พ.ค.292020ศาสนา630529_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ธรรมบรรยาย อัมพัฏฐสูตร ตอน 7 ดาวโหลดเอกสารที่ https://docs.google.com/document/d/1AlG4nGz2EF5-2EueinfH8kVRNcVNrmvURXtpmct_zgY/edit?usp=sharing ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/open?id=1k-vRYJnBnGgpwNwkVY4MVe9HALMWzPaO สมณะฟ้าไทว่า… วันนี้วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม 2563 ที่บวรราชธานีอโศก เป็นรายการที่พ่อครูจะได้มาบรรยายโลกุตรธรรม ตอนนี้เขาให้ระวังโควิดระบาดรอบ 2 เพราะว่าเชื้อมีอยู่ในคนที่ไม่แสดงอาการมีอยู่ ซึ่งอาจจะหนักกว่าเดิม งานอโศกรำลึกก็ใกล้จะมาถึง วันที่ 5 มิถุนายน เป็นวันคล้ายวันเกิดของพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ อายุครบ 86 ปี ย่างเข้า 87 ปี พ่อครูว่า…โลกก็มีจุดมุ่งหมาย วันคล้ายวันเกิด ก็เป็นจารีตประเพณีเป็นค่านิยมไปทั่วโลก ถือว่าวันเกิดมาบรรจบทีนึง ในวัฏฏะของสุริยะจักรวาล ครบรอบ 12 เดือน นับไปกว่าจะถึง 86 ปีนานเหมือนกันนะ ถึงวันที่ 5 มิถุนายนก็นับเป็นเลข 87 แล้ว ก็ไม่ใช่น้อย เป็นเรื่องจริงที่อาตมาพยายามใช้พลังงานจิต พร้อมกับกาย อาตมาไม่เก่งจะอธิบายว่า จิตวิญญาณมนุษย์ที่เป็นจิตสะอาดมันมีพลังงานพิเศษ จิตที่สะอาดจากกิเลส แล้วก็มีพลังงานกุศล มีพลังงานความดีงามและสะอาดจากกิเลส พลังงานที่จิตปราศจากกิเลสเป็นจิตที่ประเสริฐแล้ว และแถมยังมีพลังงานจิตที่ขวนขวายอุตสาหะ เพิ่มพลังช่วยเหลือผู้อื่นให้ได้รับประโยชน์อย่างไม่ต้องการอะไรตอบแทนอีก ใสสะอาด มันเป็นพลังงานที่ทับทวีปฏิภาคทวีที่ซับซ้อน มีคุณค่าสูงส่ง คุณธรรมที่เป็นคุณวิเศษเป็นคุณสมบัติพิเศษอันนี้เป็นเรื่องยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องธรรมดาธรรมชาติปุถุชนที่จะไม่ค่อยรู้เรื่อง นึกไม่ออกเข้าใจไม่ได้เรื่องเหล่านี้ แต่ถ้าเป็นสัจธรรมและพระพุทธเจ้าท่านค้นพบโลกุตรธรรมมาอธิบายให้พวกเราฟัง เราจะรู้เราจะเข้าใจและเกิดในตัวเราเองเท่าที่ได้เท่าที่เป็นเท่าที่มี มันชัดเจนยืนยัน แม้มันยังไม่ได้ยังไม่มียังไม่เป็นแต่เรารู้นำไป มันก็จะรู้สึกว่าใช่แล้วที่เห็นคนอื่นทำได้ คนอื่นยังทำไม่ได้อาตมาทำได้ เป็นต้น ก็จะชัดเจนเข้าใจเห็นจริงมันชัดเจนเป็นสิ่งยืนยันมี Phenomenon เป็นปรากฏการณ์จริง ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่นี่มันเป็นไปได้เห็นอยู่หลัดๆ เลย แล้วเรายิ่งมีมวล มีประชากรมีพลเมือง คนละแง่เชิงคนละมิติ ก็เลยมีสภาพรวมที่ยิ่งชัดเจน ก็จะมีคนเข้าใจมากยิ่งขึ้น อาตมาไม่ได้หลงระเริงที่เขายกย่องเชิดชูความดี อาตมาก็ไม่ ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากมาย จิตใจก็สงบ รู้ความจริงตามความเป็นจริงและก็มีมุทิตา คือเข้าใจแล้ว ยินดี เห็นดีกับคนที่เข้าใจดีแล้วก็ได้ทำสิ่งที่ดีนี้ เรียกว่ามุทิตาจิต ยินดีด้วย แต่ก็ไม่ได้ไปวูบวาบอะไร ยินดี ลักษณะของมุทิตาจิต เป็นลักษณะที่เข้าใจยากเหมือนกัน พยายามอธิบายด้วยภาษาต่างๆก็คงจะเข้าใจได้ดีขึ้น อาตมาพยายามพิสูจน์พลังงานสัมประสิทธิ์ของพระพุทธเจ้า ตอนนี้ที่อาตมาถึงขั้นจะเรียกว่าดัดจริตก็ได้ สร้างเป็นสูตร วิทยาศาสตร์เลยนะ E=C(mc2 + A) ไอน์ สไตน์ค้นพบ E=mc2 พลังงานที่เขาใช้กันคือ มวล m กับ c คืออัตราเร่งต่างๆที่ยกกำลัง ก็คือ A จะบวกไปอีกกี่ A ก็แล้วแต่ บวกมันมากแล้วก็จะเป็นการคูณ และเป็นการยกกำลังก็เอาไปอยู่ข้างนอกวงเล็บ E=C(mc2 + A) อย่างนี้เป็นต้น