ่อครูจัง ถ้าเป็นหนู หนูจะไม่ยุ่งกับพวกมันเลย ทุกครั้งที่พ่อครูเริ่มกล่าวถึงพระวัดอื่น ๆ รวมทั้งหลวงพ่อคูณของหนูด้วย หนูว่าถ้าพ่อครูไม่ด่า ในประเทศไทยก็ไม่มีใครด่าแล้วเจ้าคะ เหนื่อยแทน ทางคณะสงฆ์หมู่ใหญ่ท่านไม่มีผลงาน นอกจากเงินทอนวัด ทีมลุงตู่เท่านั้น เจ้าคะ น้อมกราบนมัสการอย่างซูฮก จริง ๆ เจ้าคะ
พ่อครูว่า…จริงถ้าอาตมาไม่ด่าก็ไม่มีใครด่าแล้ว เพราะด่าอย่างไรก็ไม่ถึงจุดที่เขาเสื่อม
_SMS วันที่ 5 ก.พ. 2562 (พุทธศาสนาตามภูมิ สมณะ สิกขมาตุ : สันติอโศก)
_8788 หลวงปู่ครับ “ที่พัก” ของ “จิตวิญญาณ” และ “กาย” อยู่ ณ “ที่ใด” ดีที่สุดครับ.
พ่อครูว่า…ตอบสั้นๆ “ปัจจุบัน” จบ ไม่ว่าที่พักของจิตวิญญาณหรือกายก็อยู่ที่ปัจจุบัน
_ต้นแก้วศรันยา พุทธสอน · กราบขอบพระคุณท่านสิริฯพูดเรื่องทุกข์มีสภาวะพอดี
_นพ พร 8 นาทีที่ผ่านมา….ไหนบอกเป็น อหันต์อยู่หยกๆ วางใจเป็นกลางๆ ไหนมาประจบฆารวาส อย่างนี้ละ …..โผล่น้ะท่านน้ะ
พ่อครูว่า…เขาคอยจับผิด อ๋อ อาตมาเชียร์ลุงตู่เขาก็ว่าประจบ อาตมาเชียร์แต่ไม่ได้ประจบ อาตมาไม่ได้ต้องการลาภยศสรรเสริญโลกีย์สุขอะไรจากลุงตู่เลย นี่คือไม่ได้ประจบ แต่ว่าอาตมาชมคนที่ควรชมตำหนิคนที่ควรตำหนิ ปัคคัณเห ปัคคหารหัง นิคคัณเห นิคคหารหัง คุณมองภาษากิริยาในมนุษย์ประจบคุณก็มองไม่ออกว่าคืออะไร แล้วมาหาว่าอาตมาประจบ เพราะฉะนั้นภูมิธรรมของคุณยังต่ำมากที่จะมาวิจารณ์อาตมา คุณยังไม่ถึงที่จะมาวิจารณ์อาตมา
_นพ พร…คำตอบของท่านมันก็ถูก แต่มันถูกไม่หมด เหมือนตาบอดคลำช้าง เรื่องนี้ต้องร่ายกันยาว โลภ โกรธ หลง มันเกี่ยวเนื่องกันหมด ต้องฝึกสติ ผู้รู้ รู้แล้วปล่อยๆ มันมีอยู่แต่เราไม่เอามัน คนธรรมดาที่ชอบปฏิบัติ
พ่อครูว่า..ภาษาคุณอวดตัวว่าเป็นผู้รู้ แต่คุณยังอีกนาน บ่นแต่แค่ภาษาพยัญชนะไม่ไปถึงสภาวะได้แค่อัตตวาทุปาทาน ส่วนทิฏฐุปาทาน กามุปาทาน สีลลัพพตุปาทาน คุณก็ยังเข้าไม่ถึงเพราะได้แค่อัตตวาทุปาทานได้แค่พยัญชนะภาษาวนอยู่อย่างนี้ ทิฏฐิก็ยังไม่ถึง กามก็ยังไม่เข้าใกล้เลย เต็มเขรอะไปหมดกามและทิฏฐิ คุณมีอยู่เต็ม ไปศึกษาให้ดี
_พระวุฒิชัย ปภาโส 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา
แล้วพ่อท่านเอาเงินไหนมาสร้างตลาดในอโศกคับ ผิดไหมที่ทำมองแต่คนอื่นผิดท่านไม่ผิดบ้างเหรอ เอาเงินไหนมาสร้างอโศกละคับ ไม่ทอดแต่ได้เยอะกว่าทอด
พ่อครูว่า…แค่ความจริงที่ว่าทอดผ้าป่าทอดกฐินคุณก็ยังมองไม่ออกว่าคืออะไร แต่ที่นี่ชาวอโศกไม่มีการทอดผ้าป่าทอดกฐินเลยสักครั้งเดียว ตั้งแต่อาตมาทำงานศาสนามา เคยพยายามจะมีทอดกฐินอยู่ครั้งหนึ่ง พยายามทำ แต่เห็นแล้วว่ามันไม่ได้เรื่องตั้งแต่บัดนั้นจนถึงวันนี้ คนไทยเรื่องทอดกฐินทอดผ้าป่า จริงๆแล้วคือผ้า แต่เขาไม่มีความรู้สักอย่างทอดกฐินก็ไม่รู้เรื่องทอดผ้าป่าก็ไม่รู้เรื่อง ก็เลยทอดกฐินผ้าป่ายังได้นรกกันอยู่ทุกวันนี้ คนที่ทอดกฐินผ้าป่าอยู่ในศาสนาพุทธก็ได้สร้างนรก- ให้แก่ตัวเองทั้งพระและฆราวาสร่วมกันสร้างนรก- กันอยู่ทั้งสิ้น ขอยืนยัน เพราะว่าเลิกได้แล้ว
ผ้าป่าเป็นผ้าที่ไม่รู้จักเป็นผ้าบังสุกุลเป็นผ้าที่เขาทิ้งแล้ว พระท่านเห็นเป็นของทิ้งแล้วก็ไปขอมาใช้ นี่คือพระป่า เดี๋ยวนี้ไม่มีหรอกผ้าป่ามีแต่ผ้าที่สมมติกัน ยิ่งกฐิน คือสะดึง ไม่มีพระที่ไหนเขาทำสะดึงกันแล้ว แล้วก็เก็บเอาผ้าบังสกุลหรือผ้าป่า เอามาเย็บที่สะดึง จนเต็มพื้นเป็นถ้าเอามาใช้ เดี๋ยวนี้มันไม่มีแล้วสักอย่าง มันไม่ได้หมายถึงเงินทองเลย แต่ทุกวันนี้พูดถึงผ้าป่าพูดถึงกฐินก็คือเงินทอง เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องนอกศาสนาพุทธนอกรีต ฉุดให้ศาสนาพุทธ ฉิบหาย เพราะทอดผ้าป่าและกฐิน ขอยืนยัน
