621115_รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 80
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่…https://docs.google.com/document/d/1GvaC5FE0vARCMB2wlfNwc_vY8IN-vR_E_OgV797XFJc/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่ https://drive.google.com/open?id=1ht1slHPyv6nztT3iBqFW42mzy2hK3aMH
พ่อครูว่า…วันนี้วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ที่ บวร สันติอโศก
_SMS
ศาสนาพุทธต้องได้รับธรรมะจากครู
_พระครูศรีปรีชา : เรานักบวชพุทธศาสน์ไม่คลาดจิตน้อมมุ่งจิตความถูกผิดในวินัยถ้าถือมั่วใฝ่ธรรมเหลื่อมล้ำหัวใจแม้นมุ่งกล่าวไขก็ห่างพุทธธรรม
พ่อครูว่า…ต้องย้ำประเด็นสำคัญที่ว่าคนทั้งหลายที่ยังไม่ใช่ สยังอภิญญาจนถึงสยัมภู สยัมภูคือระดับพระพุทธเจ้า รองลงมาเป็นพระโพธิสัตว์มีความรู้ไป สยังอภิญญา มีความรู้ของตัวเองข้ามชาติมา มาถึงชาตินี้ ไม่มีใครที่จะรู้หรือมีเองเท่า หรือมีแม้ไม่เท่า แต่ก็รู้ของตัวเอง สยังอภิญญาจะอุบัติแต่ละยุคกาละจะไม่ซ้อน 2 คนกันเท่าไหร่ มีซ้อนก็จะรู้ว่าไม่ควรจะแทรกจะรู้ว่าตัวเองมีภูมิสูงหรือต่ำกว่า เป็นพระอรหันต์เป็น เป็นโพธิสัตว์แล้วก็ไม่มีตัวตนที่จะอวดโอ่ ถ้าไม่แน่จริงว่าตัวเองไม่มีใครเทียบ ขนาดอาตมาตัวเองในยุคนี้ก็ยังรู้ว่าไม่มีใครจะมาเทียบ แต่ก็แสดงตัวว่าถ้ามีพี่ที่เหนือกว่าก็โปรดแสดงตัว
การจะฟังธรรมต้องฟังจากมิตรดีที่มีภูมิพอจะสอนคนเป็นครูคนได้ จึงเรียกว่าผู้ที่ตั้งอยู่ในฐานะของครู ศาสนาพุทธจะต้องรับฟังถ้าไม่ใช่จากพระพุทธเจ้าก็ต้องจากสัตบุรุษที่รู้จริงหรือจากสยังอภิญญาคือผู้ตั้งอยู่ในฐานะครูอย่างแท้จริง ต้องได้รับฟังธรรมจากท่าน คิดเองไม่ได้รู้เองไม่ได้ ศาสนาพุทธไม่มีรู้เอง จะรู้เองก็อยู่ในตำแหน่งสยังอภิญญาขึ้นไปหรือตั้งอยู่ในฐานะครูเป็นสัตบุรุษจริง ยกไว้ก็คือพระพุทธเจ้าเป็นธรรมะสามีเป็นเจ้าของศาสนา นอกนั้นก็ยังไม่แน่นอนเป็นลูกศิษย์ของท่านแต่ข้ามชาติมา สั่งสมมาจนกระทั่งมีในตัวเองเพียงพอ ที่จะแสดง อาตมาประกาศแสดงมา เกือบ 50 ปีแล้วก็ยังไม่มีอะไรมาหักล้างหรือมาเปลี่ยนแปลง หรือว่ามีเหตุปัจจัยหลักฐานต่างๆมาล้มล้างความเป็นจริงอันนี้ ยังเห็นว่าเป็นจริง อาตมาไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นนะ ถ้ามันไม่จริงก็ไปยึดมั่นถือมั่นก็จะบ้าเอา ก็ต้องยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่จริง ถ้ามาล้มล้างสิ่งนี้แล้วได้เราก็เลิกยึดมั่นถือมั่น ก็ไปยึดมั่นถือมั่นอันใหม่ที่จริงกว่า ถ้ามีการเปรียบเทียบแล้วว่ามีอันใหม่ที่ดีกว่า แล้วจะไปยึดถืออันเก่ามันก็โง่ ก็คงทำไม่ได้
_1614พุทธภาษิต บัณฑิตทั้งหลายกล่าวถึงผู้นิ่งทางกายนิ่งทางวาจา นิ่งทางใจ ไม่มีอาสวะ ถึงพร้อมด้วยปัญญา ผู้ละสิ่งทั้งปวงได้ว่าเป็นมุนี ผู้นิ่งทางกาย เป็นอย่างไรคะ
พ่อครูว่า…ผู้นิ่งจะทางกาย วาจา ใจ ไม่ใช่ผู้นิ่งแบบไม่พูดไม่คิด ไม่ใช่ แต่นิ่งคำนี้เป็นภาษาสัจธรรมลึกซึ้ง นิ่งหมายถึงว่าไม่มีอะไรกวนในจิตแล้ว จิตเป็นประธาน จะแสดงกายกรรมออกมา กายกรรมก็เป็นผู้ที่นิ่ง จะเป็นลีลาท่าทางประกอบ พูดจาด้วย นัจจะคีตะวาทิตะ
ผู้รู้จักนัจจะคีตะวาทิตะมาครบก็เรียกกายกรรม แต่ถ้ากายกรรมไม่ออก ก็เรียกว่ามีแต่วจีกรรม ไม่มีท่าทางกิริยากายมีแต่วาจา แต่ก็มีใจเป็นประธาน อย่างเขาถือว่ากันว่านิ่งไม่กระดุกกระดิก มีแต่เสียงกับริมฝีปาก เสียงออกไปเบาๆเขาเชื่อกันว่าสุภาพ อย่างนั้นมันก็ง่ายๆ สุดโต่ง แต่นิ่งๆที่ว่าคือหมดกิเลสที่จะบันดาลออกมาทางกาย ..
