620221_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ พุทธศาสตร์เปลี่ยนแกนจิตได้จึงสลายซาตาน
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1GKSSeNtkeUDRtWWIggcVvpB4nDRwIMHHzjYtOhO8lFc/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1vq_sdkFD_prFFtgeJLzJ0X2WDUr33uHu
สมณะเดินดินว่า…วันนี้วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บวรราชธานีอโศก มีพวกเราได้ไปเยี่ยมลุงจำลองที่เรือนจำ แต่ลุงจำลองป่วยเข้าโรงพยาบาลก็เลยไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล ครั้งนี้ลุงกับสดชื่นกว่าตอนที่อยู่วัดอีก ดูท่าทางกระปรี้กระเป่ามีชีวิตชีวา แม้แต่ป้าศิริลักษณ์ถามว่าลุงติดคุกเท่าไหร่ ก็บอกว่า 8 เดือน ป้าบอกว่าแค่ 8 เดือนเองเหรอ คงไม่ต้องเป็นห่วงหรอกลุงแข็งแรงขึ้น มีบางคนเยาะเย้ยว่าติดคุกตอนแก่ แต่ว่าในเมื่อจิตของคนที่ไม่ได้กระทำทุจริตกรรมอะไร มีความสะอาดบริสุทธิ์ จะหาผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่รักษาความสะอาดบริสุทธิ์ในชีวิตได้อย่างไม่ด่างพร้อยอะไรเลย เขาเรียกมหา 5 ขัน ทานข้าววันละ 1 มื้อ ถือศีล 8 แต่ที่จริงลุงใช้แค่ 3 ขันในการอาบน้ำ ทำไมลุงติดคุกแล้วสุขภาพดีขึ้น คงเพราะว่าจิตใจของลุงไม่หวั่นไหวไปกับเหตุการณ์ ชัดเจนในกรรมที่เสียสละก็ทำให้สุขภาพของลุงฟื้นคืนมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ เรื่องคุณธรรมธรรมะจิตวิญญาณเป็นเรื่องสำคัญ ที่ทำให้เราเป็นที่อยู่เหนือกว่าเหตุการณ์นั้นๆ
พ่อครูว่า…
SMS วันที่ 12- 20 ก.พ. 2562
6592ฟังธรรมแล้วเข้าใจค่ะ
_7459ชอบเพลงหนึ่งในพันมากถ้าได้เป็นหนึ่งในพันนับว่าชีวิตประเสริฐค่ะ
พ่อครูว่า…คุณก็เป็นคนที่เข้าใจธรรมะดีนะจะมีกี่คนที่เข้าใจธรรมะอย่างคุณ
_อำภา รื่นใจดี · วันนี้เป็นอีกโจทย์หนึ่งที่มาให้ทดสอบข่าวศาลตัดสินแกนนำพันธมิตรให้ติดคุก 8 เดือน ว่าเมื่อรู้ข่าวแล้วจะทำใจในใจให้เป็นอุเบกขาได้ไหม ลูกขอรายงานท่านพ่อครูว่า โจทย์นี้ลูกสอบตกค่ะ เป็นห่วงทุกท่าน เพราะแต่ละท่านก็อายุมากแล้ว จะทนสภาพของคุกได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ตอนนี้พยายามมีสติให้รู้ความจริงไปตามความเป็นจริงให้มากที่สุด เจ้าค่ะ
_แก้วลา ไชยวงค์ · ลูกไม่รู้ว่าข่าวจริงหรือข่าวปลอม ข่าวว่าศาลรับฟ้องลูกศิษ์ท่านอาจารย์คึกฤทธ์ (เผยเเพ่พุทธะวจน )ยักยอกเงินทำบุญ 515 ล้านเจ้าค่ะ
_สรายุทธ บุญญโก · กระผมชอบฟังเพลงร็อค ฟังธรรมก็ชอบแบบถึงใจ ชัดๆ เน้นๆ
พ่อครูว่า..อาตมาแสดงธรรมไม่ใช่แค่จังหวะสโลว์ซบแน่นอน ไม่ใช่แทงโก้ บีกินแน่ มันค่อนไปทางร็อค จะฮาร์ดร็อคหรือเปล่า
_ลานไพร · กราบนมัสการครับพ่อครู พ่อครูเหนื่อยไหมครับที่ต้องแสดงธรรมโปรดจิตวิญญานทั้ง เปรต เดรัชฉาน อสุรกาย สัตว์นรก และเทวดาทั้งหลาย. ได้ยินบทความที่เห็นต่าง ความเห็นแย้ง. หรือแม้คำด่าคำดูหมิ่น ฟังแล้วแทบจะหูดับไปเลยครับ. แต่ถ้าเป็นกระผมนั่งตอบคำถามแบบพ่อครูคงปวดหัวหนักแน่ๆ
พ่อครูว่า..เขาด่ามาก็รู้ความจริงตามความเป็นจริง เขาด่าอย่างหยาบคายเข้าใจผิดหรือเข้าใจพูดมาก็เข้าใจตามนั้น คนชมมาถูกบ้างอาจจะไม่ตรงนักชมบ้างเกินจริงก็รับฟัง ชมด้วยความจริง ชมได้ไม่ถึงความจริงก็ฟังไป
_วาส ทองจันทร์ · กราบนมัสการ พ่อครู ด้วยความเคารพครับ ปีนี้สุขภาพผมไม่แข็งแรงเลยต้องอดไป ปีนี้ขอเข้าพุทธาหน้าจอครับ
พ่อครูว่า..ได้ก็ฟังธรรมแล้วติดตามเหมือนอยู่ในบรรยากาศที่นี่ก็จะได้เห็นมวลมิตรที่มาทำงานพุทธาภิเษกฯกันมีโปรแกรมอย่างไรก็ทำกัน ก็อยู่หน้าจอก็ร่วมได้ตามประสา
_บี บอม · กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงครับ. กราบเรียนถามคำถามครับ?เรื่องที่พ่อครูพูดถึงเรื่องการมาสืบสานศาสนาต่อให้เจริญรุ่งเรืองอีก สืบต่อศาสนาอีกให้ครบ 5000 ปี และช่วงเวลาตั้งแต่ตอนนี้ จนครบ 5000 ปี ศาสนาจะรุ่งเรื่อง เหมือนยุคสมัยพระพุทธเจ้าอีกไหมครับ? หรือ แค่พอมีคนรู้คนเข้าใจ และต่อไปแค่ถึง 5000ปีเท่านั้นเองครับ.
