เม.ย.262019ศาสนา620426_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ชีวิตประเสริฐของพระโพธิสัตว์ระดับ 7 อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่…https://docs.google.com/document/d/1z2wpYe0fMOn_PWYaMjvwl9cxjI1BqAEJGV_8XzZk_n4/edit?usp=sharing ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=19jVbGTz8wqkg9lCSSyxwcBFWAeGo-_LK สมณะฟ้าไทว่า… วันนี้วันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2562 ที่บวรราชธานีอโศก ช่วงนี้ก็มีเกษตรกรมาอบรมกับชาวเรา เราเน้นให้เกษตรกร อย่าเป็นหนี้ พึ่งตนเองให้รอด ทำให้เหลือกินเหลือใช้ แล้วมีเหลือก็แจกจ่ายคนอื่น ครั้งนี้เราสอนให้ทำ permaculture ทำธนาคารน้ำ หมู่บ้านเราเป็นหมู่บ้านคนจน แต่มหัศจรรย์ที่สามารถให้บริการแก่ประชาชนมาดูงาน อบรม ทำอาคารบวร ใหญ่ให้คนมาใช้ ทำน้ำตก ทำสไลเดอร์ พ่อครูว่า…อาตมาใช้เครื่องมือสมัยใหม่พวกมือถือสมาร์ทโฟนไม่เป็น เป็นเจตนาที่จะไม่ศึกษาไม่พยายามใช้ เป็นเจตนาตัดรอบเพื่อให้ตนเองทำงานได้สะดวก ให้พวกเราใช้แทนก็พอแล้ว _SMS วันที่ 24 เม.ย. 2562 _7630 กราบนมัสการถามพ่อท่านว่า เวลาพ่อท่านเดินจงกรมมีวิธีและกำหนดการเดินอย่างไรครับ? และช่วยอธิบายประโยชน์ของการเดินจงกรมที่ทำให้สมาธิตั้งอยู่ได้นาน? กราบขอบพระคุณครับ/แก่น วาดมาส พ่อครูว่า….อาตมาก็ฝึกเดินจงกรม ตามแบบจารีตประเพณี ใช้เป็นสมถะแล้วก็ฝึกจากสมถะให้เป็นวิปัสสนา เดินอย่างสมถะ คือทำให้จิตไม่ซัดส่ายให้ออกไปนอกตัวให้อยู่กับเรื่องการเดิน ให้รู้สิ่งแวดล้อมขอบเขตที่เราเดินอยู่ ตามที่เราเดินให้จิตของเรารับรู้ แคบเข้ามาเรียกว่าสมถะพร้อมกับสร้างจิตที่เป็นวิปัสสนาคือจิตที่มีธาตุรู้ อันหนึ่งหยุดไม่รับรู้ อีกอันหนึ่งหยุดให้รู้ มันเป็นสภาพของ สิริมหามายา เป็นสภาพของสองสิ่งหนึ่งสิ่ง ทูอินวัน 2 สิ่งใน 1 สิ่งจะทำงานร่วมกันเป็นสภาพที่ฝึกได้ทำได้ จนกระทั่งทำงานได้ทั้ง นิ่งทั้งเร็วเป็นสองสิ่ง เรียกว่าเทวะ เป็นสองอย่าง มีพลังงานบวกกับพลังงานลบเป็นนิวเคลียส เป็นองค์รวม ซึ่งเป็นธรรมดาธรรมชาติ ตั้งแต่วัตถุตั้งแต่อุตุนิยามมาจนกระทั่งจิต พีชนิยาม จิตนิยาม มันก็กำหนดคุณสมบัตินี้ได้ แต่มันไม่เก่งเท่ากับจิตนิยาม จิตนิยามเก่ง แม้แต่อุตุนิยามก็เร็วจนกระทั่งแสงก็เป็นอุตุ แล้วเร็วมาก อัตราเร็วของแสง (speed of light) ในสุญญากาศ มีนิยามว่าเท่ากับ 299,792,458 เมตรต่อวินาที (หรือ 1,080,000,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือประมาณ 186,000.000 ไมล์ต่อวินาที หรือ 671,000,000 ไมล์ต่อชั่วโมง) แต่ธรรมดาธรรมชาติจิตของคนก็เร็วกว่าแสงอยู่แล้ว ยิ่งฝึกก็เร็วกว่าแสง ก็ตัวเราอยู่ที่นี่ จิตเราส่งไปปุ๊บ สมมุติว่า บ้านของแฟนเราอยู่กรุงเทพ 700 กว่ากิโลเมตร ปุ๊บเดียวถึงแล้ว ถ้าเรารู้จักตรงนั้นเราก็เคยอยู่ตรงนั้นจิตของเราวิ่งไปก็แป๊บเดียว ซึ่งมันเร็วมาก ขนาดที่อาตมาเทียบให้ฟังว่า อย่างโลกพระจันทร์แสงมันจะเดินทางจากโลกเราไปพระจันทร์ใช้เวลา 7 นาทีกว่า แต่จิตคนนี้เดินทางเร็วกว่าแวบเดียวถึง ถ้าคุณเคยไปโลกพระจันทร์อย่าง Neil Armstrong ใครลองไปถามแกดู แกก็นำตรงนั้นมาเล่าจิตแวบไปปั๊บเลย ไปที่เคยไปแล้วเอามาบอกได้เลย อย่างนี้เป็นต้น เหมือนเราเคยมีบ้านอยู่กรุงเทพฯ 700 กว่ากิโลเมตร ถามถึงบ้านที่กรุงเทพฯ บ้านเราตอนนี้เขาบอกว่าตอนนี้ถูกลมพายุพัดแล้วนะ ตกใจ จิตมันวิ่งไปถึงบ้านเราเลย บ้านเราจะเป็นอย่างไรถูกพายุพัด ก็ไม่ถึงวินาที ศึกษาดีๆแล้วจะเห็น พระพุทธเจ้าท่านเรียกความเร็วของจิตนี้ มันจะมีความที่เร็วและเป็นสภาพ 2 ทั้งเร็วทั้งแข็งแรงเป็นเจโตและปัญญาเป็นพลังงานบวกและพลังงานลบปรุงแต่งกันอยู่ เรียกอันนี้ว่า มุทุภูตธาตุ เร็วทั้งปัญญาเร็วทั้งเจโต นี่ฝึกได้ทำได้ จนสามารถรู้อะไรต่างๆนานา อย่างมหัศจรรย์ อย่างปาฏิหาริย์ ให้คนมารู้ความจริงที่ลึกซึ้งได้ ความถูกต้องดีงาม ของความเป็นคน คนโลกๆปุถุชนเป็นคนโลกๆก็มีแต่ว่าเรามีเงินเยอะๆลาภเยอะๆ เป็นแต่เพียงว่าให้เป็นอย่างสุจริตก็แล้วกัน สุจริตกับทุจริตก็เป็นโลกียะ โลกเขาถือกันว่าอันนี้สุจริตอันนี้ทุจริตเท่านั้นเอง เราก็ได้มาอย่างสุจริตก็ดี ก็ยึดมั่นถือมั่นอยู่อย่างนั้น หรืออันที่ลึกซึ้งอย่างเช่นว่า รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส สัมผัสแล้วมันก็มี อุปาทานหลอกตัวเอง สัมผัสรูปอย่างนี้สวย จริงๆแล้วมันเป็นการติดยึดมันแซบดีอร่อยดี อย่างนี้เป็นต้น ที่จริงมันไม่มีแซบไม่มีอร่อยหรอก อย่างบักนัดอันนี้ ผ่ามาให้ชิม บางคนก็บอกว่าอร่อยบางคนบอกว่าไม่อร่อย บางคนชอบบางคนไม่ชอบ ซึ่งมันไม่จริง รสอะไรมันก็เป็นอย่างนั้น พวกคุณทุกคนไม่ว่าจะเป็นไทยจีนแขกฝรั่งชมอันนี้ก็รสอย่างเดียวกัน แต่ที่ชอบหรือไม่ชอบนี้มันคนละอย่าง ไม่ตรงกันหรอก ถ้าตรงกันหมดฆ่ากันตาย มันไม่ตรงกันก็ดีแล้วไม่แย่งกัน ต้องมาเรียนจริงๆ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ลาภ ยศ สรรเสริญโลกียสุข พระพุทธเจ้าตรัสรู้จริงๆว่าเป็นสิ่งที่หลอกให้คนติดอยู่ในโลก ท่านก็มาเรียนรู้จนล้างความผิดเพี้ยนจนไม่ติดใจ ล้างจนความติดไม่มีเลย อยู่กับโลกไม่ติดโลก ถ้าเราจะอาศัยก็อาศัยอย่างไม่ต้องสุขไม่ต้องทุกข์ ไม่ต้องไปแย่งใครไม่ต้องอะไรกับใคร เพราะมันก็อาศัยเป็นสิ่งที่เป็นสาระ สิ่งที่เป็นเหตุปัจจัยของชีวิต ชีวิตตั้งอยู่ได้ก็อยู่อย่างเบิกบานใจ มันเป็นความเบิกบานใจที่สูงส่งกว่า รสโลกีย์ เป็นวิมุติรส เบิกบานตลอดกาลนาน พระอรหันต์เป็นผู้ที่เบิกบานตลอดกาลนาน อาตมาบอกกับโลกว่าอาตมาเป็นพระอรหันต์ ไม่ได้พูดหลอกอาตมาพูดจริง อาตมาไม่ได้เคยโศกเศร้า ยังนึกไม่ออกด้วยซ้ำไปว่าไปเศร้าทำไม ก็พอนึกออกว่าคนเขาเศร้าก็ไม่ใส ไม่โล่งไม่สบาย มันเศร้า รู้แบบเดาๆ ตนเองก็ไม่ได้เป็น เคยถูกหลอกสมัยเป็นฆราวาสไม่ได้ออกมาทางธรรมะ แต่ไม่เคยเศร้าโศกอย่างคนทั้งหลายที่เขาเศร้าโศกกัน มันก็จะไม่โปร่งใสทีเดียว มันมีอะไรติดใจก็พอรู้ ยิ่งความเครียด อาตมานึกไม่ออกว่าความเครียดเป็นอย่างไรตั้งแต่เป็นฆราวาสจนมาบวชยังไม่รู้ว่าอาการเครียดของคนเป็นอย่างไร ได้แต่เดาตามเขาว่าคงจะเป็นอย่างนี้แล้วไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ก็นึกไม่ออก คนเครียดนี้อย่ามายุ่งนะ พั๊วให้ อาการเหล่านี้เราไม่เคยมีเลยในชีวิต อาการใจอย่างนี้เป็นต้น ศาสนาพุทธสอนคนเป็นคนจิตสะอาดจากโลกีย์ ให้บรรลุไปเป็นลำดับตั้งแต่พระโสดาบันไปติดยึดอะไร มันเป็นสุขเป็นทุกข์ คิดถึงความสุขความทุกข์นั้นแยกกันไม่ได้มันเป็นอย่างเดียวกัน