ความแตกต่างของประธานาธิบดีกับพระมหากษัตริย์ : The difference between a president and the king
.
_เมื่อคุณไพร จริยา : ถามพ่อครูว่า …20 กว่าปีมาแล้วที่นักการเมืองเลว ๆมามีบทบาท ทำให้ประเทศชาติแทบล่มสลาย แต่ยังดีที่มีคนดี ๆและมีพระโพธิสัตว์ออกมากู้ชาติไว้ได้ ทุกวันนี้นักการเมืองเลว ๆเสียอำนาจ แต่ยังไม่ยอมแพ้ ใช้เงินที่คอรัปชั่นมาซื้อนักการเมืองเลว ๆก่อกวน ดึงคนโง่ ๆให้เป็นเครื่องมือคิดล้มล้างเสาหลักของชนชาวไทย ถ้าคนไทยหลงทางไปเป็นบริวารเขาจริง ประเทศก็จะแตกแยก เกิดสงครามกลางเมืองอย่างเลี่ยงไม่ได้
.
พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ตอบว่า…ไม่ใช่แค่ 20 ปีตั้งแต่ พ.ศ. 2475 มาแล้ว ก็เป็นจริงอย่างที่คุณว่ามา ถ้าขืนทำอย่างประมาท ทำอย่างที่ตัวเองยึดถือจนกระทั่งเลยเถิดไปล้มล้างเสาหลักของประเทศ อย่างที่เขาทำกัน จะล้มล้างมาให้ประเทศไทยไม่มีสถาบัน ให้มีประธานาธิบดี ด้วยอ้างว่าจะให้ปฏิรูป เขาอาจจะมีจิตใจอย่างนั้นจริงๆขอปฏิรูปสถาบัน ลดพระราชอำนาจ มากกว่านี้หน่อย
.
จริงๆเขาก็ คิดมันก็ไม่เสียอะไรหรอก แต่ว่าคุณไม่เห็นใจคนอื่นบ้างเลย คุณยังไม่เข้าใจในสถานภาพของทุกอย่าง อจินไตยมีเยอะ คุณจะให้พระเจ้าแผ่นดินมีเงินเท่ากับคุณ ต้องเสมอภาค จะให้พระเจ้าแผ่นดินเดินดินกินข้าวแกงแบบคุณ มันจะไม่มากไปหน่อยหรือ?
.
คือมันจะต้องมีฐานะ ขนาดเป็นข้าราชการเป็นหัวหน้า กรม กองต่างๆ มันก็ยังมีชั้นมีฐานะ อันนี้ไม่ใช่เรื่องของวรรณะ 4 แบบอินเดียนะ แต่มันเป็นเครื่องบอกหน้าที่การงาน เป็นเครื่องบอกถึงความอนุญาตให้ทำได้ประมาณนี้ กำหนดขอบเขตอะไรต่างๆนานา ที่เป็นปัจจุบันธรรม
.
สิ่งที่เขายังเข้าใจไม่ได้ก็คือ อจินไตย กรรมวิบาก คนจะมาเกิดเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ไม่ใช่ไม่มีบารมีมา อะไรก็ไม่รู้ อยู่ดีๆมาเป็นประธานาธิบดีถือถุงเงินมาแล้วก็ไม่เป็นประธานาธิบดีอย่างนั้นมันไม่ใช่นะ ท่านต้องมีกุศลบารมีของท่านหลายอย่าง จริง
.
กษัตริย์บางองค์ ท่านก็ไม่มีทศพิธราชธรรม ก็จริงก็มีได้ ตามบารมีของท่าน แต่บารมีที่ท่านได้เป็นพระมหากษัตริย์ แต่ภาวะกรรมวิบากของท่านที่ท่านสร้างสมมาเป็นกุศลอกุศลของท่าน ท่านก็ปฏิบัติได้อย่างนั้น ก็ไม่ได้รับความยอมรับจากสังคมจากมนุษยชาติเอง
.
องค์ใดที่มีบารมีแล้ว ท่านก็มาปฏิบัติทำกุศลบารมีมาดี อย่างเช่นรัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 9 เห็นชัดเจนอยู่อย่างนี้ ก็มีคนยกย่องเป็นมหาราชเอง เป็นพระปิยมหาราช เป็นพระภูมิพลมหาราช เป็นต้น เขาก็จะยกย่องเชิดชู ให้สมญานาม อย่างนี้เป็นต้น
.
ก็เป็นเรื่องของสัจจะทั้งนั้น ซึ่งเป็นเรื่องจริงไม่มีใครไปบังคับ ประชาชนก็จะรู้เองด้วยความจริง อย่างที่มันเกิดเหตุขึ้นมานี้ ในหลวงท่านก็ทรงงานจนเป็นที่ยอมรับของคนไทย เมื่อท่านสิ้นพระชนม์ทุกคนก็เกิด Bomb of love ขึ้นมาเลย ดังเหตุการณ์มหกรรมแห่งการให้การแบ่งปันที่ท้องสนามหลวงตอนร.9 เสด็จสวรรคต
.
ทุกวันนี้ คอมมิวนิสต์กับเผด็จการก็ค่อยๆหมดไปจะมีเหลือเป็นประชาธิปไตย
.
ประชาธิปไตยนั้นเอาประชาชนเลย ซึ่งเอาประชาชนเลยก็มีข้อด้อยตรงที่ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ประชาชนจะเป็นคนเห็นแก่ตัวมีกิเลสมากเป็นส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นถ้าจะเอาความเป็นอำนาจส่วนใหญ่ เอาคะแนนเสียงของประชาชนเป็นใหญ่ มันก็เป็นอำนาจของคนอวิชชา คนส่วนใหญ่มีอำนาจอวิชชามากกว่าคนมีวิชชา สังคมก็เจ๊ง
.
อันนี้เป็นความลึกซึ้งที่ว่า ประชาธิปไตยต้องเป็นประชาธิปไตย 2 ขา ต้องมีความเกี่ยวเนื่องกับจิตวิญญาณแล้วมีการสืบทอดจิตวิญญาณ สายกษัตริย์ ซึ่งสุดยอดทั้ง วิญญาณ สรีระ กฎมณเฑียรบาล แม้จะเปลี่ยนวงศ์ราชะ จะเปลี่ยนมาเป็นวงศ์กษัตริย์อื่นก็ตาม กษัตริย์วงศ์ไหนก็ตามก็ต้องสืบทอดตามกฎมณเฑียรบาลทั้งนั้น อันนี้ซับซ้อนลึกซึ้งมาก
.
เพราะฉะนั้นสายประชาธิปไตยขาเดียวเลือกจากประชาชนนี่ ถึงเรียกประชาธิปไตยขาเดียว ใครขึ้นมาก็ได้ใครมีแทคติกทางทุนนิยมใช้ทุนอำนาจวิธีการใดจะเอาชนะ เหมือนกับสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่เป็นอย่างอังกฤษทีเดียว สหรัฐอเมริกา เป็นตัวอย่างประชาธิปไตยขาเดียวที่ตกต่ำที่สุดแล้ว
(ดูคลิปเต็มที่ https://www.youtube.com/watch?v=h9o79Hlzo0U รายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โดยพ่อครู สมณะโพธิรักษ์ วันที่ 28 ตุลาคม 2563)
…………………………………………………………………………
-
“ความเสียเปรียบสูงส่งกว่าความเสมอภาค”..พ่อครู 21 ส.ค. 2562
-
Being disadvantaged is more noble than equality.