640903_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ความยิ่งใหญ่ของบุญนิยม สาธารณโภคี กสิกรรม
ดาวโหลดเอกสารที่
https://docs.google.com/document/d/1tlsj3IGbrwiBsEZkpyCefEIrz37AcBtsG_9KyK7pD8c/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1N57NL_FDPtjea8F8KnCMlYqsbwlSTfXx/view?usp=sharing
และดูวิดีโอได้ที่ https://www.facebook.com/300138787516163/videos/369651651311220/
สมณะฟ้าไท… วันนี้วันศุกร์ที่ 3 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก พ่อครูมีนโยบายให้พวกเราปลูกพืชผักผลไม้ให้มากที่สุด มีเหลือเอาไปแจกจ่ายเพื่อนมนุษย์ให้ไปที่ไหนก็เก็บพืชผักผลไม้กินได้เลย …ดูคลิป การทำกสิกรรมการอยู่กับดินกับต้นไม้ใบหญ้าช่วยให้เพิ่มจุลินทรีย์ดีๆแก่ร่างกายเราได้
กสิกรรมเป็นอาชีพที่สุดยอดของฆราวาส
พ่อครูว่า… ย้ำอีกที เรื่องกสิกรรมนี่ ชาวอโศกเราต้องคว้าไว้ให้ได้ ต้องเอาเป็นหนึ่งให้ได้ เราเคยได้เป็นหนึ่งมาหลายอย่างแล้ว จะว่าเรื่องมังสวิรัติได้เป็นหนึ่งเราก็ได้แล้ว ที่ได้สำคัญที่สุดคือ เราได้สาธารณโภคีเป็นหนึ่ง เพราะฉะนั้นถ้าเผื่อว่าเราเข้าใจว่าอาหารเป็นหนึ่งในโลกและอาหารนั้นไม่ใช่เนื้อสัตว์ ไม่ใช่ปศุสัตว์ ไม่ใช่ประมง แต่เป็นกสิกรรม
กสิกรรม ไม่บาปไม่เบียดเบียน ไม่เที่ยวได้ไปวิ่งไล่จับสัตว์ต่างๆนานาสารพัด ทำได้สมบูรณ์แบบที่สุด มันยอดที่สุดแล้วไม่มีอะไรสูงไปกว่านี้อีกแล้ว
เพราะฉะนั้นงานที่สำคัญของเราชาวอโศกนี้ ใครยังไม่มีจริตนิสัย ยังรู้สึกว่ามันไม่ค่อยชอบเลยในเรื่องงานกสิกรรม ไม่อยากลงไปคลุกดินเลย ให้ทำใจใหม่ได้ ต้องพยายามเห็นความจริง ให้พิจารณาเข้าไปให้จริงเลยว่า มันได้ทั้งสุขภาพร่างกาย ได้ทั้งความเป็นจริง คุณไม่พ้นไปจากความเป็นดินหรอก คุณน่ะ ร่างกายของคุณต้องเป็นดินแน่นอน ส่วนจิตวิญญาณก็อีกเรื่องหนึ่ง ทุกคนมีจิตวิญญาณเหมือนกันทุกคน แต่จิตวิญญาณต่างกัน ต่างความคิดความยึดถือ ต่างทิฏฐิ ส่วนดินน้ำไฟลมร่างกายนั้นเหมือนกันหมด ลงไปสู่ดินเป็นดินเหมือนกันหมด ธาตุส่วนใหญ่เป็นดินไปหมด
เพราะฉะนั้นพิจารณาให้ลึกซึ้งให้ดีๆ เห็นความลึกซึ้งอันนี้ ใครรังเกียจคนนั้นมิจฉาทิฏฐิ รังเกียจดิน รังเกียจกสิกรรมไม่ได้ เพราะเราต้องอาศัยกิน เป็นพระพุทธเจ้าทั้งองค์ยังต้องฉัน ยังต้องเสวยอาหารจากดินนี่เลย ไม่มีใครหลีกพ้นได้เลย พระพุทธเจ้าตรัสว่าอาหารเป็นหนึ่งในโลก อาหารหมายถึง กวฬิงการาหาร สุดยอดจริงๆ
ไม่ใช่ว่าอาตมาปลุกเร้าพวกเรา แต่อาตมาเอาความจริงมาขยายให้เห็นความจริงที่ชัดเจน ที่เป็นแก่นสารสาระของมนุษยชาติ จริง คนอยู่หอคอยงาช้างนั่งกินนั่งเสวยเฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรให้เหน็ดเหนื่อยให้เปรอะเปื้อนอะไร ไม่ต้องหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน ไม่ต้องหนักต้องเหน็ดเหนื่อย พวกคุณก็เอาเปรียบ คุณก็เป็นคนที่เป็นหนี้ ซึ่งมันมีความจริง มีเหตุผล มีหลักฐานของมันครบ