และเราก็ไม่เคยทอด แล้วถามว่า เอาเงินไหนมาสร้างอโศก … เงินที่อาตมาเอามาสร้างก็ได้มาจากเงินของคนชาวอโศก อาตมาจะไม่รับเงินคนนอก ถ้าไม่สัมผัสกับชาวอโศกดีพอไม่เคยเข้าวัดถึง 7 ครั้งไม่เคยอ่านหนังสือชาวอโศกถึง 7 เล่ม คุณจะมาบริจาคกันไม่ได้ที่นี่ไม่รับ เงินที่นี่คือเลือดสดๆของชาวอโศกทั้งนั้น แม้มีน้อยแต่ก็พอ เพราะว่าอาตมาไม่มีเงินทอนวัดไม่มีคอรัปชั่นไม่มีคอมมิชชั่น ไม่มีเลย บริจาคมาเท่าไหร่ก็มาทำงานให้ชาวอโศกเต็มๆมันจึงดูมาก แต่เพราะทางโลกเขามีการคอรัปชั่นคอมมิชชั่นมีเงินทอนอะไรอีก เงินมันเอามาทำทานล้านหนึ่ง เหลือเข้าวัดสักประมาณ 100 หนึ่ง นอกนั้นโกงกันไปหมด นอกนั้นบาปทั้งนั้นขี้โกงกิน ร้ายกาจกว่าชาวโลกด้วย ชาวโลกเขายังมีกฎเกณฑ์แต่ที่วัดนี้ไม่มีกฎเกณฑ์ ส่วนมากเจ้าอาวาสวัดจัดการหมดเลยอย่างเช่นธัมมชโยเป็นต้น หรือวัดอื่นๆส่วนใหญ่เลย เขาจะมีกรรมการตั้งไว้ มุกไว้ แต่จริงๆแล้วเจ้าอาวาสก็จัดการทำเป็นเขียนเสือให้วัวกลัวเป็นคณะกรรมการ แต่เสร็จแล้วเจ้าอาวาสจัดการเองหมด ถ้าจะจับอาบัติปาราชิกเรื่องเงินแล้วศาสนาพุทธไม่เหลือสักวัด ปาราชิกทุกวันเพราะใช้เงินผิดประเภทแค่ 5 มาสก 1 บาทก็ปาราชิกแล้วเพราะฉะนั้นไม่ต้องพูดเลย การไปจัดการวุ่นวายเรื่องเงิน
นอกจากเจ้าอาวาสไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องเงินเลย ปล่อยให้ฆราวาสจัดการเลย ท่านองค์นี้ก็รอดอยู่ในวัด ไม่ยุ่งกับเงินเลยปล่อยคนอื่นเขาจัดการ ส่วนผู้ที่ทำเป็นพระก็ปาราชิก ฆราวาสก็ได้บาปไหม
ในอโศกมีเงินที่ไหนมาสร้างจากคนที่เอามาบริจาคให้ แล้วพวกเราไม่ว่าจะเป็นสมณะหรือสิกขมาตุไม่มีใครรับเงินเลยสักองค์เดียวในชาวอโศก แล้วเป็นที่รู้กัน เพราะคนที่จะเอาเงินมาบริจาคคนนอกไม่มีสิทธิ์แล้ว เพราะฉะนั้นเงินก็ไม่มีจากคนนอก มีแต่สมาชิกที่เป็นชาวอโศกมาทำ เพราะฉะนั้นชาวอโศกก็จะไม่ไปบริจาคที่อื่นนอกจากอาตมา เพราะเขารู้ว่าอาตมาคือพานทอง เอามาใส่แล้วอาตมาก็ทำให้บริสุทธิ์ไม่ได้ผิดอะไรเลย นี่เป็นเรื่องสุดยอดของการทำให้ถูกต้องพระธรรมวินัย เรื่องไม่เกี่ยวกับเงิน แล้วก็ถามว่าจะต้องใช้เงินไหม แน่นอนเราก็ต้องใช้เงิน ไม่ใช้เงินไม่ได้ ในยุคพระพุทธเจ้าท่านไม่ต้องใช้เงิน แต่ขนาดนั้นก็ยังใช้ เขาก็ยังมีผู้บริหารมีมัคนายก หรือว่ามีไวยาวัจกรจัดการ เขาก็จะมีตามระบบธรรมวินัย
เพราะฉะนั้นมันจึงผิดทั้ง กาละยุค และเหตุปัจจัยในยุคนี้ เหตุปัจจัยในยุคนี้ไม่ใช้เงินเลยทำอะไรไม่ได้เพราะเงินเป็นแก้วสารพัดนึกที่จะทำงาน ในยุคนี้ แต่ความบริสุทธิ์ของผู้ที่ใช้เงินนั้น อโศกขอยืนยันว่า นักบวชชาวอโศกไม่แปดเปื้อนเรื่องเงินทองไม่ปาราชิก แม้แต่นิสสัคคิยปาจิตตีย์ ก็ไม่มี ส่วนอาตมานั้นขอรับรองว่า อาตมาบริสุทธิ์สะอาดจึงทำให้นักบวชของชาวอโศกสะอาดอยู่ได้ ถ้าหากอาตมาไม่สะอาดนักบวชชาวอโศกก็เอาอาตมาตายแน่ ขออภัยที่ต้องพูดความจริงอย่างนี้ มันเป็นการแสดงความบริสุทธิ์สะอาด สักครั้งให้ผู้ฟังที่ไม่อคติฟังได้ดีถ้าตั้งใจฟัง เพราะฉะนั้นอย่ามาเพ่งโทษเรื่องเงินทอง เพราะอาตมาข้ามพ้นเรื่องเงินทอง สะอาดบริสุทธิ์
_KIE THE SKY 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา (แก้ไขแล้ว)
ข้าพเจ้าเห็นคนเขาด่าท่านมาเยอะแล้ว ขอตั้งแง่ให้แก้ธรรมเพื่อจรรโลงโลกเป็นกุศลสักนิดเทิด
-
ก่อนจะกล่าวอ้างพระพุทธเจ้าว่าอย่างนั้นอย่างนี้ แล้ววิพากษ์ว่าพระพุทธทาสว่าสอนไม่ถูก ไม่รู้แก่นแท้ แล้วท่านเองนั่นดูตนหรือยังว่ายืนอยู่ถูกต้อง สมควรแก่การกราบไหว้ ปฏิบัติตรง ปฏิบัติดีงามตามพระธรรมวินัยหรือยัง
