ก.ค.312020ศาสนา630731_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ นักเศรษฐศาสตร์ชั้นสูงคือผู้มีปัญญายอมขาดทุน ดาวโหลดเอกสารที่ https://docs.google.com/document/d/1qmnjPWDaUhmu_AmQytb5PN-H8mUbDrisBt4j7sr4Z7M/edit?usp=sharing ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1IVzcuf_fPlfBlcgkXuNdMVS-aCXn-C6g/view?usp=sharing และยูทูปที่ https://youtu.be/yf-H8su4WIY สมณะเดินดินเกริ่นกล่าวว่า… วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม 2563 ที่บวรราชธานีอโศก พ่อครูว่า…ก็เกริ่นถึงเรื่องสัจธรรมที่ท่านเดินดินได้กล่าวถึง มีใน จูฬวิยูหสูตรว่าสัจธรรมมีดวงเดียว สัจธรรมมีหนึ่งเดียวนั้นคืออริยสัจ 4 แต่ละคนกำหนดเองเถียงกัน แล้วก็แย่งกันหมดทุกคนแย่งกันหมด เพราะฉะนั้นศาสนาพุทธถ้าเข้าใจได้แล้ว อย่างเช่น พระอรหันต์เข้าใจแล้วว่าทุกอย่างก็คือสิ่งที่มันเกิดมาเป็นอย่างนี้ ถ้าผู้ใดสามารถบรรลุอริยสัจ 4 แล้ว ผู้นั้นก็จบ โลกก็มีอย่างอื่นใดๆที่ไม่เที่ยงสักอย่างแต่เขากำหนดเองว่าอย่างนี้มันใช่อย่างนี้มันเที่ยงของแต่ละคนเสร็จแล้วเขาก็เถียงกัน เถียงกันทั้งนั้นเลย คนที่จบ ปฏิบัติสมบูรณ์แบบเป็นอรหันต์ บรรลุอริยสัจ 4 สมบูรณ์แล้วเท่านั้น ถึงจะรู้ว่าสัตว์จะมีอริยสัจ 4 เท่านั้น นี่สรุปได้ใน จูฬวิยูหสูตร ซึ่งเข้าใจยากสำหรับผู้ที่ยังไม่บรรลุหรือยังไม่ถึงขั้นสภาวะจะเข้าใจ จูฬวิยูหสูตร หากไม่ถึงจะอ่านแล้วเวียนหัวเลย ก็ขยายความให้ฟัง ผู้ที่ศึกษามา ลองบรรเลงเพลงกล่อมโลก แดดอุ่นอุ่นอรุณฉายจากปลายฟ้า แสงอุษาฟ้าสางต่างคิดถึง คำพ่อสอนสะท้อนพลังยังตราตรึง น้อมคำนึงซึ้งใจไม่เสื่อมคลาย การกสิกรรมทำกินถิ่นกสิกร พ่อเคยสอนย้อนสั่งยังสืบสาย ถือเป็นแดนแผ่นดินถิ่นเดียวดาย คลังปู่ย่าตายายสายสืบมา อยู่ชายแดนแผ่นดินพุทธสุดประเทศ คือติดเขตประเทศเขมรเป็นภูผา ผูกสัมพันธ์ฉันท์น้องพี่มีเมตตา รอยโบราณผ่านเวลาพึ่งพากัน บุรีรัมย์ตําน้ำกินถิ่นกันดาร อดีตกาลละหานห้วยด้วยทุกข์มหันต์ นอนเฝ้าบ่อขอน้ำเพียงเลี้ยงชีวัน เพื่อแบ่งปันกันกินให้ยินยล อุปสรรคสร้างนักสู้คู่จักรวาล ปราชญ์โบราณท่านย้ำนำกุศล ความลำบากตรากตรำนำจิตคน ให้อดทนดลสู้อยู่ร่ำไป เกิดเป็นมนุษย์สุดดีที่รู้สร้าง เป็นตัวอย่างอ้างอิงสิ่งนำสมัย อาวาสถานผ่านเมฆาอ่าอำไพ สร้างเอาไว้ให้ลูกหลานตำนานธรรม มาอยู่ไพรใช่ว่าหลงป่าไพร เป็นฤาษีหนีไกลใจลึกถลำ เสียงพ่อก้องร้องสั่งยังจดจำ ยังตอกย้ำนำใจอยู่ไพรพนา อาจารย์เป็นต้น นาประโคน ผู้ประพันธ์ อาจารย์ดั่งบุญ ธิดาพญาแร้ง ผู้เขียน 28 กรกฎาคม 2563 SMS วันที่ 29-30 ก.ค. 2563 _สติพล จนพัฒนา · ฟังธรรมได้ทบทวนและซักซ้อม ฝึกใจยอมรับได้ไม่หวั่นไหว เจอเหตุการณ์จริงไม่เป็นไร เพราะฝึกไว้ได้แล้วอย่างช่ำชอง…คนชม116ครับ. / ถ้าปฏิบัติถูกต้องถูกทางคำว่า”ติดแป้น”ไม่มีใช่ไหมครับ..มีแต่จะเกิด”สภาวะ”ที่ชัดเจนและเจริญขึ้นสูงขึ้นไปตามลำดับใช่ไหมครับ??. _Tapanee Burakrai (ฐปะนีย์ บุราไกร) · ลูกกราบขอบพระคุณพ่อท่านด้วยความเคารพในวันนี้(29/7/63)ชัดเจนที่สุด อย่างท่านฟ้าไทว่าต้องล้างใจ ธรรมะพ่อท่านวันนี้สูตร(29/7/63) แต่ละสูตรมาเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันทั้งหมดหากเกิดสภาวะจะชัดเจนมาก ๆ ค่า ลูกเพิ่งฟังพ่อท่านรู้เรื่องค่าตั้งแต่ปี 42 ค่า _Paphada Jeenmaroeng (ปภาดา จีนมะเรือง) : ฟังพ่อท่านไม่เบื่อเจ้าค่ะเพราะว่าธรรมะพ่อท่านเป็นยานอนหลับอย่างดีค่ะพอฟังจบก้อง่วงทำให้หลับสบายอย่างมีความสุขเจ้าค่ะฟังอยู่จากออสเตรเลียเจ้าคะ _เสาวณี ทองโกมล : มีพ่อครูเป็นพ่อทางธรรม ชีวิตไม่เคว้งคว้างแล้ว. ชีวิตทางโลกสับสนคนที่ว่าดีก็บกพร่องมากมายจนไม่มีคนที่เราเคารพเต็มที่ได้ ไม่กังวลว่าไม่มีญาติหรือมีอีกต่อไป _สุวิดา พิชยศ · กราบนมัสการท่านสมณะและสิกมาตุ กะปะ และญาติ ทุกๆท่าน วันนี้ (30/7/63) ได้ฟังการย่อย ธรรมะได้เข้าใจเวทนา. มากขึ้นๆ. เป็นลำดับ ขอน้อม เอามาใส่ เศียรด้วยเกล้า เจ้าคะ. สาธุ / ตอนฟังก็เข้าใจๆคะ แต่พอไม่ได้ฟัง. หรือพอ เวลาผ่านไปแล้ว. เราก็ลืม แสดง ว่าเรา สะสม บารมีมาน้อย หรือเปล่าคะ. หรือเราต้องเพิ่มศีล. ให้สูง ขึ้น. สาธุ _นภารัตน์ อิ่มรัง · เกิดผัสสะอารมณ์โกรธ.เครียดแค้นรู้อารมณ์แแต่สู้กับผัสสสะไม่เก่ง.ตอ้งพยามมากบ้างครั้งต้องสวดมนต์เข้าสู้.นึกถึงแต่เสียงพ่อท่าน.