630417_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ อาหารเป็น 1 ในโลกแต่เงินคือขยะในยุคโควิด 

630417_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ อาหารเป็น 1 ในโลกแต่เงินคือขยะในยุคโควิด 

อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวน์โหลดเอกสารที่…  

https://docs.google.com/document/d/1wD-3-fPjAGVXty7ORxHuIU1nu4Be3vi-bXEta4j7JOw/edit?usp=sharing                               

ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/open?id=1dpeaTIf7TBY9bmVxJi4D9GYtmWXRbooF 

สมณะฟ้าไทว่า…วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 17 เมษายน 2563 ที่บวรราชธานีอโศก ตอนนี้สถานการณ์โควิด ก็ต้องติดตามดูอยู่ ที่อุบลฯ วันนี้คนติดเชื้อคนสุดท้ายก็หายแล้ว ไม่มีคนติดเชื้อรายใหม่ ส่วนเราอยู่ที่อ.วารินชำราบ มีน้ำเยอะ เราทำกสิกรรมให้เขียวเต็มที่เลย 

พ่อครูว่า…630417  SMSวันที่15-16เม.ย.2563

_ขวัญ เขตบุญ • น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่งคะ กราบนมัสการท่านสมณะฟ้าไท ด้วยความเคารพ ลูกก็เชื่อมั่นตามพ่อครูค่ะ ถึงพ่อครูจะไม่อยู่แล้ว ท่านสมณะสิกขมาตุทุกรูปของอโศกท่านบรรลุธรรมในธรรมที่เป็นสัมมาปฎิบัติ ที่รู้จริงเป็นจริงตามที่พ่อครูพาทำค่ะ

_WaewAmnat แว๋ว อำนาจ • แม้ตัวไม่ได้อยู่ใกล้พ่อ ลูกคนนี้ก็จะเพียรปฏิบัติให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ค่ะ โลกข้างนอกมันเร่าร้อนรุนแรงเหลือเกิน แต่ก็ต้องอยู่รับใช้วิบากให้มันจางคลายลงค่ะ

_SurapaLimwannasathian สุรภา ลิ้มวนเสถียร• ความอยากที่จะได้เงินกับรัฐบาล5000บาทก็อยากได้แต่ต้องลดความอยากเพราะท่านสิกขมาตุเตือน ขอบคุณคะ

_จักรพล พุทธพัฒนา • ถ้าเถรสมาคมกับรัฐบาลยอมรับอโศกได้ป่านนี้ไปโลดแล้วครับ 

/การทำจิตให้อยู่กับปัจจุบันของผมคือมีสติจับจิตที่ออกไปแล้วดึงกลับมาเสมอหรือรู้ตัวก่อนที่จะคิดอะไรคิดเท่าไหร่มากหรือน้อยเป็นต้นครับ.

พ่อครูว่า…ถูกต้องแล้วคุณทำให้ได้ทำให้จริง 

จุดสำคัญของชีวิตอยู่ที่ปัจจุบัน

คนที่รู้จุดสำคัญของชีวิตว่าไม่มีอะไรหรอกอยู่ที่ปัจจุบันนี้แหละ อดีตกับอนาคตไม่จริงเท่ากับมาอยู่กับปัจจุบัน แล้วเรียนรู้กับสัจจะ แล้วเราก็รู้ดีรู้ชั่วรู้ผิดรู้ถูกอะไรควรไม่ควรต่างๆ คุณจะรู้ได้ไปหมดเลย จริงๆแล้วอดีตเราก็พอจำได้ อนาคตเราก็เก็งความจริงได้ อดีตอะไรผ่านมาดีชั่วอย่างไรเราก็เข้าใจ เพราะฉะนั้นมันไม่หายไปไหนหรอก มันเอามาใช้มาเทียบเคียงเสมอ เราไม่ทิ้งมันเป็นสัญญาของเราอยู่แล้ว เราสัมผัสอะไรเราก็จะสามารถที่จะเปรียบเทียบ สามารถที่จะวัดค่า ตามที่เราเคยรู้เคยจำเคยเข้าใจเคยอะไรได้ ก็จะตัดสินใจได้ คนที่รู้จักจุดยืนของชีวิต หมดอดีตหมดอนาคตอยู่ที่ปัจจุบัน คนนั้นสบายที่สุด นี่คุณจักรพลนี้ก็ดี พยายามเข้าใจและได้จุดสำคัญแล้วก็ดี

ปัจจัย 4 สำคัญกว่าเงิน

พ่อครูว่า…เรื่องเงิน 5,000 บาทเพราะเราไม่ต้องไปแย่งชิงไม่ต้องไปรับกับเขาหรอก ไม่ต้องเป็นตัวที่ขัดเขา ที่เขาเดือดร้อนวุ่นวาย เราไปรับเงิน 5,000 บาทไม่ดีหรอกให้คนอื่นมารับไป 5000 ดีกว่า เขาเดือดร้อนกว่า จะเป็นตัวทับถมทุกข์ให้แก่ประชาชน เรื่องเงินมันแค่เป็นตั๋ว ถ้าใครเข้าใจแล้วว่าชีวิตเรามีปัจจัย 4 ของชีวิตอยู่ พออยู่พอกิน แล้วเราก็รู้ว่าในโลกมันปรุงแต่งหลอกกัน อันนั้นก็น่าได้น่ามีน่าเป็น เรามีภูมิปัญญารู้แล้วว่าเราก็พอแล้ว เรามีปัจจัยพอแล้วกับการใช้ชีวิต ก็สุขสำราญเบิกบานใจแล้วพอแล้ว คนที่สันโดษหรือคนที่มีใจพอ พอคำนี้เป็นคำที่สุขสบาย เป็นคำที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าเราหยุดแล้วแต่เธอสิยังไม่หยุด คำนี้ ‘เราหยุดแล้วเราพอแล้ว’ ไม่ดีดดิ้นแย่งชิงกระดี๊กระด๊าในโลก เราเข้าใจชีวิตเราพฤติกรรมเราที่มีอยู่ในสังคม นอกจากพฤติกรรมแล้วเรายังมีมิตรดีสหายดีสังคมสิ่งแวดล้อมดีด้วย เป็นที่พึ่งอันเกษมสมบูรณ์แบบแล้วนะ ตัวเราก็พึ่งพาเราได้จริง พึ่งพามิตรดีสหายดีสังคมสิ่งแวดล้อมดีได้อีกด้วย ถ้าคนไม่รู้จุดสำคัญนี้คุณไม่รู้จบ อาตมาว่าคุณก็ต้องดีดดิ้นต่อไปอีก หากใครรู้จริงแล้วจบ 

