631019_รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 13
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวน์โหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1pHNA5c1eqVAPN3nHxezVkulF9Uuz2lJY-06Y-vurnqk/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/16-nZ7uTSHrL50TG5JVL-g47lr2e4oYHL/view?usp=sharing
ยูทูปที่ https://youtu.be/8uAuBYoJ7oY
_สู่แดนธรรม…วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม 2563 ที่บวรราชธานีอโศก วันนี้เป็นวันที่ 3 ของเทศกาลกินเจ
พ่อครูว่า…
ของฝากจากชายแดน
เมื่อฝนหลั่งสั่งฟ้า สิ้นวสันต์
บ่งบอกฤดูเหมันต์ เริ่มแล้ว
พระพายพัดเปลี่ยนผัน หนาวเหน็บแล้วเฮย
ความเปลี่ยนแปลงห่อนแคล้ว หลบลี้ หนีไฉน
เสียงกลองเพลลั่นก้อง จากวัด
นับจากนิตยภัต รัฐให้
กิเลสไม่จำกัด เรื่องพระเณร เฮย
อาบัติตลอดกาลไซร้ พุทธเพี้ยนจากพุทธ
มีหมู่มากลากเข้า มิจฉา
ผูกขาดพระศาสนา พุทธไว้
เป็นพุทธศักดินา เป็นโลก-ธรรม แฮ
สูเงี่ยโสตสดับไซร้ แก่นแท้ พุทธฤา
จำเนียรกาลอดีตโพ้น พุทธสมัย
พุทธเคร่งพระวินัย แน่แท้
เงินอสรพิษควรไกล ให้ห่าง พระแฮ
นักบวชประมาทแล้ ลบทิ้ง ศรัทธา
อาวาสถานอยู่ใกล้ เขตแดน
ไกลสุดไกลเหลือแสน โลกนี้
มิใช่วิมานแมน เนรมิต เพื่อนเฮย
ห่างจากพ่อหลายลี้ ชิดด้าวชายแดน
อ.เป็นต้น นาประโคน. ผู้ประพันธ์
อ.ดั่งบุญ ธิดาพญาแร้ง ผู้บันทึก
๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๓
_คุณหนึ่งพุทธ วิมุตตินันท์ ..สันติอโศก…ท่ามกลางกระแสโซเชียล ที่จะล้มล้างรัฐธรรมนูญ ปฏิรูปสถาบัน มีพวกแดงๆส้มๆ ก็ชาวกองทัพธรรมจะเอามือซุกหีบหรือจะช่วยอะไรได้บ้างครับ พวกเด็กรุุ่นใหม่ที่มิจฉาทิฎฐิครับ
พ่อครูว่า…อันนี้อาตมาก็ได้ข่าวคราว ว่า พวกเราชาวอโศกจะมีความเห็นแตก ไม่เป็นเอกภาพทีเดียว มันก็เป็นธรรมดาธรรมชาติ ความเห็นแตกต่างเป็นธรรมดาธรรมชาติ
ก็ขออธิบายเสริมเข้าไปหาสัจธรรมที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้
สิ่งที่มีหนึ่งเดียว เป็นอย่างเดียวเป็นสัจจะที่มีหนึ่งเดียวไม่มีสองเลย มีอย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีอื่นเลย ไปอ่านดีๆในจูฬวิยูนหสูตร
มีหนึ่งเดียวคือ อริยสัจ 4 คือความพ้นทุกข์
ผู้ที่ปฏิบัติธรรมจนกระทั่งรู้ทุกความทุกข์รู้เหตุแห่งทุกข์ ได้ ดับทุกข์ได้สนิท มีวิธีการทำให้ดับได้บริบูรณ์บรรลุอริยสัจ 4 ได้
ทุกคนที่บรรลุอริยสัจ 4 นั่นแหละคือมีอาริยะสัจจะหนึ่งเดียวทุกคนตรงกันหมด เริ่มต้น ตั้งแต่พระอรหันต์ขั้นที่ 1 สามารถบรรลุเป็นอรหัตตผล สามารถบรรลุสัจธรรมสุดยอดไปนิพพานแล้ว ไปจนกระทั่งถึงเป็นพระพุทธเจ้า เหมือนกันหมดเลย หนึ่งเดียวจริงๆไม่มีอื่นเลย
นั่นแหละเป็นสัจจะหนึ่งเดียวในโลก อันอื่นๆนับเป็นหนึ่งไม่ได้เลย เป็น 2 ทั้งสิ้น เริ่มตั้งแต่ เรา ตัวเรา มีกายกับจิต ก็ 2 แล้ว ตัวเราคนเดียวยังมี 2 แล้ว
เพราะฉะนั้นท่านบอกว่าเป็นกายกับจิต กายกับจิต ก็เป็นสภาวะสิริมหามายา กายกับจิตคือ 1 แต่เป็น 2 นี่แหละ สิริมหามายาเล่นกล 2 แต่เป็น 1 และ 1 แต่เป็น 2 จะพลิกมุมใดก็ได้ สิริมหามายาจึงเป็นเรื่องยาก
สิริมหามายาเป็นผู้ให้ความเกิดเป็นแม่ เพราะฉะนั้นผู้ที่ยังให้ความเกิดอยู่ แต่ก็เป็นผู้ที่รู้จักตาย ผู้ที่ให้ความเกิดแล้วตายได้อยู่ในตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องของความเกิดและตายเป็นเรื่องสิริมหามายาเหมือนมายา แต่เป็นสัจธรรมคือสิริมหามายา
ขึ้นต้นก็ชักจะมึนๆ ของยากๆ ฟังไว้ อาตมาจำเป็นต้องพูดสัจธรรมพวกนี้ให้ได้รับรู้ความจริงกัน
ถ้าอาตมาไม่เอามาขยายความ ก็ไม่รู้กัน
สู่แดนธรรม…ประเด็นการเมืองเราจะเฉยๆ หรือดูไปเรื่อยๆ ในชาวอโศกเรา
พ่อครูว่า…ก็เลยแวะไปว่าชาวอโศกก็ยังมีความเห็นต่าง ก็ไม่เป็นไรก็ไม่ได้บังคับกัน ความเห็นของอาตมาก็คือ ดูไปเรื่อยๆ ดูไปเฉยๆ ดูไปก่อน ยังไม่มีเหตุการณ์ที่ต้องขยับอะไร เพราะว่า เท่าที่ดูแล้วนี่นะ อาตมาก็เห็นว่า รัฐบาลเอาอยู่ โดยที่เรียกว่ามีมาตรการต่างๆ เขาก็จัดการไปได้เรื่อยๆ มันจะยังดิ้นไม่สนิทอยู่ ก็จนกว่าจะหมดความดิ้นหมดแรง ก็จะค่อยๆสงบ
ถึงแม้ไม่สงบ ก็เป็นสีสันนะอาตมาว่าเป็นสีสัน ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์มา มีชุมนุม ม็อบ Flash Mob หรือม็อบปลดแอก คณะราษฎร 2563 ตั้งแต่เกิดมาจนถึงวันนี้ ก็ดูว่าไม่มีอะไรรุนแรง ไม่มีใครบาดเจ็บล้มตายกันเลย ไม่มี ทั้งในทุกฝ่าย ทั้งสองฝ่าย นอกจากเรื่องอุบัติเหตุก็แล้วไป แต่เรื่องที่จะไปทำร้ายแต่ละฝ่ายนั้นไม่มี
