630105_วิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ เศรษฐกิจที่ดีที่สุดในโลกอยู่ที่นี่
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1KWQfBvnQ4MX4zWcTCRdRjdZxJwNItv2r-pkS1yhI7EY/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่ https://drive.google.com/open?id=1exU3dgS3NYyHf1CQCapLwsDQTw2a31-J
สมณะฟ้าไทว่า.. วันนี้วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2563 ที่บวรราชธานีอโศก วันนี้อาตมาประชุมแม่ค้าพ่อค้าที่เฮือนบวร ก็ได้อบรมให้เขาได้ฝึกเสียสละ เขาว่าจะมาขายของตลาดอาริยะด้วย แต่ก็ขอซื้อของก่อนได้ไหม …ก็ได้ เป็นแบบฝึกหัดให้เขาได้เพิ่มภูมิธรรม เหมือนนักเรียนต้องหาแบบฝึกหัดให้ทำเพิ่มขึ้นจึงจะเข้มแข็ง
พ่อครูว่า…ก่อนอื่นขอคุยกับsms
_sms วันที่ 3 ม.ค. 2563 (พุทธศาสนาตามภูมิ : พ่อครู)
_วาส ทองจันทร์ : กราบนมัสการพ่อครูครับ ผมดีใจมากที่ได้สอบในครั้งนี้แต่ผมไม่หวังผลว่าจะสอบได้ไม่ได้ เพราะรู้ว่าตัวเองไม่ได้รู้อะไรมากนักและก็ตอบได้ไม่ครบทุกข้อด้วยครับ ถ้ามีการสอบอีกก็จะสอบอีกทุกครั้งที่มีกาสอบครับสาธุๆๆ
พ่อครูว่า…ผู้มาสอบก็ได้ประโยชน์จะได้ตรวจสอบความรู้ของตัวเอง ได้หรือไม่ได้ท่านก็จะบอก ผู้ใส่ใจศึกษาอบรมแท้จริงก็ทำเช่นนี้ แม้ในสมัยพุทธเจ้าท่านก็สอบกันก็ทบทวนกันพยายามบอกแจ้งกัน ถามไถ่แล้วบอกแจ้งกัน เป็นวิธีการอีกชนิดหนึ่ง ทุกวันนี้มีวิธีการมากมายก่ายกองเป็นการตรวจสอบ นอกจากวิธีการตรวจสอบแล้วยังมีวิธีการโกงที่ซับซ้อนมหาศาล
_โชติธัมโมภิกขุ เพลิน : มีปฏิทิน แจก บ้างหรือเปล่าครับ
พ่อครูว่า…มี
_โปเต้ ของปวงชน : เศรษฐกิจไม่ดีจริงมั้ยครับพ่อ
พ่อครูว่า…ฝากไว้ก่อน แล้วจะค่อยพูด สังคมที่เศรษฐกิจดีเป็นอย่างไร
_ยุวดี ร้าร์ด : กราบนมัสการพ่อครูและและสมณะและผู้ปฎิบัติธรรมของชุมชน ชอบมากค่ะ ได้รับความรู้รอบด้าน ทำให้ตนเองมีความอดทนและเข้าใจ ในสิ่งต่างๆขึ้นมากค่ะ
_จิตรา อัศวิน : กราบ_/\_นมสก พ่อครู สมณ สขม ที่เคารพยิ่งเห็นคลิปที่พ่อครูนำชาวอโศกลากเรือ ขนหินยักษ์ ฯลฯ อย่างวิริยะ ทุ่มพลังเต็มๆเพื่อเนรมิตบ้านราชให้งดงามและสัปปายะเห็นปานนี้ ดุจพระเจ้าสร้างโลก/โลกโลกุตระ! สาธุๆๆ
_เบิกฟ้า หาพุทธแท้ : น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพ…ทำอย่างไรดีครับ….เท่าที่เคยประสบและเคยได้ยินมา…ผู้คนส่วนหนึ่งเขาจะมองว่าชาวอโศกเป็นพวกลัทธิหนึ่งที่อ้างพุทธศาสนาบังหน้า….ผมพยายามอธิบาย….แต่ไม่เป็นผลครับ สาธุ