มันถูกหลอกว่ามีสุขเท่าไหร่ก็มีทุกข์เท่านั้น มันเป็นเทวะมันเป็นเทวดา มันเป็นอารมณ์เทวดา ว่ามันสุขมันก็ทุกข์อยู่ด้วยกันเพราะมันเป็นเทวดา นี่แหละเป็นความรู้ที่ยิ่งใหญ่คำว่าเทวะคำนี้ เป็นธรรมะ 2 อย่างอยู่ใน 2 in 1 พระพุทธเจ้าสอนให้แยกแยะให้รู้ถึงความสุขที่มันหลอกมันไม่จริง ให้มาฆ่าความสุข ก็บอกว่ามาฆ่าความสุขก็ไม่มีใครมากัน หนีหมดตายๆๆ อยู่อย่างไม่มีความสุขมีแต่ความทุกข์ก็ตายกันพอดี นั่นแหละพระพุทธเจ้า สอนให้หาเหตุแห่งทุกข์แล้วทำลายเหตุแห่งทุกข์ความทุกข์ก็หายไปความสุขก็หายไปด้วยตั้งแต่ของที่หยาบตื้นไปติดยึดตั้งแต่อบายมุข ไปติดเหล้าติดยา มีใจโหดร้าย ไปเห็นของเขา จะเอาของเขาโดยทุจริต ด้วยรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส อะไรอย่างนี้เป็นต้น พระพุทธเจ้าสอนเป็นขั้นตอน ศีลข้อที่ 1 เกี่ยวกับสัตว์ สัตว์มันเกิดมาเราก็อย่าไปยุ่งกับมัน มันเกิดมาตามวิบากของมัน อย่าไปสร้างวิบากร่วมกัน มันเป็นวิบากมามากแล้วคนกับสัตว์นี้ คนจะต้องถูกสัตว์ทำร้าย หรือเอาสัตว์มาเลี้ยงถนอมมันรักมัน ผู้ที่หลุดพ้นแล้วก็ไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกับสัตว์ ปล่อยมันไปอยู่ตามประสา สัตว์เดรัจฉานก็มี สัตว์ที่เป็นคนก็มีวิบากร่วมกันเยอะแยะแล้ว สัตว์เดรัจฉานทั้งหลายอย่าไปยุ่งกับมันเลย ต่างคนต่างอยู่ วิบากใครวิบากมันเคยฆ่าเคยแกงก็ล้างอโหสิ อาตมาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ได้เลิกปล่อยวางคู่ที่เป็นปรปักษ์เกี่ยวกับสัตว์มา จนกระทั่งสัตว์ต่างๆที่เป็นคู่อาฆาตของอาตมา มันหมดแล้ว เรื่องสัตว์เดรัจฉานก็หมดแล้ว อาตมาก็ไม่เคยถูกพวกสัตว์เดรัจฉานทำร้าย ก็จะมีมดแมลงกัดบ้าง ไม่เคยถูกงูเงี้ยวเขี้ยวขอทำร้าย หรือแม้แต่คนก็ล้างก็อโหสิ จนชีวิตนี้ชาตินี้ ยังไม่เคยมีใครมาตบมาเตะเลย อะไรประมาณนี้ เป็นคนยียวนนะ แต่ก็ไม่เคยมีใครทำร้ายอะไรอาตมา นี่เป็นเรื่องของสัจจะของวิบากกรรมที่เราได้ปลดปล่อยล้างแล้วเป็นบารมี เป็นประสบการณ์จริงที่อาตมามีอายุจนป่านนี้แล้วจะเต็ม 85 จะขึ้น 86 วันที่ 5 มิถุนายนที่จะถึงนี้แล้ว ก็ยังไม่มีสิ่งเหล่านั้นมา ก็มีวิบากบ้าง ต้องไปถูกแก๊สน้ำตา ก็เป็นวิบากส่วนรวมที่อาตมาไปเสียสละ ไม่ใช่ธรรมดาเป็นเรื่องใหญ่อาตมาไปทำงานให้แก่มนุษยชาติก็ต้องมีวิบากพวกนี้พอสมควร แต่ขนาดเป็นพระพุทธเจ้าก็ยังไม่สิ้นวิบาก เจอวิบากมีคนมามอมเมาช้างนาฬาคีรีให้มาฆ่าท่าน มีวิบากคนไปจ้างนางจิญจมาณวิกา มาหลอกชาวบ้านโกหกชาวบ้านว่า พระพุทธเจ้านี้ เป็นสามีดิฉัน เพื่อให้พระพุทธเจ้าเสียเครดิต ในที่สุดจะมีพระเทวทัตเป็นคู่วิบาก สุดท้ายพยายามทำร้ายพระพุทธเจ้า ทุกประตู สุดท้ายกลิ้งหินลงมาทับพระบาทจนห้อพระโลหิต ก็เท่านั้นสูงสุดทำร้ายท่านได้เท่านั้น แล้วตนเองก็ต้องรับอนันตริยกรรมถูกดินสูบตาย ธรณีสูบตาย อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งเป็นเรื่องความจริงที่ มันคิดไม่ออกหรอก ยาก แต่อาตมาเอาตัวเองมาพิสูจน์ยืนยัน ยกตัวอย่างเป็นปัจจุบันง่ายๆ อาตมาพาพวกเรานี้ ชาวอโศกไม่ได้มีแต่ใน บ้านราชฯ ชุมชนชาวอโศกมีกระจายอยู่หลายสิบชุมชน แห่งใหญ่ๆก็มีไม่กี่ชุมชน นอกนั้นก็เล็กๆ แม้แต่บางชุมชนมี 5 คน 10 คน 20 คนก็มีเยอะ ส่วนที่มีสมาชิกหลายร้อยจนถึงเป็นพันนี้ ที่บ้านราชฯพยายามให้ถึงพันจนแล้วจนรอดก็ยังไม่ถึงเลยป่านนี้ แต่ก็เพิ่มขึ้นมีคนมาร่วมมาร่วมมือสร้างสรรจนมีส่วนเกินตามหลักเศรษฐศาสตร์ เอามาสร้างใหญ่โตจนคนงง เราไม่ได้เอาเปรียบใคร มีแต่เสียสละ เราเอาส่วนเหลือของพวกเรานี้มาใช้มาสร้างมาก่อ เป็นความลึกซึ้งซับซ้อน นักเศรษฐศาสตร์ ที่จบด็อกเตอร์ทางเศรษฐศาสตร์ เป็นปริญญาเอก 3 ใบ 5 ใบ ก็ยังฟังอาตมาพูดไม่รู้เรื่อง เศรษฐศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่แบบชาวอโศกที่เอามาจากพระพุทธเจ้าแบบนี้ มาเป็นคนจนมีสาธารณโภคีอย่างนี้ มันเป็นไปได้ อยู่กันอย่างสุขสบายเลย อยู่กันอย่างเบิกบานร่าเริงอุดมสมบูรณ์มีอยู่มีกินมีใช้ จิตมันมักน้อยไม่ต้องอยากใหญ่อะไร เป็นคนมีวรรณะ 9 อาตมาเอาคำสอนพระพุทธเจ้ามาขยายความซึ่งไม่มีใครมาขยายความอย่างนี้ ขยายความให้ละเอียดลออชัดเจนจนคนมาปฏิบัติตามได้ พวกเรามาเป็นคนเลี้ยงง่าย ยิ่งกว่าหมูนั่งเข้าแถวแล้วก็เลื่อนอาหารมา เสร็จแล้วก็กินอาหารร่วมกัน เลี้ยงง่าย ไม่ได้ติดใจอะไรที่จะต้องกินอะไรอย่างนั้นอย่างนี้ให้ถูกปาก มันกินอย่างไรเอาไปใส่ท้ายทอยหรืออย่างไรกินก็ต้องเอาใส่ปาก เขาบอกว่ากินไม่ถูกปาก มันไม่แซบไม่อร่อยก็เลยบอกว่าไม่ถูกปาก แต่ที่นี่ไม่ติดใจอะไรจะถูกปากหรือไม่ถูกปากแต่ก็ลดกิเลสได้จิตใจไม่ติดอาหารก็ง่ายๆสบายๆไม่ต้องมีรสชาติจัดจ้านอะไร ไม่ต้องปรุงแต่งด้วยของราคาแพง เป็นของที่มีธาตุดีๆมีความอุดมสมบูรณ์ไร้สารพิษ เป็นของที่งาม สร้างอะไรปลูกอะไรมันก็เหมือนจะต่อประชดเลยที่นี่ ตลก สร้างใบคะน้าก็ใบเท่านี้ กรอบด้วยนะ ผักกาดก็ตาม มะระก็ลูกเท่านี้ อ้วนใสอะไรอย่างนี้ต่างๆนานา ดูบักต้องนี่ กระท้อนห่อมันเหมือนประชดทำแล้วมันก็อุดมสมบูรณ์ ไร้สารพิษใดมีสารดีสาระที่ดี สารพิษก็ไม่มีและมีสาระหรือสารที่ดีสารอาหารวิตามิน คนเอามาใช้กับร่างกายได้ดีอย่างนี้เป็นต้น งานกสิกรรมเป็นของชาวไทย ชาวไทยอยู่ในโซนนี้ ปลูกพืชผักได้ดีเป็นโซนร้อน ส่วนพวกขั้วโลกเหนือมีหิมะมาก กับพวกที่มีแดดมากจนกระทั่งน้ำก็ไม่มี ก็เป็นภูมิประเทศที่ไม่เจริญ แต่เมืองไทยมีภูมิประเทศที่เจริญ อุดมสมบูรณ์ด้วยสิ่งที่จะกินใช้กับชีวิตเป็นเมืองที่เจริญสิ่งที่เจริญที่สุดจงภูมิใจ มันเป็นกุศลอย่างหนึ่งของคนไทย ที่คนที่เกิดมาเป็นคนไทยนี้ อยู่ในภูมิประเทศไทย ทุกวันนี้การบริหารประเทศมีการบริหารอย่างมีคุณธรรม จนกระทั่งเป็นประเทศที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นประเทศที่มีความสุขหรือมีความทุกข์น้อยที่สุดในโลกเบอร์ 1 นี่เขายืนยันกันออกมา 4 ปีซ้อนแล้ว เป็นประเทศที่มีความสุขหรือมีความทุกข์น้อยที่สุด คะแนน 2.1 เขาวัดมีวิธีการคำนวณออกมาประกาศไปทั่วโลก เขาคนพวกนั้นก็ไม่ได้ลำเอียงเข้าข้างประเทศไทยเราก็ตรวจวัดเพื่อให้รู้ความจริงตามความเป็นจริง เขาวัดตามค่าของความเป็นอยู่ของสังคม เช่นคนตกงานน้อยมีงานทำมาก มีการสะพัด มีเศรษฐศาสตร์เศรษฐกิจ มีการบริหารสังคมทางรัฐศาสตร์การเมือง มีสังคมที่อยู่กันอย่างสงบอบอุ่นต่างๆนานา เขาก็ใช้ร่วมกัน แต่ไม่ได้ละเอียดเหมือนกับพระพุทธเจ้าสอน ยืนยันตรงกันสอดคล้องกัน อาตมาทำงานมาจะเข้า 50 ปีแล้ว ทำงานศาสนา เห็นผล มีชุมชนมีสังคมมีพฤติกรรมสังคมอยู่กันอย่างที่เป็นนี่ จะเห็นได้ว่ามันละเอียดลออประณีต ไม่เหมือนความเข้าใจแบบโลกๆ คนโลกๆเขาจะเป็นแบบเขาแม้แต่ร่างกายก็อ้วนพุงพลุ้ย แต่ที่นี่ชาวอโศกเป็นคนสันทัดคน รูปร่างหน้าตาไม่มีใครไว้พุง ไม่ออกไขมันเยอะ เป็นคนสเลนเดอร์ มันได้สัดส่วนสัดทัดคน ได้สัดส่วนรูปร่างสมบูรณ์ค่อนข้างไปทางผอม อ้วนแล้วจะเป็นโรคเป็นรังแห่งโรค แต่ถ้าคนที่แข็งแรงร่างกายสะพัดหมุนเวียนดี ไม่ต้องสะสมไขมันสะสมเนื้อหนังเกินไปนัก อยู่กันอย่างนี้ ร่างกายจะรับเอาอาหารไปเลี้ยงก็ไม่ต้องมาก แล้วสะพัดออก เราอยู่กันอย่างมีการเคลื่อนไหวมีพฤติกรรมชีวิต ในสังคมเราจะยืนนั่งนอนจะหยุด มีการเคลื่อนไหวได้สมดุลได้สัดส่วนที่ดี ร่างกายก็แข็งแรงดีสมบูรณ์ดี เราจะเข้าใจ ร่างกายสมบูรณ์ เราจะต้องมีทั้งทุกอย่างอะไรต่างๆนานา อาตมาก็รวบรวมมาได้ สิ่งอาศัยต่างๆที่จะทำให้ร่างกายเรามีชีวิตยืนยาว ซึ่งทำเป็นสูตรเอาไว้ เป็น 8 อ.