620329_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ประชาธิปัตยายตนะส่งไม้ต่อให้พลเอกประยุทธ์
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่…https://docs.google.com/document/d/1DytrpEUAWq3HzfiyInrw8g4N0u06SGsojfePym4iyMA/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1Yy225hrSkozskWLHhXg6lpoXoIYL4LuB
สมณะฟ้าไทว่า…วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2562 ที่บวรราชธานีอโศก ใกล้จะถึงงานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธในวันที่ 5 – 11 เมษายน 2562 ตอนนี้เรื่องที่กำลังดังมากคือเรื่องที่เขากำลังล่ารายชื่อถอดถอนกกต. ซึ่งตัวเลขตอนนี้ก็ยังไม่ลงตัว กกตเขาก็พยายามเต็มที่ การจะทำให้ตัวเลขเท่ากันนั้นง่ายมากแก้ไขตัวเลขง่ายมากแต่เขาไม่ทำเพราะมันไม่เป็นความจริง
พ่อครูว่า…พฤติกรรมสภาวะจริงของคนมันยังไม่ลงตัว จะมาจับให้เท่ากันหรือลงตัวกันสัดส่วนตรงกันเป๊ะซินโครไนซ์กันเลยไม่ได้ เขาก็ต้องจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบให้มันได้ดีที่สุด ซึ่งจะให้มันไม่มีผิดเลย คนที่ทำพวกนี้ ลงคะแนนเสียงตัวเลขที่ยังไม่ปิดเลยเป็นไปไม่ได้ด้วยอาตมาบอกให้ ไม่ได้ด้วย แต่เขาจะต้องทำให้ดีที่สุด ซึ่งน่าเห็นใจ กกต.เขา เพราะเหลี่ยมคูนักการเมืองเขามีความซับซ้อนมากน่าเห็นใจจริงๆ
สมณะฟ้าไทว่า…แล้วก็ใช้วาทกรรมรุนแรงว่ามีการโกง จริงหรือไม่จริงไม่รู้ก็พูดกันไป
พ่อครูว่า…ตอนนี้เหมือนหมาเห่า ไม่กินไม่นอนเลย ดูแรงจัด มันเห่าหนักเห่าแรงไม่หยุดหย่อนเพราะว่ากำลังจะตายก็เลยดิ้นแรง จริงๆแล้วไม่เท่าไหร่หรอก เราต้องเข้าใจสถานะที่แท้จริงของสังคมไทย ที่มีความสงบนิ่ง เห่าแรงๆดังๆขนาดนี้ หากคนไทยไม่นิ่งไปตื่นตูมตามเขาป่านนี้ไม่นิ่งไม่สงบหรอก ความจริงแล้วมันสงบมากเลยจะไปตะโกนอะไรอย่างไรคอแตกป่าว
สมณะฟ้าไทว่า…เขาทุกข์ก็เลยระบายอารมณ์ออกมาแรง
พ่อครูว่า…มันไม่รู้ความจริงแพ้แล้วไม่รู้จักแพ้
สมณะฟ้าไทว่า…วันนี้นายกฯ ก็มีสาสน์ออกมาว่า
นายกฯออกสาร ชี้พรรคการเมืองรวมกลุ่มทำความดีเพื่อชาติ ขออย่ามองรวมเสียงตั้งรัฐบาลมุ่งต่อสู้ทางการเมือง แนะคนไทยรับสารอย่างระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อคำบิดเบือน หวั่นดึงประเทศไปสู่อันตรายเดิมๆ
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกสารนายกรัฐมนตรี ความว่า การทำงานของรัฐบาลและคสช. เหล่าทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานภาครัฐในห้วงที่ผ่านมาได้ใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะสร้างความเป็นปึกแผ่นของบ้านเมือง สร้างความรัก ความศรัทธาต่อสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้เพื่อประเทศชาติและประชาชนอันเป็นที่รักของคนไทยทุกคน
ข่าวสารการรวมจัดตั้งรัฐบาลของพรรคต่างๆ ที่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นกังวลอยู่เวลานี้ ไม่อยากให้มองว่าเป็นการมุ่งเน้นการต่อสู้ทางการเมืองอย่างเดียว หากแต่เป็นการรวมกลุ่มกันเพื่อทำความดีให้กับชาติบ้านเมืองและประชาชน และขจัดคนไม่ดีหรือคนที่ทำให้บ้านเมืองเสียหายออกไป สื่อต่างๆขอให้นำเสนอข่าวอย่างพอเหมาะพอควร ช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับบ้านเมืองของเรา สร้างความสงบสุขให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ทั้งในและต่างประเทศ ปัญหาความขัดแย้งการขาดความรักความสามัคคีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายล้วนแล้วแต่เป็นอุปสรรคที่สำคัญของความสงบสุขเรียบร้อย