วาจา ก็คือในใจไม่มีกิเลส คือผู้นิ่ง(ทองแก้วถามว่าต้องเป็นพระอรหันต์หรือไม่ )ไม่ใช่พระอรหันต์ก็ได้ฝึกได้เป็นครั้งคราวจนสุดได้เป็นอัตโนมัติชำนาญ อรหันต์คือไม่มีทางผิดพลาดที่จะแสดงกายกรรมวจีกรรมออกมาเพราะว่าประธานคือจิตแข็งแรงเป็นไดนามิก พลังงานตัวที่จะเป็นตัวงานหลัก มันสั่งออกมาให้พูดทำกายกรรม ไม่มีกิเลสเข้ามาร่วม
_ประสงค์ สุกลนันท์ : “กรรม” ตามพุทธศาสนา ใช้กับคนนอกศาสนาพุทธด้วยไหมครับจากข้อธรรม ของหลวงปู่ทอง สิริมังคโล การติดต่อ อารมณ์ ภายใน ภายนอก เปนอย่างไรคะ
พ่อครูว่า…กรรมในทางพุทธศาสนาใช้กับคนทุกคน กรรมเป็นคำกลางๆ ผู้ไม่ได้เรียนกรรมแม้แต่ทางโลกีย์ กายกรรมนี้ดีหรือชั่ว ทุกคนก็ต้องมีการกระทำกายวาจาใจทุกคน จะเป็นศาสนาใดก็ตาม กรรมที่เป็นบาป ศาสนาพุทธระบุไปเลยว่าการฆ่าสัตว์คือบาป อีกศาสนาหนึ่งบอกว่าไม่บาปฆ่าสัตว์ได้ อันนั้นแหละ ตามนั้นแหละตามศาสนาพุทธนะ แม้แต่คุณไม่ได้ถือศาสนาพุทธ ศาสดาคุณถือว่าฆ่าสัตว์ไม่บาปแต่คุณก็ได้บาป เพราะว่ากรรมอันนั้นมันทำแล้วเป็นวิบาก สัตว์นั้นมันจะมีความอาฆาตไหม มันรักชีวิตมันไหม ใครฆ่ามันมันก็ต้องอาฆาต จิตมันจะไปรู้เหรอว่าจะต้องไปอาฆาต หากมันไม่อาฆาตมันก็ต้องเป็นพระอรหันต์แล้วสิ แต่นี่มันเป็นสัตว์ ยิ่งเป็นสัตว์ที่มันติดยึดตัวตนเลยแล้วไปฆ่ามัน มันก็ต้องผูกพยาบาทไปตลอดชาตินั้นชาตินี้ไปตั้งเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นจะนับถือศาสนาไหนก็ตาม แต่ว่าสัตว์มันไม่มีศาสนาหรอก มันไม่รู้หรอก จะไปให้มันบอกว่าศาสนานี้ไม่ให้มันอาฆาตไม่ได้หรอก คุณไม่สามารถบังคับมันได้หรอก จิตใจมันจะอาฆาตหรือไม่อาฆาตก็ต้องของมันแล้วมันรู้ มันก็รักตัวตนของมัน หากว่าไปฆ่ามัน มันก็รักชีวิตของมัน หากว่าไปฆ่ามัน มันจะไปชอบใจหรือ ที่บอกว่าให้ฆ่าได้นั้นคือคนมันอยากได้
สัตว์เดรัจฉานตัวไหนมันก็ไม่อยากตาย มันก็ต้องรักชีวะ มันต้องรักษาชีวะของมันให้ยืนยาวทั้งนั้น
_กุญแจ เงินทอง : ไม่ลอยกระทง สบายกว่า เปลี่ยนแปลง ความคิดความเชื่อ อย่างอื่นก็จะเปลี่ยนตาม /Surapong
พ่อครูกล่าว ท่านเป็นอรหันต์มาแล้ว จะปรินิพพานเมื่อไร ก็ได้จะเป็น ศาสดาของศาสนาใดก็ได้ ก็เวลานี้ก็เป้น ศาสดาอยู่ ถ้าจะตั้งชื่อก็คือ ศาสดา สันติอโศก / โดยอิง ศาสนาพุทธแท้
พ่อครูว่า…เป็นอรหันต์แล้วจะตั้งจิตต่อภพภูมิ ปณิปิตตจิต อย่างอาตมาบอกว่าเป็นพระอรหันต์แล้วตั้งจิตเกิดมาอีกก็ได้ เป็นพระอรหันต์แล้วค่อยเป็นโพธิสัตว์ อันนี้อาตมาพูดแล้วเขาก็ยิ่งขัดใจเขา ขัดจากความเข้าใจความรู้สึกของเขา ก็ต้องค่อยๆพูดไป ตอนนี้ก็ค่อยคลายความขัดแย้งลง เพราะหากว่าอาตมาพูดไปอย่างไม่มีหลักฐานพูดไปแล้วเขาก็จะมากระทืบเอาแบนเลย
_view6 view6 : ถ้าพระเจ้ามีจริงก็ เสมือนพ่อแม่ ทำไมปล่อยให้ลูกๆลำบาก และยังให้ลูกต้องเจ็บปวดและตาย /หรือพระเจ้า สันดานไม่ดี
พ่อครูว่า…พูดกันว่าพระเจ้าใจดีรักมนุษย์ทุกคน ปรารถนาดีให้คนไม่มีทุกข์นอกจากคนชั่ว ก็จะส่งลงนรก ถ้าเผื่อว่า ธรรมดาก็ต้องรักทุกคนส่งขึ้นสวรรค์ทุกคน แต่ทำไมเมื่อลูกๆยังลำบากอีกเยอะแยะยังจะต้องให้เจ็บปวดให้ตาย การให้ตายนี้เป็นเรื่องที่ซ้อน พระเจ้าไม่ให้ใครตาย พระเจ้าไม่มีตายเป็นวิญญาณนิรันดร ใครตายจากร่างกาย วิญญาณไม่มีตาย ในศาสนาเทวนิยม วิญญาณจะต้องไปอยู่กับพระเจ้าตลอดนิรันดร คำว่าวิญญาณนี้ตายสูญหายไม่ได้ไม่มี ศาสนาเทวนิยมมีปัญญานิรันดรไม่มีตาย ไปอยู่กับพระเจ้าเท่านั้น ส่วนที่จะลงนรกพระเจ้าเป็นผู้พิพากษา จะให้ใครลงนรก ศาสนาเหล่านี้จึงเป็นศาสนาที่อ้อนวอนพระเจ้าจะถูกจะผิดก็ต้องให้พระเจ้ารักท่านจึงจะไม่ส่งลงนรก ออดอ้อนให้พระเจ้ารัก แต่ศาสนาพุทธนั้นหยุดเลยในความผิดไม่ทำไรแล้วไม่ยึดติดในนรก หมดสวรรค์หมดนรก มีชีวิตอยู่ยังไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสานก็กรรมกิริยาที่มีแต่ดีเป็นกุศล
_MrThai2fun : อานนท์ ! ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอทั้งหลาย ธรรมวินัยนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอทั้งหลายโดยกาลล่วงไปแห่งเรา บาลี( มหา. ที. ๑๐/๑๕๙/๑๒๘.)