โกหกว่ากินไข่แล้วแพ้ ที่จริงคือชนะ

_SomnuekLailak สมนึก ลายลักษณ์ • กราบนมัสการพ่อครูเจ้าค่ะ ลูกทานมังสวิรัติมาตลอด เพื่อนบอกว่าไข่ทานได้ ลูกคิดในใจว่ามันเป็นบาป เลยโกหกเพื่อนว่า กินเข้าไปแพ้ รู้ว่าผิดศีล เจ้าค่ะ

พ่อครูว่า…เขาบอกว่าคุณไม่ได้โกหกหรอก ขืนคุณกินไข่เข้าไปคุณแพ้สัจธรรม เพราะฉะนั้นคุณไม่ได้กินไข่คุณไม่โกหกเขา ถ้าไปกินมันแพ้ ไปกินมันถูกแล้วมันชนะสมบูรณ์มันไม่ควรกิน ถ้าคุณไปกินก็เท่ากับคุณแพ้ มันก็ยังโง่อยู่ แต่นี่คุณชนะแล้วคุณไม่ได้โกหกเขา ขอยืนยัน 

_7230 พ่อครูควรเจริญอิทธิบาท๔ด้วยการแสดงธรรมอายุจะยืนยาวได้ฟังแต่หมอไม่เคยเห็นหมอไม่ตายสักคนควรแสดงธรรมสองชั่วโมงอายุจะยืนยาว

พ่อครูว่า…คุณว่าอาตมาไม่มีอิทธิบาท 4 ในการแสดงธรรมทุกวันนี้หรือคุณถึงมาแนะนำอีก อาตมาท้อใจอาตมาถดถอยไม่อยากแสดงธรรมแล้ว ต้องให้สหัมบดีพรหมมาอาราธนาหรือ 

พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าอิทธิบาทจะทำให้คนอายุยืนยาว ก็ดี อาตมาใช้อยู่ หมออาตมาก็ต้องเชื่อ พระพุทธเจ้าอาตมาก็ต้องเชื่อตามควรอาตมาใช้มหาปเทส 4 

ธรรมารมณ์คืออะไร ใจคืออะไร

_2860 ธรรมารมณ์สัมผัสกับใจ อยากทราบว่าธรรมารมณ์คืออะไร ใจคืออะไร อยู่ตรงไหนของร่างกาย

พ่อครูว่า…ธรรมารมณ์ คือความรู้สึก เวทนา ความรู้สึกที่มันทรงไว้ เรียกว่าธรรมะ มันเป็นพยัญชนะที่บอกความเป็นอยู่ มันคู่กับมโน ธรรมารมณ์กับมโนรมย์ เกิดจากธรรมายตนะกับมนายตนะ สัมผัสก็เกิดอารมณ์อยู่ที่ใจ คือธรรมารมณ์ 

ใจคืออะไร ใจคือ ภาษาไทย ถ้าจะบอกตรงๆ ภาษาบาลีคือจิต  จิตคือธาตุรู้ ธาตุรู้ที่มีบทบาท กรรมกิริยา ขยายกรรมกิริยาของจิตเรียกเจตสิก จิตที่มีอาการต่างๆก็เอามาแจกแจง มีเท่าไหร่กี่ดวง พระอภิธรรมก็แจกเป็นเจตสิกอีกกี่ดวงไป เอามาอธิบาย 

ส่วนวิญญาณเป็นคำรวม ธาตุรู้ที่รวม แบ่งเป็นขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ 

ส่วนมโน คือธาตุลึกของจิต ธาตุละเอียดลึกของจิต ผู้ที่สามารถจับรายละเอียดของความลึกอันนี้ได้เรียกว่า มโน คนพูดว่า มโน แต่ไม่ได้เรียนรู้ลึกรายละเอียดพวกนี้หรอก ผู้ที่ศึกษา มโน ได้ง่ายๆต้องรู้มาแต่ขั้นหยาบ ขั้นกลาง จึงเรียนรู้ขั้นมโนได้

อาตมาอธิบายสภาวะธรรมต่างๆผู้ที่ติดตามให้ดีๆ อาตมาไม่ได้อธิบายเหมือนอาจารย์ต่างๆ จะไม่เหมือน เพราะอาตมาเองขออภัยต้องพูดความจริง อาตมาเข้าใจสภาวะเข้าใจพยัญชนะพวกนั้นแล้วรู้ทั้งสองสภาพทั้งพยัญชนะและสภาวะ 

เรียกพยัญชนะตัวนี้คือสภาวะอย่างไรมารู้ตัวนั้นแล้วเอามาขยายความจริงเป็นพยัญชนะต่อไปอีก ที่เขาใช้กันฟุ่มเฟือย และอธิบายเข้าไปให้ถึงสภาวะ พยายามอธิบายให้พวกเราเข้าใจไปถึงสภาวะ พยัญชนะจะมีความกว้างและหลากหลายมาก ส่วนสภาวะมันเป็นตัวจริงตัวแท้ก็ต้องอธิบายดิ่งเข้าหาสภาวะต้องทำอย่างนี้อยู่ตลอดเวลา 

