621220_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ปุตตมังสสูตร ว่าด้วยอาหาร 4 ตอน 2
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1nuUk3pUI6ZCzIKOWOPuAp8AO76Q0gnauqKedM9ZLV-w/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่ https://drive.google.com/open?id=1UF8YSuB2qJm22FGEqZJZRrO_x3exB8L9
สมณะฟ้าไทว่า.. วันนี้วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2562 ที่บวรราชธานีอโศก วันนี้มีปฏิทินชาวอโศกปี 2563 มา ซึ่งจะได้แจกในงาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดินนี้ ปฏิทินเป็นภาพพ่อครู
มีชาวแคนาดามาฝึกปฏิบัติธรรมกับชาวอโศก เขาก็รับที่นี่ได้
พ่อครูว่า…ธาตุที่จะเข้ากับโลกุตระต้องมีจึงเข้าได้ แม้แต่คนไทยที่ไม่มีธาตุโลกุตระก็เข้าไม่ได้ เราก็พูดความจริงว่านี่ของจริง คนก็มีที่ไม่เชื่อ แต่เราก็ต้องบอกไป เขาก็อยากรู้คนที่มีใจบริสุทธิ์ แต่เขาไม่เชื่อว่าคนอย่างนี้จะบริสุทธิ์ใจได้ แต่มีคนที่เขาเคารพนับถือก็ว่าบริสุทธิ์ใจ
สมณะฟ้าไทว่า…ชีวิตของเขาทั้งชีวิตไม่เคยเจอคนที่บริสุทธิ์ใจจริงใจ เมื่อเขามาฟังก็เลยยังไม่เชื่อได้แต่เมื่อมาอยู่สักพักจะเป็นอย่างไรก็ต้องคอยดู
พ่อครูว่า…คนที่เขาตัดสินแล้วว่าไม่ใช่ เขาก็ว่าทำมาหากินของเขาดีกว่า ตัวใครตัวมันไปตามที่ชอบที่ชอบ
ถามก่อน ที่คุณมาศึกษาที่นี่บางคนหลายสิบปีมันพ้นทุกข์กันบ้างหรือไม่ …ได้ แต่ยังไม่หมด แต่พ้นมาได้ตามลำดับ รู้ทุกข์ด้วย
แล้วที่นี่แดนทุกข์หรือแดนสุข มีคนตอบว่า แดนสุข อีกคนตอบว่าแดนไม่สุขไม่ทุกข์ แดนสุขก็เป็นเพียงคำอนุโลมเรียกกันตามสังคม ตามที่เขาเข้าใจว่าขนาดนี้ เป็นฐานอนุโลม จริงๆแล้วคือไม่สุขไม่ทุกข์คือขั้นสมบูรณ์
สัจจะของพระพุทธเจ้าตรัสรู้คือตรัสรู้ทุกอริยสัจ คำว่าหมดทุกข์หมดสุขเป็นอรหันต์ ศาสนาพุทธมีเท่านี้ เอ๊าะเจ๊าะ แอ๊ะแจ๊ะเท่านี้รวมแล้วหมดสุขหมดทุกข์ แต่มันมีองค์ประกอบต่างๆเยอะกว่าจะรู้ความไม่สุขไม่ทุกข์ ความรู้โลก รู้อัตตา
การเกิดหมู่กลุ่มที่มีสาราณียธรรม 6 ไม่ใช่แค่ภาษาแต่เป็นจริง มีสาธารณโภคีมีลาภโดยธรรม ทำแล้วเอาเข้ากองกลางกินใช้ร่วมกันกับกองกลาง แล้วก็มีศีลสามัญญตา ทิฏฐิสามัญญตา มีศีลที่เสมอสมานกัน เจริญไปสู่ความมีวรรณะ 9 สูงสุดเป็นคนชั้นสูงเป็นคนมีชั้นวรรณะ วรรณะของพระพุทธเจ้ามี 9 ลักษณะ เป็นคนเลี้ยงง่าย เป็นคนบำรุงง่าย กล้าจนเป็นคนมักน้อย เป็นคนมีใจพอ เป็นคนขัดเกลาตัวเอง เป็นคนปฏิบัติตามศีลตามต่ำขึ้นไปสูงขึ้นได้ตามลำดับ จนมีอาการที่น่าเลื่อมใส ปาสาทิกะ แล้วเป็นคนไม่สะสม อปจยะ แต่ว่ามีวิริยารัมภะ ขยันอยู่เสมอ ระดมความเพียร เป็นคนมีลักษณะอย่างนั้น ลักษณะ 9 อย่างในตัวอย่างจริงๆ
