631025_รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ ปฏิรูปศาสนามีมากว่า 50 ปีที่ชาวอโศกนี่ไง
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวน์โหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/13KjhcbOfhUML8puVtXT-GAyppyJ61wNjcbweBW_Los8/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1uZJFarMPO0FCmqvfBmVAf-RV7VWoMTgp/view?usp=sharing
และยูทูปที่ https://youtu.be/1M-Kgpc0z88
สมณะฟ้าไทว่า…วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2563 ที่บวรราชธานีอโศก ตอนนี้อากาศหนาวลมหนาวเริ่มมา มีข่าวแจ้งให้ทราบ ตอนนี้ น.ส.คำสุข ครองทรัพย์ อายุ 78 ปี (ยายใบน้อม) เสียชีวิตวันนี้ 25 ตุลาคม เมื่อเวลา 12.00 น.โดยประมาณ วันนี้เวลา 18.00 – 19.00 น. มีเทศน์หน้าศพ ยายทองสุข ครองทรัพย์ ที่ลานนาอโศก ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ และจะฌาปนกิจศพในวันอังคารที่ 27 ตุลาคม 2563 เวลาและสถานที่นั้นจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง
ตอนนี้เขาจะมีชราแลนด์ จะมีเด็กและผู้สูงอายุอยู่ด้วยกัน ตอนนี้กองทัพบกกำลังสร้างศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก
ตอนนี้ม็อบปลดแอกก็จะไปชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ส่วนพวกที่ชุมนุมใส่เสื้อเหลืองก็จะไปปกป้องทำเนียบรัฐบาล ของพวกเราก็จะมีการใส่เสื้อสีเหลืองแสดงพลังปกป้องสถาบัน ต่อจากรายการพ่อครู เชิญรับชมตามได้
วิปัสสนาแยกธรรมะสองได้ละเอียดกว่าสมถะ
พ่อครูว่า…ตอนนี้ SMS ก็มีมากเลยจนจะไม่ได้บรรยายเรื่องกายที่เตรียมจะบรรยาย ก็จะมีการอธิบายหลักหลายนัยยะ หลายคนก็บอกว่ามันใกล้เคียงกันในบางมุม ซึ่งคนที่มีความละเอียดของจิตมากกว่าก็จะแยกแยะรายละเอียดตามนี้ได้ เช่นมันเหลือนิดนึงกับไม่มีแล้วมันก็ใกล้เคียงกันมากเลยต้องแยกให้ออก นี่แหละคือตัววิจารณญาณ ตัวสำคัญของ ธรรมวิจัยสัมโพชฌงค์ ของแต่ละคน คำว่าธรรมวิจัย แบบสัมโพชฌงค์แบบความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้ามันแยกไม่ออก เช่น ตั้งแต่ในยุคเทวนิยม อาฬารดาบสกับอุทกดาบส นั่งหลับตาสะกดจิตให้มันดับสนิทไปเลย อาฬารดาบสก็สะกดจิตตัวเองไปได้แค่ฌาน 7 อากิญจัญญายตนะแล้วแยกไม่ออกแล้ว ไม่มีญาณไม่มีปฏิภาณ ไม่มีมุทุธาตุ ไม่มีไหวพริบที่จะละเอียดกว่านั้นที่จะไปรับรู้ได้แล้ว มันได้แค่นั้น สำหรับอาฬารดาบสได้แค่ฌาน 7
แต่ว่าอุทกดาบสสามารถที่จะแยกรู้ได้อีก ว่าการดับกับการมีอีกนิดนึงมันยังแยกกันอยู่นะมันยังแวบขึ้นมา จากการสะกดจิต ที่จะไม่ให้แว่บรู้อะไรเลยได้นานเท่าไหร่ก็เท่านั้น อาฬารดาบสทำได้แค่ชั้นที่ 7 แต่ว่าอุทกดาบสทำได้นานเข้า นึกว่ามันไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว นึกว่ามันนิ่งสนิทแล้ว แต่มันก็แวบขึ้นมาอีกได้ แว๊บเข้ามาเท่าไหร่ที่ได้ระลึกรู้ ที่จะมีความรู้สึกขึ้นมาเขาก็ดับเวทนาไง พวกเทวนิยมหรือว่าพวกสายสะกดจิต สายที่ทำ meditations สายนั่งหลับตาสะกดจิต เขาจะได้อย่างนี้มันเป็นวิกขัมภนปหานมันเป็นการกดข่ม พอแว็บขึ้นมาเขาก็กดข่ม
