ก.พ.12021ศาสนา640201_รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 26 อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวน์โหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1PYsVkpkyOvwbI8wobQ95bcFPvWq6j2pu1aFqgZP-pjU/edit?usp=sharing ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1lbRKmF7dpTE_Hpmhmd_JMETw34oYcph1/view?usp=sharing ยูทูปที่ https://youtu.be/-RIUPNniA5o _สู่แดนธรรม…วันนี้เป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก วันนี้จะขอเริ่มด้วยเรื่องเล่าที่ว่า มีสัตว์อยู่ 3-4 จำพวกที่กลัวในสิ่งที่ไม่ควรกลัว สัตว์ตัวแรกคือนกกระยางเวลานอนมันจะยืนขาเดียว มีอรรถกถาจารย์บอกไว้ว่าที่มันยืนขาเดียวเพราะมันกลัวว่าแผ่นดินจะทรุด นกต้อยตีวิด เวลามันนอนมันก็กลัวฟ้าจะถล่มก็เลยเอาตีนไปค้ำฟ้าไว้ คุณป้าที่ได้ฟังบอกว่ามันคือนกกระจิบนี่เอง ป้าเห็นมัน 2 ผัวเมียนอนเอาตีนก่ายท้องกลัวฟ้าจะถล่ม ส่วนลิงนั้นเวลาฝนตกหนักจะเด็ดกิ่งไม้หักมามุงหลังคา เมื่อฝนตกหนักมามันก็ขึ้นไปบนหลังคาเอามือคำว่าอย่างนี้ ป้าเขาเล่าให้ฟังว่าเขาเคยยิงลิง เพื่อนก็บอกว่าไปยิงมาทำไมมันทำมือยอมแพ้แล้วสมัยก่อนทำบาปเพราะไม่รู้ แล้วก็มีบรรดานักรบนักบวชที่กลัวในสิ่งที่ไม่ควรกลัวคือ ถ้าบวชหมดเดี๋ยวประชากรโลกจะหมดก็เลยเสร็จเอามามีครอบครัว พ่อครูเคยสอนว่า ชีวิตหลังความตายเป็นสิ่งที่ไม่น่ากลัวเพราะว่าทำบาปเพิ่มไม่ได้ แต่ชีวิตที่อยู่เป็นเป็นสามารถทำกรรมวิบากใส่ตัวเองได้เป็นสิ่งที่น่ากลัวมากกว่าถ้าการกระทำนั้นไม่รู้จักบาปไม่รู้จักบุญ _ญาติธรรมบ้านราชฯ ปรบมือบอกรหัส ทองคำแพงแท้ แพ้แรงคนจน พวกเราทุกคนเป็นคนจนโลกุตระ พ่อครูว่า…สนุกสนานดีพวกเราได้สาระดีด้วย อย่าพูดปากเปล่านะ ให้ทำความสำคัญมั่นหมายกับสิ่งที่เราพูดด้วยว่าเราเป็นดังที่เราพูดหรือไม่ไม่อย่างนั้นพูดไปเปล่าๆเสียน้ำลายเฉยๆเสียกำลังเสียแคลอรี่เปล่าเปล่าๆไม่ได้เรื่อง ทิฏฐิและอุปาทานคืออะไร _ดช.ธัมมะ (ธรรมรุจน์ วารีสระ)…ทิฏฐิมานะแปลว่าอะไรครับ _ดช.ธัมโม (พงษ์พิพุทธ วารีสระ)…อุปาทาน 4 คืออะไรครับ พ่อครูว่า…เด็กพวกเรา 3-4 ขวบรู้จักคำว่าอุปาทานด้วย ทิฏฐิ คือ ความเห็น ความรู้ ความเข้าใจ หรือ ใหญ่ๆก็หมายถึงทฤษฎี หมายถึงลัทธิเลยทีเดียว ที่จริง ทฤษฎีกับทิฐิมันอันเดียวกัน อันนึงเป็นภาษาบาลี อันหนึ่งเป็นภาษาสันสกฤต มันหมายถึงสภาพที่เรายึดถือ ยึดถือในความรู้ ยึดถือในความเห็น ยึดถือในความเข้าใจ ยึดถือในลัทธิ เป็นลัทธิของเราเลย ถือว่าอันนี้เป็นความรู้ความเห็นความเข้าใจเป็นยอด ถ้ายึดมั่นถือมั่นก็ถือว่าเป็นคำตอบตายตัวที่ อย่างไรอย่างไรก็ไม่มีใครจะมาเปลี่ยนแปลงได้ ส่วนตัณหานั้น หมายความว่า กิเลสมันอยาก เป็นกิเลสแท้ๆ เป็นความโง่ชนิดหนึ่ง ตัณหาคืออาการของจิตมันอยาก อยากได้อยากเป็นอยากมี อยากอย่างโน้นอย่างนี้ อยากต่างๆ ภาษาไทยตรงๆ คือ อยาก นั่นแหละคือตัณหา ไอ้นี่แหละคือตัวสำคัญที่พระพุทธเจ้าท่านจะให้ฆ่าหรือกำจัด อย่าให้มีอาการอย่างนี้ในจิต ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากเป็นเรื่องลึกซึ้งสูงส่งที่สุด ซึ่งคนคิดไม่ถึงหรอกว่า ถ้าไปเลิกความอยากเสียแล้ว ไม่อยากอะไรไม่ต้องการอะไร มันจะไม่กลายเป็นคนเซื่องๆแข็งๆเฉยๆเด๋อๆหรือ หมดความอยาก มันมีอีกคำหนึ่งคือ อัตตา อัตตาคือตัวเรา อยากนี่มันอยากแล้ว หรือไม่อยากได้อยากทำลายก็ได้ อยากให้เอามาเป็นตัวตนเราหรืออยากจะทำลายเพื่อให้เราจะชนะเราจะได้เป็นใหญ่กว่าเขา อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งมันเป็นภัยเป็นพิษมาก ถ้าเราเข้าใจความหมายของตัณหาชัดๆแล้ว มันเป็นความอยากที่มาให้ตัวตนหรือตัวตนเป็นเจ้าการที่จะให้มีแรงผลักแรงดูด ที่เอาตัวตนเป็นหลัก เพราะฉะนั้นคิดให้ดีว่าถ้าเผื่อเรา อยากมันก็ต้องอยากอยู่ อรหันต์ก็ต้องอยาก พระพุทธเจ้าท่านก็ต้องอยาก พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว มารก็มาอาราธนาให้ตายเสีย พระพุทธเจ้าก็บอกว่าเรายังจะต้องอยู่เพื่อทำงานสร้างศาสนา ให้คนได้รับความรู้ ทั้งอุบาสกอุบาสิกาภิกษุภิกษุณีให้ได้มีความรู้ธรรมะมีธรรมะเพื่อจะสืบต่อไปได้ เราถึงจะตายมาร เป็นความอยากของพระพุทธเจ้าแต่ไม่ได้เป็นความอยากเพื่อเอามาให้แก่ตัวเองเลย พระพุทธเจ้าจึงสอนให้คนทุกคนให้เกิดความอยากแต่อย่าไปอยากเอามาบำเรอตัวเอง หรือไปทำร้ายผู้อื่น อันนี้แหละเป็นประเด็น นัยยะสำคัญ เมื่อเราฆ่ากิเลสที่มันทำให้เกิดเป็นตัวเราเป็นตัวการ ถ้าไม่มีแล้วเราหมดกิเลสมันได้เรียนรู้จริงๆศาสนาพระพุทธเจ้าล้างได้ พอล้างได้ กำจัดมันหมดไปจริงๆไม่มีแล้วเราก็เป็นคนอยาก อยู่ไป อยากเพื่อทำงาน เพื่อผู้อื่นทั้งนั้น ตัวเองไม่ต้องกังวลเลยอยู่ได้จะมีคนเลี้ยงไว้จะมีคนดูแลไว้ เจ็บป่วยจะมีคนช่วยดูแลรักษา จะไม่มีอะไรกินอะไรอยู่เขาก็หามาให้หมดจนมากเกินต้องการด้วย พิสูจน์ได้เลยอย่างอาตมาพิสูจน์มาจนถึงทุกวันนี้ การที่เราไม่เป็นเจ้ากี้เจ้าการจะทำเพื่อตัวเองนี้ แต่เป็นเจ้ากี้เจ้าการ ที่จะทำเพื่อผู้อื่นจะไม่เป็นภัยต่อใครสุดยอด _ด.