630413_รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 97

630413_รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 97

อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวน์โหลดเอกสารที่…https://docs.google.com/document/d/1NRfd7WTXXkpn2sgeC1mzZBZZxAq-hflV83He-9Udtpc/edit?usp=sharing                              

ดาวน์โหลดเสียงที่  https://drive.google.com/open?id=1uyuxF0MRFpZKsf5PtofWz4ub8NQqrvts 

พ่อครูว่า…วันนี้วันจันทร์ที่ 13 เมษายน 2563 ที่บวรราชธานีอโศก วันสงกรานต์นี่นะ ทำไมไม่สงกรานต์ วันสงกรานต์เขาอาบน้ำกันแต่ทำไมมันเงียบจังเลย เขาสาดในไลน์ ดีไม่เสียน้ำจริง ดี ที่จริงวันนี้วันขายตลาดอาริยะวันแรกนะนี่ ตลาดอาริยะนี่คนเป็นพันเป็นหมื่นมากันครึกๆ จากต่างจังหวัดก็มา ซื้อข้าวของกันสนุกสนาน ดูภาพเปรียบเทียบ วันนี้ที่จอดไม่มีรถ วันโน้นที่ไม่มีให้รถจอด นี่ 13 เมษายน สองปีที่ต่างกัน ที่จริงอาตมามองไปในแง่ดี มันเป็นเรื่องดีอะไรหลายอย่าง

เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นผู้บริหารตั้งแต่ผู้บริหารครอบครัว ครอบครัวบางครอบครัวมีภาระเยอะนะ มีประชากรในครอบครัวเป็น 8 เป็น 10 เป็น 20 จนกระทั่งถึงเป็นกลุ่มสังคมกลุ่มย่อยจนถึงหมู่บ้าน จนกระทั่งถึงตำบลถึงอำเภอถึงจังหวัดขึ้นมา มันทำให้เห็นอะไรอีกหลายอย่างที่เคลื่อนไหวอยู่ในพฤติกรรม ของสังคมมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจเรื่องของการแลกของหมุนเวียนของ หรือเป็นการบริหารปกครอง เรื่องของชีวิตมนุษย์สังคม มันทำให้เห็นเกิดความวุ่นวายน้อยลง ใช่ไหม อันนี้เห็นชัดเลย ไม่ว่าจะเป็นเชิงเศรษฐกิจสังคมการเมืองความวุ่นวายน้อย 

เราสรุปเข้าสู่สาระตรงนี้เห็นได้เลย ไม่ว่าจะเกิดในลักษณะเชิงเจโต​ ศรัทธาหรือเกิดในเชิงปัญญา ซึ่งอาตมากำลังพูดก็คิดว่าน่าจะมีคนมีไหวพริบสะดุดขึ้นมาเกิดปัญญา ถ้าเกิดสังคมเป็นแบบนี้ มันดีกว่าสังคมที่มันวุ่นวายไหม ขณะนี้ เอาสังคมประเทศไทย มันเกิดหยุดขึ้นมาอย่างนี้มันเกิดความสงบ เหตุการณ์ที่เกิดความหยุดความสงบขึ้นมามันเกิดจากอะไร เกิดจลาจล เกิดความวุ่นวายการปล้นจี้ เกิดความเดือดร้อนอะไรขึ้นมาในสังคมมันมีไหม …ไม่มี

มันก็อีกอันหนึ่งสำคัญก็คืออดอยากไหม? ไม่… โอ้โห พอหยุดอย่างนี้แล้วตายเลย คนไม่มีข้าวกินกระจอกงอกง่อยกัน เมืองไทยจะเกิดได้ไหม ถ้าเป็นอย่างนี้ไปอีกสักประมาณ 1 เดือน 2 เดือน ที่ที่มันไม่พออยู่พอกินกันมันไม่เกิดการหมุนเวียนไม่เกิดเศรษฐกิจเคลื่อนที่มันจะอดนะ จะเกิดเลย 

สู่แดนธรรมว่า…อย่างนั้นคือเศรษฐกิจไม่ดีใช่ไหมครับ

พ่อครูว่า..ใช่ แต่ชาวอโศกไม่กระเทือนเลย เหมือนไม่มีอะไรกระทบเลย มันเฉยๆ กระทบก็อุเบกขา มันจะกระทบก็เฉยๆ ปกติสามัญ สบายๆ นี่เป็นนัยที่อาตมาพยายามที่จะพูดขึ้นมาให้สะดุดความคิด สะดุดความเข้าใจ สะดุดความรู้สึกขึ้นมา

เดือนเมษายนแต่อากาศเย็น เป็นมินิตหมายว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงมีทางดีขึ้นหรือแย่ลง ก็เชื่อว่ามันจะดีขึ้น I hope So 

sms วันที่ 12 เม.ย. 2563 (วิถีอาริยธรรม)

_ละไม พุทธละออง : ตอนทำงานหยุดเสาร์อาทิตย์เอาที่รีดผ้ามาหน้าทีวีดูทุกรายการทั้งวัน ไปชื้อยาสระผม น้ำยาซักผ้า ดูช่องนี้ช่องเดียวมาหลายปีแล้วคะ

พ่อครูว่า…ดูช่องอื่นเขาบ้างเดี๋ยวจะหาว่าปิดหูปิดตา 

อจินไตยเป็นเรื่องที่คนรู้ได้

_สมาน พุทธสาร : กราบนมัสการพ่อครูครับอนุตริยะ ๖ เป็นของพระพุทธเจ้าเท่านั้น

พระโพธิสัตว์ไม่มีใช่ไหมครับ ฌานโลกุตระนั้นเป็นฌานของคนปกติที่ลืมตาปฏิบัติ แล้วทําไมต้องเป็นอจินไตยด้วย

พ่อครูว่า…มีสองคำถาม…(สู่แดนธรรมว่า…ผมว่าเขาถามผิด ญาณ 67 ญาณ เป็นของพระสาวก แต่ 3 ญาณสุดท้ายเป็นของพระพุทธเจ้า)

