651223 การวัดคุณค่าของมนุษย์กับสิ่งสร้างขึ้นของมนุษย์ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ดาวโหลดเอกสารที่ https://docs.google.com/document/d/1gLeC0LgLBa8s-H6sgGL7LVowm6u0FbFIgyQKelVRfGc/edit?usp=sharing ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1GqyqFUGVbF17sIWvDPaQhL49L7lAHBtJ/view?usp=share_link ดูวิดีโอได้ที่ และ https://www.facebook.com/300138787516163/videos/893820362060843 สมณะฟ้าไท… วันนี้วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก ขึ้น 1 ค่ำ เดือนยี่ปีขาล ช่วงนี้เราเตรียมงานตลาดอาริยะ ปีใหม่ คนปุถุชนก็จะคิดอะไรได้อะไรใหม่ๆ ก็ตัวเองอยากได้ไปเที่ยวที่ใหม่ๆได้ของขวัญใหม่ๆ แต่คนโลกุตระที่พ่อครูพาทำพาเป็น เป็นคนจนที่ให้อะไรใหม่ๆแก่คนอื่นอยู่เสมอๆ ในช่วงปีใหม่เราให้อะไรใหม่ๆ ปีนี้ก็ให้ใหม่กว่าทุกปี ปกติเราขาดทุน 2-3 ล้านต่อปีในตลาดอาริยะ แต่ปีนี้เราตั้งไว้ 10 ล้าน ขาดทุนตลาดอาริยะให้ใหม่กว่าทุกปี มากกว่าทุกปี เราก็ต้องเตรียมงานให้เต็มที่ ใครมาก่อนก็ได้สร้างกุศลก่อน เด็กๆสัมมาสิกขามาก่อนก็ได้สร้างกุศลก่อน แถมได้มาฟังธรรมหลวงปู่บ่อยๆ ด้วย ปกติเด็กสัมมาสิกขาได้ฟังธรรมสัปดาห์ละครั้ง มาที่นี่ก็ได้ฟังเพิ่ม แม้ว่าตอนนี้จะยังเข้าใจไม่ได้ แต่ว่าอนาคตก็จะเข้าใจได้ เป็นการฝังชิพเอาไว้ สิ่งนี้เป็นสิ่งประเสริฐในชีวิตไม่ใช่หาฟังได้ง่ายๆ หลวงปู่เป็นบุคคลเดียวในโลกในตอนนี้ เราได้มีโอกาสมาฟังธรรมะในชีวิตที่เกิดมา ถือว่าเป็นความประเสริฐแก่ชีวิตอย่างยิ่ง ถ้าเราฟังแล้วได้ประโยชน์ลดละกิเลสไปด้วยก็ยิ่งเป็นประโยชน์มากขึ้น พ่อครูว่า… ก็มาเริ่มต้นที่ SMS ก่อน SMS วันที่ 21-22 ธันวาคม 2565 _นภารัตน์ อิ่มรัง · อยากได้ปฏิทินทำงั้ยดี พ่อครูว่า… สนใจอยากได้ก็ส่งข้อความแจ้งไปที่ Facebook Page อโศกอักษร จะคนจบกิจจริง ต้องเป็นกบฏต่อพระเจ้า _ ตุ๊ก อัศวิน : ภาษิตจีน..’บุญคุณต้องทดแทน_มีแค้นต้องชำระ’..เป็นสิ่งที่เขาสอนถ่ายทอดสืบต่อๆกันมา..วนเป็น loop ดุจสังสารวัฎ หาที่สุดมิได้..ช่างน่าสงสารเจ้าค่ะ จะหลุดออกจาก loop นี้ได้ต้อง ปฎิโสต ด้วยคำสอนของพ่อครู..มั่นคงในศีลข้อที่ ๑.คือ.ยอมให้ถูกฆ่า(กระทำ) ดีกว่าไปฆ่า(กระทำ)เขา..ชิมิ เจ้าค่ะ จากหนังสือปัญญา ๘ หน้า ๑๙๓ พ่อครูเขียนว่า “อรหันต์ ทุกองค์ คือ ผู้’กบฏ’ต่อ’พระเจ้า’แท้สำเร็จอรหันต์ ทุกองค์ ทำตนเองเป็น’อิสระ’ ที่แท้จริงได้เด็ดขาด” นี้คือ คำประกาศ ‘อิสรภาพ’ ที่หมดจด..