อาฬารดาบส กดข่มได้แต่ฌาน 7 มันไม่สามารถละเอียดกว่านั้นได้อีก แต่อุทกดาบสสามารถละเอียดเข้าไปอีกครั้ง รู้ได้ แต่ก็กดเข้าไปอีกนั่นแหละเพราะเป็นระบบของการกดข่ม เขาก็ทำอยู่อย่างนี้เก่งที่สุดได้อย่างนี้ เขาก็ทำได้นานนะสำหรับอาฬารดาบส ทำได้นานจนกระทั่งอีกระยะหนึ่งจนกระทั่งฤทธิ์ของการกดข่ม ได้เท่านั้นมันก็แว๊บขึ้นมา แต่แว๊บขึ้นมาอาฬารดาบสก็ไม่สามารถรู้ได้ เสียงที่มันละเอียดกว่า
อย่างเช่นหูของคนมันสู้หูของสัตว์หลายชนิดไม่ได้ มันมีการรับรู้ความถี่ของเสียงได้ละเอียดยิ่งกว่าเรา นั่นแหละเป็นต้น อย่านึกว่าคนเก่งกว่าสัตว์นะ หลายอย่างคนก็ไม่เก่งกว่าสัตว์ในสภาพอย่างนี้ก็เหมือนกัน
เพราะฉะนั้นอุทกดาบสจึงเก่งกว่าอาฬารดาบสนี่เป็นเชิงของสมถะ
ทีนี้ เชิงของวิปัสสนา รู้ๆเห็นๆ ยิ่งละเอียดได้มากขึ้นเรื่อยๆเลยต่างกับสมถะที่จะไม่รู้ วิปัสสนาก็สามารถรู้รายละเอียดเล็กมากยิ่งขึ้นได้ จนกระทั่งเท่าพระพุทธเจ้านั้นแหละสูงสุด อาตมาก็เป็นโพธิสัตว์ที่ศึกษาฝึกฝนไปนี่ก็เอามาเล่าสู่กันฟัง อาตมาก็มีซึ่งตอนนี้มาได้เรื่อยๆและก็ดึงขึ้นมา
ก็มีเกิดใหม่ที่มีปฏิภาณใหม่ที่อาตมาได้ใหม่ตามในฐานะแต่ละปางแต่ละชาติก็ขึ้นมาทั้งนั้น ของเก่าก็มีเป็นฐานเสริมให้ ของใหม่ก็เติมมา จึงเจริญขึ้นเจริญขึ้นเจริญขึ้นเรื่อยๆ อาตมาก็เจริญในธรรมขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าสังขารร่างกายมันฝืนมามากแล้วอายุ 72 ต้องตายแล้ว นี่ก็เพิ่มมาได้เป็น 87 ปีแล้ว เกินมา 1 นักษัตรแล้ว ตอนอายุ 84 ถ้าไปถึง 96 ก็จะเพิ่มอีก 1 นักษัตร ก็ไว้ฉลองกันตอนนั้นบ้าง ฉลองให้อาตมาหน่อยได้หรือไม่ ..ได้
(ก็ฉลองด้วยสิ่งเหล่านี้แหละ พ่อครูยกกล้วยหอมหวีหนึ่ง 28 ลูก เป็นกล้วยหอมจากบ้านน้องบัวนะนี่จากราชธานีอโศก)
มันก็เป็นเรื่องสิ่งที่เป็นในโลกเขาก็เป็นสมมติสัจจะที่จะต้องร่วมกับสมมติสัจจะกันไป
SMS วันที่ 23-24 ต.ค. 2563
_บัวดาว พรมเลิศ : พ่อครูเทศน์ต้องตั้งใจฟัง เพราะกลัวหลุดคำความที่สำคัญยิ่งกว่าอะไรที่โลกเขาสมมุติว่ามีค่า แต่ธรรมะที่พ่อให้มีค่ามากค่ะ. กราบขอบพระคุณพ่อครูมากค่ะ
_ประสิทธิ์ ปัดสวรรค์ : กราบนมัสการขอรับพ่อท่านและสมณะ สิกบมาตุ เจริญสำนึกดีครับ วันนี้รู้สึกดีขึ้นครับที่เห็นการเคลื่อนไหวกับกลุ่มรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ นอนไม่หลับหลายคืน ในที่สุดก็เห็นอานุภาพของพลังอันศักดิ์สิทธิ์ ที่เกิดจากคุณความดีของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ครับ เริ่มมั่นใจแล้วครับในภาพที่เห็นวันนี้ครับ
_ประสิทธิ์ ปัดสวรรค์ : สถานการณ์ตอนนี้อโศกกำลังได้การตอบรับในโซเชี่ยลครับ
_ชาญณรงค์ จินดาธรรม : กราบนมัสการแทบเท้าพ่อ..พระผู้เป็นที่สุดแห่งศรัทธา ด้วยความเคารพยิ่งครับ
ชาวอโศกปฏิรูปศาสนาพุทธมา 50 ปีและยังทำต่อไป
_ฉันท มุกขุนทด : กราบนมัสการพ่อท่านค่ะ ทำไมประเทศไทยไม่ปฏิรูปศาสนาบ้างล่ะคะ
พ่อครูว่า…แสดงว่าคุณยังไม่เข้าใจคำว่าปฏิรูป ถ้าคุณเข้าใจว่าปฏิรูปคืออะไร คุณก็จะเห็น คนที่เขาปฏิรูปอยู่คือชาวอโศก ปฏิรูปศาสนาพุทธอยู่ตลอดเวลามา อาตมาทำมา 50 ปีเท่านี้แล้ว กำลังทำอยู่เรื่อยๆ ได้พัฒนาการของการปฏิรูปขึ้นมาเรื่อยๆ เราไม่ใช้ปฏิวัติศาสนา โดยใช้การปฏิรูปศาสนา ซึ่งความหมาย 2 อันนี้ทางวิชาการเขา Reform กับ รีโวลูชั่น Revolution
Reform คือการปฏิรูปนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปเรื่อย