พ่อครูว่า…ทุกวันนี้พุทธศาสนามี 2 ชนิดใหญ่ๆ ชนิดหนึ่งก็อย่างที่ส่วนใหญ่เขายึดถือกันแน่นเลย อาตมาก็เชื่อว่าเขาจะยึดถือกันจนตายไปข้างหนึ่ง ตายแล้วชาติหน้าเขาจะยึดถือต่ออีก อย่างที่อาตมาเอามาประกาศเอามาอธิบายสาธยายแล้วยืนยันว่าอันนี้เป็นของพระพุทธเจ้า เขาก็ยืนยันว่าของเขาเป็นของพระพุทธเจ้า อาตมาก็ยืนยัน มันก็เลยเป็น 2 อย่าง ก็เลยเป็นพระพุทธเจ้าคนละองค์
สู่แดนธรรมว่า…เขาก็ว่าถูก ที่ว่า พวกเราเหมือนเอาพุทธศาสนาบังหน้า ก็เพราะกระแสโลกมันร้อนก็เลยต้องเอามาบังจึงจะทำงานได้
พ่อครูว่า.เล่นคารมโวหารไปอีกเยอะแยะได้ แต่มันพูดไปพูดมามันจะยวนและกวนมากไป
พระเจ้าองค์หนึ่งเป็นความเข้าใจเขาแบบเทวนิยมแบบโลกียส่วนอีกองค์หนึ่งเป็นแบบปรากฏการณ์เป็นอเทวนิยมเขายืนยันว่ามีสาระเนื้อหาแก่นสารต่างกันจริงๆ
_ใจธรรม : เคยพยายามจะชวนเพื่อนและญาติทานมังสวิรัติ ซึ่งเป็นส่วนของศีลข้อเดียวสักคน ยังไม่สำเร็จเลย แต่พ่อครูสอนพวกเราจนลดละเลิกถือศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ได้มากมายจนเป็นชาวอโศก พ่อครูคือพระโพธิสัตว์ที่แท้จริง
พ่อครูว่า…เอ้าพยายามต่อไป ก็จริงนะ อาตมามาทำงานศาสนาทำให้คนถือศีลได้จริงแล้วถือศีลจนมีอธิจิต อธิปัญญา อธิมุติได้ ของศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล อย่างที่คุณใจธรรมเข้าใจอย่างนี้ ก็เข้าใจถูกว่าอาตมา คือพระโพธิสัตว์ที่แท้จริง การศึกษาพระพุทธเจ้านั้นมี ศีล สมาธิ ปัญญา จะมาก็เอามาให้ศึกษา จนเข้าใจว่าศีลจะต้องปฏิบัติอย่างนี้ ปฏิบัติแล้วเกิด อธิจิตอย่างนี้ จนเกิดปัญญา มีวิมุติ วิมุติญาณทัสนะ นี่คือของจริง สนใจทำเข้าใจถูกแล้วที่บอกว่าพ่อครูคือพระโพธิสัตว์ที่แท้จริงเพราะเอาศีลสมาธิปัญญามายืนยันให้คนปฏิบัติจนมีมรรคผล
_คุณชาย เม็ดขนุน : ตาคนนี้เป็นพระจริงหรือมาสอนคนอื่น เห็นวิจารณ์ด่านักการเมือง เขาสอนตัวเองเข้าใจหรือยัง
พ่อครูว่า…คุณฟังเป็นไหม ที่อาตมาอธิบาย แล้วคุณเข้าใจหรือยัง ที่คุณมาถามอาตมา คุณไปถามตัวเองแล้วค้นพบคำว่าเข้าใจนี่ สอนตัวเองเข้าใจหรือยัง อาตมาอย่าว่าแต่เข้าใจเลย เอาไปปฏิบัติจนเข้าถึงด้วย บรรลุด้วย สัมปันนะ สัมปัตติ อย่าว่าแต่เข้าใจเลยคุณเอ๋ย
ในหลวงร.9 ทรงรู้ว่าพระองค์คือโพธิสัตว์
__2166 ทำไมในหลวง ร. 9ท่่านไม่รู้ตัวเองว่าเป็นโพธิสัตว์ระดับ 6? พ่อท่านช่วยไขหน่อยครับ? ขนาดหมอเขียวระดับ 5 ยังรู้เลย
พ่อครูว่า…คุณถามมา แล้วก็ขอถามคืน แล้วคุณรู้หรือว่าท่านไม่รู้ตัวเอง คุณพูดเอาเองว่าท่านไม่รู้ คำว่าโพธิสัตว์เป็นเรื่องอจินไตย วิสัยของฌาน วิสัยของความเป็นพุทธ