ปัญญาน้อย พ่อครูว่า…ที่พูดมารายงานมาแสดงว่าเข้าใจธรรมะ ปฏิบัติธรรมอย่างนี้แหละศาสนาพุทธไม่ใช่ไปนั่งหลับตา หรือเดินจงกรม เดินจงกรมคือการออกกำลังบ้าง มันเป็นวิธีการสร้างสมถะอย่างหนึ่งการเดินจงกรม การนั่งหลับตาก็เป็นสมถะแต่ไม่ได้เป็นทางเอกของศาสนาพุทธ ทุกวันนี้ถูกปิดเบือนไปนั่งหลับตาสมาธิถือว่าอันนั้นเป็นทางเอกของศาสนาพุทธ อันนี้แหละเป็นประเด็นที่ผิด อาตมาไม่ได้รังเกียจการนั่งหลับตาทำสมถะ ไม่น่าจะเรียกว่าสมาธิของพุทธหรอกแต่ เป็นสมาธิของแต่ละทีเขาก็เรียกสมาธิเหมือนกัน ศึกษาให้ดี จะแยกให้ออกว่าอย่างไรเรียกว่าสมาธิของพุทธ อย่างไรเป็นสมาธิของเดียรถีย์ สรุปว่านั่งหลับตาสมาธินั้นไม่ใช่ของพูดเลยเป็นของเดียรถีย์แน่นอน ส่วนของพุทธนั้นลืมตาปฏิบัติด้วยไตรสิกขา หรือด้วย จรณะ 15 วิชชา 8 นี่เป็นสมาธิของพระพุทธเจ้า _Phanu (ภานุ) : รักชัง ไม่ใช่เวทนา รักชัง คือตัณหา อร่อย ไม่ใช่เวทนา อร่อย คือตัณหา พ่อครูว่า…การกำหนดพยัญชนะกับสภาวะมันไม่ใช่ง่ายๆ มันเป็นเรื่องยากมากเลย กำหนดสภาวะให้มันลงตรงกับพยัญชนะ คือจะเรียนรู้คำพูดหรือพยัญชนะก่อน กำหนดพยัญชนะอย่างนี้คือลักษณะอย่างนี้ เช่นยกตัวอย่างคำว่ารูปกับนาม คำว่ารูปคือส่ิงที่ถูกรู้ และในขณะเรากำหนดรูปภายนอก รูปทางวัตถุ เราก็กำหนดได้แล้วก็จะพูดกันรู้เรื่องง่าย ตากระทบรูป หูกระทบเสียง พอเข้าไปเป็นรูปภายในจิต รูปจิต อรูปจิต เช่นเวทนา สัญญา เจตนา พวกนี้ต้องเกิดจาก ผัสสะ แล้วจึงมนสิการได้ ทำเวทนาในเวทนา กรรมฐานของศาสนาพุทธคือเวทนา ที่พระพุทธเจ้าแยกแยะไว้ชัดเจนเป็นกระบวนการเวทนา 108 ถ้าเข้าใจแล้วปฏิบัติบรรลุอรหันต์ได้ตรงเวทนา 108 ปฏิบัติได้ แล้วก็ต้องลืมตาปฏิบัติ ถ้าอย่างนี้แล้วจะเกิดสัมมาสมาธิ อย่างแท้จริง หากกำหนดรัก ชัง ไม่ใช่เวทนา รัก ชัง เป็นอาการเป็นอารมณ์ของเวทนา 100% รัก ชัง คือตัณหา ตัณหาคือกิเลส กิเลสกับอารมณ์ เวทนานี่คืออารมณ์ กิเลสนี่คือเหตุให้เกิดอารมณ์ รัก บอกว่า รัก ชัง ไม่ใช่เวทนา รักชังคือตัณหา อร่อยก็ไม่ใช่เวทนา คุณเพี้ยนไปหมดเลย เป็นความผิดของอาตมาว่าคุณกำหนดผิด ให้ศึกษาดูความเห็นมันต่างกันได้ อาตมาไม่ได้เถียงไม่ได้แย้งไม่ได้ ข่มคุณนะ _Focus Tan ( โฟกัส แทน) กราบถามพ่อครู ว่า ทองคำ VS. ดอลล่าร์ อันไหนดีกว่ากันคะ? พ่อครูว่า..ตอบอย่างไม่ต้องคิดเลยว่าทองคำดีกว่าดอลลาร์แน่นอน ตอนนี้ อเมริกานั้นปั๊มดอลลาร์ออกมา ทองคำเป็นเครื่องประกันประเทศของคุณมีไหม เพราะทองคำถือว่าเป็นวัตถุถือว่าเป็นหลักของการประกันมีราคาสูงสุด ทุกประเทศทุกคนยอมรับกันหมดทั่ว ไปเอาอันอื่นก็ไม่ค่อยได้ เอาเพชร ก็ไม่ค่อยเที่ยง ทองคำจะมีราคาตลาดโลกเลย บาทละเท่าไหร่ที่ราคาเท่าไหร่ประเทศไหนก็ธนบัตรของแต่ละคนว่ากันไป ค่าเงินของแต่ละเจ้า ของอเมริกาเรียกดอลลาร์ของไทยเรียกว่า บาท ราคาทองนั้นมันจะตรงกันหมดทั่วโลกเลย เพราะฉะนั้นทองคำกับดอลลาร์นี้เทียบไม่ได้เลย อย่างอเมริกา เรียกเงินดอลล่า ประเทศไทยเรียกว่าเงินบาท เกาหลีเรียกว่าเงินวอนอย่างนี้เป็นต้น เดี๋ยวนี้ยังไม่ไว้ใจเลยว่าอเมริกามีทองคำเป็นหลักประกันดอลลาร์ของตัวเองหรือไม่ ที่ปั๊มเงินดอลลาร์ออกไปทั่วโลก จะเรียกว่าเขาเก่งที่ทำดอลล่าให้ตลาดโลกยอมรับค่าของเงินได้อยู่ทุกวันนี้ อาตมาว่าสักวันหนึ่ง จะไม่รู้วันไหนนะ ดอลลาร์คือเศษกระดาษ ถ้าจะเอาดอลล่าไปขึ้นอเมริกา อเมริกาจะเอาอะไรมาแลกเปลี่ยนกับดอลลาร์คืน เป็นค่าที่จะเอาไปใช้ได้โดยเฉพาะทองคำ หรือ ทรัพยากรอื่น พ่อครูว่า…ก่อนจะเข้าสู่อัมพัฏฐสูตร อาตมาก็อยากขอแวะถึงสังคม สังคมทุกวันนี้คนพูดกัน ที่เขาพูดกันถึงคนชังชาติ เขามองว่าประเทศไทยนี้เศรษฐกิจไม่ดี แม้แต่ผู้บริหารก็พลอยเชื่อเขาว่าเศรษฐกิจไม่ดี และนักเศรษฐศาสตร์ก็เอาเครื่องชี้บ่ง ว่า เศรษฐกิจดีหรือเศรษฐกิจไม่ดีตรงตัวเลขของรายได้ที่สะพัดอยู่ในสังคมเป็นหลัก เศรษฐกิจคือเอาตัวเลขของรายได้รายรับ ของการหมุนเวียนของการสะพัดอยู่ในสังคม โดยยึดถือว่า 1 ประเทศไทยนี้เทียบกับข้างนอกเข้าแล้ว เรามีรายรับที่ได้จากข้างนอก มันมากพอหรือว่ามันได้รับตังค์จากข้างนอกน้อย เราเสียผลผลิตสินค้าให้แก่ต่างประเทศเขาแล้วได้เงินแลกเปลี่ยนกลับคืนมาน้อยไปอย่างนี้ถือว่าเศรษฐกิจตกสะเก็ดไม่เจริญ ฟังให้ดีนะเศรษฐกิจที่อาตมาอธิบายจะตรงกับที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตรัสไว้ 2 เศรษฐกิจที่เขาวัดจากข้างนอกมาข้างใน รายได้จากนอกมาหาใน ทีนี้รายได้หมุนเวียนในประเทศ ที่อาตมาแย้ง GDP เป็น domestic