กราบนมัสการครับ ฟังธรรมะพ่อครู สม่ำเสมอครับ รับฟังจากประเทศเกาหลีใต้ครับ
พ่อครูว่า..ก็ขอตอบคำถามของคุณบี บอม ว่า เรื่องที่อาตมาบอกว่าอาตมามาสืบต่อศาสนาให้ครบ 5000 ปี แล้วถามว่า ศาสนาจะรุ่งเรืองเหมือนสมัยพระพุทธเจ้าได้ไหม ตอบเรื่องนี้ก่อนว่าไม่หรอก จะรุ่งเรืองเหมือนในยุคที่พระพุทธเจ้ายังอยู่และนำพากันไปไม่ได้ และไม่ได้อย่างมากด้วย เพราะว่าศาสนาพุทธในยุคนี้เสื่อมสิ้นซากของศาสนาพุทธ และเนื้อแท้โลกุตระสิ้นซาก แถมเอาเดรัจฉานวิชาไสยศาสตร์เข้ามาใส่ในศาสนาพุทธอีกพะเรอเกวียน อาตมาจึงงานหนัก กวาดจารีตประเพณีนอกรีตเดรัฐฉานวิชาไสยศาสตร์ก็ทำไม่ไหวแล้ว ยังจะต้องมาฟื้นความรู้เนื้อแท้ของโลกุตรธรรมขึ้นมาอีก งานมันหนักและยาก
แต่มันไม่มีทางเลือก เพราะชีวิตอาตมาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ขนาดนี้ ก็จะทำแต่เรื่องศาสนานี้ไปอีกจนกว่าจะปรินิพพานเป็นปริโยสาน เมื่ออาตมายังไม่ถึงพระนิพพานกว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า อาตมาก็ต้องกวาดเก็บเรื่องนี้ไปอีกนานเท่านาน แต่มันก็ได้ผล อย่างนี้ อาตมาทำงานมา 40-50 ปี ก็เห็นพวกเรารับรู้ และคนที่ไม่ได้มาที่นี่รับฟังอยู่ที่บ้านก็ได้รับความรู้ก็คงไม่น้อย แต่เขาไม่ได้แสดงตัวให้เรารู้เราก็ไม่รู้สถิติ แต่ไม่มีปัญหาหรอก เท่าไหร่อาตมาก็เอา อย่างน้อยจะหมดแล้วคิดว่าไม่น้อยกว่า 1,250 ตามเกณฑ์ของพระพุทธเจ้าที่ท่านมีพระอรหันต์ 1250 องค์ ท่านก็ถือเป็นเกณฑ์ของการถือว่าศาสนาของท่านดำเนินไปได้ อาตมาก็ถือว่า คนที่ฟังแม้ไม่ใช่อรหันต์ แต่ฟังธรรมครั้งละไม่ต่ำกว่า 1,250 ก็คิดว่าน่าจะมี ผู้ที่สนใจรับฟังน่าจะถึง 1,250 คนต่อครั้ง นั่งอยู่ที่นี่ก็ประมาณ 100 กว่า อยู่ทางบ้านแต่ละบ้าน 77 จังหวัด ก็อาจจะมีฟังอีกจังหวัดละ 5 คน ไม่มีคนฟังอาตมาก็คงจะต้องเลิก แต่ถ้ามี 5 คนขึ้นไปอาตมาก็ทำ พระพุทธเจ้าท่านเทศนาครั้งแรกก็มีคนฟัง 5 คน อาตมาก็ต้องทำ ทำไปจนกว่าจะตาย
ที่ถามว่า ศาสนาจะรุ่งเรือง ก็ไม่รุ่งเรืองเท่าพระพุทธเจ้า แต่จะกอบกู้เนื้อหาโลกุตรธรรมขึ้นมา ตอนนี้ก็ได้ขึ้นมาบ้างแล้ว อันนี้แหละที่จะเป็นเนื้อที่จะยืนยันว่าเป็นศาสนาพุทธ แล้วมันก็จะมีเนื้ออันนี้ต่อไปพวกเราทำไว้คนต่อไปก็จะได้รับความรู้บ้าง ยาวยืนไปจนกว่าจะถึงห้าพันปี แต่ถ้าเชื้อนี้ยังไม่มากพอก็ต้องเกิดมาเติมเนื้อเติมเชื้อนี้อีก ก็คงจะต้องเกิดมาอีกอยู่หรอก อาตมาต้องเผื่อพอไว้ให้มันถึง 5,000 ปี ตอนนี้ก็รู้สึกว่ามันยากจังเลยมันไม่ค่อยจะเข้า คนตั้ง 67 ล้านคนในเมืองไทย ก็มีประมาณเท่านี้
_เด็ดเดี่ยว · ลดกิเลสประเทศชาติเจริญ..ท่านคือต้นแบบที่น่าเอาเยี่ยงอย่าง..ข้าพเจ้ากำลังเจริญรอยตาม ตามพละอินทรีย์ของตน???