อาตมาพูดถึง 9 ลักษณะนี้แล้วหลายคนจำได้แล้ว ถามว่าลักษณะทั้ง 9 อย่าง มันมีในตัวเราบ้างไหม …มี ไม่มากก็น้อย ชัดเจนว่า 9 ลักษณะนี้มี นี่คือเราศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้าแล้ว มันได้ ปฏิบัติได้มีได้ ไม่ใช่ว่าเป็นพุทธศาสนิกชน แต่ไม่รู้เรื่องเลยในเรื่องธรรมะเหมือนช้อนไม่รู้รสแกง เป็นช้อนในชามแก้ว แช่อยู่ในชามแกงแต่ไม่รู้รสของแกงเลย แต่พวกเราคือผู้รู้รสของแกง วรรณะ 9 เป็นธรรมะสุดยอดแล้ว
เป็นคนเลี้ยงง่าย เป็นคนชั้นสูง คนเลี้ยงยากเป็นคนชั้นต่ำ เป็นคนอบรมให้เจริญง่ายเป็นคนชั้นสูง เป็นคนที่มักน้อย ชอบมีน้อยๆ เป็นคนจน กล้าจน มีน้อยๆไม่สะสมมากเลยในชีวิต เป็นคนจน เอาแบบคนจน อย่างในหลวงตรัส เป็นความรู้สึกจริงๆไม่ใช่เรื่องเสแสร้ง ไม่ใช่แค่แฟชั่น มันมีมากไปก็แจกจ่าย สะสมไว้ก็ไม่ดี นี่คือยอดนักเศรษฐศาสตร์ยอดนักเศรษฐกิจ มีความพอแล้วมีการขัดเกลา กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ให้เกิดความเจริญให้เกิดความดี
เป็นคนที่มีข้อปฏิบัติคือหลักของศีล แต่ละข้อๆ สูงขึ้นๆ มีหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติขัดเกลากิเลสเรียกว่า ธูตะ จึงเกิดอาการที่น่าเลื่อมใสน่านับถือน่าเคารพบูชา แล้วจะได้เป็นคนสุดยอดเลย ผลคือคนไม่สะสม นี่คือนักสุดยอดเศรษฐศาสตร์
คนรวยไปแย่งกันรวยไม่ใช่ความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ที่ดี ต้องมาเป็นคนจนเป็นคนไม่สะสม ขยันหมั่นเพียร วิริยารัมภะ แล้วเราก็สร้างสรร อย่างเช่น นี่ มะระขี้นก แต่นี่อันใหญ่ อาจเรียกมะระขี้นกกระจอกเทศ
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ชี้บ่งถึงความจริงของคนที่ตั้งใจทำสิ่งที่ดี โดยเฉพาะผลงานทางเกษตร เป็นกสิกรรม พวกเรานี่เราเข้าใจถูกต้องว่าเราเป็นคนอยู่ในภูมิประเทศแถบศูนย์สูตร ไม่ใช่แดนของอุตสาหกรรม ที่ดินไม่พอน้ำไม่พอแดดไม่พอ
เมืองไทยมีแดดมีฝนมีลมอากาศที่พร้อมต่อกสิกรรม เราจึงทำสิ่งที่ลงตัวต่อภูมิประเทศของเรา คนไทยมาเป็นชาวกสิกรรมกันเถิด มาเป็นผู้สร้างผลผลิตทางพืชพันธุ์ธัญญาหารให้ดีให้ได้มาก ส่งแจกจ่ายชาวโลกกินใช้ ชีวิตก็ไปได้แล้ว ส่วนเรื่องของเครื่องใช้เทคโนโลยี เราไม่เก่งก็ไม่เป็นไร เราก็เป็นไปพอได้อาศัยเขาไป แต่อันนี้มันเป็นความสำคัญ อาหารเป็นหนึ่งในโลกยิ่งกว่าอุตสาหกรรม พวกเราถูกต้องแล้วที่มาทำ
