620225_พ่อครูพบปะเจ้าหน้าที่กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้จาก สปป.ลาว
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1xit8qjZqLEiQd5XFpxp1JQIV1kSBeJ3-b-4bN0a_POE/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1ewJUdKb8sL05k4yIwgKXmfk4zRARZdhB
วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562 เจ้าหน้าที่กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้จาก สปป.ลาว จำนวน 25 ท่านได้เดินทางมาที่ บวร ราชธานีอโศกเพื่อศึกษาดูงานด้านสหกรณ์
ผู้แทนสปป.ลาว กล่าว…ขอน้อมนมัสการพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ มาถอดบทเรียนเกี่ยวกับสหกรณ์ในจ.อุบลฯ มาจากแขวงสาละวัน เซกอง จำปาสัก แต่ละแขวงมีตัวแทนมา 7-8 ท่าน
พ่อครูว่า…ก็ขอยินดีต้อนรับ อาตมาก็เป็นคนอีสาน เคยไปเมืองลาว 1 หรือ 2 ครั้งเท่านั้น อาตมาบวชตั้งแต่อายุ 36 และก็พัฒนาธรรมะพระพุทธเจ้า เผยแผ่ให้คนฟังคนเข้าใจ จนคนเข้าใจแล้วก็เห็นตาม ก็มาปฏิบัติตาม ปฏิบัติมารวมกันอยู่กันเป็นชุมชนเป็นหมู่บ้าน เช่นหมู่บ้านราชธานีอโศก มารวมกันอยู่ เป็นระบบสาธารณโภคี
สาธารณโภคีเป็นภาษาบาลีเป็นภาษาของพระพุทธเจ้า หมายความว่า รวมกันหมด ในสังคมนี้ หมู่บ้านนี้ เป็นอันเดียวกัน ร่วมกันกินร่วมกันใช้ร่วมกันมีไม่แบ่งแยกว่าเป็นของผู้ใด ทุกคนอยู่ในหมู่บ้านนี้ ทำมาหากินทำงานทำการได้เงินทองมาก็เอามาเข้ากองกลางหมด เสียภาษี 100% ทุกคนทุกคนเลย ทำงานทำการได้เงินได้ข้าวได้ของก็มารวมกันแล้วกินใช้ร่วมกัน
คอมมิวนิสต์เอง ทำได้ไม่ถึงขนาดนี้ อันนี้ของพระพุทธเจ้า คอมมูนของคอมมิวนิสต์ สู้ของพระพุทธเจ้าไม่ได้ แผ่นดินนี้เป็นของร่วมกันหมด หมู่บ้านราชฯ อยู่ร่วมกันในหมู่บ้านสร้างที่พักอาศัยกันไป จะมีอยู่มีกินอะไรก็ทำขึ้นมาสร้างขึ้นมา นี่ไม่ได้เอามาแสดงให้ดูนะ
อุดมสมบูรณ์ ปฏิบัติธรรมพระพุทธเจ้าลดกิเลสลดความเห็นแก่ตัว ความเห็นแก่ตัวลดลงก็จะเห็นแก่ส่วนรวมเห็นแก่ส่วนกลาง สร้างขึ้นมาก็เอามารวมกัน กินใช้อยู่สบาย อาตมาก็เห็นว่าอันนี้เป็นการบอกให้ฟังว่ามาถึงที่นี่แล้ว อยากจะให้รู้อันนี้แหละที่พูดไปสั้นๆนี้ไม่ต้องยาว ทำได้เพราะศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้าจึงทำได้ขนาดนี้