อันนี้เป็นเรื่องที่ยืนยันความสงบเรียบร้อยแน่นอนเป็นเรื่องธรรมดาธรรมชาติที่จะต้องมีความเห็นขัดแย้งกัน มันจะไม่เหมือนกันเป็นอันเดียวกัน มันจะเป็นอันเดียวกันทั้งหมดไม่ได้บังคับกันไม่ได้ แล้วมันต้องเป็น เป็นแต่เพียงว่า ที่จบ พฤติกรรมจบ คืออย่างไร
พฤติกรรมจบก็คือ ไม่มีความเสียหายถึงขั้นเจ็บตาย นี่ล่ะ เป็นความเรียบร้อยสงบ พูดไปแล้วก็นึกถึงตัวเองที่ได้ไปทำงาน เกิดมาชาตินี้ก็ได้มาทำงานทางด้านการเมือง อาตมาทำงานด้านศาสนาตรงๆ แต่ก็ออกไปทำงานที่เขาเรียกแยกไปว่าการเมือง ไปต่อต้านรัฐบาลล้มล้างรัฐบาลจะใช้คำว่ารัฐประหารเลยก็ได้ ออกไปร่วมโดยวิธีการที่เราจะใช้ความสงบเป็น บุญญาวุธ เป็นธรรมาวุธ แท้ๆ แล้วเราก็ใช้ความสงบ บุญญาวุธ หรือธรรมาวุธแท้ๆ จนสำเร็จผล สามารถทำรัฐประหาร ทำให้รัฐบาลล้มเลิกไปหยุดไป แล้วก็ดิ้นใหม่
ที่จริง ทักษิณ ไม่ใช่เราไปประท้วงทีเดียว พลเอกสนธิเป็นผู้ทำรัฐประหารยึดอำนาจ ทักษิณก็ได้ออกไป ทักษิณก็ดิ้น เอาสมัครมาเป็นนอมินีมาแทน เขาใช้วิธีการของเขาทำการเลือกตั้งนั่นแหละเอาเสาไฟฟ้ามาลงเลือกตั้งก็ได้ ขนาดน้องสาวขุดมาจากไหนไม่รู้ 49 วันปุ๊บปั๊บก็ได้เป็นนายกฯหญิงคนแรกของประเทศไทยจริงๆ ทักษิณนี่เก่ง แต่ขนาดนั้น พวกเราชาวประชาชนก็ออกไปร่วมประท้วง ไปทำการประหาร ทำการล้มล้างรัฐบาลที่เขาล้มเหลวแล้ว เอาสมัครขึ้นมาเราก็ล้มได้ เอาสมชายขึ้นมาเราก็ล้มได้ เอายิ่งลักษณ์ขึ้นมาเราก็ล้มได้ ล้มได้ด้วยการสู้อย่างที่ไม่เสียเลือดเนื้อ ที่เสียเลือดเนื้อล้มตายไปนั้น ไม่ใช่ฝีมือฝ่ายพวกเราไปทำ แต่เป็นฝีมือฝ่ายทักษิณมาทำให้พวกเราเสียชีวิตลงบ้างแต่ไม่มาก เพราะเขาทำ แต่ทางเราไม่มี มีแต่ความสงบเรียบร้อยเอาความจริงมาสู้ เอาความสงบเรียบร้อยสุภาพเอาความจริง ถ้าจะแรงก็คือเอาความจริงไปซัดใส่หน้าตอกหน้าแงปังๆๆ ก็เสียงดังปังๆ ของการกระทบความผิดที่เราตอกหน้าความผิด จนกระทั่ง สู้ไม่ได้ จำนน
แต่ก็ยังไม่จำนนทุกวันนี้ก็ยังทำดิ้นอยู่ คือ เขายังไม่ยอมจำนน ถ้าเขาจำนน ถ้าทักษิณรู้แพ้รู้ชนะจบ เขาก็จะอยู่อย่างนั้นของเขาไป คนไทยไม่ได้ใจดำเกินการ ก็ปล่อยเขาไป จนกระทั้งเขาจะแก่ตายจะเจ็บป่วยตายก็แล้วแต่วิบากเขา มันก็เป็นไปได้แต่เขาไม่ยอมหยุด ทั้งๆที่อาตมาเห็นแล้วว่าน่าจะหยุด ทักษิณน่าจะหยุด เพราะอะไร
ถ้าเขาหยุดแล้วลูกเต้าที่อยู่ในประเทศไทยจะได้สบาย เขาคิดตรงนี้ไม่ออก นี่คือความอวิชชาแปลว่าความโง่ของทักษิณ เขาคิดไม่ออก ถ้าเขาหยุดแล้วลูกเต้าจะสบายไม่มีผลกระทบ แล้วยังมีหลานอีกด้วย แต่นี่เขาทำ
เพราะฉะนั้นอันนี้คือ ตาทักษิณทำร้ายหลาน พูดอย่างนั้นได้เลย นี่เขาทำ เป็นการทำร้ายเป็นผลกระทบไปถึงหลานไปถึงลูกเขาด้วย แต่คนไทยใจดีก็ไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ พอเป็นไป
สู้คุณหญิงพจมานไม่ได้ ทักษิณ คุณหญิงพจมานรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหางหรือวิธีการ ก็พฤติการณ์ของคุณหญิงพจมานก็ดูไปก็แล้วกันแต่เริ่มแล้ว เพื่อที่จะประนีประนอม เพื่อที่จะลด low profile ลง นี่คือมหากาพย์การเมืองไทย
สรุปแล้ว พวกเราก็ wait and see
_อุบาสิกา กรุณา อโศกตระกูล…วันนี้ขอเปิดใจแสดงความเห็นว่าตัวเองได้เข้ามาอยู่กับชาวอโศก 45 ปีแล้ว (พ่อครูว่า…สงสัยจะยาว) ก็อยากจะแสดงความเห็นว่า สิ่งที่ตนเองได้ ว่า เราชัดเจนเรา ว่า เวลาเราทุกข์ เราทุกข์อย่างไร แบบที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าใบไม้กำมือเดียว ดิฉันพยายามทำความเข้าใจให้นะนี้ทำอันนี้เข้าใจชัดเจนเลย อ๋อ เราเข้าใจจริงๆเราได้จริงๆ แล้วที่พ่อท่านอธิบาย ดิฉันก็พยายามทำทุกวัน และเห็นความเจริญเปลี่ยนแปลงของชาวอโศก พวกเราแต่ละคน เห็นความเจริญพัฒนาของแต่ละพุทธสถาน บวร ชุมชนที่แต่ละคนเปิดใจ ดูแล้วเห็นว่าเขาอ่านใจอ่านอาการกิเลสได้ นั่นคือความเจริญของแต่ละคนๆ ดิฉันก็ปลื้มใจที่พ่อท่านทำไม่เสียที ขณะนี้ฉันเห็นความเจริญของชาวอโศก ไม่ว่าเด็กไม่ว่าผู้ใหญ่ หรือแม้แต่เด็กเล็กๆ ก็เห็นความพัฒนาความเจริญก้าวหน้า ของชาวอโศก วันนี้อยากมาขอแสดงความเห็น ธรรมะของโลกียะกับโลกุตระนั้นยิ่งกว่าฟ้ากับเหว มันห่างไกลกันมาก โควิดทำอะไรอโศกไม่ได้เพราะสัจจะธรรมะชาวอโศกไม่ธรรมดา
พ่อครูถามว่า… อายุเท่าไหร่แล้ว…91 ปีแล้ว ล่วงหน้าอาตมาไปก่อน ดูแล้วยังแข็งแรงดี