พ่อครูว่า…ตอบข้อนี้ก่อน แน่นอน อาตมาก็ต้องตรวจต้องดู ก่อนจะพูดไปว่าอาตมาเหนือกว่าท่านพุทธทาส อาตมาก็ต้องรู้ว่าทั่วไปนี้ คำพูดเป็นนายตัวเองนะ คนฟังเขาเอามาย้อนได้ เมื่อมาย้อนเราแล้วเราไม่จริงเราก็เน่า อาตมาก็ขอยืนยันว่าอาตมารู้มากกว่าท่านพุทธทาส มีภูมิธรรมมากกว่าท่านพุทธทาสในยุคนี้ ผ่านมากว่าครึ่งพุทธกาล ของศาสนาพระสมณโคดม อาตมาเป็นพระโพธิสัตว์ที่จะมากอบกู้ ถ้าจะว่าไปแล้ว ก็มี 2 องค์ คือในหลวงรัชกาลที่ 9 กับอาตมา ตามที่โบราณอาจารย์ท่านว่าไว้ จะมีธรรมิกราช 2 องค์มากอบกู้ศาสนา อันนี้เรื่องจริง เพราะฉะนั้นคุณศึกษาให้ดีแล้วก็จะรู้ว่าความจริงเป็นความจริง ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
ทางด้านสถานะของในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ก็ทำไป ทำเป็นทางรูป ส่วนอาตมาทางนามธรรมก็ทำไป ก็บอกความจริงให้ฟังไปให้รู้ แล้วก็ต้องพูดว่า ไม่มีใครจะมาบอกหรอกถ้าไม่ใช่อาตมา ความจริงอันนี้ไม่มีใครมีภูมิถึงจะมาพูดได้ นอกจากอาตมา ก็พอแค่นี้ยิ่งพูดยิ่งจะยกตัวเองสูงขึ้นไปใหญ่มันเป็นความจริง ยุคนี้มี พ่อครูว่า…อัตถิ โลเก สมณพราหมณา สัมมัคคตา สัมมาปฏิปันนา เย อิมัญ จ โลกัง ปรัญ จ โลกัง สยัง อภิญญา สัจฉิกัตวา ปเวเทนตีติ ในยุคนี้ต้องมีผู้รู้จริงที่เป็นสยัง อภิญญามาแสดงตัว ถ้าใครเป็นก็มาแสดงตัวว่าเหนือกว่าอาตมาทำสิแสดงสิ คนจริงต้องเปิดเผยไม่ได้มีมังกุ อุทธัจจะ หรือสาเฐยะ แต่สบายๆ
เหมือนกามนิตไม่รู้จักพระพุทธเจ้าก็ฉันใด คนที่สัมผัสอยู่ อาตมาทำงานมาเกือบ 50 ปีแล้วไม่ใช่แค่คืนเดียวเหมือนกับกามนิต คุณฟังอาตมาเกือบ 50 ปีคุณก็ไม่รู้เหมือนกับกามนิต เพราะว่าไม่มีภูมิปัญญาจะรู้ได้ พูดไปนี้ไม่ได้ด่าว่าหรือข่มคุณ แต่พูดตามสัจธรรมความจริงตามความเป็นจริงขออภัยเหมือนอาตมาไปกดขี่ดูถูก แต่ไม่ใช่หรอก อาตมากำลังพูดสิ่งที่ถูกต้องไม่ได้ไปดูถูกอะไร
-
นิกายที่ท่านเองดำรงอยู่เรียกว่าพุทธศาสนาจริงหรือ หรือลอกพุทธศาสนามาแล้วก่อก๊ก ก่อนิกายขึ้นมาใหม่ แยกสังฆ์ออกตานทิฏฐิตน โดยอาศัยเนื้อหนังของพระพุทธองค์หากิน
พ่อครูว่า…ขอยืนยันคุณมีภูมิเท่าไหร่มาตรวจสอบได้เลยศาสนาพุทธเหลือโลกุตรธรรมอยู่ที่อโศก ในเถรสมาคมไม่มี พูดให้ชัดเลย มีคนที่รู้ผิวเผินบ้าง แล้วเขาไม่สามารถที่จะรวมกลุ่มทำให้เกิดโลกุตรธรรมขึ้นมาได้ เช่น ท่านพุทธทาส ท่านรู้โลกุตรธรรมอย่างผิวเผินไม่สามารถสร้างกลุ่มที่เป็นโลกุตรธรรมได้ ลูกศิษย์ท่านพุทธทาสมีแต่อัตตวาทุปาทาน พูดด้วยภาษาวิชาการแค่นี้
และจริงที่สุดที่อโศกคือพุทธศาสนา เราไม่ใช่นิกาย คนที่ไม่เข้าใจคำว่านิกายอย่าเอาคำว่านิกายมายัดใส่อาตมา คุณพูดโดยไม่รู้ก็บาปเอง คุณเอาคำว่านิกายมาใส่อาตมา ถือว่าคุณแยกนิกายเอง อาตมาไม่ได้ทำนิกายแต่อาตมาทำนานาสังวาสตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2518 มีหลักฐานยืนยัน อาตมาทำตามพระธรรมวินัยทำตามหลักศาสนาพระพุทธเจ้า แต่คุณไม่มีภูมิรู้ถึง ถ้าคุณรู้ถึงก็จะรู้ว่าทำตามพระธรรมวินัย แต่เถรสมาคมไม่รู้จักนานาสังวาสแล้วก็ทำการโมฆะ มาไล่อาตมา ทั้งที่อาตมาประกาศนานาสังวาสแล้ว วันดีคืนร้าย พ.ศ.2532 ก็มาดึงอาตมาไปทำปกาสนียกรรมอีก เป็นการโมฆะทั้งนั้นเลย ทำการผิดพระธรรมวินัย ที่กระแสหลักทำกับอาตมามันแสดงถึงว่าไม่มีความรู้เรื่องศาสนาแม้แต่พระธรรมวินัยอย่างอื่นแค่นี้ ก็ยังผิดเลย จะไปเอานิยายอย่างไรกับเถรสมาคม
แต่มันต้องเป็นเช่นนั้นมันจำนนเพราะกระแสหลักทั้งประเทศทำผิดอย่างนี้ และอาตมาเห็นความผิดแล้วไม่ให้อาตมาพูดจะมีอะไรเหลือ จะมีอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันของศาสนาพุทธขึ้นมาอีกเล่า ฟังดีๆ เปิดใจอย่างเป็นกลางและฟังให้ชัด อาตมาไม่ได้พูดด้วยความหลงตัวตน อาตมาพูดสัจจะ