มี อิทธิบาท อารมณ์ อาหาร อากาศ ออกกำลังกาย เอนกาย เอาพิษออกอาชีพ เรามีอิทธิบาทมีความยินดีมีความเพียรให้เราเจริญ เจริญไม่ใช่มากเกินแต่เจริญคือพอดีสมดุล มีความพากเพียร มี ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ในอิทธิบาท 4 ที่จะทำอารมณ์ให้พอดี อาหารก็พอดีอากาศก็พอดีออกกำลังกายก็พอดี เอนกายก็พอดี เอาพิษออกก็พอดี อาชีพก็เป็นอาชีพที่ไม่บั่นทอนชีวิต 8 อ.เป็นยาอายุวัฒนะและสามารถสร้างให้มีพลังงานที่มีจิตใจเป็นประธานได้ ทั้งรู้ทั้งทำให้เกิดพลังงานสมดุลได้ จัดความสมดุลทั้ง 8 ชนิดให้ได้สมบูรณ์ดีแล้วชีวิตของเราจะอยู่ยืนยาว อาตมาพยายามทำตัวเองเอาตัวเองพิสูจน์ว่าจะทำให้อายุยืน กว่าคนสามัญปกติ ในยุคนี้คนอายุถึงร้อยก็หายากแล้ว อาตมาจะทำให้อายุเกินร้อยโดยมีตัวเลขถึง 151 ปี แต่มันจะถึงหรือไม่ถึงก็ไม่รู้ได้ แต่พากเพียรดู นี่ก็อีกไกล อายุ 85 ปีกว่าจะถึง 151 ก็อีกนานก็ดูไป ถ้าหากจะมาพิสูจน์อยู่จนถึง 100 ก็ไม่เลวแล้ว เพราะอาตมารู้ตัวเองว่าอายุไขของอาตมามีแค่ 72 อาตมาผ่านวันตายมาแล้ว ตัวเองอยู่แค่ 72 ปีก็ต้องตายแล้ว แต่อาตมารู้ก่อน ก็เลยใช้พลังงานสัมประสิทธิ์ Coefficient สร้างพลังงาน กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมให้ได้สัดส่วน 8 อ. มันจะทำให้เราอายุยืนยาวได้นี่ก็ทำได้เกิน 72 มา 1 นักษัตร ก็เป็น 84 ปี ถ้าเป็น 96 ก็เป็นอีกสองนักษัตร จะมาฝืนที่จะต้องตายไปได้อีก 24 ปี ถ้าไปถึง 96 ปี ตอนนี้เพิ่งจะได้ 84 ไปขึ้น 85 ถ้าไปถึง 96 คงจะฉลองกันน่าดู จาก 96 เป็น 108 ก็ยิ่งจะฉลองกันใหญ่เลย จาก 108 ไป 120 ปี จาก 120 ก็ไป 132 จาก 132 ก็เป็น 144 ถ้าถึง 144 ก็ไชโยโห่ฮิ๊วเลย ถ้าถึง 144 ถึงหลักชัย สัมประสิทธิ์นี้จะดังทั่วโลกเลย สูตร 8 อ. สัมประสิทธิ์ อีก 7 ปีก็เสวยวิมุติ เป็นโมเมนตั้มของพลังงานที่สร้างมาแล้ว ถ้าได้ 144 ปีสมบูรณ์แบบ จะตายเมื่อไหร่ก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นโมเมนตัมเป็นกำไรอาตมาจะไม่เพียรอะไรอีกแล้วสบาย 144 อยู่ให้ทันให้ถึงนะ สมณะฟ้าไท…ก็พยายามแต่ไม่รู้มันจะถึงหรือไม่ พ่อครูว่า.. try and try _อำภา รื่นใจดี · น้อมกราบนมัสการท่านพ่อครู ลูกขอโอกาสถามเรื่องศีล ตามที่ได้เคยฟังพระ และท่านผู้สอนศาสนา จะบอกว่า ประโยชน์ที่ได้รับจากศีล คือ ศีลทำให้มีความสุข ศีลทำให้เจริญในโภคทรัพย์ ศีลนำไปสู่นิพพาน แต่การตีความจากการสอน ทั้งความสุข และเจริญในโภคทรัพย์จะเป็นไปในทางมีกิเลสยิ่งเจริญในโภคทรัพย์แล้ว ก็คือการมีทรัพย์สิน เงินทอง ความร่ำรวย แล้วอย่างนี้จะไปนิพพานได้อย่างไรมันขัดแย้งกัน เพราะนิพพานจะต้องว่างจากกิเลส ศีล ที่ทำให้มีความสุขตามความเข้าใจของลูก น่าจะหมายถึง การล้างกิเลสจนจิตอยู่เหนือกิเลสทั้งปวง ใช่หรือไม่ ส่วน ศีล ทำให้เจริญในโภคทรัพย์ ลูกคิดว่าคงไม่ใช่อย่างที่เขาสอนกัน ลูกขอถาม ศีล ทำให้เจริญในโภคทรัพย์ หมายถึงอะไร เจ้าคะ พ่อครูว่า..ความสุขกับความทุกข์เป็นโลกียะ สีเลนสุคติงยันติ คำว่า สุคติ ไม่ใช่สุข แต่เป็นดำเนินไปด้วยนะ คำว่าโภคทรัพย์ หมายถึงของกินของใช้ อุดมสมบูรณ์อย่างที่เราเป็น แต่ไม่สะสมมีความซ้อน ไม่ต้องกักตุนไม่ต้องไปโลภโมโทสัน ไม่ทุจริตอยู่แล้ว แต่จะมีกินมีใช้ไม่ขาดแคลน พวกเราอุดมสมบูรณ์นี้อยู่กันอย่างสบายๆทุกคน คนเจ็บคนป่วยคนแก่คนเด็ก เด็กก็เลี้ยงตัวไม่รอดเราก็ช่วยเด็ก คนแก่แล้วทำงานไม่ไหวคนเจ็บทำงานไม่ไหวเราก็เลี้ยงดูกันไป แม้แต่กระทั่งแบเบาะนอนติดเตียง เราก็มีคนนอนติดเตียงอยู่ที่นี่ 2 คนตอนนี้ ก็ดูแลกันไปดูแลกันอย่างไม่ใช่พี่ใช่น้อง ไม่ใช่สายเลือดแต่เราก็ดูแลกันพึ่งเกิดแก่เจ็บตายกันจริง มีจิต พุทธพจน์ 7 สาราณียะ ปิยกรณะ คุรุกรณะ สังคหะ อวิวาทะ สามัคคคียะ เอกีภาวะ มีจิตสาราณียะ เป็นจิตใจที่ระลึกถึงคนอื่น ไม่ใช่แค่ระลึกถึงตัวเอง ไม่ต้องนึกถึงแต่ตัวเอง เพราะชีวิตเราอยู่กับส่วนกลางนี้สบายแล้ว มีการรับหน้าที่คนนั้นสร้างอันนี้คนนี้สร้างอันนั้นเอามากินมาใช้ก็สบายแล้ว มีความรักกัน ไม่ใช่รักกันตื้นๆ อาตมาเขียนความรัก 4 มิติไว้ก็ค่อยๆศึกษากัน รักอย่างกามรักอย่างคู่ผัวตัวเมีย เป็นกิเลสรักผูกพันรักเป็นของตัวของตนเรียกว่าเมถุน รักความเป็นคู่ ใครมาแตะไม่ได้ นี่คู่ของข้า ใครอย่าแตะแล้วถ้าใครมาแตะก็ฆ่ากันตาย เห็นแก่ตัวจัดจ้านมากแย่ที่สุด เป็นความรักชั้นต่ำที่สุด ต้องไปอ่านความรัก 10 มิติที่อาตมาเขียนขยายไว้ คุรุกรณะ เราเคารพกันตามฐานะตาม วัยวุฒิ ตามความรู้ความดี ตามสมมุติแล้วแต่ ก็มีการรู้การเคารพกันไม่ใช่ไม่มีความเคารพกันเสมอกันหมดอย่างนั้นไม่ใช่ มีสังคหะ มีการสงเคราะห์ช่วยเหลือกันมีน้ำใจต่อกัน ไม่ทะเลาะกัน ไม่ทะเลาะกันนะวิวาทะอยู่กันอย่างพร้อมเพียงสงบสนิทเนียน สามัคคียะ จนเป็นปึกแผ่น เอกีภาวะ ใครมาตีแตกได้ยาก ความเป็นหมู่กลุ่มของชาวอโศกเหมือนอย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นเอกภาพ เอกีภาวะ ที่สุดยอด เราเรียนรู้ตามธรรมะพระพุทธเจ้าและได้มรรคผล เป็นจริง เพียงแค่อาตมาทำมาเกือบ 50 ปี ได้มนุษยชาติสังคมที่มีพฤติกรรม ของแต่ละคนรวมกันแล้วเป็นพฤติกรรมสังคม อย่างที่เป็นนี่แหละอย่างที่เห็นนี่แหละ ซึ่งไม่เป็นภาระของผู้บริหารประเทศเลย ช่วยเหลือประเทศด้วยซ้ำ ไม่ว่าเรื่องอะไรต่างๆนานา ไม่ก่อความวุ่นวาย นอกจากไม่ก่อความวุ่นวายแล้ว ยังช่วย อุดหนุนจุนเจือเกื้อกูลสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นทางวัตถุ ผลิตวัตถุ หรือมีกายกรรมวจีกรรมมโนกรรมที่น่าเลื่อมใส หรือให้ความรู้ ให้คุณธรรม