พ่อครูว่า..ก็ไม่เห็นผู้บริหารประเทศจะมาเข้าใจอย่างนี้เลย ไม่เห็นจะมาลดกิเลส อย่าว่าแต่ผู้บริหารประเทศชาติเลยแต่เทระสมาคมยังไม่เอาถ่านจะมาลดกิเลส มีแต่เติมกิเลสกัน เฮ้อ มันน่าเศร้า ศาสนาไม่รู้ว่าตนเองตามกิเลสให้แก่ตนเองอยู่ มาบวชแล้วยังไม่รู้ว่าตัวเองเติมกิเลสให้หรือทำให้กิเลสลดคืออย่างไร นอกจากไม่รู้แล้วยังไปเข้าใจวิธีที่จะให้ลดกิเลสผิดทางอีก แสนเศร้าจริง แต่อาตมาไม่เศร้า รู้แต่ว่าคนที่ไม่เข้าใจก็น่าสงสาร
_เจน ฮู เชอร์ · ถ้าพวกคนทีด่าได้อ่านหนังสือพ่อครูเขียน 1-2-3-เล่มจะไม่กล้าด่าว่าพ่อครูเลย ให้ตายสิ คนพวกนั้นคงอาเจียนเป็นโลหิตแน่ฯเลย. หนังสือทีแน่นำให้อ่าน คือทางเอกภาค1-2-3 สมาธิพุธ คนคืออะไรทำไมสำคัญนัก. จะรู้เลยว่าพ่อครูเป็นใคร (หนังสือทีพ่อครูเขียนเชิญอ่านค่ะ บอกคนด่าว่าพ่อครู), หนังสือ ทางเอกภาค1-2-3. ค่ะ.รับชมทีสวิสเซอร์แลนด์ รอรับทุกวันเจ้าค่ะ
พ่อครูว่า..เขาจะฟังหรือ
_เพ็ญจันทร์ ภูมิเทศ ที่พุทธสถานศีรษะอโศก ฝึกใจในใจตามที่พ่อครูเทศน์ทุกประการเลยเจ้าคะ
พ่อครูว่า..เอ้อ ดี
ฝ
_อิสระบนยอดหญ้า นอบน้อมหมอบกราบพ่อท่านครับ หลังได้ฟังพ่อท่านอ่านข้อคิดเห็นของคุณคนนี้แล้ว น่าสงสารมหาเถระสมาคมในยุคก่อน ที่ธาตุมิจฉาทิฐิ ยังมีเชื้อคลื่นพลังที่ยังมีกำลังมาก จึงน่าสงสารยิ่ง กรรมนี้ยังอีกมาก ด้วยการอาศัยเหตุเชื้อนี้ ธาตุมิจฉาสังกัปปะนี้จึงเกิดขึ้น จึงน่าสงสารเพราะความรู้เท่าไม่ทันทิฏฐิลามกในจิตตน แต่สร้างโทษต่อเองและผู้อื่นอย่างมากมาย ดังที่ในพระสูตร โลหิจจสูตร ศาสดาองค์ที่ 2 ไม่มีในตนแล้วเพียรสอนผู้อื่นจึงเป็นอันตรายต่อผู้อื่นได้ เหตุท่านผู้ที่แสดงความเห็นนี้จยังไม่เข้าใจวาระกรรมที่อาศัยกันและกันเกิดขึ้น ไม่อาศัยย่อมไม่เกิดขึ้น สาธุ สาธุ สาธุครับ
_แตงโม ครับผม · ที่เขาว่าย้อนแย้งเพราะเขาสอนกันว่าผู้ที่ทำอนันตริยกรรมไม่สามารถแม้บรรลุธรรมครับ
พ่อครูว่า..อ่านประโยคแล้วไม่เข้าใจ เพราะละไว้ในฐานที่เข้าใจมากเกินไป คิดว่าอาตมาฉลาดพอที่จะเข้าใจคุณ อาตมาว่าอาตมาไม่ได้ฉลาดอย่างนั้น
(สู่แดนธรรมว่า จำได้ว่า พระเทวทัตทำไมบรรลุเป็นปัจเจกพระพุทธเจ้าได้ แต่พ่อท่านบอกว่าบรรลุได้)
เทวทัตทำอนันตริยกรรม แต่ พระพุทธเจ้ารับรองว่าเขาจะบรรลุเป็นปัจเจกได้ คือ เข้าใจยากคนที่เข้าใจธรรมะยังไม่ได้ เขามีความรู้แค่นั้นก็เลยย้อนแย้งอาตมาไป
_นพดล ทองโคตร · ข้าฯน้อยได้รับฟังธรรมจากพ่อครูแล้วได้ลดละกิเลสได้บ้างแล้วขอรับ
พ่อครูว่า..อันนี้ได้ขนาดนี้ มีคน กิเลสลดกิเลสได้บ้างแล้วอันนี้ก็คือผลที่อาตมาทำงานมาได้ผล แต่คนที่ไม่เข้าใจฟังไม่รู้เรื่องก็ไม่รู้จะทำอย่างไร หรืออะไรก็แล้วแต่ คนรับได้ฟังได้ดีก็ลดละกิเลสไปได้
_เพ็ญจันทร์ ภูมิเทศ · นิมนต์ ลงบทกวี “คนตาบอด” เป็นภาพนิ่งขั้นไว้ที่ F/B บุญนิยมด้วยเจ้าค่ะ…..กราบนมัสการมาด้วยความเคารพ
_ภูผาฟ้า สวนฝั่งฝัน · ขอบคุณบุญนิยมทีวีที่นำสิ่งดีๆส่งถึงบ้านครับ
พ่อครูว่า..ลองเอาบทความของ ดร.วิวัฒนชัย อรรถากรณ์ มาอ่าน อดีต 6 แกนนำพันธมิตรบนเส้นทางคุณธรรม ใน นสพ.ไทยโพสต์ ….
เรื่องของวิบากกรรมของมนุษย์ คนที่เป็นต้นเหตุก็จะเป็นผู้ที่รับบาปไปมากที่สุด ที่เป็นเหตุให้ประชาชนต้องมาทำอะไรพวกนี้จนกระทั่งเกิดความวุ่นวาย ก็เกิดผลกรรมที่ทำ จะเกิดความวุ่นวายก็ปรับตัวให้เกิดความถูกต้องทำให้เกิดความสงบความเจริญขึ้นก็ได้ อาตมามองแล้วว่าประชาชนคนไทยออกมาประท้วงออกมาทำอะไรนี่มันเกิดความวุ่นวาย เหตุเพราะคนที่เข้ามาประท้วงนี่แหละ พวกเหตุที่ทำชั่ว ประชาชนออกมาประท้วงคนทำชั่ว คนมาฆ่าแกงทำวุ่นวาย ไม่ใช่พวกประชาชน ขอขอบคุณประชาชนที่ประท้วงด้วยความสงบไม่ใช้อาวุธทนทานยาวนาน ต่อสู้โดยคุณธรรมโดยวิธีที่ประเสริฐสุด จึงขอขอบคุณจริงๆ แต่แน่นอนมันต้องตรวจผลที่มีคนเลวมาต่อต้าน มาทำร้ายทำลาย เพื่อที่จะให้คนดีที่มาประท้วงเขายึดเสีย แต่เขาทำไม่สำเร็จ ถ้าเขาชุมนุมด้วยความสงบจนกระทั่งพวกนี้พ่ายแพ้ไป สุดท้ายพ่ายแพ้แม้แต่การยึดอำนาจได้ ก็หมดจากอำนาจหลุดจากอำนาจเป็นอุกกาบาตออกนอกประเทศไทย ตั้งแต่หัวหน้าจนถึงเศษสวะ นอกนั้นก็ร่อแร่หรือเข้าคุกไปตามกรรมวิบาก