เอาชนะ
_สมณะลือคม…คิดคำถามอันหนึ่งว่ามีกรณีของในบทสวด แล้วมีคำถามว่า…สัจจกนิครนถ์ในยุค พระพุทธเจ้า ยอมสยบเพราะพระปัญญาธิคุณชี้ชัดจนยอมจำนน. สัจจกนิครนถ์ยุคปัจจุบันจะจำนนด้วยเหตุใด
พ่อครูว่า…พระพุทธเจ้าใช้ ปัญญา เราก็ใช้อันนี้แหละ จะไปใช้อันอื่นไม่ได้หรอก คือพวกที่ยอดรู้ยอดฉลาดเฉโก ไม่มีอะไรที่จะไปปราบยอดฉลาดได้ ต้องใช้ปัญญา อาตมาก็กำลังเขียนหนังสือ กำลังขยายความเรื่องปัญญา มันต่างจาก เฉโก กันคนละโลกเลย แต่คนทุกวันนี้เอาภาษาคำว่าปัญญาไปเรียกแทนความรู้ความฉลาดแบบโลกีย์ ที่เป็นความรู้ความฉลาดอย่างโลกีย์ ก็คือเฉโก แต่เขาเอาปัญญาไปเรียกแทนความรู้นี้ สนิทเลยจนคนทุกวันนี้ โดยเฉพาะคนไทยไม่เข้าใจแล้ว
อาตมาพูดเรื่องนี้มานานแล้ว เขาก็ยังงงว่าโพธิรักษ์พูดอะไร ปัญญา เฉโก ฉลาด คืออะไร เฉโกคือฉลาดอะไร
เฉโก เขาก็รู้ว่ามันแปลว่าโกง แล้วมันจะฉลาดจังเลย เขาจะงงๆ
ก็ขอขยายความเพิ่มสักนิด…คือพญัชนะ เฉโก คือ พหูพจน์ เฉกะ คือเอกพจน์ หมายถึงความเฉลียวฉลาดของคนปุถุชน ก็มีความรู้ความเฉลียวฉลาดที่ใช้ภาษาเรียกว่า เฉกะหรือเฉโก
แต่เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้ขึ้นมาจึงมีคำว่าปัญญาขึ้นมา คือ หมายถึงความรู้ความฉลาดที่เป็นโลกุตระ เป็นความรู้ความฉลาดอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ใช่ของโลกีย์ เป็นความรู้ที่คนละเรื่องตรงข้ามกัน 180 องศาเลยกับความรู้ทางโลก ทวนกระแสกันด้วย มันก็เลยเป็นเรื่องเข้าใจไม่ได้ง่ายๆ แต่ผู้ที่เริ่มเข้าใจเป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี เป็นลำดับๆก็จะเห็นได้ว่า มันยิ่งใหญ่
อาตมาเขียนหนังสืออีกเล่มหนึ่ง เป็นเรื่องของปัญญาโดยตรงเอามาจากของพระพุทธเจ้าตรัสไว้เป็นปัญญา 8 มีความหนาหลายร้อยหน้า
_สู่แดนธรรม…คนสมัยพระพุทธเจ้าก็มีสปิริตแพ้ก็เป็นแพ้ แต่ในยุคปัจจุบันแพ้ก็ยังไม่ยอมแพ้ยังดิ้นได้ ยังมีพวกมากอีกเยอะที่อวิชชาด้วยกัน เพราะฉะนั้นในโลกยุคนี้พ่อท่านจึงต้องทำงานหนักมาก
พ่อครูว่า…หนักแสนหนักเรียกว่ามะเร็งขึ้นคอเลยไม่ใช่แค่หืดขึ้นคอ
_ญาติธรรมศาลีอโศก…หมอแก้ว
สืบเนื่องจากเหตุการณ์บ้านเมือง เราก็เห็นว่า ทางเรามีแต่ผู้สูงอายุ ดูๆข่าวแล้วก็อัดอั้นใจ เราจะทำอย่างไรได้เพื่อแสดงออก เราก็เลยสรุปกันเมื่อเช้านี้ ปรึกษาหารือกันว่าเราจะรณรงค์ ใส่เสื้อเหลืองวันจันทร์ แล้วก็ใส่เสื้อเหลืองอีกวันนึงก็คือวันพระ ก็จะมีคนข้างนอกมาเราก็จะเชิญชวน เป็นไปได้ไปไหนมาไหนก็ให้ใส่เสื้อสีเหลือง มันก็เป็นทางออกทางอารมณ์ของเราที่อัดอั้นอยู่เหมือนกัน (พ่อครูว่า…ดีๆๆ)
มีคำถาม… 1. คือเราติดตามข่าวอยู่ แต่เราไม่ได้คำตอบสักที ว่า ท่านนายกประยุทธ์ท่านทำผิดอะไร ถึงได้มีการมาไล่ ถ้าหากไม่ผิด มาใช้แต่คำว่าเผด็จการ มันเป็นการอ้างกฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย ใช่ไหมครับ
คำถาม 2. ที่จะแก้รัฐธรรมนูญ ก็ฟังอยู่ที่ใช้รัฐธรรมนูญมา ประชาชนอย่างเราก็ไม่เดือดร้อนอะไร ที่มีความผาสุกสงบ แล้วกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จะมาสร้างความเดือดร้อน มันเหมือนกับว่า มันต้องการความเดือดร้อนเพื่อผลประโยชน์อะไรของเขานะครับ
พ่อครูว่า…ประเด็นที่ 1 ว่า ลุงตู่มีความผิดอะไรถึงจะมาไล่ เรื่องความผิดนั้นหาความผิดใส่ได้หมด ขนาดพระพุทธรูป พระปฏิมา พระพุทธรูปคนก็ยังหาความผิดได้เลย เขาเรียกว่าพระปฏิมายังราคินคนเดินดินไม่สิ้นคนนินทา คนถูกหาเรื่องได้ทั้งนั้น แม้แต่พระพุทธรูป
ท่านไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเป็นรูปปั้นธรรมดาคนยังมาตำหนิได้เลย ที่ตำหนิคืออะไร ก็พระพุทธรูปพูดไม่ได้ไง
สิกขมาตุกล้าข้ามฝัน…มีคนถามว่านายกฯตู่ผิดอะไร นักข่าวว่า…อยู่นานเกินไป
พ่อครูว่า…จะนานอะไร 6 ปียังไม่ถึงพลเอกเปรม 8 ปี ก็ 6 ปีเอง อาตมาว่า 6 ปีที่นายกฯตู่ทำงาน ผลงานมีหมด ทั้งใช้หนี้ ทั้งสร้างความเจริญหลายด้านหลายทาง ทั้งแสดงประสิทธิภาพ ประสิทธิภาพทางด้าน ทำให้สู้กับโควิดได้ เป็นที่ 1 ในโลก อันนี้เรียกว่า สุดยอด Great Hornor เลยนะ ในโลกเขาให้เป็นเกียรตินิยมอันดับ 1 ให้ประเทศไทย รักษาคุณภาพอันนี้เอาไว้ให้ดีๆก็แล้วกัน
สรุปแล้ว ในด้านใดๆก็แล้วแต่ มันมีประเด็นที่อาตมาอธิบายไม่เก่ง คือ ประเด็นของคำว่าเศรษฐกิจ เขาก็หาว่า นายกฯตู่ทำให้เศรษฐกิจเสียหาย ไม่เจริญ บกพร่อง อาตมาก็ว่า คนจะเข้าใจความหมายคำว่าเศรษฐกิจ เจริญ คืออะไร?
