631007_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ บทกวีศาสตร์คืออาวุธหรือความรู้
ดาวโหลดเอกสารที่ https://docs.google.com/document/d/1cDGZzUu5QRONu89l4ZOj_nNnjw5B9HmULHM4ACUexy4/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1d5q41EHtSgZOT5z85sDbT8Zfq_gbcYLp/view?usp=sharing
และยูทูปที่ https://youtu.be/itNYcCmrxKI
สมณะฟ้าไทว่า…วันนี้เป็นวันพุธที่ 7 ตุลาคม 2563 ที่บวรราชธานีอโศก 7-12 ตุลาคมนี้มีคำเตือนระวังน้ำท่วม เพราะว่า อุบลราชธานีเป็นจังหวัดรับน้ำจากจังหวัดต้นน้ำมา ส่วนโควิด เขาว่าหากตรวจจริง ในโลกน่าจะติดเชื้อไปแล้ว 100 ล้านคน แม้แต่ในประเทศไทยก็อาจมีเชื้อปะปนในเมืองไทยแต่ตรวจไม่เจอ มีทั้งภัยน้ำและภัยโควิด แต่ก็ไม่ร้ายเท่าภัยกิเลส
พ่อครูว่า…
SMS วันที่ 4 – 6 ต.ค. 2563
_Somchai Ph (สมชาย พีเอช ) : เมื่อก่อนเชื่อและศรัทธาในท่านมาก แต่เดี๋ยวนี้ไม่แน่ใจแล้ว ว่าท่านบรรลุจริงหรือป่าว เพราะระยะหลัง ๆ มานี้ ดูท่านหลง(เพี้ยน)ไปมาก ยิ่งเรื่องเลือกข้าง ยิ่งเห็นได้ชัด(กปปส)…
ไม่ต่างจากสำนักอ้อน้อยไม่มีผิด
พ่อครูว่า…ก็ไม่อยากพูดว่าตัวเองถูกอย่างนั้นอย่างนี้มันจะเหมือนเข้าข้างตัวเอง แล้วอันไหนผิดเพี้ยนอันไหนไม่เพี้ยน แค่ความเห็นที่คุณบอกว่าเลือกข้าง เรื่องการเลือกข้างในคนที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยเป็นคนเลือกข้าง ที่เป็นคนไม่เป็นกลางคือคำว่าเลือกข้าง
คำว่า
คำว่า กลาง มันไม่มีสาย มันไม่ใช่ทาง กลางคือจบไม่มีทางมันกลางๆ ตรงกลางน่ะ กลางมันไม่มีทางไม่มีสาย แต่หากมีทางก็ต้องมีข้าง แต่หากกลางก็ไม่ไปไหน ไม่มีซ้ายไม่มีขวาไม่มีบนไม่มีล่าง
_ประดิษฐ์ อินทหอม : ทีแรกคิดว่าใครไม่เคยฟังธรรมพ่อครูในช่วงสมัยแรก ๆ มาฟังธรรมพ่อครูในตอนนี้จะไม่เข้าใจ เพราะไม่มีลำดับ แต่ที่จริงพ่อครูเทศน์ก็มีลำดับในแต่ละครั้ง ๆ ขอให้ตั้งใจฟังเถิด สาธุ
พ่อครูว่า…ยังโชคดีที่มีพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ เมื่อกี้นี้ตอนเดินมาก็ยังพูดอยู่เลยว่า อาตมาจะถึง 151 ปีไหมมีคนไม่เชื่อว่าจะไปถึง อาตมาก็ว่าจะรอ151 หรือ 152 ก็ไม่มีปัญหาหรอก เป็นห่วงกังวลทำไมมีเท่าไหร่ก็พอถูลู่ถูกังไป ก็ไม่พอทุเรศทุรังการอะไร เอาเป็นไปได้ก็ดีแล้ว
_สุเทพ วิชาปฏิมานนท์ : กราบพ่อครับ ผมชอบฟังท่านมาก สอนไม่เหมือนใคร มีเหตุมีผล น่าเชื่อถือ
