630406_รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 96
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวน์โหลดเอกสารที่…https://docs.google.com/document/d/15M1zBQcn9Fx7lVq34Ze3__qaJn9lowrMrZf4FR5STIc/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/open?id=1P1348W66qdJSDo0VIRAnwrzQocRgmxMJ
พ่อครูว่า…วันนี้วันจันทร์ที่ 6 เมษายน 2563 ที่บวรราชธานีอโศก ถ้าเป็นเวลาปกติวันนี้เราก็อยู่ในงานปลุกเสกวันที่ 2 แล้วนะ เพราะว่างานปลุกเสกตามกำหนดการเริ่มวันที่ 5 เป็นวันแรก ตอนนี้ปลุกเสกพุทธาภิเษกอะไรก็แล้วแต่…สงสัยทั้งนั้นแหละ วันอโศกรำลึก งานตลาดอาริยะ โดนห้ำหั่นกันหมดเลย โคโรน่าไวรัส ดีซีส มันเล่นงานทั่วโลกสั่นสะเทือนไปหมดเลย
มีคนเขาถามอาตมาเหมือนกันว่า โควิด มันมีผลดีหรือผลเสีย..ยังไม่ตอบวันนี้หรอก มันมีทั้งผลดีมันมีทั้งผลเสีย ผลเสียเห็นชัดๆคือทุกข์ทรมานคนเจ็บป่วยล้มตาย มันต้องเสียแน่นอนส่วนผลดีในการปรับสังคมไปอีกลักษณะหนึ่ง ที่อาตมาว่ามันดีมากที่สำคัญก็คือมันชี้บ่งถึงเนื้อแท้ของมนุษยชาติ
จะเรียกว่าเนื้อแท้ของมนุษยชาติ จะแสดงออกถึงความเห็นแก่ตัวความอำมหิต ความไม่มีเมตตา ความไม่เกื้อกูลอกุศลไม่ดีงาม จะแสดงออกให้เห็นจริงอย่างชัดๆ
ปลุกเสกฯของเราครั้งที่ 44 นะ ที่เราจัดมา พุทธาภิเษกปลุกเสกปีละครั้งจัดมา 44 ปี ตกลงครั้งที่ 44 ยังไม่ได้จัด พุทธาภิเษกจัดไปแล้ว แต่ก่อนนี้พุทธาภิเษกปลุกเสกจะจัดคู่กันเท่าๆกัน ตอนนี้พุทธาภิเษกได้ตัวเลข 44 ไปแล้วแต่ว่าปลุกเสกยังไม่ได้จัดก็เลยไปเป็นปีหน้า พุทธาภิเษกก็ต้องจัดปลุกเสกก็ต้องจัดพุทธาภิเษกก็จะเป็นครั้งที่ 45 ปลุกเสกก็จะเป็นครั้งที่44 แยกคู่กันเสียแล้วเห็นไหมเป็นไปได้
สู่แดนธรรมว่า…เราตื่นแล้วเราก็ต้องปลุก
พ่อครูก็ว่ายอมรับก็แล้วกัน ดีพวกเราเป็นไปแล้ว
630406 SMS วันที่ 5 เม.ย. 2563 ( วิถีอาริยธรรม : พ่อครู)
_มีสมณะ สิกขมาตุ นำเสนอ ให้จัดสอบ ปริยัติชาวอโศกในช่วงของการ lock down ครั้งนี้ โดยออกข้อสอบจาก ธรรมะพ่อครูตั้งแต่ 6 เมษายน 2563 – 30 เมษายน 2563 ด้วยจะดีหรือไม่ จึงกราบเรียนสอบถามความเห็นของพ่อครู หากว่าสมณะ สิกขมาตุจะช่วยกันออกข้อสอบและจัดการสอบเช่นนี้จะเหมาะสมหรือไม่อย่างไร …กราบนมัสการพ่อครูครับ
_Prasert _ ประเสริฐ รุ่ง : ผมรับชมทางtvดาวเทียม ตั้งแต่ fmtv ตอนที่อยู่ด้วยกันกับnews1ครับ ตั้งแต่ทดลองออกอากาศเลยครับ สะดวกกว่าทางอื่นๆ ครับ
พ่อครูว่า…อย่างไรอย่างไรดาวเทียมเราคงต้องออก ยิ่งโควิดมานี่กระเป๋ายิ่งแห้งมากเลย น่า… ขันจอหว่อหน่อยน่า เห็นใจเถิด เห็นใจบ้าง เอาน่าซื้อกล่องไม่กี่ร้อยบาทหรอกใช้ได้ แค่นั้นแหละแล้วมันก็ได้คุณภาพต่างๆ
_ละไม พุทธละออง : อยู่กทมชัดเจนมากคะดูตลอดคะช่วงนี้ดูทั้งวันเพราะไม่ได้ทำงาน /อยากไปอยู่บ้านราชแต่ยังมีภาระคะ
_จักรพล พุทธพัฒนา : ตอนนี้ต้องเอาวัด เอาธรรมะเอาพระมาไว้ที่บ้านให้หมดเลยดีกว่า.
