630103_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ คนเจริญช่วยเศรษฐกิจได้จริงต้องเป็นคนจน
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1j9SrBK_H59jcUm8C20szn0Ak-iS-MnaboiR_mZ6oelg/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่ https://drive.google.com/open?id=1TTT2Oz7oKQEjGhqoG3YFB3j5yUNQa-4Y
สมณะฟ้าไทว่า..วันนี้วันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2563 ที่บวรราชธานีอโศก เราผ่านงานว.บบบ.เพื่อฟ้าดินก็ได้ฟังธรรมกันเพิ่มเติม (พ่อครูว่ามีอานิสงส์ในการฟังธรรม) ปีใหม่ก็ยิ่งใหม่เข้าไปอีก พ่อครูให้พรไว้ว่า…“ผู้อยู่ขอให้อยู่แข็งแรงมั่นคงดีๆ แล้วพากเพียรพัฒนาตัวเองมั่นคงต่อไป ผู้ที่มีศีลยังไม่ได้มา จงมา เชิญมา โปรดมา มาเถิดมาอย่าช้า…อยู่ไหนรีบมา”
เราเจริญขึ้นก็ต้องรับขุมทรัพย์ได้มากและดียิ่งขึ้น เราต้องลดกิเลสตนเองให้ได้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด
พ่อครูว่า…ก่อนอื่นขออ่านบทกวีของอ.เป็นต้น นาประโคน
เพื่อฟ้าดิน
เสียงโครมครืนสนั่นพื้น ปฐพี
เกิดเรื่องแม่วารี ท่วมท้น
หมู่มนุษย์อพยพหนี อุทก ภัยเฮย
ฝนแล้งพิรุณล้น หลากแล้วอยู่ไฉน
น้ำหลากช่วยชะล้าง สารพิษ
ติรัจฉานบ่ผลิต ดอกเจ้า
คนเกิดวิปริต คิดอยาก รวยเฮย
คนฆ่าคนก่นเศร้า สุดซึ้งสงสาร
ดินต่ำย่อมอยู่ใต้ บาทา
ฟ้าอยู่สูงสุดหา เทียบได้
สองสิ่งคู่กันมา ในโลก นี้แล
นามรูปคู่กันไซร้ สิ่งนี้นามธรรม
ดินเอยคนขุดขึ้น มาขาย
น้ำใสขาดคนหมาย คิดค้า
ลมบรรจุถังขาย ให้ค่า สมองคน
ไฟจุดเผาไพรบ้า แมกไม้หมดดง
วิกฤตเกิดย่อมสร้าง โอกาส
หมู่มนุษย์อย่าประมาท ทุกผู้
อย่าคิดฆ่าธรรมชาติ ดังเช่น เคยมา
สำนึกรีบเรียนรู้ เจ็บแล้วต้องจำ
ราชธานีแห่งนี้ เป็นพยาน
เราศิษย์มีอาจารย์ อยู่บ้าง
เราจนห่อนขอทาน ใครเพื่อ กินเฮย
จนบ่รับค่าจ้าง เช่นนี้มหัศจรรย์
การเมืองเพื่อรับใช้ พลเมือง
นี่แหละคือการเมือง ที่แท้
เมืองพุทธจะประเทือง ให้โลก แลเห็น
เศรษฐกิจแบบพุทธแก้ กลับได้ดังหวัง
โดย อ.เป็นต้น นาประโคน
พ่อครูว่า…มีแผนผังผิดเล็กน้อยแต่เนื้อหาสาระดี เอาเนื้อหาสาระเป็นเอก ก่อนจะได้อ่าน sms ก็ขอปรับความเข้าใจกับอันนี้อีกหน่อย
เมื่อวานนี้มีคนโพสต์ลงเฟสบุคว่า…เมื่อวานนี้มีคนโพสต์ลงใน Facebook ว่า พ่อสร้างบ้านหลังนี้มาด้วยความยากลำบากเพื่อให้ลูกๆได้อาศัยจากไม่มีอะไร หยาดเหงื่อทุกหยด ทรายทุกเม็ด หินทุกก้อน ต้นไม้ทุกต้น ถนนทุกเส้น แม่น้ำทุกสาย น้ำตกทุกแห่ง พ่อพาทำ ไม่เคยเอ่ยปากบอกว่าเห็นเหนื่อยตราบจนทุกวันนี้ ก็มีคนอาสาจะมาช่วยพ่อโดยให้พ่อหยุดให้อยู่เฉยๆ อำนาจบริหารขอให้เป็นเรื่องของกรรมการ และบอกทุกคนว่าอยากให้พ่ออายุยืนยาว จึงไม่ให้พ่อมีดาบอาญาสิทธิ์ พ่อจำอะไรไม่ได้แล้ว ทั้งๆที่พ่อก็ไม่เป็นอะไร ยังแสดงธรรมอบรมลูกๆทุกวัน ก็แปลกใจว่าคนที่อาสามาช่วยพ่อนี้จริงๆแล้วเขาช่วยหรือเขาทำอะไรกันแน่ เพราะจากบ้านที่เคยอบอุ่น มันไม่อบอุ่น พี่ๆหลายคนไม่อยากอยู่ แต่เราก็เป็นน้องยังต้องการจะให้บ้านนี้อบอุ่นน่าอยู่อย่างที่พ่อพาทำ หรือพ่อไม่สามารถที่จะให้บ้านหลังนี้กลับมาอบอุ่นเหมือนเดิมได้ เพราะคำหนึ่งที่พ่อพูดให้ได้ยินกับหูออกมาว่า “สาธุขอให้พระสยามเทวาธิราชช่วยให้งานนี้สำเร็จด้วยเถิด”ตอนที่มอบหมายงานหนึ่ง ให้ช่วยทำ คำพวกนี้พ่อไม่เคยสอนมีแต่ว่าคนเราต้องพึ่งกรรม แต่มาวันนี้คงหมดหนทางจริงๆหรือจึงเอ่ยคำนี้ออกมา…นี่คือเรื่องเล่าสู่กันฟัง ก็คิดเอาเองเพราะพูดได้แค่นี้ สาธุ
จากนั้น มีคนโพสต์ต่อเรื่องนี้กันเช่น เรื่องใหญ่ที่หลายคนก็ยังเฉย เพื่อนของจ่าเฉยเยอะมาก
อีกท่านก็ว่า คิดว่าที่พ่อครูวางมือการบริหารก็เพื่อให้ลูกๆฝึกทำงาน พ่อครูได้เอาเวลาพักหัวคิดเรื่องบริหารลูกๆ ต้องอยู่ต่ออีกหลายพันปี ถ้ามีปัญหาระหว่างลูกๆก็เห็นพ่อครูเข้าไปช่วยตลอดแหละ ไม่ต้องห่วงหรอก…