_Veraro ANN (เวราโร แอน) : ขอโอกาส ขอรับ ที่กระผมกล่าวว่า ปฏิจจสมุปบาทว่าเป็นทางสายกลางนั้น ลองตรวจสอบที่ ฉบับเล่ม 16 ข้อ 44 นะขอรับ ที่พระองค์ตรัสกับพระกัจจายนะ ขอรับ
กัจจานโคตตสูตร (พระไตรปิฎก เล่ม 16)
ความเป็นกลางคือไม่เข้าใกล้ส่วนสองใดๆ
ข้อ[๔๔] ดูกรกัจจานะ ส่วนสุดข้อที่ ๑ นี้ว่า สิ่งทั้งปวงมีอยู่ ส่วนสุดข้อที่ ๒ นี้ว่า
สิ่งทั้งปวงไม่มี ตถาคตแสดงธรรมโดยสายกลาง (พ่อครูว่า…ในพระไตรปิฎกไม่มีบาลีที่แปลว่าทางสายกลาง)ไม่เข้าไปใกล้ส่วนสุดทั้ง ๒ นั้นว่า (อุโภ อนฺเต อนุปคมฺม มชฺเฌน)
พ่อครูว่า…สองอย่างที่ไม่ไปเข้าใกล้ เช่น กามกับอัตตา รูปกับอรูป ก็ไม่ไปเข้าใกล้ สรุปแล้วอะไรมี 2 อย่างก็รู้ทั้งสองอย่างแต่ไม่มีทั้ง 2 อย่าง มีทั้งสองอย่างที่เขามีในโลก แต่ถ้าไม่มีความยึดเป็นเราเป็นของเรา คือ ความเป็นกลาง
กว่าอาตมาจะตายน่าจะอธิบายได้มีรายละเอียดยิ่งๆขึ้นอีก
ที่พระพุทธเจ้าตรัส สัจจะมีหนึ่งเดียวไม่มีสองจนกระทั่งสัญญายนิจจานิโลเก อัญญตร สัญญาย นิจจานิโลเก เว้นแต่ว่าความกำหนดหมาย สัญญาที่เที่ยงแท้แน่นอนแล้ว ซึ่งมีหนึ่งเดียว คือ ผู้ที่มีภูมิทำถึงขั้นนิพพาน ถึงขั้นอริยสัจ 4 จบรู้ทุกข์ รู้เหตุแห่งทุกข์ ดับเหตุแห่งทุกข์ ้ด้วยมรรคมีองค์ 8 อันเป็นทางปฏิบัติเอนกของพระพุทธเจ้าจบอริยสัจ 4 ผู้ใดถึงที่สุดอันนั้นแหละอันเดียวใครก็แล้วแต่ก็คือพระอรหันต์ ต้องเป็นพระอรหันต์ขึ้นไปจนถึงพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าไม่ใช่อรหันต์แล้ว แย้งกันหมดเถียงกันหมด ต่างกันหมดเลย เห็นไหม
มันเป็นนามธรรมอย่างยิ่ง มันเป็นคุณวิเศษอย่างยิ่ง แล้วก็ปฏิบัติได้ด้วยตนเอง ผู้ได้ด้วยตนเองนั่นแหละ ถึงจะเชื่อโดยไม่ต้องเชื่อใคร สุดท้าย เชื่อสิ่งที่ตนเองเป็น แม้แต่พระศาสดาก็ไม่ต้องเชื่อ เชื่อในสิ่งที่เรามีเราเป็น แต่มันเป็นอย่างไร ตรงกับพระศาสดาทุกพระองค์และที่เป็นพระอรหันต์แล้ว ตรงกับกาลามสูตร 10 ไม่ต้องเชื่อแม้แต่ครูของเรา ผู้เป็นศาสดาของเราก็ไม่ต้องเชื่อ มันเหมือนกันกับคนเย่อหยิ่งจองหอง
_สู่แดนธรรมว่า…ไม่ใช่จองหองแต่ว่าลูกศิษย์กับครูเข้าถึงสภาวะเดียวกันแล้ว
พ่อครูว่า…ก็หมด 0 ไม่มี 1 ไม่มี 2 แล้ว
พิจารณาการพลัดพรากจากสิ่งที่เรารักอย่างไร
_สุรภา ลิ้มวรรณเสถียร : กราบขอโอกาสค่ะ การสูญเสีย การพลัดพรากจากสิ่งที่เคยอยู่ จะรู้สึกเศร้าและกังวล หนูจะต้องพิจารณาให้เป็นสัมมาอย่างไร