งดงาม..อร่ามแท้..แลตะลึง..!! ท้าทายฝุดๆ เจ้าค่ะ น้อมกราบเจ้าค่ะ ปล. ชักชวนให้มาร่วมขบวนการ’กบฏ’ เย้ๆๆ พ่อครูว่า… ใช่ ยอมให้เขาฆ่า ดีกว่าไปฆ่าเขา ถ้าเราเข้าใจกรรมวิบากแล้ว เราไปฆ่าเขา ไม่อโหสิ ไม่จบ แต่เราเลิกฆ่าใคร ใครจะฆ่าเราก็ฆ่าไป สักวันหนึ่งเราก็หลุดพ้น ไม่มีใครมาฆ่าเราอีก หลุดพ้นเลย ลอยตัว พลังของความไม่มีตัวตน พลังของความรู้จักการเกิดการตายมันไม่มีปัญหา ตายแล้วก็เกิด ยิ่งเกิดเจริญ เกิดเจริญ ตายโดยไม่มีโลภโกรธหลง ตายโดยไม่มีตัวตนสุดยอด การตายไม่มีปัญหาเลย เป็นเรื่องสำคัญของชีวิต เป็นคนแล้วรู้จักดีศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้าแล้วรู้จักตายก็ตาย ถ้าเรายังไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสาน พระพุทธเจ้าก็ตรัสสอนเรื่องปรินิพพานเป็นปริโยสาน ผู้จบแล้ว เป็นอมตะบุคคลหรือเป็นพระอรหันต์ เป็นอนุปคัมมะ รู้ว่าตายแล้วเลิกเลย ทำตนปรินิพพานปริโยสาน แยกธาตุจิตนิยามของเราเป็นดินน้ำไฟลมไปเลย ดังที่ได้อธิบายมาจนครบหมดแล้ว ทุกวันนี้รู้สึกเมื่อยที่อธิบายธรรมะซ้ำซาก วน อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า 2 มือแบหมด 2 มือแบ แล้วก็วนเอารายละเอียดมาวนซ้อนอธิบายไปอยู่ตลอดเวลา ก็เมื้อย เมื่อย เพราะว่าสังขารของอาตมาต่ออายุขัยไป 2 นักษัตร 12 คูณ 7 เป็น 84 ถ้าไปถึง 96 ก็จะเป็น 2 กัป เป็นการพิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้าที่บอกว่าอานนท์ เราจะอายุเลยกว่า กัปก็ได้ ประเด็นที่ว่า จากหนังสือปัญญา 8 ข้อ 193 อรหันต์ทุกองค์คือ ผู้กบฏต่อพระเจ้า พระเจ้าในความหมายของโลกียะในเทวนิยม หรือพระเจ้าในโลกของโลกุตระหรือโลกของพุทธ ผู้ที่ยังมีพระเจ้าอยู่ ในพุทธนี้ก็ตาม ยังมีเทวะน้อยเทวะใหญ่ ขนาดไหนก็คือปัญญาหรือวิชชา ที่สามารถรู้จักพลังงาน ที่เรียกว่า ยึดตัวตนอยู่ ยึดอยู่น้อยหนึ่งก็เป็นเทวะน้อยๆ ยึดอยู่มากขึ้นก็เป็นเทวะมากขึ้น หรือว่า ยังไม่ใช่น้อยหรือมากก็ยังนึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่ อยากยิ่งใหญ่ ยิ่งเล็ก ยิ่งกลาง ยิ่งใหญ่ เป็นต้น มันก็เป็นจิตที่รู้สึกเป็น รู้สึกมี ตามสภาวะนั้นจริง บัญญัติเป็นภาษาที่อธิบายบอกสภาวะ คนจะเข้าถึงสภาวะจากบัญญัติหรือพยัญชนะที่บอกไว้ เข้าไปถึงนั้น ยาก ไม่ง่าย ไม่ง่ายเลย