641103_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ วิญญาณฐิติ 7 อธิบายอย่างพิสดาร
ดาวโหลดเอกสารที่
https://docs.google.com/document/d/1PAcxa7zUCvvV9PQanCs9jOKyNQvaJx-AFPxpXry_5lk/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1N6PgJSoFzgljYu0rcRYXMRJ-J1iW36gH/view?usp=sharing
และดูวิดีโอได้ที่ https://youtu.be/P7ZRm-HKukg
สมณะฟ้าไท…วันนี้วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก อีกไม่กี่วันก็จะถึงงานมหาปวารณา วันที่ 5 มีการประชุมสิกขมาตุ ในช่วงบ่าย วันที่ 6 เป็นการประชุมสมณะ พ่อครูมาเทศน์ วันที่ 7 ถึง 9 เริ่มตั้งแต่ 6:30 น. ถึง 8:00 น. พ่อครูจะแสดงธรรมในเรื่องสร้างอาหารให้กับโลก
การประชุมภาคบ่าย ที่สำคัญวันที่ 9 จะมีการสัมมนา จะใช้ชีวิตอย่างไรเพื่อฉลองชัยตอนพ่อครูอายุ 100 ปี ซึ่งตอนนี้พ่อครูอายุ 88 ปีแล้ว
รายการภาคค่ำ จะมีรายการ สุขภาพไม่ดีเพราะมี 108 หมอ คือมากหมอมากความ จะมีรายการ บุกเมล็ดพันธุ์ จะมีรายการปฏิบัติธรรมจนเทวดาสาธุการ รายการความพอเพียงเลี้ยงโลกนี้ รายการส่วนใหญ่ก็สอดคล้องกับรายการทำวัตรเช้า
ยุคสมัยนี้ ประชุมกันว่าทำอย่างไรอุณหภูมิโลกจะไม่เพิ่มเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ไม่งั้นจะจมน้ำตาย บางประเทศ ตอนนี้มนุษย์ขาดแคลนอาหารที่ดีที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่อาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพมีแต่ไปหมด พวกเราก็ยังติดอาหารพวกนี้อยู่หลายคน
พ่อครูว่า… อาตมาจำไม่ได้แล้ว ยังไม่ได้ดื่มน้ำพวกที่มีฟองๆแก๊สซ่าๆพวกนี้ เป๊ปซี่ โคล่าหรือยี่ห้ออื่นอีกเยอะ ไม่ได้ดื่มมากี่สิบปี ไม่รู้นะ เดี๋ยวนี้ดื่มเข้ามันไม่เข้าท่าเลย คือมันเป็นของไม่ธรรมชาติ มันปรุงแต่งแปลกๆ มันตลกชอบกล ก็ดื่มไม่ค่อยลง
ขอประกาศให้ทราบขณะนี้ที่นาลานกราบ ข้าวกำลังถูกน้ำท่วม ก็ได้ประกาศให้ไปช่วยกันเกี่ยวก็มีไป 2-3 คน พรุ่งนี้เช้าก็ไปกันให้เยอะหน่อย ขอแรงกันเร่งระดมเกี่ยวข้าวให้ทันน้ำท่วม น้ำมันจะไปรู้เรื่องอะไรมันก็ท่วม ไปโทษน้ำไม่ได้หรอก
SMS วันที่ 1-2 พ.ย. 2564
_อ.แปลง สุวรรณกาญจน์ : แล้ว นัตถิปัญญา สมา อาภา(แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาไม่มี) ตาปัญญามันอยู่ที่ไหน?