เราไปชุมนุม คณะนักร้องวงฆราวาน หรือคาราบาวไม่เคยมาเล่นบนเวทีเราเลยนะ มันเป็นสิ่งที่ลึกๆอย่างหนึ่ง การร่วมมือทำเพื่อประชาชนนั้น ไม่ควรจะมีแง่เชิงอย่างนี้ (มีคนบอกว่า น้าหงา ว่า เป็นศิลปินแห่งชาติไม่ควรมา) ทั้งที่นี่เองเป็นประชาธิปไตยสุดที่ประชาชนร่วมกันทำ เห็นได้ว่าอัตตาของเขายิ่งใหญ่กว่าความเป็นจริงภูมิธรรมไม่ถึงความรู้ไม่ถึง (ส.เดินดินว่า ท่านอังคารไม่กลัว) ท่านอังคารก็เป็นศิลปินแห่งชาติ หลายคนก็เป็นศิลปินแห่งชาติแต่ที่ไม่มาก็คงเป็นเพราะยกเรื่องอ้างเท่านั้น
เนื้อเพลง คนดีไม่มีวันตาย ธีร์ ไชยเดช
แม้ไม่มีใครรู้ แต่เรารู้
รู้ว่าเรานั้นทำเพื่อใคร
ไม่ว่าวันพรุ่งนี้มันจะเป็นเช่นไร
ก็จะไม่เสียใจกับสิ่งที่เราได้ทำ
ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร
ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหนไม่เคยบ่นซักคำ
ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ
**จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา
จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าถึงเวลาก็ต้องไป
เหลือไว้แต่คุณงามความดี
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
พ่อครูว่า…อาตมาพูดด้วยความจริงใจ คนที่เสียสละในเมืองไทยก็เสียสละจริงๆ ทำเพื่อมวลชนประเทศชาติเป็นความดีที่สุดยอดแต่คนไทยนี่มันมีนิสัยเสียที่ว่า ไม่ชูคนดีเหมือนต่างชาติเขา แปล๊กแปลก ไม่ชูคนดี เมืองไทยนี่แปลก มีนิสัยดีอย่างหนึ่งคนร้ายก็ถูกว่า แต่ถ้าดีขืนเด่นก็เป็นภัย แต่คนร้ายก็ไม่เอาให้หนัก คือคนไทยอยู่กลางๆ ดีก็ไม่เชิดชูสุดๆ คนร้ายก็ไม่จัดการสุดๆ อาตมาก็ต้องมาทดแทนตรงนี้ แต่ขออภัย โอกาสชม คนดีก็ไม่ค่อยมา
6 แกนนำพันธมิตรนี้ทำความดีเพื่อประเทศชาติอย่างมาก หลายคนอายุ 60 70 80 ไปแล้ว แต่ก็ได้ทำมาตลอดชีวิต คนหนุ่มก็มีสุริยใส แต่ได้ข่าวว่ามีโรคประจำตัวกันหลายอย่าง ไม่มีใครอยากได้โรคภัยหรอกมันเป็นวิบาก อายุมันก็มากขึ้นๆ แม้แต่สนธิ เขาก็เอาไปเก็บในคุกเสีย แล้วก็รวมไปอีก 6 คน เมืองไทยมันช่างอาภัพจริง
คนดีนี่ น่าจะได้รับการส่งเสริมแต่ก็ไม่ พูดไปแล้วก็นึกถึงตนเองอยู่ ขออภัยที่อาตมามองว่าอาตมาเป็นคนดี แต่ก็ไม่ได้รับการส่งเสริม ดีไม่ดีก็ไปส่งเสริมคนประจบประแจง พูดแต่วาทกรรม แต่คนพูดความจริงกับหมั่นไส้ อย่างอาตมา พูดตรงดีก็ดี ถูกก็ถูก ไม่ดีก็ไม่ดี กลับไม่ชอบ กลับพูดแบบเหลาะแหละเลียบเคียง เหมือนอย่างอภิสิทธิ์นี่… ตลก คนเราไปชอบคนอย่างนี้ได้ แปล๊กแปลก อย่างธนาธร ทำเป็นพูดดี ดูแล้วไม่แน่จริงเลย คนอัตตาสูงจะมีลักษณะอย่างนี้ พยายามเลี้ยงประชาชนให้ประชาชนเห็นว่าฉันเป็นคนดีเอามันทั้งสองข้าง ให้เขาบอกเป็นคนดีทั้ง 2 ข้างเลยไม่ว่าใครหนัก ไม่ถล่มใครหนัก ถ้าจะว่าความดีก็เลยไม่ชัด พวกนี้แสดงความดีไม่ชัด เพราะว่าเป็นกะเทย เป็นคนอึมครึมงมคลำปนเปไม่เด็ดขาด อย่างอาตมาไม่ดีก็ว่าไม่ดี ใครจะชังก็ช่าง ดีก็ว่าดี จนกระทั่งหาว่าเข้าข้างมากส่งเสริมมากควรต่อต้าน ชมคนดีแล้วจะมาต่อต้านจะมาชังไปส่งเสริมทำไม ก็อาตมาก็ว่า มันต้องมากอบกู้ความชัดเจนที่ว่า สิ่งที่ดีที่ถูกต้องช่วยกันมาอย่าไปกลัว เปิดเผยตัวออกมาสู่คนดีเข้าข้างคนดี พยายามประกาศความดีให้คนกระจ่าง ความไม่ดีก็ต้องร่วมกันถล่ม ระมัดระวังว่าคนไม่ดีจะมากระทืบเท่านั้น ระวังมันจะมาฆ่าก็แล้วกัน อาตมาก็ต้องระมัดระวัง แต่คนดีไม่มาทำร้ายเราหรอก ชั่วต้องระมัดระวังเขาน่ะ แต่อาตมาก็ไม่ได้เกรงกลัวอะไรเท่าไหร่ก็พูดอยู่ทุกวันนี้ ถล่มทลายอยู่นี่
แล้วยุคนี้ ความไม่ดีมันเยอะมันมากมันร้ายกาจด้วย เราจึงต้องพยายามจะชี้ความจริงอันนี้ ก็เลยต้องชี้ความจริงที่ร้ายมากแรงมาก ก็เลยต้องร้ายต้องแรงเหมือนกับเราเป็นคนเลวคนร้ายคนแรงเหมือนต่ำ แต่แท้จริงอันนั้นเราใช้พยัญชนะภาษา เพื่อที่จะบอกสภาวะ สภาวะมันแรงมันร้าย เลวต่ำ ก็เลยดูเหมือนเราแรงร้ายต่ำ ไปตามที่เราชี้เราว่า มันก็เลยดูยาก คนที่ไม่เข้าใจเทวะ แยกไม่ออกระหว่างพยัญชนะกับสภาวะจริง
