ธ.ค.162020ศาสนา631216_พุทธศาสนาตามภูมิ เอื้อไออุ่น ปฐมอโศก ดาวโหลดเอกสารที่ https://docs.google.com/document/d/1N7aKEqYpdi06tRFRfRQToH1_s6HWTpXFq8cESH-HeHY/edit?usp=sharing ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1oep3dmc4ltQBAJulmOma12J0uJt7sVHu/view?usp=sharing และยูทูปที่ https://youtu.be/l7KMsvNEAGk เร่ิมก่อตั้งชุมชนชาวอโศกอย่างไร พ่อครูว่า…วันนี้เป็นวันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่บวรปฐมอโศก ปฐมอโศกก็นานมาแล้วไม่ได้มาที่นี่ก็ปีกว่า ปฐมอโศกเป็นชุมชนที่เจตนาจะตั้งขึ้นโดยการ ทั้งซื้อสถานที่ ที่ดิน แล้วก็ทั้งมาปลูก พากันมารวมตัวกันเลย ผู้ที่เต็มใจจะมารวมกันอยู่ที่นี่ รวมตัวกันเป็นชุมชนหมู่บ้าน เกิดจากการที่เราไปรวมตัวกันที่สันติอโศก คนก็มากันแน่น แล้วก็ขยายไม่ออก ตอนนั้นมีที่อยู่ประมาณไม่ถึง 5 ไร่ โดยที่มีคุณสันติยาเป็นคนบริจาคให้ มีที่กับเรือนไทยหลังหนึ่ง เกิดจากเรือนไทย 1 หลัง กับพื้นที่ไม่ถึง 5 ไร่ ซึ่งเราก็ไม่เคยมีความคิดจะมาตั้งชุมชนอะไร อาตมาไม่เคยมีแผนความคิดตั้งแต่ทำงานมาตั้งแต่แรกๆ ไม่ได้วางแผนอะไรเลยจะต้องไปเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มีแต่ทำงานเป็นปัจจุบันเป็นหลัก ก็บอกกันมาช่วยกัน ก็มากันแน่นวันเสาร์-วันอาทิตย์จะมากันเยอะ วันธรรมดาก็ทำงานกันไป จนกระทั่งมันแน่นมากคุณจำลองก็เลยเห็นว่าน่าจะมีที่ที่จะเป็นหมู่บ้านที่จะต้องเกิดหมู่บ้านชุมชนแบบหมู่พวกเรานี่แหละขึ้น ก็พยายามแสวงหา ทั้งคุณสันติยาด้วย ไปถึงแดนเดียวกับที่ธรรมกายเขาอยู่ด้วย คลอง 3 หาที่ก็ไม่ได้มันแพงไปหรือไม่เหมาะสมก็แล้วแต่ก็ไม่ได้ที่ตรงนั้น ไปไปมาๆก็มีคนมาเสนอขายที่นี่คือที่ปฐมอโศก จริงๆแล้วเราก็มีที่ตรงนี้แล้วทางด้าน ท่านสีลวัณโร ทางแม่ท่านกับน้องๆ มีที่ตรงนี้ 6 ไร่ ที่ปฐมอโศกที่แปลงแรกนี่ 6 ไร่ มามอบให้ เราก็มาอยู่กัน แล้วก็เริ่มต้น เป็นปฐมอโศก ก็ซื้อที่ติดกันนี่อีก 42 ไร่ก็เลยมีที่เกือบ 50 ไร่ จากนั้นเราก็ซื้อเติมตอนนี้เกินร้อยไร่แล้ว เป็นชุมชนหมู่บ้านเต็มรูป จริงๆแล้วสันติอโศกนั้นก็เป็นหมู่บ้านแต่เหมือนคนเมือง แต่ที่นี่เหมือนกับคนสามัญที่ทุกหมู่บ้านเขาจะเป็นอย่างนี้ได้ เราก็ไปมีที่นาแรงรักแรงฝัน เราทำนาทำสวนทำไร่อยู่ด้วย มีเนินพอกิน ทางเมืองกาญจนบุรี แต่ก่อนที่นี่ปลูกพืชผักไม่ขึ้น ขี้หมูเค็มมาก ปลูกพืชผักไม่ได้เรื่องไม่ได้กิน มันเค็มมีขี้หมูจัด ทั้งกลิ่นทั้งดินไม่ได้เรื่องเลย ก็เลยไม่เอาพืชพันธุ์ธัญญาหารที่นี่มาเป็นหลัก เราทำบ้างเล็กน้อยแต่ทำกันที่โน่นที่นาแรงรักแรงฝันหรือที่เนินพอกิน ได้พืชพันธุ์ธัญญาหารมาเป็นหลัก ก็เป็นประวัติศาสตร์ของพวกเรา ที่จริงพวกเราไปจับจองเอาป่าช้าที่ศาลีอโศกและที่ศีรษะอโศก เป็นพระธุดงค์เป็นพระพวกเคร่ง ที่มีความคิดแนวคิดแบบเดิม เหมือนกับสมัยพระพุทธเจ้าตอนแรกๆเหมือนกับเชิงเดียรถีย์เชิงเจโตหนัก ในยุคพระพุทธเจ้าเหมือนกันพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาก็มีเต็มไปด้วยนักบวชที่มีพิธีการเป็นไปด้วยแบบฤาษีแบบเทวนิยม ออกป่า เขา ถ้ำ เคร่ง ซึ่งตรงกันข้ามกับของพระพุทธเจ้า ทุกวันนี้อาตมาไม่ได้พูดอย่างประนีประนอมไว้หน้า แต่พูดกันอย่างแตกหักว่าศาสนาพุทธไม่ได้ออกป่าแต่เป็นพระเมืองเป็นความเจริญอย่างพร้อมเลย ส่วนใครจะไปป่าก็เข้าใจไปบ้างแต่ไม่ใช่เป็นหลักสำหรับผู้ที่มีจริตออกป่า อย่างเช่นสมัยพระพุทธเจ้าก็มีพระมหากัสสปะเป็นจริตที่ติดป่า ก็ให้ท่านทำไปท่านก็มีคณะมีมวลที่เป็นพระป่าบ้างแต่มีน้อยแต่ก็เป็นหลักแข็งดีนะ แม้แต่พระไตรปิฎกที่รวบรวมกันมาท่านก็เป็นผู้รวบรวม พระไตรปิฎกที่รวบรวมคำสอนพระพุทธเจ้าที่รวบรวมแท้ๆนั้นพระสารีบุตรที่เป็นพระเมืองเต็มรูปเป็นผู้รวบรวมไว้ตั้งแต่ธรรมะหมวด 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เป็นหลักรวมไว้หมดแล้วพระสารีบุตรท่านเรียบเรียงรวบรวมไว้เป็นหลัก เมื่อมาทำการสังคายนาครั้งแรกพระมหากัสสปะ เป็นประธานรวบรวมโดยมีพระอานนท์เป็นคนกลางของ เจโต กับปัญญา จำพระไตรปิฎกได้หมด แต่ก็เหมือนเจโต จึงเป็นคนที่ หลายๆอย่างเป็นคนครึ่งเจโตและปัญญา จำเก่งๆนี่เจโต ปัญญาจำไม่ค่อยเก่ง แต่ปฏิภาณไว นัยสำคัญที่แตกต่างกัน เข้าเรื่องพวกเราดีกว่า วันนี้วันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 ขึ้น 2 ค่ำเดือนยี่ ปีชวด คือปีที่ 1 ฉลูวัว 2 ขาลเสือ 3 _ทิดโด่ง (เพื่อนสอน)… สาธารณโภคีที่เรามาอยู่ปฐมอโศกรู้สึกอบอุ่น ที่ปฐมอโศกนี้มีผู้สูงอายุมี สว.