650214 พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า พุทธาภิเษกฯ#46 จรณะและวิชชาคือพุทธคุณภาคปฏิบัติ
ดาวโหลดเอกสารที่
https://docs.google.com/document/d/1iPPI-anxouMBtGFRnzjVwttJTXBjIosy9fBhdl5y_c4/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1kNtcm4QBRO1qPPPR4tLm8h9vxEN5n7_v/view?usp=sharing
และดูวิดีโอได้ที่ https://www.facebook.com/300138787516163/videos/681045272932554 และ
จรณะ 15 คือพุทธคุณภาคปฏิบัติ
พ่อครูว่า…วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก ที่โต๊ะเทศน์มีข้าวชนิดต่างๆหลากหลายชนิดมาเป็นตัวอย่าง ต้นกล้า ผาดาว โอเล่ ซาคาฮารี เรือ วันนี้ทั่วโลกเขาเป็นวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2565 แต่ขึ้น 13 ค่ำเดือน 3 ปีขาล ปี 3
วันเวลาก็บอกให้ใช้สมมุติกันให้ตรงกันเป็นประโยชน์ ก็มีการเดินทางของดวงดาวดวงอาทิตย์ด้วย มีอุตุมีบรรยากาศมีอากาศหมุนเวียนเย็นหนาวร้อน ไปกันตามประสาของเขา
งานนี้ให้อาตมาเทศน์จรณะ 15 วิชชา 8 ในพระไตรปิฎกเล่ม 15
ชาวพุทธทั้งหมดเลย เป็นเรื่องจำเป็นเพราะว่าเราเป็นชาวพุทธเป็นลูกพระพุทธเจ้า มันก็ต้องศึกษาตามคำสอนพระพุทธเจ้าซึ่งท่านก็บัญญัติเอาไว้ดีแล้ว ดีจริงๆ ยอดวิเศษเลย
ที่นี้คำสอนพระพุทธเจ้าที่บัญญัติไว้เรียกว่า พุทธคุณ คำว่าพุทธคุณเป็นคำที่บ่งบอกถึงหลักปฏิบัติ ซึ่งพุทธคุณของพระพุทธเจ้ามีถึง 9 ข้อ อะระหัง สัมมาสัมพุทโธภะคะวา วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโรปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถาเทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ
วิชชาจะระณะสัมปันโนเป็น 1 ใน 9 ข้อ
ข้อที่ 1 อรหัง ก็บอกถึงคุณค่าคุณงามความดีของพระพุทธเจ้า เพราะว่ายังไม่มีอุบัติขึ้นมาก่อน อรหังคือผู้ไกลจากกิเลสไม่ลึกลับแล้ว ฆ่ากิเลสได้หมดแล้ว โดยพยัญชนะ อรหะ อรโห แปลว่าไม่ลึกลับแล้ว ในจิตวิญญาณ รู้จักตัวกิเลสนี่แหละเป็นตัวสำคัญซึ่งมันลึกซึ้งซับซ้อนลึกลับมันซ่อนอยู่ในจิต ศาสนาอื่นไม่เรียนรู้เรียนรู้ก็ไม่เก่ง เรียนรู้ก็ผิวเผินไม่เหมือนกับพระพุทธเจ้า รู้จักกิเลสอย่างไม่ลึกลับ หมดเกลี้ยงจนถึงขั้นอาสวะ
