ต.ค.232019ศาสนา621023_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ สมาธิของพุทธเป็นผลจาก จรณะ 15 วิชชา 8 อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1FI1N8ZG8MfY0IM1RNSO0rvVo7JnFlRMiwYHb7xfk-mA/edit?usp=sharing ดาวโหลดเสียงที่ https://drive.google.com/open?id=199PB4Fe0LzKGiM_FsC5QtpLppmHx8Afl สมณะฟ้าไทว่า…วันนี้วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2562 ที่บวรราชธานีอโศก พระพุทธเจ้าไม่ได้ศึกษาจากตำราของใคร พ่อครูว่า…SMS วันที่ 22 ตุลาคม 2562 และประเด็นคอมเม้นท์ต่างๆ _1614รุ่งโรจน์ อนันต์เจริญกิจ โลกเคยเจริญมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า2-3รอบ /วิทยาศาสตร์ คือเจอของเก่า / พระพุทธเจ้า ก็ศึกษา จากตำรา จากอาจารย์ผู้ที่สอนที่สืบๆกันมา แต่มีความคิดที่แตกต่าง /หลายๆคนมีความคิดที่แตกต่างจึงรู้มากขึ้น /นักวิทยาศาสตร์ จึงรู้มากจะเอียงมาหาพระพุทธศาสนา เพราะพุทธ คือความเป็นจริง พ่อครูว่า…ก็ใช้ได้เป็นความคิดเห็น และพระพุทธเจ้าแสวงหาจากตำรา อันนี้เป็นความคิดของคุณ เชื่อว่าพระพุทธเจ้าศึกษาจากตำรานั้นคุณผิดไปไกลแสนไกล พระพุทธเจ้าจะไม่ศึกษาจากตำราเพราะพระพุทธเจ้าจะตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง อาตมาก็ขอยืนยันว่า ความคิดนั้นเป็นของพระพุทธเจ้าแท้ ของคนอื่นที่สอนกันมามีแต่เก่าก่อนนั้นท่านไม่ได้เอาเลย ท่านไม่ได้อ่านตำราของใครเลย อันนี้เป็นความเห็นที่ผิดขอยืนยันว่าคุณเข้าใจผิด ไม่เช่นนั้นจะมีคำว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้เองตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นพระพุทธเจ้าหรอก สยังอภิญญาอย่างอาตมาก็มีความรู้ของตัวเองขึ้นมาแล้ว สยังแปลว่าของตนเอง เป็นผู้ที่เรียนรู้ตามศาสนาพระพุทธเจ้ามาเมื่อถึงขีดความรู้หนึ่งก็เป็นของตนเอง ที่จริงไม่ใช่ของตนเองแต่สืบสานมาจากพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ แต่ท่านก็จะเป็นเจ้าของสะสมเป็นของตนเองไปเรื่อยๆ จากปัจจัตตังไปเป็นปัจเจก จากปัจเจกไปเป็นปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า จากนั้นก็เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะใช้คำพูดว่าพระพุทธเจ้าต้องศึกษาจากผู้อื่น ก็พอได้ แต่ถ้าบอกว่าพระพุทธเจ้าศึกษาจากตำราผู้ที่สอนเมื่อก่อนนั้นไม่ได้ เพราะสยังอภิญญาขึ้นไปจะมีของตนเองมาก่อน แม้ยุคนี้ไม่มีความรู้ของพุทธที่ถูกต้อง มีแต่ความรู้ที่ผิดเพี้ยนไปแล้ว อาตมาต้องมากอบกู้สิ่งที่เขาเข้าใจผิดขึ้นมาใหม่ อย่างเช่นสมาธิไปเข้าใจว่าสมาธิเป็นการนั่งหลับตา ขอยืนยันว่ามันผิดไม่ใช่ของพระพุทธเจ้าเลย ไม่ใช่ศาสนาพุทธเลย หรือเข้าใจในเรื่องอื่นเช่นเรื่อง กาย ก็เข้าใจว่ากายนี้เป็นแต่เพียงภายนอกก็ผิด เข้าใจว่าบุญคือกุศลก็ผิดอีก ซึ่งอาตมาก็อธิบายมาตลอด ผู้ที่ยังไม่มีภูมิปัญญาพอและมีความยึดมั่นถือมั่นในความรู้เก่าไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ก็ตีทิ้งอาตมาคุณก็จะได้แต่เพียงของเก่าไม่ได้อะไรใหม่ขึ้นไปเลย ไม่มีปรโตโฆษะ จะจมอยู่ตรงนั้นอีกนานแสนนานซึ่งมันเป็นมิจฉาทิฐิถ้าไม่ได้รับอันใหม่เข้าไปก็จะมิจฉาทิฐิไปอีกหลายล้านชาติ ขอยืนยันเลย _อนันต์ ปาระพิมพ์ • พระพุทธเจ้าตรัสว่าการที่จะเปลี่ยนความคิดคนได้ในเรื่องที่เขาเชื่ออยู่แล้วต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก พ่อครูว่า…อาตมาซาบซึ้งมาก ความพยายามอยู่ที่ไหนความพยายามอยู่ที่นั่น _บุญเพียรBoonpian Saipanitchapong • ทีนี้ล่ะ หมอตามโรงบาล เตรียมตกงานแล้วเจ้านาย เพราะคนหันไปเป็นกบจำศีลกันหมดแล้ว กินแต่ฉี่เหรอ กินอึด้วยก็ อมตะเลยนะ(คอมเม้นท์จากคลิป หมอเขียว และทีมงาน มาสนทนาธรรมกับพ่อครู ประเด็นดื่มฉี่ เมื่อ 621019 ) พ่อครูว่า…แสดงความเห็นมาจะประชดประชันด่าทอก็ไม่มีปัญหาอะไร ถ้ามีความเห็นแสดงมาประกอบด้วยก็ดีมากขอบคุณ แต่หากประชดประชันสาดเสียเทเสียเลยไม่มีอะไรมาให้เลยก็ไม่ปฏิเสธหรอก แต่ถ้ามีคำแนะนำอะไรมา comment อะไรมาเสริมก็จะดียิ่งขึ้น _เล้ง สุราษฎร์ธานีLeng Surathani • ทำมัยสันติอโศกไม่มีหมาแมว เป็นของต้องห้ามรึปล่าว พ่อครูว่า…ใช่ ชาวอโศก มีอาตมาเป็นตัวการที่ไม่ให้ไปเลี้ยงสัตว์ อันนี้อาตมามีความบริสุทธิ์ใจจริงๆเลยว่าสัตว์กับคนนี้ มันมีวิบากร่วมกันมาอยู่แล้ว ทุกคนในแต่ละชาติถ้าเข้าใจแล้วอย่าไปต่อเนื่องวิบาก ไม่ว่าจะเป็นทางด้านความรักไม่ว่าจะเป็นทางด้านความชัง มันผูกพันหมด โดยโลกุตระแล้วไม่เลี้ยงสัตว์ ไม่ไปวุ่นวายกับสัตว์ใด ปล่อยให้สัตว์มันไปตามวิบากของมัน แม้แต่จะเห็นสัตว์ต่างๆ ถ้าเป็นสัตว์คนก็ต้องช่วยกันบ้าง ก็มากพอแล้วแล้วสัตว์เดรัจฉานอย่าไปยุ่งอะไรเขาเลย มันเยอะ อจินไตยนั้นแม้แต่สัตว์เดรัจฉานเราก็เคยมีวิบากต่อกันมา หากทำก็ต้องตอบแทนกันด้วยรักหรือชัง ทั้งคู่ อย่าไปสร้างกรรมวิบากเพิ่มเติมมันมากแล้ว ทางอโศกอาตมาไม่เลี้ยงสัตว์ หมาแมว แมลงหวี่ก็ไม่เลี้ยง ยุงก็ไม่เลี้ยง หากมันไข่แล้วมีลูกน้ำแล้วก็ต้องปล่อยมันไป _กรรณิการ์ Kannikar Patkong • กราบสาธุเจ้าค่ะ พ่อครู ธรรมะชั้นสูงจริงๆ ผุ้น้อย ฟังไม่ค่อย เข้าใจ สักเท่าไหร่เจ้าค่ะ พ่อครูว่า…คนคนนี้ฟังไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ยกให้ว่าเป็นธรรมะชั้นสูง เป็นอย่างนั้นก็ดี แต่ถ้าคนที่ฟังไม่เข้าใจแล้วก็ตีทิ้งเลย เขาเรียกว่าตาที่บอด sixsense คนนี้บอด เขาไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีถูกหรือไม่ถูกก็ตีทิ้งเลยคนนี้ขาดทุน เพราะว่าคุณยังไม่รู้เลยว่าดีหรือไม่ดี แล้วถ้าเป็นคนดีสูงสุดคุณก็ไปตีทิ้งด้วยคุณจะได้อะไรคุณก็ได้ตามที่คุณรู้ถ้าสูงกว่านี้มันไม่ใช่แล้วคุณก็ตีทิ้งเลย คุณก็ได้เท่าที่คุณรู้ คุณบอกว่าไม่ใช่มันทำไป แต่ถ้าอันนี้มันสูงเกินกว่าที่คุณจะรู้ถ้าคุณตีทิ้งเลย อะไรก็ไม่ได้ _สุชา อุดม • ลืมตาสมาธิในชิวิตประจำวัน นั่นเปนสัมมาจริงเหรอ…สามเณรสอนเถระใบลานเปล่า..ให้ปิดรูเหี้ย 6 รู เพื่อจับเหี้ย.. ไม่หลับตาไม่ต้องปิดแล้วจะจับเหี้ยได้ไง สมาธิยังไม่ได้…จะผัสสะอะไรมีมรรคมีผลที่ตรงไหน….แสดงว่าไม่ได้สัมผัสสมาธิจริงๆเลย…ข้อธรรมข้อมูลอ่านจำเอาได้หมด มันไม่ไช่สัจจะความจริง..