650916 ประเทศไทยคือ Pioneer หัวเจาะประชาธิปไตยโลกุตระ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ
ดาวโหลดเอกสารที่
https://docs.google.com/document/d/1yLI2G1-t5Yk1TKSgcTrIp8v3FIgN0U6uQROozQQdlNs/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1dJhsF4O5pYFpFKIwtt60DHiV-3iE1YiN/view?usp=sharing
ดูวิดีโอได้ที่
และ https://www.facebook.com/300138787516163/videos/387970753502299
สมณะเดินดิน… วันนี้วันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก หมดเดือนกันยายนไปอีกครึ่งเดือน ก็จะถึงวันที่ชาวไทยหลายคน รอคอยจะเป็นวันตัดสิน ตอนนี้ ลุงตู่ก็ไปเยี่ยมประชาชน มาในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นักข่าวถามท่านว่ารู้สึกกังวล ท่านบอกว่าไม่กังวลอะไร สิ่งที่จะกังวลก็คือกังวลถึงความเดือดร้อนของประชาชน ส่วนจะออกหรือไม่ออกไม่ได้มีความกังวลอะไร มีสว.วันชัย บอกว่า วันนั้นเป็นวันดวงเมือง ที่จะทำให้ผู้มีอำนาจต้องหมดอำนาจลง เป็นสว.ที่ไม่ค่อยชอบลุงตู่เท่าไหร่ เป็นเรื่องของความไม่เที่ยง พ่อครูมองว่า โลกนี้ มีเรื่องต้องพิจารณา 2 อย่าง ระหว่างหลักเกณฑ์ของสังคมกับพฤติกรรมเสี่ยง นายกฯโต้แย้งว่า ที่ทำงานมาไม่ได้มายึดอำนาจหรือเอาประโยชน์ให้แก่ตัวเอง แต่คิดว่าต้องปกป้องบ้านเมืองสถาบัน เป็นหลัก
บางคนบอกว่า เรื่องข้อกฎหมายทำไมมาพูดเรื่องการทำงาน ซึ่งนายกฯชี้ให้เห็นว่า ที่ทำงานผ่านมาไม่ได้ใช้อำนาจเพื่อพวกพ้องหรือเพื่อตัวเอง ก็ไม่น่าเข้าข้อกฎหมายข้อนี้
สอดคล้องกับอดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ท่านสุพจน์ ไข่มุกด์ ให้ความเห็นว่า การเป็นนายกฯ ถ้าโกงแม้แต่วันเดียวก็ไม่ควรอยู่ แต่ถ้าเป็นนายกฯ ที่ไม่โกง อยู่ 8 ปีก็ยังน้อยไป ควรพิจารณากันเช่นนี้ ตอนนี้ถือว่าลุงตู่ได้พัก กลับมาคงได้ฟิตเต็มที่
ก็ขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะตัดสินได้ลึกซึ้งหรือไม่ จะมองเพียงแค่พยัญชนะ หรือจะมองที่เนื้อหาสาระสัจจะ ได้ขนาดไหน ที่ผ่านมา ประเทศไทยผ่านมาได้เพราะมีพฤติกรรมจริงของความมีคุณธรรมของคนในชาติร่วมกันรักษาชาติไว้
เมืองไทยเป็นเมืองกสิกรรมที่อ่อนน้อม
พ่อครูว่า… เราก็ดูไป มนุษย์ก็ค่อยๆฉลาดขึ้น ค่อยๆเข้าใจอะไรลึกซึ้งขึ้น อาตมาเอง อาตมาอยู่กับคนไทยมา เกิดมาอายุย่าง 89 ปี ก็รับรู้สังคมมาตลอด แม้ 36 ปีที่ใช้ชีวิตเป็นฆราวาสเพศ เป็น ลิงลมอมข้าวพอง ไม่ได้ออกมาทำงานธรรมะ 100% อย่างช่วงหลังนี้ ก็เห็นอยู่รู้อยู่รับทราบอยู่ว่า
เมืองไทย เท่าที่อาตมา อายุ 80 กว่าปีเป็นอย่างไร ก็ประมวลแล้ว solve มาก็ได้ อาตมาก็พูดจริงๆ หลายทีแล้วว่า ได้ดี ได้ดีที่อาตมาสรุป จนคนฟัง เขาไม่เชื่อไม่เห็นทางอย่างที่อาตมาพูด คือ ที่อาตมาบอกว่า สุดยอดแม้ทางด้านเศรษฐกิจ สุดยอดแม้ทางด้านรัฐกิจ คือการเมือง สุดยอดทั้งด้านสังคมกิจ สามเส้านี้แหละ การเมือง เศรษฐกิจ สังคม
อาตมามองลึกเข้าไปถึงขั้น กาละ เทศะ ฐานะ อีกทีหนึ่ง