ใจคือ จิตคือธาตุรู้ อยู่ตรงไหนของร่างกาย ก็ตอบไม่ได้ว่าอยู่ตรงไหนของร่างกายแต่อยู่ในคูหาสยัง อยู่ในคือร่างกายที่เรามีผิวหนังหุ้มอยู่อย่างนี้ มันอยู่ในนี้แหละ และมันก็จะเกิดมาทำงาน เมื่อผัสสะภายนอกแล้วรวมอยู่ภายใน อยู่ที่ไหน คนที่เรียนรู้ธรรมะจะต้องจับอาการที่มันมีที่อยู่ ไม่มีหลักแหล่ง บอกไม่ได้ว่าอยู่ที่ไหน แต่คุณจะต้องจับอาการของมัน นิมิตของมันให้รู้ให้ได้ว่าอย่างนี้แหละ ในที่มันเกิดในนี้ที่มีสัมผัสภายนอก ถ้ามันเกิดแต่ภายในมันก็ไม่ครบ แต่ถ้าสัมผัสภายนอกมันก็ครบกว่าแต่ต้องรู้ภายในด้วยนะถ้าสัมผัสภายนอก ถ้าไม่สัมผัสภายนอกรู้แต่ภายใน พวกนั้นปฏิบัติธรรมแบบพิการ ปฏิบัติธรรมไม่เต็มเต็ง มีธาตุรู้ต้องรู้ถึง 6 ส่วนคุณเหลือแต่ส่วนเดียว ทิ้งไปเสีย 5 ส่วน พวกนี้เป็นคนถ้าเป็นคนก็พิการยิ่งกว่าคนอีเดียด โมรอน เขาให้เอาทั้ง 6 แต่นี่ทิ้งไป 4-5 เอาส่วนเดียว นี่คือความพิการของความคิดของความรอบรู้ แล้วก็ไปทำความพิการมายัดเยียดให้คนอื่นรู้ตาม คนโง่ที่รู้ตามก็เลยกลายเป็นคนที่ยิ่งกว่าอีเดียด ขออภัยเอาพยัญชนะมาอธิบายสภาวะธรรมไม่ได้ไปด่าว่าใคร ศึกษาให้ดีแล้วจะเข้าใจแล้วตื่นเสียที อาตมาปลุกให้ตื่นนะนี่

นักรบธรรม.. ผมคิดว่าใจเป็นสภาวะได้หรือไม่ครับ

พ่อครูว่า…ได้

_สู่แดนธรรม…กราบนมัสการพ่อท่านครับ  วันนี้ผมขอต่อเนื่องจาก New Normal อีกเรื่อง คือ “ทุนนิยมในสหรัฐอเมริกากำลังล่มสลาย” ซึ่งเมื่อก่อนนั้นผมไม่เข้าใจ  ว่า มันจะมีเหตุผลอันใดที่ทุนนิยมทั้งโลกมันจะไปไม่รอด แต่บัดนี้ผมเข้าใจแล้วครับ เข้าใจด้วยการมองความเป็นจริงแห่งการใช้ชีวิตของคนรวยและคนจนในอเมริกา  มันมีความเหลื่อมล้ำกันมาก จึงมีเศรษฐีคนสำคัญในวงการนักค้าเงิน ได้ออกมาเตือนชาวโลกทุนนิยม ว่า 

“Cash is trash เงินสดคือขยะ ระบบการเงินโลกกำลังจะพัง แล้วโลกก็จะบ้าคลั่ง”   

บทความนี้เขียนโดย  Ray Dalio ผจก.กองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก  บริษัท Bring Water ของเขามีมูลค่า 160,000 ล้านเหรียญ USD (4.8 ล้านล้านบาท)  คนๆ นี้ จะพูดจะกระแอมอะไรออกมา คนรวยทั้งโลกก็ต้องเอาหูไปรองรับ (อิสาน ว่า โต่งหูฟัง) นาย Ray เขาชี้ประเด็นว่า

พ่อครูว่า…ชีวิตอาตมาไม่เคยใช้เงินดอลล่าร์ ตอนนี้โควิดเป็นตัวดีที่ทำให้คนเห็นว่าอาหารเป็นหนึ่งในโลก ธนบัตรเป็นเศษกระดาษ เป็นขยะ

มันเป็นเรื่องอาวุธร้ายย้อนมาทำร้ายตัวเองด้วย เหมือนขณะนี้ หากโลกบอยคอตอเมริกา ไม่ใช้เงินดอลลาร์เขาก็ตายอย่างเขียดเหยียดขาตาย แต่มันทำไม่ได้ไม่มีใครเขาทำไม่มีใครเขากล้าทำ ก็เลยยอมตามไป เป็นเพียงผู้ใดเห็นว่าไม่น่าจะไปส่งเสริมไปหลงใหลดอลลาร์ 

อย่างอเมริกา เขาเบ่งได้ เพราะเขาสร้างอาวุธมีความรู้ทางวิศวกรรม คิดสร้างอาวุธได้เด่นไม่มีใครสามารถที่จะทำได้ยิ่งกว่าเขา เท่านั้นแหละตรงนี้ แล้วคนก็ตกอยู่ในภาวะความกลัว ประเทศอื่นก็ต้องซื้อเอาเป็นอาวุธป้องกันประเทศ ก็เลยมีอำนาจอันนี้อยู่ในมือ เพราะฉะนั้นถ้าคนเข้าใจแล้ว ว่าชีวิตตายก็คือตายไปกลัวทำไม เอาระเบิดมาถล่มให้ตายก็ตาย โควิดมันจะทำให้ตายก็ยังไม่เป็นไรเลย ตอนนี้โควิดมันเก่งกว่า มันฆ่าคนได้ ใครไปห้ามได้ พระเจ้ายังห้ามไม่ได้เลย 

1 เงินคือขยะ เพราะเงินสดถูกพิมพ์ออกมาตลอดเวลา มีดอกเบี้ยต่ำเกือบศูนย์  แต่ไม่ถึงมือคนจนเพราะไม่มีเครดิต คนรวยมีเครดิตจึงดูดเอาเงินไปลงทุนอย่างเละเทะ ลงทุนแบบทิ้งๆ ขว้างๆ และที่ผ่านมาเป็นหนี้กันมาก แต่ก็ไม่คิดจะใช้หนี้   เพราะส่วนใหญ่แก้ปัญหาหนี้โดย พิมพ์เงินใหม่มาใช้หนี้เก่า กู้เงินใหม่มาใช้หนี้เก่า ซึ่งกระทำโดย.. 