ความจำเอาจำได้ กำจัดกิเลสไม่ได้ พ่อครูว่า…เรื่องการหลับตากับการลืมตาทำสมาธิเป็นประเด็นสำคัญมากศาสนาโลกียะเทวนิยมหลับตาปฏิบัติทั้งสิ้นมีมาประจำโลก เป็นของเดียรถีย์ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ขึ้นมาก็ไม่เห็นพระให้นั่งหลับตากันเต็มป่า หากว่าการทำแบบนั้นมันบรรลุแล้วพระพุทธเจ้าจะเกิดมาทำไมพ่อเขาสอนกันเต็มไปหมด แต่พระพุทธเจ้านั้นจะเรียกว่าเป็นสมาธิ คือการที่จิตตั้งมั่น ไม่ใช่เพียงแค่จิตที่เป็นหนึ่งเท่านั้นนะสมาธิ แต่เป็นจิตที่อุเบกขาจากสิ่งที่ต้องการให้หมดสุขหมดทุกข์ จิตจะมีคุณสมบัติ ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา อาตมาเข้าใจอย่างซาบซึ้ง อุเบกขาเป็นฐานการปฏิบัติ ต้องทำฌาน ฌานมาจากการปฏิบัติจรณะ 15 เป็นพุทธคุณหนึ่งในพระพุทธคุณ 9 ฌานต้องมีในศาสนาพุทธเป็นของศาสนาพุทธ แต่ฌานของศาสนาอื่นก็มี แม้แต่ฌาน ที่ท่านแปลว่าเป็นพลังงานไฟเพลิง แต่เดี๋ยวนี้เขาว่าทำฌานคือการเพ่งจดจ่อยู่กับกสิณ ถือว่าอย่างนั้นคือสมาธิคือฌาน เป็นจิตที่หยุดนิ่งเป็นหนึ่ง แต่มันไม่ได้เรียนรู้กิเลส ไม่ได้เรียนรู้ที่จะลดละกิเลสจนกิเลสหายไป จิตก็นิ่งเพราะปราศจากกิเลสแต่เป็นจิตที่ครอบครองไวปราดเปรียวทำงานได้ นี่คือ คุณสมบัติของฌานแบบพุทธ ที่เรียนกันมาจากคัมภีร์วิสุทธิมรรคของพุทธโฆษาจารย์นั้นไม่ได้สัมมาทิฏฐิเท่าอาตมาหรอก อาตมาไม่ได้มีจิตเบ่งข่ม แต่พูดความจริง อรรถกถาต่างจากเถรวาทะ อรรถกถาจารย์คือคำอธิบายของอาจารย์รุ่นหลังจากพระเถระ พระเถระคือผู้ที่เกิดในสมัยพระพุทธเจ้า เรียกเถรวาทะ คนไทยนับถือพุทธเถรวาทก็ควรนับถือเถรวาทะสิ จะไปเอาอรรถกถามายืนยันก็ผิดสิ แต่รุ่นหลังจะเป็นอาจาริยวาท หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปเกือบพันปีจึงจะได้เขียนตำราออกมา ชาวพุทธเถรวาทก็ควรเอาแต่เถรวาทะ ไม่ควรไปเชื่ออาจาริยวาท อาจารย์รุ่นหลัง _Thai Ch • กางแล้วครับพระไตรปิฎก.ท่านพูดไม่ลงรอยกับพระไตรปิฎกเลย..อรหันต์ก็คืออรหันต์ เป็นอริยบุคคลสูงสุดในพระพุทธศาสนา แต่อรหันต์ของท่านมีอรหันต์ใน์โสดาบัน อรหันตฺ์ในสกทาคามี อรหันต์ในอนาคามี อรหันต์ในโพธิสัตว์ฯลฯ.มีตรงใหนในพระไตรปิฎก.ความจริงคือ.คู่แห่งบุรษสี่คู่แปดจำพวกนั่นคือสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค.จัตตาริ ปุริสยุคคานิ อัฎฐปุริสปุคคลา เอส ภควโตสาวกสังโฆ..ท่านเคยได้ยินหรือไม่ครับ ถ้าท่านจะบัญญัติเองอย่างนี้โดยที่อ้างว่าเป็นสะยังอภิญญารู้ยิ่งเองไม่ใช่ศิษย์ตถาคตก็กราบของร้องอย่าอ้างพระไตรปิฎกเลยครับ เดี๋ยวกลองอานกะจะไม่เหลือเนื้อไม้เดิม.. …..แสดงธรรมไม่งามในเบื้องต้นท่ามกลางและที่สุดไม่มีสัมมาวาจาแล้วอย่างนี้จะเรียกว่าสะยังอภิญญา ได้อย่างไร ใหนบอกว่า อัตถิ ทินนัง. ทานที่ให้แล้วมีผล..เป็นสัมมาทิฎฐิ. แล้วมาบอกว่าทำบุญอุทิศผู้ตายไม่มีประโยชน์. ทานจะมีผลหรือไม่อยู่ที่จิตเพียงการสาดน้ำล้างจานลงในน้ำด้วยตั้งจิตว่าให้สัตว์น้ำได้กินเศษอาหารก็ยังได้บุญ.. …..ท่านก็อธิบายมั่วๆ พรหมชั้นสุทธาวาสนั้นพระพุทธเจ้าบอกกับพระอานนท์ว่าไม่เคยไปอยู่เพราะที่นั่นเป็นที่อยู่ของพระอนาคามีเมื่อไปแล้วต้องไม่กลับมา เพราะต้องปรินิพพานในภพนั้น..พระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีนั้นต้องยังไม่บรรลุเป็นพระอริยบุคคลถ้าบรรลุแล้วก็ต้องไม่มาสู่โลกนี้เพื่อบำเพ็ญบารมีได้อีก เพราะไม่ใช่พระอรหันต์ของชาวอโศกที่ต้องเสร็จกิจแล้วยังเวียนเกิดเวียนตายอยู่อีก.. พ่อครูว่า…อรหันต์ใน์โสดาบัน อรหันตฺ์ในสกทาคามี อรหันต์ในอนาคามี อรหันต์ในโพธิสัตว์ฯลฯ. หาเข้าใจเนื้อหาที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ก็จะเข้าใจว่ามันมีอยู่ในนั้น สัตว์เดรัจฉานทั้งหลายแหล่จะไม่มีทางได้บุญเลย แม้แต่คนที่ไม่ได้ทำบุญก็มี อาตมาแสดงธรรมเบื้องต้นท่ามกลางบั้นปลาย