เยอะ คุณน้ำดินก็เอาภาระเยอะ (พ่อครูว่า น้ำดินเขาได้รางวัลนะ ทางจังหวัดให้ เขาเอาภาระเป็นคนมีน้ำใจ ) คนเอาภาระ อายุเยอะขึ้นทุกวันจะมีใครเป็นตัวตายตัวแทนดูแลไหม อยากจะให้พวกเราได้มองเห็นจุดนี้นะครับ แต่ละคนก็ต่างคนต่างทำงานซึ่งทำให้เหินห่างกันและกัน เวลาอายุมากเข้า อายุรวมกัน เราจะมีนโยบายสายสัมพันธ์อย่างไรให้พวกเรามีการเอื้อเฟื้อต่อกัน มีเมตตากรุณาต่อกัน สาราณียธรรม 6 ผมมองเห็นจุดที่พร่องอยู่คือ ความแตกต่างในการปฏิบัติไม่ว่าจะเป็น สมณะหรือญาติโยม หากขาดหลักที่ฟังธรรมร่วมกันหรือทำวัตรเช้า หรือมีการประชุมกันประจำ ตัวนี้จะประสานทำให้เกิดทิฏฐิสามัญญตาศีลสามัญญตา ตอนหลังผมว่าจุดนี้มีน้อยลง ทำให้สายสัมพันธ์น้อยลง ถามว่า ทำอย่างไรจะให้แต่ละคนมีจิตสาธารณโภคี พ่อครูว่า…เจาะลงไปถึงหัวใจของสาธารณโภคี แล้วก็พูดถึงภาษาคำว่าสาธารณโภคี คำว่า สาธารณะ กับคำว่า โภคี โภคี หมายถึง การบริโภคทั้งอุปโภคและบริโภค บริโภคหมายความว่ารับมาใช้สังเคราะห์สังขาร ใช้ภาษาไทยๆคือ การกินประกอบไปด้วยเครื่องกิน การใช้ประกอบไปด้วย เครื่องใช้ รวมหมดเลยเรียกว่าบริโภค ในมนุษย์ร่วมกัน ก็คือกินใช้ร่วมกัน สรุปง่ายๆ มีของส่วนกลาง ทรัพย์สินเงินทองเข้าของเครื่องกินเครื่องใช้ก็ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน ส่วนกลางเป็นเจ้าของแล้วแต่ละคนไม่ได้ยึดติดว่าเป็นของตัวคนเดียวหรือเป็นของพวกตนเองเท่านั้น ใครๆก็มีสิทธิ์ร่วมกินใช้ตามเหมาะสมควรในที่นี้ ไม่ใช่ว่า ใครจะเอาไปขายเป็นของส่วนตัว ใครจะเอากักเก็บเป็นของส่วนตัว อันนั้นผิด ไม่กักไม่เก็บเป็นของส่วนตัว ใครดูแลรักษาบูรณะเอาไว้ ให้ร่วมกินร่วมใช้กัน ยังชีพกันไปจนตาย ก็ช่วยกันเผาสลายสรีระร่างให้เป็นขี้เถ้าให้เป็นผุยผงไปอย่างนี้เป็นต้น นี่คือการซึ่งเกิดขึ้นแก่เพิ่งเจ็บเพิ่งตายกันได้ ก็ช่วยกันอยู่ในทุกสภาพมันเป็นคุณสมบัติของมนุษยชาติที่ยิ่งใหญ่ อยู่กันอย่างมีความเมตตา เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม หรือมีเมตตา กรุณา อุเบกขา เป็นพรหมวิหารหรือว่าเป็น อัปปมัญญา 4 คุณธรรมอันหาที่สุดมิได้ คุณธรรมของพระพรหม พระพรหมเป็นชื่อของเทพเจ้าโบราณศาสนาฮินดู เกิดก่อนศาสนาใดๆก่อนพุทธ คริสต์ อิสลาม เกิดก่อนศาสนาฮินดูเก่าแก่มาก ฮินดูหรือพราหมณ์อันเดียวกัน เมื่อมาเป็นสาธารณโภคีมีสถานที่สัปปายะ อย่างเช่นปฐมอโศกเป็นสถานที่ของพวกเราไม่ใช่ของใคร เป็นของทุกคนไม่มีใครแบ่งแยกเอาสถานที่นี้ไปได้ สถานที่นี้มีแต่จะอยู่เป็นหลักแหล่งสถิตเสถียรนาน มีแต่จะเพิ่มขึ้นไม่ลดลงเพราะไม่มีใครสามารถแยกออกไปเป็นของส่วนตัว ไม่มีใครสามารถจะเป็นเจ้าของหรือสามารถที่จะเป็นใหญ่เป็นเจ้าของแล้วก็จะทำการแบ่งแยกเขียนพินัยกรรมไว้อย่างนั้นไม่ได้ เป็นของส่วนกลางไปอีกนานเท่านานจนกว่าจะมีคนขี้โกงทุจริตสามารถที่จะโกงเอาที่ของส่วนกลางนี้ไปได้ อันนี้ก็ไม่แนะนำ มันขี้โกงจนกระทั่งสามารถโกงได้จนจะต้องติดคุก หรือว่าเก่งจนโกงได้แล้วไม่ติดคุก แต่มันเป็นความชั่วเลวร้าย แต่เขาโกงสำเร็จมันมีได้เหมือนกัน อย่างนี้เป็นต้น แต่มันก็เป็นได้ยาก เศรษฐกิจคืออะไร ในสาราณียธรรม 6 เศรษฐกิจ คือการแบ่งกินแบ่งใช้ในของกินของใช้จำนวนหนึ่ง อย่างดีในกลุ่มแบ่งกันกินใช้ได้อย่างถ้วนหน้า ที่นี้ความเห็นแก่ตัวมันจะเอาเปรียบ เราได้การเอาเปรียบนี่แหละมันคือกิเลสของมนุษย์ หลักประกันสังคมที่จะทำให้อยู่กันได้ต้องเสียเปรียบเสียสละได้ ผู้ที่แข็งแรงกว่าก็เสียสละให้ผู้อ่อนแอกว่าอุ้มชูผู้ที่อ่อนแอกว่าไม่เก่งเท่า คนที่เก่งกว่าก็เสียสละให้แก่คนที่ไม่เก่งอันนี้เป็นคุณสมบัติที่แม้แต่สัตว์เดรัจฉานมันก็มีมาเรื่อยๆเมื่อมาเป็นมนุษย์ที่เจริญสูงสุดก็จะเป็นเช่นนั้น กระทั่งเกื้อกูลกันไปเกื้อกูลกันมา ช่วยเหลือกันไปช่วยเหลือกันมา คนที่ช่วยเหลือผู้อื่นได้มากในการทำงาน ทั้งแรงงานทางสมอง แรงงานทางกาย ทำได้มาก คนก็จะมาช่วย คนที่มีจิตใจที่ช่วยเหลือมนุษยชาติเป็นคนประเสริฐ คนนั้นก็จะได้รับการอุดหนุนจุนเจือจากคนที่เขามีความสามารถเท่าที่จะช่วยได้ ช่วยคนละนิดคนละหน่อยเท่าที่จะช่วยได้ เขาก็จะช่วยกันก็จะเกิดการช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน เรียกว่า สังคหะหรือการสังเคราะห์กันและกัน เกื้อกูลกันและกันไปอย่างดี ต่างคนต่างเกื้อกูลกันและกัน ผู้ที่ทำงานได้มากเสียสละได้มาก แต่ตัวเองอาศัยใช้สอยกินอยู่น้อยคนนี้ก็เป็นประโยชน์เพื่อผู้อื่น คนที่กินใช้สุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือยมากตัวเองมีผลผลิตได้น้อยคิดราคาได้น้อยคนนี้เป็นคนทำลาย คนพลาด เป็นคนบาป แม้ที่สุดไม่ได้พลัดพราก แต่โลภเอามากักตุนเป็นของตัวเอง โดยมีกฎหมายนิตินัยเอามาสะสมเป็นของตัวเองได้มากคนอื่นก็ขาดแคลนแย่งชิง ตนเองมีเหลือเฟือแต่ว่ากักเก็บเป็นของตัวเอง ตัวเองกินใช้เหลือเฟือให้ตัวเองรวยรวยๆแล้วมาแบ่งแจก จ้างคนที่ตัวเองได้ประโยชน์จากเขามาก ให้เขามาเป็นบริวาร ลักษณะนี้เป็นลักษณะของทุนนิยมสามานย์ ลักษณะของทุนนิยมเลว มีความซับซ้อนมาก นักเศรษฐศาสตร์ก็พอเข้าใจแต่มันเลวร้ายยิ่งกว่าแล้วซับซ้อนมากเกิน อาตมาตั้งใจจะมีอายุยาวยืนเพื่อขยายความจริงอันนี้ให้รู้กัน เศรษฐศาสตร์ทุนนิยมสามานย์ กับ เศรษฐศาสตร์บุญนิยมอันประเสริฐ บุญนิยมอันประเสริฐจะมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ทุกวันนี้ทั่วโลกยังแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ เพราะยังมีความคิดใน Concept ของคน นักเศรษฐศาสตร์ชั้นเอกยังเอียงไปทางทุนนิยม ทุนนิยมเลวร้ายที่สุดคือเผด็จการ จ้างคนมาเป็นทาสรับใช้เก่ง