พ่อครูว่า..พระพุทธเจ้าท่านสมบูรณ์ด้วยอนุตตริยะ 6 นี้ไปแล้วพ้นไปแล้ว 

อีกอันหนึ่ง ฌานโลกุตระทำไมเป็นอจินไตย คำว่าอจินไตยคือคิดเอาเดาเอาไม่ได้ คนที่ไม่มีความรู้ถึงขั้นฌาน เรียกว่าฌานวิสัยก็จะเป็น อจินไตยอยู่ ขณะนี้ความรู้ของด้านพุทธ จะไม่มีความสามารถรู้ ฌานของพุทธ เพราะมันเป็นอจินไตย ส่วนฌานของโลกียะไม่ใช่อจินไตย เพราะใครก็ทำได้ นั่งสะกดจิตให้นิ่ง ตื้นๆ ใครก็เข้าใจ ศาสนาอื่นก็ทำกันได้ 

ฌานโลกุตระ เอาคำว่าโลกุตระมากำกับ ให้ชัดเจนว่าฌานโลกียะไม่ใช่อจินไตย ก็แค่ลืมตาปฏิบัติยังไม่เข้าใจกันเลย ทุกวันนี้อาตมาอธิบายไว้ดีมากแล้ว

ฌานของพระพุทธเจ้านั้นเกิดจากจรณะ 15 วิชชา 8 ถ้าไม่มีจรณะ 15 เป็นเหตุ เป็นอุปนิโส เป็นปริขาโร เป็นเหตุเป็นองค์ประกอบแล้ว ไม่ใช่ฌานของพระพุทธเจ้า ฌานของพระพุทธเจ้าจึงเป็นอจินไตย ที่เขารู้ไม่ได้ เพราะแม้แต่อปันกปฏิปทา 3 ซึ่งอยู่ในจรณะ 15 เขาก็เป็นผู้ที่ไม่ได้มีความถูกต้องนี้ของพุทธแล้ว หากไปปฏิบัติโดยไม่มีสำรวมอินทรีย์ 6 ไม่มีการปฏิบัติสำรวมอินทรีย์ ไม่มีการประมาณในการกินการใช้ ไม่มีการประกอบการตื่นมีสติอยู่ ก็ไปหลับตาเอาทำฌาน 1 2 3 4 ปิดหูปิดตา แล้วก็พากเพียรให้หลับลงไปไม่ใช่พากเพียรให้ตื่น เป็นทางตรงกันข้ามกับความเป็นจริงของพระพุทธเจ้าหมดเลย เขาถึงไม่มี ฌานของพระพุทธเจ้า ที่บอกว่าฌานลืมตาเป็นของพระพุทธเจ้าก็ไม่ใช่เรื่องที่จะปฏิบัติได้ง่ายๆ แม้จะฟังกันเข้าใจ อาตมาก็ยังรู้สึกว่าตัวเองยังพูดได้ไม่เก่งไม่สมบูรณ์ยังบกพร่องอยู่เลย 

ฌาน ของพระพุทธเจ้า คุณจะต้องมีศีลเป็นหลัก 

ศีลข้อที่ 1 ไม่ฆ่าสัตว์ เป็นผู้ที่มีความเอ็นดูปรารถนาดีหวังประโยชน์ต่อสัตว์ทั้งปวงอยู่ คุณได้ตั้งข้อนี้แล้วปฏิบัติ 3 อย่างนี้ สำรวมอินทรีย์ทั้ง 6 ที่จะเกี่ยวข้องเมื่อสัมผัสกับสัตว์ คนก็คือสัตว์ชนิดหนึ่ง คุณมีความเมตตาปรารถนาดีหวังประโยชน์ต่อสัตว์ทั้งปวงอยู่ ไม่มีความชัง คุณได้ปฏิบัติอย่างนั้นไหมเมื่อสัมผัสแล้วทั้งทวารทั้ง 6 สัมผัสด้วย รส กลิ่น เสียง สัมผัส ตา คุณได้เรียนรู้ลดกิเลส กาม กิเลสอัตตาไหม คุณได้ศึกษาไหม 

ถ้าศึกษาก็จะเกิดที่ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ ทำได้ก็จะเกิด พหูสูตร วิริยะ สติ ปัญญา แล้วจะเกิดฌาน 1 2 3 4 มีอุเบกขา 5 จิตสะอาดที่ตกผลึกจึงเกิดเป็นจิตตั้งมั่น อเนญชาสมบูรณ์แบบ

การอภิสังขาร 3 ปุญญาภิสังขาร อปุญญาภิสังขาร อเนญชาภิสังขาร คือสังขารแล้วเกิดบุญ ชำระกิเลสได้ จนกิเลสหมดก็เป็นอปุญญาภิสังขาร ไม่มีบาปอีก ไม่มีบุญด้วย บุญก็หมดไปด้วย ไม่ใช่กลับเป็นบาปอีก บุญเป็นเครื่องชำระบาป หากหมดบาปแล้วบุญก็หมดไปด้วย บุญเป็นอจินไตยที่สูงส่งมาก 

แม้แต่ฌานหากไม่เกิดฌาน บุญก็ไม่มี บุญเป็นพลังงานที่รวมผลของฌาน ฌานเป็นพลังงานที่สร้างขึ้นแล้วเผากิเลส เผาเสร็จก็เรียกว่าบุญ เผาเสร็จก็เรียกว่าบุญ เมื่อหมดกิเลส บุญก็หายไป บุญไม่มี ซึ่งมันไม่ง่ายเลยที่จะเข้าใจ ไม่ง่าย แต่เข้าใจไหม?…เก่งจัง เข้าใจสิ่งที่ไม่ง่ายได้ 

ทองแก้วว่า..อปุญญาภิสังขาร เขาก็อธิบายเป็นบาปอีก

พ่อครูว่า..เขาก็วนบุญกับบาปอีก ไม่เข้าใจความจบไม่มีนิพพานไม่มีสูญ ไม่มีดับเด็ดขาด บุญไม่มีคู่ เอกังสะ one way traffic ไม่มีโค้งงอก ไม่มีองศากลับ ไปเดี่ยวๆ ไปตรงเลย นิวเคลียร์ ฟิชชั่น ตรงหายไปเลย 

ฌานวิสัย ซึ่งวิสัยเป็นตนที่ยิ่งที่สามัญมนุษย์เป็นไม่ได้ง่ายๆ แต่ไม่ใช่ว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้ได้ แต่หากมีผู้รู้ได้ก็ไม่ใช่เรื่องอจินไตยสำหรับคนนั้น