แต่ว่า Revolution การปฏิวัตินั้นหักด้ามพร้าด้วยเข่าเลยเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงรวดเร็วต้องให้ประสบผลสำเร็จในทันทีทันใด เร็วที่สุดนั่นคือลักษณะของการปฏิวัติ กับการปฏิรูปต่างๆ
ชาวอโศกมีการปฏิรูปศาสนาพุทธมาตลอดเวลา อาตมาทำตามพระธรรมวินัย ตั้งแต่บวชมาอยู่ในศาสนาพุทธในประเทศไทย บวชด้วยวิธีการด้วยธรรมเนียม ประเพณีบวชที่ธรรมยุต ที่วัดอโศการาม แล้วบวชซ้ำอีกโดยไม่ได้สึก บวชมหานิกายอีก ที่วัดหนองกระทุ่ม จังหวัดนครปฐม แต่เสร็จแล้วอาตมาก็เป็นทั้งธรรมยุตและมหานิกาย แล้วก็มาประกาศเป็นนานาสังวาส กับเถรสมาคม ซึ่งไม่ใช่การทำนิกาย ใครบอกว่าเราเป็นนิกายนั้นคนนั้นก็เป็นการทำอนันตริยกรรม เราได้ทำนานาสังวาสอย่างถูกต้องตามธรรมวินัยต่อหน้าพระสังฆาธิการ 100 กว่ารูป ตอนแรกเขาก็รับรองตั้งแต่ปี2518ว่าเราไม่ได้อยู่ในการปกครองของเถรสมาคม อยู่มาถึง พ.ศ. 2532 เถรสมาคมกินยาผิดไม่รู้อย่างไรมาดึงเราเข้าไปอีก เขาก็ทำรวมกันเลยนะเอาธรรมยุตและมหานิกายรวมกันเป็นคณะ แล้วทำทีมุบมิบทำเป็นปกาสนียกรรม อัปเปหิออกจากสงฆ์หมู่ใหญ่ ทำเป็นอวดดีตีกิน ซึ่งจริงๆไม่ใช่ เราทำถูกต้องเรียบร้อยมาแล้ว ซึ่งดูแล้วเขาทำอย่างนั้นน่าสงสารยังไม่ประสีประสาก็ไม่ใช่ อาตมารู้นะว่าท่านผู้รู้เขารู้ตามธรรมวินัย แต่เขาต้องทำอย่างนั้นเพราะรู้ว่าประชาชนชาวพุทธทั้งหลายแหล่ ไม่ได้ลึกซึ้งกับธรรมวินัยอย่างที่ท่านรู้ ท่านก็ตีขลุม ให้ประชาชนชาวพุทธเขาเชื่อก็ต้องเชื่อท่าน อาตมาจะพูดอย่างไรเขาก็ต้องเชื่อท่าน จะพูดตามหลักธรรมพระไตรปิฎกธรรมวินัยมายืนยันอย่างไร ผู้ฟังไม่รู้เรื่องเขาก็เชื่อตามที่เขาเชื่อ มันก็เป็นมาอย่างนี้ มันก็แก้มาได้เรื่อยๆ อาตมาก็ยืนยันตามธรรมวินัย อาตมาก็ยอมแพ้แต่ไม่ผิด แล้วอาตมาก็ชนะเพราะอาตมายอมแพ้นี่แหละ อันนี้สูงส่งนะเป็นสิริมหามายา เหมือนพูดกลับกลอกเป็นเล่ห์กลมายาแต่ที่จริงไม่ใช่ นี่คือความจริงไม่ใช่มายา จะเห็นว่าเหมือนมายาสำหรับคนไม่รู้นึกว่าพูดกลับกลอก แต่ที่จริงเน้นย้ำความจริงเป็นสิริมหาเป็นความจริงที่ยิ่งใหญ่เป็นความดีที่ยิ่งใหญ่มันดูเหมือนมายากลกลับกลอก คนรู้ไม่ทันนึกว่าเล่นกลนึกว่าเป็นนักมายากลมาหลอกแต่ที่จริงไม่ใช่เป็นเรื่องจริงเรื่องถูกต้อง ก็สำเร็จมาจนกระทั่งทุกวันนี้เป็นการปฏิรูปมาเรื่อยๆ
เพราะฉะนั้นก็ขอยืนยันบอกกับคุณฉันทะ มุกขุนทดว่า การปฏิรูปศาสนานั้นชาวอโศกปฏิรูปมาเรื่อยๆแล้วเราไม่ได้ทำการปฏิวัติศาสนา แต่เราทำการปฏิรูปอยู่เรื่อยๆ แล้วจะปฏิรูปต่อไปเรื่อยๆ ช่วยอาตมาหน่อยสิ
มิติทางจิตวิญญาณซ้อนระดับอนาคามีนั้นมีในชาวอโศก
_Sutas Supapattarnon (สุทัศ สุภาภัทธานน) : ที่ราชธานีอโศกมีมิติซ้อนอยู่หรือไม่ – ตายแล้วไปไหนครับ
พ่อครูว่า…ขออธิบายว่าความตายความเป็นของร่างกาย ร่างกายนี้ตาย ขาดพลังงานของชีวะที่ร่างกาย หมดลมหายใจตายทิ้งร่าง แต่จิตวิญญาณยังอยู่ ทีนี้จิตวิญญาณนี้แหละ ที่ถามมาว่ามีมิติซ้อนอยู่หรือไม่ จิตวิญญาณมีมิติซ้อนอยู่แน่นอน ตายแล้วถ้าคุณยังไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสาน หมายความว่าพระอรหันต์ที่จบจิตแล้วแตกธาตุจิตให้สลายไปไม่จับตัวกันเป็นตัวตนเรียกว่าอัตตา สลายแตกธาตุจิตตัวเองออกเป็นธาตุที่ไม่เป็นชีวะแล้วคืออุตุธาตุดินน้ำไฟลมเป็นวัตถุหมดไม่มีเชื้อของชีวะ ไม่มีความเป็นจิตนิยาม แม้แต่พีชนิยามก็ไม่เป็น แม้เป็นพีชะก็ไม่เหลือ จะเหลือบ้างก็รวมกันไม่ติดเป็นจิตนิยามอีกแล้ว เป็นอุตุนิยามเป็นดินน้ำไฟลมไปเลย
