631011_รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ ไม่รู้ความเป็นสองของกายไม่มีทางได้ประชาธิปไตยแท้
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวน์โหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1r4GZJCUhClaGhA7ggpqRx8YTOySHWGs0_aFpqqTFJT8/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1LhnTn0fYqV4S6gPvf4P4qVzCxOf1UmNI/view?usp=sharing
และยูทูปที่ https://youtu.be/Ix6z85FHNAc
สมณะฟ้าไทว่า… วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2563 ที่บวรราชธานีอโศก พูดถึงสถานการณ์ของพายุ ก็มีการก่อตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ น้ำก็คงจะท่วม หรือถ้าไม่ท่วมก็ดี แต่ที่ต้องระมัดระวังก็คือ covid เขาวิเคราะห์ว่า covid เหมือนกับ Aids + Sars มีการระบาดรอบ 2 เกิดในหลายประเทศ พวกเราก็สร้างสรรหมู่บ้านในช่วงนี้ เพิ่มผลผลิต การที่พ่อครูปิดไม่ขายเทศกาลกินเจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุดแล้ว
อาหาร 4 ที่ดีสุดสำหรับคนโลกุตระ
พ่อครูว่า…ขอชื่นชม มะระขี้นก (พ่อครูหยิบมะระขี้นกบนโต๊ะมาดู) น้ำมันคงฉ่ำ จะไม่ขมเท่าไหร่ แต่หากลูกเล็กๆจะขมมาก เขียนบอกมาว่าอันนี้คือดอกดอนญ่าควีนสิริกิติ์ มะระมาจากสวนทำกินด้านหลัง พูดถึงตรงนี้ก็อยากจะย้ำพวกเรา ใครขี้เกียจไม่ค่อยชอบกสิกรรม ให้เปลี่ยนเสีย เปลี่ยนจิตใจเหมือนกับหมอฟากฟ้าหนึ่ง ที่เกิดมาจะเป็นชาวกสิกรรมทั้งชาตินี้ชาติหน้า โควิดมันมาแจ้งเตือนเลยว่า ไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่กว่าอาหาร อาหารมันมี 4 อย่าง อาหารที่เกี่ยวกับการกินการใช้ก็คือ กวฬิงการาหาร คือคำข้าวที่จะเอาไปเลี้ยงร่างกาย ส่วนอาหารอย่างอื่นละเอียดไปอีกเป็นผัสสะ เจตนา ต้องดูอาการของเจตสิก ต้องมีผัสสะเป็นเครื่องอาศัย หากไม่มีอาหาร 4 นี้ไม่มีทางปฏิบัติบรรลุธรรม
อาหารคือคำข้าว ให้ปฏิบัติ มัตตัญญุตาจภัตสมิง ให้พิจารณาเรื่องอาหาร เพราะฉะนั้นคนที่ไม่รู้อย่างพันตำรวจตรีอนันต์ เสนาขันธ์ บอกว่าพวกเราพูดอะไรตะกละตะกรามพูดแต่เรื่องกิน ไม่ไปนั่งสมาธิแล้วก็บอกว่าตัวเองบรรลุธรรม เลยตั้งฉายาให้อาตมาว่าศาสดามหาภัย
ก็ขอย้ำจริงๆเลยว่า ผู้ที่ยังไม่ขยันก็ดี ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป อย่าไปเสียใจว่าเราจะกลายเป็นคนที่เป็นชาวไร่ชาวนา อย่าไปเสียใจอย่าไปเสียดาย ชีวิตชาวไร่ชาวนานี้สูงส่งเป็นคนมีกุศลสูงมากเป็นคนที่จะได้กุศลสูงมาก กุศลเป็นเรื่องของโลกีย ถ้าหากเรียนรู้ปรมัตถ์ด้วยโลกุตระด้วยก็มีทั้งกุศลและล้างกิเลสตัวเองเป็น เป็นชาวนาที่เป็นอรหันต์ ชาวนาไม่มีกิเลสแล้วจะสุดยอดเลย แล้วโลกทั้งโลกจะต้องอาศัยสิ่งเหล่านี้
เมืองไทยเป็นเมืองมีสัปปายะ 4
มีอาณาบริเวณสถานที่เสนาสนะสัปปายะที่เหมาะสมที่จะสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหาร กสิกรรม
มีบุคคลสัปปายะ บุคคลก็คือพวกเรานี่แหละเป็นโลกุตระบุคคล เป็นอริยะที่แท้จริง เป็นผู้ที่รู้จักธรรมะพระพุทธเจ้า ที่จะไปแพร่กระจายความ
มีอาหารสัปปายะเป็นเครื่องอาศัย ก็มีทั้งกวฬิงการาหาร ผัสสาหาร มโนสัญเจตนาหาร วิญญาณาหาร