ยกตัวอย่าง ขณะนี้เอารูปธรรม ชาวอโศกเป็นกลุ่มคนจน เงินคงคลังก็น้อย เงินที่มารายได้บุคคลก็น้อยจนถึงขั้นทำงานเงินเดือน 0 บาทไม่รับรายได้เลย
สู่แดนธรรม…มองในสายตาของเขาก็จะบอกว่าเศรษฐกิจอย่างนี้ไม่ดีใช่ไหมครับ
พ่อครูว่า…คนส่วนใหญ่ในชุมชนชาวอโศกทำงานฟรีไม่รับรายไม่มีรายได้เลย ซึ่งเป็นเรื่องที่มันเป็น อจินไตย เป็นเรื่องสุดวิสัย เป็นเรื่องวิสัยที่ถ้าจะเรียกด้วยศัพท์วิชาการก็คือเรียกว่าเป็น ฌานวิสัย ของชาวอโศก
ฌาน นี่หมายความว่าพลังงานจิต ที่กำจัดกิเลส ความเห็นแก่ตัว ความเห็นแก่ได้ ความโลภ ความต้องการ ถูกพลังงานฌาน เผาละลาย จนเป็นคนที่ไม่ต้องการมาให้แก่ตัว ไม่เห็นแก่ได้ มีความใจพอมีความสันโดษไม่เอาเงินก็พอมันสบายอย่างนี้เป็นต้น เป็นสภาวะจิตของชาวอโศก สบาย อย่างไม่ได้ทรมาน ไม่ได้กดข่ม เป็นความเป็นไปได้และเป็นสบาย เป็นอยู่ก็สบายอุดมสมบูรณ์มีอยู่มีกินมีใช้ นอนหลับ กินได้สมบูรณ์ ทำงานทำการทุกอย่างสะดวกสบายทุกอย่างเลย ถ้าจะใช้ภาษาทางโลกก็คือมันเป็นแดนสวรรค์ ซึ่งคนเข้าใจยากมาก
ทีนี้ พลเอกประยุทธ์ทำงานแล้ว ทำให้เศรษฐกิจประเทศไทยนี้ จริง มองแง่โลกีย์ จะต้องรวย จะต้องมีรายได้เข้าประเทศ จะต้องมีเงินคงคลัง มี GDP หรือเงินที่จะได้เปรียบ GDP คือเขาคิดได้เปรียบมาจากภายนอกประเทศ ทั้งที่โดเมสติกก็คือภายใน ประเทศ GDP ควรจะเป็นองค์รวมผลผลิตภายในประเทศ แต่ก็ไปคิดเอาเปรียบบวกจากภายนอกขายแพงให้แก่ต่างประเทศเอามารวมเป็นรายได้ภายใน นี่คือความผิดเพี้ยนขบถไปจากคำว่าโดเมสติก คือของภายใน ต้องคิดรายได้ภายในของประเทศผลผลิตของประเทศเองอย่าไปเอามาจากต่างประเทศเข้ามาสิ และ การอธิบายความเจริญของเศรษฐกิจ ใน นัย ของโลกุตระคือ
GDP
G คือ ค่ารายได้ขององค์รวม Gross ส่วน D คือ โดเมสติก คือภายในประเทศ พอสร้างขึ้นมากินใช้ภายในประเทศให้พออยู่พอกิน นอกจากพออยู่พอกินเลี้ยงตนเองรอดแล้วยังมีเหลือ มีเหลือก็สะพัดออกนอกประเทศ เมื่อสะพัดออกไปแล้วยังไปขายต่ำกว่าทุน ขายขาดทุนให้อีกจากต่างประเทศ สรุปแล้ว เอามาลบจากที่ควรจะได้ Gross ของรายได้องค์รวมในประเทศ ได้ ไม่ใช่ว่าได้จากต่างประเทศได้เปรียบมาแต่เราขาดทุนให้ต่างประเทศด้วย ชาวอโศกทำอย่างนี้ทำได้แล้วด้วย
เห็นไหมว่าความเจริญ GDP โลกุตระมันคืออะไร ความเจริญของเศรษฐกิจแบบโลกุตระ คืออะไร
พลเอกประยุทธ์ไม่ได้ทำได้ถึงขั้นที่พูดนี้ทีเดียว แต่ก็ไม่ไปโลภโมโทสัน ไม่ไปขูดรีดเอาเปรียบเอารัดจากต่างประเทศขึ้นมาเกินไป ยิ่งโควิดนี่ เกิดรายได้ จากการท่องเที่ยว จากต่างประเทศเอาเงินมาแล้วขูดรีดจากต่างประเทศเข้ามาประเทศอันนี้น่าอาย ต่างประเทศเข้ามาต้อนรับเขาเป็นแขกบ้านแขกเมือง ช่วยเหลือเขาเสียสละให้เขาเลี้ยงดูเขา เสียสละเขา ไม่ใช่ไปขูดรีดเอาจากเขา อย่างนี้มันจึงจะเจริญมันจึงจะเป็นพี่ใหญ่ มันถึงจะเป็นพ่อใหญ่ ไม่ใช่คนกระจอกไม่มีอยู่มีกินไม่รู้จักพอมี แต่ตะกละตะกามขูดรีดเอาดอกผลจากคนอื่นเขา
ฟังดีๆ มันเป็นเรื่องสัจธรรมที่ลึกซึ้งซับซ้อน
_หลวงปู่คิดเห็นอย่างไรคะ กับ ศิษย์เก่าที่ทะเลาะกัน ในความเห็นต่างกันทางการเมือง
พ่อครูว่า…อาตมาก็เห็นอย่างที่คุณเห็น ทีนี้ อาตมาก็จะตอบว่าดีหรือไม่ดี ตอบว่าไม่ดีแต่บังคับได้ไหม.. ไม่ได้ ไปบังคับเขาไม่ได้เขาจะเห็นต่างกัน ก็เป็นแต่เพียงว่าขอออกความเห็นของตัวเองคือของอาตมาว่า…
ศิษย์เก่าทั้งหลายเอ๋ย ความอิสระในทางความคิดนั้นอาตมาก็เคารพ ต่อความคิดอิสระของแต่ละบุคลคน แต่เราควรจะคิดถึง สิ่งที่ควรจะเป็น
สิ่งที่ควรจะเป็นคืออะไร ควรจะเป็นคือ อย่าจุดไฟ อย่ากระพือไฟ ควรจะต้องให้มันสงบ
ทีนี้ ทำอย่างไรจะสงบ …เราก็มองดู ตรวจดู ให้ชัดเจนว่า ความเห็น อันใด ความเห็นแบบใด ที่เราควรจะต้องไปเห็นด้วย ร่วมมือด้วย อันนี้ก็อาจจะมีบางคนมันบังคับไม่ได้มันเห็นต่างจริงๆ ถ้ามันสุดวิสัยก็ต้องปล่อยไป มันก็เป็นนานาสังวาสไป
แต่ถ้าพอจะทำได้ เห็นแก่ความสงบระงับของส่วนรวมของประเทศ ก็จงมองส่วนรวม
พูดกันอย่างกระชับ ส่วนรวมของชาวอโศกทั้งหมด ส่วนใหญ่ของชาวอโศกทั้งหมด เห็นฝ่ายไหนล่ะ เห็นควรจะต้องเห็นอย่างไร แบบใด
เอ้า พูดกันง่ายๆชัดๆ เห็นอย่าง 3 นิ้ว หรือเห็นอย่างไม่ใช่ 3 นิ้ว เอาแค่นั้น
นี่แบ่งเป็น 2 ข้างง่ายๆ
อาตมาก็ควรจะเห็นอย่างไม่ใช่ 3 นิ้ว ชาวอโศกส่วนใหญ่ อาตมาพูดอย่างนี้ ก็เป็นความเห็นส่วนตัวเองก็เป็นความจริง
ถ้าคุณจะเห็นแก่ความสงบ ก็ควรเห็นแก่ชาวอโศกส่วนใหญ่ แต่ถ้าคุณทำตามไม่ได้ก็เห็นใจ
