650808 ตอบไทยรัฐทีวีเรื่องสมุนไพรกับการพึ่งพาตนเอง รายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 49
ดาวโหลดเอกสารที่
https://docs.google.com/document/d/1ypkq0Bnzr539LRMmkPmXUBH5CXzzSDJv7dVxPKV36hc/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1zdFv1Z7jtRVjMlOM8HGER8fHVncsxMz5/view?usp=sharing
ดูวิดีโอได้ที่ https://youtu.be/gh6i9Q4yArc
และ https://fb.watch/eMNoyw1O2X/
_สู่แดนธรรม… วันนี้วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก สิ่งที่พ่อท่านได้พาพวกเราทำนี้ เป็นการทำให้เกิดแดนศิวิไลซ์ ซึ่ง คำว่าศิวิไลซ์ ในความหมายของพ่อท่านกับความหมายของคนทั่วไปจะแตกต่างกัน
พ่อครูว่า…อาตมาขอโอภาปราศรัยกับ sms
SMS วันที่ ๕-๖ สิงหาคม ๒๕๖๕
ดอกฟ้าที่คนควรเอื้อมถึงอันแรกคือการมีศีล
_*ชีวิต อยู่ที่การตั้งค่า* : ข้าพเจ้าก็เหมือนโจรหลงทาง(มาจากที่มืด)..มาเจอธรรมะ..เจอแสงสว่าง แต่ยังมิอาจปฏิติได้ ข้าพเจ้าแน่ใจว่าทางเส้นนี้คือทางของผู้บริสุทธิ์..คือทางพ้นสุขพ้นทุกข์..คือดอกฟ้า..ที่หมา..อย่างข้าพเจ้าไม่อาจเอื้อมจริงๆ
พ่อครูว่า…ต้องไปฟังเพลงดอกฟ้าที่หมาวัดต้องเอื้อม มันเริ่มต้นด้วยคำว่า ศีล คนทุกวันนี้ทิ้งศีลแม้แต่ภิกษุ ไปได้แต่แค่วินัย 227 ศีล จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล เป็นศีลอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้า ซึ่งเขาไม่รู้จักกันแล้ว
ในพระไตรปิฎกพระสูตรเล่มแรกเลย พระพุทธเจ้าท่านตรัสเรื่องศีล เป็นตัวสำคัญ สำคัญยิ่งใหญ่เลย
หนังสือปัญญา 8 ที่อาตมาเขียนนี้ถึงเล่ม 3 มันต้องเป็นเล่ม 4 แน่ เพราะตอนนี้ปาเข้าไป 800 หน้าแล้ว เขียนอยู่ยังไม่จบสิ้นเลย มันจะต้องเรียนรู้จริงๆ
คุณเริ่มด้วยศีลข้อแรกๆ มันจะเป็นเรื่องง่าย จะเริ่มไปได้ตามลำดับอย่างน่าอัศจรรย์ตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ในปหาราทสูตร เป็นความอัศจรรย์ในศาสนาพุทธที่ยิ่งใหญ่
มันเริ่มต้นง่ายๆแต่มันน่าอัศจรรย์ เพราะฉะนั้นใครไม่เห็นความสำคัญในศีล ลงทะเลยะเยือกเย็นเลย ถูกไซโคลนถูกสลาตันมันพัดเละเทะไปหมดเลย ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
ศีลจึงมีตั้งแต่ต้นจนจบในชีวิต เพราะศีลที่คนปฏิบัติได้แล้วจะเป็นความเป็นปกติ สามัญของชีวิต จึงเรียกว่าคนมีศีล ศีลแปลว่าปกติเขาก็แปลกันแต่เขาเข้าใจไม่ได้ ปกติคือ สามัญของชีวิตตั้งแต่ลืมตาจนถึงนอนหลับตาจนถึงตายก็เป็นสามัญชีวิต
ผู้ที่บรรลุสิ้นแล้วควรจะไม่ฆ่าอีกเลยจนตาย แม้สัตว์มันจะมาฆ่าเราเราก็ให้สัตว์มันฆ่าเราเสีย เราจะไม่ทำชั่วไปฆ่าสัตว์ เราไปฆ่าเขาเขาก็ฆ่าเราเป็นวิบากซ้ำซ้อนมันเป็นหนี้กันอยู่อย่างนั้นตลอดกาลนาน เพราะฉะนั้นเราจะไม่ทำเราไม่ต่อวิบาก ไปอีกชาติหน้าชาติไหน พอ เราจบเมื่อเราจะเป็นผู้จบ คนอื่นก็ตบมือข้างเดียว ไม่มีผลอะไรกับเรา คุณก็ตบไปสิ เพราะเราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมือที่จะไปตบกับคุณ คุณก็ตบลมแล้งๆของคุณไปเอง ดีไม่ดีก็ไปตกเอาปากงูเห่า ไปตบเอาหนามทุเรียน ของคุณไป เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งไปท้อ ให้ไปฟังเพลงดอกฟ้าที่หมาวัดต้องเอื้อม สุเทพ วงศ์กําแหงร้องไว้ คนอื่นไม่ได้ร้องไว้เลยมีเวอร์ชั่นเดียวเพลงนี้ของอาตมามีเวอร์ชั่นเดียว
สู่แดนธรรม.. มีวงฆราวาสร้องไว้ด้วยครับ
พ่อครูว่า… แต่ก่อนนี้อัดแผ่นเสียงสุเทพอัดไว้ เดี๋ยวนี้มันตกยุคแล้วแผ่นเสียงอัลบั้ม เดี๋ยวนี้มันอยู่ในกล่องน้อยๆนี่หมดเลย
อย่าไปท้อแท้ อย่าไปพูดอย่างนั้น คุณชีวิต อยู่ที่การตั้งค่า
ศีล 5 เป็นจุดเริ่มต้นพ้นทุกข์ของมนุษยชาติ
_*ดอกหญ้า มั่นคง* : ธรรมะพ่อท่านแพงกว่าเพชรค่ะ.ไม่มีขาย.อยากได้ต้องตั้งและปฏิบัติศีล 5 ให้บริสุทธิ์ ฝึกอปัณกปฏิปทา.ละนิวรณ์.รู้กามคือหนี้ ทุกข์ที่สุดค่ะตอนนี้แสวงหาโภคทรัพย์.เจอลูกหลานเข้ามากราบไหว้.ขอพร.ข้าน้อยก็บอก.อยากได้พร.ต้องไปเป็นสมณะก่อน.รับรองได้ทุกวัน.รอๆให้เขาเห็นทุกข์มากๆก่อนเดี๋ยวพวกเขาก็จะเห็นธรรม.ข้าน้อยมีหวังตัวแทนข้าน้อยเริ่มฟังธรรมะพ่อท่านละ
พ่อครูว่า…คนนี้เริ่มต้นเข้าใจแล้วเพราะศีล 5 เป็นศีลเริ่มต้นของมนุษยชาติโดยเฉพาะศีล 3 ข้อแรก ข้อ 4 เป็นเรื่องวาจา ข้อ 5 เป็นเรื่องของจิต เพราะฉะนั้น 3 ข้อแรกนี่แหละคือต้นตอของสิ่งที่คุณต้องเรียนรู้ศีล แล้วคุณก็ปฏิบัติให้ได้ไปตามลำดับคุณจะเจริญไปตามลำดับเริ่มต้นตั้งแต่แรกไม่ฆ่าสัตว์ มันฟังดูเล็กน้อยนะ เพราะฉะนั้นคนที่อวิชชาจะประมาทไม่เชื่อกรรมไม่เชื่อวิบาก เพราะคุณฆ่าสัตว์ สัตว์ก็จะฆ่าคุณ วนเวียนอยู่ในวัฏสงสาร มันไม่มีจบหรอก ไปฆ่าคน คนยิ่งจองเวรหนักกว่าสัตว์แล้ว มันฆ่ากันอยู่ตลอดโลกแตก เทวนิยมนี้เขาไม่ใช่ศาสนาพุทธ ไม่รู้จักศาสนาโลกุตระ เขามีแต่โลกียะ จึงยาก เขาจะฆ่าแกงกันอยู่ไปอีกพูดกันไม่รู้เรื่องหรอก
ก็มีโซนเอเชียที่รู้จักพุทธศาสนา แม้จะไม่ได้จริงจังแบบของพระพุทธเจ้าแต่ก็ได้บ้าง มีธรรมิกราช 2 องค์ในปางนี้ยุคนี้ คือในหลวงรัชกาลที่ 9 กับอาตมา เข้ามาต่อยอดของโลกุตรธรรมหรือธรรมะพระพุทธเจ้า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านก็ถนัดไปทางรูปธรรม อาตมาถนัดมาทางนามธรรม ก็ทำกันคนละหน้าที่ คนยังไม่รู้หรอกว่าธรรมะที่เป็นเพชร ไม่มีใครอยากได้ต้องเรียนรู้ไปตามลำดับมีศีล 5 ให้บริสุทธิ์