คนยังไม่ค่อยเข้าใจหรอก เหมือนกับสูตรของไอน์สไตน์ ก่อนตายเขายังเขียนไว้เป็นจดหมายให้ลูกสาวเลย ให้เปิดตอนพ่อตายไปแล้ว ก็ยังไขความจริงใจออกมาพูด คือเขาจะอธิบายให้เข้าใจถึงคุณธรรมแบบนามธรรม E=mc2 แต่แกอธิบายไม่ได้ เสร็จแล้วเขาเอา E=mc2 ผ่าเอาไปใช้ทางโลกและเป็นทางทำลายด้วย หากจะไปใช้ในทางสร้างสรรก็ได้เหมือนกัน แต่กลายเป็นว่าเอาไปใช้ในทางทำระเบิดไปฆ่าเขา พลังงานที่ใช้เอาไปทำจรวดออกนอกโลกก็เอามาใช้ เพราะฉะนั้นมันอยู่ที่เจตนา เอาไปใช้ดีหรือใช้เลว แต่ของเรานี้เป็น นามธรรม หรือแม้ขั้นวัตถุธรรม เราจะต้องเป็นแต่ดี ไม่ไปหาร้าย เพราะงั้นจึงสร้างแต่วิญญาณที่ไม่ได้มีเจตนาร้ายงดเว้นตัดขาดจากเจตนาร้ายได้จริงๆ ซึ่งเป็นคุณวิเศษคุณธรรมอันวิเศษ ที่สร้างได้ ศาสนาพุทธเราสร้างได้จริงๆ แล้วพวกเราอาตมานำศาสนาพุทธที่มันได้เสื่อมจากโลกุตรธรรม ธรรมของพระพุทธเจ้ามาตั้ง 2,500 กว่าปีแล้วขึ้นมาฟื้น ซึ่งมันมีรากฐานเดิม ได้แล้วแต่มันยังซับซ้อนเพราะมันมีมวลใหญ่ กระแสหลักเป็นองค์ประกอบ อาตมามีหัวเดียวกระเทียมลีบ ซึ่งเขามีอะไรหุ้มไปหมดเลยแต่โพธิรักษ์ไม่มีอะไรหุ้มไว้เลย มันมีเหตุปัจจัยอีกมากมาย ไม่ได้ท้อหรอก พยายามจะพิสูจน์ ให้ได้นานที่สุด ให้ได้ผลจริงที่สุด ถ้าหากอาตมาทำไม่ถูกต้อง ไม่เป็นจริง ก็จะไปไม่ได้ ไม่รอดหรอก แต่ถ้ามันเป็นจริง ก็ต้องรักษาคุณภาพให้ได้มากที่สุดเป็นแกนเป็นแก่นไปในมนุษยชาติให้แก่โลกไปในที่สุด ซึ่งทุกวันนี้ก็เห็นรูปรอยแล้วเห็นไหม เข้าใจไหม ชัดจริงหรือเปล่า คงจะเข้าใจแล้วก็ชัดจริงได้ เอาเถอะ พิสูจน์ไป ไปบังคับให้คนเข้าใจมันทำไม่ได้ ยังไม่ถึงวันที่ 5 รู้สึกว่าปีนี้ อวยพรมา เอาของขวัญรางวัลมาถวายก่อนวันที่ 5 ด้วย ก็ขอบคุณ นี่ก็อวยพรมาเป็นกวี สู่แดนทอง ฉลอง ๕๐ ปี โพธิกิจ “โพธิรักษ์” นามนักสู้ กู้พระศาสน์ “ธรรมิกราช” ชาติเชื้อ ชินสีห์ ทรง”สายฟ้า-ในวาทะ” วจนีย์ ธรรมาวุธ หยุดไพรี ผู้บีฑา ในยุคกึ่ง พุทธกัปป์ อับอาริยะ” ในยุค”พระ-มหาศาล” ผลาญศาสนา สิ้นจรณะ เญยยธรรม องค์สัมมาฯ ไร้สมณะ พราหมณา ผู้พาจน โพธิกิจ ล้างมิจฉา ฝ่าโมหันต์ สร้างสังคม พรหมจรรย์ สามัญญผล สร้างสถาน การศึกษา อาริยชน สร้าง”คนจน สุขสำราญ เบิกบานใจ” สร้างพืชพันธุ์ธัญญาหาร ไร้สารพิษ สร้างพานิช เกื้อหนุน ปุญญวิสัย สร้างแดนทอง ส่องนิยาม ความศิวิไลซ์ สร้าง”ประชาธิปไตย” ให้โลกมี สร้างเศรษฐศาสตร์ เชิงพุทธ โลกุตระ สร้างสัมมา อาชีวะ พุทธวิถี สร้าง”บวร-วิทยา” ไตรภาคี สร้างสุนทรีย์ สีสัน สื่อครรลอง ห้าสิบปี ที่พ่อท่าน นั้นฟันฝ่า อุปสรรค หนักหนา จึงน่าฉลอง “ปฏิบัติ-บูชา” ที่น่าตรอง คือ”ถอยหลังเข้าครรลอง” พี่น้องเอย อโศก สัมปวังโก (๕ มิ.ย.๖๓) SMSวันที่27พ.ค.2563(พุทธศาสนาตามภูมิ : พ่อครู) _สติพล จนพัฒนา • บ้านราชเมืองเรือคือนาวาบุญนิยมใช่หรือไม่ครับ!? พ่อครูว่า…มันมีทั้งหลักฐานเรื่องราวเหตุปัจจัยสมุทัยคนนี้เขามองว่าคือเรือนาวาบุญนิยม เหมือนเรือโนอาห์ มีความลึกซึ้งหมายถึงสิ่งที่กอบกู้มนุษยชาติสัตว์โลก เรือโนอาห์มีทั้งสัตว์ทุกชนิดเลยเข้าไปได้หมดเลยไปรวมกันช่วยไปหมดเลยสัตว์โลก เมื่อน้ำท่วมก็อยู่รอดอยู่ในเรือนี้ มีครบหมด ทุกสัตว์เล็กสัตว์น้อยสัตว์ใหญ่ สัตว์ใดที่ไม่มีโอกาสไม่มีสิทธิ์เข้าไปอยู่ในเรือโนอาห์ ชั้นเดียวกันผู้ที่ไม่มีบารมีไม่มีสิทธิ์เข้ามาอยู่ในนาวาบุญนิยม ผู้ที่เข้ามาอยู่ได้มีสิทธิ์มีส่วนได้มาอยู่ในเรือโนอาห์จะรอด นอกนั้นน้ำท่วมโลกตายหมด เป็น อจินไตย ผู้ที่มีปัญญา จะเข้าใจดี เข้าใจแล้วจะเอามาพูดอธิบายยังไม่ใช่ง่ายๆ _Amorn Na Suwan อมร ณ สุวรรณ • กราบขอบพระคุณในคำสอนให้ขัดเกลากิเลสตัวเองเสมอมาครับ _ชายพงไพร บุนิตระกูลพุทธ • กำลังดูหนังโรงใหญ่ระดับโลกครับ.