พระพุทธเจ้าตรัสเรื่องอาหาร 4 ที่กำลังอธิบายกันอยู่ในพระไตรปิฎกอาหาร 4 พระพุทธเจ้าก็เน้นให้ศึกษา สิ่งที่เป็น กวฬิงการาหาร อาหารคือคำข้าวคือสิ่งที่กินเข้าไปช่วยเลี้ยงขันธ์แล้วให้เรียนรู้โภชเนมัตตัญญุตา ประมาณในการกินการใช้ เมื่อไปผัสสะอาการกิเลสมันเกิดตอนนี้แหละ โภชเนมัตตัญญุตาเป็นหลักปฏิบัติที่ไม่ผิดของศาสนาพุทธ เรียกว่าอปัณณกปฏิปทา มีการสังวรศีลสำรวมอินทรีย์ทั้ง 6 แล้วเรียนรู้เรื่องอาหารประมาณในการกินสำคัญ แล้วก็เป็นคนอย่างนี้เป็นคนชาคริยา เป็นคนเปิดทวารทั้ง 6 ตาหูจมูกลิ้นกาย ตื่น ไม่ใช่ไปหลับ ไม่เอาทวารทั้ง 6 เอาแค่อันเดียวแล้วไปหลับเข้าไปอีก ไม่ชาคริยา ทั้ง 3 ข้อนี้พวกที่นั่งหลับตาปฏิบัติผิดทั้ง 3 ข้อ ไม่มีทั้ง 3 ข้อเลย พวกที่นั่งหลับตาปฏิบัติจึงน่าสงสาร อาตมาพูดอย่างย้ำหัวตะปูตอกแล้วตอกอีก แต่ก็ไม่เข้า เด้งออกกลับอีก เหมือนกับพระราชาให้เอานักโทษประหารไปฆ่าตอนเช้า พอเจอพนักงานก็ว่าฆ่าแล้วตอนเช้า แต่มันก็ยังอยู่ ก็เอาไปฆ่าอีกเอาหอกร้อยเล่มแทงเลย ก็พอเจอตอนเย็นก็ถามอีก ว่าตายแล้วหรือ พนักงานก็บอกว่ายังไม่ตายพระเจ้าข้า ก็ให้เอาไปฆ่าอีก เช้ากลางวันเย็น ทั้งวันฆ่าด้วยหอกร้อยเล่มมันก็ยังไม่ตาย
ฉันใดก็ฉันนั้นที่อาตมาพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่กระเทือนไม่รู้สึกรู้สา นี่คือ อาหารข้อที่ 4 คือไม่รู้จักรูปนาม ไม่รู้จักภาวะ 2 อาจารย์อื่นเขาก็สอนกัน แต่ไม่รู้เรื่อง จึงเกิดคนร้ายที่ฆ่าอย่างไรก็ไม่ตาย
_SMSวันที่18ธ.ค.2562(พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครู)
มิจฉาทิฏฐิคือไม่รู้รูปนาม
_จักรพล พุทธพัฒนา: ขอนอบน้อมพ่อครูคู่ท่านฟ้าไท ผู้มีใจเสียสละอกุศล เป็นผู้นำให้คนอื่นละตัวตน สงสารคนในวังวนของกิเลสเอย / มีอาจารย์สายนี้เขาบอกว่า..เอาตามอย่างที่พระพุทธเจ้านั่งขัดสมาธิในวันตรัสรู้..ทำตามที่ท่านทำถือว่าถูกทางแล้ว.สัจธรรมโลกุตตรธรรมเป็นของยาก..ถ้าไม่พากเพียรจริงๆครับ
พ่อครูว่า…แม้ว่าคุณพากเพียรให้ตายอย่างไร แต่ถ้าคุณมิจฉาทิฏฐิ คือความเห็นความเข้าใจก็เป็นมิจฉาแล้ว คุณเข้าใจว่าปฏิบัติตามอย่างพระพุทธเจ้าคือนั่งขัดสมาธิแล้วจะบรรลุธรรม นั่นแหละคือมิจฉาทิฏฐิ ต้องให้คุณเป็นพระพุทธเจ้าก่อนแล้วนั่งขัดสมาธิจะได้ตรัสรู้หรือรู้ธรรมะที่เกิด ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย เป็นไปไม่ได้ คือพระพุทธเจ้าที่ท่านนั่งหลับตาแล้วท่านก็ระลึกถึง ระลึกได้ของที่ตัวเองเคยมีเคยเป็นแล้วได้แล้วเรียกว่าในความจำในสัญญา ท่านก็นึกเอาสัญญาขึ้นมา เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าเป็นผู้ตรัสรู้ธรรมะบรรลุธรรมมาตั้งนานแล้ว จนกระทั่งตั้งแต่บรรลุพระอรหันต์ อนุโพธิสัตว์ อนิยตโพธิสัตว์ นิยตโพธิสัตว์ มหาโพธิสัตว์ ปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ท่านเกิดมาเป็นเจ้าชายสิทธัตถะท่านไม่ได้ปฏิบัติธรรมเลยนะ ท่านเป็นแต่เพียงระลึกถึงเมื่อตอนมาบวชแล้วนั่งอยู่ใต้ต้นโพธิ์ ยาม 1 ระลึกอดีตว่าเป็นมาอย่างไร ยาม 