วิสัย นี้สูงกว่านิสัย สูงกว่าอาศัย คนธรรมดาก็อาศัยสิ่งที่ตัวเองรู้ตัวเองเข้าใจทำชีวิตให้เป็นไปตามนั้นอาศัยไป จนเป็นนิสัย คำว่านิสัยก็สูงกว่าอาศัย ส่วนวิสัยก็สูงขึ้นไปอีก
โพธิสัตว์มีขั้นพุทธวิสัย ฌานวิสัย มีกรรม มีวิบาก จึงชัดเจนเรื่องโลกจินตา คืออจินไตย 4 ความคิดของโลกตัวเองเข้าใจโลก อยู่กับโลกอย่างดีไม่เป็นโทษเป็นภัยกับโลก โดยทำอัตตาตัวเองจิตวิญญาณตนให้มีปัญญา หลุดพ้น แล้วตัวเองก็อยู่กับโลกเขาได้ พูดกับโลกจินตาที่เขาจะคิดจะพูดจะทำอย่างไรก็เข้าใจเขาโดยไม่เป็นโทษภัยกับเขา
จริงๆแล้วในหลวงท่านทรงมีวิสัยแห่งพุทธอย่างเห็นๆเลย แล้วมีวิสัยของความเป็นฌานอย่างเห็นๆด้วย ท่านมาในปางนี้ ท่านก็ทรงมีสัมภาระวิบาก แต่มีภาวะโพธิสัตว์ที่เข้าใจเห็นได้อย่างชัดเจนตลอด 70 พรรษาที่ทรงพระจริยวัตร แต่คุณเห็นไม่ได้เอง ท่านทรงความเป็นธรรมิกราชด้วยรูปธรรม ช่วยรื้อขนสัตว์มา70 พรรษาชัดเจน อาตมาเห็นเต็มๆ จึงพูดและยืนยันว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นโพธิสัตว์ พูดอย่างมั่นใจจริงใจอย่างรู้ไม่ใช่นั่งเดา มุขเล่นไม่ใช่ แต่อย่างชัดเจนมั่นใจว่าทรงทำความเป็นโพธิสัตวภูมิ แต่คนไม่เข้าใจ คุณรู้ได้ยาก
อาตมาในฐานะโพธิสัตว์ก็รู้ได้ ก็เอามายืนยันเอามาขยายความอธิบาย ให้ผู้ที่ตามศึกษาพยายามเรียนรู้ศึกษา ก็จะรู้ตามไป
ทรงงานตลอด 70 พรรษาไม่ได้ยัดเยียดแต่ให้ความรู้ ทำให้ดู พาปฏิบัติ พาสอน อธิบาย นำไปไปก่อน 70 พรรษา จนสวรรคตไป ผู้รู้มีดวงตาเห็นจะเห็น เศรษฐกิจเมืองไทยเกิดจากพระจริยวัตรของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทุกวันนี้ใช้คำพูดว่า ดำเนินตามศาสตร์พระราชา ขานรับคำพูดนี้ ยอมรับ และกระทำกันอยู่ คนไทยที่มีดวงตามีปัญญาก็รับได้มาก ชาวอโศกรับได้ ได้เศรษฐกิจที่เป็นโลกุตระที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงงานโลกุตระ
โลกุตระเป็นเศรษฐศาสตร์ผู้ดี ไม่ใช่เศรษฐศาสตร์นักเลงคนพาลคนมีกิเลสไม่ใช่
เศรษฐกิจของประเทศอื่นๆเช่นโดนัลด์ทรัมป์ แสดงความเป็นนักเลง เป็นเวรกรรม ของพาลชน เศรษฐกิจอย่างที่โดนัลด์ทรัมป์ถ้าทำนั้นไม่ดี เศรษฐกิจของไทยดี