พ่อครูว่า…อาตมาไม่ได้เป็นศาสดาพระพุทธเจ้าคือศาสดาของศาสนา แปลคำว่าศาสดาก็ใช้ในศาสนาอื่นได้ด้วย เป็นคำกลางๆไม่ได้ยึดมั่นถือมั่น จนกระทั่งต้องให้ใช้เฉพาะพระพุทธเจ้าอย่างเดียว คำว่าศาสดาคือผู้ที่เป็นครูที่สอนได้ ถ้าไม่มีใครสูงกว่าในยุคไหนคนนั้นก็ถือว่าเป็นศาสดาก็ได้
อยู่ที่เนื้อหาสัจธรรมที่ผู้นำแสดงออกแล้วให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์ต่อไปมันสูงเท่าไหร่ก็เท่านั้นตามสัจจะ ไปยึดถือในบัญญัติก็เท่านั้นเอง แต่ว่าไม่ได้เป็นศาสดาก็ไม่มีปัญหาทำประโยชน์ให้มันได้ก็เท่านั้น
_วายเจ็ด วายเจ็ด : ขอให้ท่าน.มีอายุ.วรรณะ.สุขะ.พละ.เป็นร่มโพธิ์.ให้ลูกหลานของ
พุทธศาสนิกชน.ไปนานๆ….สาธุ.
_เจน ฮูเชอร์ : จ่ายภาษีแพงมากเลยเจ้าค่ะ เมืองนอก คนเก็บขยะก็ต้องจ่ายภาษี. บาง
คอบครัวไม่ให้ภรรยาทำงานเพราะภาษีแพงเจ้าค่ะ. (สวิส) 31ปีอยู่สวิสค่ะ
พ่อครูว่า…บางบ้านไม่ให้ภรรยาทำงานให้ทำแต่งานในบ้านเท่านั้น
ปุถุชนหยั่งลงในดีชั่วไม่เที่ยง
_กุญแจ เงินทอง :Facebook เปิดตัวเงินสกุลใหม่ “ลิบรา” (Libra) เป็นเงินสกุลดิจิทัล ที่มีระบบตรวจสอบ ปลอดภัย เชื่อถือได้ อีกก้าวสำคัญของระบบเศรษฐกิจโลกพร้อมให้บริการปี 2563 /การรู้ร้อน รู้หนาว รู้หิวรู้กระหาย รู้หนีภัย มาถึงตัว เปนส่วนหนึ่งของปัญญาระดับ 1ที่เรียกว่า สัญชาตญาณ
พ่อครูว่า…อาตมาไม่สนใจหรอกแค่เงินบาทก็จุกแล้ว
สัญชาตญาณสัตว์โลกทุกชีวิตก็มี เป็นคำแปลว่ามาจากการเกิด สัตว์เดรัจฉานก็มีญาณตัวนี้มาพร้อมกับการเกิด
ถ้าเป็นปุถุชนจะสั่งสมโลกียะตามที่ตัวเองยึด ยึดผิดก็พาผิด ยึดถูกก็พาถูกแต่แค่ดีชั่ว หากทำดีไปได้ขั้นสูงสุด แล้วก็ชินชากับความดีมันก็ไม่เที่ยงมันก็จะลดลงๆ กิเลสสุดท้ายที่สุดคือประมาท เป็นอุปกิเลสข้อสุดท้าย ไม่ประมาทแล้วมันก็จะบกพร่อง พอบกพร่องได้ที่ก็เข้าเขตนรก โลกียะไม่เที่ยงโลกตระถึงเที่ยง ไม่ตกต่ำมีแต่ดีถ่ายเดียว ไม่วนเวียนมาหาชั่วอีก
ผู้ที่บรรลุพระอรหันต์แล้วขึ้นไปไม่มีทำชั่ว มีแต่ดีอย่างเดียว สัพพปาปัสสอกรณัง กุสลสูปสัมปทา สจิตตปริโยทปนัง
อาการของความดีความชั่วกับอาการของความสุขความทุกข์มันคนละอย่างกัน ความดีความชั่วเป็นสมมุติที่คนแต่ละกลุ่มเขายึดถือกัน ส่วนความสุขความทุกข์นั้น เป็นการยึดถือบำเรออารมณ์ของตน แต่สิ่งที่บำเรอไม่ตรงกันได้ คนยึดถือความดำเป็นสุขคนยึดถือความขาวเป็นสุข คนยึดถือความเค็มเป็นสุขคนยึดถือความหวานเป็นสุข แม้แต่น้อยหรือมากก็ไม่เท่ากัน คนนี้หวานมากหวานน้อย ก็มีความสุขต่างกันต่างๆนานาสารพัดต่างๆ
เรื่องความสุขความทุกข์เป็นโลกุตระ ผู้ที่ไม่สุขไม่ทุกข์แล้ว รู้จักความจริงตามความเป็นจริงของสิ่งที่เราล่วงรู้ด้วยทวารทั้ง 5 คนอื่นเขารู้อย่างนี้ตรงกันหมด แต่ไม่มีอะไรขัดแย้งกับคนทุกคน คนเขายึดถือของเขา เราก็รู้ความจริงตามความเป็นจริงเป็นอารมณ์หนึ่งเดียว ไม่มีอารมณ์จะเป็น 2 รู้แต่เขานั้นเป็น 2 แต่เราไม่มี 2 ก็เข้าใจยากอยู่นะ
_สิกขมาตุสัจฉิกตา…โลกนี้มีความดีความชั่วที่เขายึดถือกัน แต่โลกุตระนี้ เรื่องของความสุขความทุกข์เป็นเรื่องของการบำรุงกิเลสบำเรออารมณ์ มันก็จะมีความสุขแล้วเดี๋ยวก็ต้องมีความทุกข์ อย่างพวกเราตั้งใจฟังธรรม ถ้าเราฟังธรรมะอย่างบำเรออารมณ์เดี๋ยวก็สุขๆเดี๋ยวก็เซ็ง แต่หากเราตั้งใจฟังอย่างไม่เอาตามอารมณ์ มันก็จะได้สาระ
พ่อครูว่า..แต่ก็ยินดี มีฉันทะมีปีติ ก็อย่าไปพาซื่อจนเฉยไม่ยินดีเลย ดีแต่ไม่ยินดี มันจืดมากไป ก็มีบ้างเป็นผรณาปีติ ถ้าแรงหน่อยเราก็รู้ว่าได้ แต่แรงมากๆมันจะดูดติดยึด ก็อย่าไปดูดมาก เรื่องรายละเอียดของการทำใจในใจของเรามันไม่ง่าย เป็นเรื่องที่สุขุมประณีตมาก แต่ฝึกไปให้ดีมันจะได้รู้ความจริงละเอียดขึ้น
_ประดับ อินทร์แป้นpradapinpan :?กราบนมัสการพ่อครู ,สมณะ, สิกขมาตุเจริญธรรม ญาติธรรมทุกคน. ขณะนี้ยอดผู้ชมทางยูทูป 171 รายครับ รับชมอยู่ที่ปฐมอโศก ครับ.
