620607_พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก ปี 2562
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1cyo5089N7kGz0lYSB5aYbQ8F-Sd5RU5mAiRJLh1NUqY/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=11JlqW5SiT6WgQLpE49e-LMgc7X5AGkvp
พ่อครูว่า…วันนี้วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน 2562 ที่บวรราชธานีอโศก เขาบอกว่าวันนี้เป็นวันไหว้บ๊ะจ่าง คนเราก็สร้างพิธีกรรมขึ้นมา ตามแต่ละความคิดแต่ละคนแต่ละความเห็นของแต่ละกลุ่ม จัดให้มีขึ้นมาเพื่อให้เกิดพฤติกรรมโดยความรู้ความเข้าใจความเชื่อถือว่ามันจะเป็นองค์ประกอบที่จะทำให้เจริญ เจริญด้วย อายุวรรณะสุขโภคะ พละ
คนก็ทำหน้าที่ เมื่อคืนนี้ลมก็ทำหน้าที่ มีพายุเข้า พัดกระหน่ำ ที่อาตมานอนผ้าใบก็ถูกพัดกระแทก สนุก อย่างกับการตีกลองสะบัดชัย พืชผักผลไม้ก็ทำหน้าที่ของมัน แต่ละอย่างก็ทำหน้าที่ของมัน คนก็ทำหน้าที่ของคน โจรขโมยก็ทำหน้าที่โจรขโมย นักการเมืองก็ทำหน้าที่แย่งอำนาจกันไป พวกเราก็ทำหน้าที่ คนที่เขาเป็นนักธรรมะเขาก็ทำหน้าที่ของเขาอีกเหมือนกัน แต่ละกลุ่มคณะแต่ละความเห็น ก็มี Concept ของแต่ละกลุ่มจะมีหลากหลายแตกต่างกันไป นักธรรมะก็มีทิฐิไม่เหมือนกันทีเดียว ขนาดคนกลุ่มเดียวกันสีเดียวกันยังมีทิฐิมีความศรัทธาต่างกัน ก็มีความคิดองค์รวมจุดสำคัญ มันก็ไม่ตรงกันเป๊ะ จุดศูนย์กลางเดียวกัน มันจะมีเชิงซ้อน ในความเห็นแต่ละคนมันแตกต่างกันไปบ้าง
เช่นการจะไปนิพพาน นิพพานของชาวอโศก ถึงแม้จะบอกว่าเข้ากระแสโลกุตระมันก็ยังเหมือนยิงลูกศร ไปที่เป้าที่อยู่ไกล ทุกคนก็มุ่งหมายไปจุดนั้น แต่ว่าแต่ละคนจะยิงออกไปนอกเป้าไปตั้งเยอะใกล้บ้างไม่ใกล้บ้าง ใครจะตรงเป้าเป๊ะเลย ก็แล้วแต่ตัวใครตัวมัน ถ้าตรงเป้าเป๊ะ เช่นว่ามีสัมมาทิฏฐิ 10 เป็นต้น อย่างที่เราศึกษากัน ข้างนอกเขาไม่ได้ศึกษาสัมมาทิฏฐิ 10 เลย อาตมามั่นใจว่าเขาไม่ได้ศึกษา เพราะฉะนั้นจะยิงเข้าเป้านิพพานได้ที่ไหน
สัมมาทิฏฐิ 10 เป็นตัวที่ตะล่อมความเห็นให้ชัดเจนแล้วก็เข้ามาปฏิบัติตรงนี้ได้ ถ้ามีทั้ง 10 ข้อจึงจะได้นิพพาน โดยเฉพาะตั้งแต่ข้อที่ 10 มีผู้นำมีสัตบุรุษ มีสมณพราหมณ์ผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แล้วข้อที่10ยังมีกำกับไว้ว่า เป็นผู้ที่มีภูมิเก่าส ยังอภิญญา เป็นผู้รู้ด้วยตนเองไม่ใช่เป็นผู้ที่มารับความรู้จากใครอื่นในชาตินั้น เป็นผู้ที่มีบุญมาแต่เก่าก่อน ปุพเพกตปุญญตา คือมีเก่าก่อนผ่านมาแล้ว ผ่านมาแล้ว ได้ผลมาแล้วนั่นแหละคือ สยังอภิญญา เป็นผู้ที่มีของตน
เองมาแล้วก็เท่ากับไปว่า สมณพราหมณ์ทั้งหลาย เป็นผู้ดำเนินชอบ-ปฏิบัติชอบ ซึ่งประกาศโลกนี้-โลกหน้า ให้แจ่มแจ้ง เพราะรู้ยิ่งด้วย ตนเอง ในโลกนี้ มีอยู่ (อัตถิ โลเก สมณพราหมณา สัมมัคคตา สัมมาปฏิปันนา เย อิมัญ จ โลกัง ปรัญ จ โลกัง สยัง อภิญญา สัจฉิกัตวา ปเวเทนตีติ) คุณได้พบไหมเจอไหม
อาตมาเกิดมาในชาตินี้ได้พบกับพวกเรา คนอื่นเขาฟังก็จะรู้สึกหมั่นไส้ เกิดมาชาตินี้จำเป็นต้องบอก เพราะ Concept ของเขาไปเข้าใจความเป็นพระอาริยะโดยเฉพาะสัตบุรุษสัมมัคคตา สัมมาปฏิปันนา เป็นผู้ที่มีคุณธรรมที่ปฏิบัติได้มาก่อนในชาติก่อน ในชาตินี้ไม่ต้องมาเรียนไม่ต้องมาศึกษาจากใครจากอาจารย์ไหนสำนักไหน มีอริยทรัพย์ติดตัวมาแล้ว พูดแล้วจะเหมือนคุยตัว แต่เป็นเรื่องความจริงอยู่ในนั้น ที่พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสไว้ล่วงหน้า เพื่อที่จะยืนยันความจริงต่อมนุษยชาติต่อสังคมบอกไว้ว่าจะมีอย่างนี้เนอะ
เพราะฉะนั้น อัตถิโลเก ในยุคนี้จะมีคนอย่างนี้หาให้เจอ เป็นคนอย่างไร คือคนรู้ อัตถิทินนัง อัตถิยิตถัง
เป็นส่วนแห่งบุญ(ปุญญภาคิยา) ให้ผลวิบากแก่ขันธ์(อุปธิเวปักกา).
1.ทานที่ให้แล้ว มีผล(ให้กิเลสลด) (อัตถิ . ทินนัง) . . . .
2.ยัญพิธี (พิธีการปฏิบัติ) ที่บูชาแล้ว มีผล (อัตถิ ยิฏฐัง)
3.สังเวย(เสวย)ที่บวงสรวงแล้ว มีผล (อัตถิ หุตัง)
-
ผลวิบากของกรรมที่ทำดีทำชั่วแล้ว มีแน่ (อัตถิ สุกตทุกกฏานัง กัมมานัง ผลัง วิปาโก) . .
-
โลกนี้ มี (อัตถิ อยัง โลโก) หมายถึง วนในโลกีย์เดิมๆ . .
-
โลกหน้า มี (อัตถิ ปโร โลโก) หมายถึง โลกโลกุตระ .
-
มารดา มี (อัตถิ มาตา) . . .
-
บิดา มี (อัตถิ ปิตา) . .
-
สัตว์ที่ผุดเกิดอุปปัติเอง มี (อัตถิ สัตตา โอปปาติกา) . . .