ญ.ไอซ์ : ลูกอยากถามว่าแบบ ลูกอ่ะ โดนคนอื่นดุหรือบ่นลูกก็เฉยๆ แต่ก็เอาไปปรับปรุงอยู่ แต่โดนพี่ว่าหรือสอน ลูกก็ร้องไห้ไม่ว่าพี่เขาจะพูดหรือบ่นเรื่องอะไรก็ตาม ลูกรู้สึกว่าลูกก็ไม่อ่อนแอนะคะ แต่พี่เขาทำ เอ๊ะ ทำไมลูกร้องไห้ตลอด ลูกอยากรู้ว่าลูกเป็นอะไร ลูกงงกับตัวเองมากเลยค่ะ.. พ่อครูว่า…เออเนาะ ทำไม ตัวเองก็ว่าดีรับฟัง พี่ๆเขาว่า ก็เอาไปปรับปรุงตัวเองอยู่ ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่อ่อนแอด้วย แต่ว่าเขาทำเอ๊ ทำไมลูกร้องไห้ตลอด อันนี้สงสัยตัวเองเหมือนกันนั่นสิ หลวงปู่ก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมเขาทำแล้วทำไมลูกร้องไห้ อยากรู้ว่าเป็นอะไร ตามความรู้ของหลวงปู่ก็เห็นว่า เข้าใจเอาเองนะว่า คงเป็นสิ่งที่อยู่ในใจว่า มันจะเป็นเชิง พ้อตัวเองในที เขาบอกเขาว่า ก็รู้สึกดี ก็เอาไปปรับปรุง เขาพูดเขาบ่นอะไร ก็ฟัง แล้วก็ไปแก้ไขแต่ทำไมเราต้องร้องไห้ ก็คงรู้สึกพ้อตัวเอง เราก็เป็นคนดี มันพ้อตัวเองทำดี พี่ๆก็บอก เราก็ฟังเอาไปแก้ไขปรับปรุง แต่ทำไมเราจะต้องไม่ดี มันลงโทษตัวเอง พ้อตัวเอง ทำไมเราจะต้องให้คนอื่นเขามาว่ามาบ่นมาสอนอยู่เรื่อย _สู่แดนธรรม…ถ้าเป็นคนอื่นความแคร์ต่อคนอื่นมันจะน้อยกว่าแคร์กับคนใกล้ชิดที่เรารัก ถ้าคนเป็นพี่เป็นญาติที่เรารัก เราจะแคร์เขาให้เขา ใส่ใจมากกว่า พอคนที่รักลงโทษความเจ็บมันจะเจ็บกว่าคนอื่นที่เขาตำหนิ พ่อครูว่า…ก็ปรับปรุงสิ มันมีเหตุปัจจัยที่ละเอียดลึกซึ้งอยู่ ก็ดูไม่รุนแรงอะไร ก็ปรับปรุง เพียงแต่ว่ารู้ว่ามันดี จะร้องไห้ทำไม อย่าขี้แย(ขี้โหย่ยหลาย) _สมณะบินบน…พูดถึงที่ศาลี วันนี้ในปีที่แล้วก็มีการฌาปนกิจคุณ ทิดเด็ดขาด ชาวหินฟ้า ก็ย้อนมา 1 ปี ครบรอบ แล้วเมื่อ 7 ปีที่แล้ว กองทัพธรรมก็ได้ร่วมเดินไปกับคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ไปแถวเยาวราชมีคนต้อนรับมากมายใช้เวลาเดินทาง 8 ชั่วโมงได้ 3 กิโลเมตร ก็มากินข้าวกลางถนนเหมือนเดิม ส่วนวันรุ่งขึ้นก็เป็นวันปิกนิกแห่งชาติตอนนั้นเราไปชุมนุมที่บนสะพานพระราม 8 ก็เป็นการฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆที่พ่อท่านได้พาทำให้เราผ่านได้อย่างสงบสันติอหิงสา 30 ปีที่แล้วในงานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ สมัยนั้นยังจัดอยู่ที่ศีรษะอโศกอยู่ครับ และวันที่ 1 กุมภาพันธ์ในอดีตนั้น พ่อท่านได้ให้ธรรมะที่คล้ายๆโศลกธรรมปีนี้เกี่ยวกับที่ว่า คนไม่ทำงานก็เดรัจฉานธรรมดา โดยพ่อท่านแสดงธรรมก่อนฉัน เมื่อ 30 ปีที่แล้วตรงกับวันศุกร์ พ่อท่านเน้นเรื่องภาระ โดยมีโศลกว่า ผู้ไม่เอาภาระอะไรคือผู้ไม่ใช่คนและเทียบกับสัตว์เดรัจฉานบางประเภทก็ยังเทียบมันไม่ได้ ผู้รู้จักเอาภาระและเอาภาระคือคนแท้ๆ ผู้มีภาระมากด้วยกิเลสด้วยความโง่ที่หลงตนว่าเก่งว่าฉลาด คือผู้หาความเสื่อม หาความสุขใส่ตน ผู้รู้จักปลงภาระให้ได้สาระสัจจะให้สมตัวสมตน คือผู้ปฏิบัติธรรมผู้รับภาระแต่น้อยเลี่ยงภาระมากคือผู้สะสมความไร้สาระใส่ตัว รู้สึกเบาสาระและขวนขวายเอาภาระมากขึ้นมากขึ้นคือผู้บรรลุธรรมเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น ผู้มีภาระมากขึ้นโดยธรรมคือผู้เจริญขึ้น ผู้ที่มีภาระมากแต่ไม่สะสมวุ่นวายไม่หนักใจ ไม่ทุกข์ในภาระมากนั้นคือผู้เจริญขึ้นๆ ด้วยอินทรีย์พละแท้ เพราะเจริญด้วยสัปปุริสธรรม 7 จริง ในการประชุมในช่วงงานปลุกเสกฯ พ่อท่านได้เรียกสมาชิกชมรมเกษตรได้ประชุมกันที่ลานฟาง ญาติธรรมได้บอกว่าผลของการทำนาแบบกสิกรรมไร้สารพิษมีผลดีกว่าแบบใช้สารพิษอย่างไร พ่อท่านติงว่าเกษตรธรรมชาติจริง ไม่พึงมีการไถคราด ไม่ทำลายดิน ฉะนั้นเราควรกำหนดในเกษตรธรรมชาติว่าแม้จะไม่ใช้ยาฆ่าแมลงและเคมีก็ไม่ควรจะไถคราด พ่อครูว่า…อะไรอะไรก็ไม่เที่ยง แต่ถ้าทำมันแล้วดีกว่าก็เอา ผู้ที่ทำก็ต้องมีความรู้สึกว่าทำอย่างนี้มันไม่ได้ผล เขาทำให้เรากินแท้ๆจะอะไรกันนักกันหนา ก็ว่าไป มันก็อาจจะได้ทั้งสองนัย บางที่ดินมันก็จำเป็นมันต้องไถคราด ไม่เช่นนั้นมันใช้งานไม่ได้จริงๆมันจะแน่นมันจะแข็งอะไรก็แล้วแต่ ก็ต้องขุดคุ้ยขึ้นมาพอที่จะให้พืชพันธุ์ธัญญาหารอาศัยขึ้นได้ดี ไม่เช่นนั้นจะไม่ทันการ กว่าจะปลูกเข้าไปกว่าจะเกิด ดินมันแข็งก็ไม่ได้เรื่อง เขาก็จะต้องทำบ้างเราจะไปยึดมั่นถือมั่นโดยไม่เป็นอะไรเลยเสียทีเดียวก็ไม่ได้ ถ้าหากกินมันดีแล้วก็ไม่ต้องไถอะไร _ด.