2 ก็ทบทวน ยาม 3 ก็ได้ระลึกรู้ว่าท่านเป็นเจ้าของธรรมะพระพุทธเจ้าเป็นธรรมะสามีรู้ว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้า ระลึกได้ว่า ท่านได้มีพระมาตั้งแต่ชาติก่อนๆ ไอ้ชาติที่เป็นเจ้าชายสิทธัตถะท่านไม่ได้ปฏิบัติธรรมอะไรเลย ท่านไปหลงผิดด้วยซ้ำไปว่าได้ปฏิบัติธรรมะเสียเวลาไป 6 ปี เส้นทางที่ ทุกรกิริยา ไม่ใช่สุกิริยา มันไม่ถูกต้องแล้วท่านก็ระลึกของท่านได้ในวันนั้น ท่านไม่ได้เอาของใคร
ธรรมะในการเป็นพระพุทธเจ้าก็คือศาสนาพุทธ ไม่เหมือนของเดียรถีย์หรือของศาสนาอื่นใด แล้วท่านก็มาประกาศสอน กับปัญจวัคคีย์ ประกาศแล้วปัญจวัคคีย์ก็รับได้ จนเกิดเป็นพุทธศาสนาขึ้นในโลก ซึ่งตอนนั้นพุทธศาสนาได้สูญไปแล้วในโลก พระพุทธเจ้าสมณโคดมก็มาสถาปนาขึ้นมาใหม่ เป็นศาสนาพุทธ
ทีนี้พระเจ้านั่งตรัสรู้นั้นท่านได้มีมาก่อนแล้ว ส่วนคนที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้าไปนั่งให้ตาย เกิดแล้วเกิดอีกกี่ชาติก็นั่งๆๆๆ ยังไม่ได้ปฏิบัติธรรมก็ไม่ได้ แม้แต่พระโสดาบัน สกิทาคามีอนาคามี อรหันต์ เป็นพระโพธิสัตว์ จนเป็นพระพุทธเจ้าอีกก็ไม่ได้ปฏิบัติบำเพ็ญบารมีอะไรพวกนี้ได้เลย คุณนั่งให้ตาอย่างไรก็มีแต่โลกียธรรม ของพวกเดียรถีย์ทั้งหลาย การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าไม่ได้นั่งหลับตาด้วย ท่านลืมตา ธรรมะของพระพุทธเจ้าคือวิชาจะระณะสัมปันโน ซึ่งไม่มีข้อไหนให้นั่งหลับตา โดยเฉพาะอปัณณกธรรม 3 แล้วกำชับเลยว่า ถ้าไม่สำรวมอินทรีย์ 6 ก็ไม่ใช่ศาสนาพุทธ ต้องมีสำรวมอินทรีย์ทั้ง 6 จึงเป็นข้อปฏิบัติที่ไม่ผิด
1.ศีลสัมปทา ถึงพร้อมด้วยศีล . . 9. วิริยะ ปรารภความเพียร
2.อินทรีย์สังวร คุ้มครองทวารอินทรีย์ 10. สติ อันเป็นอาริยะ . .
3.โภชเนมัตตัญญุตา ประมาณในโภชนา 11. ปัญญา . .
4.ชาคริยานุโยค ประกอบความตื่น 12. ปฐมฌาน .
5.ศรัทธา (เชื่อมั่น) . . 13. ทุติยฌาน
6.หิริ (ละอายต่อบาป) . 14. ตติยฌาน
-
โอตตัปปะ. (สะดุ้งบาป). 15. จตุตถฌาน
-
พาหุสัจจะ แทงตลอดในพหูสูต . (พตปฎ.ล.13/34)
หากไม่มีการกระทบสัมผัส 6 ก็ไม่ได้ เพราะว่าธรรมะพระพุทธเจ้าคุณไปนั่งหลับตาเป็นเรื่องนอกรีต เมื่อไหร่จะตายเหมือนพวกนักโทษที่ถูกประหารด้วยหอกร้อยเล่ม ตายซะทีตายจากความดื้อด้านดึงดัน ควรจะฟังและยอมรับ นั่นแหละคือตายได้ ตอนนี้ไม่ยอมรับเลยกูจะทำอย่างนี้ทำไม กูก็จะอยู่ของกูอย่างนี้ ฆ่ากู กูก็ไม่เชื่อ