ซึ่งกินความถึงรายละเอียด ที่ละเอียดลงไปถึงระดับนับ กาละนี้ ยิ่งกว่าวินาทีที่เคลื่อนไป ทุกอย่างไม่คงที่ มีความไม่เที่ยง เคลื่อนไปกับ กาละ กาละไม่ชะงัก ไม่สะดุด ไปเรื่อยๆ
เทศะคือ สถานที่ ที่ตั้งของสังคม ที่ตั้งของกลุ่ม ที่ตั้งของหมู่ ที่ตั้งของมวลมนุษยชาติแต่ละกลุ่ม แต่ละกลุ่ม คือเทศะ
แล้วเขาอยู่กันยังไง เขาก็อยู่ตามฐานะของเขาที่มีภูมิธรรม ที่มีพฤติกรรม ที่มีแนวคิด แล้วก็มีกรรม 3 กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่ของแต่ละคน แสดงออกมามันก็รวมกันสังเคราะห์สังขารกัน เกิดผลของโซลูชั่นนี้ การบวกลบคูณหารของสิ่งต่างๆพวกนี้ มันก็ได้คำตอบหรือได้ผลอกมา ก็เป็นตัวจริงของสังคมนั้นตลอดเวลาอันไม่เที่ยง เป็นไปตาม กาละ เทศะ ฐานะ เสมอๆ
อธิบายโดยรวมทั้งสังคม เศรษฐกิจ รัฐกิจ กาละ เทศะ ฐานะ รวมผสมเข้าด้วยกันแล้วอาตมาว่า นักศึกษาหรือผู้รู้ทั้งหลาย กูรูทั้งหลาย ก็เอาไปคิดดู ศึกษาดูว่า หมายถึงอะไรบ้าง
มนุษยชาติในโลกตามที่เขาเป็น ทุกๆปัจจุบัน มันก็อยู่กันอย่างสังเคราะห์กันอย่างนี้ ก็สังเคราะห์สังขารกันอย่างนี้ทุกปัจจุบันของแต่ละกลุ่มจากแต่ละคน จากแต่ละความยึดถือ และความคิด และความเสียสละ ไม่มีตัวตนของแต่ละบุคคล แล้วก็ออกมาเป็นสัจจะ ออกมา ยืนยันความจริงกับโลกเขาไป
ประเทศไทยเป็นประเทศเล็กไม่ใช่ประเทศใหญ่ เพราะฉะนั้นรูปธรรมก็จะไม่เด่นชัดมาก และไทยก็ไม่เป็นตัวที่จะทำ จ๋าๆๆ เหมือนอย่างหลายประเทศ
ว่า ฉันจะต้องอย่างนี้อย่างนั้นแล้วแต่ละประเทศก็แตกต่างกัน นี่รู้สึกว่า ตัวเองมีความสามารถ ตัวเองเก่ง ตัวเองมีคุณสมบัติอันนี้ ตัวเองทำอันนี้ได้อย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งทันสมัยและ มีผลประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ เขาก็มีอัตตามานะเบ่งน่าดูเลย
ไทยเรานี่ก็ไม่ถึงกับเบ่ง แล้วอาตมาไม่พยายามชี้ชวนให้เบ่ง แต่ทำกันอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นคนรับใช้ ทำไปเถอะ โดยเฉพาะ เราทำอาหาร จะว่าอย่างไรก็ว่า ใครจะมีอะไรเก่งก็เก่งไป ขอให้คนไทยนี่เก่งทางพืชพันธุ์ธัญญาหาร ไม่รวมประมง ปศุสัตว์ ไม่รวมการเลี้ยงสัตว์ เอาแต่กสิกรรม นี่แหละ อาตมาว่า ได้สรุปพฤติกรรมที่ควรจะอยู่ ควรจะเป็นควรจะทำ คือกสิกรรมทั้ง คุณภาพและปริมาณ สร้างขึ้นมา ทำขึ้นมา
ยิ่งทุกวันนี้โลกการคมนาคม โลจิสติกส์ของเขานี่มันไวเร็วไปได้อย่างดี อะไรมากแล้วที่มัน pracical มากแล้ว ดีมากแล้ว จะส่งถ่ายถึงไม้ถึงมือกัน หรือจะถนอมอาหาร มันดีพร้อมทุกอย่างแล้วทุกวันนี้ แล้วมันหมายถึงการยังชีวิต อาหาร หมายถึงการยังชีวิต ไม่ได้หมายถึงการประหารชีวิต หรือการเบียดเบียนชีวิต ไม่ใช่ มันสุดยอดแล้ว เรายืน อยู่บนฐานะอันนี้ให้ได้