แต่อาตมามีวิธีแสดงธรรมเบื้องปลายก่อนเบื้องต้นเพื่อสร้างหมู่กลุ่มก่อน หากไม่มีฐานกลุ่มก็ไม่มีสิ่งที่จะแสดงธรรมได้ อาตมาต้องแสดงธรรมชั้นสูงก่อน จึงได้พวกอโศกที่เป็นเนื้อ แล้วก็มาแสดงธรรมเบื้องกลาง ต่อมา เช่นพระพุทธเจ้าเทศน์ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร และอนัตลักขณสูตร แล้วก็เทศน์ต่อไปเพื่อสร้างหมู่กลุ่ม ท่านเทศน์จากยอดมาหากลางมาหาต้นมาหาปลายอีกเป็นสภาพหมุนรอบเชิงซ้อน อาตมาอธิบายได้และทำอย่างนั้นมาจริงๆคุณเข้าใจไม่ได้ก็ท้วงมา เรื่องสุทธาวาสคุณพูดถูกอาตมาสายพระสมณโคดมจะไม่ไปเสียเวลาอยู่ในสุทธาวาสเลย หากอรหันต์ตายแล้ว0 หมดก็ไม่มีใครมาเป็นผู้สืบทอด อย่างยุคนี้2500 กว่าปีในประเทศไทยถ้าอาตมาไม่เกิดอรหันต์ไม่มีแล้ว ศาสนาพุทธสูญไปแล้วไม่ถึง 5000 ปี อาตมาเป็นสยังอภิญญามาเกิดยุคนี้จึงต่อเชื้ออรหันต์ได้ หากคุณไม่เห็นว่าอาตมาเป็นสัตบุรุษก็ไม่มีทางรู้เองได้หรอก อาตมายืนยันว่าอาตมาเคยเกิดมาในยุคพระพุทธเจ้า ถ้าอรหันต์ตายแล้วก็สูญ ผู้ที่บรรลุอรหันต์รู้จบสมบูรณ์แบบตายแล้วแยกจิตเป็นอุตุธาตุได้เลย อาตมาเกิดมายุคนี้รู้ทั้งอรหันต์เก๊ อรหันต์จริง ไม่ได้แกล้งว่า แต่ยืนยันให้เห็น พิจารณาให้ดีแล้วคุณตรวจสอบในพระไตรปิฎก _Thai Ch • คอมมูนแปลงร่างหาคนยากจนมาเลี้ยงมาดูแลแล้วล้างสมองเอาธรรมะบังหน้าแท้จริงผลประโชน์แฝงการเมืองใครคิดอย่างไรใครเชื่อก็ตามใจผมคิดแบบนี้ของผมนะครับ _สังคายนาตัวเองด้วยนะเอาให้ถูกกฎหมายก่อน เอาให้ชัดว่าเป็นพระ เจ้าลัทธิหรืออะไรกันแน่แล้วค่อยมาสอนคนอื่น พ่อครูว่า…อาตมาไม่ได้ผิดกฏหมายเลย แต่เถรสมาคมเข้าใจผิด เข้าใจว่าอาตมาผิดธรรมวินัย แต่จัดการอาตมาไม่ได้เลยไปให้ศาลตัดสินตามโลกๆๆ เช่นเขาฟ้องว่าอาตมาแต่งตัวเลียนแบบ อันนี้อาตมาเจตนาแต่งตัวให้ถูกตรง สรุปแล้วเป็นวิบากอาตมา ที่ต้องมาเจอวิบากแบบนี้แต่ห้ามด้วยกฎหมาย หรือธรรมวินัยไม่ได้ ทนายหรือผู้ช่วยคดีอาตมาไม่ได้จ้างมาเลย มีทนายมาเสนอตัวช่วยว่าความกว่า 50 คน เราก็เลยขอบคุณรับมาเป็นคณะ ให้คุณทองใบ ทองเปาด์มาเป็นหัวหน้าคณะ ตัดสินมาให้แพ้อาตมาก็แพ้ เราเลยได้เป็นสมณะ จริงๆอาตมาไม่ได้เป็นพระ เพราะอาตมามาเป็นสมณะ เขาไล่มาให้เป็นสมณะ ไม่ได้เป็นพระอย่างที่คุณว่า อาตมาไม่เป็นเจ้าลัทธิ อาตมาเอามาจากพระพุทธเจ้า _คำว่า พหุชะนะหิตายะ พหุชะนะสุขายะ โลกานุกัมปายะ. ประพฤติตนเพื่อประโยชน์สุขของชนส่วนมาก เพื่ออนุเคราะห์แก่ชาวโลก.ของท่านหมายความว่าเป็นนักการเมืองที่ดี เป็นชาวอโศกที่ทำงานเปล่าเอาผลเข้าส่วนกลางเป็นสาธารณโภคีแค่นั้นหรือ..แต่ทางพุทธศาสนาที่พระศาสดากล่าวกับสาวกว่า. ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงเที่ยวไปเพื่อประโยชน์สุขของชนเป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์แก่ชาวโลก.นั้นไม่ใช่เพื่อเป็นนักการเมืองที่ดีหรือเพื่อไปพาทำสาธารณโภคีเพื่อความเป็นอยู่อย่างโลกๆแบบนี้.แต่เพื่อประกลาศสัจธรรมสูงสุดที่พระพุทธองค์ตรัสรู้มา คืออริยสัจสี่อย่างไรเล่า .ชาวโลกทั้งหลายเขาไม่รู้ว่า เกิด.แก่ เจ็บ.ตาย.ไม่ได้สิงที่อยากได้ ประสบกับสิ่งที่ไม่อยากได้.พบกับความสูญเสีย มันเป็นทุกข์ๆเหมือนถูกไฟสุมอยู่บนหัวแต่เขา ไม่รู้เพราะอวิชชา จึง สอนให้เขารู้จักละอุปาทานความยึดมั่นคือละเหตุแห่งทุกข์เป็นต้น..