คอมมิวนิสต์ต้องการให้เกิด คอมมูน แต่อันนี้เลยไปอีก ทุกผู้ทุกคนรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เสียภาษี 100% ไม่ได้พูดเล่นแต่เป็นได้จริง มีอยู่หลายหมู่บ้านในประเทศไทย หมู่บ้านราชธานีอโศกเป็นหมู่บ้านที่กว้างใหญ่ที่สุด มีพื้นที่ 1344 ไร่ พื้นที่ทั้งหมดเรามาซื้อเองไม่เป็นของหลวง แต่ว่าเราซื้อแล้วก็เป็นของส่วนกลาง ของส่วนกลางมูลนิธิ นี่เป็นของกองทัพธรรมมูลนิธิ จดทะเบียนเป็นนิติรัฐได้ตามกฎหมาย ก็เป็นของหลวงนั่นแหละ มูลนิธิก็เป็นของส่วนกลางประเทศส่วนรวมไม่ใช่ของส่วนตัว ไม่มีใครสามารถจะแบ่งเอาไปเป็นของตัวเองได้ ซื้อมาก็เอามารวมกันอยู่พัฒนากันไป และไม่มีผู้ใดจะเป็นเจ้าของได้ ที่ดินก็เป็นเจ้าของไม่ได้ แต่ว่าสามารถอาศัยที่ดินนี้อยู่ปลูกกินอาศัย มีชีวิตอยู่ในนี้เกิดแก่เจ็บตายอยู่ในนี้
พระพุทธเจ้านี่แหละสุดยอดของคอมมิวนิสต์ศึกษาให้ดี เรียนรู้ได้ยากทำได้ยากแต่ว่าสามารถเรียนรู้ได้ทำได้ อาตมาพาทำให้เกิดผลดีได้ แต่คนเข้าใจยังไม่ถึงเข้าใจยังไม่ได้ เราก็มีหน้าที่ประพฤติปฏิบัติให้เห็น ไม่ได้ทำเพื่ออวดเพื่ออ้างเพื่อโชว์ แต่ทำอย่างจริง เราเป็นเราก็สบายของเรา ไปจนตาย ชีวิตตามพระพุทธเจ้าสอน ไม่มีเงินไม่มีทอง หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านคนจน แต่ละคนอยู่ในนี้ไม่ได้ทำงานเพื่อหาเงินใส่กระเป๋าตัวเอง ได้มาก็เข้าศูนย์กลางบริหารกันไปเผยแพร่แจกจ่ายกันไป ไม่กักตุนไม่สะสมไว้ มีแต่สะพัดออกไปเป็นเศรษฐศาสตร์เป็นเศรษฐกิจ เยี่ยมยอดของโลก จะไม่เกิดการขัดข้องได้มาเราก็จ่ายไปไม่ใช่เอามากักเก็บเพื่อให้คนนั้นคนนี้รวย สะสมความรวยไม่ใช่ แต่ละคนจนเท่าๆกัน คนไหนเป็น 0 ได้ก็ดีที่สุด คนใดไม่มีเงินเลยได้สูงสุด คนไหนจะเก็บไว้บ้างก็แล้วแต่ไม่ถึงกับกดดันจนเกินไป ชีวิตก็อยู่สบายเป็นอิสระเสรีภาพ คนไหนจะเข้ามาอยู่ที่นี่ก็เข้ามา เข้ามาอยู่ตามหลักเกณฑ์วัฒนธรรมอย่างนี้อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ออกไปเอง ไม่ได้บังคับ ใครจะอยู่ไปตลอดตายก็มีเมรุให้เผา
