ก.ค.192020ศาสนา630719_รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ ลูกหนี้ทางธรรมอย่างใหญ่คือใครในโลก อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวน์โหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1OkFKts9gzERNUZkqu8waeh-Fc0bxMsK13yLq6TC_Frs/edit?usp=sharing ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1_PWRzV1WF91UAMEulfnVjYY9W_laki7b/view?usp=sharing และยูทูปที่ https://youtu.be/3vSVC8ydJL4 สมณะฟ้าไทว่า…วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม 2563 ที่บวรราชธานีอโศก ตอนนี้ที่อเมริกา ติดเชื้อโควิดวันละ 7 หมื่นคน น่ากลัว แต่คนอเมริกาเขาดูไม่กลัวกัน ยังแย่งกันซื้อสินค้าไม่สนใจการรักษาระยะห่างทางสังคม พ่อครูว่า…SMS วันที่ 17-18 ก.ค. 2563 พ่อครูว่า…หมาหางด้วนคือพวกสอนว่าบรรลุธรรมแล้วอย่าบอกใคร _Wacharee Piyavatawong วัชรี ปิยะวัฒนวงศ์ · น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูง มีคำถามขึ้นในใจขึ้นมา ถึงผู้ที่กล่าวถึงพระอรหันต์แบบคนนอกๆ และเชื่อว่าพ่อครูไกลจากการเป็นพระอรหันต์ คำถามนั้นก็คือ พวกเขามีพระอรหันต์เอาไว้ทำอะไร อันนี้ขอถามเขาผ่านรายการพ่อครูที่เขาติดตามค่ะ ถ้าได้ฟังฝากอธิบายนะคะ แต่สำหรับลูกแล้วเข้าใจดังนี้ค่ะ พระอรหันต์ คือผู้หมดบุญกิเลสสิ้นเกลี้ยง การยังชีวิตอยู่ เพื่อสืบทอดและแทนคุณพระพุทธศาสนา โดยเผยแพร่และพยายามสั่งสอนปรับเปลี่ยนผู้คน ในสิ่งที่ท่านมี ท่านเป็น คือการใช้บุญฆ่ากิเลส คร่าวๆ แค่นี้ก่อนค่ะ ? พ่อครูว่า…อาตมาฟังความที่คุณวัชรีมาก็เข้าใจอยู่ และคุณเข้าใจได้ถูกแล้ว เรื่องที่ยังมีคนเข้าใจในเรื่องนี้โดยเฉพาะเรื่องที่อาตมาสอนนี้ผิดหรือถูก โดยเฉพาะเป็นการสอนถึงการบรรลุอรหันต์เรื่องโลกุตระ คนก็ไม่เชื่อเลย แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าพระอรหันต์จริงๆเป็นเช่นไร เขาก็เลยบอกว่าโพธิรักษ์สอนไม่ใช่อรหันต์หรอก ไม่เหมือนกับพระส่วนใหญ่สอน แค่ตรรกะง่ายๆแค่นี้ พระส่วนใหญ่เขาสอนกันอยู่แล้วไม่เห็นเหมือนเขาเลย ตรรกะง่ายๆ คือถ้าคำสอนที่พระส่วนใหญ่เขาสอนนั้นเป็นคำสอนโลกุตระ เป็นคำสอนที่ถูกต้อง ก็ต้องมีคนบรรลุอรหันต์ บรรลุอาริยะอันถูกต้องใช่ไหม แล้วมีใครยืนยันออกมาบ้าง ได้มรรคผลอย่างไรเขากล้ายืนยันไหม แถมไม่ยืนยันหรือยังสอนกันอีกว่า ใครที่บรรลุแล้วอย่าบอกใครว่าเราบรรลุ อันนี้มันเป็นมายาเหมือนหมาหางด้วน ตัวเองหางด้วนแล้วไปชวนคนอื่นให้หางด้วนด้วย ก็บอกว่า หางด้วนนี้เป็นเท่ ก็ให้คนอื่นตัดหางเหมือนตัวเองด้วยเป็นอย่างนี้ล่ะท่านผู้ชม ที่เขาเป็นกันอยู่ สู่แดนธรรม…อาจารย์ทำเป็นอมพนําแต่ลูกศิษย์สามารถบอกได้ว่าอาจารย์เป็นอรหันต์ พ่อครูว่า…พระพุทธเจ้าถึงได้ ซัดเลย โลหิจจพราหมณ์…โลหิจจพราหมณ์ มีทิฏฐิลามก ว่า “ผู้บรรลุแล้วไม่พึงบอกแก่ผู้อื่น เพราะคนอื่นจะทำอะไรแก่อีกคนหนึ่งได้ การบอกแก่คนอื่นจัดว่าเป็นความโลภที่เป็นบาป เปรียบเหมือนคนตัดเครื่องพันธนาการเก่าออกแล้ว กลับทำเครื่องพันธนาการใหม่… ฯลฯ ” . พระพุทธองค์ตรัสว่า เป็นมิจฉาทิฏฐิ ย่อมมีคติ ๒ คือ นรกหรือกำเนิดเดียรัจฉาน อย่างใดอย่างหนึ่ง (พตปฎ. เล่ม ๙ ข้อ ๓๕๘) พ่อครูว่า…เขาพูดกันถึงขั้นนี้สอนกันถึงขั้นนี้ว่า ผู้ที่บอกคนอื่นว่าตัวเองบรรลุคนนั้นเป็นคนไม่บรรลุธรรมเป็นถึงขนาดนี้เลย ในปัจเวกขณ์ 10 ก็มียืนยันบอกว่า ผู้บรรลุมรรคผลแล้ว มีญาณทัศนะวิเศษอันเป็นอารยะเป็นอุตตริมนุสสธรรม เราได้แล้วเรามีอยู่หรือไม่ เมื่อผู้ใด ที่เป็นเพื่อนพรหมจรรย์ถามว่ามีคุณวิเศษหรือไม่อย่างไรหนอ ซึ่งถ้าผู้ใดไม่มีแล้วไซร้ หากถูกใครถามจะเก้อเขิน เพราะฉะนั้นให้เตือนตัวเองเสมอว่า ปฏิบัติธรรมแล้วมันได้บรรลุมรรคผลไหม ถ้าไม่บรรลุมรรคผล แย่เลยนะ คนมาถามบวชกี่ปีแล้ว 5 ปี 8 ปี 10 ปี 20 ปีบรรลุขั้นไหนแล้ว จะเป็นอย่างไร จะเก้อๆยากๆ แล้วเป็นยังไงมันไม่ได้ มันไม่บรรลุมรรคผล บางคนบวชตั้ง 30 40 50 ปี แล้วก็จะเป็นอย่างไร ไม่เก้อหรอก หน้าด้านเลย ไม่ต้องตอบ ตอบไม่ได้หรอก ไม่ให้ตอบว่ารู้แล้วก็ของใครของมันก็จะได้ตามนั้นไปโน่นเลย ทั้งๆที่พระพุทธเจ้าสอนไว้หมด แต่เอาไปแปลความเบี้ยวบาลีไปเยอะเลย อาตมาขอสรุปตัวเองเป็นคนชื่อคนตรงเป็นใครก็บอกว่าเป็นใครไม่ได้มีอคติ ไม่ได้มีอกุศลไม่มีการอยากอวด ไม่มีกิเลส ไม่มีการอยากอวดโอ่อะไร พูดตรงๆว่าอาตมาบรรลุ ตั้งแต่เป็นฆราวาส อาตมาก็มาอย่างจริงๆตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้ก็ยังยืนยันอย่างนี้ แล้วก็ไม่ตามศึกษากัน แต่พวกคุณตามศึกษาและมีหลายคนที่ตอนแรกก็ไม่เชื่อ พอต่อมาได้มาศึกษาแล้วมาเป็นชาวอโศก ก็ดีที่ไม่ปิดกั้นมิจฉาทิฏฐิถาวร ปฏิเสธถาวร ผู้ที่ปฏิเสธถาวรก็น่าสงสาร ก็พิสูจน์กันด้วยเวลา พิสูจน์กันด้วยของจริงที่พวกเราพากันปฏิบัติไป กว่าเขาจะเข้าใจว่าพวกนี้ดี ไม่ค่อยมีความโกรธความโลภ นอกจากพวกตื้อๆในหมู่เขาเขาเชื่อกันเป็นส่วนใหญ่ที่ไม่มีความรู้ แม้จะศึกษาเปรียญ 9 ดร.