ให้ความรู้ที่ควรจะรู้เอาไปใช้ในชีวิตให้คุณธรรม คุณธรรมถึงระดับ อาริยะหรือโลกุตระเลยทีเดียว เป็นผู้ที่มีประโยชน์คุณค่าต่อผู้อื่นอย่างแท้จริง ยกตัวอย่างอาตมา เรื่องกินอยู่ไม่เคยจำ จนทุกวันนี้เรื่องกินไม่จำ แต่ก็พอรู้ว่ากินมื้อเดียวไม่จำเลยว่ากินอะไรไปบ้าง ไม่ไปเสียพลังงานกับความจำพวกนี้ ใครให้กินก็กินไม่กินก็แล้วไป มีชีวิตไม่ต้องห่วงตัวเองเลยแม้แต่ความเป็นอยู่เรื่องนั้นเรื่องนี้ ก็มีคนมาช่วยเหลือเกื้อกูลด้วยจิตใจ ควรช่วยอาตมาทุ่นเวลา จะต้องมาทำอย่างโน้นอย่างนี้ต่างๆ ยกตัวอย่างเช่นจะต้องซักผ้าตัวเองก็มีคนมาซักให้ จะต้องเอาอันนั้นอันนี้มาคนก็ช่วย จนกระทั่งมันจะเป็นเทวดาแล้วทุกวันนี้ ไม่ต้องกังวล สิ่งที่จะช่วย สิ่งที่ไม่ดีเขาก็ไม่ช่วยอยู่ สิ่งที่ดีจะมีประโยชน์เขาก็มีปัญญาของเขาจะมาช่วย เขาก็รู้ว่าอย่างนี้ต้องช่วยเขาก็ช่วย โดยไม่ต้องไปขอร้อง ดีไม่ดีทำก่อนเลย เขาก็เข้าใจ จนกระทั่งแต่ละคนที่ช่วยอาตมา มีผู้อยู่ใกล้ชิดอาตมา อย่างสมณะ 5 รูป อาตมามีปัจฉาสมณะ 5 รูป รับผิดชอบคนละหน้าที่ดูแลกันไปไม่คลาดสายตา นอกจากเข้าห้องน้ำ ขี้เยี่ยวในห้องน้ำเท่านั้น แล้วก็อยู่หน้าห้องน้ำดูด้วยแล้วอย่าใส่กลอนนะ มีอะไรจะได้เข้าไปช่วยได้ทันที อาตมาก็ไม่ต้องใส่กลอนมีคนเฝ้าหน้าห้องน้ำอยู่แล้วสบาย อย่างนี้เป็นต้น นอกนั้นรู้หมดจะพูดอะไรจะคุยอะไรอัดเสียงไว้ตลอด พูดอะไรกับใคร รู้หมดเก็บหมดไม่มีอะไรเป็นความลับทั้งนั้น อย่างนี้เป็นต้น สบาย อาตมาสบาย ทุกอย่างไม่ต้องกังวลอะไรเลยเพราะเราไม่ต้องไปทำชั่วพูดชั่วคิดชั่ว ถ้ามีเครื่องบันทึกความคิดได้คงจะบันทึกไว้แล้ว นี่ก็ได้แค่คำพูด กับถ่ายรูป ไปไหนก็ถ่ายภาพ บางกรรมกิริยาที่ไม่ควรเผยแพร่เขาก็ไม่เอาออกมาเผยแพร่ แม้แต่คำพูดที่เขาจะถือสา ขนาดที่ออกเปิดเผยมานี้ คนก็ยังถือสาเยอะแม้แต่คำพูดอาตมา ยกตัวอย่างไม่ได้อวดอ้างตัวเอง อาตมาบำเพ็ญมาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ อาตมาเป็นอรหันต์เป็นโพธิสัตว์มาทำงานนี้มาช่วยคนแล้วมันเกิดผลจริงไหม ให้คนมาจนมันเกิดได้จริงไหม ให้คนมาช่วยกันเสียสละไม่เห็นแก่ตัวได้จริงไหม ไม่ต้องสะสมจริงไหมล่ะ มีน้ำใจมีอะไรต่างๆนานา พึ่งเกิดแก่เจ็บตายกันได้จริงไหมล่ะ อะไรต่างๆที่เป็นพฤติกรรมสังคมที่เป็นของปรารถนา พฤติกรรมอย่างนี้เป็นที่ปรารถนาของคนทั้งโลก แม้ว่าพวกเรานี้มาปรารถนาจน คนทุกคนก็ต้องปรารถนาจน แต่เขายังมีกิเลส เขาเลยจนไม่ลง ไม่ยอมจน เท่านั้นเอง แต่ถ้าเผื่อว่ามีปัญญามีความฉลาดเห็นจริงไหม อ๋อ เราไปกักตุน เรามีไว้มากคนอื่นก็ขาดแคลนเราไม่ต้องมีมากหรอก คนอื่นมีช่วยเหลือเกื้อกูลกันมันไม่ขาดแคลนหรอก ไม่มีเงินในกระเป๋าสักบาทก็อยู่สบาย ใครจะเอาเงินมาให้ใช้อันนั้นอันนี้ก็ใช้ ใช้เสร็จแล้วก็เหลือก็เอาไปคืน ถือเอาไว้ทำไม ให้คนมีหน้าที่รับเก็บ เก็บไปเราไม่ต้องถือก็สบาย มันเป็นจริงมันมีปัญญามันมีความเฉลียวฉลาดที่รู้ว่า ไม่ควรสะสมอะไรเป็นของตัวของตนไม่ต้องเอาติดตัวติดตนได้ เบาว่าง สบาย เป็นเรื่องลึกซึ้งซับซ้อนที่อาตมาว่ามันเป็นเรื่องไม่ง่าย จึงจะต้องพากันปฏิบัติยืนยันพิสูจน์ให้โลกรู้ เพราะฉะนั้นชาวอโศกจึงจะเป็นตัวอย่างของโลกที่จะพิสูจน์ไปอีก อาตมาพยายามจะรักษาชีวิตให้ยืนนาน พวกเราก็ช่วยกันอยู่แล้ว แม้อาตมาตายไปพวกเราก็มีความรู้ เป็นผู้ที่มีอรหันต์แล้ว มีอนาคามี มีสกิทาคามีแล้ว ก็จะช่วยกันตามจริงที่มีภูมิธรรมสืบสานต่อกันไปเรื่อย ไม่ขาดหรอกเพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งที่จริงจะมีผู้สืบสานต่อไป อาตมาอยู่ต่อก็จะมีนัยเป็นรายละเอียดมาอธิบายเพิ่มเติม แม้แต่อาตมาก็รู้ไม่หมดเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ยังเป็นโพธิสัตว์ระดับ 8 ระดับ 9 กว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าอีก ยังอีกนาน มันจะเป็นได้แค่ร้อยปีพันปีหมื่นปีแสนปี จะถึงล้านปีหรือเปล่าก็ไม่รู้ กว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้า แต่ไม่มีปัญหาหรอก การเกิดมาเป็นคนถ้าเข้าใจแล้ว เมื่อเป็นพระโสดาบันก็จะเข้าใจแล้วว่าชีวิตก็จะไม่มีปัญหาอะไรมากมาย พอไปถึงเป็นสกิทาคามีก็ยิ่งเห็นว่าชีวิตสบายก็ไม่อยากเกิดไม่อยากตาย ยิ่งเป็นอรหันต์ก็ยิ่งรู้ว่า เกิดก็ได้ตายก็ได้ ถ้าเป็นพระอรหันต์อย่างสัมมาทิฏฐิส่วนมากจะต่อภพภูมิ ไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสานนง่ายๆหรอกอย่างน้อยก็ระลึกถึงบุญคุณของศาสนาพุทธจะทดแทนบุญคุณศาสนา จะไม่เป็นคนที่ไม่มีกะจิตกะใจ อยากจะรู้อะไรเพิ่มเติมขึ้น รู้กิเลสของตัวเองรู้ตัวตนของตัวเองทำตัวตนของตัวเองให้สูญสนิทเป็นปรินิพพานเป็นปริโยสานนได้ ปริโยสานก็มีสิทธิ์ที่จะปรินิพพานเป็นปริโยสาน จบเลยได้ เป็นอรหันต์ ก็จะมีโพธิสัตว์ที่ ท่านยิ่งบรรเทาความทุกข์ของวิบากหรือความทุกข์ที่เลี่ยงไม่ได้ที่เป็นวิบากอีก 6 อย่าง พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ แต่มันก็จะเบาไปตามวิบากของแต่ละคน เราก็จะพยายามพิสูจน์อันนี้ไป เพราะฉะนั้นไม่หมดหรอกพระโพธิสัตว์ที่จะทำไปจนกว่ามันจะหมดเหมือนกันไปตามยุค ตามกาละ อย่างยุค พระพุทธเจ้าสมณโคดมศาสนาท่านมีอายุ 5000 ปี ผู้ที่จะสืบทอดสืบต่อ จะรู้ทุกข์ที่เลี่ยงได้เลี่ยงไม่ได้ ทุกข์อาริยสัจมี 4 อย่าง ส่วนทุกข์ที่เลี่ยงไม่ได้ แม้เป็นพระพุทธเจ้าก็เลี่ยงไม่ได้ สภาวทุกข์ ทุกข์ของความเกิดแก่เจ็บตายแม้แต่พระพุทธเจ้าก็เลี่ยงไม่พ้นก็ต้องมี นิพัทธทุกข์ ทุกข์ที่มีอยู่กับร่างกายกับชีวิต เนื่องต่อกับชีวิตเราจะร้อนจะหนาวจะหิวกระหายจะปวดอุจจาระปัสสาวะพระพุทธเจ้าก็ต้องทุกข์เลี่ยงไม่พ้น มันหนาวจัดก็หนาว มันร้อนจัดก็ร้อน มันกระหายหิวอาหารไม่พอร่างกายต้องการมันก็เป็นไปได้ หรือว่าทุกข์ที่จะต้องแสวงหาอาหารเลี้ยงตัวเองอยู่ หรือจะต้องทำงานที่เป็นประโยชน์คุณค่า ก็แสวงหาสิ่งที่ควรทำไปตามควรชีวิตไม่ไร้ค่า ไม่ใช่ว่าจะต้องทรมานทรกรรมอะไรก็ต้องหากินช่วยตัวเองได้หรือมีคนมาช่วยหากินให้ได้ คุณก็ทดแทนไป เอาเวลาแรงงานที่เหลือไปทำประโยชน์ พยาธิทุกข์คือทุกข์ที่อวัยวะเจ้าการมันไม่สมดุลจะปวดจะเจ็บจะเกิดโรคภัยได้ หรือว่าเป็นองคาพยพ อวัยวะอาการ 32 ของเรา ตั้งแต่ผมขนเล็บตับไตไส้พุงจนกระทั่งมี 32 อย่างพระพุทธเจ้าตรัสไว้ มันไม่สมดุลก็จะเจ็บป่วยเป็นพยาธิ หรือวิปากทุกข์ วิบากแต่ละคนมาไล่ถึง วิบากชั่ววิบากที่ทำให้เราทุกข์เหมือนหมาไล่เนื้อ ไล่ทันเป็นผลกรรมเก่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ พระพุทธเจ้าก็ต้องเจอทุกข์ ที่ที่ต้องถูกพระเทวทัตกลิ้งหินมาทับพระบาทเป็นต้น ท่านก็เล่าไว้ว่ามีวิบากอย่างไร จะต้องไปทรมานทรกรรมในป่า 6ปี ซึ่งเป็นเรื่องผิดไม่ใช่ทางปฏิบัติของศาสนาพุทธแต่เป็นการไปรับวิบาก ที่เคยไปตำหนิพระพุทธเจ้ากัสสปะ ในสมัยก่อน ก็ต้องเสียเวลาไปใช้หนี้บาปอยู่ในป่า 6 ปีซึ่งไม่ใช่ทางบรรลุ เราไม่ได้บรรลุธรรมในทางนั้น ไปปฏิบัติในป่าไม่บรรลุหรอกปฏิบัติอย่างงมงายไม่หลับหูหลับตาทำสมาธิก็ไม่ใช่ของพุทธ สิ่งเหล่านี้มันผิดเพี้ยนไปอาจจะมาก็ต้องมาฟื้นมาแก้กลับ ก็มีคนมาเข้าใจอย่างพวกเราชาวอโศก เขาก็ปฏิบัติตาม ส่วนผู้ที่ไม่เชื่อเขาก็ไม่ทำตามไปบังคับเขาไม่ได้ อาตมามั่นใจว่าสิ่งที่พูดนี้เป็นเรื่องจริงเป็นเรื่องดี แม้ว่าทุกข์ขันธ์ มีรูปขันธ์นามขันธ์ ขันธ์ 5 ก็ต้องให้มันสมดุล รูปก็ต้องสมดุล เวทนา สัญญา สังขารวิญญาณต่างๆ เราก็จะรู้รายละเอียดของขันธ์ทั้งหมด อะไรมันตั้งอยู่ไม่ได้ หรือจะต้องรักษาให้มันอยู่ ทุกข์ เป็นนัยละเอียดมากที่จะรู้ความสมดุลของชีวิตจิตใจ ให้ได้อยู่เป็นรูปธรรมนามธรรมขนาดนี้ เวทนาเราจะทนทุกข์ลำบากขนาดนี้ เป็นทรถ ตามควรหรือไม่ต้องทน ทนไปทำไม ทนเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น สำหรับตัวเองจะทนไปทำไม ทนทำงานหนักหนาสาหัสลำบากลำบนเหน็ดเหนื่อย ก็ทนเพื่อผู้อื่นแต่ไม่ต้องทรมานอย่าให้มันเกินขีด จนกระทั่งทำความเสื่อม ทำความไม่สมดุล ทำให้เราเสียสภาพและก็ตายไว หรือจะเกิดอุปัทวเหตอะไรอย่างนี้เป็นต้น จะเข้าใจสิ่งเหล่านี้จริงๆไม่ใช่มีแต่ปากพูด หรือพระพุทธเจ้าสอนไว้แต่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย พิสูจน์ไม่ได้ไม่ใช่นี่พิสูจน์ได้ โดยเฉพาะอริยสัจ 4 ทุกข์ที่เลี่ยงได้หมดทุกข์ ทุกข์ที่จะต้องโศกปริเทว ทุกข โทมนัส อุปายาสะ โทมนัสทุกข์ภายในหรือมีเศษทุกข์อุปายาสะ เราจะรู้อาการของทุกข์ของสุขในจิตว่าเราไม่มีสิ่งเหล่านี้ กระทบสิ่งที่เป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ มันก็ไม่มีความทุกข์ไม่เกิดความทุกข์ จะอ่านออกเมื่อเราทำได้บรรลุอรหันต์ในชาติของคนนี้ สันตาปทุกข์ ทุกข์ที่มีความร้อนรนเผาใจเนื่องในกิเลสราคะโทสะโมหะ มันเผาจิตใจให้รุ่มร้อนไม่เย็นไม่สบายเลย มันเป็นทุกข์ที่เลี่ยงได้ เราก็ทำให้มันออกไปหมดได้ ไม่มีทุกข์ที่จะต้องเกิดสภาพต้องทนต่อไฟราคะโทสะโมหะ ไม่ต้อง อย่างนี้เป็นต้น ทุกข์ที่มันร่วมอยู่กับชีวิต เราก็จะมีลาภยศสรรเสริญ เราก็จะมีโลกียสุขที่เขายัดเยียด แต่เราไม่ได้หลงติดมัน มีลาภเอาไว้ทำงาน อาตมาไม่มียศ แต่ก็มียศ คนกราบไหว้อยู่ทุกวันถือว่าเป็นหลวงพ่อใหญ่เป็นพ่อครู เขาเคารพจากจิตใจของเขาจริงๆจิตใจของเขาเคารพจริงๆอย่างนี้เป็นต้น มีลาภโดยธรรม มียศโดยธรรม มีสรรเสริญ คนยกย่องอาตมาก็มีคนนินทากล่าวร้ายก็มี อาตมาก็ไม่ได้ติดใจ อาตมาว่าคนสรรเสริญมีน้อย คนที่ด่าว่ามีมากอาตมาก็เลยจะพิสูจน์อยู่ให้นานหน่อย จนกว่าจำนวนปริมาณคนในประเทศไทย ถ้าอาตมาอยู่ได้ถึงร้อยปีขึ้น 120 ปีคงจะชัดเจน อาตมาว่าพิสูจน์ไปถึง 120 คนจะตำหนิน้อยจะนับถือมากขึ้น แม้แต่ในประเทศไทยหรือประเทศนอกก็ตามจะมานับถือจะมาเข้าใจ ว่าเป็นคนที่ดีจริงรู้ของจริงรู้สัจธรรมจริง พิสูจน์ได้ เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่พูดเพ้อเจ้อหรือพูดปากเปล่า อาตมามั่นใจว่าจะค่อยๆเป็นจริงขึ้นเรื่อยๆ อาตมาจึงจะต้องพยายามรักษาชีวิตเพื่อพิสูจน์ความจริงนี้ ไม่ใช่อยากใหญ่อยากดัง แต่มันห้ามไม่ได้ถ้าเผื่อว่ามันจะดัง เอ้าจริง มันห้ามไม่ได้หรอก แต่ไม่ได้คิดอยากดัง แต่ทำความจริงให้เป็นประโยชน์ ทำให้เป็นสิ่งปรากฏอย่างน้อยพิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้าโลกุตรธรรม อารยธรรมความเจริญของมนุษยชาติเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่เจริญอย่างที่คุณเข้าใจ อย่างโลกียะ ชาวโลกที่เป็นเทวนิยมเป็นปุถุชนเข้าใจ มันไม่ใช่อย่างนั้น อันนี้มันยิ่งกว่านั้น อย่างนี้เป็นต้น อาตมาก็จะยืนยันอันนี้เพื่อที่จะให้คนเชื่อมั่นว่าอาตมามีธรรมะพระพุทธเจ้า แล้วธรรมะพระพุทธเจ้า ก็จะมีคนเชื่อถือนับถือ แล้วก็ช่วยกันมาร่วมรังสรรค์ต่อไปได้ให้ถึงครบ 5,000 ปีถ้าอาตมาไม่มาประกาศธรรมะพระพุทธเจ้าที่เป็นโลกุตระ เถรสมาคมไม่ได้มีโลกุตรธรรม เพราะฉะนั้นศาสนาพุทธมันจะไม่เหลือเชื้อโลกุตรธรรมแล้วมันจะไปถึง 5000 ปีได้อย่างไร ปล่อยให้เถรสมาคมเขาทำลายไปหมด ขออภัยที่พูดความจริง เปรี้ยงๆเลย อาตมาพูดตรงๆอย่างนี้มานานจนเขาไม่ถือสาแล้ว เพราะพูดจริงพูดเปรี้ยงเลย ไม่กระบิดกระบวนเหมือนผู้หญิงผู้ชายจีบกัน ไม่ทำอย่างนั้น รำคาญตายชักแต่จะพูดฟันเปรี้ยงๆเลย ยินดีหรือไม่ยินดีก็แล้วแต่ใคร อย่างนี้เป็นต้น ศีลพาไปนิพพาน เดี๋ยวนี้เขาไม่เข้าใจว่าศีลพาไปนิพพานแล้ว เขาเข้าใจว่าศีลจะทำให้เป็นคนดี ดีนั่นเป็นโลกียะและเป็นโลกุตระ ศีลจะพาให้มีความดีถึงขั้นโลกุตระด้วย ศีลจะพาให้เจริญในโภคทรัพย์ อย่างอาตมาทุกวันนี้ไม่ได้หาเงิน อาตมาไม่ได้มีค่าตัวในการพูดบรรยายค่าทำงาน ไม่มี จริงๆอา อาตมาเป็นคนอายุเกิน 60 รัฐบาลให้เบี้ยผู้สูงอายุ 500 บาท สำหรับคนอายุ 60 ปี ถ้าอายุ 80 ปีก็จะได้ 900 แต่ว่าอาตมาไม่เคยไปรับ นอกนั้นคนต่างๆ อาตมาก็ไม่ได้ไปรับจ้างใคร คนเอามาให้ก็ด้วยใจบริจาค ให้อาตมาเอามาทำประโยชน์ อาตมามีปณิธานว่าเงินที่คนเอามาบริจาค ถ้าหากอาตมาจะตาย เพราะตอนนี้กำลังหิวข้าวถ้าไม่กินจะขาดใจตาย อาตมาก็จะไม่ใช้เงินที่เขาบริจาคมาให้นี้ไปซื้อข้าวกิน ถ้าจะตายให้มันตายไปเลยถ้าไม่มีใครหาข้าวให้กิน ตาย หรือเจ็บป่วย หากเจ็บป่วยแล้วจะต้องใช้เงินนี้ไปให้ซื้อยาหรือว่าให้หมอรักษา ไม่มีใครมาจ่ายแทน ไม่มีใครมาช่วยจ่ายให้ เงินนี้ไม่ให้ วันนี้ที่เขามาบริจาคแล้วจะไม่เอามาใช้เพื่อการรักษานี้ หากตอนนี้จะตาย ถ้าไม่ซื้อยาอันนี้มาฉีดก็จะไม่จ่ายเงินนี้ไปซื้อยามาตายก็ตาย ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง เงินที่บริจาคให้อาตมาผ่านตัวเอง อาตมาจะสะพัดใช้เงินนี้เพื่อผู้อื่น ไม่ใช้เงินที่เขาบริจาคเพื่อชีวิตตัวเอง ตัวเองจะตาย แล้วจะต้องใช้เงินที่เขาบริจาคเพื่อตัวเองจะไม่ใช้ นี่เป็นปณิธานของอาตมา อาตมาก็ทำมาจนถึงทุกวันนี้ อาตมาภูมิใจนะ น่าภาคภูมิใจไหม ..