สภาวะจริงของจิตอาตมามีเจตนาอย่างไร ในสภาวะจิตของความรู้อาตมา สภาวะจริงของอาตมา ความรู้ของอาตมามีเท่าไหร่อาตมาก็ว่ามีความรู้ไม่น้อย แปลความก็คือมีมาก และเจตนาเพื่อให้รู้ความถูกต้องความจริงอันนี้ สิ่งที่ไม่จริงก็ต้องให้รู้ ก็ต้องเน้นทั้งความจริงและความไม่จริง ก็ต้องทำอย่างนี้ คนไม่เข้าใจสิ่งที่เป็นเจตนาอาตมา แล้วก็คนไม่ได้ทำอย่างอาตมาเยอะก็เลยเห็นแปลก ใครจะมากล้าทำอย่างอาตมาเพราะเขาไม่มีเจตนาอย่างอาตมาไม่มีความรู้เท่าอาตมา แต่อาตมาเต็มทั้งความจริงใจและความรู้ที่อาตมามี แต่คนไม่เชื่อว่าอาตมามีความรู้ พูดไปแล้วก็ดูน่าหมั่นไส้ ยกย่องตัวเอง แหม อาตมาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร บอกว่ามีความรู้ก็ไม่ได้ มันอย่างไร ต้องให้อึมครึม ฉันไม่มีความรู้อาตมาไม่มีความรู้ แล้วไปพูดทำไมโกหก อาตมามีความรู้ถ้าไม่พูดก็โกหกสิ หลายทีนะ อาตมาเคยพูดบ้างว่า อาตมาไม่ใช่คนฉลาด แต่ไม่ได้บอกว่าอาตมาไม่มีความรู้ อาตมาฉลาดได้เพิ่มอีก แต่ความรู้ขออภัย ยุคนี้ ไม่มีใครมีความรู้เท่าอาตมาหรอก
คนไม่กล้าพูดความจริง คนพูดความจริงก็หาว่าอวดตัวอวดตน อาตมาไม่มีจิตอวดตัวอวดตน อาตมาไม่กลัวหรอกว่าใครจะมาว่าอาตมาอวดตัวอวดตน อาตมาเกรงว่าคนจะเข้าใจผิดว่าถ้ามาไม่มีความรู้มากกว่า อาตมาก็เลยบอกว่าทำไมมีความรู้ อาตมาไม่กลัวว่าคนจะมาว่าอาตมา อวดตัวอวดตน อาตมาบอกความจริงก็ต้องอวดสิ
สังคมทุกวันนี้มันคลุมเครือ สอนกันมาผิดๆทำให้เกิดคอนเซ็ปผิดๆ มันก็เลยเข้าใจอะไรเป็นโลกแห่งความเดา เป็นโรคแห่งความอึมครึม อันนี้อะไร เขาก็บอกว่าเขาไม่ได้เป็นคนรู้หมดทุกคนอะไรต่างๆนานาพวกนี้ อาตมาบอกหมด (สู่แดนธรรมว่าเขาไปสรรเสริญความเดา) อาตมาพูดไปหมด น่าสงสาร อรหันต์ก็อรหันต์เดาไปเคารพกัน
อาตมาพูดไปแล้ว อยากรู้จักอาริยะบุคคล มาดูชาวอโศก อยากจะมาดูอรหันต์มาดูชาวอโศก อยากจะดู อนาคามี สกิทาคามีมาดูในชาวอโศก อาตมาทำงานมา 40 กว่าปี สังคมชาวอโศกหมู่บ้านชุมชนชาวอโศกเป็นหมู่บ้านจริงๆ อยู่ร่วมกันเลยมีวัฒนธรรมมีความอยู่ร่วมกัน ทำได้ อาตมาทำได้ถึงขั้นสาธารณโภคี ตั้งแต่ต้นมา เป็นหมู่บ้านมีศีล 5 กันทุกคน เป็นอย่างต่ำ คนในนี้มีศีล 5 ทุกคนมีอิสระเสรีภาพ เอาตัวเองเข้ามาตนเองทำศีล 5 ไม่ได้ดีเข้ามาในนี้ก็ต้องปฏิบัติตนให้มีศีล 5 ทุกคน ส่วนคนมีศีล 5 ได้ดีแล้วก็ทำศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ต่อไป สรุปแล้วอาตมาพาบ้านเมืองประเทศไทยให้มีชุมชนกลุ่มหมู่ประชาชน อยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มหมู่คนมีศีล ทำมาแล้วเกือบ 50 ปี ทำได้แล้วจริงๆด้วย อันนี้คนมองไม่ออกและคนก็ไม่สะดุดตาสะดุดใจ อาตมาทำสิ่งที่ไม่น่าจะทำได้
เถรสมาคมบอกว่าอยากจะให้เกิดหมู่บ้านศีล 5 เขาทำได้ไหม …ไม่ได้ …ท้าด้วย แต่อาตมาทำมาได้ตั้ง 40-50 ปี แล้วจะเกิดไปเรื่อยๆ คุณจะเลิกไหม ..ไม่เลิก แล้วก็จะทำให้มากขึ้นอย่างนี้เป็นต้น เป็นหมู่บ้านที่มีสมาธิแบบพระพุทธเจ้า มีศีลอย่างจริง สรุปความหมายของศีลและก็ปฏิบัติตนตามศีล ไม่ทำร้ายสัตว์ไม่ฆ่าสัตว์วางอาวุธวางศาสตรา มีความละอายมีความเอ็นดูหวังประโยชน์ต่อสัตว์ทั้งปวงอยู่ มีความรู้ทางศีลและปฏิบัติได้จริงด้วยไม่ใช่ สีลัพพตุปาทานหรือสีลัพพตปรามาส
2 มีสมาธิ สมาธิอย่างพุทธไม่ใช่สมาธิอย่างคนส่วนใหญ่ในโลกเข้าใจด้วย ในโลกเข้าใจสมาธิแค่ Meditation ทำได้วิธีmeditationและได้ผลเป็นสมถะเท่านั้น
สมถะเขาก็ไม่เข้าใจแล้วว่าความสงบอย่างสมถะเป็นอย่างไร ศาสนาพุทธไม่ได้เกิดสมาธิที่มีผลเป็นสมถะ แต่ได้ผลสมาธิเป็นปัสสัทธิ เขาก็ไม่รู้ความจริงสภาวะปัสสัทธิที่ว่าสงบนี้ มันไม่มีภาษาไทย ภาษาไทยใช้คำเดียวว่าสงบ ปัสสัทธิก็สงบ สมถะก็สงบ แต่สงบอย่างที่ไม่ต้องไปหาที่ทำให้สงบ ความสงบของผู้นั้นลืมตาอยู่กับสังคม แต่จิตของเราไม่มีกิเลสเป็นตัว nuisance จิตไม่มีพลังงานกิเลส เข้ามาทำให้จิตบกพร่องเลย