กวฬิงการาหาร คืออาหารที่คนและสัตว์ ต้องเป็นขั้นเวไนยสัตว์ขึ้นไปถึงจะสอนเรื่องปรมัตถ์เรื่องโลกุตรธรรมได้ แล้วก็จะสอนได้เรียนได้ มีบุคคลดีมิตรสหายดีพร้อมกันช่วยกันไปหมดแล้วก็มีธรรมะสัปปายะ เป็นโลกุตระธรรมเลย แยกโลกียะแยกโลกุตระได้ชัดเจน
มาถึงวันนี้แล้วอาตมาทำงานมา 50 ปีอาตมาประสบผลสำเร็จจริงๆพวกคุณนี้รู้แล้ว รู้แล้วเป็นพระอรหันต์แล้วด้วยถึงแม้ยังไม่เป็นอะไรกันก็มี ศีลสามัญญตา ทิฏฐิสามัญญตามีสัมมาทิฏฐิที่จะปฏิบัติไป มีบัญญัติภาษาพอที่จะทำอาศัย ปฏิบัติไปจนบรรลุสูงสุด
เป็นแต่เพียงว่าบุญและกุศลเรายังไม่ถึง บุญก็คือการสร้างพลังงานบุญ ของตัวผู้ปฏิบัติเองคือตัวเรา ยังไม่สมบูรณ์จริงยังไม่บริบูรณ์จริงทั้งนั้นแหละ มันก็เลยยังไม่ได้ แล้วมันได้แล้วมีผู้ได้แล้ว เป็นหมวดหมู่เป็นอยู่อย่างพวกคุณนิมั่นใจจะชนะ
วันนี้อาตมาจะอธิบายรุ่นนี้ไปสู่ต้นทางต้นทำต้นธาตุต้นธรรม ที่จะเข้าใจดีๆ ถึงความเป็นธาตุถึงความเป็นธรรม แล้วจะเอาไปปฏิบัติได้ ซึ่งคำที่จะเป็นต้นธาตุต้นธรรม ที่สำคัญก็คือ
กายธรรม หรือธรรมกาย หรือกายธาตุ ธาตุกายนี้
ชาวอโศกเห็นต่างจากคนทั้งโลกถูกต้องไหม
_Super Wow ซุปเปอร์วาว : การสวดมนต์ของพวกมึง ไม่ช่วยให้สมองเหี้ยๆดีขึ้นเลย พวกมึงก็ยังเห็นต่างกับคนทั้งโลก เค้าเห็นว่าดี พวกมึงเห็นว่าไม่ดี เป็นเหี้ยอะไรของพวกมึง พวกมึงประกาศตัวเองว่าเป็นพระ แต่กลับไปเห็นดีเห็นชอบกับการยึดอำนาจ ขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
พ่อครูว่า…ขอพูดคำความตามที่เขาเขียนมา พวกเราฟังก็อย่าไปมีใจสะใจหรือรังเกียจ คนทั้งโลกเป็นปุถุชนเยอะ พวกเราก็ต้องเห็นต่างจากพวกคนทั้งโลก เพราะพวกเราเป็นพวกอยู่ปลายอยู่ยอดพีระมิด อยู่ส่วนบนสุดแหลม มันก็ต้องน้อย คนทั้งโลกมันต้องส่วนใหญ่ ไล่ลงไปมาหาฐานปิรามิด เรื่องสัจจะคนที่เป็นอารยะเป็นอรหันต์เป็นผู้หลุดพ้นมันจะไปมีส่วนมากได้อย่างไร มันมีเป็นส่วนน้อยแน่นอนพูดไม่ผิดหรอก
และพวกเราก็ต้องเห็นต่างจากคนทั้งโลก คุณต้องคิดให้ดี เข้าใจให้ดีๆ ว่าจริงนะ คุณซุปเปอร์วาว แล้วคนที่มีจำนวนน้อย กับคนที่มีทั้งโลกจำนวนมากเป็นปุถุชน คนจำนวนน้อยนี่แหละเป็นอริยะ หากคุณจะมัวติดอยู่กับคนส่วนมากที่เป็นปุถุชน คุณก็อยู่ที่ตีนพีระมิด อยู่ฐานพีระมิด
ไปถามหนอนที่มันอยู่ในกองขี้กำลังกินขี้ เทวดาก็บอกให้ออกจากกองขี้ หนอนก็จะบอกเทวดาว่า เทวดาจะรู้อะไร หนอนก็อยู่สบายกับขี้แล้วอยู่กับฐาน(ส้วมโบราณ) ขี้ลงไปก็กองเบะๆ แล้วแมลงวันก็จะอาศัยเป็นที่เพาะเชื้อไข่มีหนอนออกมากินขี้อยู่อย่างนั้น หนอนก็ต้องอร่อยกับขี้ต้องกินขี้อยู่ตรงนั้น
พวกเราเห็นว่าความรวยไม่ดีเป็นต้น เห็นว่าความเป็นโลกีย์ไปติดยึดลาภยศสรรเสริญโลกียสุขว่าไม่ดี เขาก็สำเนียงส่อภาษากิริยาส่อสกุล
การเลือกตั้งเป็นเรื่องจำนนไม่ใช่เรื่องประชาธิปไตย
พ่อครูว่า…ก็ขออาศัยที่คุณเขียนมาอธิบาย
เขาว่า พวกมึงประกาศตัวเองว่าเป็นพระ ขออภัย พวกเราไม่ได้ประกาศตัวว่าเป็นพระ แค่นี้คุณก็ฟังไม่ได้ศัพท์จับเอามากระเดียด เรามาประกาศตัวว่าเราเป็นสมณะ ไม่ใช่พระ เพราะว่าเราเคยร่วมอยู่กับพระเขาเขาก็ไม่ให้ใช้ก็ไม่เป็นไรเราก็ไม่เอา เราก็จะมาใช้สมณะ เขาไม่ให้ประกาศด้วยเราก็ไม่ประกาศ บางทีก็มีคนมาเรียกบ้าง อาตมาก็ฟังพวกเราก็มีคนมาเรียกพระ เราก็อนุโลมไป ซึ่งเราตกลงกับทางการแล้วว่าห้ามเรียกพวกเราว่าเป็นพระต้องมาเรียกว่าเป็นสมณะเราก็ตกลงแล้ว