ฝึก อปัณณกปฏิปทา 3 อาตมาก็เน้นในจรณะ 15 วิชชา 8 ละนิวรณ์ 5
กาม คือหนี้ ไปเรียกเป็นกามคุณ เน้นว่ามันไม่ใช่ ไปหลงเป็นกามคุณถึงบ้าอยู่ทุกวันนี้ที่จริงแล้วมันเป็นกามโทษ กามาทีนวะไม่ใช่กามคุณ แต่ไปหลงเป็นสวรรค์ ทาน ศีล สัคคะ กามาทีนวะ เนกขัมมะ
เขาไปหลง กาม เป็นสวรรค์ ที่จริงแล้วเป็นโทษ เป็นทุกข์ เป็นนรกไม่ใช่สวรรค์ อธิบายไปเท่าไหร่เขาก็ยังยากมากเพราะมันเป็นโลกุตรธรรม เรื่องความดีความชั่วเป็นโลกียะ สอนกันแค่ความดีความชั่ว ส่วนความสุขความทุกข์นั้นเป็นโลกุตระ เป็นอาริยสัจ ความสุขกับความทุกข์มันแยกกันไม่ได้ มันยาก เป็นสิริมหามายา ยังโง่ก็ติดเป็นจอมมายา เอาความสุขความทุกข์มาหลอกกัน ทุกวันนี้ก็เอาความทุกข์มาหลอกมาเป็นความสุขทั้งนั้น เอาทุกข์มาให้กัน
เช่น มารวยกัน อย่างนี้เป็นต้น เป็นการหาเรื่องทุกข์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านก็บอกว่ามาเอาแบบคนจน เอามาออกอากาศมาหลายสิบปีแล้ว เขาฟังกันก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ ก็น่าสงสาร
อาตมาก็เห็นใจนะว่ามันยังไม่มีภูมิรู้ที่จะฟัง เข้าใจหรือฟังได้ บังคับกันก็ยาก บังคับกันไม่ได้ อาตมาเข้าใจ เพราะภูมิไม่ถึง ก็ค่อยๆไป
นักบวชของเราเรียกว่าสมณะ ไม่เรียกว่าพระ เราตกลงกับเถรสมาคมกันแล้วไม่ให้เราไปเรียกพระเราก็ไม่เรียก เราก็เรียกว่าเป็นสมณะ
เราไปทำพาสปอร์ตเขาจะให้ใช้คำนำหน้าว่านาย แต่เราไม่ใช่นายเราเป็นสมณะ เขาไม่ออกพาสปอร์ตให้ เราก็ไม่ออกไปต่างประเทศ เราก็ทำงานในเมืองไทยนี้ก็งานเยอะไม่ใช่น้อยอยู่แล้ว
_*โกศล สุขเล็ก* : กราบคารวะท่านสมณะ..สิกขมาตุ..เจริญธรรมทุกท่าน..ฝึกการฝึกงานนั้นมีอยู่ทั่วไปการฝึกจิตนั้นยิ่งกว่า..
พ่อครูว่า… ถูกต้องไหม …. ถูกต้อง
ทำอย่างไรจะหายกลัวอดีตที่ฝังใจ
_*สว่างแสง ขวัญดาว* : น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ
ลูกมาปฏิบัติธรรมตามพ่อครูสองปีกว่าแล้ว เหลียวหลังดูอดีตเห็นว่า ขุมนรกที่ลูกเคยอยู่นั้นน่ากลัวและสยดสยองมาก วันนี้แม้ลูกยังกลัวฝังใจอยู่ แต่ลูกก็ได้แม่มาทานมังสวิรัติในวันพระกับวันเกิด สามีเลิกบุหรี่ได้หนึ่งปี เลิกเหล้าได้เกือบครึ่งปี ลูกทั้งชายหญิงมีสำนึกดีขึ้น ลูกขอถามว่า ลูกจะทำอย่างไรจึงจะหายฝังใจกลัวอดีตคะ กราบพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ
พ่อครูว่า… ฟังดีๆ อดีต มันเป็นสิ่งที่ผ่านไปแล้ว อดีตที่ผ่านไปแล้วนี้มันตายตัวแล้ว ไม่มีใครจะไปเปลี่ยนแปลงมันได้ อดีตเคยทำไว้อย่างไรมีอย่างไรมันก็เป็นอย่างนั้น Fixed (ตายตัว) อดีต อนาคตยีงไม่แน่นอน ปัจจุบันเป็นตัวกระทำจริง
ปัจจุบันเป็นตัวกำกับไม่ว่าจะทำความถูกหรือผิด ทำความสุขหรือทุกข์ ทำปัญญาให้แจ้งสุขทุกข์ แล้วไม่ติดสุขทุกข์ได้ อยู่ที่คุณได้เรียนรู้แล้วทำให้แจ้งไปตามลำดับ
ฆ่าสัตว์เป็นทุกข์ ไม่ต้องถึงฆ่าคนหรอก คนก็คือสัตว์แต่เป็นสัตว์ประเสริฐ คนเศรษฐีใหญ่อยากินเนื้อเสือดำไปฆ่าเสือดำ ติดคุกเลย แต่ฐานะดีก็เลยกระร่องกระแร่งอย่างนั้น ถ้าไม่ใช่ฐานะดีก็ติดคุกไปแล้ว ก็เป็นทุกข์ทรมานทรกรรมไปโดยไม่รู้ว่าทุกข์นี้มันยืดยาด ถ้าติดคุกแล้วก็จบ แล้วเราจะดำเนินตั้งตนเป็นคนดีก็ทำสิ
เหมือนอย่างทักษิณ เข้ามาติดคุกแล้วก็จบ แต่ทักษิณมีคดีเยอะติดคุกแล้วจะต้องมีคดีอื่นอีก สงสัยจะต้องตายในคุกเขาก็เลยไม่มา เพราะเขารู้ดี เขารู้กฎหมายดี อะไรพวกนี้ โดยเฉพาะอาชญากรรมที่เขาจบด็อกเตอร์ทางอาชญาวิทยา
เรื่องอดีตนี้ มันแก้ไขอะไรไม่ได้ คุณไม่เคยทวง มันแก้ไขอะไรไม่ได้ คุณไม่ใช่ตัวมันหรอก ถ้ามันจะเป็นวิบากเรา อดีตมันจะวนเวียนมาเป็นวิบากให้เราอาศัยหรือมาเล่นงานเรา ถ้าอดีตมันดีมันก็ได้อาศัยสบาย ถ้าอดีตมันไม่ดีมันก็วนเวียนมาเล่นงานเราอยู่ เพราะฉะนั้นคุณจะต้องทำปัจจุบันให้เป็นอดีต ๆๆ จนกระทั่งอดีตมันยาวไกลมันก็วิ่งหาเราไม่ถึงได้ง่ายๆเหมือนกับหมาล่าเนื้อ ท่านเปรียบไว้เหมือนหมาเลยเนื้อมันก็วิ่ง ถ้าเรามีกุศลหรือมีสิ่งที่เจริญมีอัตราความเร็วของกุศลเราเร็วกว่าหมาล่าเนื้อ หมาไล่เนื้อก็วิ่งไม่ทัน แต่ถ้าเรายืดยาด วิ่งไปในปัจจุบันนี้ไปไม่เร็วเท่าหมาไล่เนื้อ หมาไล่เนื้อก็งาบไปกิน เป็นสัจจะอย่างนั้น
เพราะฉะนั้นคุณก็ทำอดีตให้ดีเถอะ แล้วมันจะเป็นตัวกั้น จะมีอดีตไม่ดีมา คุณก็ทำอดีตที่ดีเป็นแผงกั้นเป็นกำแพงกั้น กำแพงจะยาวไกลไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นทำกุศล ทำแต่กุศล ทำแต่กุศล นี่คือโลกียะ ส่วนสุขทุกข์นั้นเป็นโลกุตระยิ่งต้องทำด้วย
เพราะ คนที่เป็นโลกุตระบุคคลแล้วจะทำโลกุตรธรรม มีโลกียธรรมมีดีชั่ว โดยไม่ทำชั่วเลย สัพพปาปสอกรณัง(ไม่ทำบาปทั้งปวง) กุสลสูปกำลังสัมปทา(ทำกุศลให้ถึงพร้อม) สจิตตปริโยทปนัง(ชำระจิตของตนให้ผ่องแผ้วจากกิเลส) เป็นโลกุตระสมบูรณ์แล้วกรรมใดก็มีแต่ดีไม่มีชั่วเลย แต่จิตสะอาดบริสุทธิ์ พ้นสุขทุกข์แล้ว
