650309 ปัญญา 8 ประการ 3 ข้อแรก โดยพิสดาร พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ
ดาวโหลดเอกสารที่
https://docs.google.com/document/d/1C7cc-vRJPW1TyLjUqzPAIodaeR_6Zzmi84cCa9c01Q0/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/16lKLykMCUnisckzIqab1KZxKLTB00cQ0/view?usp=sharing
และดูวิดีโอได้ที่ https://fb.watch/bEkGjotwUR/
และ https://youtu.be/cCTnpZTcYaU
สมณะฟ้าไท… วันนี้เป็นวันพุธที่ 9 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
พ่อครูว่า…ก่อนอื่นก็ขอโอภาปราศัยกับ SMS ก่อน
SMS วันที่ 7 มีนาคม 2565
ศาสดาของศาสนาพุทธเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีการแบ่งแยก
_Danuthum Virulhsirikul ดนุธรรม วิรุฬห์ศิริกุล : นมัสการพ่อท่านด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่งครับ..วันศุกร์ที่ 4 ผมรอฟังเทศน์ พ่อท่านเหมือนเดิม..แต่ไม่มีรายการ..ผมคิดว่า”พ่อท่าน” คงไม่สบาย.. แต่มาทราบทีหลังว่า”พ่อท่าน” ไปฉีดวัคซีน.. แต่แปลกครับ..อยู่อยู่ผมก็นึกถึง”พระอานนท์”ที่ได้ทูลถามพระพุทธเจ้า ก่อนที่จะดับขันธ์ปรินิพพานว่า..ถ้าพระองค์ตถาคตไม่อยู่แล้ว.. จะให้ใครเป็น”พระศาสดา” แทน พระพุทธเจ้าได้ตอบกับพระอานนท์..ว่า..”พระธรรม”คำสั่งสอนของพระองค์…จะเป็นตัวแทน..สืบต่อไป….ทำให้ผมนึกถึง”พ่อท่าน” ว่าใครหนอ.. ที่จะมีสยังอภิญญาแบบพ่อท่าน…. ทุกวันนี้พระวัดอื่นอื่นจะดังแค่ไหนหรือไม่ดัง.. ผมก็เลิกฟังหมดแล้ว.. เมื่อมาฟัง”พ่อท่าน” มันคนละเรื่องกัน… ตอนนี้ก็มีพระทำแต่เรื่อง”เสื่อมเสีย” เป็นรายวัน.. พระที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้แก้ไขอะไรเลย ไม่ทุกข์ไม่ร้อน หลงแต่ลาภยศตำแหน่งกันอย่างเดียว..เกินการแก้ไขแล้วครับ
พ่อครูว่า…จะให้อาตมากระหน่ำต่อหรือไง ขอว่ากันหน่อย มันเสื่อมตามจริงๆยุคหลัง 2,500 ปีผ่านมาแล้ว ศาสนาพุทธได้เสื่อมตามที่พระพุทธเจ้าท่านพยากรณ์ไว้ว่าความเสื่อมจะเกิดขึ้น ความเสื่อมนี้ไม่ได้เอาอะไรมาวัดให้ยากเย็นเลย ความเสื่อมของศาสนาพุทธก็คือ โลกุตรธรรมได้เสื่อมไปจากผู้ที่ถือว่าเป็นผู้สืบทอดศาสนาพุทธจากพระพุทธเจ้านั่นแหละ คือพระภิกษุนั่นแหละ ไม่มีโลกุตระ ไม่รู้จักโลกุตรธรรม ไม่ได้สอนโลกุตรธรรม