การพัฒนา และการเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ ดังนั้นช่วงเวลานี้จึงขอให้ประชาชนทุกคนได้ใช้ความระมัดระวังในการรับรู้ข่าวสารใดๆ ทั้งจากสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ โซเชียลมีเดีย โดยขอให้พิจารณาอย่างมีเหตุมีผล ประกอบข้อเท็จจริงทั้งในปัจจุบันและในอดีต ขออย่าได้หลงเชื่อคำบิดเบือนต่างๆ อันจะนำอันจะทำให้ประเทศกลับไปสู่อันตรายเดิมๆ ที่เราได้เคยร่วมกันฝ่าฟันมาแล้ว
การเป็นประชาธิปไตยไม่ใช่ให้ความสำคัญแต่เพียงเสียงมากเสียงน้อย ใครเป็นฝ่ายค้าน ใครเป็นรัฐบาล แต่ต้องให้ความสำคัญกับสิ่งที่พี่น้องประชาชนจะได้รับ อันได้แก่ได้รัฐบาลและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มีธรรมาภิบาลหรือไม่ ประชาชนทุกฝ่ายไม่ว่าจะเลือกใครได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงหรือไม่ ประเทศชาติได้รับการสร้างความเข้มแข็งและการเพิ่มขีดความสามารถหรือไม่ นี่คือสิ่งสำคัญที่รัฐบาลนี้ยึดถือเป็นหลักมาโดยตลอด
การพัฒนาด้านเศรษฐกิจจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากคนหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชนและภาคเอกชน รวมถึงทุกพรรคการเมืองนักการเมืองทุกคน เราต้องยอมรับว่าวิธีการเดิมๆ ตั้งแต่ก่อนที่รัฐบาลนี้เข้ามาไม่สามารถแก้ไขปัญหาในเชิงโครงสร้างหรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอะไรได้เลย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีวิธีการใหม่ๆ ที่ทันต่อเทคโนโลยี มีการบูรณาการอย่างแท้จริง โดยเราจะต้องสร้าง สนับสนุน รณรงค์ สร้างการเรียนรู้ ช่วยกันปรับปรุงพัฒนาทุกเรื่องให้ครบวงจร สร้างความเข้มแข็งให้เกิดความยั่งยืน มิใช่แก้ปัญหาที่ปลายทางอย่างเดียวภายใต้งบประมาณที่มีอยู่จำกัด สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ดีๆ ที่เป็นอนาคตและหลักชัยของประเทศ ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลควรต้องสานต่อขยายหรือปรับปรุงให้ดียิ่งๆขึ้นไป
โดยสรุปแล้วความสงบสุขของบ้านเมือง ความรัก ความสามัคคีของพี่น้องประชาชนคนไทยเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำพาประเทศก้าวต่อไป อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และมีเสถียรภาพ
พ่อครูว่า…ขอโอภาปราศรัยกับ sms
_สตาร์แอร์ ทุ่งคอก · ดีใจมากครับ ผมคิดเรื่องกัญชา แบบเดียว ทางเดียวกับพ่อท่านครับ
พ่อครูว่า…อย่าเอามายุ่งกันเลยเรื่องกัญชา เดี๋ยวมันจะเอามาใส่น้ำก๋วยเตี๋ยวกัน ใส่อะไรอีกสารพัด ก็พูดให้ฟังว่าอย่างนี้มันง่าย ให้เขาไปใช้ทางการแพทย์อย่างเดียวก็พอแล้ว
สมสมัย นันตะโภค · กราบนมัสการค่ะ การเมืองวุ่น ก็พยายามทำใจไม่ให้วุ่นตาม ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็จะล้างกิเลสตัวเองต่อไปค่ะ
พ่อครูว่า…ดี จงถือว่าอะไรมันวุ่นวายมากไปก็วางไว้ก่อนอะไรมันพอจะเป็นผัสสะเป็นปัจจัยให้ลดกิเลสก็พิจารณาทำ รอพิจารณามันเกิดความชอบความชังอะไรเรียนรู้ธรรมะเรามีเหตุปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราจะใช้ในการปฏิบัติธรรม ไม่ใช่ไปนั่งหลับตาแล้วก็ไม่มีสัมผัสไม่ใช่ ศาสนาพุทธมีเหตุปัจจัยสัมผัสอย่างนี้แหละมันมีประโยชน์
_3867กราบอนุโมทนาสณ.สม.กับธ.พ่อครู พาอาริยะชนร้อยพันความเห็นต่างฯอยู่รวมกันได้ด้วยผลประโยชน์ลงตัวที่ประโยชน์สุขโดยชอบธรรมต่อส่วนรวมสูงสุดเหนือผลปย.อันมิชอบธรรมทั้งหลายฯสาธุ!
