640326_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ปัญญาแยกแยะนามรูปได้เป็นเช่นไร
ดาวโหลดเอกสารที่ https://docs.google.com/document/d/1_lr8SNF3-dqdRtq9arlMII3_IC3BZAtfDnC5vcIqTKw/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1t4lP1Xu0ywL0UY5mLXHVY2TrZV0Ypwul/view?usp=sharing
และยูทูปที่ https://youtu.be/KXfbnz3MpPk
สมณะเดินดินว่า…วันนี้วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก ใกล้จะถึงงานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธครั้งที่ 44 ดูเหมือนจะมีพายุฤดูร้อนมา อยู่ที่นี่มีทั้งสามฤดูเลยทั้งร้อนฝนหนาวมาทดสอบความแข็งแรงของร่างกาย
ในวันอาทิตย์ที่จะถึง จะมีเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาชุมชน มาอธิบายพระราชบัญญัติวิสาหกิจเพื่อสังคม พวกเรามองกันว่า พระราชบัญญัติวิสาหกิจเพื่อสังคม น่าจะสอดคล้องกับวิถีชีวิตชนิดบุญนิยมของเราซึ่งไม่แสวงหาผลกำไร พระราชบัญญัติวิสาหกิจเพื่อสังคม จะมีการยกเว้นว่าหากเราทำธุรกิจที่ไม่แสวงหากำไร ทำเพื่อประโยชน์สาธารณะก็จะมีการยกเว้นภาษี ทีนี้เราจะเข้าหรือไม่เข้าก็จะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับหัวหน้ามาอธิบายให้พวกเราฟัง ไปวันอาทิตย์นี้เวลา 17.00 น. ถึง 18.00 น. ก็แจ้งข่าวไปยังบวรต่างๆด้วย จะทำให้พาณิชย์บุญนิยมของเราเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภคได้อย่างไร
มีคนมาซื้อของเราแต่ไม่กล้าเข้ามาเพราะรู้สึกว่าในวัดน่ากลัวไม่เหมือนที่ร้านค้า
ไทยเป็นประเทศมหาสาระด้วยการปลูกพืชผัก
พ่อครูว่า…ไม่เป็นไรหรอกเขากลัวคนแต่ไม่กลัววัตถุข้าวของชาวอโศก เช่น ที่กองเต็มหน้าเรา เป็นวัตถุดิบ ผลหมากรากไม้ ธัญญาหารต่างๆ พวกเราควรทำให้มากมายยิ่งขึ้นแล้วพวกเราก็มีพื้นฐานจิตที่ไม่ขี้โลภก็ยิ่งดีใหญ่ ไม่ขี้โลภก็ไม่จำเป็นต้องไปขายแพง ก็จะขายถูก ดีไม่ดีแจกฟรี ดีไม่ดีไล่แจกเลย ให้เขาไป ไปแบ่งกันกินให้อุดมสมบูรณ์ ไม่อย่างนั้นมันเสียถ้าเราไม่รีบแจกรีบแบ่งปันออกไป เราก็ต้องผลิตออกไปให้มากยิ่งขึ้น ไม่ต้องกลัวหรอกเพราะเรามีจุดสำคัญที่จิตของเรามีความสงบมีความพอแล้วนี่ มันเป็นหลักประกันสำคัญเลย พอ