พ่อครูว่า…คุณตรวจสอบสิ่งที่คุณเคยผ่านมาในชีวิตสิ แต่ก่อนเคยรักมีบ้างไหม แม้สิ่งที่เคยรักมากแล้วมันก็พรากไปแล้ว แม้ไม่เคยรักมากแต่ก็พรากไปแล้ว หรือรักนิดนึง แต่ตอนนี้มันก็ไม่มีแล้วมันก็พรากไปแล้ว อย่างหยาบกลางละเอียดเลย รักแรงรักมากรักหนัก ในชีวิตนี้มีไหม อย่างเด็กเขารักตุ๊กตาของเขา ตุ๊กตาของฉันตุ๊กตาของหนู ใครเอาไปไม่ได้เป็นตายฆ่ากันเลย มันมีไหม อะไรที่คุณเคยรักมาก หรือรักไม่มากก็แล้วกันก็พราก ไม่มีอะไรที่จะไม่พรากจากกันพระพุทธเจ้าตรัสเป็นคำตายไว้ คุณก็ต้องตรวจดู โอ๊..จริงนะ มันพรากจากกัน
หรือเอาชัดๆเลย อาหารคำนี้คุณกินเข้าไปอร่อย รสอร่อยมันก็อร่อย พอเลิกกินปั๊บรสอร่อยอยู่ที่ไหนบอกอาตมาซิ เมื่อกี้นี้ซาบซึ้งจะตายจะเป็น กับรสอร่อยนะ แล้วตอนนี้หยิบมาดูซิอยู่ที่ไหน อยู่ในความจำ คุณจำไม่ลืมๆๆๆๆ
อาตมาเคยแต่งเพลงไม่ลืมบางมด ให้สำนักเทคโนบางมด ไม่ลืมๆๆๆ ซาบซึ้งใจที่ควรคำนึงถึง…อะไร จำไม่ได้แล้ว เขาว่าเขาชอบเพลงแม่มูล แล้วเขาก็จะให้คล้ายๆเพลงนี้ สุนทราภรณ์ไปร้อง
พิจารณาไปไม่มีอะไรไม่พลัดพรากจากกัน แล้วจะเห็นเลยว่าไม่มีอะไรไม่พลัดพรากจากกัน สุดท้ายจบที่คุณจะปรินิพพานเป็นปริโยสานพลัดพรากจากทุกสิ่งในมหาจักรวาลในวัฏสงสารเลยอันนั้นแหละสุดยอด อาตมขอบอกล่วงหน้าเอาไว้ จะรู้จริงเลย พระอรหันต์ขึ้นไปทุกองค์ทำได้ปรินิพพานเป็นปริโยสานได้ แล้วแต่ท่านจะปรินิพพานเป็นปริโยสานเมื่อไหร่ ท่านบรรลุได้ก็เป็นอมตะบุคคล จะตายหรือยังไม่ตายเกิดอีกเกิดแล้วก็ได้ แต่กิเลสตายไม่เกิดอีก แต่ถ้าจะเกิดอีกเกิดแล้วก็ได้ รายละเอียดเป็นโลกุตระเป็นปรมัตถธรรม เป็นความรู้ที่อาตมามีเอามาอธิบายให้ฟัง เป็นธรรมะของพระพุทธเจ้า เพื่อยืนยันความเป็นโพธิสัตว์ปางที่ 7 ของอาตมา ส่วนคนที่บรรลุไปเรื่อยๆก็จะรู้ไปเรื่อยๆจะมีร่องรอยเป็นทิฏฐิสามัญญตา
_Jumbo Mobile (จัมโบ้ โมบาย) : หนูจะย้ายบ้านย้ายของไปอยู่บ้านราชได้เลยมั้ยค่ะ ติดต่อใครค่ะ
พ่อครูว่า…ติดต่อผู้ใหญ่บ้านเลย
_Warangkana Plachana (วรางคณา ปลาชนา) : กราบพ่อท่านค่ะ เราจะออกจากความเศร้าซึมหมดหวังสิ้นหวังจากการเจ็บป่วย ด้วยทำงานไม่ไหวบ้าง ทุกอย่างเหมือนมันรุมเร้า ทำให้ท้อแท้ สวดมนต์ก็แล้ว สมาธิก็แล้ว แต่ใจก็ยังเป็นทุกข์ กราบพ่อท่านช่วยชี้แนะด้วยเจ้าค่ะ