ฟังดีๆ ที่อาตมาอธิบายนี้เป็นของอาตมาที่รู้อาตมาไม่ได้ไปเอาของใครมา เป็นความรู้ที่อาตมามีแต่ปางก่อนที่อาตมาเป็นสยังอภิญญาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ก็เอาความรู้พวกนี้มาพูดหาจากตำราที่ไหนไม่ได้ และอาตมาก็ขอยืนยันว่าอาตมาไม่ทำผิดจากสัจธรรมของพระพุทธเจ้า สิ่งที่อาตมาพูดนี้เป็นความถูกต้องตามสัจจะธรรมพระพุทธเจ้าแน่นอน แล้วจะต้องทำให้พวกเราได้เข้าใจและพิสูจน์ด้วยตนเองให้ได้ แม้ที่สุดพิสูจน์ไปตามลำดับ
คุณไม่ได้เป็นสัตว์โลกนรกขั้นอบายมุข ในชาตินี้คุณเคยมี คุณเคยไปติดเรื่องเสพติดต่ำๆหยาบๆแล้ว แต่ก่อนนี้ เมื่อมาชาตินี้คุณก็รู้แล้วเราก็มาปฏิบัติตาม ยิ่งคนที่มีบารมีเดิมก็จะปฏิบัติไม่ยากไม่นานมันก็จะได้เลย ได้แล้วเราก็รู้ว่าอันนี้แหละจิตของเราไม่มีธาตุเวทนา ไม่เป็นสุขเป็นทุกข์ ไม่มีธาตุที่จะต้องเป็นจิตนิยามแล้ว ไม่แล้ว แม้แต่ พีชนิยาม มันก็มีสุขมีทุกข์แล้ว แต่มันก็ร่วมรู้กับเขาได้แต่เราก็ไม่สุขไม่ทุกข์ พีชะ มันไม่มีเวทนา มันก็ร่วมได้
เพราะฉะนั้นความหมายของคำว่า พีชธาตุ เป็นชีวะ จึงเป็นฐานกลางของการอาศัยของพลังงานจิต เพราะฉะนั้นผู้ที่ทำเป็น ทำพลังงานจิตให้เป็น พีชนิยามในระดับอาศัย
เพราะฉะนั้นธาตุพลังงานในระดับอาศัยอันนี้แหละมันจึงยากมากเลยที่จะอธิบาย คุณต้องทำจิตให้มีพลังงานฌาน ฌานแปลว่าพลังงานไฟ เผากิเลสความโง่ให้หมดไป พอหมดไปแล้ว พลังงานฌานก็เผาให้สะอาดได้ คำว่า ฌาน มี 2 อย่างในตัวมันเองคือ 1. ทำลาย(เผา) 2. ทรงไว้
จะอาศัย ฌาน เรียกขึ้นมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้ ฌาน 1-2-3-4 ก็ดึงมาอาศัยใช้ได้ ต้องการฌานไหนก็ใช้ได้ ต้องการฌาน 1 ก็มีการปรุงแต่งมากอยู่มีวิตกวิจารปีติสุข พอฌาน 2 ก็มีปีติมีสุขไม่ต้องมีวิตกวิจารแล้ว พอฌาน 3 ก็มีแต่สุขกับอุเบกขา พอฌาน 4 ไม่สุขแล้วมีอุเบกขา
จะให้เป็นฌานที่ 1 2 3 4 ก็ทำได้โดยไม่ยากไม่ลำบากซึ่ง ฌาน ทั้ง 4 มีจิตวสวัตตี ยังจิตให้เป็นไปในอำนาจได้ตามที่ต้องการ
สู่แดนธรรม…พ่อท่านเคยอธิบายเรื่องมิติโลกนี้โลกหน้าไว้ พวกเราบ้านราชฯก็มีมิติบุญนิยมซ้อนในโลกเก่าโลกใหม่ได้
พ่อครูว่า…ได้ เราอาศัยการอนุโลมไปกับเขาเหมือนกับพ่อแม่เล่นหม้อข้าวหม้อแกงกับลูก เหมือนกับแม่ครัวปรุงอาหารให้เขากินเขาติดเขาชอบอย่างนี้ เราก็จำได้เราก็ทำให้เขาเต็มที่เลย บางทีแม่ครัวไม่ได้ชอบเลยที่เขากินกัน กินไม่ได้ด้วยซ้ำไป แต่เขาชอบกินเราก็ปรุงให้อย่างนี้แหละ
นี่คือลักษณะต่างๆ นี่อาตมาเอาผ้าคลุมศีรษะ เพื่อให้ป้องกันอากาศเย็นไม่ให้เป็นหวัดเพราะว่าเมื่อเป็นหวัดแล้วชีวิตอาตมาจะอ่อนแอลงไปบ้าง อย่าหาว่าเล่นนะ