มันพอกินพอใช้พออยู่ พอกิน ว่าไปแล้วมีแต่เหลือเกินเหลือเฟือเกินไปอีก แล้วก็เป็นสิ่งจำเป็นสำคัญด้วยเป็นปัจจัยชีวิตปัจจัย 4 ที่แท้จริงที่มนุษย์อย่างไรก็ต้องกินทุกคน ต่อให้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าก็ต้องฉันต้องเสวย เป็นคนจะชั่วดี มีจนสูงต่ำดำขาวอย่างไรก็ต้องกินกันทั้งนั้น อาหารเป็นหนึ่งในโลกจริงๆ
เพราะฉะนั้นถ้าใครเข้าใจจุดนี้สำคัญจุดนี้เอาอันนี้ เป็นสุดยอดแห่งสาระสัจจะ ที่เราจะทำให้ยิ่งใหญ่ ทำให้เต็มโลก พื้นดินของเราก็ดีอยู่ในโซนอบอุ่น เหมาะสมที่จะปลูกที่จะทำ ทำได้ทุกฤดูกาลด้วย เดือนเมษายน พฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม ผลไม้ของไทยนี้เอาให้ทั่วโลกตะลึง เป็นที่ซาบซึ้งดีทุกอย่าง เช่น มะปราง มันหวานจนจะกลายเป็นหมากผูแล้วนะ อาตมาไปเจอต้นหนึ่ง ของครอบครัวปีกแก้ว นายชุบ เป็นต้นเก่าแก่ไม่ค่อยมีคนแยแส ก็เอาเลยมีการแพร่พันธุ์ เดี๋ยวคงมีการตอนเอาเมล็ดไปเพาะ เอามาขยายพันธุ์ให้ดีๆ
คือ มันจะมีต่างกันอยู่ แต่อาตมาว่ามะปรางก็กินดีนะ มันจะน้ำฉ่ำกว่าหมากผู แต่หมากผูนี่ไม่มีเปรี้ยวเลยหรือมีฝาดด้วย หวานถ่ายเดียว ก็เพิ่งเจอ ตอนที่อาตมาตัวเล็กๆก็เจอแต่ตอนนี้หายไปแล้วก็เพิ่งเจอ ก็เอามาแพร่พันธ์ เมล็ด ตอนกิ่งก็ได้
กล้วยอีกไม่รู้กี่ชนิด แยกกันไปสารพัด นี่ก็กล้วยของหินเข้มอุตส่าห์มาโชว์ เป็นกล้วยไข่ อันนี้กล้วยไข่เครือ จากลานเบิ่งฟ้า (กล้วยหอมคาร์เวนทิส สายพันธุ์จากแอฟริกา) ญาติธรรมร้อยเอ็ดปลูกมา มีแตงกวา ของศีรษะอโศกบอกยี่ห้อมาหมดเลย กระเทียมของเครือแห ฟักหอมของบ้านราชฯ
อาตมาพูดนี้ไม่ได้พูดเล่น พูดจริงๆว่าชาวไทยเรานี้ประเทศไทยเรา ให้เป็นมหาสาระ ไม่ควรเรียกมหาอำนาจ เรียกมหาสาระในพืชพันธุ์ธัญญาหาร เราไม่เน้นปศุสัตว์ด้วย เราเน้นกสิกรรมพืชพันธุ์ธัญญาหาร เอาให้ท่วมโลกเลย ปลุกกันมาจนเหลือ เดี๋ยวนี้เรื่องขนส่งถนอมอาหารมันดี ก็เอาต้นหมากผู๋ เขาเอามาที่บ้านคำกลาง เดี๋ยวแพร่พันธุ์ไป ให้เต็มเลย
พืชผักผลไม้เรากินก็เอาไปสังเคราะห์ร่างกาย เอาไปบำรุงให้ร่างกายอยู่ได้ เพราะคนเราเป็นสัตว์กินพืช คนเราไม่ใช่สัตว์กินเนื้อสัตว์ แล้วไม่ใช่สัตว์ที่กินทั้งเนื้อสัตว์และพืชด้วย คนนี่สัตว์กินพืช ขอยืนยันไม่ใช่ทั้งพืชทั้งเนื้อสัตว์ คนนี้กินพืชเป็นสัตว์กินพืชแท้ๆพิสูจน์ได้สารพัดตั้งแต่ภายนอกไปถึงภายใน ตั้งแต่เล็บเป็นเล็บ nail เหมือนสัตว์กีบทั้งหลายแหล่ ฟันก็เป็นฟันกราม ไม่ใช่ฟันเขี้ยวเหมือนหมาแมวเสือสิงห์งู คนมีฟันจอบ ฟันกราม อันนี้เป็นต้น กินน้ำก็ดูด ถ้าเลียก็พวกกินเนื้อ สารพัด แม้กระทั่งน้ำย่อย ลำไส้ อวัยวะหลายส่วนก็ยืนยันพิสูจน์แล้ว ตกลงรายละเอียดของสรีระคนมันเป็นสัตว์กินพืช ไม่ใช่สัตว์กินเนื้อสัตว์ จริงๆเลย