สู่แดนธรรมว่า…ผมอ่านคำถามแล้วผมก็ถามต่ออีก คุณสมานยกฌานโลกุตระ ของคนพวกเราที่ลืมตาปฏิบัติก็ไม่ใช่อจินไตย เขาก็ว่าทำไมต้องอจินไตยด้วย พ่อท่านเลยตอบว่าสำหรับคนที่สามารถรู้ได้ก็ไม่ใช่อจินไตย แต่คนรู้ได้ไม่ใช่อจินไตย 

พ่อครูว่า…เพราะอาตมามีฌานวิสัย มีอย่างอัตโนมัติ เป็น ภาษาบอกสภาวะ ภาษาที่ไม่ใช่พูดเล่นเสแสร้ง คนมีแล้วจึงพูดอย่างเป็นเป็นของตัวเองมีความเชื่อของตัวเองแล้วจึงเอามาพูด 

สู่แดนธรรมว่า..ความรู้เช่นนี้ผู้ที่ศึกษาธรรมะทั่วไปจะบอกว่า อจินไตย 4 นี้ห้ามคิด คิดไม่ได้ แต่พ่อครูบอกว่าผู้ที่มีบุญบารมีถึงก็จะพูดได้ 

พ่อครูว่า…อจินไตยเป็นวิสัยสำหรับผู้ที่เข้าถึงได้ คนไหนมีความรู้จัก พุทธวิสัย ฌานวิสัย รู้จักวิบากกรรม รู้จักโลกจินตา ก็ไม่ใช่อจินไตยสำหรับผู้นั้น

_คอยใคร : กราบเคารพพ่อครู ผมตามฟังธรรมพ่อครูเทศน์มาได้ปีกว่าๆ ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ก็ยังดีกว่าคนที่รู้ธรรมะแล้วไม่ฟังพ่อครูเทศน์ ผมคิดแบบนี้ผิดไหมครับ

พ่อครูว่า…คนคนนี้คิดดี หากคนที่ไม่ฟังอาตมาเลยปิดประตูไม่ฟังเลยจะไม่มีปรโตโฆษะ ไม่มีโยนิโสมนสิการได้ อันนี้เป็นข้อที่ 7 ของสุริยเปยยาล 7 แสงอรุณ 7 

สุริยเปยยาล 7 

[129]  มิตรดี เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค

[131]  สีลสัมปทา เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค 

[132]  ฉันทสัมปทา เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค 

[133]  อัตตสัมปทา เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค

[134]  ทิฐิสัมปทา เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค 

[135]  อัปปมาทสัมปทา เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค 

[136]  โยนิโสมนสิการสัมปทา เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค

หากคุณไม่เชื่อว่านี่คือสยังอภิญญาก็ไม่รับก็ได้เท่าที่คุณรู้ซึ่งแน่นอนว่ามิจฉาทิฏฐิอยู่แน่ ผู้ที่เป็นสัตบุรุษจะต้องสัมมาทิฏฐิใช่ไหม คุณจะต้องฟังสัมมาทิฏฐิออกแล้วคุณจะไปฟังได้อย่างไรแต่เพราะว่าคุณมิจฉาทิฏฐิตีทิ้งสัตบุรุษ ตีทิ้งผู้ที่ไม่เหมือนคุณแล้วคุณบอกว่าอันนี้ไม่ใช่คุณก็ได้เท่าที่คุณได้ เพราะคุณไม่เชื่อสัตบุรุษ 

สู่แดนธรรมว่า…มีคนที่สูงกว่านี้เขาเชื่อว่าได้เจอแล้วไม่ต้องมาฟังพ่อท่านแล้ว 

พ่อครูว่า…ถ้าของคุณสัมมาทิฏฐิ จะต้องตรงกับสัตบุรุษ เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นสัตบุรุษพูดอย่างไร ถ้าคุณสัมมาทิฏฐิคุณจะต้องฟัง แต่ถ้าเห็นว่าผู้ที่คุณสัมมาทิฏฐิ คุณเป็นสัตบุรุษ เสียเอง หรือคุณฟังสัตบุรุษของคุณเองแล้ว คุณฟังอันนี้บอกว่าไม่ใช่สัตบุรุษก็แน่นอน อย่างนั้นคุณก็ไม่ฟัง แต่จริงๆแล้วสัตบุรุษจะไม่ปฏิเสธสิ่งที่ไม่เหมือนตน จะฟังสิ่งที่ไม่เหมือนตน เพราะสัตบุรุษที่ถึงขีดถึงขั้นจะไม่ปฏิเสธ ไม่มีอติมานะ ท่านจะไม่ไปลบหลู่ เป็นอุปกิเลส ท่านจะเติมเป็นโลกจินตา เป็นความรู้ว่าคนคิดอย่างนี้ก็มี เราก็ได้รับความรู้เพิ่มเติมว่าคนคิดกิเลสพิลึกวิตถารอย่างนี้ 

สู่แดนธรรมว่า..เพราะความเป็นจริงของโลกในยุคนี้ส่งคนอย่างนี้มาให้ท่านได้เห็นได้ฟัง 

พ่อครูว่า..อย่างสายลืมตาก็ธัมมชโย สร้างโลกจินตา ทุจริตต่างๆ สร้างขึ้นมาได้ยิ่งกว่ากระเทยจริตจะก้านไม่มีใครเทียบกระเทย ฉันเดียวกัน เป็นทุจริตต่างๆที่เขาสร้าง

สมณะฟ้าไท..คนที่ฟังพ่อครูแล้วบอกว่าได้แล้ว ก็ไม่ต้องฟังอีกเลย ใช่ไหม

พ่อครูว่า..เขาฟังอาตมาไม่เข้าใจ ก็เลยไม่ฟัง เขาตีทิ้งอาตมา แต่หากเขาฟังอาตมาเข้าใจจะมีธรรมรส เขาจะยิ่งฟังเลย ยิ่งเป็นอรหันต์เป็นอาริยะจะไม่เบื่อหน่ายฟังธรรม แม้คนที่เขาจะอธิบายผิด พูดซ้ำอีก ผู้ที่พูดผิดก็จะฟัง จะไม่มีอุปกิเลสยกตนข่มท่าน มานะ อติมานะ ทำให้รู้ว่าคนก็มีการคิดต่างๆนานาได้ อาตมายังชอบฟังมหาบัว คิดอย่างนี้ก็ได้เราไม่เคยคิด คิดวิตถารพลิกแพลงอย่างนี้ก็ได้นะ 

สู่แดนธรรมว่า..พ่อท่านฟังลูกๆเสมอ

พ่อครูว่า…ไม่ใช่แค่ลูกๆ คนข้างนอกก็ฟัง

นิมนต์พ่อครูจิบน้ำ

_ด.ช.เชิดเชิญธรรม ..ถามว่า สัมมาสิกขาก่อตั้งปีพ.ศ.อะไรครับ

พ่อครูว่า..ใครจำได้บ้าง เกิดแรกๆที่ศีรษะอโศก เกิด กศน.ก่อน เสร็จแล้วอาตมาเห็นว่าควรตั้งโรงเรียนตอนนั้นตั้งขึ้นมาปี 2531 

กศน.เกิดที่แรกที่ศีรษะอโศก ปี 2533 สัมมาสิกขาเกิดที่แรกที่ปฐมอโศกปี 2537 ตามมาด้วยศีรษะอโศกและปฐมอโศก 

_ซึ้งดิน หลักเขต…พ่อท่านสอนให้ลูกชาวอโศก ลืมตาปฏิบัติธรรม แต่ว่าเมื่อวานหลับตาสนั่นเลย นอนหลับ เวลาฟังเทศน์เมื่อยก็หลับคออ่อน เพิ่นฝากคำถามขึ้นมา

เมื่อเช้า ทำวัตรเช้า คุณยายบรรทมว่า เห็นคนอื่นพูดเราก็อยากพูดบ้าง เราทำหน้าที่พับกระสอบปุ๋ยได้ประโยชน์ท่านคือพับกระสอบปุ๋ย ประโยชน์ตนคือมะม่วงน้อยก็ได้กิน 

คุณแม่บอกว่า ยายทิพย์ระยะห่างเยอะไป ช่วงบ่ายค่อยมาช่วยงาน มันยาวไปหน่อย ยายไม่มีใครช่วยงาน

_ทองแก้ว…พ่อครูเคยพูดถึงสมัยพราหมณ์ที่เชื่อแต่อาจารย์แต่ฝ่ายพระพุทธเจ้าเปิดกว้างว่าไม่ต้องเชื่อแม้แต่คนนี้เป็นอาจารย์หรือเป็นพระพุทธเจ้า พ่อครูก็ใจกว้าง พ่อครูบอกว่าธรรมะจะหยั่งลงในประเทศไทย พอมาคิดดูก็คิดว่าพ่อครู อายุยืน พวกสายหลับตาก็จะทยอยไป คนก็จะมาติดตามมากขึ้น

พ่อครูว่า..คนที่แสวงหาติดตามธรรมะมีอยู่แม้จะมีน้อย แน่นอนเลย คนบอกว่าไปดูในเน็ต คนเปิดดูในยูทิวป์ ไปเทียบกับเพลงที่เขาแต่งขึ้นมากับที่อาตมาเทศ

น์ เทียบได้เลย ของเราขึ้นเลข 2 ตัวก็ดีแล้ว แต่ของเขาขึ้นเลขล้าน 7 หลัก ของเรา 2 หลักก็ดีแล้ว ขนาดไม้ร่มยัง 70000 เลย ของอาตมาก็หลักร้อย หลักพัน 

_ทองแก้ว…พ่อครูจะพูดถึงคุณสุเทพ วงศ์คำแหง บ่อยๆ อยากให้พ่อครูพูดถึงว่าสนิทแบบไหน

พ่อครูว่า…สุเทพกับอาตมาย่างเขามาในวงการเพลง พร้อมกัน อายุเท่ากันเวลาเดียวกัน ป้วนเปี้ยนกับพี่ไสล ไกรเลิศ ส่วนอาตมาอยู่กับคุณล้วน ควันธรรมมากกว่า ก็สนิทกัน แต่ที่ห่างกัน อาตมามาเป็นสมณะแล้วว่า ว่าพวกนี้เป็นอบายมุข เป็นเดรัจฉานวิชชา บางคนไม่มองหน้าอาตมาเลย ขนาดเป็นเพื่อนกัน แต่มันเป็นสัจธรรมก็เลยต้องพูด 

เทียบเคียงให้ฟัง พระพุทธเจ้าท่านก็ลิงลมอมข้าวพอง เมื่อเกิดมาเป็นเจ้าชายสิทธัตถะก็งงๆ ไปตามโลกที่มีจารีตมีวัฒนธรรมก็เป็นไปตามเขา เมื่อบวชก็เป็นเดียรถีย์ออกป่า เขาทำทุกรกิริยาต่างๆที่เป็นกิริยาไม่เข้าท่า ทุกรกิริยาไม่ใช่กิริยาที่ทรมานนะ แต่เป็นกิริยาที่ไม่ดี แต่การไปนั่งตะปู ยืนขาเดียว อดข้าว ก็ใช่ด้วย เป็นสารพัดที่มีอยู่ในสัมมาทิฏฐิไม่อยู่ในครรลองครองธรรมของพระพุทธเจ้ามันอยู่นอกรีต ท่านก็ไปทำมาหมด

อาตมาอยู่ในชาตินี้ปางนี้ อาตมาก็ยังไปหลงกับเขาอยู่เหมือนกับพระพุทธเจ้าไปหลงอยู่ 6 ปี แล้วท่านก็ระลึกของเก่า ท่านไม่ได้ตรัสรู้หรอก ที่จริงพระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้แล้วท่านมีสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ก่อนมาถึงชาตินี้ ก่อนจะมาประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ท่านได้บรรลุมาแล้วมีสัมมาสัมโพธิญาณหมดแล้ว ในชาติที่เป็นเจ้าชายสิทธัตถะท่านไม่ได้ปฏิบัติธรรมอะไร ท่านไม่ได้ปฏิบัติธรรมเลย ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ก็นั่งระลึกของเก่าว่าเป็นอย่างนี้เองหรือ ธรรมะต่างๆเป็นอย่างนี้ ท่านก็ระลึกได้เลยแล้วก็เอามาสาธยาย 

