มี.ค.162020ศาสนา630316_รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 93 อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่…https://docs.google.com/document/d/12nDSlKvTUyeJKUelSdjnS-7FnXNW7lAiUN-O83UxjV8/edit?usp=sharing ดาวโหลดเสียงที่ https://drive.google.com/open?id=1RAktWXM-QJiSTJ4kDr-k5iUvVv9s3Kd4 พ่อครูว่า…วันนี้วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม 2563 ที่บวรราชธานีอโศก _Goog Kanjanapak กุ๊ก กาญจนพักตร์ : สายธรรมขาดไป ตั้งแต่อนาคามี ท่านเชื่อมต่อสายธรรมจากที่ไหนกัน เชื่อมต่อด้วยวิธีไหน. _บุญทิพย์ แสงสุริยะ : สายโพธิรักษ์ไช่ป่ะครับ _นางเสมียน เปลี่ยนนาม : วกไปวนมาค่ะ เอาคำสอนเน้นๆหน่อยคะ จะพึ่งแต่พ่อครู ถ้าพ่อครูตายไปใครจะสอน ถามนะคะ พ่อครูว่า…อาตมาว่าก็เน้นๆกันอยู่พวกเราไม่ใช่เรื่องทำเผินๆกัน _Goog Kanjanapak กุ๊ก กาญจนพักตร์ : สายธรรมขาดไป ตั้งแต่อนาคามี ท่านเชื่อมต่อสายธรรมจากที่ไหนกัน เชื่อมต่อด้วยวิธีไหน. พ่อครูว่า..ต้องท้าวความ ความเข้าใจที่เป็นมิจฉาทิฐิชนิดหนึ่งในประเทศไทย เข้าใจว่าธรรมะของพระพุทธเจ้าหมดไปแล้ว พระอรหันต์ไม่มีแล้วหมดแล้วไม่มีเชื้ออรหันต์อีกต่อไป ต่อจากนี้ไปก็จะเหลือเชื้อของพระอนาคามี เพราะความเข้าใจของเขาคือเป็นพระอรหันต์แล้วต้องตายไปไม่สามารถกลับมาเกิดได้อีก จะสืบเชื้อต่อไปของพระอรหันต์ไม่ได้ นี่คือเป็นอุจเฉททิฏฐิของชาวพุทธในเมืองไทย เขาก็ว่าเอาสายไหนมาคุณ กุ๊ก กาญจนพักตร์ หากฟังเป็นก็จะไม่งง อาตมาเอามาเองข้ามชาติ จากของพระพุทธเจ้าสืบทอดมาจนมาในชาตินี้ก็เป็น สยังอภิญญา เป็นของตัวเองไม่มีใครมาเป็นอาจารย์ ไม่ได้ไปเรียนมาจากสำนักไหน คือเขาไม่เชื่อหรือเขาฉลาดไม่พอเข้าใจไม่ได้ อาตมาจะพูดอย่างไรคุณก็จะเข้าใจเช่นเดิม จะไปบังคับโคให้กินหญ้าไม่ได้หรอก คุณเป็นผู้เข้าใจผิดก็เลยงง ตั้งใจหน่อย โยนเข้าใจเก่าของคุณทิ้งถังผงทิ้งทะเลไปเลย…เอาไปทิ้งแม่น้ำโขงให้มันไหลไปไหลไป ตั้งใจฟัง คุณกุ๊ก มันไม่ขาดหรอกยังต่อกันมา เป็นการพูดกันอยู่ในผู้รู้พระพุทธเจ้าก็ตรัสเป็นนัยไว้ พระอรรถกถาจารย์ที่มีภูมิธรรมรู้ก็เอามาพูดต่อว่าพระพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าศาสนาพุทธจะอยู่ไปถึง 5000 ปีก็มาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงวันนี้มันก็ถึงครึ่งหนึ่งของ 5000 ปีศาสนาพุทธก็เสื่อมลงไปเกือบหมด อาตมาเป็นผู้สืบทอดอยู่รู้ดีรู้ชัดเจนว่ามันเป็นเรื่องจริงทั้งนั้นแล้วมันก็จริงอาตมาก็มาทำงานหนักอย่างแท้จริงในยุคนี้ซึ่งมันหายไปหมดแล้วมันไม่เหลือเชื้อมาก็เอาของตัวเองนี่แหละมาก็มาพยายามปลูกฝังลงไปต่อเชื้อยากเพราะว่าอาตมาเป็นคนมาพิสูจน์ธรรมะโดยตัวเอง 1 หลักฐานการศึกษาทางสังคมโลกไม่มีไม่ได้จบนักธรรมตรีไม่ได้จบเปรียญธรรม 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ไม่มีไม่ได้จบดร.ไม่ได้มีตำแหน่งฐานะทางศาสนาเลยพระครูก็ยังไม่เป็น ดีนะ อาตมาได้เป็นพ่อครู เป็นเกียรติอย่างมากก็เป็นพ่อของครู จะได้เป็นครูก็ไม่ได้เป็นตรงต้องเป็นพ่อของครู จริงๆเลย พูดสัจจะ สรุปแล้วก็สายธรรมที่ว่านี้สืบทอดสืบต่อมา เป็นสายสัจจะของพระพุทธเจ้าเนื้อหาธรรมะของพระพุทธเจ้าเอามาสืบทอดเพื่อจะยืนยาวต่อไปอีก 2000 กว่าปีจนถึงห้าพันปีของศาสนาพุทธ มันก็ไม่ได้เป็นตัวเลขที่เป๊ะทีเดียวหรอก อาตมาก็รับหน้าที่รับความรับผิดชอบอันนี้อย่างแท้จริง นี่เป็นเรื่องที่ผู้ที่มีปัญญามีปฏิภาณดีฟังดีๆก็ไม่ใช่เรื่องพูดเล่นลิ้นไม่ใช่เรื่องอวดตัวตน ไม่ใช่ มันเป็นสัจจะ คนก็ยัดเยียดประชดประชันว่าเป็นสายโพธิรักษ์ก็ให้ฟังด้วยดีย่อมเกิดปัญญา SMS วันที่ 15 มี.