พ่อครูว่า…ติดเล่นบัญญัติภาษาอยู่มันจะไปได้ถึงไหน อาจารย์แปลง แต่ที่หยิบมาเมื่อกี้นี้เป็นคำตรัสของพระพุทธเจ้า
_คนหลงทั้งๆที่ลืมตาอยู่ก็มี หลับตาอยู่ก็รู้เห็นก็มี ตาปัญญามันมาจากไหน ตาปัญญามันมีผลเกี่ยวข้องกับนั่งสมาธิหลับตา ลืมตาหรือไม่อย่างไร ครับอาจารย์สมณะโพธิรักษ์
_การรู้ รู้ธรรมเห็นธรรม ฌานโลกีย์มีอะไรบ้าง ฌานโลกุตระ คืออะไรบ้างครับท่านอาจารย์ กรุณาแบ่งปันเป็นธรรมทานแก่ผู้ยังไม่รู้ด้วย ครับ
พ่อครูว่า…ดีมากตั้งใจฟังอาตมาไปสิ อาตมาไม่ออกนอกเรื่องต่างๆนานาพวกนี้เหรอ ว่าพวกหลับตาให้มาปฏิบัติลืมตาก็ดี ฌานโลกียะ ฌานโลกุตระเป็นอย่างไร อธิบายมาอยู่ตลอด คุณไม่ติดตามฟังแล้วจะมาให้อธิบายเฉพาะคุณคนเดียว จะเป็นการเอาเปรียบคนอื่นมากไป ให้ติดตามฟังดีๆ มันไม่นอกจากนี้หรอก
_พระพุทธเจ้าว่า…เป็นสันทิฏฐิโก (รู้เองเห็นเอง) อกาลิโก(ไม่จำกัดกาล หลับหรือตื่น อยากรู้เวลาไหน ก็ระลึกขึ้นมา)เอหิปัสสิโก(สูเจ้าจงมาดู เรียกผู้อื่นให้มาดูได้ด้วย) โอปนยิโก (ดูแล้วจงน้อมเข้ามาหาตน) ปัจจัตตังเวทิคัพโพ วิญญ (นักปราชญ์ จะรู้ได้ด้วยตนเอง อย่างนี้มิใช่หรือ ครับ
พ่อครูว่า…แปลเอาเองหมดเลย เก่งนะ ก็เป็นความเห็นของคุณ ถูกบ้างผิดบ้างก็เอาละ ติดตามฟังไป อาตมาจะขอผ่าน เพราะคุณจะให้อธิบายหมด อาตมาอธิบายคุณคนเดียวไม่ไหว แต่เดี๋ยวก็จะอธิบายอย่างที่คุณต้องการอย่าเพิ่งไปไหน ติดตามดีๆ
_นุ้ย วิโรจน์ มาบุตร : อรหันต์คือผู้สามารถละสังโยชน์ได้ครบ 10 ประการ โพธิสัตว์แปลว่าผู้ข้องอยู่ในพระโพธิญาณคือยังไม่บรรลุธรรม นั่นคือโพธิสัตว์ไม่เป็นอรหันต์ อรหันต์อาจเป็นพระโพธิสัตว์มาก่อนก็ได้แต่บรรลุอรหันต์แล้วก็คือไม่ใช่โพธิสัตว์แล้ว แล้วคนคนเดียวสามารถเป็นทั้งอรหันต์และเป็นโพธิสัตว์ได้อย่างไรครับ
พ่อครูว่า…คำว่าโพธิสัตว์ คำว่าอรหันต์นี้ อรหันต์ก็ตาม โพธิสัตว์ก็ตาม เป็นคนคนเดียวกัน ผู้ที่บรรลุอรหันต์นั่นแหละ ตั้งแต่เป็นโสดาบัน อรหัตตผลเบื้องต้นก็เป็นโพธิสัตว์ระดับหนึ่ง โพธิสัตว์คือสัตว์ที่มีโพธิ ไม่ใช่สัตว์ใต้ต้นโพธิ์ โพธิแปลว่าความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เริ่มตั้งแต่โสดาบัน
เพราะฉะนั้นโพธิสัตว์ก็คือผู้ที่มีอาริยคุณ อรหัตตผลเริ่มต้น อรหัตโสดาฯ อรหัตสกิทา อรหัตอนาคาฯ อรหัตอรหันต์ ไปตามลำดับ คนคนเดียวกันนี่แหละ แต่มีคุณสมบัติต่างๆที่ว่านี้
_จรรยา อิ่มประเสริฐ : เห็นเด็กสามนิ้วติดคุก เขาดิ้นรนจะออกมาอยู่ข้างนอก ทำให้นึกถึง อาแซมดิน ที่ศาลตัดสินกำลังเดินเข้าคุก อาเขาไม่วิตกอะไรหรือ??? ทำไมจึงไม่กลัวการเข้าไปอยู่ในคุก การทำดีแล้วเข้าไปอยู่ อย่างนั้น สู้เราอยู่เฉย ๆ ไม่ควรหาเรื่องใส่ตัวไม่ดีกว่าหรือ?? จริงอยู่ว่าเป็นวิบาก แต่..ยากที่จะทำใจ หรือดิฉันเห็นเป็นโลกีย์??