ทำชั่วขณะหนึ่งเรียกวิขัมภนปหาน ก็ได้ คนธรรมดาสามัญก็กดข่มไม่ได้ให้กิเลสออกมาเพ่นพ่าน ก็มาทำเพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง ทุกคนทำเป็นแล้ว วิกขัมภนปหาน เคยผ่านชีวิตมาในสังคมเคยมีราคะโทสะโมหะอยู่กลางสังคมไหม ..เคยข่มกันไหมก็ข่มกันทั้งนั้น ใครจะไปปล่อยออกมาให้สะเปะสะปะ ข่มไม่ไหวก็ออกมาบ้าง
-
ตทังคปหาน อันนี้แหละเป็นครั้งเป็นคราว คนที่มีสติสัมปชัญญะสังวรสำรวมตนเอง ปฏิบัติตามธรรมะพระพุทธเจ้าเพื่อให้เกิดวิปัสสนาญาณ ทำให้กิเลสลดลง กิเลส ราคะ โทสะโมหะ มันลดลงไปบ้าง ตามเวลากาละได้บ้างไม่ได้บ้าง มีสัมมาทิฏฐิ สัมมาปฏิบัติก็ได้จริง ส่วนกดข่มได้แต่ตอนกดข่ม แล้วหมักมันก็เพิ่มขึ้นไม่ได้ล้างกิเลส แต่ถ้าทำอย่างสมาธิพิจารณากิเลสได้เป็นลำดับ จนกิเลสหมด
-
สมุจเฉทปหาน กิเลสหมดไป ความสงบของศาสนาพุทธจึงทำทั้ง วิกขัมภนปหาน และตทังคปหาน จึงทำได้อย่างสมุจเฉทปหาน
4.ปฏิปัสสัทธิปหาน ได้อย่างนี้แหละ ปหาน 3 เกิดปัสสัทธิไม่ได้สมถะ ทำทวนแล้วทวนอีก
อาเสวนา ภาวนา พหุลีกัมมัง ทำให้แน่นตกผลึกยิ่งขึ้นจนจบ เรียกภาษานี้ว่า มี
5.นิสรณปหาน ความไม่มีสิ่งที่จะไม่ให้มีเรียกว่า นิ เป็นที่อาศัย ศัพท์ก็ใช้คำว่า นิสรณะ แปลว่าไม่มีการรบ สรณะ แปลว่าการรบ ไม่ต้องรบกับกิเลสอีก เพราะทำให้กิเลสสงบได้ด้วย ปฏิปัสสัทธิปหาน
เพราะฉะนั้นนิสรณปหาน คือการประหารที่ไม่ต้องประหารแล้ว มันได้ในตัวแล้วเป็นเช่นนั้นเองแล้ว มันเก่งจนเป็นปกติของชีวิตแล้ว จึงเป็นนิสรณปหาน
ไม่ใช่ทำอย่าง กดข่ม ได้เพียงชั่วคราวและมันก็กลับขึ้นมาอีกเท่านั้น แต่มันก็ต้องใช้ แล้วต้องทำตาม ปหาน 5 นี้
พยายามรู้ปหานกิเลส โดยการทำสัมมาทิฏฐิสัมมาปฏิบัติ แล้วก็จับตัวกิเลสทุกตัวแล้วก็ประหารกิเลส ด้วยปัญญา ปัญญาจะเป็นพลังงานที่ มีประสิทธิภาพ เป็นพลังงานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้กิเลส มันตาย กิเลสตายได้ด้วยพลังปัญญา ไม่ใช่เป็นพลังงาน กดข่ม แต่เปลี่ยนพลังงานปัญญาอย่างรู้ๆเลย
พลังงานปัญญาฆ่ากิเลส มันตายสนิทไม่เกิดอีก กิเลสไม่เกิดอีกนิรันดร ศาสนาพุทธจึงมีนิพพาน มีนิพพานคือ เป็นคนที่ไม่มีกิเลสเกิดในจิตอีกต่อไปเลย เป็นอรหันต์ นิพพาน มนุษย์อรหันต์แล้วจิตมีนิพพาน กิเลสไม่เกิดในจิตอีกเลยต่อไป ตั้งแต่ชาติที่ได้แล้วชาติต่อๆไปก็ไม่เกิดอีก มาทำงานศาสนาพุทธต่อไปอีกได้ อย่างเช่นอาตมาเป็นโพธิสัตว์ เพราะอาตมามีความจริงอันนี้จึงมาพูดให้ฟัง อวดตัวตนอะไร มาพูดถึงลักษณะมนุษยชาติ อาตมาเป็นมนุษยชาติคนหนึ่ง ปฏิบัติตนเป็นสืบสานศาสนาพระพุทธเจ้ามา
มนุษย์ที่เป็นคนดี ไม่มีกิเลส มันก็ไม่มีตัวร้ายอยู่ในจิตเลย ก็มีแต่ความรู้ มีความดีที่มา มีชีวิตทุกกรรมกิริยาทำงานไม่มีโทษมีภัย และเป็นประโยชน์คุณค่าต่อมวลมนุษยชาติ
มันเป็นเครื่องรับประกันว่า ในสังคมโลกนี้ มนุษย์นี้เป็นตัวการร้ายที่สุด เพราะฉะนั้นมาสอนให้มนุษย์ไม่มีกิเลสที่เป็นซาตาน เป็นซาตานให้หมดไปจากจิตเสีย ก็เป็นหลักประกันได้ว่า ตัวร้ายคือมนุษย์นี้หยุดร้าย สังคมก็ดีขึ้นไปได้เพราะทำให้มนุษย์มีความหมดผีมารซาตานในจิตได้ จะได้มากคนกี่คนก็ตาม เป็นงานที่เยี่ยมยอดมากที่สุด คุณจะไปเรียนศาสตร์ไหนแขนงเศรษฐศาสตร์รัฐศาสตร์เกษตรศาสตร์ นิเทศศาสตร์ ศาสตร์ต่างๆ มันเป็นแขนงย่อยแต่ศาสนาพุทธนั้นเป็นศาสนารวมหมดทุกศาสตร์
คุณเป็นอรหันต์หรือคุณเป็นโสดาบัน สกทาคามี อนาคามี เป็นอริยบุคคล แล้วคุณจะไปทำงานศาสตร์ต่างๆพวกนั้น คุณธรรมพวกนี้จะติดตัวคุณไปคุณจะไม่เป็นภัยเป็นโทษ แม้งานที่คุณทำคุณจะไม่ให้งานที่เป็นพิษเป็นโทษ นี่เป็นแกนของการสร้างคนก่อน
ถ้ารัฐ หรือผู้บริหารประเทศชาติรู้จักการสร้างแกนหลักการนี้ให้แก่มนุษย์ และมาเน้นอันนี้ที่ถูกต้อง ที่เป็นของพระพุทธเจ้าแท้ๆในจิต เน้นศาสนาคุณธรรมให้จริง ประเทศจะง่ายกว่าที่คุณบริหารกันอยู่ทุกวันนี้ เป็นวัวพันหลักเป็นงูกินหาง เดี๋ยวก็วนเวียนมาอีก ยิ่งไปได้แค่เลือกตั้งเลือกตั้ง อาตมาไม่อยากจะพูดแรงนะ มันมีแต่ผีมารที่มาเป็นนักการเมืองเป็นนักประชาธิปไตยโกหก เขาเอาคำว่าเลือกตั้งแล้วเขาจะได้เป็นนักประชาธิปไตย แต่พวกที่เลือกตั้งนั้นเป็นพวกหาประโยชน์ใส่ตน ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ประชาชนอย่างแท้จริง