นี่จึงเป็นหิตายะ สุขายะ โลกานุปัมปายะโดยแท้ ไม่ใช่สอนให้ยึดติดกับโลกามิส. ราหุลกุมารมาทูลขอสมบัติพระศาสดายังประทานบรรพชาให้เพราะสมบัติโลกไม่ว่าการเมืองที่ดีหรือสาธาณโภคีของท่านมันเป็นแค่โลกามิส ไม่ใช่โลกุตตระ สร้างบ้านแปลงเมืองอย่างนี้หรือครับคือกิจของสงฆ์ โลกามิสชัดๆ.โลกามิสัง ปะชะเห สันติเปกโข.ท่านสร้างบริษัทสี่ครบเหมือนพระพุทธเจ้าแล้วนี่ครับพระพุทธเจ้ามีภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ท่านก็มี สมณะ สิกขมาต ญาตอธรรมชาย หญิงครบแล้วประกาศศาสนา.ใหม่เลยครับ อย่าอ้างพุทธเลยเพราะท่านสอนเพี้ยนแถมเรื่องกายวิเวกการอยู่ป่าท่านก็ดูถูกท่านพระมหากัสสปซึ่งเป็นอสีติมหาสาวกทีพระพุทธเจ้ายกย่องว่ามีธรรมเป็นเครื่องอยู่เท่าพระศาสดาจนทรงแลกผ้าสังฆาฎิกับท่าน. ตำหนิพระมหากัสสปก็เหมือนตำหนิพระศาสดา พ่อครูว่า…อาตมาสอนอาริยสัจ 4 อย่างแท้จริง หากคุณทำได้ก็ต้องเกิดหมู่กลุ่มของศาสนาพุทธ แต่ที่นี่ขึ้นป้ายแผ่นดินพุทธเลยนะ เป็นหมู่ที่มีอนาคามีเป็นส่วนใหญ่แต่ทุกวันนี้คนเข้าใจ พระโสดาบันสกิทาคามีอนาคามีอรหันต์ไม่ได้ คุณไม่กล้าพูดหรอกว่าหมู่บ้านโสดาบัน สกิทาคามี แต่ที่นี่มีอนาคามีส่วนใหญ่ เพราะเป็นสาธารณโภคีได้ไม่ติดยึดในบ้านช่องเรือนชานแล้ว มาอยู่ที่นี่มีทรัพย์สินส่วนกลางจึงใช้ร่วมกัน เป็นสิ่งยืนยันชี้บ่งว่าสัจจะนี้เป็นไปได้ในยุคนี้ อาตมาทำสำเร็จมีหมู่กลุ่ม แต่คุณมีไหม?แต่ขออภัยเหมือนท้าทายกันไม่ไดี เราเอาเข้ากองกลางหมดนี่คือโลกุตระไม่ใช่โลกามิส คุณอย่าเพิ่งรีบตาย ขอเวลา จะมีชาวอโศกไปทำงานการเมืองต่อไป เราเคยตั้งพรรคเพื่อฟ้าดินก็ปิดไปแล้ว แต่เมื่อสมบูรณ์แบบประชาธิปไตยไทยจะดังทั่วโลก ไม่น่าจะต้องรอถึงอาตมาอายุ 151 ปีนะ อีกสัก 50 ปีก็น่าจะได้ คุณจะรู้อะไร พระพุทธเจ้าท่านช้อนพระกัสสปะไว้ ท่านแลกสังฆาฏิ ไม่อย่างนั้นสงฆ์จะเข้าใจพระกัสสปะผิด พูดแล้วอาตมาต้องพูดความจริงว่าคุณยังรู้น้อยนะ _ผมว่าท่านเอาพระราชดำรัสในหลวง ร.9 มาบรรยายผิดครับ. คำว่า our lose is our. Gain. ขาดทุนของเราคือกำไรลองเรา นั้นพระองค์ท่านทรงหมายถึงกิจการของรัฐที่ทำเพื่อประชาชนถึงลงทุนไปแล้วแต่รัฐขาดทุนประชาชนได้ประโยชน์มากก็ถือว่ารัฐได้กำไรแม้จะขาดทุนตัวเงินแต่ผลประโยชน์ของชาติไม่หาย…ผมได้ฟังสดๆหน้าทีวีรู้บริบทของพระราชดำรัสนี้..ไม่ได้หมายถึงกิจการของประชาชนหรอก..พระองค์ท่านอยากให้พสกนิกรของพระองค์รวยอยู่ดีกินดีไม่ใช่อยากให้ประชาชนจนถึงรัฐขาดทุนถ้าประชาชนอยู่ดีกินดีก็ถือว่ารัฐคุ้มเป็นที่มาของพระราชดำรัสนี้ ศึกษาดีๆ.. พ่อครูว่า…คุณก็พูดไม่ผิดหรอก แต่ในหลวงตรัสหมายไปถึงบุคคลด้วย เราเสียเราเป็นผู้ขาดทุนนี่แหละเราได้ ท่านอธิบายว่าเราขาดทุน เรานี่หมายถึงตัวเราหรือคนสองคน คุณเป็นคนกำไรเราเป็นคนขาดทุน คุณได้กำไรคุณได้ไปเราขาดทุน นี่แหละคือเราได้เป็นภาษาโลกุตระ ในหลวงตรัสได้ถูกต้อง อาตมาเข้าใจที่คุณพูด แต่อาตมาสอนยิ่งกว่านั้นให้แต่บุคคลมาเป็นคนจนเป็นการแก้ปัญหาสังคมที่จบ การสอนให้ไปรวยนี้ปัญหาสังคมไม่จบมันตีกันไม่เสร็จแต่ถ้ามาสอนให้เป็นคนจนอย่างชาวอโศก พวกเราเป็นคนจนอย่างมีความสันโดษมีความพอมีความมักน้อยมีความไม่สะสม แต่ขยันหมั่นเพียร นี่คือผู้ที่มีวรรณะ 9 พี่เป็นคนที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจตกก่อนประเทศอื่นในโลก อเมริกาก็แก้ไม่ได้ประเทศไหนที่เก่งศาสนาก็แก้ไม่ได้ ไม่มีประเทศไหนแก้เศรษฐกิจตกเหมือนประเทศไทยมีชาวอโศกทำสำเร็จแล้วและกระจายอยู่ทั่วประเทศไทยกำลังขยายผลอยู่ตลอดเวลา คุณทำให้ดีจะได้มาเป็นคนหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้กับประเทศ ความโสดไม่ใช่ความน่าเกลียดความจนเป็นความประเสริฐความรวยเป็นความเร็วร้าย สังคมทุนนิยมในโลกแย่งกันรวยจึงมีความเลวร้ายตลอดกาล แต่ละประเทศโมงจะให้ประเทศตนเองรวย จึงต้องฆ่าแกงแย่งชิงกับประเทศอื่นตลอดเวลา ประเทศใดที่ไม่แย่งชิงแล้วหยุดการแย่งชิงสร้างสรรค์ตัวเองแต่พอมีพอกินมีความสันโดษมีความพอเพียงเช่นสวิตเซอร์แลนด์ เขาเก่งเรื่องนาฬิกาก็ทำนาฬิกาเลี้ยงประเทศ จนกระทั่งเกินกินเกินใช้ คนก็ไว้ใจเอาเงินไปฝากได้แล้วประเทศนี้ ประเทศไทยจะมีคุณสมบัตินี้เหมือนประเทศสวิตเซอร์แลนด์เหมือนกัน แต่ก็ยังยากเพราะว่ามีคนอย่างทักษิณ ธนาธรธัมมชโย _ชยามน ชมกลิ่น • ดูภายนอกดูดีมาก ก็เป็นชุมชนที่มีศาสนาและตัวบุุคคลโพธิรักษฺ์เป็นที่ยึดเหนี่ยว กลัวว่าจะกลายเป็นลัทธิเฉพาะที่ยึดมั่นในตัวบุคคลมากไป จะสามารถนำให้คนในชุมชนเชื่อ ทำตามที่เขาโน้มน้าว ถามว่าคนในชุมชนมีบัตรประชาชนไหม มีภูมิลำเนาไหม มีสัญชาติไทยไหม ถ้าเขาเป็นคนต่างด้าวแล้วมาเกิดลูกหลานในไทยจะเป็นอย่างไร เขาจะไปเข้ากัยคนภายนอกไหม พ่อครูว่า…เชิญมาตรวจสอบได้ อยากให้มานะผู้ที่สงสัย ไม่ได้ทักทายหรอกอยากให้มาดูว่าเป็นคนอย่างที่คุณสงสัยคุณไม่ค่อยเข้าใจอย่างนั้นหรือไม่ คุณจะได้รับความรู้มากกว่าที่ควรสงสัยเลย การสงสัยก็จะหายเมื่อสัมผัสจริงๆ แล้วคุณจะได้รับประโยชน์รู้ลึกซึ้งรู้กว้างกว่า สู่แดนธรรมว่า…เขากลัวว่าจะกลายเป็นลัทธิที่ยึดมั่นในตัวบุคคลมากไป พ่อครูว่า…อันนี้บังคับใครไม่ได้ เขาต้องเลิกก็จะเชื่อแล้ว หรือเขามั่นใจแล้ว บางทีก็ไปบังคับเขาไม่ได้หรอก ขอออกตัวว่า ไม่ใช่ให้มาเชื่ออาตมาอย่างนั้น สังคมชาวอโศกนี้คนข้างนอกเข้าใจผิดเข้าใจได้ยากว่าเป็นสังคมปิด เป็นสังคมบังคับให้อยู่ในนี้ ไม่ให้ต้องไปศึกษาอันอื่น จริงๆสังคมอโศกเป็นสังคมเปิดอิสระเสรีภาพที่สุดเลย จะไปศึกษาใครก็ได้ ก็แต่พวกคุณที่เบื่อภายนอกแล้วหรือไปศึกษาภายนอกแล้วรู้ว่าไม่ได้เข้าร่องเข้ารอยเลย ก็เลยรับไม่ได้ ศึกษาธรรมวินัยผิดเพี้ยน เช่นไปยึดเอาสมาธิหลับตาเป็นของศาสนาพุทธยกตัวอย่างเป็นต้น _จตุพล จินดาพลjatupol jindapol • ผมเป็นบุคคลหนึ่งที่มีโอกาสได้สัมผัสและเข้าไปกราบท่านสมณะโพธิรักษ์ ในฐานะที่ผมเองก็เคยบวชพระ สายธรรมยุทธ พูดแบบไม่เกี่ยวกับศาสนา บอกได้เลยว่าท่านสมณะน่าเลื่อมใสมาก ไม่ว่าจะเสียสละต่อประเทศในเรื่องส่วนรวม โดยเฉพาะเรื่องช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆ ก็จะส่งข้างของและกองทัพมดหรือที่เีชรียกกองทักธรรมเข้ามาช่วยและงานที่ประทับใจมากคืองานพระศพ ร.9 ที่ส่งเสบียงมาช่วยดูแลคนที่มากราบพระศพ พูดได้เลยว่าจุดนี้ คือความจงรักภักดีต่อสถาบัน เรื่องอื่นสำหรับผมไม่จำเป็นครับ ตำสอนทางศาสนาเป็นเรื่องปัจจัยความคิดของแต่ละคน เลือกเอามาปฏิบัติใช้ให้ดีและไม่เบียดเบียนผู้อื่นก็พอ _สมบูรณ์ ไตรศรีsomboon Trisri • อนุโมธนาสาธุไม่มีหมู่บ้านใดในโลกนี้จะมีคนทำกันแบบนี้ถ้าคนไทยทำกันแบบนี้ประเทศไทยคงร่มเย็นผาสุขเพราะถือศีลปฏิบัติจริงๆข้าพเจ้าอีกคนหนึ่งที่เคยฝันอยากจะทำแบบนี้ สมาธิ สมาธิของพระพุทธเจ้าคือ จิตที่ตั้งมั่นสั่งสม ปฏิบัติอย่างถูกต้องแล้วก็ได้ผลสะอาดบริสุทธิ์จากกิเลสจริงๆ ถึงขั้นไม่มีอาสวะถอนอาสวะสิ้น จิตสะอาดก็ตกผลึก อเนญชา ตั้งมั่นไม่หวั่นไหว อนุรักขณาปธาน เป็นจิตที่ตั้งมั่นสมบูรณ์แบบ จิตที่เป็นสมาธิคือจิตที่เป็นผลจากการปฏิบัติวิชชาจะระณะสัมปันโน และวิชชา 8 จรณะ 15 วิชชา 8 เป็นพุทธคุณของศาสนาพุทธ เป็นของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต้องตรัสรู้วิชชาจะระณะสัมปันโน ไม่อย่างนั้นไม่มีสมณะ 4 เหล่า ไม่มีมรรคผลนิพพาน จิตที่เป็นอุเบกขา ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา สิ้นอาสวะเป็นฐานอุเบกขา เป็นฌานที่ 4 จิตที่สะอาดตกผลึกสั่งสมแข็งแรงตั้งมั่นเป็นสมาธิที่สมบูรณ์แล้ว สมาหิโต เป็นจิตที่ถูกต้องปฏิบัติได้จริง มีสมณะเราองค์หนึ่งอาตมาตั้งฉายาว่า สมาหิโต อย่าหลงตนว่าสมาหิโตแล้วหลงยึดมั่นถือมั่นโดยไม่ทำตนไม่พยายามตรวจสอบ สอบทานความจริงของตนเองให้ได้ นี่ก็เตือนสติ ท่าทางท่านจะเอนเอียงไปทางหลงไป ถ้าไม่หลงก็ดี ก็เตือนไว้ หลงได้จริงๆ จะเสียแน่ จะบ้าเอาด้วย สัมมาสมาธินี้คุณจะต้องรู้จักว่าสมาธิของพระพุทธเจ้า ต้องมี อปัณกธรรม 3 ถ้าคุณปฏิบัติไม่มีสำรวมอินทรีย์ทั้ง 6 โภชเนมัตตัญญุตาชาคริยานุโยค เป็นการตื่นไม่ใช่การหลับ ตื่นลืมตาไม่ใช่ไปหลับตา 3 ข้อนี้ก็เห็นผิดกันแล้ว เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่ศาสนาพุทธสมาธิที่เกิดจาก 3 ข้อนี้ไม่มี ไม่ใช่ของพุทธ ปฏิบัติ 3 ข้อนี้จึงจะเกิด สัทธรรม 7 เกิด ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ พหูสูต วิริยะ สติ ปัญญา สั่งสมเป็นฌาน 4 และวิชชา 8 เมื่อเกิดฌาน 4 และวิชชา 8 เป็นอาสวักขยญาณที่เป็นวิชชาสุดท้าย หมดมีญาณที่สิ้นอาสวะเกลี้ยง จิตอย่างนั้นจึงตกผลึกเป็นจิตที่ อเนญชา ควบแน่นเป็นจิตที่แข็งแรง อัปปนา พยัปปนา เจตโสอภินิโรปนา นี่คือสมาธิของศาสนาพุทธต้องมีศีลต้องมี อปัณกธรรม 3 จึงเกิดสัทธรรม 7 ฌาน 4 วิชชา 8 หลับตานั้นไม่มีอปัณกธรรม 3 โมฆะจากศาสนาพุทธ ปฏิบัติผิด ศรัทธาที่เกิด คุณสัมผัสแล้วยังเกิดกิเลสคุณก็มีความละอายว่ากิเลสที่ยังมีอยู่ เมื่อปฏิบัติได้สูงขึ้นก็ โอตตัปปะ เลิกละเว้นได้ จึงเกิดพัฒนาการเป็นพหูสูต คือ พาหุสัจจะ เป็นผู้ที่พัฒนามีความจริงมากยิ่งขึ้น ก็จะเป็นเช่นนั้นยืนยัน คุณละอายกิเลสคุณเกิดกิเลสแล้วก็ฆ่ากิเลสด้วยความเพียร จนกระทั่งเป็นผลเป็นพหูสูต ไปเรื่อยๆ ได้ผลอย่างนี้ก็ยิ่งมีวิริยะสติปัญญาแข็งแรงจริงจัง เป็นอิทธิบาท 4 มีฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา มีวิริยะสติปัญญามีอินทรีย์พละ ศรัทธาวิริยะสติสมาธิปัญญา ในจรณะ 15 ไม่มีคำว่าสมาธิเพราะว่าสมาธิเป็นผลของ จรณะ 15 วิชชา 8 หากปฏิบัตินอกจากจรณะ 15 วิชชา 8 ไม่มีสมาธิของพุทธเกิด สรุปเป็นศีลสมาธิปัญญาก็เป็นกระบวนการที่สั้นลง ก็คือจรณะ 15 วิชชา 8 สมาธิไปนั่งหลับตาเป็นเรื่องนอกรีต อ้างอิงหลักฐานจากพระไตรปิฎกนั่งหลับตาไม่ใช่ของศาสนาพุทธ ตั้งแต่พรหมชาลสูตร ไม่มีปัจจุบันชาติไม่มีทิฏฐกาละ หลับตามีแต่อดีตกับอนาคตมันมีแต่สัญญาก็ได้แต่ความรู้ในสัญญา ปัจจุบันมันต้องลืมตาแล้วมีสัมผัส มีจักขุ ญาณ ปัญญา วิชชา อาโลกแสงสว่าง จึงจะเกิดปัญญาแท้ แต่การบอกว่าไปนั่งหลับตาอย่าไปนึกคิดอะไรแล้วปัญญาจะเกิดขึ้นเองอย่าไปนึกคิดอะไร