ญ.ดาวเพ็ญเพชร (จากภูผาฯ)…ให้หลวงปู่ดูผลงานการวาดภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 แล้วก็ในหลวงรัชกาลที่ 10 แล้วพลเอกประยุทธ์ พ่อครูว่า…ลุงประยุทธ์นี้เหมือนหมอเสมพริ้งพวงแก้วดี ก็เป็นความสามารถของเด็กๆเขา _สู่แดนธรรม…โศลกธรรมที่พ่อท่านให้เกี่ยวกับผู้ไม่เอาภาระกับผู้เอาภาระมาก กับผู้รู้จักปลงภาระ ผู้มีภาระมากแต่ไม่หนักใจ อยากให้ทีมงานเราเอามาเผยแพร่อีก เพราะไม่ค่อยได้ทบทวน พ่อครูว่า…จะมีใครเก็บไว้นอกจากท่านบินบน เอามาเปิดเผยทบทวนก็ดีมาก _บาปไหมคะ ถ้าไม่อยากให้ผู้อื่นได้บารมี พ่อครูว่า…บาปๆ ไม่อยากให้ผู้อื่นได้บารมี บารมี หมายถึง คุณงามความดีที่สะสม ไม่อยากให้คนอื่นสะสมคุณงามความดีมันไม่เข้าท่า บาปแน่นอนเป็นสิ่งที่ไม่ดี ไม่ควรคิดอย่างนี้ ตัวเองถามมาเข้าใจบารมีหมายถึงอะไรไหม ตรงกับที่หลวงปู่ให้ความหมายบารมีไหมหรือ หนูเข้าใจว่าบารมีหมายถึงอะไร ไม่อยากให้เขาได้บารมี…หือ?.. ก็ไม่บอกชื่อคนถามมาด้วย อโศกสาธารณโภคีสำหรับคนมีบารมีจะมาเอา _แซมดิน (จากสันติฯ)…วันนี้เป็นวันดีมากสำหรับชุมชนสันติอโศก เป็นวันบวร มีเด็กๆมาล้อมรอบผม อบอุ่นดี วันนี้ตั้งแต่ทำวัตรเช้า และมีการดูแลผู้สูงอายุต่อ มีฟังธรรมก่อนฉัน ตอนบ่ายก็มีการแยกกันไปทำงานแบ่งกันเป็น 6 กลุ่ม ในการไปล้างลานจอดรถพลังบุญ และหน้าธรรมทัศน์สมาคมไปถึงชมร. บรรยากาศครั้งนี้ดี ผมประทับใจมาก ในความร่วมมือกันทำและก็ทำได้ดี ทั้งเด็กร่วมมือกับผู้ใหญ่ไปด้วยกันได้ดี ซึ่งผมคิดว่าสิ่งที่พ่อท่านได้เพียรพยายามอบรมสั่งสอนมา เกิดผลอย่างดี ทำให้จิตวิญญาณ ของบุคคลเหล่านี้ที่มาศึกษา ปรับเปลี่ยนแล้วก็เจริญอย่างรวดเร็ว ถือว่าเจริญอย่างใช้ได้ แม้ที่มาบางคนจะเป็นเด็ก ทั้งสิกขมาตุ สมณะก็มาร่วมงานนี้ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่พ่อท่านได้ทำมา ผมเองก็ประทับใจ ผมก็เชื่อว่า ผู้ที่เข้ามาร่วมตรงนี้ก็จะเห็นด้วยเห็นและเห็นจริง เกิดความเปลี่ยนแปลงของสันติอโศก ที่เดิมอยู่คุ้มใครคุ้มมัน ไม่ค่อยสนใจกันไม่ทักทายกัน เด็กก็อยู่ส่วนเด็ก ผู้ใหญ่ก็อยู่ส่วนผู้ใหญ่ แต่ครั้งนี้และครั้งต่อไปมีชาวชุมชนมาร่วม ก็เป็นความมหัศจรรย์ซึ่งทำได้ยากในยุคนี้ มีบิณฑบาตอยู่ในชุมชนด้วย เพราะโควิดจึงไม่ได้ออกไปไหน _ข้าพุทธ ขาวดารา…บรรยากาศเป็นความร่วมมือระหว่างชาวชุมชนทั้งหมดโดยเฉพาะเด็กกับผู้ใหญ่ ที่ผ่านมาเราค่อนข้างแยกกัน แต่คราวนี้ ความร่วมมือกันทำได้ดี ตอนแรกเราให้ความสำคัญกับผู้อายุยาวมากหน่อย มีการเชิญผู้อายุยาวขึ้นมาให้พวกเรารู้จักมักคุ้น แนวทางปฏิบัติก็มีการสัมภาษณ์เด็กด้วยหลายคนอยู่ อาจจะคุยกันไม่เก่งแต่เป็นความก้าวหน้าเป็นความอบอุ่น ไม่ใช่แต่ให้เฉพาะผู้อายุยาวขึ้นมา เราก็ถามเด็กด้วยว่าเขาเป็นอย่างไรซึ่งผมว่ามันเป็นการสร้างความอบอุ่นที่เพิ่มขึ้นมาจากเดิม เป็นไปอย่างที่พ่อครูต้องการ พ่อครูว่า…ดีมาก อาตมาก็ขอพูดตรงนี้ในความเห็นความเป็นไปที่เรามีเราเป็นกันแล้ว ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ มันภาคภูมิใจในตนเองด้วย แต่ที่ภาคภูมิใจอย่างยิ่งคือทฤษฎีของพระพุทธเจ้าคำสอนของพระพุทธเจ้า วิธีการของพระพุทธเจ้า เอามาพูดเอามาบอกเอามาเปิดเผย ให้ใครทุกคนไม่ได้จำกัดว่าจะเป็นใคร แต่พวกเราได้ฟังเข้าใจแล้วก็เห็นดีแล้วก็มาปฏิบัติตามจนมาเกิดเป็นชุมชนเกิดเป็นชาวอโศก และก็มีพฤติกรรมกันอยู่อย่างนี้อยู่ในสังคมประเทศในโลก จนกระทั่งเกิดสังคมชุมชนสาธารณโภคี อาตมาว่ามันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ มันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ ธรรมดามนุษย์ในโลกไม่ว่าจะเป็นชาติไหนมันก็ครอบครัวใครครอบครัวมัน..