ศาสนาที่อาตมาทำนี้ไม่ใช่นิกาย แต่เป็นแบบนานาสังวาส แค่คำว่านิกายนี้คุณก็ไม่รู้แล้วเอาคำว่านิกายมายัดใส่อาตมาคุณก็ทำอนันตริยกรรม
อาตมาไม่ได้แยก อาตมาออกเป็นนานาสังวาส
แล้วหาว่าอาตมาเอาศาสนาพุทธมาทำมาหากิน ที่ไหนเล่า อาตมาเอาศาสนาพุทธมาล่าลาภยศสรรเสริญโลกียสุขที่ไหน อาตมาทำตามสัจจะไม่มีโลกธรรมมีแต่โลกุตรธรรม คุณก็ไม่รู้ว่าโลกุตรธรรมกับโลกียธรรมต่างกัน แล้วก็มาว่าอาตมา ไปศึกษาให้ดีแล้วค่อยตั้งท่าให้ดีแล้วค่อยมาว่าอาตมา คุณยังไม่มีภูมิธรรมจะว่าไป อาตมาว่าคุณยังไม่มีฐานอะไรที่จะมีสิทธิ์มาว่าอาตมาคุณไม่มีความรู้ทางศาสนาพุทธเลยสักขี้ผง
-
คำว่า”วัด” ในพระวินัยมีขนาดเท่าไหร่ พระสงฆ์ควรจับต้องเงินทองหรือ ควรมีวิหารอยู่เยียงราชาหรือ ควรประกอบกิจเยี่ยงฆราวาสหรือ ควรเที่ยวยุ่งเหยิงเรื่องการเมืองหรือ ท่านศึกษาจากพระวินัยเล่มไหน
พ่อครูว่า…คุณก็ได้พูดเหมือนคนที่ไม่ประสีประสา อาตมาเข้าใจและรู้ทุกอย่างไม่ว่าวินัยอาตมาก็รู้เรื่องเงินทองอาตมาก็รู้ดีเรื่องวิหารอาตมาก็รู้ดี อาตมารู้ดีรู้จักทั้งนั้นเรื่องการเมือง อาตมาศึกษาจากพระธรรมวินัยที่เป็นวินัย 8 เล่ม ไม่ได้ศึกษานอกจากนี้ แล้วคุณล่ะศึกษาจากอะไร เอากรรมการโลกมาสอบวินัยธรรมวินัยแข่งกันไหมคุณกับอาตมา จริง คุณอวดดีทั้งที่คุณไม่มีดีจะอวด
-
ในขณะที่ท่านวิพากษ์พระพุทธทาส ตอนนี้ท่านยังนั่งในห้องแอร์เอาขาไขว่ห้าง มีคอมพิวเตอร์ใช้ นั่งกระดิกนิ้ว ไปไหนมาไหนพระถือโทรศัพท์ถ่ายวิดีโอ ในขณะที่ท่านพระพุทธทาสอยู่ในป่าโมกข์มีกุฏิเก่าๆ อาศัยอยู่กับดินและเอากรรมฐานเป็นลมหายใจ แต่ท่านกลับนั่งสูดแอร์เย็นสบาย
พ่อครูว่า…ท่านพุทธทาสก็มีอะไรดีที่ถูกต้องอยู่บ้างแต่ท่านยังวนอยู่
อันนี้เป็นเรื่องร่วมสมัย เป็นเรื่องของบรรยากาศเป็นเรื่องของโลกที่เปลี่ยนไปอะไรหลายอย่าง คนก็มาอนุเคราะห์อาตมาไปตามควร อาตมาพยายามฝืนสังขารรักษาร่างกาย ทวัตติงสาการ อาการ 32 ให้มันสดให้มันเป็นไปให้เสื่อมช้า เพื่อจะทำงานต่อไป ไม่ใช่ว่าอาตมาอยากอยู่สบายเสพอะไรต่ออะไร แม้แต่เอาคอมพิวเตอร์มาใช้ อาตมาก็ไม่ได้เอาไปใช้เรื่องอื่นนอกจากมาทำงานศาสนา เมื่อยแสนเมื่อย ก็มีเครื่องทุ่นแรงบ้าง คุณยังเข้าใจองค์ประกอบกระบวนการที่เป็นเหตุปัจจัยแก่กันและกันตามควร คุณไม่รู้จักมหาปเทส สัปปุริสธรรม 7 ประการเลย
แม้แต่ที่คุณบอกว่าท่านพุทธทาสอยู่ในป่า แต่ศาสนาพุทธเป็นศาสนาเมืองไม่ใช่ศาสนาอยู่ในป่า พระพุทธเจ้าออกป่า ผิดไป 6 ปี ท่านก็เข้าเมืองไปโปรดพระเจ้าแผ่นดินทุกแคว้น เข้าหาเมืองในทุกแห่ง คุณไปศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้าให้ดี แม้แต่พระราชวังก็อยู่ใกล้ป่าเพราะยังไม่เจริญเท่าไหร่ อย่างเช่นเขาคิชฌกูฏกับพระราชวังของพระเจ้าอชาตศัตรู ก็อยู่ใกล้กันนิดเดียว พอมีคนท้วงพระเจ้าอชาตศัตรู ที่ท่านจะไปหาพระพุทธเจ้า คนก็บอกว่าใกล้จะมืดแล้ว ชีวกโกมารภัจจ์ ก็แนะนำให้ไปหาพระพุทธเจ้าว่าอยู่ในเขาคิชฌกูฏนี่เอง เมื่อพูดจบพระเจ้าอชาตศัตรูก็ยกพลไปหาเลย ม้าห้าร้อยช้างห้าร้อย ยังมืดก็ไปได้ ไปเห็นพระพุทธเจ้าก็ไม่รู้ว่าองค์ไหนคือพระพุทธเจ้า อยู่ปนกันไปหมด เป็นนิทานเป็นบรรยากาศที่อธิบายครบพร้อม แต่คุณไม่มีภูมิที่จะมารู้เรื่องแบบนี้เลย การออกป่านั้นเป็นทางพิษของศาสนาพุทธอยู่ในอัมพัฏฐสูตร ในพระสูตรที่ 3 ของพระไตรปิฎกเล่ม 9 แนะนำให้คุณไปอ่าน คุณยังไม่มีภูมิอะไรจะมาตำหนิจะมาได้เลย ท่านพุทธทาสออกมานั้นยังหลงทิศทางขอยืนยัน ศาสนาพุทธไม่ใช่เป็นศาสนาคนป่าอยู่ป่า คนนี้เข้าใจว่าป่าและออกป่ากันมันผิดหมดแล้ว ผิดทิศทางของศาสนาพุทธที่ต้องอยู่ในเมือง การออกป่านี้เป็นการหลงผิดไป 6 ปี พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ว่า….