กราบเรียนขอคำแนะนำจากพ่อครูได้โปรดวิเคราะห์วิจัยให้สัมมาทิฏฐิในเรื่องนี้ด้วยครับ
ต่อมาก็มีคนโพสต์ตอบหลายข้อความว่า
เรื่องใหญ่ ที่หลายคนก็ยังเฉย เพื่อนของจ่าเฉยเยอะมากค่ะ
พ่อครูว่า…เรื่องนี้ต่างคนต่างก็มีความเห็นเป็นธรรมดาธรรมชาติ ก็เป็นความเห็นต่างกันพอเหมาะ ความสามัคคีคือความเห็นต่างกันพอเหมาะ ก็ไม่มีปัญหาอะไรเห็นต่าง บังคับกันไม่ได้ ผู้ที่เขียนมาก็มีความเห็นต่าง โดยเฉพาะ จับจุดได้ว่า มีความเห็นต่างจากผู้ที่เป็นผู้ใหญ่ที่มีอำนาจในการบริหาร คนพวกนี้จะมีความเห็นต่างกับผู้ใหญ่ที่บริหาร ก็จะมองเพ่งว่า การใช้อำนาจเผด็จการมากไป ก็เป็นธรรมดาสำหรับผู้ที่ยังโน้มเอน
-
ยังมองไม่ค่อยรู้ครบบริบูรณ์ ทั้งองค์ประกอบในตัวเองและผู้อื่น
-
ยังมีกิเลสอยู่ในตัว ที่มีกิเลสที่จะต้องไม่ค่อยจะพอใจนัก สำหรับผู้บริหาร
สำหรับผู้ที่เกิดความขัดแย้ง แต่เราก็ไม่ค่อยจะยอมรับ สำหรับผู้ที่ยอมรับเต็มที่แล้ว แม้จะรู้สึกว่าผู้ที่บริหารนั้น ค่อนข้างจะลำเอียงก็ตาม ก็จะไม่คิดนึกมาก เป็นธรรมดาธรรมชาติในการขัดเกลาไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะฉะนั้นแต่ละบุคคลพยายาม ลดตัวตนให้ไม่มีตัวตนได้ดีที่สุด
จะมีอะไรที่ผ่านมา ถ้าเรามีอะไรดีแสดงออกอะไรอยู่ คนอื่นเขาก็รับ คนที่มีปัญญาเขาก็รับ เราก็แสดงออกตามภูมิโดยไม่ต้องมีตัวตนเลยมันไม่เสียหายอะไรเลย ตัวเองก็ไม่เป็นภาระ ไม่ต้องไปขัดเกลาคนอื่นด้วย โดยเฉพาะผู้ที่อยู่เหนือเราซึ่งเราก็ไม่มีอำนาจที่จะไปแก้ไขปรับปรุงได้ไม่ต้องลำบากลำบนใจ เพราะฉะนั้นคนฉลาด ก็ไม่จำเป็นจะต้องไปนั่งคิดเล็กคิดน้อยอะไรมากมาย เราอยู่กับหมู่
ถ้าเราเป็นผู้ที่มีภูมิธรรมสูง หมู่ก็จะเห็นเอง แม้จะเป็นผู้ที่มีอายุน้อย เป็นผู้ที่ไม่มีอะไรที่จะเป็นเครื่องประกอบ แต่ถ้ามีคุณธรรมใหญ่มีสิ่งที่สูงส่ง คนมีดวงตาจะเห็นจะเข้าใจ แม้เราใหญ่จริง คนไม่มีดวงตาเห็นก็ไม่เห็นเสียหายก็อยู่มันอย่างนี้แหละ เราก็ทำงานของเราไปเต็มที่ ทำไมมองตัวเองว่าก็ไม่ได้เล็กเท่าไหร่แต่ก็ไม่เห็นจะต้องหลงผิดอะไร อาตมาก็ยอมแพ้ตลอดก็ทำงานมาได้เรื่อยๆ ไม่เห็นจะเสียหาย มันอยู่ที่เนื้อหาสาระเนื้อแท้ของสัจธรรม แสดงออกไปเถอะ ผู้ที่รู้จักเนื้อหาแท้ของสัจธรรมจะรู้ แล้วก็จะมีหมู่พวกเอง แม้แต่ในยุคนี้ หมู่พวกที่มีปัญญาจะน้อยก็ยังมีคนเห็น อาตมาทำงานมาได้ยาก แต่ไม่เคยท้อ รู้ว่าต้องยาก หากไม่ยากสิ อาตมาต้องคิดผิด แต่ว่าอาตมาคิดไม่ผิดหรอกเพราะมันยาก เรารู้มา
ถ้าจะเรียกว่ารู้มาเดี่ยว ก็รู้มาเดี่ยว แต่ก็ที่จริงไม่ได้มาเดี่ยวหรอก ก็มีผู้รู้แต่ไม่ได้มาร่วมกันอย่างสมพร้อม มีผู้ร่วมอยู่โดยพฤตินัย แม้แต่จะไม่แสดงออกชัดเจน อย่างสมคล้อย แต่ก็ร่วมอยู่แล้วก็มีวิบากคั่นด้วย อาตมาก็พูดได้ประมาณนี้ จะพูดโจ๋งครึ่มก็ไม่ดี
(พ่อครูไอ ตัดออกด้วย)
สมณะฟ้าไทว่า..การอยู่ร่วมกันสำคัญที่เราแสดงออกด้วยกิเลสหรือไม่ ถ้าเราแสดงออกด้วยกิเลสมันก็มีวิบากเองไม่มีใครช่วยเราได้ ทุกอย่างก็อยู่ที่ความบริสุทธิ์ สุทธิอสุทธิปัจจัตตัง ทำงานไป จะบังคับให้คนฉลาดก็ไม่ได้เขาฉลาดได้แค่นี้ ถ้าทำความดีแล้วเสียสละไม่เอาอะไรก็จบ คนมาอยู่กับชาวอโศกเขามาเสียสละทำได้ขนาดนี้จะบังคับให้ทำมากกว่านี้ก็ไม่ได้ ใช้บังคับก็ควรจะบังคับตัวเองก่อนทำไมไม่ทำให้ดีกว่านี้ จะบังคับพ่อครูก็ไม่ได้
อาตมาเคยดำเนินรายการ ภันเตติกขะเคยบอกว่ารายการนี้ควรเปลี่ยนอย่างนี้ อาตมาก็บอกตรงๆว่า เปลี่ยนก็ได้แต่ผมยังทำใจไม่ได้ จะบังคับให้ทำใจก็ไม่ได้ ก็บอกตรงๆ ท่านก็ปรารถนาดี เราฉลาดแค่นี้ มันยังโง่อยู่ก็ทำได้แค่นี้ ก็ต้องยอมรับความจริง แต่ถ้าคนมาทำได้เก่งกว่าเราก็ให้ทำไป งานในอโศกอิสรเสรีจะตายไป ทำไปในจุดที่เขายอมรับให้เราทำ ดีไม่ดีงานจะมากด้วย