พ่อครูว่า…ถึงอย่างไรก็ไม่มีทางไล่ทันพวกโลกียะที่เป็นล้านวิว อย่าไปคิดให้เสียเวลา เราเห็นว่าอันนี้เป็นคุณค่าที่สุดของชีวิตดังนั้นเราก็ไม่ได้ดูถูกหรอก แต่มันเป็นโลกียะเราก็เคยเป็นแบบนั้นมาแล้วเราทิ้งมาแล้ว เป็นการเสียเวลาไร้สาระ
_ภาษาไทยPhasaThai : ท่านบิ๊กตู่ นายกฯของไทย บอกจีนว่า ไทยเปรียบเป็น “มด”แต่ก็มีประโยชน์ได้ ทำให้คิดว่า เป็นมด ได้เป็นเหมือนตัวแทนของความขยันและการงาน, แต่ว่า เรื่องโพธิเขต หรือพุทธเขต มักได้ยินเสมอ ว่าพระพุทธเจ้าก็น่าที่จะอยู่ได้ ในการอยู่ในเขตของนกกระจาบ ไปจนถึงช้างก็จึงพอ ไม่ต้องเป็นมด
พ่อครูว่า…เป็นโลกจินตา คิดไปได้เรื่อยๆไม่มีขอบเขต จนกระทั่งเคยหลงเราพูดถึงประเด็นไหนไปใหญ่เลยกลับมาเกือบไม่ถูก อาตมาก็เคยหลงอธิบายไปไกล จนกระทั่งต้องถามพวกเราว่ากำลังพูดถึงประเด็นอะไร
_กุญแจ เงินทอง : สมณะฟ้าไท ถามว่า อากาศเย็นลงไหม พอดีไขมันเยอะ
เลยไม่ค่อยหนาว / โพธิสัตว์ เป็นผู้เสียสละจริง ควร กราบไหว้
_สุวรรณเจริญ นันทินีSuwancharoen Nanthinee : กราบสาธุสาธุสาธุ ติดตามจากญี่ปุ่นเจ้าค่ะ
_เบิกฟ้า หาพุทธแท้ : น้อมกราบนมัสการครับ….เจอเเล้วนี่หล่ะคือ..พุทธแท้
ฐานศีลของตนเป็นตามลำดับ
_สุดชดา…ดิฉันก็มีแบบคุณอู๊ดที่บ้านราชฯเหมือนกัน แต่มีเล็กน้อย ตอนนี้ป่วยก็เลยได้สัมพันธ์กับญาติของน้อง เขาพูดเป็นภาษาธรรมะ แต่มีประเด็นหนึ่งที่เขารู้สึกว่า ยังไม่อยากมาปฏิบัติแบบชาวอโศกเขาบอกว่าไม่เห็นด้วยเพราะว่ามันสุดโต่ง ซึ่งดิฉันเองก็ยังไม่มีภาษาที่จะไปสอนเขา ไปปรับอะไรให้กับเขา ก็เลยได้แต่ฟัง
ตั้งแต่เข้าวัดมาใหม่ๆ ดิฉันมีจิตสองอย่างกับพ่อครูคือดีใจที่ได้พบ กับรู้สึกชัง พยายามจะปรับจิตใจอยู่ตลอด ก็เลยศึกษาประวัติศาสตร์เพื่อเพิ่มศรัทธา ก็ได้ผล แต่มันเป็นโลกจินตา มันเริ่มเลยเถิดจนเป็นกิเลส ศึกษาจนหยุดตัวเองไม่ได้ก็เลยมาเล่าให้ฟัง เป็นการหลงติดอยู่ในอดีตหรือเปล่า
พ่อครูว่า…คุณก็ต้องศึกษาเพื่อรู้ ก็ต้องเข้าใจที่ตัวเอง ขณะนี้เราอยู่อย่างไรองค์ประกอบโดยเฉพาะฐานจิต ฐานะของเรา กับการศึกษาของเราตอนนี้เราทำได้แค่ถือศีล 1 ข้อ 5 ข้อ 8 ข้อ 10 ข้อหรือถือมากกว่านั้น ทำได้ตามลำดับมาแล้ว
อาตมาพยายามจะอธิบายรายละเอียดธรรมะของพระพุทธเจ้าที่เป็นลำดับอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะมีหลักเกณฑ์ออกข้อกำหนดให้ แล้วคุณก็เรียนกระบวนการของแต่ละลำดับ ถือศีล 5 ก็เอาความหมายประมาณนั้น ศีล 8 ละเอียดขึ้นก็เอาความหมายละเอียด ได้แล้วก็ไปถือศีล 10 แล้วก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจขยายรายละเอียดถึง จุลศีล 26 จะเข้าใจรายละเอียดไปในตัวเอง
จุลศีลคือหลักสำคัญเกี่ยวกับตัวตนบุคคลเราเขา แล้วเราก็ปฏิบัติกับสิ่งเหล่านั้นเพื่อลดละกิเลส ตั้งแต่เกี่ยวกับสัตว์ เกี่ยวกับข้าวของวัตถุกับพืช เราก็ขยายไปตามแต่ละวัตถุ นัยก็จะรู้ความติดยึดของสิ่งนั้น รู้รายละเอียดครอบคลุมของสิ่งที่มีอยู่ในโลก
ผู้ที่ปฏิบัติธรรมพระพุทธเจ้ามีสัมมาสมาธิ ปฏิบัติจุลศีล 26 ข้อ เลย 10 ข้อไปก็เป็นพระอรหันต์ได้แล้ว ไม่ต้องถึง 26 ข้อหรอกถ้าหากสัมมาทิฏฐิสัมมาปฏิบัติปฏิเวธก็บรรลุพระอรหันต์ได้ เมื่อบรรลุพระอรหันต์แล้วก็ไม่ต้องพูดกันยากสำหรับพระโพธิสัตว์ พระพุทธศาสนาเป็นผู้ใหญ่และมีปฏิภาณที่รู้ โพธิสัตว์ใหม่ๆ สมมุติว่าโพธิสัตว์ระดับ 5 ระดับ 1 2 3 4 ก็แค่บัญญัติภาษาเรียบร้อยเท่านั้นเอง ยังไม่ใช่ผู้ที่เป็นอรหันต์ที่ถึงขั้นที่ 4 เมื่อถึงขั้นที่ 4 ก็จะเริ่มต้นเป็นอนุโพธิสัตว์ ก็เริ่มต้นเป็นผู้น้อง อย่าแอ็คมาก ค่อยๆปฏิบัติไปจนสูงขึ้นไป อนิยตโพธิสัตว์ ยังไม่เที่ยงก็ค่อยๆเพิ่มความเที่ยง จนเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ขึ้นไปถึงจะเที่ยง