_Joy Ratanayenjai จอย รัตนเย็นใจ: ดูจากออสเตรเลียค่ะ บางครั้งการเกิดสิ่งร้าย ๆ ก้อทำให้คนเริ่มคิดใด้ บ่อยมากที่คนจะเข้าวัดเพราะเหมือนเป็นฟางเส้นสุดท้าย
_สมาน พุทธสาร : กราบนมัสการพ่อครูครับอยากทราบว่าอัญญาอัญญะอัญธาตุขอรายละเอียดครับ
พ่อครูว่า…อัญญะ ก็อัญญธาตุ อัญญะนี่พยัญชนะภาษาบาลีเป็นพยัญชนะ เริ่มต้นอัญญะเป็นพยัญชนะเป็นภาษาบาลีมันแปลว่าอื่น อื่นมันก็คือสิ่งที่ไม่ใช่อันนี้แยกออกไปแล้วต่างออกไปแล้วเป็นสิ่งอื่นเป็นโลกอื่นเป็นความรู้ชนิดอื่น แต่มันยังไม่เป็นความรู้นะมันแปลว่าอื่น พอคนที่มีความคิดมีธาตุรู้เกิดที่จิต
โกณฑัญญะ เป็นพวกพราหมณ์ 5 รูปที่ฟังธรรมะพระพุทธเจ้ากลุ่มแรกเลย เมื่อฟังเทศน์จบโกณฑัญญะฟังแล้วเข้าใจเรื่องสิ่งสองอย่างกามกับอัตตา พระพุทธเจ้าท่านไม่ปฏิเสธทั้งสองอย่างท่านไม่ใช้คำว่าปฏิเสธแต่ท่านไม่ไปเข้าใกล้ทั้ง 2 อย่าง มันมีในโลก กามก็มีในโลกอัตตาก็มีในโลก แต่ท่านจะวางตัวท่านไม่ไปคลุกคลีเกี่ยวข้องสัมผัสโดยเฉพาะเสพหรือติด..ไม่ ท่านหลุดพ้นจากกาม หลุดพ้นจากอัตตา
ผลสำเร็จของศาสนาพุทธคือสภาวะจิตของคุณอยู่กับโลก โลกเขามี 2 อย่างอะไรๆก็สังเคราะห์ลงที่ 2 อย่างทั้งนั้นมากกับน้อยดีกับชั่ว รักกับชัง ผลักหรือดูด อะไรก็สังเคราะห์ลงที่ 2 ทั้งนั้น เสร็จแล้วเราก็รู้สองแล้วไม่ไปลงใน 2 จิตของเรามีอำนาจมีพลังที่จะไม่ให้อำนาจ กามที่มันดึงดูดคน อัตตาก็ดึงดูดคน คนที่มีอำนาจต่ำถูกกามครอบงำ มีอำนาจอัตตาถูกอัตตาครอบงำ คุณก็ตกเป็นทาสกามทาสอัตตา
กามก็ดี อัตตาก็ดี ทั้งสองอย่างมันเป็นธาตุจิต จิตธาตุ มนุษย์ในโลกมีกามก็หาพวก อัตตาก็หาพวก คนที่ไม่มีภูมิปัญญาเพียงพอสู้คนที่เป็นนายทุนทางกาม นายทุนทางอัตตา เขาก็หาพวก คุณก็ตกเป็นทาสกามก็ได้อัตตาก็ได้
ทีนี้ คำว่ากามนี่ มันคนในโลกมี เป็นเบื้องต้น หยาบ รู้ก่อน คนก็จะเอากามนี่มาเป็นเครื่องล่อ เครื่องดึงดูดก่อน มันเป็นอำนาจที่จะครอบงำคนก่อน เพราะฉะนั้นคนในโลกจึงมีความรู้ในเรื่องของ กาม นี่มากกว่าความรู้ที่โง่