เกิดแก่เจ็บตายอยู่ที่นี่ได้สบาย อยู่นี่ เด็กน้อยวิ่งเล่นไปทั่วได้เลย เวลากินก็กินร่วมกันส่วนกลาง ครัวมีครัวเดียว เด็กน้อยจะกินก็กินเล่นก็เล่น มีโรงเรียนให้เรียนก็เรียนไป เรียนก็ดีอยู่ก็ดี ทำการทำงานก็ดี ร่วมกันหมดทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่เป็นองค์รวมไม่แยกกัน ชีวิตปกติ ทำงานทำการอยู่กินช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ร่วมกันไปหมด สบาย
ขอสำคัญต้องเข้าใจ เข้าใจแล้วแต่ละคนๆ ก็ต้องพยายามเป็นคนดี อย่าขี้เกียจ อย่าเห็นแก่ตัว ช่วยกันทำช่วยกันเก็บรักษา ช่วยกันสร้างสรรสะพัดกระจายแบ่งแจก ไม่สะสม ไม่ต้องเอารวย อาตมาเขียนหนังสือ คนจนที่มีแบบ เคยได้ยินพระเจ้าแผ่นดินเมืองไทยรัชกาลที่ 9 ที่เพิ่งสวรรคตไป ท่านได้ตรัสไว้ ท่านบอกว่าต้องบริหารแบบคนจนเคยได้ยินไหม ขาดทุนของเรา เราต้องมีชีวิตเป็นผู้ที่ขาดทุนอย่าไปเป็นผู้มีกำไร ต้องเป็นผู้ขาดทุน ขาดทุนของเรานี่แหละคือกำไรของเรา พระเจ้าแผ่นดินไทยเป็นพระโพธิสัตว์เลยมีความรู้เช่นนี้ แต่คนทั่วไปไม่เข้าใจเพราะมันเป็นโลกุตรธรรม เป็นธรรมะชั้นอาริยธรรม
ทางด้านลาวมีแนวคิดไปทางคอมมูน จะเข้าใจธรรมะของพระพุทธเจ้า เข้าใจจุดมุ่งหมายของความเป็นสังคมมนุษยชาติอันเดียวกัน แบบเดียวกัน สื่อกันตรงกัน ต้องศึกษาดีๆ
อาตมากับหมู่คนไทย เรียกตัวเองว่าชาวอโศก ได้เอาทฤษฎี เอาสูตรตามพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติจึงได้แบบนี้ คนทั่วไปทั้งโลกเข้าใจศาสนาพุทธผิดไม่ได้เข้าใจแบบนี้ ไปเข้าใจกลายเป็นความเห็นแก่ตัวเห็นแก่เงินทองลาภยศสรรเสริญ มันไม่มาร่วมกัน แต่มันมักมากมักหลาย มันไม่มักน้อยมันไม่อัปปิจฉะ ไม่สันโดษ มันมีแต่อยากได้อยากมีแย่งชิงกันเอา ตัวเองไม่หมดความเห็นแก่ตัวความอยากได้อยากมี
ธรรมะพระพุทธเจ้านี้ ไม่ต้องการอยากได้อยากมี แต่สร้างสรรขยันหมั่นเพียร เอามาเผื่อแผ่กัน ไม่ใช่ว่าอยากได้อยากมีอยากเป็นแต่ก็ขี้เกียจขี้คร้านไม่ทำงานทำการ ไม่ใช่นะ แต่มีปัญญารู้ว่า ยิ่งไม่มีตัวตนยิ่งไม่มีอัตตายิ่งไม่มีความเห็นแก่ตัว ก็จะยิ่งขยันสร้างสรร อะไรควรสร้างอะไรควรทำ อะไรไม่ควรสร้างอะไรไม่ควรทำเพราะเป็นสิ่งที่ไม่ดีเป็นอบายมุขเป็นนรกเป็นความเดือดร้อน ก็ไม่ควรจะทำจะสร้าง แต่ทำสิ่งที่ควรสร้างควรทำ สิ่งที่เป็นสิ่งอาศัยใช้สอยเป็นประโยชน์คุณค่าก็สร้างขึ้นมาแจกจ่ายกินกันใช้กัน มันสบายจริง เป็นสังคมที่สบายอีหลี