2 ธนาคารกลางของรัฐก็พิมพ์เงินออกมาอย่างหนักหน่วง เพื่อให้คนซื้อพันธบัตรรัฐบาล  แต่แล้วเงินก็ไปไม่ถึงมือคนจน เพราะเงินส่วนใหญ่ไปอยู่ในมือคนรวยที่มีเครดิตดี แม้แต่คนที่ตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ๆ ยังไม่มีโปรเจคอะไรเลย แค่มีไอเดียดีๆ  ก็จะได้รับการอัดฉีดให้เงินไปลงทุน 

3 เงินดอลลาร์ที่พิมพ์ออกมาก็ถูกกระจายไปทั่วโลก  เงิน Local ทั่วโลกต้องขึ้นอยู่กับอเมริกา และปัญหาการเงินของแต่ละประเทศก็จะไปเป็นปัญหาให้อเมริกา  จึงจะพังตามๆ กันเหมือนโดมิโน่ที่ล้มทับกันไปตามลำดับ

4 ระบบต่างๆ ที่เลี้ยงดูประชากรอเมริกากำลังจะล่มสลาย เช่น ระบบบำนาญ  ระบบประกันสุขภาพ คนที่ทำงานแล้วฝากเงินสะสมไว้มาตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ปัจจุบันล้มเหลวหมดไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้  พวกครู หมอ ฯลฯ จึงต้องถูกบีบให้ลาออกจากระบบบำนาญ ไปเป็นลูกจ้างประจำ เพราะรัฐจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบบำนาญ คนแก่นับวันจะมีมากขึ้น คนวัยทำงานจึงต้องเสียภาษีบำรุงเลี้ยงระบบ 

5 การแก้ปัญหาการเงินของประเทศ  ไปแก้อย่างอื่นก็กลับมาเป็นงูกินหางอีก คือ ต้องมาพิมพ์เงินสดให้มากขึ้นอีกเหมือนเดิม  เพราะถ้าไปแก้ด้วยการ ลดสวัสดิการลง คนจนจะเดือดร้อนหนัก หมดโอกาสรักษาฟรี ฯลฯ ก็เตรียมเกิดการจราจลได้เลย  หรือถ้าแก้โดยเก็บภาษีเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้นักลงทุนย้ายประเทศหนี ในที่สุดก็ต้องมา พิมพ์เงินใช้อีก 

6 ระบบการเงินทุนนิยมถึงคราวจะต้องล่มสลายแน่แท้  เพราะรากฐานเดิมของทุนนิยมมาจาก คนรวยสร้างงานขึ้น แล้วจ้างคนจนทำงาน  มีงาน=มีเงินไปซื้อปัจจัย๔ เมื่อไม่มีงานก็ย่อมไม่มีเงิน ไม่มีที่อยู่ ที่นอน ไม่มีอาหาร  แต่แล้วโลกปัจจุบันคนจนจะถูกเลิกจ้างงาน เพราะนายทุนไปสร้างหุ่นยนต์อันชาญฉลาด คือ A.I. Robot มาทำงานแทน  แล้วคนจนทั้งอเมริกาจะอยู่กันอย่างไร โลกจะต้องคลั่งโกลาหลขนาดไหน ระบบทุนนิยมที่เขาวางแผนกันมายาวนาน มันใช้ไม่ได้จริงในระยะต่อมา 

ทำไมพ่อท่านจึงมองพิษสงของ พิษภัยกิเลสความเห็นแก่ตัว ของ คนที่จะแก่งแย่งกันไปในระบบทุนนิยม ได้อย่างแน่ใจว่าจะต้องเกิดปัญหาใหญ่  จนพ่อท่านต้องหันมาปูพื้นฐานความต้องการแท้จริงของมนุษย์ คือ ปัจจัย๔ ที่ควรพึ่งตนเอง ฯลฯ เหมือนรู้ล่วงหน้าว่า จะต้องเตรียมการสร้างคนให้มีคุณภาพ ด้วยการเป็นคนจนที่สุขสำราญ  “จนแล้วจึงรอด”

พ่อครูว่า…คุณเพียงเดา เหมือนรู้ว่าอาตมารู้ล่วงหน้า แต่อาตมารู้มาตั้งนานแล้วรู้มาตั้งแต่อดีตผ่านยุคสมัยมาแล้ว อดีตอนาคตก็อันเดียวกันทั้งนั้นแหละมันวนเวียนไปมา มันก็เป็นอยู่ก็ต้องรู้สิ เพราะฉะนั้นอาตมาจึงไม่ไปหลงใหลได้ปลื้มกับระบบโลกเขา เขาจะเป็นอย่างไรอย่างไร ก็ต้องดึงคนที่เคยหลงใหลอย่างพวกคุณ แล้วก็เลยไม่ไปหลงใหลตามเขา ให้เป็นคนอิสระ ไม่ได้ถูกเขาดึงไม่ได้เป็นทาสเขา ไม่ถูกโลกจูงจมูกไป ก็เลยมาอยู่อย่างนี้ ไม่ใช่มาเป็นทาสอาตมา ใครรู้สึกว่ามาเป็นทาสอาตมาไหม? ไม่ใช่ อาตมาบอกให้พวกคุณปลดแอก ปลดเชือกจูงจมูกมาเป็นอิสรเสรีภาพ 

นี่เป็นความรู้ของพระพุทธเจ้าไม่ใช่ความรู้ของอาตมา อาตมาก็ปฏิบัติตามพระพุทธเจ้า มาในยุคนี้ก็พูดอย่างเท่ว่าเป็นไก่ตัวพี่ ไม่มีใครเอาจริงเอาจังที่จะมาต่อสู้ เอาความจริงอันนี้มาต่อสู้กับโลกลวงๆมายา โลกแห่งความเป็นทาส อาตมาเอาโลกแห่งการปลดปล่อยจากความเป็นทาสมาพูด 

สู่แดนธรรมว่า…ชาวอโศกจะเป็นโมเดล 1 ของความเป็นอิสรเสรีภาพ ให้ชาวโลกรู้ว่านี่ New normal

พ่อครูว่า…ถูกต้อง พวกเรามีปฏิภาณปัญญารู้ทิศทางความสำคัญในความสำคัญหรือจุดจบของชีวิตมันควรจะอยู่อย่างไร คนเข้าใจจุดจบของชีวิตควรจะอยู่อย่างไร พวกคุณมาอยู่ที่นี่ ก็จะมามีจิตใจนิสัยอย่างไร ถ้ามีจิตใจนิสัยมีความรู้อย่างไรคุณก็อยู่อย่างตัวคุณที่คุณอยู่อย่างนี้ คุณมีความรู้ดีเป็นโลกุตรธรรมที่ดี มีนิสัยรู้ดี พวกเราหลายคนรู้ดีแต่นิสัยยังไม่ดี ไม่ได้ว่าไม่ได้ด่า จริงไหม คุณรู้ดีเข้าใจมีอะไร ละเอียด ชัดเจนเยอะแยะ แต่คุณทำนิสัยให้มันได้ตามที่คุณรู้ยังไม่ได้ (พ่อครูไอ ตัดออกด้วย) 