ขอยืนยันนะ อาตมา ถ้าไม่เกี่ยงถึงวินัยของพระพุทธเจ้าหน่อยเดียวเท่านั้นจะสนุกนะ ทำไมพระพุทธเจ้าจึงห้ามไม่ให้นักบวชเข้าไปทำสิ่งเหล่านี้ มันก็จะกลายเป็นแย่งอาชีพ แย่งอาหารเพราะว่าจะต้องพึ่งพากัน สูงสุดก็คือฆราวาสจะต้องทำพืชพันธุ์ธัญญาหาร สมณะก็จะต้องทำธรรมะ เอามาสอน นี่ก็ให้อาหารธรรมะ นี่ก็ให้อาหารร่างกาย พึ่งพากันมันจบแล้วเป็นที่สุดอยู่ตรงนั้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นต้องรู้จักหน้าที่ ต้องรู้จักความสำคัญนี้ให้จริงเลย
โดยเฉพาะอาตมาเข้าใจพวกที่ชอบใช้หัวคิด ไม่ค่อยชอบลงลุยดินหรอก ชอบที่จะใช้หัวคิดแล้วก็ชี้ใช้ แต่เคยอธิบายแล้ว แล้วพวกชี้ใช้กับพวกที่ลงดินใครตายก่อนกัน พวกที่ลงดินเขาก็มีกินมีอยู่ พวกที่ชี้ใช้ไม่ได้มีกิน อย่างนี้เป็นต้น มันเป็นเรื่องไม่ได้ยากอะไร เป็นเรื่องง่ายๆ
ตอนนี้พูดพาดพิงนิดหน่อย วันที่ 3 กันยายน 2564 โทรทัศน์ดาวเทียมกลับมาอีกครั้งบุญนิยมทีวี รับทราบและพยายามบอกกล่าวกันให้รู้ มันก็มีทางที่จะรับกันได้หลายอย่างหลายอันหลายแบบ ก็ว่ากันไป
SMS วันที่ 1-2 ก.ย. 2564
_สมใจ แสงบัวผัน : Psi ดูได้แล้วค่ะช่อง119
_Jidapa Netibundit (จิดาภา เนติบันฑิต) : ชมรายการทางดาวเทียมได้แล้วค่ะ ตามหามานานมาก นมัสการพ่อท่านค่ะ
_ประดับ คนเปลี่ยนโลก : กราบขอบพระคุณพ่อครูที่ทำให้บุญนิยมทีวีได้ออกอากาศอีกครั้งหนึ่งครับ สาธุ
_อุทาน อุทัย : ฝนตกฟ้าแรงสัญญาณขาด ๆ หาย ๆ ค่ะ
_สุจิน พลนาค : ภาพในทีวีคมชัดดีเสียงชัดด้วยครับดูทีโรงเห็ดครับ กล่องดาวเทียมอินโฟแซท กดไปที่ 185 ครับ
_ซึ้งดิน สิ้นป่าโลกีย์ : รายการพุทธศาสนาตามภูมิโดยสมณะ สิกขมาตุ วันที่ 2 ก.ย. 64 จัดฉากสวยจร้า
ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ต้องมีสภาพ 2 ขา
_คุณพลอยแผ้ว ชาวหินฟ้า : ระบอบที่ดีที่สุดคือมีพระมหากษัตริย์ถ่วงดุลกับภาคประชาชน ภาคประชาชนมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้มีตำแหน่งใหญ่โตสุดในหมู่ประชาชน ถ้ามีนายกรัฐมนตรีไม่ดีกษัตริย์สามารถคานอำนาจได้ ถ้ากษัตริย์ไม่ดีประชาชนยังพึ่งนายกรัฐมนตรีได้ 2 สิ่งนี้จึงคานกัน ระบอบของประเทศไทยเราจึงดีกว่าอเมริกาที่ไม่มีอะไรคานกันถ่วงดุลกัน ขอกราบเรียนถามพ่อครูที่พ่อครูบอกประชาธิปไตยแบบ 2 ขานั้นคือหมายอย่างนี้ถูกไหมคะ? คือถ้าสมัยใดได้กษัตริย์ไม่ดีนายกรัฐมนตรีสามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ ถ้าสมัยใดได้นายกไม่ดี ประชาชนสามารถขอร้องให้กษัตริย์แก้ปัญหานายกไม่ดีให้ประชาชนได้ใช่ไหมคะ?
