620701_รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 56
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1sUhjdyOrzuQaNE0c8ybvifyrky48WPc_H-qjTbqsvEk/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่ https://drive.google.com/open?id=1Vr7dpYBOCAgwgGfR4fTXk1IWlqaCspTs
พ่อครูว่า…วันนี้วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม 2562 ที่ราชธานีอโศก วันเวลาก็เคลื่อนไป ศาสนาพุทธมีกรรมกับกาละ
SMS วันที่ 30 มิ.ย. 2562 (วิถีอาริยธรรม)
สื่อธรรมะพ่อครู(การเมืองบุญนิยม) ตอน การเมืองไทยปฏิรูปแล้วหรือไม่
_3867พ่อครูเบื่อการเมืองไหม? สภาอะไรก็ไม่รู้? ปล่อยพกม.ตีรัฐคสช.ยันรัฐศิวิไลซ์ปฏิรูปปท.ล้มเหลว?แต่ไม่เคยย้อนมาดูสงครามชิงเก้าอี้รมต.108หุ้นสื่อ กลบหุ้นพลังงาน?เป็นข่าวสาธารณ์บอกปชช.ชัดกว่าว่า ที่การเมืองวุ่นวาย?พ่อครูว่าการเมืองปฏิรูปการเมืองแล้วฤา?
พ่อครูว่า…ผู้ที่เป็นพระอรหันต์นั้นเบื่อทุกอย่างนั้นแล้ว มันเบื่อจนไม่รู้จะเบื่ออย่างไร แต่เมื่อมาเป็นอรหันต์แล้วก็ต้องอยู่กับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดจะว่าเอาหรือไม่เอาหรอก แต่อยู่กับเขา อยู่กับเขาแล้วก็ช่วยเขาไปตามเหตุปัจจัยที่จะมาถึงเรา มาเกี่ยวกับเราเราก็เกี่ยวกับเขา เราก็ช่วยเขาไป
ถามว่าอาตมารู้ว่าการเมืองปฏิรูปแล้วหรือ การเมืองเขาพยายามใช้คำว่าปฏิรูป ก็คือการเปลี่ยนแปลง เขาก็เรียกว่า Reform มันก็เปลี่ยนมาเรื่อยๆ มาถึงวันนี้ คุณจะไปเปรียบเทียบตรงไหน ธนาธรจะต่อประชาธิปไตยพ.ศ. 2475 คุณเปลวว่า เขามีอัตตาแน่จริงๆ จะตีทิ้งที่ผ่านมาหมด คิดยิ่งใหญ่จริงๆ ทำได้ก็ดี ไม่ให้เขาทำเขาก็ทำอยู่แล้ว
ทีนี้ ปฏิรูป จะเทียบกี่ยุคกี่สมัยกี่เวลาก็ตามมาถึงยุคนี้กาละนี้ปัจจุบันนี้ status quo ยืนอยู่ตรงนี้ ขณะนี้ สถานการณ์ขณะนี้ เอาอันนี้ขณะนี้ไปเทียบกับที่ผ่านมา อาตมาว่าประเทศไทยดีขึ้นเรื่อยๆรู้จักการเมืองประชาธิปไตยดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วคนไทยก็ยอม ต้องใช้คำว่ายอม เพราะคนไทยทุกวันนี้ 67 ล้านคน ไม่กระด้างกระเดื่อง ไม่ย้อนไม่แย้งไม่มีคณะใหญ่มีแต่คณะ เป็ดง่อย มีแต่คณะปู คณะปลา กะปุ๊ดกะปิ๊ด นิดๆหน่อยๆ เป็นธรรมดาธรรมชาติของเสียงลมพัดใบไม้ไหว ไม่มีไม่ได้ในธรรมชาติมันก็ต้องมีบ้าง ฟังว่าให้เป็นเสียงเพลงธรรมชาติมันร้องให้ฟังก็แล้วกัน มันก็ดูดีนะ
อาตมาว่า การเมืองทุกวันนี้สงบ เรียบร้อยพัฒนา มันก็ค่อยก้าวหน้ามาจนกระทั่งตั้งแต่นายกประยุทธ์ บริหารประเทศตั้งแต่ไม่ผ่านการเลือกตั้งก็เรียบร้อยดีมาตั้ง 5 ปี ทำได้ดีกว่านายกที่มาจากการเลือกตั้งโดยตอนนี้ได้รับการเลือกตั้งมาอีก ก็เป็นประชาธิปไตยเต็มใบเลย แล้วก็บริหารไปได้เรียบร้อยดีพัฒนาการไปได้ดี แน่นอน ประชาธิปไตยต้องมีการขัดแย้งพอเหมาะ หากว่าฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลรวมกันอย่างเสียงปริ่มน้ำอย่างนี้ดีมากสวยงามมาก หากว่าแชมป์ไม่มีรองแชมป์ที่จะมาชิงอย่างสมศักดิ์ศรี มันก็ไม่ได้เรื่องมันจะไปมันอะไร อย่างนี้มันพิสูจน์ความเป็นจริงว่ามันเจริญ จะเป็นแชมป์ยิ่งใหญ่ ฟังความนี้ให้เข้าใจแล้วจะรู้ว่าประชาธิปไตยเมืองไทยเจริญมาก ถ้าทำให้ฝ่ายค้านไม่มีฤทธิ์เหมือนอย่างที่ทักษิณเคยทำ ใช้อำนาจเงินทองทรัพย์สินเครือข่าย จนเป็นเผด็จการรัฐสภา เลือกตั้งส่งเสาไฟฟ้าลงก็ได้มาหมด อย่างนั้นมันไม่ใช่ประชาธิปไตยมันเป็นการเผด็จการด้วยอำนาจอะไรก็แล้วแต่ มันไม่มีฝีมือเลย ห่วยที่สุด ฟังนะ อาตมาอธิบายรัฐศาสตร์ประชาธิปไตย เรื่องการเมืองให้ฟังดีๆ มันสลับซับซ้อนไปไม่รู้กี่ชั้นต่อกี่ชั้น