ที่บอกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง คำว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตยขี้หมา เป็นประชาธิปไตยที่จนแต้มไม่มีทางออกเป็นความมักง่ายตื้นๆ ที่บอกว่ามวลประชาชนก็คือคน ให้คนมา เหมือนหุ่นกระบอก ให้คนมาลงคะแนนหย่อนบัตร แต่ในกระบวนการองค์ประกอบการเมืองของการจะให้ลงคะแนน คนจะมาลงคะแนนด้วยความไม่รู้ด้วยความโง่ด้วยการถูกอำนาจเงิน ถูกอำนาจของอำนาจหลักเกณฑ์ครอบงำ กดดันบังคับให้มาลง คนที่มาลงคะแนน มาลงบัตรเลือกตั้ง ที่จะมาด้วยความรู้จริงๆเลย ความมีปัญญาความรู้ที่ว่าจะมาเลือกอะไรเลือกใครและคนนั้นก็เป็นคนที่ถูกต้อง เลือกคนดีคนที่มีคุณภาพเพื่อจะให้เขาทำหน้าที่ ส.ส. หรือเลือกประธานาธิบดีไปทำหน้าที่ บางประเทศก็เลือกนายกรัฐมนตรี นอกนั้นก็มีการเลือกตั้งย่อยอีกเยอะแยะ ก็เป็นวิธีง่ายๆ ให้คนออกกฎหมายเป็นการออกกฎหมายให้คนไปทำ เท่านั้นเอง
เพราะฉะนั้นในการลงคะแนนเลือกตั้งจากการเลือกตั้งแล้วมาอ้างว่าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย มันเป็นประชาธิปไตยของคนสุดทางเลือก ไม่มีทางเลือก เป็นประชาธิปไตยที่หมดแล้ว หมดจากการเลือกตั้งเขาจะไม่มีความรู้ในเรื่องความเป็นประชาธิปไตยที่เป็นเนื้อหาเลย พวกที่ได้รับเลือกตั้งก็จะมาบริหารประเทศ อย่างที่เขามีความรู้เขามี อัตตา เป็นอัตตาเป็นผู้เผด็จการ เหมือนอย่างกับสหรัฐอเมริกาเป็นต้น สหรัฐเป็นจอมเผด็จการแท้ๆ แต่มันติดอยู่ที่ให้ประชาชนมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงให้มีอำนาจ แล้วประชาชนมีอำนาจที่ไหน ไม่มีอำนาจหรอก มันมีแทคติกมีกลเม็ด มีกลวิธี
ประธานาธิบดีของสหรัฐ ที่ได้ใช้กำลังเงิน กำลังโครงสร้างเครือข่ายของประชาธิปไตยทุนนิยม ประชาธิปไตยอำนาจนิยม ประชาธิปไตยของอเมริกาครบพร้อม 1. อธิปไตยของทุนนิยม 2. อำนาจประชาธิปไตยอำนาจนิยม สร้างอาวุธยุทธภัณฑ์มาบังคับโลก เป็นประชาธิปไตยบริโภคนิยม เป็นประชาธิปไตยสุขนิยม อเมริกานี้หลงทุนนิยม คะแนน 4 เต็มนี้ก็อยู่นอกเขตเทศบาลความเป็นประชาธิปไตยไปไหนๆ
แต่เขาไม่รู้ตัวไม่รู้จักสาระสัจจะของมันที่แท้จริง เพราะฉะนั้นเขาจึงเป็นคู่แข่งของเกาหลีเหนือ เป็นคู่หูและคู่แข่ง เขาเรียกว่าคู่ตบจูบ ที่นิยมและฮิตกันในโลก เป็นภาวะสิริมหามายา เล่นกล คนดูก็สนุกดีจะเป็นอะไรกันแน่ ก็ดูว่าคู่นี้เขาจะรักหรือจะฆ่ากัน หรือพอๆกัน คือตัวเล็กกับตัวใหญ่ มันมีตัวอ้วนกับตัวผอม ขออภัยที่อาตมาใช้ภาษาสื่อให้ชัดๆ ไม่ได้ดูถูกดูแคลนเขาหรอก
เลือกตั้งนี้เป็นวิธีการสุดท้ายที่ไม่เหลือแล้ว หมดจากเลือกตั้งแล้วประเทศนี้ไม่รู้เรื่องกัน มันจะไหลล้มละลายไปเลย หมดจากเลือกตั้งแล้ว เขาไม่เหลืออะไรเลย ก็จะกลายเป็นสังคมอะไรก็แล้วแต่ทิฐิของประชาชนในนั้นจะเป็นอย่างนั้น แตกระแหงกันไปเยอะแยะ
แล้วเขาบอกว่าถ้าไม่มีการเลือกตั้งไม่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ
ประชาชนยึดอำนาจคืนจากรัฐบาลชั่ว
_แต่กลับไปเห็นดีเห็นชอบกับการยึดอำนาจ ขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