อาตมาก็มีนัยคล้ายท่านแต่ไม่ใช่เท่าเทียมนะ อาตมาก็ระลึกของเก่าของอาตมาได้ อาตมาเกิดขึ้นมาในสังคมศาสนาพุทธยุคนี้ มันไม่มีใครที่จะมีความรู้ของพระพุทธเจ้าที่มีความรู้โลกุตระมันเลือนไปหมดแล้ว อาตมาได้โลกุตรธรรมก็เอามาฟื้นมาสาธยาย มันค้านแย้งกับที่เขาอธิบายกัน หากไม่ค้านแย้งกันมันก็ตรงกันสิ แต่นี่อาตมาอธิบายมันก็ไม่เหมือนกับเขา ถ้าหากอาตมาไม่ถูกเขาก็ถูก แล้วอันนั้นคุณว่ามันถูกไหม ถ้าอันนั้นถูกอาตมาก็ผิด แต่ถ้าอันนั้นผิดอาตมาก็ต้องถูกมันก็มีเท่านี้แหละสัจจะ ใช่ไหม นี่คือสัจจะ อาตมาไม่ได้งงไม่ได้สงสัย หากไม่เป็นเช่นนี้มันก็ไม่ใช่อาตมามาประกาศได้อย่างไร 

ประเด็นที่อาตมาพูดว่า อาตมามาชาตินี้มาประกาศว่าอาตมาเป็นไก่ตัวพี่ มันไม่มีไก่ตัวพี่ที่จะมาเจาะกระเปาะออกมาก่อนในยุคนี้ อาตมานี่เป็นไก่ตัวพี่เจาะกระเปาะออกมาก่อน เอาโลกุตระมาเปิดเผย ซึ่งมันหายไปหมดแล้วเหมือนอาณิสูตร พระพุทธเจ้าได้พยากรณ์ไว้แล้วว่าต่อไปโลกุตรธรรมจะหายไปหมดมีแต่โลกียธรรม 

พูดให้ตรงๆไม่ได้เหนียมอายไม่ไว้หน้าเถรสมาคมว่าไม่มีแล้ว ทางโน้นมีแต่ดอกใบผลโลกียธรรม เปลือกคือศีลก็ไม่มี เขาไม่มี จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล เขามีแต่วินัย 227 ยึดถือพระวินัยเป็นศีล ซึ่งวินัยกับศีลนั้นต่างกันเขาก็ไม่รู้ ยิ่งมหาศีล..เถรสมาคมเละหมด ละเมิดศีลของพระพุทธเจ้าเลย 

_เกร็ดศรี บุญศิริ : Facebook ชัดเจนมากค่ะ อวิชชา จังเลย ชัดเจนดีครับผม

พ่อครูว่า..ชมหรือติกันแน่ 

_เกษรา ตั้งฉัตรกมล : อากาศไม่ดีหมอกควันเยอะฝนไม่ตกร้อนลิ้นจี่ลำใยล่วง

หมด ต้องทำใจสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะน้ำมือมนุษย์ทำลายเองเพราะความโลภสารเคมีเอามาทำลายแผ่นดิน ตื่นเถิดชาวไทยอยู่อำเภอฝาง จ.ชม.

_Muu Pana หมู ปานา : เจริญชีพด้วยการก้าว เป็นหนังสือของชาวอโศกที่อ่านจบเป็นเล่มแรก อ่านแต่ละครั้งเข้าใจไม่เหมือนกัน ดีจริงๆ ค่ะ

พ่อครูว่า..เหมือนกับคุณอ่านพระไตรปิฎกเมื่อคุณได้ศึกษาปฏิบัติธรรมไปเรื่อยๆและคุณไปอ่านเล่มเก่าตรงที่เก่า คุณก็จะรู้สึกเหมือนอ่านใหม่มีอะไรใหม่เรื่อยๆ ฉันเดียวกัน 

_อานนทฺ ไชยเสนา : สำนักมึงยังเอาตัวไม่รอดแล้วจะสอนใครได้ให้ไอ้เทือกจูงจมูกอีกตะหาก

พ่อครูว่า..สำเนียงส่อภาษากิริยาส่อสกุล …พวกเราอยู่รอดไหม?…รอด พวกเราเป็นพวกจนแล้วจนรอด จนสมบูรณ์ พวกเราจนแล้ว แล้วก็รอดแล้ว สบม. เขาบอกว่าเอาตัวไม่รอด คนไหนหนอมาดูอโศก 

สู่แดนธรรมว่า…คนที่เอาตัวรอดได้ คือคนที่เป็นคนจน 

พ่อครูว่า…คนที่จนแล้วไม่ต้องจนอีกเพราะจนจนจบ มันสบายแล้ว หนึ่งเป็นคนไม่มีสมบัติอะไรอีกแล้วเป็นอนาคาริกชน ไม่มีทรัพย์ศฤงคารบ้านช่องเรือนช้างของตนแล้วขึ้นใช้อยู่ในสาธารณโภคีมันจบแล้วเป็นเศรษฐกิจที่สุดยอดของพระพุทธเจ้า 

_สิกขมาตุกล้าข้ามฝัน..โศลกพ่อครูว่า ไม่มีวันจนอีกแล้วไม่มีวันตกงานอีกแล้ว 

พ่อครูว่า..มันสุดยอด คำว่าจนคำนี้ อาตมาว่า อย่าว่าแต่ในประเทศไทยเลยในโลกก็ไม่มีใครพูด มีอยู่ 2 คนเท่านั้นที่พูด มีในหลวงร.9 กับ โพธิรักษ์ พูดว่าให้มาเอาแบบจน ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านตรัสด้วยความจริงพระทัยของท่าน ท่าน ไม่ได้ตรัสเล่นๆนะ แต่จริตท่านไม่ได้เน้น ท่านสุภาพนิ่ม แต่อาตมาเน้น ก็ต่างกัน อาตมานี่เอาสัจจะเข้าว่า จริงจัง