เศรษฐกิจดีหากนับเอาเงินทองทรัพย์สินมาเป็นตัวตั้งนั้นสอบตกตั้งแต่ต้น เศรษฐกิจดีคือพฤติกรรมของสังคมมนุษย์นั้น เป็นอยู่กันอย่างอยู่เย็นเป็นสุขสงบสุขสำราญเบิกบานใจ เมืองไทยทุกวันนี้สุขสำราญเบิกบานใจ ชาวอโศกสุขสำราญเบิกบานใจมานานแล้ว..ลุง ได้จริง เศรษฐกิจเป็นเครื่องชี้บ่งความอยู่สุขสำราญเบิกบานใจ มีจิตใจไม่โลภโมโทสัน ไม่หยาบคาย ที่ไปเบียดเบียนผู้อื่นทะเลาะวิวาทผู้อื่นขี้โกงผู้อื่น เบ่งข่มผู้อื่นไม่เป็น ประเทศไทยทุกวันนี้ไม่ได้ไปเบียดเบียนประเทศไหน เพราะเศรษฐกิจประเทศดีแล้ว แต่คนที่ตื้นเขินบอกว่าเศรษฐกิจดีจะต้องร่ำรวยมั่งมีหรูหราข่มเบ่งได้ เป็นความรู้ชั้นเด็กๆ เรียนจบดอกเตอร์ทางเศรษฐศาสตร์มาบริหารบ้านเมืองด้วยแต่ก็ทำไปอย่างที่ตัวเองมี Concept แบบนี้
Concept อย่างนั้นมันไม่ใช่ความจบ มันไม่ใช่ความสมบูรณ์ มันไม่ใช่ความถูกต้องที่คุณจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจสำเร็จ ไม่ เพราะมันไม่ใช่ ไม่ถูกต้องไม่สมบูรณ์บริบูรณ์แก้อย่างไรก็ไม่จบ เพราะมันมีกิเลสกูจะต้องรวยกูจะต้องใหญ่กูจะต้องเป็นเจ้าโลก มันจะไปจบที่ไหนกิเลส กิเลสมันเป็นตัวนำ ยิ่งนำยิ่งรู้สึกว่าตัวเองรวยตัวเองได้เปรียบ คนยอมรับ แบบโลกียะ ใหญ่โตหรูหราแบบโลกียะ คนในโลกก็นับถือพระเป็นคนโลกีย์
อย่างชาวอโศกหรือเมืองไทยโดยค่าเฉลี่ย มีภูมิโลกุตระอยู่ จึงสงบสันติได้อย่างนี้ไม่มูมมามตะกรุมตะกรามแย่งชิงกัน ดูพฤติกรรมอย่างโดนัลด์ทรัมป์ ถ้าตัวเองสงบสุขเรียบร้อยจะดิ้นรนอย่างนี้หรือ พาสังคมประเทศชาติดิ้นอย่างนี้ มันส่อแสดงว่าประเทศสหรัฐอเมริกามันแย่แล้ว ผู้นำต้องพาดิ้นรนวุ่นวาย อยู่ดีๆไปอาละวาดทำร้ายคนอื่น แสดงว่า จิตใจตัวเองไม่มีความสงบไม่มีความอบอุ่น มีแต่ความกระเหี้ยนกระหือรือแย่งชิง มุ่งทำร้าย จิตไม่มีภูมิปัญญา จิตไม่มีความสงบไม่มีเมตตา เป็นจิตที่ใช้ไม่ได้
อาตมาพาทำให้ชาวอโศกสงบสุขเรียบร้อยราบรื่นง่ายงาม พวกเราเอาชีวิตเข้ามา วางปล่อยโลกีย์ แต่ก่อนก็แย่งชิงกับเขา สุขอันเผาไหม้ดิ้นรน นึกว่ามันอร่อยนักหนา คุณก็วางเลิกโลกียนั้นมา จนหลายคนมา แล้วจะไปจากอันนี้ไหม …ไม่ไป
อยู่อย่างจนนะ แล้วยากนะ เพราะว่าเราเองต้องทำงานสร้างสรรช่วยคนอื่นเขา ไม่ไปแย่งชิงมาแต่จะเสียเปรียบแต่จะให้เขา อย่างที่ในหลวงตรัสว่า เราเสียนั่นแหละคือเราได้ เราก็มาตั้งหน้าตั้งตาสร้างสรรเพื่อเสีย พูดให้เต็มก็คือ เสียสละให้แก่โลก
สู่แดนธรรมว่า…นิมนต์พ่อครูดื่มน้ำ
สมณะฟ้าไท…พ่อครูสอนให้เรามีวรรณะ 9
พ่อครูว่า..เศรษฐกิจดีเขาวัดกันที่ GDP เป็นเครื่องวัด Gross Domestic Product