ที่ได้ฟังพ่อครู.ดูหนังละครย้อนดูตัวครับ _Nuttakarn Sittisampan ณัฐกานต์ สิทธิสัมพันธ์ • กราบคุณงามความดีพ่อท่าน สาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ….เพราะมีท่านได้มีกลุ่มคนดีออกมาช่วยเหลือให้ความรู้ทางธรรม ทางโลกแบบอย่างดีสง่างามมาก _Somnuek Lailak สมนึก ลายลักษ์• ฟังธรรมพ่อครูทำให้จิตใจสงบสุข ตั่งสติ จะทำไรก็รู้ทันกิเลสดีขึ้นค่ะ แต่ก่อนใครพูดไรจะตอบกลับทันที่ ตอนนี้ดีขึ้นฟังมากขึ้นกว่าเดิมเจ้าค่ะ SMS วันที่ 28 พ.ค. 2563 (พุทธศาสนาตามภูมิ : สมณะ สิกขมาตุ บ้านราช) _Toomtong Nakab ตูมทอง นะคับ : กราบนมัสการครับตุ้มรับชมอยู่ตลาดบน หน้าองค์พระปฐมเจดีย์ครับชีวิต อยู่ที่การตั้งค่าครับ / มีการย้ายฐานผลิตจากไทยไปเวียตนาม ดีหรือไม่ดีกับประเทศไทยครับ ผมก็คิดตามไม่เท่าทัน พ่อครูว่า…มันก็อยู่ที่ว่าจะสร้างอะไร สิ่งที่สร้างขึ้นมานั้นเป็นสิ่งจำเป็นเป็นคุณค่าเป็นประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติหรือสร้างสิ่งที่ขึ้นมาทำลาย สร้างเหล้ายาสร้างอาวุธขึ้นมาฆ่ากันสิ่งเหล่านี้มันทำลาย แต่ที่สร้างขึ้นมาเป็นคุณค่าประโยชน์นั้นมันจะสร้างอยู่ในประเทศไทยหรือประเทศไหน มันก็ดีทั้งนั้นแหละ และยิ่งเผยแพร่แจกจ่ายเจือจานเกื้อกูลกัน ด้วยคุณธรรมที่ดีมันก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก 1 สิ่งที่สร้างดีหรือไม่ดี 2 พฤติกรรมของการเอาสิ่งนั้นไปแจกจ่ายเกื้อกูล หรือเอาไปเป็นโทษ มันก็เป็นความจริงทั้งนั้นเพราะฉะนั้นไม่ต้องไปคิดมากหรอกมันจะอยู่ไหนก็ได้มันอยู่ที่คน กับการใช้งาน นิมนต์พ่อครูจิบน้ำ สมณะฟ้าไท…บ้านราชฯมีเรือมาก น้ำท่วมก็อยู่ได้ พ่อครูว่า…พวกเราไม่ได้จ้าง อุตสาหะเอาเรือมาได้ ไม่ได้จ้างวานกันด้วยนะ ทำงานฟรีกัน มาทางบก มาจนได้ สู่แดนธรรม..คนที่นามสกุลนาวาบุญนิยมควรที่จะมาอยู่ที่บ้านราชฯใช่ไหมครับ พ่อครูว่า…ขวัญรัก นามสกุลนาวาบุญนิยม หรือ อาตมายังใส่สกุลเดิมคืออัจฉริยประดิษฐ์อยู่เลย _สติพล จนพัฒนา : เศรษฐกิจบุญนิยมผมชอบ อยากประกอบบ้างช่างยากเหลือ เพราะไม่มีอะไรจะจุนเจือ ชีวิตเหลือยังยากจะพึ่งตน. / ท่านถักบุญแสดงได้ ชัดเจนมากๆครับ..เพราะมีสภาวะรองรับด้วยครับ..สาธุครับ. _Sompop Nilrumpai สมภพ : บุญนิยมทีวีออกอากาศช่องไหนครับผมใช้กล่องpsi พ่อครูว่า…ก็ตอบได้ว่า ถ้าใช้ชื่อว่าโทรทัศน์ดาวเทียม บุญนิยมไม่มีแล้ว ใช้รับจากโทรทัศน์ดาวเทียม บุญนิยมไม่มีแล้วเลิกทางดาวเทียมแล้ว มีก็ที่กล่อง infosat ช่อง17 18 ลองติดตามดู กล่องละ 450 บาท เป็นกล่องรับอินเตอร์เน็ต และดาวเทียม _นิ่งหน่อง ยาไทย : ต้นฝอยทอง(กาฝาก)เอาไปชุปแป้งทอดอร่อย? _FIFA WAWO ฟีฟ่า วาโว่ : ฝอยทองเอาไปผัดกินอร่อยนะครับ _กรรณิกา เสนาะนํา : (หนึ่งน้อย)ชอบฟังทีมท่านทั้งสามองค์ม้ากค่ะ (ส.ฟ้าไท,ส.ถักบุญ,สม.กล้าข้ามฝัน)..ที่ขยายธรรมได้เข้าใจง่ายมากเทียบพยัญชนะและสภาวะได้เยี่ยมยอดค่ะ..