ใครสังเกตดีๆ อาตมาแสดงธรรมจะจริงจังแต่พอไม่แสดงธรรมอาตมาเป็นคนขี้เล่น แต่ถ้าเผื่อว่าแสดงธรรมแล้ว มีคนว่าอาตมาเวลาแสดงธรรมเหมือนกับเข้าทรง องค์ลง แต่เวลาไม่แสดงธรรมเหมือนเล่น อันนี้จริง

คุณอานนท์ให้มาศึกษาให้ดีๆ แน่นอนสอนคุณก็คงยาก แต่ คนที่มีภูมิปัญญาเขาได้นะ แล้วเขาคงหมายถึงให้คุณสุเทพ เทือกสุบรรณจูงจมูกอาตมาตรงไหนที่ไหน คุณสุเทพน่ะตามอาตมาออกมา อาตมาพาปักหลักประท้วง อาตมาพาประชาชนประท้วงปักหลักอยู่ตั้งนานที่ถนนราชดำเนิน เสร็จแล้วสุเทพเขาก็เป็นนักการเมืองเอาไปเอามาเขาก็คิดได้อย่างไรก็ไม่รู้ไปรวมพลขึ้นมาไปรวมพลที่สามเสนก่อน แล้วก็ตามมาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแล้วก็มาสมทบรวมกัน ใครจูงจมูกใคร เคยตามใคร นี่เป็นสัจจะที่อาตมาไม่ใช่พูดยกตัว แต่ว่าสุเทพเขาเป็นนักการเมืองโดยตรง เขาก็เห็นแล้วว่าต้องอย่างนี้เขาก็มา เขามีภูมิปัญญารู้ว่าต้องทำอย่างนี้ จึงเกิด พลังประชาชนออกมาเป็นล้าน เพราะเขามี Good will อาตมาเป็นคนไม่มีฐานะทางสังคมการเมืองแต่สุเทพเขาขึ้นมาก็เต็มเลย ถ้าใครอ่านสัจจะของรัฐศาสตร์อ่านเรื่องของการเมืองเป็นจะเข้าใจ แล้วเราก็ปักหลักด้วยการประท้วงที่เป็นแบบอย่างของประชาธิปไตย ประท้วงคือการประหารรัฐบาล ทำรัฐประหารรัฐบาล ด้วยการใช้พลังของประชาชนที่สงบไม่มีอาวุธเอาความจริงมาเป็นอาวุธเอาความจริงมาบอกยืนยัน จนพวกคณะรัฐบาลต้องแพ้ความจริง เพราะประชาชนรู้ตามรู้จริงรู้ทันไม่เอาด้วยไม่เอาด้วยจนสำเร็จ ด้วยความสงบไม่ต้องฆ่าแกง เป็นการประท้วงโดยสันติอหิงสา สุดยอด เป็นตัวอย่างอันดีงาม 

เขาไม่ยอม ทักษิณไล่ได้แล้ว เอานิมินีสมัครมาก็ไล่ได้อีก เอาสมชายก็ไล่ได้อีก เอายิ่งลักษณ์มาก็ไล่ได้อีก นี่คือบทบาทของอำนาจประชาธิปไตย sovereignty ของประชาธิปไตย 

_ดช.คิน…จะถามว่า นินทาแปลว่าอะไรครับหลวงปู่

พ่อครูว่า..ตอบ นินทนาแปลว่า เว่าพื่น ภาษาอีสาน นินทาแปลว่าพูดตำหนิลับหลัง เรียกว่านินทา เป็นคำตำหนิที่พูดลับหลังเขา คนที่เราตำหนินี้เราพูดลับหลังเขา นั่นคือนินทา พูดภาษาง่ายๆฟังแล้วชัดๆ 

ผ่านไปแล้วคุณก็ไม่รู้ว่าใครจูงจมูกใครคุณก็อยู่ในภพ อาตมาออกมาจากภพจูงจมูกแล้วเราไม่เกี่ยว ใครจะอยู่ภพภูมินั้นจะทำอยู่ก็ว่ากันไป เราผู้ที่มีภูมิปัญญาแล้วไม่เป็นอย่างนั้นแล้วไม่อยู่ในภพภูมิอย่างนั้นแล้ว 

_สิงหา แซ่ตึ้ง : ฟังแล้วเข้าใจลึกขึ้นมากๆครับมีสภาวะรองรับด้วยครับ

พ่อครูว่า..ดีมาก

_ประนอม แพโสภณ : ชอบและศรัทธามาตั้งแต่มีสันติอโศกเริ่มต้นในประเทศนี้

_Choti Mangkood โชติ มางขูด … อีกแง่มุมหนึ่ง 7 วันอันตรายช่วงสงกรานต์ในปีนี้ คนที่ตายเป็นเบือ บนท้องถนนจากการกินเหล้าเฉลิมฉลอง คงจะไม่มี เพราะ ร้านเหล้าปิด ตั้งวงเหล้าหน้าบ้านก็ไม่ได้ เป็นแบบนี้ทุกๆปี ก็น่าจะดีไม่น้อยนะครับ

พ่อครูว่า..ทำได้จะเป็นเบสเรคคอร์ดแล้วให้ทำอย่างนี้ทุกปีเลย มีคนเห็นด้วยเห็นดีมากลุงตู่ทำเลย โอ้โห อันนี้มันจริงๆเลยอาตมาว่าพวกที่กินเหล้ามันจะไม่เห็นด้วยเท่านั้นแหละ หรือพวกที่ขายเหล้ามันก็จะไม่เห็นด้วยเท่านั้นแหละ แต่คนส่วนใหญ่จะเห็นดีเห็นด้วยเลยเอาเลยได้โอกาส โอ้โห ขอบคุณโควิด ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้มองเห็นถ้าไม่มีอย่างนี้ก็ไม่เกิดดวงตา พวกติดเหล้าขายเหล้าก็จะไม่ชอบ