แล้วจะมีปัญญารู้ในสภาวะธรรมของตนของตนนั้น หรือความเป็นตัวตน ความเป็น เทวะ เทวะน้อยเทวะใหญ่ก็แล้วแต่ จนจบอเทวะ คือ ไม่มีปัญหากับ เทวะ เทวะ แปลว่า 2 ไม่มีปัญหากับความเป็น 2 แล้ว 2 คู่นี้จะเป็นตัวตนเป็นตัวตนใหญ่เล็กอะไร มีตัวตนหรือไม่มีตัวตน เล็กที่สุด กระทั่งใหญ่ที่สุด ยึดมั่นถือมั่นว่าข้านี่แหละใหญ่ ข้านี่แหละใหญ่คือพระเจ้าหรือพระพรหม ฮินดูเรียกว่าพระพรหม ข้านี่แหละใหญ่ๆ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเรื่องจริงที่มีอยู่ในความยึดถือ หรือ ความไม่มีปัญญา แม้ผู้มีปัญญาก็รู้ว่าพวกนี้เขายึดอย่างนี้ เราไม่ยึดแล้ว เรารู้แล้วว่า สิ่งนี้มีสิ่งนี้ไม่มี ก็จบ จบที่คำว่ามีและไม่มี ผู้รู้เข้าใจดีๆเลยว่า โลกนี้มี เทวะ 2 คือความมีและไม่มี ดังที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ในพระไตรปิฎกเล่ม 16 ข้อ 43 คุณตุ๊ก อัศวิน บอกว่า ทำตัวเอง เป็นอิสระจากพระเจ้า เราก็รู้จักพระเจ้า เราไม่ได้ดูถูก พระเจ้าต้องเป็นคนดีสอนให้คนเป็นคนดี ก็เป็นประโยชน์สำหรับคนที่ยังต้องอาศัยความเป็นตัวตน ความมีพระเจ้าและมีมากด้วยเทวนิยมในโลกยุคนี้ แม้แต่พุทธเอง จะหมด พระเจ้าจริงๆก็คือรหัสแล้วมันมีเท่าไหร่ คน 70 ล้านในยุคนี้ อรหันต์ในประเทศไทยมีสัก777 องค์ไหมล่ะ ก็แถวอโศกนี่แหละ ที่อื่นไม่มีหรอกอรหันต์มีในชาวอโศกนี่แหละ นี่ก็พูดความจริงทั้งนั้นไม่ได้พูดเล่น ไม่ได้พูดโว้ย ไม่ได้พูดหลงตัวหลงตนอะไร แต่คนเข้าใจไม่ได้เขาก็เข้าใจไปยึดถือว่าอรหันต์ต้องเป็นอย่างที่เขาเข้าใจ อย่างโพธิรักษ์นี้หรืออรหันต์ เขาก็ไม่เชื่อ อรหันต์อะไรอย่างกับลิง พูดว่าคนนั้นคนนี้ เวลาชมก็ชมตัวเองนี่คือความจบ คนที่รู้ดีที่สุดเลยว่า สิ่งที่ไม่ดีนี่ไม่ใช่เรา สิ่งที่ดีที่สุดนั่นคือเรา…จบ คนที่รู้ว่าสิ่งที่ไม่ดีทั้งหมดเลยไม่ใช่เรา แต่สิ่งที่ดีสมบูรณ์สุดเลย เป็นนิพพาน เป็นอรหันตผลหรือเป็นอรหันต์นั่นคือเรา…จบ คนจบกิจเป็นอย่างนี้ ชีวิตสุด 8 ประการ คืออะไร _ช่อทิพ หนูทอง · แจกข้าวสารและของแก่ชาวบ้านในโอกาสต่างๆ ชาวบ้านไปร่ำลือว่า..รวย..ดิฉันพยายามอธิบายเรื่องคนจนมหัศจรรย์ ให้ชาวบ้านฟัง ชาวบ้าน..ไม่เข้าใจเลย.. พ่อครูว่า… การซื้อของราคาถูก พวกเราไม่ได้เป็นเจ้าของ ของไม่ได้ผลิตเองเท่านั้น เอง ไม่ทั้งหมดหรอก มีบ้างที่เราผลิตเองนิดหน่อย แต่ของที่ซื้อมาเป็นเครื่องใช้ที่จำเป็นนั้น เราไม่ได้ซื้อของที่เฟ้อๆเกินๆ ที่เป็นแฟชั่นของโลกๆที่เขาหลงไม่เอา เอาแต่ของที่เป็นสาระเอาแต่ของที่เป็นประโยชน์ ของกินของใช้ที่เป็นของแท้ ไปซื้อมาจากคนอื่นที่เขาสร้าง ซื้อมาแล้วก็มาขายต่ำกว่าทุน เจตนาเอามาขายให้ต่ำกว่าทุน เป็นการสร้างเศรษฐกิจ เป็นการช่วยเศรษฐกิจของประเทศ ช่วยประเทศช่วยรัฐบาล นี่แหละคือการช่วยเศรษฐกิจสร้างเศรษฐกิจ คนจนมหัศจรรย์ ไม่ใช่คนรวยที่ขี้โลภ รวยไม่เสร็จ รวยไม่จบ โกยเอา ก็หาวิธีเอากำไร แย่งชิงได้เปรียบมาไม่มีจบ พวกนั้นพวกบาปกินหัว พวกเขาไม่รู้จริงๆว่าเขาบาป เขาเอาเปรียบมนุษยชาติแทนที่จะเสียสละอันเป็นกุศล เป็นสิ่งดีงามของมนุษยชาติขึ้นมา เขาก็ไปทำอกุศลไปเอาเปรียบเอารัดใช้เล่ห์เหลี่ยม ใช้วิธีโกง จนกระทั่งถูกต้องตามกฎหมาย เขาก็ต้องยอม กฎหมายต้องยอมพวกนี้ แต่ธรรมะพระพุทธเจ้านั้นไม่ได้ยอม ดูถูก กำราบตำหนิ ด่า ดังที่อาตมาทำอยู่ ซึ่งเขาทำผิด มันน่าตำหนิ ต้องตำหนิ เพราะฉะนั้นผู้ที่มาแจกชาวบ้าน แล้วก็ชาวบ้านไปร่ำลือว่า..รวย..ดิฉันพยายามอธิบายเรื่องคนจนมหัศจรรย์ ให้ชาวบ้านฟัง ชาวบ้าน..ไม่เข้าใจเลย.. คนจนที่มีแบบ นี่เล่ม 1 จำนวน 512 หน้า อาตมาก็เพิ่งอ่านจบวันนี้ อ่านทวน แล้วมีติ๊กแก้นิดหน่อย บอกว่าไม่แก้ แต่อดไม่ได้หรออก มันผิด หรือควรจะเติมนิดหน่อย คนจนที่มีแบบ เล่ม 1 หนาเหมือนกันนะ เป็นหมอนหนุนหัวได้สบาย อ่านทวนหลายวันเลย เพราะงานอื่นต้องทำไม่ได้ตั้งใจอ่านทีเดียว ก็รู้สึกว่าได้เขียนไว้ครบบริบูรณ์สมบูรณ์ดีแล้ว คําสอนพระพุทธเจ้านี่ อัปปิจฉะ มาชอบที่จะมาเป็นคนจน มักจน กล้าจน ท่านบอกว่ามักน้อย น้อยคือจนนั้นแหละ ไม่ใช่ มหัปปิจฉะคือมีมาก อัปปิจฉะคือมีน้อยๆ มาเป็นคนจน กล้าจน มันสุดยอดมนุษย์ แล้วเป็นคนจนที่มีประโยชน์เป็นคนจนที่ช่วยเหลือเศรษฐกิจของมนุษยชาติของสังคม เป็นคนจนที่อุดมสมบูรณ์ เป็นคนจนที่ อิสระ สบาย สงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส ใจเกื้อกูล เพิ่มพูนการเสียสละ อย่างนี้เป็นสุดยอดของมนุษย์จริงๆ … เพิ่มไปเดี๋ยวถึง10 มันมีคุณสมบัติที่พิเศษไปเรื่อยๆ ธรรมะพุทธเจ้าสัมมาทิฏฐิ มันเป็นการทวนกระแสไม่เหมือนโลกที่เขาคิดหรอก เขาคิดเขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าพวกนี้จะเป็นได้จริงอย่างที่พูด บางทีเขามีปฏิภาณเข้าใจเหมือนกัน ว่าอย่างที่เราพูดนี้คืออะไร แต่เขาไม่ค่อยเชื่อว่าจะเป็นจริง เราทำได้จริง