ใช่ไหม บ้านใครบ้านมันต่างคนต่างอยู่ โอกาสที่เขาจะมารวมกันเขาก็มารวมกัน แต่มันจะไม่เหมือนอย่างที่พวกเราทำเพราะพวกเรามันเป็นเนื้อเดียวกันซึ่งไม่ใช่แค่บางเวลาแต่มันเป็นเนื้อเดียวกันตลอดเวลา มันลึกซึ้งนะเป็นเนื้อเดียวกันตลอดเวลา แน่นอนมีความคิดเห็นแตกต่างมีความคิดแยกมันไม่รวมเป็นหนึ่งเหมือนกับก้อนดินที่รวมเป็นก้อนผนึกกันอย่างนั้นหรอก แต่มันก็รวมทางจิตวิญญาณแล้วก็มันอยู่อย่างเป็นไปได้ ที่เป็นไปได้นี้อาตมาว่าสุดยอดแล้ว อาตมาว่าอาตมาเก่งนะ ไม่มีใครชมอาตมาอาตมาชมตัวเอง เก่งที่สามารถนำความรู้ของพระพุทธเจ้า ทฤษฎีของพระพุทธเจ้าออกมาให้คนฟัง พวกคุณนั่นแหละเก่ง พวกคุณเก่งที่ฟังแล้วเข้าใจ ยินดี แล้วเอามาปฏิบัติตามจนเกิดจริง เกิดเพราะคุณเป็นคนทำ อาตมาไม่ใช่เป็นคนที่บังคับคน แล้วก็มาเคี่ยวเข็ญ เหมือนลัทธิอีกหลายๆลัทธิจะต้องบังคับ อาตมาว่าเรื่องบังคับนี้อาตมาถือมาก อาตมาไม่ชอบบังคับใครๆเลย อาตมาถือว่าเป็นความเลวร้ายชนิดหนึ่งเลยในการบังคับคน จริงๆนะ อาตมาถืออย่างนั้น จะเห็นได้ว่าตลอดเวลาอาตมาจะไม่จู้จี้จุกจิกใคร ถ้าจะบอกก็บอกไป ทำก็ทำ ไม่ทำก็แล้ว ถ้ามันสำคัญมากก็อาจจะบอก 2 ครั้ง 3 ครั้งเป็นสูงสุด บอกก็บอกอย่างที่ บอกธรรมดาไม่ได้หมายความว่าบอกยังอย่างนั้นอย่างนี้ บอกหลายครั้งแล้วนะ… จะไม่ส่งเสียงสำเนียงอย่างนี้ อย่างนี้เป็นต้น แต่พวกเราก็สามารถทำได้จนกระทั่งเกิดผลอย่างที่เป็น ผลของชาวอโศกซึ่งเป็นกลุ่มชุมชน ที่ไม่ใช่ว่าทำเล่นเป็นทีๆ ทำเล่นชั่วคราว ทำเล่นอย่างเป็นแฟชั่นอะไรต่ออะไรมันไม่ใช่ อาตมาว่ามันไม่ใช่อย่างนั้นเลย แต่มันเป็นเรื่องจริง มันเกิดจริงๆ แล้วคนก็มาอยู่อย่างนี้แต่ละคนแต่ละคนต่างคนก็อยู่บนฟ้าบางคนก็อยู่บนวิมานอยู่ในชั้นสูงๆต่างๆ คนที่อยู่บนดินก็มารวมกันคนที่อยู่บนฟ้าบนวิมานอยู่สูงก็มารวมกันมาอยู่ด้วยกันอย่างนี้ แล้วมันก็เสมอสมานกันอบอุ่นมีความสุขเพราะต่างก็มากันคนละทิศคนละทางความยึดมั่นถือมั่นกันคนละแบบคนละอย่างแต่มาอยู่ด้วยกันไป ก็ไม่เห็นทะเลาะกัน ไม่เห็นแย่งสิ่งนั้นสิ่งนี้กัน มีแต่จะช่วยกันสร้างช่วยกันแบ่งกันกินกันใช้ไป ซึ่งมันสุดยอดแล้วอาตมาว่า ถ้าหากทฤษฎีนี้ผู้บริหารปกครองที่ไหนก็แล้วแต่ประเทศไทยก็ตามที่ไหนก็ตาม เข้าใจจริงๆแล้ว แล้วก็เห็นได้ว่าทฤษฎีนี้มันดีจริงๆนะมันน่าจะต้องเอามาใช้ยิ่งเป็นผู้บริหารสังคมประเทศน่าที่จะต้องเอามาใช้อย่างสำคัญ แล้วมันก็ไม่ใช่ของอาตมาด้วยซึ่งเป็นของพระพุทธเจ้าอาตมาไม่ได้เสียหน้าเลยถ้าจะเอาไปใช่ไหม แต่ทำไมมองไม่เห็นกันเข้าใจกันไม่ได้ อันนี้อาตมารู้ รู้ว่าทำไมเขาไม่เห็นไม่เอาไป เพราะ (พูดชัดๆนะ).. บารมีเขายังไม่ถึง ภูมิธรรมเขายังไม่ถึงทั้งๆที่มีปรากฏการณ์เห็นอยู่ในประเทศไทย ไม่ใช่กลุ่มเล็กนะ และไม่ได้หมายความว่าปิดบัง แต่เราเปิดเผยประกาศเอาไปทั่ว รู้กันด้วยไม่ใช่ไม่รู้ ก็รู้ว่าเขารู้กันด้วย คนไม่รู้ก็มีไม่น้อยเหมือนกัน แต่จะไปเอานิยายอะไรกับคนหูหนวกตาบอด ทั้งๆที่ไม่ตาบอดหูหนวกแต่ก็เหมือน อันนั้นก็น่าเห็นใจเขาเหมือนกันคือว่าเขาไม่มีบารมีเลย บางทีเขาแย่มากเลยทั้งๆที่มีอยู่เปิดเผยโฆษณา จะว่าไปแล้วเขาหาว่าพวกเราโฆษณามากกว่าด้วยซ้ำ ที่จริงเปิดเผยเพื่อจะให้รู้ว่าของดีนะจ๊ะ กระจ๊องงองๆ เจ้าค่ะเอ้ย ของดีมาแล้วจ้า ซึ่งถ้าใครสนใจมาเอา เราก็ไม่ได้ไปเอาอะไรจากเขา เราจะไม่ได้อะไรจากเขาหรอก มีแต่เขาจะได้ สังคมส่วนใหญ่จะได้ อย่างนั้น อย่างพวกคุณมานี้ไม่ใช่อาตมาได้อะไร พวกคุณได้ สังคมได้ ประเทศชาติได้ จะว่าไปแล้ว พูดแล้วอย่าหาว่าพูดเอาดีใส่ตัวหรือทวงบุญคุณสังคมประเทศชาติ ชาวอโศกทำงานช่วยประเทศชาติ ง่ายๆ ทุกคนมาอยู่ที่นี่มีแต่คนขยันไม่ได้เป็นคนขี้เกียจเลย แล้วขยันทำงานที่ดีทำงานที่เป็นสาระทำงานที่เลือกเฟ้นแล้วด้วย งานที่ไร้สาระเสียเวลาเปล่าไปเตะฟุตบอลไปดีดดิ้นบ้าง เราก็จะมีเพียงเล็กน้อย เป็น amature เป็นเรื่องสมัครเล่นไม่ใช่เรื่องจริงจังไม่ใช่เรื่องอาชีพอะไร ก็เพียงนิดหน่อยอาศัยเพียงชั่วคราว นานๆที เป็นเรื่องจร แต่เราทำงานเป็นสาระกัน เพราะฉะนั้นจึงเกิดผลเกิดประโยชน์ในสังคมมนุษยชาติในโลก 1.