_เรื่องต้นทักษิณ ไมยราบยักษ์…ไม่น่าเป็นห่วง หลังน้ำท่วมรู้สึกว่ามันลดน้อยลงมาก (พ่อครูว่าพรึบเดียวมันก็ขึ้นแล้ว) ถ้ามันเกิดขึ้นในแปลงผักรู้สึกว่าหนามแหลมคมและยาวของมัน ทำไมเหลือน้อยมาก ก็รู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยหลังจากที่ได้ไปตัดมันทิ้งในแปลงยอดมันของอาแอ๊ดว่า ทำไมน้ำมันเหลือน้อยนิด (สม.กล้าข้ามฝันว่า…ที่มันอยู่ในแปลงผักต้นมันอวบมันอุดมสมบูรณ์หนามันก็เลยไม่แข็ง แต่ตอนที่อยู่นอกแปลงผักนั้นมันแห้งมันก็เลยมีหนามแข็ง) คือพ่อครูสอนคนชั่วเข้ามาอยู่ในสนามแม่เหล็กของคนดีก็จะกลายพันธุ์ทีละเล็กละน้อย แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือตอนนี้ต้นทักษิณกำลังออกฝัก เหลืองอร่ามงามตาอยู่แถวริมมูล (พ่อครูว่า…เอามาทำกาแฟมันเหมือนเมล็ดถั่วเอามาทำถั่วกาแฟกาแฟถั่วเหลืองก็เคยทำ เป็นกาแฟไมยราบยักษ์ หากมีสัก1 คนตามล่าฝักทักษิณมาใส่เตาฟืนก็คงดี อย่าให้ขยายพันธุ์มากกว่านี้ 

_พริกเชื่อม…ข้อดีของการอยู่บ้าน 10 ประการ

1 ช่วยชาติแบบประโยชน์สูงประหยัดสุด 

2 ครอบครัวอบอุ่นอยู่กันพร้อมหน้า

3 ได้ทำอาหารกินเองสะอาดประหยัดปาก 

4ได้เวลาทำ 5 ส.บ้างสักที

5 คิดวิธีออกกำลังกายได้หลากหลาย 

6 เพิ่มพื้นที่สีเขียวทำสวนปลูกผักกินเอง 

7 ประหยัดค่าน้ำมันรถ และอื่นๆ ฯลฯ งดเที่ยวเตร่ 

8 ตัดเส้นทางอบายมุขทุกแขนง 

9 มีเวลา Update สถานการณ์Covid 19 จากโฆษก ศคบ

10 ค่ำ ๆเพิ่มอาริยทรัพย์ฟังธรรมพ่อครู หรือดูซีรีย์พระพุทธเจ้ามหาศาสดาเอกของโลก จากช่องเวิร์คพอยท์ 

_ขออธิบายหัวข้อสัมมัปปธาน 4 อายุมากอย่าคิดมากให้มากเรื่อง คิดให้เปลืองเวลายิ่งมีน้อย อายุมากต้องเริงร่าอย่าเหม่อลอย ต้องปล่อยวางบ้างจะดี อายุมากต้องคิดบวกอยู่เสมอคงได้เจอความสงบ 

_เด็กบ้านราชคุยกัน กวนอิมกับกวนอูเป็นญาติกันไหม มีคำว่ากวนเหมือนกัน จุดหนึ่ง ของปลายทางโควิด คือไม่พบเคสผู้ป่วยใหม่เป็นศูนย์ติดต่อ 14 วันค่ะ 

พ่อครูว่า… มีแต่เพียงน้อยลง แต่ตอนนี้ยังมีเพิ่มอยู่ หากเมืองไทยไม่เพิ่มรายใหม่เป็น0รับรองดังทั่วโลก

สู่แดนธรรม..ผมขอพยากรณ์ว่า ประเทศไทยจะมีสถานการณ์ดีขึ้นหลังจากวันที่ 15 เมษายนนี้เป็นต้นไป จะสิ้นสุดระยะของการควบคุม 

พ่อครูว่า..สุภาษิตจีนเขาบอกว่างานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา โควิดนี้มันก็จะต้องมีวันเลิกราวันใดวันหนึ่ง แม้ตัว โควิดเอง จะไม่เลิกราแต่คนก็ต้องคิดหาวิธีให้มันหยุดมันชะงักเช่นมีวัคซีนเป็นต้น คนต้องเอาชนะ หากไม่ชนะตายหมดเลย แต่มันร้ายกาจนะโควิดมันเก่ง มันมาแบบไม่รู้ตัวคนมีเชื้อโดยไม่รู้ตัว มาตรวจเจอแต่ไม่ออกอาการมันเล่นซ่อนหาแบบนี้ยาก เข้ามาอยู่ในคนไม่ให้คนรู้ตัวดูไม่ออกแต่มันพร้อมจะแพร่เชื้อต่ออันนี้สิยุ่ง อันนี้มันเก่ง 

_หายโง่…ได้คุยกับเราโน่ เปรียบเทียบระบบรัฐสวัสดิการของฟินแลนด์กับของบ้านราช เราโน่ สรุปว่ารับสวัสดิการของฟินแลนด์ทำให้คนขี้เกียจเห็นแก่ตัวขาดความกตัญญู แปลว่าไม่จำเป็นจะต้องทำอะไร ถ้าตกงานก็จะให้เงิน คนก็เลยอยากตกงานเพราะว่าจะได้รับสวัสดิการของรัฐ พ่อแม่ที่เข้าไปอยู่สวัสดิการรัฐลูกก็สบายใจไม่ต้องเลี้ยงไม่ต้องกตัญญู ทำให้คนฟินแลนด์โง่ ไม่สนใจเรียนรู้สิ่งมีประโยชน์ เด็กๆก็อยากจะเรียนรู้เรื่องฟอร์มูล่าวันยิมนาสติก ระบบสาธารณโภคีของบ้านราช คนจะอยู่ในนี้ต้องมีความซื่อสัตย์ขยันกตัญญู เขาพูดถึงตัวเอง 14วันที่ได้ถูกกักตัว มีญาติธรรมเอาอาหารมาให้ เขาก็รู้สึกว่าต้องตอบแทน ไม่เหมือนรัฐสวัสดิการ 

ตอนนี้ฟินแลนด์ว่า หมอที่ฟินแลนด์ ขาดแคลนหน้ากากอนามัย เพราะสั่งซื้อมาจากประเทศจีนแต่ไม่ได้คุณภาพ อาจจะมีเรื่องของการทุจริตคอรัปชั่น โควิดทำให้เปิดเผยคอรัปชั่น ฟินแลนด์เป็นแชมป์ประเทศที่มีความสุขมากที่สุด 3 ปีซ้อน 