พ่อครูว่า…ถูกต้อง ประชาธิปไตย 2 ขาหมายถึงแบบนี้ ภาวะ 2 ที่สมบูรณ์แบบ แม้แต่วัตถุ สสาร ก็เป็นพลังงาน 2 บวกลบ มาเป็นชีวะ มาเป็นจิตก็เป็นรูปนาม ก็ถ่วงดุลกันไปอย่างสมบูรณ์แบบ ศึกษาให้ดี ภาวะ 2 นี่แหละ เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหรือเรียกว่าเทวะ ทุกอย่าง คนที่ไปหลงเทวเป็น 1 ไม่ตีแตกแยกแยะเป็น 2 มันจึงมืด มันจึงไม่รู้ครบรอบ ไม่รู้พร้อม จนกลายเป็นขาเดียวฝั่งเดียว ไม่รู้ความสมบูรณ์แบบเป็นเทวนิยม ที่ไม่แตกได้
พระเจ้าเป็นหนึ่งอย่าไปแยกไปแตก แล้วเที่ยงด้วย ตามที่พระเจ้ารู้เท่าไหร่ก็เท่านั้นของแต่ละศาสดา แล้วอาตมาก็ขยายความเรื่องพวกนี้คิดว่าละเอียดหมดแล้ว ศาสดาเทวนิยมไม่รู้ตัวเอง แยกแยะอัตตาตัวเองไม่ได้ ไม่รู้แม้แต่ที่สุดว่าความรู้ ความฉลาดที่ตนเองนำมาประกาศ หลงว่าตัวเองเป็นแค่ ปกาศก เป็นผู้ประกาศความรู้ของพระเจ้า แล้วพระเจ้าอยู่ไหนทำไมมีความรู้นี้ เขาก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าได้รับมาจากพระเจ้า มันก็เลยกลายเป็นคนบื้อๆทื่อๆ ไม่พร้อมทั้ง 2 สภาพ
อาตมาได้เปิดเผยเรื่องนี้กระจ่างแล้วในชาตินี้ หลายๆอันที่เขียนขยายบรรยายไว้ ขณะนี้กำลังจะจบในการเขียนหนังสือปัญญา 8 มีทั้งหมด 400 กว่าหน้า ซึ่งยังไม่ได้แยกหัวข้อ จะแบ่งหัวข้อเหมือนกับเปิดยุคบุญนิยมให้ง่ายอีกหน่อย จะแบ่งเป็นบทด้วย แล้วแบ่งหัวข้อด้วย แล้วจะเอาบทไปขึ้นเป็นสารบัญ ส่วนข้อนั้นเอาไว้ข้างหลัง เพราะคนบอกว่ารำคาญหัวข้อเยอะไปจะเอาไว้ข้างหลังแทน เป็นดัชนีข้างหลัง
_นพพล จรัสวิกรัยกุล : ศาสนาเทวนิยมไม่มีวันพ้นทุกข์เพราะติดตรงที่ว่าเชื่อในพระเจ้าซึ่งพิสูจน์ไม่ได้ไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่ครับ พระพุทธเจ้าเป็นมนุษย์จึงสามารถพิสูจน์ตัวตนได้ ด้วยการปฏิบัติตามคำสอน และเห็นผลได้จริงตามคำสอนพิสูจน์ได้ จึงแสดงว่าผู้ที่สอนย่อมมีจริง ผู้นั้นคือพระพุทธเจ้า / ในเมื่อการปกครองทั้ง 2 ระบอบล้วนแต่ดี อ่านเอาทั้ง 2 ระบอบมารวมกันจึงสมบูรณ์ ถ้าไม่ยึดมั่นถือมั่นยอมรับและเข้าใจในภาวะ ว่ากาละใดควรประชาธิปไตยกาละใดควรใช้ คอมมิวนิสต์ เมื่อใจสูงยอมรับได้กับเหตุปัจจัยและสาระ มันก็สามารถไปด้วยกันได้ แต่ทุกวันนี้คนยังยึดมั่นรับกันไม่ได้ ทั้งสองฝ่าย ก็ถือว่าเป็นผู้ยังมีโมหะ …..กราบนมัสการครับ