คนจะเข้าใจประชาธิปไตยไม่ง่าย อาตมาเข้าใจเพราะเรียนมาจากพระพุทธเจ้า ใครจะว่าอาตมาพูดเล่นพูดหัวพูดพล่อยก็เชิญ แต่อาตมาว่าจริงที่สุด พระพุทธเจ้าเป็นนักประชาธิปไตยเบอร์ 1 ของมหาจักรวาล
ประชาธิปไตยคือ ลัทธิที่เอามวลประชาชนเป็นแกนหลัก ไม่มีอำนาจบาตรใหญ่อะไรของใคร ให้อำนาจบาตรใหญ่เท่าเทียมกัน ให้อิสระเสรีภาพเต็มที่ แล้วสร้างความจริงตรงที่ สร้างจิตวิญญาณให้หมดอัตตา หมดความเห็นแก่ตัวหรือหมดตัวตน มันก็จะเข้าไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยเต็มที่เลย นี่อาตมาอธิบายสูตรประชาธิปไตย สรุปสั้นย่อที่สุด ลัดคัดสั้น concise ที่สุด
มีทั้งการปฏิรูปและปฏิวัติ ปฏิวัติโดยประชาชนด้วย ทั้งหมดที่ผ่านมาประยุทธ์ทำได้ดีที่สุดเพราะว่าประชาชนทำให้ทำรัฐประหารให้เสร็จแล้ว รัฐศาสตร์น่าจะขานรับ จะปล่อยให้พวกนั้นมาว่าได้อย่างไรว่าเผด็จการสืบทอดอำนาจ แม้แต่การสืบทอดอำนาจ ก็สืบทอดอำนาจจากประชาชนที่ได้ยึดอำนาจจากรัฐบาลทรราชได้สำเร็จ อำนาจรัฐบาลทักษิณ อำนาจของรัฐบาลสมชาย สมัครและยิ่งลักษณ์ พิสูจน์มาไม่รู้กี่รัฐบาลทรราช ชัดเจน
คั่นด้วยบทกวีของอ.เป็นต้น นาประโคน (นักกวีตาบอด)
พ่อครูว่า…ประชาชนต้องตื่นรู้มารับผิดชอบการเมืองอย่าปล่อยให้นักการเมืองหน้าเก่า เขาเรียกว่าเป็นนักการเมืองอาชีพแล้วไม่ได้ทำแบบได้ดิบได้ดี มีที่ทำได้ดีบ้างก็มี แต่ต้องเห็นใจเขาเขามีฝีมือเท่านั้น ไม่ว่าใครจะเป็นนักการเมืองตั้งแต่หนุ่มถึงแก่ ก็พัฒนาเป็นประโยชน์ก็มี แต่ที่ไม่มีประโยชน์ไม่พัฒนาก็มี ไม่พัฒนาตรงที่จิตใจไม่ลดกิเลสเห็นแก่ประชาชน เป็นนักการเมืองที่ดีได้จริงๆ จะต้องลดกิเลสตัวเอง มันถึงจะทำเพื่อผู้อื่นได้จริงๆ แต่ไม่ได้พัฒนามันมีเยอะ การทำเพื่อครอบครัวมันก็ดีแล้วแต่นี่มาเป็นนักการเมือง มันจะต้องทำเพื่อประชาชนทั้งประเทศ
_1614สามัคคีแล้ว มันก็เพิ่ม แต่ว่ามันเพิ่มความสุข แล้วนอกจาก เพิ่มความสุขแล้ว มันก็เพิ่มพลังจิต ได้ จริง ๆไหมคะ แล้วพลังจิตคืออะไร นำไปใช้ประโยชน์ตามแนวพ่อครูอย่างไร
พ่อครูว่า…ได้สิ ถ้าคุณเข้าใจแล้วถ้าสามัคคีจริงๆก็จะยิ่งจริงๆ ไม่ใช่ถูกหลอกถูกบังคับให้สามัคคีแต่มันเกิดจากจิตที่เป็นสามัคคีจริงๆ สาราณียะ ปิยกรณะ คุรุกรณะ สังคหะ อวิวาทะ สามัคคคียะ เอกีภาวะ มันเกิดความพรั่งพร้อมจริงๆ
พลังจิตคือจิตที่หมดกิเลส จิตที่ไม่มีกิเลสยิ่งมีพลังสูง แล้วเป็นพลังเพื่อประชาชนด้วย พลังที่จะรู้จักโลกรู้จักความมีอัตตา ยิ่งจิตมีพลังเพราะจิตอัตตาลด กิเลสลด ยิ่งลด พลังจิตยิ่งมีแต่เพื่อประชาชน นี่คือพลังจิต
เพราะฉะนั้นศาสนาพุทธนี่คือศาสนาที่สร้างนักการเมือง ศาสนาสร้างผู้รับใช้ประชาชน เป็น พหุชนหิตายะ(เพื่อหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก)พหุชนสุขายะ(เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ(รับใช้โลก ช่วยโลก) ชัดเจนไหม..สุดยอดเลยศาสนาพุทธนี่
ขอสรุปว่ามาดูที่อโศกมาดูชุมชนอโศก สังคมบ้านวัดโรงเรียน ทุกวันนี้ชาวอโศกพัฒนาการเมือง พัฒนาจิตวิญญาณ พัฒนาชีวิต ได้สมบูรณ์แบบสำเร็จผล เป็นสังคมที่มีการเมืองแบบสาธารณโภคี มีธรรมะแบบสาธารณโภคี จึงมีความเป็นอยู่ด้วยเศรษฐกิจแบบสาธารณะโภคีสูงสุดแล้ว เศรษฐกิจสาธารณโภคีสูงสุดแล้ว
ถ้าจะขยายใหญ่เป็นระดับประเทศสาธารณโภคี ประเทศนี้ทุกคนทำงานฟรีทุกคนเอาเข้ากองกลางหมดแล้วมันไม่ใช่ คอมมูน ที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร ประชาธิปไตยหรือคอมมูนเขาก็ต้องการให้เข้าส่วนกลางได้มาก แล้วก็แบ่งกันกินกันใช้แต่ละคนก็มีภูมิธรรม มีแต่สร้างสรรใส่กองกลางแล้วผู้บริหารก็เอาไปสะพัดให้แก่ผู้อื่น นอกจากพวกเราแล้วก็สะพัด มีจิตพอเพียงจิตสันโดษ สันตุฏฐี จิตเอาแค่นี้พอแล้ว ไม่สะสมอีก อปจยะ จึงมีกายกรรมวจีกรรมน่าเลื่อมใส่ ปาสาทิกะ น่ายกย่อง ชาวอโศกยังเป็นบุคคลที่มีความศิวิไลสูงสุดในโลก อาตมาไม่ได้พูดเว่อร์ แต่คนฟังแล้วดูเหมือนหลงตัวคุยโม้
ในยุคนี้มีของจริงอันนี้เป็น Phenomenon เป็นของจริงปรากฏในโลกเชิญให้มันดูได้ เอหิปัสสิโก ท้าทายให้มาพิสูจน์ได้
เพราะฉะนั้นนำไปใช้ประโยชน์ตามแนวพ่อครูได้อย่างไร ทำอย่างที่นี่ที่ทำอยู่ตลอดเวลาอธิบายได้ไม่หมด คุณมาช่วยอธิบายหน่อยสิ ทำตามแนวที่พระพุทธเจ้าพาทำ อาตมานำทฤษฎีของพุทธเจ้ามาทำได้สำเร็จ จึงเกิดกลุ่มชนชาวอโศกได้หลายหมู่บ้าน ที่เป็นนิตินัยสองหมู่บ้าน คือศีรษะอโศกและราชธานีอโศก นอกนั้นก็เป็นหมู่บ้านที่ไม่เป็นนิตินัย สันติอโศก ปฐมอโศก เป็นต้น ซึ่งเป็นพฤติกรรมสังคมมนุษย์อยู่ในประเทศไทย อยู่ในโลก เป็นตัวอย่างให้แก่โลก ถ้าคนตาดีจะรู้
ถ้าเมืองไทยตาดีก็จะส่งเสริมแล้วก็เผยแพร่ลัทธิ จะเรียกว่าลัทธิอาจจะเรียกว่าศาสนาก็ได้ จะเรียกว่าเป็นรัฐศาสตร์การเมืองสังคมก็ได้ เผยแพร่ช่วยบอกว่าเรามีตัวอย่างที่ดีของไทยอย่างชาวอโศก เหมือนอย่างประเทศอื่นๆเขาก็มีชุมชนต้นแบบ คิบบุช สะมะเอินอุลดงเป็นต้น เขาก็ส่งเสริม แต่เมืองไทยเขาไม่เห็นค่า เคยได้ยินว่าเมืองไทยไม่มีความเจริญเพราะมีจิตริษยาอยู่ในรากบึ้งของจิตคนไทย คนไทยไม่เจริญเพราะมีจิตใจริษยา อันนี้อาตมาว่าจริง ถ้ารู้ตัวแล้วก็ โอ้โห ใครดี เมืองไทยไม่ค่อยส่งเสริมคนดี ไม่ยกย่องคนดี ไม่ช่วยโฆษณาประกาศให้แก่คนดี นี่คือเมืองไทย เพราะงั้นถึงบอกอันนี้ไม่พาให้เจริญจริงๆ
_เดิมแท้ · นิพพานของแท้ มีให้พิสูจน์ที่สันติอโศก…..เชิญนะครับ
พ่อครูว่า…อาตมาประกาศนิพพาน ประกาศอาริยะ ประกาศอรหันต์จริงๆ แต่เขาไม่เข้าใจ ไปเชื่ออรหันต์เก๊อรหันต์เดากันเยอะ อาตมาจึงจำเป็นต้องยืนยันบอกว่าอรหันต์จริงๆเป็นอย่างนี้ ไม่ได้มีจิตอยากอวด สาเฐยจิตแต่อย่างใด มันจำเป็น
_ครูแก้ว พ่อท่านเคยเทศน์ ถึงการสะสมอาริยทรัพย์ เช่น ฯลฯ และเคยกล่าวว่า คนที่ยากจนในชาติที่เคยรวย แต่ไม่ทำทาน เลยเกิดมาจน ส่วนคนรวยในชาตินี้เพราะเขาเคยทำทาน มาก่อน ฯลฯ ทีนี้ อยากกราบเรียนถามว่า ถ้าชาตินี้ คนที่เขาไปทำศัลยกรรม เกิดชาติหน้าเขาจะเกิดเป็นคนพิการไหมคะ หรืออย่างไร เพราะเราได้ร่างกายมาเพราะบุญทำกรรมแต่ง เราจึงเกิดมารูปร่างสวย หล่อ ร่ำรวย ยากจน ฯลฯ
พ่อครูว่า…คนที่รวยในชาตินี้ ก็เป็นคนขี้โกงทุจริตมีเล่ห์เหลี่ยมจะได้มาซึ่งทรัพย์สินก็เลยรวยได้ก็มี
ตอบเรื่องการทำศัลยกรรม ตอบว่าไม่รู้ถ้าเป็นเรื่องอจินไตย สมัยพระพุทธเจ้าไม่มีเรื่องการทำศัลยกรรม พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสไว้อาตมาไม่เก่ง ใช้มหาปเทสไม่ได้
_แป้ง สู่แดนธรรม กรรมดี ก็คือ โชคดี / โชคดีก็เพราะมีกรรมที่ดีอยู่ก่อน.