แม้จะพิสูจน์ด้วยอายุ คนกินพืชอายุยาว คนกินเนื้อสัตว์อายุสั้น อย่างเช่นพวกไม่ค่อยมีพืชกิน เช่น ขั้วโลกเหนือ-ขั้วโลกใต้ อายุสั้น อายุ 25 ปีถึง 40 ปีถือว่าสูงสุดของพวกขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้ แต่ของพวกอยู่ภูเขาอยู่ป่าที่มีพืชพันธุ์ธัญญาหาร อายุ 100 ปี 200 ปีก็ยังมีเลย ซึ่งเป็นหลักฐานเป็นเรื่องจริงยืนยันทั้งนั้นเลย แล้วอาตมาก็ยิ่งเห็นความสำคัญ ซึ่งมันจะช่วยโลกให้สุขภาพร่างกายสังขารของมนุษย์มันดี ดีขึ้น กินพืชมันดีกว่ากินเนื้อสัตว์ แล้วกินเนื้อสัตว์มันจะมีจิตอำมหิตซับซ้อนลึกซึ้งอีกเยอะ ซึ่งมันเป็นเหตุเป็นปัจจัยของมันทั้งนั้นเลย ศึกษาให้ดีแล้วพยายามพัฒนาความเป็นมนุษย์ ให้เป็นมนุษย์เจริญมากยิ่งขึ้นอย่างมีภูมิปัญญาที่ยอดเยี่ยมขึ้นไป เพื่อที่ได้อยู่กันอย่าง สงบ อบอุ่น สุขสำราญเบิกบานใจทั่วโลกเลย
อาตมาถึงบอกว่ามีจิตที่อยากจะช่วยให้พวกเรา ให้คนในโลกทั้งโลกนี้เข้าใจสภาพที่มันควรจะเป็นสิ่งที่ควร คำว่าสิ่งที่ควรนี่แหละสุดยอดเป็นภาษาไทย อันนี้เป็นสิ่งที่ควร นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรนี่สุดยอด คำว่าควรนี้ไม่ใช่คำให้ยึดมั่นถือมั่น มันเปลี่ยนเป็นไปได้ตามเหตุปัจจัยและโอกาส กาละ มันไม่ใช่เป็นสิ่งปักมั่นยืนยันอย่างนั้น คำว่าควร เป็นมหาปเทส4 เป็นไปตามเหตุปัจจัยในยุคนั้น กาละนั้น องค์ประกอบนั้น สัปปุริสธรรม 7 ต่างๆ ซึ่งมันไม่เที่ยงมันเปลี่ยนแปลงมันไม่คงที่อะไรมันสุดยอด คำตรัสของพระพุทธเจ้านี้สุดยอดเอามาใช้ให้ดี
เจโตวิมุติเป็นโลกียะ
_ขออนุญาต ฝากถามพ่อท่าน.หรือโยมแป้ง….ฯเจโตวิมุติ. เป็นโลกีย์ หรือโลกุตตระ
เหตุมาจากพระอนุรุทธเถระ คาถา. ขอบคุณล่วงหน้า …เจริญพร…
พ่อครูว่า…ลองโยมแป้งตอบก่อน
สู่แดนธรรม…โดยมากแล้วคำนี้ เป็นคำที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าภิกษุที่อยู่ในธรรมวินัยนี้ แล้วก็พูดถึงบรรลุเจโตวิมุติ และปัญญาวิมุติอันหาอาสวะไม่ได้ จะเป็นของคู่กัน ตรัสไว้อย่างนี้ก็เป็นของโลกุตระแน่นอน