พ่อครูว่า..คุณสนใจดีแล้ว ให้ศึกษาต่อไป ในมิติซ้อนพวกเราก็มี แล้วยิ่งเข้าใจแล้วสามารถอนุโลมได้มันก็ต้องมี ผู้ที่ยังอนุโลมไม่ได้แต่มันมีของจริงว่าคุณจะต้องเป็นอย่างนั้นซ่อนอยู่ ด้วยที่ไปแก้ไขไม่ได้ในตัวเองก็มีในชาวอโศก แต่มันไม่หยาบมันเป็นไปตามสภาพของโลกโลกียที่องค์รวมแล้ว อาตมาถึงบอกว่าในชุมชนชาวอโศกเป็นชุมชนของภูมิอนาคามี ไม่เป็นคนโลกๆในระดับ กามแล้ว ที่หยาบๆจะไปสนุกสนานคลุกคลีเป็นรสชาติ เกี่ยวข้องในกามภพ คุณไปด้านกามเขาในโลก แต่เราก็เฉยๆ ศึกษาศาสตร์จากความจริงจะรู้ว่าภูมิของอนาคามีมันเป็นอย่างนี้ เป็นความรู้องค์รวมที่ละเอียดดีมากเลย เข้ามาอยู่ในนี้แล้วจะสัมผัสทุกระดับอยู่ในนี้ซ่อนอยู่ในบวร มันพูดไม่ได้ด้วยภาษา อธิบายด้วยภาษาอย่างไรก็ไม่ได้ไม่เหมือน ยิ่งอาตมาอธิบายยังไม่ค่อยเก่งก็อธิบายไม่ออก ใครมาสัมผัสเองแล้วจะได้รู้ได้ด้วยตัวเอง เป็นปัจจัตตังเวทิตัพโพวิญญูหิ เชิญเข้ามาบ้าง ทนไม่ไหวก็ออกไป กลับไปบ้านก่อนได้เวลาก็เข้ามาใหม่ อะไรอย่างนี้ก็ได้
นิมนต์พ่อครูจิบน้ำ
สมณะฟ้าไท…ในเรื่องศาสนาเราก็ค่อยๆปฏิรูปไป
ตายแล้วไปนรกก็คู่กันกับไปสวรรค์ไปตามวิบาก
พ่อครูว่า…แถมให้อีกนิด เรารบมา เราใช้วรยุทธ ของจอมยุทธ ด้วยเคล็ดวิชานี้แหละยอมแพ้โดยไม่ผิด ยอมแพ้แต่ไม่ผิด
ขณะนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ใช้วรยุทธอันนี้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นพวกนักรบในโลกสมรภูมิยุทธการทั้งหลายแหล่กำลังรบกันอยู่ในสงคราม
สู่แดนธรรม…ยุทธวิธีนี้ตรงข้ามกับผู้ชนะโดยไม่ยอมแพ้
พ่อครูว่า..ผมสะกดคำว่า “แพ้ไม่เป็น”นั่นแหละคือปู่ทวดเขา คือพ่อเขาคือผู้ยอมแพ้ไม่เป็น ก็นั่นแหละดูเป็นธรรมาธรรมะสงครามที่น่าดู อาตมาก็เคยบอก โดยอจินไตยอย่างหนึ่ง
นักรบคนนี้จอมยุทธคนนี้ชื่อประยุทธ์ อาตมามีคนชื่อประยุทธ์อยู่ 2 คนในชาตินี้ ที่อาตมาจะต้องดูท่าที เอาละพอไม่ขยายความไปกว่านี้
ส่วนตายแล้วไปไหน? คนที่ร่างกายตายแต่จิตวิญญาณยังมีกิเลสก็ดี หรือแม้แต่หมดกิเลสแล้วก็ตาม ตายแล้วก็ไปตามภูมิของตนเอง ภูมิของผู้ที่เป็นปุถุชนอวิชชาได้แล้วพวกนี้ก็ยังจะมีนรกเป็นที่ไป ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้เขาก็ต้องไปนรกไปสู่ภูมิภพ ซึ่งภูมิภพนรกในที่ๆยังไม่ได้มีร่างกายอาศัยเป็นที่เกิด เรียกว่าสัมภเวสี
สัมภเวสีคือผู้ที่เขาไม่รู้ตัวหรอก แล้วเขาก็พยายามให้ไปเกิดตามที่เขาอยากจะได้แต่ไม่ได้ตามประสงค์หรอก เพราะเขายังไม่มี วสวัตตี เพราะยังจิตให้เป็นไปในอำนาจไม่ได้ เขาก็จะต้องถูกพลังงานแห่งอวิชชา พลังงานของความโง่พลังงานของอกุศลเป็นเจ้านาย พลังงานของมันของผีเป็นเจ้านายก็พาไปสู่ภูมิภพ ที่เป็นภูมิภพของผี ภูมิภพของเปรต เขาก็ยกตัวอย่างเป็นรูปธรรมไปตกลงในกระทะทองแดงเดือดพล่านเขาก็มีความสุขกับการตกกระทะทองแดง เพราะเขาไม่รู้ว่าความสุขความทุกข์เป็นมายา เขาเป็นพวกวิปลาสเห็นความทุกข์เป็นความสุข แล้วเขาก็ไปได้ความสุขทั้งๆที่เขาตกอยู่ในกระทะทองแดงแล้วมันทุกข์นะ ใช่ไหม อย่างนี้เป็นต้น เขาก็เป็นอยู่อย่างนั้นทรมานทรกรรมอยู่อย่างนั้น
เพราะฉะนั้นในความไม่รู้ความวิปลาสต่างๆพวกนี้ เราจะต้องเข้าใจ เราจะต้องศึกษาไปเรื่อยๆๆ
ตอบประเด็น ตายแล้วก็ไปตามวิบากที่เป็นภูมิของแต่ละคน คนที่เป็นนรกอย่างที่อาตมาพูดไปแล้ว 2 คนที่นึกว่าไปสวรรค์ แน่นอนทุกคนตายแล้วเขาก็เข้าใจว่าสวรรค์นรกมีทั้งคู่ แต่เขาดับสวรรค์ดับนรกไม่เป็น เขาก็ต้องติดอยู่ในนั้นไม่นรกก็สวรรค์ แต่เขาต้องอยากได้สวรรค์