สิ่งเหล่านี้ประมวลลงไปสู่สิ่งที่สุดยอดสรุป ที่เป็นตัวเรื่อง ที่เป็นตัวจบ ซึ่งมันจะเป็นประโยชน์กับทุกๆด้าน ทุกๆฝ่าย ทุกๆคน ทุกๆชีวิต พูดได้เลยว่า เป็นเรื่องทุกๆชีวิตเลย ไม่ใช่เรื่องเบียดเบียนชีวิต ไม่ใช่เรื่องทำร้ายทำลายชีวิต เป็นประโยชน์คุณค่าต่อชีวิตตามสำนวนของพระพุทธเจ้าในศีลข้อที่ 1 ข้อสุดท้าย หวังประโยชน์เพื่อสัตว์ทั้งปวงอยู่ เป็นคำใหญ่ The Great Word. คำยิ่งใหญ่
SMS วันที่ 14-15 กันยายน 2565
_คอยใคร · กราบเคารพพ่อครูครับ 7 วันนี้ผมฟังช่องบุญนิยมทีวีตอนกลางคืนได้อย่างสบายครับ เพราะคนที่บ้านผมไม่อยู่ 7 วัน เนื่องจากคนที่บ้านผมต้องไปเฝ้าแม่ยายที่นอนป่วยอยู่ครับ พี่สาวเขาติดโควิคเลยต้องกักตัว คนที่บ้านผมจึงต้องลางานไปทำหน้าที่แทนพี่สาวเขาครับ ถ้าคนที่บ้านอยู่ ช่วงนอนเขาจะไม่ให้เปิดหรือถ้าเปิดก็ต้องเปิดเบาๆ ผมจึงต้องเอามือถือแนบหูนอนพร้อมเปิดเบาๆฟังเอาครับ
ผมจึงมาเชื่อแล้วว่า การอยู่เป็นโสดดีที่สุดจริงๆครับ เมื่อรู้สึกตัวก็สายเสียแล้วครับ ผมคอยใครฉายานี้ไม่ได้มาด้วยความบังเอิญแน่ครับ ท่านเดินดินอาจรู้ล่วงหน้าเลยให้ชื่อนี้ผมมาครับ ท่านเดินดินคงรู้ว่า ต้องคอยเขาอนุญาตให้ผมไปอยู่บ้านราชครับ
ขอกราบขอบพระคุณพ่อครูครับที่ชี้ทางสว่างให้ผม แต่ตอนนี้ขอคอยเวลาอีกสักหน่อยครับ อาจได้ไปพร้อมอาหมอฟ้ารักไวๆนี้ครับ กราบขอบพระคุณครับ
พ่อครูว่า…โอ้โหพากเพียรจริงๆ เอาใจช่วย ธรรมะพระพุทธเจ้านี้เป็นทางออกที่ยิ่งใหญ่ เส้นทางจบที่ยิ่งใหญ่ แล้วจะบอกว่าได้ก็ได้ เป็นผลได้ ได้ความรู้และความจริง ได้สิ่งที่ประเสริฐสุดที่ยิ่งใหญ่
เพราะฉะนั้นอาตมาถึงได้ย้ำ ไม่กี่วันนี้ก็พูด ว่าเกิดมาคนเรานี้ ไม่มีอะไรหรอกที่จะดีที่สุดกว่ามาเรียนรู้ธรรมะโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้านี้ให้ได้ คุณได้จบแล้วและคุณจะรู้เลยว่า โอ้โห มันจริง มันไม่มีอะไรยิ่งใหญ่เท่า ได้อันนี้เราก็จบ จบจริงๆเลยนะ จบจนกระทั่งถึงว่า คุณจะมีชีวิตต่อไปอีกก็มีหลักประกันว่า คุณไม่ตกต่ำเลย มีแต่ดียิ่งๆ ยิ่งสูง ไปจนกระทั่งคุณจากปรินิพพานเป็นปริโยสานเมื่อไหร่
เมื่อในที่สุด คุณจะปรินิพพานเป็นปริโยสานเลิกกันเลย จบกันเลยก็เป็นที่สุดแห่งที่สุดแล้วในความเป็นชีวะ ในความเป็นอัตภาพของแต่ละคน ที่เกิดขึ้นมาอยู่ใน กาละ อยู่ในมหาจักรวาลในเอกภพในวัฏสงสารนี้ เพราะมันจบสุด จะอยู่ก็อยู่มีหลักประกันแน่นอนว่า คุณเป็นคนดีคนประเสริฐ ไม่ทำให้อะไรเดือดร้อน อะไรเสียประโยชน์เลย มีแต่คุณเป็นผู้มีประโยชน์ให้แก่เขาทั้งนั้น ถ้าไม่อยู่คุณจะจบเลยก็เป็นเรื่องของคุณจะตัดช่องน้อยแต่พอตัวของคุณ ก็ไม่มีใครเขามีสิทธิ์จะไปดูถูกดูแคลนหรือลบหลู่ ไม่มี ก็เป็นสิทธิ์ของเราบริบูรณ์ไม่ได้ไปกระเทือนใครเลย ซึ่งมันเป็นสุดยอดแห่งความจบ
_แก้วตะวัน พวงบุบผา · กราบนมัสการท่านสมณะ ท่านสิกขมาตุด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่งค่ะ…การฟังธรรมวันนี้รู้สึกอิ่มเอมมาก เพราะท่านฟ้าไท ท่านด่วนดี และสม.กล้าข้ามฝัน ที่เปรียบเสมือนพ่อครัวแม่ครัวที่ปรุงอาหารธรรมะให้มีรสอร่อย กลมกล่อม มีส่วนผสมที่ลงตัว มีอรรถรส ฟังแล้วชุมชื่นหัวใจ นี่แหละคือคำตอบว่า ทำไมเราต้องตั้งใจฟังธรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากพ่อครู สมณะและสิกขมาตุ เพราะได้ประโยชน์ทางจิตวิญญาณอย่างแท้จริง…กราบขอบพระคุณค่ะ