พ่อครูว่า…ทีนี้มาดูที่ sms ก่อน
_ทาทา ปัญญาชมแสง …นอบน้อมกราบ นมัสการคารวะ พ่อท่านด้วยความเคารพอย่างสูงครับ กราบนมัสการ ท่านสมณะ สิกขมาตุทุกรูปน้อมเจริญธรรมพี่น้องหมู่มิตรดีสหายดีทุกท่านครับ ลูกได้ฟังเสียงอ่านหนังสือ คนคืออะไร ทำไมสำคัญนัก ช่วงตอนพ่อท่าน ขยายข้อธรรมอาการของขันธ์ 5 พ่อท่านเมตตาขยายสัตส่วนขั้นตอนของจิต ทำให้ลูกเข้าใจแดนจุดเกิดขององค์เวทนาของจิตได้ชัดขึ้น พอลูกน้อมนำเอาสังกัปปะ 7มาจับมาเทียบเคียง ทำให้ง่ายต่อการพิจารณาวิจัยได้ดีขึ้นครับ ลูกขอน้อมหมอบกราบสาธุคุณความเมตตาพ่อท่าน อย่างผู้รู้สำนึกดีน้อมกราบสาธุธรรมครับ
พ่อครูว่า…อาตมาทำงานมา 50 ปีก็ทำได้ประมาณนี้ หนังสือคนคืออะไรทำไมสำคัญนักเป็นหนังสือเล่มแรกที่อาตมาเขียนหนังสือธรรมะ นอกนั้นก็เป็นการตอบปัญหาธรรมะตั้งแต่ปฏิบัติธรรม เป็นฆราวาสก็เปิดคอลัมน์ธรรมะในหนังสือดารา หนังสือโลกีย์เต็มๆหนังสือดาราภาพ ไทยโทรทัศน์เขาเปิด ก็ตอบปัญหามาตลอด คนก็รวบรวมกันมาเป็นหนังสือชื่อลำธารชีวิต พิมพ์ออกแจกกันไป แล้วก็ออกมาเด็ดขาดชัดเจน ว่าหยุดเลิก อยู่ทำงานมา 12 ปีทางโลกเรียนจบมาก็ทำงานโทรทัศน์ จนออกมาตอนอายุ 36 ปีทำงานมาจนบัดนี้ก็เป็นการเปิดเผยโลกุตรธรรม
ซึ่งอาตมาว่า ไม่มีใครชัดเจนในโลกุตรธรรมเท่า อาตมาว่าอาตมาชัดเจน แล้วก็แยกแยะขยายความเปิดเผยมา ภาษาธรรมะสัจธรรมไม่ได้ผิดเพี้ยนไปมากแล้ว อาตมาก็ต้องมาแก้กลับ ตั้งแต่คำว่ากาย รูปนาม ฌาน สมาธิ บุญ สารพัดที่อาตมาต้องมาแก้กลับ อธิบายให้ตรงกับสัจจะ เอาความหมายตามพระไตรปิฎกมาอ้างอิงยืนยันก็พอไปได้ เคราะห์ดีโชคดีที่มีพระไตรปิฎกเป็นหลักฐาน ที่ต่างคนเขาก็นับถือพระไตรปิฎกอันนี้กัน ถ้าเขาไม่นับถือพระไตรปิฎกฉบับนี้กัน อาตมาก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาเป็นหลักยืนยันตายแน่ๆเลย พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐที่มี 45 เล่มนี่แหละ ก็แล้วจะอาศัยอันนี้แหละไป จนกระทั่งอาตมาตายไปชาตินี้คงต้องใช้หลักฐานอันนี้
นับวันนับคืน ผู้ที่มีปัญญาจึงจะเข้าใจได้จริงๆ นับวันมันก็จะดีขึ้นๆๆ ผู้ที่ยึดมั่นถือมั่นยังไงก็ไม่ยอมเชื่อ หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่เชื่อว่าเราเป็นอาริยะ ไม่เชื่อว่าเป็นผู้รู้ ไม่เชื่อว่าโพธิรักษ์เป็นสยังอภิญญาเป็นพระโพธิสัตว์ที่จะมาสืบทอด เอาโลกุตรธรรมพระพุทธเจ้ามาสถาปนาลงให้ชัดเจน เพราะธรรมะพระพุทธเจ้าได้เลือนหายเหมือนกับกลองอานกะแล้ว
_รัตนพงศ์: การที่เราพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ตลอดตามดูรู้อยู่แล้วสงบดีเป็นเช่นนี้เพราะอะไรแล้วถูกหรือไม่ครับ
พ่อครูว่า…พิจารณากายในกายคุณเข้าใจอะไรได้ดีแค่ไหน กายต้องมีทั้งภายนอกและภายในที่ลงตัวอยู่ตลอด เห็นว่าสงบดี นั้นสงบอย่างไร คำว่าสงบก็มีนัยลึกซึ้ง สงบอย่างผิดๆ สงบไปหมายเอาแต่แค่ทางวัตถุรูปสงบ สรีระสงบหรือเอาจิตสงบ คำว่ากายนี้หมายเอาจิตเป็นหลักแต่ขาดภายนอกไม่ได้ แต่เน้นสงบ เจริญเอาที่จิต ข้างนอกอาจดูไม่เจริญดูไม่ดีได้ แต่ข้างในเป็นหลัก แต่ถ้าดีทั้งภายในภายนอกก็สอดคล้องกันสมบูรณ์แบบดีมาก
ค่อยๆศึกษาไป คุณก็เข้าใจไม่ใช่น้อยแล้ว
_วาส ทองจันทร์: วันนี้ต้องกราบขอบพระคุณท่านที่คุมเครื่องเสียงที่บ้านราช ที่เมตตาคนหูพิการที่ช่วยเปิดเสียงลำโฟงเล็กมีตั้งรอบข้างที่เฮียนศูนย์เป็นอย่างมากครับ
_F.1 m.1: กราบนมัสการพ่อครูครับ พยามตื่นมาฟังเทศครับ
พ่อครูว่า…ดีมากพยายามต่อไป พิจารณาให้ดีๆให้เข้าใจและเอาไปปฏิบัติ
_จักรพล พุทธพัฒนา : จริงครับ..การหมดกามเป็นแค่เปิดทางเข้าสู่นิพพานเท่านั้น กามเป็นสักกายะของโลก..เราจึงต้องศึกษาเรียนรู้ให้ละเอียด..อย่าได้มีจิตดูดหรือผลักเด็ดขาด.