เพราะคนจริงที่จะทำประโยชน์เพื่อแก่ประชาชนแท้จริงนั้นไม่มีเล่ห์เหลี่ยมไม่มีกลยุทธ์ไม่มีวิธีการ เข้าไป ซื่อๆ ไปให้ประชาชนเลือกตั้งนั้น สู้พวกนักเลงนักการเมืองพวกนี้ไม่ได้หรอก แล้วพวกนักการเมืองพวกนี้จะวางเครือข่ายค่ายกลของตัวเองไว้ตลอดกาล เพราะเขาจะทำอาชีพการเมือง
นักการเมืองที่แท้จริงคือประชาชนคนสามัญ จะไม่มาเน้นเรื่องการเอาแต่หาวิธีการกูจะได้เป็นนักการเมืองจะได้เป็นคนที่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนเพื่อไปยืนยันแก่ประเทศว่า ถ้าได้รับเลือกตั้งมาเป็นสส.เป็นผู้แทนประชาชนนะ แล้วก็มาแสดงได้รับยี่ห้อว่าเป็นสส.ผู้แทนประชาชน เสร็จแล้วก็เอาอำนาจที่มันมีตามกฎหมาย แม้แต่การละเมิดกฎหมายเขาก็ทำเพื่อเขาจะได้ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข คนพวกนี้ทำงานเพื่อโลกธรรมเท่านั้น
คนที่เป็นอริยบุคคลจริง ทำงานไม่จำเป็นจะต้องไปล่าลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข ถึงไม่ไปยื้อแย่ง คนที่ยื้อแย่งอยู่ คือนักการเมือง ส่วนคนที่มายื้อแย่งทำอาชีพสามัญนั้น ย่อมไม่ใช่นักการเมือง แต่จะทำงานอาชีพที่ตนทำนั้นเพื่อให้ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุขเกิดโดยธรรม ไม่ต้องอ้างว่าฉันจะทำงานเพื่อเธอๆหรอก คนพวกนี้ก็ทำงานสร้างสรรค์เลี้ยงชีพแก่ตนเองแล้วผลประโยชน์ที่ได้ ถ้าเขามีจิตใจเป็นนักประชาธิปไตยจริง เขาก็จะเป็นคนที่มีคุณสมบัติ พหุชนหิตายะ(เพื่อหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก)พหุชนสุขายะ(เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ(รับใช้โลก ช่วยโลก)
นักประชาธิปไตยคือ 1 ไม่มีอัตตา ไม่เห็นแก่ตัวแก่ตน 2 เป็นคนที่มีอิสระเสรีภาพแก่โลก ไม่เบ่งข่มคนนั้นคนนี้ แต่จะช่วยจะรับใช้เขา เป็นคนไม่มีอัตตา ให้อิสระแก่คนแล้วจะเป็นคนรับใช้คน นี่เป็นคุณสมบัติของคนที่เป็นนักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
คนที่รู้จักให้อิสระแก่คนแล้วตนเองก็ไม่มี อัตตา และต้องมีปัญญา คนที่ปฏิบัติตนลดอัตตา จะมีปัญญาพลังงานล้างกิเลสตนเองหมด ปัญญาก็ยิ่งจะดีมาก
คนที่มีปุญญะ บุญคือเครื่องชำระกิเลส คนที่สร้างจิตตนเองให้มีพลังงานลดกิเลสได้ กิเลสยิ่งลดปัญญาก็ยิ่งจะเกิด ปัญญาที่เจริญคือปัญญาที่ตัวตนของตัวเอง การเห็นแก่ตัวของตัวเองลดลงๆๆ แล้วความฉลาดที่รู้จักผู้อื่นรู้จักโลกรู้จักมนุษยชาติอื่น มากขึ้นๆ ก็ทำงานเพื่อคนอื่นมากขึ้น ตัวตนลดลงทำงานเพื่อคนอื่นมากขึ้น ตัวตนหมดไปมีแต่ทำงานเพื่อผู้อื่นอย่างเดียวนี่แหละคือนักประชาธิปไตยตัวจริง เป็นคนที่ไม่มีตัวตนเป็นคนรับใช้มวลชน เป็นคนรู้จักอิสรเสรีภาพ ไม่ไปใช้อำนาจบาตรใหญ่ ทำงานรับใช้ประชาชนไปเรื่อยๆ
คุณธรรมลักษณะต่างๆที่อาตมาอธิบายปนไปทั้งธรรมะไปทั้งระบบการปกครองการเมืองปนเปกันไป มันแยกไม่ออก ธรรมะก็คือเรื่องของมนุษยชาติการเมืองก็คือเรื่องของมนุษยชาติ การเมืองคือการช่วยพลเมืองให้เจริญได้อยู่เย็นเป็นสุขเป็นพหุชนหิตายะ(เพื่อหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก)พหุชนสุขายะ(เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ(รับใช้โลก ช่วยโลก) ผู้จะทำได้จริงต้องเป็นคนมีธรรมะ จึงจะทำการเมืองให้เกิด พหุชนหิตายะ(เพื่อหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก)พหุชนสุขายะ(เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ(รับใช้โลก ช่วยโลก) ได้
แต่นักการเมืองทุกวันนี้ไม่ใส่ใจในธรรมะไม่ใส่ใจในความรู้ของพระพุทธเจ้าไม่ไปปฏิบัติตนให้เป็นผู้ที่รู้จัก ธรรมะของพระพุทธเจ้า คือกิเลสนั่นแหละออก เอากิเลสของตัวเองออกนั่นแหละคือธรรมะพระพุทธเจ้า ไม่ไปทำอันนั้นก่อน
ผู้ที่ไม่ทำคุณอันสมควรก่อนแล้วไปสอนคนอื่น มีแต่เรื่องมัวหมองเสียหาย แต่ทำคุณอันสมควรก่อนจะไปสอนคนอื่นรับใช้คนอื่นจึงไม่มัวหมอง ตัวเองไม่ได้ทำให้ตนเองเป็นคนดีคนประเสริฐคนอาริยะ