รายได้องค์รวม หากสังคมที่มีเศรษฐกิจดีรายได้องค์รวมจะต้องมีน้อยรายได้เอาไว้น้อย อัปปิจฉะ สามารถมีไว้น้อยแต่สะพัดได้เก่ง ไม่ขาด ไม่เป็นหนี้ไม่ขาดตอน หมุนได้คล่องตัว มีไว้น้อยแต่อยู่ได้ นี่คือเครื่องชี้บ่งเศรษฐกิจที่เจริญที่ยิ่งใหญ่ แล้วรายได้องค์รวมภายในต้องไม่ไปนับเอาจากคนอื่นเขามา แต่เอาของตัวเองที่ผลิตได้ product คือสิ่งที่สร้างขึ้นเองของภายในเราเอง เช่น พืชพันธุ์ธัญญาหารของเรา เราอาจจะไม่เก่งทางอุตสาหกรรม เขามีเราก็เอามาใช้เท่าที่จำเป็น
คำว่าเศรษฐกิจที่อาตมาหมายจะมีนัยสำคัญที่ต่างจากนักเศรษฐศาสตร์โลกที่เขาหมาย ไม่ใช่ว่าเราจะมีรายได้มาก ที่ดีมากเหนือชั้นกว่าประเทศอื่น เราต้องอ้างว่าของเรามีน้อย ยิ่งมีน้อยเท่าไหร่ยิ่งเจ๋ง แล้วเคร่งครัดด้วยว่าเราเป็นนักผลิต เรามี product ของเรา ยิ่งใหญ่ อะไรเราถนัดเห็นคุณค่า เราเห็นว่ากสิกรรม พืชพันธุ์ธัญญาหาร มีคุณค่ามากกว่าหอกกว่าปืนกว่าอุตสาหกรรม เพราะเครื่องใช้มันไม่สำคัญเท่ากับเครื่องกิน ในความเป็นสัตว์โลกอย่าว่าแต่เพียงคนเลย สัตว์ต่างๆไม่เห็นจะใช้เครื่องเทคนิคต่างๆ ก็มีแต่คนที่โง่ไปใช้เท่านั้น คนถูกหลอกก็ไปใช้เสียมาก เราก็โง่ด้วยเอาไปใช้บ้าง เราไม่ได้ไปโง่หลงใหล เราก็ไม่ได้โกงมาก็ซื้อมาโดยสุจริต
พวกเราชาวอโศก จึงเป็นผู้ที่มีภูมิปัญญาเข้าใจความประเสริฐ เศรษฐะ กับกิจ คือ การกระทำ กรรมกิริยาของเราที่ทำอย่างประเสริฐสร้างสรร จนเหลือเกินเอาไปแจกจ่ายแก่ผู้อื่น ขายก็ขายอย่างถูกๆ ไม่ได้มีแนวคิดอย่างโลก ที่ยิ่งมีมากก็กักตุน มีเชิงชั้นขายแพง มันมีมากก็เอาไปทิ้งทะเลเพื่อราคาจะได้ไม่ตก อย่างที่นายทุนหรือทุนนิยมเขาคิดกัน บ้าๆบอๆ เป็นแนวคิดหายนะ ไม่เข้าท่า
เศรษฐกิจ เศรษฐศาสตร์อย่างที่ ประเทศไทยก็มีเชิงชั้น มีนัยยะสำคัญ แนวโลกุตระด้วยกัน แม้จะไม่ชัดเจนเท่าอโศก ทุกวันนี้เศรษฐกิจของเมืองไทยดีที่สุดในโลก แต่คนเข้าใจเศรษฐศาสตร์ไม่ได้ ไม่ต้องไปฟังเสียงหมาเห่าหมาหอนว่าเศรษฐกิจชิบหาย เมืองไทยนี่ขอทานก็น้อย เปอร์เซ็นต์ขอทานคนไทยเทียบกับเปอร์เซ็นต์ขอทานในอเมริกา อย่านึกว่าในอเมริกาไม่มีขอทานนะ มีทั้งขอทานและนักเลง คนไร้บ้าน เมืองไทยดีกว่าเยอะ เพราะฉะนั้นเศรษฐกิจเมืองไทยดีกว่าเยอะ
ฟังเขาเผินๆถูกครอบงำความคิด ต้องลึกซึ้งหน่อยเราเป็นเมืองพุทธ ต้องเข้าใจ เสฏฐะหรือเสฏโฐของพระพุทธเจ้าให้ชัดเจน คนที่มีเศรษฐกิจดีที่สุดคือชาวอโศก มีGross สูง รายได้องค์รวม 0 ตลอดปีตลอดคืนตลอดวันแล้วขยันทำงานมีผลผลิตกินใช้อาศัย ไม่เบียดเบียนคนอื่น ของเราเองสร้างมาแล้วเราสามารถกระจายเผื่อแผ่คนอื่นได้ อย่างนี้คือคนเจริญ เสียสละ แจกได้ด้วย ไม่ใช่เอาเงินที่ขายได้มาเป็นสถิติว่าเจริญ แต่ยิ่งให้เขาได้ยิ่งเจริญ มันทวนกระแสกับเขา เข้าใจกันคนละขั้วเลย