คือภาายใน Gross คือรายได้องค์รวม แล้วรวมโดเมสติกภายใน จาก ผลผลิตภายใน เอาไปเกิดการหมุนเวียนแลกเปลี่ยน ได้เงินมาอะไรอย่างนี้ เป็นองค์รวมเรียกว่า Gross แล้วตัวหนังสือก็บอกชัดว่าโดเมสติกเป็นของภายใน แต่ไปเอาของภายนอกเขา สินค้าผลผลิตของคุณ แต่คุณไม่ได้ขายแต่ภายในคุณเอาไปขายภายนอก แล้วไปเอาภายนอกมารวมด้วย ก็เพี้ยนจาก domestic มันควรจะเอาภาษาเรียกเป็นอินเตอร์ ไปโน่น มันไม่ใช่โดเมสติก มันเป็นรายได้ของทุกส่วนทั้งภายนอกภายใน เพราะฉะนั้นถ้าเป็นของภายใน เมื่อสะพัดกันแต่ภายใน โดยการขายแลกเปลี่ยนภายในมี Concept แบบโลกโลกีย์ เจ้าของคนผลิตก็ได้เงินมามาก ได้เปรียบมามาก ขายภายในหมุนเวียนกันเองภายในผลผลิตของไทย เช่นทำทุเรียนมาขายทำกล้วยมาขาย หรือว่าแม้แต่จะทำอุตสาหกรรมก็ตามก็ขายกันในภายใน เสร็จแล้วเงินหมุนเวียนภายใน คนที่ทำตัวเลขของรายได้เข้ากระเป๋ามากถือว่าเป็นเศรษฐกิจดี แนวคิดอย่างนี้แหละ มันแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่เสร็จ เพราะทุกคนก็มุ่งหวังจะเอาเปรียบ ทุกคน มุ่งหวังจะต้องเอามากเข้าว่า ไม่มีสุข ไม่เกิดสุขเพราะเศรษฐกิจได้ตลอดนิรันดร เขาจะหลงว่าประเทศนั้นขณะนั้นของเขาขายผลผลิตตัวเองออกต่างประเทศได้เงินเข้ามามาก แล้วเขาก็ใช้จ่ายเงินอย่างมาก อิ่มเอมเปรมปรีดิ์ แล้วตีราคาตัวนี้เป็นเครื่องบ่งบอกว่านี่คือเศรษฐกิจดี อาตมาว่า ผิวเผินมาก คุณจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่จบ เพราะคุณไม่รู้จักกิเลสไม่มีอิ่มไม่มีพ่อไม่มีจบมีมากกินมากใช่มาก สุรุ่ยสุร่ายมากแล้วสร้างนิสัยเสียสร้างระบบการเงินเลวร้ายลงทุกที ไม่มีประโยชน์ นอกจากจะมีคนขี้เหนียว เศรษฐีขี้เหนียวได้เงินแล้วไม่ค่อยจ่าย ไม่ค่อยใช้ จนตายจากเงินไปเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรครอบครัวไหนก็ตาม มันก็มีลูกหลานมีคนใช้เงิน เจ้าของที่เป็นพ่ออาจจะขี้เหนียวแม่ขี้เหนียวแต่ลูกไม่ขี้เหนียวหรอก มันก็จะสุรุ่ยสุร่ายเหมือนกับสังคมไทย เงินมากก็เอาไปใช้ ซื้อรถมาขี่เล่นชนคนไปแล้วก็เกิดเรื่องทุกวันนี้ปวดหัวปวดหมองอยู่ ซึ่งมันเป็นเรื่องแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยแนวคิดอย่างนี้ไม่มีทางจบ ต้องแก้ปัญหาอย่างที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตรัสว่าให้คนมาอยู่แบบคนจน ปฏิบัติแบบคนจน เรียกว่า แก้แบบคนจน นิมนต์พ่อครูจิบน้ำ สมณะเดินดิน …ในช่วงยุค covid เขาจัดให้ประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ในประเทศที่มีการฟื้นตัวได้เร็วที่สุด พ่อครูว่า…นี่มันคือแสดงถึงเศรษฐกิจไทยดีมาก เพราะ แม้การขายสินค้า การหมุนเวียนสินค้าไปต่างประเทศมันก็น้อยลง แต่ในประเทศไทยมันมีผลผลิตมีสิ่งที่กินใช้อาศัย ในประเทศไทยเอง ไม่เดือดร้อนไม่เกิดความเดือดร้อนไม่เกิดความวุ่นวายไม่เกิดขโมยขโจนไม่เกิดการแย่งชิง อุดมสมบูรณ์เป็นอยู่สุขใช่ไหม นี่ประเทศไทยมีเศรษฐกิจดีมาก แต่คนไปเข้าใจเศรษฐกิจที่เป็น Concept เฟ้อๆเพ้อๆ มันไม่มีที่ลงตัวไม่มีที่จบ ไม่มีผลสำเร็จ เข้าใจเศรษฐศาสตร์ตามหลักเศรษฐกิจโลกที่เขาพูดกันเรียนกันนี่ ไม่เหมือนที่อาตมาคิด เพราะว่าจิตใจคุณมีกิเลสคุณไปแก้ปัญหาด้วยกิเลสไม่มีทางสำเร็จ ไม่ลดกิเลสไม่มีทางสำเร็จ สมณะเดินดิน..เหมือนที่เราส่งเสริมให้คนมีเงินแสนล้านแค่คนเดียวก็ทำให้ประเทศไทยปั่นป่วนไปทั้งประเทศเลย พ่อครูว่า..เราก็ไม่กล้าพูดว่าใช้ในทางทุจริตไหม สมณะเดินดินว่า…ในหลวงบอกว่าเราไม่ต้องเป็นประเทศที่ก้าวหน้าไม่ต้องประเทศต้องรวยอย่างมาก พ่อครูว่า…ที่ในหลวงว่า เราไม่ต้องการก้าวหน้าแบบนั้น เพราะการก้าวหน้าแบบนั้นเป็นการถอยหลังและเป็นการถอยหลังอย่างน่ากลัว นี่เป็นเรื่องลึกซึ้งมากเลยไม่รู้จะพูดยังไงเมืองไทยมีโลกุตรธรรมอย่างในหลวง แต่นักการศาสนาก็ไม่ได้ชัดเจน ขณะนี้เศรษฐศาสตร์ของไทยกำลังปรากฏเป็นรูปธรรมแสดงเป็นโมเดลให้แก่ชาวโลกเห็น Concept เศรษฐศาสตร์อย่างของต่างชาติก็ไม่ได้เข้าใจอย่างพระพุทธเจ้าหรือในหลวงที่เป็นเศรษฐกิจพอเพียง เพราะฉะนั้นเขาถึงดูออกว่า เมืองไทยตอนนี้ โควิด พิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศไหนจะเอาอยู่ ประเทศไหนจะไปรอด ไม่ว่าทางด้านการเมืองเศรษฐศาสตร์สังคมศาสตร์ โควิดนี่ เพราะฉะนั้นตอนนี้ดูอเมริกา กำลัง แน่นอน ทางด้านสังคมศาสตร์ไปใหญ่แล้ว คนตายคนเจ็บเพิ่มจำนวนไม่รู้เท่าไหร่ แล้วทางด้านเศรษฐกิจก็คอยดู