เวลา แรงงาน ทุนรอน ที่เคยเอาไปสูญเสียกับสิ่งไร้สาระ คนเราสิ่งที่น่าเสียดาย ตรวจสอบเหตุคนในโลก เอาเวลาไปสูญเสียกับสิ่งไร้สาระ เอาทุนรอนเอาแรงกายแรงใจไปสูญเสียกับสิ่งไร้สาระ แต่พวกคุณมากอบกู้ได้ เวลาก็เอาคืนมาทุนรอนก็เอาคืนมาแรงกายแรงสมองก็เอาคืนมา แล้วเอาไปทำงานขยันไม่ได้ขี้เกียจตามสมรรถนะความสามารถและเวลาที่มี ทำแล้วก็ไม่เอามาเป็นของเราอีก ซึ่งมันซับซ้อนนะแล้วสะพัดกระจาย เป็นเรื่องเศรษฐศาสตร์ที่สูงสุด กระจายเผื่อแผ่ออกไป ไม่หวงแหน ไม่แลกเปลี่ยนอย่างเอาเปรียบ อาจจะแลกเปลี่ยนบ้างขายบ้างซื้อบ้าง แต่ขายได้น้อยแจกเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นสุดยอดของเศรษฐกิจเศรษฐศาสตร์จริงๆ _สู่แดนธรรม…พ่อท่านเหมือนปรารภ มีคนคอยจ้องจับผิด ว่า พ่อท่านจะเรียกร้องให้สังคมยอมรับ ผมก็ว่า เป็นอาการที่รำพึงโดยไม่ได้มีความใคร่อยากให้แก่ตัวแต่อย่างใด สังคมสาธารณโภคี ชาวโลกเขาทำได้แค่ขั้นสามัคคียะ แต่ไม่ถึงเอกีภาวะ ชาวอโศกพร้อมเพรียงกันมีเอกีภาวะด้วย เคยมีคนถามชาวอโศกว่า ทำไมดูเหมือนเขาพูดเรื่องเดียวกัน เราก็มีสื่อสารได้ดูกันทุกวัน เห็นทันตา กิจกรรมอะไรก็รับรู้ได้เร็ว ผิดกับสมัยก่อนที่กว่าจะรู้กันก็ต้องข้ามเดือน โดยดูจากสารอโศก _ดร. อุ่นเอื้อ…พ่อครูรำพึงรำพันอาทิตย์ที่แล้วว่า อาตมามั่นใจว่า..เชื้อแท้รากเดิม ต้นจริง ของไม้พุทธะนี้ ได้หยั่งลง ตั้งขึ้น และออกผลพร้อมเมล็ดแล้ว อย่างแข็งแรง คงมั่น ยืนหยัด ชูยอด เพื่อพลโลก เต็มรูปแบบแล้ว ผู้เห็น พิสูจน์ตาม ได้ลิ้ม ธรรมรสนี้ จะบอกผู้อื่นและต่อเนื้อ ต่อเชื้อ ต่อราก ต่อต้น สร้างผล สืบไปให้งอกงาม อีก อีก อีก อีก อีก อีก อีก อีก ก็เชิญเทอญ… อังคาร 26 ม.ค. 2564 ตี 2.36 นาที ก็น่าจะเกิดเพราะกิจกรรมวันบวร…ที่ศีรษะอโศกมีการรวมกัน 120 ชีวิต ทั้งชาวชุมชนเด็กนักเรียนศิษย์เก่า มารวมกันปลูกแตงโม… ตอนแรกคิดว่าคนจะน้อย แต่กลับมีคนมามาก มีพลังจริงๆ เป็นจิตวิญญาณแห่งความเสียสละ แตงโมตรงนี้ผลของมันอาจจะเป็นเพียงพืชผักผลไม้ แต่จิตวิญญาณแห่งความเป็นพุทธะที่พวกเรามารวมกันได้เห็นเลยว่า มันเป็นจิตวิญญาณที่มีพลังจริงๆ สามารถที่จะเติบโตขึ้นไปได้ เหมือนที่พ่อครูบอกว่า คนมีคุณ บุญมีค้ำ กิจกรรมผลเจริญ ก็อยากจะถามว่า ที่พวกเราทำ ตรงตามที่พ่อครูรำพึงมามั้ย พ่อครูว่า…เป็นการพูดรำพึงรำพันเพื่อทบทวนท้าวความ ให้เห็น ให้ได้ยิน ให้ได้ฟังกันว่าเรามีความปรารถนาต้องการมีจุดมุ่งหมายให้เป็นเช่นนั้น อาตมาก็เสริมว่า พวกเราก็ทำได้แล้วเกิดผลจริง ทุกวันนี้ก็เกิดผลแล้วเป็นจริงได้จริงแล้ว ซึ่งได้สำทับลงไป เพื่อให้พวกเราได้ชัดเจนได้เห็นความสำคัญ และรักษาบูรณะทำให้ดีมากยิ่งขึ้นๆ อาตมาภาคภูมิใจในตัวเองที่เข้าใจในทิศทางของพระพุทธเจ้า และเข้าใจทฤษฎีของพระพุทธเจ้าได้นำมาสืบทอดต่อยอด ของพระพุทธเจ้าต่อไปอย่างที่ได้ทำมาแล้ว แล้วก็มาสืบทอดต่อยอดขึ้นไป แล้วก็เห็นผลมันเป็นอย่างที่มันเป็น ก็สำทับอย่างที่ว่าให้พวกเราชัดเจนย้ำเข้าไปในจิตใจให้เข้าใจซาบซึ้งให้เห็นจริงว่า พวกคุณทั้งหลายทำถูกแล้วทำดีแล้ว รักษาไว้ให้ดีและบูรณาการให้มันเจริญๆๆ๓ขึ้นไปเถิด ขอให้เจริญเจริญทุกๆคน เทอญ _สมณะเดินดิน…พอดีได้ฟังข่าวการเตรียมงานของศีรษะอโศก เขาลงทุนลงแรงมากเลย ขอใช้โอกาสนี้นิมนต์สมณะสิกขมาตุประชุมเตรียมงานออนไลน์กันในวันพุธที่ 3 เวลา 14:00 น ปีนี้คงต้องนิมนต์ให้เป็นเกจิทุกรูป เป็นปีแรกที่มีเกจิมากที่สุด ก็เป็นเครื่องเช็คอีกอย่างหนึ่งว่าถ้าที่ไหนมีสมณะเกจิน้อย แสดงว่าที่นั่นสมณะป่วยมาก แต่ละที่ๆคงนิมนต์มาร่วมเป็นเกจิด้วยเพื่อความอบอุ่นในแต่ละพุทธสถาน ในวันพุธเวลา 14:00 น จะมีการประชุม สมณะสิกขมาตุเกจิ แล้วตกลงเรื่องงานพุทธาภิเษก ดูเหมือนครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 46 ปีที่แล้วเป็นครั้งที่ 45 ประชุมทาง zoom _สู่แดนธรรม…พวกเราที่มีพฤติกรรมแสดงออกอย่างน่าภูมิใจ พวกเราก็น่าจะชื่นใจตามเพราะว่าเราแต่ละคนไม่มีอามิสล่อ ไม่มีค่าจ้างรางวัล ไม่มีลาภยศสรรเสริญเป็นเครื่องชักนำและไม่มีการกำหนดโทษว่าถ้าไม่ทำจะเป็นโทษอย่างไร ไม่มีเงินเดือนไม่มีรายได้แต่ว่าเอาแรงมาทำ ให้เอามาเยอะๆเอามามากๆ _ด.ญ.กรรณิการ์ (บ้านราชฯ)…เป็นตัวแทนกลุ่มชมพูทวีปค่ะ นักเรียนชั้น ม. 3 สัปดาห์นี้เราก็ไปร่วมมือกันที่สวนอาละอองนิล เป็นงานถอนหญ้าออกจากแปลงกะหล่ำ บล็อคโคลี่ และคะน้า ก็มันเป็นบรรยากาศที่อบอุ่น แต่บรรยากาศที่นี่ไม่ดีเท่าสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาไปที่ริมมูล แต่สัปดาห์นี้อบอุ่นกว่าหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะเรามีความเข้าใจระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่มากขึ้น อบอุ่นที่เรากับผู้ใหญ่ได้แลกเปลี่ยนความรู้กันแม้จะไม่ใช่การทำงานทั้งหมดอาจจะมีการคุยกันบ้าง แต่คิดว่ามันดีที่เราได้สานสัมพันธ์กับผู้ใหญ่ ได้ทำงานร่วมกัน ได้คุยกันบ้าง ทำให้เราได้รู้ว่า การที่เรามาสัมพันธ์กับผู้ใหญ่มันก็ไม่ได้เลวร้ายกว่าที่ตอนที่เราคิดไว้ตั้งแต่แรก มันทำให้เราลดความยึดติด