พ่อครูว่า…ก็มาอยู่กับหมู่ อย่าไปอยู่เดี่ยวอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวแล้วมันจะจม อยู่กับหมู่มิตรดีสหายดี หากพาอยู่หมู่ฟุ้งซ่านก็ไปกันใหญ่เหมือนกัน หรือไปอยู่กับคนที่นั่งหลับตาสะกดจิตมันก็จม อาจจะมีพลังของการสะกดเอาไว้ ชั่วคราวมันก็เป็นสมถะวิธี
อาตมายังดีอยู่อย่าง อาตมาผ่านมา สิ่งที่มันทำผิดอย่างโลกีย์เขาทำ เป็นมาอย่างที่เขาเป็น อาตมาก็เลยรู้ทั้งสองอย่างแต่ไม่ถึงขนาดหนักอย่างมหาบัว อาตมาไม่ได้เพ้อเจ้อฟุ้งซ่านอย่างมหาบัวซึ่งเป็นนิรมาณกายอย่างมากเลย ก็เลยสร้างพรรคสร้างพวกก็เลยมีอุปาทานหมู่มีสัมโภคกาย คนตาบอดจูงคนตาบอดไปดูหนังใบ้
ทำไมเดี๋ยวนี้คนไปนับถือไอ้ไข่กัน
_Phawini Thaoon (ภาวิณี ท่าอ่อน) : ขอถามพ่อท่านว่า ทำไมเดี๋ยวนี้คนหันไปนับถือไอ้ไข่คะ
พ่อครูว่า…น่าสงสารจริงๆคน เห็นแล้วก็น่าสงสาร ก็คือ อาตมาจะโทษก็ต้องโทษเถรสมาคม ไอ้ไข่นี้อยู่ในวัดนะ เจ้าอาวาสวัดรวยเละเลย ได้บาปกันไป จะบอกว่า ใส่อะไรไป ไม่รู้จะเอาอะไรไปวัดมันมากมายเหลือเกิน
สรุปแล้วก็คือสอนกันผิดหลงใหลในเดรัจฉานวิชา วัดวาอารามมันไม่ไหวจริงๆ เถรสมาคมก็ไปด้วยกันอะไรต่ออะไรไป หยาบนะจริงๆแบบไอ้ไข่มันก็ตื้นๆหยาบ ไม่ได้ลึกซึ้งละเอียดลออ ลมๆแล้งๆ หยาบๆ
สู่แดนธรรม…เป็นเครื่องชี้วัดว่าสังคมส่วนมากต้องการอยากได้เร็วๆ
พ่อครูว่า…มักง่าย เป็นความเป็นไปไม่ได้และมันก็ไม่รู้จะทำยังไงมันโง่ ก็น่าสงสาร ไม่รู้จะทำอย่างไรเราก็พยายามจะดึงคนเข้ามาสู่สัมมาทิฏฐิสิ่งที่ควรมีคนได้ควรเป็น แต่ว่าเสร็จแล้วก็ยังหลงใหลกระแสหลัก ที่พึ่งกันไม่ได้ ไม่ช่วยเหลือกันเลยจมไปด้วยกันด้วยหมดเลยก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร พูดไปก็เหมือนกับบอกว่าเราเก่งเราใหญ่ แต่เราก็ช่วยกันไป อย่างไรอย่างไรก็มาฟังทางโพธิรักษ์บ้าง ไม่ได้ไปเบ่งทับอะไร ก็อ่อนน้อมถ่อมตนอยู่นะ
_ชายพงไพร บุนิตระกูลพุทธ : เมืองเก่าเวสาลียุคนี้ ก็อยู่ใกล้ ๆ ศาลีอโศกครับ นิมนต์ให้พ่อครูเน้นเทศน์เรื่องการกินเจกินมังสวิรัติครับ เดือนนี้ครับ
พ่อครูว่า…เน้นก็ได้ แต่เราไม่ได้เปิดนะ งานเทศกาลกินเจปีนี้เราไม่ได้เปิดนะ เพราะเราเกรงใจคุณโควิด เราจะต้องระมัดระวัง ตอนนี้ก็น่าสงสารอยู่ที่อินเดีย ก็คล้ายๆของสายเถรสมาคมมีแต่สายมืด สายเจโต สายศรัทธา ส่วนทางสหรัฐ ไม่ใช่เจโต เป็นพวกฟุ้งซ่านลงความคิดลงเหตุผลประกาศปรัชญาศึกษาซึ่งความเฉลียวฉลาดอะไรเป็นโลกิยะ ฉลาดเฉโก