ทางด้านการเมืองก็ไม่ต้องพูด สมณะเดินดิน… นักเศรษฐศาสตร์ไปมองแต่ว่าเรื่องการส่งออกเรื่องการมีคนมาเที่ยว พ่อครูว่า…การที่คนมีอยู่มีกินอุดมสมบูรณ์นี้เป็นเศรษฐกิจดีแล้ว หากคุณต้องการขายเอาเงินมามากๆนี่แหละ อันนี้ข้อสำคัญที่ว่าแล้วเราแบ่งแจกกันมั้ย คนที่มีอยู่มีกินคนที่สร้างได้มาก สร้างผลผลิตได้มาก แล้วเป็นผลผลิตที่มีความจำเป็น ผลผลิตที่มีความสำคัญของชีวิต โดยเฉพาะอาหารการกินเครื่องกินเครื่องใช้ โภชนา สิ่งเหล่านี้มันพอกินพอใช้ในพวกเราไหม ไม่ใช่ว่าเศรษฐกิจดีเพราะเอาไปขายข้างนอก แต่คนข้างในไม่พอกินไม่ก็พออยู่ปล่อยให้ยากลำบากขาดแคลน อย่างนี้เป็นเศรษฐกิจนายทุน แล้วเขาก็ทำอย่างนี้ในต่างประเทศ นายทุนมีสตางค์ก็ซื้อไปหมด คนที่ไม่มีกินก็ช่างมันเถอะในประเทศ สมณะเดินดิน..ที่น่าศึกษาคือประเทศเวียดนามเขาปลอด covid มา 99 วัน ไม่มีคนตายเพราะโควิดด้วย แต่เมื่อเปิดประเทศให้คนมาเที่ยว ตอนนี้มีการติดเชื้อกันแล้ว ก็บอกว่าเชื้อมาจากต่างประเทศแน่นอน อันนี้ที่เวียดนาม ของเราทหารอียิปต์มาคนเดียวเราปั่นป่วนเลย ที่เราจะไปหวังว่าอยากให้นักท่องเที่ยวมามากๆ อยากจะขายสินค้าออกไปมากให้ GDP เพิ่ม แต่เขาไปนับGDPแบบนั้น ก็คงจะเดือดร้อน พ่อครูว่า…ก็ขอขยายความอีกหน่อย ว่า เศรษฐกิจ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจจะต้องเข้าใจดีๆว่า การแก้ปัญหาเศรษฐกิจไปแก้ที่วัตถุไปแก้ที่เงินทองเป็นตัวตั้ง ไปแก้ที่วัตถุ ที่เอาเงินเป็นตัวตั้งเป็นตัวชี้บ่งว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ดี สังคมใดตั้งแต่ครอบครัว ครอบครัวนี้เศรษฐกิจดี เพราะว่าได้เงินมาทำงานได้ค่าแรงงานหรือว่าได้ผลผลิต ได้เปรียบ สรุปง่ายๆ ครอบครัวนี้ ได้เปรียบได้ราคาดี แม้แต่ค่าตัว ค่าราคาค่าตัว ไปทำงานก็ได้ราคาแพง คนที่ทำงานแล้ว เอาค่าแรงงานแพงเป็นคนโหดเป็นคนใจหินเป็นคนไม่เสียสละเป็นคนเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ ไม่ใช่คนเจริญ เป็นคนเสื่อม คนที่เอาค่าตัวของตัวเองแพง ขอแวะนิดนึง นักบวช ทำงานฟรี ทำงานให้สังคมนะ นักบวชของพุทธไม่ใช่คนไปหนีออกป่าเขาถ้ำ นักบวชของพุทธนี้ทำงานรับใช้สังคม ทำงานอะไร ก็สอนนี่แหละ ถ้าว่าง่ายๆก็คือครู นักบวชก็คือครู แต่ก่อนจะเป็นครูก็ต้องปฏิบัติตัวเองให้บรรลุธรรมและมีธรรมะไปสอนไปบอกคนอื่น ให้รู้จักการระงับพฤติกรรมกายวาจาใจ โดยเฉพาะใจ ให้ลดกิเลสที่เป็นตัวการใหญ่ แล้วสังคมจะเจริญทางเศรษฐกิจการเมือง เศรษฐศาสตร์ ไปหมดเลย มันรวมไปหมดเลย เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ไปมัวแก้ปัญหาเศรษฐกิจอยู่ที่เอาเงินเป็นหลักเอาวัตถุเป็นหลัก ไม่สำเร็จ สมบัติผลัดกันชม ศัพท์คำนี้ สมบัติผลัดกันชม คำนี้สูงมาก แย่งสมบัติกันเท่านั้น มันต้องแก้ปัญหาที่จิตวิญญาณให้คนมีความรู้ ให้คนมามีวรรณะ 9 ให้คนมาจน จนนให้สำเร็จ ไม่ได้พูดเล่นในหลวงรัชกาลที่ 9 ไม่ได้ตรัสเล่นท่านเป็นโพธิสัตว์ แต่ในประเทศไทยมีหลายศาสนา ท่านจะพูดลงลึก เกินหน้าเถระสมาคม ไปไม่ได้ แต่สมณะโพธิรักษ์ขึ้นต่อพระธรรมโดยตรง จะมากอบกู้ศาสนามากู้ธรรมะด้วย ในหลวงท่านรู้ทุกอย่างว่าอะไรเป็นอย่างไร ทีนี้คนที่ไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยไม่เข้าใจถึงว่า ต้องแก้ที่คน ให้คนรู้จักการดื่มการกิน ให้รู้จักพอเลี้ยงง่ายบำรุงง่ายเป็นคนมักน้อย เป็นคนสันโดษเป็นคนใจพอ เป็นคนขัดเกลากายวาจาใจอย่าไปหลงระเริงกับโลกแฟชั่น ไม่ต้อง อะไรพวกนี้ เป็นคนที่มีวรรณะ 9 แล้วจะอยู่เย็นเป็นสุขมีสาราณียธรรม 6 อย่างที่ชาวอโศกเป็นลูกพระพุทธเจ้า ปฏิบัติธรรมสำเร็จ มีสาราณียธรรม 6 อยู่กันอย่างมีเมตตากายกรรมวจีกรรมมโนกรรม มีลาภโดยธรรม ทุกคนผลิตทุกคนทำเอามารวมกับกองกลาง ซึ่งเป็นเรื่องเศรษฐกิจสูงสุดของโลก สูงสุดที่สุดไม่มีอะไรเกินได้คอมมิวนิสต์ก็สู้ไม่ได้ประชาธิปไตยก็สู้ไม่ได้ เศรษฐกิจคือคนอยู่ในสังคมกลุ่มนี้เป็นสมาชิกสังคม ทำงานแล้วเสียภาษีร้อยเปอร์เซ็นต์ คนที่เป็นแกนเป็นหัวยอดของพีระมิดนี่ กลุ่มอื่นก็จะมีจิตที่มักน้อยสันโดษลงไปตามลำดับ สังคมประเทศชาติก็จะเจริญ ให้คนเข้าใจทิศทางของธรรมะ ทิศทางของคนเจริญ เข้าไปสุดยอดพีระมิด ยอดพีระมิดคือสาธารณโภคี ไม่ต้องมาเสียสละ 100% ตามชาวอโศก แต่ตามฐานะของสังคม แล้วใครเสียสละได้มากคือคนเจริญความเจริญไม่ใช่คนรวยแต่ความเจริญคือคนจนคือศาสนาหมดตัว การพูดอย่างนี้ไม่ได้สุดโต่งเพราะชาวอโศกมีจริงเป็นจริงได้ เป็นการปฏิบัติได้ แล้วอาตมานำพุทธศาสนามา 40-50 ปี ถ้าจะเริ่มต้นก็มีสาธารณโภคีตั้งแต่ต้นจนเดี๋ยวนี้ยังไม่ล้มละลายเลยมีแต่ดีขึ้น เป็นสุดยอดคุณธรรมคุณประเสริฐของมนุษย์ที่เป็นไปได้เพราะรู้ด้วยปัญญา เข้าใจจริงๆว่านี่เป็นสิ่งที่ดีงามเป็นสิ่งที่ถูกต้องสิ่งที่ประเสริฐ ฉะนั้นคนประเสริฐเป็นคนที่เสียสละ พูดก็เข้าใจ คนประเสริฐคือคนไม่เอาเปรียบ คนประเสริฐคือคนที่มีอยู่มีกิน พึ่งพาตนเองรอด หรือยังเป็นสังคมที่พึ่งพาตนเองได้หมดแล้วเหลืออีก พึ่งตนรอดแล้วมีเหลืออีก ซึ่งมีผลผลิตที่มีมวลมากขึ้น จึงสะพัดคือแก่คนอื่นได้และมีปัญญารู้ว่าไม่เอาแรงงานไม่เอาเวลาไปสร้างหรือไปทำสิ่งที่ไม่ได้เรื่อง ไร้สาระ เอาแรงงานไปเตะบอลไปเต้นแร้งเต้นกาไม่ทัน เอามาสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติต่อสังคม ประโยชน์สูงประหยัดสุดอะไรพวกนี้ ซึ่งเป็นสุดยอดคำสอนของพระพุทธเจ้า สู่แดนธรรมว่า..เขาไม่กล้ามาเป็นแบบชาวอโศกเพราะกลัวไม่สนุกสนาน พ่อครูว่า…ชาวอโศกมีความสุขสำราญเบิกบานใจ อภิปโมทยังจิตตัง เพราะมีปัญญาเข้าใจถึงจิตวิญญาณ เพราะจิตวิญญาณที่ไม่สุขสำราญเบิกบานใจเพราะไปถูกหลอกถูกครอบงำทางความคิด ว่าอย่างนี้เราก็อยากได้อย่างนั้นอย่างนี้ มันไม่ได้เราก็ไม่สดชื่น ลดความอยากได้ คุณก็จะไม่เศร้าหมอง ก็จะไม่จมลงไปกับสิ่งที่ มุ่นอยู่กับสิ่งที่คุณอยากได้ เป็นส่วนเกินส่วนเพ้อฝัน ก็จะเข้าใจเหตุปัจจัยสำคัญของชีวิต เราก็มาสร้างปัจจัยสำคัญของชีวิตซึ่งไม่มีอะไรมากคือปัจจัย 4 และมีบริขารบ้าง แม้ทุกวันนี้จะมีบริขารมากกว่าสมัยพระพุทธเจ้าอย่างเช่นแว่นตาเป็นต้น เราไม่ใช้ไม่ได้เลย อะไรอีกหลายๆอย่างเป็นความจำเป็นก็เอาเถอะ มันก็ยังอยู่ได้พอ ไม่ได้เดือดร้อนไม่ต้องไปแย่งชิง ไม่ต้องไป เฟ้อ เกิน ต้องไขว้คว้า เอามาสะสมอวดอ้างอวดร่ำอวดรวยมากกว่าคนอื่นไม่ต้องเลย แต่ยิ่งจะเป็นคนมักน้อย เสื้อผ้าก็จะมีน้อย แม้เป็นปัจจัย 4 กินก็ไม่ได้เที่ยวอวดอ้าง เป็นอยู่บ้านช่องเรือนชานก็อาศัยกันไปสบายๆ แบ่งกันอยู่แบ่งกันอาศัย เครื่องใช้ไม้สอยก็แบ่งกันใช้เป็นส่วนกลางอย่างที่เราพาทำเป็นแบบพระพุทธเจ้าพาธรรม ซึ่งอย่างที่อาตมาพูดเป็นแบบเศรษฐกิจของพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะศัพท์คำเดียวว่าแบบคนจน จนอย่างนี้เป็นการจนอย่างมีปัญญารู้จักพอเพียง รู้ว่าคนมีเศรษฐกิจดีคือคนขาดทุนได้ คนที่มีเศรษฐกิจดีคือคนที่ขาดทุนให้แก่โลกได้ แล้วประเสริฐ ดังที่ในหลวงตรัสไว้ว่า ขาดทุนของเราคือกำไรของเรา ขาดทุนแปลโดยตรงก็คือการเสียสละ เสียสละให้แก่คนอื่นได้คนนั้นคือผู้มีกำไร คือผู้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ สู่แดนธรรมว่า การขาดทุนนี้แก้ปัญหาได้ทุกอย่าง พ่อครูว่า..เพราะฉะนั้นคุณจะทำอย่างไรให้เป็นคนขาดทุนได้และจะขาดทุนอย่างไรให้อยู่ได้อย่างยั่งยืนถาวร ชาวอโศกเรานี้ ขออภัยที่ต้องยกชาวอโศกเป็นโมเดลเป็นแบบอย่างไปทุกที ก็ต้องจำเป็นเพราะมันทำได้แล้วมันศึกษาได้ง่าย เอหิปัสสิโก เชิญให้มาพิสูจน์ได้ หรือมาอยู่แบบพอเพียงเป็นคนจน เป็นคนจนอุดมสมบูรณ์สุขสำราญพึ่งพากลุ่มกันได้พึ่งเกิดแก่เจ็บตายกันได้ เป็นคนจนที่มีกลุ่มหมู่ที่พึ่งกันเกิดแก่เจ็บตายกันได้ไม่ใช่โดดเดี่ยว ไม่ใช่เป็นคนจนที่อ้างว้างไม่มีใครดูแลไม่ใช่ เราจะเจ็บป่วย เราจะแย่ เราจะลำบากลำบนอย่างไร ก็มีคนช่วยดูแล ไม่โดดเดี่ยวเลย จนแบบนี้ไม่ใช่จนแบบอนาถา แต่เป็นจนเศรษฐี จนอย่างนี้เป็นการจนอย่างเศรษฐี เศรษฐีคือผู้ประเสริฐ จนอย่างผู้ประเสริฐคือเป็นคนจนที่ไม่ต้องสะสมมา ไม่ต้องเป็นคนรวย ไม่ต้องมีวัตถุมาก แต่เป็นคนที่มีพลังงานสร้างสรรเยอะ ขยันหมั่นเพียรอยู่ทุกวัน แล้วไม่มีการขี้เกียจ เป็นคนจนที่ไม่ขี้เกียจเป็นคนจนที่ขยันหมั่นเพียรจริงๆ ไม่มีอบายมุข เอาอบายมุข 6 อบายมุข 4 มาวัดก็ได้ เล่นการพนัน หลงไหลการละเล่นมหรสพ คบมิตรชั่วเที่ยวกลางคืนอย่างนี้เป็นต้น ตรงกับคำสอนพระพุทธเจ้าทุกอย่าง จึงเรียกว่ามีอนุสาสนีปาฏิหาริย์ตรงตามคำสอนพระพุทธเจ้าอันเป็นปาฏิหาริย์ได้ อย่างชาวอโศกมีชีวิตอยู่ในสังคมชาวอโศกอยู่อย่างปาฏิหาริย์ อยู่อย่างที่ใครจะไปทำได้อย่างเอ็งวะ ทำไมถึงดูถูกตนเอง โดยเฉพาะผู้ที่มีความฉลาดมีฐานะ ดูถูกตัวเองว่าจะมาเป็นชาวอโศกได้อย่างไร เข้าใจได้ว่าคนประเสริฐหรืออาริยบุคคลคนเจริญแท้ๆคือคนอย่างไร เศรษฐกิจดี การเมืองดี การสังคมดีมาก อยู่ในสังคมอย่างไม่ได้เบียดเบียนไม่ได้ทำให้สังคมเดือดร้อนมีแต่ทำให้สังคมเจริญพัฒนาเป็นอยู่สุข