_Somchai Ph19: นมัสการ.ท่านพ่อครูโพธิรักขิโต.ขอกราบเรียนถามท่านพ่อครูว่าในความเห็นของท่านพ่อครูแล้ว.รัฐบาลชุดนี้มีความโปร่งใสจรีงๆหรือป่าว? ครับ!!!ในความเห็นพ่อครูแล้ว รัฐบาลชุดนี้มีความโปร่งใสจริงหรือเปล่าครับ
พ่อครูว่า…ความโปร่งใสขนาดนี้ตามความเห็นอาตมาใช้ได้ดีแล้ว รัฐบาลชุดนี้จะไม่มีคำท้วงติงตอนนี้ในเรื่องอะไรนอกจากพวกตะโกนโหวกเหวก ปากหอยปากปูที่ร้องอยู่เท่านั้น มันไม่มีอะไรมาก แน่นอนคุณจะเอาสะอาดร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ อโศกยังทำไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นในสังคมส่วนใหญ่ข้างนอกทั้งประเทศขนาดนี้นี่ คุณให้คะแนนเต็มเถอะ คะแนนเต็ม 10 คุณให้ 11 ได้เลย ไม่อย่างนั้นแล้วน่าดูเลย เละเทะหนักหนา เราต้องรู้สถานะความเป็นจริงของมนุษยชาติ คนมีกิเลสมีเยอะ เราจะเอาความสะอาดอย่างไร ความโปร่งใสคุณต้องการเหมือนเพชรที่ไม่มีอะไรปนเปื้อนเลยมันเกินความเป็นจริงที่เป็นไปได้
_เปิ้ล บ้านไผ่ : กราบนมัสการพ่อครู สมณะ สิกขมาตุ ที่เคารพอย่างสูง ดิฉันหารายได้ด้วยการเปิดหมวกร้องเพลง โดยพยายามร้องเพลงที่มีสาระ เช่น ค่าน้ำนม ครูบนดอย แต่ก็มีเพลงวงสุนทราภรณ์ด้วย เกี่ยวกับรักๆ ใคร่ๆ อยากทราบจะบาปมากไหมคะ
พ่อครูว่า…คุณก็เป็นพวกสัตว์นรกปหานะอยู่อย่างนั้นแหละ มันไม่ใช่อาชีพที่น่าประเทืองอะไร พูดไปมากไม่ดี เพื่อนอาตมาเป็นนักร้องมีมาก การร้องเพลงมีหลายระดับ
ระดับ ลามก ราคะ สาระ ธรรมะ โลกุตระ อาตมาแบ่งไว้ 5 ระดับ
ระดับราคะมีมากสุด ระดับสาระมีน้อย ส่วนเป็นธรรมะนะ มีธรรมะระดับโลกีย์ก็พอมีบ้าง สวนธรรมะโลกุตรนั้น อาตมาว่ามีอาตมานี่แหละแต่งโลกุตระเป็นเพลง การร้องก็ต้องมีบ้าง แต่ผู้ร้องต้องมีปัญญาเพลงจะต้องเป็นเพลงที่มีปัญญามีประโยชน์คุณค่า ก็มีเพลงสาระของแต่ละคน แต่เขาเรียกว่าเพลงเพื่อชีวิต เพลงสาระก็มีผสมผสานบ้าง เป็นศิลปะอันเป็นมงคลอันอุดมที่จะต้องมีในโลกฆราวาสจะต้องใช้กัน แต่สำหรับภิกษุสมณะนั้น ขณะนี้อาตมากำลังตรวจสอบเรื่องการสวดมนต์ที่เขาใส่ทำนองและลากเสียงยาวนั้นผิดอาบัติหมด ส่วนฆราวาสเขาไม่เข้าใจกันแล้วก็ว่ากันไปมันเสื่อมจากความเข้าใจที่ถูกต้องไปแล้ว
_ลูกขอหลวงปู่เป็นดาบในใจดาบในวิญญาณของลูก …ดาบในวิญญาณของโลกถึงแม้ลูกไม่ขอหลวงปู่ผู้ได้แสดงตัวตนแห่งธรรมมาตลอดก็เป็นดาบในใจลูกอยู่แล้ว แต่ลูกไม่ได้ใช้ดาบจนเต็มประสิทธิภาพของดาบ เพราะลูกใช้ดาบไม่เป็น ลูกยังไม่รู้ความวิเศษของดาบอย่างสุดลึก ณ ขณะจิตนี้หลวงปู่คือดาบเหล็กเพชรเขียวมรกตทอแสงอ่อนโยนกระจ่างเจิดจ้าคมดาบบางเบาดั่งอากาศ เบาบางดังสายลมหนักหน่วงดั่งขุนเขา
ขอดาบวิเศษนี้มาสถิตในหฤทัยของลูก วิญญาณของลูกจะเอิบอาบภายใต้แสงดาบนี้แบบนี้คือบุญญาวุธของลูก มารร้ายตนไหนก็ไม่สามารถแอบเข้ามาในความคิดของลูกได้
น้อมขอธรรมะในทุกดวงวิญญาณของหลวงปู่มาสถิตเป็นดาบสุดวิเศษทอแสงเจิดจ้าในหฤทัยของลูกผู้โดดเดี่ยวกลางมรสุมทะเลมายา ข้าน้อยเพศชายชื่อพ้นภัย พันธ์ไชยวงค์ ผู้เคยทั้งรักทั้งเกลียดหลวงปู่ตามประสาคนพาล กราบแทบละออองบาทหลวงปู่ขออภัยในความขลาดเขลาของข้าน้อย เรียบเรียงสมมุติถ้อยวลี