พ่อครูว่า…ใช่ เป็นคนเห็นแก่ตัว เป็นคนมีแต่ตัว ไม่พยายามช่วยแก้ไขสังคมช่วยคนอื่นบ้าง มันก็เห็นแต่ตัวเอง เป็นโลกีย์ของตัวเอง
ดูหนังอย่างไรให้ได้สาระไม่ติดรสโลกีย์
_เห็นชาวบ้านราช ดูพระเจ้าอโศกมหาราช เมื่อก่อนไม่สนใจ ไม่ชอบด้วยซ้ำ คิดว่าคนสร้างขึ้นมามีความจริงแค่ไหน แต่พอกลับมาดูในยูทูบ ตั้งใจจะศึกษา ดูถึง 442 ตอน ดูข้าม ๆ ไปบ้าง สรุปว่านึกถึงพ่อ พระโพธิสัตว์ ทำบาปได้ถึงขนาดนั้นเชียวหรือ มีเพียบทั้งรัก โลภ โกรธ หลง แต่ก็มาทนุบำรุงศาสนาในที่สุด ดิฉันว่า นิยายของการเกิดแต่ละคนนี้ ไม่มีใครยืนยันเลยว่าจะจริง 100 เปอร์เซ็นต์ เราไม่ควรเชื่อ คำสอนที่ดีในแต่ละชาติเท่านั้น ที่จะทำให้เกิดดวงตาเห็นธรรมได้
พ่อครูว่า…สรุปก็ได้ประโยชน์อยู่นี่ ก็พอได้ประโยชน์อยู่บ้าง ก็นั่นแหละ คนที่รู้ประโยชน์ก็ได้ประโยชน์ คนที่รู้สาระในสาระ คนไม่รู้สาระก็ดูไป เมื่อไม่รู้สาระ ไม่รู้รักโลภโกรธหลง ตามที่เขาสร้างนิยายมาให้สนุกสนานตามโลกียรส คุณก็ติดโลกียรสไป ชอบพระเอก นางเอกเรื่องนั้นเรื่องนี้ ชอบลีลาพระเอก นางเอก เรื่องนั้นเรื่องนี้ไป เพราะฉะนั้นถ้ารู้จักดูแล้วเอาประโยชน์จากกรรมกิริยาของมนุษย์ทั้งหลายแหล่ในชีวิตทั้งนั้นแหละ เป็นสิ่งที่จะต้องศึกษา มันก็ไม่พ้นไปจากรักโลภโกรธหลง คนไม่รู้ก็ดูไม่เป็นประสา
คือ ยังไม่มีคนที่สร้างหนังโลกุตระดีๆ อาตมาก็มาบรรยายธรรมะดีกว่า แต่ก่อนคิดจะสร้างเหมือนกัน แต่มาบรรยายธรรมะมันจบในตัว ไปสร้างโลกีย์มันเสียเงินเสียทองเสียเวลาต่างๆนานา บรรยายนี้ไม่ต้องเสียเวลา เสียวัตถุอะไรต่างๆ ถ้าไปทำอย่างนั้นมันเปลืองมาก แต่คนก็ชอบคนก็ติด ก็มีคนทำอยู่ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่แย่งเขา เขาถนัดก็ให้เขาทำไป
กรรมเป็นกรรมฐานดีกว่ากรรมเป็นกสิณ
_ทำเป็นธรรม : ควรคิดหรือเปล่าว่าอะไร ๆ ก็วิบาก ทั้ง ๆ ที่วิบากกรรมเป็นอจินไตย …อย่างสายหมอเขียวสอนเรื่องวิบากแบบฟันธง เช่น วันนี้เกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้นกับเรา ก็เพราะวิบากนั้น วิบากนี้ คือเหมือนท่านสอนว่าเพราะเราไปทำอย่างนี้ มันจึงออกผลอย่างนี้เป๊ะๆ..จึงเห็นลูกศิษย์ส่วนใหญ่ของท่าน จะเอาเรื่องวิบากกรรมมาพูดแบบสนุกปาก ว่าเพราะเราทำอย่างนี้ เราจึงได้รับผลอย่างนี้ทันทีทันใด…อ้างอิงจากในคลิปนะ พอท่านสมณะถามว่า เป็นเพราะอะไร.. คนที่ถูกถาม(คุณอ๊ะ)ก็ได้แต่ตอบว่า รู้ว่าเป็นเพราะวิบาก11ประการ(แต่เจ้าตัวก็ตอบไม่ได้อีกเพราะอะไร? มันจึง งงในงงเข้าไปอีก?) รู้ว่าเป็นวิบากที่เราเลี่ยงไม่ได้ โน่นนี่นั่น…คำถามคือ..