Luck = Preparation + Opportunity
“ความโชคดี คือ การฝึกปรือมาอย่างโชกโชน คล่องแคล่ว
เพื่อเตรียมพร้อมมาพบกับ โอกาส จังหวะเวลาที่เหมาะสม”
พ่อครูว่า…ถูกแล้วสรุปว่าเกิดจากกรรมที่เราทำ
พ่อครูจิบน้ำ
_สู่แดนธรรม….วันนี้เห็นเด็กมาก็คิดว่าจะพูดอย่างไรให้เด็กฟังด้วย…เดี๋ยวนี้พ่อครูพูดคำว่า สิริมหามายา พ่อท่านจะสอนถึงความซับซ้อนว่าอย่างไรที่เรียกว่ามายา แล้วมายา หากเกิดขึ้นโดยสิริ ก็คือเป้าหมาย สิริ แปลว่า ความดีความงามความประเสริฐที่ควรได้ แต่ว่า มายาในการที่จะได้สิรินี้ มันจะมีความซับซ้อน
บางที ต้อง เอาประโยชน์เป็นที่ตั้ง ว่าจะเอามายาอย่างไร บางทีมายาก็ดูไม่เข้ากับ สิริเลย แต่ในเมื่อเอาประโยชน์เป็นผลลัพธ์ ก็ต้องมีภาคปฏิบัติที่เราจะไปหลงกลมาร มารก็แฝงมากับเทวปุตมาร นิมนต์พ่อท่านสอนเด็กด้วยครับ
พ่อครูว่า…สิริมหามายาเป็นพระนามของพระมารดาของพระพุทธเจ้า
ในโลกนี้ คนแต่ละคนมันมีจิตใจกระทำกรรมของตัวเอง กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ใครก็ต้องคิดต้องเจตนาเราจะแสดงออกมาให้มันดีทุกคน แม้คนนั้นจะโง่คิดชั่วก็จะแสดงออกมาให้ดี ไม่ว่าจะเป็นโจร โจรแท้ๆที่ปล้นจี้ หรือโจรการเมืองอย่างทักษิณก็ตาม เขาก็จะทำเป็นเท่ๆทำให้ดีทั้งนั้น ส่วนผู้ที่คิดดีแล้วทำกรรมออกมาให้ดีก็ดีแล้ว
ส่วนโจรชั่วอย่างทักษิณก็ต้องทำท่าทีให้ดี เค้าก็ทำท่าทีให้ดี สร้างกรรมให้ดูดีเพื่อให้เกิดคนนับถือเลื่อมใสจะมากหรือน้อยก็แล้วแต่ผู้นั้นจะมีความสามารถ
ทีนี้โดยสัจจะ ภาษาว่ามายา มายา คือผู้ที่เล่นกลหลอกลวง กลับไปกลับมา แต่ละคนทำจริงหรือไม่จริงก็อยู่ที่กิเลส มันไม่ดี ถ้าไม่มีกิเลสนี้มันดีหมด เพราะฉะนั้นผู้หมดกิเลสแล้วตั้งแต่พระอรหันต์เป็นต้นไป แสดงกรรมออกมาไม่มีมายา ไม่มีกิเลสมาร่วมจึงเป็นกายกรรมวจีกรรมมโนกรรมที่ประเสริฐทั้งนั้นเลย แต่คนที่ไม่รู้จะขัดแย้งกับตัวเองที่เข้าใจผิด หรือเข้าใจถูกก็ไม่ค่อยยอม ต่อต้าน เพราะมันขัดกิเลสเรา มันจึงขัดแย้งอยู่ กลับไปกลับมาก็มีแต่ ความจริงกับความรู้
คนที่แสดงออกตามความรู้ที่ผิดๆมีกิเลสก็แสดงออกย่างโง่ๆ แล้วแสดงให้คนอื่นเข้าใจผิด อย่างธัมมชโยหรือทักษิณก็ทำซับซ้อนไม่รู้กี่ชั้นให้คนหลงไม่รู้กี่ขนาด จนทุกวันนี้ คนชัดเจนก็ว่าจะไปหลงใหลทักษิณทำไม เขาโง่ เขาถูกหลอกหลายชั้นหนีออกไม่ได้ แม้ขณะนี้ ธนาธรหรือปิยบุตร หรือแม้แต่จตุพร ณัฐวุฒิ ทั้งนั้นเลย ก็หลงอยู่อย่างนั้น ซับซ้อน ทั้งๆที่ในยุคนี้รูปธรรมพฤติกรรมสังคมมันชัดเจนมันเปลี่ยนออกมาหมดแล้ว ให้เห็นว่ามันคนละฝั่งอยู่แล้ว ถ้าพูดเป็นตัวตนเลยก็คือฝ่ายทักษิณกับฝ่ายพลเอกประยุทธ์ มันยังเหลือเชื้อของทักษิณอยู่ก็เป็นเศษพลังงานของทักษิณ ความคิดแนวคิดแบบทักษิณ คือแบบถูกกับแบบผิดเท่านั้นแหละ มาตกอยู่ที่ธนาธรอยู่กับฝ่ายที่พอรู้ว่าไม่เข้าท่า แต่มันยังเอียงมาข้างนี้อยู่มาทางธนาธรกับทักษิณ มันก็คาบเกี่ยวอยู่อย่างนั้น ส่วนผู้ที่ชัดไปในทางที่ถูกต้อง อย่างทางพลเอกประยุทธ์ แม้แต่โพธิรักษ์ ก็ยกย่องให้คะแนนทางนี้ ไม่ให้คะแนนทางโน้นเลยมาให้คะแนนทางนี้เต็มที่ เพราะขณะนี้โอกาสนี้ เป็นปัจจุบันกาลนี้ status quo ยืนยันอยู่ขณะนี้องค์รวมมันดีที่สุดแล้ว