ความอยากได้มันเป็นไปตามอยากไม่ได้หรอก แต่มันจะเป็นไปตามวิบากกรรมของตัวเองที่สะสมคุณก็ต้องไปตกนรก คุณอยากได้แล้วคุณก็หลงว่าคุณตกนรก แต่คุณนึกว่าเป็นสวรรค์ด้วยนะ คนอย่างนี้นานนะ เขาตกนรก แต่เขาหลงว่าเป็นสวรรค์นี่นานนะ มันหลง คุณก็อยู่อย่างนั้น
คนที่อยู่ในสภาวะนรก คุณไม่รู้ว่าคุณเองยิ่งแย่ตรงที่ว่า ที่อยู่ในนรก ตกนรกอยู่นั้น แต่คุณหลงว่าเป็นสวรรค์ มันเป็นความหลงผิดใช่ไหม ความหลงผิด นึกว่าผิดหรือถูกนึกว่าถูกคือผิด นึกว่านรกคือสวรรค์ นึกว่าสวรรค์คือนรก คุณก็นึกว่านรกเป็นสวรรค์ คุณก็สั่งสมใส่จิตเข้าไปว่าสบายเป็นสวรรค์สวรรค์สวรรค์แต่คุณได้นรกนรกนรกนรก เข้าใจไหม ศึกษาให้ดีแล้วจะค่อยๆเข้าใจไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีสภาวะในตนจริงแล้วคุณก็จะรู้
เช่นผู้ที่ศึกษาอย่างพวกเราชาวอโศก แต่ก่อนเราไม่รู้
อย่างอาตมาชาตินี้ อาตมาไม่รู้แต่ก่อนชอบแทงบิลเลียด ก็แทงไปบิลเลียดแต่แทงอย่างไรก็ไม่เก่งเพราะมันชั่วไม่เก่ง แทงอย่างไรมันก็ไม่เก่ง สู้เขาไม่ได้เพราะเขาชั่วกว่าเรา เก่งทางอบายมุข ขออภัยพวกที่เป็นแชมเปี้ยนสนุกเกอร์บิลเลียดทั้งหลายจะว่ามาด่าเอา แต่มันจริงนะ อาตมาก็กินไปแทงไปจนไม่นอน พอถึงตาเราก็แทง ไม่ถึงตาเราก็กิน ถึงตาเราก็แทง แทงจนยกแขนไม่ขึ้นแต่มันก็ต้องแทง นึกถึงตัวเองตอนนั้นมันทรมานทรกรรมมาก ไม่รู้ว่าเป็นทุกข์นะ เห็นไหมว่ามันโง่ มันบอกว่าเป็นความสุขนะเป็นสวรรค์ มันโง่ ไม่จัดจ้านเท่าไหร่หรอก ไปติดการแทงบิลเลียด
แต่ว่าคนเขาจัดจ้านกว่านั้น เช่น คนเขาบอกว่าเดินลุยไฟ ที่เทศกาลกินเจที่ภูเก็ตตอนนี้ เขาทายากันเหมือนกันนะ แต่มันก็พลาดบ้างผิดบ้าง ยากันไม่ได้ก็พองเจ็บ แต่เขาก็บอกว่าเขาเก่ง ซ้อนไปกว่านั้น เก่งที่ว่ามีพลังงานพิเศษมีองค์ทรงอีก ซับซ้อนไปในนั้น แล้วเขาก็ทำกัน จริงๆแล้วเป็นจิตอุปาทาน
อาตมาเคยศึกษาเรื่องการสะกด สะกดจิตใจก็แล้วแต่ แล้วก็ปลุกขึ้นมา สั่งเขา เช่นบอกว่านี่คุณจะไม่เจ็บนะ ตื่นขึ้นมาแล้วเราก็เอาอะไรไปแทงที่ผิวหนังเขาก็ไม่เจ็บ เอามีดไปเชือดผิวหนังเขาก็ไม่เจ็บ แต่มันมีเลือดออกเหมือนกันนะ สะกดจิตแม้กระทั่งบอกว่าตานี้ไม่เห็นนะบอกว่าบนนี้บนโต๊ะนี้ไม่มีกล้วยอยู่นะ สะกดจิตเข้าแล้วเมื่อเช้าตื่นลืมตาก็จะไม่เห็นกล้วย ไม่เห็นอะไรบนโต๊ะนี้ที่เราบอกไม่เห็นก็ไม่เห็น แล้วก็บอกว่า คุณลองหยิบมาสิอยู่ในนี้มันมีบนโต๊ะนี้มี เราเคยลองกันเอาถ้วยแก้ววาง เขาไม่เห็นเขาก็เอามือไปคว้าโดนแก้วตกแตก เขาก็ตื่นขึ้น เขาไม่เห็น เขาก็เอามือควานไปปัดแก้วตกแตก นี่เราเคยเล่นมาไม่ใช่เล่นหรอกทดสอบพิสูจน์กันมาอาจจะมาเล่นทางวิทยาศาสตร์สะกดจิตทางวิทยาศาสตร์ ทางไสยศาสตร์ ต่างๆนานาสารพัด หนังเหนียวก็เคยทำ รักษาไข้ใบ้หวยก็ทำ อาตมาเล่นไสยศาสตร์อยู่ถึง 8 ปีตอนเป็นฆราวาส ตอนเป็นสมณะแล้วไม่ได้ทำมันเป็นเรื่องผิดธรรมวินัยแต่เมื่อเป็นฆราวาสได้ทำการทดสอบมาแล้ว เพราะฉะนั้นใครมาหลอกอาตมาไม่ได้ ทางวิทยาศาสตร์อาตมาผ่านการทดสอบมาตอนเป็นนายรัก รักพงษ์
แม้ที่สุดทางเทวนิยมไปนั่งสะกดจิตอาตมาก็ผ่านมาแล้ว อาตมาถึงบอกว่าไม่ได้สงสัยที่เขาเป็นกัน ก็ได้แต่สงสาร แต่เขาไม่เชื่อแต่มันก็บังคับกันไม่ได้ เห็นใจเขาเหมือนกัน เราก็ต้องถือว่าเราเองยังไม่เก่งที่เราไม่สามารถยืนยันอธิบายอ้างอิงหลักฐานทำความเข้าใจให้เขาเข้าใจได้ มันไม่เก่งที่เราไปโทษเขาไม่ได้หรอกที่เขาโง่ อาตมาไม่โทษคิมจองอึนหรือนายโดนัลด์ทรัมป์ โทษอาตมาเองไม่เก่งที่จะทำให้คิมจองอึนหรือว่าโดนัลด์ทรัมป์เก่งขึ้นมาไม่ได้ ไม่ต้องใครหรอกทำให้ทักษิณ ชินวัตรฉลาดขึ้นมาได้ อาตมามันไม่เก่ง ที่จะช่วยเขาได้ก็ฝากไว้ก่อนเถอะโอฬาร ไม่รู้จะทำยังไง