ความรู้ที่โง่ รู้เรื่องกามแล้วหลงเป็นทาสกาม แต่ความรู้อัตตานี่ไม่ค่อยรู้ รู้ยากกว่ากาม อัตตานี่รู้ยากกว่ากาม
เพราะฉะนั้น อัตตาจึงไม่สังเคราะห์เข้าไปในโลก พระพุทธเจ้าจึงแยกคำว่า โลกคำหนึ่ง
เพราะฉะนั้นผู้ที่มีอำนาจทางโลกก็เรียกว่าโลกาธิปไตย ผู้ที่มีอำนาจทางอัตตาก็เรียกอัตตาธิปไตย ก็แยกเป็นสองอัน ผู้ที่รู้แยกธรรมะชัดเจนก็จะรู้ว่ากามคือเบื้องต้นเป็นตัวอย่างต้องทำให้หมดก่อน หมดกามแล้วเหลือแต่อัตตาก็ต้องมาล้างอัตตาทีหลัง ผู้หมดกามเป็นอนาคามี เหลือส่วนเศษของกามคือรูปราคะอรูปราคะ ส่วนมานะ อุทธัจจะคืออัตตาแท้ๆ หรือแม้แต่ทิฏฐิกับวิจิกิจฉาก็สังเคราะห์ในอัตตา เป็นส่วนที่จะลึกซึ้งละเอียดไปถึงอนุสัย
อนุสัย ทิฏฐิกับวิจิกิจฉานี้จะต้องทำต่อ ทิฏฐินี้เป็นตัวต้นของอาสวะด้วย กามเป็นสักกายทิฏฐิตัวหยาบเลย แล้ววิจิกิจฉา สังโยชน์ 1 กับ 2 ส่วนอาสวะ วิจิกิจฉาจะเป็นตัวกลาง
มีกาม ปฏิฆะ ทิฏฐิ วิจิกิจฉา มานะ ภวะ แล้วจึงอวิชชาเป็น 7 อนุสัย
รายละเอียดที่สลับกันพวกนี้ อาตมาจึงค่อยๆอธิบายมันไม่ง่าย จึงไม่รีบอธิบาย ไม่ต้องกลัวหรอกหากคุณหมดอาสวะก็เป็นพระอรหันต์แล้ว ส่วนจะเหลือเป็นอนุสัยอีกยังไม่ครบอุภโตภาควิมุติก็ไม่เป็นไร เมื่อเป็นพระอรหันต์ก็สามารถปรินิพพานเป็นปริโยสานได้ เหลือเศษก็ไม่มีโมเมนตัมเพียงพอจะดึงขึ้นมา จะชรตา เข้าหาสุญญตาเองไม่มีปัญหาอะไร
นี่ค่อยๆอธิบายไป ผู้ที่เข้าใจแต่พยัญชนะก็เข้าใจพยัญชนะไปก่อน เมื่อมีสภาวะแล้วก็จะเข้าใจได้ดีทั้งสองสภาพทั้งสภาวะและพยัญชนะ (พ่อครูไอ ตัดออกด้วย)
นิมนต์พ่อครูจิบน้ำ
_ดช.เชิดเชิญธรรม(เผ่งอัง) …อัตตาเป็นอย่างไร
พ่อครูว่า…เด็กเขาถาม เด็กชาวอโศก เขาถามแล้วจะได้เข้าใจไปเรื่อยๆยิ่งต่อก็จะรู้ลึกซึ้งไปเรื่อยๆแต่ผู้ใหญ่ทุกวันนี้ไม่ค่อยประสีประสา อัตตาคืออะไร ก็ได้ยินเขาพูดกันว่าอัตตาคือตัวกูของกูอัตตาคือตัวตน
คำว่าตัวตนทั้งกว้างหยาบละเอียดลึกใหญ่ มันคลุมไปหมด อัตตาคือการยึดถือตัวเอง (ดช.ภูมิพุทธมากราบ 2 ครั้ง คนเลยทักว่ากราบไม่ครบ 3 ครั้ง)