จับตัวกิเลสได้ถึงขั้นอาสวะอนุสัย แล้วมีวิธีกำจัดได้หมด กำจัดได้ด้วยความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าเรียกว่า สัมมาสัมพุทโธ สัมมาสัมพุทโธหมายความว่า ตรัสรู้ได้ด้วยพระองค์เอง ไม่ได้เอาของใครมา ไม่มีใครมาบอก ซึ่งไม่เหมือนกับศาสดาของเทวนิยมที่มีพระเจ้าเป็นผู้บอกเป็นเจ้าของธรรมะเป็นธรรมะสามี แล้วให้พระบุตรเป็นผู้ประกาศ มนุษย์นำมาประกาศในโลกเรียกว่า ปกาศก ผู้ประกาศ ผู้นำคำสอนของพระเจ้าหรือความจริงของพระเจ้ามาประกาศต่อโลก
แต่ของพระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้เอง พูดอย่าง อาสโภ อาจหาญแกล้วกล้า ไม่หลบ ไม่เก้อเขิน ไม่มังกุ ไม่เก้อไม่ยาก พูดอย่างเต็มกำลังเต็มใจ เต็มสภาพ ไม่มีอะไรสะดุด ว่า ตรัสรู้เองรู้เอง พากเพียรค้นความรู้นี้มาเอง ตรัสรู้เอง ความตรัสรู้นั้นเอามาประกาศกับมนุษย์ก็คือ วิชชาจะระณะสัมปันโน
เป็นผู้ที่สามารถบรรลุ สัมปันโนคือผู้บรรลุ ปฏิบัติด้วยจรณะ 15 วิชชา 8 จบสุดได้ มีอย่างนี้ทางเดียวทางนี้ทางเดียว เอเสวมัคโค นัตถัญโญ ไม่มีทางอื่น ที่บอกว่าทางปฏิบัติไปนิพพานมีไม่รู้กี่ทาง คนนี้นอกทางคำสอนพระพุทธเจ้าพูดผิด
ทางที่จะไปนิพพานมีทางหนึ่งทางนี้ทางเดียว เอเสวมัคโค ทางนี้ทางเดียว นัตถัญโญ ทางอื่นไม่มี
เพราะฉะนั้นจึงอย่าเรียนผิดทาง ต้องเรียนให้ถูกทาง เรียกด้วยภสัมมาทิฏฐิ ต้องเรียนรู้ให้ถูกพยัญชนะให้ปฏิบัติถูก มีมรรคมีผลที่ถูก จนกระทั่งจบการบรรลุธรรมสูงสุดเป็นอรหันต์ หรือ โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ มีหลักให้ตรวจสอบทั้งนั้น
ในพุทธคุณ 9 ของพระพุทธเจ้า วิชชาจะระณะ การบรรลุธรรมด้วยนะด้วยความรู้ด้วยการประพฤติ ที่พระพุทธเจ้าท่านตราไว้หมด มีอันนี้บอกก็คือ จรณะ 15
ตั้งแต่ สังวรศีล สำรวมอินทรีย์ โภชเนมัตตัญญุตา ชาคริยานุโยคะ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ พาหุสัจจะ วิริยะ สติ ปัญญา ฌาน 1 2 3 4 แล้วมีวิชชา 8 เป็นกษัย
แกงต้องมีน้ำแกง วิชชาคือ น้ำแกง จรณะคือตัวเนื้อ ตัวองค์ประกอบต่างๆที่จะทำให้เป็น แกง จะเป็นแกงเขียวหวานจะเป็นแกงมัสมั่น แกงเลียง แกงคั่ว แกงส้ม ไม่ใช่ตะแลงแกงนะ
วิชชาจรณสัมปันโนถึงเป็น 1 ใน 9 ของพุทธคุณทั้งหมด เพราะฉะนั้นพุทธคุณข้อวิชชาจะระณะจึงเป็นข้อแจ้งหลักปฏิบัติ แจ้งความรู้ที่จะปฏิบัติอยู่ที่ข้อนี้ข้อเดียวใน 9 นอกนั้นแสดงถึงอลังการเครื่องประกอบของพระพุทธเจ้า