สิ่งเหล่านี้พูดไปก็เพื่อให้ศึกษาเรียน 2 ด้าน วิจัยสัจธรรมไปเรื่อยๆ
_ນາງເກດມະນີ ສູກສະຫວັນ · ກາບນະມັດສະການພໍ່ທ່ານດ້ວຍຄວາມເຄົາລົບຢ່າງສູງດົນແລ້ວບໍ່ໄດ້ມາກາບພໍ່ແຕ່ປະຕິບັດທັມຕາມພໍ່ຄືເກົ່າໂດຍບໍ່ຢຸດເລີຍມີບາງຄັງກໍ່ຜິດໆຖືກໆກໍ່ຈະພະຍາຍາມແລະມີຄວາມພຽງເພື່ອເດີນຕຕາມທາງພໍ່ຈົນຊີວິດບໍ່ມີຄິດຮອດຊາວບ້ານລາດທຸກຄົນເດີ
_(แปล)นางเกตุมณี สุขสวรรค์·กราบนมัสการพ่อท่านด้วยความเคารพอย่างสูง เป็นเวลานานแล้วบ่ได้มากราบพ่อ แต่ปฏิบัติธรรมตามพ่อคือเก่า(เหมือนเดิม)โดยบ่หยุดเลย มีบางครั้งก็ผิดๆถูกๆ ก็จะพยายามมีความเพียรเพื่อเดินตามทางพ่อ จนชีวิตบ่มี คิดถึงชาวบ้านราชทุกคนเด๊
นิมนต์พ่อครูจิบน้ำ
สมณะฟ้าไทว่า…เจ้าไข่ ที่ดัง เพราะว่าเขาขายทั่วประเทศ และสื่อสารมวลชนก็ประโคมข่าวกันทุกวัน
พ่อครูว่า…
พูดถึงเรื่องเศรษฐศาสตร์หรือเศรษฐกิจ เศรษฐศาสตร์ของสาธารณโภคี ที่เป็นเศรษฐศาสตร์ของพระพุทธเจ้า เศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ เป็น 3 อย่างในโลกที่เขาศึกษากันอยู่
อาตมาเอาจากหนังสือเราคิดอะไรที่ได้เขียนเป็นกวี ฉบับ 341 ธ.ค. 2561 ภาษาว่าศาสตร์คืออาวุธหรือความรู้
“ศาสตร์”คือ“อาวุธ”หรือ“ความรู้”
๑) ภาษาว่า“ศาสตร์”นี้ แสนยาก
คนโง่ใช้ผิดมาก จึ่งร้าย
เป็นทุกข์โทษหลายหลาก ในโลก
ชั่วลึกซ่อนย้อนย้าย ยากย้ำมายา
(๒) นานาหมายมุ่งชี้ ต่างนัย
ล้วนศาสตร์ต่างแตกไป เพื่อ“รู้”
“รู้”อะไรต่ออะไร ก็สาด ตะพึดเฮย
ศาสตร์จึ่งเลอะเละผู้ เลิศล้วนวิชา
(๓) “ปัญญา”คือ“ศาสตร์”ล้ำ โลกุตระ
แต่ปุถุก็“เฉกะ” เท่านั้น
คือหลงยึด“เทฺวะ” หนึ่งอยู่ นิรันดร์แฮ
บ่อาจ“ฉลาด”แบ่งขั้น แยกแม้เป็นสอง
(๔) ผองพาลใช้“ศาสตร์”สร้าง อาวุธ
หมายมั่นฆ่ามนุษย์ โหดแท้
หรือศาสตร์ฉลาดสุด เอาเปรียบ มิหยุดเลย
ศาสตร์ชั่วเช่นนี้แล้ ยากแก้โลกีย์
(๕) เพราะมีกันแค่รู้ ว่า“ศาสตร์”
แต่ไป่รู้ว่า“ฉลาด” แยกชั้น
“ฉลาด”โลกร้ายกาจ ด้วยกิเลส เลวเอย
ส่วน“ฉลาด”โลกุตร์นั้น หมดร้ายภัยผอง
(๖) สอง“ฉลาด”นี้แยกให้ ธีรเทอญ
พุทธพิเศษ“ศาสตร์”เกิน กล่าวอ้าง
ชาวอโศกใคร่ชวนเชิญ มาพิสูจน์ เราแล
ว่าเท็จจริงสิ่งสร้าง มนุษย์ให้เป็นไฉน
(๗) ทำไม“จน”สุขได้ มีใน โลกฤา
ไร้ทรัพย์แต่เจริญใจ หลอกมั้ง
ที่มนุษย์สุดแปลกใด วิมุติสุข ฉะนี้รา
แถมวิศิษฏ์วิสุทธิ์ทั้ง วิเศษฟ้า..เชิญมาดู
“สไมย์ จำปาแพง”
๒๒ พ.ย. ๒๕๖๑
[นัยปก “เราคิดอะไร” ฉบับ ๓๔๑ ประจำเดือนธันวาคม ๒๕๖๑]