กราบขอบพระคุณม้ากกกค่ะ พ่อครูว่า…ก็ดี น่าชื่นใจ คนฟังธรรมะโลกุตระได้เป็นประโยชน์และก็มีเกิดจิตที่มีศรัทธามีความยินดี ผลักดันให้เราปฏิบัติก็เป็นภาวะที่ได้ประโยชน์ _ปทปรมะ บัวใต้คอนกรีต : ผมสงสัยมานานแล้วครับ ทานลูกโดยที่ลูกไม่เต็มใจ ถือว่าพระเวสสันดรละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลได้ไหมครับ พ่อครูว่า…ถ้าคิดอย่างคุณมันก็ตื้นๆง่ายๆ ได้ แต่ นัยลึกซึ้งซับซ้อนเกี่ยวกับบุคคลเกี่ยวกับเจตนา เป็นสายเลือดเป็นตระกูล ทั้งความที่จะในสายเลือดคนที่ไม่รักลูกเต้าเป็นคนไม่ดี แต่นี่เขาสุดรักสุดหวงแหน เป็นภาวะซับซ้อนที่คิดยาก เป็นอจินไตย เพราะงั้น พระเวสสันดรจะเสียสละลูกต้องกรีดหัวใจไปเลยนะมันต้องเสียสละ ต้องยกหัวใจให้คนเขาไปเลย คนไม่เข้าใจ มองตื้นๆตามประสาเขามันก็เป็นไป เที่ยวไปดูถูกดูแคลน แต่ความจริงมันเป็นสภาพสภาวะซับซ้อน เป็นสภาพหมุนรอบเชิงซ้อนไม่รู้กี่ชั้นสลับไปสลับมา เป็นสิริมหามายา กลับไปซ้ายขวา ขวาซ้ายผิดถูกผิด ไม่รู้กี่ชั้น แต่คุณมีความรู้แค่ถูกผิดหรือผิดถูกแค่ชั้นเดียว แล้วจะไปทะลุหาที่เขาถูกผิดผิดถูกไม่รู้กี่ชั้นแล้ววนเวียนเป็นก้นหอย อาตมาสื่อสารได้แค่นี้ก็เก่งพอสมควรแล้วนะ จะเข้าใจพอสมควร ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ระนาบเดียว มันมีขวาซ้ายซ้ายขวามันมีบนล่างมีอะไรอีก ให้สู่แดนธรรมเขียน pattern พวกนี้เขาเขียนไม่ได้ เพราะมันยาก มีมากมิติ สู่แดนธรรม..พระเวสสันดรบริจาคลูกซึ่งเป็นของภายนอก แต่ด้วยตัวของท่านเอง ก่อนที่จะมาเป็นพระเวสสันดร ผมว่าท่านคงเคยเสียสละแม้แต่ชีวิตของท่านมาแล้ว พ่อครูว่า..มากมาแล้ว อย่างนี้ไม่ต้องพูดเลยอาตมาก็ผ่านมามากแล้ว เสียสละชีวิตเรื่องเล็ก ศาสนาไหนก็เสียสละชีวิตมีเยอะแยะ ศึกษาให้ดีๆ แล้วจะค่อยๆเข้าใจอย่าไปพูดอย่างตื้นๆลวกๆเขินๆไม่ได้หรอก ศึกษาดีๆ สักวันคุณจะพ้นจาก ปทปรมะ _Jimmy Thai Vegas จิมมี่ ไทย เวกัส…กระผมยังจำภาพติดตา ช่วงหลวงพ่อเป็นครูโรงเรียนสตรีประชากร คุณครูรักษ์ รักพงษ์ สอนวาดเขียน และทุกเช้าจะต้องมาดูแลนักเรียนที่มาโรงเรียน ยืนหน้าประตูรับเด็ก นร พ่อครูว่า…ก็ไม่มีอะไรมาก ฟื้นประวัติศาสตร์เก่า หลายอย่างจำไม่ได้แล้ว _Wiko Wiko วิโก วิโก….สาธุค่ะ ภาพพ่อครูยังติดอยู่ในใจ ตอนนั้นพ่อครูเดินดูความเรียบร้อยที่บวร พ่อครูยิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี เห็นแล้วปลื้มใจค่ะ _สิริลักษณ์ ปัญญา · 5:09 ติดตามตลอด ใช้วิถีชีวิตแบบชาวอโศก โรคระบาดอะไรจะมาไม่หวั่นที่บ้านมีสวนผักนานาชนิด ผลไม้หลายอย่าง ใช้ปุ๋ยน้ำ ชีวภาพ ปุ๋ยหมักทำเอง อาหารการกินมีเพียบ พ่อครูว่า…อาตมาว่าไม่ต้องพูดซ้ำมากก็ได้ พิสูจน์กันต่อไปในอนาคต อาตมาพาทำอยู่ สักวันจะชัดเจนมากยิ่งขึ้น วันนี้เริ่มเห็นอะไรเรืองรองๆมาแล้ว _ใบฟ้า…น้อมกราบนมัสการด้วยเศียรเกล้า ”ปลื้มใจเป็นที่สุดจะได้กลับบ้านแผ่นดินพุทธ ก่อนวันคล้ายวันเกิดพ่อครูผู้เป็นพ่อและครูทางจิตวิญญาณ ของลูกๆทุกคน กราบขอบพระคุณพ่อครูด้วยเศียรเกล้า กราบขอบพระคุณท่านสมณะและสิกขมาตุที่ปรึกษา ขอบพระคุณท่านคณะกรรมการชุมชนรวมทั้งที่พี่น้องที่เป็นมิตรสหายดีเจ๊า”..ใบฟ้า นาวาบุญนิยม พ่อครูว่า..เข้าสู่พระไตรปิฎก อัมพัฏฐสูตร อัมพัฏฐมานพ เป็นลูกศิษย์เอกของพราหมณ์โปกขรสาติ ซึ่งได้ส่งอัมพัฏฐมานพมาพิสูจน์ความจริง ว่าทุกอย่างเชื่อหมดแล้ว เหลืออีกอย่างหนึ่งว่า อวัยวะท่านเร้นในฝักหรือไม่ ถ้าครบ อันนี้ ก็ถือว่าเป็นครบอาการ 32 ของพระพุทธเจ้า อัมพัฏฐมานพก็แสดงเบ่งไม่เชื่อถือเหมือนอาจารย์ที่เชื่อถือ พอถึงตรงนี้ซักไซ้มาก [158] อัมพัฏฐะ เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน กษัตริย์ทั้งหลาย ในโลกนี้พึงปลงเกศากษัตริย์องค์หนึ่ง มอมด้วยเถ้า แล้วเนรเทศเสียจากแว่นแคว้นหรือจากเมืองเพราะโทษบางอย่าง เขาจะควรได้ที่นั่งหรือน้ำในหมู่พราหมณ์บ้างหรือไม่? พ่อครูว่า..