อรหํ เป็นพระอรหันต์ สมฺมาสมฺพุทโธ ตรัสรู้เองโดยชอบ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ สุคโต เสด็จไปดีแล้ว ไม่มีหลงทางไม่มีวกวนไปไหนไปถูกต้องหมด ต้องการตายได้ ต้องการเป็นเป็นได้ ต้องการปรินิพพานเป็นปริโยสาน ตายสุดท้ายแล้วไม่มีแล้วเลิกเลยก็ได้ เรียกว่าดับวิญญาณดับจิตนิยามเลิกถอนไปเลยได้
โลกวิทู เป็นผู้รู้แจ้งโลก รู้จักโลกที่มันคือความวนเวียน โลกคือความวนเวียนทั้งหลายไม่ว่าโลกเล็กโลกใหญ่ โลกมารวมกัน ตั้งแต่จักรวาลน้อยจักรวาลใหญ่ โลกอยู่ในตัวเราอง ความหมุนเวียนอยู่ในตัวเราเอง เดี๋ยวก็วนไปหาร้านเหล้าเดี๋ยววนกลับมาบ้าน เดี๋ยววนไปหาร้านเหล้า เดี๋ยววนไปหาร้านที่เราติดอาหารเขา เดี๋ยวก็ไปร้านนี้แหละอร่อยกินได้กินดีกินไม่เบื่ออะไรอย่างนี้ ก็ไปร้านนั้นร้านนี้ คนติดในรูป ก็ไปร้านทำรูป คนติดในรสก็ไปร้านที่มีรสให้ คนติดในเสียงก็ไปร้านมีเสียงให้ คนติดในกลิ่นก็ไปร้านทำกลิ่นให้
นี่เป็นสุดยอดความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ที่รู้ความจริงของสันดานมนุษย์ พระพุทธเจ้าถึงหาวิธีที่จะเลิกสันดานของมนุษย์ วิธีที่จะเลิกก็คือวิธีทำฌาน ทำปัญญา
ฌาน 4 จบฌาน 4 มือสุดท้ายของการประหารกิเลส ฌานคือไฟเผาผลาญประหารกิเลส หรือ เพชฌฆาตฟันคอกิเลสขาด
บุญเท่ากับเพชฌฆาตมือสุดท้ายฟันคอกิเลสมือสุดท้าย
ฌาน 4 จะฆ่ามารตายอย่างไรก็ตาม ตายไม่เด็ดขาดสะเด็ด มาถึงมือบุญเบอร์สุดท้ายนี้ ชั๊วะต้องทำหน้าที่ ตายมาแล้วต้องฟันอีก ฆ่าเป็นมือสุดท้าย เป็นแน่นอนเลยว่า ถ้าเจอมือบุญแล้ว กิเลสตายเด็ดขาดไม่มีฟื้น นี่คือความหมายที่ลึกซึ้ง คำว่าบุญ เดี๋ยวนี้ศาสนาพุทธเสื่อม คำว่าบุญไปหมายถึงกุศล หมายถึงโลกียะ หมายถึงสมบัติ
ทั้งๆที่บุญนี้เป็นวิบัติ เป็นตัวทำให้วิบัติ ไม่ใช่ไปสั่งสมเป็นสมบัติ เป็นตัวที่ปฏิบัติให้สลายหายสูญไป ไม่ใช่เป็นตัวปฏิบัติให้เจริญงอกงามไพบูลย์ ไม่ใช่ นี่คือสัจจะที่ไม่ใช่จะรู้ได้ง่ายๆ เดาเอาไม่ได้ ถ้าไม่มีภูมิรู้และปฏิบัติจนถึงผล จนรู้ได้เองแล้วจึงจะชัดเจน ถึงจะมั่นใจถึงจะพูดถูกไม่มีผิดเพี้ยน ไม่มีอะไรแย้งกับพระพุทธเจ้าเลย ตรงกับพระพุทธเจ้าหมด แล้วรู้โลกโลกะวิทู เพราะฉะนั้นจะเป็นโลกเล็กโลกใหญ่หมุนเวียนจนถึงขั้นโลกที่เป็นรูป โลกที่เป็น กามโลกเป็นอบายต่ำสุด หมุนเวียนอยู่ในโลกต่ำ เลิกฆ่ากิเลสที่ไปติดโลกต่ำๆได้