ค. 2563 (วิถีอาริยธรรม) จุดเล็กที่สุดของปัจจุบันนี่คือความไม่ยึดมั่นถือมั่น _Somchoke Sontikaew สมโชค สนธิแก้ว: “อยู่กับปัจจุบัน ที่เล็กที่สุด” เหมือนจะเข้าใจ ครับ ….ช่วยขยายความด้วยครับ กราบนมัสการพ่อท่านครับ…… พ่อครูว่า..ในกาละก็มีแบ่งไว้ 3 อดีต ปัจจุบัน อนาคต ในกาละของพระพุทธเจ้านั้นจะยืนยันไปไหน กาละ 3 กาละอดีต กาละปัจจุบัน กาละอนาคตใน 3 กาละ กาละที่ถือว่าเป็นสัจจะความจริงที่สัมผัสยืนยันกันได้แล้วถือว่าเที่ยงกว่าอดีตเที่ยงกว่าอนาคตคือปัจจุบัน ปัจจุบันที่ยืนยันหลัดๆ มีปรากฏการณ์อ้างอิงยืนยันกันได้ต่างคนต่างมีตาหูจมูกลิ้นกายยืนยัน เช่นนี่ไง กระดาษ นี่ไงชาวอโศกนั่งอยู่หัวดำๆขาวๆ เลาๆ แล้วคนเหล่านี้ยืนยันอ้างอิงได้ว่าคนเหล่านี้มีภูมิธรรมอนาคามีภูมิเป็นต้นไป เพราะไม่ได้ยึดถือบ้านช่องเรือนชานข้าวของเป็นของตัวเอง เอาไว้เป็นของส่วนกลางเป็นส่วนใหญ่ จะมียักเอาไว้เป็นของตัวเองบ้างก็มี แต่โดยรวมแล้วเป็นที่เข้าใจเป็นทิฏฐิสามัญญตา ตรงกัน แล้วอยู่กันยังสงบเรียบร้อยสุขสำราญเบิกบานใจ มีเป็นของส่วนตัวแต่น้อย แต่ของส่วนรวมอุดมสมบูรณ์ยิ่งถ้าเป็นปัจจัย 4 ครบครัน สถานที่บุคคลหรือว่าอาหารที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค พร้อม มีพอใช้เหลือใช้ แจกจ่ายเผื่อแผ่คนอื่นได้ด้วย ซึ่งมันเป็นความลึกซึ้งซับซ้อนยืนยันพิสูจน์ได้ ปัจจุบันนี้หลัดๆทนโท่โต้งๆ อันนี้แหละคือปัจจุบันธรรม เป็นเรื่องที่ยืนยันได้เป็นจริงกว่าอดีตเป็นจริงกว่าอนาคต อดีตผ่านไปแล้วมันจะกร่อนมันจะสึก มันจะเหลือหรือมันจะเพิ่มเราก็ไม่รู้ เพราะมันเป็นอดีตมันบอกไม่ได้ แต่ว่าปัจจุบันนี้ยังอยู่พูดกันได้รู้เรื่องยืนยันได้ แต่อดีตนี้ของใครของมัน แล้วอนาคตก็ยังมาไม่ถึงด้วย ยิ่งยืนยันไม่ได้เลยอนาคต จุดเล็กที่สุดของปัจจุบันนี่คือความไม่ยึดมั่นถือมั่น ปัจจุบันที่อาตมายืนอยู่บนปัจจุบันที่เล็กที่สุด ผ่านปัจจุบันไปแล้วปัจจุบันของอาตมาจะไม่ยืนยาวไม่เป็น ยามะ หรือยาวะ ถ้ายามคือเป็นยามๆ ยาม1 2 3 บอกช่วง มีกรอบขอบเขต หยาบ แต่ถ้ายาวะ นี่ยาวต่อเนื่องกันไปเลย เหมือนกันแบ่งโฟตอน กับควอนตัม ควอนตั้มนี้เหมือนก้อน fusion อีกอันหนึ่งโฟตอน ก็เหมือนฟิชชั่น ที่มันกระจายหายออกไป สองอย่าง หรืออย่างหนึ่งเคลื่อนไวอีกอย่างเป็นตัวหลัก static เป็นสองสภาพที่ร่วมกันเสมอ อาตมาจะรู้ตามปัจจุบัน จะยาวยืดในอนาคต อาตมาก็ตามไปได้พอสมควร แต่หากเปลี่ยนแปลงเป็นจุดที่เล็กที่สุดขนาดไหนก็ไม่ได้อกหัก ก็ไม่มีปัญหา ไม่ได้ผิดหวังในความหมายของมัน… พอเข้าใจนะ เป็นไงหายข้อง เข้าใจไหม พยัญชนะกับสภาวะต้องศึกษาแบบไหนดี _พรสิทธิ์ เจียรวรรณศิลป์ : กราบนมัสการพ่อครูครับ ถ้าเราจับอาการตัณหาที่จะกระทำสิ่งหนึ่งได้ แต่พิจารณาแล้วว่า ไม่จำเป็นต้องทำสิ่งนั้นก็ได้ แล้วเราก็ไม่ทำตามตัณหานั้น ถ้าจับหลักแบบนี้ (โดยที่ถือศีลไปด้วย) แล้วปฏิบัติไปเรื่อยๆ จะเป็นอรหันต์ได้เลยหรือไม่ครับ? จำเป็นที่จะต้องทำตามตัณหานั้นบ้างหรือไม่? พ่อครูว่า..ดีนะที่เอาสภาวะมาพูดกัน ไม่เหมือนบางสำนักที่เอาพยัญชนะมาพูดอย่างเดียว เช่น สำนักอ.