ก็ได้แต่สอนโลกียะธรรมทำเหมือนศาสนาอื่นเขา ดีไม่ดีเละเทะกว่าศาสนาอื่นเขาด้วย ศาสนาอื่นเขายังมีความชัดเจนไม่ออกนอกลู่นอกทาง แต่ของพุทธนั้นออกเละเทะไปอะไรก็ไม่รู้เป็นเดรัจฉานวิชา เป็นไสยศาสตร์ เป็นเทวนิยมน้ำเน่า พูดไปแล้วเหมือนไปใส่ความใส่ไคล้หาเรื่องหาราวเขา มันไม่เคยเห็น ไม่เคยมีก็มีในวงการศาสนาพุทธ แล้วก็ปล่อยกันไปให้ปู้ยี้ปู้ยำแล้วก็บอกว่านี่แหละ พุทธๆๆ ดีไม่ดีแต่งตัวเลียนแบบพระพุทธเจ้า เลียนแบบภิกษุ โอ้ มันเสื่อมได้ขนาดจริงๆยุคนี้
ทีนี้ อาตมานำเอาโลกุตรธรรมมาพูดขึ้น ประกาศขึ้น อธิบายขยายความ อ้างอิงยืนยันตามพระไตรปิฎก ผู้ที่มีปฏิภาณดี มีธุลีในดวงตาน้อย มีบารมีพอจะรับฟังได้ ว่า ใช่ๆๆ เหมือนอย่างคุณดณุธรรม ซึ่งก็มีผู้ที่มีเซ้นส์ อย่างนี้ คนอื่นไม่ฟังแล้วมันออกนอกทาง มันง่ายชัดเจนที่จะแยกแยะตัดสินว่าอันนี้เป็นธรรมะพระพุทธเจ้า ศาสนาพุทธถ้าไม่มีโลกุตตรธรรมแล้วมันจะไปแตกต่างอะไรกับศาสนาอื่น มันก็จะเป็นศาสนาเทวนิยมที่แข่งกัน ต่างคนต่างใหญ่แข่งกันอยู่ในโลกเท่านั้นเอง ก็เป็นศาสดาองค์ใดองค์หนึ่งแบบเทวนิยมแข่งกัน แต่นี่ของพระพุทธเจ้าไม่ใช่ได้แยกออกมาไม่ได้แข่งกับศาสดาอื่น
ศาสนาอื่นจะแข่งกันจะเป็นเรื่อง magical เป็นเรื่องลึกลับเพ้อฝันไป แม้แต่พระเจ้าเขาก็ยังลึกลับทุกวันนี้ตามหาพระเจ้าก็ยังสัมผัสไม่ได้ แล้วก็มีคำสอนสืบทอดมา คนนี้ศาสนานี้ศาสดานี้ของเทวนิยม ไม่ต้องไล่ชื่อเขา เขาก็ว่าศาสดาของเขาถูกต้องจริงของเขา ศาสนานี้ศาสดาองค์นี้ก็ว่าของเขาถูกต้องจริง อันนี้ก็ถูกต้องจริง พูดชัดๆเลยก็ได้ ใหญ่ๆอย่างศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ศาสนาฮินดู ศาสนาซิกข์ ศาสนาบาไฮ ศาสนาโซโรอัสเตอร์ ศาสนายิว ศาสนายูดาย ศาสนาอะไรอีกเยอะแยะเลยแข่งกันอยู่นั่นแหละ
แต่ของพระพุทธเจ้าไม่แข่งเลยพระพุทธเจ้ามีองค์เดียว องค์ใดๆตรัสรู้ก็สอนเหมือนกันหมด สัจจะมีหนึ่งเดียวไม่มีแย่งกันเลย มีนิพพานอันเดียวกันบรรลุได้แล้วไปในทางทิศเดียวกัน เอเสวมัคโค นัตถัญโญ ตรงกันหมดที่ไม่ตรงก็ไม่ตรง
เช่น ขณะนี้อาตมานำธรรมะมาประกาศว่าอย่างนี้ ทางอื่นไม่กล้าแย้งไม่กล้ามาเถียงว่าของเขาก็โลกุตระ ยังไม่มีใครกล้าแย้งเป็น 2 เลยทุกวันนี้ เขาก็ว่าของเขาถูกเท่านั้นแต่ไม่กล้าบอกว่าเป็นโลกุตระ นอกจากอาตมาจะยืนว่าเป็นธรรมะคำสอนพระพุทธเจ้ามีความหมายอย่างนี้ขยายความให้เข้าใจเนื้อหาอย่างนี้ พวกคุณฟังเข้าใจแล้วก็มาปฏิบัติตามอย่างนี้ ปฏิบัติตามศีล