สมณะฟ้าไท..พวกเรารู้ล่วงหน้าไปก่อนแล้วก็ฝึกไปค่อยๆทำให้ดีเพิ่มขึ้นๆ ทำไงได้ ก็ติดมายาวนาน เหมือนพ่อครูบอกรู้มาหลายชาติแล้ว พวกเราก็สั่งสมกิเลสมาหลายชาติแล้วก็ต้องค่อยๆปล่อยออกไปจนหมดไป ใครติดหนักหน่อยพ่อครูก็เหนื่อยหนักหน่อย

พ่อครูว่า…พูดไปอีกก็จะยาว พูดอีกเท่าไหร่ก็ได้ เพราะเป็นความจริงที่มันเป็นประสบการณ์จริง ทุกวันนี้ประสบการณ์จริงมันมีสภาพจริงมาให้เราได้เรียนรู้ มันเป็นโลกยุคของ Phenomenology ปรากฏการณ์วิทยา มันเลยจาก Epistemology มาแล้ว เลยยุคเทวศาสตร์ ปรัชญา มาเป็นยุคที่อยู่กับความจริงเหตุการณ์จริงเนื้อหาจริง 

_จากลูกศีรษะอโศก

กราบนมัสการพ่อท่านที่เคารพอย่างบูชายิ่ง

ชีวิตของคนในชุมชนที่ลูกอยู่ในศีรษะฯ ลูกได้เห็นแต่สิ่งดีๆ ตลอดมา เช่น ผู้สูงอายุก็ช่วยเหลือกัน อย่างผู้สูงอายุที่หูหนวกก็มีผู้สูงวัย เขียนธรรมะจากการฟังพ่อท่านให้ได้อ่าน และท่านสมณะก็เมตตาเป็นห่วงผู้สูงวัยที่เจ็บป่วย หลายคนช่วยกันดูแล ลูกประทับใจหนุ่มสาว ศิษย์เก่าก็พากันทำอาหารถวายสมณะ และให้ชาวชุมชน พวกเขาไม่ไปไหน ขอชื่นชมศิษย์เก่าศีรษะฯ ทุกคนค่ะ และอาเปิ้มขวัญดิน ท่านมียาอะไรดีๆ ก็นำมาบริการชาวชุมชนทุกคน ขอขอบคุณ และอนุโมทนากับอาเปิ้มขวัญดิน ด้วยค่ะ 

เรื่องของ TV บุญนิยมจะปิดลูกก็กังวลมากเพราะเปิดโทรศัพท์ยังไม่เป็นเลย จะทำอย่างไรดี จะไปขอดูที่ไหนยังหาที่ดูไม่ได้ค่ะ (อยากร้องไห้) 

กราบขอบพระคุณอย่างสูงยิ่ง

พ่อครูว่า…อาตมาก็ชื่นชมศิษย์เก่าศีรษะอโศกที่มารวมตัวกันได้ดี ที่อื่นนั้นรวมตัวกันได้น้อย ที่อื่นก็เหลียวหลังดูแลหน่อย อย่าเอาแต่ข้างหน้าจนลืมหลัง 

เหมือนอาตมาเลยเปิดโทรศัพท์ก็ไม่เป็น แต่อาตมาคงมีคนบริการ ก็ดูในชุมชนชาวอโศกจะมีไว้ให้ดูส่วนกลางหรอก คงจะไม่โหดร้ายเกินไปขนาดนั้น 

มาต่ออัมพัฏฐสูตร พระพุทธเจ้าตรัสรู้ จรณะ15 วิชชา 8 สาธยายให้คนรับรู้ จนเห็นว่าฆราวาสเป็นทาง มาแห่งธุลี คับแคบ เป็นญาติปริวัตตัง โภคขันธา ก็ต้องทำการตัดขาดจากกองสมบัติน้อยใหญ่ โภคขันธาปหายะ ตัดขาดจากญาติพี่น้อง ญาติปริวัตตังปหายะ มา ปลงผมปลงหนวด รวมด้วย บวชเป็นบรรพชิต มาตามระบบของพระพุทธเจ้า เป็นอย่างไร 

ระบบของพระพุทธเจ้าก็คือ 

สมัยต่อมาเขาละกองโภคสมบัติน้อยใหญ่ ละเครือญาติน้อยใหญ่ปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ออกบวชเป็นบรรพชิต เมื่อบวชแล้วสำรวมระวังในพระปาติโมกข์อยู่ ถึงพร้อมด้วยมารยาทและโคจร มีปกติเห็นภัยในโทษเพียงเล็กน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย ประกอบด้วยกายกรรมวจีกรรมที่เป็นกุศล มีอาชีพบริสุทธิ์ถึงพร้อมด้วยศีลคุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ เป็นผู้สันโดษ.

นี่คือ paragraphสุดท้ายประโยคสุดท้ายที่ว่า สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย ประกอบด้วยกายกรรมวจีกรรมที่เป็นกุศล มีอาชีพบริสุทธิ์ถึงพร้อมด้วยศีลคุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ เป็นผู้สันโดษ.