พุทธโกนหัว พราหมณ์ไว้ผม หากพราหมณ์ถูกโกนหัว คือถูกไล่ออกไปนั่นเอง ควรได้ พระโคดมผู้เจริญ. พวกพราหมณ์ควรเชิญเขาให้บริโภคในการเลี้ยงเพื่อผู้ตาย ในการเลี้ยงเพื่อการมงคล ในการเลี้ยงเพื่อยัญพิธี หรือในการเลี้ยงเพื่อแขกได้บ้างหรือไม่? ควรเชิญให้เขาบริโภคได้ พระโคดมผู้เจริญ. พวกพราหมณ์ควรบอกมนต์ให้เขาหรือไม่? ควรบอกให้ พระโคดมผู้เจริญ. เขาควรถูกห้ามในหญิงทั้งหลายหรือไม่? เขาไม่ควรถูกห้ามเลย พระโคดมผู้เจริญ. ดูกรอัมพัฏฐะ กษัตริย์ย่อมถึงความเป็นผู้เลวอย่างยิ่ง เพราะเหตุที่ถูกกษัตริย์ด้วยกันปลงพระเกศา มอมด้วยเถ้า แล้วเนรเทศเสียจากแว่นแคว้นหรือจากเมือง ดูกรอัมพัฏฐะแม้ในเมื่อกษัตริย์ถึงความเป็นคนเลวอย่างยิ่งเช่นนี้ พวกกษัตริย์ก็ยังประเสริฐ พวกพราหมณ์เลวด้วยประการฉะนี้. สมจริงดังคาถาที่สนังกุมารพรหมได้ภาษิตไว้ ดังนี้ คาถาสนังกุมารพรหม [159] กษัตริย์เป็นผู้ประเสริฐที่สุด ในหมู่ชนผู้รังเกียจด้วยโคตร ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะเป็นผู้ประเสริฐที่สุด ในหมู่เทวดาและมนุษย์. พ่อครูว่า..ทุกวันนี้ก็เถอะแม้แต่กษัตริย์ก็ต้องไหว้นักบวช แต่กษัตริย์แต่งตั้งนักบวชนะ อะไรอย่างนี้เป็นต้น เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นความเป็นไปตามโลกโลกีย์ที่เป็นสมมติสัจจะ เพราะฉะนั้นไม่เที่ยง แต่ที่เที่ยงคือวิชชาจรณะสูงประเสริฐสุด อันนี้ไม่แปรเปลี่ยน [160] ดูกรอัมพัฏฐะ ก็คาถานี้นั้น สนังกุมารพรหมขับถูกไม่ผิด ภาษิตไว้ถูก ไม่ผิดประกอบด้วยประโยชน์ ไม่ใช่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ เราเห็นด้วย ดูกรอัมพัฏฐะ ถึงเราก็กล่าวเช่นนี้ว่า [161] กษัตริย์เป็นผู้ประเสริฐที่สุด ในหมู่ชนผู้รังเกียจด้วยโคตร ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะเป็นผู้ประเสริฐที่สุด ในหมู่เทวดาและมนุษย์. จบ ภาณวารที่หนึ่ง วิชชาจรณสัมปทา [162] อัมพัฏฐมาณพทูลถามว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ก็จรณะนั้นเป็นไฉน วิชชานั้นเป็นไฉน. พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรอัมพัฏฐะ ในวิชชาสมบัติและจรณสมบัติอันเป็นคุณยอดเยี่ยม เขาไม่พูดอ้างชาติอ้างโคตรหรืออ้างมานะว่า ท่านควรแก่เรา หรือท่านไม่ควรแก่เราอาวาหมงคล วิวาหมงคล หรืออาวาหวิวาหมงคล มีในที่ใด ในที่นั้นเขาจึงจะพูดอ้างชาติบ้างอ้างโคตรบ้าง หรืออ้างมานะบ้างว่า ท่านควรแก่เรา หรือท่านไม่ควรแก่เรา ชนเหล่าใดยังเกี่ยวข้องด้วยการอ้างชาติ ยังเกี่ยวข้องด้วยการอ้างโคตร ยังเกี่ยวข้องด้วยการอ้างมานะ หรือยังเกี่ยวข้องด้วยอาวาหวิวาหมงคล ชนเหล่านั้น ชื่อว่ายังห่างไกลจากวิชชาสมบัติ และจรณสมบัติอันเป็นคุณยอดเยี่ยม การทำให้แจ้งซึ่งวิชชาสมบัติและจรณสมบัติ อันเป็นคุณยอดเยี่ยมย่อมมีได้เพราะละการเกี่ยวข้องด้วยการอ้างชาติ ความเกี่ยวข้องด้วยการอ้างโคตร ความเกี่ยวข้องด้วยการอ้างมานะ และความเกี่ยวข้องด้วยอาวาหวิวาหมงคล. พ่อครูว่า..