จริงๆแล้วไม่มีใครรู้ว่าวันเพ็ญขึ้น๑๕ค่ำเดือน๖พระพุทธเจ้านั่งตรัสรู้นั้นท่านลืมตาหรือหลับตาก็ไม่มีใครบอก ท่านระลึกถึงสัญญา เอาจากคลังความจำ แต่ท่านจะลืมตาหรือหลับตาท่านก็ไม่ได้ให้ความสำคัญ แล้วที่ท่านระลึกได้ก็เพราะว่าท่านมีแล้ว เพราะฉะนั้นคนที่นั่งหลับตาเข้าไปคุณยังไม่มีโสดาภูมิ นั่งระลึกให้ตายก็เอาโสดาภูมิมาระลึกไม่ได้ แต่ถ้าเป็นสกิทาคามีก็เอามาเตวิชโชระลึกได้ อนาคามีก็ทำได้ อรหันต์ก็ทำได้ เป็นความจำอยู่ในคลังความจำอยู่ในเซฟของคุณเปิดออกมาดูได้ อ๋อ ซุกไว้ในซอกไหน แต่ถ้าคุณไม่มี เปิดเซฟออกมาก็มีแต่ขี้แมงสาป ขี้หยากไย่ มันไม่มีหรอก
อาตมาว่า ว่าให้หนักแล้วนะ คนที่โง่งมงายอยู่กับการนั่งหลับตา พูดขนาดนี้ก็หนักก็แรงแล้วนะ ทำไมยังบื้อขนาดนี้ ก็ว่าแรงแล้วนะ ทำไมโง่เง่าเต่าตุ่นอยู่อย่างนี้ อาตมาไม่ได้อวดเก่งอวดดี หรืออยากอวดเก่ง แต่อาตมาว่าอาตมาเข้าใจถูก ท่านไปหลงผิดแล้วพาพุทธศาสนิกชนงมงายตามเต็มไปหมด น่าสงสาร
สู่แดนธรรมว่า.. หากไม่ยากไม่สมบารมีโพธิสัตว์ระดับ 7
พ่อครูว่า…ทุกอย่างต้องลงตัวกันสมสัดส่วน
พระพุทธเจ้านั่งแล้วก็ระลึกชาติ เตวิชโช คุณเป็นใคร คุณรู้จักโสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผลแล้ว แล้วคุณจะไปนั่งระลึกของคุณ คุณต้องมาเรียนรู้กับผู้เป็น พระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ โพธิสัตว์ เรียนรู้แล้ว ทำได้แล้วคุณก็ถึงระลึกได้อีก แม้มีแล้วก็เอามาเช็กกับอาตมา
โสดาบันต้องจิตเข้ากระแสโสตาปันนะ หรือไม่ตกต่ำแล้วอวินิปาตธรรม หรือไม่ตกต่ำแล้ว นิยตะ ลดละได้สิ่งที่เป็นอบายเป็นต้น มีแต่เจริญไปสู่ที่สุดที่สูง สัมโพธิปรายนะ
อาตมาเข้าใจสภาวะมีสภาวะจึงพูดออกมาได้อย่างนี้ไม่ได้พูดตามบัญญัติภาษาที่เขาเขียนนะ
โสดาปัตติมรรค จิตคุณต้องรู้สักกายทิฏฐิ สัมผัสกับสิ่งที่คุณติด อบาย คุณไปสัมผัสไพ่ แต่ก่อนเคยติดสนุกสนาน แต่ตอนนี้คุณจะมีหิริโอตัปปะ เพราะว่ามีศรัทธามีความรู้ความเข้าใจขั้นหนึ่งแล้วคุณจะมีสัทธรรม 7 จะมีหิริโอตตัปปะ มีพหูสูตร ได้มรรคผลเพิ่มก็มีวิริยะ พากเพียรปฏิบัติอย่างนี้ถูกทางแล้ว สติเต็มรู้ทั้งนอกและใน รู้ทางตาหูจมูกลิ้นกายและตื่นทั้งใจนี่คือสติเต็มร้อย แต่ถ้าไปเปลี่ยนแต่ใจก็เป็นสติได้แค่ 10% หรือ 20 % ตาหูจมูกลิ้นกายอีก 4 คุณไม่ได้ศึกษาเลย
สติเต็มร้อย ปัญญาเต็มรู้
ต้องมาตื่นตั้งแต่ตาหูจมูกลิ้นกายตื่นมาพร้อมใจ ตาคุณก็อยู่เหนือ จมูกลิ้นกาย ก็อยู่เหนือ เหลือเชื้อแต่ในใจก็ทำต่อ มันเป็นลำดับอย่างน่าอัศจรรย์
แต่นี่ไม่ได้ทำตามลำดับ เลยเอาแต่ในใจแต่ตัวเองก็ยังติดมากกินหมากอยู่ ไม่รู้ความติดในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสเหล่านี้ แล้วก็บอกว่าไม่ใช่กิเลส แล้วคนก็บอกว่านี่คือพระอรหันต์ ตื้นแค่อบายมุขหยาบสิ่งเสพติดก็ยังไม่รู้ (ท่านว่าไม่ขวางกั้นนิพพานได้) พวกนี้ไม่ได้ใกล้จากวิเวกเลย มันไม่ได้ขวางหรอก แต่คนละแควเลย คนละทิศทางเลย เส้นทางนิพพานไปทาง 1 อันนั้นมันเส้นทางไปนรก แล้วก็ไปหลงใหลได้ปลื้มว่าเป็นพระอรหันต์ศาสนาพุทธได้เสื่อมหนัก ในความรู้โลกุตระของพระพุทธเจ้า ติดสิ่งเสพติดง่ายๆอย่างนี้ แล้วไปหลับตาปฏิบัติอีก ไปปฏิบัติให้ตายยังไงก็ไม่มีทางบรรลุศาสนาพุทธ