ในยุคนั้นพวกนิครนถ์ อเจลกะ ไม่ใช้คำว่าวิมุติแต่ใช้คำว่านิโรธ ในอรรถกถาก็ไม่มีเจโตวิมุติ มีแต่สิ้นอาสวะ
พ่อครูว่า…คำว่าเจโตวิมุติ เอาพยัญชนะมาเรียกก็พอฟัง แต่เจโตถึงจิตมันไม่ได้ควบกับคำว่าปัญญา มันต้องแยกปัญญาออกจากจิต เพราะจิตเป็นหลายนัย จิตปัญญาก็ได้เป็นเจโตก็ได้
เพราะฉะนั้นเป็นปัญญาจึงเป็นคำที่สำคัญยิ่งเป็นคำยิ่งใหญ่มาก เป็นของพระพุทธเจ้าแต่เขาเอาไปใช้จนฟั่นเฟือน ต้องปรับมาใหม่ให้มันกลับมา เข้าหาสาระเดิมของพระพุทธเจ้าเราจะไปอนุโลมไม่ได้ เราต้องให้ชัด ไม่อย่างนั้นปัญญามันก็จะไม่เป็นโลกุตระ ซึ่งปัญญาต้องเป็นโลกุตระถ่ายเดียว ปัญญาไม่ใช่โลกีย์ อาตมากำลังเขียนหนังสือเรื่องปัญญา 8 อธิบายอยู่ซึ่งมีที่มาที่ไป เริ่มต้นปัญญามีแต่ในศาสนาพุทธทั้งนั้น ต้องได้ยินจากพระพุทธเจ้าหรือผู้รู้ที่เป็นสัตบุรุษมีสัมมาทิฏฐิอย่างแท้จริง ต้องไปไต่ถามซักไซ้ไล่เรียงตามปัญญา 8 ข้อ ไม่อย่างนั้นจะสับสนวุ่นวายอย่างที่เป็น ไม่คมชัดเต็มรายละเอียดบริบูรณ์
จะตอบสั้นๆแค่ว่าเจโตวิมุติ แค่โลกียะก็ได้ จะมีโลกุตระต้องมีปัญญาคู่กัน โดยเฉพาะปัญญาวิมุติ พระพุทธเจ้ายกให้เป็นพระอรหันต์เลย ยังไม่เป็นเจโตวิมุติ หากเป็นเจโตวิมุติด้วย ก็เป็นอุภโตภาควิมุติ ทั้งปัญญาวิมุติและเจโตวิมุติ
(พ่อครูไอ ตัดออกด้วย)
สมณะเดินดิน…พวกที่บรรลุถึงความเป็นพรหม ไม่รู้ใช้เจโตวิมุติหรือเปล่า
พ่อครูว่า…ถ้าเข้าใจชัดว่าปัญญาวิมุติกับเจโตวิมุตินั้นต่างกันแน่ ก็จบ พระพุทธเจ้าบอกว่ามีแต่ปัญญาวิมุติก็เป็นพระอรหันต์ แล้วอาสวะทั้งหมดสิ้นไปในบุคคล 7 ไปอ่านให้ดีๆ ถ้าอาสวะสิ้นหมดเป็นปัญญาวิมุติได้แล้ว แต่ครบเจโตวิมุติปัญญาวิมุติก็เป็น อุภโตภาควิมุติ
SMS วันที่ 24-25 มี.ค. 2564
ทุกข์ที่เลี่ยงได้และเลี่ยงไม่ได้เป็นเช่นไร
_พรสิทธิ์ เจียรวรรณศิลป์ : กราบนมัสการพ่อครูครับ รบกวนสอบถามเกี่ยวกับเรื่องอาการทุกข์ (หากภาษาที่ผมเรียบเรียงมานี้ ซ้ำไปซ้ำมา หรือเข้าใจยาก ต้องขออภัยนะครับ) สอบถามดังนี้ครับ
1) ทำไมเราจึงจับอาการของทุกข์ได้
พ่อครูว่า…อันนี้ยิ่งใหญ่นะจับอาการของทุกข์ได้ยิ่งใหญ่ไม่ใช่ง่ายอาการของทุกข์ เพราะแม้แต่ทุกข์มันก็แยกออกเป็นทุกข์ทางกาย กายิกทุกข์หรือเจตสิกทุกข์ เป็นทุกข์ที่เลี่ยงได้กับเลี่ยงไม่ได้ เป็นระยะละเอียดลึกซึ้ง คนที่จะรู้ทุกข์จึงไม่ใช่คนธรรมดา ต้องมีจิตที่มีปัญญาแหลมคมเข้าใจชัดเจนในคำว่าทุกข์แล้วก็รู้ว่าทุกอย่างนั้นเป็นทุกข์ที่จะต้องแก้หรือเปล่า มันเลี่ยงไม่ได้แก้ไม่ได้พระพุทธเจ้าก็แก้ไม่ได้ในทุกข์ที่เลี่ยงไม่ได้ 6 ชนิด