ส่วนบุญนิยมนั้นตัวเองเสียสละเก่ง จนกระทั่งมีคนร่วมกันเสียสละเป็นพรรคพวกกันและกันก็เป็น 2 หมู่ใหญ่ ถ้าโลกเต็มไปด้วยทุนนิยมสามานย์โลกจะเดือดร้อนวุ่นวาย ถ้ามีแต่บุญนิยมอย่างประเสริฐจริงโลกก็สงบเรียบร้อย แต่ไม่ขาดทุนนิยม ไม่ขาดความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้หรอกมนุษยชาติ เพราะว่ามนุษย์จะหมดอวิชชา หมดอัตตา หมดความเห็นแก่ตัวนั้นยากมาก คนหมดกิเลสเห็นแก่ตัวแล้วก็มาเสียสละนั้น ได้ยากกว่าคนขี้โลภมาเห็นแก่ตัว คนเห็นแก่ตัวขี้โลภสร้างสมัครพรรคพวกสร้างเครือข่ายค่ายกลทำอำนาจบาตรใหญ่ สร้างสิ่งต่างๆมาประกอบเหมือนกับอเมริกาสร้างประเทศ สร้างวัฒนธรรม สร้างแนวคิดเป็นทุนนิยมสามานย์จนถึงทุกวันนี้ ตอนนี้ความล้มเหลวของอเมริกากำลังดำเนินขึ้นไปเรื่อยๆ สิ่งที่ชี้บ่งชัดเจนที่สุดก็คือ เป็นธรรมชาติของความจริง คือ โรคโควิด เป็นโรคที่พระผู้เป็นเจ้า ที่ศาสนาพระผู้เป็นเจ้ารู้ไม่ทันแล้วก็ไม่เชื่อ เช่น อเมริกาเบอร์ 1 ของประเทศเขาไม่เชื่อว่ามันจะทำร้ายทำลายมนุษยชาติได้ เพราะเขาไม่เชื่อ โควิดเป็นอำนาจพระเจ้า ก็เลยแสดงความเป็นอำนาจพระเจ้าให้เห็น แล้วเขาก็ไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นสหรัฐอเมริกาตายมากที่สุดป่วยมากที่สุด พยายามแก้ไขแต่เขาก็ทำไม่ขึ้นเพราะว่ามีปัญญาเป็นพญาครุฑ ปัญญาเป็นพญาครุฑคือ มีปัญญาฟรุ้งฟริ้งมากมาย รวบรวมความคิดที่มันเป็นความคิดเฟ้อๆเกิน เช่น คิดออกนอกโลกไปสร้างเมืองอยู่นอกโลก อย่างในหนัง Star Wars ในทุนนิยม คนที่คิดฟุ้งฝันเพ้อเจ้อได้เก่งคือ JK rowling เขียนเรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์ รวยไม่เสร็จเลย ทั่วโลก คนรับความคิดนั้นไปมีฤทธิ์เดชไปกับโลก กึ่งๆของสตาร์วอร์ กับความคิดฝันเพ้อแบบ ผสมกัน คนก็เพ้อฝันอยากได้เมืองในฝันแบบนั้นๆกัน ซึ่งอาตมาขอยืนยันว่ามันเป็นไปไม่ได้ ทั้งแบบสตาร์วอร์และ Harry Potter มันเป็นความเพ้อฝันทั้งสองสภาพ ความเป็นจริงที่ไม่เพ้อฝันในโลกปัจจุบันคือ สาธารณโภคีนั้นคนก็ยังเข้าใจไม่ได้เพราะจิตใจเขายังมี อัตตา ความเห็นแก่ได้เห็นแก่ตัวเห็นแก่พวก แล้วก็ยังไม่รู้จักโลกียรส ไม่ได้ซาบซึ้งว่าโลกียรส ของหลอกไม่มีตัวจริงไม่รู้ว่ารสอร่อยเป็นเรื่องมายาเป็นเรื่องอุปาทานชนิดหนึ่ง นี่เป็นวิชาการของศาสนาพุทธซึ่งภาษาอังกฤษไม่มี ภาษาจีนมีใกล้บ้าง เพราะที่จีนนั้นมีแนวคิดทางศาสนาพุทธเข้าไปแม้กระทั่งว่าเป็นมหายานก็ตาม แต่ก็เข้ากับหีนยาน มหายานรวมกัน เรียกว่าสมบูรณ์แบบ ทางเมืองไทยนี่ ก่อนอาตมาจะเกิด ศาสนาพุทธดำเนินมากกว่าสองพันห้าร้อยกว่าปี เสื่อมมาจนจะหมดแล้วไม่เหลือ พูดได้เลยว่าไม่เหลือเชื้อของโลกุตรธรรม เหลือแต่เปลือกปลอมๆเปลือกเก๊ๆ เก่าๆที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน อาณีสูตร เหมือนกลองอานกะ อาณิสูตร ล. 8 ข้อ [672] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี … พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ตะโพนชื่ออานกะของพวกกษัตริย์ผู้มีพระนามว่าทสารหะได้มีแล้ว เมื่อตะโพนแตก พวกทสารหะได้ตอกลิ่มอื่นลงไป สมัยต่อมาโครงเก่าของตะโพนชื่ออานกะก็หายไป ยังเหลือแต่โครงลิ่ม แม้ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกภิกษุในอนาคตกาล เมื่อเขากล่าวพระสูตรที่ตถาคตกล่าวแล้ว อันลึกมีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม อยู่ จักไม่ปรารถนาฟังจักไม่เข้าไปตั้งจิตเพื่อรู้ และจักไม่สำคัญธรรมเหล่านั้น ว่าควรเล่าเรียน ควรศึกษาแต่ว่าเมื่อเขากล่าวพระสูตรอันนักปราชญ์รจนาไว้ อันนักปราชญ์ร้อยกรองไว้ มีอักษรอันวิจิตร มีพยัญชนะอันวิจิตร เป็นของภายนอก เป็นสาวกภาษิต อยู่ จักปรารถนาฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ จักเข้าไปตั้งไว้ซึ่งจิตเพื่อรู้ และจักสำคัญธรรมเหล่านั้น ว่าควรเรียน ควรศึกษา ฯ [673] ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระสูตรเหล่านั้น ที่ตถาคตกล่าวแล้วอันลึก มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม จักอันตรธานฉันนั้นเหมือนกัน เพราะเหตุดังนี้นั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เมื่อเขากล่าวพระสูตรที่ตถาคตกล่าวแล้ว อันลึก มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม อยู่ พวกเราจักฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ จักเข้าไปตั้งไว้ซึ่งจิตเพื่อรู้ และจักสำคัญธรรมเหล่านั้นว่า ควรเรียน ควรศึกษา ดังนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แหละ ฯ พ่อครูว่า…ไปปฏิบัติมิจฉาทิฏฐิยึดถือแบบเทวนิยมไปหมดไม่เหลืออเทวนิยม อาตมาก็ต้องมาฟื้น เทวะ อเทวะ เป็นสภาพสอง ตอนนี้พยายามแยกแยะให้รู้สภาพเทว หรือ สภาพของ กายเป็นหลัก แยกเป็นรูปนาม ภายในภายนอก ภายนอกภายใน ต้องมีคู่กัน แต่แยกไม่ได้ แยกมาเพื่อรู้ว่า ตอนไหนจะใช้ตอนไหนไม่ใช้ซึ่งเปลี่ยนแปลงได้อย่างเร็ว อย่างหนักอย่างเบา อย่างสูงอย่างต่ำ มีมุมเหลี่ยม อย่างนั้นที่พูดนี้ยังไม่ครบนะ ต้องอนุโลมปฏิโลมกับผู้อื่นอย่างสงบเรียบร้อยเป็นสุขไม่ทะเลาะวิวาทกันเกื้อกูลกันเต็มไปด้วยสารานยธรรมหรือพุทธพจน์ 7 อย่างคิดถึงกันไม่มีความร้ายจะไม่รังแกกัน ระลึกถึงกัน ปรารถนาดีต่อกัน ปิยกรณะ เคารพกัน ไม่ว่าจะด้วยศักดิ์ศรี ความรู้ ฐานะ ความจริง ที่ยอมรับกันต่างๆนานาอย่างจริงจัง นี่เป็นพฤติกรรมของมนุษย์ส่วนตัวและเป็นมนุษย์ส่วนรวม แต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่สามารถเข้าใจร่วมกันได้ เราเข้าใจแล้วแต่เรายังเป็นไม่ได้ทำไม่ได้หรือว่าเราประพฤติอยู่แล้วแต่เราไม่รู้ว่าเราได้เราไม่รู้ว่าเราเป็น ฐานภูมิธรรมของคุณลุงจำลอง ศรีเมือง อันนี้ ก็ขอเปิดเผยหน่อย เหตุเกิดวันนี้เอง คุณจำลอง ศรีเมือง ตัวเองเป็นอาริยะแต่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอาริยะ วันนี้ก็มาถามทำอย่างไรผมจะได้เป็นพระโสดาบัน อาตมาก็บอกโอ้นะ มันยาก คือ คุณจำลองเป็นสาย เจโต ต้องมาเพิ่มปัญญา ปัญญาคือ เรียนเก่งได้เป็นหัวหน้ามาตลอด แต่ก็ทำได้ขนาดนี้ ถ้าฉลาดกว่านั้นคุณจำลองจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีและหลายสมัยกว่านั้น แต่นี่บารมียังไม่ถึงขั้นนั้นเท่านั้น ไม่ใช่บารมีความดีไม่ถึงนะ บารมีความดีนั้นถึง แต่บารมีที่ครบพร้อมทั้ง เจโตและปัญญา ยังไม่พร้อม เท่านั้นเอง ชาตินี้มาสะสมบารมีกุศล ต่อไปชาติหน้าบารมีทางกุศลจะทำให้เกิดความเข้าใจแล้วยิ่งมาคบคุ้นกับพวกเรา พวกเราก็บอกว่าคุณไปอยู่ที่บ้านราชฯ คุณจะรู้ว่าคุณเป็นพระโสดาบันแล้วที่จริงคุณสูงกว่าพระโสดาบันแล้ว ก็ไม่อยากจะขยายความไป โสดาบัน ยังไม่ค่อยจะเข้าใจทั้งที่ตัวเองเป็นพระโสดาบันแล้วเป็นพระสกิทาคามีแล้ว ก็ไม่อยากขยายต่อ ก็ค่อยๆเป็นไป ก็ไม่ได้ไปบังคับให้เกิดปัญญา แต่ให้เกิดความเข้าใจเอง ซึ่งอันนี้ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่อาตมาพบแล้วก็มี จะว่าเป็น คือก็ต้องเป็นผู้ที่ไปด้วยกัน คุณจำลองอายุน้อยกว่าประมาณ 1 ปี 1 เดือน คุณจำลองเกิดปีกุน อาตมาเกิดปีจอ คุณจำลองเกิดกรกฎาคมวันที่ 5 อาตมาเกิด 5 มิถุนายนอย่างนี้เป็นต้น ก็ลากจูงกันไปช่วยเหลือกันไป คุณจำลองนี่นะ ต้องชื่อจำลอง ไม่ใช่ชื่อตัวจริง ถ้าชื่อตัวจริงก็เป็นนายกฯไปแล้ว อาตมาพยายามตั้งแต่ช่วยกันมาตั้งแต่เป็นผู้ว่าฯ ตั้งแต่ตั้งคณะรวมพลังใช้ฝาเข่งทำป้ายเลือกตั้งจนกระทั่งได้เป็นผู้ว่าฝาเข่ง เป็นผู้ว่าหนึ่งสมัยเป็นผู้ว่าอีกสมัยที่ 2 อาตมาก็บอกว่าอาตมาใช้คำว่า Bangkok is Thailand , Thailand is Bangkok เขาปริญญาโทนะอาตมาปริญญาจัตวายังไม่ได้เลย บอกว่าถ้าคุณเข้าใจอันนี้ แต่ก่อนกฎหมายเขาก็ล้อเลียนไว้ กฎหมายของกรุงเทพฯก็เป็นกฎหมายเมืองรูปแบบอันหนึ่งก็อันเดียวกันขยายออกก็คือประเทศไทย คุณทำอันนี้ให้ครบ 3 สมัยแล้วคุณได้เป็นนายกฯทันที ไม่ต้องเลือกเลย ไม่ต้องทำอะไรก็ได้ทันที แต่คุณจำลองไม่เชื่ออาตมา พอเป็นผู้ว่าสมัยที่ 2 ไปแอบตั้งพรรคพลังธรรมแล้วก็เอาโลโก้พรรคพลังธรรมชื่อพรรคตั้งเรียบร้อยมาให้อาตมา บอกอาตมาว่าผมตั้งพรรคแล้ว อาตมาว่าไม่ได้บอกให้ไปตั้งเลยตั้งมาแล้วก็ต้องช่วยกัน ดุนไปดันไป พรรคพลังธรรมก็ได้ไปได้จนกระทั่งทุกวันนี้พรรคพลังธรรมเป็นฐานสร้างให้เกิดนักการเมืองขึ้นมาตัวสำคัญคือสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็ยังเป็นตัวปฏิกิริยาอยู่ในสังคมการเมืองขณะนี้ อาตมาก็ไม่พยากรณ์อะไรต่อ อาตมาไม่อยากจะไปยุ่งเกี่ยวด้วยเพราะวิบากใครวิบากมัน สุดารัตน์ตอนเริ่มต้นก็มาร่วมกับพวกเราตั้งแต่นั้น อาตมาตั้งชื่อว่าแพรฟ้า แพรจริงๆ พริ้วน่าดูเลย แพรฟ้า ก็เอาว่าไป นี่ก็พูดพาดพิงถึง ถ้าจะถือสาก็ขออภัย ที่จริงก็ปรารถนาดี ก็ยังเป็นคนดีได้เจตนาก็เป็นคนเจตนาดีไม่มีความร้ายอะไรหรอกจะช่วยประเทศชาติได้แต่มีความแรงที่เป็นพลัง มันก็ต้องจัดการกันและกันในวิธีการต่อสู้นะ เอาล่ะพอ พูดไปแค่นี้ก็พอ ไม่อยากจะพูดต่อไป มาเข้าเรื่องพฤตินัย พฤติกรรม ของสาธารณโภคีต่อ _sms แมลงวันนครปฐม ส่งข่าวมาว่า พ่อครูว่า…มีหน้าปกของหนังสือแสงสูญ ฉบับขยะเอ๋ย มีภาพแมลงวันตอมจานข้าวเต็มไปหมด สีดำไปหมดไม่มีสีขาวเลย มีชาวชุมชนหญิง ให้ขุมทรัพย์ กรรมการชุมชน ที่มักตำหนิคนอื่นด้วยคำพูดแรงๆ เช่นบ้านนี้บ้ากันทั้งบ้าน , คนนี้ทำงานไม่ได้เรื่อง … คง เป็นเพราะ ลืมการปฏิบัติธรรม บางครั้งถึงกับ ตวาดในข้อผิดพลาดของ ผู้อื่น ต่อหน้าคนหมู่มาก จึงเป็นคนน่าสงสารเพราะบ้าอำนาจ. ถ้าใครอยู่ในอาณัติของเขาจะถูกตำหนิน้อยมาก และได้อภิสิทธิ์ง่ายกว่า ใครไม่ทำตามคำสั่งเขา ก็จะถูกตำหนิทั้งในที่ประชุมและที่อื่นๆ จนคนดูออก ว่า นี่ หรือประชาธิปไตย บุญนิยม พ่อครูว่า…ใคร รู้ตัวไว้ เราอาจมีบ้าง เข้าใจสัจธรรมสภาวะธรรมอย่าไปเอาถึงตัวบุคคล สิ่งเหล่านี้เป็นความลำเอียงที่มีความเป็นจริงเหมือนกัน ประชาธิปไตยบุญนิยมจะไม่มีลักษณะเลวร้ายอย่างที่กล่าวมาหรอก คุณคนที่เขียนมาและไปเข้าใจอย่างนั้นว่าประชาธิปไตยบุญนิยมเป็นอย่างนั้น 2 ปฐมอโศกเจริญจริงหรือไม่….. เพราะพึ่งตัวเองได้ ไม่มีหนี้ และถวายเงินพ่อท่าน ได้หลายล้าน … มีญาติติธรรมตั้งข้อสังเกตว่า ปฐม เจริญด้านวัตถุมาก