เราเป็นผู้ชื่อว่า โชติปาละ ได้เคยกล่าวกับพระสุคต พระนามว่า กัสสปะ ว่า “การตรัสรู้เป็นของได้โดยยาก ท่านจะได้จาก โพธิมณฑลที่ไหน โพธิญาณท่านได้ยากอย่างยิ่ง” ด้วยผลแห่งกรรมนั้น เราได้บำเพ็ญทุกกรกิริยาเป็นอันมาก สิ้นเวลา 6 ปี เราถูกบุรพกรรมตักเตือนแล้ว (ปุพพกัมเมนะ โจทิโต) จึงแสวงหาโพธิญาณโดยทางผิด เรามิได้บรรลุการตรัสรู้โดยทางนั้น บัดนี้เราเป็นผู้สิ้นบุญสิ้นบาป(ปุญญปาปปริกขีโณ)(ล.32 ข.392)
พ่อครูว่า…ท่านไม่ได้บรรลุด้วยการปฏิบัติผิด อย่าง 6 ปีนั้นเลย แล้วบอกว่าเป็นพระกรรมฐานไปอยู่ในป่าอย่างนั้นอย่างนี้เป็นทางผิดหมดเลย มันผิดจนไม่รู้อาตมาจะทำอย่างไร ไม่พูดกันก็ไม่รู้
ถ้าคุณไปเข้าใจว่าท่านพุทธทาสสูงกว่าอาตมา แย่เลยศาสนาไปไม่ออก พูดความจริงไม่ได้ยกตนข่มท่านพุทธทาส ส่วนท่านพุทธทาสนั้นกำลังบำเพ็ญกำลังเริ่มรู้เริ่มเข้าใจแล้วก็มาแสดงตน ถ้าจะว่าไปแล้ว ศาสนาเทวนิยมจะบอกว่าท่านพุทธทาสเป็นคนมากล่าวคำว่าโลกุตระ เหมือนแบ๊บติส พูดมาก่อน ประกาศก่อน นำทางพระศาสดา ว่า พระบุตรจะมาอุบัติแล้วนะ คล้ายๆกับท่านพุทธทาสมากล่าวเรื่องโลกุตระก่อน แล้วโพธิรักษ์ก็จะมาเปิดเผย แล้วสยังอภิญญาคืออาตมาจะเอาโลกุตระมาเปิดเผยก็คืออาตมา วันนี้เปิดเผยอะไรมากมาย คนที่ฟังไม่ได้โลหิตร้อนออกจากปากก็ระวัง คนที่ฟังไม่ไหวแล้วจะสึกออกไปจะมีไหมนี่
(อู๊ด ฆราโว…หากใครมาลบหลู่ศาสนา ศีรษะจะแตกเป็น 7 เสี่ยงนะ)
พ่อครูว่า…คุณพูดถูกแล้วโดนอาตมาเข้าไปอีกก็จะคิดมากเลย
-
ทำไมท่านต้องตีกรอบอาวาสไว้ใหญ่โตมีเนื้อที่เป็นร้อยเป็นพันไร่ไม่ต่างจากวัดพระธรรมกายเลย เท้าท่านก็ยังติดโคลนแต่ปากท่านบอกว่าท่านสะอาด
พ่อครูว่า…อาตมาเองอาตมาขอขยายความว่า ทำไมอาตมาต้องสร้างขนาดนี้ ธรรมะสร้างให้เป็นบวร บ้านวัดโรงเรียน อาตมาก็ต้องทำขึ้นมาหมดเพื่อให้เกิดสิ่งที่ถูกต้อง บ้านควรจะเป็นบ้านอย่างนี้ วัดควรเป็นวัดอย่างนี้ โรงเรียนควรเป็นโรงเรียนอย่างนี้ เพราะว่าโรงเรียนทุกวันนี้ก็พาลงนรกไปหมดแล้ว วัดก็พาลงนรก บ้านก็มีแต่ความทุกข์ความเสื่อม อาตมาจึงต้องทำโมเดล สิ่งนี้ เพราะฉะนั้นเนื้อที่แค่พันกว่าไร่มันน้อยไป อย่าเอาอาตมาเปรียบเทียบกับวัดพระธรรมกาย วัดพระธรรมกายนั้น แม้แต่ที่ดินต่างๆเขาก็จดชื่อบุคคลจะเป็นใครก็แล้วแต่ ที่เขาไม่ได้จดบัญชีเป็นของนิตินัยเป็นของรัฐ แต่เนื้อที่ของที่นี่แม้จะมีพันกว่าไร่ก็จดทะเบียนเป็นนิตินัยเป็นของประเทศเป็นของชาติเป็นของส่วนกลาง จะไม่เป็นของบุคคลอย่างเช่นธรรมกายเลย แค่นี้คุณก็ไม่รู้ในเรื่องพฤตินัยของธรรมกายกับอโศก แค่นี้คุณเข้าใจไม่ได้แล้วคุณก็ต้องไปศึกษาให้ดีก่อนมาตำหนิอาตมา
-
คำว่าธรรมดากับวิเศษมันอันเดียวกัน คำว่าเรียบง่ายกับพิสดารก็เป็นอันเดียวกัน ถ้าเข้าถึงคำว่าธรรมดาและเรียบง่ายได้ก็เข้าถึงธรรม มองเห็นความวิเศษและพิสดาร แต่ท่านกลับบวชนานกล้าไปด้วยทิฏฐิแข็งกระด้าง หลงโลกหลงธรรม ถ้าเป็นพระแท้จริงต้องได้รับการเคารพบูชาจากศรัทธาชาวพุทธทั้งประเทศอย่างบริสุทธิ์ใจ แต่ท่านเองทำอาณาเขตอยู่เยี่ยงราชาแล้วบอกว่าตนคือสมณะได้อย่างไร พระต้องประกอบสัมมาชีพเยี่ยงฆราวาสหรือ
พ่อครูว่า…ก็ขอยืนยันว่าคนไทยทุกวันนี้จะเคารพอย่างเช่นหลวงพ่อคูณท่านพุทธทาส หรือพระอะไรอีกเยอะแยะ ที่เป็นอรหันต์ เก๊ ก็ต้องไปเคารพอย่างนั้นแหละ แต่คนที่รู้ว่าอรหันต์จริงคือใครจะมีจำนวนน้อยอย่างที่เป็นอยู่ อย่างชาวอโศกนี้เท่านั้น เป็นเรื่องจริงไม่ได้ประหลาดใจอะไร คุณมาพูดว่าถ้าเป็นพระแท้จะต้องได้รับความเคารพบูชาจากฆราวาสอย่างบริสุทธิ์ใจมากมาย ขนาดสมัยพระพุทธเจ้า พระสารีบุตรไปเจอพระพุทธเจ้า ก็ไปบอกอาจารย์สัญชัยเวลัฏฐบุตร ว่าไปหาพระพุทธเจ้ากันไหม อาจารย์สัญชัยเวลัฏฐบุตรก็ถามว่าจะไปหาพระพุทธเจ้าทำไม บอกว่าเราอยู่ทางนี้ดีกว่า สัญชัยก็ถามว่า ในโลกนี้มีคนโง่มากกว่าหรือคนฉลาดมากกว่า พระสารีบุตรก็บอกว่าคนโง่มีเยอะกว่า คนฉลาดมีน้อย สัญชัยเวลัฏฐบุตรก็บอกว่าให้ไปอยู่กับคนฉลาดก็แล้วกันเราจะอยู่ช่วยคนโง่ที่มีเยอะแยะ เราจะช่วยคนส่วนมากดีกว่า ส่วนคนฉลาดก็ไปอยู่กับคนฉลาดเถอะมันก็ถูกต้องแล้ว ชาวอโศกก็ต้องมีจำนวนน้อยชาวโลกก็ต้องมีจำนวนมาก ไม่เห็นเข้าใจผิดแต่อย่างใด คุณพูดอย่างสับสนวนเวียนไปมา คุณพูดนะ มันถูกแล้วชาวอโศกเป็นไปตามสัจธรรม
คุณว่า พระที่แท้จริงต้องได้รับการเคารพบูชาจากทั้งประเทศ เพราะว่าประเทศไทยศาสนาพุทธได้เสื่อมไปแล้ว นี่อาตมาทำนี้ก็ยังมีคนตาดีรู้จักโลกุตรธรรมมีจำนวนหนึ่งเป็นจำนวนพันเท่านี้ ในคน 67 ล้านคน
คุณว่าอาตมาอยู่อย่างราชา อาตมาไม่ได้ประกอบอาชีพอย่างฆราวาส มีแต่สอนให้ฆราวาสประกอบสัมมาอาชีพ ทำอาชีพมี 5 ประการ
-
การโกง ทุจริต คอร์รัปชั่น (กุหนา) มีในงานการเมือง .
-
การล่อลวง หลอกลวง (ลปนา) ในนักธุรกิจ-การเมือง .