พ่อครูว่า…ดี เข้าใจแล้วก็เอาไปทำให้ได้
_ดีทน อินสะพรหม : คุณสู้สู้หมดกามแล้วหรือยังครับ
_พันธุ์ พอเพียง: ดูตามศีลห้า กล่าวว่า กาเมสุมิจฉา พอขึ้นไปศีลแปดค่อยกล่าวคำว่าพรหมจรรย์ นัยยะพ่อครูลึกยิ่งนัก ล้างกามถึงจะนับเป็นพรหมจรรย์ ศีลห้ายังเสพกามอยู่แต่ให้เสพแบบกันอาการลงแดง แต่ให้เสพน้อยที่สุด นมัสการครับ
_สนอง นิละกุล: ปีนี้ขออนุญาติพ่ออยู่ในถ้ำอาวาสสถานดินหนองแดนเหนือ เรื่องของกามโทษลูกต้องศึกษาลดละอีกมากครับ
พ่อครูว่า…รู้ตัวแล้วก็พยายามลดลง คนนี้เข้าใจเรียกคำว่ากามโทษ คือกามาทีนวะ เพราะไปหลงกามเป็นคุณ แต่แท้จริงมันเป็นกามโทษ ในอนุปุพพิกถา พระพุทธเจ้าสอน ทาน ศีล สัคคะ เนกขัมมะ อาทีนวะ
การเสพสวรรค์ในกาม กามหยาบคืออบาย หมดอบายก็มากาม หมดกามก็มาล้างรูปภพ อรูปภพ จนหมดความอยากสิ้นความเสพ
_SengdavoneOuanvilay : ນະມັດສະການພໍ່ປູ່ສະມະນະໂພທິຣັກ,ຈະເລີທຳສຳນຶກດີຍາດຕິທຳຊາວອະໂສກ&ຊາວແພດວິຖີທຳ-ທ່ານອາຈານຫມໍຂຽວ-ດຣ. ໃຈເພັດ ກ້າຈົນ,ຂ້ານ້ອຍຊື່ຫລີ້ນ:ນາງ(ສາວ)ຕູ່-ຊື່ທາງທຳທີ່ພໍ່ປູ່ສະມະນະໂພທິຣັກຕັ້ງໃຫ້ຕອນປີ 2559*ຊື່:ນຳແສງທຳ
แสงตะวัน อ่อนวิไล นมัสการพ่อปู่สมณะโพธิรักษ์ เจริญธรรมสำนึกดี ญาติธรรมชาวอโศกและชาวแพทย์วิถีธรรม ท่านอาจารย์หมอเขียว-ดร.ใจเพชร กล้าจน ข้าน่อยชื่อเล่น นาง(สาว)ตู่ ชื่อทางธรรมที่พ่อปู่ตั้งให้เมื่อปี 2559 ชื่อ นำแสงธรรม
_7230 พ่อครูเป็นพระโพธิสัตว์ไม่ใช่พระอรหันต์
พ่อครูว่า…ก็ศึกษาดีๆ โพธิสัตว์กับอรหันต์เป็นอย่างไรอาตมาก็ขยายความแล้วว่าผู้ที่เป็นโพธิสัตว์ คือผู้ที่เป็นอรหันต์ ผู้ที่เป็นอรหันต์ต์คือบรรลุผล อรหะ แปลว่าไม่ลึกลับ ผลคือความไม่ลึกลับในโลกโลกีย์ อยู่เหนือโลกีย์แล้ว อรหันต์คือความเป็นผู้ที่ไม่ลึกลับแล้วในโลกโลกีย์ ทั้งกามภพ รูปภพ อรูปภพ จบ เรียกว่าอันตะ เป็นที่สุด เป็นผู้ที่ไม่ลึกลับแล้วในสามภพ ส่วนโพธิสัตว์อาตมาขยายความ
กรอบ ผู้ที่บรรลุธรรมเป็นอริยะของโสดาบัน จบกรอบก็คือ โพธิสัตว์โสดาบัน
มี โพธิสัตว์โสดาบัน โพธิสัตว์สกิทาคามี โพธิสัตว์อนาคามี โพธิสัตว์อรหันต์
แล้วจะต่อจากพระอรหันต์ไปจนเป็นพระพุทธเจ้า 4 อย่างแรกนั้นเป็นพระพุทธเจ้าไม่ได้หรอก อรหันต์คือ อรหันตสัมมาสัมพุทธะ ไม่ใช่แค่พระอรหันต์เบื้องต้น
อาตมาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ยังไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่อาตมาก็มีอรหันต์ แล้วมาบำเพ็ญต่อเป็นอนุโพธิสัตว์ บรรลุ 5.อนุโพธิสัตว์ 6.อนิยตโพธิสัตว์(ยังไม่เที่ยงจะไปเป็นพระพุทธเจ้าได้คือเรียกว่าสอบเข้ามหาวิทยาลัยพระพุทธเจ้ายังไม่ได้) 7.นิยตโพธิสัตว์(เที่ยงต่อการไปเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต สอบเข้ามหาวิทยาลัยพระพุทธเจ้าได้แล้วแต่จะเรียนจบหรือไม่ก็อีกอย่างหนึ่ง) 8.มหาโพธิสัตว์ 9.พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ขั้นที่ 9 นี้มีอีกสองนัย
1.ปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า กับ 2.พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทั้งสองนัยมี สัมมาสัมโพธิญาณเท่ากัน ถ้าไม่มีภูมิธรรมมากพอก็ไขความอันนี้ไม่ได้
อาตมายังอยากจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ได้ เพราะในไหนก็บำเพ็ญมาแล้วก็เอาความเป็นมนุษย์ให้ได้สูงที่สุดเพราะมันยังอาจเอื้อมถึงได้อยู่ไม่ท้อ แม้จะหนักหนาสาหัสจริงๆมาถึงชาตินี้
_สู่แดนธรรม..ผมเคยสงสัยว่า…ในเมื่อเกิดมาชาตินี้แล้วผู้คนยังไม่สมบูรณ์ก็รอไปชาติหน้าค่อยประกาศก็ได้
พ่อครูว่า…นั่นเป็นความคิดของคุณ พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นไม่ใช่ไม่สอนคนแต่ว่าสอนคนมามากมายจนเหนื่อยแล้ว แต่ไม่ได้ขึ้นทำเนียบเท่านั้นเอง ท่านไม่มีตัวตนนั้นเอง ถ้าจะบอกว่าผู้ที่ประกาศเป็นพระพุทธเจ้านั้นมีตัวตนมากกว่าก็ได้
อาตมาที่พูดนี้เป็นคำสิริมหามายา เอามุมไหนมาโชว์ก็เด่นทั้งคู่
_7230 ฟังอยู่ทุกครั้ง บางทีดีบางทีใช้ไม่ได้เลย สมาธิ ฌาน เท่าเด็กอนุบาล ที่ทำงานของจิตอยู่ที่หัวสมอง(พ่อครูว่า…อาตมาเคยพูด สมองเป็นอวัยวะให้จิจิตใช้ทำงานไม่ใช่อยู่ที่หัวใจ หัวใจเป็นตัวรักษาสรีระ แต่ว่าสมองเป็นตัวให้จิตวิญญาณใช้ทำงาน ) ควรสอนแค่พระโสดาบันพอแล้ว พระโสดาบันมีร้อยกว่าชื่อในพระไตรปิฎก จิตใจเข้าถึงพระโสดาบันก็ไปนิพพานแน่นอน
พ่อครูว่า..เอาไปเอามาบอกว่า อาตมาเข้าถึงพระโสดาบันก็ยังทำไม่ได้ แล้วจะเอาอะไรมาสอนคน เอาล่ะไม่มีปัญหาอะไร เป็นความเห็นของคุณคนนี้