ที่คิดไว้แต่เดิม _เติร์ด…แรกๆ ไม่ค่อยได้คุยอะไรกับผู้ใหญ่แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ คบคุ้นกันได้พบปะพูดคุยกัน เพราะว่าที่ผ่านมา ตอนที่ยังไม่มีกิจกรรมวันบวร คือเราอยู่กันแบบธรรมดาผู้ใหญ่ก็เดินผ่านกันไปผ่านกันมาไม่รู้จักกัน แต่เมื่อได้มาพบปะพูดคุยเวลาผ่านไปยาวนานขึ้นเราก็ได้มีการปฏิสัมพันธ์กัน การที่เราจะเข้าใจกันได้ต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกันพอสมควร ได้ร่วมมือกันรวมพลังกันทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ มาถอนหญ้าทำกสิกรรม นับว่าโดยรวมแล้วก็ดีครับ เหมือนได้ออกมาจากภพของตนเอง เพราะส่วนใหญ่อยู่แค่ในฐานของตนเอง มีความรู้สึกดีๆได้หัวเราะได้คุยกัน ผมประทับใจตอนที่เราได้ไปสรุปกัน มีการเปิดศาลไคฟงด้วย ท่านสมณะฟ้าไท เป็นบรรยากาศที่มีความสนุกครื้นเครง ปกติแล้วเปิดศาลแล้วจะต้องเหมือนมีการพิพากษาประหารชีวิต แต่อันนี้เรามาสรุปทำความเข้าใจกัน แล้วก็มีเล่นหัวกันบ้าง แต่รู้สึกดี คือ เด็กเป็นโจทย์ แม่ฐานเป็นจำเลย ผู้ใหญ่เป็นพยาน ก็ดี สนุกดี สุดยอดมาก _สู่แดนธรรมว่า…ต่อไปวันจันทร์จะเป็นวันที่มีความสุขมากที่สุด แม่ครัวก็ตั้งใจทำกับข้าวเต็มที่เลย วันนี้มีก๋วยจั๊บญวนหมดไปหลายหม้อเลยครับ ขนมวุ้นหมดไปสี่หม้อ ขนมอะไรก็งัดฝีมือออกมาวันนี้ _ดิฉัน ดาวชิดเดือนค่ะ มีเรื่องสงสัยติดใจมานานแล้วค่ะ อยากทราบว่าศีลข้อ 1 ห้ามฆ่าสัตว์ แต่ในอาชีพของดิฉันคือคนทำสวนและทำ 5 ส จะต้องฆ่าสัตว์ทำร้ายสัตว์ บางตัวก็ไส้ทะลักขาหักตลอดเวลาที่ทำแล้วจะไม่ได้ตั้งใจก็ไม่ได้ จะว่าไม่ได้ตั้งใจก็ไม่ได้ ไม่ทำก็ไม่เสร็จ แล้วเราก็ผิดทุกครั้ง แล้วมีอาคนหนึ่งบอกว่าไม่ทำหรอกมันโดนสัตว์ทำให้สัตว์มันตายอาไปทำอย่างอื่นดีกว่า แต่เราสิเลี่ยงงานไม่ได้ เป็นผู้น้อยต้องทำอยู่ร่ำไป แล้วเราจะบาปไหม แล้วเราจะทำใจอย่างไรคะ พ่อครูว่า…มันมีอจินไตยของมันนะ เราเองเราระมัดระวัง เรามีหลักเกณฑ์ที่จะไม่ไปทำร้ายสัตว์ ไม่มีเจตนาเป็นตัวสำคัญ เจตนาเราไม่ต้องการไปทำร้ายทำลายกันเลย แต่มันก็มีเหตุการณ์มีเรื่องที่จะต้องจำนน อย่างที่พูดมานี่แหละ ยิ่งเราอยู่ด้วยกันหมู่ใหญ่ สังคมใหญ่ร่วมกันก็ต้องช่วยกันทำ มันก็ต้องเป็นเช่นนี้แหละ มันเลี่ยงไม่ออก เพราะฉะนั้นจะมาโทษอะไรไม่ได้หรอก นอกจากว่ามันถึงเวลาวาระของวิบาก นี่ตอบอย่างอาตมาเข้าใจแล้วก็เห็นว่า ที่ถามมาคืออย่างนี้ เป็นสัญญาที่จะต้องเป็นเช่นนี้เป็นเรื่องวิบาก เรามีเจตนาไม่ไปทำร้ายทำลายสัตว์ตัวไหน แต่มันก็ต้องมีเหตุการณ์มีวาระที่จะได้ทำมันก็เป็นเรื่องสุดวิสัย มันจำเป็นจริงๆ ไม่ทำก็ไม่ได้ มันต้องเป็นอย่างนี้เพราะมันได้เท่านี้ อย่างนี้เป็นต้น ความสงบของพุทธนั้นสุดลึกซึ้ง _สมณะลือคม…บวร ศาลีอโศก วันนี้ได้ไปรวมพลังที่แปลงกสิกรรม ไปถอนหญ้า เก็บกิ่งไม้เอาไปทำเพอร์มาคัลเจอร์ ช่วงแรกมีการพูดคุยประชุมกัน ท่านใต้ดาวนำคำสอนพ่อครูมาเปิดเพื่อทบทวนธรรมะ แล้วนำธรรมะไปสู่การปฏิบัติ วันนี้ก็มีสิ่งดีๆเกิดขึ้น ว่าผู้สูงวัยที่ปกติก็อยู่แค่โรงครัว แต่วันนี้สามารถใช้อิทธิบาท ใช้สองเท้าเดินไป ระยะทางประมาณ 600 เมตร เดินไปด้วยสภาพร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงทั้งคู่ ไปถึงก็เกิดบรรยากาศที่ดีมาก บอกว่าวันนี้มาช่วยอะไรไม่ได้ แต่มาเป็นเพียงผู้ตรวจการ แล้วผมก็สงสัยอันหนึ่ง เมื่อเราได้เห็นบางสำนักนำคนไปเป็นหมื่นเป็นแสนแต่นั่งสมาธิก็เกิดความสงบภาพสวยงาม แต่ตอนนี้ชาวอโศกการรวมกันไม่ได้สงบเลยแต่มีความสงบที่อยู่ในใจ แม้ว่ามือไม่ได้สงบเลย เดี๋ยวก็จับ เดี๋ยวก็ถอน เดี๋ยวก็ยก เดี๋ยวก็กวาด เดี๋ยวก็ถู แต่ได้เกิดความรู้สึกว่า เกิดจากการที่เรามี ศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา เฉลี่ยลาภกัน เอาคนที่มีศีลเสมอกัน ความเห็นไม่แตกต่างกันเอามาทำงานร่วมกัน เห็นถึงพลัง พ่อครูว่า…คำว่า “ความสงบ” ความสงบของศาสนาพระพุทธเจ้าไม่ใช่ความสงบตรงที่เอาคนมานั่งหลับตาแล้วก็สงบนิ่งอยู่รวมกันให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่ๆ ไม่มีเลยที่พระพุทธเจ้าท่านพาทำอย่างนั้น ไม่มีตัวอย่างด้วย อันนี้พวกทำนอกรีตทั้งนั้น ไม่ใช่ ความสงบของพระพุทธเจ้านั้นสูงส่งคิดตามได้ยากมาก ผู้ที่สงบแล้วจะคล่องตัวแววไวปราดเปรียวทั้งกายกรรม วจีกรรม นี่คือคนสงบ เพราะเหตุที่มันไม่สงบคือตัวกิเลส เมื่อได้จับตัวกิเลสถูกตัวแล้วก็ฆ่ากิเลส กำจัดกิเลสตายไปจากชีวิตจริงๆ คนผู้นั้นยิ่งมี “กายปาคุญญตา” ยิ่งมีจิต “ปาคุญญตา” หมายความว่า กายก็คล่องแคล่วว่องไวปราดเปรียว จิตใจก็คล่องแคล่วว่องไวปราดเปรียว นั่นคือคนสงบ ไม่ใช่คนสงบก็ยิ่งนิ่งๆเฉยๆ อันนั้นมันพาซื่อ บ้องตื้น มันเป็นขั้นอนุบาล ของพุทธเจ้าไม่ใช่ตื้นๆอย่างนั้นเลย ของพระพุทธเจ้านั้น คัมภีรา (ลึกซึ้ง), ทุททัสสา (เห็นตามได้ยาก), ทุรนุโพธา (บรรลุรู้ตามได้ยาก), สันตา (สงบระงับอย่างสงบพิเศษ แม้จะวุ่นอยู่), ปณีตา (สุขุมประณีตไปตามลำดับ ไม่ข้ามขั้น), อตักกาวจรา (คาดคะเนด้นเดามิได้), นิปุณา (ละเอียดลึกถึงขั้นนิพพาน), ปัณฑิตเวทนียา (รู้แจ้งได้เฉพาะผู้เป็นบัณฑิต บรรลุแท้จริงเท่านั้น) (พตปฎ. เล่ม 9 ข้อ 34) ความสงบของพระพุทธเจ้าจึงเป็นเรื่องลึกซึ้ง แล้วมีอำนาจมีอิทธิพล เราใช้ความสงบสยบความรุนแรง เอาไปปฏิวัติเอาไปรัฐประหารรัฐบาลที่เลวร้าย เราได้ทำมาจริง ได้ไปพาประชาชนร่วมกัน ประชาชนเข้ามาร่วมกันโดยเข้าใจ แล้วเราก็เป็นผู้ที่มีธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นตัวหลักๆ พาทำ แล้วทำได้สำเร็จผ่านมาแล้วแต่คนยังไม่เข้าใจหรอก อาตมาพูดนี้ หลายคนก็เห็นว่า พูดเอาดี ทวงบุญคุณกันเรื่อย แต่อาตมาไม่ได้มีความคิดอย่างนั้น เพียงอยากให้คนเข้าใจเพียงว่า นี่คือสุดยอดพฤติกรรมของมนุษยชาติ และมี “ความจริง”เป็นอิทธิฤทธิ์มีอำนาจร่วมด้วยกับความสงบนั้นเพียงพอเป็นธรรมาวุธ ไม่เช่นนั้นไม่มีอะไรไปสู้กับเขาได้ มันเป็นความลึกซึ้งที่คนเข้าใจไม่ได้ง่ายๆ มีอะไรไปสู้เขามือเปล่าๆ เอาความจริง ความถูกต้อง ความดีงาม ความอดทน ซึ่งเป็นคุณธรรมทั้งนั้นเลย เป็นธรรมาวุธ เอาไปปราบความเลวร้าย ไปปราบความไม่เหมาะควรไม่ดีงามได้สำเร็จ แล้วเกิดความสงบ สงบตั้งแต่เราไปต่อสู้ก็ต้องสู้ด้วยความสงบ ไม่ให้เกิดความรุนแรงตลอดเวลา แม้แต่ความรุนแรงอย่างหยาบเท่าที่มันจะหยาบจนกระทั่งความรุนแรงขั้นกลาง จนถึงขั้นเล็กน้อย แล้วเราก็ทำให้สงบลงตัวได้ แต่ไม่ใช่คนอยู่นิ่งๆนั่งสงบเฉยๆ พาซื่อเฉยๆไม่ใช่ สงบอย่างกายกรรมก็มีฤทธิ์ของความสงบวจีกรรมก็มีฤทธิ์ของความสงบ วจีกรรมเป็นภาษาสื่อให้ชัด จะพูดใหัชัดก็คือปากหอก ภาษาที่เป็นปากหอก มุขสตี มันแหลมมันคมมันแทงไปสู่ผู้ที่มีความผิด มีความไม่ดีงาม พูดจิ้มหรือว่าตำหนิ ปราบ ความไม่ดีไม่งามที่ใครๆเขาทำก็เอามาพูดที่เขาประพฤติ จริงก็เอามาพูดบอกว่ามันเลวอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้อะไรต่างๆนานๆนี่แหละเป็นการแสดงออก ก็จะรุนแรงเพราะว่าภาษาพระพุทธเจ้าเรียกว่า มุขสตี เป็นปากหอก คนเข้าใจสัจจะเข้าใจศาสตร์ เป็นวิชาการแล้วก็เป็นศาสตร์เป็นอาวุธสงคราม สงครามปากหอก รบด้วยปากหอก กายกรรมไม่ไปทำร้ายใคร แม้แต่จะไปตบตีไปแตะต้องอะไร ไม่มี มึงมาพาโวย ในเรื่องกายกรรมไม่มี มีแต่เรื่องปากชี้ความจริง มันแรงตรงที่มันเป็นสัจจะ ไปพูดความทุจริตความไม่ดีไม่งาม ความเป็นอกุศล ความเป็นสิ่งที่ไม่สมควร ก็ไปถูกบุคคลที่เขาทำจริง ถ้าเราพูดสิ่งที่ออกไปว่ามันดีอย่างนี้มันเลวอย่างนี้มันชั่วอย่างนี้ แต่คนเขาไม่ได้ทำคนไม่ได้ปฏิบัติอย่างที่เราพูดเลย มันก็ไม่ถูกใคร เราก็บ้าอยู่คนเดียว แต่เราพูดนั้น มันมีจริงเป็นจริงมันถูกเปรี้ยงเปรี้ยงๆๆมันก็เลยแรง คนก็เลยมาว่าคนที่ไปปราบ ว่า ไปทำอะไรรุนแรงมันก็เลยย้อนแย้งอยู่ในที ที่จริงแล้วมันแรงในอกุศลกรรมที่เขาทำมันอยู่ในตัว แต่เราไม่ได้ทำอะไรเลวร้ายเลยเรามีแต่ปากพูด อธิบายสิ่งจริงของมนุษยชาติที่เป็นกายกรรมวจีกรรมที่เป็นความลึกซึ้งสูงส่ง ที่เมืองไทยทำได้ ที่อื่นเขาก็ไม่ทำกัน เขาทำไม่ได้หรอกเพราะว่าเขาไม่มีคุณธรรมอันนี้ แล้วเขาก็ทำกันไม่ถึง ไม่มีคนทำ แล้วไม่มีต้นรากทฤษฎีความรู้ด้วย ต้นรากทฤษฎีความรู้เป็นของพระพุทธเจ้าและมีในเมืองไทยด้วย ตอนนี้ที่เมียนมาร์ก็กำลังทำการรัฐประหารกัน ก็จะไม่เหมือนกัน อันนั้นไม่ใช่ประชาชนรัฐประหารเลย แต่เป็นทหารยึดอำนาจของรัฐบาลประชาชนเลย รัฐบาลอองซานซูจี ซึ่งไม่เหมือน เขาก็เป็นชาวพุทธนะพม่า (Myanmar) แต่ทำได้ไม่เหมือนไทย _ช่วยบุญ (จากปฐมฯ)…รายการนี้ดีจริงๆ มันอบอุ่น ได้เห็นทุกพุทธสถานเลย มันเป็นความยิ่งใหญ่จริงๆ ยิ่งใหญ่ในคำสอนของพ่อครูที่ทำให้ลูกๆได้แสดงออกแต่ละพุทธสถานมีความเข้มแข็งอย่างไร มีความรักความสามัคคีอย่างไร ทำให้พ่อได้เห็น นี่แหละคือคำสอนของพ่อครูที่พ่อครูสอนแล้วเกิดเป็นพลังมดเล็กๆแต่ละชุมชน ที่สร้างรังให้ตัวเองเข้มแข็งอย่างยิ่งใหญ่ เป็นคำสอนของพ่อจริงๆ ซาบซึ้งมาก รายการนี้ดีจริงๆได้เห็นทุกพุทธสถาน ประทับใจ ได้เห็นท่าน อ.