ทีนี้คนที่ไม่รู้ก็คือไม่รู้ว่า มันดีหรือชั่วมันมี 2 หน้า เหมือนนักเล่นกลมันมี 2 หน้า เขาหลอก แต่เขาหลอกให้คนเห็นว่าจริง นักเล่นกลก็อย่างนั้นทั้งนั้น เขาหลอกจะให้คนเชื่อว่าจริง นักมายากลทำให้คนหลงเชื่อว่าจริงได้ ทั้งๆที่รู้ว่าเขาหลอกนะ แล้วเขาก็เชื่อว่าจริงได้ เหมือนอย่างฮูดินี่ หลอกว่าตัวเองมัดตัวผูกถุงทรายใส่กล่องเอาไปจมน้ำเอาโซ่มัดเลยนะ แล้วก็ออกมาได้ เหมือนกับสะเดาะกลอนออกมาได้ ทั้งๆที่รู้ว่าเขาเป็นนักเล่นกลมายาก็ไปดูเขาแสดงกลมายา หลายๆคนก็เชื่อว่าต้องมีอำนาจพิเศษ ต้องมีฤทธิ์เดช ต้องมีอะไรแบบขลังๆ พวกเราก็ไม่เชื่อว่าจะมีมนต์พิเศษอะไรหายตัวออกมาได้ มันเป็นวิธีเล่นกลจริงๆ ในยุคนี้ก็มีนักเล่นกลที่ทำให้คนเชื่อคนโง่ก็หลงเชื่อ แต่ที่นี้กลับกัน
สิริมหามายาเป็นนามของแม่พระพุทธเจ้า แม่คือผู้ให้การเกิด เกิดพระพุทธ เกิดพระธรรม เกิดพระสงฆ์ หรือ เกิดบุคคลที่เป็นต้นตอของศาสนา เรียกว่า พระพุทธเจ้า ให้เกิดผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด เกิดเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อจะมาประกาศสิ่งที่เป็นความจริง ที่ไม่ใช่มายา เป็นสิริมหา สิริ มหาสัจจะ นี่เป็นเรื่องยิ่งใหญ่ที่สุด ในโลกนี้เป็นเรื่องมายาทั้งสิ้น คนที่รู้จักเท่าทันมายาแล้วตัวเองเลิกมายาเรื่องมาทำความจริงเช่นโพธิรักษ์ มาบอกความจริงหมดทุกอย่าง คนก็หาว่าเป็นคนเล่นกลขี้หลอก พวกชาวอโศกนี้ถูกหลอกถูกครอบงำทางความคิด แล้วมาหลงเชื่อ พวกที่ไม่เชื่อก็จะว่าอย่างนั้น เขาก็จะฟังว่าอาตมาพูดเก่ง
จริงๆอาตมาเก่งจริงๆ อาตมาเป็นนักสิริมหามายา เป็นสิริมหาที่คนเข้าใจผิดจะหาว่าเป็นนักเล่นกล ทำอย่างไรให้คนมาศรัทธาเลื่อมใสได้
ในโลกขณะนี้ขอพูดความจริงใหญ่มาก ไม่มีใครหรอกในโลกนี้ที่สามารถสร้างคนกลุ่มหมู่ที่จะเป็นพฤติกรรมสังคมหมู่บ้าน มีพฤติกรรมสังคมถึงขั้นสาธารณโภคี ทำงานฟรีมีชีวิตอยู่เย็นเป็นสุขสำราญเบิกบานใจ ทุกคนมาจน มีเยอะแยะที่ไม่มีส่วนตัวเลย ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีเงินส่วนตัวเลย สบายใจฝากชีวิตฝากผีฝากไข้ฝากตายได้อยู่ในนี้เลย ใครที่คิดว่าจะตายอยู่ในนี้บ้างยกมือขึ้น (ยกหลายที ต้องถามเพื่อยืนยันความจริง) ใครไม่ยกมือก็ตามใจ ไม่ใส่ใจ มานั่งรกสถานที่เปล่าๆ ชัดไหม ฟังดีๆ ฟังไม่ดีจะโดนปากหอกอาตมาว่าให้
สื่อธรรมะพ่อครู(สัมมาทิฏฐิ 10) ตอน อัตถิมาตา คืออย่างไร
_สมณะพอแล้ว…คำว่าแม่มี แม่ไม่มี คืออะไร คำว่า สภาวะจิตที่แม่มีกับสภาวะแม่ไม่มีต่างกันอย่างไร
พ่อครูว่า…คำว่าแม่มีในสัมมาทิฏฐิข้อที่ 7 อัตถิมาตา หรือนัตถิมาตา ทินนังต้องรู้ว่าทำทานแล้วเกิดผลอย่างไร ถ้าเกิดผลทานแล้วเป็นบุญ คือทานแล้วเป็นบุญสำเร็จผล ผลของทานเกิดบุญคือกำจัดกิเลส กำจัดกิเลสได้หน่อยก็เป็นส่วนบุญ กำจัดได้สองหน่อยสามหน่อย คือเสขบุคคล ได้นี่คือเสีย อะไรเสียก็กิเลสเสียหายไปจากร่างกายจากจิตของเรา
ทำบุญแล้ว ปฏิบัติประพฤติตัวเอง จะเป็นการทำศีลหรือทำทาน ทำทานแล้วกิเลสลดได้คือเกิดบุญ ทำทานแล้วกิเลสลดไม่ได้เกิดแต่กุศลดีไม่ดีเกิดบาป กิเลสโตเพิ่มขึ้นอีกได้ ทุกวันนี้ทำทานแทนที่จะได้บุญ แต่ทำทานก็ได้บาปกิเลสโตขึ้นทั้งนั้นเลย ไม่ว่าวัดไหน อาจารย์ไหนสอนกันทั้งนั้น