สรุปแล้วคุณสว่างแสง พอแล้วไม่ต้องกลัวอดีต คุณไม่ต้องเสียพลังงานไปกลัว กลัวกินพลังงานสปาร์ค ความกลัวจ่ายพลังงานไม่ได้เรื่อง เข้าใจสัมมาทิฏฐิให้ได้ว่าทุกการกระทำคือการงาน เราปฏิบัติธรรมทุกลมหายใจเข้าออก
ในขันธ์ทั้ง 5 มีอะไรไปกับเราในชาติหน้า
_*ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม* : ตอนนี้กำลังพยายาม หาคำตอบ
เพราะมีข้อสงสัยว่า ถ้าชีวิตเราประกอบ ด้วย ขันธ์ 5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อะไร ที่ไปชาติหน้า หรือมาจากชาติที่แล้ว และการไป หรือ การมา ใช้ระบบจราจรแบบใดครับ ? มีคำอธิบายไหมครับ
พ่อครูว่า… ตอบอะไรที่ไปชาติหน้าก่อน รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็ไปหมดทั้ง 5 นี่แหละ ตราบที่คุณยังมีขันธ์อยู่ คุณก็มีขันธ์ 5 เป็นจิตนิยามแล้วมันมีขันธ์ 5 พืชมันก็มีขันธ์แค่ 2 มีรูป สัญญาสังขาร จิตนิยามมันมีขันธ์ 5
วัตถุมันมีขันธ์แค่ 2 มันมีแต่ดูดกับผลัก มีบวกกับลบ ตัวมันเองก็ไม่มีประธาน ถ้ามีประธานก็เป็น 3 แต่นี่มันมีแค่ 2 คนนี้แหละเป็นตัวประธานไปจัดการบวกลบจนถึงปรมาณู ทุกวันนี้เทคโนโลยีทั้งหลายแหล่
เพราะฉะนั้นอะไรที่ไปถึงชาติหน้าก็ทั้งขันธ์ 5 มันไม่ทิ้งกันหรอก คำตรัสรู้ของพุทธเจ้านี้สุดยอดแล้ว ไม่มีอะไรขาดหกตกหล่น หรือมาจากชาติที่แล้วมันก็ไปจากชาติที่แล้วที่คุณยังไม่สามารถใช้กรรมวิบากชาติที่แล้วมาเล่นงานคุณได้จบในชาตินี้เป็นอรหันต์แล้ว กรรมวิบากชาติก่อนคุณก็จะไม่มาเล่นงานคุณต่อ คุณยังไม่เป็นอรหันต์กรรมวิบากก็มาเล่นงานคุณต่อไม่จบ
เพราะฉะนั้นคนเรายังไม่เป็นอรหันต์จะต้องทรมานทรกรรม กะโผลกกะเผลกไป ขึ้นสวรรค์หรือลงนรก เป็นทุกข์เป็นสุขไป แล้วความสุขมันก็ไปหลงสวรรค์โลกีย์อีก ต้องอทุกขมสุข หรือปรมังสุขัง ที่จริงควรจะแปลว่ายิ่งกว่าสุข แต่เขาไปแปลว่า สุขอย่างยิ่งอีก
พยัญชนะนี้ไม่ง่ายจะเข้าใจ แต่เข้าใจได้ คิดดีๆไต่ตรองดีๆแล้วมาเรียนสภาวธรรมให้ถูกเริ่มต้นตั้งแต่ศีลข้อที่ 1
การไปการมา ก็เป็นสภาวะของทุกอย่าง ลมออกลมเข้าก็ไปๆมาๆ ก็มีทิศทาง 2 ทางอนุโลมปฏิโลม เป็นธรรมชาติ
ใช่ระบบจราจรไหม ใช่ การจราจรที่บอกว่า One Way Traffic คือบุญ มันไปทางเดียวนะ คุณจะไปสวนมาไม่ได้นะมันผิด แล้วเป็นทางเดียวยังไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มี loop มี turn ที่โค้งที่งอเลย บุญ เป็น One Way Traffic ที่เป็นนิวเคลียร์ฟิชชัน ไม่ใช่นิวเคลียร์ฟิวชั่น เป็นพลังงานตรงถ่ายเดียวสูงสุด ค่อยๆเรียนไป
สมุนไพรกับการพึ่งพาตนเอง ชาวราชธานีอโศก พ่อครูตอบไทยรัฐทีวี
พ่อครูว่า… คุณประโยชน์ของสมุนไพรไทย (ตั้งแต่ 640802_รายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 3)
_ตรงเตือน นาวาบุญนิยม : เป็นความโชคดีของคนไทย ที่มีสมุนไพรช่วยลดความรุนแรงของโรคโควิด 19 มีแสงแดด ที่ทำให้ปรับความสมดุลของร่างกายให้แข็งแรง แม้เจ็บป่วยมาก็แก้ไขได้ทัน ก่อนเชื้อลงปอด กราบขอบพระคุณท่านผู้รู้ทางสมุนไพรไทยค่ะ
พ่อครูว่า…นี่ก็เห็นคุณค่าประโยชน์ของสมุนไพรไทย อาตมายังเชื่ออยู่ว่าเมืองไทยเป็นโซนที่มีพืชพันธุ์ธัญญาหารอันยิ่งใหญ่ เพราะฉะนั้นจะเป็นอาหารหรือยาก็ดี เกิดจากสมุนไพรจะยิ่งใหญ่ต่อไปในอนาคต ได้พูดและย้ำไปแล้วและขอย้ำอีกว่าพัฒนากันต่อไป ให้คุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ สมุนไพรไทยพืชพันธุ์ธัญญาหารไทยให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เราจะได้ช่วยโลกด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร
สารสกัดทางเคมีทั้งหลาย มันสกัดจากทั้งวัตถุดินน้ำไฟลมและพืชพันธุ์ธัญญาหาร แม้แต่สัตว์ก็เอาไปสกัด จากสัตว์ก็ไปเป็นพืช จากพืชก็ไปเป็นสสาร ไปเป็นวัตถุอีกที เพราะฉะนั้นจะต้องใช้วัตถุและพืช ในระดับพืช เป็นหน่วยของสารสกัดระดับนึง เอาไปใช้เป็นพืช ยังไม่ถึงขั้นสกัดลงไปให้แข็งแน่นเป็นดินน้ำไฟลม
พืชยังไม่ใช่ดินน้ำไฟลม แต่ต้องใช้ 2 อย่างเสมอ ดินน้ำ ถ้ามีแต่น้ำไม่มีพลังงานชีวะอะไรเลย มันก็จะเปลี่ยนแปลงจากดินเป็นน้ำ
และอีกคู่เป็นไฟกับลม หรืออากาศเป็นแก๊ส ไฟเป็นพลังงานเหมือนอากาศ ลมก็เป็นพลังงานเหมือนอากาศ ส่วนน้ำกับดินนี้ เป็นไฟที่จับตัวกัน เป็นพลังงานที่จับตัวกันเป็นวัตถุเป็นสสาร ดินกับน้ำ ส่วนไฟกับลม เป็นพลังงานที่ไม่จับตัวกันเด่นชัดเหมือนกับดินและน้ำ
ทุกอย่างสรุปลงที่ 2 ทั้งนั้น แล้วสลับไปสลับมา
640802_รายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 3
พ่อครูว่า… ฉะนั้นคำว่าภาวะ 2 หรือ เทฺวะ ทุกอย่างเรียนรู้จาก 2 นี้เท่านั้น หากว่าไปเรียนรู้จาก 2 ไม่มี 1 เทียบค่าให้เห็นความแตกต่างกันไม่ได้ คนหลง 1 ไม่เอา 2 ไปเรียนรู้หรือเทียบค่า คนนั้นหลงตัวตนเหมือนเทวนิยมมี 1 เท่านั้น ประชาธิปไตยขาเดียว อย่างนี้เป็นต้น ประเทศที่ไม่มี 2 ไม่มีจิตวิญญาณกับ กาย
ไม่มีพระเจ้าแผ่นดินกับนายก มีแต่ประธานาธิบดีคนเดียว เสื่อม ไปไม่รอด ไปไม่ได้ อาตมาก็พยายาม อธิบายเรื่องสภาวะ 2 เพราะถ้ารู้จักธรรมชาติว่า คนนี้มีจตจิตวิญญาณกับรูป มีรูปกับนาม ขาดสิ่งใดไม่ได้เพราะอาศัยกันและกัน
ในหลวงท่านตรัส ราชประชาสมาสัย มีราชะกับประชาชน อาศัยซึ่งกันและกัน เขาเข้าใจกันยาก เข้าใจกันไม่ได้