ก.ทุกข์ที่เลี่ยงไม่ได้ 6 ชนิด (ทุกข์อันเกิดจากกาย) พระพุทธเจ้าก็แก้ไม่ได้
-
สภาวทุกข์ของการเกิดแก่เจ็บตายพระพุทธเจ้าก็แก้ไม่ได้หนีไม่พ้น
-
นิพัทธ์ทุกข์ ทุกข์อยู่ในสังขารปรุงแต่งของชีวิตร้อนหนาวกระหายหิวกระหายปวดปัสสาวะอุจจาระ พระพุทธเจ้าก็ อั้นเอาไว้สิ ปวดปัสสาวะก็ไม่ต้องไปถ่ายมันก็ทุกข์
-
อาหารปริเยฏฐิทุกข์ คือ ความทุกข์ที่ต้องทำงานต้องแสวงหาการงาน ต้องทำงาน ต้องมีกรรม เป็นทุกข์ที่ต้องทำกายกรรมวจีกรรม โดยเฉพาะมโนกรรมต้องทำงานมันเลี่ยงไม่ได้หากว่าคุณไม่ทำอะไรเลยเดี๋ยวมันก็ตาย ไม่ช้าหรอก กายก็ไม่ทำงาน วจีก็ไม่พูด คิดก็ไม่คิด ไม่ช้าหรอกเดี๋ยวก็ตาย อาหารคือเครื่องอาศัยที่ต้องแสวงหา แสวงหาอาหารมาเลี้ยงชีพแสวงหาการงานที่ต้องทำ หรือ
-
พยาธิทุกข์ ทุกข์เกิดจากอวัยวะเจ้าการทำงานไม่สมดุล ผิดปกติไป มันก็ต้องเจ็บปวด ป่วย ทรมาน อย่างนั้นอย่างนี้เป็นธรรมดา
-
วิปากทุกข์ เป็นวิบากที่คุณสะสมไว้ ไม่ว่าเก่าหรือใหม่มันถึงรอบก็ต้องทุกข์ ก็คุณทำเองและไม่รู้ก็ตาม คุณก็จะต้องเป็น เหตุปัจจัยพวกนี้มันต้องเกิดทุกข์เป็นผลของมัน
-
ทุกข์ขันธ์ ทุกข์ที่มีขันธ์ 5 นี้เป็นทุกข์นะ ภาราหเวปัญจขันธา ต้องเลี้ยงดูมัน ต้องดูแลมัน ต้องประคบประหงม ต้องหาอาหารมาเลี้ยงมัน มันจะต้องปวดขี้ปวดเยี่ยว ต้องไอ้นั่นไอ้นี่ มันต้องเป็นทาส คนเป็นทาสขันธ์ 5 นะ ปฏิบัติให้ตายก็พ้นทุกข์ที่เลี่ยงไม่ได้นี้ไม่ได้พระพุทธเจ้าก็พ้นไม่ได้
ทุกข์ที่เลี่ยงได้ (เจตสิกทุกข์ อันสามารถดับเหตุได้แท้)
-
ปกิณกทุกข์ (ทุกข์จรแห่งกิเลส คือ โศก ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาสะ เมื่อพรากจากคนที่รัก หรือพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก เป็นต้น) อันนี้ศึกษาให้ดีหมดอุปทานตัณหาได้ที่เราไปยึดถือเป็นความโศกเศร้าเสียใจเป็นความโทมนัส
-
สันตาปทุกข์ (ทุกข์ คือ ความร้อนเผาใจ อันนื่องมาจากกิเลสไฟราคะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ แผดเผา) กิเลสคุณไม่หมดมีราคะโทสะโมหะมันก็ต้องเป็นทุกข์ ถ้ามันยังมีอยู่ไม่หมดไปจากจิตมากหรือน้อยมันก็ต้องทุกข์อยู่ทางนั้น
-