ข้อที่ 2 รักษาศีลเพื่อให้ลดกิเลสเหมือนกันมีวิธีการ เรียกว่ายิฏฐัง ปฏิบัติทุกวันนี้เขาก็เติมทั้ง อัตตาหรือกาม ทุกวันนี้ไม่เป็นผล คือนัตถิยิฏฐัง คือปฏิบัติแล้วเห็นผลของจิตเป็น หุตังเกิดหรือไม่ กิเลสลดหรือหมดหรือหนาขึ้น จากหุตังก็เกิดจากกรรมทั้งนั้น สุกตทุกฏานัง ทำให้มันเป็น สุ หรือเป็น ทุ ถ้าทุกฏนี้ไม่สำเร็จ ถ้าสุกตะนี้สำเร็จแล้ว เอาพยัญชนะมาขยายความ เกิดจากกรรม กัมมานังผลังวิปาโก เกิดเป็นผลวิบาก เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นโลกุตระ หรือโลกียะก็ตามเกิดจากกรรมทั้งสิ้น
จึงจะเกิดโลกนี้โลกหน้าแล้วจะเกิดมาตา ข้อที่ 7 ต้องมีพ่อแม่ที่ไม่ใช่แบบพ่อแม่เป็นตัวเป็นตน แต่เป็นพ่อแม่ที่ทำให้เกิดลูกที่เป็นโอปปาติกะ ในการเกิด 4 อย่าง
มาตา ปิตา สัตว์โอปปาติกะคือแม่พ่อที่ให้กำเนิดทางจิตวิญญาณเป็นอุปปาติกะ ไม่ใช่เกิดจากครรภ์หรือเกิดจากไข่หรือเกิดจากการแตกตัวไม่ใช่ แต่เป็นวิญญาณทางนามธรรม แม่เป็นทางจิตวิญญาณ เข่น ศีลเป็นแม่ ปัญญาเป็นพ่อ ช่วยกันทำให้เกิดจิต ที่เป็นอธิศีล อธิปัญญา อธิจิตที่เกิดเป็นโอปปาติกะ เป็น นิพพัตติ อภินิพพัตติ ในการเกิด 5 อย่าง คือ ชาติ สัญชาติ โอกกันติ นิพพัตติ อภินิพพัตติ
คุณไม่รู้อวิชชาก็เกิดชาติ สัญชาติ หยั่งลงสะสมลงในโอกกันติ จากกรรมปัจจุบันทั้งนั้น หากเรียนรู้แก้ไข โอกกันติ ให้เป็นการเกิดที่เป็นโลกุตระลดตัวตนลดกิเลสจะได้อัตภาพสูญได้ทำได้ก็เป็นนิพพัตติ เป็นการเกิดที่เป็นเสขะบุคคล เป็นการลดอัตภาพอัตตาตัวตนไปเรื่อยๆ อภินิพพัตติ เป็นการเกิดสุดท้ายที่จบสมบูรณ์ จนสามารถควบคุมธาตุจิตวิญญาณได้เลยเป็นอรหันต์ เป็นโพธิสัตว์ อย่างอาตมาพูดได้เพราะ อาตมาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 จึงอธิบายได้ (พ่อครูไอตัดออกด้วย)
_รักบุญ…มีปัญหาทุกข์เดือดร้อนจากสภาพร่างกายที่เป็นโรคหนังแข็ง เจ็บปวดทนได้ยาก จะหลบไปไหนก็ทนได้ยาก มีคนบอกว่า เจ็บปวดร่างกายใจก็อย่าไปทุกข์กับมัน แยกกายแยกจิตสิ
พ่อครูว่า…เข้าใจ อาตมาก็มี เท้าเพิ่งจะหาย คนเขาสะกดจิตก็ทำได้ พวกที่ใช้ปัญญาจริงๆไม่จำเป็นต้องไปบอกให้มันหยุด สายเจโตสะกดจิตไม่รู้สึกเจ็บได้เป็นอุปาทานไม่ยอมรับความจริงตามความเป็นจริงแต่ศาสนาพุทธให้พิจารณาความจริงว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย คนที่มีอย่างนี้ต้องเรียกว่าเป็นวิบาก จะมีแต่ชาติปางก่อนสะสมมาก็ได้ หรือชาตินี้ทำมา คุณก็ทำมาเองไม่ใช่พระเจ้าบันดาล ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนทำ เมื่อมันเป็นเช่นนี้มาจากเหตุที่เราได้สั่งสม เหตุที่พาเราเจ็บปวดเป็นอจินไตยของกรรมวิบาก นี่ต้องยอมรับมันเป็นความจริง หากยอมรับ
อาตมาเคยเจอ วิบากตนเองเจ็บปวดจนอาตมาท้าทาย มา เอ็งมีมากเท่าไหร่มา ก็จะตายเลยไม่ไหว อาตมาก็เลยไม่เอาแบบนั้น ให้เอาแต่พอควร มันมาเท่าไหร่เราบอกไม่ได้เป็นอาจินไตยวิบาก มันมาเท่าไหร่ก็จะเท่านั้นจะบรรเทาตรงเรายอมรับความเป็นจริง เกิดมายังไม่บรรลุหรือบรรลุแล้วแบบพระพุทธเจ้าก็ยังมีวิบาก เราเป็นใครกันเชียวเราก็ต้องวางใจเสีย จะเพลาลง
_รักบุญ…ขณะเจ็บปวดสภาพจิตว้าวุ่นอึดอัด
พ่อครูว่า..หากเรามีปัญญายอมรับความจริงว่าอันนี้มารมาผจญ ทวงหนี้ มันเป็นอย่างนั้น
_รักบุญ…คนเขาบอกว่า พ่อท่านไปบอกให้วางแล้วจะศักดิศิทธิ์ แต่จะวางอย่างวางสมุดวางตะกร้าหรือ มันวางไม่ได้ ?