สรุปว่าตายไปแล้วไปตามวิบาก
คุณมาบรรลุอรหันต์ให้ได้แล้วมาบำเพ็ญเป็นโพธิสัตว์ คุณจะได้เป็นหมดอย่างที่คุณอยากจะเป็นถ้าคุณมุ่งมั่น ฟังให้ดีๆนะ คุณมาเป็นอรหันต์ให้ได้แล้วจะเป็นฐานจิตของคุณ ฐานจิตของคุณ คุณจะได้ไม่เสียเวลาไม่ไปเที่ยวไปถูกหลอกทางโลกมาก คุณจะฉลาดกว่านั้นคุณจะไปเป็นเศรษฐีร่ำรวยจะไปเป็นคนมีอำนาจบาตรใหญ่เป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่อะไร คุณเป็นได้ง่าย แล้วคุณจะรู้ว่า โอ้โห..เป็นไปทำไม คุณจะรู้เอง อยากจะให้รู้เหมือนกับอาตมารู้จัง คุณจะไม่ริษยาไม่ไปแย่งชิง คุณอยากจะเป็นคุณ ก็พากเพียรไปสิ ไม่รู้กี่ชาติคุณก็พากเพียรไปตามบารมีคุณก็เป็นไปได้ แล้วคุณจะรู้ว่าเป็นไปแล้วก็ไม่เห็นมีอะไร มาเป็นอย่างนี้ดีกว่า บังคับให้ใครเชื่อไม่ได้หรอก อาตมาไม่มีอะไรเลยในตัวเองมีแต่ความจริง เทความจริงให้หมดกระบอกแล้ว อาตมาไม่มีอะไรเหลือ นี่แหละความจริงที่เทออกมาให้คุณได้เท่านั้นนอกนั้นก็ไม่มีนะ
_แก้วตะวัน พวงบุบผา : น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพยิ่งค่ะ…สถานการณ์ปัจจุบันทำให้ลูกได้พิจารณาเวทนาที่เกิดในจิตอย่างใกล้ชิด…บางครั้งคลื่นความไม่พอใจก็เกิดขึ้นในจิต เวลามีคนด่าบุคคลที่เราเคารพเทิดทูน รู้อาการแต่กำราบไม่ได้ในทันที แต่พอพิจารณาดี ๆ ก็วางใจได้ อย่างนี้เรียกว่าสอบตกหรือเปล่าคะ
ในช่วงเหตุการณ์บ้านเมืองที่เขาทำไม่ตรงใจก็เข็มกระดิกเหมือนกันค่ะ…บางครั้งต้องไปตั้งหลักเพื่อทบทวนกันใหม่…กราบขอบพระคุณที่ท่านสมณะ ท่านสิกขมาตุทุกท่าน ให้แนวทางที่ถูกตรงค่ะ
พ่อครูว่า…สอบเก็บได้ ตกแล้วก็เก็บขึ้นมาได้
_พรสิทธิ์ เจียรวรรณศิลป์ : กราบนมัสการพ่อครูครับ รบกวนเขียนยาวหน่อยนะครับ
คำถามต่อไปนี้ อาจจะฟังดูเหมือนสมมุติมากไปหน่อย แต่อยากให้พ่อครูช่วยตอบในลักษณะใดลักษณะหนึ่งก็ได้ครับ เพื่อคลายความสงสัยให้ด้วย ผมอยากจะถามหลายครั้งแล้ว แต่เห็นว่ายังไม่จำเป็น ผมหวังว่าพ่อครูจะช่วยตอบให้ด้วยนะครับ คำถามคือ
ถ้าคนสองคนซึ่งอยู่ในยุคที่ได้ฟังธรรมโลกุตระเหมือนกัน เช่น เกิดในสมัยพระพุทธเจ้า หรือในยุคนี้ ที่ได้ฟังธรรมจากพ่อครู เป็นต้น ซึ่งในการฟังธรรมก็มีการเทศน์ถึงสภาวะของพระอาริยะ 4 ระดับมาเป็นระยะ ๆ (แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า แต่ละคนอาจจะฟังธรรมคนละครั้งกัน หรือบ่อยครั้งต่างกัน แต่ในคำถามนี้อยากจะถามเพื่อเป็นกรณีศึกษา โดยถือว่าโดยรวมแล้ว ทั้งสองคนได้ฟังธรรมมาพอๆ กัน)
(พ่อครูไอช่วยตัดออกด้วย)
เมื่อฟังธรรมแล้ว ทั้งสองคนก็ต่างคนต่างปฏิบัติกันไป แต่ต่อมา ทั้งสองคน ต่างก็รู้ตัวว่า ตัวเองเป็นพระอรหันต์ในท้ายที่สุด โดยคนแรก ก่อนหน้านั้น มีสภาวะของการบรรลุธรรมอย่างชัดเจนว่า ตัวเองเป็นโสดาบันบุคคลหรือสกทาคามีบุคคลมาก่อน (ที่บอกว่า มีสภาวะของการบรรลุธรรมขั้นต้นนั้น หมายความว่า ณ เวลานั้น ที่ขณะฟังธรรม หรือหลังจากฟังธรรมแล้วได้ทบทวนแล้ว เขาก็รู้ ณ เวลานั้น พร้อมกับมีอาการทางใจที่รู้ได้ว่า ตัวเองเป็นเช่นนั้น ไม่ใช่ในลักษณะที่นำคำสอนมาเปรียบเทียบ แล้วก็รู้สึกหรือเข้าใจได้ว่า ตัวเองก็น่าจะได้แล้ว)