หนึ่ง ได้มาบอกให้รู้ว่าวันนี้คือวันอะไรในอดีต เราร่วมกันทำอะไร ได้บอกพ่อครูว่าที่พ่อครูว่า…คนชั้นสูงคือคนทำกสิกรรม หลายๆคนได้มีพลังทำงานร่วมกัน…ร้องเพลง กสิกรแข็งขลัง …กสิกรรมจึงประจักษ์เป็นหลักมั่น อาชีพสำคัญคู่ไทยวิไลศรี ไทยจะเข้มไทยจะแข็งแรงทวี ก็ด้วยมีกสิกรรมประจำเทอญ.. ช่วยบุญได้ ปฏิบัติธรรมตามคำพ่อสอนมาตั้งแต่อายุ 19 ปี วันนี้อายุ 59 ปี เราได้อะไรบ้าง คิดนะคะ อย่างที่ได้ฟังคนเขาพูดกับพ่อครู ที่เขาไม่เห็นด้วย เราก็มาตรวจเช็คจิตใจเรา แต่ก่อนเราก็จะว่าเขาตอบ แต่ตอนนี้เราเข้าใจจริงๆ ว่า ถ้าเขาไม่ได้ปฏิบัติและเป็นอย่างที่เราเป็น เราก็ไม่ได้ว่าเราดีกว่าเขาแต่เราได้มรรคผลอย่างนี้ ช่วยบุญจะบอกพ่อครูว่า..เราไม่ได้เสียเวลาไปเปล่าๆเลย แต่สิ่งที่เราได้เหมือนเราได้ม้าแก้ว ช้างแก้ว สำหรับเราตัวเล็กๆ ถึงจะไม่รู้ธรรมะที่ยิ่งใหญ่ นาฬิกานาฬิกาจับเวลา 7 นาทีจับคิว แต่เราก็ได้อย่างนี้ ปฏิบัติธรรมตามพ่อสอน ได้ถือศีล ประพฤติปฏิบัติตามศีล ถ้าอยู่ที่บ้านเราก็แค่ไปวัดกับแม่ ไปทำบุญ แม่ทำกับข้าวอร่อยแม่ก็จะแกงปลา แกงเขียวหวานไก่ ทำขนมไปวัด แล้วก็ค้างคืนไปนั่งสมาธิ แต่หลังจากที่มาพบกับชาวอโศก ทั้งแม่และลูก ก็ทำเหมือนเดิมอยู่บ้านนาน 6 ปี กว่าจะมาอยู่ปฐมอโศก แม่ก็เลิกแกงไก่ มาแกงมะเขือไปวัด ก็อยากนั่งสมาธิอยู่ แต่ต่อมามาอยู่กับพ่อครู มาปฏิบัติธรรมแบบลืมตา สรุปย่อว่า เราได้เรียนรู้ตัวเอง ลดละกิเลสเพื่อเอาชนะตัวเอง และมีความผาสุก แต่ก่อนมีความผาสุกมีความเจ็บปวดรวดร้าวน้ำตาไหลทรมาน เมื่อชนะแล้วก็มีความเบาความว่างความสบายมากขึ้น มีคำถามสุดท้ายว่า เมื่อเราตายไปจะได้มีต่อยอดต่อไปหรือจะเริ่มต้นใหม่คะ พ่อครูว่า…ได้แน่นอน ได้ต่อแน่นอน _ปะพัดชา…ครั้งหนึ่งดิฉันเคยสงสัยว่า ถ้าพ่อท่านไม่อยู่พวกเราจะอยู่อย่างไร มาปีนี้สมกับปีทองของพ่อครูเราได้จัดวันบวร แต่ละพุทธสถาน แม้ว่าทำไม่ได้เต็มร้อย บางคนต้องอยู่ร้านค้าขายของบางคนทำครัว มีสิ่งประทับใจคือ เชื้อแก่นวันบวร ไม่จางหาย แม้คนมาไม่ได้ก็มาช่วยหุงข้าว จัดอาสนะ มาทำวัตรเช้า มารับประทานอาหารร่วมกัน รู้สึกอบอุ่นใจ _ดินดอกพุทธ…ต้นไม้ที่รากชี้ขึ้นบน ที่อยู่ข้างบันไดทางขึ้นเฮือนศูนย์สูญ มีความหมายอย่างไรคะ พ่อครูว่า…ไม่มีใครไปตั้งความหมายให้ต้นไม้ต้นนั้นที่ทำรากขึ้นข้างบน ไม่มีคนจะไปตั้งความหมายให้มัน มันไม่มี มันเป็นธรรมชาติของมัน ธรรมชาติของต้นไม้ชนิดนั้นอย่างนั้น มันก็งอกออกมาแล้วธรรมชาติของมันรากมันจะต้องงอขึ้นข้างบนมันก็ขึ้น เราก็ไปติดใจสังเกตว่าธรรมชาติธรรมดามันต้องลงดินแต่นี่หนูดินดอกพุทธไปเจอแล้วสะดุดตา หลวงปู่ตอบไม่ได้ เพราะว่ามันเป็นธรรมชาติอย่างนึงมันไม่ได้คิดหมาย อะไรนอกจากเราจะไปสร้างความหมายใส่ให้มันก็อธิบายได้แต่ไม่อยากจะไปใส่ให้มัน สู่แดนธรรมว่า…พ่อท่านก็ตั้งชื่อว่า ต้นพิลึกพิลั่น พ่อครูว่า…อ๋อ ต้นไม้ต้นนั้นกิ่งที่ชี้ขึ้นไปไม่ใช่ราก เป็นกิ่งแห้งๆเก่าๆ เป็นต้นไม้แห้ง ต้นใหญ่เบ้อเร่อ ใครมาเห็นก็ไม่รู้ว่าเป็นต้นไม้ที่ปั้นขึ้นนะ เพราะว่ามีต้นไม้จริงอยู่ล้อมรอบจน หมดอร่อยได้ ผีก็หมดไปได้เช่นกัน _ผี ไม่มีจริง แต่ทำไม ถึงมีคนเจอ ได้ยินและรู้สึกได้ว่ามีผีนะคะ ทั้งๆที่ก็ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้อุปาทานอะไร พ่อครูว่า…พูดเองนะว่าไม่ได้คิดอะไรไม่ได้อุปาทานอะไร..ก็ตอบความจริงตามสัจธรรม ว่า มีอุปาทานต่างหาก แต่ไม่รู้ว่ามันคืออุปาทาน ผีนั่นมันไม่มีจริงหรอก ที่รู้สึกว่าอย่างนั้นมันเป็นผีเป็นสิ่งเคลื่อนไหวมีตัวตนอะไรก็แล้วแต่ มันไม่มี มันเป็นจิตอุปาทานของเราเอง เกิดในจิตของเราเอง แล้วไปรู้สึกว่ามี ตอบจบตรงนี้ว่า เหมือนเรากินอาหารแล้วเรามีรสอร่อย รสอร่อยไม่มีจริง อุปทานของเรามันมี รสอร่อยถึงมี หนูกินอาหารเคยอร่อยไหมล่ะ อร่อยมันไม่มีหรอก เหมือนผีนั่นแหละเข้าใจอันนี้ได้แล้วจบเลย ถ้าเราล้างความเป็นอร่อได้หมด ผีก็หายไป จบเวลาหมดแล้ว สู่แดนธรรม…สรุป จบ Category: ศาสนาBy Samanasandin1 กุมภาพันธ์ 2021Tags: พุทธศาสนาตามภูมิวิถีอาริยธรรม Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:640131_วิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ ดับ ชาติ 5 ด้วยวิชชา 8 NextNext post:640203_พุทธศาสนาตามภูมิ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ของวรรณะ 9 Related Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024