_จักรพล พุทธพัฒนา : เราฐานะสาวกภูมิยังห่างไกลอีกหลายชาติ แต่ไม่เป็นไรจะพยายามตามไปครับผมเคยอยู่สายหลับตามาก่อนผมรู้ว่าเขาไม่ฟังหรอกครับถึงฟังเขาก็ไม่เชื่อ เพราะว่า สายหลับตา เขาจะไม่ให้ฟังวิทยุดูโทรทัศน์ เขาไม่ให้อ่านหนังสือ เขาไม่ให้คุยกัน เขาให้เชื่อเฉพาะอาจารย์ที่สอบอารมณ์เท่านั้นครับ ที่ผมพูดนี้เป็นความจริงครับ
พ่อครูว่า..เป็นสิ่งที่เป็นความจริงยืนยันอยู่อาตมาก็พอเข้าใจไม่มีปัญหาอะไร
ดูเหมือนเราจะอ่านของเก่า
พ่อครูว่า…มาถึงวาระที่จะพูดในวันนี้
นิมนต์จิบน้ำ
_สม.กล้าข้ามฝัน
พ่อครูว่า…ทีนี้ก็เข้าสู่ปัญหาปัจจุบัน ทรัมป์ อาตมานี่ไม่ค่อยได้ติดตาม
อาตมาก็ขอยืนยันว่าโดนัลทรัมป์เป็นตัวละครตัวหนึ่งในโลกยุคนี้ ที่เขาก็ไม่รู้ตัวเองเขาก็แสดงไปตามกรรมวิบากของเขา หรืออวิชชาของเขา เขาทำไปตามที่เขาคิดว่าอย่างนี้ถูกต้องดีที่สุดแล้ว
ในขณะนี้ที่พูดไปนี้ มองแล้วก็น่าสงสารประชาชนชาวอเมริกัน ที่เขามีผู้นำอย่างนี้ ก็เป็นธรรมดาธรรมชาติเขามีวิบากร่วมกันน่ะ ก็ร่วมกันไป แล้วเขาก็มีความเห็นสอดคล้องหรือขัดแย้งก็ค่อยเป็นไปตามธรรมดา เป็นเรื่องของการเมืองก็ตามเป็นเรื่องของเศรษฐกิจก็ตาม อาตมาเอาความรู้ของพระพุทธเจ้ามาอธิบายขยายความ คนเขาก็จะบอกว่าธรรมะจะไม่เกี่ยวกับเรื่องของเศรษฐกิจการเมือง ก็เป็นความเข้าใจที่ต่างกันกับอาตมา
อาตมาว่า ในธรรมะพระพุทธเจ้ารวมทั้งเรื่องของเศรษฐกิจสังคมมนุษยชาติทั้งหมดด้วยพระพุทธเจ้ามีธรรมะที่ไม่ได้นอกไปจากความเป็นมนุษย์ ในสังคมก็มีเรื่องเศรษฐกิจการเมือง หรือจะบอกว่ามีเรื่องของธรรมะก็ต้องมีแน่นอน
เราก็เข้าใจอย่างที่เขาเข้าใจ อาตมาไม่มีปัญหาหรอกอาตมาเข้าใจได้ ไม่ใช่จะมีธรรมะอยู่ในกรอบแค่ในจิตในจิตแม้แต่กรรมก็ไม่รู้เรื่องแม้แต่อบายมุขก็ไม่รู้เรื่อง แม้แต่เรื่องสากลของโลกคุณก็ไม่รู้เรื่องเป็นการรู้แค่ความแคบอยู่ในกะลาครอบ ก็ไปมีจินตนาการความลึกซึ้งในนั้นอีกเป็นนิรมาณกาย เป็นสิ่งเพ้อพกเป็นอนาคต
ทิฏฐิ อนาคตมี 44 อดีตมีแค่ 18 ต่างกัน 26
ต่างกันมากเพราะคิดเพ้อเจ้อสร้างภพไปได้เป็นไปไม่ได้ไม่มีจริงก็เป็นได้ แต่อดีตนั้นต้องมีสิ่งยืนยันว่ามีเหตุมีปัจจัยเป็นไปได้ พระพุทธเจ้ากล่าวรวมไว้แล้วว่าทิฏฐิทั้งหลายรวมไว้แค่ 62
อดีตก็มีจริงแล้วมันผ่านไปแล้วมันแก้ไขอะไรไม่ได้ อนาคตก็ยังมาไม่ถึง แล้วคุณจะไปจัดการทำอะไรกับมันได้ก็มันยังมาไม่ถึง ปัจจุบันนี้จึงเป็นความจริง ความจริงอยู่ที่ปัจจุบันอดีตก็ไม่ใช่อนาคตก็ไม่ใช่ แม้แต่แค่คุณหลับตาอยู่ในภพคุณก็จะมีแค่อดีตกับอนาคต
ปัจจุบันจะต้องครบจักษุ ญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่าง แล้วมีตัวตนบุคคลอยู่ในโลกใบนี้ที่มีดวงตาเปิดมีแสงสว่างมีความรู้ปัญญาญาณวิชชาอยู่ในปัจจุบันให้ครบพร้อม
ถ้าเข้าใจอันนี้ไม่ได้คุณไม่ปฏิบัติอันนี้ คนนี้อีกนาน นานแสนนานที่จะบรรลุธรรม เพราะงมโข่งไม่ออกจากกะลา
นี่พูดนี้รู้สึกว่าแรงแล้วนะ ยังอีกนาน เพราะไม่รู้โลกรู้แต่อัตตาในภพ
พวกหลับตาในภพ เป็นการข้องอยู่ในถ้ำ แล้วลึกซึ้งซับซ้อนไปลงในป่าเขาถ้ำที่เป็นวัตถุแต่ติดอยู่ในนั้นทุกอันเลย แม้แต่เกาะยึดติดอยู่ที่ฝี ท่านก็ว่าข้องอยู่ในถ้ำ ไม่เอาอะไรเพราะปวดฝี ไม่รับรู้อะไรใครจะมาเอาอะไรให้ก็ไม่เอา เพราะปวดฝี
อาตมาเคยเป็นฝีดาษ ที่ขาสองข้าง จนเป็นลมตายไป 15 วินาที โดนยา ตอนนั้นอยู่กับยาย แม่ก็ไปทำมาหากิน พ่อไปสนามรบ ยังจำได้นั่งเรือจากวารินฯไปพิบูลฯ
ยายเอาด้ามพร้าลนไฟจุดกับกระบองไต้ เอามาลนที่ฝีเรา ไปนอนคืนนั้นไปเลย หลับไม่รู้เรื่องเพ้อไป เสร็จแล้วเอายามาใส่เอาใบอะไรกับข้าวสารแช่น้ำ มาเปะที่ฝี ก็ปะทะกัน อาตมาก็ชักดิ้นแลบลิ้นยาว ยายร้องไห้เลย นิ่งไป 15วินาทีแล้วก็ฟื้นมา
อาตมาตายแล้วฟื้นมา 2รอบ ครั้งหนึ่งเป็นกาฬโรคอีกครั้งหนึ่งเป็นไทฟอยด์ ยาไทฟอยด์มันราคาแพง หมอก็บอกเป็นไทฟอยด์ พี่ล้วนเขาไม่ซื้อยา พี่อาจเมียเขาก็บอกว่าไอ้แป๊กมันจะตายแล้ว ตอนนั้นกำลังจะไปเที่ยวบางแสน เขาบอกว่าทิ้งได้ยังไงเดี๋ยวมันก็ตายหรอกเขาก็เลยจำนนต้องไปซื้อยามาให้กิน อาตมาก็ค่อยรอดฟื้นมา ผอม หัวโกร๋นสองครั้งนั้นเพื่อนเขาเรียกผีหัวหนาม( ผมขึ้นหรอมแหรมๆ)
จะอธิบายเรื่องสายหลับตาเป็นผู้ข้องอยู่ในถ้ำ ไกลแสนไกลจากวิเวก หากประเทศไทยชัดเจนในเรื่องนี้เลิกนั่งหลับตาแล้วมาลืมตาศึกษาโพธิปักขิยธรรม 37 ศึกษามรรคมีองค์ 8 ศึกษาพิจารณาเป็นขั้นตอนของศีลสมาธิปัญญาไปตามลำดับขั้น แล้วก็รู้จักกิเลสไปทีละลำดับทำแบบตามลำดับ ประเทศไทยจะนำโลกจริงๆ สงสารโลกเขาจริงๆ อย่างโดนัลด์ทรัมป์ จะพยากรณ์แกก็ไม่ได้ ก็ค่อยๆเป็นไป
เศรษฐกิจที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง ชาวอโศกเป็นผู้มีเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ..
