620527_พ่อครูเทศน์ก่อนพิธีฌานปนกิจศพ ดร.ร้อยขวัญพุทธ มุ่งมาจน
พ่อครูว่า….คนที่มีคนหามมาสู่เมรุสุดชีวิตแห่งนี้ …ก็เป็นที่ๆทุกคนต้องเดินมาถึง คนจนคนรวย คนต่ำคนสูง ก็จะต้องเดินมาถึงตรงนี้ทั้งนั้น เป็นแต่เพียงว่า ก่อนจะตายนั้นคนเราได้เกิดมาเป็นคนในโลกนี้ แต่ชีวิตนี้ยังไม่ตายก็เอาแต่วิ่งไล่หาเงินหาทอง แม้แต่จะโกงเขาทุจริตเขาเ พื่อได้มาซึ่งเงินทองทรัพย์สินยศศักดิ์ก็ทำไป
คนเรานี้มีกรรมเป็นทุกอย่างของเรา กัมมัสโกมหิ กัมมทายาโท เรามีแต่กรรมเท่านั้นที่เป็นของเรา กรรมชั่วก็เป็นมรดก กรรมดีก็เป็นมรดกทั้งนั้น เราทิ้งไม่ได้ ทำกรรมใดชั่วดีจะเบาจะแรงจะหนัก จะบอกว่าเราไม่ได้ทำ ไม่ได้เป็นของเรา เราไม่เอา ก็ไม่ได้ทั้งนั้น ในศาสนาพุทธเราไม่ได้จบแค่ตาย ตายแล้วจะไปอยู่กับพระเจ้า แล้วแต่พระเจ้าจะบัญชาให้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรกอะไร เป็นอำนาจสิทธิ์ขาดของพระเจ้าก็ไม่ใช่ ศาสนาพุทธนี้กรรมเป็นตัวบงการ จะไปนรกจะไปสวรรค์ หรือชีวิตจะไปนิพพานก็เราทั้งนั้นเป็นผู้ที่ศึกษาเรียนรู้ แล้วก็ปฏิบัติเอาหรือทำเอา ปฏิบัติกรรมของเราให้จบไปนิพพานได้
อย่าง ดร.อ้วน ร้อยขวัญพุทธ เกิดมาก็ไม่เสียชาติเกิด มีชีวิตแสวงหา แสวงไปแสวงมาจนกระทั่งมาพบกับพวกหมู่เรา แล้วก็ได้พากเพียรศึกษาปฏิบัติ จนกระทั่งเป็นอรหันต์ ร้อยขวัญพุทธ เป็นอรหันต์คนหนึ่งของชาวอโศก
คนเราทุกวันนี้ไม่รู้ได้ว่าความเป็นอรหันต์คืออะไร เพราะมันไปสร้างจิต สร้าง Concept ที่ผิดพลาด ไปเข้าใจผิดว่าความเป็นอรหันต์ต้องเป็นคนชนิดนั้นแบบนั้น แบบนี้ออกนอกรีตนอกทางไปเยอะแยะ
คนเป็นอรหันต์คือคนที่จะต้องรู้ตัวเอง รู้จิตตัวเอง ว่าจิตตัวเองมีทุกข์มีสุขหรือไม่ อาการจิตของเราเองเดือดร้อนหรือไม่เดือดร้อน แล้วเลิกทำชั่ว เลิกทำสิ่งที่ไม่ควรทำ ทำแต่สิ่งที่ดีเป็นชีวิตที่หมดความยึดมั่นถือมั่น สบายๆ ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจนหมดทุกอย่างถ้าตรวจสอบตาม หรือศึกษาที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ให้ดีๆก็จะรู้
มีคนถามอาตมาว่า อาตมาประกาศว่าอาตมาเป็นอรหันต์ เขาถามว่ารู้ได้อย่างไรเป็นอรหันต์ ก็ทำไมจะไม่รู้ ถ้าไม่รู้ว่าเราเป็นอรหันต์ จะไปบอกว่าเราเป็นอรหันต์ได้อย่างไร เราก็ต้องรู้ว่าเราเป็นอรหันต์ อรหันต์คือที่จิตใจเรา
1 รู้ อาการ ลิงค นิมิต อุเทส ของอาการจิตเราได้ชัด ในพระไตรปิฎกเล่ม 10 ข้อ 60 ให้ศึกษาให้ชัดเจนว่าอาการจิตเป็นอย่างไร แล้วอาการของกิเลสมันเป็นอย่างไร แล้วเราก็แยกกิเลสนั้นออกมา เป็นอาการไหน เป็นชีวิต มันมีชีวิตอยู่หรือมันไม่มีชีวิต เรียกว่ามันสิ้นอินทรีย์ของชีวิต สิ้นชีวิตินทรีย์ของมัน อินทรีย์พละของกิเลสมันไม่มีในจิตใจเรา แม้แต่ในเวลาใดวาระใด ถูกกระทบสัมผัสกับสิ่งที่เคยเกิดกิเลส เดี๋ยวนี้แม้มันกระทบแล้วมันก็ไม่เกิดกิเลส เราก็ต้องอ่านออก รู้อาการนั้นๆของจิตเรา เราจึงได้ตอบตัวเองได้บอกตัวเองได้ว่า สิ่งเหล่านี้มันไม่มีจิตเราเป็นอย่างนี้ แล้วเราก็อยู่กับโลกตามคำตรัสของพระพุทธเจ้า