ทางศาสนาแต่ไม่มีความรู้ความจริง รู้ได้แต่บัญญัติภาษาที่เรียนกัน แต่ไม่เข้าไปหาสภาวะไม่เข้าหาจิตเจตสิกรูปนิพพาน ไม่เข้าไปหาปฏิบัติ อย่างไรมันก็ไม่เข้าไปหาจิตเจตสิกรูปนิพพาน โดยเฉพาะศึกษาพยัญชนะภาษาที่ผิด แปลผิดๆ สมาธิ ฌาน กาย บุญ ก็แปลไปอย่างนั้น ซึ่งมันผิด อาตมาก็ต้องมาแก้ให้ เขาก็ไม่เชื่อ เขาก็เชื่ออย่างนั้นที่เขาเรียนกันที่เขาสอนกัน ถ้าคุณหมายว่า มาศึกษาศาสนาจะได้ความถูกต้องจะได้มรรคผล ไม่ใช่ไปหลงยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่ผิดตลอดกาลมันก็ซวยตาย อาตมาก็บอกแล้ว ว่า ถ้ามันถูกต้องเป็นสัมมาทิฏฐิแล้วเป็นสัมมาปฏิบัติ คุณปฏิบัติไปตามลำดับตั้งแต่ศีลสมาธิปัญญา ศีลพรต เราปฏิบัติศีลข้อที่ 1 แล้วได้มรรคผลคุณจะรู้จักจิตเจตสิกรูปนิพพานจะรู้จักว่ากิเลสมันลด เออ..จิตของเราเกี่ยวกับสัตว์นี้เราเข้าใจเลยว่าต่างคนต่างอยู่ ชีวิตเกิดมาเป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ที่พูดที่ท่องจำกันมา อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับมัน อย่าไปสร้างวิบากร่วมกันอีกเลย คุณจะเข้าใจลึกซึ้งเลย การไม่สร้างวิบากร่วมกัน โดยเฉพาะคนที่มีวิบากร่วมกัน อันนี้แหละต้องมาศึกษา เพราะฉะนั้นสัตว์เดรัจฉานนี้ ตัดไปเลย ไม่สร้างวิบากร่วมกัน ตั้งแต่เอามากินเอามาใช้เอามาเลี้ยง เอามา ทั้งผลักทั้งดูด เกี่ยวกับสัตว์เดรัจฉานเราไม่เกี่ยว เฉพาะกับคนต่างที่มีทั้งผลักและดูดนี้มันก็เหลือที่จะปฏิบัติแล้ว _สมณะคิดถูก · เรื่องการเลี้ยงสัตว์เป็นศีลของนักบวช แต่สำหรับฆราวาสใครทำได้ก็ควรทำ ถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่ได้บังคับว่าต้องทำให้ได้ สำหรับชาวชุมชนที่หวังพ้นทุกข์จริงๆก็ควรละเลิกความรักเป็นเหตุแห่งทุกข์ มีรักมากก็มีทุกข์มาก คนที่ด่าพ่อครูว่า ฆ่าคนด้วยคำพูด น่าจะทบทวนตัวเองว่าได้ทำร้ายพ่อครูด้วยคำพูดหรือไม่ พ่อครูว่า…เสียบศรมาก็จับศรหักไปหาเขา เท่านั้นแหละไม่ได้ ยิงศรไปหาเขาหรอก _สติพล จนพัฒนา · วิบากดีที่ชอบเอาหมาเอาแมวและเอาสัตว์ในที่ต่างๆไปปล่อย..ทุกวันนี้เลยไม่มีบ้านอยู่เลยครับ.(ต้องอาศัยเขาอยู่เรื่อย ดีบ้างไม่ดีบ้างสะดวกบ้าง) พ่อครูว่า…ก็ดีนะเป็นอนาคามีเลย ไม่มีทรัพย์ศฤงคารบ้านช่องเรือนชานเลย _เมิ้ง เมินเงิน · ท่านติกขะ สรุปคมมาก ควรช่วยพ่อท่านตามคุณสู่แดนธรรมขอนะคราบ ด้วยความเคารพอย่างสูงครับท่าน _เมตตา โพธิสุทธิ์ · คนตาบอดในโลกนี้ยังมีอีกมากมายค่ะ อธิบายอย่างไรก็ไม่เข้าใจ พ่อครูว่า…คนที่ยึดมั่นถือมั่นก็เหมือนกับคนตาบอดที่บอดแล้วบอดเลย จะพูดให้สวยอย่างไรก็ไม่รู้ว่าฟ้าเป็นอย่างไร เพราะเขาตาบอดสนิทแล้ว _Wichya Tumnine วิชญา ทำนาย · ผมมีแผลที่คอ แม่บอกว่าชาติก่อนแขวนคอตายครับ พ่อครูว่า…มันเป็นเหตุที่เป็นไปได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ซึ่งมันยากที่จะเอาอะไรมาตัดสิน _ดีทน อินสะพรหม · วัดที่ฉันเนื้อสัตว์ หมาแมวชอบอยู่เพราะมีอาหารให้กิน ปฏิบัติหลับตา ไม่ใช่ทางของศาสนาพุทธ _ฟ้าพรห์มไพร นาวาบุญนิยม · พ่อท่านบอกว่าให้ทำนาตัวเอง..มันก็ใช่ค่ะ..แต่คนเลี้ยงแมวก็อยู่ในชุมชนอโศก..เขาฟังพ่อท่านก็มาก..ชุมชนตักเตือนก็มากยังด้านชา ไม่สน เอาข้าวน้ำให้มันกิน จนออกลูกมาหลายตัว..แถมมันไปทำความเดือดร้อนให้บ้านใกล้เรือนเคียงคือไปขี้ใส่ตามบ้านเขา..