เหลือโลกกาม เป็นโลกใจพื้นฐานของมนุษย์ทุกคนที่มีห้าทวาร ตาหูจมูกลิ้นกายกระทบสัมผัสแล้วยังติดยึดอยู่ ติดยึดกามคุณ 5 นี่คือโลกสามัญที่มนุษย์ที่ไม่ได้ศึกษา แม้แต่สัตว์เดรัจฉานมันก็ไม่รู้มันก็ติด แต่พูดกันไม่รู้เรื่องมันก็ติดของมัน คนนี่ก็พอสอนได้ เป็นเวไนยสัตว์สอนได้ แล้วให้ฆ่า ทำลายเหตุที่ไปหลงติดยึด ฆ่ากิเลสตายกิเลสหมดสิ้นอนุสัย ตายหมดก็จบ ทั้งๆที่ตอนคนเป็นๆไม่ตายมีชีวิตอยู่ทำได้ ฆ่ากิเลสตายหมดสิ้น ตอนเป็นนี้ได้ จนหมดสิ้นหมดเลยเป็นอรหันต์
เสร็จแล้วก็เป็นผู้ที่อยู่เหนือโลกเหนือกิเลส แล้วก็มาสอนผู้อื่น เป็นอนุตฺตโร
อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ มีความรู้เหนือ และเป็นสารถีฝึกคนที่ฝึกได้ไม่มีใครยิ่งกว่า เพราะฉะนั้นบุรุษที่ไม่ควรจะฝึก ไม่ควรจะสอน ไม่ควรจะเอามาฝึกให้เป็นให้ได้ก็จะไปฝึก ฝึกมันก็สูญแรงเปล่า เสียเวลาเสียแรงงาน มันฝึกยังไงก็ฝึกไม่ได้ปล่อยให้เต่าปลากินไป
คนที่มีบารมีมีทานเพราะจะฝึกได้อย่างพวกเรา เข้ามาถึงขั้นนี้แล้วไม่ว่าจะเด็กหรือเป็นผู้ใหญ่เป็นกุศลของพวกเราอย่างยิ่ง เป็นคุณค่าคุณงามความดีเป็นบารมีของพวกเราที่ได้สั่งสมมา จึงได้มาเข้ามาอยู่ในแวดวงชาวอโศก ได้มาศึกษาเล่าเรียน ฝึกฝนร่วมสร้างกุศล ร่วมสร้างกรรมวิบากไปด้วยกัน โดยเฉพาะได้เรียนรู้เรื่องบุญ เครื่องมือในการชำระกิเลสให้หมดไปจากสันดาน สันตานัง ปุนาติ วิโสเทติ สันตานังคือสันดาน ปุนาติ คือชำระ ให้สะอาดคือวิโสเทติ เป็นผู้ชำระกิเลสออกจากสันดานได้สะอาดหมดจดเลย นี่คือ หน้าที่ของบุญ
แต่เดี๋ยวนี้เพี้ยนไปเป็นกุศลก็เลยเลอะไปหมดเลย แล้วก็ไม่รู้หน้าที่ของบุญที่แท้เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นกุศล การทำลายกิเลสก็เลยทำไม่ได้ เพราะว่าไม่รู้จักเครื่องมือทำลายกิเลสคือบุญ หรือฌาน
ฌาน ก็เริ่มต้นเป็นพลังงานแท้ๆเป็นคู่หูของบุญ เป็นคู่กัน ตั้งแต่ฌาน 1 ก็เรามีฝีมือรู้จักกิเลสกำจัดกิเลสไปได้ส่วนหนึ่ง ฌาน 2 ก็เพิ่มขึ้นอีก ฌาน 3 ก็เพิ่มขึ้นอีก ฌาน 4 ก็หมดกิเลส จะเรียกเป็นฌาน 5 ตัวจัดการอีก เป็นบุญเป็นตัวตัดอีก ให้ตายแน่นอน ถ้าไม่ตาย ก็เป็นหน้าที่ของบุญทำให้มันไม่รอดเลยนะ ไม่ใช่บุญเก๊ ถ้าเป็นบุญจริงๆแล้วตัด เป็นพลังงานบุญจริงแล้วเด็ดขาดต้องตาย ไม่เชื่อถามโยมหน่อย(ต้องตาย)สิ (พ่อครูไอตัดออกด้วย)
สู่แดนธรรม… สังคมการเรียนรู้ธรรมะในประเทศไทย คงจะมีแต่อโศกเราที่ได้มาศึกษาธรรมะแบบนี้