พระพุทธเจ้านั่งหลับตาระลึกท่านมีภูมิธรรมของพระพุทธเจ้าแล้วก็ทำเตวิชโช โสดาบันก็มีภูมิของพระโสดาบัน แล้วก็นั่งระลึกถึงพระโสดาบัน สกิทาคามีก็มีในเซฟของคุณมีเพชร 20 กะรัต มันตกหล่นอยู่ซอกไหนก็ค้นมาได้ แต่ถ้าไม่มีเพชร จะไปเปิดเซฟค้นหาอย่างไรก็ไม่เจอหรอก
คุณปฏิบัติพระโสดาบันเป็นอย่างนี้ได้แล้วก็เอาใส่เซฟไว้ ปฏิบัติพระสกิทาคามีได้ก็เอาใส่เซฟไว้ เป็นพระอนาคามีก็เอาใส่เซฟไว้ ถ้าคุณเป็นพระโสดาบันมาแล้ว คุณจะปฏิบัติพระโสดาบันในชาตินี้ได้ง่าย มันจะไม่ยากอะไรเลยถ้าคุณมีแล้ว ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าหลงตัวเองว่ามีแล้วนึกว่าตัวเองได้แล้ว แล้วคุณก็ไม่ปฏิบัติเพื่อที่จะได้ว่าคุณหลงว่าตัวเองมีแล้ว ทั้งๆที่ตัวเองไม่มี ไม่ใช่พระโสดาบัน แต่นึกว่าตัวเองเป็นพระอรหันต์แล้ว มันน่าสงสาร
การที่พระพุทธเจ้าท่านนั่งใต้ต้นอสัตตพฤกษ์ เมื่อท่านตรัสรู้แล้วก็เรียกว่าเป็นต้นโพธิ์ โพธิแปลว่าตรัสรู้ แล้วท่านก็ระลึกของท่านได้จนรู้ว่าท่านเป็นพระพุทธเจ้าก็มาประกาศบอกปัญจวัคคีย์ก่อนเพื่อน ท้าวความตำนานให้เรียนรู้
คนที่ไม่ใช่ผู้ที่มีแล้วอย่าไปนั่งระลึก แล้วก็ไม่จำเป็นต้องนั่งระลึก คุณมาปฏิบัติ ปฏิบัติแล้วคุณได้พระโสดาภูมิ จนได้แล้ว ทีนี้คุณก็ไปนั่งหลับตาทบทวน คุณก็จะยิ่งรู้จักพระโสดาบันมากยิ่งขึ้นอย่างไม่ประมาทเลย ไม่ต้องอวดดีว่าเรามีมาแล้ว แล้วมันก็ง่ายด้วยถ้าคุณมีมาแล้ว อาตมาก็ไม่ต้องหลับตาระลึกเลย
ศาสนาพุทธที่ไม่ประสีประสากับโลกุตรธรรมฟังอาตมาอย่างไรก็ไม่เข้า เขาเอาเรื่องเดียรถีย์ที่พระพุทธเจ้าทิ้งไปแล้วไปปฏิบัติก็เป็นอย่างนี้
ให้เป็นคนชาที่พร่องไม่เต็มถ้วย ต้องเทของเก่าทิ้งหรือเอาเก็บไว้ก่อนแล้วมาลองของอาตมาหน่อย ถ้าไม่ใช่ก็เอาทิ้งไป เอาของเก่าที่เก็บไว้มาคืน ก็ได้ ขอให้ลองหน่อย
อาตมาเทียบเคียงกับพระไตรปิฎกตลอดมา เพราะฉะนั้นเห็นช้างขี้อย่าขี้ตามช้าง พระพุทธเจ้าท่านมีบารมีมาแล้วท่านก็ระลึกได้ แม้ว่าจะมีแล้วแต่ถ้าปฏิบัติเบื้องต้นไปก่อนแล้วมันได้มันก็จะไม่สายเกินไปหรอก ที่ไปนั่งระลึกไม่มีปัญหา ถ้าแน่ใจว่าเป็นมรรคผลจะไม่ระลึกก็ได้หรือจะระลึกก็ได้มันไม่ยากหรอกถ้าคุณมีแล้ว
ซึ่งคุณไม่ใช่พระพุทธเจ้า คุณไม่ใช่พระอรหันต์ไม่ใช่พระอนาคามี คุณไม่ใช่ผู้ที่มีพระอริยะคุณแล้ว หรือแม้แต่คุณมีก็ต้องปฏิบัติในปัจจุบันนี้ให้มีมรรคมีผลในปัจจุบันนี้ แล้วไปนั่งระลึกก็จะได้ระลึกถึงได้ในสิ่งที่คุณมีแล้ว
สม.กล้าข้ามฝัน…