สู่แดนธรรมว่า…ตรงนี้มีจุดเริ่มต้นว่าถึงพร้อมด้วยศีล จะไม่เป็นศีลอันเป็นอาริยะ ก็เพราะเป็นจุดเริ่มต้น จนสุดท้ายท่านถึงบอกว่าเป็นอาริยะ

พ่อครูว่า…ในสามัญผลสูตรก็จะมีบอกว่า มีศีลอันเป็นอาริยะ คุ้มครองทวารอินทรีย์อันเป็นอาริยะ มีสติสัมปชัญญะอันเป็นอาริยะ สันโดษอันเป็นอาริยะ 

แต่คนทั่วไปเขาทำก็ไม่มีการสำรวมอินทรีย์ทั้ง 6 มีแต่ใจทวารเดียว มีแต่สติทางใจไม่มีสติทางกายวาจา สันโดษก็เลยไปโดดเดี่ยวอยู่ในถ้ำดำดิ่งลึก (สู่แดนธรรมว่า…เขาว่าเข้าไปศึกษาภายในใจทวารเดียวจะรู้ได้ทุกอย่าง) ในพระไตรปิฎกไม่เห็นมีเขาพูดกันเองบัญญัติเอง แล้วก็หลงตามอาจารย์ 

ขยายความที่ว่าเป็นผู้สมาทานศึกษาในสิกขาบททั้งหลาย ไตรสิกขานี่ขยายความออกก็คือ จรณะ 15 วิชชา 8 ขยายไตรสิกขาออกเป็นจรณะ 15 วิชชา 8 

มีศีล อปัณณกธรรม 3 แค่สองอันนี้ ทุกวันนี้ศาสนาพุทธเขาก็ไม่มีแล้ว ไม่มีสำรวมอินทรีย์ โภชเนมัตตัญญุตา ชาคริยานุโยคคะ มันก็หมดแล้วไม่ต้องไปพูดถึง อปัณณกธรรม 3 

ศีลก็ไม่มีแล้วมีแต่วินัย 227 ศีลจะเอามาปฏิบัติอย่างไรก็ไม่รู้เรื่อง ไปเข้าใจย้อนกลับว่า ศีลคือการเรียนรู้ที่จะต้องเกี่ยวข้องกับกายวาจา เข้าใจว่าศีลปฏิบัติเพียงแค่กายกับวาจา 

ถ้าใครก็แล้วแต่มีแต่กายกับวาจาไม่มีใจก็ไปร่วมรู้ไม่มีใจเป็นตัวขับเคลื่อน คุณจะมีกายกับวาจาได้ไหม 

แม้พระพุทธเจ้าตรัสว่ากายกับวาจาคืออย่างไรปฏิภาณมันก็ต้องรู้ว่า ใจมันต้องมีเข้าไปร่วมขับเคลื่อนกายกับวาจา แต่เขาบอกว่าศีลนั้นเกี่ยวแค่วาจากับกายไม่เกี่ยวกับใจ 

มันเกี่ยวตั้งแต่สัตว์โลกตั้งแต่สัตว์เซลล์เดียว ก็ต้องรู้ตัวเองต้องศึกษาตัวเอง แน่นอนว่าเดรัจฉานทั้งหลายมันไม่รู้เรื่องหรอกสัตว์เซลล์เดียว สัตว์เดรัจฉานทั้งหลายที่ไม่ใช่มนุษย์ที่เป็นชาวพุทธโลกุตระธรรมเป็นอาริยะแท้ ก็ไม่สามารถที่จะศึกษาสองสภาพ ว่าต้องมีใจเข้าไปร่วมด้วยทุกอย่าง จนกระทั่งพระพุทธเจ้าตรัสว่า กายนี้ตถาคตเรียกว่า จิต มโนวิญญาณ มันเสื่อมไปหมด

อาตมาพูดอันนี้ขึ้นมารับรองเขาจะสะดุ้ง อะไรนะ กาย คือจิต มโน วิญญาณ เพราะเขาเพี้ยนไปจนว่ากายคือดินน้ำไฟลม ไม่เกี่ยวกับจิตวิญญาณ พวกคุณก็เช่นกันแต่ก่อนเข้าใจว่ากายคือร่างภายนอกเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับใจเลย ซึ่งมันผิดไปแล้ว

อาตมาหยิบเอาความจริงมาล้มล้างของพวกเรา เขาก็เถียงไม่ได้แล้วตอนนี้ แต่ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเขาเป็นเหมือนโจรร้ายปล้นศาสนา ที่พระราชาให้เอาไปฆ่าด้วยหอกก็ยังไม่ตายทั้งเช้ากลางวันเย็น ที่อาตมาพูดนี้เขาจะรู้สึกรู้สากันบ้างไหมเนี่ย

พวกที่นั่งหลับตาไม่มาศึกษาไม่มาฟังโพธิรักษ์เลย อาตมาพูดทุกวันนี้เหมือนคนหยิ่งผยองอวดรู้ พูดแล้วคนอื่นผิดหมด อาจารย์ใหญ่ขนาดไหนก็ล้มล้างเขาหมดแล้วเอ็งเป็นใครวะ โพธิรักษ์ อาตมาก็บอกไปหมดแล้วคุณก็ไม่เชื่อ อาตมาบอกจนกระทั่งเหนียมตัวเอง อวดจนรู้สึกว่าเราอวดมากไปแล้วทุกวันนี้ แต่อาตมาว่าไม่ได้อวด อาตมาบอกความจริงว่าอาตมาเป็นใคร เขาก็ยิ่งหมั่นไส้เสริมเข้าไปอีก มันห้ามคนอคติได้ยากเขาลำเอียงด้วย มันก็เลยยาก 

นักรบธรรม..พ่อครูไม่ได้มาเปิดเผยให้แค่ในไทย แต่ให้ปัญญาระดับโลก ก็สู้ไม่ได้

พ่อครูว่า…ขอบคุณยกงานให้อาตมาหนักไปมั้ง 1 เดียวจะสู้ทั้งโลก อาตมาก็ค้านไปงั้นแหละที่จริงก็ใช่

อาตมามาไขความอาชีพที่สัมมา ที่สุด 5 ประการ ไขความแล้วเอามาให้พวกเราปฏิบัติ จนพ้น มิจฉาชีพ ทั้ง 5 ข้อนี้ได้มันยิ่งใหญ่นะ เอาล่ะ ข้อ 1 กุหนา ลปนา ไม่เท่าไหร่หรอก แค่โกงกับทุจริต คนก็เข้าใจง่าย 

กุหนาคือหลอกทุจริต ทั้งกายวาจาใจ 

ลปนาคือหลอกลวง หนักไปในภาษาคำพูด พฤติกรรมกายรูปหยาบน้อยลงนี่เป็นพวกนักธุรกิจ นักการเมือง ส่วนข้อ 1โกงดื้อๆหยาบๆ แต่ข้อ 2 มีเชิงฉลาดเฉโก หลอกด้วยคำพูด เช่นนักธุรกิจ นักการเมือง อันนี้เนียนหลอกซ่อนพรางลวง ก็เลยกินได้เยอะ ส่วนข้อ1 คนรู้ง่ายก็กินไม่ได้มาก 