การนึกคิดนั้นนั้นปัญญาเกิดขึ้นไม่ได้ ความคิดของอาจารย์บูรพา ผดุงไทย เขียนอยู่ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ก็ได้แต่น่าสงสารพากันผิดได้บาป อาจารย์บูรพาก็ไม่น่าจะเป็นคนที่ไม่มี ปรโตโฆษะ หากว่าฟังอาตมาจะได้มีโยนิโสมนสิการ จะได้รู้ว่าที่ทำกันอยู่นั้นเป็นการทำใจในใจที่ผิดนะ สมาธิที่เกิดจากการทำในใจที่ผิด นั่งสะกดจิตก็เป็นแบบนี้ เดียรถีย์ ไม่ได้ปฏิเสธว่าเป็นสมาธิ แต่มันเป็นแบบมิจฉาทิฏฐิ หากว่าโยนิโสมนสิการไม่ได้ คุณไม่เกิดประโยชน์ ไม่เป็นอะไรได้เลย หากไม่เข้าใจโยนิโสมนสิการอย่างสมาธิที่แท้ คุณจะไม่สามารถปฏิบัติมรรคมีองค์ 8 ได้ เพราะว่าโยนิโสมนสิการจะเป็นข้อที่ 7 ของแสงอรุณทั้ง 7 คือคุณต้องพบมิตรดีสัตบุรุษก่อน คุณรู้เองสู่รู้ไม่ได้ โลกนี้คุณต้องหาสัตบุรุษให้ได้ อัตถิโลเก ขออภัยอาตมาเป็นสัตบุรุษไม่ได้พูดว่าตัวตนแต่ยืนยันความจริง ควรปรโตโฆษะได้ เพราะอาตมาอธิบาย แสงอรุณ 7 หากตีทิ้งอาตมาก็เข้าใจสัมมาทิฏฐิทั้ง 10 ไม่ได้ แล้วก็จะปฏิบัติมรรคมีองค์ 8 ให้เกิดสัมมาสมาธิไม่ได้เพราะว่าสัมมาทิฏฐิเป็นประธานของมรรคมีองค์ 8 สมาธิจึงเป็นผลจากการปฏิบัติมรรคทั้ง 7 องค์ ในมหาจัตตารีสกสูตร พระพุทธเจ้าให้ปฏิบัติตั้งแต่สัมมาทิฏฐิเป็นองค์ประธาน แล้วจะมีสัมมาสติสัมมาวายามะเป็นองค์ห้อมล้อมสัมมาทิฏฐิ เพื่อไปปฏิบัติสังกัปปะ วาจา กัมมันตะอาชีวะ กำลังทำอาชีพกำลังทำการงานกำลังพูดจากำลังนึกคิดอยู่ก็ปฏิบัติได้ไม่ใช่หยุดนึกคิด แล้วก็ให้มีจิตที่พยายามมีวิปัสสนาญาณ คือญาณรู้เห็นแยกธรรมะสอง ในขณะที่มันมีเหตุปัจจัย มีผัสสะเป็นปัจจัยมีกายเวทนาจิตธรรม แต่นั่งสมาธิหลับตาไม่มีกายภายนอกมันก็ผิดตั้งแต่ต้นแล้ว จะไปปฏิบัติธรรมอะไรได้เริ่มต้นเข้าใจกายแต่เพียงภายนอก ทั้งๆที่กายต้องมีภายนอกและภายในด้วยขาดอันใดอันหนึ่งไม่ได้ แต่คนตัดทิ้งเอาแต่กายภายนอกและจิตอยู่ภายในสมาธิก็เอาแต่จิต แต่สมาธิของพระพุทธเจ้ามีทั้งจิตทั้งกาย เป็นองค์ธรรม 2 เทวธัมมา พากเพียรปฏิบัติมรรคมีองค์ 8 จึงจะเกิดพระอริยบุคคล บุคคล 4 บุคคล 8 ได้ ไม่เช่นนั้นมันไม่เกิดมันไม่มีมันไม่เป็น โยนิโสมนสิการ แปลว่าการทำในใจอย่างถูกต้องลงไปถึงที่เกิดเหตุ ถึงหทยรูป จับอาการจิตได้ แยกแยะกิเลสออกมาได้ แยกได้ถูกต้องแล้วกำจัดกิเลสได้ เช่นคุณทำทาน คุณตามจิตคุณไม่ได้ คุณทำทานตามจารีตประเพณีแล้วก็บอกว่าจะได้บุญ แต่คุณทำใจในใจอย่างไรก็ทำทานแล้วเปล่งอะไร ขอให้มีได้สมบัติสวรรค์ ทั้งร่ำรวย อายุ วัณโณ สุขัง พลัง ซึ่งมันยังมีความหวังยังมีการต้องการสิ่งตอบแทนจะได้ ล.23 ข.49 ทานสูตร เทวดา 6 อย่าง พรหม 1 อย่าง อันที่ 1 จาตุมหาราชิกา(ท้าวกุเวร ท้าววิรุฬหก ท้าวธตรฐ ท้าววิรูปักษ์) คือ ทำทานแล้ว มี 1.สาเปกฺโข(มุ่งหวัง) ทานํ เทติ 2.ปฏิพทฺธจิตฺโต(ผูกพัน) ทานํ เทติ 3.สนฺนิธิเปกฺโข(สั่งสม) ทานํ เทติ 4.อิมํ เปจฺจ ปริภุญฺชิสฺสามีติ(ให้ข้ามภพชาติ) ทานํ เทติ สมณะฟ้าไท สรุปจบ Category: ศาสนาBy Samanasandin23 ตุลาคม 2019Tags: พุทธศาสนาตามภูมิวิถีอาริยธรรม Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:๖๒๐๕๐๒ข้อคิดจากสมณะเดินดิน ติกขวีโรNextNext post:621025_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ปฏิบัติวิชชาจรณะพาออกจากถ้ำRelated Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024