พ่อครูว่า…ตกลงชาวอโศกมีความสุขมากี่ปีแล้ว มีคนตอบว่า 40 กว่าปีแล้วพ่อครูว่าชนะฟินแลนด์ลิบเลย 

คำว่าความสุขนี้ ในบรรดาศาสนาทั้งหมดในโลกจะมีศาสนาพุทธเท่านั้นที่ปฏิเสธความสุข และศาสนาพุทธทุกวันนี้ก็ได้ลืมไปแล้วว่าศาสนาพุทธปฏิเสธความสุข เพราะความสุขกับความทุกข์เป็นอันเดียวกัน เป็นมายาทั้งคู่ พยัญชนะของพระพุทธเจ้าชัดเจนเลยว่าสุขคือ สุขขัลลิกะ สุขเป็นความตอแหล เท็จ เป็นเรื่องหลอกลวงเป็นเรื่องไม่จริงเป็นมายา สุขขัลลิกะ สุขมันเป็นเรื่องไม่จริง แล้วทำไมไปเรียกทุกข์ว่าเป็นอริยสัจ แต่สุขไปเรียกอัลลิกะ

ก็เพราะว่าโดยเอาอรรถะโดยความหมายอย่าไปสนใจเรื่องสุข มันเป็นเรื่องตอแหลเรื่องหลอกเรื่องมายาเรื่องไม่จริง จริงๆแล้วสุขกับทุกข์มันเป็นอันเดียวกันมันเป็นเรื่องเดียวกัน  เทฺว 

ทุกศาสนาในโลกไม่รู้จักเทวดาจมอยู่ในเทวไม่รู้จัก 2 แต่ยึดเป็นหนึ่ง เทวะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเป็นหนึ่งมีอำนาจมีความพิเศษมีคำสอนมีอำนาจตรงนี้ตีไม่แตกเลย ศาสนาพุทธแตกแบ่งออกเป็น 2 และก็แยกเรียนให้รู้ทีละ 2 เทวธัมมาไปเรื่อยๆ จนเข้าถึงปรมัตถ์กายเวทนาจิตธรรมก็แยกเป็นทีละ 2 จนครบ 108 เวทนา 108 จึงได้รู้ว่าสัจธรรม จบสมบูรณ์อยู่ที่เวทนา อยู่ที่ความรู้สึก ความรู้สึกที่คนไม่รู้จักเลยคือความรู้สึกสุข คนที่ไปยึดถือความรู้สึกสุขก็เป็นพวกสุขนิยม ยึดความสุขเป็นความเที่ยงแล้วเป็นความสุขนิรันดร 

ผู้ที่เป็นเทว 1 ที่ยอดสุดแล้วคือพระเจ้า ยิ่งใหญ่ที่สุดเป็นเจ้าแห่งสวรรค์เป็นเจ้าแห่งความสุข คนทุกคนอยากได้ความสุขต้องขอจากพระเจ้าอวยพรจากพระเจ้า พระเจ้าต้องให้เป็นพระประสงค์ของพระเจ้า ผู้ใดเป็นทุกข์ก็เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าถูกพระเจ้าลงโทษ เพราะฉะนั้นจงพยายามอ้อนวอนพระเจ้าเอาใจพระเจ้า หรือจริงๆก็คือปฏิบัติตามคำสอนของพระเจ้าให้ตรงให้ดีที่สุด แล้วคุณก็จะสุขตามคำสอนพระพุทธเจ้า เพราะพระเจ้าเป็นเจ้าของสุข 

แต่ของศาสนาพุทธนั้นตีทิ้งความสุขตีทิ้งความทุกข์ ไม่มีสุขไม่มีทุกข์ อทุกขมสุข หรืออีกไวพจน์คือ อุเบกขา 

ต้องทำอารมณ์ตัวแท้ของความรู้สึกคือเวทนา เมื่อเรียนรู้เวทนา หมดความสุขหมดความทุกข์แล้ว ผู้ที่หมดความสุขความทุกข์สมบูรณ์แบบถาวร ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุกัมมัญญา ปภัสสรา อย่างอเนญชาถาวร ตลอดเวลาคนนั้นคือพระอรหันต์สมบูรณ์แบบ เป็นพระอรหันต์คือผู้หมดความสุขหมดความทุกข์สมบูรณ์แบบ 

ปฏิบัติตามพระพุทธเจ้าก็เอาประเด็นความสุขความทุกข์นี้มาปฏิบัติแล้วจึงเกิด วิชชา8 จะเกิดจิตโลกุตรจิต มีโลกวิทูรู้โลกแล้วมีโลกานุกัมปายะ เป็นตัวพระเจ้าแท้เป็นผู้ที่ช่วยโลกเป็นผู้ที่อนุเคราะห์โลก พูดภาษาที่ซาบซึ้งที่สุดคือรับใช้โลก 

หากพูดภาษาผยองๆ คือเป็นผู้ที่สร้างโลก คือเป็นพระเจ้าตัวแท้เลย   เพราะฉะนั้นศาสนาพุทธจึงรู้จักความเป็นจริงของวิญญาณของธาตุรู้ ของความเป็นเทวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือพระเจ้า เพราะฉะนั้นศาสนาพุทธจึงศึกษา ในเทวนิยมเขาก็ศึกษาว่า วิญญาณของมนุษย์ทุกคนก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระเจ้าเมื่อตายไปก็จะไปอยู่กับพระเจ้าหมด    ส่วนใครตกนรกพระเจ้าจะเป็นผู้บัญชาการเองเป็นผู้สั่งการ ผู้ที่ไม่ตกนรกก็อยู่กับพระเจ้าไปสูงสุดก็ปฏิบัติตามคำสอนพระเจ้าไม่ให้ลงนรก จึงเป็นศาสนาที่มีสวรรค์มีความสุขนิยมนิรันดร พ้นความสุขทุกข์ไม่ได้ 

มีแต่ศาสนาพุทธศาสนาเดียวเท่านั้นที่หมดความสุขบนความทุกข์ 

หมดเวลา 

จบ