พ่อครูว่า… ใช้ได้ คุณคนนี้วิจัย อาตมาก็อุ่นใจที่ได้เอาความรู้พระพุทธเจ้ามาขยาย คนก็รู้ตามได้มากขึ้นเรื่อยๆ และจริงๆแล้วความรู้ของพระพุทธเจ้านั้นไม่เป็นพิษภัย มีแต่ดีมีแต่ช่วยมนุษยชาติสังคมไปได้เรื่อยๆ อาตมาจึงไม่เคยท้อแท้ท้อถอยในการเผยแพร่ธรรมะพระพุทธเจ้า เพราะมีแต่ดีกับดี
_ขาวดี พุทธชาตินิยม : อะไรทำให้ตายไว อะไรตามเราไป
พ่อครูว่า… สิ่งที่ตามเราไปคือวิบากกรรม เหมือนกับล้อเกวียน อะไรทำให้ตายไวก็คือการทำผิดศีล
หัวเจาะประชาธิปไตย คือสาราณียธรรม มีกำลัง 4 ทำให้พ้นภัย 5
พ่อครูว่า… มาต่อระบอบบริหารประเทศที่โลกมีกัน 9 ข้อ ที่อาตมาแยกไว้
-
ประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เจริญโลกุตระตามลำดับ เป็นโลกุตระที่เริ่มเจริญไปตามลำดับ
-
คอมมูนิสต์ ที่มีการเลือกตั้ง ปรับตัวเป็น “ประชาธิปไตยคอมมูน” (คือมีทั้งประชาธิปไตย + คอมมูน) ข้อดียังไม่มีในสังคมโลก แต่ต่อไปเขาจะมี แม้เอา ประชาธิปไตย มาใส่ แต่เลือดที่แท้จริงก็ยังเป็นคอมมิวนิสต์ แก่นเป็นคอมมิวนิสต์
-
ประชาธิปไตยที่เป็นคอมมูน พร้อม “ภาวะ 2” คือ “ราชประชาสมาสัย” ที่สัมบูรณ์ เป็น “สาราณียธรรม 6” ชัดเจนถึงที่สุดแห่ง “บุญนิยม” นั่นคือ เป็น “สังคมสาธารณโภคี” ที่มี “กายปาคุญญตา” และ “จิตปาคุญญตา” เจริญทั้ง “กาย” และ “จิต” สัมบูรณ์
ความแตกต่างของคอมมิวนิสต์และประชาธิปไตย คือคอมมิวนิสต์ยังมีตัวตน แต่ประชาธิปไตยไร้ตัวตน อาตมาให้ความหมายประชาธิปไตยไว้ 3 ข้อคือ
1 ไร้ตัวตน 2 ซื่อสัตย์ 3 รับใช้ประชาชนอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน
ทำอันนี้ได้แล้วเป็นการให้ประชาธิปไตยเจริญรุ่งเรืองตลอด ซึ่งไทยมีอยู่แล้ว
มีรูปธรรม สาราณียธรรม 6 ที่ชัดเจนอย่างเช่นในชาวอโศก
กาย วจี มโน ที่เป็นเมตตามีความเป็นพรหม หรืออัปปมัญญา 4 เมตตากายกรรมวจีกรรมมโนกรรม
เมตตาคือ สภาพที่เห็นใจเกื้อกูลกันช่วยเหลือผู้อื่น