ในอนาคตต่อไป ชาวอโศกเป็นคนปฏิบัติธรรมเรียนรู้ธรรมะพุทธเจ้า ล้างกิเลสก่อน ทำคุณอันสมควรแก่ตนเองก่อน แล้วค่อยไปสอนไปรับใช้ทำงานร่วม ทุกวันนี้เราก็เริ่มรับใช้ประชาชนมากขึ้นๆ จะเรียกว่าไปบริหารประเทศชาติ หรือว่าจะไปทำงานการเมือง มันก็คือไปรับใช้ประชาชน ในระบบประชาธิปไตยเป็นเช่นนั้น ก็เป็นคนที่รับใช้ประชาชน ด้วยคุณธรรมที่ตนเองทำคุณอันสมควรก่อน คือล้างกิเลสก่อน
ที่จริงแล้วเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ ผู้จะไปทำงานการเมืองควรจะให้มาปฏิบัติตนแล้วสอบผ่าน มีใบรับรองว่าคุณจะมาทำงานการเมืองจะเป็นนักการเมือง ต้องมีประกาศนียบัตรผ่านการละกิเลส อย่างน้อยเป็นโสดาบัน รับรองว่า ประเทศชาติเจริญอย่างแต่ละประเทศในโลกนี้ ตามไม่ทันเลย ประเทศไทยไปลิ่วๆๆไม่เห็นฝุ่น
ของดีมีในประเทศมีในชาติ ประเทศไทยนับถือศาสนาพุทธมาตั้งแต่เริ่มต้นสร้างประเทศจนถึงทุกวันนี้ก็เป็นศาสนาพุทธ แต่ความรู้ในเรื่องของศาสนาพุทธ ความรู้ของพุทธศาสนา มันเสื่อมไปจากคน ผิดเพี้ยนไปหมด อาตมาจึงพยายามที่จะนำความรู้ธรรมะพระพุทธเจ้าฟื้นขึ้นมา ฟื้นขึ้นมาได้ แล้วอาตมาก็เชื่อว่า ความรู้อันนี้จะเจริญต่อไป อาตมามั่นใจนะว่าอาตมาตายลงเมื่อไหร่แล้วธรรมะนี้จะรุ่งเรืองขึ้น คนรุ่นที่อยู่ในอาตมาที่ไม่รู้จักอาตมาในอนาคต เขาจะเห็นเนื้อหาเขาจะส่งเสริม แต่คนรุ่นนี้ยังเกลียดตัวกินไข่ อาตมายังไม่ตาย ยังมีตัวยังเป็นตัวอยู่ก็เลยเอาแต่ไข่ เขาไม่เอาทั้งตัวทั้งไข่ เขาบอกว่าชาวอโศกรับได้แต่โพธิรักษ์รับไม่ได้ เขาเป็นอย่างนั้น อันนี้ความจริงนะ อะไรกันรอบโลกแล้วไม่รับพ่อ ลูกดีแต่พ่อมันไม่ดี แล้วพ่อมันเชื้อมันเสียหรืออย่างไร เชื้อของพ่อมันเชื้อเสียหรือยังไงแล้วลูกมันถึงดี พ่อจะเอาเชื้อเสียมาให้ลูกได้อย่างไร ลูกมันเชื้อดีแล้วพ่อดันเชื้อเสีย คุณเข้าใจผิดก็เข้าใจใหม่ให้ถูกนะ
สมณะหนักแน่นว่า พ่อเป็นน้ำกรด ลูกเป็นน้ำบริสุทธิ์
พ่อครูว่า…มันแรงไปหน่อย
มีโยมว่า เป็นหัวน้ำอุทัยทิพย์
พ่อครูว่า..พวกเราเข้าใจก็พูดถูกแต่คนไม่เข้าใจพยัญชนะและสภาวะก็ไม่รู้เรื่องหรอก คนที่มีสภาวะเข้าใจพยัญชนะก็ไม่มีปัญหา
คำว่าพยัญชนะกับสภาวะ เป็นสิ่งที่อาตมาเห็นความยิ่งใหญ่ของสภาวะกับพยัญชนะ คนทุกวันนี้อยู่แต่แค่เปลือกๆของพยัญชนะ เข้าไปถึงสภาวะไม่ได้เลย โดยเฉพาะชาวเทวนิยมได้แต่เปลือกของเทว พระเจ้า พระมหาเทวะคือพระเจ้าใหญ่ อยู่ที่ไหนไม่รู้ คำสอน คำสอนที่สอนเอาไว้ต้นๆก็ดี แต่เดี๋ยวนี้มันเพี้ยนไปจนกระทั่งกลายผิดหมดแล้ว ก็ไม่รู้ เหมือนกันเลยพุทธก็เหมือนกัน คำสอนของพระพุทธเจ้าเพี้ยนไปหมดก็ไม่รู้
อย่างของศาสนาเทวนิยม บอกว่ามีพระศาสดาหรือพระบุตร นำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาประกาศคราวหนึ่ง คนก็เชื่อแล้วใช้ไม่ได้
ศาสนาพุทธไม่ได้อธิบายแบบนี้ ความรู้นั้นเป็นของคน ไม่ใช่เป็นของพระเจ้าที่ไม่มีตัวตน พระพุทธเจ้านี่แหละเป็นเจ้าของความรู้เป็นธรรมะสามี รู้สูงสุดเลยในกระบวนการของมนุษย์และโลก พระพุทธเจ้ารู้สูงสุดก็เอามาประกาศ แล้วประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเป็นพระพุทธเจ้าได้ แต่ของศาสนาเทวนิยมไม่มีใครบังอาจจะไปเป็นพระเจ้าได้แม้แต่พระบุตร ไม่ได้ พระเจ้าเท่านั้นเป็นผู้สั่งการบงการพระบุตร พระเจ้าริบอิสระของมนุษย์ไปหมดแล้ว ให้พระบุตรมากหน่อย ความรู้ของเทวนิยมที่มีจึงไม่ใช่ความรู้ของคน เป็นความรู้ของอะไรก็ไม่รู้ แล้วมันจะเหมาะสมกับคนมั้ย ..ก็ไม่รู้ แต่ของพระพุทธเจ้านั้นเป็นความรู้ของคนเหมาะสมกับคนแล้วก็รู้กาลัญญุตาด้วย รู้ว่ายุคสมัยต้องเป็นไปตามของ สัปปุริสธรรม 7
-
ธัมมัญญูตา (รู้จักทุกองค์ประกอบ)
-
อัตถัญญูตา (รู้จักเนื้อหาเป้าหมาย)
-
อัตตัญญูตา (รู้จักตนเอง)
-
มัตตัญญูตา (รู้จักประมาณจัดสรรสัดส่วน)
-
กาลัญญูตา (รู้จักกาลสมัย)
-
ปริสัญญูตา (รู้จักหมู่กลุ่มบริษัทอื่น) .
-
ปุคคลปโรปรัญญูตา (รู้จักบุคคลอื่น)