_บทกวีสมมุติหมายหลายหลากมากสมมุติ จากความคิดเห็นมนุษย์สมมุติหมาย
ติรัจฉานขานชื่อคือสมมุติ
มีบทความที่อาตมาเห็นว่าควรอ่านให้ฟัง (พ่อครูไอ ตัดออกด้วย)
พ่อครูว่า..อาตมาว่าพวกเราสบายนะ สุขสำราญเบิกบานใจจริงๆด้วย ซึ่งเป็นตัวอย่างกลุ่มหมู่ชุมชนมนุษย์ ที่เกิดจากการประพฤติปฏิบัติธรรมะเพื่อประชาแล้ว เราได้มรรคผล จนเป็นคนที่มีการขัดเกลา มีวรรณะ 9 มีสาราณียธรรม 6 รวมกันอยู่ด้วย เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ลาภธัมมิกา ศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา
พุทธพจน์ 7 สาราณียะ ปิยกรณะ คุรุกรณะ สังคหะ อวิวาทะ สามัคคคียะ เอกีภาวะ
กินใช้ร่วมกันเป็นเศรษฐศาสตร์ระดับสาธารณโภคีสุดยอดจริงๆ ปฏิบัติแล้วสำเร็จผล เกิดเป็นผลจริงเป็นมนุษย์ตัวตนสังคมร่วมกันเป็นหมู่ชุมชน ของชาวอโศก กระจัดกระจายอยู่ในสังคมประเทศชาติ สรุปแล้วประเทศไทยมีคุณธรรมของศาสนาพุทธ ยังอยู่ในเมืองไทยที่เป็นโลกุตรธรรมด้วย เป็นความสุขสงบ ดีทั้งในด้านเศรษฐศาสตร์ ทางด้านการเมือง ทางด้านสังคมที่เป็นหลักๆ
เห็นคนไทยชาวอโศก หรือที่ไม่มารวมกับชาวอโศก แต่เขาก็ใช้ปฏิบัติกันก็มีบ้างแต่ไม่แสดงตัว เพราะคนเรามันมีอัตตามานะก็ไม่มีปัญหาอะไร รับเอาธรรมะที่เป็นความหมายที่เป็นสาระแก่นสารที่พระพุทธเจ้าท่านสอนให้ถูกต้อง แล้วเอาไปปฏิบัติ มีในเมืองไทยจริง ประเทศไทยจึงมีเศรษฐศาสตร์แบบไทย สังคมศาสตร์แบบไทย การเมืองก็แบบไทย
แบบไทย คำนี้ เขาพูดเชิงประชดนะ แต่อาตมาว่าเป็นคำวิเศษ เพราะแบบไทยๆนี้เป็นสุดยอดของมนุษยชาติที่ทำได้ ไม่ได้เพ้อเจ้อนะ ไม่ได้หลงใหล แต่ไม่ใช่ไม่สนุก ที่มันดังอยู่นี้เป็นเสียงหมาเห่า มันต้องมีเป็นไปตามธรรมชาติ หรือประชาธิปไตยต้องมีฝ่ายค้านเป็นธรรมดาพวกนี้เป็นฝ่ายค้าน แต่มันค้านอย่างหมาเห่าไม่ได้ค้านอย่างผู้ดีที่ใช้หลักการ ต้องเข้าใจธรรมชาติของเขาให้ได้ แล้วไปห้ามเขาก็ไม่ได้ เพราะฐานะของเขาตัวตนเขามีพื้นฐาน
คอลัมน์คนปลายซอย ของเปลว สีเงิน
กระสันของ ‘รัฐบาลแดนไกล’ 28 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 00:01 น.
ถ้าไม่บอกว่า….
นี่คือการประกาศจองคิว “ตั้งรัฐบาล” ของ 6 คณะพรรคระบอบทักษิณละก็
เมื่อเช้าวาน (27 มี.ค.62) ผมต้องเข้าใจผิดแน่ๆ
คือ ตื่นขึ้นมาเปิดโทรทัศน์ปุ๊บ เห็นใครต่อใคร ชุดขาว-ชุดดำ แต่ละคนดูซึมๆ เซาๆ ออกมานั่งเรียงแถวบ้าง ยืนเป็นวอลเปเปอร์บ้าง
ใจผมงี้…หายแวบ!
จิตประหวัดไปว่า “ใครซักคน” ในแดนใกล้-แดนไกลอันเป็นที่รักของบุคคลเหล่านี้ มีอันเป็นไปฉับพลันกระมัง?
แต่ละคนในจอ จึงดู เครียด-ซีด-ใจสั่น ไม่แฮปปี้ ครม.เอาซะเลย
แถมส่อแววกังวลลึกๆ ด้วยซ้ำ
เป็นการแถลงที่ต้องบอกว่า บรรยากาศอึดอัด-ขัดข้อง ทั้งคนแถลงและคนฟัง
ถึงแม้คำแถลงแต่ละคน จะทระนงโหลยโท่ยก็เหอะ
แต่ “ล่อกแล่ก” ยังไงไม่รู้?