ย้ำอีกที เศรษฐศาสตร์กับเศรษฐกิจชาวอโศกเจริญมาก แม้ในประเทศไทย ก็เจริญทุกวันนี้ไม่ใช่เอาเรื่องของเงินทองเงินคงคลัง รายได้องค์รวมก็ตาม จะต้องมีตัวเลขสูงกว่าประเทศไหนๆ ไม่ใช่! วัดกันจริงๆแล้วต่ำกว่าเค้าด้วย แต่มีชีวิตอย่างสุขสำราญเบิกบานใจ อุดมสมบูรณ์
เมืองไทย ท้าให้นักสถิตินักเศรษฐกิจไปตรวจสอบเลย มีช่องว่างคนจนคนรวยของอเมริกากับของไทย ใครจะมีช่องว่างมากกว่ากัน ทางรัฐบาลก็ทำ เมืองไทยก็ทำตามบริบทของเมืองไทย แล้วจัดสัดส่วนแล้วให้คะแนนดีมาก
การบริหารประเทศด้วยการทำให้ความมีอยู่เป็นอยู่ของทรัพย์สินเงินทองข้าวของเครื่องกินเครื่องใช้เฉลี่ยกันอย่างทั่วถึงระหว่างความจนคนรวย สิ่งที่อาจจะมีคนขี้โลภรวยร่ำรวยอยู่อย่างที่ไม่เผื่อแผ่ ก็ให้เขาโง่ไป รวยไป ไปเรื่อยๆ เป็นคนไม่เจริญ แม้แต่ชื่อเจริญ ยิ่งโง่เอาความรวยมา ไม่ว่าจะเป็นเจริญโภคภัณฑ์ หรือว่าเจริญน้ำเหล้า ก็แล้วแต่ ยิ่งโง่ ยิ่งทำให้ตัวเองไม่ดี ตัวเองควรจะเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ดีที่สุด แต่กลับเป็นไม่เจริญเป็นคนขี้โลภกอบโกยเอาเปรียบเอารัด แล้วทำให้การสะพัดขัดข้อง เพราะตัวเองเอาไปกักตุนไว้ แล้วก็ขี้โลภซับซ้อนเอาออกมาเป็นระบบทุนนิยมเพื่อจะกอบโกยให้ตัวเองได้เพิ่มขึ้นอีก แล้วทำเป็นว่าสะพัดเพื่อให้คนมีงานทำ แต่คุณต่างหากกินแรงมนุษย์พวกนั้นเอาส่วนเกินไปได้เปรียบไปมากกว่ามาก ทับทวีไปจนรวยๆๆๆๆ
ความร่ำรวยของมนุษยชาติ ความร่ำรวยของสังคมไม่ได้เป็นเครื่องชี้บ่งถึงความเจริญของเศรษฐกิจ เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่โง่เง่า
คิดอย่างนั้นเหมือนน้ำเน่า ถ้ามาเปลี่ยนเป็นแบบชาวอโศกมากเท่าไรๆประเทศไทยจะรุ่งเรือง จะมีการวัดค่าเศรษฐกิจแบบที่ไม่เหมือนกับสากลโลก อาตมาว่ามันไม่ง่ายที่เขาจะเข้าใจ เราจะวัดที่ตัวเงินทรัพย์สินเงินทองวัตถุเป็นเครื่องชี้บ่ง ว่าคนเป็นอยู่สุข มีเศรษฐกิจดี หรือจะวัดที่จิตใจหรือพฤติกรรม อย่างชาวอโศกเรา มีกรรมกิริยาทางสัมมาอาชีพ กรรมกิริยาทางกัมมันตะ ทางวาจา ทางจิต มรรคองค์ 8 อย่างดีเลย
สัมมาอาชีพ 5 ประการ ชาวอโศกปฏิบัติพ้นมิจฉาชีพ 5 ได้อย่างแท้จริง ไม่มีสังคมไหนในโลกที่จะปฏิบัติพ้นมิจฉาชีพ 5 ได้เหมือนกับชาวอโศกเหมือนกับประเทศไทยเพราะชาวอโศกเป็นคนไทย
-
การโกง ทุจริต คอร์รัปชั่น (กุหนา) มีในงานการเมือง .
-
การล่อลวง หลอกลวง (ลปนา) ในนักธุรกิจ-การเมือง .