ทำไมพ่อครูไม่แต่งเพลงโลกุตระต่อ
_สินพุทธ สุขพูล · กราบ…นมัสการพ่อครูฯ ที่เคารพอย่างยิ่งครับ ผมได้ฟังพ่อครูฯ เล่าเรื่องในอดีต เกี่ยวกับการทำงานโทรทัศน์ช่อง 4. ในสมัยนั้น และแต่งเพลงในยุคนั้น ผมเกิดเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2499 ผมไม่มีโอกาสได้ดูพ่อครูฯ เป็นพิธีกรโทรทัศน์เลย เพราะผมยังเด็กมาก โทรทัศน์สมัยนั้นก็มีน้อย ถ้าเป็นคนจนๆ หมดสิทธิ์เลยครับ แต่เรื่องเพลงนั้น ผมเคยได้ยินเพลงที่พ่อครูฯแต่งมาตลอด ตั้งแต่ ผู้แพ้- ผู้ครองรัก- อย่าบอน- ชื่นรัก ผมก็ได้ยินมาตลอด และ มีอีกหลายเพลง ซึ่งผมก็ชอบ ผมรู้แต่เพียงว่า ผู้แต่งคือ รัก รักพงษ์ มารู้ช่วงหลังๆ ว่า เป็นเพลงของพ่อครูฯ ที่เเต่งเมื่อประมาณ ปี 2535 ผมก็อายุ 36 ปีแล้ว
คำถามผม คือ ทำไมปัจจุบัน พ่อครูฯ ไม่คิดจะแต่งเพลงอีกหรือครับ เพลงสุดท้ายที่ พ่อครูฯ แต่ง คือ เพลงสมรรถนะ… ผมเข้าใจ ว่า เพลงแนวโลกีย์ พ่อครูฯ คงไม่แต่งแล้วล่ะ แต่ผมมีความเห็นว่า พ่อครูฯ น่าจะแต่งเพลง แนวโลกุตระ นะครับ ปัจจุบันนี้ ผมคิดว่า พ่อครูฯ ยังสามารถแต่งเพลง ได้อยู่นะครับ ผมไม่ได้ฟังเพลง พ่อครูฯ ที่แต่งขึ้นมาอีกเลยในปัจจุบันนี้ ผมเลยอดฟังเพลงพ่อครูฯใหม่ๆ อีกเลยครับ ( กราบนมัสการ พ่อครูฯ ครับ ).
พ่อครูว่า… อาตมาออกมาทำงานตั้งแต่อายุ 15-16 ทางโทรทัศน์ ตั้งแต่ยังเรียนอยู่ ทำรายการคนเก่งรุ่นจิ๋วเป็นต้น จนกระทั่งได้ไปร่วมงานโทรทัศน์ช่องแรกของประเทศไทย 2498 ทำมาจนกระทั่งเรียนจบ ก็เข้าทำงานโทรทัศน์อยู่ที่ช่อง 4 เลย จนกระทั่งลาออกมาทางธรรมะ ไม่ได้ไปเข้าทำงานที่อื่นเลย อาตมาก็รู้ก็เห็นก็เข้าใจ ก็อยู่ในสายสื่อสาร รู้ทั้งความเป็นไปของสังคม รู้ทั้งสิ่งที่มนุษยชาติที่จะใช้เยื่อใยอะไร ประสานกันไว้ดีที่สุด
ซึ่งมันสุดยอดอาตมาสรุปแล้ว สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ สุนทรียภาพ
ถ้าชีวิตไม่มีสุนทรียภาพเลย มีแข็ง มีแต่สุญญภาพ 0 จบ มันต้องมีด้วยนะ แต่ถ้ามีแต่0 อย่างเดียว ไม่มีสุนทรียภาพนะ ว้าเหว่ แห้งแข็ง มันไม่ไหวเลย ไม่ได้ นี่ ก็เห็นในสภาวะของโลกในทุกอย่างจะต้องมี 2 คู่กันช่วยกัน
คำว่าศิลปะหรือสุนทรียะ จึงเป็นสุดยอด แล้วศิลปะต้องเป็นมงคลอันอุดม ไม่อยากพูดมากไปถึง ศิลปินต่างๆที่เดี๋ยวนี้กลายเป็นเรื่องหลอกลวง ทำให้ชีวิตไม่เป็นองค์รวม ทำให้ชีวิตแตกแยก ทำให้แข่งดีแข่งเด่นทำให้ชีวิตเลอะเทอะ เอาอะไรยืนยันว่าเป็นศิลปะไปหมด เอาขี้หมามาใส่ขี้โม้ เอาขี้หมูไปใส่ขี้ไก่อะไรเละเทะ แล้วก็มายืนยันว่าเป็นศิลปะ ซึ่งไร้สาระมากกว่ามากเลย
คนไม่รู้บอกว่าเอ็งคิดไม่ถึง หัวไม่ถึง เอ็งคิดไม่ออก บอกหัวไม่ถึง ใช้โวหาร ดูถูกดูแคลนกันไป