เพราะฉะนั้นประเทศที่ไม่มีพระเจ้าแผ่นดินนั้น ยาก
ขอขยายความอีกนิดตรงที่ว่า
ประชาธิปไตยของตะวันตกเข้าใจอย่างเทวนิยมว่าต้องเป็นใหญ่ต้องเป็นหนึ่ง พระเจ้าเป็นหนึ่ง ใครเปลี่ยนแปลงพระเจ้าไม่ได้ ทั้งๆที่พระเจ้านั้นแสนลึกลับ ไม่รู้ว่าอะไรอยู่ที่ไหนเลยคือพระเจ้า แต่พระเจ้าของชาวพุทธคือพระพุทธเจ้า พระเจ้าที่ชื่อว่าสัมมาสัมพุทธะ เป็นคนไม่เอาสิ่งลึกลับ เพราะสิ่งลึกลับมันคือจินตนาการ อะไรก็ได้เป็นลมเป็นแล้ง เป็นนิรมาณกาย ในกาย3
(พ่อครูไอตัดออกด้วย)
สู่แดนธรรม… ราชประชาสมาสัยของพ่อท่าน จะต้องประกอบด้วยรูปกับนาม ประชาธิปไตยของพ่อท่านน่าจะประกอบด้วยรูปกับนาม
พ่อครูว่า… อันนั้นด้วย เป็นเทวะ เป็นภาวะ 2 ในโลกแห่งชีวิต ขาดภาวะ 2 ไม่ได้ ชีวะชีวิต แม้แต่พืชเป็นชีวะมันก็ต้องมี 2 มีสัญญากับสังขาร หรือมีนามกับรูป รูปก็คือ1 นามก็คือสัญญากับสังขาร รวมเป็น 3 พืช เพราะฉะนั้นมันจึงไม่มีบาป ไม่มีบุญ
ใครกินพืชไม่ต้องไปกังวลเรื่องวิบากเลย แต่คุณกินสัตว์อยู่ สัตว์ตัวไหนบ้างที่มันไม่ยึดถือตัวตนแล้ว ฆ่ามันไปกินได้ มีสัตว์ตัวไหนบ้าง ไม่มีหรอก มันไม่รู้เรื่อง มันก็ยึดถือเป็นตัวกูของกูทั้งนั้นแหละ แล้วมันก็จะตามเนื้อหนังมังสา ตามวิญญาณมันไปด้วย เพราะมันยึดเป็นตัวของมัน มันรู้ที่ไหนล่ะ มันไม่มีปัญญา ไม่มีวิชชาจะรู้ว่าทุกอย่างไม่มีของตัวของตน มันจะรู้หรือ สัตว์เดรัจฉาน คนแท้ๆเรียนรู้แทบตายยังจะไม่ค่อยรู้เลย พระอรหันต์ ทุกอย่างไม่ใช่ตัวใช่ตน ไม่ใช่เราไม่ใช่เขา มันเป็นภาวะภาษาที่ซ้อน ง่ายๆแต่มันรู้ยากมันเป็น อจินไตย
มาย้ำมาสาธยาย เรื่องสมุนไพรหรือพืชพันธุ์ธัญญาหารให้ยิ่งขึ้น
อาตมาได้ระดมความเห็นได้ระดมความเชื่อ พยายามให้พูดให้นำ ให้เสนอ ให้ย้ำกันว่า พืชพันธุ์ธัญญาหารนี่ มันสำคัญที่สุด
เอาไปเปรียบเทียบกับอาวุธ โลกที่ไม่เข้าใจ โลกหรือมนุษย์นั่นแหละ โลกที่ยังมืดๆ มีมนุษย์มืดๆ ยังไม่เข้าใจ ไปเห็นอาวุธสำคัญกว่าพืชพันธุ์ธัญญาหาร
เพราะฉะนั้นประเทศไหนไม่สร้างอาวุธ ประเทศนั้นคือประเทศเจริญ ประเทศที่สร้างอาวุธอยู่คือประเทศ อาตมาใช้โศลกว่า “คนฉลาดสร้างอาหาร คนชั่วช้าสามานย์สร้างอาวุธ”
แรง! แต่เขาจะรู้สึกกันหรือไม่ก็ไม่รู้ แล้วเขาก็ทุกข์ทรมานกัน ฆ่ากันทำร้ายกัน ขายอาวุธกัน เมื่อขายอาวุธแล้วคุณก็ต้องให้เกิดสงคราม ถ้าคุณขายอาวุธแล้วไม่เกิดสงคราม แล้วเขาจะซื้ออาวุธไปทำอะไร เพราะฉะนั้นประเทศที่ไม่ต้องทำสงคราม ไม่ต้องก่อสงคราม อาวุธก็ไม่จำเป็น ทำตัวเองให้ปลอดสงครามให้ได้อย่าไปหาเรื่องทะเลาะกับใคร พยายามทำตัวให้เป็นประโยชน์แก่คนอื่นให้มากๆ จนกระทั่งคนอื่นเกรงใจ ทำประโยชน์ให้คนอื่นมากๆ จนกระทั่งคนอื่นเกรงใจเขาจะไม่ก่อสงครามกับเรา เรารักษาตัวมาเป็นกลาง
บอกว่าคุณจะรบก็รบกันไปนะ เราขอเป็นกลาง ไม่มีการรบกับใครนะ เราก็ประกาศความเป็นกลางของเราไป แล้วเราก็ไม่ไปรุกรานใคร มีแต่จะสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารให้เป็นประโยชน์แก่กันและกัน
เหมือนอาตมาพาพวกคุณสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหาร ปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารให้เต็มไปหมดเลย ริมถนนที่สาธารณะปลูก เพื่อให้คนมีของจริงมีของจริงยืนยัน พาทำกันแล้ว
พวกเราอุดมสมบูรณ์ เขาจะมาเอาบ้าง มาขอไปกินบ้าง แล้วเขาก็เกรงใจอีก เราก็เลยเอาไปแจก ทุกวันนี้ก็แจกทุกวันพฤหัส ใช่ไหม..ใช่.. เขาก็มารับกันทุกวันพฤหัสบดี ผู้ที่รู้ เราไม่ได้ทำเล่นนะ เราด้วยทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ จริงใจ ไม่ต้องการทำดีทำเด่นทำโชว์ จะทำด้วยความเห็นว่าเราพอกินพอใช้
เรามาเป็นคนจน ชีวิตคนจน ที่มี 3 อาชีพนี้แหละ เพื่อมนุษยชาติ 3 อาชีพนี้ กู้ชาติได้ด้วย เพื่อมนุษยชาติได้ด้วย ซึ่งคนยังเข้าใจยากอยู่อย่างเดียวที่เขาเห็นว่า มันจะเป็นไปได้อย่างไรคือขยะ ขยะนี้มันจะกู้ชาติและเพื่อมนุษยชาติด้วย
เชื่อไหม? ว่าขยะนี้จะทำลายมนุษยชาติต่อไปในอนาคต… เชื่อ(เสียงญาติธรรม) เดือนนี้มีก๊าซเป็นพิษ ซึ่งมันแก้ได้ยากเพราะมันเป็นขยะ ก๊าซที่เป็นพิษคือขยะแท้ๆทำร้ายมนุษย์
แล้วแล้วขยะพวกนี้จะก่อโทษ ก่อพิษ ก่อโรคระบาดอีกเยอะแยะ ไอ้ที่แห้งก็มีพิษอีกชนิดหนึ่ง ไอ้ที่เปียกก็มีอีกพิษอีกชนิดหนึ่ง มันฟักตัวก่อตัวทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นมาเข้าเป้าตรงที่ว่าสมุนไพร พวกเราชาวอโศก อาตมาบอกเลยว่า มาเป็นกสิกร ในเรื่องของคนในเรื่องของงาน มหาวิทยาลัยเกษตรเขาเรียนทั้งประมงเดินทางเข้าสู่สัตว์ ของเราไม่เรียนประมงปศุสัตว์ เราเรียนกสิกรรมอย่างเดียว
เขาเรียกมหาวิทยาลัยเกษตร ซึ่งครอบคลุมทั้งประมงและปศุสัตว์ ของเราเรียนกสิกรรม เอาอันนี้ให้ยิ่งใหญ่ เอาอันนี้ให้เด่น ทำจริงๆ ทำขยายผลไป ให้มันเกิดผลผลิตทั้งหมด แล้วคนกิน คนอาศัยเลี้ยงชีวิต