ลาภที่ได้โดยธรรม หรือ ลาภธัมมิกา ได้ลาภมาก็รวมกันกองกลาง แบ่งกันกินแบ่งกันใช้เหมือนกับสภาพกงสีของจีน ที่เหลือก็อยู่กันได้ด้วย ศีลสามัญตาทิฏฐิสามัญตา มีหลักเกณฑ์ของเสียงและทิฏฐิเสมอสมานกันได้
ในคอมมิวนิสต์ ในประชาธิปไตย จึงเป็นเรื่องละเอียดสูงสุด หมดความเป็นทาสอย่างสมบูรณ์ที่สุดยิ่งกว่าคอมมิวนิสต์
คอมมิวนิสต์นั้นยังติดอยู่ในคุณธรรมหรือว่าจิตวิญญาณยังไม่สมบูรณ์แบบ จิตวิญญาณของคอมมิวนิสต์ยังไม่มีคุณธรรม 7 สาราณียะ ปิยกรณะ คุรุกรณะ สังคหะ อวิวาทะ สามัคคียะ เอกีภาวะ ยังไม่เต็มสมบูรณ์บริบูรณ์กัน ใน 7 หัวเจาะ
ศึกษาให้รู้ว่า สาราณียะ คืออะไร ปิยกรณะ คุรุกรณะ สังคหะ อวิวาทะ สามัคคียะ เอกีภาวะ คนชาติไหนก็เรียนรู้คุณธรรมอันนี้ได้หมด
สาราณียะคือ เป็นคนระลึกถึงกันไม่ใช่เป็นคนใจดำอยู่คนเดียวไม่เกี่ยวกับใครแบบพวกเชน ไม่ยุ่งไม่เกี่ยวกับใคร ไม่มีอัตตา สูญ ไม่ใช่ คุณต้องรู้ว่าคุณเกิดมาในโลกนี้คุณไม่ได้เกิดมาเป็นคนดี คุณเกิดมาในสังคมมนุษยชาติและเป็นสังคมที่เป็นโขลงอยู่ร่วมกัน เป็นสัตว์โขลงที่อยู่ร่วมกัน มีจิตวิญญาณที่สูงส่งด้วยมีจิตวิญญาณฉลาดเฉลียวสูงสุด สัตว์โขลงที่ยิ่งใหญ่มากในกระบวนการสัตว์โลกทั้งหมด คุณจะอยู่โดดเดี่ยวไม่ได้
อาตมาจึง ขยายความเป็นความรัก 10 มิติ ระลึกถึงกัน ไม่ใช่ผูกพัน แต่มีปฏิสัมพันธ์กันเท่าที่ควร แล้วก็ต้องมีการเคารพกัน
ต้องรู้ว่าเคารพหมายถึงอะไร เคารพคือเราคต้องรับความจริง ความจริงจะเป็นจริงโดยสมมติที่เขายกให้หรือโดยกฎเกณฑ์ โดยวัยวุฒิ อะไรต่างๆ โดยตำแหน่งหน้าที่ หรือโดยสมรรถนะที่แท้จริง ด้วยความรู้ความสามารถที่แท้จริง ต้องยกให้จริงๆ อย่างเช่นพระพุทธเจ้ามีความรู้ความสามารถสมบูรณ์แบบ ก็ต้องยกให้
เพราะฉะนั้นเราจะเข้าใจเคารพกันได้ แล้วก็ต้องอยู่ด้วยกันอย่างเอื้อเฟื้อกันได้ แจกจ่ายเจือจานเกื้อกูลกันเผื่อแผ่กัน อย่าเห็นแก่ตัวอย่าเห็นแก่ได้ เกื้อกูลกันเผื่อแผ่กันเสียสละได้ดี เกื้อกูลแล้วเป็นผู้เสียเปรียบเสียสละ แม้ผู้อื่นจะเป็นผู้เอาเปรียบอยู่ เราสามารถเสียสละได้เป็นผู้อดออมเป็นผู้ยอมให้ได้ เรายังไม่ถึงตาย