สุจินต์ เขาก็วนกับภาษาปรมัตถ์แต่ก็ไม่ลงลึกถึงสภาวะ อาตมามีเจตนาพูดให้สำนักนั้นเข้าใจหากตั้งใจฟัง ก็เป็นบุญเป็นกุศลเป็นเกียรติที่คุณฟังอาตมาบ้าง ให้หัดอ่าน อาการ ลิงค นิมิต อุเทส ซึ่งระหว่างสภาวะกับพยัญชนะเป็นเรื่องใหญ่ ไปยึดถือพยัญชนะแต่ไม่มีสภาวะอย่างที่เป็นกันส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เรื่อง แต่ หากไปยึดสภาวะแต่ไม่รู้จักพยัญชนะก็ไม่ได้เรื่องเหมือนกัน ต้องศึกษาสองด้านให้ดีๆ ปัญญาจะต้องประกอบด้วยสิ่งเกิดจริงเป็นจริงไม่ใช่เป็นสัญญา มีรูปนาม มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ รู้ประกอบควรหรือไม่ควร วางได้หรือวางไม่ได้ นี่เป็นความรู้ ปัญญาไม่ใช่สัญญา แค่ปัญญากับสัญญาคนก็เข้าใจกันได้ยาก ฟังอาตมาให้ดีๆ เพราะธรรมะนั้นคัมภีรา (ลึกซึ้ง) ทุททัสสา (เห็นตามได้ยาก) ทุรนุโพธา (บรรลุรู้ตามได้ยาก) สันตา (สงบระงับอย่างสงบพิเศษ แม้จะวุ่นอยู่) . ปณีตา (สุขุมประณีตไปตามลำดับ ไม่ข้ามขั้น) อตักกาวจรา (คาดคะเนด้นเดามิได้) นิปุณา (ละเอียดลึกถึงขั้นนิพพาน) ปัณฑิตเวทนียา (รู้แจ้งได้เฉพาะผู้เป็นบัณฑิต บรรลุแท้จริงเท่านั้น) (พตปฎ. เล่ม 9 ข้อ 34) คุณต้องอ่านสภาพ กามทีนวะคือเห็นกามเป็นโทษไม่ใช่เห็นกามเป็นคุณ เป็นกามคุณ 5 ก็ต้องพิจารณามันมีโทษ หากรังแต่จะเอร็ดอร่อยเสพติด หากอาการเป็นกามก็เป็นกามภพ ไม่พ้นภพชาติ ต้องอ่านอาการสัมผัสแตะต้องเสียดสี เย็นร้อนอ่อนแข็ง มันเป็นสุขขัลลิกะ เป็นรสอร่อยเก๊เป็นเวทนาเก๊ ไม่จริง จิตที่บรรลุแล้วสัมผัสอย่างไรก็กลางๆไม่มีอาการสุขก็ไม่มีอาการทุกข์ก็ไม่มี อร่อยก็ไม่มี มีแต่เฉยๆกลางๆ _สู่แดนธรรมว่า…ขณะนี้มีข่าวว่าประเทศไทยเข้าสู่เฟส 3 ของ Covid 19 แต่ที่จริงแล้วยังไม่เข้าเฟส 3 หากใครเอาข้อมูลผิดไปขึ้นเผยแพร่ก็มีสิทธิ์ทำผิด พรบ.คอมฯได้ _นาย กำจัด รูปและนาม : สรุป_ท่านเป็นพระศาสนาอะไรครับ สอนธรรมมะสิ_มานั่งสอนอะไรครับ บ้าการเมืองนี่หว่า สอน_โพธิปักขิยธรรม_37ประการหน่อยท่าน เชียร์_แต่ไอบ้าตู่ทำไม_ไอนั่นมันเศษเดนมนุษย์ / มึงดีคนเดียวสื_มหาบัวเลวในความคิดมึง พ่อครูว่า..ไม่อยากจะตอบคุณคนนี้ หากตอบไปมากอาสวะเขาก็จะเจริญ อาตมาก็ขอบอกง่ายๆสุภาพว่า อาตมาเป็นผู้ที่มาสืบทอดศาสนาพระพุทธเจ้ามา บอกตรงๆว่าได้รับปากอาตมาเป็นคนหนึ่งที่เกิดในยุคของพระพุทธเจ้าสมณโคดมใกล้ชิดและท่านได้มอบหมายให้อาตมามาเป็นผู้สืบทอดอันนี้ยืนยันอยู่ในพระไตรปิฎกในสัมมาทิฎฐิ 10 ข้อที่ 10 ว่า สมณพราหมณ์ทั้งหลาย เป็นผู้ดำเนินชอบ-ปฏิบัติชอบ ซึ่งประกาศโลกนี้-โลกหน้า ให้แจ่มแจ้ง เพราะรู้ยิ่งด้วย ตนเอง ในโลกนี้ มีอยู่ (อัตถิ โลเก สมณพราหมณา สัมมัคคตา สัมมาปฏิปันนา เย อิมัญ จ โลกัง ปรัญ จ โลกัง สยัง อภิญญา สัจฉิกัตวา ปเวเทนตีติ) ผู้ที่เป็นสยังอภิญญา คือ ความรู้ของตนเอง มีมาแล้วของตนเอง คำว่าของตนเองไม่ได้หมายถึงสยัมภูที่เป็นของตัวเองของพระพุทธเจ้า แต่ของอาตมานั้นเป็นแค่ของตัวเองขั้น สยังอภิญญา พอมายุคนี้อาตมามาเกิดเป็นไก่ตัวพี่ เจาะกระเปาะไข่ออกมาได้ก่อนใคร มายืนยันเปิดเผยธรรมะพระพุทธเจ้า ไม่มีใครเป็นไก่ตัวพี่กว่าอาตมาเป็น พระพุทธเจ้าท่านใช้คำว่าไก่ตัวพี่ในยุคของท่านที่ท่านตั้งศาสนา ในยุคนั้นท่านก็เป็นไก่ตัวพี่แต่สำหรับในยุคนี้อาตมาก็เป็นไก่ตัวพี่ที่เป็นพระโพธิสัตว์ไม่ใช่เป็นพระพุทธเจ้า ที่อาตมาสอนนี้เป็นธรรมะของพระพุทธเจ้าที่มีของตัวเองด้วยความจริงใจและที่พูดเรื่องการเมือง คุณก็ยังเข้าใจไม่ได้ว่าการเมืองคืออะไร คุณแยกธรรมะกับการเมืองออก ซึ่งเป็นความผิดที่มหันต์คนที่แยกธรรมะออกจากการเมืองคนนั้นเป็นมิจฉาทิฏฐิบุคคลทำให้สังคมบ้านเมืองฉิบหาย เพราะว่านักการเมืองไม่ให้มีธรรมะแล้วนักการเมืองมันจะไปเจริญได้อย่างไร บ้านเมืองก็จึงได้ชิบหายเพราะความคิดที่ผิดอย่างนี้ เพราะฉะนั้นต้องให้นักการเมืองมีธรรมะเป็นธรรมะที่เป็นสัมมาทิฏฐิจนเป็นอริยบุคคลเป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์เลย ถ้าหากนายกรัฐมนตรีก็ดีเป็นพระอรหันต์บ้านเมืองจะดีมาก แต่คนเข้าใจผิดว่าฆราวาสเป็นพระอรหันต์ไม่ได้ อย่างนี้เป็นต้น อาตมาพูดไปแล้วก็อย่างที่เขาเข้าใจผิดกัน ซึ่งที่จริงแล้วฆาราวาสนั่นแหละเป็นได้ มีภูมิธรรมเป็นพระอรหันต์ได้ ศึกษาตามให้ดีแล้วจะได้เข้าใจลึกซึ้งซับซ้อนไปได้อีกเยอะ เพราะฉะนั้นในคำของคุณคนนี้ที่บอกมาอาตมาก็จะอธิบายแต่จะอธิบายต่อไปในโพธิปักขิยธรรม 37 อาตมาจะไม่อธิบายนอกไปจากโพธิปักขิยธรรม 37 แต่คุณเข้าใจไม่ได้เท่านั้นเอง อาตมาไม่ได้ออกนอกจรณะ15 วิชชา 8 ผลของมรรคมีองค์ 8 มีมรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 สรุปว่า นักการเมืองนี่แหละคือนักธรรมะที่ยิ่งใหญ่ ทำเพื่อบ้านเพื่อเมืองมีโลกุตระมีโลกานุกัมปา มีโลกวิทู เอามาทำงานกับมนุษยชาติ ตั้งใจฟังให้ดีอย่าไปรังเกียจรังงอน ที่สอนกันอยู่นี้ก็ดีขึ้นมากันเยอะแล้ว อยากให้คุณนั่นแหละดีให้ยิ่งกว่าอาตมาถ้าทำได้จริง นี่ไม่ใช่พูดเล่นถ้าคุณสามารถดีจริงๆเลยได้คุณธรรมสูงกว่าอาตมายิ่งดีเลย จะได้ช่วยกัน เพราะคนดีจะได้ทำงานเพื่อมนุษยชาติไม่ใช่มานั่งจับผิดกัน ส่วนคนที่มานั่งจับผิดอะไรกันนั้นยังมีจิตใจที่เป็นบาปให้มาศึกษาให้ดีๆแล้วลดละเสียสละ ก็พอดีอาตมาไปติเตียนมหาบัวมากไปหน่อยก็เลยโกรธกันใหญ่ก็ขออภัยที่อาตมาจะต้องใช้สิ่งที่จริงในมหาบัวเป็นปรากฏการณ์จริงในโลกยุคนี้ที่เป็นจริงมีจริง อาตมาก็อาศัยเป็นตัวอย่างเพื่อที่จะได้หยิบมาเป็นข้อยืนยันอธิบายขยายความ ไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีการอ้างอิง ธรรมะพระพุทธเจ้าต้องมีที่อ้างอิงยืนยัน อาตมาก็เลยต้องใช้วิธีนั้นก็ต้องขออภัยเพื่อสัจธรรมเพื่อความรู้ที่เป็นความจริงที่มันมีสิ่งที่ยืนยันได้ต้องมีที่อ้างอิง พระพุทธเจ้าก็ตรัสยืนยันบ้างพูดแล้วต้องมีที่อ้างอิงยืนยัน หากว่าพูดแล้วไม่มีที่อ้างอิงยืนยันสัมผัสรับรู้กันไม่ได้เป็นเอหิปัสสิโก พ่อครูว่า..การตั้งชื่อคำว่ากำจัดรูปและนามก็ชักชอบกล ถ้าหากไปกำจัดรูปและนามก็ไม่รู้จักวิญญาณ คุณก็มองข้ามไปทั้งหมดเลย พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าถ้าผู้ใดมีความรู้เรื่องวิญญาณมีความเรื่องรูปนามก็จะรู้ทุกอย่าง ต้องใช้เป็นธรรมะ 2 _สู่แดนธรรมว่า..ผมอ่านชื่อเขาก็พอเดาอาจารย์ความรู้ของอาจารย์เขาว่าจะต้องดับตัวรู้ดับความรู้ทั้งหมด พ่อครูว่า…ที่ฆ่าความรู้ต้องฆ่าความรู้ที่เป็นมิจฉาทิฏฐิเสียก็ต้องชัดเจน ก็ยินดีต้อนรับนะคุณกำจัด รูปและนาม ศึกษาร่วมกันให้ดีแล้วเทน้ำออกจากถ้วยเสียก่อน ฟังด้วยดีย่อมเกิดปัญญา ตั้งใจฟังศึกษาให้ดีๆและจะได้ปัญญา ปัญญาก็ไม่ใช่แบบเฉโก _จันทร์สุดา ภิราษร : ถูกต้องค่ะ คนที่พูดปดทำชั่วได้ทุกอย่าง สาธุ เจ้าค่ะ ภาพบรรยายของท่านพระอาจารย์ดีมากค่ะสาธุ พ่อครูว่า..อย่างมหาบัว ก็เคยพูดไว้ว่าตัวเองก็จะเลิกสิ่งเสพติด แต่แล้วก็เลิกไม่ได้ก็เลยว่าไม่ใช่สิ่งเสพติด ทำให้ลูกศิษย์ลูกหาติดตามคุณไปด้วย ก็เลยเป็นบาปมหาศาล คนนี้ก็คือคนที่โกหกทั้งๆที่รู้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่จริง คนๆนี้ก็ทำความชั่วอะไรก็ได้ไม่มีความชั่วอะไรที่เขาทำไม่ได้นี่เป็นคำตรัสของพระพุทธเจ้า ซึ่งแม้จะผิดอย่างไรก็ช่างมันกูเอาอัตตากูไว้นี่คือลักษณะมหาบัว ก็ทุกคำที่โกหกทุกคำที่ยืนยันต่อคนเป็นกรรมวิบากที่สั่งสมแก่อัตภาพตนไว้อย่างยิ่ง แม้ไม่ได้ย้ำด้วยวจีกรรม