เรื่องวิชชาจรณะไม่อ้างโคตร ชาติ มานะ มันควรแก่เราหรือไม่ควรแก่เราไม่ต้องอ้างสิ่งเหล่านั้นเลย อ้างไปทำไมมันเป็นสมมุติ (พ่อครูไอ ตัดออกด้วย) แต่วิชชาจรณะเป็นสมบัติของบุคคล มันเป็นคุณวิเศษ วิชชาสมบัติ จรณะสมบัติไม่เกี่ยวกับการอ้างโคตร ตระกูลประเพณี กิเลส วิชชาจรณะไม่เกี่ยวข้องด้วยอะไรทั้งนั้นที่เป็นสมมติสัจจะ จะเป็นชาติโคตรกิเลสมานะจารีตประเพณีใดๆเป็นค่านิยมใดๆไม่เกี่ยว พระพุทธเจ้าท่านอธิบายชัดเจน จรณะสมบัติ วิชชาสมบัติไม่เกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้น ซึ่งมันเป็นไปตามยุคสมัยแต่ว่าวิชชาจรณะมันเที่ยงแท้ไม่ขึ้นอยู่กับยุคสมัย ทีนี้อัมพัฏฐมานพชักจะรู้ว่าไปไม่รอดแล้วเรา อย่างไรก็ซักให้ลึกไปดีกว่า ชักจะรู้ตัวว่าคะแนนลดแล้ว [๑๖๓] ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ จรณะนั้นเป็นไฉน วิชชานั้นเป็นไฉนเล่า. ดูกรอัมพัฏฐะ พระตถาคตเสด็จอุบัติในโลกนี้ (เป็นพระอรหันต์ -ตรัสรู้เองโดยชอบ-ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ -เสด็จไปดีแล้ว -ทรงรู้แจ้งโลก -เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึกไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า -เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย -เป็นผู้เบิกบานแล้ว -เป็นผู้จำแนกพระธรรม) พระตถาคตพระองค์นั้น ทรงทำโลกนี้ พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ให้แจ้งชัดด้วยพระปัญญาอันยิ่งของพระองค์เองแล้ว พ่อครูว่า…อาตมาอธิบายให้เห็นว่า ในพุทธคุณ 9 1. เป็นพระอรหันต์ 2. เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ 3. ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ อันนี้แหละถึงพร้อมด้วยวิชชาจะระณะนี่แหละ เป็นคุณธรรมหรือคุณสมบัติคุณวิเศษอันเป็นของศาสนาพุทธแท้ นอกนั้น สักติ เป็นเครื่องเสริมศักดิ์ศรี เป็นอรหันต์ แล้วตรัสรู้เองโดยชอบ ชี้ให้เห็นว่าท่านตรัสรู้เอง เริ่มต้นสยังอภิญญาก็ไม่ต้องมีใครบอกแล้ว ยิ่งเป็นสยัมภู ก็ยิ่งรู้เอง แต่หากจะไปศึกษาว่าท่านรู้มาจากพระพุทธองค์ก่อนก็ได้ แต่มันตัดรอบได้แล้วว่าท่านรู้เองเริ่มตั้งแต่เป็นปัจจัตตังภูมิ จึงเลื่อนมาเป็นสยังอภิญญา จากนั้นก็มาเป็นปัจเจกสัมมาสัมพุทธะ แล้วมาเป็นสยัมภู ปัจจัตตัง เริ่มรู้ได้ด้วยตัวเองสั่งสมขึ้นไปเป็น ปัจเจก ปัจเจก สั่งสมไปอีกจนกระทั่งไปเป็น ผู้รู้เองได้ สยังอภิญญา อาตมาเป็นไก่ตัวพี่ในยุคนี้มาเปิดเผยโลกุตรธรรมและยืนยันว่าถูกต้องด้วย คนอื่นก็มีได้แต่ไม่ใช่ผู้ที่มีโลกุตรธรรมมากเพียงพอ ขออภัย อย่างอาตมามี ขยายความชัดเจนมีโลกุตระอย่างไรเอาหลักฐานพระพุทธเจ้ามาขยายความอย่างนี้ ติดตามไปยืนยันไปหลักฐานพวกนี้มันก็จะต้องได้รู้เห็น ถ้ามันผิด แต่ถ้ามันถูกคุณก็ต้องรู้ด้วย ระดับสยังอภิญญา ถือว่าเป็นของตัวเองเกิดมาในชาตินี้ ปางนี้ อย่างเช่นอาตมาไม่มีใครรู้ จนต้องใช้ภาษาว่ายุคนี้อาตมาเป็นไก่ตัวพี่ พระพุทธเจ้าท่านเคยตรัสว่าท่านเป็นไก่ตัวพี่ แต่อย่างนั้นเป็นการสร้างศาสนาเลย ไม่มีใครสร้างศาสนาพุทธได้ ท่านก็สร้างศาสนาพุทธเป็นผู้แรกที่สร้างได้ในกัปของท่าน แต่อาตมานั้นศาสนาพุทธได้มีมาแล้วแต่มันได้เสื่อมไป อาตมาเป็นคนแรกที่กู้กลับมาได้ในยุคนี้ ถ้าอาตมาไม่มามันจะหายไปเลย อาตมาจึงเป็นไก่ตัวพี่ พูดไว้ไม่ได้อวดโอ่เบ่งข่ม แต่เป็นสัจจะ ฟังไว้ อย่าเพิ่งรีบตาย ตรวจสอบอาตมาไป ไม่ใช่เรื่องท้าทายแต่เป็นเรื่องสัจจะที่ยืนยันได้ อาตมาไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นสยัมภู มีแต่คนยัดเยียดว่าอาตมาเป็นผู้ตรัสรู้เอง อาตมาก็ว่ามันมีหลายเองนะ ศึกษาให้ดีอย่าตัดสินอะไรง่ายๆ สู่แดนธรรม…จากปัจจัตตังมาเป็นปัจเจก ทำได้เมื่อเขามีสัทธรรม 7 พ่อครูว่า..