มันยาก พวกเราบวชเป็นสมณะชาวอโศกแล้ว สุดท้ายก็ต้องขอแยกออกไปเลย เรียกว่าสึกออกจากสมณะชาวอโศก ตอนนี้ไม่รู้ว่าบวชเป็นภิกษุทางโน้นหรือไม่ อาตมาไม่ขอกล่าวชื่อออกไป
มันก็เป็นเรื่องสุดวิสัย บังคับไม่ได้ ไม่รู้จะทำอย่างไร มันเป็นเรื่องสุดวิสัย
ก็น่าสงสาร
แม้กระทั่งแม่ของสมณะ ก็ยังอยู่ในชาวอโศก เมื่อพูดถึงลูกก็อยากจะร้องไห้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ลูกเราบังคับกันไม่ได้ ก็ลูกมีความเห็นต่าง อยู่กับชาวอโศกจนกระทั่งอายุ ยังไม่ 60 ก็บวชมา 26 ปีแล้ว
ก็เป็นเรื่องเอาตัวตนบุคคลจริงๆมาอ้างอิงยืนยันอธิบายสัจธรรมสู่ฟัง
สรุปก็คือบังคับจิตใจไม่ได้ คนเราบังคับจิตใจกันไม่ได้
พระพุทธเจ้าจึงมีทางออกสุดท้ายคือนานาสังวาส จากคนคนเดียวเห็นแตกต่างกับหมู่ใหญ่หมดเลย ก็มีสิทธิ์ที่จะขอประกาศนานาสังวาสกับหมู่ส่วนใหญ่ ขอปกครองตัวเองปฏิบัติตามตัวเองก็ต้องอนุญาตให้เขาเป็นนานาสังวาส เขาก็เป็นไปตามที่เขาเป็น
ส่วนอีกหมู่หนึ่งมันก็ต้องต่างกัน
ความต่างจะมี 3 ประเด็นใหญ่ๆ
-
ศีลไม่เสมอสมานกัน
-
ความประพฤติไม่ตรงกัน
3 อุเทส คำอธิบายธรรมะต่างๆไม่ตรงกัน อธิบายความหมายต่างๆไม่ตรงกัน อธิบายสภาวะธรรมไม่ตรงกัน อธิบายพยัญชนะไม่ตรงกัน
มันจะต่างกัน 3 ประเด็นนี้ นี่คือ 3 ประเด็นใหญ่ จะต้องแยกกัน และมีวิธีการ วินัยของพระพุทธเจ้าคือแยกนานาสังวาสอย่างที่ชาวอโศกประกาศนานาสังวาสกับเถรสมาคม แต่เถรสมาคมไม่เอาพระวินัยของพระพุทธเจ้าบังคับพวกเรา เราก็ยืนยันตามธรรมวินัยก็ทำอะไรเราไม่ได้ เรายืนยันตามพระไตรปิฎกยืนยันจนบัดนี้เถรสมาคมก็ทำอะไรเราไม่ได้ เขาถึงขั้นฟ้องร้องต่อศาล เราก็แพ้คดีแล้วก็ติดคุก แต่ให้รอลงอาญาติดคุกอยู่นอกคุก 2 ปีก็ผ่าน 2 ปีมาแล้วไม่ได้ประพฤติผิดอะไรก็จบแล้วก็เลยสุดในทางกฎหมายก็จบแล้ว ทางธรรมวินัยสู้ไม่ได้เขาก็เอากฎหมายโลกมาเล่นงานเราอีก มันผิดธรรมวินัยเลย ถ้านานาสังวาสแล้วห้ามฟ้องร้องกันอธิกรณ์กัน แต่นี่ไปฟ้องร้องถึงศาลคฤหัสถ์ แล้วคฤหัสถ์จะเอาอะไรมาตัดสินธรรมวินัยของพระภิกษุดูแล้วตลกๆ ดูแล้วท่านไม่เดียงสาจริงๆ ขออภัย ที่ต้องพูด แต่เราก็ยอมทุกอย่าง เอาล่ะ พูดไปก็เป็นการฟื้นฝอยหาตะเข็บเปล่าๆ
สู่แดนธรรม…ปัญหา ที่ถาม เมื่อเห็นต่าง ทั่วทั้งโลกก็จะใช้วิธี แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง
พ่อครูว่า…ก็อธิบาย อย่าเอาตัวตนเป็นที่ตั้งให้ดูองค์รวม อาตมาสรุป ให้ดูองค์รวมของชาวอโศกว่าควรจะเข้าข้าง และถ้าทำใจได้ก็ควรทำตาม แต่ถ้าทำไม่ได้ก็เห็นต่างก็ห้ามไม่ได้หรอกอย่าไปทำผิดกฎหมายก็แล้วกัน อันตรายไม่อยากให้ทำผิดกฎหมาย
_ประเด็นน่าสงสัยในชาวบ้านราชฯมีผู้ฝากมาถามว่า เราสามารถผลิตซีอิ๊วขาวปลอดสารพิษ จนลูกค้าสั่งซื้อของเราได้มากมาย แต่สงสัยว่าทำไมทีมแม่ครัวของบ้านราชจึงสั่งซื้อซีอิ๊วขาวที่ผลิตมาจากยี่ห้อ ง.ช. หมดไปเป็นหมื่น ซึ่งเราจะเชื่อใจได้หรือว่าจะผลิตโดยไร้สารวัตถุกันเสียเจือปน ทำไมเราไม่รับของเราที่เรามีโรงงานผลิตใช้เอง
พ่อครูว่า…อาตมาไม่รู้รายละเอียดของทางครัว ฟังไว้แล้วเอาไปปฏิบัติดู ถ้าเป็นไปได้ก็ควรจะทำอย่างที่เขาติงมา
พ่อครูยอมแพ้ให้กับเจตนาดีที่มีราคา
_ก่อนอื่นดิฉันขอขอบพระคุณทุกท่านทุกคนช่วยดูแลพ่อครูให้สุขภาพดีขึ้น วันก่อนสิกขมาตุกล้าข้ามฝันถามว่า พ่อครูทำใจอย่างไรจึงยอมอนุโลมตามลูกๆที่มีความเห็นหลากหลาย และพ่อครูตอบว่า อาตมายอมแพ้ การยอมแพ้เป็นการลดอัตตาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อาตมาเป็นใคร พระพุทธเจ้ายังต้องยอมแพ้ใครต่อใครเลย ก็คงไม่แปลกหรอก ถ้าพ่อครูต้องยอมแพ้ต่อคนที่ไม่เคารพศรัทธาต่อพ่อครู แต่ที่น่าสลดใจคือ พ่อครูต้องยอมแพ้ต่อคนที่เคารพศรัทธาพ่อครูอันนี้สิมันน่าคิดจริงๆ ถ้าพ่อครูยอมให้กับเด็กๆก็เป็นธรรมดา แต่การที่พ่อครูถูกสั่งการจำกัดสิทธิส่วนตัวของพ่อครูนั้น ดิฉันรู้สึกเห็นใจพ่อครูมากๆ ไม่ว่าการนอน การกิน ชีวิตความเป็นอยู่หลายๆอย่างก็ตาม ธรรมดา คนนอนอิ่มแล้วก็ต้องอยากลุกขึ้น แต่พ่อครูลุกไม่ได้เพราะยังไม่ครบชั่วโมงตามเขากำหนดไว้ พ่อครูเป็นถึงพระโพธิสัตว์ย่อมเป็นผู้รู้พักรู้เพียรอยู่แล้วเป็นอย่างดี และย่อมรู้ดีว่าควรจะฉันอะไรจึงจะดีด้วย จำได้ว่าพ่อครูเคยบ่นว่า(ให้ข้าวมานิดเดียว) หรือ (ไม่เห็นมีอย่างนี้ที่โต๊ะอาหารอาตมาเลย) แม้แต่การกำจัดเวลาในการแสดงธรรมของพ่อครูก็เช่นกัน ดิฉันเคยคิดว่าจะเป็นการขัดขวางโพธิกิจของพระครูหรือไม่จะบาปไหม (เหตุผลเรื่องการเตรียมตัวเพื่อผ่าตัดตา ก็มีเหตุผลควรรับฟัง) การเชื่อฟังหมอผู้ดูแลก็เป็นการสมควร แต่อย่าลืมถามหมออีกคนคือตัวของพ่อครูเองด้วยนะคะ อย่าลืมทำตามคำขอและสัญญาณเตือนจากท่านเป็นอันขาด ท้ายนี้ดิฉันขออภัยต่อคำพูดที่อาจจะไปขัดกับผู้เห็นต่าง