ศีลข้อ 1 แล้วก็จะมีเมตตาจนกระทั่งเห็นประโยชน์เพื่อสัตว์ทั้งปวงอยู่ ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องทำร้ายทำลายเบียดเบียนสัตว์ เข้าใจลึกซึ้งไปถึงขั้นกับวิบากที่เป็นอจินไตย การมากินเนื้อสัตว์หรือแม่ที่สุดจะไม่มาเลี้ยงสัตว์ ไม่ไปเอาสัตว์มาผูก มาประเหลาะให้มันมาหลงเราอีก ไม่ มันก็อยู่ตามประสามัน มันจะเชื่องก็ด้วยตามสัญชาตญาณ ไม่ได้ด้วยเราประเหลาะ อย่างพวกเราสัตว์ต่างๆรอบตัวมันเชื่องด้วยสัญชาตญาณ มันไม่กลัวแต่มันไม่ให้ใกล้ ไปจับมันไม่ได้ เราก็ไม่ไปจับมัน เราไม่ได้เที่ยวไปทำอะไรกับมัน มันก็รู้ว่าพวกนี้ไม่ทำอะไรมันหรอก ก็เหมือนกับในป่า สัตว์ตัวไหนที่รู้ว่าสัตว์ใหญ่สัตว์น้อยอยู่ร่วมกันไม่ทำอะไรมันมันก็อยู่ร่วมกันไป ดีไม่ดีนกต่างๆมันก็ไปขี่หลังขี่หัววัวควายอะไรไปเฉยๆอะไรอย่างนี้ มันก็อาศัยกัน
เรื่องของจิตวิญญาณเรื่องของวิบาก อันนี้เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ เป็นความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าที่ท่านยืนยันว่าเป็นอจินไตย เรื่องกรรมวิบากนี้ เป็นเรื่องที่สุดยอด
อจินไตย มี 4 ข้อ
1.พุทธะวิสัยยกไว้ คนใดที่จะมีความรู้ถึงขั้นเป็นพุทธะเป็นชื่อว่าเจ้าของธรรมะเป็นธรรมะสามี
-
ฌานวิสัย เป็น อจินไตย ที่พูดกันไม่รู้เรื่อง
_วันชัย สหมโนธรรม : ผมกินอาหาร”มังสวิรัติ”มากว่า ๔๐ ปี ผลไม้กับข้าวถั่วงา ก็ไม่ค่อยป่วย แถมบริจาคโลหิตทุกสามเดือน โลหิตก็ไม่จาง ผมว่าส่วนใหญ่ป่วยน้อยกว่าคนกินเนื้อสัตว์แน่นอนครับ.
_ลูกไม่ใกล้พ่อ.. เมื่อเช้าดิฉันกำลังเก็บฟืน มีคนตะโกนชมว่า “มหัศจรรย์จริงๆนะเดี๋ยวนี้” ก็บอกเขาว่า ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะทำได้ เมื่อก่อนดิฉันทำงานอยู่บนหอคอย ใช้สมองไม่เคยไปลงมือทำงานกับใคร
_สตาร์แอร์ ทุ่งคอก : ขอให้พ่อท่านหายจากอาการไอ โดยเร็ววันครับ🙏
_สว่างแสง ขวัญดาว : น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ พ่อครูคะ ทุกครั้งที่เห็นพ่อครูไอลูกรู้สึกทุกข์ใจ ยิ่งพ่อครูไอแรง ลูกก็ยิ่งทุกข์มากขึ้น ฟังพ่อครูว่ายิ่งสอนคนมาก ๆ ก็ยิ่งมีผลอันตรายถึงลำคอและกล่องเสียงมาก ลูกก็เป็นอีกคนที่ยังโง่ พ่อครูสอนอะไรก็ยังเข้าใจยากเป็นเหตุให้พ่อครูต้องสอนมาก ลูกรู้สึกผิดค่ะเป็นแต่เพียงลูกยังไม่เคยล้มเลิกการปฏิบัติตามพ่อครู กราบขออภัยพ่อค่ะ เกี่ยวกับนาคนั้น เมื่อพิจารณาในอนุปัสสี ๔ ผู้ซึ่งได้ภูมิอนิจจานุปัสสี แต่ยังไม่ได้วิราคานุปัสสี คือจับกิเลสได้แต่ยังทำกิเลสให้จางคลายไม่ได้ ท่านผู้นี้จะเป็นนาคไหมคะ