-
การที่สอนแบบนี้จะเป็นมิจฉาทิฐิซ้อนใน สัมมาทิฐิ หรือไม่?
พ่อครูว่า…จริงนะ เวลาผู้อธิบาย ผู้สอนเจตนาจะให้รู้ มิจฉาทิฏฐิมันซ้อนอยู่ในสัมมาทิฏฐิ เพราะฉะนั้นต้องค้นให้เจอมิจฉาทิฏฐินั้นให้ได้ แล้วเข้าใจมิจฉาทิฐิแล้วก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปเรียกว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ ก็ถูกแล้ว
-
พ่อท่านสอนว่า “กรรมเป็นกรรมฐาน” ส่วนของ อ.หมอเขียว จะออกแนวฟันธงเป๊ะๆในเรื่องวิบากกรรม เหมือนจะเป็น “กรรมเป็นกสิน”คำสอนของ หมอเขียวจะถือว่าเป็น “กุศโลบาย” กับ “เครื่องล่อสร้างอุปาทานใหม่” หรือไม่ครับ? ขอความแตกต่างซ้อนเชิงใน 2 ประเด็นนี้ด้วยครับ
ปล.ในคลิปนี้ พ่อท่านได้แต่นั่งฟังอย่างเดียว ผมจึงอยากให้พ่อท่านให้ปัญญาด้วยครับ กราบนมัสการครับ
พ่อครูว่า…กรรมเป็นกรรมฐาน หรือกรรมเป็นกสิณ
คำว่า กสิณ หมายความว่า เครื่องใช้เพื่อจะให้จิตไปจดจ่อ ไปจับจุดหยุด เป็นเครื่องยึดถือ เพื่อจะทำสมถะ
ศาสนาพุทธไม่ทำ ไม่สอนเรื่องกสิณพวกนี้ เดียรถีย์เขาสอนกันเยอะแยะมันก็เข้ามาปนเปในศาสนาพุทธ แล้วสายที่ชอบพวกเรื่องอย่างนั้น มีจริตชอบเรื่องอย่างนี้ ศาสนาพุทธเมื่อเพี้ยนเข้าไปมากๆก็ไปหลงงมงายจมอยู่ในเรื่องของกสิณเป็นสมถะไปหมด ซึ่งก็พอรู้ เลาๆอยู่ว่า ศาสนาพุทธไม่ใช่สมถะเป็นที่หมาย ศาสนาพุทธคือวิปัสสนา ปัสสัทธิ เป็นที่หมาย
ปัสสัทธิก็แปลว่าสงบ สมถะก็แปลว่าสงบ ปัสสัทธิคือรากเหง้าที่เกิดจากความสงบที่เกิดจากการเห็น ส่วนสมถะมันไม่เห็น มันหลับมันดับเป็นของเดียรถีย์ ซึ่งเขาพูดกันมานาน อาตมาก็พูดยืนยันมานาน แต่ก็มันชอบเสียแล้ว ชอบแบบมากๆได้ง่ายๆมันก็จมไป
อันนี้มันก็อาจจะยาก เพราะลืมตาปฏิบัติมันยาก แต่ที่จริงไม่ยากหรอก มันเป็นสามัญปกติของชีวิต เรียนรู้ไปตามลำดับ มี ศีล สมาธิ ปัญญา จรณะ 15 วิชชา 8 ไปตามลำดับ มันจะไม่ยาก แต่เพราะการเรียน ผู้สอนไม่สอนสัมมาทิฏฐิ ตามลำดับ หรือว่าให้สามารถปฏิบัติได้เป็นขั้นเป็นตอน มันก็เลย เลอะ ปนเป ก็เลยดูยาก
เพราะฉะนั้นต้องเรียนรู้กรรมเป็นกรรมฐาน กรรมคือการกระทำ การกระทำ การปฏิบัติไม่ใช่กรรมเป็นกสิณ