ซึ่งอาจจะไปใกล้ทุนนิยมหรือเปล่า เพราะฐานที่ทำเงินได้มาก ก็ไปกินอาหารมังสวิรัติตามร้านที่แพงๆ ใช้ชีวิตแบบกินหรู อยู่แพง…มีเครื่องนวยความสะดวกในชีวิต แบบฐานใครฐานมัน ใครแตะไม่ได้ด้วยมีอำนาจเงินคุ้มครอง ไม่ขึ้นศาลา ไม่ทำวัตรเช้า มุ่งทำเม็ดเงิน…ชื่นใจที่ได้ถวายพ่อท่าน… พ่อครูว่า…เสียงนี้คงได้ยินไปถ้วนทั่วบรรยากาศปฐมอโศกแล้ว ถ้าไม่ได้ยินก็น่าสงสารน่าเวทนา ตอนนี้ได้เปิดเผยกันไปแล้วจะเป็นใครก็แล้วแต่จะมีจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ มันก็น่าจะมีจริงเพราะธรรมดาเขาบอกว่าถ้าไม่มีฝอยหมาไม่ขี้ เดี๋ยวนี้หมามันขี้โดยไม่มีฝอยนะ มันขี้เรี่ยราดไปบนพื้นทั่วไปเลย แต่ก่อนมันต้องมีฝอยมันถึงจะขี้ 3 ศอศาลาเงียบเหงา : มีโยมที่ป่วยและชราภาพ แต่ตั้งใจ จะไปกินข้าวที่ศาลาทุกวันพระ พอไปถึง ไม่มีนักบวชอยู่บนศาลาเลย โยมก็ พูดเสียงดังว่า ปฐมอโศก ศ ศาลาเงียบเหงา... พ่อครูว่า…ไม่วิจัยวิจารณ์ต่อ เอาแค่นี้ พวกเรานี้มีปฏิภาณ มีความรู้ความเข้าใจ ใครที่รู้ตัวเองว่าบกพร่องมากหรือน้อยไม่ใช่ตัวจริง แต่มันอยู่ในเชิงเดียวกัน มีลักษณะเดียวกันกับที่เขาทำอย่างนี้ เขาตำหนิมากแต่เราก็มีส่วนน้อยหรือส่วนกลาง หรือเรามีมากหนักกว่านี้อีก ดีนะเขาไม่รู้ ก็ยิ่งดีแต่อย่าไปผิดนะ ตัวเองผิดน้อยนึกว่าตัวเองผิดมากตัวเองมีความเลวมาก นึกว่าตัวเองมีความเลวน้อย อันนี้ก็เข้าใจผิดต้องเข้าใจให้ถูกประมาณให้ดีอย่างถูกต้อง อย่าไปประมาณผิดๆ อย่างนั้นมันเสียหาย จะลดความติดในรสอาหารจัดจ้านได้อย่างไร _ช่วยบุญ …เมื่อวันที่ 14-15 ไปอบรมเกี่ยวกับอาหารสุขภาพที่สระบุรี(คอร์สของหมอสันต์ ใจยอดศิลป์) อาหารของเขา 1.ไม่ใช้น้ำมันทำอาหารเลย 2.ไม่ใช้น้ำตาล 3.ไม่ใช้เกลือหรือใช้ความเค็มให้ลดน้อยลง พวกเราก็ไปอบรมแล้วได้ความรู้มามาก ก็เลยสรุปอีกครั้งหนึ่ง ว่าก็คืออาหารของพ่อครูนั่นเอง พ่อครูเคยกล่าวถึงแมคโครโพธิรักษ์ ช่วยบุญคิดว่าอาหารของพ่อครูไม่น่ากิน มันจืดสีชืด แล้วคนละรสกับของฆราวาส อย่างพ่อครูเองฉันอาหารอย่างนี้มาตั้งแต่ฆราวาส จนบวช 50 พรรษาแล้ว พ่อครูหน้าตาสดใส อ่อนเยาว์ พ่อครูฉันอาหารรสจืด ไม่มีน้ำมัน น้ำตาลน้อย ที่หมอสันต์ ให้พวกเราทำคือเอาอะไรมาทดแทนน้ำตาล เช่น ความหวานของผลไม้ ช่วย(บุญ)ก็เห็นความยากของตัวเองทั้งที่เราก็ป่วยอยู่ ทั้งที่พ่อครูทำให้ดูอยู่ทำไมตัวเองยากนัก แต่ช่วย(บุญ)ก็สงสาร(พ่อครูว่าอย่าสงสารกิเลส) ถามจริงๆพ่อครูไม่มีรสอร่อยเลยหรือ (พ่อครู ว่าไม่มี) พวกเราทำไมมีเยอะจัง (พ่อครูว่า จะให้ตอบไหม) อย่าเพิ่งตอบเลยค่ะ กลัวจะแรง เราจะทำวิธีไหน ให้เราลดความจัดจ้านของเรื่องอาหารลง พ่อครูว่า…ต้องพยายามเห็นความจริงให้ได้ ความจริงในภาษาพยัญชนะที่พูดพระพุทธเจ้าก็ดี ผู้รู้ต่างๆก็ดี ก็ต้องเข้าใจให้ได้ว่าพวกนี้มันเป็นของเก๊ ของปลอม ของหลอก รสอร่อยมันไม่มี มันรู้สึกอร่อย ความหมายคำว่าอร่อยก็คือ ชอบใจ อ่านอาการตรงนี้ อาการชอบใจ ชื่นใจนิดๆ ชื่นใจมากๆรู้ง่ายกว่า ชื่นใจนิดๆก็ไม่มี มีแต่ความรู้ความจริงตามความเป็นจริงว่า อันนี้มันรสหวาน อันนี้มันรสเค็ม อันนี้มันรสเปรี้ยว อันนี้มันรสเผ็ด อย่างนี้เป็นต้น ก็รู้ตามจริง ถ้าหวานมากเราไม่ชอบก็ไม่เอา เอาหวานพอสมควร เค็มมากก็ไม่ชอบ ชอบเค็มน้อย เปรี้ยวมากก็ไม่ชอบ คนที่ชอบรสจัดๆ ตายง่ายทั้งนั้น พวกโรคเอาไปกินทั้งนั้น พวกจัดๆจ้านๆ เป็นพวกเลยเถิดเป็นพวกสุดโต่ง ปรุงแต่งให้จัดจ้านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไม่ว่าจะสีสันรูปร่างรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสอะไรที่จัดจ้านมากยิ่งขึ้นอะไรใหญ่มากยิ่งขึ้นและก็จะยิ่งขึ้นจนกระทั่งกลายเป็นพญานาคก็จะดำดิ่งลงไปหายไปใน พญานาคหลงทางไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าเลย คือลงบาดาลมืดเลย สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้ามันเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่โง่ไม่เสร็จ ไม่มีทางรู้อะไรเลยอะไรหายเข้าไปในนั้น ตามหาไม่เจอเลย โง่หายไปเลย โง่หายอย่างช่วยไม่ได้เหมือนอย่างกับอาฬารดาบส อุทกดาบส พระพุทธเจ้าบอกว่าจะจมไปในนรก นิ่งนรกอยู่ช่วยไม่ได้อีกไม่รู้กี่กัปกี่กัลป์ก็ยากที่จะฟื้นหรือจะตื่นขึ้นมารู้เลย ท่านถึงได้เปล่งคำว่า ชิบหายแล้วหนอ อาฬารดาบส อุทกดาบส จะมาช่วยก็ช่วยไม่ทัน..