อาตมาจึงสรุปที่ตัวเองได้ว่า ทำไมชาตินี้อาตมาถึงต้องมาเรียนศิลปะ ต้องเป็นนักศึกษานักเรียนศิลปะ วิชาอื่นๆก็พอเรียนได้แต่ ไม่ได้ไปเรียนอย่างอื่น นอกจากเรียนศิลปะและไม่ได้ต่ออะไรอีก อาตมาเคยสมัครเรียนเป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์นะ คณะเศรษฐศาสตร์ตั้งแต่ 2499 ผ่านมา 66 ปีแล้ว ซึ่งก็ไม่ได้เรียน อาตมาไม่ได้เข้าเรียน มีแต่จะไปอย่างมากก็งานแข่งฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ซึ่งนอกนั้นอาตมาก็ทำงานไป
แล้วอาตมาก็เข้าใจว่าอาตมาต้องมาเรียนศิลปะเพราะมันเป็นสุดยอด ศิลปะเป็นมงคลอันอุดม คำนี้ยิ่งใจมันเป็นโลกุตระ ต้องเป็นไปถึงโลกุตระจึงเรียกศิลปะอันยิ่งใหญ่ นอกนั้นไม่ใช่ศิลปะ อาตมาพยายามแยกตั้งแต่คนทำเรื่องลามก แล้วมาหลอกคนว่าเป็นศิลปะ
จนกระทั่งไปถึง ราคะ ซึ่งมีเยอะมากแล้วก็มาถือว่า ราคะ เป็นศิลปะ ซึ่งมันไม่ใช่ ยังไม่ถือว่าเป็นศิลปะ
ขั้นที่ 3 สาระ ถ้ายิ่งไม่มี สุนทรีย์เลย แข็งเป๊ก เรียกว่าสารคดี มีแต่เนื้อกับกระดูก ไม่ไหวเลย มันไม่มีรสชาติอะไรเลย มันไปไม่คล่องไปไม่ออก คนกลืนไม่ไหว แต่อย่าให้ไปใส่สีสันเรื่องสุนทรียมากไปจนคนไม่เอาเนื้อหา มือถือเนื้อหาแล้วคายทิ้งเลยก็ไม่ดี เป็นแต่เพียงผสมส่วนให้คนเขาเอาเข้าไปแล้วเขาจะกินเนื้อ เหมือนกับการกินยาต้องเอาน้ำตาลหุ้มหน่อยสีกลิ่นบ้าง แต่เนื้อยาต้องเยอะ เป็นธรรมชาติและเขาจะได้ยาไปรักษา ซึ่งมันต้องประมาณ 90 ต่อ 10 สุนทรีย์ 10 ส่วน สาระอีก 90 ส่วน แล้ว 10 ส่วนนี้ชี้ชวนได้ก็จะได้ประโยชน์สูงสุด
อาตมาวาง จากการแต่งเพลงแล้ว ที่จริงอาตมาเข้าใจเรื่องเพลงการ มันเป็นสุนทรียที่ชี้ชวนให้คนชอบคนพอเป็นไป เอ๊ ท่านดินไท เพลง ยายสำอาง
คนที่แต่งเพลงทุกวันนี้คนแต่งเพลงมีเยอะ เก่งๆ ที่เป็นศิลปินแห่งชาติ อาตมาไม่ได้รับยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติเลย ไม่ได้รางวัลเลยในงานทางด้านศิลปะเรื่องของเพลง อาตมาไม่ได้รับคำยกย่องเชิดชู มากมายเลย เพราะอาตมา จริงๆด้วยเหตุปัจจัยแล้วอาตมาไม่ต้องไปเด่นทางโน้นหรอก เพราะมันไม่ใช่สาระเนื้อแท้ของตัวอาตมา
เนื้อแท้อาตมาต้องเด่นทางโลกุตระ ขนาดพยายามทำงานโลกุตรธรรมขนาดนี้แล้ว ยังไม่ได้แค่ไหนเลย มันยาก พยายามลากสังขารอายุขายให้ไปต่อเรื่อยๆไม่งั้นมันจะขาดตอนเพราะเป็นเรื่องใหญ่เรื่องที่มนุษย์ควรได้ และประเทศไทยก็เกิด อัญญธาตุ ที่พร้อมจะปลูกฝังแพร่กระจายให้ผู้อื่นเผื่อไปอีก
ศิลปะมันต้องมี 2 อย่าง สาระศิลป์ กับ สุนทรียศิลป์ สาระ 90% สุนทรีย์ 10% ไม่อย่างนั้นแล้วคุณจะหลงเอาแต่สุนทรีเอาแต่น้ำตาลเอาแต่สีแต่กลิ่นเอาแต่ประเทือง เด็กๆมันไปกินยาเอาพวกนี้ใส่ให้ดู หลอกๆ ใส่ไว้ มันมากมันก็กินเพลินจนอิ่ม ก็ถ่มเนื้อยาทิ้งหมด
สู่แดนธรรม.. สมัยก่อน อาจารย์สอนว่า น้ำตาล 20 เนื้อยา 80 สมัยนี้น่าจะ 40 50
พ่อครูว่า… สรุปแล้วเรื่องของศิลปะมันทิ้งไม่ได้ ต้องเข้าใจว่าเป็นศิลปะ แต่เดี๋ยวนี้มันกลายเป็นลามก ราคะ
ราคะมันมากที่สุด ลามกพอรู้ได้รู้ทันมันก็ไม่ค่อยนิยม แต่ราคะ มันอยู่ในเนื้อคน คนมันติดค่าราคะเยอะ แล้วราคะจัดจานด้วยก็เลยมาก ก็เลยต้องลดราคะให้มาเป็นสาระ ถ้าเป็นสารคดีจะเป็นสาระแท้ๆก็ไปไม่ออกก็ต้องมีสุนทรียผสม ได้พอสมควร