เป็นเพราะ “นัดแล้วไม่มา” หรืออย่างไรไม่ทราบ การแถลงจึงเซ็งเป็ด
ประกาศเป็น “7 พรรค 255 เสียง” เป็น “เสียงข้างมาก” จองสิทธิ์ตั้งรัฐบาล
แต่เอาเข้าจริง มาแถลงข่าว ลงสัตยาบันกันเพียง 6 พรรค 249 เสียงเท่านั้น
“เพื่อไทย” เป็นแกน
ตามด้วย อนาคตใหม่ เสรีรวมไทย ประชาชาติ อะไรอีกก็ลืมไปแล้ว
แต่ทั้งหมด คือพรรคเครือข่ายระบอบทักษิณ ที่แตกแบงก์พันออกไป กลับมารวมกัน
ที่บอก “นัดแล้ว” อีก ๑ พรรค แต่ “(ยัง)ไม่มา” คือ
พรรคเศรษฐกิจใหม่ ของ “คุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์”
พรรคคุณมิ่งขวัญมี 6 เสียง เมื่อไม่มา ที่นั่งแถลงร่วมลงสัตยาบันกันจริงๆ มีแค่ ๖ พรรค 249 เสียง
แต่เพื่อไทย เคลมเป็น 255 เสียง!?
อ้าง “มิ่งขวัญยืนยันมาทางไลน์แล้ว” เพียงแต่วันนี้ ติดธุระมาร่วมแถลง ร่วมลงสัตยาบันด้วยไม่ได้เท่านั้น
ก็เล่าให้ฟังเป็นการเดินเรื่อง…….
แต่อยากบอกว่า ใครอยากรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล ก็เชิญตามสบาย ไม่ต้องอ้างเพื่อประชาธิปไตย เพื่อควายเผือกตัวไหนหรอก
เห็นแต่ละหน้า “พรรคแกนนำ” ที่นั่งสลอน ก็ขำปนสมเพช
คำก็ประชาธิปไตย สองคำก็ประชาธิปไตย แต่ไล่ลงมา ตั้งแต่ พล.ต.ท.วิโรจน์ สุดารัตน์ ชัยเกษม ภูมิธรรม
เป็น “คนนอกสภา” ทั้งนั้น
“ประชาชนไม่เลือก” ไม่ได้เป็น ส.ส.เลยซักคน แต่กลับมาอ้างสิทธิ์อันตัวเองไม่มี เจ้ากี้-เจ้าการ เป็นแกนตั้งรัฐบาล
ขำอิ๊!
เอาล่ะ สมมุติว่า ขั้วระบอบทักษิณได้ตั้งรัฐบาล 255 เสียง ถามว่า เสียงปริ่มน้ำมั้ย?
ปริ่ม เปิดสภาก็พัง!
สมมุติในทำนองเดียวกัน ถ้าพลังประชารัฐ ตั้งรัฐบาล 251 เสียง เสียงปริ่มน้ำมั้ย?
ก็ปริ่ม เปิดสภา รัฐบาลก็พังเหมือนกัน!
ฉะนั้น ในกรณีเช่นนี้……..
การที่จะมีรัฐบาล “เสียงปริ่มน้ำ” กับรัฐบาล “เสียงข้างน้อย” ในภาวะเสียง “ยันกัน”
ค่าไม่ต่างกันเลย!
เอ้าดูต่อไป ตามรัฐธรรมนูญ เขาจัดลำดับการไปสู่ความเป็น “รัฐบาล” เป็นขั้นๆ ไป
การ “จัดตั้งรัฐบาล” เป็นความสำคัญต้องทำในลำดับที่ 3 ที่ 4 โน่น ไม่ใช่อันดับแรก
อันดับแรก อย่างที่บอกแต่วาน คือ ส.ส.-ส.ว.รวม 750 คน ประชุมร่วม “โหวตเลือกนายกฯ” ก่อน
ใครได้เสียง “เกินครึ่ง” คือได้ 376 เสียง ขึ้นไป คนนั้นได้เป็นนายกฯ
แล้ว “นายกฯ 376 เสียง” นั่นแหละ…….
จึงจะเป็นผู้มีสิทธิ์สมบูรณ์ “จัดตั้งรัฐบาล”
ไม่ใช่ใครจะมาชวนพรรคโน้น-พรรคนี้ ไปเช่าโรงแรมอ๊ะหยังปะล้ำปะเหลือ แถลงข่าวจับจองอย่างนั้น
ทำยังกะแม่ค้าจองแผงขายแหนมงานปิดลูกนิมิตงั้นแหละ!
จะ 255 เสียง 249 เสียง หรือ 500 เสียง ไม่มีความหมาย ในด้าน “จองสิทธิ์” หรอก สุดารัตน์เอ้ย
มันต้องไปเลือกนายกฯ ก่อน…….
แล้วตัวเองก็ไม่ได้เป็น ส.ส.วันที่เขาจะโหวตกัน ก็คงได้แต่นอนกระซิกๆ อยู่ที่บ้าน ไม่ใช่ที่สภา
เนี่ย..เสียงคู่คี่กันอย่างนี้ ชั่งน้ำหนักแล้ว ระหว่าง “ฝ่ายเผาเมือง” กับ “ฝ่ายกู้เมือง”
500 ส.ส.กับ 250 ส.ว.เขาจะโหวตให้คนฝ่ายไหนเป็นนายกฯ ไปจัดตั้งรัฐบาล?
คิดสิ..คิด…….
เลข ป.4 ระดับ 1+1 แค่นี้ ทำไมฝ่ายเผาเมืองยังเลอะเลือน ชูสุดารัตน์ “คนนอกสภา” เป็นนายกฯ อยู่อีกล่ะ?