คนกินแต่พืชไม่กินสัตว์เลย มีอายุยืนตรงกับความเป็นคนคน เพราะคนเป็นสัตว์มีเล็บแบบ nail ไม่ใช่เล็บแบบ claw ที่เป็นเล็บเหยี่ยวเล็บเสือ มีเขี้ยว แต่นี่มัน nail มีกรามไม่ได้มีเขี้ยว มีฟันกราม ไม่ใช่ฟันเขี้ยวเป็นหลัก แม้แต่ต่างๆนานา น้ำย่อย ลำไส้อวัยวะต่างๆ คนคือสัตว์กินพืชไม่ใช่สัตว์กินเนื้อสัตว์แต่ก็ไปหลงไปกินเนื้อสัตว์หลายพันปีมาแล้ว เลยหลงติด จนกระทั่งสอนทางจิตวิญญาณไม่รู้ได้ง่ายๆแล้วติดยึดไม่รู้’ง่ายว่าติดยึดกินเนื้อสัตว์พูดไปเถอะ
เพราะฉะนั้นคนกว่าจะเป็นคนศิวิไลซ์กว่าจะเจริญมา มารู้จักว่า พืช พืชพันธุ์ธัญญาหารยิ่งใหญ่กว่าสัตว์ เพราะ สัตว์ต้องอาศัยพืช
พืช ไม่ต้องอาศัยสัตว์เลยก็ได้ แต่ สัตว์มันต้องอาศัยพืช แม้ว่าเป็นสัตว์ที่กินเนื้อสัตว์มันก็เป็นเรื่องของวิบากกรรมชนิดหนึ่ง เพราะว่ากินเนื้อสัตว์มันยังมีวิบากอีกมาก เพราะมันจะแก้แค้นกันไปอีกนานนับชาติ
คุณต้องพ้นจากสัตว์เดรัจฉาน ไม่ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานที่ไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นสัตว์เดรัจฉานที่เป็นสัตว์กินพืช เจริญกว่าสัตว์กินเนื้อสัตว์ สัตว์เดรัจฉานที่มันกินพืชเป็นสัตว์ที่เจริญกว่าสัตว์ที่กินเนื้อสัตว์ เพราะฉะนั้นสัตว์ที่กินเนื้อสัตว์จะดุร้าย คนยังฆ่าคนอยู่นี้เป็นคนดุร้าย แค่นี้เขาก็รู้อยู่ แต่เขาโง่ พูดก็รู้นะว่าคนฆ่าคนนี้ดุร้าย คนตัดพืชพันธุ์ธัญญาหารไม่ดุร้ายหรอก
แค่ที่อาตมาเน้นว่า คนที่ไปสร้างอาวุธมานี้มันพ้นบาปไม่ได้เลย คุณเจตนาสร้างอาวุธมา คุณไม่ได้เจตนาสร้างอาวุธมาให้ไปฆ่าสัตว์หรอก ให้มาฆ่าคน ร้ายแรงเท่าไหร่เท่าไหร่คือต้องการค่าให้ฆ่าคน เพื่อกูจะได้เป็นเจ้าโลกจะได้ยิ่งใหญ่จะได้ใช้ป้องกันตัว
เพราะฉะนั้นอาตมาถึงบอกว่าเอาเถอะ ถ้าเราจำเป็นจะต้องมีอาวุธยุทธภัณฑ์ป้องกันตัวบ้าง แต่ถ้าเราสามารถสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารได้ดีแล้ว อาหารและยาที่กินคืออันเดียวกัน อาหารคือยา. ยาคืออาหาร เพราะฉะนั้นยาคือพืช พืชคือยา กินยาเป็นอาหาร กินอาหารเป็นยา
สรุปแล้วมาเหลือ 2 กินอาหารเป็นยา กินยาเป็นอาหาร ชีวิตมนุษย์ต้องกินอาหาร ยังชีพ ป่วยเจ็บก็ต้องใช้ยารักษา ก็กินพืชพันธ์ุธัญญาหาร
เพราะฉะนั้นสมุนไพรจึงยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตมนุษยชาติ พูดถึงสารสกัดยาเคมี คุณก็ต้องสกัดจากพืช สกัดจากสาร สกัดจากดินน้ำไฟลม ทั้งนั้นแหละ
เราสกัดเอาจากพืชเท่านั้นก็ได้แล้วพอแล้ว ถ้าเข้าใจ เพราะฉะนั้น ยาจะเป็นยาที่ดีคือเป็นยาสมุนไพร ผู้ที่รู้จักยาสมุนไพรโดยตรง ไม่ต้องมีบาป ไม่ต้องมีเวร ไม่ต้องมีภัย ชีวิตร่างกายอาการ 32 ของคนเรา ถ้าต่างๆก็ดีที่ใช้ร่วมสังเคราะห์สังขารอยู่ในร่างกายคน
อาการ 32 ในร่างกาย ใช้ธาตุจากเนื้อสัตว์มาช่วยขับเคลื่อน กับใช้ธาตุจากพืชมาช่วยขับเคลื่อน มีความร้อนแรงและความเย็นต่างกัน
เพราะฉะนั้นเมื่อมีความร้อนแรงร่างกายก็เผาผลาญเยอะก็จะตายไว คนที่ร่างกายเย็นๆนี้จะตายช้าแต่เย็นจัดเกินไปก็ตายไว แต่ต้องมีเหตุปัจจัยคนละบริบท
พวกชาวน้ำแข็งโลกน้ำแข็งอายุไม่ยืน มันมีเหตุปัจจัยอีกเยอะ มันไม่มีพืชกินมันกินแต่เนื้อสัตว์ อายุก็จะสั้นอะไรต่างๆก็ไม่สมประกอบ พืชพันธุ์ธัญญาหารจะสังเคราะห์อากาศสังเคราะห์ให้บรรยากาศทั้งหมดอยู่กันอย่างสมดุล อย่างอบอุ่นมันไม่เป็น มันก็ตายไว
เพราะฉะนั้นขยายความออกไปมันก็จะยาว
_*คำถามจากนักข่าว* :
-
ภูมิปัญญาการใช้สมุนไพรในราชธานีอโศก มีความลำคัญอย่างไร
-
การมีสมุนไพร และหมอยาราชธานี สะท้อนอะไร /จำเป็น หรือ ดีอย่างไร
พ่อครูว่า…ถ้าฟังผ่านๆมาเข้าใจแล้ว จำเป็น ดี ดีมาก ดีกว่าสัตว์ดีกว่าเนื้อสัตว์ดีกว่าสารสกัดจากสัตว์ พูดผ่านมาอธิบายมาแล้ว ดีทั้งตัวสภาพสภาวะตัวตนของมันของพืช เป็นธาตุจากพืช ซึ่งธาตุจากเนื้อสัตว์สู้ไม่ได้
นอกจากมันจะดีโดยตรงของธาตุแล้ว แม้แต่วิบาก หากว่าเอาสัตว์มันมามันก็มีวิบากตามมา ส่วนพืชไม่มีวิบาก พีชนิยาม ไม่มีจองเวรจองกรรม ไม่มีรัก ไม่มีชัง ไม่มีวิบากกรรมพืช แต่สัตว์ห้ามมันไม่ได้
เพราะฉะนั้นการมีสมุนไพรหรือหมอยาราชธานี ซึ่งมีแต่ยาแบบพืช ไม่ใช่มียาทางสัตว์ สะท้อนอะไร ก็สะท้อนความจริง สะท้อนความรู้ สะท้อนสิ่งที่คัดสรรมาแล้วว่าดีที่สุด ดีกว่าดีที่สุด
เพราะฉะนั้นเราก็ทำอันนี้ได้ แล้วมันก็มีวัตถุหรือมีสิ่งที่เราปลูกเองทำเองได้
การเลี้ยงสัตว์กับการปลูกพืช การเลี้ยงสัตว์มันยากกว่าการปลูกพืช เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องไปโง่เลี้ยงสัตว์ เราปลูกพืช เด็ดก็ง่ายวิบากก็ไม่มี สัตว์จะกินเราต้องวิ่งไล่จับ จับมาแล้วก็ต้องมาดับความคาว มีอีกเยอะ ยุ่ง แม้แต่จานชามภาชนะที่ใช้ทำเนื้อสัตว์ก็ต้องยุ่งวุ่นวาย พืชพันธุ์ธัญญาหารใส่ภาชนะบางทีไม่ต้องล้างอะไรมากมายแค่เช็ดก็ได้แล้ว ไม่สกปรกไม่เหม็นคาวอะไรมากมาย
ที่พูดไปนี้ไม่เห็นจะเข้าใจอะไรยาก คนเรานั้นหาเรื่องยาก หาเรื่องทรมานตัวเอง (พ่อครูไอตัดออกด้วย)
สู่แดนธรรม… นักข่าว ได้สัมภาษณ์มา ผมคิดว่า บ้านราชฯ เรามีสมุนไพรมากมาย ผมเห็นว่า สะท้อนได้ว่าเราได้พึ่งพาตนเอง นอกจากพึ่งพาตนเองแล้ว เรายังได้มีการศึกษากันอีก สังคมเราเป็นสังคมแห่งการแบ่งปัน ใครมีความรู้อะไรก็จะแชร์ความรู้กัน กลายเป็นวัฒนธรรมการสืบทอดความรู้อีก สังคมของเราก็มีการพึ่งตนเอง ให้การศึกษาและสืบทอดความรู้นั้นไป ที่เป็นเช่นนี้ได้เพราะสังคมเราเป็นสังคมที่ไม่มีการเห็นแก่ตัว เป็นสังคมที่พยายามมาหมดตัวหมดตน ถ้าเป็นข้างนอกเขาจะหวงความรู้ไว้ ไม่ใช่ว่าใครจะได้มารับความรู้นี้ง่ายๆ จะต้องเสียค่าความรู้ ต้องอบรมเก็บค่าเรียน