สรุปง่ายๆว่า มันยึดถือแล้วจะเอาแต่ใจตัวเองกูจะเอาอย่างนี้นี่แหละคืออัตตา ตัวสำคัญ มันยังยึดอยู่เท่าไหร่ก็อัตตาเท่านั้น
ถ้ายึดมากๆเกี่ยวกับภายนอกทางกามด้วย ยึดทางวัตถุ ยึดทางฆ่าผัวมันเสียเอาเมียมันมา ยิ่งใหญ่ เจงกิสข่านฆ่าเอาแดนดิน พวกนี้ติดในอัตตายิ่งใหญ่คือโอฬาริกอัตตา คือ กามขั้นอบายมุข นรกรุนแรงขั้นจาตุมหาราชิกา ที่เขาบอกว่าเป็นสวรรค์ชั้นที่ 1 มันเอาอำนาจบาตรใหญ่ สมัยโบราณก็สร้างให้เป็นรูปร่างคนมีเขี้ยวงอก ตาโปน ดุดัน มีลักษณะน่ากลัว ถือดาบถือหอกใหญ่หนัก เข่นฆ่าคือเป็นพวกยักษ์มารรุนแรง คือหลงว่าเป็นเทวดา ความคิดของคนที่หลงความยิ่งใหญ่แบบนั้นก็เลยนึกว่าเป็นเทวดาเรียกมันว่าจตุมหาราช จตุแปลว่า 4 กูจะเป็นใหญ่ทั้ง 4 ทิศเลย ถ้ามีทิศมากกว่านั้นก็จะเอามากกว่านั้นแต่ที่มันมีสี่ทิศ
ที่จริงจตุมหาราชคือสัตว์อะไร แถมอีกนิด สวรรค์ทั้ง 6 ชั้นเป็นของเก๊ของเลวร้าย พวกที่เคยยึดถือจะเอาสวรรค์อาตมาหักเลย หักด้ามพร้าด้วยเข่า ไม่ให้แยแสพวกนี้หรอก ขนาดคุณเข้าใจแล้วก็ยังไม่สามารถทำได้ทันทีก็จะต้องสอนให้ทำเป็นขั้นตอน ไม่ใช่รุนแรงว่าใครไม่ได้อย่างนี้ไม่รับเป็นพวกก็ไม่ถึงขนาดนั้น
คำว่าอัตตาก็ขออธิบายเพียงเท่านี้ก่อนก็แล้วกัน
อธิบายอัญญะต่อ ธาตุอื่นที่แตกต่างจากธาตุรู้เดิม โดยเฉพาะเป็นวิญญาณตัวใหม่แตกกอ แตกดีเอ็นเอเลยแตกตระกูลออกไปเป็นตระกูลโลกุตระ แล้วธาตุรู้ตัวนี้ก็ไปเป็น อัญญา จาก อัญญะเป็นตัวที่ 1 พอมีเพิ่มเป็นตัวที่ 2 เป็นพหูพจน์ก็เป็น อัญญา ก็เป็นธาตุรู้สูงขึ้น เจริญต่อไปอีกเป็นกัญญา ชัญญา ก็เจริญพัฒนา มันมีระดับจริงๆ อธิบายละไว้ในฐานที่เข้าใจแล้วไปปฏิบัติจนเกิดสภาวะจะเข้าใจได้
จากคำว่าอัญญาไปเป็นกัญญา ชัญญา สัญญา พวกนี้แม้แต่ที่สุดใช้เป็นตัวร้ายก็ใช้ ฆัญญา แปลว่าการฆ่า
เพราะฉะนั้นผู้ที่มีธาตุรู้อัญญธาตุตัวใหม่ก็เริ่มเจริญขึ้นเรียกว่าอัญญา อัญญาก็ดี อัญญธาตุก็คืออัญญะ ที่แปลว่าอื่น เอาคำว่าธาตุไปใส่เป็นธาตุวิญญาณ เป็นหนึ่งในขันธ์ 5 เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ธาตุรู้ตัวนี้จากอัญญธาตุก็เป็นอัญญา ใช้พยัญชนะอื่นแทนไป จนถึงจะสำคัญก็เป็นปัญญา ปัญญาเป็นพยัญชนะในวรรคที่ 5 ตัวต้นเลยของวรรคที่ 5 หมายถึงตัวฐานจิตแท้ๆเต็มๆ แถวที่ 5 ป ผ ภ พ ม