ก็สูงมาเป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี ขึ้นมา มีปัจเจกของตัวเองมากขึ้นจึงจะมาเป็น สยังอภิญญา สู่แดนธรรมว่า…พ่อท่านเคยบอกว่า พระอานนท์กับพระสารีบุตรมีความเป็นพหูสูตไม่เท่ากัน พระอานนท์นั้นทรงจำพระธรรมไว้มากเรียกว่าพหูสูต แต่ว่าพระสารีบุตรนั้นมีความจริงมากจึงเรียกว่าพาหุสัจจะ พ่อครูว่า…พาหุสัจจะ เอาคำว่าสัจจะมาเป็นตัวยืนยันความจริง พหุ หรือพหูแปลว่ามาก สูต แปลว่า ความรู้ แต่ความรู้กับความจริงที่คุณจะเอาอันไหน…ก็เอาความจริงกัน อธิบายไป เอาตามหลักฐานซักไซ้ไล่เรียงไป พุทธคุณ 9 นี้ จะเป็นเสด็จไปดีแล้ว สุคะโต ถึงอย่างไรท่านก็ไม่ถอยมาหาความช่วยเหลืออีกแล้ว ไปข้างหน้าอยู่ข้างเดียวเลย ปรินิพพานเป็นปริโยสานได้ โดยเฉพาะไม่มาเป็นพระพุทธเจ้า 2 สมัย ไปดีแล้วตรงไปเลยจบ เหมือนบุญ มีหนึ่งเดียวทิศทางเดียวมีหนึ่งไม่มีสอง ไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก โลกวิทู ขยายความของพระพุทธเจ้า อาตมาก็มีความรู้แจ้งโลกโลกีย์และมีความรู้โลกโลกุตระตามบารมี โลก จะเป็นอย่างไรก็ขยายความเพิ่มเติมเป็นโลก กับ อัตตา ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่สมควรฝึก สารถี แปลว่าผู้ที่นำพา เก่ง ไม่มีใครเท่าเทียม นำพาไปสู่นิพพานไม่มีใครเก่งเท่า อย่างยุคนี้อาตมาก็เป็นผู้นำพา จะเรียกว่าไม่มีใครยิ่งกว่าก็ได้ในยุคนี้ปางนี้ แต่ไม่ได้เก่งเท่าพระพุทธเจ้า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นครูของเทวดา ของมนุษย์ทั้งหลาย เทวดาคืออะไร มนุษย์คืออะไร แปลกันง่ายๆว่าเทวดาคือผู้มีจิตสูง มนุษย์ก็แปลว่าผู้มีจิตสูง มนุษย์ หมายความถึง ผู้ที่มีกาย มีสัญญา ที่ชัดเจนรู้ได้มีรูปมีนาม มนุษย์ คน เป็นกายเป็นดินน้ำไฟลมแท่งก้อนเป็นรูปเป็นร่าง มนุษย์ มีกาย อย่างหนึ่ง เทวดา มีกาย อีกอย่างหนึ่ง แม้แต่มิจฉาทิฎฐิก็เข้าใจ กายอีกอย่างหนึ่ง สัมมาทิฏฐิก็หมายถึงนามธรรมเหมือนกัน ส่วนมนุษย์นั้นรูปธรรมชัดๆ เทวดากับมนุษย์นี้แยกเป็นสองต่างกัน มนุษย์ คือคนมีดินน้ำไฟลมแต่มีใจสูง เทวดาก็เน้นที่มีใจสูง เทวดาจะหนักไปทางนามธรรม แต่มนุษย์หมายถึงรูปธรรมก่อน อย่างนี้เป็นต้น ก็เอาทั้งสองอย่างมา เป็นครูของเทวดาทั้งนามธรรมและรูปธรรมแต่จริงๆแล้วรวมอยู่ที่คนนั่นแหละ 2 ใน 1 ใน 2 อยู่ในนี้ เป็นผู้เบิกบานแล้ว ภาษาบาลีคือพุทโธ เราก็ใช้ ขณะนี้เราเอามาใช้ว่า สุขสำราญเบิกบานใจ มันมีความเบิกบาน หากใช้พยัญชนะบาลีคือ อภิปโมทยังจิตตัง คืออภิ ปราโมทย์ จิตที่มีความยินดีร่าเริงเบิกบานปราโมทย์ อภิ คือยิ่งใหญ่ มันเป็นความเบิกบานปราโมทย์ อันนี้เป็นคุณสมบัติของจิตวิญญาณที่สูงสุด เพราะฉะนั้นในอานาปานสติจะจบด้วย อภิปโมทยังจิตตัง กายสังขารังปัสสัมภยัง สงบแล้วมีกายสงบ กับอภิปโมทยังจิตตัง กายสงบ จิตเบิกบานร่าเริง กายสงบ เพราะฉะนั้นซ้อนๆที่อาตมาอธิบาย กายสงบ นี้คือจิตสงบ เพราะกายนี้เน้นเอาที่จิต แต่ก็ยังยาก ทุกวันนี้ก็เขียนหนังสือเปิดยุคบุญนิยมอยู่ ตอนนี้กำลังตรวจสอบตรงนี้พอดี พยายามแก้ไขคำความไม่ให้สับสนให้ชัดเจน อธิบายวนหลายซ้อน มันก็ยากมากเลย กายปัสสัทธิ ไม่ได้หมายความว่ากายนิ่งๆ กายต้องมีสองเสมอ มี 1 ไม่ได้แต่ผู้ที่มีมิจฉาทิฏฐิจะเข้าใจว่ากายนี้เป็นแค่ดินน้ำไฟลมไม่มีจิตไปร่วมด้วย นั่นแหละคือมิจฉาทิฏฐิ เป็นพวกโมฆะไปแล้ว กาย พระพุทธเจ้าท่านเน้นให้เอาจิตด้วยซ้ำไป กายคือจิต มโน วิญญาณ ในพระไตรปิฎกเล่ม 16 ข้อ 230 อย่างนั้นด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นจะต้อง ชัดๆให้ดีเลย ไม่อย่างนั้นไปไม่ได้ไปไม่ถูก สู่แดนธรรม…ในอานาปานสติสิ่งที่ให้ศึกษากาย บอกว่า กายปฏิสังเวที พ่อครูว่า… คือให้รู้กายอย่าขาดกาย