พรรคหน้าใหม่ แต่เก๋าเกมที่สุด
ต้องยกให้ “มิ่งขวัญ” เศรษฐกิจใหม่ หนึ่งเดียวคนนี้เลย
ไพ่ 6 แต้ม…….
แต่เกจนคนไพ่สเตรทฟลัช เยี่ยวแตก!
เล่นไพ่เข้าตาตอนนี้ ก็มี “มิ่งขวัญ” กับ “อนุทิน” แห่งภูมิใจไทยนี่แหละ
จะรีบร้อนแบไพ่ไปทำไมแต่ไก่ยังไม่โห่ เฉยไว้ก่อน ถูกต้องทั้งตามกติกา และตามเชิงกล
ตัวเลข ส.ส.”ยังดิ้นได้” และยังอยู่อีกร่วม 2 ล้านเสียง คือ 5% ที่ กกต.ยังไม่ประกาศ
มีผลทั้งบวกและลบในจำนวน 95% ที่ประกาศ “ไม่เป็นทางการ” ไปตอนนี้โดยตรง
ฉะนั้น เฉยไว้ก่อน “ตำลึงทอง” ที่สุด!
ตอนนี้ ตัวเลขที่เห็น “ยังไม่นิ่ง” ขึ้น-ลงได้อีก ทั้งฝ่ายเผาเมืองและฝ่ายกู้เมือง ยังมีโอกาส “ได้-เสีย” ในจำนวนร่วม 2 ล้าน นั้น
2 ล้าน ทำให้ “ขึ้นสวรรค์-ลงนรก” ได้ทุกพรรค ใครจะขึ้นสูง-ลงต่ำระดับไหน เป็นอีกเรื่อง
ประเด็นที่สงสัยกันมาก ถึงขั้นไปทวง กกต.ว่า….
จะอุบอีก 5% ไปประกาศเอา 9 พฤษภาด้วยเหตุผลอันใด ให้รีบประกาศเลย นั้น
มันมีที่มา-ที่ไป ไม่ใช่ กกต.กำหนดตามใจชอบ หากแต่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561
กฎหมายระบุ…..
“ประกาศผลการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จโดยเร็ว แต่ต้องไม่ช้ากว่า 60 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง”
ว่ากันที่จริง ประกาศเร็วดีที่สุด
แต่ที่ กกต.กำหนด 9 พ.ค.ก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ คืออยู่ภายใน 60 วัน
แต่ทำไมต้อง 9 พ.ค. จะ 1 เมษา หรือ 1, 2, 3 พฤษภา ไม่ได้หรือ?
ผมก็ลองใคร่ครวญในประเด็นนี้ ก็พอมองเห็นเจตนาที่ดีของ กกต.
คือ ช่วงเดือนเมษา-พฤษภา ประเทศไทยเรามีพระราชพิธี “บรมราชาภิเษก” ระหว่างวันที่ ๔-๖ พฤษภาคม
ก่อนและหลังพระราชพิธี ยังต้องมีพิธีสำคัญเกี่ยวเนื่องอีกหลายอย่าง
เมื่อพินิจรอบด้าน ก็พบว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 121 ระบุว่า
“ภายใน 15 วันนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง ให้เรียกประชุมรัฐสภา ให้สมาชิกมาประชุมนัดแรก”
ตรงนี้แหละ ผมคิดว่า กกต.ใคร่ครวญแล้ว จึงกำหนด 9 พ.ค.เป็นวันประกาศผลเลือกตั้ง “เป็นทางการ”
เพราะ 9 พ.ค.งาน “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก” ผ่านพ้นไปแล้ว
ทุกอย่างตามขั้นตอนปฏิบัติไปสู่การมีรัฐบาลใหม่ตามกฎหมายกำหนด จึงสวยงามด้วยกาล ที่จะดำเนินไปแต่ละขั้นตอน
โดย “ไม่ทับซ้อน” กับงาน “พระราชพิธี”!
ต้องไม่ลืม ถ้าประกาศผลเลือกตั้ง ส.ส.เป็นทางการช่วงนี้ ขั้นตอนต่างๆ จะทับซ้อนกับพระราชพิธีทันที
ดังนั้น ก็อยากบอกว่า…..
ทั้งนักการเมืองที่รู้อยู่แก่ใจในประเด็นนี้แล้ว แต่ทำไขสือ รุกไล่ กกต.ให้ประกาศวันนี้-วันพรุ่ง
และทั้งผู้ไม่รู้ สงสัย ทำไม กกต.ไม่รีบแถลงให้ครบ 100% ไวๆ ต้องรอไปถึง 9 พ.ค.เพื่ออะไร?
ก็โปรดใคร่ครวญตามนี้
ฉะนั้น ใจเย็นๆ ใครอยากเป็นนายกฯ-เป็นรัฐบาล ตอนนี้ ก็กั้นฉากรำลิเก
หลอกแดก-ประโลมใจ “คนแดนไกล” ไปก่อน ไม่มีใครว่า!