พ่อครูว่า…อาตมาก็ย้ำสิ่งที่ผิด อย่าเบื่ออาตมาเลย พยายามตั้งใจฟังพิจารณาให้ดี จะได้เลิกเสียเวลาแรงงานทุนรอนกับสิ่งผิดน่าเสียดาย
_เจิน วดี : น้อมกราบพ่อครูด้วยความเคารพรักยิ่งชอบฟังพ่อครูเทศน์ค่ะ
_ณัฐกมล วัฒนาคิน : พวกเรา หมายถึง ครอบครัวเราชื่นชมสังคมอโศกมานานแล้วค่ะ. เพิ่งได้ไปชมราชธานีอโศกเมื่อฤดูหนาวนี้ แต่ไปวันจันทร์ ติดวันหยุดเลยยังเห็นไม่ครบคิดว่า จะได้มีโอกาสนมัสการพ่อครูตัวจริง สักครั้ง
_กิ่งฟ้า ขันหล้า : ถ้าไม่อยากกินข้าวแบบพ่อท่าน คงจะสุดยอดเลยชีวิตนี้ พยายามแค่ลดมื้อลงยังล้มเลยจ้าสงสัยต้องเอาจริงเรื่องการกินให้มากๆแล้วจ้า
พ่อครูว่า…อาการอยากที่อาตมาเคยบอกว่าไม่ได้อยากกินอาหารหรือกระหายน้ำแต่อย่างใด อาตมาทำได้จึงเป็นเรื่องที่เป็นคุณวิเศษไม่ได้เสแสร้ง
_เจน ฮู เชอร์ : พ่อครูมีบารมีเยอะและสุงสุด พ่อครู อยากเกิดมาเป็นพระพุทธเจ้า ในอนาคตได้แน่เลยเจ้าค่ะ (???เกิดมาเป็นลูกกษัตริย์ จะได้มีคนอีกมากหมายศัรธทา.เหมือนยุคพระพุทธของเรา). ความคิดเห็นที่แปลกขออภัยเจ้าค่ะ???? / พ่อครู ไม่มีรูป ไม่มีรส ไม่มีสัมผัส มีแต่เสียงเจ้าค่ะ????(เสียงคือพลังต่ออายุไป151ปีแน่ค่ะ)
พ่อครูว่า…คืออาตมาไม่ติดในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส
_ติดดิน นาวาบุญนิยม : กราบนมัสการครับอยู่เชียงใหม่ฟังชัดมากทั้งรูปก็ชัดครับ
_ประดับ คนเปลี่ยนโลก : ??กราบนมัสการพ่อท่านครับผม.รับชมอยู่ที่ปฐมอโศกครับผม.
_รายงานครับ.. ขณะนี้มีผู้รับชมทางยูทูป๖๑คนครับ
_สมนึก ไลยลักษณ์ :กราบนมัสการพ่อครู. ดิฉันเข้าใจการกินลูกตนเองคือการกินอาหารที่อร่อย แต่ไม่มีประโยชน์. เข้าใจผิดหรือถูกเจ้าค่าเป็นการทำร้ายตนเอง. เห็นของสวยงามนึกว่าดี เหมือนการหลงทางโลกีกับทางธรรมถูกหรือผิด ..จากคนปัญญาอ่อนค่ะ
พ่อครูว่า…ใช้ได้ ความเข้าใจเช่นนี้
_5711น้อมกราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่งครับวันนี้ฟังธรรมสนุกมากครับ เหนื่อยกาย แต่ไม่เหนื่อยใจครับ
_เพลิน โชติธมโมภิกขุ ดอกกระโทก:???พ่อครูอายุมากยังเมตตาแสดงธรรม(แท้)ให้ลูกๆและผู้ศึกษา ให้เข้าใจในธรรม(แท้) พระปฏิบัติตามที่พ่อครูสอน (แต่พระยังเป็นลิงลมอมข้าวพอง อยู่ครับพ่อครู) แต่พยามฟังศึกษาปฏิบัติตามพ่อครูสอน อ่านหนังสือพ่อครู และจะตั้งใจศึกษา ตามสติ กำลัง ตามภูมิ ครับ#กราบพ่อครู ความเคารพอย่างสูง ครับผม
SMS วันที่ 20 ธ.ค. 2562
_5562กราบนมัสการพ่อครู ที่เคารพศรัทธายิ่ง จาก มะกอกป่า
-
ต้องพิจารณา-ทำตนอย่างไรถึงจะ ครองตัวเป็นโสดได้ตลอดชีวิต