_มีคนสงสัยว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นพระโพธิสัตว์ ทำไมต้องรับประทานเนื้อสัตว์ แต่ความคิดของดิฉัน โพธิสัตว์จะเป็นตัวอนุโลม จะเอาศีลของเราไปวัดของพระโพธิสัตว์ไม่ได้ ก็คือในหลวงรัชกาลที่ 9 อนุโลมมาเสวยเนื้อสัตว์ บางทีเราเองได้กลิ่นก็ยังมีโทสะ
พ่อครูว่า..เข้าใจ จะไปเทียบวัดถึงสิ่งที่สูงกว่าเลย เพราะเป็นเรื่องวิสัยของผู้ที่อยู่ในฐานะนี้ เราคิดไม่ออกหรอก สำหรับพุทธวิสัย ฌานวิสัย ฌานวิสัยคือผู้ที่ปฏิบัติไปตามลำดับ
คำว่าฌานนี้ไม่ใช่อธิบายได้ง่ายๆ คำว่าฌานเป็นโลกุตระ อุตริมนุสธรรม คนทุกวันนี้อธิบายผิด อธิบายแต่ฌานโลกีย์ ไม่เป็นฌานโลกุตระ คนรู้จริงไม่กล้าอธิบายฌานได้ง่ายๆหรอก อาตมาอธิบาย พวกคุณก็เข้าใจได้มาเรื่อยๆ แต่เข้าใจฌานยังไม่สมบูรณ์หรอก
ฌาน เป็นการทำใจในใจของคนให้เกิดพลังงานมีอำนาจมีประสิทธิภาพ มีฤทธิ์ที่จะทำให้พลังงานราคะโทสะลดลงไปได้ ลดได้แล้ว เป็นพระอรหันต์แล้ว ฌานก็ต้องมาใช้อีก สำหรับทำงานแก่คนอื่น ก็ต้องประมาณพลังงานที่เป็นฌานนี้แหละ แม้ไม่ได้เผากิเลสก็ต้องทำงานกับคนอื่นอีก
ใช้คำว่าพลังงานจิตก็คืออำนาจหรือประสิทธิ์พลังงานจิตวิญญาณคุณ คุณต้องปรุงมาขนาดนี้ทำงานต่างๆนานา
คำว่าทำใจในใจ คุณต้องปรุงใจคุณมาทำงานมากน้อยก็ต้องใช้ ถ้าหากจะหยุดคิดไม่นึกอะไรเลยแล้วทำงานได้อย่างไร อาตมาก็ว่า ไม่ควรทำดีกว่า เอาไม้หน้าสามมาทำงานก็ไม่ได้ ต้องมีคนจัดการให้มันทำงานได้
_ทองแก้ว…เมื่อเราปฏิบัติธรรมไปเรื่อยๆ มันไม่เป็นทุกข์กับอะไรแล้ว ผัสสะมาเราก็ทำใจในใจ ดิฉันก็อยู่กับสูตร 2 1 0 อย่างนี้เราต้องทิ้งสุข เพื่อดูผัสสะใหม่ ดิฉันกลัวความประมาท เพราะว่าถ้าเสพย์มันไปมันจะไหลลงต่ำ
พ่อครูว่า..มันจะอยู่นานหรือว่ามันจะไหลลงต่ำเหมือนนางวิสาขาที่เสพสุข จนเดี๋ยวนี้ไม่รู้จะคลายหรือยัง
_ทองแก้ว ดิฉันคิดว่าจะไปอยู่ที่บ้านราชฯ มีเต๊นท์ไว้นอน มีโต๊ะญี่ปุ่นไว้ทำงานก็พอ
พ่อครูว่า..ใช่ คิดถูก ต้องเข้าใจอาการของจิตที่ไปเสพสุข มันหยาบอยู่เราไปเสพเป็นรสชาติ มันจะลำบาก ผู้ที่ตั้งตนบนความลำบากกุศลธรรมเจริญยิ่ง ผู้ที่ตั้งตนบนความสบายอกุศลธรรมเจริญยิ่ง พระพุทธเจ้าสอนไว้หมดทุกมุม
_นายรักษ์ดาวพุทธ มหาโพธิจน ช่างตัด ฟ้าอภัย…คนเราจะมีความจริงใจตอนไหนครับ ตอนที่เป็นศัตรูหรือตอนสิ้นเนื้อประดาตัวครับ เราจึงจะมีความจริงใจ
พ่อครูว่า…ตอนที่สิ้นเนื้อประดาตัว คุณทำมันเป็นความทรงจำ กับตอนที่เป็นศัตรูคุณก็ไม่จำนนมันต้องใช้ชั้นเชิงมากต้องมีการต่อสู้มาก ถ้าคุณสิ้นเนื้อประดาตัวมันไม่มีทางไปแล้ว มันจะจริงใจกว่า หากสู้กับศัตรูดีไม่ดีต้องหาเล่เหลี่ยมมาสู้กับมันเพื่อชนะมันให้ได้ แต่ถ้าสิ้นเนื้อประดาตัวมันไม่ไหวแล้วมันจะต้องกอบกู้ขึ้นมามันจริงใจกว่า ก็ช่างหาคำถามมาเป็นโลกจินตามากมายมหาศาล
_สู่แดนธรรม…ผมได้ยินพ่อท่านพูดคำว่า ต้องปรุงฌานเพื่อการงาน พระพุทธเจ้าอุปมาว่า ท่านอุปมาการทำฌานเพื่อประโยชน์แก่มนุษย์ เปรียบเหมือนกันเป็นช่างทำทอง ที่จะต้องหลอมแร่ธาตุให้บริสุทธิ์ คำว่าบริสุทธิ์นี้ ผมคิดว่ายังไม่ผุดผ่องยังมีข้อตำหนิได้ เพราะว่าแร่ธาตุที่พึ่งหลอมออกมายังมีขยะอยู่ ในอโศกเราเห็นเป็นอันมาก คือท่านสมณะของเรา ที่เป็นผู้บริหารท่านบริสุทธิ์จากลาภยศสรรเสริญไม่มีผลประโยชน์อะไรที่จะได้จากงานบริหาร แต่ท่านยังไม่ผุดผ่อง ท่านก็ไปทำ กัมมัญญา ในการงานก็ต้องมีทั้งแร่ทองและขยะกะไหล่ทอง ผู้บริหารก็เลยต้องถูกคัดค้านบ้าง จนกระทั่งต้องคัดเอาขยะที่ไม่ถูกต้องออกไป ให้เหลือแต่ทอง ก็จะเอาข้าวเบ้าหลอมมาเป็นทองรูปพรรณก็จะผ่องแผ้วอยู่เสมอ