_ยายทอง ตาเซียน : ที่บ้านกระผมปลูกทุกอย่างครับ.กล้วยหอม.น้ำว้า.ข่า.ตะไคร้มะกรูด โหระพา แมงลัก ฟ้าทลายโจน กะเพรา บอระเพ็ด มะนาว.ไม่เคยซื้อตลาดเลยครับ อันไหนมีเยอะก็แจกๆบ้านไกล้เรือนเคียงครับ เพราะไม่อยากเป็นพญานาคครับ.
พ่อครูว่า… ดีมาก สาธุ ชักเข้าใจความเป็นพญานาคขึ้นมาเรื่อยๆ
_Thanaphat Samanchai (ธนพัฒน์ สมานชัย) : จะรับหนังสือลำธารชีวิตฟรีได้ที่ไหนครับ
พ่อครูว่า… อยู่กรุงเทพฯ ก็ไปรับที่ธรรมทัศน์สมาคม ที่สันติอโศกไปถามดู เขาก็คงพอมีน้ำใจหาให้ ขวนขวายนิดหน่อย เพราะว่าเราไม่ได้ไปวางตลาดขายก็เลยไม่กระจายทั่วไป ไปติดตามรายการท่านฟ้าไทก็ได้ จะส่งให้ฟรี
_1945 : อยากให้บุญนิยมมีวิทยุกระจายเสียงฟังได้ทั่วไทยไปไกลทั่วโลกดูบุญนิยมทีวีกันมาก ๆ จะได้หลุดพ้นจากความชั่วทั้งหลาย
ความมีกับความไม่มีในศาสนาพุทธ อันลึกซึ้ง
พ่อครูว่า… อาตมายังมีเรื่องที่คิดจะอธิบายอยู่ 2 เรื่อง วรรณะ 9 กับวิญญาณฐีติ 7 แต่พระไตรปิฎกที่นำมามีเรื่องปัญญา 8 กับเรื่องความมีกับความไม่มี
ความมีกับความไม่มีเป็นเรื่องลึกซึ้งสูงสุดมันจบอยู่ในตัวเลย มันสุดยอดเลย พระพุทธเจ้าตรัสว่า ส่วนมากคนเราก็อาศัยความมีกับความไม่มี แต่ไม่รู้ตัวกัน
ศาสนาเทวนิยมหรือคนทั่วไป มีอวิชชา เขาจะไม่รู้จักรู้ดีในเรื่องความไม่มี และเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจ ถึงแม้ว่าจะหลงนิพพาน อาตมาใช้คำว่าหลงนิพพาน คืออยากจะได้นิพพานนั่นแหละ แต่หลงนิพพานไปเป็นความมี มันไม่เป็นความไม่มี ความไม่มีนี้สุดยอดเลย
พุทธเจ้าตรัสว่าสุดยอดคือความไม่มี ที่ท่านตรัสว่า ลงท้ายว่า ส่วนสุด ความมีในโลกย่อมไม่มี ความไม่มีในโลก ย่อมไม่มี 2 ประโยคนี้จบด้วยความไม่มีทั้งนั้น เท่านั้นเอง จบจริงๆด้วยความไม่มี จะมีก็จบที่ความไม่มี จะไม่มีก็จบที่ความไม่มี
แล้วคนที่จบ รู้สภาวะที่เป็นโดยไตรลักษณ์ก็ดี ด้วยความรู้ก็ดี โดยเฉพาะทำจิตตัวเองให้กิเลสไม่มีในจิต นั่นแหละเป็นสูงสุดที่ความไม่มีที่บรรลุอนัตตาธรรมของตนเอง แต่ธรรมดาโลกนี้ก็ต้องเข้าใจให้ได้ว่า มันก็มีความมีความไม่มีอยู่เป็นธรรมดาธรรมชาติ ใครมีอะไรใครไม่มีอะไร แม้ในโลกนี้มีพระอรหันต์ มีคนที่ไม่เป็นพระอรหันต์ มันก็มีเป็นธรรมดา