พ่อท่านคิดว่าจะจัดการกับคนประเภทนี้ยังไงดี พ่อครูว่า…บอกแล้ว ใคร อยู่ในชุมชนอโศก ให้เอาแมวออกไปจากหมู่บ้านชุมชนอโศกเอาไปเลี้ยงที่บ้านเขา อย่ามาเลี้ยงอยู่ในนี้ บอกแล้วไง หากจะเลี้ยงก็เอาไปเลี้ยงข้างนอกอย่ามาเลี้ยงอยู่ในนี้ อาตมาออกจะเข้มในเรื่องนี้เพราะว่าวิบากที่มีมันก็มากอยู่ แล้วไปสร้างวิบากกับสิงสาราสัตว์อีกทำไม เนื้อสัตว์ก็ไม่กินแล้วก็เป็นเรื่องดีแล้ว แล้วไปสร้างทำไมตื้นๆ แค่เลี้ยงสัตว์ ในจุลศีลพระพุทธเจ้าท่านบอกไว้เลยว่าภิกษุห้ามเลี้ยงสัตว์ เอามาเลี้ยงทำไม ท่านจัดหมวดหมู่ไว้ หมวดที่พึ่งพาอาศัยคนและนม หมวดที่เอามากินเนื้อมันเลย หมวดที่เอามาใช้แรงงาน ก็เคยอธิบายให้ฟัง ห้ามไปเกี่ยวข้องเลยกับสัตว์นี่ จะเอามาอาศัย อาศัยกินนมมัน อาศัยขนมันก็ไม่เอา หรืออาศัยกินเนื้อ เช่น ไก่และสุกรไม่เอาแน่อนอน แม้แต่เอามาใช้แรงงานช้าง มา ลา โค เป็นต้น พระพุทธเจ้าสอนเรื่องกรรมวิบากทำความเข้าใจให้ดีๆเราจะได้หลุดพ้นจากวิบากกรรมต่างๆ หลุดพ้นจากสิ่งที่ไม่ควรจะต้องไปมีไม่อย่างนั้นมันก็ช้านานอีก นิมนต์พ่อครูจิบน้ำ สมณะฟ้าไท …ในจุลศีลข้อ 19 บอกไว้ว่า เธอเว้นขาดจากการรับไก่และสุกร พ่อครูว่า.สัตว์ที่ยกตัวอย่างมา 2 3 ตัว แม้จะเกี่ยวกับสัตว์จะเอามาเป็นประโยชน์หรือเกี่ยวเนื่องเป็นวิบากอะไรก็ไม่ควรทำ สมณะฟ้าไท…คนติด ติดแล้วเราก็ยึดมั่นถือมั่น ถ้าไปอ่านในหนังสือ คนจะมีธรรมะได้อย่างไร มีวิบากกรรม นรก พ่อครูเขียนไว้อย่างซาบซึ้งมาก นรก คือ ความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่เราประทับใจซาบซึ้งใจ สั่งสมในอนุสัย นี่แหละจะทำให้เราไปนรก _สว่างแสง ขวัญดาว · น้อมกราบนมัสการพ่อครู ท่านสมณะ และสิกขมาตุด้วยความเคารพยิ่งค่ะ รับชมรับฟังจากจัวหวัดร้อยเอ็ดค่ะ ชมทางอินเตอเน็ตค่ะ ภาพเสียงชัดเจนค่ะ พ่อครูค่ะดิฉันทำงานไปด้วยฟังพ่อครูไปด้วย ดิฉันจะบาปไหมค่ะ คือไม่ได้นั่งฟังอย่างเดียวค่ะ พ่อครูว่า…ขวัญดาว อาตมาเป็นคนบัญญัติคนใช้ภาษาคำนี้ เดี๋ยวนี้ก็มีคนใช้คำว่าขวัญดาวเยอะ คำว่า ค่ะ คะ ขา นี่ หากใช้มากไป มันจะเกินไปอ่อนน้อมเกินไป ให้ละไว้ในฐานที่เข้าใจพอสมควรก็ได้แล้ว ปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้ามีการทำงานด้วย ไม่ทำงานมันซื่อเกินไป มันทื่อเกินไป มรรคมีองค์ 8 จะต้องมีการปฏิบัติธรรมฝึกให้เป็นฌาน เป็นสมาธิ เป็นสัมมาสมาธิ ด้วยการปฏิบัติไปกับการทำงานเลี้ยงชีพ ที่เป็นสัมมา ทำการกระทำทุกอย่างกัมมันตะ ก็ให้เป็นสัมมา พูดก็ให้เป็นสัมมา คิดก็ให้เป็นสัมมา ไม่ใช่ไปนั่งหลับตาเพื่อที่จะมีสติ เพื่อที่จะไปทำให้จิตมีกิเลสลด กิเลสจะลดในขณะทำงานนี่แหละ มีการสัมผัสสัมพันธ์ ไปนั่งหลับตานั้นมีแต่กิเลสเก๊ ไม่มีกิเลสจริง นั่งหลับตาคุณไม่มีปัจจุบัน คุณก็จมอยู่ในสัญญา จมอยู่ในความคิด เพราะฉะนั้นคุณจะรู้อะไรขึ้นมาในขณะคุณนั่งหลับตามันก็เป็นสภาวะของความรู้สึก ระลึกรู้มาจากสัญญา ซึ่งเป็นของอดีต แม้ว่าจะเป็นของปัจจุบัน แล้วก็เป็นอนาคต ก็เป็นการระลึกในขณะที่คุณไม่มีความรู้รอบครบ เป็นสามัญของมนุษย์มีตาหูจมูกลิ้นกาย ที่จะมีเหตุมีปัจจัยทำให้กิเลสคุณเกิด ทางตาก็ดี ทางหูก็ดี ทางจมูกก็ดี ทางลิ้นทางกายอีกตั้ง 5 ทวารคุณไม่มีคุณปิด คุณก็ไปนั่งอยู่ในทวารเดียวมันก็มีแต่อดีตกับปัจจุบันของอดีต และปัจจุบันของอนาคต ที่มันอยู่ในภพเดียว มันไม่มีตาหูจมูกลิ้นกายครบความเป็นมนุษย์ชาติ ความเป็นจิตนิยามสมบูรณ์แบบ เพราะฉะนั้นคุณก็นั่งปฏิบัติธรรมอยู่กับจิตนิดเดียว ดังนั้นจึงควรจะต้องเกี่ยวข้องอีกทั้ง 6 ทวาร แต่คุณตัดทิ้งไปตั้ง 5 ทวาร แล้วก็ไปปฏิบัติธรรมทวารเดียว แล้วมันจะได้อะไรสักเท่าไหร่ ถ้าได้ครบแล้วปฏิบัติกิเลสครบ มันจะมีพลังงานสูง แล้วรู้ความจริงได้ชัดเจน ตั้งแต่ โอฬาริกอัตตาหมด แล้ว ปัญญาสติสัมปชัญญะแข็งแรงก็ทำให้ดียิ่งขึ้น รูปราคะ ก็ฆ่าอีก ไม่ต้องไปหลับตาเลยกระทบสัมผัสอยู่นั่นแหละ แต่กิเลสที่เหลือเป็น ภวตัณหา รูปราคะ ก็ล้างอีก เหลืออรูปราคะ เป็นพระอรหัตมรรคแล้ว ก็ทำให้หมดสิ้นอาสวะเป็นพระอรหันต์ พวกหลับตาออกมาเป็นโมฆะบุรุษทั้งนั้น เดี๋ยวนี้มันเสื่อมก็วนเวียนกลับไปสู่ความเสื่อมถึงที่ คือ เหมือนเดียรถีย์ ปฏิบัติในสมัยพระพุทธเจ้า อาตมาก็เอาความจริงมาฟื้นมาตีให้แตก โอ้โห แต่เหนียวยิ่งกว่าโจรร้ายที่ทำลายศาสนาอยู่ พระราชาก็คือพระพุทธเจ้าให้เอาไปฆ่าด้วยหอก 100 เล่ม อาตมาก็พยายามฆ่าด้วยหอกปาก เช้า กลางวันเย็นทีละ 100 เล่ม หมดอาตมาหอกหักหมด คนหอกหักแท้ๆเลย เมื่อไหร่จะสะดุ้งสะเทือนสักที _วิวหกวิวหก : เมื่อมีคนผิด ก็จะต้องมีคนถูก มันก็เป็นเช่นนี้ มีดีมีชั่ว และมันเป็นสันดานเช่นนี้เอง พ่อครูว่า…เพราะฉะนั้นในยุคนี้ถ้าอาตมาผิดเขาถูก ถ้าอาตมาถูก เขาก็ต้องผิด ฉะนั้นจึงต้องเอาพระไตรปิฎกมายืนยันตรวจสอบ ตรงตามพระไตรปิฎกไหมแค่นี้ก็รู้ได้แล้ว พวกเรากลัวไหมที่จะเอาพระไตรปิฎกมาตรวจสอบพวกเรา …ไม่กลัว แล้วศาสนาพุทธกระแสหลักกล้าไหม ? จริงๆแล้ว มันน่าจะมีปฏิภาณไหวพริบ แค่นี้นะจะรู้ความจริงได้ _Djcm Chfhf ดีเจซีเอ็ม: อยากไปปฏิบัติครับ พ่อครูว่า…มาเลยมาเลย หรือ ปฏิบัติอยู่ที่บ้านก็ได้ หรืออยากจะปฏิบัติร่วมกันกับหมู่กลุ่มเข้ามา มีความศรัทธาสูงก็มา ถ้ามาไม่ได้ก็ปฏิบัติอยู่ที่นั่นแหละ ตั้งใจฟังให้ดี _TON TON ตันตัน . อย่าลืมขอขมากรรมองค์หลวงตาด้วยนะครับ…ไม่งั้นหนักมากเลย…ลองไปศึกษาปฏิปทาขององค์ท่านดีๆก่อน…ทองคำเข้าชาตินี้มาทีหลังตั้งหลายชาติครับ โอ้ย…ผมฟังไปสงสารไป….สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม สาธุ พ่อครูว่า…อาตมาจะไปขอขมากรรมทำไม เพราะอาตมาไม่ได้ทำผิดอะไร หลวงตาบัวต้องมาขอขมาต่อศาสนาพุทธต่อพระพุทธเจ้าที่ พาคนหลง มหาบัวไม่รู้ตัวที่ไปหลง หลงว่าที่ตัวเองเรี่ยรายทองและเงินจากประชาชนได้เยอะเอาเข้ากองคลัง อันนี้เป็นเวรเป็นภัยของมหาบัวที่ไม่รู้เท่าทันสิ่งเหล่านี้ แล้วก็ตกเป็นมานะ อติมานะ หยิ่งผยองดีใจ เป็นสารัมภะ ใครพูดอะไรก็ไม่ฟัง ถัมภะ เธอไม่รู้จักมายา สาเฐยยะ ไม่รู้จักสโฐ โอ้อวด แต่ว่าทำโชว์พวกนี้ หน้าที่ของพระปฏิบัติธรรมไม่ต้องทำเก่ง จะต้องเรี่ยไรเงินทองหาเงินทองแล้วเอาเงินทองเป็นกอบเป็นกำไปช่วยโลกไปช่วยสังคม ไม่ใช่หน้าที่เลย เขาตั้งให้เป็นหัวหน้าเศรษฐกิจหรือไง ปัดโธ่ มันไม่ใช่หน้าที่ไม่ใช่เรื่องเลย จะวิจัยไปมากกว่านั้นก็ได้ แต่เอาล่ะ อาตมาก็สงสารคุณตันตัน อาตมาก็ขอพูด…คุณจะเข้าใจว่าจะมาหยิ่งผยอง สารัมภะก็ได้ ให้อาตมาไปขอขมากรรมกับหลวงตาบัว มันไม่ได้หรอก อาตมาจะไปขอขมาทำไม อาตมาไม่ได้ทำผิดมหาบัวต่างหากทำผิด เป็นคนทำสิ่งต่างๆที่เลยเถิด มันเป็นเรื่องเข้าใจได้ยาก ที่คนสามัญจะรู้ได้ในเรื่องนี้ _คอยใคร . กราบเคารพพ่อครูครับ เมื่อต้นเดือนผมได้ฟังญาติธรรมพูดถึงเรื่อง สมณะทำไมไม่มาฟังธรรมพ่อครู ท่านฟ้าไทก็แจ้งว่าฟังที่กุฏิสมณะแต่ละรูป พ่อครูก็บอกว่าเคยบอกไปแล้วเรื่องนี้ ก็แล้วแต่สมณะเหล่านั้น ผมจึงมาคิดถึงแม่เปลี่ยนตอนที่ผมได้ไปบ้านราชช่วงงานพุทธาเมื่อปีที่แล้ว ในวันงานวันหนึ่งช่วงเช้าผมได้ไปช่วยแม่เปลี่ยนเก็บผักบุ้งที่แปลงผักข้างเฮือนบวร แม่เปลี่ยนย้ำผมว่าตัดใส่รถแล้วเข็นไปที่เฮือนบวรไว้ตรงแผงผักแล้วอย่าลืมรีบไปฟังพ่อครูเทศน์นะ ด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วรู้เลยว่ามีความศรัทธาพ่อครูอย่างมากครับ ผมจึงมาคิดว่า ระหว่างการบวชเป็นสมณะที่ศึกษาธรรมโดยตรง กับแม่เปลี่ยนที่เป็นญาติธรรมแต่มาศึกษาธรรมเช่นกัน แต่มีความมานะมุ่งมั่นที่จะมานั่งฟังธรรมทุกครั้ง ที่ผมรู้เพราะเวลาผมฟังธรรมอยู่ที่บ้านแล้วกล้องจะถ่ายผู้ที่เข้าฟังธรรม(นั่งหลับ) ผมจะพยายามมองหาแม่เปลี่ยนว่ามามั๊ย และส่วนมากผมจะเจอแม่เปลี่ยนมานั่งฟังทุกครั้งถ้ากล้องหมุนไปทั่วๆครับ ขอถามพ่อครูครับถ้าผมศรัทธาแม่เปลี่ยนเฉกเช่นอรหันต์เดินดิน ผมคิดผิดมั๊ยครับ (พ่อครูว่า…ได้ คิดได้ ) ส่วนสมณะทุกรูปผมนับถือหมดครับและพ่อครูผมนับถือเป็นพระโพธิสัตว์โดยไม่ขัดข้องใจครับ ขอฝากกราบขอบคุณแม่เปลี่ยนในวันกลับบ้านช่วงงานบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ที่ได้ให้มันเผาอุ่นๆกลับมากินเป็นเสบียงระหว่างเดินทางกลับบ้าน เป็นมันเผาที่หอมน้ำใจไปทั้งรถตลอดทางกลับบ้านเลยครับ สุดท้ายนี้ผมจะขอบอกว่าผมจะส่งแมสเสทยาวๆแบบนี้เป็นครั้งสุดท้ายครับ เพราะพ่อครูโดนจำกัดเวลาแล้วตอนนี้ ผมจึงจะส่งคำถามให้น้อยที่สุดเพื่อแบ่งเวลาให้คนอื่นที่มีคำถามดีๆกว่าผม และผมก็ไม่รู้ว่าคำถามที่ผมถามพ่อครูเป็นคำถามโง่ๆด้วยหรือไม่ครับ อย่างน้อยผมจะขอส่งคำถาม 1 ครั้งต่อเดือนหรือมากสุด 1 ครั้ง ต่ออาทิตย์ หวังว่าพ่อครูจะกรุณาตอบคำถามผมในครั้งต่อๆไปครับ กราบขอบพระคุณพ่อครูครับ พ่อครูว่า…ไม่เป็นไร ถามมาเถิด มีมานี่ดี ถ้าไม่มีอาตมาแห้งเหี่ยวนะ อาตมาตั้งใจจะพูดโยงใยไปถึงสังคมโลกเขาหน่อย ก็เอาบทความของ ดร.