ย้ำด้วยกายกรรมหลงให้คนอื่นเขาว่าใช่ ก็ไม่ยอมเปิดเผยไม่ยอมรับว่าจะไม่ทำอีก คุณไม่มีการปลงอาบัติตก ศึกษาให้ดี เขาทำจนกระทั่งตายไปก็ไม่จบมีกิเลสมากปกปิดไว้แล้ว ตั้งอยู่ หยั่งลงในความหลงยิ่งขึ้น _จักรพล พุทธพัฒนา : ผมรู้สึกชื่นชมพ่อครูในเรื่องการกล่าวแก้ได้ยอดเยี่ยมมากๆครับคือใช้ศิลปะใจไม่ให้ช้ำ ธรรมไม่ให้เสียเลยจริงๆ. _เจน ฮู เชอร์ คนที่ฟังพ่อครูไม่เข้าใจเขาไม่ได้ติดตามมา ต้องให้คน คนนั้นไปอ่านหนังสือที่พ่อครูเขียนนะ หนังสือแนะนำอ่านทางเอกภาค1-2-3 รึหนังสือสมาธิพุทธนะ จ้า สาธุ พ่อครูว่า..อาตมาเขียนหนังสือเป็นร้อยเล่มแล้ว และก็พิมพ์ออกมาเป็นล้านเล่มแล้ว _สมประสงค์ วรรณเพียร : ความโล่งสบายจากอาการไม่สุขไม่ทุกข์ ก่อนและหลังการรู้ตัวว่าบรรลุอรหันต์ สบายเท่ากันหรือไม่? ณ ขณะบรรลุจะโล่งอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งสบายกว่าอาการไม่สุขไม่ทุกข์ ใช่หรือไม่ครับ? จะทำให้คงอยู่ตลอดไปได้หรือไม่? พ่อครูว่า..อาตมาอธิบายมาเรื่อยว่าการบรรลุอรหันต์ คือการไม่มีสุขไม่ทุกข์นี่แหละ พื้นฐานของพระอรหันต์ทำจิตให้ไม่สุขไม่ทุกข์นี่แหละคือการใกล้นิพพาน คุณได้ความไม่สุขไม่ทุกข์และปฏิบัติให้จิตของคุณไม่สุขไม่ทุกข์เมื่อคุณสัมผัสเหตุ แต่ก่อนคุณสัมผัสเหตุนี้แล้วมันทุกข์ สัมผัสเหตุนี้แล้วมันสุข ได้เสพก็จะสุข สุขก็จะหลุดไป คุณก็ทุกข์ที่มันจะพรากไปห่างจากไป รายละเอียดมีอีกมาก คุณก็จะอ่านจิตคุณได้ว่าทุกอย่างต้องพรากจากกัน แต่คุณจะไม่ให้พรากให้มีอย่างนี้เป็นยามะ ยาวะ ต่อเนื่องไม่ขาดสูญไม่พรากจากกัน ซึ่งมันเป็นไม่ได้ มันจะต้องพรากจากกัน อาตมานั้น ไม่เอายาวนาน อาตมาเอาแค่ปัจจุบันนิดเดียวก็จบ จากนั้นมันจะจากก็จากมาพร้อมอยู่ที่จุดเล็กในปัจจุบันหมดแล้วก็จบ ไม่ต้องเอาก็สบาย แต่ถ้ามีอยู่มันก็จะยาวๆๆๆ เห็นไหม อาตมาไม่ต้องยาวๆๆ ยะ ร ล ว ส พลังงานตัว ย นี้สั้น ไม่ต้องยามะ หรือยาวะ คำว่า ยามะกับ ยาวะ ยะ กับ อามะ กับ ยะกับ อาวะ อาวะนี้สั้นกว่าอามะ อามะนี่ยาวกว่ายาวะ แต่ภาษาคำว่ายาวคือยาว ภาษาคำว่ายามคือ กรอบสั้น ยามก1 2 3 ก็เลยไปเข้าใจสภาวะกองคำว่ายามนี้หยาบน้อยกว่ายาว คุณเอาพยัญชนะเป็นหลัก แต่ถ้าหากเอาสภาวะเป็นหลักยามนี้จะมากกว่ายาวเพราะว่า ม สื่อจิต เป็น นั่นคือความยึดมั่นถือมั่นยืนยันเป็นอัตราแต่ ว นี้ไม่ใช่ ว เป็นเศษวรรค ตัวที่ 4 ยาวะ นี้สั้นกว่ายามะในสภาวะ จะสลับไปมาระหว่างสภาวะกับพยัญชนะ ห และเมื่อรู้ตัวว่าเราบรรลุอรหันต์ ถ้ายังไม่ทำงานอะไรความสบายนั้นก็เท่ากัน แต่พอเริ่มทำงานแล้วเจอกับคนหนักๆคุณก็คิดได้ว่ามันไม่สบายแล้วนะต้องอธิบายกันน่าดูเลย แต่ถ้าเจอคนที่จะอธิบายง่ายหน่อยก็ค่อยยังชั่วขึ้น ยิ่งถ้าอธิบายกับคนที่เข้าใจได้เร็วเลยก็ยิ่งสบายน้อยกว่า ไม่ใช่ สบายมากกว่าสิ ก็คนเข้าใจง่ายเดี๋ยวเดียวก็สบายแล้ว แต่ถ้าเข้าใจยากก็ยิ่งหนักยากแล้วก็ขอถามคืนหน่อยว่าแล้วทุกวันนี้อธิบายให้คนฟังได้ง่ายหรือยาก สรุปว่าขึ้นอยู่กับการงานที่คุณจะทำ _สู่แดนธรรมว่า..