สหคตทุกข์ (ทุกข์ไปด้วยกันกับโลก เช่น ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข) ความทุกข์ที่เกิดพร้อมกับลาภยศสรรเสริญสุข ได้ลาภยศสรรเสริญก็เป็นสุข ถูกนินทาว่าร้ายเสื่อมในลาภยศสรรเสริญก็ทุกข์ เป็นแฝดกันมันเป็นมายา เป็นจอมมายาหลอกคนอันนี้สุดยอดเลยสุขกับทุกข์เป็นมายาแฝดกัน ไม่มีใครสามารถรู้ได้ถ้าไม่ใช่พระพุทธเจ้า
อาการอย่างไรเป็นสุข อาการอย่างไรเป็นทุกข์ มันเป็นเรื่องมายาทั้งคู่ เมื่อผู้ใดที่รู้จริงแล้วอาการอย่างนี้เป็นสุข อาการอย่างนี้เป็นทุกข์ มันหลอกเรานะ มันไม่มีหรอกอาการทั้งสุขและทุกข์ มีแต่ความรู้ความจริงตามความเป็นจริงอย่างเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่พูดให้สั้นให้ง่ายแต่จะมีปัญญาญาณหยั่งรู้ความจริงที่เป็นอาการอย่างเดียวไม่สุขไม่ทุกข์นี้ที่เรียกว่า อุเบกขา หรือ อทุกขมสุข ภาษาก็รู้แล้ว แต่สภาวธรรมที่…คุณเอ๋ย..มันไม่ง่าย ยิ่งจะทำให้ได้แล้วจะรู้ความจริงที่เราทำได้อีก โอ้โห นะ แต่ไม่พ้นไปจากคน จะพยายาม ปฏิบัติประพฤติให้ถึงได้
ปฏิบัติได้ขอยืนยันถ้าไม่ปฏิบัติได้จริงเพราะคุณมาอยู่กับพวกอาตมาที่ปฏิบัตินี้ไม่ได้หรอกเพราะเราไม่ได้โอ๋โลกียเลยเราไม่มีโลกียมาบำรุงบำเรอเหมือนชาวโลกเลย เราก็อยู่ได้เบิกบานร่าเริงเบาสบายไม่ต้องฝืนทรมานทรกรรมอะไรสบาย สบม ทมด และอายุจะยืนด้วย อีกหน่อยนะอนาคตไม่ต้องห่วงเลย ใครอยากเห็นคนอายุยาวยืนมาดูได้ที่ชุมชนชาวอโศก นี่พูดล่วงหน้าไว้นะ อย่าให้หน้าอาตมาแตก ใครอยากจะเห็นคนอายุยาวยืนจำนวนมากมาดูที่ชุมชนชาวอโศกมีให้เห็น อาตมาพาทำมา 50 ปีนะ หากอายุ 100 ปีขึ้นเกินไปอีก 50 กว่าปีรับรองจะมีหลักฐานยืนยันใครจะอยู่อีก 50 กว่าปียกมือขึ้น อย่างน้อยอาตมาก็ถึงแน่อีก 50 ปี คนไม่กล้ายกมือยังไม่ประมาท ก็ไม่เป็นไรเราตั้งจิตตั้งใจตั้งความปรารถนาไว้ก่อนแล้วพากเพียรให้จริง
-
วิวาทมูลกทุกข์ (ทุกข์มีสงครามวิวาทะเป็นรากเหง้า) เกิดจากปัจจุบันเรานี่เองเพราะว่าทะเลาะวิวาทกัน หากว่าคุณทะเลาะวิวาทกันจะหาความสุขได้ที่ไหน มันเป็นทุกข์ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นสุขทุกข์อย่างที่ว่ามันมีเหตุแยกย่อยอีกเยอะคุณพรสิทธิ์ตั้งใจศึกษาให้ดีๆอาตมาอธิบายไปทั้งหมด รายละเอียดต่างๆอาตมาก็ยังไม่บังอาจจะอธิบายให้ชัดเจนถ้วนเต็มในขณะนี้ได้ทั้งหมด ฝากไว้ก่อนโอฬาร