ไสว บุญมาเขียนไว้ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม เขียนว่า ชาวอเมริกัน อาจไม่มีวันตื่น ชาวอเมริกันอาจไม่มีวันตื่น ชาวอเมริกันนำโด่งในด้านการเจ็บป่วยและตายจากไวรัสโควิด-19 ปัจจัยที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์นี้มีหลายอย่างซึ่งสร้างความฉงนใจให้ผู้คนจำนวนมาก พ่อครูว่า…อาตมามองเห็นว่าอเมริกานี้เสื่อมตั้งเศรษฐกิจมาตั้งแต่ต้น ตอนนี้ยิ่งเห็นชัดเจน เป็นงูกินหาง กินหางกินหัวตัวเองจนเกือบหมดตัวแล้ว เศรษฐกิจอเมริกา ไม่ได้เป็นความเจริญเลยสำหรับพวกทุนนิยมนี้ เป็นพวกที่สร้างหนี้ เห่อเหิมหลงใหลเรื่องมาก จะกลายทำให้ตัวเองเหมือนเป็นเจ้าหนี้ แต่คนที่ทำตนเองให้เป็นเจ้าหนี้นั้น คือผู้ไปเอาเปรียบเขา ไปโลภมากหาวิธีเอาเปรียบแล้วก็ได้เปรียบมามากๆ จึงกลายเป็นลูกหนี้ทางธรรม นี่ อเมริกาจึงเป็นลูกหนี้ทางธรรมโดยสัจจะเยอะเลย เพราะฉะนั้นดอลลาร์ของอเมริกาแต่ละดอลลาร์ทุกวันนี้ที่เกิดกระจายทั่วทุกมุมโลกคือเศษกระดาษที่ ถ้าเอาตลาดไปแลกเอาสิ่งมีค่ากลับมาจะขายประเทศอเมริกาจะพอไหม พอจะใช้หนี้เงินดอลลาร์ไหม นี่คือสัจจะ ที่เขาไม่มองกัน แต่มันทำได้ สักวันหนึ่งถ้าล้มละลายเมื่อไหร่ดอลลาร์ตกก็จะรู้สึก ตอนนี้ก็ยังเก่ง ถ้าในอนาคต โลก ไม่ต้องพึ่งพาเรื่องอาวุธ ไม่ต้องเอาเทคโนโลยีอื่นด้วยซ้ำไป เอาแค่โลกไม่ต้องพึ่งพาอาวุธอเมริกาจะรู้สึกตัว ตอนนี้ ประเทศอื่นเขาก็ไม่ได้กลัวและอาวุธ ขนาดเกาหลีเหนือก็ยังไม่กลัวอเมริกา เนื่องจากสหรัฐก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ ปัจจัยนำได้แก่จุดยืนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ซึ่งเล็งผลเลิศทางการเมืองเรื่องตนจะชนะการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่เป็นหลัก จุดยืนนี้ทำให้เขามักไม่ยอมฟังผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์ส่งผลให้เกิดมาตรการและพฤติกรรมที่มีผลร้าย แม้จุดยืนของเขาจะสร้างความเสียหายร้ายแรง แต่เขาไม่เปลี่ยน ตรงข้ามยังพยายามทำทุกอย่างรวมทั้งการบิดเบือนความจริงและโทษผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์เพื่อหวังจะคงฐานด้านการเมืองไว้ นั่นคือ จูงใจผู้เคยเลือกเขาเมื่อ 4 ปีก่อนให้ทำซ้ำอีกครั้งในการเลือกตั้งในเดือนพ.ย. ย้อนไปหลังนายทรัมป์ชนะการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว คอลัมน์นี้ชี้ว่า ปัจจัยที่ทำให้เขาชนะทั้งที่เขามีประวัติด่างพร้อยนั้น ชาวอเมริกันและชาวโลกไม่สะกิดใจ หรือมองไม่เห็น นั่นคือ “ความฝันของชาวอเมริกัน” (American Dream) ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้สังคมอเมริกันก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ แก่นของปัจจัยได้แก่ความฝังใจที่ว่า ชาวอเมริกันต้องมีทุกอย่างครบถ้วนสำหรับดำเนินชีวิต และรุ่นปัจจุบันต้องก้าวหน้าพร้อมกับมีอะไรต่อมิอะไรมากกว่ารุ่นก่อน ปัจจัยนี้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของระบบตลาดเสรีที่สังคมอเมริกันใช้ อย่างไรก็ดี มันมีคำสาปแฝงอยู่ คำสาปมีผลร้ายทั้งในระดับโลกและในสังคมอเมริกัน การที่ชาวอเมริกันรุ่นปัจจุบันต้องมีสรรพสิ่งมากกว่ารุ่นก่อน นำไปสู่การใช้ทรัพยากรมากขึ้นทั้งที่จำนวนมากเกินจำเป็นต่อการดำเนินชีวิต การใช้ทรัพยากรแนวนี้นำไปสู่การทำลายระบบนิเวศจนขาดสมดุลและภาวะโลกร้อนซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของโลก สังคมอเมริกัน นอกจากจะรับผลกระทบด้านระบบนิเวศแล้ว ยังรับด้านสังคมอีกด้วย ทั้งนี้เพราะระบบตลาดเสรีที่เขาใช้ได้ถูกบิดเบือนไปอย่างมีนัยสำคัญโดยชนชั้นมหาเศรษฐีและผู้มีอำนาจรัฐ กล่าวคือ ชนชั้นมหาเศรษฐีและผู้มีอำนาจรัฐสร้างกฏเกณฑ์ขึ้นเพื่อเอื้อประโยชน์ให้พวกตนมากกว่าประโยชน์ของสังคมโดยรวม ผลพวงของกฏเกณฑ์จำพวกนี้ได้แก่ ชนชั้นเศรษฐีแย่งส่วนแบ่งของการขยายตัวทางเศรษฐกิจไปเกือบหมด ทำให้ความยากจนไม่ลดลง ตรงข้าม มันทำให้ความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้นพร้อมๆ กับทำความขุ่นข้องหมองใจให้แก่ชาวอเมริกันนับล้านคนซึ่งพร้อมใจกันมองข้ามความด่างพร้อยของนายทรัมป์ในการเลือกประธานาธิบดีปี 2559 ในช่วงเวลาเกือบ 4 ปีที่นายทรัมป์กำอำนาจรัฐ เป็นที่ประจักษ์ว่า นโยบายของเขามุ่งเน้นการเสริมความฝันของชาวอเมริกันผ่านความพยายามทำให้เศรษฐกิจขยายตัวสูงสุด โดยไม่คำนึงถึงการทำลายระบบนิเวศและสภาพความเหลื่อมล้ำที่มีแนวโน้มว่าเลวร้ายยิ่งขึ้น ในภาวะปกติ นโยบายแนวนี้จะมีผลทำให้ชาวอเมริกันตัดสินใจจะเลือกเขาเป็นประธานาธิบดีอีกสมัยหรือไม่ แต่ในภาวะวิกฤติอันเกิดจากไวรัสโควิด-19 ปัจจัยที่จะทำให้ชาวอเมริกันตัดสินใจเลือกใครสลับซับซ้อนมากขึ้น หากชาวอเมริกันส่วนใหญ่มองทะลุทั้งนโยบายพื้นฐานและการบิดเบือนต่างๆ ในระหว่างเกิดวิกฤติของนายทรัมป์ที่ทำให้ชาวอเมริกันป่วยและตายแบบนำโด่ง เขาคงแพ้การเลือกตั้ง ในกรณีที่เขาชนะ น่าจะตีความหมายได้ความว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยังไม่ตื่น อย่างไรก็ดี ในกรณีที่นายทรัมป์แพ้ก็ไม่ได้หมายความว่าชาวอเมริกันตื่นแล้ว ทั้งนี้เพราะนโยบายที่คู่แข่งหลักของเขาเสนออาจต่างออกไปในด้านระบบนิเวศและด้านการมองความเหลื่อมล้ำ แต่ไม่ต่างในด้านพื้นฐานของการใช้ทรัพยากรมากขึ้นเพื่อสนองความฝันของชาวอเมริกัน ฉะนั้น การมองว่าไวรัสโควิด-19 จะทำให้ชาวอเมริกันตื่นและพร้อมที่จะเปลี่ยนแนวคิดพื้นฐานในการดำเนินชีวิตตาม “ปกติใหม่” (New Normal) ที่ไม่ใช้ทรัพยาการเพิ่มขึ้นจนนำไปสู่การทำลายระบบนิเวศและลดความเหลื่อมล้ำนั้นยังเร็วเกินไป เรื่องนี้จะต้องรออีกไม่ต่ำกว่า 4 ปีหากมีผู้สมัครประธานาธิบดีที่เสนอทางเลือกแนวปกติใหม่แล้วได้รับเลือก ณ วันนี้ยังไม่มีตัวชี้บ่งว่ามันจะเกิดขึ้น พ่อครูว่า…ถ้าทรัมป์ ชนะ แปลว่าชาวอเมริกันยังไม่ตื่น ทั้งๆที่เหตุการณ์ covid มันบอกความล้มเหลวอเมริกันเท่าไหร่แล้ว พลเอกประยุทธ์กับโดนัลด์ทรัมป์ทิ้งกันไม่เห็นฝุ่นเลย แข่งขันเรื่องแก้ปัญหาโควิด ผู้นำสองประเทศนี้ เห็นไหม พลเอกประยุทธ์ทิ้งโดนัลทรัมป์ไปไม่เห็นฝุ่นเลย เป็นการเปรียบเทียบการดำเนินชีวิต จะเป็นทุคโตหรือสุคโต จะดำเนินไปดีหรือดำเนินไปไม่ดี ผู้มีภูมิธรรมจะรู้เรื่องสุคโต กับทุคโต อาตมาพูด แล้วก็พูดไปดังๆด้วย ว่า ประเทศไทยนำโด่งทางด้านการเมือง ยิ่งทางวัฒนธรรมสังคมเศรษฐกิจก็ตาม เมืองไทยนำโด่งประเทศต่างๆ อาตมาสงสารพวกนักก็รู้ นักวิชาการ นักบริหาร สงสารที่เมืองไทย มีพระโพธิสัตว์พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่ท่านตรัสเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ให้พยายามบริหารประเทศแบบคนจน ให้พยายาม บริหารแล้วก็ทำความเข้าใจให้คนว่า ให้เสียนี่ล่ะเราได้ ให้ขาดทุนนี่เรากำไร ท่านตรัสสั้นๆ แต่มันเป็นสัจจะที่วิเศษ เป็นความรู้ที่ลึกซึ้งซับซ้อนที่ประเสริฐ อย่างชาวอโศกเราทำได้ ชาวอโศกเรามาขาดทุนเป็นกำไรหรือการเสียสละนี่แหละคือเราได้ทำถูกแล้ว แล้วก็มาเป็นคนจน เป็นคนจนอย่างมีปัญญา เป็นคนจนอย่างเข้าใจ อาตมาก็พูดถึงเรื่องนี้มาพอๆกันกับในหลวง ที่เราได้หามา ในหลวงท่านตรัสปี 2534 อาตมาพูดถึงเรื่องนี้ทำเรื่องนี้มาตั้งแต่อาตมาบวชมา แล้วมันก็สอดคล้องกัน ท่านเป็นในหลวง ท่านจะตรัสอะไรออกสู่สาธารณะสู่สังคม มันต้องเป็นคำสำคัญ คนจะฟังแล้วค่อยๆเอาไปศึกษา ต้องเป็นคำพรคำประเสริฐ คำตรัสของผู้ใหญ่เป็นคำพร ในหลวงท่านเป็นผู้ใหญ่ของประเทศคำตรัสของท่านก็เป็นคำพรคำประเสริฐ และเมื่อท่านตรัสแล้ว เขาก็ยังไม่กระดิกหูกัน ยังไม่ค่อยเข้าใจ ยังไม่เอามาศึกษา เป็นหลักศึกษาว่าทำไมท่านตรัสอย่างนี้ มันเป็นเรื่องที่ท่านไม่น่าจะตรัสอย่างนี้นะ ท่านเป็นในหลวงแล้วมาตรัสอย่างนี้มันถูกหรือให้มาบริหารประเทศแบบคนจน ไม่ต้องไปรวย เราก็รวยพอสมควรอะไรอย่างนี้ เราทำกันอย่างสามัคคีช่วยเหลือกันอะลุ่มอล่วยเกื้อกูลกัน นี่แหละมันจะเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ท่านตรัสสั้นๆ ท่านตรัสกระทัดรัด แต่มันสมบูรณ์แบบในตัวของมันเองยิ่งใหญ่ อาตมาเอามาขยายความพวกเราก็เข้าใจกันคนข้างนอกก็พอจะเข้าใจ ถ้าในหลวงขยายความอย่างที่อาตมาขยายความนี้จะยอดเยี่ยม แต่ท่านก็เป็นสายเจโต เป็นอย่างที่ท่านเป็น ท่านก็เลยได้ประพฤติตามที่ท่านมีภูมิธรรมอย่างนั้น ขยายความไม่ค่อยออก อาตมาเป็นสายปัญญา อาตมาเป็นสายปัญญานำ แต่ก็มีอุภโตภาค ทั้งเจโตด้วย มาปฏิบัติประพฤติ จนเป็นจริงตามธรรมะพระพุทธเจ้ายืนยันได้ ทั้งในพระไตรปิฎกเอามาตรวจสอบ เอามายืนยันกันไปต่างๆนานา หลักฐานต่างๆ ไปจะเอาหลักฐานต่างๆจากคำสอนพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎกมา แล้วเอามายืนยันกับชาวอโศกว่ามันเข้ากันได้ไหมกับคำสอนพระพุทธเจ้าตรงกันไหม ผิดเพี้ยนไปไหม ชอบมากๆ ใครจะเอามายืนยันอย่างนี้ชอบมากเลย เราจะได้รู้ว่าอันไหนมันผิดพลาดจะได้ปรับปรุงแก้ไข แล้วอันที่มันตรงกับพุทธเจ้ามีเยอะ นิมนต์พ่อครูจิบน้ำ… สมณะฟ้าไท… อเมริกาตอนนี้ กิจการต่างๆล้มละลายไปไม่ใช่น้อย ตอนนี้ เหตุการณ์ที่น่าประทับใจคือ 4 กุมาร ลาออกเพื่อให้นายกได้ปรับคณะรัฐมนตรีโดยไม่ได้ว่าอะไรเลย ทั้งที่ตอนแรกพวกเขาไปเชิญพลเอกประยุทธ์มาเป็นนายกฯเอง คนที่เห็นค้านที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คนเขาก็ไม่เห็นด้วย เพราะใช้ภาษาหยาบคายเป็นอันธพาล เราเป็นประชาชนก็จะไม่ฟัง มีแต่คำด่าทอหยาบคาย