พ่อครูว่า..อย่าไปยึดถือ มันจะเป็นอย่างไรก็เป็นไป อย่ามาวุ่นกับเรามากเลยแต่มันก็วุ่นอยู่นั่นแหละ เอ็งวุ่นก็วุ่น ทรมานยาวอยู่ก็ยอมทรมานไปปล่อยไป สุดท้ายจริงๆที่มันเป็นกับเราเราก็ต้องทนเอา
_ทำไมต้องสลายตัวตนให้เป็นอุตุนิยาม ได้ประโยชน์อะไร ?
พ่อครูว่า..จริงๆแล้วพระพุทธเจ้าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบสิ่งเหล่านี้แล้วมาสอนเอาไว้ มันไม่มีนักวิทยาศาสตร์ที่ไหนค้นพบได้ แม้พบแล้วเอามาสอนไว้ คนก็เข้าใจยาก จนกระทั่งมาถึงยุคนี้ ไม่มีใครอธิบายได้แล้ว นอกจากอาตมาต้องมาอธิบาย ไม่ได้คุยโม้นะ ที่ต้องทำอย่างนั้นก็เพราะว่า ศาสนาพุทธ สามารถรู้จักธาตุที่มีพลังงานในความเป็นธาตุ ธาตุ
อุตุ เป็นธาตุที่ไม่มีชีวะ คือ มันไม่มีความรู้สึก ไม่มีอัตภาพ มันเป็นพลังงานสสาร ดินน้ำไฟลม มันไม่มีความรู้สึกเลยมันดีนะ ต้องทำอย่างนี้ให้ได้ ทำอย่างไม่ให้เกิดความรู้สึก อาศัยพยัญชนะมาสื่อ เราสามารถปล่อยให้จิตวิญญาณมันเป็นไป มันซ้อนสิริมหามายาที่เมื่อกี้ให้รู้สึก อันนี้ไม่ให้รู้สึกแต่ให้รู้สึกเหมือนเป็นอุตุ เหมือนดินน้ำไฟลม แต่มันไม่มีความรู้สึกหรอก ให้รู้สึกอย่างที่ไม่มีความรู้สึกเหมือนอุตุนิยาม
จิตของคน 1.เป็นอุปาทาน 2.เป็นความจริง เหตุปัจจัยพลังงานจะสปาร์คกัน ร้อนทำให้เรารู้สึกไม่สบายไม่ปกติ ปกติก็ต้องสมดุลไม่ร้อนไม่หนาว อยู่ในน้ำหนักไม่แรงไม่เบาอย่างพอดีแต่เมื่อไม่สมดุลไม่ปกติ ร่างกายเราไม่ปกติแล้วจึงยอมรับความจริง ศาสนาพุทธให้ยอมรับความจริงว่าเป็นวิบากต้องยอมรับสุดท้าย คุณจะมีมากหรือน้อยกว่าที่ควรจะมีได้ ของใครจะไปยัดเยียดให้ใครไม่ได้ แม่จะไปยัดเยียดให้ลูกไม่ได้ เราอยากจะเจ็บปวดแทนแม่ก็ไม่ได้ไม่ได้ของใครของมัน จะเจ็บปวดมากหรือน้อยเราก็ต้องดูเอง
สรุปแล้วเมื่อมีเหตุที่ไม่สมดุลคุณจะทำให้มันสมดุลก็โกหกไม่ได้ต้องยอมรับมันเป็นวิบาก นี่คือทุกข์อริยสัจ เป็นความทุกข์ตามความจริง พระพุทธเจ้าก็มีความเจ็บปวดมีร้อนไหม คุณเป็นใครจะใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า ก็ต้องยอมรับเสียดีๆ
_ระหว่างการทำอาหารมังสวิรัติให้คนรับประทานเพื่อคนจะได้ลดละเลิกการกินเนื้อสัตว์ (บุญญาวุธหมายเลข 1 ) กับการศึกษาเรื่องสุขภาพแล้วเอาความรู้มาดูแลผู้ป่วย สิ่งไหนหรือแบบไหนจะมีมวลน้ำหนักของการสร้างกุศลมากกว่ากัน ?