พ่อครูว่า… ถูกต้องอย่างที่สู่แดนธรรมพูด อาตมาเกิดมาในยุคนี้เป็นไก่ตัวพี่เป็นผู้ที่นำความถูกต้องมาสถาปนาลงไปในศาสนาพุทธ ในชาวพุทธใหม่ เพราะมันเสื่อมมาตามพระพุทธเจ้าได้พยากรณ์ไว้แล้วใน อาณีสูตร ว่าด้วยเรื่องกลองอานกะ คนมาปลอม เอาของปลอมมาเปลี่ยนไปหมดไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างต่างๆของกลอง หนังหรือไม้ที่เป็นกลอง จะเรียกว่ากลอง อานกะ หรือเรียกพุทธอย่างเก่า แต่เนื้อแท้ข้างในเปลี่ยนไปหมดแล้ว อาตมาก็มาเปลี่ยนเนื้อแท้ให้กลับคืนมาเหมือนเก่า พูดอย่างมั่นใจไม่ได้ลอกแลกไม่ได้ลังเล ไม่ได้มังกุ ไม่ได้ยากอะไรเลยพูดความจริงดีจริงๆ
คนเขาก็หาว่าอวดดี เอาอะไรมาพูดไม่เหมือนเขา ถ้าพูดเหมือนเขาก็ซวยสิ พูดเหมือนเขาที่เขาเป็นกันอยู่มันผิดหมด อาตมาไปเหมือนเขาก็ซวย ถูกมันไม่ใช่อย่างนั้น มันจึงขัดแย้งกัน อาตมาถึงได้ถูกคณะใหญ่เล่นงานมา แต่เล่นงานมายังไงก็ยากเพราะอาตมายืนหยัดอย่างดี โดยเฉพาะคนเขาก็ยอมรับนับถือพระไตรปิฎกฉบับนี้เหมือนกัน เถรวาท นับถือพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐนี่เหมือนกันก็เลยพูดกันรู้เรื่อง ตกลงกันพอได้
อาตมาจึงอยู่รอดปลอดภัยมา ทำมาได้จนป่านนี้ แต่ก็บุกมาอย่างเหน็ดเหนื่อย จนกว่าที่จะมาพูดได้สบายป่านนี้ 50 กว่าปี แต่เขาก็ยังมีการแย้งอยู่หลายเหมือนกัน แต่ที่จำนนแล้วแย้งอาตมาไม่ได้ก็จึงเงียบ หมู่ใหญ่เงียบเพราะจำนน
จะจำนนด้วยอาตมายืนยันด้วยพระไตรปิฎก หรือจำนนด้วยอาตมาพาคนที่หลงผิดกัน เสื่อมกันนี่ พากันมา สอนให้รู้บอกให้รู้ว่า ถูกอย่างนี้เป็นอย่างนี้ พวกที่ดวงตามีธุลีน้อย อย่างพวกคุณเข้าใจ ว่าใช่ๆ ถึงมาพิสูจน์กันได้จริง รวมตัวกันยืนยันเป็นรูปร่าง สาราณียธรรม 6 เป็นกลุ่มชาวอโศกอยู่กันอย่างมี สาราณียธรรม 6 เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ร่วมกันสร้างผลผลิตรวมกับกองกลางเป็นสาธารณโภคีร่วมกันกินร่วมกันใช้ ลาภธัมมิกา สาธารณโภคีเป็นเศรษฐศาสตร์บทที่ยิ่งใหญ่ของโลก อาตมาพูดอย่างนี้ ชาวโลกนักเศรษฐศาสตร์ก็ยังไม่กระเตื้องที่เรียนเศรษฐศาสตร์แค่โลกียะหรือเทวนิยมแบบนายทุน แบบที่ยังไม่รู้จักอัตตาตัวตนหมดเนื้อหมดตัว หมดตัวหมดตน เขาเรียนอยู่อย่างตะวันตก อย่างอเมริกา อย่างอื่นๆที่ไม่ได้เป็นผู้เรียนรู้พุทธอย่างโลกุตระที่สัมมาทิฏฐิ มันก็ต่างกัน
เพราะฉะนั้นของพระพุทธเจ้านี้ เมื่ออาตมาอุบัติขึ้นมาในโลก แล้วก็มานำพายืนหยัดยืนยัน ให้เกิดทั้งทฤษฎีที่ถูกต้องทั้งหมด มีรัชกาลที่ 9 ช่วยอาตมาบ้าง ตามบารมีของพระองค์ พระองค์ก็เป็นโพธิสัตว์ บอกเลยอีกทีก็ได้ เคยบอกแล้วแต่ไม่อยากจะย้ำมาก