_3. ทำไมคนเดี๋ยวนี้ไม่พึ่งสมุนไพรเหมือนในอดีต
พ่อครูว่า… คนไทยที่ไม่พึ่งสมุนไพรในอดีตก็เพราะ โง่ลง คนสมัยนี้โง่ลง เพราะฉะนั้นจึงเหลือคนที่ฉลาดอยู่บนยอดปีระมิด ขึ้นไปเรื่อยๆ คนโง่ก็มากขึ้นมากขึ้นลงมาหาฐานพีระมิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ในยุคนี้มันกำลังแยกระหว่างคนเจริญคนที่ประเสริฐ กับคนที่ยิ่งแย่ลงแย่ลง เพราะใกล้กลียุค เพราะฉะนั้นแก๊ประหว่างคนประเสริฐคนฉลาดจริงๆ พูดไม่ได้หลงตัวเอง แต่เป็นเรื่องจริง คนโง่ลงไปมากขึ้นมากขึ้นอำมหิตมากขึ้น สร้างอาวุธร้ายแรงยิ่งขึ้นอย่างนี้เป็นต้น
ต้องมีอำนาจใหญ่มากขึ้น แทนที่จะไม่ต้องยึดถืออำนาจในตัว ไม่มีตัวตนหรือเห็นแก่ผู้อื่นให้หมด แม้แต่คนอื่นจะฆ่าเรา ก็ฆ่าไป ตบมือข้างเดียวเราไม่พยาบาท หรือ เป็นพระอรหันต์แล้วจะปรินิพพานเป็นปริโยสาน ตายแล้วจะสลายจิตนิยามเป็นดินน้ำไฟลมไปเลย พระอรหันต์ขึ้นไปก็ทำได้แล้ว ก็ยิ่งไม่ต้องไปจองเวรจองกรรม ตายชาตินี้จะจบแล้ว เข้ามาช่วยให้จบเร็วก็ไม่ต้องจองเวรจองกรรมใครก็จะเลิกแล้ว ปรินิพพานเป็นปริโยสาน จะไม่เกิดอีกเลย
เพราะฉะนั้นพระอรหันต์รุ่น 1 เห็นสัมภาระวิบากว่าขันธ์ 5 เป็นทุกข์ ก็จ้างคนอื่น ไม่มีอะไรก็เอาบาตรไปจ้างคนอื่นให้ฆ่าตนเอง ฆ่าฉันหน่อย ฉันจะได้ตายไป แล้วท่านก็ตายอย่าง นิพพาน 3 สุญญตนิพพาน อนิมิตนิพพาน อัปนิหิตตนิพพาน ท่านก็จบ อย่างนี้เป็นต้น
อาตมาก็ได้อธิบายไว้อย่างละเอียดลออแล้ว ขอยืนยันว่าอาตมาเป็นธรรมมิกราช มาในปางนี้ยุคนี้ซึ่งเป็นยุคเสื่อม โลกุตระเสื่อม ตามอาณิสูตร ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าโลกุตระจะหายไปหมดไม่มี อาตมาก็เอาความรู้มาจากชาติก่อน ชาตินี้ไม่มีใครสอน ไม่มีใครสอนได้สัมมาทิฏฐิเหมือนอาตมา เอามาปฏิบัติจริงให้เป็นจริงได้เลย บรรลุเป็น โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ มี สมณะ 4 เหล่า เขาทำไม่ได้ แต่อาตมาทำได้
แต่คนอย่างเข้าใจไม่ได้เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นอาตมาก็ได้แต่สงสารเมืองไทย เมื่อไหร่จะมีดวงตาเห็น แล้วพวกเราก็มีมากเพิ่มขึ้น แต่มันไม่ง่าย มันช้า เพราะพวกอาตมาทำแล้วก็ได้แล้วมีแล้ว ถ้าคนข้างนอกมีจำนวนมากซึ่งเป็นพุทธ ใส่ใจศึกษาศาสนาที่เป็นศาสนายิ่งยอดกว่าศาสนาใดๆในโลกแล้ว พระพุทธเจ้าท่านไม่ยกย่องตนเองเกินไป แต่อาตมาพูดความจริงเท่านั้น ที่พูดนี้เป็นความจริงไม่ได้อยากอวดโอ้อยากยกตนข่มท่านเลย แต่เป็นความจริงที่อาตมาพูด ซื่อ อาตมาเป็นคนซื่อและพูดจริง พูดเท็จไม่เป็นอีก
คนฟังเขาจะบอกว่าเป็นคนพูดโกหกไม่เป็น มีด้วยหรือ อาตมาก็รู้ตัวเองว่าไม่เคยพูดโกหก ตั้งแต่เป็นโพธิสัตว์รู้ตัวเองมาไม่เคยพูดไม่จริงไม่เคยพูดโกหก แต่ก่อนตั้งแต่เป็นเด็กเป็นฆราวาส ลิงลมอมข้าวพอง ยังไม่ฟื้นไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ก็ไม่โกหกไปตามโลก ตั้งแต่รู้ตัวเองเป็นโพธิสัตว์มาจนอายุถึง 88 ย่าง 89 ปีแล้ว
เพราะฉะนั้น มันเป็นความจำเป็น ที่จะต้องบอกให้โลกรู้ แม้แต่เรื่องสมุนไพร มันจะเป็นฐานของมนุษยชาติ มนุษย์ต้องกินพืช มนุษย์ต้องอาศัยพืชเป็นหลักที่เป็นพืชพันธุ์ธัญญาหาร นี่เป็นสิ่งสำคัญ อย่าว่าแต่ยากับอาหารเลยพืชนี้ ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ปัจจัยทั้ง 4 ก็อาศัยพืชพันธุ์ธัญญาหาร ทำได้หมด นอกจากคุณจะเอาอะไรมามากมายก็เรื่องของคุณ ไปเอาโลหะมันเป็นอุตุก็ไม่มีบาปอะไร จะเอาสัตว์เอาเสือเอาสิงห์อะไรมาใส่เข้าไป เอาหมูเอาหมาเอาปูเอาปลามา ไม่ต้องเอาหรอก มันเป็นวิบากก็ปล่อยของมันไปสัตว์มันก็มีวิบากของมัน
ถ้าเริ่มเป็นสัตว์เซลล์เดียวแล้วอย่าไปทำอะไรเขา เพราะเซลล์เดียวเซลล์นี้ในอนาคตอาจจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งก็ได้ พัฒนาเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งก็ได้สำหรับเซลล์เดียวเซลล์นี้ คุณรู้ได้อย่างไร คุณไปทำร้ายก่อน จะเป็นบาปไหม ทำลายเซลล์ที่ต่อไปจะเป็นพระพุทธเจ้า ฟังง่ายๆแค่นี้ เข้าใจไหม
เพราะฉะนั้น สมุนไพร เดี๋ยวนี้คนทำไมไม่พึ่งพาสมุนไพร เพราะสารสกัดมันเร็ว มันร้อนมันแรง มันไว ปุบปับๆ แต่เมื่อได้อะไรมาเร็วๆ คุณก็สั้น เกิดเร็ว ตายเร็ว หายไวตายไว ทั้งๆที่ไตไม่ต้องวาย ตายก่อนไตวายด้วย อย่างนี้เป็นต้น
เพราะฉะนั้นสมุนไพร คนที่ยังไม่มีปัญญา ยังไม่มีความเฉลียวฉลาดพอ จะไม่เห็นความสำคัญ จะไม่เห็นสารสกัดสารเคมี ไปเห็นอะไรต่ออะไร สำคัญกว่า
โทษษภัยของสารเคมีเดี๋ยวนี้ก็พอรู้กันบ้างแล้ว แม้แต่ปุ๋ย
อุจจาระเป็นขยะใช่ไหม อุจจาระนี้เอามาทำปุ๋ย ที่เป็นเศษชีวะชีวิตต่างๆเอามาหมักเน่า ไปเป็นปุ๋ย แต่สารสกัดพวกนั้น เอามารวมกันเข้าเดี๋ยวก็กลายเป็นเรื่องเป็นโทษเป็นภัยอะไรต่ออะไรอีก มันสู้พืชไม่ได้หรอก
เอาง่ายๆ คนเป็นชีวะใช่ไหม วัตถุสารสกัดต่างๆไม่ใช่ชีวะ แล้วจะเอามันมาใส่ตัวอะไรกันนักกันหนา