พ่อครูว่า…พวกเราก็เจตนาดีกันทั้งนั้นมันขัดแย้งกันเรื่องมันก็เกิดความดีขึ้น อาตมาก็ยอมบ้างค้านบ้าง อย่างที่อาตมาเป็น อาตมาก็ดูว่าไม่ถึงขนาดจะเสียหายทีเดียว อนุโลมไปบ้างก็พอได้ก็ทำไป ก็ไม่ได้ไปเจตนาจะไปมีความคิดพิลึกพิลั่นพิเรนทร์วิตถารอะไร ที่จะต้องทำให้มันเสื่อมทำให้มันเสีย ทำให้ไม่เป็นประโยชน์ ก็เห็นว่ามันก็พอไปได้อยู่ในฐานที่ดี ซึ่งจริงๆแล้ว ค่าของเจตนาดี อาตมาว่า มันมีราคา เจตนาดีของคนมันมีราคา ก็ต้องยอมเขาทีเดียว ไม่ว่าเจตนาดีจะไม่ถูกร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม ก็ได้พอสมควรไม่ถึงกับทำร้ายทีเดียว บางทีก็ต้องยอม อาตมาเห็นค่าเจตนาดีของคน แต่ละค่า อาตมาให้ค่า เจตนาดีของคนด้วยความจริงใจจริงๆ เขามีความรู้เท่านั้นก็เจตนาดีเท่านั้น แต่เขามีความรู้เท่านั้นจริงๆ ก็เห็นใจเขา ก็อนุโลมให้เขา พออนุโลมให้เขาได้ไม่ถึงขนาดชักดิ้นชักงอตายทีเดียวก็ยอมบ้าง ซึ่งมองไปอีกมุมหนึ่ง มันมีความซับซ้อน
เรายอม ให้ได้รับสิ่งที่เหมือนกับเรากินยาพิษ ถ้ากินไม่มากมันก็จะสะสมทำให้เรามีภาวะต้านทานสูง ยกตัวอย่างนี้พอเข้าใจได้ เขาจะรู้สึกว่าเหมือนเขาจะต้านอาตมา อาตมาจะต้องต่อสู้มันเป็นการเพิ่มสัมประสิทธิ์เป็นการเพิ่ม Coefficient มันเป็นการสะสม อาตมาถือว่าได้ประโยชน์อย่างนี้ พอเข้าใจไหม
สู่แดนธรรม…ในยุคแรกๆพ่อท่านจะไม่อนุโลมขนาดนี้
พ่อครูว่า…ในยุคนี้มันคนเยอะ บางคนเขาเอาความเห็นหลายเสียงมาสู้อาตมาก็ต้องยอมนะ
_สมณะบินบน…พูดถึงวันนี้เมื่อ 11 ปีที่แล้ว ท่านชุ่มบุญ ได้มรณะภาพ ศพตั้งอยู่ที่ปฐมอโศก
_ในปางฝัน…พ่อครูเคยบอก ช่วงที่พ่อครูยังมีชีวิตอยู่ พ่อครูอยากจะอธิบายขยายความให้ชาวโลกมากที่สุด เกี่ยวกับเรื่องการเมืองการปกครองและประชาธิปไตยให้ชาวโลกได้รับรู้ ทำไมพ่อครูอยากอธิบายเรื่องราวเหล่านี้เพราะอะไรคะ
พ่อครูว่า…เพราะว่ามันเป็นประโยชน์ คนที่โรคประชาธิปไตยขึ้นสมองมีเยอะนะ มาลาเรียขึ้นสมองก็ตาย ประชาธิปไตยขึ้นสมองก็ถึงตายได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นมันสำคัญนะ ประชาธิปไตยขึ้นสมองมากๆ ถ้าไม่พยายามบรรเทาให้เขาเข้าใจ แล้วเพลาลงบ้างเป็นโรคร้ายแรงทำให้ตายนะ มาลาเรียขึ้นสมองก็ตาย ประชาธิปไตยขึ้นสมองก็ตายเหมือนกันมันเป็นโรคที่เกินไปนะ ก็ต้องพยายามอธิบาย ความเป็นประชาธิปไตยให้เขาเข้าใจ ว่าประชาธิปไตยคืออะไร เหมือนกันเลยอย่างที่อาตมาอธิบายเศรษฐกิจคืออะไร จะเข้าใจกันยาก
ประชาธิปไตยก็มี นัยเดียวกัน ยังเข้าใจกันยากว่าประชาธิปไตยคืออะไร ประชาธิปไตยที่โง่ๆตื้นๆก็อย่างที่เขาบอกว่าการตัดสินแบบประชาธิปไตยคือต้องมีการเลือกตั้ง ถ้าไม่มีการเลือกตั้งไม่ใช่ประชาธิปไตย นี่คือประเด็นที่คนไม่มีปัญญาเป็นแบบเด็กๆไม่เดียงสา แบบเด็กอนุบาล ก็ไม่ผิดเลยไม่ผิดหรอก เด็กอนุบาล ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง เขาไม่มีอะไรเลยเขาจะเอาแค่นั้น ซึ่งมันก็ตื้นง่ายๆ หาวิธีการหา กลไก กลยุทธ์ วิธีอะไรก็แล้วแต่ พูดไปรวมๆ คนก็ใช้แทคติกวิธีการกลยุทธ์ทั้งทุนนิยม อำนาจนิยม อะไรก็แล้วแต่สะสมสร้างค่ายกล เพื่อที่จะทำอย่างที่ต่อสู้กันอยู่ ดูอย่างอเมริกาเป็นหลัก
อย่างนายโดนัลด์ทรัมป์ สะสมพลังตัวเองมาตั้งแต่ทำมาหากินหาเงินหาทอง สร้างพลังงานพลังทุนจนกระทั่งมาตอนนี้ ถ้าเผื่อว่าได้เป็นประธานาธิบดีสมัย 2 แกจะเอาสมัย 3 หรือเปล่า แกอย่างนั้นเลย โดนัลด์ทรัมป์นี่
เพราะฉะนั้นประชาธิปไตยแบบนั้นมันเป็นประชาธิปไตยที่ลึกซึ้งซับซ้อนมาก เปรียบเทียบแล้ว อย่างไรอย่างไรเปรียบเทียบประชาธิปไตยของเมืองไทย ประเทศไทย กับอเมริกาเลย ตั้งแต่เป็นประชาธิปไตยขาเดียว อันนี้ยากมาก
ของประเทศไทยนั่นคือประชาธิปไตย 2 ขา คือมีนัยสองอย่าง แต่ของอเมริกาเป็นประชาธิปไตยขาเดียวมันเอนเอียงไปทางมักง่ายไปทางวัตถุ โลกๆตื้นๆนอกๆ มันไม่มีรากเหง้า ไม่มีรากฐานจิตวิญญาณ ไม่มีการสืบทอดสืบต่อ มันเป็นการผิวเผินฉาบฉวย แม้แต่คนจะมาเป็นประธานาธิบดี ก็เอามาจากไหนก็ได้ ใครจะเป็นอะไร
อาตมาเคยยกตัวอย่าง เช่น คนจะมาเป็น ส.ส. หิ้วกระเป๋าเงินเข้าไปในหมู่บ้าน ในเขต มีกระเป๋าเงินใหญ่ๆแล้วหว่านเงินเข้าไปในเขตนั้น เดี๋ยวก็ได้เป็นส.ส. อันนี้ยกแบบง่ายๆไม่ต้องไปสร้างรากฐานอำนาจกลไกค่ายกลอะไรเอาไว้ สะสมไว้ เหมือนอย่างนายโดนัลทรัมป์ ที่เขาทำมาหากิน สร้างเงินทองสร้างอำนาจสร้างบุคคลที่จะเป็นพวกตัวเองจนกระทั่งกลายเป็นคณะ แล้วสุดท้ายก็ได้มาเป็นประธานาธิบดีเขาทำสำเร็จ โดนัลด์ทรัมป์เขาเป็นพวกโลกีย์ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตของเขาแบบนั้น