พ่อครูว่า…เขาทำตามเหตุปัจจัย กฏหมาย แต่พวกนี้ต้องเห่า ไม่เห่าไม่ใช่ เห่าคือตองหนึ่งกับคู่หนึ่งนะ เขาเรียก Full house แต่ไทยเรียก เห่าเสียเลย ตอง คือสามตัว มีตองและมีอีกคู่หนึ่ง
ขออ่านของคุณอัต อัตนัย ถูกทุกข้อ หัวข้อ รัฐบาลใหม่
ผมแนะนำว่า ถ้าเครียดกับข่าวการเมืองควรหยุดดูสักพัก เพราะจะทำให้กระทบการใช้ชีวิตหรือไปปรึกษาจิตแพทย์
พ่อครูว่า…ก็เห็นได้ว่าคุณอัต คิดในแนวคล้ายๆอาตมาคิดว่า แนวคิดคนรุ่นใหม่ทุกวันนี้ จะไปหาประชาธิปไตยขาเดียว เพราะฉะนั้นจึงห้ามไม่ได้ คนพวกนี้จะต้องพยายามที่จะลดค่าของสถาบันสูงลงไป ขณะนี้ฝรั่งเศสทำมาแล้วโค่นสถาบันทิ้งไปหมด เป็นประชาธิปไตยขาเดียวมา แต่ตอนนี้เขาโหยหาอยากให้มีกษัตริย์ น่าจะเป็นร้อยปีที่เขาได้ลองมาแล้ว ฝรั่งเศสเป็นประเทศใหญ่มีภูมิปัญญา เขาย่อมมีประสพกรณ์ผ่านมาก็ได้คิด อาตมาก็ตามภูมิอาตมานะ ว่าอาตมาเข้าใจเรื่องประชาธิปไตย ในยุคพระพุทธเจ้าไม่ได้มีคำนี้ แต่มีภาษาว่า คือ
พหุชนหิตายะ(เพื่อหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก)พหุชนสุขายะ(เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ(รับใช้โลก ช่วยโลก)
ถ้าเข้าใจอันนี้แล้วศาสนาพุทธก็คืออันนี้ อาตมายกตัวอย่างเพราะว่าเป็นจริงได้แล้ว ให้มาสัมผัสได้ เอหิปัสสิโก แต่คนไม่เชื่อเพราะอาตมาไม่มีเครดิต ไม่มีอลังการทางโลกเลย มาทางธรรมเขาก็ไม่รับอีก เพราะอาตมาเอาธรรมะที่สูญหายไปแล้วจากศาสนาพุทธ คือเอาโลกุตรธรรมมาพูดที่เป็นยอดของศาสนาพุทธแต่เขาไม่รู้เรื่องเลยไม่ขานรับ ศาสนากระแสหลักก็ไม่ขานรับ ที่จริงก็ขานรับไม่ได้เพราะเขาทำไม่ได้ แต่ผู้รู้มีอยู่ก็ไม่ควรจะมาว่าอะไรอ่ะก็มา น่าจะส่งเสริมให้อาตมาทำไป เชียร์บ้างก็ยังดี แต่ตัวเองก็ไม่เข้าใจไม่รู้ว่าอาตมาคือใคร เป็นเนื้อแท้โลกุตรธรรมของศาสนาพุทธแต่เขาก็ไม่รู้ แต่ทุกวันนี้เข้าใจดีขึ้น
โลกุตระเป็นแบบนี้ ประชาธิปไตยคือโลกุตรธรรม ขอยืนยัน จะเป็นประชาธิปไตยได้คนจะต้องมีอิสรเสรีภาพ 2.ให้คนละตัวตน ละความยึดถือตัวตนพรรคพวกหมู่กลุ่ม ต้องเอาหมู่ใหญ่เอามวลประชาชน พหุชน เป็นหลัก นี่คือเนื้อแท้ของประชาธิปไตย
ผู้ที่มาศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้าแล้วจะได้ความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบยิ่งใหญ่ ขออภัยอย่างชาวอโศกได้แล้ว เพราะพวกเราลดอัตตา ให้อิสระเต็มที่ อโศกไม่มีใครบังคับใครมา ไม่มีการหลอกล่อ ให้อิสระเต็มที่ มาด้วยตัวเอง ตัดสินเองก็รู้เองสมัครตัวเอง แล้วก็มาเป็นคนอย่างนี้ ให้สำเร็จ คนไหนปฏิบัติธรรมได้สำเร็จ บรรลุผลที่ตัวเองเข้าใจ ว่าเราได้มรรคผลสำเร็จ คนนั้นจะอยู่กับชาวอโศกไปตลอดตาย เพราะว่ามันเป็นเรื่องของมนุษยชาติที่มนุษยชาติได้สิ่งนี้เป็นฐานอาศัย แล้วได้ครบสัปปายะ 4 ด้วย