เสียสละรับใช้ประชาชน จะบอกว่า เป็นประชาธิปไตย ก็เป็นนักประชาธิปไตยที่สูงสุด ถ้าเป็นนักคอมมิวนิสต์ที่สูงสุดเป็นอย่างนั้นจริงๆ ที่พูดนี้ไม่ได้เล่นคารม มันเป็นความสำเร็จของพระพุทธเจ้า มนุษย์และสังคม บุคคลและสังคม เพราะฉะนั้นผู้ที่มีทิฏฐิสามัญญตา หมายความว่าเป็นผู้ที่มีความเห็นตรงกัน มีทฤษฎีที่ตรงกัน ทฤษฎีความเป็นอยู่ของชีวิตและมีหลักการของการเป็นอยู่ร่วมกัน เป็นอยู่ตรงกันเรียกว่าศีลสามัญญตา แล้วก็เป็นน้ำที่ไหลไปหาน้ำ น้ำมันไหลไปหาน้ำมัน ก็มาอยู่รวมกัน ก็เกิดกระบวนการสังคม ยังชาวอโศกเป็นกระบวนการสังคมที่เป็นสาราณียธรรมถูกต้อง เป็นกระบวนการของผู้มีคุณธรรมวรรณะ9 เป็นคนอยู่ง่ายเลี้ยงง่าย สุภระ เป็นคนพัฒนาให้ดีให้เจริญไม่ยาก ไม่ดื้อดึง ชาวอโศกแต่ละคนตั้งใจศึกษาปฏิบัติธรรมฝึกฝนได้มากได้น้อย ก็ตั้งใจกันจริงๆ สุโปสะ และเป็นคนมักน้อยจริง แล้วใจพอ ชาวโศกบางคนจะยักไว้เท่าไหร่ก็แล้วแต่ ตัวเองไม่ไว้ใจตัวเองเผื่อเหลือเผื่อขาดก็มีอย่างนั้น มากน้อยก็แล้วแต่ คนที่เข้าใจมีภูมิปัญญาเขาก็จะลดลงเอาไว้น้อยลง และสะพัดแก่คนที่ควรสะพัดไป คนที่กล้าทิ้งมาก็เป็นอนาคาริกชน ทิังบ้านช่องเรือนชานมาแล้วก็อยู่ได้ มีที่อยู่ที่กิน ในที่สุดจะเจ็บป่วยก็มีคนดูแล อยากจะตายก็ตายมีผู้ช่วยเผา มันยิ่งกว่าสังคมยูโทเปียของโทมัสมอร์ ที่เขาฝัน ของพระพุทธเจ้าเกิดก่อนยูโทเปีย และเป็นจริงได้ซึ่งยูโทเปียนั้นยังไม่มีใครทำได้มีแต่ทฤษฎีเป็นนิยายของ Thomas More เป็นเมืองในฝันของแก อันนี้มันไม่ใช่Utopiaแต่มันสูงกว่ายูโทเปียด้วยแล้วพิสูจน์ได้แม้ทุกวันนี้ในยุคทุนนิยมสามานย์ เป็นยุคที่เห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ อย่างร้ายกาจ ทางจิตวิญญาณไม่เจริญ แต่เป็นความรู้ทางวัตถุ เฉโกเยอะ แต่คุณธรรมไม่เจริญเหมือนอย่างโบราณ ถ้าเผื่อว่ามีคนเข้าใจว่าศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่คือพระพุทธศาสนา แล้วก็มาศึกษา ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐศาสตร์แบบพุทธ รัฐศาสตร์แบบพุทธ สังคมศาสตร์แบบพุทธ มาศึกษาเถอะ ศึกษาให้ถึงแก่นให้เข้าใจโลกุตรธรรมว่าเศรษฐศาสตร์ต้องเป็นโลกุตระ มันไม่เหมือนกับที่เขาคิดตื้นๆ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐศาสตร์รัฐศาสตร์สังคมศาสตร์ สังคมแบบไหนที่เป็นสังคมเจริญ ขออภัยที่ต้องพูดว่าเป็นสังคมชาวอโศกเป็นสังคมเจริญเป็นสังคมอาริยะ เป็นสังคมที่อยู่กันอย่างเมตตากายกรรม เป็นพยัญชนะที่อาจจะไม่ซาบซึ้ง แต่มีพฤติกรรมแต่ละคน ทำงานเป็นอยู่อย่างดี ถึงขั้นสาธารณโภคี มีกายกรรมที่เกื้อกูลกันเลี้ยงดูกันช่วยเหลือเฟือฟายกัน มโนกรรมมีเมตตา มีแต่อยากให้ มีแต่ต้องการช่วยเหลือกันอุ้มชูกัน ไม่เห็นแก่ตัว แม้เราเองจะเหน็ดเหนื่อยเขาไม่เหนื่อยเท่าไร เขามีข้อจำกัดป่วยบ้างแก่บ้าง พิการบ้างหรือเป็นเด็ก ก็มีความเอ็นดูช่วยเหลือเกื้อกูล มีจิตวิญญาณเป็นหลัก จิตวิญญาณมีพรหมวิหารที่แท้จริงแล้วก็อยู่กันอย่างสังคมสาธารณโภคี มีศีลสามัญญตา ทิฏฐิสามัญญตา เป็นพระสูตรของพระพุทธเจ้าที่สุดยอดจริงๆ อาตมาเสียดายว่าศาสนาพุทธมันออกนอกทางพระพุทธเจ้าไปเป็นโลกีย์เละเทะ เป็นศาสนาที่มีแต่ใบไม้ดอกไม้ผลไม้ ไม่มีแม้แต่สะเก็ด ศีลไม่มี ไม่มีสมาธิคือเปลือก ไม่มีกระพี้คือปัญญา มีแต่ฟฤผลดอกใบ คือโลกียะ ศาสนาพุทธศาสนาพุทธได้แค่นั้นทุกวันนี้ เอาหลักฐานอ้างอิงยืนยันเลยนะจากพระพุทธเจ้า เป็นเรื่องที่ต้องพูดให้ดังให้แรงให้มาก เพราะมันเป็นมหาสมบัติเป็นอริยะสมบัติของพระพุทธเจ้า ขั้นสุดยอด นิมนต์พ่อครูจิบน้ำ ส.เดินดิน.. พ่อครูว่า..การเป็นผู้เต็มใจครับคุณไม่ใช่เรื่องออกเป็นปัญญาจริงๆเป็นความเจริญ เป็นความฉลาดว่าเราเป็นผู้ขาดทุนได้เราเจริญนะ เราไปเอาเปรียบเขาอยู่เราแสนทราม เพราะมาขาดทุนให้แก่สังคมได้เราเจริญ ที่พูดไปเป็นประโยคที่ไม่ได้ยากที่จะเข้าใจ มันเป็นสามัญของมนุษย์ธรรมดาไม่ได้ลึกซึ้งลึกลับอะไรเลย ความจนเป็นความอัศจรรย์ สังคมชาวอโศกเป็นสังคมมหัศจรรย์ เป็นสังคมที่คนเขาบอกว่าปล่อยมันเถอะพวกนี้มันบ้าๆบอๆ มันไม่ใช่บ้าๆบอๆ แต่เป็นคนประเสริฐนะ ทำงานสร้างสรรค์ให้กับสังคมตลอดเวลา ไม่ใช่ไปสร้างอะไรใหญ่ๆต่อๆไปของเขาหรอก แต่สร้างของสามารถสร้างของกินของใช้ที่ยังชีพได้ ไม่เฟ้อไม่เกินเป็นของคนส่วนใหญ่เลยในโลกคุณต้องกินข้าวเป็นต้นคนต้องกินผักพืชกินผลไม้เป็นต้น สร้างสิ่งนี้ อาจจะมาถึงบอกว่าเมืองไทย เป็นเมืองกสิกรรมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นต้องมาเร่งรัดพัฒนา เหมือนบทกลอนของอาจารย์เป็นต้น มาเร่งเรื่องการกสิกรกสิกรรม เมืองไทยไม่ต้องไปแข่งเขาหรอกเรื่องอุตสาหกรรม ไม่ต้องไปน้อยตาน้อยตา ไม่ต้องไปกลัวไม่เจริญ วันที่ในหลวงตรัส แต่ท่านไม่ได้ไปตรัสว่าอุตสาหกรรมเขา แต่นึกแล้ว เจริญแบบนั้นคืออะไรเจริญไปสร้างปืนสร้างระเบิดแล้วเอาไปขายราคาแพงเอาเปรียบเขา มันซ่อนอยู่ตรงนี้ มันเป็นการเจริญที่ถอยหลังน่ากลัว จิตก็ยิ่งห่าม ว่าตนเองขายได้แพงก็ยิ่งชอบใจ จนเป็นคนรวยด้วยเงินทอง ในหลวงบอกว่าเราเป็นคนจนแบบนี้แหละเป็นคนพึ่งพาตัวเองรอด เรารวยพอสมควรเราก็อยู่ของเรารอด ตั้งแต่ท่านตรัส พ. ศ. 2534 จริงๆแล้วท่านก็เดินมาตั้งแต่ท่านบริหารเพราะท่านเป็นโพธิสัตว์ อาตมาก็พาดำเนินเป็นแบบนี้ทั้งนั้นเพราะเป็นทิศทางดีที่สุดเป็นทางเอกแล้วมาเป็นคนจนเป็นทางเอก มันสูงเกินกว่าที่เขาจะคาดคิดได้มันลึกซึ้งเกินกว่าที่เกิดจากเข้าใจได้ว่าเป็นคนเช่นนี้ แต่มันไม่ใช่เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ (พ่อครูไอตัดออกด้วย) ส.เดินดิน…ประเทศไทยเรา ที่ว่าขาดทุน เราปราบโควิดเพราะอสม.ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ โดยไม่ได้มีเงินเดือนมากอะไร สู่แดนธรรมว่า…การทำแบบพวกเรานี้ เหมือนเรายอมก็จะไปได้ พ่อครูว่า..เรายอม ไม่ใช่ยอมอย่างไม่เข้าท่า อย่างอาตมายอม เถรสมาคมพยายามจัดการข่ม อาตมาก็ใช้วิธียอม แต่ยอมอาตมาไม่ได้หยุด อาตมาก็หาทางทำงานให้ได้ แล้วมันยิ่งดูดีด้วย รู้สึกว่าเราทำได้โดยที่เรียกว่า มันเหมือนกับทุกคนเขาคอย เราเอาหลักฐานพระพุทธเจ้ามายืนยัน เขาแย้งไม่ได้ มันทำให้เราป้องกันตัวเองได้ว่าเราจะต้องไม่ผิดตามแบบพระพุทธเจ้าถ้าผิดมันก็จะโดนนะ มันก็เลยยิ่งดีใหญ่เลย ไม่งั้นเราจะเหลิงคะนองด้วยจะผิดพลาดด้วย ตอนนี้บอกว่าอย่าผิดนะมีหลักฐานนะ มันก็จึงทำให้เจริญ บางทีก็คิดไม่ถึงไม่ทันเหมือนกันว่า สิ่งที่เราโดน โดนอย่างนั้นอย่างนี้อย่างโน้น แต่สิ่งที่มาควบคุมเรานี่แหละกลับทำให้เราเจริญ เราเป็นคนดีทำสิ่งที่ประเสริฐมันเป็นประโยชน์ต่ออะไรต่ออะไร เมื่อกี้นี้ ประเด็นที่ว่าจะทำอย่างไรเป็นคนขาดทุนได้ จะขาดทุนได้ต้องปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้าให้เป็นคนจนได้ ให้เป็นคนมักน้อยสันโดษได้ ให้เป็นคนขยันหมั่นเพียรได้ตามหลักธรรมวรรณะ 9 ของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่เรื่องพูดเล่น ปฏิบัติหลักธรรมพระพุทธเจ้าตามจรณะ 15 วิชชา 8 นี่เป็นพุทธคุณพระพุทธเจ้า จรณะ 15 วิชชา 8 เป็นแกนของศาสนาพุทธเลย มีศีล มีจิตเป็นสมาธิมีปัญญา ปฏิบัติตามหลัก อปัณกธรรม 3 จะเจริญด้วยสัทธรรม 7 กับฌาน 4 แล้วมีปัญญาร่วมกับจรณะ 15 ร่วมกับอธิศีลอธิจิต เจริญด้วยปัญญาคือวิชชา 8 หรือแม้แต่สัทธรรม 7 ก็มีศรัทธา หิริ โอตตัปปะ พหูสูต วิริยะ สติ ปัญญา สู่แดนธรรม..หากจะขาดทุนก็ไม่ต้องทำธรรมะทั้งหมดทุกข้อก็ขาดทุนได้ใช่ไหมครับ พ่อครูว่า..ไม่ต้องทำทุกข้อก็ได้ มาปฏิบัติศีลเริ่มต้น 3 ข้อแรก ส่วนข้อที่ 4 ข้อ 5 หมายถึงว่าวจีกรรมกับมโนกรรม 3 ข้อแรกรวมไว้แล้ว ศีลข้อที่ 1 เกี่ยวกับสัตว์คือคน มนุษย์คือสัตว์ประเสริฐคือสัตว์เจริญ ทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับคนหรือสัตว์ คุณก็พยายามเลย พยายามปฏิบัติกับคนอย่างไร เราถึงจะเป็นคนที่ขาดทุนกับคนได้ คุณจะขาดทุนคุณจะเสียเปรียบเขาได้ เสียเปรียบไม่ใช่เสียรู้นะ เราเป็นผู้ที่ให้เขาได้ เป็นผู้ที่เป็นประโยชน์แก่เขาไม่ใช่เราไปเอาเปรียบ ซึ่งเป็นภาษาที่ไม่ยากเป็นภาษาที่ง่ายและปฏิบัติให้ตรงตามนี้ก็แล้วกัน เราเป็นคนขยันเป็นคนทำงานเป็นความรู้มีความสามารถ จะมีความรู้ความสามารถเท่าไหร่ก็ได้คุณเป็นคนมีความสามารถแค่เป็นคนกวาด กวาดได้เก่ง กวาดได้ดี กวาดได้เป็นระบบที่ดี อย่างมีคุณภาพมีคุณวิเศษอะไรก็ตามใจ แค่การปัดกวาดเช็ดถู คุณทำงานมันเถอะ ทำให้ได้อย่างดีและเสียสละ ที่เขาเอามาออกข่าวกันเขาก็กวาด แค่นั้นแหละเป็นคนประเสริฐแล้ว ไปเก็บเศษขยะก็เจริญแล้ว ที่เป็นคนไม่เห็นแก่ตัวไม่เชื่อ ไม่ใช่ว่าทำงานอะไรจะต้องมีศักดิ์ศรีสูงส่งได้เงินทองมากมาย ที่คนไปตีราคางานว่ามีค่าต่ำไม่เข้าท่าเลย พูดถึงตรงนี้อาตมาเคยบอกไปทีนึงแล้ว เมืองไทยเป็นเมืองเกษตรกรรม ถ้าเผื่อว่า ทางการก็ตาม ยิ่งทางสถาบันสูงให้เหรียญตรากสิกรให้ยศศักดิ์แก่กสิกรชาวไร่ชาวนาประเทศไทยไปดีแน่ จริงๆนะ อย่าไปหลงกันแย่งลาภยศสรรเสริญให้เหรียญตราอะไรอยู่กับอย่างนั้นทั้งนั้นเลยให้แก่ชาวไร่ชาวนา ชาวสวนนี่แหละมีตำแหน่งคุณหญิงในชาวนาชาวไร่นี้ ให้ข้าราชการมายกย่องเชิดชูเหรียญตรา ประเภทที่เรียกว่าใช้โลกธรรมมายกย่องสรรเสริญก็ดี เขาก็จะทำงานได้ดี เหมือนกับที่ประเทศเกาหลีให้เหรียญเต็มไปหมดเลย เขาจะใช้การยกย่องเชิดชู เป็นเรื่องโลกธรรม คนที่ต้องใช้อยู่ก็ต้องจำเป็นบ้าง เข้าใจให้ชัดเจนแล้วส่งเสริมกันให้จริง เมืองไทยนี้ไม่เจริญมากเพราะคนไทยนี้ไม่ค่อยส่งเสริมคนดี ไม่ค่อยส่งเสริมคนถูก จนคนเขาบอกว่าเมืองไทยเป็นเมืองแห่งคนริษยาเป็นอย่างนั้น อาตมาว่ามันมีเชิงอย่างนั้นมันมีส่วนเป็นจริงอย่างนั้นตามที่เขา ไม่ยกย่องเชิดชูไม่ส่งเสริมมาให้กำลังใจคนดีคนประเสริฐคนเสียสละคนจริงใจ คนที่ดีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นข่าวคราวก็ตาม ก็ไม่ค่อยทำ ทำแต่เรื่องข่มกันทำลายกันย่ำยีกัน ชอบ แล้วก็เป็นข่าวเป็นเรื่องมาก แล้วอยากรู้อยากเห็นนัก ใครที่มันต่ำอยากรู้ แต่ใครที่มันสูงมันเจริญไม่อยากรู้ไม่อยากเอา แล้วหาทางที่จะได้เครดิตลงไป ก็ไม่เป็นไรๆ แต่ทางคนที่ดี ส่งงเสริมบ้าง จะดิสเครดิตก็ไม่มีปัญหาอะไร สรุปแล้วทำอย่างไรจะขาดทุนต้องมาปฏิบัติธรรม จิตใจของคุณจะไม่เห็นแก่ได้ จิตใจของคุณจะไม่เห็นแก่ตัว ถ้าจิตใจของคุณจะมีปัญญา (พ่อครูไอ ตัดออกด้วย) มีปัญญาเข้าใจว่า คนเสียสละคนมักน้อยคนไม่เอาเปรียบ มันเป็นคนประเสริฐจริงๆเป็นคนดีจริงๆ ไม่ได้ผิดเพี้ยนเลยมันจริง คุณจะเกิดปัญญาเข้าใจและคุณก็จะทำ เพราะว่ามันดีจริง ถ้าคุณไม่ทำก็ไม่มีปัญญาเป็นคนโง่ เป็นแต่เพียงมีปฏิภาณพอรู้ แต่ความรู้ของคนไม่ถึงขั้นมีปัญญา ถ้าหากความรู้มีปัญญามันจะถึงขั้นเป็นปัญญาพละ ซึ่งเป็นพลัง 4 1 ปัญญา จะมีพลังปัญญาจริงๆ 2 มีวิริยพละ มันดีจริงๆ วิริยะ เป็นตัวชัดเจนจะยืนยันว่าคุณมีปัญญาหรือเปล่า หากสิ่งนี้ดี อย่างดาบหรือร้อยตรีแล้วที่ปลูกต้นตาล ร้อยตรีวิชัย หรือคนอื่นก็มี มีคนที่กวาดขยะก็ตาม เขาทำด้วยปัญญาเขารู้ว่าเป็นของดี ไม่ใช่ของต่ำ ทำด้วยความฉลาดก็เลยมีวิริยะ พลังวิริยะก็ตามมา ผู้เป็นปราชญ์รู้จะไม่ติเตียนพวกนี้ว่าเป็นผู้ที่ต่ำไม่เจริญ ตอนนี้แหละคือผู้ที่เจริญเป็นงานสร้างสรรค์เสียสละแก่สังคม ที่คนเข้าใจว่าต่ำแต่เป็นงานที่ดีที่สำคัญที่จำเป็นด้วย เป็นสังคหะ มันเป็นเรื่องเกื้อกูลช่วยเหลือผู้อื่น นี่คือพลัง 4 เป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นทั้งนั้นเลยนี่คือพลัง 4 มันจะเกิดการพ้นภัย 5 เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าซึ่งสุดยอดในเรื่องคำสอนพระพุทธเจ้า อาตมาถึงบอกว่าธรรมะพระพุทธเจ้ามาฝึกกันจริงๆอย่าไปจมกับเดรัจฉานวิชาไสยศาสตร์ หรือเป็นทุนนิยมอำนาจนิยมโลกียนิยมกันไป สร้างอลังการแข่งกันไป สู่แดนธรรมว่า…ต่อไปนอกจากนั้นมาสู่กระแส New Normal พ่อครูว่า…จริงๆต่างประเทศก็เริ่มเข้าใจแล้วนะ แต่เมืองไทยเป็นเมืองใกล้เกลือกินด่างหรืออย่างไร พระพุทธเจ้าทำได้สอนสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ปฏิบัติธรรมให้ได้ธรรมะพระพุทธเจ้า คุณถึงจะเป็นคนขาดทุนให้แก่คนอื่นได้ เสียสละให้แก่คนอื่นได้ จะไม่หลงแย่งชิงคนอื่น แต่จะเป็นคนเกื้อกูลผู้อื่นเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น สรุปแล้วเศรษฐศาสตร์หรือเศรษฐกิจนอกจากจะทำได้แล้ว เป็นเศรษฐศาสตร์หรือเศรษฐกิจที่ถาวรยั่งยืนด้วย เพราะฉะนั้นชาวอโศกรับรองว่า ยั่งยืนถาวร ไม่มีอะไรลบล้างหักล้างได้ในบุคคลกลุ่มนี้ คนใหม่ก็จะเข้ามาเพิ่มขึ้น ถ้าสังคมนั้นเจริญ มีการส่งเสริมมีการสนับสนุน ไม่ใช่มีการตัดแขนตัดขาเลื่อยเก้าอี้ทำลายชาวอโศกสูญสลายไป สู่แดนธรรมว่า..ให้บอกแก่สังคมบ้าง อโศกไม่ใช่เป็นคนที่ทำเพื่อตัวเองแต่เป็นคนที่ทำเพื่อสาธารณะ เราทำได้ดีและเนียนมากขึ้นๆ ให้เป็นนักเศรษฐศาสตร์ชั้นสูง ส.เดินดิน… Category: ศาสนาBy Samanasandin31 กรกฎาคม 2020Tags: พุทธศาสนาตามภูมิวิถีอาริยธรรม Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:630729_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ธรรมบรรยาย อัมพัฏฐสูตร ตอน 12NextNext post:630802_รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ เป็นคนไฮโซไม่โก้เท่ากสิกรติดดิน Related Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024