ท่านเป็นโพธิสัตว์ระดับ 6 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านก็ช่วยกัน อาตมาระดับ 7 พยายามจะใกล้ขึ้นไประดับ 8 แล้ว ก็ทำ ท่านทำจนหมด อายุไขของท่าน 89 ปีท่านก็ไปก่อน เหลือจากนี้ก็หน้าที่ของอาตมาต่อ ท่านทำเป็นรูปธรรม จนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก เขาขานเขาเรียก ที่ท่านสร้าง เป็นเรื่องที่เป็นสาธารณโภคีทั้งหมดทั้งด้านเศรษฐกิจ รัฐศาสตร์ สังคม เป็นสาธารณโภคีที่ยิ่งใหญ่
เพราะฉะนั้นในประชาธิปไตยทางรัฐศาสตร์เรียก ประชาธิปไตย นี่แหละคือ ประชาธิปไตยสาธารณโภคี เขายังจะต้องศึกษากันอีก จนปวดหูปวดหัวเลยแหละ แต่ก็ยังยากที่จะเข้าใจแต่พวกเราทำได้แล้วเป็นตัวอย่างยืนหยัดไป ประชาธิปไตยแบบนี้ คือประชาชนเป็นใหญ่ ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจเป็นเจ้าของพลัง เป็นเจ้าของการสร้างสรร เป็นเจ้าของของสมบัติทั้งหมด แต่ไม่แย่งกัน อยู่กินเป็นครอบครัวใหญ่ อยู่ร่วมกันกินใช้ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ ร่วมกันสร้าง ร่วมกันขยันหมั่นเพียร คนละไม้คนละมือ ไม่เกี่ยงไม่งอน ไม่แอบๆแฝงๆ
ถ้าเป็นคนแฝง เอาแต่พูดเอาแต่ชี้เป็นคนเจ้าชี้เจ้าใช้..ไม่ ..ลงมือสร้างสรร เห็นว่าการกระทำ ยิ่งเป็นจริงกว่าการชี้ใช้ ชี้ใช้ชี้บอก ทำเป็นผู้รู้แต่ทำไม่ได้ แต่ผู้ทำได้นั้นต้องรู้ถึงจะทำได้
คนทำได้มีอยู่ 2 ลักษณะ รู้แล้วทำได้ก็มี คนมีแต่รู้แล้วทำไม่ได้ แต่คนที่รู้แล้วทำได้สำเร็จผลออกมา ไม่รู้ไม่มี คนที่ทำได้และรู้จึงมี คนที่ได้แต่รู้ แต่ทำไม่ได้ ได้แต่พูดได้แต่บอก นั่นยังไม่ครบ ยังไม่จริง อาจจะรู้ถูกรู้ได้รู้ดี แต่ทำไม่ได้ อย่างนี้เป็นต้น
สู่แดนธรรม.. จรณะ 15 มาถึงฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้ อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า
พ่อครูว่า…อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ มีความรู้เหนือ และเป็นสารถีฝึกคนที่ฝึกได้ไม่มีใครยิ่งกว่า สตฺถา เทวมนุสฺสานํ เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ในยุคนี้ ขออภัยที่ต้องพูดความจริง ก็อาตมามีความสามารถทั้งบอกทั้งสอนทั้งพาทำและมาเป็นได้อย่างพวกเรามาเป็น โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ มีตัวยืนยันมีบุคคลยืนยันจริงๆได้ มีอาตมานี่แหละ แล้วก็มีในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นผู้ช่วย ถ้าจะว่าแล้วก็เท่าๆกับ เป็นผู้นำทาง เปิดให้อาตมา อาตมาก็จะได้เดินได้อย่างสะดวกเต็มที่ เป็นนายทวาร อาตมา ก็มาได้เต็มที่ คือมาทำ