พ่อครูว่า…ถูกต้องชาวอโศกออกไปร่วมประท้วงรัฐบาล แม้จะไม่เป็นตัวเด่นแต่เป็นตัวหลัก เป็นตัวยืนหยัดยืนยันเป็นตัวบริการอยู่ในนั้น ใช้เวลาตั้งแต่ 2549 ถึง 2557 หลายรัฐบาลทำมา 3-4 รัฐบาล แล้วประชาชนนี่แหละ ไปยึดอำนาจ เพราะอำนาจเป็นของประชาชน แล้วประชาชนจะไปยึดอำนาจมันผิดตรงไหนล่ะ
แล้วยึดอำนาจชนิดที่ถูกต้องตามกฎหมายสากลด้วย ยึดด้วยความสงบไม่มีอาวุธ เอาความถูกต้อง เอาความจริงมาเป็นเครื่องยืนยันด้วย ประชาชนออกมายืนยันว่าคุณต้องออกไป เอาความจริงเป็นเครื่องยืนยัน เหตุการณ์จริงปรากฏการณ์จริงพฤติกรรมจริงหลักฐานจริง ที่รัฐบาลควรปฏิบัติประพฤติเอามายืนยันยืนยัน แม้ที่สุดมีผู้ช่วยยืนยันไม่ว่าจะเป็นศาลสถิตยุติธรรมช่วยยืนยัน หลักฐานตามที่ต่างๆ ก็เอาออกมาอ้างอิงเอามายืนยันหมด ว่าอย่างนี้ไม่ถูกต้องอย่างนี้ไม่ถูกต้อง
ตั้งแต่เป็นกฎหมายเล็กๆ เช่น ไปรับเงินจากการโฆษณาตอนเป็นนายกฯ ชิมไปบ่นไป ก็เลยต้องออกจากนายกก็ถูกแล้วมันเป็นกฎหมาย แม้แต่เล็กน้อยเท่านั้น แล้วคนก็บอกว่ามันไม่ใช่กำลังประชาชนมันเป็นการทำผิดกฎหมายของนายก นี่ก็คือพวกที่ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุอันนี้จึงมีอันนี้เป็นอิทัปปัจจยตาเขาไม่เข้าใจหรอก ผลที่สุดก็คือคุณก็ต้องออกไป แต่อำนาจของเมืองไทยประชาชนคนไทย จึงเป็นตัวอย่างของโลกที่ประชาชนทำรัฐประหารปฏิวัติไล่รัฐบาลที่เป็นรัฐบาลทรราชย์ ตั้งหลายรัฐบาล อย่างถูกต้องสวยงาม สำเร็จผลสูงสุด
สูงสุดจนกระทั่ง แม้แต่คณะประชาชนที่เป็นผู้ไปทำการปฏิวัติเองจริงๆ ยังไม่มีคนของคณะประชาชนนั้นไปรับหน้าที่ตำแหน่งอยู่ในรัฐบาลจนทุกวันนี้ ไม่มีนะ ชาวอโศกไม่มีใครไปรับตำแหน่งหน้าที่ในรัฐบาลตั้งแต่ประยุทธ์รับมา แล้วก็ไม่มีใครในชาวอโศกเข้าไปร่วมบริหารกับพลเอกประยุทธ์ ไม่ได้รับ แต่ทำงานรัฐบาล โดยที่ตัวเองไม่ได้รับประโยชน์ส่วนตนเลย นี่ไม่ใช่เรื่องอุปโลกน์มาเลยนะ แต่เป็นเรื่องจริง ไม่มีใครทำได้สวยเท่า
ตอนนี้รัฐศาสตร์ทั้งโลกยังไม่รู้ ว่ามีด้วยหรือที่ความสงบสยบลูกปืนลูกระเบิด เอาความสงบไปไล่รัฐบาล ที่มีทั้งทหารตำรวจ มีด้วยหรือแล้วไม่ได้เอาความรุนแรงไปใช้ด้วย เอาแต่ความจริงความสงบเป็นอาวุธ ความจริงกับความสงบเป็นไปได้อย่างไร ไปทำให้คนมีมีดมีปืนยอมรับ ปุถุชนจะไปยอมได้อย่างไร แต่คนไทยเป็นคนดี คนไทยเป็นคนดี พลังงานของจิตวิญญาณคนไทยร่วมกันแล้วเป็นพลังงานอำนาจบีบบังคับเป็นกำแพงไร้สภาพที่คนมองไม่ออก จึงทำให้พวกนั้นสู้ไม่ได้ สู้กับอำนาจทิพย์อำนาจที่มองไม่เห็นตัวเป็นกำแพงไร้สภาพมีพลังนะเป็นรังสี กัมมันตภาพรังสี ที่พวกนี้ต้องถูกดันออกไป
นิมนต์พ่อครูจิบน้ำ
สมณะฟ้าไท…ที่ทำเนียบขาวของอเมริกาก็ติด covid กันทั้งทำเนียบ
พ่อครูว่า…โควิด เป็นเครื่องยืนยันว่าชาวอเมริกันไม่มีความรู้ ไม่มีปัญญารู้เรื่องประชาธิปไตยจึงปล่อยให้เกิดปัญหาขึ้นก็เลยเกิดความเสียหาย เพราะว่ามันอวิชชา
คุณหาว่า…รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ไม่ใช่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง เป็นรัฐบาลทหาร แล้วเอาอำนาจทหารมายึดอำนาจ
ซึ่งคนเข้าใจผิดทั้งหมด พลเอกประยุทธ์ไม่ได้ใช้อำนาจทหารไม่ได้เข้ามาปฏิวัติรัฐประหาร พลเอกประยุทธ์เป็นแต่เพียงผู้มารับไม้ต่อจากประชาชนที่เป็นผู้ทำรัฐประหารที่เป็นผู้ปฏิวัติไล่รัฐบาลออกไปตั้งหลายรัฐบาลแล้ว
ขอสรุปให้ฟัง
-
ไม่ใช่พลเอกประยุทธ์ทำการปฏิวัติ แต่เป็นประชาชนไปปฏิวัติรัฐประหารมา