เขาถามว่า ความโล่งสบายจากอาการไม่สุขไม่ทุกข์ ก่อนและหลังการรู้ตัวว่าบรรลุอรหันต์แล้วเท่ากันหรือไม่ ทำให้นึกถึง เวทนา 5 ก็เลยคิดถึงตรงนี้น่าจะเป็นคำตอบได้ไหม ว่าความว่างไม่สุขไม่ทุกข์มันต่างกันในเวทนา 5 ก็มีระดับน้ำหนักดีกรีอยู่เหมือนกัน ก็ค่อยๆเข้าใจทั้งน้ำหนัก เบา หนัก พ่อครูว่า…สุข ทุกข์มันหยาบจากภายนอกแต่ โทมนัสโสมนัส อยู่ภายใน แต่ที่ยากคือไม่ใช่ทำภายในก่อนทำภายนอก มันต้องทำสุขทุกข์ภายนอกให้ได้ก่อน หยาบ กลาง ละเอียดไปตามลำดับอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อพ้นทุกข์สุข ก็เหลือโทมนัสโสมนัสภายใน ทั้งๆที่คุณอยู่กับภายนอกอยู่นั่นแหละแต่คุณก็เฉย เหลือแต่ภายในคุณก็มาล้างต่อแต่สำหรับสุขทุกข์ภายนอกคุณเฉยแล้วไม่ต้องไปปฏิบัติไม่ต้องไปเกี่ยวข้องไม่ต้องไปสังขารปรุงแต่งร่วมได้เลยก็ได้แล้วต้องเห็นด้วยต้องรู้อยู่เห็นอยู่ตาก็ลืมเห็นหูก็ได้ยินเสียงจมูกได้กลิ่นลิ้นได้รสสัมผัสเสร็จอยู่ภายนอก แต่คุณมีจิตอุเบกขินทรีย์ เฉย _สู่แดนธรรม มีประเด็นที่เขาถาม อาการโล่งสบายไม่สุขไม่ทุกข์จะทำให้คงอยู่ตลอดไปได้หรือไม่ พ่อครูว่า..ได้แล้วได้เลย คือมันเริ่มได้แล้ว แล้วคุณก็ทำอีก อนุรักขณาปธาน พากเพียรสะสมผล อาเสวนา ภาวนา พหุลีกัมมัง ทำซ้ำทำคุ้นอย่างที่เคยได้ อย่างที่เกิดผล ทำอย่างนี้แล้วเกิดผลอย่างนี้ทำซ้ำๆๆ อย่างไรๆก็ได้อย่างที่ภาวนาให้เกิดผล สำเร็จได้ ทำซ้ำ อาเสวนา ทำซ้ำให้มากๆ พหุลีกัมมัง นี่คืออนุรักขณาปธาน รักษาผล ทำอย่างนี้ก็จะสั่งสมเป็นอเนญชาภิสังขาร สะสมเป็นความตั้งมั่นแข็งแรงไม่หวั่นไหว อัปปนา พยัปปนา เจตโสอภินิโรปนา _ทองแก้ว…ว่า ต้องทำมากขนาดไหน พ่อครูว่า…มากเท่าที่คุณรู้เองตั้งใจเอง คุณก็เผื่อพอไว้สิ ธรรมชาติก็กระทบสัมผัสอยู่แล้ว อันนี้กระดิกๆ ก็ต้องทำซ้ำอีก สัมผัสแล้วไม่มีทีเผลอก็ไม่เกิด ที่เราไม่ตั้งใจก็ไม่เกิดอย่างแรงอย่างเบาทุกมุมเหลี่ยมท่าที คุณก็มั่นใจสั่งสมในทุกปัจจุบัน เป็นอดีตด้วยหลัก 36 36 36 เป็นเวทนา 108 ในทุกปัจจุบันสั่งสมให้ได้ผลอย่างนั้นภาวนาใหม่ในทุก 36 อดีต ปัจจุบันอนาคต สำหรับภายนอกคุณสัมผัสแล้วอุเบกขา ทุกปัจจุบัน สั่งสมเป็นอนาคต แล้วก็อนาคตก็สู้ อดีตกับปัจจุบันไม่ได้ คุณจะรู้โดยสภาวะของคุณเอง อย่าประมาทเผื่อพอไว้ สะสมอเนญชาภิสังขาร _เมฆทิพย์… _ทองแก้ว…พ่อครูเคยเทศน์ว่า อาตมาสั่งสมโพธิสัตว์มาหลายชาติจึงอธิบายได้ขนาดนี้ แล้วพวกเราสั่งสมมาเยอะไหมคะ พ่อครูว่า..ก็ได้ตามจริงแต่ละคน อาตมาไม่เก่งจะบอกแต่ละคนได้ เราอย่าไปหลงตัว เราพยายามถ่อมตัวไ้ แต่อย่าถ่อมผิด ให้รู้ความจริงตามความเป็นจริงสมมุติว่าเรามีร้อยเราก็บอกว่าเราได้ 80 อีก 20 นี้เราจะทำแต่ว่าเราไม่รู้หรือว่าเราก็พอรู้แต่เรายังไม่แน่ใจนะอีก 20 นี้ก็เผื่อไว้ไม่อย่างนั้นเราก็พลาดถ้าได้อย่างนี้มันเป็นการเผื่อพอหรือระมัดระวังไม่อวดดีไม่ห่าม แหม มีอยู่ 20 ไปออกท่าทาง30 40 พวกนี้หลงตัวเองค้ากำไรเกินควร _ทองแก้ว..พระโมคคัลลานะตั้งจิตเป็นพระพุทธเจ้าด้วยหรือไม่ พ่อครูว่า…ด้วย อาตมาไม่ใช่พระโมคคัลลานะแต่ก็พอตอบแทนได้ว่าท่านเป็นสายเจโตเป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายพระสารีบุตรเป็นพระอัครสาวกเบื้องขวาก็เป็นคนละตระกูลกันแต่ต้องมีคู่กันอย่างนี้ซึ่งเป็นสัจธรรมของโลกเป็นอจินไตยที่เข้าใจให้จบแล้วก็จะไม่มีปัญหา บวกลบก็ต้องมีคู่กันอย่างนี้แหละแล้วก็จะรวมเป็นหนึ่งหน่วย ตกลงก็เป็นสามเส้ามีประธานและบวกลบนี่ก็คือcyclic order เป็นระบบที่หมุนอยู่ในโลก _น้อมยอดธรรม…อุตุ พีช จิต กรรม ธรรม ดิฉันไปอ่านเจอ อุตุที่ย่ิงใหญ่ของโลก ดิฉันก็อ่านว่า ก่อนที่เราจะตายต้องตายจากกิเลสก่อน กิเลสที่มันนิ่งสงบ แต่มันอยู่ในใจเรา ดิฉันไปสัมผัสที่ผาแต้ม สามพันโบก ทำไมดินน้ำลมไฟ ยิ่งใหญ่ ทำให้เพิ่มพลังจิต ได้หรือไม่ พ่อครูว่า..