พุทฺโธ เป็นผู้ตื่นและเบิกบานแล้ว ภควา ติ เป็นความจบในความเจริญ เบิกบานร่าเริงเป็นคนจนสุขสำราญเบิกบานใจ เขาบอกว่ามาจนนี้โง่เหรอ ที่ไหนได้มาจนนี้ฉลาด จนอย่างมหัศจรรย์ จนอย่างฉลาดเฉลียว ไม่ได้จนอย่างโง่แต่จนอย่างเต็มใจ จนอย่างรู้บริบูรณ์ชัด
เป็นคนจนประหลาดมหัศจรรย์ เป็นคนจนพิเศษ คนจนอะไรไปช่วยคนรวยได้ หรือช่วยคนอื่น แต่คนรวยนี้ไม่ช่วยคนอื่นเลยมีแต่กอบโกยไปเป็นของตัวเองมากขึ้นมากขึ้น มีแต่ประกาศว่าตัวเองรวย ก็เอ็งรวยเพราะว่าขี้โลภ เอาไปเป็นของตัวเองมากขึ้นมา มีความสามารถก็จริงแต่แทนที่จะเอาไปเสียสละสร้างสรรช่วยเหลือผู้อื่น แต่เอาไปเห็นแก่ตัวเอาไปเป็นของตัวเสียนี่ ก็จะประหลาดอะไรมันก็รวยสิ แล้วรวยแบบนั้นมันน่านับถือ
มาจนนี่แหละ แล้วการมาเป็นคนจนไม่ใช่ไม่เก่งแบบคนรวยด้วย เก่งแบบคนรวยแต่ไม่เอา ไม่ไปหาวิธีการงอกเงยดอกเบี้ยปันผลทับทวีเพิ่มขึ้นด้วยวิธีคิดทุนนิยมสามานย์ ไม่เอาวิธีอย่างนั้นหรอกมันเลวทรามต่ำช้า มาเอาวิธีที่ดี ขออภัยอาตมาพูดแรงพูดชัดๆให้รู้ตัวว่า คนรวยทั้งหลายเอ๋ย อย่านึกว่าตัวเองเก่งแล้วเฮง เก่งแล้วเจริญประเสริฐ.. เปล่า รวยๆนั้นไม่ได้ประเสริฐหรอก ต้องมาจนจริงๆนี่ประเสริฐ ฟังดีๆฟังทำให้ชัดให้แตกฉาน ฟังธรรมอยู่บื้อๆทื่อๆตื้อๆ ไม่ไปไหนหรอกต้องฟังชัดๆ
เพราะฉะนั้นต้องมาเรียนรู้ให้ดีเป็นผู้รู้ตื่นจากที่ไปงมงายอยู่แบบโลก ปลุกให้ตื่น อ๋อ ชาวโลกมันครอบงำแล้วหลงไปตามโลกเขา ไปเป็นชาวประชาชนชาวเทวนิยมมีตัวมีตนกอบโกยโลภมาก
ถ้าพูดถึงสมรรถนะความรู้ความสามารถแล้ว มาทางโลกุตระนี่ มาทางพุทธนี่ ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา แม้ไม่ด้อยไปกว่าเขา แม้จะด้อยกว่าเขา แต่เอาความเก่งความสามารถนั้นมาสร้างเพื่อผู้อื่น ยิ่งจะไม่ด้อย ก็ยิ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นมากขึ้นไง
เพราะฉะนั้นแม้เราจะฝีมือไม่มากมายแต่เราได้สร้างแล้ว เราก็พึ่งตัวเองรอด สร้างมากสร้างเกินกว่าที่ตัวเองกินใช้แล้วเอาไปแจกจ่ายเผื่อแผ่คนอื่น สมรรถนะตัวเองมากขึ้น ก็ยิ่งเผื่อแผ่ผู้อื่นได้มากขึ้น คนลักษณะนี้มารวมตัวกัน
-
ไม่เป็นหนี้
-
มีสมรรถนะ ทำให้ตัวเองกินรอดด้วย แล้วทำงานอยู่ในหมู่นี้ คุ้ม ไม่เป็นหนี้ ทำงานกับหมู่นี้คุ้มไม่เป็นหนี้ รอด