ใครผสมได้สัดส่วนที่ดีขึ้นก็เรียกว่า ธรรมะ เป็นศิลปะขั้นที่ 4 ผสมส่วนได้ดีที่สุดจนกระทั่ง ล้างกิเลส ขัดเกลากิเลสได้ เรียกว่า ขั้นโลกุตระ
ล้างกิเลส ขัดเกลากิเลสได้ เรียกว่า โลกุตระ
มีศิลปินแห่งชาติคนหนึ่ง รำพึงรำพันว่า ศิลปะมีโลกุตระด้วยหรือ เข้าหูอาตมาเลย ได้ยิน เขารำพึงรำพันเพราะเขาไปชมศิลปะที่เราแสดงที่สันติอโศก บอกว่านี่ ศิลปะขั้นโลกุตระ เขาก็เป็นศิลปินแห่งชาติก็บอกว่า ศิลปะมีโลกุตระด้วยเหรอ เราก็ต้องยืนยันว่ามีสิพระพุทธเจ้าตรัสไว้แล้วว่า ศิลปะเป็น อุตระ เป็นมงคลอันอุดม อุตระคือโลกุตระนี่แหละ ที่เหนือชั้นกว่าโลกียะ เป็นมงคลอันอุดม ซึ่งใครเอาไปใช้ ก็ลดกิเลสได้
นิยามความหมายของมันก็คือว่า เป็นไปเพื่อ ลดละหน่ายคลาย งานนี้ ถ้าใครเอาไปเสพเอาไปใช้ก็ทำให้คนลดกิเลสได้ อย่างนี้เรียกว่าศิลปะอันเป็นมงคลอันอุดม นี่คือนิยามหรือเงื่อนไขของอันนี้ คือการกำหนดความหมายของมันคืออันนี้ว่า โลกุตระเป็นอย่างไร
สรุปอีกทีนึง โลกุตระคือ อันนี้คุณรับไปใช้แล้ว สัมผัสแล้ว ทำให้กิเลสคุณลดได้ นั่นจึงจะชื่อว่า ศิลปะที่เป็นมงคลอันอุดมหรือเป็นศิลปะขั้นโลกุตระ
ถ้ายังลดกิเลสไม่ได้เลยไม่ถือว่า เป็นศิลปะอันเป็นมงคลอันอุดมไม่เป็นโลกุตระ
สู่แดนธรรม… ศิลปินที่ทำงานตรงนี้ได้สำเร็จคือแม่ครัว แม่ครัวชาวอโศก
พ่อครูว่า… แม่ครัวชาวอโศกทำคนกินไม่ลงสิ มันไร้รสชาติโลกียะ
สู่แดนธรรม.. พยายามปรุงแต่งให้น้อย พ่อท่านเคยชวนกินต้มสวรรค์ เป็นอาหารโลกุตระ
พ่อครูว่า… ใครเคยกินไหม ต้มสวรรค์คือได้ผักอะไรมาก็ใส่น้ำเข้าและต้มออกมา รสไหนรสนั้น เท่าที่ ต้นไม้มันจะมีรสให้ ใส่เข้าไปกี่อย่างก็แล้วแต่ ต้มออกมานี่แหละคือต้มสวรรค์
คำตอบ ทำไมไม่แต่งเพลงอีก เพราะงานที่อาตมาทำตอนนี้ อย่าหาว่า ยกตัวเองหลงตัวเองเลย คือ อาตมาต้องพยายามที่จะทำความละเอียดลออของโลกุตระนี้ให้ยิ่งๆขึ้น ฟังธรรมะของอาตมายุคนี้ขณะนี้ตอนนี้ไป ฟังดีๆเถอะ อาตมาพยายามที่จะแจกแจงให้เห็นความละเอียดละออซับซ้อนหลายชั้นเชิง ของโลกุตรธรรม พยายามเพิ่มความลึกซึ้งละเอียดลอออันนี้ อยู่ไปเรื่อยๆ
เพราะว่าอาตมาก็ยังไม่รู้จะตายวัน ตายพรุ่งนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ ก็ต้องพยายามทำ ก็ยังรู้สึกว่า หนังสือปัญญา 8 เล่ม 1 ก็ยังไม่ออกเลย ที่เขียนอยู่นี่ ยังไม่ได้ตัดเป็นเล่ม 2 กับเล่ม 3 ตอนนี้ประมาณ 800 หน้า ตัดเป็น 400 กว่า 2 เล่มก็ใช้ได้ เป็นเล่ม 2 เล่ม 3 ก็คิดว่าจะจบเล่ม 3 ไม่ต่ออีก เพราะรู้สึกว่ามันจะวนและละเอียดลึกขึ้นไปมากเกินไป มันเหมือนจะเป็นขั้น อภิภุยยะมากเกินไป
ประเทศไทยคือ Pioneer หัวเจาะประชาธิปไตยโลกุตระ