นอกจากโลกที่มันไม่มีศาสนาพุทธ ในเทวนิยมหรือในตะวันตก ตะวันออกกลาง เทวนิยมทั้งหลาย มันไม่มีพระอรหันต์ ความไม่มีมันไม่มี มันก็เลยมีนิรันดร พระเจ้านิรันดร อัตตานิรันดร ไม่มีนิพพาน ไม่มีปรินิพพาน
คนที่บรรลุสูงสุดมีนิพพานแล้ว จะตายอย่างปรินิพพานเป็นปริโยสาน ตายแล้วก็แยกธาตุจบไปเลย ไม่มีจิตนิยามของตัวเองอยู่ในกาละ อยู่ในเอกภพมหาจักรวาลแล้ว หมดไปจากวัฏสงสารเลย ได้ หรือจะยัง ผู้บรรลุอรหันต์ทำได้แล้ว แต่ยัง อย่างอาตมานี้ บรรลุอรหันต์ได้แล้ว แต่ยังไม่ยอมจบ จะไปเรื่อยๆก่อน จนกว่าจะสูงสุดถึงขั้นสัมมาสัมโพธิญาณสูงสุดเท่าที่พระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งจะมีภูมินั้น ซึ่งเป็นพุทธวิสัย อาตมาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ก็พอรู้ แต่พูดกับพวกเราก็เท่านั้น เพราะพุทธวิสัยของพระพุทธเจ้า พูดไปคนก็ไม่รู้ด้วยได้ ก็ไม่พูดดีกว่า
ศาสนาพุทธนี้พระพุทธเจ้าตรัสรู้ อัตภาพหรือว่าคนที่ได้ความเป็นจิตนิยามขึ้นมา ตั้งแต่เริ่มต้นเป็นสัตว์
จิตนิยามเป็นสัตว์ทั้งนั้น ตั้งแต่สัตว์เซลล์เดียวเริ่มต้นแล้ว แล้วก็พัฒนาขึ้นไป ยังไม่ถึงขั้นเป็นสัตว์ก็เป็นพืช พีชะ ซึ่งก็มีความแตกต่างกันใน อุตุนิยาม พีชนิยาม จิตนิยาม จัดการได้ด้วย กรรม ด้วยธรรม ธรรมะเป็นแกนตั้ง กรรมะเป็นแกนเคลื่อน เป็นภาวะ 2
ปฏิบัติเรียนรู้จนกระทั่งสามารถที่จะ ศาสนาพุทธพระพุทธเจ้ามีเป้าหมายอยู่ จริงๆมี 2 ประเด็นหลัก
ประเด็นที่ 1. สอนให้คนมีจิต มีปัญญา มีสำนึก ให้รู้ว่าโลกียะเขามีดีและชั่ว แล้วดีและชั่วเป็นความไม่เที่ยงเป็นโลกีย์ อยู่ในสังคมใดสิ่งแวดล้อมใดมันก็ยึดถือต่างกัน เขาว่าอะไรดีชั่วก็ต้องรู้ว่าดีและชั่วอย่างไร ก็ต้องทำดีไม่ทำชั่วนี่เป็นประเด็นที่ 1
-
ให้รู้จบให้รู้หมดเลย ว่าอัตภาพคืออะไร อัตตาคืออะไร เกิดมา ชีวะไม่เป็นชีวะ อุตุนิยาม พีช จิต เป็นอย่างไร แล้วเรียนรู้ให้จบปรินิพพานเป็นปริโยสานได้ นี่คือที่สุด