ใครอยากรู้ให้ดีๆอยากดูชัดๆก็มาอยู่ที่นี่สัก 2 เดือนสัก 1 ปีก็จะรู้ชัด คนไทยประเทศไทยยังไม่เคยรู้เลยยังไม่ค่อยเข้าใจเลยว่าพวกนี้ทำอะไรประหลาดๆ พวกอโศกนี้ อาตมาว่าคนลาวจะเข้าใจได้ง่ายกว่า จะเข้าใจอโศกได้ง่ายกว่า จะมาพักมาเรียนรู้ก็เชิญมายินดีต้อนรับ
อาตมาเผยแพร่ไปทางโทรทัศน์ก็เข้าใจดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าหากพุทธศาสนาหมู่ใหญ่ ถ้าเขาเห็นตามอาตมารับรองเลย ประเทศไทยจะเป็น คอมมูน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
คำว่า คอมมูน เป็นภาษาอังกฤษ สมัยนี้ สมัยพระพุทธเจ้าไม่มีหรอกครั้งนี้ แต่เป็นคำว่าสาธารณะรวมกันเป็นส่วนกลางส่วนเดียวส่วนใหญ่ โภคี คือการกินการใช้ สาธารณโภคี
จริงๆแล้ว เศรษฐศาสตร์เศรษฐกิจของโลกของมนุษย์ มันต้องการอยู่ร่วมกันกินใช้ร่วมกันแบ่งแจกกัน แต่กิเลสของแต่ละคนมันเห็นแก่ตัว โลภเอาแย่งชิงเอามาเป็นของตัวขี้เหนียวไม่ให้ใคร รวยเท่าไหร่ก็มีแต่รวยเพิ่มขึ้นด้วยเรื่อยๆ ไม่ยอม ขี้ไม่ให้หมากิน ขี้เหนียวขนาด มันก็อยู่ยาก ถ้ามีแนวคิดแบบนั้นมันก็ยาก แต่สังคมที่ไม่ต้องขี้เหนียวสร้างสรรขยันหมั่นเพียร
ชีวิตนี้ กินก็พออยู่ ชีวิตก็อยู่ได้มีเรี่ยวมีแรงทำงานทำการไป ถึงเวลากลางคืนก็หลับนอนตื่นเช้าก็ทำงานไป ไม่เมื่อยก็เพียร เมื่อยก็พัก รู้จักพักรู้จักเพียร อัปปัฏติฐัง อนายูหัง
อาตมาจะอยู่ให้อายุเกิน 100 ไป มาดูอาตมาบ้างนะ จะอายุเกินร้อยไหม ตอนนี้อายุ 85 กำลังจะ 86 ยังหนุ่มอยู่นะ
เปิดโอกาสให้ซักถาม…
_พวกข้าน้อยดีใจ หากอยู่ได้อย่างอาจารย์ว่า ก็ดี อาจารย์อายุป่านนี้แล้ว มีอะไรทำให้อายุยืนต่อ ทำให้เกิดความม่วนซื่น
พ่อครูว่า…อันที่พูดมาว่า ทำอย่างไร ทำจิตให้ม่วยซื่นก็ใช่ จิตใจคนเราถ้าหากโง่ก็จะมีเศร้ามีโศก คือคนโง่ คนฉลาดจะไปเศร้าซึมทำไม ก็ชื่นอกชื่นใจสบายเบิกบานตื่น ใจเป็นของใคร ใจเป็นของเราเอง เราก็ทำใจเราเองอย่าไปโง่ ไปโง่ให้ใจมันเศร้ามันซึม ทำเอง ไม่มีใครมาทำให้เรา ใครก็ทำให้เราไม่ได้ เราต้องทำของเราเอง เป็นใจที่ชื่นบานไป