พ่อครูว่า…การทำการงานจะทำให้บริสุทธิ์ขึ้นอีกสำหรับผู้ที่มีญาณปัญญา ที่เลือกเฟ้นสัจจะได้แล้ว มันจะเป็นอย่างนั้นได้จริง
_พ่อท่านสะดุ้ง เหมือนเจ็บที่หน้าอก มันเหมือนจะเป็นโรคลม เคยไปโรงพยาบาล ก็ไปหาสาเหตุไม่เจอ
เมื่อตอนกลางวัน ผมได้ไปเยี่ยม พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ท่านมีความอ่อนแรงไปเยอะ ก็เลยรู้สึกสงสารว่าท่านเป็นผู้ที่ทำประโยชน์ต่อชาติมามากทำไมล้มไปได้แล้ว
พ่อครูว่า..ไม่น่าสงสัย มันเป็นวิบากซ้อนหลายอย่าง พลเอกปรีชาไปฆ่าคนนะ ขนาดนี้ก็ถือว่าเบาแล้วได้เหรียญเป็น 16 เหรียญ ชนะมาไม่เคยแพ้เลย ถ้าเป็นนักมวยก็เหมือนเขาทราย ไม่เคยแพ้
เป็นวิบาก ก็ได้แต่บอกว่าให้วางๆ ก็ต้องขออภัยที่ไม่ได้ไปเยี่ยมโดยตัวเองเลย เขาห้ามไปเข้าห้องพูดผ่านกระจก หมอเขาระมัดระวังสูงสุด เป็นวิธีการ ก็เลยใช้วิดีโอคอล ก็ได้เจอกันแล้วทางเทคโนโลยี อาตมาเองก็ไม่ใช่จะสะอาดทีเดียว ก็มีเชื้ออยู่บ้างแต่ไม่มาก สรุปคือว่า อาตมามานี่ตั้งใจเลยจะไปเยี่ยมพลเอกปรีชาเป็นเรื่องแรกเลย สุดท้ายหลายคนก็ออกความเห็นประมวลตามที่เหมาะควร
นิมนต์พ่อครูจิบน้ำ
_คอยใคร..ผมชอบฟังเพลงสัจจะชีวิต และเพลงฆราวาส เมื่อวันก่อนฟังเพลงอย่ารอให้พ่อสิ้นก็สะอึกเลย วันก่อนไปกับแม่บ้านว่า..ทำไมไม่ซื้อที่เพิ่ม ผมก็ว่าอีกหน่อยจะไปวัดแล้ว ก็เลยว่า 1. จะหนีมาวัดเลย 2. จะบังคับมาเลย 3. จะต้องรอให้เขายินยอมที่จะมาได้
พ่อครูว่า..ก็ให้เขายินยอมดีกว่า อย่างอาตมาจะออกมาทางนี้ ก็ถามแฟนว่ามาดีหรือมาไม่ดี เขาก็ว่ามาดี จะมาดึงอาตมาไว้ทำไม เขาก็จำนน โน้ตในไดอารี่เลย จะมานี่ก็นัดพบ อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ต่อมาก็ 2 อาทิตย์ครั้ง ต่อมาก็ 1 เดือนครั้ง แต่ก็ไม่ถึงเดือนก็บอกว่าให้ไปเลย ถ้าคิดถึงก็จะมาหา เขาก็ปล่อยอาตมามา แต่เขาก็รอถึง 6 ปีแล้วก็ไป สุดท้ายก็ไปอยู่เมืองนอก อยู่ประเทศอังกฤษแต่งงานกับฝรั่งไป
_ราชวงค์จักรีนี้ใช่เชื้อสายกษัตริย์หรือเปล่า บางคนอยากรู้และบางคนไม่รู้ความเป็นจริง ตกลงผมมีแต่ความรักชาติศาสน์กษัตริย์และความรู้สึกนี้ในปัจจุบันมันหายไป ผมเป็นคนรักบ้านเกิดเมืองนอนไม่เคยมีความคิดขายชาติ แต่ความรู้สึกตอนนี้มันหายไปจากใจ เน้นเอาความจริงเป็นที่ตั้ง ความรักชาติในตัวกระผมมีอยู่เสมอ แต่ความรู้สึกในตอนนี้มันหายไป …จากคนไม่เอ่ยนาม
พ่อครูว่า…เรื่องนี้สัจจะพอจะบอกได้ แต่ไม่ควรจะพูดเล่น เพราะเป็นเรื่องที่ล่อแหลมไม่ดี คนเข้าใจผิดได้ง่ายๆ ก็ขอตอบคุณว่า ผู้จะได้เป็นกษัตริย์อยู่ดีๆจะเป็นกษัตริย์โดยไม่มีวิบากเลยไม่ได้ มีคนที่อยากจะเป็นกษัตริย์ ฆ่าคนโดยใช้อำนาจบาตรใหญ่ ตั้งตัวจะเป็นกษัตริย์ ก็จะถูกฆ่าตายก่อนมีเยอะ บารมีคนไม่ถึงไม่ได้เป็นหรอก เมืองไทยเรานี้ โดยเฉพาะราชวงศ์จักรี ไม่มีปัญหาอะไร มีบารมีทั้งนั้น ไม่มีบารมีมาเป็นกษัตริย์ไม่ได้ ราชจักรีวงค์ ตอนนี้ 10 พระองค์ก็ดีทั้งนั้น ในยุคอยุธยาก็มีกษัติย์ที่ไม่ดีก็มี อยุธยามี 34 พระองค์ที่เป็นกษัตริย์
ก็ขอบอกในประเด็นที่ว่าอย่าไปพูดเล่น คนพยายามใช้อำนาจบาตรใหญ่ฆ่าคนมาเป็นอยู่ไม่ช้าไม่นานก็จะถูกโค่นล้ม บางคนก็ถูกฆ่าอย่างทรมาน อย่าไปทำเป็นเล่นวิบาก กรรมวิบากเป็นอจินไตย ไม่ใช่เรื่องอธิบายกันได้ง่ายๆ ก็ขอบอกว่าอย่าไปกล่าวเล่น
ไม่ต้องถึงเป็นกษัตริย์ แม้แต่เป็นคนรวยเงินทองก็มีวิบากของเขา อย่าง แจ็คหม่า เขาก็มีวิบากของเขา หน้าตาโหวงเฮ้งเขาไม่น่าเป็นแต่เขารวยจริงๆ