กับคนที่สอง ไม่มีสภาวะผ่านการบรรลุธรรมขั้นต้นมาก่อนเหมือนคนแรก ในระหว่างทาง อาจจะพอเข้าใจได้บ้างว่า ตัวเองลดกิเลสได้แล้ว น่าจะเป็นโสดาฯ หรือสกทาคามีฯ แล้ว แต่ไม่มีสภาวะของการบรรลุธรรมในระดับนั้น ๆ แต่รู้ตัวอีกที ก็เป็นพระอรหันต์ในทีเดียวเลย
ถ้าตามในบริบทที่กล่าวมานี้ พอจะบอกได้หรือไม่ครับว่า สองคนนี้ต่างกันอย่างไร เช่น คนใดเคยเกิดเป็นพระอรหันต์มาแล้ว หลายชาติมากกว่ากัน
พ่อครูว่า…คุณก็สมมุติตามที่คุณสมมุติมานั้นแล้ว อาตมาตอบไม่ได้หรอกว่าคนทั้งสองคนที่คุณหยิบมาเป็นตุ๊กตาให้อาตมาตอบ อาตมาตอบไม่ได้หรอกเพราะข้อมูลไม่พอ ถ้าตอบอย่างกำปั้นทุบดิน ถ้าคนที่ถามมาเขาเป็นได้อย่างนั้นแล้วเขาก็เป็นอย่างนั้นได้ คนที่เขาหลงผิดเขาก็หลงผิดจบนะ
_สู่แดนธรรม…พ่อท่านเคยตอบว่า คนที่ไม่ต้องผ่านพระอริยะขั้นต้นแล้วก็เป็นพระอรหันต์เลย คือคนที่มีของเก่ามาก่อนแล้วผ่านมาก่อนแล้วไม่ต้องมาเป็นตามลำดับในชาตินี้ ถ้าคุณได้แล้วคุณก็ไม่ต้องลำดับคุณก็ pass ชั้นได้เลยก็เป็นธรรมดา มันมีของจริงแล้ว อย่างเช่นอาตมา ชาตินี้อาตมาไม่มาไล่หรอกพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ อาตมาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 แล้ว มาอธิบายให้พวกคุณไปตามลำดับ จะได้ไม่สับสน
_บุญญากร พัฒนสัตถาพร : ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปิยะมหาราช เป็นห้วงเวลาที่พระองค์ทรงปฏิรูปประเทศไทยอย่างจริงจัง ครบถ้วนทุกด้าน เช่น
-
ด้านเศรษฐกิจ ทรงดำเนินการวางโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ แบบไม่เคยมีมาก่อน ทรงวางรากฐานการคมนาคม จนมาถึงที่เห็นในทุกวันนี้ มองดูโครงสร้างเหล่านั้น ล้วนแต่เกิดขึ้นในรัชสมัยของพระองค์ทั้งสิ้น
-
ด้านสังคม ทรงออกกฏหมายใหม่, กำหนดเขตแดนประเทศ, ปฏิรูปการปกครอง, จัดระบบภาษีแบบสากล, ทรงให้มีการเลิกทาส โดยให้ทาสเข้าเรียนหนังสือก่อน, พระราชทานที่ดินย่านรังสิตให้ แล้วตัดคลองส่งน้ำให้อีกด้วย ฯลฯ
-
ด้านการศึกษา ทรงพระราชทานทุนการศึกษาแก่นักเรียนทั้งเชื้อพระวงศ์ และสามัญชนไปศึกษาต่อในต่างประเทศ ซึ่งเป็นห้วงเวลาเดียวกับที่ญี่ปุ่นส่งนักเรียนของตนไปเรียนเช่นกัน แต่นักเรียนไทยเหล่านี้ บางคนกลับมาทำปฏิวัติ ในขณะที่นักเรียนของญี่ปุ่นกลับไปสร้างชาติ ทำงานให้รัฐบาล ส่วนนักเรียนไทยคนอื่น ๆ ก็ถูกรัฐบาลคณะราษฎร ฆ่า หรือขังลืม หลายสิบคนส่งไปอยู่คุกเปิดที่เกาะตารุเตา ดังจะเห็นได้จากดิกชันนารีไทย-อังกฤษเล่มแรกของไทยก็เกิดขึ้นในคุก ทรงให้มีการสร้างโรงเรียน และมหาวิทยาลัยขึ้นหลายแห่ง โดยทุนส่วนพระองค์ ฯลฯ (ในขณะที่คณะราษฎรแย่งอำนาจทำการรัฐประหารกันเองถึง 14 ครั้ง ใน 25 ปี บ้านเมืองจึงล้าหลังลงไปเรื่อย ๆ)
-
ด้านการปกครอง ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะนำระบอบประชาธิปไตยมาใช้ มีพระราชดำรัสต่อประชาชนว่า จะให้รัชกาลที่ 6 พระราชทานรัฐธรรมนูญให้ประชาชน แต่เกิดสงครามโลกครั้งท่ี 1 ขึ้นก่อน หลังสงคราม ไทยเป็นฝ่ายชนะ สามารถทำการยกเลิกสัญญาที่ “ไม่เป็นธรรม” กับประเทศตะวันตกเกือบ 10 ประเทศ