ไม่ใช่ปัญญาชนที่จะไปวิเคราะห์วิจัยอย่างที่พวกเราไปทำกัน พ่อครูว่า…ก็ขอเข้าในเรื่องของหมวดสังคม การเมืองให้จบเลย เมืองไทยเรานี่ เป็นทั้งประชาธิปไตย ตามที่อาตมาเข้าใจความเป็นประชาธิปไตยแบบพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นประชาธิปไตยที่ 1 เห็นแก่ผู้อื่นที่เป็นมวลประชาชนไม่เห็นแก่ตนเอง เพราะฉะนั้นคนที่จะไม่เห็นแก่ตน ก็ต้องเป็นคนที่หมดตัวหมดตน รู้จักกิเลสตัวตน แล้วก็กำจัดกิเลสตัวตน แล้วก็ไม่ใช่การกำจัดกิเลสตัวตนด้วยลัทธิหรือทิฐิที่ไปกดข่มกิเลสนี่ ไปจากสังคมแบบพวกเชนออกไปจากสังคมไปป่าเขาถ้ำสะกดจิตไม่ใช่ แต่เป็นการไม่มีตัวตนด้วยการรู้จักตัวตน ตั้งแต่ โอฬาริกอัตตา แล้วกำจัดโอฬาริกอัตตา ได้ด้วยไฟฌาน ไฟบุญ สลายกิเลสที่มันยึดตัวตน หมดไปจริงๆ ศาสนาพุทธเดี๋ยวนี้มันเสื่อมเข้าใจภาษาพระพุทธเจ้าไม่ได้ เข้าใจไม่ถูก อาตมาก็เอาความถูกต้องมาพูดมาขยายความ จึงจำเป็นต้องเอาพระไตรปิฎกมายืนยัน พระสูตรต่างๆประกอบเสมอ ยังจะพอมีน้ำหนัก เพราะเขาไม่เชื่อน้ำหน้าอาตมา ที่ไม่เชื่อนั้นก็น่าเห็นใจเขา เพราะอาตมาเกิดมาชาตินี้เป็นคนกระจอก เป็นคนไม่มีตำแหน่งไม่มีหน้าที่ไม่มีความรู้ ไม่มีที่อ้างอิงทางสถาบันศึกษา โผล่มาจากวงการมายาด้วย โผล่มาจากดำดินมาจากไหนไม่รู้มาบอกว่าตัวเองเป็นพระอริยะตัวเองเป็นพระโพธิสัตว์ เขาไม่มีที่มาที่ไปก็น่าเห็นใจที่เขาจะไม่เชื่อ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรอาตมาก็เลยต้องบอกว่า อาตมาเป็นคนที่มีอันนี้มาแล้วเป็น สยังอภิญญา ผู้ที่มีอภิญญามาตั้งแต่ปางก่อนยังไม่ถึงกับเป็นสยัมภู เป็นพระโพธิสัตว์ ผู้ที่ร่ำเรียนมาก็คงจะเข้าใจพยัญชนะเหล่านี้ อาตมาไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้า จริง ดูอีกระดับหนึ่ง ปัจจัตตัง ปัจเจก สยังอภิญญา สยัมภู อาตมาก็อธิบายความ ตั้งแต่เป็นพระโสดาบันก็มีเป็นปัจจัตตังแล้ว จนเป็นพระสกิทาคามีอนาคามีจนเป็นพระอรหันต์ก็มีของตัวเองครบบริบูรณ์ในเรื่องของกิเลส สิ้นอาสวะ อย่างนี้เป็นต้น สู่แดนธรรม…การมาของพ่อท่าน นอกตำรา พ่อครูว่า..ไม่ใช่ มีในตำรามีในตำนานแต่เขาอ่านตำราไม่แตก เขาเข้าใจผิดในตำรา เขาเข้าใจภาษาของศาสนาพุทธ จากถูกเป็นผิด ก็ยืนยันตามตำราเดิมของพุทธเจ้า สู่แดนธรรม..พ่อท่านมาจากตำราแต่ไม่มีใครเคยมาจากตำราแบบนี้มาก่อน พ่อครูว่า…เขาเข้าใจผิดเขายึดถือสิ่งที่ถูกเป็นผิด ยึดถืออรหันต์เดา เป็นต้น อรหันต์เดาไม่ได้ อรหันต์ต้องรู้แจ้งเห็นจริงยืนยันได้จึงเป็นพระอรหันต์ ถ้าจะบอกว่าเป็นอรหันต์ ก็มีมังกุ ไม่ควรพูดอะไรอย่างนี้ สะดิ้ง มันไม่ใช่ มันต้องชัดเจนมันต้องมั่นใจต้องรู้จิตเจตสิกรูปนิพพาน ขนาดอาตมาประกาศตัวเองเป็นอะไรเขาบอกว่ารู้ได้อย่างไรตัวเองเป็นอรหันต์ อ้าวแล้วกัน ผู้ที่ประกาศตัวเองเป็นอรหันต์และไม่รู้ว่าเป็นได้อย่างไรก็หน้าแตกสิ ก็ต้องรู้ อาตมาประกาศตัวเองว่าเป็นอรหันต์เพราะอาตมาไม่มีกิเลสแล้ว กิเลสเป็นอย่างไรก็อธิบาย กายกลิต่างๆ เดี๋ยวนี้เขาก็ไม่รู้ว่ากายเป็นอย่างไรแล้ว เรียนรู้ตั้งแต่สังโยชน์ข้อที่ 1 สักกายทิฏฐิ คือคู่รูปนาม เรียนรู้กาย แยกกายแยกจิตให้ได้ พอบวชปั๊บ ก็มีวินัยเลย ให้อุปัชฌาย์สอนการแยกกายแยกจิต เพราะถ้าไม่เข้าใจเรื่องการแยกกายแยกจิตได้แล้ว จะไม่มีทางบรรลุอรหันต์ เมื่อไหร่เป็นกาย เมื่อไหร่ไม่เป็นกาย ความไม่เป็นกายเลย เริ่มตั้งแต่ พีชะ แต่ยังเป็นชีวะ กาย คือ สภาวะสอง ที่เริ่มตั้งแต่เวทนา วิญญาณ พีชะไม่มีเวทนาไม่มีวิญญาณ ท่านก็เลยมาสอนให้รู้ตั้งแต่ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เมื่อไหร่มันไม่เป็นกาย ก็ต่อเมื่อมันไม่เกี่ยวข้องกับจิตกับพีชะเลย สภาพมันเป็นอุตุ คือมันไม่เป็นชีวะ เพราะฉะนั้นเล็บที่ยังมีชีวิตอยู่มันยังไม่ใช่อุตุมันยังเป็นพีชะ แต่มันไม่มีเวทนาไม่มีความรู้สึกไม่มีวิญญาณไม่มีบาปไม่มีบุญ ไม่มีวิบากอะไร เพราะฉะนั้นมันก็ไม่เจ็บ เราเรียนรู้อย่างนี้เราจะได้รู้ว่าเราทำจิตนิยามของเรานี้ ให้เป็นอุตุให้เป็นพีชะ โดยกรรมโดยธรรม ทำให้เป็นได้ คุณจะบรรลุเป็นพระอรหันต์จะต้องรู้จักอาการของรูปนาม หรือเรียกว่า กาย ที่มันทำปฏิกิริยาปรุงแต่งกัน เล็บมันมีธาตุดินปรุงแต่งกันเป็นก้อนตัดออกมันก็เป็นอย่างนั้น มันไม่มีชีวแล้วเป็นอุตุแน่แท้ แม้แต่คุณยังไม่ตาย ถ้าจิตของคุณมันไม่มีชีวะ มันตายเลย เช่น จิตของเราที่ไปเกี่ยวข้องกับอบายมุขเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เลวที่ผิดที่ต่ำที่หยาบแล้ว