สู่แดนธรรมว่า…แม้แต่จะมาเป็นคนจนผู้ยิ่งใหญ่นี้ก็ต้องมีบารมี
พ่อครูว่า…คนจนผู้ยิ่งใหญ่ คนจนที่สุขสำราญเบิกบานใจ เป็นเรื่องซับซ้อนที่ยิ่งใหญ่มาก ในยุคนี้ถึงจะพูดกันได้ เป็นยุคปัญญาชน คนทั้งโลกเฉลียวฉลาด พยายามเข้าสู่ความรู้โลกุตระ หากเข้าใจว่าคนจนเป็นคนประเสริฐเป็นการเข้าเขตโลกุตระ ถ้าคนไหนที่ยังบอกว่าไปจนมันจะประเสริฐได้อย่างไร มันก็จะขาดแคลนไม่มีอุปกรณ์จะเป็นประโยชน์อะไรได้เท่าไหร่ เราก็ต้องรวยแล้วถึงจะเป็นคนดีเอาเงินไปเสียสละให้คนอื่น หากจนลงไม่สะสมไม่มีเงินทองเป็นของตัวเองจะเอาอะไรไปช่วยเขา ก็เป็นเรื่องที่ไม่ผิดแต่เป็นเรื่องที่ซับซ้อน
ไม่เข้าใจถึงบารมี บารมีคนที่ไม่สะสมวัตถุ แต่จะมีวัตถุที่หมุนเวียนเข้ามาหาตัวเองได้ เข้ามาหาก็สละออก ยิ่งสละเร็วสละออกตามบารมีคนนั้นเป็นคนบารมีสูง ถ้าคนบารมีไม่สูงก็จะยักไว้ก่อนต้องมากเท่านี้ๆ ถ้ากิเลสมากก็จะบอกว่ามากกว่านี้ก็จะดี มันจะไปด้วยเป็นความซับซ้อน
คนที่ไม่เก็บคงคลังไว้ส่วนตัว ไม่เก็บกักไว้เป็นของตัว กล้า 0 เลย คนนั้นแหละเข้าเขตตามลำดับ เป็นอาริยชนตามลำดับ ของพระพุทธเจ้าอย่างสัมมาทิฏฐิที่แท้จริงเลย
ถือว่าต้องเป็นอนาคามีขั้นปลายไปหาอรหัตตผล จิตวิญญาณ ฐานอนาคามีขั้นปลายไปถึงอรหัตตผล จะกล้ามาหา0เพราะอยู่่กับหมู่ ของส่วนกลาง ไม่จำเป็นจะต้องสะสมเป็นของตัวเองเลย เขาให้เราก็ทำ เขาไม่ให้ก็ทำเท่านี้ใช้เท่านี้ ก็ทำงานได้ ไม่ต้องให้เงินเลยก็ยังทำงานได้ ในชาวอโศก มีงานเยอะๆที่ทำโดยไม่ต้องใช้เงินใช้แรงใช้ความรู้ความสามารถมีเยอะแยะไป ในอโศกนี้
เพราะฉะนั้นคนที่จะมาปฏิบัติธรรมกับความจนอันมหัศจรรย์ ความจนที่ยิ่งใหญ่นี้ แล้วก็เห็นความจนมันประเสริฐจริงๆ จึงเป็นคนมีธาตุจิตโลกุตระ ที่มันจริงของคนนั้น เหมือนกับที่ ธาตุจิตเป็นธาตุจิตที่สูงขึ้นในสัทธรรม 7 ที่มีหิริโอตตัปปะ ชื่อว่าเป็นเทวดา
หิริ คือ ละอายต่อสิ่งที่เป็นความชั่วเป็นบาปมันปิดเสียง
ถ้าโอตตัปปะก็ยิ่งกว่าละอาย เราผิดพลาดได้อย่างไร ยิ่งกว่าเด็กจับไฟร้อน ให้ไปจับอีก ไม่มีทางที่เด็กจะไปจับไฟ มันมีหิริโอตตัปปะ มันชัดเจนมันกลัวมันบาปแท้ไม่แตะต้อง เผลอแตะก็รีบชักมือออกทันทีทันใด จิตเราจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่คนที่ยังไม่จริงมันก็ต้องทำให้เป็น พยายามให้ถึงขั้นนี้ให้ละอายนะ ละอายแล้วยังไม่ถึงโอตตัปปะ หากถึงโอตตัปปะแล้วจะเกรงกลัวต่อบาป แม้โทษภัยอันนี้ประมาณน้อยก็ไม่ทำ เช่นฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย มันก็มีจิตนิยามมันมีความพยาบาทแล้ว จะไปสะสมสร้างวิบากทำไม จะค่อยๆมีปฏิภาณปัญญาเข้าใจ
หากเข้าใจขนาดนี้แล้วคนคนนี้จะไปกินเนื้อสัตว์ จะไปมีพลังงานที่ต้องเชื่อมโยงกับสัตว์ ก็เราไม่ได้กินเพื่ออร่อยหรูหรา ไม่ได้มีด้วยโลกธรรมแล้ว จะไปกินอันอื่นก็ดีกว่า จะไปสร้างวิบากใส่ตัวเองทำไม ไม่ติดในโลกียแล้วจะไปสร้างวิบากใส่ตัวเองทำไม เพราะว่ากรรมเป็นอันทำ เลี่ยงได้ นอกจากมันจำนนจริงๆ คุณออกไปในทะเลกว้างเลย ในทะเลมันไม่มีพืชมันมีแต่สัตว์ เอาไม้ปักปั๊บ หอยนางรมมาเกาะก็ถือว่าเป็นพืช มันไม่มีอะไรกิน ที่จริงน่าจะดำน้ำลงไปหาสาหร่ายนะ
_หงส์น้อย สายลม..พระในบ้านที่ผมรู้ก็คือพระคุณพ่อแม่ที่แท้จริงของเราไม่ใช่หรือ และเมื่อไม่กี่วันก่อนที่พ่อท่านพูดถึง เอลวิส เพรสลีย์ แล้วมีคนตำหนิ เขาติด CEO ด้วย
_อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้พ่อครูทำงานนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ทำให้คนกิเลสลดไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะพ่อครูเคยบอกว่า คนรักกิเลสตัวเองมากสุด