จริงอย่างสุขสำราญเบิกบานใจด้วยไม่ใช่ฝืน เราทำได้เราสบาย สบายจริงๆ สบาย สงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส ใจเกื้อกูล เพิ่มพูนเสียสละ จริงๆ _ป่ารุ่ง วนาศิริ · กราบนมัสการพ่อท่านด้วยความเคารพสูงยิ่ง วันนี้ฟังพ่อท่านเทศน์แล้ว เข้าใจละเอียดขึ้นอีกครับ เมื่อก่อนนี้อยู่ในโลกธรรม ผมพูดสัจจะความจริงที่ตรงไปตรงมา บางครั้งทำให้คนรอบข้างไม่เข้าใจ เพราะคนโลกๆมักมีคำกล่าวกันว่า ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่อาจทำให้ตายได้ ทำให้ผมรู้สึกว่าตนเองเป็นคนขวางโลกตามที่เค้าชอบตำหนิผม ปัจจุบันพอผมได้เข้าใจธรรมะโลกุตระ จึงทำให้เข้าใจคนโลกๆไปด้วย ว่าคนโลกๆนั้นมักไม่ชอบความจริงที่ไม่ชอบใจ พ่อครูว่า… นี่เป็นอานิสงส์ในการฟังธรรม ฟังด้วยดีมีอานิสงส์ 5 ของการฟังธรรม ฟังธรรมแล้วรู้สึกเพิ่มขึ้นลึกซึ้งขึ้น ความจริงที่ไม่ชอบใจ มันเป็นความจริงเหมือนกัน แล้วเขาก็ไปชอบความจริงที่ไม่ชอบใจ เขาคิดว่าเป็นความจริงไหม เป็นความจริงที่เขาไม่ชอบ เขาไม่ชอบใจ เขามักไม่ชอบความจริงที่ไม่ชอบใจ ก็คือเขาไม่ชอบใจ ใจเขาเป็นจริงกว่าความจริง อย่างนี้เป็นต้น _สู่แดนธรรม… เช่นความจริงที่ขัดเกลาจิตใจเขาไม่ชอบ พ่อครูว่า… อย่างที่เราพูดนี้เขาไม่ชอบ เขาไม่ชอบที่เราพูดความจริง เขาชอบความไม่จริงไง _ซึ้งซื่อ วิเชียร · กราบนมัสการพ่อท่านด้วยสุดเศียรเกล้าครับ Happy new year ครับ ขอกราบเท้าพ่อท่านในปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ขอให้พ่อท่านปฏิบัติด้วยการสร้างอายุขัย จงประสบความสำเร็จ และขอให้หมู่มารร้ายจงแพ้พ่ายฤทธานุภาพของพ่อท่านด้วยเถิด และอยู่กับลูกหลานไปนานๆครับ และขอเจริญธรรมปีใหม่แก่ญาติธรรมชาวอโศกทุกท่าน ขอให้ปฏิบัติตนแข็งแรงทั้งสุขภาพกายใจพร้อมด้วยสติปัญญาสมบูรณ์ ขอขอบพระคุณครับ ขอจงเจริญศีลเจริญธรรม สุขสันต์ปีใหม่ ๒๕๖๖ ครับ พ่อครูว่า… อาตมาพยายามสร้างอายุขัยจริงๆต่อ พยายามต่ออายุขัย ก็ขอบคุณมาก ดี อันนี้เป็นความระลึกถึงกันที่ลึกซึ้ง (พ่อครูไอตัดออกด้วย) สมณะฟ้าไท… ชุมชนเราอยู่ด้วยสาราณียธรรม 6 พุทธพจน์ 7 ก็นึกถึงที่จะเกื้อกูลกัน ถ้าคนโลกจะระลึกถึงเพื่อเอาเปรียบเขาเราแล้วนึกถึงเพื่อจะช่วยเหลือเขา รักเขาเพื่อช่วยเหลือเขาไม่ใช่รักเขาเพื่อเอาผลประโยชน์กับตัวเอง หากจะปิดทองลูกนิมิต พ่อครูคิดอย่างไร _รักกันฉันพี่น้อง · ทราบว่า พ่อครูจะปิดทอง ยกลูกนิมิต