-
การตลบตะแลง (เนมิตตกตา) ยังเสี่ยง-ยังไม่แน่แท้
-
การยอมมอบตนในทางผิด อยู่คณะผิด (นิปเปสิกตา)
-
การเอาลาภแลกลาภ (ลาเภนะ ลาภัง นิชิคิงสนตา)
(พตปฎ. เล่ม 14 ข้อ 275 มหาจัตตารีสกสูตร)
อาตมาสอนจนชาวอโศกพ้นมิจฉาชีพทั้ง 5 อย่าง แล้วคุณรู้ 5 อย่างนี้ไหม แล้วบอกว่าอาตมาทำงานฆราวาส แต่ไม่ใช่หรอก อาตมาสอนให้ฆราวาสมาทำสัมมาชีพต่างหาก แล้วมีที่ไหนในเถรสมาคมที่พ้นมิจฉาชีพข้อที่ 5 ลาเภนะ ลาภัง นิชิคิงสนตา ทำงานไม่เอาเอาลาภแลกลาภ เขาอย่างน้อยก็ทำงานเพื่อโลกธรรม ลาภยศสรรเสริญ คุณฟังดีๆแล้วจะเข้าใจว่าธรรมะนี้ลึกซึ้งนักไม่ใช่เรื่องตื้น คุณไม่รู้อะไรดีแล้วเอามาพูดกับอาตมา ขออภัยอาตมาพูดข่มคุณหนัก ในฐานะที่เป็นมนุษย์เหมือนกันก็ต้องขออภัยที่ต้องพูดสัจจะ คุณเป็นฝุ่น อาตมาไปข่มก็ไม่ถูกหรอก
-
ถ้าท่านออกจากห้องแอร์ได้เมื่อไหร่ นอนติดดินได้เมื่อไหร่ ค่อยวิพากษ์พระพุทธทาส
พ่อครูว่า…คุณเคารพท่านพุทธทาสก็ยังดีกว่าไปเคารพเกเฬวรากที่ยิ่งกว่าท่านพุทธทาส
-
พระดีย่อมรู้คุณความดี ไม่จาบจ้วงพระอาวุโสผู้มีเกียรติคุณต่อแผ่นดิน ยิ่งถ้าท่านเป็นพระอรหันต์จริง(หรือ) ก็ย่อมรู้ว่าสิ่งไหนควรพูดสิ่งไหนไม่ควรพูด สิ่งไหนที่ควรอวดโอ้ ปากท่านบอกท่านไม่ได้อวดอุตริ แต่การกระทำท่านแสดงชัดเจนว่ามีความรู้เหนือท่านพุทธทาส ทั้งที่ความรู้และคุณความดีท่านยังลอกมาจากหนังสือพระพุทธทาส
#ฝากลูกศิษย์ท่านช่วยตอบไขข้อสงสัยข้าพเจ้าด้วยเพื่อเป็นธรรมทานด้วยเทอญ
พ่อครูว่า…ที่ไหน? อาตมาไปลอกจากหนังสือท่านพุทธทาสที่ไหน แต่ก็ยังอุตส่าห์พูดจาอ่อนน้อมถ่อมตน ลูกศิษย์ลูกหาตอบก็เหมือนกับอาตมาตอบนั่นแหละ จะหนักกว่าอาตมานะ อาตมาพูดบันยะบันยัง ถ้าหากให้ลูกศิษย์ตอบอาการคุณจะหนักกว่านี้นะ
_Gana Naga 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ผมใช้ธรรมมะหลายอย่างเพื่อดับความโกรธ แต่ก็ไม่สำเร็จจนผมมาใช้ธรรมที่ว่า หยุดคิดปรุงแต่งในสิ่งทั้งปวง ความโกรธก็ไม่เกิดกับผม ในที่ที่ไม่มีความคิด ย่อมไม่มีความสุข ความทุกข์ ความโกรธ ความหลง ความฉลาด ความโง่ ถ้าคุณสามารถหยุดกระบวนการความคิดไม่ให้การขึ้นได้ นรก สวรรค์ ย่อมไม่มี
พ่อครูว่า…คุณจะมืดไปอีกนาน หากคุณไปดับความคิดและไม่รู้ความจริงตามความเป็นจริงอะไรเลย สวรรค์นรกอะไรคุณก็ไม่รู้ ชั่วก็ไม่รู้ดีก็ไม่รู้ ฉลาดหรือโง่ก็ไม่รู้ แต่เฉพาะความทุกข์ความสุข คุณก็ไม่รู้จักความสุขความทุกข์อะไรเลย ศาสนาพุทธนั้นตรัสรู้ในเรื่องความสุขความทุกข์ ความสุขเป็นของเก๊ความทุกข์เป็นเรื่องของความลึกซึ้งที่คนหลงสะสมไว้ในอาสวะอนุสัย ก็มาเรียนรู้ที่ความทุกข์ที่มีเหตุแห่งทุกข์ก็มีธรรมะ 2 คือเทวะ แล้วก็ตีธรรมะ 2 ให้แตก จนกระทั่งรู้ว่าความสุขมันคืออาการอย่างนี้ความทุกข์มันคืออาการอย่างนี้
ทั้งสุข ทุกข์ เทวะ มันเป็นเรื่องติดๆทั้งสิ้น คนที่หมดเทวะก็ไม่มีสุขไม่มีทุกข์ จึงจะรู้แจ้งรู้จริง ไม่ใช่ไปนั่งหลับตาไม่นึกไม่คิดอะไรเลย มันก็โง่ดักดาน ดานดัก ดักดานอีกไม่รู้กี่กัปป์ ไม่คิดไม่เรียนรู้อะไรเลยก็ผิดถนัด
ศาสนาพุทธเมื่อรู้แล้วก็ไม่ยึดมั่นถือมั่น ทุกอย่างมีทุกอย่าง ความผิด ความสุข ทุกอย่างในโลกมีหมด ก็รู้ทั้งผิดและถูกรู้ทั้งดีและชั่ว แต่ก็ยึดสิ่งนั้นสิ่งนี้ เอาตามความจริงในปัจจุบัน ใครยึดเราก็รู้ว่าเขายึด ก็สอนให้เขาไม่ต้องยึด สิ่งนี้ควรเป็นควรอาศัย สิ่งที่ไม่ดีไม่ควรอาศัยคุณก็อาศัยสิ่งที่ดี แม้แต่สิ่งที่ดีก็ไม่ได้ยึดถือเป็นตัวตนของเรา คุณต้องอยู่กับฐานความจริง ไม่ทำความชั่วใดๆ จิตใจคุณลดกิเลสหมดเป็นบุญ บุญทำลายกิเลสหมด คุณก็หมดบุญก็อยู่กับกุศล แต่กุศลไม่มีบาป
คนใดที่ยังบอกว่า แปล สัพพปาปัสสอกรณัง กุสลสูปสัมปทา สจิตตปริโยทปนัง บอกว่าละชั่วประพฤติดีทำใจให้ผ่องใส คนนั้นยังไม่เข้าถึงโลกุตระ ศาสนาพุทธนั้นหมดบาปหมดบุญ ชีวิตจริงอยู่แต่กับกุศลเท่านั้น สร้างกรรมทุกอย่างก็มีแต่กุศล คุณก็ยังเข้าใจกุศลกับบุญยังไม่ได้ แยกกุศลกับบุญไม่ออก ให้ไปศึกษาให้ดี กุศลเป็นโลกียะ บุญเป็นโลกุตระ