-
การตลบตะแลง (เนมิตตกตา) ยังเสี่ยง-ยังไม่แน่แท้
-
การยอมมอบตนในทางผิด อยู่คณะผิด (นิปเปสิกตา)
-
การเอาลาภแลกลาภ (ลาเภนะ ลาภัง นิชิคิงสนตา)
(พตปฎ. เล่ม 14 ข้อ 275 มหาจัตตารีสกสูตร)
1.กุหนา กายกรรมครบแบบ 2. ลปนา วจีกรรมเลวครบแบบ
อันที่ 3. อาชีพที่ยังไม่แน่ไม่นอน ตลบแตลง หลอกลวงไม่ชัดเจน คนทำก็ไม่ชัดเจนแต่ทำให้คนอื่นเข้าใจว่าฉันดีสุจริตแต่เหมือนเล่นหวยไม่เข้าท่าไม่มีหลักเกณฑ์ ที่สำคัญเลย ถ้าจะไม่ให้ตลบแตลง ต้องมีหลักการศึกษาปฏิบัติ เช่น มี ไตรสิกขา จรณะ 15 วิชชา 8 จนบรรลุผล สาราณียธรรม 6 บรรลุผล วรรณะ 9
พ้นมิจฉาชีพแล้วไม่มอบตนในทางที่ผิด เป็นทาสนายทุน กับคนที่ไม่เจริญ แต่มาอยู่กับหมู่ที่เจริญ สร้างสรรให้เป็นหมู่ที่เจริญกันไป เขาก็จะมาอยู่กับพวกโลกุตระพัฒนาหมู่กลุ่ม มีอาชีพการเป็นอยู่กับมิตรสหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดี สร้างสรรเพื่อเป็นประโยชน์ให้แก่มนุษย์กับโลก ตนเองก็สบาย ชี้ชัดที่สุด มิจฉาชีพข้อสุดท้ายทำงานฟรี ไม่เอาอะไรแลกเปลี่ยน พ้น ลาเภนะ ลาภัง นิชิคิงสนตา ทำงานเอาเข้าส่วนกลาง ตามที่ประชาธิปไตยก็ต้องการรายได้จากคนเอาเข้าส่วนกลางให้มากที่สุด โดยเรียกว่าภาษี หรืออื่นๆ เลี่ยงเงินเก็บกองกลาง
สาธารณโภคีทำแล้วเข้ากองกลางหมด เสียภาษี 100% เขาก็ว่าไม่มีหรอก แต่เราทำได้เรามี ใครจะมองเห็นหรือไม่ก็แล้วแต่ เราก็ทำของเราตลอด
สุดยอดคอมมิวนิสต์ก็ต้องการเอาเงินเข้าส่วนกลางให้มาก ประชาธิปไตยก็ต้องการเหมือนกัน ของพระพุทธเจ้าทำได้ ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ รู้สึกตัวไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อ แค่ ไอเดีย เชิงคิด เพ้อเจ้อไร้สาระ แต่ทำได้เป็นเรื่องดีด้วย
เขาว่าเขารู้ แต่ทำไม่ได้ เขาก็ต้องมายอมรับสิว่า อันนี้ดี แล้วส่งเสริมแนะนำเชิดชูเพื่อให้คนอื่นปฏิบัติอย่างนี้ตาม ถึงแสดงว่าเขาชัดเจนไม่โง่ แต่เขานี่เขาไม่รู้จริงๆ ถึงรู้บ้างแต่กิเลสมานะอัตตา เห็นแก่พรรคพวกก็ไม่ยอมรับ ไม่กล้าประกาศต่อสังคมโลก เพราะเขาไม่ฉลาดพอ เขาจริงพอ กิเลสทำให้คนโง่ หากฉลาดจริง สิ่งที่ดีสิ่งที่ประเสริฐก็ต้องยกย่อง ก็จะไม่ปิดบัง ยิ่งเป็นคนไทยด้วย แล้วคนไทยทำได้ มีหลักเกณฑ์ มีวิชาการของพระพุทธเจ้ายืนยัน อ้างอิงได้อย่างชัดเจนด้วย ที่พูดนี้ขอยืนยันว่าตรงกับของพระพุทธเจ้าทุกอย่าง
สุดยอดของความฉลาดคือล้างกิเลสได้หมด
พ่อครูว่า อันนี้คือเป้าหมายแท้ เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ สุดยอด เลิศยอดกว่าทุกศาสตร์
สมณะฟ้าไท