ผู้ที่จะมีปัญญารู้อาการ ลิงคิ นิมิต ตามอุเทสของสัตบุรุษหรือที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ก็ตามตรวจสอบแล้วมันตรงกันหมดอย่างชัดเจนหมด อ้อ อาการอย่างนี้ มันจะรู้สภาวะของความเป็นอัตตา …เราไม่มีความเป็นอัตตานั้นในจิตของเรา เราก็ชัดเจนว่าเราเป็นอรหันต์
ในโลกยุคนี้ศาสนาพุทธก็ตาม จุดหมายปลายทางคืออรหันต์ของมนุษย์ เขาไม่รู้แล้ว พูดไปก็ไม่รู้เรื่อง พระพุทธเจ้าอธิบายไว้ เขาก็ไม่รู้เรื่อง นอกจากไม่รู้เรื่องแล้วเข้าใจผิดด้วย ไปสร้างภาพอรหันต์เก๊กันไปยึดติดมันก็เลยเลอะ กับอีกอย่าง หากว่าเป็นอะไรกันแล้วพูดหรือบอกคนอื่นไม่ได้ว่าเป็นอะไร อะไรงมงายกันไปหมดมีแต่อรหันต์เดา คนนั้นเป็นอรหันต์คนนี้เป็นอรหันต์หันเดรหมด เดาผิดๆด้วย ไม่ใช่เดาถูกๆด้วย มันก็เลยไปไกลทุกวันนี้ศาสนาพุทธอะไร
อาตมาเกิดในยุคนี้ก็มาดึงเอาความจริงมาประกาศ มาอธิบายยืนยันแล้วให้พิสูจน์กัน ให้เข้าใจกันจนกระทั่งแต่ละคนรู้ตัว จนกลายเป็นผู้ปฏิบัติ เป็นพระโสดาบัน สกิทาคามีอนาคามี อรหันต์กันไปตาม แม้จะมีความหลงผิดว่าเราเองเราบรรลุอรหันต์แต่เรายังไม่ถึงอะไรก็เถอะ เรายังไม่ได้บรรลุอนาคามีแต่เรานึกว่าเราเป็นอนาคามีก็ตาม มันก็ยังพอจะรู้ว่าแล้วโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์มันเป็นอาการอย่างไร จะคาดคะเนอ่านอาการของตนอย่างไรมันก็ยังไม่สูญ แต่ถ้าบอกว่ามันไม่มีอย่าไปเดา รู้แล้วเฉยนิ่ง มันก็เลยปกปิดครอบงำทับถมลืมเลือนหายกันไปหมด แล้วไปสร้างภพชาติที่เป็นภาพที่ผิดๆว่าเป็นอรหันต์ น่าสงสาร ซึ่งเห็นอย่างหยาบตื้นว่าไม่น่าเป็นแต่ก็ยังบอกว่าเป็นอรหันต์
ชีวิตเกิดมาไม่มีอะไรสำคัญหรอก การได้เงินทองทรัพย์สินรอบยศสรรเสริญสมบัติปัจจุบันก็ไม่ได้ติดตัวเราไปหรอก คุณธรรมคุณสมบัติที่เป็นกรรมการกระทำของเรา อันนี้มันเป็นวิบากเป็นส่วนที่จะติดกับ อัตภาพเราไป เราทำได้ดีสูงส่งขนาดไหน หรือไม่สูงส่ง กลายเป็นโลกียะ กิเลสหนาเตอะมันก็ติดตัวเราไป
เกิดมาทั้งชาติมีกรรมวิบากติดตัวเราไปให้สำคัญเรื่องนี้ อย่าไปหลงไหลได้ปลื้มกับลาภยศสรรเสริญโลกียสุขกันมากเลย แล้วมันพาเราตกต่ำ ไม่ได้คุณธรรมที่เป็นอาริยะคุณพวกนี้ มันน่าเสียดายชีวิตเกิดมาแล้วสูญเปล่า พระพุทธเจ้าเรียกว่าเป็นโมฆะบุรุษ เป็นคนเกิดมาตายเปล่าไปหลงงมงายอยู่กับลาภยศสรรเสริญโลกียสุข ตายไปแล้วเกิดมาอีกกี่รอบยศสรรเสริญโลกียสุขมันจะมาเป็นทายาท มาเป็นตัวเราพาเราไป ถ้าเราเป็นแล้วก็ไปต่อกิเลสนั้นอีก ลาภยศสรรเสริญโลกียสุขมันไม่ได้ตามใครไปเลย โลกียะไม่ได้ตามใครไปอย่าไปหลงมันมากเกิน
ให้สติให้รู้กันฟังให้ดี วันนี้เลิกสนใจเลิกเสียเวลากับมัน ชีวิตพอจะเลี้ยงขันธ์ได้อยู่กับงานการทางโลกได้เงินทองได้ลาภยศอะไร ให้มาศึกษาธรรมะให้ดีๆแล้วมาปฏิบัติก่อนจะตาย ก่อนจะไปอย่าง ดร.ร้อยขวัญพุทธ ได้สิ่งที่ดีติดตัวไปแล้วก็สบาย ชีวิตได้อย่างนี้แหละมันดีกว่าสมบูรณ์กว่าที่จะไปหลงเลอะเทอะ
อยู่กับชาวอโศกเราไม่ได้ปิดกั้นที่จะให้ไปแสวงหาลาภยศสรรเสริญ ก็ไปได้ คนที่เป็นชาวอโศกทำงานทางโลกอยู่ มีหน้าที่ตำแหน่งราชการก็ได้และเป็นคนดีของสังคมเป็นคนดีของประเทศด้วย ไม่เห็นเสียอะไรเลยมีแต่ดีกับดี เพราะฉะนั้นไปไตร่ตรองตรวจตราตัวเองให้ดีแล้วก็ทำชีวิตให้ได้ประโยชน์แก่ตัวเองแต่ละคนๆ ก่อนที่จะถึงกองฟอน วันสุดท้ายอย่างที่เป็นกันอย่างนี้ทุกคนเจริญธรรม