เศรษฐกิจแปลว่าอะไร …เสฏโฐ ภาษาบาลี ส่วนเศรษฐะเป็นภาษาสันสกฤต
เสฏฐะ คือผู้ประเสริฐผู้เจริญกิจของผู้เจริญ
คำว่าเจริญ คำนี้ ซับซ้อนเป็นภาษาสิริมหามายา เป็นความเจริญ ยุคนี้คนเจริญต้องเป็นคนจน คนรวยไปแอบแฝงเอาชื่อเจริญมาเท่านั้นแต่ไม่จริง คนเจริญจริงต้องจน
เพราะคนจนนั้นเป็นผู้ไม่เป็นภัยโทษต่อสังคม ไม่ใช่คนจนสิ้นไร้ไม้ตอกขี้เกียจขี้คร้านไม่มีความรู้สำมะเลเทเมาหรืออวดดีล้มละลายเป็นหนี้…ไม่ใช่!
แต่เป็นคนจนที่จะรวยก็รวยได้ แต่ไม่ยอมรวย ไม่ต้องรวย เป็นคนจนนี่แหละดี เข้าใจชัดเจนแล้วก็ทำตนเองให้เป็นคนจน รวยได้แต่ทำตนให้เป็นคนจน มีบารมีด้วย มีความรู้ความสามารถที่จะรวย แต่มาเป็นคนจนสมัครใจเป็นคนจน เป็นคนจนแต่ขยันหมั่นเพียรมีความรู้ความสามารถสร้างสรรค์ทำงาน จึงมีผลผลิตมีผลได้ มีสิ่งที่ควรสร้าง ไม่สร้างสิ่งที่ไม่ควรสร้าง เช่นไม่สร้างอาวุธ ไม่สร้างสิ่งมอมเมา ไม่สร้างสิ่งที่เป็นพิษอะไรอย่างนี้เป็นต้น
เป็นคนสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์คุณค่าให้แก่สังคม เป็นคนที่พากันมาสร้างสิ่งที่มนุษย์จะอาศัยใช้กินใช้สอยอย่างประเสริฐ ไม่ไปทำลายไม่เป็นพิษเป็นภัย ไม่มอมเมากัน
เป็นผู้ที่มีความรู้ความฉลาดแบบโลกุตระที่แท้จริง จึงนำพาหมู่กลุ่มทำงานขยันสร้างสรรไม่สะสม มีวรรณะ 9 อยู่อย่างสาราณียธรรม 6
วรรณะ 9 และ สาราณียธรรม 6 เป็นสองหลักสูตรที่ยิ่งใหญ่ มีคนจริงเป็นไปได้
อยู่กันอย่าง เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ลาภธัมมิกา ช่วยกันสร้างสรรค์ผลิต เราอยู่ในส่วนของกสิกรรม กสิกรรมเป็นที่ 1 อุตสาหกรรมเป็นรอง คุณกินอุตสาหกรรมไม่ได้หรอก คุณจะอาศัยให้ชีวิตอยู่ได้กับกสิกรรมกับพืชพันธุ์ธัญญาหาร คุณจะเก่งเทคโนโลยีอย่างไรมันก็เป็นภาระเท่านั้น ไม่พารอดได้
ถ้าเข้าใจความจริงตามที่พูดมาคร่าวๆ ก็จะรู้เศรษฐกิจ ว่ากสิกรรมจำเป็นกว่าอุตสาหกรรม เราก็ไม่ได้ตีทิ้งอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมทำช้อนทำส้อมทำเครื่องไม้เครื่องมือทำรถราทำเครื่องกลไกอาศัยมันก็ใช้ทุ่นแรง จนกระทั่งเดือนนี้สามารถสร้าง Robot สร้างหุ่นยนต์มีสมรรถภาพเก่งกว่าคนด้วย ทำลูกเดียว ใส่ไฟฟ้าน้ำมันให้ เติมพลังงานให้มันดำเนินไปได้ก็ทำลูกเดียว มันไม่รู้เหน็ดเหนื่อย มันทำได้ตะพึดตะพือก็ทุ่นแรง
แม้เราไม่เก่งอุตสาหกรรมวิศวกรรมเครื่องกลเทคโนโลยี แม้จะเป็นคอมพิวเตอร์ หรืออย่างอื่น ก็ช่างเถอะไม่เป็นไร เราเก่งในการทำกสิกรรมเก่งการทำพืชพันธุ์ธัญญาหาร แม้แต่เรื่องของการประมงหรือสัตวศาสตร์เราไม่เก่งก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องพึ่งสัตว์ไม่ต้องกินสัตว์ ไม่ต้องใช้อาหารจากสัตว์ แต่ไม่ต้องกลัวว่ามันจะล้นโลก คนที่จะกินสัตว์อยู่มันมีอยู่ตลอดกาล อย่างน้อยคนในป่าเขาถ้ำก็กินสัตว์ หรือคนอยู่ตามแม่น้ำ อยู่ขั้วโลกเหนือก็ไม่มีพืชให้กิน ต้องกินสัตว์ มันจะเป็นไปตามธรรมชาติ เรารู้แล้วก็อยู่ให้เหมาะสม แล้วเราก็สร้างสิ่งนี้แหละ
อาตมาเห็นนะ เป็นสิ่งยืนยันชัดเจนเราปลูกสร้างขึ้นมาเหมือนมันแกล้ง ทำไมอุดมสมบูรณ์มันสวยงาม โอ้โห เห็นไหม ทั้งดกทั้งใหญ่ทั้งโตทั้งมากเนื้อหาดี สร้างให้คนใช้สอยเป็นพืชพันธุ์ธัญญาหาร ปลูกแจก ขายบ้างสำหรับคนมีเงินทอง คนไม่มีเงินทองแล้วก็แจกให้เลย ให้มันรู้ไปเลย
ถ้าอาตมาอยู่ไปอีกอย่างน้อย 50 ปี น่าจะมีภาวะปรากฏการณ์ที่ยืนยันที่อาตมาพูดนี้ว่า เข้าท่าเป็นจริงนะ น่าจะได้อีก 50 ปีนะ ก่อนอื่นมาอยู่นี่สัก 777 คนก่อน มีที่ดินให้ทำกินนะนี่ยังไม่มาสักที
มาเข้าเรื่องเศรษฐกิจ การจะจัดการเศรษฐกิจ อย่าไปสร้างเศรษฐกิจให้คนรวย ไหนบอกว่าจะทำให้คนรวยเท่าเทียมกันทั้งประเทศ ขี้ฟันร่วงเลย เรามีสมรรถภาพก็ทำไป นอกจากคนแก่ เด็ก คนเจ็บป่วย คนพิการ คนไร้สมรรถภาพ มี 5 อย่างนี้ นี่ยกไว้ต้องเลี้ยงดูกันในสังคมจนกว่าเขาจะสิ้นอายุขัยของเขาไป มันก็ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนขี้เกียจกับขี้โกงไม่ต้องไปเลี้ยงมัน ไล่มันไปอยู่นอกวงการเลย ไล่ไม่ออกก็ให้ตำรวจมาจัดการ