พ่อครูว่า… ก็เป็นนาคอีกระดับหนึ่ง นาค ด้วยความหมายกว้างๆโดยความหมายชัดๆก็คือ เป็นผู้จม จมอยู่กับที่ไม่เคลื่อนที่ หลับไม่รู้คู้ไม่เห็น จมอยู่กับอันเก่า เท่ากับพวก สีลัพพตปรามาส หรือ สีลัพพตุปาทาน
_รำไพ นักผูก : ถ้าไม่มีบุญจริงคงไม่ได้บวชเป็นพระ เพราะไม่ได้ฟังธรรมจากพ่อท่าน โยมเห็นส่วนมาก จะบวชเป็นนาคกันทั้งนั้นและวัดทั่วไปก็จะมีแต่สัญลักษณ์พญานาคทั้งนั้นเจ้าค่ะ
พ่อครูว่า… ไม่ผิดนะ ถูก อาตมาว่า ทุกวันนี้เขาเข้าใจพระป่าพระกรรมฐานคือพระปฏิบัติ ถ้าจะปฏิบัติศาสนาพุทธจะปฏิบัติธรรมบรรลุนิพพานบรรลุอรหันต์บรรลุฌานบรรลุสมาธิ ก็ต้องนั่งหลับตานี่แหละ ถ้าไม่นั่งหลับตาก็ไม่เรียกว่ามีสมาธิหรือไม่มีฌาน บรรลุวิมุติ ไม่ได้ ลืมตาไม่ได้ โอ้โห! มันน่าสังเวช น่าสงสารจังเลย
ซึ่งอาตมาก็ว่าหลับตานั่นแหละหมดทางที่จะได้ ต้องมาลืมตาเรียนให้สัมมาทิฏฐิ จรณะ 15 วิชชา 8 นี่ต่างหากล่ะที่จะได้
มาหลับตากันทุกวันนี้ก็ยืนยันอยู่ แม้แต่สายพระบ้านที่เรียนปริยัติกันเยอะ ก็ยังนึกว่าการปฏิบัติจริงๆที่จะได้มรรคผลต้องนั่งหลับตานะ ทั้งๆที่เรียนปริยัติ เรียนบัญญัติ เรียนเปรียญ เรียนดอกเตอร์ ไปได้ดอกเตอร์มาจากมหาวิทยาลัยเทวนิยมด้วย ด็อกเตอร์ทางพุทธศาสนามา เวรจริงๆเลย แล้วกลับมายิ่งใหญ่อยู่ในเมืองพุทธ มันทำไมมันถึงได้พิกลพิการ กันไปถึงขนาดนั้น กลับหัวเป็นหาง กลับฝาเป็นหม้อ กลับหม้อเป็นฝา
ฌานวิสัยคือผู้มีสติเต็มร้อยปัญญเต็มรู้
(166) ตำนานต่างๆของ“พญานาค”เท่าที่อาตมาพอรู้
มาพูดถึง“ตำนานพญานาค”กันเท่าที่อาตมาพอรู้นะ
-
นาค คือ งู ที่มีภาวะ สื่อแสดงท่านอน-ท่าหลับ เป็นลักษณะสำคัญ ดังนั้น ลัทธิยึดท่า“หลับ”คือ “หลับตา”ปฏิบัติจึง“มีจริง” ซึ่งเป็นลัทธิหลับตา ก็คือ ศาสนาหรือลัทธิเดียรถีย์ ที่เป็นลัทธินอกพุทธนั่นแหละ ยังมีมาก ครองโลกอยู่ด้วยซ้ำ (พ่อครูไอตัดออกด้วย)
-
นาค มาปลอมบวช ในศาสนาพุทธหมายความว่า ศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาที่มีการ“หลับตา”ปฏิบัติ ผู้นำการ “หลับตา”ปฏิบัติมาใส่ลงไปในศาสนาพุทธ จึงเป็นคนผิด คนปลอม ที่เอา“ของปลอม”เข้ามาในศาสนาพุทธ ก็ได้บาปแน่