พ่อครูว่า…จริงๆแล้ว ทำให้เข้าใจถึงจิตวิญญาณเลย ว่า 1.การกินเนื้อสัตว์มันมีวิบาก 2.มันก็ทำให้เราเองมีพฤติกรรมเลว หากคุณกินเนื้อสัตว์ก็ต้องฆ่าสัตว์ไม่ฆ่าเองก็จ้างคนอื่นฆ่าโดยตรงหรือโดยอ้อมหรือโดยอ้าง เขาก็เอาเนื้อสัตว์มาถวายให้กิน เช่นข้อ 5 ของชีวกสูตร คนฆ่าสัตว์เอาเนื้อสัตว์มาทำอาหารถวายพระพุทธเจ้าและสาวกเพื่อให้ท่านยินดีในเนื้อสัตว์บอกว่าเป็นอาหารอันปราณีตสุดยอด มันเอาเจตนาดีมาอ้างนะ ว่าของดีที่สุดตามที่เขาเข้าใจ ซึ่งเป็นอกัปปิยะเป็นสิ่งที่โง่ คนโง่ขนาดข้อสุดท้ายของบาปไม่ใช่บุญเลย 5 ข้อ
ทำแบบเพื่อสุขภาพก็ง่ายๆตื้นๆ กินสิ่งที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์หรือพืชดีกว่า แม้แต่หมอ ที่กินเนื้อสัตว์อยู่ก็ยังแนะนำให้คนไข้กินมังสวิรัติ จริงๆแล้วคนเป็นสัตว์กินพืช ไม่ใช่สัตว์กินเนื้อและไม่ใช่สัตว์ที่กินทั้งพืชและสัตว์ อย่ามาอ้าง
_สู่แดนธรรมว่า..พ่อท่านเคยตอบปัญหานี้ไว้เมื่อหลายสิบปีก่อน ว่าชาวนาที่ทำอาหารให้กินมีค่ากว่าหมอรักษาคนป่วยเพราะคนป่วยมีจำนวนน้อยกว่าคนกินอาหาร
พ่อครูว่า…ขยายความให้ละเอียดลึกซึ้งขึ้นไป
สรุปว่ามันมีทางธรรมกับทางกายภาพสรีระสามัญ ลึกซึ้งกว่าคือทางธรรม ทางธรรมจะได้ในทางสุขภาพด้วย ทางสุขภาพจะตื้นกว่า
_การทำงานในรูปแบบหรือหน้าที่ใดมีโอกาสบรรลุธรรมมากกว่า ?
-
แม่ครัว 2. ครูสอนหนังสือ 3. เป็นหมอ 4. เป็นพยาบาล 5. เป็นกสิกร 6. จิตอาสา
พ่อครูว่า…ตอบ 6 เพราะสามารถอาสาได้ทุกอย่าง คุณถนัดว่าจะเห็นควรอันไหนก็ทำแบบนั้นได้ประโยชน์ทั้งนั้น อย่าไปทำความไม่ดีก็แล้วกัน
_ใบฟ้า ..ปรโตโฆษะ (การรับฟังผู้อื่นอย่างตั้งใจ)คำนี้ไพเราะทรงคุณค่าเช่นเดียวกับคำว่า พหุชนหิตายะ(เพื่อหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก)พหุชนสุขายะ(เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ(รับใช้โลก ช่วยโลก) กราบขอตรวจสอบแก้ไข ความเข้าใจของดิฉันกับคำๆนี้
-
ผู้ที่ศึกษามีปรโตโฆษะกับอาจารย์ได้ผลความรู้มาสู่ความจริง
-
ผู้น้อยมี ปรโตโฆษะกับผู้ใหญ่ ก็มีการเกิดการยอมรับนับถือเอ็นดู
-
เพื่อนต่างก็มี ปรโตโฆษะ ผลคือ เป็นเพื่อนกันตลอดไป
-
ผู้ทำหน้าที่เป็นคนกลางมี ปรโตโฆษะ กับฝ่ายที่ขัดแย้งก็มีผลเกิดความปรองดองสมานฉันท์
-
ผู้ทำหน้าที่ตัดสินผิดถูก ลงโทษ มี ปรโตโฆษะ กับทุกฝ่าย โดยเฉพาะกับผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าผิดแล้วอาจต้องได้รับการลงโทษ ผู้ผิดยอมรับผิดและยอมรับการลงทัณฑ์
พระพุทธเจ้าก็มีหลักเกณฑ์การตัดสินมี 7 ประการ อธิกรณสมถะ เป็นหลักเกณฑ์ในการตัดสิน ถ้าหากผู้พิพากษานักกฎหมายเรียนรู้การตัดสินจากพระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ ยิ่งใหญ่ที่สุดและวิธีการตัดสินมี 7 อย่างนี้ ถ้าเข้าใจดีๆจะลึกซึ้งสูงสุด หากเข้าใจคำของพระพุทธเจ้าชัดเจน
-
สัมมุขาวินัย ตัดสินในที่พร้อมหน้าทั้ง โจทย์และจำเลยพร้อมพยาน ตามพยานหลักฐาน
-
สติวินัย ถือสติเป็นหลัก การยกเลิกความผิดเพราะเป็นพระอรหันต์หรืออริยบุคคลที่จะไม่ทำผิดวินัยในข้อนั้นได้
-
อมูฬหวินัย ผู้หายจากเป็นบ้า การเลิกความผิดเพราะผู้กระทำผิดนั้นวิกลจริตหรือเป็นบ้า
-
ปฏิญญาตกรณะ ทำตามที่รับ การตัดสินตามการยอมรับผิด คำสารภาพของผู้กระทำผิด
-
ตัสสปาปิยสิกา ลงโทษแก่ผู้ผิดที่ไม่รับ การลงโทษพยานผู้ที่ไม่ยอมพูดในการสอบสวนของคณะสงฆ์
-
เยภุยยสิกา การตัดสินตามมติเสียงข้างมาก
-
ติณวัตถารกะ ดุจกลบไว้ด้วยหญ้า วิธีประณีประนอม การตัดสินยกฟ้อง เลิกแล้วต่อกัน(ในกรณีทะเลาะกัน)