เป็นอย่างไรคะ แล้วทำไมปิดองค์เดียว ไม่ให้ใครปิดบ้างคะ พ่อครูว่า… คือการปิดลูกนิมิตนี่มันเป็นกลยุทธ์ของวิธีหาตังค์ ของพระอาบัติ หรือพระนอกรีต ภิกษุของศาสนาพุทธนี่ มาสร้างลูกนิมิต แล้วก็มาทำเป็นลูกกลมๆ แล้วก็เอาให้คนเอาทองมาปิด ไม่ใช่เอาทองมาปิดเท่านั้นนะ หาวิธีมาให้เกิดการเอาเงินมาทำทาน บริจาคให้พระให้วัด เป็นวิธีโง่ๆ เป็นวิธีอวิชชา เป็นวิธีบาปของพระที่ไปทำอย่างนั้นกัน พระที่ให้มาปิดทองลูกนิมิตนี้บาปกินหัวทั้งนั้น อาตมาไม่ได้พูดเล่นนะ พูดความจริงแต่เขาฟังไม่เป็น เขาก็บอกว่าทำตามๆกันมา ก็ทำตามกันมาแล้วมันชั่วจะทำต่อไปทำไมเล่า มันบาป อาตมาก็ขอยืนยันว่า อาตมาพูดถูกต้อง มันบาปจริงๆ ทำลายศาสนาพระพุทธเจ้าเสียไม่มีดี ไอ้นิมิตนี้มันไม่ใช่เป็นลูก ทำนิมิตที่พระพุทธเจ้าท่านใช้ เป็นเครื่องหมายที่จะกำหนดเขตวัด เขตโบสถ์ ให้ภิกษุเข้าใจว่า เขตนั้นถึงเขตนี้ จุดนั้นถึงจุดนี้ ท่านเรียกว่าทักนิมิต เดี๋ยวนี้ก็เพี้ยน เอาภาษามาแปลงเป็นเรื่องครอบหลอกชาวบ้านให้เอาเงินเอาทองมาบริจาค มันเป็นความชั่วเป็นความโง่ที่ทำแล้วก็บาปกินหัว กรรมเป็นอันทำ อาตมาไม่ได้พูดเข้าไปลงโทษเขา แต่มันเป็นกรรมวิบากของเขาที่มันทำบาปกรรม มันทำร้ายศาสนาพุทธ เพราะฉะนั้นมันเสื่อมไปจนกระทั่งผิดเพี้ยนที่ทำกันอยู่นั้น พากันบาปและไม่ใช่บาปคนเดียวด้วย ไปชวนกันบาป ศาสนาพุทธพังทลายเพราะคนที่เข้าใจผิด คนมิจฉาทิฏฐิพวกนี้ มันก็เสียหายหมดเลย อาตมาก็พูด พูดเป็นการเตือนๆสติเขา อาตมาไม่ได้ทำจริงทำจังอะไรหรอก พูดบ่อยๆก็ลูกนี้เป็นลูกนิมิต เรามีหินก้อนหนึ่งยกขึ้นสูง เทินเอาไว้ ไม้ร่มเขาไปจัดหินจัดดินจะภูเขา อาตมาเห็นลูกหินอันนี้ก็เลยพูดขึ้นมา เห็นว่ามันเป็นเรื่องที่จะพูดเพื่อจะอาศัยความหมายนี้ อธิบายสัจธรรม อย่างที่อธิบายนี้นำมา อาตมาพูดไปก็มีคนติดใจ มีคนมาถาม จะได้อธิบายอย่างที่ว่า มันเป็นวิธีการของอาตมาที่จะได้เอามาอธิบายสัจธรรม นี่ที่เห็นนี้ ที่ราชธานีอโศกจะเห็นรูปนี้ อาตมาก็เลยเอาตรงนี้เป็นเรื่องสำหรับอาศัยอธิบายเลย ให้เขาทาสีทองเลย นี่เขากำลังทำ นั่นแหละมันก็เชิญอยู่ตรงนั้น ใครมาเห็นก็สะดุดตาพวกเขานี้สะดุดเลยมองเห็น ภูเฮา ฮวมกันส่าง เขาเรียกพวกเขาแต่เราจะเรียก ภูเฮา เขาจะทาสีพื้น 3 ชั้น ชั้นแรกชั้นที่ 1. ลงสีเหลือง ชั้นที่ 2. ลงสีขาว 3. พ่นสีทอง สามชั้น ลูกนิมิตลูกเดียวจ่ายไปหลายตังค์ จ่ายเองไม่ได้ไปเรียกร้องประชาชนให้มาจ่าย