ทำให้ได้บ้าง _อังคณา สุวรรณจินดา · กราบนมัสการพ่อท่านค่ะขอถามเรื่องเงินผู้สูงอายุที่รัฐบาลให้ตอนอายุ 60 นะคะ กับบัตรประชารัฐ ที่รัฐบาลให้ไปลงทะเบียนคนจน ชาวอโศกยังต้องไปขอรับไหม พ่อท่านบอกว่าชาวอโศก ไม่ต้องใช้เงิน พ่อครูว่า…ใครเห็นว่าจะไปรับก็ไปรับ ตามควร ชาวอโศกเราก็แล้วแต่ส่วนตัวแต่ละคนใครเห็นควรว่าไม่เอาก็ไม่เอา ใครเห็นควรจะเอาก็เอา แน่นอนคนชาวอโศกเป็นคนจน ถ้าจะว่าจริงแล้วเข้าข่าย แต่เราไม่ได้ไปสมัครไม่ได้ไปวุ่นวายอะไรไม่ไปแย่งคิว ไม่ไปแย่งหน่วยที่เขาต้องการจำนวนคนแล้วมีงบประมาณ หากคนครบเขาก็จะได้ หากคนไม่ครบ เงินเหลือรัฐบาลก็เอาไปใช้อย่างอื่นเราไม่ไปแบ่งจากรัฐบาลเราพึ่งพาตัวเองในหมู่กลุ่มของเราพอกินพอใช้เหลือเฟือ อาตมาจึงมั่นใจว่าพวกเรานี้เป็นนักเศรษฐศาสตร์ เป็นนักเศรษฐกิจที่ช่วยสังคมประเทศชาติอยู่ อาตมาไม่ได้พาคนไปฉุดเศรษฐกิจ ไปทำลายเศรษฐกิจ ทำลายด้วยการไปอบายมุขไปจ่ายค่าเหล้ายาการพนันการละเล่น ไปซื้อตั๋วดูละคร ไม่เอา เพราะว่าเราสบายแล้วเราไม่อยากสนุกสบายพวกนี้ จิตมันปล่อย จิตมันไม่ได้เกิดรสชาติทางโลกียเหล่านี้แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่า เราไม่มีสิ่งเหล่านี้แล้วเราก็เลยไปดูถูกดูแคลนเขา พูดข่มบ้างแต่ไม่ได้ดูถูกดูแคลน แต่มีเวลาวาระโอกาสที่จะเป็นคำพูดที่ควรจะต้องรู้ว่ามันเป็นเรื่องไม่ดีควรจะเลิก มันก็ซับซ้อนอยู่อย่างนี้ อย่างอาตมาว่า พวกอบายมุข พวกนี้ อาตมากระโดดออกจากจอโทรทัศน์ อาตมาเป็นดาราโทรทัศน์มาก่อนใครเคยรู้จัก รักรักพงษ์ บ้าง …. อาตมาดาราโทรทัศน์ ตั้งแต่ในยุคที่เป็นโทรทัศน์ขาวดำ อาตมาทำงานโทรทัศน์ตั้งแต่ พ.ศ. โทรทัศน์ช่องแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 อาตมาทำงานโทรทัศน์มาตั้งแต่เรียนไม่จบตั้งแต่พศ. 2499 อาตมาเรียนอยู่ปี 4 ปี 5 ก็ทำงานโทรทัศน์แล้วหาลำไพ่พิเศษ ตอนที่ยังเรียนอยู่เลย เมื่อจบออกมาก็ทำโทรทัศน์ คุณจำนงค์ก็บอก อาตมาตอนนั้นไม่ได้คิดจะทำโทรทัศน์คิดจะไปติดดาวเป็นทหาร คิดว่าจะมาหาลำไพ่เอา เป็นคนพิเศษ เราจะไปติดดาวน์มีเงินเดือนประจำ อันนี้ก็เป็นเงินหาลำไพ่ อาตมาก็ค่อยๆทำ ตอนแรกไปเป็นทหาร นายทหารติดดาวจบแล้วก็ไปติดดาวจะเท่หน่อย แต่ปีนั้นมันไม่มีตำแหน่งเลย แต่อาตมาเรียนจบแล้ว ต้องเลี้ยงน้อง 6 คนพ่อแม่ตายหมดเป็นพี่คนโต คนหนึ่งส่งไปเรียนอเมริกาด้วยทุนส่วนตัว พ่อแม่ตายหมดแล้วเราก็ต้องส่ง อยู่ในนี้ก็เรียนมหาวิทยาลัยอยู่หลายคน อาตมาเรียนจบออกมาก็ออกมาเช่าบ้านตั้งแต่เขาสร้างเลย ตอนนั้นขอเช่าด้วยเงิน 700 บาท อาตมาจบออกมาบรรจุโทรทัศน์เงินเดือน 750 แล้วเช่าบ้านเดือนละ 700 คิดดูสิ ต้องหาเงินพิเศษเอง จนกระทั่งได้เดือนละหมื่นสองหมื่น เพื่อที่จะออกมาเป็น ดร.เป็นข้าราชการมันขี่รถหลวง อาตมาขับรถติดแอร์คันแรกของประเทศไทย แอร์นี้ต้องแยกติดนะ อาตมาขับรถ ฟอร์ด คอร์แซร์ เป็นรถสาธิตเลย มันต้องเอารถดีๆมาสาธิตก็เอาคันนี้เลย ก็ติดแอร์ใส่เข้าไป แต่แอร์สมัยก่อนเลย ไดนาโมก็ปั่นไฟไม่พอ อาตมาต้องเข็นรถติดแอร์กลางตลาดหลายที แอร์ญี่ปุ่น สู้แอร์ยุโรปไม่ได้ อาตมาอยากเป็นพระเอกแต่ไม่ได้เป็น ถ้าเป็นก็คงไม่มาทางนี้ จะเด่นทางโน้นก็ได้พอสมควรนะ แต่ก่อนกล้องเบ้อเร่อ โทรทัศน์สมัยเก่า นี่ก็แสดงละคน สรุปแล้วชีวิตอาตมาอยู่ทางโลก มีเงินเดือนรายได้ 20,000 บาทเมื่อ60 ปีก่อน ตอนนั้นราคาทอง 1 บาทไม่เกิน 300 บาท เงินเดือนนายกฯ 8500 อาตมาได้เงินเดือนสองหมื่นบาทแล้ว เด็กหนุ่มอายุ 20 กว่า 30 อาตมาทำงานอยู่ทางโลกอายุ 36 ก็ออกบวช สรุปแล้วอาตมาอยู่ทางโลกไม่ได้แพ้ทางโลกหรอก ตอนนั้นจะตั้งบริษัทหัวใจสีชมพูเพื่อทำงานบันเทิงแล้ว ถ้าเกิดบริษัทนี้แกรมมี่อาร์เอสไม่ได้เกิดหรอก แต่อาตมาก็ไม่ได้ไปทางนั้น แต่เอาทางศิลปะมาใช้ในทางธรรมะ สรุปแล้วอาตมามาทำงานจนกระทั่งสร้างคนสร้างหมู่บ้านสร้างชุมชนที่มีชีวิตจริง มาเป็นคนจนมหัศจรรย์ เป็นคนจนที่มีแบบ คนจนที่เอาแบบพระพุทธเจ้ามา พระพุทธเจ้าเป็นกษัตริย์ มีลาภยศสรรเสริญเต็มที่ท่านก็มาจน แต่ท่านสร้างศาสนาใหม่ (พ่อครูไอ ตัดออกด้วย) สมณะฟ้าไทว่า…สมัยนั้นที่บ้านไม่มีทีวี ก็ต้องไปแอบดูโทรทัศน์ขาวดำที่บ้านคนอื่น ก็ไม่ค่อยรู้จักดาราสมัยก่อน แต่ได้ดูหนังโทน มันดังมาก มาฉายที่วัด เราต้องไปดู พ่อครูว่า…ถ้าต่อทางโลกอาตมาก็ต้องไปทำอย่างนั้นก็จะรวยแบบโลกๆ แต่มันไม่ไปแล้ว ดวงมันไม่ให้ไป บารมีไม่ไปทางโน้น เช่นเดียวกับพระพุทธเจ้าได้รับการพยากรณ์ถ้าจะไปทางโลกก็จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ แต่ถ้ามาทางธรรมะก็จะเป็นพระพุทธเจ้า อาตมาไปทางโลกก็คงจะเป็นเจ้าสัว ไม่ถึงจักรพรรดิ์ แต่ก็ต้องไป แต่ถ้ามาทางนี้ก็ต้องมาทางธรรมแต่บารมีอาตมาจะมาทางธรรมะ เหมือนกับพระพุทธเจ้า แต่ถ้าไปทางโลกก็ไม่ได้ตกต่ำอะไร แต่เมื่อบารมีของเราถึงแล้วมันไม่ไป เหมือนกับพระพุทธเจ้านี้ มีพราหมณ์มาทำนายหลายคนว่าจะไปทางโลกหรือทางธรรมก็ได้ แต่คนเดียวนั้นบอกว่ามาทางนี้ทางเดียว คือพราหมณ์โกณฑัญญะคนเดียว แต่อาตมาไม่ทราบวิบากชาติหน้าชาติโน้น จะต้องไปเป็นเจ้าสัวหรือไม่อย่างไร มันไม่รู้ว่าหมดหรือยังวิบากพวกนี้เป็นอจินไตย อาตมาไม่มีบารมีจะไปรู้กรรมวิบากอจินไตย พอรู้สิ่งที่พอรู้ได้ สิ่งที่รู้ได้เป็นธรรมะเป็นหลัก ธรรมะที่มีความจริง แต่ขนาดนั้นก็ไม่ได้เป็นพยัญชนะที่ออกมาง่ายๆ มันจะต้องค่อยๆออกมาขยายความจึงต้องเสียเวลา จะต้องทรมานทรกรรมร่างกายให้อยู่ยืนยาว เพื่อที่จะเอาธรรมะของพระพุทธเจ้าออกมาให้ครบให้มาก ทุกวันนี้ก็เอาออกมาอยู่ได้เรื่อยๆได้รับอยู่เรื่อยๆใช่ไหม มันก็ละเอียดลออลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ อาตมาก็ว่าเมื่อไหร่มันจะหมดธรรมะของพระพุทธเจ้าแต่ก็ยังไม่หมดในทุกวันนี้ อันนี้ก็ละเอียดอย่างนี้อันนี้ก็ละเอียดอย่างนั้นก็เอามาประกาศไว้ ก็สืบทอดไป สรุปแล้วมันเป็นเรื่องที่ช่วยสังคมมนุษยชาติ พระพุทธเจ้าไม่ได้ศึกษาอะไร ท่านศึกษาเรื่องความเป็นคน เรื่องความเป็นมนุษย์กับความเป็นสังคม นี่แหละ ทุกวันนี้ถึงเห็นว่าอาตมาก็ใช่แล้ว อันอื่นอาตมาก็พอเป็นไป จะไปก็เด่นได้ แต่ไม่เอาหรอก จะมาเอาเรื่องของมนุษย์และเรื่องของสังคมโดยเฉพาะธรรมะ ให้คนรู้จักธรรมะที่จะมาเป็นมนุษย์ที่ดี ที่ประเสริฐ ให้เกิดสังคมที่ประเสริฐ อย่างสังคมที่เราเป็นสังคมที่ประเสริฐเรียกว่า อาริยะ อาตมาใช้ศัพท์คำว่าอาริยะ เอาคำว่า อริยะกับอารยะมารวมกัน เขาก็ว่าไม่มีอาริยะ ในศาสนาพุทธไม่มีคำนี้ อาตมาก็ว่าคุณนี่ยังช้าไป จริงมันมีแต่มีน้อย อยู่ไหน?