มันจะเป็นอย่างนี้ได้ก็เพราะว่า กิเลสมันต้องลดลง นี่แหละคือประเด็นสำคัญ กิเลสต้องลดกิเลสทั้งหมดกิเลสต้องไม่มีลงไป มันก็จะเป็นอย่างนั้นได้ตลอดกาล สำคัญคือก็ต้องมาเรียนรู้อ่านกิเลส ลดกิเลสให้ได้ ตามทฤษฎีของพระพุทธเจ้า ถ้าเรียนถูกลดกิเลสได้กิเลสก็ลดลงไปจริงๆ คนอยู่ในหมู่บ้านนี้กิเลสไม่ลดอยู่ไม่ได้หรอก ก็ไม่มีอะไรมาบำเรอใจกิเลส ต่างคนก็ต่างอยู่อย่างขยันหมั่นเพียรไป ช่วยกันสร้างช่วยกันทำช่วยกันกินกันใช้แล้วแบ่งไป ถึงเวลาอายุหมดตายไปก็เผาช่วยกัน เป็นพี่เป็นน้องกันหมด
_คนถามว่า…ก่อนจะมากินอยู่ร่วมกัน การเผยแพร่ ทำความเข้าใจกับหลายภาคส่วนเป็นหมู่บ้านหนึ่งเดียวได้ตั้งเป็นสหกรณ์ได้ กลไกของการจัดตั้งปฏิวัติในระยะเริ่มต้นเป็นอย่างไร ใช้เวลากี่ปี มีกลไกอย่างไร
พ่อครูว่า…อาตมาว่า มันไม่ได้ใช้เวลาตั้งต้นนะ อาตมาเร่ิมต้นมาบวช อธิบายธรรมะอยู่ 4 – 5 ปีก็เกิดหมู่มารวมกัน อาตมาบวชปี 2513 ก็ยังไม่มีหมู่บ้านไม่มีชุมชนไม่มีคนมารวมกันอย่างนี้ ก็ได้แต่เทศน์บรรยายธรรมะพระพุทธเจ้าไป จนปี 2516 ก็มีที่ดินของพระอยู่ที่แดนอโศก ก็เลยไปปักหลักร่วมกัน มีฆราวาสญาติโยม เริ่มมาร่วมกัน พากันอยู่ในนั้นถือว่าเป็นวัด แล้วญาติโยมก็มาหาซื้อที่ ปลูกบ้าน เริ่มต้นแต่ปี 2516 ตอนนั้น ยังไม่ได้เป็นที่ส่วนกลางของเราทีเดียว ต่อมาเราไปจับจองป่าช้าศาลีอโศก ศีรษะอโศก ขึ้นมา ซื้อที่เพิ่มขึ้นคนก็มาร่วมกันสร้างหมู่บ้าน ก็เลยเกิดเป็นอย่างนี้ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่พศ. 2516 พศ 2519 ตั้งแต่ปีพศ. 2517 18 ก็มีแล้ว พระมาอยู่ที่ป่าช้าคนสนใจก็มาติดตามอยู่ร่วมกันมาสร้างบ้านอะไรขึ้นมา ซื้อที่ทางขึ้นมาก็เลยเกิดเป็นชุมชนมาตั้งแต่บัดนั้น เกิดมาเรื่อยๆ
ก่อนอื่นก็มีของฆราวาส มีที่ของตนเองก็เอามามอบให้ทำเป็นชุมชน บ้านวัดโรงเรียน อยู่ร่วมกัน ผสมผสาน และคนเข้ามาที่นี่จะถามว่าวัดอยู่ที่ไหนไม่เห็นเขตวัดเลย บ้านอยู่ที่ไหน โรงเรียนอยู่ที่ไหน โรงเรียนก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน แต่ก็เป็นการเรียนรู้ร่วมกัน อาตมาเข้าใจว่าการเรียนที่เขาเรียนกันอยู่ในโรงเรียน เป็นเรื่องที่ผิด มันเป็นการเรียนที่แยกส่วนออกเอาเด็กน้อยไปใส่ห้องใส่กล่องไว้แล้วก็เรียน เด็กน้อยไม่รู้เลยว่าสังคมเป็นอย่างไร