แม้หลับตาไม่รู้ภายนอกมีแต่ลมหายใจก็อย่าขาดจากลมหายใจที่จะต้องไปรู้ อยู่ในภพเลย ผิดเลย การตรัสรู้นั้นจะต้องมีกายไม่มีการตรัสรู้ไม่ได้จึงบอกว่าต้องสัมผัสวิโมกข์ 8 ด้วยกายไม่อย่างนั้นนับเป็นพระอรหันต์ไม่ได้ พระอรหันต์ทุกองค์จะต้องสัมผัสวิโมกข์ 8 ด้วยกาย แม้คุณนั้นจะยืนยันด้วยกายสักขีต้องเอามาเปิดเผยได้ จะต้องสัมผัสวิโมกข์ 8 ด้วยกายจึงจะขึ้นเป็นพระอรหันต์ พระพุทธเจ้ายังยอมอนุโลม แม้คุณจะบอกว่ายืนยันด้วยกายสักขี แล้วยืนยันด้วยกับใครได้ไหมคำว่ากายต้องยืนยันกับใครคนอื่นได้ต้องมีภายนอก ต้องมีคนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปร่วมรับรู้กัน พระอรหันต์จึงบอกด้วยกันได้ คนจะไปบอกตัวเองว่าเป็นอรหันต์เลยนะเหมือนพระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีใครรู้เลยว่าโลกนี้มีปัจเจกสัมมาสัมพุทธะ เพราะว่าปัจเจกสัมมาสัมพุทธะท่านไม่ประกาศตนเลย ท่านเป็นพระพุทธเจ้า แต่ท่านไม่ได้ประกาศ เลยไม่มีในทำเนียบของพระพุทธเจ้าเลย จึงเรียกว่าไม่ใช่พระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง เพราะท่านไม่ประกาศ ท่านจะอุบัติขึ้นมาในยุคใด ท่านก็ไม่ประกาศหรือท่านเป็นแล้ว แต่ท่านเองท่านไม่เลยถึงวาระที่ท่านเรียกว่ายังไม่ได้เกิดมาได้ร่างเป็นมนุษย์ก็ตาม ท่านก็ปรินิพพานเป็นปริโยสานไปเลย สมณะฟ้าไท…แล้วคนศรัทธาพระปัจเจกพุทธเจ้าได้อย่างไรครับ ถ้าไม่ประกาศ พ่อครูว่า…เขารู้กันได้ยากไง ปัจเจกพุทธเจ้า จะรู้ก็ต่อเมื่อ ผู้เป็นพระโพธิสัตว์ที่สามารถรู้ถึงภูมิพระปัจเจกพระพุทธเจ้าเอามาพูดให้ฟังเท่านั้น ถึงแปลกๆกันว่าพระพุทธเจ้าที่สอนคนไม่ได้เพราะท่านไม่บอกใคร เลยไปตีความผิดว่าท่านสอนคนไม่ได้ ก็ขนาดเป็นปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้ายังสอนคนไม่ได้แล้วมันจะอย่างไร เพราะฉะนั้นท่านไม่ได้บอกใครเลยแต่พระโพธิสัตว์ ที่มีภูมิโดยเฉพาะเป็นพระพุทธเจ้าเอามาพูด แน่นอนพระพุทธเจ้าก็ต้องรู้พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าก็มาประกาศ คนก็ได้รู้ด้วยบัญญัติ พระพุทธเจ้า สัมมาสัมพุทธะ ก็มาบอกว่าคนนี้เป็นปัจเจกสัมมาสัมพุทธะ แม้ว่าท่านจะปรินิพพานเป็นปริโยสานไป พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้ามีความต่างจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเดียวเท่านั้นคือท่านไม่ได้ประกาศศาสนาเอง แต่ท่านมีภูมิธรรมเท่ากับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบด้วยตัวเองเรียบร้อยแล้ว แต่ท่านไม่ประกาศศาสนาของท่านต่อโลกมนุษยจึงไม่มีใครรู้จักท่าน ท่านไม่ได้ประกาศศาสนาก็เลยไม่มีทำเนียบว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง ไม่ได้ขึ้นในทำเนียบเลย ไม่ให้โลกรู้เลย เป็นเรื่องสัดส่วนของตัวเองเป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆแต่พระพุทธเจ้าท่านอธิบายได้อย่างพระโพธิสัตว์ ผมนี่ก็อธิบายได้ ส่วนผมจะไปถึงขนาดนั้นได้หรือไม่ แต่ผมตั้งใจจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประกาศศาสนาองค์ใดองค์หนึ่ง สมณะฟ้าไท ..สรุปจบ Category: ศาสนาBy Samanasandin29 พฤษภาคม 2020Tags: พุทธศาสนาตามภูมิวิถีอาริยธรรม Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:630527_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ เรือหายทั้งโลก แต่รอดที่อโศกนาวาบุญนิยมNextNext post:630530 เร่งขุดมัน หาดแนมตะเว็นRelated Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024