ม ม.ม้าคือจิต ผู้ที่จะไม่ยึดมั่นถือมั่นแล้วก็ต้อง มนะ คำว่านะ คือไม่ เป็นตัวจบ ถ้าปะเป็นตัวเต็ม ถ้าม นี้จะไม่แล้ว (พ่อครูไอ ตัดออกด้วย)
_พตท.ดุลเพชร …พ่อครูตั้งกฎระเบียบว่าปิดสนิทตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ต่อมารัฐบาลก็ประกาศเคอร์ฟิว ทำให้ชาวอโศกเราได้คัดกรองว่าใครจะอยู่ที่ไหน เป็นเรื่องอจินไตยที่พ่อครูไม่เคยคาดคิดหรือเปล่าครับ
พ่อครูว่า..แต่ว่ามันเป็นก็ใช่ อาตมาก็บอกแล้วว่าอาตมาเป็น พูดไปอีกเดี๋ยวเขาก็จะไม่ชอบหน้า อาตมาเป็นไก่ตัวพี่ ที่มีความรู้ทางธรรมะโดยเฉพาะพุทธธรรม มีอจินไตย พุทธวิสัยฌานวิสัย กรรมวิบากและโลกจินตา นี่เป็นอจินไตย 4
พุทธวิสัย เป็นวิสัยของพระพุทธเจ้าอาตมายังไม่ถึงพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นความรู้ในระดับพระพุทธเจ้าที่เป็นวิสัยที่อาตมายังไม่ล่วงรู้ได้ก็ต้องเป็นอจินไตย อาตมาไม่ต้องไปคิดให้เสียเวลา เพราะยังไม่ใช่วาระไม่ใช่ฐานะที่เราจะเข้าไปศึกษา ละลาบละล้วง อาตมาอยู่ในฐานะของผู้ที่มี ฌานวิสัย และมีฐานะที่รู้กรรมวิบากส่วนหนึ่งไม่น้อยและรู้โลกจินตา
โลกจินตาคือ ความคิดของชาวโลก มันคิดได้สารพัดอย่าไปคิดตามเขาอย่าไปคิดตามคนโลก มันคิดไม่หวาดไม่ไหว หัวแตกตายแล้วคุณจะยุ่งมากเลย
พูดไปก็นึกถึงท่านประยุทธ์ สมเด็จพุทธโฆษาจารย์ ขออภัยต้องพูดชัดว่าท่านไปหลงความรู้ ศึกษา ขนาดเจ็บป่วยท่านก็ไม่หยุดศึกษา อาตมาว่ามันมากแล้ว อาตมาเองยังได้พึ่งพาความรู้จากท่านเลย ก็ขอบคุณท่านมากมายจริงๆ …พอ.. ความรู้ที่ท่านมีนั้นพอที่จะเป็นอรหันต์ที่จะเป็นโพธิสัตว์ที่จะเป็นอะไรต่ออะไรที่จะไปทำงาน ทั้งตนและท่านเป็นโพธิสัตว์เพียงพอได้ก็ต้องรู้จุดจบที่เราจะต้องตั้งต้น ถ้ามันรู้มากเป็นมหายานเกินไปมันเป็นอะไรก็ไม่ได้ อรหันต์ก็ไม่ได้โพธิสัตว์ก็ไม่ได้ มันกลายเป็นโพธิสัตว์เฟ้อเกิน ซึ่งมันไม่ใช่โพธิสัตว์มันไม่ได้อยู่ในกรอบที่พอดี อรหันต์นั้นเป็นที่จบ เมื่ออรหันต์ไม่ได้โพธิสัตว์ก็เป็นไม่ได้ เพราะผู้ที่จะเป็นโพธิสัตว์ได้ต้องมีอรหัตผลของตนก่อน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่พระโสดาบันเลย โพธิสัตว์
โพธิสัตว์ 9 ระดับ 1.โสดาบันโพธิสัตว์ 2.สกิทาคามีโพธิสัตว์ 3.อนาคามีโพธิสัตว์ 4.อรหันต์โพธิสัตว์ 5.อนุโพธิสัตว์ 6.อนิยตโพธิสัตว์ 7.นิยตโพธิสัตว์ 8.มหาโพธิสัตว์ 9.พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ซึ่งเรื่องของการหลงในฎีกาจารย์ก็เคยเตือนกัน ว่าไม่ควรจะไปหลงวิปัสสนูปกิเลส ที่เป็นตัวความรู้ญาณปัญญาอยู่ในนั้น อุปกิเลสที่เป็นความรู้มันเกินไป มันเฟ้อมันล้น มันไม่ต้องเสียเวลาอีก ต้องใช้ความรู้ไปเจาะให้ถึงสภาวะจะไปถึงเป้าหมายเริ่มตั้งแต่ ศีล สมาธิ ปัญญา เริ่มต้นให้เป็นลำดับมันก็จะไล่จากพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ตามลำดับได้ดีทีเดียว อาตมาก็พูดโดยวิชาการสัจจะความจริง ไม่ใช่ว่าอาตมาบังอาจไปสอนท่าน แต่อาตมาต้องพึ่งพาความรู้จากท่าน อาตมาจะไปสอนได้อย่างไร ท่านก็เป็นพระบวชก่อนอาตมาแม้ว่าท่านจะอายุน้อยกว่า แต่ท่านเป็นภันเตท่านบวชตั้งแต่เป็นเณร อาตมามาบวชตอนอายุ 36 ปี ดูเหมือนท่านจะอายุน้อยกว่าประมาณ 5-6 ปี
อาตมาอายุ 36 มาบวช เลย 20 มาตั้ง 16 ปี
_สู่แดนธรรมว่า… 12 มกราคม 2481 อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ตอนนี้ก็ 82 ปี บวชเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 13 ปี บวชเป็นเณรตั้งแต่พศ. 2494
พ่อครูว่า…ท่านอ่อนกว่าอาตมา 5 ปี
ก็มันจริงๆแล้วมันเป็นอจินไตยอย่างหนึ่งอาตมารู้ตั้งแต่ต้น ก็ไม่อยากพูดอะไรมากบางทีมันก็ดูไม่ดี พูดในมุมดีมันเป็นมุมดีที่ดีมากเลยก็ได้ช่วย ไม่เช่นนั้นจะไม่มีอะไรให้เกิดเป็นความขาวความดำ ท่านไม่ทำก็จะไม่มีใครมีบารมีเท่าไหร่ มีคนทำ แต่บารมีไม่ถึงอย่างมหาระแบบก็จุดชนวนแต่บารมีไม่เท่าพระพุทธโฆษาจารย์ พอท่านเริ่มเท่านั้นมีฤทธิ์เลย ไม่ต้องพูดต่อเพราะว่ามันผ่านไปแล้ว แล้วมันก็ลงตัวได้ดีแล้ว ถ้าไม่มีก็ไม่เกิดการสังเคราะห์ด้วย