-
การยึดอำนาจขับไล่รัฐบาลที่มาจาการเลือกตั้ง เอาอำนาจประชาชนหรืออำนาจประชาธิปไตยเองรวมกันเป็นล้านคนออกมาไล่
สรุปตรงนี้ว่า 1 พลเอกประยุทธ์ไม่ใช่เป็นคนมาทำรัฐประหาร ไม่ได้ใช้อำนาจทหาร แต่มาขออำนาจต่อจากคุณนิวัฒน์ธํารง บุญทรงไพศาล ที่ขาดจากอำนาจแล้ว เคยเป็นผู้รักษาราชการแทน
ตั้งแต่ตั้งแต่บัดนั้น พลเอกประยุทธ์ก็ได้บริหารประเทศมา ตอนแรกต่างประเทศก็จะไม่รับรอง พลเอกประยุทธ์ก็ได้พากเพียรบริหารมา จนกระทั่งมีการเลือกตั้งอีก ก็ได้พลเอกประยุทธ์ มาเป็นนายกฯอีก ก็เป็นประชาธิปไตยที่สวยงามมาก ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด บริหารประเทศผ่านมาหลายปี ต่างประเทศก็ยอมรับว่าเป็นประชาธิปไตย ยอมที่จะร่วมมือประสานงานเกี่ยวข้องกันทั้งนั้น เป็นประเทศประชาธิปไตยในโลก และการบริหารก็ดีวันดีคืนสังคมดีขึ้น อยู่เย็นเป็นสุข ใช้หนี้ใช้สินไป จากรัฐบาลทักษิณทำให้เป็นหนี้ไม่รู้กี่แสนล้าน ใช้หนี้อยู่ตอนนี้ กิจการที่เคยเสียหายก็เอามาบูรณะขึ้น ที่จะสร้างใหม่ก็ให้ทันสมัยกับสังคมก็ทำขึ้นมาอีก เรียบร้อยสวยงาม
อย่างนี้เขาก็มองไม่ออกอีกก็คงเป็นคนตื้นเขินไม่รู้ลึกซึ้งถึงความเป็นสภาวะจิตประชาธิปไตย ของประชาชนบริหารเพื่อประชาชน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจสังคม การเมือง ซึ่งการเมืองต้องมีการขัดแย้งกัน ประชาธิปไตยต้องมีฝ่ายค้าน ต้องจ้างให้มีหัวหน้าฝ่ายค้านคณะฝ่ายค้านด้วยนะอย่างนั้นเลย มันต้องมีลักษณะ 2 ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว อันเดียวมันไม่ก้าวหน้า พัฒนาประชาธิปไตย
เพราะฉะนั้นประชาธิปไตยจึงต้องมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ใช่คำศัพท์ว่าราชประชาสมาสัย ราชากับประชาชนอาศัยซึ่งกันและกันมีอำนาจร่วมกัน จะบอกว่า ราชหรือกษัตริย์มีอำนาจเต็มแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ก็ไม่ใช่ จะบอกว่าประชาชนไม่ยอมรับนับถือกษัตริย์ เหมือนอย่างกับสหรัฐอเมริกาเหมือนกับประเทศที่ไม่มีกษัตริย์ ก็ไม่ใช่
กษัตริย์ก็มีรัฏฐาธิปัตย์ประชาชนก็มีรัฏฐาธิปัตย์ซึ่งอาศัยกัน ราชประชาสมาสัย เป็นความสวยงามที่สุด อาตมาเรียกว่าประชาธิปไตย 2 ขา ต้องมีกษัตริย์เป็นหัวใจ เป็นวิญญาณของประเทศ แล้วกษัตริย์ก็ต้องทรงทศพิธราชธรรม เพราะฉะนั้นมันเป็นสัจธรรมที่คนต้องยอมรับนับถือเหมือนกับคนเหมือนจิตนิยามต้องมีนามกับรูปต้องมีจิตกับกาย
เรื่องของกายเป็นเรื่องลึกซึ้ง การไปนั่งดูลมหายใจ หากไม่รับรู้ถึงลมหายใจแล้วไม่รับรู้ภายนอกแล้วก็ไม่มีกาย ศูนย์แล้วศาสนาพุทธปฏิบัติธรรมไม่สัมผัสวิโมกข์ 8 ด้วยกายไม่ได้
_Verayut kager วีรยุทธ เคเกอร์ : เข้าใจผิด มีปัญญาเข้าใจได้แค่นั้น แล้ว พยายาม ยัดเยียดความเข้าใจผิดนั้น ให้ คนอื่นรับอีก ต่อให้ โพธิรักษ์ จะพูดว่า โจมตี อย่างไรก็ตาม คนที่เขาปฎิบัติเขารู้ว่าใช่ไม่ใช่ จริงไม่จริง ให้มีโพธิรักษ์ร้อยคนพูดก็ไม่มีค่าอะไรเลย
พ่อครูว่า…ต่อว่า(สำหรับคุณ)ที่โง่ คนที่ไม่รู้ก็จะเห็นว่าไม่มีค่าเลย แต่คุณฉลาดไม่พอที่จะรู้ค่า แต่คุณโง่พอที่จะรู้ค่าจริงๆ