บุญเป็นวันเวย์มีทิศทางเดียวไม่มีโค้ง ฆ่ากิเลสอย่างเดียว ฆ่าแล้วหายสูญไม่มีเลย ปริกขีโณ บุญทำงานเสร็จก็หายไป บาปหมดบุญก็หมดไปด้วย พระพุทธเจ้าตรัสว่าท่านเป็นผู้ที่สิ้นบุญสิ้นบาป ปุญญปาปปริกขีโณ หากเข้าใจคำว่าบุญไม่สัมมาทิฏฐิก็ไม่มีทางบรรลุธรรม
_keera kager 1 วันที่ผ่านมา (แก้ไขแล้ว)
พอเขาฝึกนั่งหลับตาให้ใจว่างท่านก็ว่า พอจะตายให้ทำใจว่าง มันว่างได้จังได ธรรมชาติของใจมันปรุงทุกขณะ มันต้องฝึกหัดมาแต่ยังกายมีกำลัง อาคารที่อยู่ที่นั่งที่นอนท่าน เงินทั้งนั้น คงไม่ได้ผลิตใช้เองแน่ พอวัดวาอื่นเขาจัดกิจกรรมทอดผ้าป่า หาทุนจัดสร้างจัดซื้อให้วัดวาก็ไปว่าเขาหารายได้ ในขณะที่ตัวท่านมีเพียบพร้อม ทั้งบ้าน ที่หลับ ที่นั่ง ทีวี คอมพิวเตอร์ หรูหรา จะไปจะมาก็มีลูกน้องล้อมหน้าล้อมหลัง
พ่อครูว่า…เออ อาตมาก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร คนที่จับผิด ที่บนน้ำก็ผิดที่บนอากาศก็ผิดที่บนบกก็ผิด ผิดทุกอย่าง อาตมาก็ตอบอะไรคุณได้คุณบอกว่าผิดหมด ก็พักเสียก็แล้วกัน
ในฐานะที่คุณเห็นความผิดของอาตมาหมด คุณก็จะไม่เห็นความถูกของอาตมาที่มีอยู่มากเลย เพราะฉะนั้นคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้ความถูกอะไรของอาตมา คุณก็ไปทางที่ชอบของคุณเถอะ ก็คุณชอบทางไหนก็ไปทางนั้น คุณมาทางนี้ไม่ได้หรอก
อาตมาก็พูดอธิบายสัจธรรมกับคนที่มีปัญญาและเข้าใจว่าอันนี้เป็นทางที่ชอบ เขาก็มาทางนี้ ส่วนคุณเห็นแล้วว่ามาทางนี้ไม่ใช่ทางที่ชอบ คุณก็ไปทางที่ชอบของคุณก็จบนะ คุณก็ไปทางของคุณอาตมาก็จะมาทางอาตมา ที่สุดมันก็ต้องแยกทางกัน พระพุทธเจ้าท่านตรัสหลักสุดท้าย ความเห็นของเธอกับความเห็นของเรามันคนละทาง นี่เป็นที่สุดแห่งที่สุด แยกเป็นนานาสังวาส เราไม่เป็นนิกาย ใครไปสร้างนิกายคนนั้นเป็นอนันตริยกรรม อาตมาขอยืนยันว่าอันนี้เป็นเรื่องลึกซึ้ง นิกายคืออะไร นานาสังวาสคืออะไร อาตมามีภูมิรู้เรื่องธรรมวินัย
ตั้งแต่แรก อาตมาก็แยกนานาสังวาส ตั้งแต่พ.ศ. 2518 อาตมาก็ทนอยู่กับ เถรสมาคม อาตมาบวชตั้งแต่พ.ศ. 2513 อยู่กับเถรสมาคมมา 5 ปี อาตมาก็เลยประกาศตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2518 ประกาศนานาสังวาส เป็นลายลักษณ์อักษร ต่อหน้าสงฆ์ทั้ง 180 รูปที่วัดหนองกระทุ่ม มีหลักฐานทั้งนั้น เถรสมาคมก็ยอมรับ จนมีหลักฐานว่า
เราไปซื้อตั๋วรถไฟ เขาไม่ลดราคาให้พระชาวอโศก เราก็บอกว่าเป็นพระ เขาก็ไม่เชื่อว่าเป็นพระเถระสมาคม เขาก็ทำหนังสือไปถามเถรสมาคม เถรสมาคมจึงตอบ มาทางผู้อำนวยการการรถไฟ ว่า ใช่ พระชาวอโศกไม่ได้อยู่ในการปกครองของเถรสมาคม แสดงว่าเขารับรู้ว่าอาตมาแยก ไม่ได้อยู่ในการบริหารปกครองของเขาแล้ว ตอนนั้นประมาณพ.ศ. 2522 มีหนังสือตอบจากทางเถรสมาคมไปถึงผู้ว่าการรถไฟ
แต่วันร้ายคืนร้าย พ.ศ. 2532 เขาก็ดึงอาตมาเข้าไปอยู่ในเถรสมาคมอีก การกระทำของเขาก็เป็นโมฆะ แล้วยังไม่พอ ไปเอามหานิกายกับธรรมยุตมารวมกันเพื่อทำประกาศนียกรรม มหานิกายกับธรรมยุตเป็นพระที่ต่างนิกายกัน ถ้าหากเอามาทำพิธีของสงฆ์ร่วมกันก็จะเป็นการผิดพระธรรมวินัย เป็นการโมฆะแต่เขาก็ทำ อาตมาก็ได้แต่เป็นผู้ถูกกระทำเป็น object ไม่รู้จะทำอย่างไร เป็นผู้ถูกกระทำตลอดมา อาตมาก็ยอมรับให้เขากระทำ ที่พูดนี้ไม่ได้โวยวายแต่พูดอธิบายสัจธรรมไม่ได้หาเรื่องอะไรหรอก แต่พวกคุณมาขุดคุ้ย ฟื้นฝอยหาตะเข็บอาตมาก็เลยพูดไปตามสัจจะความจริงเท่านั้น
พ่อครูว่า…
_มีด.ญ.ใสกลางเพ็ญ โพธิ์ใบ…พยายามคัดตัวหนังสือมา …พูดแล้วก็นึกถึงสมัยก่อน กำลังทำหนังกันอยู่ ทำตัวหนังสือเป็นโลโก้ ใช้เป็นสัญลักษณ์ของหนัง จะทำตัวหนังสือ font แบบไหน อาตมาก็ออกความคิดว่าเอาตัวหนังสือของเด็ก ที่ไม่ประสีประสา ยังเด็กเลย ลายมือของเด็กมันสวยอย่างเด็กๆ เขาก็พยายามคัดลายมือของเขา เขาคิดคำถามเองนะ
ถามว่า ไฟฌานทำลายกิเลสได้อย่างไร
พ่อครูว่า…อยากจะให้ผู้จบเปรียญ 9 จบดอกเตอร์ทางศาสนาพุทธมาตอบหน่อยนะ มันไม่ใช่ง่าย และก็ถามหยั่งลึก ขนาดผู้ใหญ่ที่ศึกษาทางศาสนาพุทธ ก็ยังไม่รู้ คำว่าฌาน ทุกวันนี้ผิดเพี้ยนไปแปลว่าเพ่ง แต่ยังดีนะ ยังมีการแปลว่า ไฟ เพลิง แต่ส่วนมากก็ไปเพ่งให้จิตสงบไปโน่น คือเอาสิ่งที่ผิดมาใช้เป็นคำแปลใน พจนานุกรมบาลีไทย