แต่ถ้าเผื่อว่ามันให้แล้วถึงตายนะ เราจะอยู่ไม่รอดนะเราก็ต้องดึงไว้หน่อย แต่แม้คิดถึงที่สุดต้องรู้ว่าจะต้องตายเพราะเหตุปัจจัยต่างๆมันครบ ก็ต้องตาย เพราะเราเข้าใจอยู่แล้วว่าตายไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ตายแล้วถ้าคุณยังไม่จบแม้คุณยังไม่เป็นพระอรหันต์คุณก็ต้องเกิดอยู่ดี หรือคุณจะเป็นพระอรหันต์แล้วคุณจะยังไม่จบ ตายก็ตายไป เกิดมาก็ดีกว่าเก่า ได้เสียสละทำสิ่งที่ดีมันก็ต้องมีวิบากที่ดียิ่งขึ้น มันชัดเจนมันจะไม่กลัวมันจะพ้นภัยทั้ง 5
มีกำลัง 4 แล้วจะพ้นภัย 5
-
ปัญญาพลัง (กำลังคือ ปัญญา)
-
วิริยพลัง (กำลังคือ ความเพียร ขยัน)
-
อนวัชชพลัง (กำลังคือ การงานที่ปราชญ์ไม่ติ)
-
สังคหพลัง (กำลังคือ การสงเคราะห์ช่วยผู้อื่น)
ปริสสารัชภัย พวกเราไม่ได้หวังร้าย ปรารถนาร้ายทำร้ายใคร จะไปสะทกสะท้านทำไม ไม่ว่าเราจะด่าเขาก็ด่าอย่างเหมาะสม แม้จะใช้ภาษาโลกแต่ก็พยายามไม่หยาบ แต่แรงก็ต้องแรง
จะตายเราก็ตายอย่างไม่มีปัญหา ถ้ายังไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสานก็กลับมาอีก แต่ถ้าปรินิพพานเป็นปริโยสานแล้วก็ตายไปแบบสูญเลย แบบพระพุทธเจ้า หรือพระอรหันต์พระองค์ที่ไม่ต่อโพธิสัตว์ แค่นี้ก็พอแล้วไม่สู้ก็ปรินิพพานเป็นปริโยสานไป เพราะสามารถทำได้เพราะเป็นพระอรหันต์แล้ว
ยิ่งทุคติภัย หรือนรก ภัยจะตกนรก ไม่มี หรือจะทำไม่ดี ทุคติ จะดำเนินไปข้างหน้าเป็นสิ่งไม่ดีก็ไม่ดำเนิน สัพพะปาปัสสะอะกะระณัง ไม่กระทำแล้วบาปชั่ว รู้สมมติโลกว่าอันไหนดีอันไหนไม่ดีแล้วไม่ทำสิ่งที่ไม่ดีเด็ดขาด
(พ่อครูไอตัดออกด้วย)
สมณะฟ้าไท…
พ่อครูว่า… มันเป็นเช่นนั้น Action Reaction ธรรมดาสามัญ
ในกำลัง 4 ปัญญาพละ อาตมากำลังเขียนหนังสือปัญญา 8 น่าจะประมาณ 500 หน้าละเอียดกว่าเปิดยุคบุญนิยมอีก ที่เขียนอยู่ อัพเดทที่สุดแล้วจบอันนี้จะทำ ประชาธิปไตยไทยที่ใครๆก็ไล่ไม่ทัน
ประชาธิปไตยแบบคอมมูน 2 สภาวะ มีสาธารณโภคี