ก็ ศรีอาริยเมตไตรย เขาก็จำนน แต่แน่นอนมันใช้อยู่น้อยที่สุด แต่ถ้าศรีอาริยเมตไตรยคือตำแหน่งที่จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ข้างหน้า ไม่ใช่ชื่อบุคคลนะ คนไม่รู้ก็บอกว่าพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปชื่อพระศรีอาริยเมตไตรย ไม่ใช่ เหมือนกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นชื่อตำแหน่งไม่ใช่ชื่อบุคคล คำว่าศรีอาริยเมตไตรยไม่ใช่ชื่อบุคคลแต่เป็นชื่อตำแหน่ง คือผู้ที่จะมาเป็นพระพุทธเจ้าองค์ข้างหน้า อย่างเทวนิยมฝรั่งเศสเรียกพระเมสไซอาห์ พวกเราที่มาอบรมนี้ก็ดีแล้ว ผู้ใดเห็นว่ามาอยู่ที่นี่ได้ มา ยินดีต้อนรับ คุณจะมาแต่ตัวกับหัวใจก็ไม่มีปัญหา ไม่ต้องมีทรัพย์ศฤงคารมีข้าวของ คุณมาแล้วอยู่ให้ได้ มาที่นี่ก็จะต้องเป็นคนที่อยู่ในหลักเกณฑ์ อย่างน้อยไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่มีอบายมุข และต้องมีศีล 5 ศีล 5 แม้จะยังไม่มีเข้มข้นก็ต้องมาฝึกฝนศึกษาให้ได้ แต่ถ้าคุณละเมิดศีล 5 หยาบๆเขาก็ไม่ให้อยู่ต้องเชิญออก แต่ถ้าศีล 5 สังวรได้ดีเจริญดีก็จะเพิ่มศีล 8 10 43 จุลศีล มัชฌิมศีลมหาศีล ก็จะเกิด อธิศีลเกิดจิต เป็นอธิจิตเกิดปัญญา อธิปัญญาจนเป็นวิมุติ วิมุตติญาณทัสสนะ ดูว่าเราจบกิจแล้ว อย่างนี้เป็นต้น ก็จะเกิดศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติ วิมุตติญาณทัสสนะอย่างแท้จริง ที่อาตมากำลังอธิบายเพื่อที่จะให้เห็นว่า ธรรมะพระพุทธเจ้านั้นมีศีลเป็นหลักเกณฑ์ เบื้องต้น ศีล จะเป็นตัวกำหนดสมาธิ ศีล จะเป็นตัวกำหนดปัญญา ศีล จะเป็นตัวกำหนดวิมุติ ศีลข้อที่ 1 เกี่ยวกับสัตว์ คุณอยู่ร่วมกับสัตว์ทั้งหลายแหล่ คุณจะต้องมีจิตเจริญที่เห็นสัตว์เป็นผู้ที่เกิดแก่เจ็บตายเป็นเพื่อนทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กสัตว์น้อยสัตว์ใหญ่ยิ่งสำคัญเป็นคนคุณจะต้องอยู่กับคน คนนี่แหละ จะเป็นตัววิบากที่แก้แค้นกันเยอะ คนที่มีวิบากถึงขั้นว่า คู่วิบาก ในสังคม มนุษยชาติในชาตินี้ คู่วิบากอาจจะถึงขั้นมาฆ่าคุณตาย คุณก็อโหสิให้ได้ อย่าต่อวิบาก อย่าไปพยาบาทแก้แค้นกันอีก หากถูกฆ่าตายก็ถือว่าใช้หนี้วิบากไปอย่างนี้เป็นต้น ก็ต้องพยายามศึกษาฝึกฝนกว่าจะทำใจให้ได้อย่างนี้ไม่ง่ายนะมันไม่ใช่ธรรมดา ถ้าทำได้คุณก็จบของคุณอโหสิ กับสัตว์กับคน เอาล่ะ สัตว์ก็อโหสิมัน คุณจะมีวิบากกับสัตว์จนมันมาทำร้ายคุณจนตายไม่ว่าจะสัตว์ตัวใดก็แล้วแต่ มันก็เรื่องของคุณเป็นวิบากของคุณ สุดท้ายมันหลีกเลี่ยงไม่ได้คุณจะต้องเจอคุณจะต้องตาย ถูกงูกัดตายหนักเข้าถูกยุงกัดตายคนก็ต้องตาย ไข้เลือดออก ไข้มาลาเลียก็ตาย อย่าดูถูกว่ายุงมันฆ่าคนไม่ได้นะ มันตัวน้อยมันฆ่าไม่ได้หรือ วิบากเป็นเรื่องซับซ้อน ถ้าคุณปฏิบัติธรรมแล้ววิบากนี้จะค่อยๆหลุดพ้น วิบากจากสัตว์ด้วยกัน ศีลข้อที่ 1 เกี่ยวกับสัตว์ ทั้งรักทั้งชัง ไม่ใช่ 16 ปีแห่งความหลัง ไม่ใช่นะ มันมากกว่าล้านปีแน่ะ เราต้องใช้หนี้วิบากพวกนี้จริงๆจนกระทั่งปลอดวิบาก วิบากที่เกี่ยวกับสัตว์ อาตมาเกิดมาในชาตินี้วิบากเกี่ยวกับสัตว์ไม่มี สัตว์มีพิษภัยอะไรมาทำร้ายไม่ค่อยมี แม้แต่กับคนก็ไม่มีใครมาเตะต่อย มีแต่เขาด่าเขาว่า แต่ทุกวันนี้อาตมาพิสูจน์ความจริงคนเขาด่าลดน้อยลง คนด่าก็ยังมีอยู่คนไม่รู้ก็ด่ามาธรรมดา เขาก็ได้วิบาก อาตมาไม่ใช่คนควรด่า อาตมาเป็นคนที่ควรยกย่อง ไม่ได้มายกยอตัวเองแต่มันเป็นจริง แต่เขาไม่รู้ เป็นอวิชชาเขาก็ได้วิบากของเขา แต่ถ้าเขารู้เหมือนกันแต่เขายังอดไม่ได้ มันก็ต้องเป็นวิบาก ยิ่งวิบากหนัก คนไม่รู้มาด่าก็มีวิบากขนาดคนที่เขารู้ว่าอาตมาเป็นคนควรเคารพนับถือแต่เขาก็ยังด่าอีก มันเป็นความซับซ้อน เป็นสภาวะซับซ้อนที่บาปหนักกว่าคนไม่รู้ แต่คนที่รู้ทั้งรู้ว่าอาตมานี้ไม่ควรด่าควรจะยกย่อง ถึงแม้ไม่ชมก็ควรยกย่อง ยิ่งคนที่รู้แล้วว่าอย่าว่าแต่ด่าเลยควรยกย่องชมเชย ควรประกาศให้คนอื่นรู้ตามด้วย อย่างเช่นอาตมายกย่องคนที่ควรยกย่อง ควรช่วยกันสนับสนุนส่งเสริมเป็นต้นอย่างเช่นในหลวงรัชกาลที่ 9 แม้แต่ขณะนี้ พลเอกประยุทธ์ที่ทำงานรับใช้สังคมประเทศชาติอยู่อย่างนี้ สารพัดถูกเกลียดชังมากมาย ก็ต้องพยายามช่วยสนับสนุนอย่างนี้เป็นต้น ในการศึกษาความเป็นมนุษย์ความเป็นกรรมวิบากที่เป็นอจินไตย มันลึกซึ้งซับซ้อนเป็นพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ตรัสรู้เรื่องนี้ ศาสดาทางเทวนิยม ที่เขาไม่ใช่แบบพุทธอเทวนิยม เขาไม่เข้าใจอย่างนี้หรอก แต่ผู้ที่มีภูมิปัญญาพอสมควรทางด้านโน้นก็ตาม เขาจะรู้ว่า อันนี้ลบหลู่ไม่ได้นะ จนกระทั่งสุดท้ายเขาจะเห็นชัดว่า อย่างพุทธนี่มันคือโลกุตระ มีชั้นที่จะต้องเลยไปอีกโลกหนึ่งเป็นโลกุตระ เขาจะค่อยๆรู้ คนเทวนิยมก็รู้ได้ รู้ตามบารมี บางทีศาสดาของศาสนาเทวนิยม บางคนสามารถมีบารมีข้ามมาหาโลกุตระได้ ศาสดาบางศาสนาเทวนิยมไม่มีบารมีจะมาเข้าใกล้โลกุตระเลย ดีไม่ดีจะเป็นปฏิปักษ์กับโลกุตระ ก็เป็นจริงเลยไม่แปลก ดีไม่ดี ทำลายกันเลย แม้แต่ศาสดาก็มาทำลาย แต่ถ้าบารมีของผู้ที่มีความจริงที่แท้แล้วแม้แต่ศาสดาของศาสนาอื่นก็ทำลายเราไม่ได้ ศาสดามีอิทธิพล ศาสดาของแต่ละศาสนามีอิทธิพล แต่ขนาดนั้นศาสดาก็ทำลายไม่ได้ สรุปเข้าใกล้ตัว พวกเราเมื่อมาพบศาสนาพุทธนี้มันเป็นบุญมากไม่ใช่บุญน้อย วันนี้ก็หมายความลึกซึ้ง อาตมาขยายความคำว่าบุญ บุญคืออาวุธฆ่า คือนักฆ่า คือสิ่งที่คนจะต้องไม่มีให้ได้ในชีวิต พระอรหันต์ทุกคนหมดบุญ พระอรหันต์คือผู้ที่สิ้นบุญสิ้นบาป ปุญปาปปริกขีโณ เป็นผู้หมดบุญหมดบาป ถ้าอาตมาไม่เกิดมา ไม่มีใครมาอธิบายอย่างนี้ได้หรอก ดีนะที่มีหลักฐานในพระไตรปิฎก ถ้าไม่มีเขาก็หาว่าอาตมาพูดเอาเองเขาไม่เชื่อหรอก แต่นี่เขาเถียงไม่ออกเพราะมันมีอยู่ในตำรามีพยัญชนะบาลี พระพุทธเจ้าก็ตรัสเอาไว้อย่างนี้เป็นต้นก็อ้างอิงในพระไตรปิฎก เขาก็เถียงไม่ได้ บุญเป็นเรื่องที่คนไม่ควรจะมี ที่ต้องมีอยู่คุณก็ต้องสร้าง แล้วบุญนี้ลึกซึ้งสร้างได้แต่ในปัจจุบันเท่านั้น เป็นพลังงานไม่เป็นสสารไม่ตกผลึกเป็นสสาร แม้แต่พลังงานก็ไม่ตกผลึกเกินกว่าปัจจุบัน บุญนี้ เป็นพลังงานที่ปรุงแต่งได้ในขณะปัจจุบันนี้เท่านั้น ทำงานเพื่อที่จะล้างกิเลสแล้วมีหน้าที่ล้างกิเลสอย่างเดียวฆ่ากิเลสอย่างเดียว แล้วบุญนี้มีปัญญามีความลึกซึ้งมีธาตุรู้ในตัว ไม่ไป เหลื่อมไม่ไปเฉือนสิ่งที่ไม่ใช่กิเลสเลย ฆ่าแต่กิเลสโดยตรงบุญมีละเอียดลอออย่างนั้น มีหน้าที่ฆ่ากิเลสอย่างเดียวฆ่าเสร็จแล้วก็สูญหายเลย ถ้าบุญไม่เป็นอย่างที่อาตมาอธิบาย นิพพานก็ไม่มี เพราะนิพพานสูญเลยไม่มีอะไรอีก ถ้าบุญก็ไม่สูญ แล้วคุณจะมีนิพพานได้อย่างไร นิพพานก็มีอยู่ในปัจจุบันเท่านั้นเป็นที่จะทำนิพพานทิฐิ ทิฏฐิที่คุณจะรู้นิพพานในปัจจุบันหมดปัจจุบันไม่มีนิพพาน คุณมีชีวะจิตวิญญาณคุณมีธาตุรู้ในปัจจุบัน คุณก็ทำจิตว่างในปัจจุบัน หากในปัจจุบันนี้ ไม่ว่างแล้ว