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาตลอดมาแต่ไหนแต่ไร ในโลกสมบูรณาญาสิทธิราชย์พูดอะไรไม่ค่อยได้ โลกของคอมมิวนิสต์เต็มรูปครองเมืองก็พูดไม่ได้ เพราะฉะนั้นจะพูดได้ต้องเป็นโลกของประชาธิปไตย แม้แต่จีนจะต้องเอาสภาพประชาธิปไตยมาเป็นกระสาย เสร็จแล้วก็ซ้อนเชิงอยู่เป็นคอมมิวนิสต์ยุคใหม่ ประยุกต์ประชาธิปไตยมาใช้ ก็ดีที่สีจิ้นผิงในส่วนตัวเขาไม่เอาประโยชน์เข้าตัวเองเลยเขาทำเพื่อประชาชน เขาทำจริง ประชาชนก็เลยยอม แล้วก็ดีด้วยเจริญด้วย จนกระทั่งทุกวันนี้จีนเป็นเบอร์ 1 ของโลกแล้วนะ จนกระทั่งตอนนี้ทั่วโลกกำลังจะใช้ภาษาจีนเป็นภาษาสากลแล้วอย่างนี้เป็นต้น
SMS วันที่ 9-10 ต.ค. 2563
_boy2408 (บอย2408): ชาวอโศกส่วนมากจะตั้งใจมาจน …ซึ่งต้องกล้าทิ้งความติดยึดได้มากพอควร เพราะจะต้องไม่ใช้เงินเพื่อส่วนตัว และ พิสูจน์ความจริงในการทำความดีที่มากพอของแต่ละคนแต่ละท่านเพื่อเลี้ยงชีพตน…อย่างพอเหมาะ…
พ่อครูว่า…ตอนนี้พักยกการพูดเรื่องประชาธิปไตยก่อน สรุปอีกทีว่าต้องดูการเมืองของประเทศไทยต่อไป คุณประยุทธ์ก็อายุยังไม่ถึง 70 ตอนนี้ 66 ปี ยังหนุ่มแน่นอยู่เลยยังไปได้อีก ดูท่าทางก็รู้สึกว่ายังไม่ท้อแท้ท้อถอย ไปอีกสัก 10 ปีเป็นอย่างน้อย เป็นนายกฯอีกสัก 10 ปี ที่ทำอยู่นี้เข้าตา พูดมาหลายทีแล้วว่านายกทั้ง 29 คนเท่าที่อาตมาเกิดมา ตั้งแต่พศ. 2475 ที่เปลี่ยนแปลงการปกครองก็ดูนายกรัฐมนตรีที่ดูมา ก็มีนายกฯ 2 คนที่อาตมาดูจะพอใจ คือนายกฯสัญญา ธรรมศักดิ์ กับนายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา
แต่คนที่เข้าตาอีกคนก็เสียชีวิตไปแล้วคือนายกฯสัญญา ที่ยังอยู่คือนายกฯประยุทธ์ก็ทำต่อไป
คนที่บอกว่าดูออกว่าใช่หรือไม่ใช่ คุณเอาอัตโนมัติของคุณเป็นเครื่องตัดสิน คนที่มีภูมิธรรม ยังไงเขาก็เข้าใจอย่างนั้น มีปฏิภาณอย่างนั้นมากเขาก็จะยิ่งชัดเจน โจรเขาก็มีปฏิภาณอย่างโจร ว่าอย่างนี้ใช่ ฝีมือยิงปืนยังไม่ใช่อย่างนี้เก่ง ฝีมือเตรียมการโกงพิเศษยิ่งเก่ง ว่าอย่างนี้ใช่มันก็ถูกแล้วไง คนที่เอาธรรมาวุธเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ความสงบเป็นเรื่องใหญ่ว่าอย่างนี้ก็ใช่ คุณมองออกหรือไม่ว่าความสงบเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มีสักนิดนึงหรือไม่
หรือว่าการบริหารที่เป็นประชาธิปไตย คุณจะพอมองออกหรือไม่
ก็มีเรื่องของธรรมาธิปไตย ท่านพุทธทาสมาพูดเป็นภาษา ศีลธรรมไม่กลับมาโลกาจะวินาศ ก็พูดถูกและใช่ ถ้าเอาของพระพุทธเจ้าคือ โลกาธิปไตย อัตตาธิปไตย ธรรมาธิปไตย
อธิปไตยคืออำนาจ รู้ว่าอำนาจของโลกคืออะไร อัตตาคืออะไร อำนาจของอัตตาคืออะไร คนที่ใช้อำนาจของโลก เอาโลกล้อมเมือง ก็เอามวลชนใหญ่ มาเป็นตัวครอบงำ หรือเอาอำนาจอัตตาตัวเองเป็นอำนาจบาตรใหญ่อย่างที่ทักษิณทำ หรือแม้แต่สหรัฐอเมริกา แม้แต่โดนัลด์ทรัมป์ ที่กำลังพยายามทำอยู่บัดนี้ หรือว่าแม้แต่โจไบเดนก็มีนัยยะเช่นนั้น อาตมาถือว่าเป็นความเสื่อมลงไปของประชาธิปไตยโดยสหรัฐอเมริกาเป็นตัวอย่างอันแรกที่ดูง่าย เพราะอำนาจของทุนเอาอำนาจของอาวุธอะไรต่างๆนานา หรือว่าหาพรรคพวกในโลก มีพรรคพวกเยอะนะสหรัฐเนี้ย ประเทศต่างๆกลัวเพราะว่าเขามีอาวุธ เขาสร้างอาวุธได้ยอดเยี่ยม แล้วก็แฝงไว้ที่ NASA เขาเก่งด้านเทคโนโลยี
ปหาน 5 จะมีได้ต้องรู้จักกายที่เป็นสอง
จะมาตั้งใจจะพูดเรื่องของกาย