สาธารณโภคียังต้องพูดกันอีกนานมาก เพราะคนยังไม่เข้าใจ ยังไม่ไว้ใจ 1. การเมืองที่ใช้ความสงบสยบความรุนแรง เขาก็ยังเข้าใจไม่ได้ ทั้งๆที่เรามีตัวอย่างแล้ว เราใช้ความสงบสยบความรุนแรงไปปฏิวัติรัฐประหารรัฐบาลตั้ง 3-4 รัฐบาล ทำเสร็จมาแล้วเป็นตัวอย่างในประเทศไทย เขาก็ยังไม่เข้าใจไม่เชื่อ ไม่ใช่ เขาก็บอกว่าพลเอกประยุทธ์มาปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งมันยากที่จะเข้าใจ อันนั้นมันเป็นผู้รับไม้ต่อจากประชาชน เขาก็บอกว่าผมขอยึดอำนาจ ก็ไม่ผิด ถ้าไม่ใช้คำนี้ก็ไม่รู้จะใช้คำไหน บอกว่าให้ออกไปฉันจะเอาแล้ว ก็บอกว่าฉันขอยึดอำนาจ ก็ไม่มีทางสู้อะไรเพราะยึดมาง่ายๆมันจบแล้ว ลงตัวแล้ว ไม่มีทางกระดิกอะไรแล้ว หมดฤทธิ์ ตายอย่างเขียดเหยียดขาตายแล้ว
จากที่เราได้ทำมาแล้ว เขาก็พยายามทำแบบเรา ลอกเลียน อย่างพวกสามนิ้วทำ แต่เขาทำอย่างเราไม่ได้หรอก อย่างดีก็โบกธงได้ เขาเอาสีไปสาดให้มันเลอะเทอะ เอาประทัดไปยิง แม้ไม่เป็นลูกปืนฆ่ากัน มันก็ค่อยๆดีขึ้น
ต่อไปจะรู้ว่ามันบ่มีไก๊ ทำไปก็ไม่ได้เรื่องไม่ชนะ สุดท้ายเขาจะเข้าใจ แต่นี่เขาก็ไม่ยอม เขาก็ว่าจะได้ๆๆๆ ไม่ต้องเอาแต่ที่ประท้วงภายนอก แม้แต่ในสภา ใครจะโกหกอย่างไรก็ไม่ผิด มันเลยเละตุ้มเป๊ะเลยในสภา หาเรื่อง fake news หาเรื่องมาว่า ปั้นเรื่องมาด่า สบายๆ ก็ไม่เกี่ยว ก็ไปว่าความทีหลัง พวกนี้ก็เสี่ยง แต่หากเขาล้มรัฐบาลได้เรื่องพวกนี้ก็เงียบไป
สาธารณโภคี มันมี 2 คำ สาธารณะ กับ โภคี
โภคี คือการอุปโภคบริโภค การรับเข้ามาหาเรา เลี้ยงชีวิตเรา
สาธารณะ ก็คือของส่วนกลาง แล้วของส่วนกลางที่มี ที่จะกินใช้ร่วมกัน ก็ต้องอุดมสมบูรณ์ หากมันไม่พอกินมันก็ฆ่ากันเลย สาธารณะที่ขาดเขินบกพร่อง ไม่สมบูรณ์ไม่เต็ม ไม่ถ้วนทั่วไม่ทั่วถึง ก็จะแย่งกัน ฆ่าแกงกัน
เพราะฉะนั้นสาธารณะก็ต้องอุดมสมบูรณ์ด้วย ทำอย่างไรมันถึงจะสมบูรณ์
อาตมาว่ายืนยันได้เลย พลังงานของคน วิริยารัมภะ ยอดขยัน ขยันให้มาก ทำงานในสิ่งที่ควรทำ สรุปลงมาที่อาหารการกิน มาทำจนกระทั่งมันเหลือมันเกินที่เรากินเราใช้ ในสังคมอาตมาพยายามวิจัย มันมีคนที่จะต้องเผื่อเขาไว้ เพราะเขาเลี้ยงตนไม่รอด
-
เด็ก 2. คนแก่ที่ไม่มีเรี่ยวแรงจะทำได้แล้ว 3. คนป่วย 4. คนพิการ 5. คนไม่เต็มเต็ง คนบ้าบ้าบอๆพูดไม่รู้เรื่อง