ตายก่อน ขนาดพระพุทธเจ้าสมณโคดมเป็นผู้ที่จะช่วยคนได้น้อยที่สุดในบรรดาพระพุทธเจ้าทั้งหลายแล้ว พระพุทธเจ้าองค์ก่อนนั้น คนอายุถึง 80,000 ปีท่านก็ผ่านมาแล้ว คนเหลือ 40,000 หรือ 50,000 ปี ก็ช่วยมาแล้ว จนกระทั่งร้อยปีตายในยุคพระพุทธเจ้านั้น 120 ปีเท่ากับ 1 กัปป์ ก็เก่งแล้ว พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่เอาถึงขนาดนั้น 80 ปีท่านก็ปรินิพพานไปแล้วเพราะท่านช่วยมาหมดแล้วเป็นยุคที่ทำมาจนหมดแล้ว จนกระทั่งเกือบจะไม่ช่วยแล้วพระพุทธเจ้าสมณโคดมตรวจดูโลกแล้วตอนตรัสรู้ว่าคนไม่มีภูมิธรรมที่จะช่วยได้จะเสียของเปล่า โลกุตรธรรมเผยแพร่ไม่ออก พอท่านมีดำริเช่นนั้น สหัมบดีพรหมก็รวมหัวกันอาราธนาว่า ไม่ได้นะท่านสมณะโคดม ฉิบหายใหญ่แล้ว เหมือนกับที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าฉิบหายแล้วหนออาฬารดาบส อุทกดาบส พระพุทธเจ้าก็เลยกลับมาสอนคน แต่ก็มีมาฆบูชาได้ 1 ครั้ง พระอรหันต์มารวมกัน 1,250 องค์เท่านั้น ซึ่งน้อยที่สุดแล้วในบรรดาพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นอจินไตยที่อาตมาเอามาขยายให้ฟังบางกาละ รสอร่อยมันไม่มีจริง รสอร่อยมันไม่มีจริง…คุณต้องอ่านอาการของจิต ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างสีสันที่เขาสมมุติกันว่าอย่างนี้แหละดี อย่างนี้แหละเหนือกว่า นี้ชนะอันนี้ หรืออันนี้ด้อยกว่าอันนี้ อันนี้ไม่ดีเท่าอันนี้ มันเป็นโลกียะ จิตของคุณถ้าอยู่เหนือ คุณก็จะรู้ดีหรือไม่ดี มันเป็นสมมติ แต่เราไม่ยึดติดทั้งดี ไม่ยึดติดทั้งไม่ดี แต่เรารู้ว่าเราต้องดี ดีที่โลกมี สูงอย่างไรเราก็รู้ได้แต่เราไม่ยึดติดส่วนไม่ดีนั้น ไม่ดีมากไม่ดีน้อยนั้นไม่เอาหมดเลย เอาแต่ดีแล้วไม่สันโดษในความดีด้วย ไม่สันโดษในกุศล ความดีก็สมมุติไม่ขาวได้หมดทำดีกว่าเขาได้หมดแต่ไม่ติดในความดีนี่คือใช้พยัญชนะเอามาอธิบายสภาวะ ทีนี้รสต่างๆ หากว่าเรียนรู้ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นรสทางตากระทบรูปแล้วสวย เสียงไพเราะ นี่อย่างที่เขาไปคอนเสิร์ตบิ๊กเมาท์เท่น ซึ่งเขาห้ามไม่ให้ไปทำพวกนั้นก็ติดยึดหน้ามืดตามัวทั้งๆที่ก็พอรู้ว่าจะไปติด covid ได้ ตัวผู้ที่จะจัดนั้นถ้าติดเข้าก็ไม่ชอบใจหรอก ก็จะตายได้ แต่มันอยากได้เงินทองเป็นโลกียทั้งนั้น มันหน้ามืดตามัวผู้ที่จะทำ แต่รัฐบาลก็ดียังจะพยายามช่วยไม่ให้มันเกิดเป็นแหล่งเป็นเหตุต้นเหตุที่จะเกิด โควิดโรคปราบอบายมุข ขอแวะอีกหน่อย โควิดนี้ เมืองไทยดีแล้วให้การ์ดสูงไว้ก่อนจนกว่าจะมียารักษา หรือว่าวัคซีนป้องกันได้ จนกว่าจะได้ชัดเจนตอนนี้ทั้งโลกก็ยังไม่ชัดเจน ตอนนี้ใครก็พยายามชิงตำแหน่งว่าฉันได้ก่อนเพื่อจะขายของ แต่ยังไม่มีใครสามารถยืนยันได้ ถ้าหากยืนยันได้ คนจะตายเป็นเบืออยู่อย่างนี้ ตอนนี้ใครดูสถิติวันนี้อเมริกาตายเท่าไหร่ เมื่อก่อนวันละสามพัน มันจะเหลือหรือ 300 ล้านจะกี่ปีหมด ตายวันละสามพันๆ ดีไม่ดีเพิ่มไปเรื่อยๆ อเมริกาก็ประมาท คุณจะมีความเก่งฉลาดเฉลียวเท่าไหร่ก็ตาม แต่โรคมันไม่ไว้หน้าเรา เอาตายทั้งนั้น ที่เป็นไปอยู่แล้วสาธารณโภคีหมายความว่ามีของส่วนกลางเป็นสมบัติที่ไม่ยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นเราเป็นของเรา แล้วก็กินใช้โดยคุณสมบัติที่จะเป็นสาธารณโภคีได้ นอกจากตัวจิตจะเป็นสาราณียธรรม ปิยะกรณะ ครุกรณะ สังคหะ วิวาทะ สามัคคีมีภาวะเป็นพุทธพจน์ 7 นี้แล้ว ก็จะเห็นได้ว่าเป็นคุณสมบัติที่ชัดเจนเรียนรู้ได้คือวรรณะ 9 เป็นคนเลี้ยงง่าย เป็นคนบำรุงให้เจริญพัฒนาได้ง่าย สุโปสะ เป็นคนมักน้อยมีน้อยเอาน้อย อัปปิจฉะ เป็นคนใจพอสันตุฏฐิ ที่ในหลวงร.9 ใช้คำว่าเศรษฐกิจพอเพียงคือคำนี้พอจริงๆใจมันไม่เอามันไม่มีความฉลาดแกมโกงที่จะหลอกคนอื่น มันสะพัดออก สิ่งที่มีกินมีใช้แม้แต่ธนบัตรก็ไม่เอามากักไว้เป็นของตนมาก มีการขัดเกลา สัลเลขะ ขัดเกลากายวาจาใจ กายกรรมที่ไม่ดี ของเรารู้ว่ากายกรรมเราไม่ดีก็พัฒนาเข้า วจีกรรมเราไม่พัฒนาไม่เจริญก็ขัดเกลา มโนกรรมก็เช่นกัน ความเจริญของเราตามสมมุติทางกายวาจาก็มี แล้วจิตใจจะเป็นตัวพัฒนา จิตใจของเรามันก็เจริญด้วย จิตใจเป็นตัวบงการกายวาจา ตัวจิตเองเป็นตัวทั้งรู้และสามารถมีวสวัตตี ยังจิตให้เป็นไปในอำนาจได้จิตก็เจริญ เอาหลักเกณฑ์ของพระพุทธเจ้ามาจับ มีสิ่งที่สูงขึ้นเจริญขึ้นเรียกว่า ธูตะ หรือธุดงค์ แปลว่าศีลแต่ละข้อ ได้ศีลมากข้อขึ้น คุณสมบัติก็เจริญขึ้นเป็นอธิศีล ในตัวของมันเองเป็นปริมาณและคุณภาพ ทั้งคุณภาพและปริมาณเจริญจึงเรียกว่าธูตะ องค์ของหลักเกณฑ์ที่พาให้เจริญ โดยมีศีลเป็นหลักใหญ่ หมายถึงศีลข้อที่ 1 2 3 4 อะไรก็แล้วแต่เรียงลำดับได้เลยจุลศีลเป็นต้นหรือตั้งแต่มหาศีลซึ่งเป็นศีลรวมหมู่ ต้องมีด้วยกัน อย่างเช่น ในชาวอโศกมหาศีล ไม่มีอบายมุขร่วมกันหมด อบายมุข คนที่โลภมากจัด นักทุนนิยมมากๆนี้เป็นอบายมุขได้เปรียบมากก็รวยสิ แต่คนที่รวยและมีคุณธรรมจะไม่เอาไว้มากก็จะเผื่อแผ่ตัวเองเอาไว้น้อย จนอาตมาเคยอธิบายพยายามพูดว่า คนที่เป็นหัวหน้าบริษัทใหญ่เป็นเจ้าของบริษัทพอได้สมบัติเป็นของตัวเองอยู่ยอดแล้วก็เลยแจก โดยสมมติมาเป็นหุ้น หุ้นของนายทุนใหญ่แต่ก่อนมี 1 ล้านหุ้น เมื่อเราเจริญขึ้นๆเราก็แจกมีส่วนของผู้ที่ร่วมทำงานด้วยกันเราก็แจกไปคนละชั้นคนละชั้น ยิ่งคนที่ต่ำ ก็แจกให้มาก ให้มีทุนของตนมาก คนที่เก่งมาก็ยิ่งมีน้อย คนที่ไม่เก่งมากก็มีมากหน่อย คนยิ่งเก่ง มีความสามารถความรู้สร้างได้มากก็ช่วยคนอื่นได้มากคนที่มีน้อยที่สุด คือคนที่แย่ที่สุดให้มีมากรวย คนที่มีมากที่สุดคือคนที่ต่ำที่สุดแย่ที่สุด แล้วในลักษณะของธรรมะจะเป็นบาปจะเป็นหนี้ คนที่ต้องพึ่งพาคนอื่นมากที่สุดนั้นคือคนเป็นหนี้เป็นบาปที่จะต้องเกิดมาใช้หนี้คนอื่นเขาอีกกี่ชาติกี่ชาติ คนอื่นที่จะต้องให้คนอื่นที่เขาช่วยมากๆ คนนั้นจึงเป็นหนี้ คนใดที่ได้ช่วยคนอื่นได้คนนั้นก็เป็นเจ้าหนี้ สัจธรรมก็ต้องอธิบายทีละคู่ต้องเข้าใจได้อย่างนี้ สังคมสาธารณโภคีชาวอโศกอาตมาวางรากฐานไว้อย่างนี้ เมื่อมีวรรณะ 9 จึงเกิดเป็นสาราณียธรรม 6 อยู่กันอย่างเป็นสังคมสาธารณโภคี อยู่กันอย่างมีเมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม มีสาราณียธรรม 3 ข้อนี้ ข้อที่ 4 อยู่กันต่างคนต่างขยันหมั่นเพียรเท่าที่จะทำได้ สิ่งที่ชั่วสิ่งที่ไม่ควรเรียกว่าอบายมุขเราไม่ทำ เราทำแต่เป็นสิ่งที่เป็นสาระ สิ่งที่บำรุงกาม เราก็ไม่สร้างเท่าไหร่ เราก็สร้างสิ่งที่เป็นสาระที่เป็นรูปธรรม เพื่อกินเพื่อใช้ ที่มีสาระแก่ชีวิตแก่สังคม เราก็สร้างสรรมาเกื้อกูลแบ่งกันกินแบ่งกันใช้แจกจ่ายเจือจาน ไม่สะสม ยืนยันได้ พิสูจน์ได้ว่า คนที่อยู่ในสังคมชาวอโศกมีเศรษฐศาสตร์ที่สุดยอด คุณเองไม่ต้องสะสมเงินเป็นของตัวเองเลยสักบาท จะใช้ก็ไปเบิกส่วนกลาง แม้แต่คนดูแลมีหน้าที่คุมเงินก็เชื่อถือยอมรับ คุณจะเบิกเท่าไหร่เมื่อไหร่เอาไปทำงานอะไรเขาไม่ขัดข้อง กรรมการทุกคนก็เห็นด้วยและผู้ที่ยิ่งคนอื่นเชื่อยิ่งจะเปิดเผยยิ่งจะให้กรรมการรู้ร่วม ไม่ปิดบังไม่ซับซ้อนไม่ซ่อนไว้คนเดียว ทำอะไรก็เพื่อส่วนกลางส่วนรวมเสียสละ มันจะย้อนแย้งกันในตัว ยิ่งไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ผู้อื่นก็ยิ่งเห็นผู้อื่นก็ยิ่งเชื่อว่าทำเพื่อผู้อื่น เป็นลักษณะสุดยอดของประชาธิปไตยในโลกหรือสุดยอดของคอมมิวนิสต์ คอมมูน แต่คอมมูนยังต่ำกว่าประชาธิปไตยเพราะว่ายังมีคณะบริหารบงการใช้อำนาจบาตรใหญ่กว่าประชาธิปไตยและประชาธิปไตยนะอิสระเสรีภาพกว่า แต่ของคอมมิวนิสต์อย่างเอาอำนาจไว้ในหมู่กลุ่มต้องเป็นอำนาจบาตรใหญ่ของหมู่กลุ่ม อำนาจบาตรใหญ่นี้ตั้งแต่ผู้คนที่บงการฆ่าได้และต้องมีคณะช่วยคณะร่วมมือกันเลย คณะเล็กเท่าไหร่ก็ยิ่งเจริญถ้าเป็นคณะใหญ่เท่าไหร่ก็ยิ่งไม่เจริญ ใหญ่มากๆแล้วไม่มีอำนาจเลย ใหญ่มากๆจะมีการชิงอำนาจกันจะเป็นสภาพซ้อนเพราะฉะนั้นก็ต้องมีที่ไว้ใจกันแล้วก็นับถือกันยอมกันอยู่ ถ้าไม่ยอมกันเลยนี่นะจะแย่งชิงกันเป็นหนึ่งเลย แต่ถ้ายอมกันก็อยู่กันได้ ขณะนี้จีนก็ยอมสีจิ้นผิงอยู่ได้ ถ้าไม่ยอมเมื่อไรก็รับรองเลย ถ้าเกิดสงครามการเมืองระหว่าง 2 พรรคของจีน เรียกว่าช้างสารชนกันหญ้าแพรกแหลกราญเลยนะ ทุกวันนี้จีนส่งผลผลิตออกมาให้แก่โลกใช้กินได้เยอะ ถ้าเกิดรบกันต้องเอาแรงงานไปทุ่มกับการฆ่ากันนั้น ช้างสารชนกันหญ้าแพรกแหลกราญ..ใช้สำนวนนี้เลย ประเทศอื่นๆต่างๆนานาก็พังไปไม่ออกเลย อาตมามีภูมิธรรม ไม่ได้มาบริหารสังคมใหญ่แต่ก็ผ่านมาทั้งนั้นเข้าใจทั้งนั้นเขาจะเป็นตัวอย่างให้อาตมาชี้บอกเอามาเป็นตัวอย่างได้สำหรับอาตมานั้นทำแต่ธรรมะที่เป็นโลกุตระธรรมอธิบายแล้วสร้างอันนี้ขึ้นไปยังได้รูปนิดเดียวเลยรูปร่างยังไม่มากยังเป็นเด็กขี้ตาขี้มูกเกรอะกรังอยู่เลย ยังต้องเช็ดขี้มูกขี้ตายังไม่น่าเอ็นดูเท่าไหร่เลย ถ้าอาตมาทำสาธารณโภคีของชาวอโศกเป็นที่น่าเอ็นดูแก่ชาวโลกเมื่อไร เมื่อนั้นอาตมาไม่อยากรับรางวัลเลย รางวัลจะมากันทุกทิศเลยจริงๆ ยุคนี้จะไฮโซขนาดไหนก็ต้องไปคลุกกับดินทำกินกสิกรรม _ช่วยบุญ…พ่อครูสามารถรู้อะไรนำหน้าแล้วจะมาบอกพวกเราอย่างเช่น การเกษตร ที่ไปอบรมมา มีคนขอให้หมอสันต์อธิบายเรื่องโควิด..หมอสันต์ก็บอกว่าให้แบ่งโลกเป็นสองซีก ซีกหนึ่งก็ระบาดมาก แต่อีกซีกก็ข่มไว้อยู่ แล้วพวกฟากเรา จะเป็นแหล่งที่สร้างอาหารไปช่วยเขา ฟังแล้วก็ขนลุกว่าเรานี่แหละชาวอโศกนี่แหละจะสร้างอาหารให้แก่โลก ตอนนั้นฟังดูก็ไม่รู้จะเป็นไปได้อย่างไร พ่อครูว่า…มันต้องเป็นเราถ้าไม่เป็นเราไม่รู้จะทำอย่างไร เราต้องทำช่วยเขานะแล้วก็เป็นโอกาสด้วยแล้วก็ไม่ใช่ว่าฉวยโอกาส แต่เป็นโอกาสที่เราจะสร้าง พืชพันธุ์ธัญญาหารแล้วไม่ต้องสร้างอาวุธ ไม่ต้องสร้างคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องสร้างเทคโนโลยี ซึ่งมันพอใช้แล้วเทคโนโลยีที่ใช้ทุกวันนี้อาตมาว่าพอแล้ว ตาทิพย์ หูทิพย์ กลิ่นทิพย์ รสทิพย์ ครบหมดแล้ว ใช้พอแล้วทิพย์ทั้งหลาย ไม่ต้องไปสร้างอีกแล้ว ไปสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหาร กวฬิงการาหาร ให้ร่างกายแข็งแรงมันเป็นสัจจะที่จะต้องกินใช้ร่วมกันไม่ว่าจะเป็นคนจนคนฉลาดคนโง่คนพิการ ทั่วโลกก็ต้องการข้าวกิน ส่งไปให้ขั้วโลกเหนือส่งไปให้ขั้วโลกใต้ ที่เขาไม่มีข้าวกินให้มาหัดกินข้าว ส่งพืชไปให้หัดกินให้มันกินพืช จะได้เจริญกว่านั้น การกินแต่เนื้อสัตว์นั้นอายุจะสั้นอายุแค่ 25 ปีก็เริ่มจะตายแล้วถือว่า 25 ปีนี้เจริญวัยเต็มที่ไปทางเสื่อมเลยสูงสุดไม่เกิน 40 ปี ขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้เย็นจัดแล้วไม่มีที่จะปลูกพืชก็กินแต่เนื้อสัตว์ไม่กินปลาก็กินเนื้อสัตว์อื่นกินมีอย่างนี้เป็นต้น เนื้อหมีเนื้อสิงโตทะเล ซึ่งมันก็ยาก เขาก็ต้องกินปลากินเนื้อ เพราะพืชไม่มีมาก สัตว์ทางขั้วโลกเหนือก็ต้องมี โซนเมืองไทยโซนทางเอเชียจะเป็นเมืองพืชพันธุ์ธัญญาหาร คู่แข่งของเมืองไทยตอนนี้ก็น่าจะเป็นพวกญวน เป็นคู่แข่งสำคัญเลย เราก็จะต้องไม่ใช่แข่งเพื่อเอาชนะคะคาน