ยังมีหนังสือที่เขียนค้างเอาไว้เล่มหนึ่งก็คือ ประชาธิปไตยไทยอันยิ่งใหญ่สุดยอด เขียนค้างเอาไว้ ยังไม่ได้ทวนเลย จะต้องเอามาเขียนรีไรท์อีกทีนึง ดูเหมือนจะเขียนก็ได้สักร้อยกว่าหน้า ต้องเอามาทวนเพิ่มเติมให้เห็นว่า ประชาธิปไตยนี้จริงๆของพระพุทธเจ้าคือประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่สุดยอด ชาวพุทธอย่างเรา จะฟังขึ้น ที่อื่นเขาจะยังไม่เชื่อ แล้วเขาจะยังไม่เข้าใจว่า มันยอดได้อย่างไร มันยอดสุดยอดจริงๆเพราะมันไม่ทิ้งสภาพ 2 แต่ประชาธิปไตยยุโรป มันหนักไป ข้างประชาธิปไตยขาเดียว เป็นอย่างนั้นตำราของเขาจะเป็นขาเดียว
เพราะพระเจ้าก็ขาเดียว พระเจ้าของเทวนิยมศาสนาเทวนิยมขาเดียวไม่ใช่ 2 ขา เป็นหนึ่ง 1 1 1 1 ไม่ใช่ราชประชาสมาสัย ไม่ใช่ 2 ไม่ใช่รัฏฐาธิปัตย์ทั้ง 1 และมวล ประชาธิปไตยจะต้องเป็น 1 และมวล เป็นราชประชาสมาสัย
ราชประชาสมาสัยที่ในหลวงทรงบัญญัติคำนึ้ขึ้นมาคนไม่ใช่เข้าใจได้ง่ายๆ มีราชะ กับประชา อาศัยกันและกันเรียกว่า ราชประชาสมาสัย ทั้งราชา พระเจ้าแผ่นดิน ทั้งประชาชน จะต้องอาศัยกันอย่างเสมอสมานกัน ราชประชาสมาสัย ซึ่งเป็นคำสมาสที่ยิ่งใหญ่ คนยังเข้าใจได้ยาก
แต่ถึงอย่างไรก็ไม่เป็นไร ประเทศไทยก็เป็นแล้ว นำโลก พูดให้ใหญ่เลย แล้วมันไม่เป็นความผิดด้วยมันเป็นความจริงแต่คนยังไม่เข้าใจยังเข้าไม่ถึง แต่อาตมาขอยืนยัน
ปัจจุบันนี้ พลเอกประยุทธ์เป็นตัวนำ ตั้งแต่ชื่อเขา ชื่อพลเอกประยุทธ์ แปลว่าผู้ทำหน้าที่รบ รบอะไร บุกเบิกประชาธิปไตยของโลก เป็นผู้นำบุกเบิก เป็นตัวปฏิบัติ เป็นนายกฯ
ซึ่งมี ดร.นิว (ศุภณัฐ อภิญญาณ) เขียนไว้
‘ดร.นิว’ ชี้กรณี 8 ปี ‘ลุงตู่’ คนเขียนรธน.ไม่รู้หลักวิชา เป็นระบบพันธุ์ทาง ที่มาของความยุ่งเหยิงในการตีความ 16 กันยายน 2565 นสพ. ไทยโพสต์
‘ดร.นิว’ชี้กรณี 8 ปี’ลุงตู่’คนเขียนรธน.ไม่รู้หลักวิชา ไม่มีระบบรัฐสภาที่ไหนในโลกจำกัดระยะเวลาดำรงตำแหน่งของนายกฯ แต่มักนิยมใช้กับการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เมื่อนำมาปะปนกันกลายเป็นระบบพันธุ์ทาง หัวมังกุท้ายมังกร เป็นที่มาของความยุ่งเหยิงในการตีความ (พ่อครูไอตัดออกด้วย)
สมณะเดินดิน… กำนันสุเทพบอกว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญที่มุ่งหมายปฏิรูปทางการเมือง พวกนักการเมืองตึงเครียดมาก เมื่อวานสส.ก้าวไกลบอกว่า ให้มีประชามติแก้ประชาธิปไตยทั้งฉบับ แต่ไม่ผ่าน
16ก.ย.2565 -ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์เฟซบุ๊ก ดังนี้
กรณีแปดปีลุงตู่ชี้คนเขียนรัฐธรรมนูญไม่รู้หลักวิชา
1.ไม่มีระบบรัฐสภาที่ไหนในโลก ที่เขาจำกัดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี
2.การจำกัดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งของผู้นำ มักนิยมใช้กับการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีในระบบประธานาธิบดี
3.การจำกัดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งของผู้นำ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Term limit แปลตรงตัวว่า เป็นการจำกัดจำนวนเทอม ซึ่งจะนับระยะเวลาเป็นจำนวนเทอม ไม่ใช่การนับเป็นจำนวนปี