แต่ในขณะพูดนี้จิตว่างซ้อนในขณะที่พูดนี้ ยิ่งลึกซึ้งซับซ้อน จิตที่ว่างด้วยแล้วก็ขณะที่ปรุงแต่งเหมือนมันไม่ว่าง อาตมาพูดดัง แรง เหมือนกับคนโกรธ คนอาฆาต อาฆาตใคร อาฆาตกิเลส เหมือนกับอย่างนั้นแต่เราไม่ได้อาฆาตแล้ว นี่คือพยัญชนะภาษาที่เป็นสิริมหามายา พูดเหมือนคนตลบตะแลงกลับกลอก พูดเต็มๆคือตอแหล พูดอย่างนี้ได้แต่มันไม่ใช่อย่างที่พูด พูดอย่างนี้จริงๆ แต่คนฟังเห็นไปอีกอย่างนึงเลย อาตมาก็กำลังขยายความสิริมหามายาอีกคำหนึ่ง เป็นนักเล่นกลสิริมหามายา เป็นนักเล่นกลที่อันนี้มีนะอันนี้ไม่มีนะ ทำให้ไม่มีก็ได้ทำให้มีก็ได้ทำให้หายก็ได้ ทำให้ตายก็ได้ทำให้เกิดก็ได้ โดยที่คนอื่นไม่รู้ตาม เพราะฉะนั้นคนศรัทธาเท่านั้นเชื่อถือเท่านั้น ท่านยืนยันอะไรคืออันนั้นใช่ เป็นสิ่งที่ลึกซึ้งและไกล อาตมาพูดอย่างโพธิสัตว์ระดับ 7 ขั้นธรรมดาทำไม่ได้หรอก โพธิสัตว์ระดับ 4 เป็นอรหันต์ ระดับ 5 อนุโพธิสัตว์ระดับ 6 ก็ยังพูดอย่างนี้ไม่ได้ ยังอธิบายอย่างอาตมาไม่ได้ ขออภัยที่ต้องพูดอีกที อย่างในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเราเป็นโพธิสัตว์ระดับ 6 แต่ท่านแสดงได้โดยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ท่านแสดงออกมาเป็นกายกรรม วจีกรรม 70 ปีที่ท่านสร้าง เป็นผู้ที่ทำงาน ภาษาโลกคือท่านรับใช้ ตามหน้าที่ฐานะของท่าน ไม่มีวันพักผ่อน คนถึงได้ซาบซึ้ง เพราะว่าท่านบริสุทธิ์ใจจริงๆ คนที่มีจิตใจสะอาดก็จะนับถือท่านบูชาท่านอย่างลึกซึ้ง รู้ว่าจิตใจโลกุตระของในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านสะสมมา 70 ปีเมื่อท่านสวรรคตก็เกิดการร้องไห้กันทั่วประเทศ แล้วไปแออัดกันอยู่ที่สนามหลวง ท่านก็แสดงออกเรียกว่า Bomb of love ระเบิดแห่งความรัก ใครไปบังคับให้คนไปกัน ถามจริง นั่งอยู่ที่นี่ไปสนามหลวงกันไหม ใครบังคับคุณไป คุณศรัทธาบูชาเคารพพระองค์เองใช่ไหม อาตมารู้อีกหลายอย่างเช่นไอน์สไตน์เป็นโพธิสัตว์ก็เพราะว่ามีจิตเป็นโลกุตระอย่างนี้ แล้วไอน์สไตน์ อาตมารู้ก็เพราะว่าแกเขียนจดหมายเรื่อง bomb of love ให้ลูกสาวเอาไว้ แกก็อธิบายไม่ได้เหมือนกันก็บอกลูกไว้ แต่บอกว่าจะมีปรากฏการณ์นี้ในอนาคต แกบอกว่าที่พ่อเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ทำระเบิดปรมาณู พ่อยังอธิบายให้คนเข้าใจไม่ได้เลย คนยังรู้ตามได้ยากเลย แต่อันนี้เป็นนามธรรม ก็เขียนไว้เป็นจดหมายให้ลูกเอาไว้ คนก็เอามาเปิดเผย อาตมาก็ได้อ่านก็เลยรู้ว่าไอน์สไตน์รู้จัก Bomb of love รู้จักโลกุตรธรรม ถึงชัดเจนว่าไอน์สไตน์เป็นโพธิสัตว์ แต่แกก็มีความรู้เท่านั้น ตามบารมี แม้ว่าอาจจะมาตอนนี้ก็ยังตอบไม่ได้ว่าเป็นโพธิสัตว์ระดับไหนสำหรับไอน์สไตน์ แต่สำหรับในหลวงพอจะบอกได้ว่าสูงกว่าไอน์สไตน์ นี่ก็เป็นเรื่องอจินไตย เรารู้ได้ด้วยการแสดงออก พระพุทธเจ้าบอกว่าเราจะรู้จักกันได้อย่างชัดเจน ว่ามีอาริยธรรมอาริยคุณด้วยการอยู่ด้วยกัน คบคุ้นกัน รู้จักกายกรรมวจีกรรม แล้วมโนกรรมจะลึกซึ้งเข้าไปได้ รู้ด้วยการคบคุ้น เข้าใกล้กันแล้วจะรู้จักกันได้ว่าพรุ่งนี้เป็นอะไรอย่างไรจนกระทั่งถึงอดีตชาติ แม้อดีตชาติอาตมาก็ยังระลึกไม่ได้มากไม่เก่ง รู้ของคนอื่นไม่ค่อยได้ ดูของตัวเองที่พอสมควรเท่านั้น อย่างเช่นพระพุทธเจ้าท่านรู้เลยว่าคนนั้นคนนี้จะมีวิบากอย่างไรมา ท่านก็อธิบายไว้ได้อย่างในชาดก 500 ชาติ อย่างนี้เป็นต้น มีความสัมพันธ์ของคนเป็นอย่างไร ท่านก็ยกตัวอย่างเสร็จแล้วก็บอกว่าอันนี้คือคนนั้นอันนี้คือคนนี้ ท่านก็รู้ของท่านและของคนอื่น สมณะฟ้าไทว่า…แม้แต่พระพุทธเจ้าพระองค์ก็รู้อนาคตที่ยาวไกลด้วยว่าจะไปทำชั่วทำดีอย่างไร พ่อครูว่า…รู้แม้กระทั่งว่าจะต้องเกิดจะต้องไปลำบากหรือไม่ลำบากจะรวยจะจน มีชื่อนั้นชื่อนี้ อาตมาอยู่ในโพธิสัตว์ระดับ 7 ตามพยัญชนะ อาตมาเกิดมาในชาตินี้ต้องมาชื่อ รัก เดิมไม่ชื่อรักหรอก อาตมาเริ่มต้นตั้งแต่เด็กชื่อมงคล สมเด็จอ้วน สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เป็นสังฆนายกองค์แรกของประเทศไทย เป็นคนตั้งชื่ออาตมา เพราะลุงของอาตมาไปขอให้ท่านตั้ง ชื่อเดิมอาตมาชื่อ สไมย์ นามสกุลจำปาแพง หรือมีสุวรรณกูฏ ที่เป็นนามสกุลทางแม่ จำปาแพงเป็นนามสกุลทางพ่อ จะมาสืบเชื้อสายทางเจ้าคำผง ชื่อท้าวกุทอง สุวรรณกูฏ อาตมาเชื้อตระกูลเจ้าเมืองอุบลนี่แหละ เป็นลำดับชั้นที่ 7 เป็นลูกหลานเจ้าเมืองชั้นที่ 7 ก็เกิดมาชาตินี้อาตมาก็ต้องมารับช่วงต่อ ที่จะทำงานให้แก่สังคมเมืองอุบล ซึ่งมันก็เป็นประโยชน์คุณค่า อย่าว่าแต่เมืองอุบลเลย มันเป็นเรื่องของมนุษยชาติไปทั้งโลก เพราะว่าเป็นความรู้ของพระพุทธเจ้าทำให้คนเป็นอาริยะ ทำให้เป็นสังคมอาริยะ ซึ่งโลกทุกประเทศมันจะต้องมาเอาอันนี้ ขณะนี้ประเทศไทยจึงเป็นตัวอย่างไปได้เรื่อยๆ เช่นได้รับการประกาศว่าเป็นประเทศที่มีความทุกข์น้อยที่สุดเป็นอันดับที่ 1 มา 4 ปีแล้วซ้อน ซึ่งก็จริง เป็นประเทศที่ทุกข์น้อยที่สุดหรือเรียกอีกภาษาว่าสุข เขามีตัวเลข 2.1 เป็นเรื่องที่สำนัก บลูมเบิร์ก เขาตรวจสอบกัน เมืองไทยเป็นเมืองสุขสงบอบอุ่น อย่างที่มันมีของจริงที่อธิบายยากมาก เช่นเป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ เป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆนี่ ประชาธิปไตยนี้เป็นแบบของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเป็นนักประชาธิปไตยเบอร์ 1 ของมหาจักรวาล ท่านเป็นประชาธิปไตยมาตั้งแต่ในยุคของท่านท่านได้ปลดแอกปลดจากศักดินา ให้เป็นอิสรเสรีภาพมาไม่มีทาสไม่มีศักดินา ตั้งแต่ในยุคโน้น เป็นคนที่มีเศรษฐกิจเศรษฐศาสตร์สูงสุดบริหารโดยไม่ต้องบริหาร รู้จักหน้าที่รับผิดชอบกัน โสดาบันเสมอกับโสดาบัน สกิทาคามีเสมอกับสกิทาคามี อนาคามีเสมอกับอนาคามี อรหันต์เสมอกับอรหันต์ ช่วยเหลือเกื้อกูลสังคมอย่างลึกซึ้ง รู้จักฐานะรู้จักตำแหน่งหน้าที่ รู้จักการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน พี่เลี้ยงน้องพ่อแม่เลี้ยงลูก ซึ่งเป็นเรื่องสุดลึกสุดยอด สมณะฟ้าไท..สรุปจบ Category: ศาสนาBy Samanasandin26 เมษายน 2019Tags: พุทธศาสนาตามภูมิวิถีอาริยธรรมสำมะปี๋ซี่วิต Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:620424_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ สรุปพรหมชาลสูตรขึ้นสามัญผลสูตร ตอน 1NextNext post:620428_วิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ ธรรมาวุธ 3 คือ ความจริง ความสงบ ความถูกต้องRelated Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024