แต่เป็นการแข่งเพื่อความดีงามเพื่อประโยชน์ แข่งกันสร้างประโยชน์ ให้สร้างให้มีคุณภาพของให้ดีๆขายให้ถูกๆหรือแจกไปได้ แล้วเราก็ทำได้เจริญงอกงามดีและเสียสละช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น แล้วเราก็อยู่รอดสบาย อุดมสมบูรณ์ อย่างนี้เป็นต้น อาตมาว่าอาตมาเข้าใจ Concept อย่างนี้ เป็นการเข้าใจถูกแล้วพวกเราที่เชื่อเข้าใจกันก็ช่วยกันให้ดี เด็กๆฟังให้ดี พวกเราเป็นหนุ่มสาวกำลังวังชาดีจะได้ช่วยกันสร้าง สร้างแล้วก็ได้เป็นผลวิบาก เป็นกุศลวิบากของเราเอง เป็นของดีที่จะเกื้อกูลชีวิตเราจะเกิดอีกกี่ชาติๆจนกว่าเราจะเป็นพระอรหันต์จนกว่าเราจะเป็นพระโพธิสัตว์สิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่เป็นทรัพย์เป็นอริยทรัพย์ เป็นทรัพย์ที่ไม่ใช่เป็นรูปร่างตัวตนไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน แต่มันเป็นนามธรรมที่จะเป็นทรัพย์อันประเสริฐ ข้ามชาติ อันนี้พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ตรัสรู้ความจริงอันนี้เป็นความจริงที่เถียงไม่ได้แย้งไม่ได้ และพิสูจน์ได้ต้องตายแล้วเกิดที่สุดเลย อย่างหลวงปู่พิสูจน์มาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 เอาความนี้มาให้เราฟัง ทำมาเป็นร้อยชาติพันชาติหมื่นชาติแสนชาติล้านชาติ ที่สะสมความจริงและความรู้นี้มากว่าจะเอามาพูดให้พวกเราฟังได้ ขอยืนยันและจะพาทำอย่างนี้ให้พวกเราพิสูจน์ไปเรื่อยๆ แน่นอน หลวงปู่พูดก่อนไปได้เลยว่าหลวงปู่จะปรินิพพานก่อนพวกเราทั้งนั้น พวกเราจะต้องอยู่สร้างบารมีต่อไปอีกหลายคน ไม่ต้องพูดหรอก ยิ่งคนไม่ค่อยเอาถ่านยิ่งจะต้องอยู่ยาวยิ่งจะต้องรับวิบากหนักหนาสาหัสไปอีกนาน แม้แต่พวกเราเจริญนี้ หลวงปู่บอกได้ว่ายังไม่มีใครมีรอยไร ว่าเป็นโพธิสัตว์มาเกิดนี่เป็นโพธิสัตว์ผู้พี่มาเกิด ยังไม่มีใครแสดงสัญญาณอย่างนี้มีแต่รุ่นลูกรุ่นหลานรุ่นน้อง น้องไกลๆ แต่รุ่นลูกหลานก็ไม่ไกลเท่าไหร่ หลวงปู่เป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ซึ่งคนก็ไม่ใกล้เท่าไหร่ แม้แต่คนใกล้ แม้แต่ผู้ที่คนเขานับถือเป็นปราชญ์ทางศาสนาก็ยังไกลจากหลวงปู่มาก ขออภัยที่ยกตัวเองสูงเกินไป แต่ไม่ใช่ว่าสูงเกินไปหรอก ยกตัวเองให้ฟัง ซึ่งเป็นความจริงแต่ฟังแล้วคนที่เขาอาจจะคิดได้ว่าคนนี้มันหลงตัวเอง ก็ขออภัยต้องพูดความจริงให้ฟัง แล้วจะขอยืนยันว่า ตามพิสูจน์อาตมาก็แล้วกัน อย่าเพิ่งรีบตาย รักษาอายุให้ยืนยาวกันไปก่อน สรุปแล้ว เอาคุณสมบัติหรือคุณธรรมที่เราเป็นมีอย่างนี้เป็นคนจน ไม่สะสมแล้วก็สร้างสรรได้มากสิ่งที่อาศัยของกินของใช้ของบริหารของอาศัย ของเราไม่เก่งอุตสาหกรรม อาตมาก็ไม่เน้นให้พวกเราเก่งอุตสาหกรรม แต่ทำเป็นพอสมควรก็ทำไปเถอะ พออาศัย แต่กสิกรรมนี้มาเน้นเลย วิศวกรรม เขาอาศัยกินงานที่เขาทำได้สำเร็จ คุณจะไปกินจรวด กินคอมพิวเตอร์ กินดินปืนไม่ได้หรอก มันเลี้ยงชีวิตคุณไม่ได้หรอก นอกจากคุณจะเอาไปขายแล้วเอาเงินไปซื้อพืชพันธุ์ธัญญาหารเป็นของกิน ของใช้ไม่ช่วยให้คุณมีชีวิตรอดได้ยิ่งกว่ากวฬิงการาหาร อาหาร เป็นหนึ่งในโลกยิ่งกว่า พวกเราเข้าใจและร่วมมือร่วมใจกัน อาตมาถึงบอกว่าคุณเป็นไฮโซระดับสูงแค่ไหนก็ลงมาเป็นกสิกรมาคลุกดินคลุกหญ้าสร้างปลูกให้เก่งเลย มันไม่ชอบก็ต้องฝึกเอา เห็นความจริงให้ได้ว่ามันเป็นสิ่งที่ดีสิ่งที่ประเสริฐ แล้วก็สร้างสรรให้ได้ _SMS วันที่ 13 – 15 ธ.ค. 2563 _Chot Sangsahachat (โชติ แสงสหชาติ) : อยู่ทางธรรมดีแล้วอย่ายุ่งทางโลกเลย ไม่ต้องมานอนที่สภาอีก ทำเพื่อพระพุทธเจ้าดี พ่อครูว่า…คนที่แยกการเมืองออกจากธรรมะเป็นเรื่องชิบหาย นักการเมืองต้องไม่เป็นนักธรรมะอันนี้ก็ชิบหายสิ ที่จริงแล้วนักการเมืองต้องมีธรรมะให้มาก เป็นพระอรหันต์ให้ได้ และเป็นนักการเมืองที่เป็นอรหันต์ คุณคิดดูซิว่ามันจะเจริญไหม คุณจะมาขัดข้องพยัญชนะว่าอรหันต์ไม่เล่นการเมือง อันนั้นเป็นความโง่ของคุณต่างหาก จริงๆไม่เล่นการเมือง แต่ทำการเมืองอย่างเอาจริงเอาจัง ต้องให้พระอรหันต์นั่นแหละมาทำการเมือง ยิ่งเป็นพระอรหันต์ชั้นสูงก็ยิ่งทำ แต่อาตมานี่มันเลยมาแล้ว เกินมาจนอรหันต์ระดับ 7 จริงๆ อรหันต์ระดับ 4 ระดับ 5 จะช่วยทางโลกอยู่ ระดับ 6 ก็ลดลง พอระดับ 7 อย่างอาตมาก็ไม่ต้องไปทำแล้ว ให้ระดับ 6 ท่านทำ ระดับ 6 ท่านก็ทำกับประชากรอย่างมาก จนคนเห็นว่าทำกับประชาชนจริงๆ บูชาเคารพนับถือ นั่นน่ะคือพระอรหันต์ระดับ 6 เป็นใครคิดเอาเองในประเทศไทย คนไทยอย่างนี้เป็นต้นและคนก็มองออกด้วยลักษณะรูปธรรม ทั่วโลกยกย่อง แต่อาตมาต้องมาทำงานทางโลกุตรธรรม ซึ่งระดับ 6 ท่านอธิบายธรรมะสู้อาตมาไม่ได้หรอก จบ Category: ศาสนาBy Samanasandin16 ธันวาคม 2020Tags: พุทธศาสนาตามภูมิวิถีอาริยธรรม Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:631213_รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ ศีลที่เป็นกุศลย่อมยังความเป็นอรหันต์โดยลำดับNextNext post:631225_พุทธศาสนาตามภูมิ สันติอโศก ชาวอโศกคือชุมชนบุญนิยมที่มีมรรคผลจริง Related Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024