มีเสนาสนสัปปายะ สถานที่ มีบุคคลสัปปายะ เป็นมิตรดี สหายดีสังคมสิ่งแวดล้อมดี มีเครื่องใช้ไม้สอย แล้วเป็นอย่างสาธารณโภคีด้วย สุดยอดจริงๆ ไม่ได้ยกตนอวดอ้าง แต่คนทำได้แม้ยุคนี้ ในยุคพระพุทธเจ้าทำได้แต่ในหมู่สงฆ์ ท่านต้องประกาศธรรมะของท่าน มาถึงในยุคนี้คนเข้าใจหมดแล้วไม่ใช่ในยุคทาสหรือสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มนุษย์เข้าใจสิทธิจนครบจึงทำได้ อาตมาจึงทำได้ไม่ใช่ว่าอาตมาเก่ง แต่เพราะยุคสมัยลงตัวอย่างนั้น ถึงได้เอาธรรมะพระพุทธเจ้ามาประกาศแล้วพวกคุณก็เป็นได้ไม่ใช่อาตมาเก่งที่ทำให้คนเป็นอย่างนี้ แต่เพราะพวกคุณมีภูมิธรรมภูมิปัญญา เข้าใจธรรมะพระพุทธเจ้า เอาไปปฏิบัติได้จึงเป็นอย่างที่มันเป็น อาตมาก็อุ่นใจดีใจภูมิใจที่ธรรมะพระพุทธเจ้า พวกเราไปปฏิบัติได้ผล ก็ภูมิใจตัวเองว่าเราก็เป็นผู้ที่สามารถทำให้เป็นสังคมที่ ศาสนาพุทธกระแสหลักไม่รู้เรื่องแล้ว แต่อาตมาก็ยังทำให้คนที่เป็นพุทธศาสนิกชนเข้าใจโลกุตรธรรม แล้วมาเป็นอย่างนี้ได้ เปรียบเทียบได้ว่าต่างกัน
อาตมาก็เห็นว่าอันนี้มันลงหลักปักแหล่ง ธรรมะพุทธเจ้าได้แล้วมันจะเป็นหลักแหล่ง ไม่สูญหาย จากนี้ไปจนกว่าจะผ่อน 5000 ปีของพุทธศาสนา นี่มาได้ 2562 ปี จากนี้ไปก็จะเป็นการปักหมุดเอาไว้ และรักษาไปจนถึงอีก 2500 ปี
อาตมาจึงชัดเจนว่าอาตมาเป็นผู้นำเอาธรรมะโลกุตระมาหยั่งลงในจุดนี้ มีทั้งคำอธิบายขยายความและมีทั้งบุคคลที่เป็นปึกแผ่น มีวัฒนธรรมมีพฤติกรรมสังคมปักมั่น ท่านพุทธทาส เมื่อท่านพูดถึงโลกุตรธรรมแต่ท่านก็ทำไม่ได้ ท่านมาให้คำพูดที่นำนิดหน่อย เหมือนปกาศก แต่ที่จริงอาตมาไม่ถึงศาสดาประกาศศาสนาแต่มันก็ร้อยเรียง ก็ขอบคุณท่านพุทธทาสที่ท่านนำคำนี้มา คนก็หาว่าอาตมาดูถูกท่านพุทธทาส นั่นแสดงว่าคนกระหายโลกุตระ แต่อาตมากำลังตั้งร้านขายโลกุตระ ไม่เอาไม่เป็นไร ยัดเยียนให้มาเอาด้วยเลย ฟรี
ธรรมะพระพุทธเจ้าเป็นเรื่องประชาธิปไตยสุดยอด ธรรมะพระพุทธเจ้าไม่ได้ออกป่าเขาถ้ำ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาคนเมืองเป็นศาสนาศิวิไลซ์ นำสมัยทันสมัย เป็นศาสนาของคนจำนวนมาก พหุชน ไม่ใช่ศาสนาของคนจำนวนน้อยหนีออกป่า ในยุคนี้เขาออกจากป่ากันหมดแล้วยังเหลือแต่ผีตองเหลืองที่อยู่ในป่า อย่างมงายหลงทิศทางเลย
ตอนนี้มีวาทกรรมที่เขาใช้คือ สืบทอดอำนาจกับเผด็จการ แล้วเขาก็เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย ฝ่ายอีกฝ่ายเป็นเผด็จการสืบทอดอำนาจ เขาเก่งใช้วาทกรรม คนไม่รู้ก็เมา งงไปกับเขา มันจะซวย หลงทิศทางสัจธรรม ก็คือ ขอยืนยันว่า คำเห่าของเขาที่ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชามาสืบทอดอำนาจ
คำว่า สืบทอดอำนาจ ขออธิบายไป
ขอยืนยันว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ได้สืบทอดอำนาจ แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชามารับไม้ผลัดจากประชาชนที่เป็นผู้ยึดอำนาจ ประชาชนยึดอำนาจอย่างชอบธรรม แม้จะมีการต่อต้านจากรัฐบาลทรราช แต่มีความเสียหายน้อยมาก ไม่ให้เกิดไม่ได้หรอก เพราะพวกรัฐบาลทรราช ก็มีอำนาจตำรวจ แล้วสร้างคนร้ายมาทำร้ายอีก เป็นเรื่องธรรมชาติธรรมดาที่เขาเป็น
-
คุณหยุดเห่าได้ เพราะ พลเอกประยุทธ์ไม่ได้สืบทอดอำนาจ แต่เป็นผู้ที่รับไม้ผลัดไปจากประชาชน