เราเรียนรู้มันให้จริงว่าอันนี้แต่ก่อนเราหลงมันเป็นชีวิตชีวา หลงมันได้มา แล้วก็สุขแล้วก็ทุกข์เป็นตัวเราของเรา ให้เป็นเวรแท้ๆของนี่ได้ไปยึดมาเป็นเราเป็นของเราก็เข้าใจแล้วจะหลุดจากอบาย เมื่อหลุดพ้นจากอบายมุขแล้วมันก็มีอยู่ในโลก เช่นคุณไม่ได้ติดเหล้าไม่ได้ติดลิปสติกแล้ว มันก็มีอยู่ในโลกแต่เราเลิกแล้ว เราไม่ได้เอามาเกี่ยวข้องกับชีวิตให้เป็นสุขเป็นทุกข์ เราก็รู้ว่าจิตของเราเป็นอย่างไร ซึ่งตอนนี้เป็นอุตุแล้วกับเรา บางอย่างเราเกี่ยวข้อง จะเป็นพืชพันธุ์ธัญญาหารเราก็เกี่ยวข้อง เราเอามาเป็นเหตุปัจจัยในการสังขาร แต่มันยังมีชีวิตของผี อาหารต่างๆ คุณก็เรียนรู้มันยังเป็นชีวะมันต้องประกอบเป็นชีวะต้องเกี่ยวข้องกันอยู่ แต่กิเลสของคุณต่างหากมันยังไม่ยอมตาย มันยังเป็นจิตนิยามเป็นสวรรค์เป็นนรก เราห้ามกิเลสตัวนี้จนกระทั่งจิตของคุณเป็นพีชะ แต่ก่อนคุณกินพวกนี้คุณก็ได้ขึ้นสวรรค์ อะไรที่ชอบ แหม เราชอบส้มโอ ได้กินส้มโอตามอุปาทาน ส้มโอยี่ห้อนี้รสชาติอย่างนี้ สัมผัสแล้วมันมีน้ำฉ่ำอย่างนี้มีกลิ่นอย่างนี้ โอ้โห ที่ 1 เลย กินแล้วชื่นใจนั่นแหละคือผีหลอกกิเลสหลอก คุณรู้สวรรค์คุณรู้นรก รู้ตัวติดตัวผลัก อันนี้ไม่ชอบก็ผลักอันไม่ชอบก็ติด แล้วมันก็ต้องใช้ในชีวิตเกี่ยวข้องกับในชีวิต คุณก็ต้องเรียนรู้ อัตตาในระดับมโนมยอัตตา อัตตาที่สำเร็จด้วยจิตปรุงแต่งเป็นผีด้วยจิต คุณก็รู้ทัน บอกว่ารสมัน รสของส้มโอมันก็เป็นรสนี้จริงๆ แล้วมันมีรสอะไรแฝงมาคุณก็รู้ว่านี่คือผีหลอก ต้องพิจารณามัน เฮ้ย เกิดเมื่อไหร่อย่ามาทำหน้าแหลมนะเอ็งพวกผีหลอก รู้ด้วยปัญญาทุกทีที่คุณสัมผัสเกี่ยวข้อง แต่ก่อนคุณเคยสัมผัสแล้วมีความสุขกับสิ่งที่คุณเกี่ยวข้องยกตัวอย่างส้มโอก็แล้วแต่หรืออย่างอื่นก็แล้วแต่ บางคนไปนั่งหลับตาไม่ได้มีสัมผัสเลิกเลยศาสนาพุทธไม่ได้เคยสอน ไม่ใช่วิธีปฏิบัติ ไม่มีอปัณณกปฏิปทา 3 ไม่มีการสังวรสำรวมเกี่ยวข้องไม่มีโภชเนมัตตัญญุตา สูญ ไม่ใช่ศาสนาพุทธ เป็นคนหลับไม่ตื่น เอาหอกแทง100 เล่มเช้ากลางวันเย็นก็ยังไม่ตื่นเลย ทำพีชะได้ก็ได้ขั้นหนึ่งแล้ว จนสามารถเห็นว่าถึงแม้จะเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องอาศัย แต่มันก็ไม่ใช่ตัวตนไม่ใช่ของเราไม่ใช่อะไรลึกซึ้งกันอีก คุณก็จะเห็นว่ามันเป็นอุตุ เป็นสูญ ปัญญาอันยิ่ง จะเป็นตัวที่ทำให้เราเข้าใจแล้วเราก็รู้ว่า เออ อันนี้ในชีวิตต้องอาศัยมันอยู่ ก็มีอนุโลมปฏิโลมกับสิ่งเหล่านี้มันเป็นสมมติสัจจะที่เราต้องอาศัยมันไป แต่สิ่งที่ควรจะต้องเรียนรู้แล้วให้ไม่มีให้เห็นได้คือสวรรค์และนรก ผลักหรือดูด ความจำเป็นกับชีวิต หรือไม่จำเป็นกับชีวิตเป็นปัจจัยหรือไม่เป็นปัจจัย ปัจจัยอันสมควรหรือไม่เป็นอันสมควรรู้ความจริงอันนี้ให้ชัดเจน แล้วคุณก็อยู่กับสิ่งเหล่านี้ในชีวิต เพราะฉะนั้นจึงเป็นคนที่ไม่มี ไม่ไปติดอะไรมาก ไม่ไปยึดอะไรมาก รู้จักเหตุปัจจัยในชีวิต แล้วก็รู้จักองค์ประกอบหรือบริขารของชีวิตที่มีใช้ทำประโยชน์พอสมควรไม่ติดไม่ยึด คนที่สามารถเข้าใจชีวิตแล้วก็อยู่กับองค์ประกอบได้อย่าง ไม่เดือดร้อนไม่สะสมไม่กอบโกย ไม่ไปแย่งชิง แต่ทำงานกับเหตุปัจจัยที่เรามีใช้มีอาศัยอยู่อย่างเป็นประโยชน์ ประโยชน์ตนเองนั้นไม่ต้องมาขนาดนี้ก็ได้แล้ว ส่วนมันมีประโยชน์มากกว่านั้น เราก็เข้าใจแล้วก็สร้างเพื่อผู้อื่น ไม่ได้สร้างเพื่อประโยชน์ตนเองแต่สร้างเพื่อประโยชน์ผู้อื่น คนผู้นี้เข้าใจอย่างนี้จึงเป็นนักเศรษฐกิจหรือเป็นนักเศรษฐศาสตร์เบอร์ 1 ไม่มีตัวตน ไม่เห็นแก่ตัว ไม่สะสมสร้างสรรเสียสละ มีวรรณะ 9 เศรษฐศาสตร์หรือว่าบุคคลผู้ที่มีคุณธรรม วรรณะ 9 หรือสาราณียธรรม 6 พุทธพจน์ 7 นั่นแหละคือนักเศรษฐศาสตร์เบอร์ 1 ของโลก ชาวอโศกเราเป็นต้น เป็นนักเศรษฐศาสตร์เบอร์ 1 ประสบผลสำเร็จสำเร็จเศรษฐกิจของตัวเอง แม้แต่สังคมรวมชาวอโศกก็ประสบความสำเร็จในธุรกิจตัวเองแล้ว เดี๋ยวนี้ อาตมาตัดสินแล้วยืนยันว่าชาวอโศกมีเศรษฐกิจดีที่สุด สมณะฟ้าไท สรุปจบ Category: ศาสนาBy Samanasandin19 กรกฎาคม 2020Tags: พุทธศาสนาตามภูมิวิถีอาริยธรรม Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:630717_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ตอบปัญหาพาให้ลดวิบากกรรมNextNext post:514(536) asoke news มิถุนายน’๖๓ รวมปักษ์Related Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024