ซึ่งจริงๆแล้ว ล้วนแล้วแต่ใช้กลเม็ดกลยุทธ์เล่ห์กลต่างๆนานาทั้งนั้นไม่สุจริต ไม่ตรงไปตรงมา แต่ได้นะในโลกียะเขาทำได้
ส่วนของประชาธิปไตยเมืองไทย ยกตัวอย่างง่ายๆ ประชาธิปไตยเมืองไทย ยกเว้น ต้องมีสถาบันกษัตริย์เป็นราชประชาสมาสัย
รัฏฐาธิปัตย์ต้องมี 2 อย่าง 1. ของในหลวง และ 2.ของประชาชน ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นตัวแทน นี่เรียกว่าประชาธิปไตย 2 ขา
ทีนี้ที่อาตมาจะอธิบายคือ อย่างนายกฯประยุทธ์ ไม่ได้กะเกณฑ์ ไม่ได้ตั้งใจว่าจะไปเป็นนายกฯหรอกอาตมาบอกได้เลย อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ มันอยู่ในจังหวะพอดี ไม่ได้คิดไว้ก่อน ถ้าตั้งใจเอาไว้ นายกฯประยุทธ์ไม่ได้ออกมาช้าอย่างนี้หรอก เร็วกว่านี้ จะออกมายึดอำนาจเร็วกว่านี้ แต่นี่มายึดอำนาจ จนกระทั่งประชาชนทำอะไรเสร็จหมดแล้วมันก็ดีมันก็สวยมันก็ดีสุดเพราะประชาชนปฏิวัติไว้ให้ ประชาชนรัฐประหารไว้ให้ พลเอกประยุทธ์ก็มารับไม้ต่อจากประชาชน
ที่อาตมาพูดไปนี้นักรัฐศาสตร์ทั้งหลายก็จะฟังแล้วไม่เห็นด้วย ว่าประชาชนรัฐประหารอย่างไร จะเอาอะไรมารัฐประหารกองทัพ รัฐประหารรัฐบาลที่มีอำนาจกองทัพอำนาจสั่งการข้าราชการ ประชาชนจะเอาอำนาจอะไรไปรัฐประหารเขา เขาก็ยังเข้าใจไม่ได้เพราะมันซับซ้อน
นี่มันเป็นสัจธรรมที่เรียกว่า ประชาธิปไตย อำนาจของประชาชนจริงๆ แล้วเป็นอำนาจที่สุดยอด ไม่ใช้อาวุธไม่ใช้กำลังไม่ใช้ความรุนแรง ใช้ความสงบสุภาพเรียบร้อยที่สุด เอาความจริงมายืนยันว่ารัฐบาลเอ๊ย รัฐบาลนั้นผิดนะรัฐบาลปฏิบัติบริหารไม่ได้ความแล้ว ใช้ไม่ได้ควรออกไป พูดอย่างสุภาพ แต่ก็มีภาษาโวหารซุ่มเสียงสำเนียงท่าทีลีลาแสดงออกให้รัฐบาลรู้ตัว ถึงขั้นถูกว่า แต่ไม่ได้เอาอาวุธไปกระทบตีรันฟันแทงใส่รัฐบาลอะไร ทางรัฐบาลกลับมาทำร้ายประชาชนด้วยซ้ำไป ทำประชาชนไม่ได้ทำอะไรร้ายแรงกับทางรัฐบาลเลย จนสามารถรัฐประหารได้สำเร็จไม่ใช่รัฐบาลเดียวด้วย
เป็นเรื่องรัฐศาสตร์ที่จะต้องตามศึกษา อาตมาตายไปแล้วนักรัฐศาสตร์ในยุคข้างหน้าประมาณ 50 ถึง 100 ปีข้างหน้าอาจจะเข้าใจดีก็ได้ หรือไม่ถึงอย่างนั้นเขาอาจจะเข้าใจดีกว่าก็อาจจะเป็นได้ แต่ก็ไม่ได้คิดหวังอะไร แต่อาตมาเชื่อมั่นในสัจธรรมมันเป็นเรื่องจริง
สรุปแล้วคำว่าประชาธิปไตยที่อาตมาพูดยืนยันสิ่งที่เป็น status quo เทียบระหว่างอเมริกากับประเทศไทย
ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ถูกต้องสมบูรณ์กว่าอเมริกา
หรือจะไปเทียบกับอังกฤษหรือประเทศอื่นที่เป็นประชาธิปไตยก็ตาม แม้แต่ที่สุดจีนเขาก็ต้องมาเป็นประชาธิปไตย แต่เขาพูดไม่ได้เต็มคำ
เพราะฉะนั้นก็คือการบริหาร หรืออภิบาลประชาชน
การบริหารหรืออภิบาลประชาชนนี่แหละอยู่กันอย่างให้เกิดความรุนแรงน้อย หรือไม่ทะเลาะเบาะแว้ง ซึ่งอาจจะมีบ้าง ไม่ให้ขัดแย้งกันเลย ไม่ได้ ความสงบคือความขัดแย้งอันพอเหมาะ นี่ก็ยกตัวอย่างในประเทศไทย ขัดแย้งกันอย่างไม่มีเลือดตกยางออก ทำมากันดุเดือดไม่ใช่เล่น ประชาชนเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสน จะถึงแสนมั้ยเอ่ย ยังไม่ถึงแสน
แต่ประชาชนที่เราเคยไปร่วมกันชุมนุมนั้นมีหลายล้านคนเลยในยุคนั้น อันนี้กะปริดกะปรอยไม่ถึงแสน มันเป็นจะเรียกว่า คลื่นตัวปลาย คลื่นที่ใหญ่แล้วก็มีคลื่นตัวปลายที่จะไปถึงฝั่ง มันเป็นหางคลื่น ที่มันเหลืออยู่ เป็นหางคลื่นของการต้านประชาธิปไตยเท่านั้นแหละ มันเป็นธรรมดาธรรมชาติ ถ้าทะเลไม่มีคลื่นเลยไม่สวยนะ ไม่สนุกด้วย ทะเลต้องมีคลื่นบ้าง มันถึงจะสวย ถ้าหากทะเลเรียบเลย ทะเลจ๋อย เขาเรียกทะเลถูกสาปแช่ง เรียกสั้นๆว่าทะเลสาป มันไม่เป็นทะเลที่มีชีวิตชีวา ทะเลไม่สวย แต่ถ้ามีสึนามิก็ไม่สวยนะ ไปใหญ่แล้ว
_สู่แดนธรรม…ประชาธิปไตยในโลกตอนนี้ผมเห็นว่าเป็นเรื่องยกพวก ตอนนี้แกนนำกลุ่มหนึ่งออกมาสารภาพแล้ว ว่า นายโตโต้ รับแล้วว่า ต่อไปจะยกระดับไปสู่สงครามจราจล นี่คือเป้าหมายที่เขาอยากจะทำ
พ่อครูว่า…ทะเลที่ถูกสาปทะเลสาปนั้นเรียบ ไม่มีคลื่นไม่มีลม แต่ทะเลที่สวย ที่สนุก คือทะเลที่มีคลื่นแต่ไม่ใช่คลื่นจากสึนามิ แต่เป็นคลื่นจากลมที่เข้ามาหาฝั่ง ได้เล่นโต้คลื่นบ้าง มีหาดทรายสะอาดมีคลื่นสวย ได้เล่นสนุกสนานมันไม่เป็นภัยเป็นพิษอะไรมีความพอเหมาะพอดี
_ทำไมคนเราต้องเรียกคนประท้วง ว่า “ม็อบ” ทั้งๆที่ ทำไมมันเหมือนไม้ถูพื้นจังคะ