พลังงานของธรรมชาติพลังงานของสัจธรรมพวกนี้มันก็จะไม่เกิดสภาพเป็นอย่างนี้ เหมือนกันอย่างกับโควิด เป็นพลังงานธรรมชาติที่จะสังเคราะห์โลกสังเคราะห์มนุษย์ไป เพราะฉะนั้นอย่าไปเสียดายหรือไปเสียใจว่ามันมีโรคนี้มาทำไม โควิดนี้ อย่าไปเสียดายอย่าไปเสียใจ อาตมาบอกให้ว่า โรคโควิดมันเกิดมานี่นะ มันล้างความโสโครกให้แก่สังคมโลกมันเป็นของดีนะ แต่ไม่ต้องรักษามันไว้สงวนไว้ให้มันหมดไปเถอะ ที่พูดนี่ไม่ได้หมายความว่าต้องรักษามันไว้ ไม่ใช่
เหมือนกับคำว่าบุญ คุณอย่าไปอยากได้บุญนะ เช่นเดียวกันคุณก็อย่าไปอยากได้โควิด แต่คุณต้องมีโควิด แต่คุณต้องมีบุญตราบเท่าที่คุณยังมีความโสโครกยังมีกิเลส ต้องเอาบุญมาล้างและบุญนี้เป็นภาวะที่สุดยอดเลย อาตมาว่าคนธรรมดาคิดเองไม่ได้รู้เองไม่ได้ ถ้าไม่มีอาตมามาไขความละเอียดก็จะไม่มีใครรู้คุณลักษณะของความเป็น บุญ แท้ๆเป็นอย่างไรชัดๆ ขอยืนยัน ไม่มีใครจะเข้าใจว่า บุญ คืออะไรหรอก
คนที่จะสามารถเอาคำว่าบุญได้อย่างสัมมาทิฏฐิ เป็นเครื่องชี้บ่งว่าจะเป็นการเข้าสู่กระแสโลกุตระแต่มันลึกกว่า กาย บุญนี่
ที่จริงไม่ลึกกว่า แต่กายนี้กว้างกว่าบุญที่เล็กละเอียด บุญมันแนวลึกเท่านั้นเอง มันคนละมิติ กายเป็นมิติด้านกว้าง แต่บุญมิติในด้านลึก
_กิ่งฟ้า ขันหล้า : รับฟังที่บ้านอำเภอดอนเจดีย์..จังหวัดสุพรรณบุรี..ชัดเจนทั้งภาพและเสียงค่ะ
_Pichest Boonwiroon พิเชษฐ์ บุญวิรุฬ : กราบนมัสการด้วยความเคารพยิ่งครับ ชมทางเฟสบุค จากภูเก็ต ภาพ-เสียงชัดเจนดีครับ รู้สึกขอบคุณช่องบุญนิยมทีวีที่นำเสนอธรรมะโลกุตระมาตลอด
_Ju Kung จู คุง : ภาพและเสียงชัดเจนดีมากค่ะ จาก LA
_บุญนิยม รองกิจ : ชมอยู่ที่บางแคกรุงเทพฯ กราบนมัสการพระโพธิสัตว์สมณะโพธิรักษ์อย่างสูง.ผมได้ฟังพ่อครูครั้งแรกเมื่อปี๒๕๕๑ รู้ทันทีนี่คือพระโพธิสัตว์
พ่อครูว่า…เอาละคุณรู้ก็ดีแล้ว