เพราะฉะนั้นสารเคมี สารสกัด ในร่างกายเรานี้ มีความร้อน แสง เสียง แม่เหล็ก ไฟฟ้า ไม่ได้มีโลหะมากอะไรหรอก มีบ้าง เป็นสารที่เป็นพีชะหรือเป็นพืช มากกว่าโลหะ หลายต่อหลายเท่า เราต้องรู้ความเป็นจริงของชีวิตคือชีวะ
เพราะฉะนั้นสรุปว่าสมุนไพรนี้ คุณฉลาดคุณรู้เรื่อง คุณสร้างสมุนไพรดีที่สุด
ที่ถามว่าทำไมคนสมัยนี้จึงไม่พึ่งพาสมุนไพรเหมือนอดีต ก็ตอบไปแล้วว่า โง่ลง ไปเห็นความใจเร็วด่วนได้ ความมักง่าย เอาสมุนไพรที่หายปุ๊บ ตายปั๊บ ใจเร็วด่วนได้ มันไม่สุกงอมไม่ถึงเหตุปัจจัย อย่างพวกพืชพันธุ์ธัญญาหารมีเหตุปัจจัยที่จะสุกงอม แต่พวกนี้เอาเร็ว กลั่น กรอง สกัดมา มันก็เร็วเท่านั้นแหละ แต่มันไม่ครบสมบูรณ์หรอก
สู่แดนธรรม… ผมขอปิดคำถามที่ 3 ไว้ตรงนี้ครับ
_4. การพึ่งตนเอง คืออะไร
พ่อครูว่า… อันนี้นี่นะ การพึ่งตนเองคืออะไร พระพุทธพจน์ก็มี ตนต้องพึ่งตนเอง คนอื่นจะพึ่งอะไรได้ การพึ่งตนเองนี้ยิ่งใหญ่ที่สุด
อาตมาเคยทำ หมวดของธรรมะ พูดง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ ไว้ในการพึ่งตนเองนี้
-
อย่าเป็นหนี้
-
พึ่งตนเองให้รอด
-
สร้างสิ่งที่ดีที่สำคัญควรที่เหมาะสมให้ได้มากๆ
-
แจกคนอื่นแม้จะขายก็ขายต่ำกว่าทุน จะไปขายสูงกว่าทุนมันจะเป็นวิบาก มันบาป
ถ้าขายต่ำกว่าทุน คนที่ไม่มีผลิตซ้ำมันธรรมดาก็ชอบทั้งนั้นแหละ นอกจากพวกขี้โลภมากๆเท่านั้นแหละ การขาดทุนนี้เป็นที่พึ่งอันเกษม เป็นที่พึ่งเราเป็นอันบริสุทธิ์ การให้ผู้อื่นจึงเป็นที่พึ่งที่บริษัทอันยิ่งใหญ่ การเอาเกินทุนนี้เป็นหนี้ การเอาเกินทุนเป็นการสร้างศัตรู เป็นการสร้างหนี้บาปหนี้เวร ยิ่งกำไรมากเอากำไรมาเกินทุนมากได้เท่าไหร่ ยิ่งทั้งชั่วทั้งต่ำทั้งเลว ทั้งวิบากมาก
คุณอย่านึกว่า วิบากมันไม่จริงนะ กรรมวิบากจึงเป็นเรื่อง อจินไตย อย่างพวกเทวนิยมไม่รู้จักเรื่องกรรมวิบาก เขาไม่รู้จักเรื่องเกิดแล้วเกิดอีก เกิดอีกเกิดแล้ว rebirth แม้แต่บางศาสนาที่รู้จักการเวียนว่ายตายเกิด เขาก็ไม่รู้จักที่จบที่สำเร็จ สลายเป็นปรินิพพานเป็นปริโยสาน ตายโดยตัวเราเอง เราทำตัวเองเราต้องการสูญ ตัวเราเองรอดตายจากจิตนิยามเป็นดินน้ำไฟลมไป เราทำได้เองแล้วก็ทำตัวเราเอง
ก็เพราะว่ารู้แล้วว่า ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้นทุกข์เท่านั้นที่ตั้งอยู่ ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป ในการเป็นชีวิต แต่พวกเดรัจฉานมันไม่รู้ แม้แต่คนมันก็ไม่รู้ทุกข์ ง่ายๆ
คนจะรู้ทุกข์ สัพเพธัมมา ทุกขา ไม่มีอะไรไม่เป็นทุกข์ ด้วยสิ่งที่เกิดมาเป็นชีวะ พืช มันไม่รู้ทุกข์ ดินน้ำไฟลมมันไม่มีรู้ทุกข์ สัตว์มันมีทุกข์ แต่มันยังมีอวิชชา มันไม่รู้ทุกข์
คนที่ยัง อเวไนยสัตว์ ที่สอนไม่ได้เขาก็ไม่รู้ทุกข์ ความทุกข์จึงเป็นอริยสัจ
ทุกข์ เป็นความจริงที่คนอารยะ หรือคนประเสริฐ คนศิวิไลซ์เท่านั้นจะเข้าใจเรื่องทุกข์ได้ แล้วก็เรียนรู้เหตุแห่งทุกข์ ดับเหตุแห่งทุกข์ให้ถึงนิโรธ นิโรธวิธีไหน ซึ่งมีทางนี้ทางเดียว เอเสวมัคโค นัตถัญโญ มีทางนี้ทางเดียวเท่านั้น ไม่มีทางอื่น คนบอกว่ามีหลายทาง นั่นเป็นการสอนนอกศาสนาพุทธ
จรณะ 15 วิชชา 8 ทางมรรคมีองค์ 8 หรือโพชฌงค์ 7 หรือโพธิปักขิยธรรมทางเดียวเท่านั้นไม่มีทางอื่นหรอก เพราะมันเป็นสัจจะมีหนึ่งเดียวเท่านั้น สัจจะสูงสุดมีหนึ่งเดียว ทางนี้ทางเดียวไม่มีทางอื่น ไม่มีทางที่ 2
เพราะฉะนั้นคนที่ไม่เข้าใจทางถูก ขอยืนยันว่าอาตมาเป็นผู้ที่จะสืบทอดธรรมะพระพุทธเจ้าในยุคนี้ แม้จะเป็น 2 ธรรมิกราชในยุคนี้ อาตมาก็เป็นผู้ที่สืบทอดธรรมะที่ละเอียดลออ ชัดเจน พามาเกิดเป็นรูปสังคม เป็นสังคมสาราณียธรรม 6
ที่อยู่กันนี้ ถึงขั้นสาธารณโภคี ถึงขั้นเสียภาษีร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกคนทำงานฟรี ไม่มีใครมีรายได้ ทำแล้วเข้ากองกลางหมด เรียกว่า สาธารณโภคี แล้วกินใช้ร่วมกัน
เราทำได้ เรามีจริงให้คนมาพิสูจน์เขาก็ยังยาก 1 ไม่เชื่อ ไม่เชื่อว่าจะเป็นจริง บางคนก็เห็นว่าจริง แต่ก็บอกว่า มันจะไปได้กี่น้ำ
ถามพวกคุณจะไปนานเท่าไหร่ …ก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันหมดว่า ตลอดชีวิต
เพราะที่นี่ พึ่งเกิดพึ่งแก่พึ่งเจ็บพึ่งตายกันได้จริงๆ มี เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรมเมตตามโนกรรมกันจริงๆ ไม่ใช่บอกว่าแผ่เมตตาไปเรื่อยๆ แต่นี่มีพฤติกรรมเมตตาจริงๆ ไม่ต้องไปแผ่ แต่มันก็ออสโมซิสกันไปในตัวเลย
สู่แดนธรรม… บางคนเขาอาจจะสงสัย ถ้าเราพึ่งตัวเราเอง แล้วทำไมพวกคุณต้องพึ่งคนอื่นด้วย เรามีสังคมที่พึ่งตนเองเป็นหลัก
พ่อครูว่า… ไม่ใช่ พึ่งตนเองรอด ไม่ต้องพึ่งคุณ แต่ดีไม่ดีคุณต้องพึ่งเราด้วย เราเป็นคนจนที่ให้คนรวยพึ่ง เพราะคนรวยโลภไม่เสร็จ
เขาจะรวยไม่เสร็จเพราะเขาไม่ยอมจนไม่ยอมหมดเนื้อหมดตัว คนจะหมดเนื้อหมดตัว อยู่คนเดียวไม่ได้ต้องมาอยู่เป็นกลุ่ม เป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่และเป็นคนชนิดเดียวกันคือเป็นคนเข้าใจและเชื่อมั่นเลยในสาธารณโภคี แล้วเรียนรู้ตัวเองว่าเรายังมีความเห็นแก่ตัวอีกเท่าไหร่ เลิกนะ อายนะ อย่านะ คุณก็จะมาฝึกตนเอง ลดละความเห็นแก่ตัว ลดละความอยากได้ ลดละความอยากมีมาเพื่อตัว แต่ทำเพื่อคนอื่นนี่ มันสุดยอดแล้ว เรามาทำเพื่อตัวเราเองนี่มันจะได้เรื่องอะไร