ภาษาเจโตนี้เข้าใจได้ยาก คุณได้พลังใจ โอ้โฮมันเข้าใจมันมีสิ่งนี้เป็นรูปธรรมเป็นองค์ประกอบคุณก็อธิบายออกมาไม่ได้ขยายความไม่ได้ว่ามันดีอย่างไรไปเห็นสามพันโบกจริงๆก็คือไปเห็นความหลากหลายของธรรมชาติเช่นเรื่องที่มีความซับซ้อนเกิดอะไรขึ้นมาได้มากมายแล้วคนเราก็รู้ว่าโลกมันมีสารพัดความซับซ้อนอย่างนี้แหละ เราก็ไปมีโอกาสได้เห็นความซับซ้อนและเราก็มีภูมิปัญญารู้ความซับซ้อนของนามธรรม อาตมาขยายความเข้าใจลึกๆของคุณว่ามันเป็นอย่างนี้มันก็เลยชื่นใจว่าเราได้สัมผัสอันนี้เป็นนิมิตเป็นเครื่องหมายสำหรับให้เราเข้าใจขึ้นไปอีกว่า จริงๆแล้วเรื่องของอุตุจะเป็นดินน้ำไฟลมมันก็เป็นของมันอย่างนี้มันก็ทำให้เห็นว่าเช่นนั้นจิตนิยามมันก็จะต้องมีความหลากหลายแล้วมันก็จะเป็นธรรมชาติไปอยู่อย่างนี้ของมันเท่าที่มันมีเหตุปัจจัยของมันก็จะมีความหลากหลายเหมือนกันมันก็เลยเห็นว่าอย่างโน้นมันก็เหมือนอย่างนี้นะรูปธรรมก็เหมือนนามธรรมนะ _สม.กล้าข้ามฝัน…สืบเนื่องจากมาตรการดูแลพ่อครู ทำให้คิดถึงอดีตที่เคยได้ไปพบพ่อครู พ่อครูว่า…ต่อไปอาตมาคงไม่ได้ทำอย่างนี้อีกแล้วทำให้เห็นชีวิตพ่อครูต้องเป็นไปตามสมมุติโลกที่ลูกๆเป็น ทำให้เห็นว่าเสียเวลา ทุนรอน ไปเยอะ พ่อครูยอมพวกเรา แต่ลูกๆไม่ยอม คนไม่ยอม เพราะไม่รู้จักสมมุติโลก บางอย่าง หลายอย่าง ฟังดูก็ไม่น่าอนุโมทนา พ่อครูไม่น่ายอมเขานะ นี่พ่อท่านให้แล้วนะ บางอย่างดิฉันก็ พอคำว่าพ่อท่านยอมให้แล้ว แต่เดี๋ยวนี้ก็ไปหาวิธีไม่ยอมบ้าง เพราะรู้ว่าทำไมพ่อครูต้องยอม เพราะพ่อครู เป็นโพธิสัตว์ มีลูกจำนวนพันเป็นอเนก ก็ต้องไม่ยอมบ้าง บางทีพ่อครูก็ยอมให้เขาเอา พ่อครูเป็นโพธิสัตว์นี่คือจิตที่ต้องทำความเข้าใจกับการเป็นลูกโพธิสัตว์ เราจะหยวนไปทุกเรื่องก็คงไม่ได้เป็นลูกพ่อครู คนหมดกิเลสต้องยอมคนมีกิเลส แต่การยอมเพื่อดึงให้คนมีกิเลสให้มาฟังธรรม ให้มาห้อมล้อม ราชธานีอโศกใครจะมาแล้วเต็มบ้างไม่เต็มบ้างแต่มาฟังธรรมก็ยินดี แต่หากไม่มาฟังธรรมเลยก็ไม่น่าจะมา พ่อครูว่า..สม.กล้าข้ามฝัน พยายามศึกษาโพธิสัตวภูมิ ละเอียดขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนคนจะเห็นว่าเป็นคนมีกิเลสแต่ก็เจริญขึ้นเรื่อยๆ อาตมาเป็นมาก่อนรู้ดี ก็ศึกษาฝึกฝนไป พูดแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน _ข้าวฟ่าง…คนเราจะรู้ได้อย่างไรว่าถ้าทำผิดศีลแล้วจะตกนรกอย่างไรคะ พ่อครูว่า…เข้าใจก่อนว่าเราทำอย่างนี้ดี ถ้าไม่ดีเขาจะเรียกว่าได้ผลนรกก็คือความทุกข์ ผลนรกคือความตกต่ำ ผลของนรกคือความไม่เจริญ อยากได้หมายความว่าไม่เจริญ อยากได้ไหมก็ไม่อยากได้ ไม่อยากทำ ไม่อยากตกต่ำ ความไม่เจริญความตกต่ำนั่นแหละคือนรก เราทำอย่างนี้แล้วผลมันจะตกต่ำเป็นนรก เราก็อย่าทำ เราก็รู้ว่าเราทำอย่างนี้มันจะตกนรก เราทำอย่างนี้มันจะตกต่ำเข้าใจไหม เอาไว้แค่นี้ก่อนหากว่ายาวมากจะสับสน _7230 แสดงธรรมโลกุตระธรรมชั้นสูงคนฟังไม่เข้าใจ พ่อครูว่า.คุณพูดมาก็ไม่ผิดสำหรับคนที่ฐานไม่ถึงก็ฟังไม่เข้าใจ คนที่ฟังเข้าใจได้ก็มีน้อยกว่าคนที่ฟังไม่เข้าใจ อาตมาก็ต้องสืบทอดเนื้อของโลกุตรธรรมพระพุทธเจ้า แม้ว่าจะได้น้อยอาตมาก็จะต้องทำ อันนี้เป็นหน้าที่อันนี้เป็นความจำเป็นเป็นเรื่องสำคัญที่อาตมาจะต้องทำ จึงเป็นคนไม่ได้คำนึงถึงปริมาณไม่ได้คำนึงถึงจำนวนมาก ก็ต้องขออภัยสำหรับคนจำนวนมากที่อาตมาต้องพูดประมาณนี้ แต่ว่าอัตราการก้าวหน้าของคนที่ได้โลกุตระได้รู้และได้ปฏิบัติธรรมบรรลุมันมีเพิ่มขึ้น เพราะว่าอัตราการก้าวหน้านี้มันมีอยู่มันก็ค่อยๆเป็นไป แต่ความเจริญต่างๆของคนมันเจริญไม่เร็วเท่ากับความอยากให้ได้ความเจริญของมนุษย์หรอก ความอยากเจริญให้เร็วของมนุษย์มันมากกว่าความเจริญจริงที่ได้มากกว่ากันเยอะเลย