พ่อครูว่า…ม็อบแปลว่าหมู่กลุ่มที่รวมตัวกันเพื่อก่อความวุ่นวาย แต่ถ้าหมู่กลุ่มที่รวมตัวต่อต้าน หรือประท้วงความไม่ดีนั้นเรียกว่า protest
ม็อบ คือ กลุ่มที่รวมตัวกันเพื่อสร้างความวุ่นวาย บ้าคลั่ง
แต่ทีนี้ เขาเอาไปตั้งชื่อไม้ถูพื้นว่า ม็อบ เป็นยี่ห้อมันหรือเปล่า
แต่ถ้าเป็นม็อบที่มาสร้างความวุ่นวายมันยิ่งกว่าไม้ถูพื้นอีกแย่ยิ่งกว่า
_ด.ช.เชิดเชิญธรรม…ทำไมท่านถึงแต่งเพลงผู้แพ้ขึ้นมาครับ
พ่อครูว่า…เคยตอบหลายทีแล้ว มันไม่มีอะไร มีคนเดาว่า เพลงผู้แพ้นี้อาตมาไปแพ้อะไรหรือจึงแต่งเพลงผู้แพ้ เขาก็กะว่าอย่างนั้น
อาตมาเคยตอบไปหลายทีแล้ว เพลงผู้แพ้นั้นที่อาตมาแต่ง ตั้งชื่อว่าผู้แพ้เลย จริงๆน่ะไม่ได้เจตนาจะไปเป็นอย่างนั้นแต่มันเกิดขึ้นมาตามอารมณ์ศิลปิน
จำได้เลยว่าในวันที่แต่ง อาตมาเดินออกมาจากหอพักที่ซังฮี้ หอพักบุตรทบ.ตอนนั้นเรียนหนังสืออยู่วิทยาลัยเพาะช่างประมาณปีที่ 2 หรือ 3 พ.ศ. 2497ประมาณ 66 ปีแล้วอาตมาเดินออกมาจากหอพักตั้งใจจะไปเที่ยวเขตศรีย่านประมาณ 6 โมงกว่าๆหน่อย กำลังจะมืด เดินมาแล้วเพลงนี้มันก็ขึ้นมาในใจ… ก็เลยจดเลย หากระดาษ ธรรมดาอาตมาจะมีกระเป๋าเสื้ออยู่ 2 กระเป๋า มีกระดาษเอาไว้จด เดินมามันก็เริ่มมืด พอเดินมาถึงหน้าประตูหอพัก เสาไฟฟ้าก็เริ่มส่องสว่าง ไฟฟ้าที่ถนนก็เริ่มติดแล้ว อาตมาก็เลยมันจะมืดก็อาศัยไฟฟ้าจากเสาไฟฟ้า เป็นไฟส่องเขียนโน้ตจดไว้ กลัวจะลืม มันก็ขึ้นมา แล้วมันดีมันขึ้นมาเรื่อยๆ เลยไม่ไปแล้วศรีย่าน กลับเข้าหอพัก ไปแต่งเพลงต่อจนจบ เพลงผู้แพ้ แล้วก็มาแก้ไขขัดเกลาให้เรียบร้อย แล้วจึงเอาไปขาย
สาเหตุเกิดจากอารมณ์ศิลปินล้วนๆไม่ได้มีเรื่องแพ้อะไรในชีวิต จะว่าแพ้ก็แพ้นะ คืออาตมาจะต้องต่อสู้ชีวิตต้องต่อสู้ต้องหาเงินเลี้ยงตัวเองต้องพยายามเป็นคนดี อาตมานี้เป็นนักเรียนหอพักบุตร ท.บ. อันดับพิเศษนะ คือ ในหอพักเขาจะมีคะแนนประจำตัวนักเรียนแต่ละคน 30 คะแนนในหอพัก อย่าให้ผิดนะ ถ้าผิดจะถูกหักออกจาก 30 คะแนนนี้ ใครที่รักษาความดีได้ดีก็แสดงว่าดี แต่ถ้าทำไม่ดีก็จะถูกหักคะแนน หักมากๆเข้าก็ ดีไม่ดีถูกคัดออก เขาก็ใช้กฎวินัยอันนี้ของทหารกับนักเรียนนายร้อยอันนี้อันเดียวกันเลย
อาตมานี้เป็นนักเรียน หอพักบุตร ท.บ. นอกจากไม่ถูกหักคะแนนแล้วคะแนนกลับเพิ่มอีก เพิ่มจาก 30 เป็น 31 32 มันเพิ่มได้อย่างไรก็เพราะว่าไปทำดี แล้วก็เลยได้แต้มมา คะแนนของอาตมา 30 ก็ยังไม่ถูกตัดมันก็เลยต้องเพิ่มคะแนนอีก จนจอมพลผินต้องให้รางวัลพิเศษอาตมา อาตมาได้รับรางวัลพิเศษเป็นหัวเข็มขัด บุตร ท.บ. ลงยา เป็นนักเรียนดีเด่นพิเศษ โอ้โหใส่โก้เลย ยังไม่เคยมีใครได้ โพธิรักษ์ได้รับรางวัลพิเศษจากจอมพลผิน ตอนนี้หัวเข็มขัดมันหายไปไหนไม่รู้แล้ว หัวเข็มขัดลงยา
_สู่แดนธรรม…ม็อบ ไม้ถูกพื้นสะกดด้วย ตัว p ส่วน ม็อบอีกอันสะกดด้วยตัว b
พอใจในเสนาสนป่าคือเช่นไรในอปริหานิยธรรม
_แพทย์วิถีธรรม…หมอเขียวมีคำถาม…ในสมัยพุทธกาล เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูจะไปตีเมืองวัชชีก็ส่งวัสสการพราหมณ์ไปถามพระพุทธเจ้าว่าจะมีความเห็นอย่างไร พระพุทธเจ้าก็ถามพระอานนท์ว่าเขายังทำอปริหานิยธรรมที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ไหม พระอานนท์ก็บอกว่ายังทำอยู่ พระพุทธเจ้าก็บอกว่าจะเจริญอย่างเดียวตีไม่แตก ก็ทำให้วัสสการพราหมณ์เข้าใจ ในระหว่างที่เมืองวัชชียังทำอปริหานิยธรรมอยู่ เมืองมคธก็ไม่ไปตีเมืองวัชชี แต่สุดท้ายก็รู้ว่าถ้าจะตีได้ ต้องทำให้ชาววัชชีหยุดทำอปริหานิยธรรมจึงจะตีให้แตกได้ ก็หาวิธี สุดท้ายเมื่อแคว้นวัชชีไม่ทำอปริหานิยธรรมเมืองก็แตก อยากให้พ่อครูอธิบาย “อปริหานิยธรรม” ตามสมควรครับ
พ่อครูว่า…อปริหานิยธรรม 7 ข้อ อาตมาก็จำได้ไม่หมด
-
หมั่นประชุมกันเนืองนิตย์
-
เมื่อประชุมก็พร้อมเพรียงกันประชุม เมื่อเลิกประชุม ก็พร้อมเพรียงกันเลิก และพร้อมเพรียงกันทำกิจที่ หมู่จะต้องทำ
-
จักไม่บัญญัติสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติ
จักไม่เพิกถอนสิ่งที่พระองค์ทรงบัญญัติไว้
แล้วจักประพฤติมั่นในสิกขาบทตามที่พระองค์
ทรงบัญญัติไว้
-
สักการะเคารพนับถือบูชาท่านผู้เป็นเถระ ผู้เป็น..รัตตัญญู ผู้บวชมานานเป็นสังฆบิดร เป็นสังฆปริณายก และจักสำคัญถ้อยคำแห่งท่านเหล่านั้นว่า เป็นถ้อยคำอันตนพึงเชื่อฟัง
-
ไม่ตกอยู่ในอำนาจตัณหาที่เกิดขึ้นแล้ว อันเป็นเหตุให้เกิดเป็นภพต่อไป
-
จักพอใจอยู่ในเสนาสนะป่า (ป่า คือ สภาพความสงบสงัดจากกิเลส)
-
จักเข้าไปตั้งความระลึกถึงเฉพาะตนไว้ว่า..