อยู่อย่างไรปฏิบัติกับคนที่อยู่เป็นธรรมชาติอย่างไรเขาไม่รู้ เช้าก็ไปเรียน ตอนเย็นก็กลับบ้าน อาบน้ำกินข้าวทำการบ้าน เช้าก็ไปเรียน จนจบปริญญาเอก ก็ได้แต่ไปเรียนในโรงเรียน อาตมาก็เห็นว่าการเรียนแบบนี้ใช้ไม่ได้ ก็ให้มาเรียนแบบมีชีวิตธรรมดา เด็กน้อยก็อยู่ได้ปกติ ไม่เห็นต้องไปเข้าห้องมีโต๊ะเรียน เวลาจะเรียนต้องมีกระดาน ครูก็เขียนและสอนอย่างเป็นวิชาการ เราก็มีเรียนวิชาการเป็นครั้งคราว นอกนั้นก็อยู่ร่วมในชีวิตประจำวัน ช่วยกันทำช่วยกันสร้างตั้งแต่ผู้ใหญ่จนถึงนักเรียนคนเฒ่าคนแก่ก็ชีวิตร่วมกันไปตลอดไม่ได้แยกกันเลย รู้หมด ผู้ใหญ่รู้อย่างไรเด็กน้อยก็รู้กันหมด แต่นี่เขาไม่รู้เลยเขาไปเล่นอยู่ในห้องในกล่อง ไม่รู้ในหมู่บ้านว่ามีอะไรเป็นอย่างไร แต่ละวันพี่น้องอยู่อย่างไรก็ไม่รู้เพราะไปเรียนอยู่ จบมาก็ทำการบ้านไม่รู้เลยว่าหมู่บ้านพี่น้องเราทำอะไรเป็นอย่างไร แต่เอาตำราที่เรียนในห้องเอามายัดใส่หัวซึ่งไม่ใช่ทาง เอาอันที่ไม่ใช่ทางมาใส่มันก็เลยปนเปกันและเสียหาย มันไม่ใช่ชีวิตจริง เป็นชีวิตที่ปนเปเละเทะ หัวเป็นมังกุท้ายมังกร
ต้องมาทำอย่างที่ว่าชีวิตก็คือชีวิต ชีวิตก่อสร้างก็ทำของจริงไปจนตายไม่ใช่ของปลอมของแปลก ก็รู้หมดแล้วทำให้ถูกต้องมันก็สบายทุกอย่างก็ไม่แปลก ทุกอย่างก็เข้าร่องเข้ารอย
อาตมาได้ความรู้นี้มาจากของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่อาตมาเก่ง แต่อาตมาเอาของพระพุทธเจ้ามาศึกษาและก็เอามาอธิบายเอามาสอนเอามาบอกกัน ผู้ที่เข้าใจก็เลยมาอยู่กันรวมกันเป็นอิสระ มีคนมารวมกันอยู่ในนี้เป็นอิสระ มาเองอยู่ได้ก็อยู่อยู่ไม่ได้ก็ออกไป ผู้ที่อยู่ได้ก็อยู่กันอย่างเป็นหลักเป็นฐานเป็นหลักแหล่งอยู่ไป ร่วมกันสร้าง
ราชธานีอโศกสร้างปีพ.ศ. 2517 ครบ 25 ปีๆนี้ ตั้งแต่แรกน้ำท่วมพื้นที่มีแต่ป่าบุ่งป่าทาม เป็นแหล่งที่คนเขาไม่มาอยู่ไม่เอาแล้วเพราะน้ำมันท่วมทุกปี มันเป็นที่เสียแล้วเราก็มาอยู่มาตกแต่งมาพัฒนาให้ดีขึ้น ก็เลยเกิดเป็นสถานที่อุดมสมบูรณ์ขึ้น ได้ไปดูกันมาแล้วใช่ไหม ช่วยกันสร้างช่วยกันทำนี่มัน อุดมสมบูรณ์ แต่ละคนก็กินแค่อิ่มท้องเท่านั้น
ก็ยินดีที่มีพวกเรามาเยี่ยมเยียน ก็ยินดีมาก อยากมาอีกก็มาก็ได้ มาดูมาพักมาผ่อนมาอยู่มาอาศัยได้ ทุกๆคน