เนมิตกตา คือ การเสี่ยงโชค การยังไม่ได้เป็นตัวจริง ยังไม่เป็นโชคอย่างแท้จริงก็คือผู้ที่ปฏิบัติอยู่รู้จักหลักปฏิบัติแล้ว เริ่มต้นรู้จักปฏิบัติว่าจะต้องมี ศีล สมาธิ ปัญญา ปฏิบัติไปตามลำดับ เพราะฉะนั้นก็จะบรรลุธรรมตามลำดับ จนหมดมิจฉาชีพข้อที่ 3 มีอาชีพบริสุทธิ์(พ่อครูไอ ตัดออกด้วย) 

สมณะฟ้าไท..กว่าพวกเราจะไม่ใช้เงินเลย ง่ายหรือยาก ยิ่งมาเป็นนักบวช สมัยนี้ มีแต่สมณะชาวอโศกไม่ใช้เงินกระมัง พวกเราอยู่กับหมู่กลุ่มเลยทำได้ มีหมู่มิตรดีสหายดีคอย ดูแลกันได้ อย่างโควิดที่เกิด ญี่ปุ่นเขาชมคนไทย ที่ราชธานีอโศกไปที่ไหนก็มีขวดเจลแอลกอฮอล์

ข้อ 3 เนมิตกตา เริ่มรู้สึกปฏิบัติเริ่มรู้ธรรมปฏิบัติด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา พ้นจากมิจฉาชีพมาได้เรื่อยๆจนกระทั่งได้ด้วยตัวเองบริสุทธิ์ได้ครบของตัวเองพ้นมิจฉาชีพข้อที่ 3 แต่หลายคนพ้นแล้วยังมอบตนอยู่ในทางผิด เป็นทาสนายทุน ไม่ใช่ทาสของนายทุนโดยตรงก็เป็นโดยอ้อมไปทำงานอาชีพไปรับใช้รับจ้างนายทุน เกี่ยวข้องอยู่กับนายทุนทั้งหลายแหล่ ไม่มาอิสระจริง จะค้าจะขายจะทำอะไรก็ไม่ได้อยู่ในแวดวงคนบริสุทธิ์ด้วยกัน ยังมอบตนในทางที่ผิด มันก็ละเอียดซ้อน แม้แต่ชาวอโศกก็ยังมีที่ไปมอบตัวในทางที่ผิดมีแฝงอีกเยอะ 

ผู้ใดที่ไม่มอบตนใฝนทางที่ผิดก็คืออยู่ในกลุ่มชาวอโศก อยู่ในส่วนกลางชาวอโศกไม่ออกไปทำงานอาชีพมีรายได้เกี่ยวข้องกับข้างนอก พูดไปแล้วเหมือนกับบอกว่ามันตลบแตลง ทุกคนก็ขายของเกี่ยวกับคนข้างนอก เราอยู่ในชาวอโศกเกี่ยวข้องกับชาวข้างนอกจริงแต่ส่วนได้ส่วนเสียภายใน เรามาทำงานกับชาวอโศก ชาวอโศกจะมีส่วนตัวเพื่อที่จะเหมือนกับเป็นเงินสร้างรายได้ส่วนตัว ก็อยู่ในวงแคบครอบครัว ถ้าอยู่ในแวดวงชาวอโศกจริงแล้ว คนนั้นจะอยู่มาทำงานฟรี ในหมู่กลุ่มใหญ่เลย สำหรับแต่ละครอบครัวเรียกว่านายทุนน้อยซ้อนอยู่ในชาวอโศก 

ผู้ที่มีกิจการค้าก็ใช้แบบชาวอโศกบ้างกับข้างนอกบ้างก็มีส่วนผสมโลกียะกับโลกุตระไป ก็อยู่ในพวกที่มอบตนในทางที่ผิดยังไม่สมบูรณ์ หากสมบูรณ์แล้วมาอยู่ในชาวอโศกทำงานฟรี ไม่เอาลาภแลกลาภ สุดลึกซึ้งเลย แล้วคนจะมีไหม มี ในชาวอโศก

แม้ในยุคนี้ ยืนยัน พิสูจน์ได้เป็น phenomenon ไม่ใช่แค่ philosophy หรือ Epistemology เป็นปรากฏการณ์วิทยาเลย พิสูจน์จริงได้ เขาอาจจะบอกว่าเป็นแค่ลิเก มาทำดราม่า โก้ๆ 

นักรบธรรมว่า..พ่อครูซุ่มสร้างกองทัพธรรม ตอนนี้พวกเราสร้างอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จะไปสู้กับเพชรนิลจินดากระดาษพวกนั้น คืออาหาร ข้าวเปลือกคือทรัพย์แท้ของมนุษย์ เราจะเอาไปสู้กับเขารับรองว่าทั้งโลกจะยอมสยบ 

พ่อครูว่า…มาลงตรงนี้ก็ได้ อาชีพบริสุทธิ์ อาตมาก็ขอเน้น ประเทศไทยก็ตาม ควรจะต้องหันมาส่งเสริมอาชีพ กสิกรรม ให้เป็นโล้เป็นพาย ให้มันยิ่งใหญ่ มันยังไม่ยิ่งใหญ่เท่าไหร่นะงานกสิกรรมของชาวไทย มันจะยิ่งใหญ่กว่านี้ ชาวอโศกก็พยายามจะให้ดีก็นำพามา อย่างน้อยชาวอโศกก็นำพามาเป็นกสิกรรมธรรมชาติกสิกรรมไร้สารพิษมาได้ขนาดนี้ ได้ผลผลิตต่างๆนานามาจนเป็นที่ยอมรับของสังคมพอสมควร ให้เขาได้ตื่นตัวหันมาสู่อาชีพกสิกรรมส่งเสริมอาชีพกสิกรรม ให้เป็นหลักเลย 