พ่อครูว่า…พิจารณาให้ดีคุณเป็นผู้ชายต้องมองผู้หญิงให้เป็นถุงขี้ผูกโบว์ มันหลอก หาโบว์ริบบิ้นผูกห่อให้ดูดี แต่ข้างในคือขี้ทั้งนั้น มันเป็นภาระ มีความรักหนึ่งมีความทุกข์หนึ่งมีความรักร้อยมีความทุกข์ร้อย เรื่องเพศเรื่องคู่ เป็นสัญชาตญาณของสัตว์โลก พระพุทธเจ้านั้นเป็นผู้ที่สอนสิ่งที่เหนือโลก แล้วต้องศึกษา เลิกเลยในเรื่องของสัญชาตญาณสัตว์โลกเรื่องคู่แบบสัตว์เดรัจฉานก็มี เรื่องสืบพันธุ์เรื่องผสมพันธุ์ มันมีเป็นธรรมดาสามัญ ธรรมะพระพุทธเจ้านั้นเหนือสามัญเหนือความรู้ทั่วไป ผู้ที่ทำได้ก็ต้องมาคิดให้ได้ ว่าเรายังจะไปมีคู่เมถุน คนคู่ มันก็ยังไม่เหนือโลก เป็นโลกุตระ เหนือสิ่งที่เป็นธรรมชาติของสัตว์โลก ต้องระลึกอย่างนี้ไว้เสมอ
เพราะฉะนั้นถ้าเราทำตนให้เรียนรู้กิเลส กิเลสมันเป็นตัวหลอก พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว เห็นจริงว่ากิเลสมันเป็นตัวหลอก เมื่อเราชัดเจนกับกิเลสแล้วไม่ให้กิเลสมันมีอำนาจเหนือเรา ชัดเจน คุณปฏิบัติแล้วจะพูดได้อย่างที่อาตมาพูด คุณก็จะรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงเลย กิเลสมันไม่มีจริงเลย เราสามารถฆ่ามันตายหายไปหมดจากจิตได้จริงเลย เชื่อไหม? ได้บ้างหรือยัง เรื่องเมถุนเรื่องคู่ได้(ถามส.ฟ้าไท) อาตมาเชื่อว่าท่านยังไม่อยากอวดดี เพราะว่าเป็นฐานอนาคามี จะมีระริกระรี้ในใจบ้าง รูปราคะอรูปราคะ แต่ข้างนอก หิริโอตตัปปะ ที่จะไปแสดงออก แต่นี่เห็นมีแสดงออกกลางสภา พวกลักเพศ ไม่ใช่เรื่องอะไรเลยที่จะแสดง มันเสื่อมมาก ส.ส.ใส่เสื้อลายใส่หมวกด้วย แล้วเป็นพวกสีม่วงพวกกะเทย
อาตมาว่ามันช่างเสื่อมต่ำไม่รู้ฐานะอันควรมีคนเป็นเลย คุณจะไปทำตามประสาของคุณก็แล้วแต่ แต่คุณจะไปเอาเรื่องลามกไปใส่ในสิ่งที่ไม่ควรจะไปแปดเปื้อนมันไม่รู้กาละเทศะเลย แล้วคนอย่างนี้จะมาเป็น ส.ส. เป็นตัวแทนของประชาชน ช่างกระไรคนที่ไปเลือกไปเป็น ส.ส.ก็ช่างตามืดตาบอด เป็นปาตี้ลิสต์ จะไปเลือกใส่ทำไม
สู่แดนธรรมว่า..เขาอาจทำให้ชาวต่างชาติเห็นว่าชาวไทยกีดกันสิทธิของเขาหรือไม่
พ่อครูว่า..เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย ที่ที่จะมาแสดงเรื่องลามกกลางสภา มันไม่ควร ประเทศที่เขาดีๆไม่เลอะเทอะ เราก็เอาอย่างประเทศเหล่านี้ แค่นี้เลือกไม่ได้ก็โง่ซะ ๆ
มีคนด่า 90% ควรจะด่า 150% คนโง่ขนาดไหนก็ควรรู้แล้ว แต่ขนาดนี้ไม่รู้ก็คือสุดโง่อย่างไม่รู้จะโง่อย่างไร ไม่นับว่าเป็นคนโง่
สู่แดนธรรมว่า…ผู้ชายควรเปรียบเป็นอย่างไรดีครับ
พ่อครูว่า…ผู้ชายเหมือนหนังควายหุ้มขี้ ข้างนอกก็เห็นหยาบแล้ว
จริงๆแล้วเรียนรู้ธรรมะพระพุทธเจ้าเถิด การเป็นโสดนั้นพระพุทธเจ้าท่านยกย่องว่าเป็นผู้ที่ไม่เศร้าหมอง ไม่มีความทุกข์ยากอะไร เรียนดูให้ดีๆ
-
ทำอย่างไรจิตใจถึงจะเข้มแข็ง กล้าปฏิเสธ เวลาที่เพื่อนมาชวนไปเที่ยวเตร่แบบไม่ค่อยมีสาระ และปฏิเสธแล้วไม่เป็นศัตรูกัน