มาเข้าเรื่อง เราแก้ปัญหาเศรษฐกิจ นักแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่าไปยุแหย่ให้คนไปรวย รวยไปมันเป็นบาป รวยไปมันไม่ได้ดีอะไรกับสังคม ต้องมีพออยู่พอกินอย่างในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านตรัสเอาไว้แหละ พออยู่พอกิน ไม่ต้องรวย เราก็รวยพอสมควรท่านตรัสไว้ชัดเจน จะบอกว่ารวยก็ไม่รวยแต่มันพอมีเหลือ รวยก็คือพอมีเหลือไม่ได้ขาดแคลน ไม่ได้ขัดสนอะไรพอจะแบ่งพอจะแจกกันได้ตามฐานะ
ผู้ที่ชัดเจนแล้วอย่างสังคมชาวอโศกไม่ต้องรวยเลยมีศูนย์ ไม่ต้องมีเงินสักบาทเลย มั่นใจได้อยู่ได้มีกินมีใช้ จะเจ็บป่วยจะตายไม่ต้องไปเดือดร้อนอะไร พึ่งเกิดแก่เจ็บตายกันได้จริงๆ นี่เป็นสัจจะที่เราพิสูจน์ได้แล้ว ไม่ใช่เรื่องลอยลมเพ้อเจ้อแต่เป็นเรื่องจริง นอกจากคนที่จิตใจตัวเองไม่รู้จักพอ ถ้าคนรู้จักพอจะอยู่กับสังคมนี้
คำว่าจิตพอ เท่านี้เราก็พอกินพออยู่นี่ก็พออาศัย เมื่อเจ็บป่วยก็ได้รับความอนุเคราะห์จากส่วนกลางเพื่อนฝูงยามเจ็บป่วยแค่นี้ก็พอ เราไม่ได้เรียกร้องเกินไป มันมีความซับซ้อนตามวิบาก
พูดถึงหมาหัวเน่า มาทำวิบากในนี้ไม่ดีใครให้อยู่ก็ดีถมไปแล้วไม่ออกก็ดีแล้ว ต้องชัดเจนว่าเราไม่ดีเท่าไหร่เขาให้เราเท่านี้ก็ดีแล้ว แต่ถ้าบอกว่าฉันดีอย่างนั้นอย่างนี้ คุณก็อยู่ไม่ได้หรอก มันจะขจัดกันออกไปเอง
ถ้าเศรษฐกิจจะต้องมีพอสมควร คำว่าเศรษฐกิจเศรษฐศาสตร์ ที่เขาใช้ภาษาเรียกกันว่า GDP Gross Domestic Product
อาตมาก็ท้วง ก็คุณบอกว่า Domestic เป็นรายได้ของเราภายในไม่ใช่ภายนอกแต่คุณก็ขี้โกงไปเอาเปรียบภายนอก รวมเรียกเป็นรายได้รวมของภายใน Domestic แต่แท้จริงไม่ใช่ของภายใน คุณเอาข้างนอกมารวมมันไม่ถูกต้อง คุณบอกว่ารายได้ภายใน เอาของภายในสร้างสรร ผลผลิตมี Product ถ้าเราจะขายก็อย่าไปขายเกินกว่าทุน ถ้าขายเกินกว่าทุนคือคุณเอาเปรียบ ไม่ดี แล้วเอาของได้เปรียบมารวมเป็นรายได้องค์รวม ไม่เอา เราต้องเสียเปรียบ ของเราสร้างได้มีส่วนเกินก็เอาให้เขาไปอย่างเราขาดทุน
คุณขาดทุนแล้วอยู่ได้ไหม …ได้ เพราะนัยลึกซึ้งของคนแต่ละคนมีสมรรถนะมีความขยันหมั่นเพียรทำ เกินกว่าที่ตัวกินตัวใช้ มาฝึกตนดีแล้วเรากินใช้ไม่มากเลย สมรรถนะเราเกินกินใช้ เรามีเกินกี่ส่วน คนมารวมกันร้อยคนพันคนก็มีส่วนเกินรวมกันได้มากจึงเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่ได้เผื่อแผ่แก่ผู้อื่น ยิ่งใหญ่ที่เป็นผู้ให้ คนจนที่เป็นผู้ให้โลก เราก็ไม่สะสมไว้มากจึงจน ถ้ามีสมบัติคือ 1.ความรู้ความสามารถ 2.ความขยัน คนเรามีในนี้ 1000 คนจะป่วยพร้อมกัน 900 คนมันเป็นไปไม่ได้หรอก จะมีคนเหลืออีกเยอะแยะที่ทำอยู่ มี 500 คนป่วยสัก 250 คนเหลืออีก 250 คนก็พอกินพอใช้ เหลือจริงๆ เพราะพวกเราไม่ได้เปลืองในการกินใช้อะไร มันซ้อนๆกันเสมอ
ถ้าคุณฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยผลาญพร่าแน่นอนมีเท่าไหร่มันก็ไม่เหลือหรอก แต่นี่เราได้ฝึกตนเองดีแล้ว เป็นคนมักน้อยสันโดษเป็นคนมีวรรณะ 9 เพราะฉะนั้นจึงเกิดสาธารณโภคีได้ ไม่ต้องไปโกง มีลาภโดยธรรม สร้างสรรอย่างสุจริตไม่ได้ไปโกงเอาเปรียบเอารัดใคร ซื่อสัตย์เอา GDP ของภายในจริงๆ แล้วก็เอามารวมมันก็ยังเหลือ
เศรษฐกิจอย่างนี้ในอนาคตเป็นของศาสนาพุทธเป็นมนุษย์วรรณะ 9 เราจะยืนยันพิสูจน์กับโลกได้เลยว่านี่คือคนมีประโยชน์ ประเทศมีประโยชน์เป็นสังคมมีประโยชน์ แม้จะเป็นประเทศเล็กมีพลเมืองไม่มาก แต่มีพลังงานสร้างสรรมีผลผลิตที่สำคัญและจำเป็นให้แก่โลกเขา
อาหารการกินนี่เราไม่ขายแพง ข้าวก็ดีอาหารการกินก็ดีถ้าหากขายแพงคนจนหรือคนรวยก็ต้องซื้อกินกันทั้งคู่แล้วใครจะตายก่อน ก็ต้องคนจนตายก่อนเพราะว่ามันแพง เพื่อคุณจะมีจำนวนมากในโลกไม่มีความซับซ้อนอยู่ในสังคม