ปมปัญหากรณีแปดปีลุงตู่จึงเป็นตัวอย่างของความผิดหลักวิชานานัปการในรัฐธรรมนูญ ซึ่งมาจากคนเขียนรัฐธรรมนูญที่ไม่รู้หลักวิชาที่ถูกต้อง แถมยังนำหลักการในระบบรัฐสภากับระบบประธานาธิบดีมาปะปนกัน จนกลายเป็นระบบพันธุ์ทาง หัวมังกุท้ายมังกร
ดังนั้น การเขียนรัฐธรรมที่ผิดหลักวิชาตั้งแต่เริ่มต้นจึงเป็นที่มาของความยุ่งเหยิงในการตีความรัฐธรรมนูญ ตลอดจนนำมาซึ่งการถกเถียงปัญหาพื้นๆ ที่ไม่น่าจะต้องกลายเป็นปัญหาระดับชาติแต่ประการใด
ส่วนการอ้างว่าจำกัดระยะเวลาแปดปีเพื่อป้องกันการผูกขาดอำนาจ เป็นเพียงแค่การแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น เพราะนายทุนนักธุรกิจการเมืองซึ่งเป็นเผด็จการตัวจริง ก็สามารถหาหุ่นเชิดมาทดแทนได้อยู่ดี
ทางออกของวิกฤตปัญหาชาติจึงต้องสร้างประชาธิปไตย ทำอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชนอย่างแท้จริงเท่านั้น ถึงจะนำไปสู่การได้มาซึ่งผู้แทนที่เป็นตัวแทนของปวงชน ไม่ใช่ตัวแทนของนายทุนนักธุรกิจการเมืองที่อยู่ข้างหลังพรรคการเมืองอีกต่อไป
พ่อครูว่า… ที่อเมริกามีแต่นายทุนนักการเมืองทั้งนั้น ไม่มีหรอกที่จะบริสุทธิ์ผุดผ่องประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ ไม่มี ในประชาธิปไตยขาเดียวนะ แต่ประชาธิปไตย 2 ขา มี เพราะราชากับประชาชนเป็นอันเดียวกัน เป็นรัฏฐาธิปัตย์ร่วมกัน แล้วจัดการอันนี้ให้มันเกิด โดยมีตัวนายกเป็นหัวหน้าประชาชนที่จะจัดการร่วมกันกับในหลวง กับพระจจจนกษัตริย์
ในโลกจำเป็นที่จะต้องมีการเลือกตั้ง แต่ต้องให้ประชาชนมีปัญญามีความรู้เอง ไม่ใช่ไปถูกนายทุนซื้อไว้หมดหรือถูกอำนาจอิทธิพลของ หัวคะแนน ก็คงไม่หมดมีวิปมีอะไร
ประชาธิปไตยมี วิปไม่ได้ วิปคือ ผู้ควบคุมเป็นหัวคะแนน ถ้ามีวิปในที่ใด ที่นั่นไม่ใช่ประชาธิปไตย มีนายทุนมีเจ้าของ อย่างทักษิณเป็นเจ้าของเพื่อไทย เป็นเจ้าของประชาธิปไตยของเขาโดยเอาโวหารมาตีกิน ว่าของเขาเป็นประชาธิปไตยผู้อื่นเป็นเผด็จการ
คือ ประชาธิปไตยไทยมันสำเร็จโดยประชาชนปฏิวัติ ประชาชนทำรัฐประหารจริงๆ ไม่ใช่พลเอกประยุทธ์ทำรัฐประหาร เหมือนอย่าง พลเอกป้อมบอกว่า นี่ไงตัวหัวหน้าปฏิวัติ ชี้บอกพลเอกประยุทธ์ ที่จริงแล้วไม่ใช่พลเอกประยุทธ์เป็นหัวหน้าปฏิวัติ แต่ประยุทธ์มารับไม้ต่อจากประชาชนมาบริหารประเทศ อาตมาก็พูดซ้ำ พูดมาแล้วเขาเข้าใจกันไม่ได้ทั้งโลก พูดกันอย่างนั้นเลย โดยเฉพาะตัวประเทศไทยที่ปฏิบัติการเองสำเร็จผลด้วย แล้วไม่ใช่รัฐบาลเดียวด้วย
ประชาชนปฏิวัติด้วยความสงบไม่มีความรุนแรงไม่มีอาวุธ เป็นสากลที่งามที่สุด ยาวให้เป็นเย็นเรื่อยไป ไขความจริงออกมาให้มากๆหมดๆ ชนะด้วยความจริง จำนนว่าคุณผิด คุณโกงคุณคอรัปชั่นคุณกบฏ คุณจำนนต่อความจริง ไม่ได้ใช้อาวุธไม่ได้เอาอะไรจะทำร้ายเลย แล้วเขาก็จำนน หนีออกไปเอง หรือตายไปหรือเข้าคุก เห็นไหมตัวแทนเรามีหน้าที่เกี่ยวข้อง
-
หนี 2. ตาย 3. เข้าคุก เองนะ เขาทำเอง นี่เป็นสัจจะของวิบากกรรม เป็นการยืนยันสัจธรรมวิบากกรรมด้วยนี่แหละสุดยอด