คำว่ากายคำนี้ เป็นคำที่ลึกซึ้งเป็นคำที่ยิ่งใหญ่ ถ้าไม่สามารถรู้จักรู้แจ้งรู้จริง จนบริบูรณ์ในความเป็นกาย เพียงพอแล้ว ไม่สามารถแยกกายแยกจิต
-
แยกให้เป็นอุตุนิยามไม่เข้าใจความหมายของอุตุนิยาม พืชนิยาม จิตนิยาม แล้วก็มีกรรมนิยาม ธรรมนิยาม อีก 2 ตัว หากไม่เข้าใจถ้าอย่างนี้จะบรรลุธรรมเป็นอรหันต์ไม่ได้เด็ดขาด
สมมุติบัญญัติ คำว่ากายก็ต้องเข้าใจให้มันสมาธิบริบูรณ์เพียงพอที่จะสามารถทำใจในใจ การทำใจในใจไม่ใช่สมมุติ ทำใจในใจเป็นการปฏิบัติเข้าไปหาสภาวะธรรมถึงขั้นปรมัตถ์ ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วจะไม่สามารถที่จะทำให้พลังงานจิต แปรสภาพมาเป็นอุตุ หรือแปรสภาพมาเป็นพีช อุตุก็คือดินน้ำไฟลมวัตถุ พีชก็คือ พืชพันธุ์ธัญญาหารที่เป็นชีวะไม่มีเวทนาไม่มีวิญญาณแต่มีสังขารและมีสัญญา
กายกับจิตจึงมี 2 อย่าง ภาษาบาลีมีคำใหญ่เรียกว่าเทวะแปลว่า 2 หรือภาวะ 2 เป็นคำที่ยิ่งใหญ่สำคัญที่สุด ที่ผู้ที่ไม่สามารถที่จะแยกไม่เป็น ผู้ที่แยกออกได้แล้วก็จะต้องศึกษา ให้สมบูรณ์ด้วยสัมมาทิฐิ แล้วก็ปฏิบัติไปตลอด เพราะว่ามันละเอียดในความเป็นสังขารปรุงแต่งมีความซับซ้อนมาก เมื่อมันปรุงแต่งสังขารกันอย่างสนิทเนียนก็ต้องแยกออกกันยาก และอยากให้รู้ปลายรู้ต้นรู้กลางอย่างชัดเจน จึงจะสามารถบรรลุนิพพานได้เป็นขั้นๆตั้งแต่ โสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล …ผู้ที่เป็นอรหันต์คือผู้ที่รู้กิเลสตัวขอตัวเองทั้งหมด แล้วก็สลายดับกิเลสตัวของเองทั้งหมดได้จนสิ้นอาสวะ แม้ยังไม่ถึงขั้นสิ้นอนุสัย แค่สิ้นอาสวะก็ถือว่าเป็นพระอรหันต์แล้วเป็นปัญญาวิมุตแล้ว
ฉะนั้นนัยยะละเอียดของ อาสวะก็ดี อนุสัยก็ดี กิเลสที่เป็นขั้นอาสวะ มันเป็นกิเลสที่ทำให้ตัวชีวะ ของเจ้าของจิต ถ้ายังไม่ดับอาสวะ มันจะยังมีเชื้อของกิเลส เมื่อดับอาสวะแล้วเชื้อของกิเลสมันหมดแรง ที่จะโตต่อไป มันจะมีพลังงานหรือไม่อยู่ ไม่ถึง 5 ใน 10 เพราะฉะนั้นปล่อยให้มันอยู่มันก็ไม่กำเริบขึ้นมาใหม่ เพราะมีปัญญารู้พอที่จะทำให้มันไม่กลับกำเริบ
ผู้ที่พระพุทธเจ้ารับรองว่าเป็นพระอรหันต์แล้วคนนี้ไม่มีกลับฟื้น ไม่มาฟื้นหาปุถุชนชาวโลกีย์ ไม่มีฟื้น หมดอาสวะแล้วไม่มีฟื้น มีแต่เชื้ออยู่เท่านั้นเอง เป็นแต่เพียงเหลืออนุสัย
อนุสัยจึงมีสภาวะ 2 ..โพธิสัตว์จะรู้จักอนุสัยแล้วอาศัย สยะ ที่แปลว่าตัวตน อาศัยตัวนี้ตัวเล็กที่สุด เอาอันนี้เป็นตัวอนุตาม ทำงานไป
ยังรู้สึกตัวเองพูดไม่เก่งในการบอกความแตกต่าง อนุสัยกับอาสวะ
สุดท้ายผู้ที่หมดอนุสัยแล้วเป็นผู้อุภโตภาควิมุติแล้วก็ต้องอาศัยตัวน้อยนี่แหละ ไม่มีพยัญชนะจะเรียกแล้ว ก็เรียกอนุสัยนี่แหละ ไอ้น้อยสัยหรือไอ้สัยน้อย ก็อาศัยพยัญชนะว่า อนุ หรืออณู ตัวเล็ก ก็อาศัยปรมานุสัยก็ได้
ผู้ที่ไม่สามารถแยกกายแยกจิตได้จริงๆ จะไม่สามารถรู้เมื่อไหร่เป็นกายเมื่อไหร่ไม่เป็นกาย ตัวนี้แหละคุณจะต้องจัดการความเป็นกายไม่ให้เป็นกายได้ตั้งแต่คุณยังไม่ตาย คุณยังไม่ตายจะมีกายอาศัย กับ ไม่มีกาย
ไม่มีกายคือจะมีส่วนในชีวะของคุณนี่แหละแต่เป็นพีชะ
ยกตัวอย่างมูลกรรมฐาน 5 เมื่อไหร่เป็นกายเมื่อไหร่ไม่เป็นกาย
กายจะต้องมีเวทนา มีจิต กายจะต้องมีความรู้สึก จึงจะเรียกว่าเป็นกาย เมื่อมันไม่มีความรู้สึก เช่นเล็บส่วนที่ยาวออกมาพ้นปลายประสาท มันไม่ใช่กายแล้ว เพราะว่ามันไม่มีเวทนาแล้วไม่มีความรู้สึกมันเป็นเพียง พีชะ