ไฟฌานทำลายกิเลสได้อย่างไร ถ้าเข้าใจว่าไฟคือ อุณหธาตุ เตโชธาตุ ธาตุร้อนสลายกิเลสได้ กิเลสก็เป็นไฟราคะโทสะโมหะ ฌานคือพลังงานจิตที่ผู้สามารถมีกระบวนการในจิตปรุงแต่ง ให้เกิดพลังงานจิตที่เรียกว่าเป็นเตโชธาตุ ที่จะเป็นไฟ ที่เหนือชั้นที่มีปัญญา เป็นไฟที่เข้าใจสัจธรรมเหนือชั้นกว่า ราคะโทสะโมหะ จึงทำให้พลังงานไฟที่สร้างขึ้นมาจากผู้ที่มีพลังงานจิตทำใจในใจ มนสิการ ให้เกิดพลังงานนั้น พลังงานนั้นประกอบด้วยปัญญา
ฌานต้องมีปัญญา ปัญญาต้องมีฌาน พระพุทธเจ้าตรัสไว้ พระไตรปิฎกเล่ม 25 ข้อที่ 35
ไฟฌาน เป็นไฟที่มี พลังงานพิเศษ มีปัญญาประกอบ ปัญญาคือโลกุตรธรรม ไม่มีใครมาอธิบายพยัญชนะบาลีเหมือนอย่างอาตมาอธิบายหรอก อาตมาพูดความจริงไม่ได้คุยตัว อย่ามาอคติกับอาตมามากเลย โลกนี้มีพระโพธิสัตว์สยังอภิญญาเกิดก็พูดให้ฟังดูบ้างลองฟังดูบ้าง
ฌานคือพลังงานไฟร้อน เมื่อไฟฌานร้อนกว่าไฟราคะโทสะโมหะที่เป็นไฟกิเลสมันก็ทำลายได้ เพราะมันมีฤทธิ์อำนาจมากกว่า อย่าเรียกว่าร้อนกว่าเลย มีฤทธิ์มีอำนาจมากกว่าไฟกิเลส มากกว่าราคะโทสะโมหะ เพราะมันมีปัญญามีความรู้ยิ่งรู้จริง มันก็เลยฆ่าราคะโทสะโมหะที่เป็นกิเลส ถามว่าทำลายกิเลสได้อย่างไร ได้เพราะผู้ที่ทำมีภูมิที่เป็นฌาน สร้างพลังงานที่เป็นพลังงานจิตที่เป็นฌานได้
ฌาน ไม่ใช่เรื่องที่จะแบบเร่งให้เกิดพลังงานสงบพลังงานนิ่งเย็น ไม่ใช่ แต่เป็นพลังงานแรงร้อน พลังงานที่เกิด มุทุภูตธาตุ แรงเร็ว เหมือนกับความเร็วต้องมีความเร็วที่สูงกว่าจึงจะชนะกิเลสนี้ได้ จึงทำลายราคะโทสะโมหะได้
การจะสร้างได้หรือไม่ได้ก็ต้องอยู่ที่ผู้ปฏิบัติ ต้องรู้ว่ามีพลังงานราคะ เดือดเท่านี้องศา เสร็จแล้วเราก็สร้างพลังงานที่เป็นพลังงานกลพลังงานไฟฌาน ก่อนจะเป็นบุญก็ต้องพลังงานไฟฌาน ที่จะมีฤทธิ์ทำลายพลังงานราคะโทสะโมหะได้ เมื่อทำลายได้ ก็เกิดพลังงานที่เรียกว่าบุญ
ฌานเกิดก่อนบุญ ฌานเกิดก่อนการทำลาย ทำลายกิเลสได้แล้วกิเลสก็หมดไปจากจิต จิตก็สะอาด แล้วจิตสะอาดนั้นถึงจะตกผลึกลงไป เมื่อตกผลึกจิตสะอาด ถึงจะเรียกว่าสมาธิ
สมาธินั้นเกิดไกลจากฌานตั้งเยอะ ต้องผ่านบุญก่อนจึงจะมีสมาธิ ผ่านจากปัญญาจึงเป็นสมาธิ ฟังให้ดีใน ศีล สมาธิ ปัญญา
สมาธิที่เป็นจิตสมาธิที่เกิด เกิดจากโครงสร้างของ อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา แล้วจึงจะเกิดการชำระกิเลส เมื่อชำระกิเลสแล้วจากกระบวนการของ อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา จึงจะได้จิตที่สะอาดปราศจากกิเลสตกผลึกลงเป็นสมาธิ เพราะฉะนั้นสมาธิไม่ได้เกิดอยู่ในตัวกลาง แต่กระบวนการ อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา ทำงานกันเสร็จ มีผล ผลนั้นจึงจะเรียกว่าบุญ ไม่ใช่ผลทีเดียวแต่เป็นฤทธิ์ กระบวนการอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา ปรุงแต่งทำงานกำจัดกิเลสได้ด้วยความบุญ จิตก็สะอาดขึ้น ตกผลึกควบแน่นเข้าก็ตั้งมั่น จึงเรียกจิตนี้ว่า สมาธิ ไม่ใช่จิตไปนั่งเพ่งให้เย็น นั่นเป็นมิจฉาสมาธิ เป็น Meditation ของเดียรถีย์ของคนทั่วไป ไม่ใช่สมาธิของพระพุทธเจ้า สมาธิของพระพุทธเจ้าไม่ได้เพ่งอย่างนั้น สมาธิของพระพุทธเจ้านั้นเกิดจากการปฏิบัติมรรคทั้ง 7 องค์
มีสัมมาทิฏฐิเป็นประธาน
เป็นส่วนแห่งบุญ(ปุญญภาคิยา) ให้ผลวิบากแก่ขันธ์(อุปธิเวปักกา).
-
ทานที่ให้แล้ว มีผล(ให้กิเลสลด) (อัตถิ . ทินนัง) . . . .
-
ยัญพิธี (พิธีการปฏิบัติ) ที่บูชาแล้ว มีผล (อัตถิ ยิฏฐัง)
-
สังเวย(เสวย)ที่บวงสรวงแล้ว มีผล (อัตถิ หุตัง)
-
ผลวิบากของกรรมที่ทำดีทำชั่วแล้ว มีแน่ .
(อัตถิ สุกตทุกกฏานัง กัมมานัง ผลัง วิปาโก) . .
-
โลกนี้ มี (อัตถิ อยัง โลโก) หมายถึง วนในโลกีย์เดิมๆ . .
-
โลกหน้า มี (อัตถิ ปโร โลโก) หมายถึง โลกโลกุตระ .
-
มารดา มี (อัตถิ มาตา) . . .
-
บิดา มี (อัตถิ ปิตา) . .
-
สัตว์ที่ผุดเกิดอุปปัติเอง มี (อัตถิ สัตตา โอปปาติกา) . . .