พ่อครูว่า…การแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ทั่วโลกทำมันแก้ไม่สำเร็จหรอก เขาไปแก้ที่เงิน ที่ทรัพย์สิน สิ่งที่เป็นวัตถุข้างนอกตัว เขาไม่ได้มาแก้ที่คน ไม่ได้มาแก้ที่จิตวิญญาณที่จิตใจคน หากว่าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ยั่งยืนแท้จริงสำเร็จต้องแก้ที่คน แล้วต้องมีทฤษฎีที่แก้จิตใจที่มันมีตัวเลวร้าย เป็นจิตที่มีกิเลส ต้องแก้ตัวนี้
ถ้าไปหลงทางไปแก้วัตถุ ต้องมีวัตถุมาก ต้องมี GDP มาก ได้เปรียบมาก แล้วอวดอ้างกันในโลก มันก็แค่สมบัติผลัดกันชม ไปแก้ที่วัตถุ โดยไม่รู้จักความพอดีพอเพียง อย่างในหลวง ร.9 ตรัส เศรษฐกิจ พอเพียง รู้จักพอ แล้วโน้มไปทางน้อยเป็นคนจนขาดทุนให้ได้
คนที่เป็นนักเศรษฐศาสตร์ชั้นสูงมีเศรษฐกิจที่ดีคือ เป็นคนที่ขาดทุน ไม่ใช่เป็นคนเอากำไร ผู้ที่ยังเอากำไรเอาเปรียบคนอื่นเขาอยู่ เป็นพวกที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่จบ
คนที่จนแล้ว จนอย่างพอดี จนอย่างสบายแล้ว ไม่มีผู้ที่เป็นรัฐฐาธิปัตย์ ยิ่งใหญ่มีอำนาจรัฐ พระเจ้าแผ่นดินหรือประธานาธิบดีประเทศไหนหรอกที่พูดที่ตรัสเหมือนกับประเทศไทย
ที่บอกว่าต้องบริหารแบบคนจน ต้องอยู่ในฐานที่มาขาดทุน เราเสียนี่แหละคือเราได้
เป็นเครื่องบ่งชี้พระปรีชาญาณของผู้นำประเทศ แต่คนก็อาจเข้าใจไม่ชัด ในหลวงตรัสอย่างนี้แต่ข้าราชบริพาร นักบริหาร พอรู้ แต่ไม่มีทฤษฎีที่จะมาทำตนเองให้เป็นอย่างนี้ เราจะต้องมาจน เป็นอย่างที่ในหลวงตรัส เขาไม่ชัด แต่ชาวอโศกเราชัด ทำจนสำเร็จได้ด้วย จนพ้นมิจฉาชีพ 5 ได้แท้จริง ทำงานไม่ต้องมีรายได้เลย ซึ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อนะว่าเป็นไปได้หรือ เป็นได้ทำได้ ไม่ใช่แค่ 1คน2คน5 คน แต่ทำเป็นสังคม ให้มีวัฒนธรรมสังคมเขาทำไม่ได้หรอก
เราก็เป็นคนเหมือนคุณทุกคน แต่ทำได้ ในยุคเดียวกันด้วย มีวัตถุดิบร่วมกันในสังคม globalization เหมือนกันหมด คุณอยากได้เนื้อหมีขาวจากขั้วโลกเหนือมากินก็ได้ ถ้าคุณกินเนื้อนะ หรืออยากกินผักของชาวอโศกก็สั่งมาได้เราจะส่งให้
อาหารเป็นหนึ่งในโลก อุตสาหกรรมเครื่องใช้ก็มีส่วนสำคัญเหมือนกัน เป็นปัจจัยสี่จำเป็นแก่ชีวิต แต่อาหารเป็นหนึ่ง
ปัจจัย 4 อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย อาหารเป็น 1
พระพุทธเจ้าสอนเรื่องอาหาร 4 ถ้าคุณสำเร็จบรรลุในอาหาร 4 คุณจะบรรลุทั้งหมดเลย
-
กวลิงการาหาร (อาหารคำข้าว ให้รู้กิเลสเบญจกาม) . .
-
ผัสสาหาร (อาหาร คือ ผัสสะกระทบให้เกิดเวทนา) .
-
มโนสัญเจตนาหาร (อาหารใจที่เจตนามุ่งกับตัณหา) . .
-
วิญญาณาหาร (อาหารของวิญญาณ กำหนดรู้นาม-รูป . อันเป็นปัจจัยให้ตั้งอยู่แห่งสังขาร เพื่อการเกิดในภพใหม่ คือมีปัจจัยเกิดชาติชรามรณะ ทุกข์ และความคับแค้น) .