ตัวเราเองให้คนอื่นเลี้ยงไว้ ปรปฏิพัทธา เม ชีวิกา ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ ชีวิตเราให้คนอื่นเลี้ยงไว้ เราทำแต่ดีอย่างเดียวนี่แหละ ช่วยคนอื่นอย่างเดียวนี่แหละให้มากมายก่ายกอง คนนั้นเจริญคือคนมีปัญญา รู้ว่าคนนี้ช่วยคนอื่นได้มากมายก่ายกองอยู่นี่ เขาไม่อยากให้เราตายหรอก เพราะเราช่วยคนอื่นได้มากๆ เราจะเป็นอะไรเขาจะรีบไม่ให้เราตาย อย่าตายๆๆ
เหมือนอย่างอาตมา พวกคุณอยากให้ตายไหม …ไม่
อาตมาก็จึงจะพิสูจน์ ธรรมะพระพุทธเจ้า อยู่กับสมุนไพรนี่แหละ พึ่งตนเองด้วยการสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารนี่แหละ สมุนไพร
พอพูดคำว่า สมุนไพร คนจะเข้าใจว่าเป็นยา คนฟังแล้วจะเข้าใจไปทางยา เขาจะไม่เข้าใจว่ามาทางอาหาร คือ พืชพันธุ์ธัญญาหาร คือไพร เป็นพันธุ์ของพืช คุณจะเรียกว่า สมุน ก็คือเอาส่วนของมัน สมุนคือลูกน้อง สมุนคือ สัดส่วนที่ย่อยลงไป เอาไปเป็นยา คุณก็เอาไปย่อยเป็นอาหารก็เหมือนกัน
เพราะฉะนั้นคำว่าสมุน ไม่ได้มีความหมายอย่างเดียวว่า สมุนไพรคือยา แล้วบอกว่าสมุนไพรแปลว่ายานั้น มันไม่ใช่ สมุน แปลว่า ส่วนย่อย สมุน แปลว่าลูกน้อง ลูกน้องมีเยอะ เอามาทำอะไรก็ได้ เป็นลูกน้อง
คุณเป็นลูกน้องจริงๆ บริสุทธิ์จริงๆ คนนี้ต้องให้แก่นาย คุณจะช่วยนายแม้กระทั่งชีวิตนี้ก็ยอมถวาย เพราะว่านายคนนี้มีประโยชน์ ไม่ใช่นับถือว่านายเก่ง นายสามารถอย่างเดียวแต่นายมีประโยชน์เพื่อคนอื่นมากมายเราสู้นายไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราตายก็ดีกว่าอย่าเพิ่งให้นายตายเพราะนายมีประโยชน์แก่คนมากๆ เราสู้ไม่ได้ ใช่ไหม เพราะฉะนั้นเขาก็จะรักษาชีวิตนายมากกว่าเพราะนายมีประโยชน์กว่าเรา นี่คือสัจจะ
เพราะฉะนั้นพระเจ้าแผ่นดินที่มีคุณค่าสามารถช่วยคนอื่นตลอด อย่างในหลวงรัชกาลที่ 9 ใครจะอยากให้ท่านสวรรคตเล่า พอท่าน สวรรคตเท่านั้นแหละ Bomb of Love เกิดทันทีเลย ตามที่ไอน์สไตน์เขาทำนาย บอกลูกสาวไว้ในจดหมาย สักวันหนึ่งจะเห็น Bomb of Love ก็มาเกิดที่เมืองไทย ในหลวงร.9 ท่านสิ้นพระชนม์ โอ้โห! ทุกคนร้องไห้ ทุกคนมาคารวะ มีโอกาสมาให้ได้ มาสนามหลวงเต็มไปหมด อยู่ตั้งยาวนาน แสดงออกถึงสำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล มันเห็นได้ชัดเจนเลย
คนจะเห็นความสำคัญของพืชพันธุ์ธัญญาหารหรือเรียกอีกศัพท์หนึ่งว่า สมุนไพร สมุนไพรนี้ แปลอีกอย่างหนึ่งว่า เอาไพร เอาป่า เอาพืช มาย่อย เอาพืชพรรณ เอาต้นไม้ เอาใบไม้ เอาลูกไม้ มาย่อย ย่อยจนกระทั่งเป็นอาหารเป็นยา ไว้อาศัยในร่างกายเพราะมันเป็นปัจจัย 4 ยากับอาหาร นอกจากนั้นเป็นที่อยู่กับเครื่องนุ่งห่มเท่านั้นเอง เป็นปัจจัย 4
เพราะฉะนั้นปัจจัย 4 นี้ คุณขาดที่อยู่ ขาดเครื่องนุ่งห่มก็ยังไม่ตาย แต่คุณขาดอาหารหรือขาดยาถ้าคุณป่วย คุณก็ตาย ใช่ไหม
ยากับอาหารสำคัญกว่าที่อยู่กับเครื่องนุ่งห่ม ก็ไม่ได้เข้าใจยากอะไร เอาล่ะปัจจัย 4 นี้ก็สมบูรณ์แล้ว ต้องมีเครื่องนุ่งห่ม ไม่นุ่งห่มจะเป็นแบบพวกเชน เปลือยกายนั้น มันผิดมนุษย์มนา มันไม่มีทั้งภาคทางจิตวิญญาณ ไม่มีทั้งความละอาย ไม่มีทั้งสิ่งที่สมควร ต้องปิดบัง ต้องโป๊เปลือย มันก็ไม่ถูก เพราะจิตวิญญาณของคนมีกิเลส มีกามราคะอีกตั้งเยอะแยะ
เพราะฉะนั้นเราไม่จำเป็นต้องไปยั่วยุ ไม่ต้องแสดงราคะ ยั่วคนอื่น บาปกินหัว ด้วยการเปลือยกายด้วยการทำยียวน ทำท่าทางสารพัดเจตนาเป็นการยั่วคนอื่น ได้เงินมากๆ มันก็เป็นบาปซ้ำซ้อนเพราะเห็นแก่เงินและตัวเองก็ไปสร้างหนี้วิบาก สร้างกิเลสใส่ตัวเอง กิเลสก็หนาขึ้น ๆ หน้าไม่อายมากยิ่งขึ้น ยิ่งขึ้น เมื่อไหร่จะรู้ตัวกันสักที
แม้แต่คำสอนของพระพุทธเจ้า ฝ่ายที่นั่งหลับตาปฏิบัติ ให้มาปลูกผัก ปลูกพืชก็ไม่ทำ เอาไปแต่นั่งหลับตา โอ้ย แล้วกินพืชผักเขานะ พวกนั่งหลับตาเป็นหนี้นะ ผิดทางด้วยนั่งหลับตาไม่มีทาง มันไม่มี อปัณณกปฏิปทา 3
ฌาน ก็ไม่มี เป็นฌานหลับตา เดียรถีย์ ฌานนอกศาสนาพุทธ ฌาน ของ พระพุทธเจ้า เป็น อจินไตย เป็นฌานวิสัย หลับตาไม่มีทางบรรลุนิพพาน
ศีล ยิ่งใหญ่ที่สุด ปัญญาที่ บริบูรณ์แล้ว จิตก็เป็นอัตโนมัติ ตถตา เป็นสัญชาตญาณแล้ว เป็นปกติธรรมดา เพราะฉะนั้น ศีลจึงเป็นหนึ่งในโลก
ตั้งแต่เล็กเริ่มต้นเป็นศีลและสูงสุดนับไม่ถ้วนประมาณไม่ได้ รวมลงเป็นศีล
คนมีศีล ถ้าไปยึดศีล เป็นใหญ่เป็นตัวเป็นตนอีก ก็พัง ถ้าสูญก็ดี ศีลเป็น 0 ก็ดี แต่ศีลไม่เป็น 0 ศีล เป็นที่อาศัย
จริงๆซับซ้อน ศีลก็คือ 0 ผู้ทำ 0 ได้เป็นปกติ ผู้นั้นคือผู้มีศีล แล้วก็อาศัย อาศัยศีล ศีล ก็ยังมีชีวิตอยู่ ตายไปแล้วก็เป็น 0 ปรินิพพานเป็นปริโยสาน ก็เป็น 0
มาเข้าเป้าตรงคำว่า การพึ่งตนเองคืออะไร
การพึ่งตนเองคือ ตัวเรานี่แหละ เป็นผู้ทำงานให้ผู้อื่น เป็นผู้รับใช้ผู้อื่น เป็นนักการเมืองเบอร์หนึ่งของมหาจักรวาล ไม่ใช่แค่เบอร์หนึ่งของโลกนะ ทำเพื่อผู้อื่นโดยไม่ต้องมีตัวตนเลย ซื่อสัตย์ นี่คือหลักของประชาธิปไตย
-
ไม่มีตัวตน 2. ซื่อสัตย์ 3. รับใช้ประชาชน 4. มีสมรรถนะความรู้รอบ มีความ