พ่อครูว่า..ตอบ สัจจะ อาตมาบอกพูดไปไม่รู้กี่ทีแล้วว่า อาตมาเกิดมามีทรัพย์จะมีของจริง แล้วอาตมาก็จะทำงานกับของจริงที่อาตมามี หรือสู้กับทุกคนด้วยความจริงที่อาตมา หมดความจริงอาตมาก็แพ้ได้ คุณมีความจริงมากกว่าอาตมาคุณก็ชนะ ขณะนี้ถ้าใครมีความจริงมากกว่าอาตมาก็ชนะอาตมานะ อาตมาสู้หมดความจริงของอาตมาแล้วก็จะรู้ว่าความจริงของคุณจริงกว่าอาตมาคุณก็ต้องชนะ นี่คือภาษา ใครจะเข้าใจสภาวะขนาดไหนก็ทำความเข้าใจเอา
อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้แต่มาทำอันนี้
สิ่งที่บันดาลใจก็คืออาตมาต้องบันดาลตัวเอง ตอบ อาตมาอยากเป็นพระพุทธเจ้าไง บันดาล ชัดไหม อาตมาอธิบายไปหลายทีแล้วว่าอาตมาเกิดมาเป็นคนนี้ก็นับถือพระพุทธเจ้าเป็นผู้ที่สูงสุดเลย พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ท่านสูงสุดเท่ากันทุกพระองค์ อาตมาเกิดมาเป็นคนเป็นอมตะบุคคลแล้ว เข้าใจถึงเปิดนิพพานเป็นประโยชน์ซะแล้ว เข้าใจในการแยกจิตให้เป็นอุตุนิยามมันก็จะหมดแล้ว ได้แล้วเป็นแล้ว
เช่น ขณะนี้อบายมุข อยู่ในโลกเต็มไปหมด อาตมาก็มีจิตที่ไม่เอาแล้ว คุณจะเอาจิตไปปรุงแต่งกับอบายมุขหยาบๆ ขณะนี้ให้อาตมาไปเป็นพระเอกละคร อาตมาก็ไม่เอา จะให้อาตมาไปเกาหลีให้ตัวเองเนี๊ยบ ระดับไหนก็ได้ไปแปลงกายที่เกาหลี แล้วให้เอามาเป็นพระเอก ก็ไม่เอา
จิตตัวนี้อาตมามันสูญแล้วอุตุนิยามแล้วไม่ไปสร้างอีกแล้ว นี่คือซ้อนขณะเป็นๆ โลกนั้นอาตมาไม่เอาแล้วที่เป็นอบายขั้นนั้น แต่ก่อนนี้อาตมาเคยมีลิงลมอมข้าวพอง อยากจะเป็นพระเอก แต่ได้เป็นผู้ช่วยพระเอกตอนจบทุกที เป็นตำรวจจับผู้ร้ายตอนจบ อะไรอย่างนี้เป็นต้น นอกนั้นก็เป็นตัวประกอบ ไม่ได้เป็นพระเอกเลย แต่เคยเล่นละครวิทยุก็เคยได้เป็นนะ ละครเสียง แต่ละครที่เต็มรูปคงไม่สูงพอ ไม่สมาร์ทพอ สรุปแล้วเขาก็ไม่ให้เป็น แม้ว่าเราอยากจะเป็น ตอนหลังเราก็หมดความอยาก ก็ไม่เอาพลังงานไปมุ่งมั่นจะไปเป็นพระเอกอีก
สุดท้ายก็มาเข้าใจว่าเป็นอันนี้แหละ ใครจะเป็นอย่างที่อาตมาเป็นมาทางธรรมโลกุตระ เลยอาตมาไปได้เลย อาตมาจะไม่ได้ริษยาเลย
_สมณะเดินดิน…วันนี้ชื่นชมบรรยากาศที่สันติอโศก อยู่ใต้ต้นโพธิ์ (พ่อครูว่า…คุณแดงที่เคยมาเป็นสิกขมาตุเรา เอามาจากอินเดียนะ) บรรยากาศสงบสงัดมากเลย เมื่อกี้นี้ฟัง อาการเจ็บป่วยของ พล.อ.ปรีชาหรือลุงจำลองก็ดี ไม่น่าเชื่อ คนที่ยังแข็งแรงดีพอเจ็บป่วยก็ยังเป็นมากได้ ก็ลุ้นกับพ่อครูเหมือนกัน หมอที่ติดตามดูแลสุขภาพ หมอช่วยดูอย่างมากๆเลย ไม่เคยมีหมอที่คอยติดตามดูพ่อครูเท่าที่เขาจะทำได้ เคยให้ผู้เชี่ยวชาญมาดูพ่อครู เขาก็ให้เวลาไม่มากในการตรวจ แต่เรามีหมอที่คอยติดตาม ติดตามทั้งครอบครัวเลย ติดตามว่าอันไหนจะไม่ดีต่อสุขภาพพ่อครู แต่ก็เห็นความบกพร่องของคณะปัจฉาฯ
พ่อครูอยู่ด้วยสัมประสิทธิ์ ใกล้ป่วยแต่อีกเดี๋ยวก็แข็งแรงขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้มีข้อปฏิบัติอะไรเพิ่มเติม การดูแลของพวกเรามีความบกพร่องสู้โรงพยาบาลตำบลยังไม่ได้เลย
สิ่งที่เขาจับสัญญาณว่า ไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่วัดจาก
-
ที่พ่อครูพูดออกมาเอง เทียบกับสมัยพุทธกาล พ่อครูแสดงนิมิต 16 ครั้งแต่ไม่ได้อาราธนาเลย แต่พ่อครูท่านทำงานก็ไม่ได้เอาจิตมากำหนดกับร่างกายเท่าไหร่เลย
พ่อครูพูดมาสองครั้งแล้วว่าสงสัยอยู่ไม่ถึงแล้วก็เป็นสัญญาณว่าพ่อครูจะอยู่ไม่ถึง คือถ้าไม่มากจริงๆพ่อครูคงไม่สรุปออกมา เป็นสิ่งที่สะท้อนออกมา
-
โดยทางผลของแล็บ ไม่ว่าเลือดหรืออวัยวะสำคัญ กระเปาะที่คอ หรือที่ตา ต้องเฝ้าระวังอย่างมาก