เพราะฉะนั้นก็ต้องชะลอความอยากได้นี้ไว้หน่อยเถอะ ภาษาศัพท์วิชาการเขาเรียกว่าอย่าให้มีอภิชปา เป็นความต้องการล้ำหน้า อยากให้ได้เร็วกว่านี้ก็ให้ช้าไว้หน่อยนึง แต่ทำเต็มที่ทำอย่างที่เหมาะสมควรให้เป็นที่เพราะฉะนั้นใจอย่าไปอยาก แม้แต่ที่สุดอาตมาเคยใช้ภาษาบอกว่าเจตนาแต่อย่าอยาก เจตนาเป็นความมุ่งหมายที่จะไปถึงเป้าหมาย เรารู้ทิศทางเป้าหมายและมีสัมมาทิฐิด้วยคุณก็เดินทางเลย แต่อย่าไปเร่งใจตัวเองอยากได้อยากจบตะกละตะกลาม อย่า ให้ทำตามเหตุปัจจัยที่มันจะเป็นสัดส่วนที่สมดุลสมบูรณ์ดี แล้วควรทำวันนี้ให้เต็มที่ แล้วความเป็นตัวตนมันจะเกิดตามลำดับของความพอเหมาะพอดีที่เรียกว่า ปโหติ อย่างที่อาตมาเคยอธิบายสัมมัตตะ 20 มิจฉัตตะ20 ก็ตาม _ทองแก้ว…พ่อครูอธิบายเมื่อกี้นี้ มองว่า การเรียนโลกุตรธรรมนั้นไม่มีการพักชั้นต้องลงทุกหน่วยกิตแต่ว่าหน่วยกิตไหนจะเร็วจะช้าก็แล้วแต่ พ่อครูว่า…เป็นลำดับอันน่าอัศจรรย์จะไม่ลัดขั้นตอนไม่เป็นฟันหลอจะเรียงลำดับ เหมือนฝั่งทะเลเหมือนหาดทรายที่น้ำทะเลซัดไปมันก็จะราบเรียบไม่มีความขรุขระอะไรเลย สรุปว่า โลกุตรธรรมนั้นจะต้องทำ อาตมารับหน้าที่มาจากพระพุทธเจ้าให้มาเปิดเผยอันนี้ แล้วก็รู้สึกว่ายังมีอัตราการก้าวหน้าอยู่ ขออภัยสำหรับคนที่อาตมายังเอื้อมเอื้อไปไม่ถึง อาตมาก็มีพลังงานเท่านี้มีสายป่านยาวเท่านี้ก็เลยได้เท่านี้ก่อน ช่วยอาตมาหน่อย คุณก็ขยับเข้ามาให้ได้อาตมาก็ขยายไปให้ได้มันก็จะไปหากันได้เร็วขึ้น _Jan.Lat แจน แลต: กล่าวถึงถ้าพ่อครูไม่อยู่แล้วคนจะเข้าวัดมั้ย หลายๆวัดเป็นคะ วัดธรรมมงคล ถ้าหลวงพ่อกลับจากอินเดีย คนเข้าวัดเยอะม๊ากมาก น.เวลานี้ท่านอยู่ไทย แต่คนเข้าวัดน้อยมาก หลวงพ่อท่านสุขภาพไม่แข็งแรง คนไม่เข้าถึงธรรม ยึดตัวบุคคล พิธีกรรมเยอะด้วยน่าเป็นห่วงมาก อยากจะบอกอะไรอีกเยอะจะบาปมั้ย พอละ ฝึกตนตามพ่อครู และ อ.หมอเขียวดีกว่า55555555สบายตัวและใจด้วย รักเคารพแพทย์และจิตอาสาทุกท่านด้วยกายวาจาใจคะ _มีการแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าในเรื่องที่มีโรคระบาดในช่วงที่มีอาการโรคในขณะที่พระองค์ปฐมพยาบาลพระที่บวช พระองค์กล่าวว่าอานนท์ถ้าไม่ใช่กรรมที่เราทำมาเราก็จะไม่ได้รับกรรมนั้น แต่ถ้าเราทำกรรมมานี้อย่างไรก็หนีไม่พ้น กราบเรียนถามว่าในสมัยพระพุทธองค์ท่านไม่ได้ระวังพระองค์ในการดูแลผู้ป่วย แต่ในยุคสมัยนี้ Covid 19 มีการป้องกันมากมายรายงานสถานการณ์ตลอดเวลา นักปฏิบัติธรรมควรทำใจและปฏิบัติอย่างไรในแง่ของทั้งสมมติสัจจะและปรมัตถสัจจะ พ่อครูว่า ตอบไปก็ไม่หมดหรอกเพราะมันจะยากอย่าไปคิดมากเลย ตอบง่ายๆว่าในขณะนี้คุณพูดเองว่าต่างก็ระมัดระวังกันเยอะอยู่แล้วแล้วพระพุทธเจ้าที่คุณยกขึ้นมาคนที่ทำกรรมวิบากมีวิบากไม่พ้นอันนั้นก็ต้องจำนน แต่ในวิบากกรรมที่มันจะต้องมา แม้คุณจะต้องตายคุณจะต้องเจ็บป่วยก็ตามคุณสามารถบรรเทาหรือคุณสามารถทำให้มันดีขึ้นกว่าเก่าได้ ถ้าสุดวิสัยก็ต้องจำนน แต่ถ้าทำการแก้ไขปรับปรุงขึ้นมาได้บ้างคุณก็ทำแต่ อย่าไปฮึดฮัดว่าฉันจะต้องเอาชนะเอาให้ได้อย่างนั้นก็จะกลายเป็นมากไป เมื่อยใจที่หมดเวลาแต่กำลังมันยังไม่หมด จบ Category: ศาสนาBy Samanasandin16 มีนาคม 2020Tags: พุทธศาสนาตามภูมิวิถีอาริยธรรม Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:๕๑๐ (๕๓๒) นสพ.ข่าวอโศกรวมปักษ์ ก.พ. ๒๕๖๓NextNext post:630318_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ การแยกแยะวิจัยรายละเอียดของเจตสิกRelated Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024