คำว่า กาย คำนี้ พีชะ จึงเป็นคำกึ่งๆ เพราะยังไงมันก็ติดอยู่กับร่างของเรา ผมที่เราไม่ตัดออกไป ขนส่วนที่ไม่มีเวทนา ฟันที่ไม่มีเวทนา หนังก็ที่ไม่มีเวทนา อันนี้ยากหน่อย หนังที่เป็นผิวนอกประสาทรับรู้แล้วก็ขูดออกได้ บางคนหนังเท้าหนาๆ ตัดออกมาเป็นแผ่นๆได้เลยนะอย่างนี้เป็นต้น
ถ้าคุณเองยังไม่เข้าใจว่าเมื่อใดเป็นการเมื่อใดไม่ใช่กาย จะไม่เป็นกายคือ คุณต้องทำความไม่สุขไม่ทุกข์ไม่มีเวทนาสุขทุกข์ คุณเป็นอุเบกขาคุณมีจิตฐานนิพพาน จะไม่มีภาวะ 2 ไม่มีภาวะสุขทุกข์ ไม่มีภาวะชอบชัง ไม่มีภาวะผลักไม่มีดูด ไม่มีคู่เป็นภาวะเดียว อาศัยมันเฉยๆกลางกลางอุเบกขา
ข แปลว่า ว่าง…สุ แปลว่าดี สุข แปลว่า ว่างนี่แหละดี อาตมาก็ขยาย อุเบกขามาก่อน แต่วันนี้ไม่ขยาย จะมากเรื่องไป
คนที่รู้จักสภาวะและพยัญชนะอย่างดี โดยเฉพาะรู้จักสภาวะดีอย่างเช่นอาตมารู้จักสภาวะดี พยัญชนะอาตมาก็ยังไม่เก่งมาปางนี้ก็ลืมไปเยอะ เอามาใช้ก็สับสน ซึ่งท่านผู้ที่รู้ก็จะมา ท้วงอาตมา บางอย่างอาตมาก็อนุโลมไปกับเขา บางอย่างก็ไม่อนุโลมอย่างเช่นคำว่ากาย คำว่าบุญ
กายเขาเข้าใจว่าเพียงสรีระ เป็นภายนอก ดินน้ำไฟลมเท่านั้น ไม่มีจิตวิญญาณเขาจะยืนยันอย่างนั้น อาตมาก็บอกว่า หากคุณเข้าใจกายว่าเป็นเพียงวัตถุไม่มีจิต เท่านี้คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นพระอรหันต์ อีกกี่ชาติๆก็ไม่มีสิทธิ์เป็นพระอรหันต์ ถ้าเข้าใจ กายคือสรีระอย่างเดียว หากเข้าใจกายคือจิตอย่างเดียวก็ยังพอจะปฏิบัติธรรมบรรลุกายสักขีได้
ผู้เป็นกายสักขี คุณจะต้องผ่านทิฏฐิปัตตะก่อน ทิฏฐิคือความเห็น คุณต้องมีสัมมาทิฏฐิ ปัตตะแปลว่ารู้ เข้าถึง ต้องบรรลุทิฏฐิที่สัมมานี้ ปัตตะคือบรรลุ
สูงกว่าศรัทธาวิมุติ
สัทธาวิมุตคือสายศรัทธา เขามีวิมุติแต่ไม่มีธาตุรู้ไม่มีปัญญาไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเท่ากับทิฏฐิปัตตะ ถึงได้ยังไม่ชื่อว่า ทิฏฐิ แต่คุณดับวิมุติได้ ดีไม่ดีวิมุติแบบอาฬารดาบส อุทกดาบส วิมุติแบบมหาบัว วิมุติแบบอาจารย์มั่น ขอยืนยันว่าสายมหาบัวไม่เก่งเท่า อาฬารดาบส อุทกดาบส หรอก สะกดจิตตัวเองไปได้ไม่ถึงขั้นนั้น แม้แค่ฌานโลกีย์ก็ไม่ถึงฌาน 7-8 เท่า อาฬารดาบส อุทกดาบส อาตมาทำได้ แต่มันอธิบายยากมากเลย อธิบายสัตตาวาส 9 จะอยู่ในนี้หมดเลย ซึ่งยังไม่อธิบายวันนี้
ผู้ที่มีกายสักขี คืออาสวะบางอย่างหมดสิ้น คุณต้องมีความรู้เรื่องกาย คุณจึงบรรลุสิ้นอาสวะได้ ถ้าคุณไม่มีความรู้ เป็นสัมมาทิฏฐิพอ ไม่รู้กายจริง ไม่พ้นสักกายทิฏฐิ ไม่มีทางที่คุณจะเป็น กายสักขีได้เลย เพราะสังโยชน์ข้อแรก กายของตน สักกะคือของตนทิฏฐิคือความรู้ความ คุณยังแยกความเป็นกายไม่ได้ เข้าใจผิดว่า กายคือสรีระ ก็ปิดประตู
ส่วนปัญญาวิมุติเป็นผู้ที่สิ้นอาสวะก็เป็นพระอรหันต์ได้
ส่วนสายสัทธานุสารีนี้ มันยังไม่ง่าย ยังทำปัญญาไม่ชัดเจนพอ จะมาถึงทิฏฐิปัตตะก็จะยาก จะได้แค่สัทธาวิมุต ได้แค่กดข่ม จะเข้าใจเรื่อง ปหาน 5
-
วิกขัมภนปหาน (ละด้วยการข่มใจ-ใช้เจโตนำหน้า) .
-
ตทังคปหาน (ละได้เป็นครั้งคราว-ใช้ปัญญาอบรมจิต) .
-
สมุจเฉทปหาน (ละด้วยการตัดขาด สลัดออกได้เก่ง) .
-
ปฏิปัสสัทธิปหาน (ละด้วยการสงบระงับ ทวนไปมา) .
-
นิสสรณปหาน (สลัดออกได้เองทันที เก่งจนเป็นปกติ)