ในเรื่องอุตสาหกรรมเราก็ไม่ทิ้งขาดที่เดียว แต่ให้เป็นรอง อย่าให้เป็นตัวเด่น ให้มีบ้าง แต่เรื่องเด่นนี้เราควรส่งเสริมสนับสนุนให้ค่า จะต้องมีจิตวิทยาดีๆ ให้ค่าของชาวไร่ชาวนากสิกรทั้งหลาย แต่อย่าให้ชาวกสิกรหลงตัวเอง อย่าให้ชาวกสิกรหลงเงิน ถ้ากสิกรหลงเงิน พังเลย เพราะข้าวต้องราคาถูก อาหารต้องราคาถูก อาหารราคาแพงไม่ได้ ถ้าหากอาหารแพงข้าวแพงคนตายก็คือคนจน แล้วคนจนนั้นมีมากคนรวยนั้นมีน้อย ถ้าหากอาหารแพงเท่าไหร่ คนรวยไม่เดือดร้อนเท่าไหร่หรอกแต่คนเดือดร้อนคือคนจน เพราะฉะนั้นจึงเป็นไฟท์บังคับเลยว่าอาหารแพงไม่ได้ 

ถ้าจะมาเป็นกสิกรรม เอาคนมาเป็นกสิกรจึงจะต้องอยู่ในฐานของแบบคนจนตามในหลวงรัชกาลที่ 9 เพราะว่าชาวไร่ชาวนาชาวสวนรวยไม่ได้ ไม่มีสิทธิ์รวย แล้วไม่ต้องทำตัวแบบนั้นต้องมีปัญญารู้ว่าเราจะไปรวยทำไมมันเป็นเศษกระดาษ เรารวยผลผลิตทางพืชพันธุ์ธัญญาหารนี้ อุดมสมบูรณ์ นอกจากจะอุดมสมบูรณ์แล้วรวย เย้ยธนบัตร เอาของไปแจกเลย ไม่เอาธนบัตรด้วย เกินนี้เราก็ไม่ให้ เราก็กินบ้าง ให้เท่าที่เราให้ได้ 

สู่แดนธรรมว่า..ต่อไปเราไม่เรียกเรารวยนะครับ แต่เรามีเหลือเฟือ หากเราเรียกว่าเราเป็นคนจนจะคาบเกี่ยวกับเขา เราบอกว่าเราเป็นพวกเหลือเฟือเลย

พ่อครูว่า…เหมือนกับอาตมาว่าเป็นคนจนที่อุดมสมบูรณ์ เรารู้ว่าเราจนธนบัตร แต่เรารวยปัจจัย 4 สิ่งที่สำคัญของชีวิต เรารวย เพราะฉะนั้นจึงมีสัมมาอาชีพ มีอาชีพบริสุทธิ์ เพราะฉะนั้นที่บอกว่า พ้น มิจฉาชีพ 5 ถึงยิ่งใหญ่ที่สุดเลย และอาตมาพาทำพาพิสูจน์อย่างที่ไม่ใช่แค่อยู่ในตำราในพระไตรปิฎก เขาบอกว่าสุดโต่ง อะไรนะคนมาทำงานฟรีไม่เอาลาภแลกลาภ แต่เขาไม่เข้าใจหรอกว่ามันหมายความว่าอย่างไรในมิจฉาชีพ 5 อธิบายไม่ออกแล้วเอาไปปฏิบัติไม่ได้ พาคนทำไม่ได้ มีอาตมานี่แหละอธิบายได้แล้วพาคนมาทำได้ 

สู่แดนธรรมว่า…มิจฉาอาชีวะ 5 ในพระไตรปิฎก มีที่ 1 บอกไว้ว่าสัมมาสมาธิของชีวิตมันคืออย่างไร ซึ่งผมก็นึกว่า การพ้นมิจฉาชีพทั้ง 5 ก็คือสมาธิประจำชีวิตของพวกเราทุกวัน เราไม่มีการโกง ไม่มีการตลบตะแลงไม่มีการมอบตนในทางที่ผิดนี่คือสัมมาสมาธิ 

พ่อครูว่า..ใช่ รวมถึงจิต จิตที่ตั้งมั่นคือจิตที่สะอาดปราศจากกิเลส จิตที่มีสมาธิต้องมีลมีทั้งความตั้งมั่นมีทั้งศรัทธาและปัญญา มีทั้ง วิริยะสติ สมาธิ ปัญญา มีอินทรีย์ 5 ครบ จิตมีอินทรีย์ 5 ครบก็จะมีพลัง พลังงานความเชื่อ พลังงานปัญญา พลังงานความขยันหมั่นเพียรพลังงานการตื่นมีสติตั้งมั่นคงจิต มีแกนจิต มีทั้งความเฉลียวฉลาดสมาธิปัญญา เป็นปัญญาที่เป็นโลกุตระ ไม่ฉลาดแค่โลกีย์เท่านั้น

มีความฉลาดโลกีย์ทั้งหมดอย่างไรคือดีของโลกีย์ อย่างไรคือชั่วของโลกีย์ โลกุตระรู้หมดแล้วทำได้ด้วย แล้วยังมีความฉลาดมากกว่านี้ ตรงที่ว่า เข้าใจว่าดีและชั่วเราไม่ยึดติดในความดีความชั่ว โลกจะสมมุติว่าคนจนคือคนที่ต่ำ คำไวยพจน์ว่า จนคือต่ำกระจอกไม่เจริญ​คนไม่สูง ต้อยต่ำ แต่ที่จริง คนที่จนอย่างมีปัญญาคือคนที่สูงและเด่นที่สุด นี่คือสภาวะมันเป็นอย่างนั้นสัจจะมันเป็นอย่างนั้น แต่คนเข้าใจไม่ได้ 

เพราะฉะนั้นในวรรณะ 9 ที่พระพุทธเจ้าตรัส นี่คือคนชั้นสูง เพราะฉะนั้นเขาอธิบายไม่ออกเขาก็เอามาขยายความแล้วพาให้คนมีวรรณะ 9 ไม่ได้ แต่อาตมายืนยันว่าพวกเรามีวรรณะ 9 เป็นคนเลี้ยงง่าย ไม่ยากไม่เย็นอะไรเช้าก็มาเข้าแถวกินข้าวเหมือนหมู เอาอาหารใส่รางเลื่อนมา ทั้งสมณะทั้งฆราวาสเหมือนกัน ใส่ล้อมาเลื่อน แล้วก็แบ่งกันกินสบาย เลี้ยงง่าย ไม่แย่งกัน (พ่อครูไอ ตัดออกด้วย)

สมณะฟ้าไท…สรุป