เราต้องทำให้คนจนพึ่งได้ คนรวยแล้วไม่ต้องเป็นห่วงเขาหรอกเขาจะขี้เหนียวไม่ซื้อกินก็ตามใจเขาสิมีเงินแต่ไม่ซื้อกินใช้อดตายก็ช่าง แต่คนจนสิ เราจะต้องเกื้อกูลเผื่อแผ่ เพราะฉะนั้นคำว่าความเกื้อกูล อนุเคราะห์สงเคราะห์ผู้อื่นจึงยิ่งใหญ่ที่สุด
ใน สาราณียธรรม 6 พุทธพจน์ 7 สาราณียะ ปิยกรณะ คุรุกรณะ สังคหะ อวิวาทะ สามัคคคียะ เอกีภาวะ
นี่ก็คือพุทธพจน์ 7ที่ชัดเจน คุณสมบัติ 7 ตัวนี้คือจิตวิญญาณเราจะมี สาราณียะ ปิยกรณะ คุรุกรณะ(เคารพกัน) สังคหะ(เกื้อกูลกัน) อวิวาทะ(ไม่วิวาทกัน) สามัคคียะ เอกีภาวะ(เป็นปึกแผ่น) เป็นสุดยอดทางเศรษฐกิจเศรษฐศาสตร์
ยิ่งผนวกกับวรรณะ9 เลี้ยงง่าย (สุภระ) บำรุงง่าย, ปรับให้เจริญได้ง่าย (สุโปสะ) มักน้อย, กล้าจน (อัปปิจฉะ) ใจพอ สันโดษ (สันตุฏฐิ) ขัดเกลากิเลส (สัลเลขะ) เพ่งทำลายกิเลส มีศีลสูงอยู่ปกติ (ธูตะ, ธุดงค์) มีอาการน่าเลื่อมใส (ปาสาทิกะ) ไม่สะสม ไม่กักเก็บออม (อปจยะ) ตรงข้าม อวรรณะ9 ขยันเสมอ, ระดมความเพียร (วิริยารัมภะ)
มี 0 นี่แหละไม่ต้องมีมากมีน้อยกว่านี้ไม่เป็นเตี้ยอุ้มค่อม มั่นใจว่าเป็นคน 0 ได้ก็ใช้ตามฐานะหน้าที่ เงินผ่านมือเอาให้หมดหรือเอาไว้แต่ไม่ได้ไว้เพื่อบำเรอตนก็ได้ เป็นคุณสมบัติที่แท้จริงของมนุษยชาติที่เป็นไปได้เป็นคนที่พอ
อะไรบกพร่องสัลเลขะ อาตมามีกายกรรมวจีกรรมบกพร่อง อาตมาเคยเป็นคนสุภาพเรียบร้อยอาตมาทำได้เมื่อก่อนแต่ตอนนี้ขอทำตามกาลสมัยเหตุปัจจัยเถอะ ถ้าหากว่า อาตมาจะรักษามาดก็จะได้รับความนิยมชมชอบเยอะ แต่มาเยอะอาตมาก็ไม่ไหว ทุกคนก็ช่วยอาตมาได้ขนาดนี้ ถ้ามามากเกินมันไม่ไหว ไม่ได้แก้ตัวมันเป็นเรื่องจริง ขนาดนี้ก็พอเป็นไป ถึงว่าอยากได้คนพวกเรามารวมกันให้มากขึ้น เช่น ตอนนี้คนมาใช้บริการที่ร้านจิตอาสาของเรามากมายจนเราต้องปิดถึง 2 วันต่อสัปดาห์
พูดแต่ว่า อาตมา จะสร้างราชธานีอโศกเป็นเมืองหลวงของชาวอโศกไม่ไปสร้างที่อื่นหรอกสร้างที่นี่แหละ มันไม่ไหวหรอกสร้างที่อื่นมันไม่ทันการต้องสร้างที่นี่แหละ พูดถึงแล้วเปลี่ยนสถานที่ด้อย น้ำท่วม เขาไม่เอาแล้ว แต่เราก็มาทำให้ดีขึ้น
เหตุปัจจัยองค์ประกอบต่างๆ คำว่า ของภายในเรา เข้าใจให้ชัด เลือดเนื้อของเราไม่เอาของคนอื่นมาตีรวมด้วย เราจะมีผลผลิตของภายในทั้งคุณภาพดีปริมาณมากเผื่อแผ่แจกจ่ายเจือจานออกไปอีก ได้ไหม…ได้
อย่าเอาแต่ปากพูดนะ
จริงๆอาตมาถามจริงคุณขยันหมดแล้วหรือ…ยัง
เศรษฐกิจที่ยั่งยืนถาวรที่จะแก้ก็แก้ไม่มากเลยไม่ต้องแก้เลย ถ้าจะแก้ก็คือต้องแก้โดยหลักการทางพระพุทธเจ้าสอน อย่างที่เราทำกัน
ถ้าผู้บริหารในประเทศไทย เชื่อว่าที่อาตมาพูดนำมาเสนอนี้เป็นเรื่องของทฤษฎีพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ของอาตมา คนอาจไม่เชื่อเพราะพวกเรายังเล็ก แต่ถ้าเราเป็นผู้สร้างมีจำนวนของผลผลิตเพิ่ม แม้จะแปรเป็นตัวเงินมากขึ้นจะชี้บ่งยืนยันชัดให้คนเข้ามา แต่ตอนนี้ยังไม่ถึง พวกเราก็มีความเจริญก้าวหน้าอยู่แต่มันไม่ถึงใจที่ต้องการไม่ได้ดั่งใจของแต่ละคนที่จะมาร่วมกันของใครของมัน เราให้อิสรเสรีภาพไม่เอาบังคับ
จะเชิง command ก็ไม่เอา กดดันก็ไม่เอา กดดันจะหนักกว่าบังคับ แม้จะกดดันเราก็ไม่พยายามให้เกิดอาการกดดัน ให้เขาสมัครใจและยินดีรู้เองและเต็มใจมาทำเองแล้วมันจะเจริญได้ดีคนที่ทำก็สบายใจสัจจะมันจะลงตัว มันเป็นความดีงามไม่ใช่เรื่องเสียหาย มันเป็นเรื่องประเสริฐที่มาสร้างสรรเสียสละเกื้อกูลผู้อื่น
การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จะแก้ได้ชัดเจนอย่าไปเน้นที่วัตถุ แต่ให้เน้นทางจิตวิญญาณ
แก้ปัญหาเศรษฐกิจอยู่ในหนังสือสรรค่าสร้างคน
หลักการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมมีอยู่ 10 ข้อ
-
สัมมาทิฏฐิ 2. เลิกผลาญ 3. ประหยัด 4 .ขยันสร้างสรร 5.พึ่งตัวเองได้และเผยแพร่แก่ผู้อื่น 6.มักน้อย (ทำให้มากแต่ตัวเองเอาไว้นอ้ยหรือไม่เอาเลย) 7.สันโดษ 8.เสียสละเพื่อผู้อื่นด้วยความพยายามเพราะรู้แจ้งว่าเป็นคุณค่าของชีวิตทั้งผู้ให้และผู้รับ 9. อดทนขวนขวาย 10. เสียสละทำประโยชน์คุณค่าแก่ส่วนรวมให้ยิ่งๆขึ้นกระทั่งบรรลุวิมุติ