ไม่ได้ไปหว่านล้อมหลอกเอาเงินเอาทองจากประชาชน ไม่ได้เป็นเครื่องหมายให้ประชาชน แต่ทำต้องลงทุนเองเพื่อจะได้อธิบายสัจธรรม คนชาวพุทธนี่แหละให้รู้ว่าอย่าไปถูกหลอก ล้วงตับกินไส้ล้วงกระเป๋าเรา โง่ทำลายศาสนาอีกต่างหาก ได้บาปกันไปอีกต่างหาก ขออภัยนะนี่พูดความจริง อย่าไปหลงพระโง่ๆ ขี้หลอก คือบางทีไม่ได้เจตนาจะโง่หรอก แต่มันโง่จริงๆ แล้วก็เอาตามๆกันมา โง่ตามๆกันมา ถ่ายทอดความโง่ตามกันมา ทำไมโง่ไม่เสร็จสักที _สู่แดนธรรม… เขาถามมาอีกแล้วว่าทำไมปิดองค์เดียว พ่อครูว่า… ก็ทำเป็นนิมิตหมายทำเป็นเครื่องหมายให้รู้ เพราะอาตมาไม่ได้โง่ อาตมาไม่ได้ทำผิดนะ แต่มาทำเป็นเครื่องหมายให้รู้ว่าเขาทำผิดอย่างนี้ อย่ามาทำอย่างอาตมา อย่างนี้นี่เป็นลักษณะทำให้รู้ว่าคนมาทำอย่างนี้ เป็นจุดหมายเครื่องหมายเพื่อจะได้อธิบายว่าอย่างนี้แหละทำโง่ๆ _สู่แดนธรรม… แล้วเขาถามว่าไม่ให้ใครปิดบ้างหรือคะ พ่อครูว่า… ก็จะให้คนไปโง่ปิดต่อทำไมล่ะ ก็คนมันทำแบบนี้มันโง่ แต่อาตมามันเหนือความโง่ ไม่ได้โง่ แต่ทำเพื่อจะสอนคนโง่ _สู่แดนธรรม… ปิดได้เฉพาะพ่อท่านองค์เดียว พ่อครูว่า… ใช่ เพราะอาตมาปิดเหนือความโง่ ไม่ได้โง่ อาตมาทำสอน อาตมาทำได้ อาตมาไม่ได้ทำบาป ไม่ได้ทำชั่ว ไม่ได้ทำโง่ _สู่แดนธรรม… ผมเข้าใจผิดคิดว่า จะเปิดโอกาสให้คนอื่นผิดด้วย พ่อครูว่า… จะบ้าหรือ คิดอย่างนั้นได้อย่างไร _สู่แดนธรรม… แสดงว่าเขาเข้าใจถูกหมดแล้ว มีแต่ผมเข้าใจผิด พ่อครูว่า… ใช่ เลิกคนหนึ่ง คนอื่นเขาจะได้เลิกด้วย _แสงอรุณ . น้อมกราบ นมัสการหลวงปู่ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ หลานขอโอกาสใช้ปัญญา 8 ข้อที่ 2 คือ ฟังจากสัตตบุรุษ ไม่ใช่ฟังจากพระพุทธเจ้าทีเดียว พ่อครูว่า… แล้วทุกวันนี้ไม่มีพระพุทธเจ้าแล้ว ก็มาซักถามจากสัตตบุรุษนี่แหละ ข้อที่ 1 ก็ได้แต่ว่าข้อที่ 2 เข้ามายังมีรายละเอียดจากข้อที่ 2 ตรงที่มาถามแล้วถามอีก ไม่ใช่พบสัตตบุรุษหรือพบพระพุทธเจ้าแล้วฟังคนเดียวแล้วจบเลยไม่ใช่ ต้องมาถามแล้วถามอีก ถามแล้วถามอีก ก็จะเข้าใจลึกซึ้งไปเรื่อยๆ อานิสงส์ในการฟังธรรม 5 ประการจะสูงขึ้นได้เรื่อยๆ ๆๆ แม้ ฟังความเดิมที่เคยพูดไปแล้ว แล้วท่านจะมีพลความที่อธิบายเพิ่มจากความเดิม อ๋อๆ อานิสงส์ 1. ได้ฟังสิ่งใหม่เพิ่มขึ้น 2. เข้าใจยิ่งขึ้น 3. บรรเทาความสงสัยได้ 4. ทิฏฐิตรงขึ้น 5. จิตผ่องใส เลื่อมใส สมบูรณ์แบบ นี่คืออานิสงส์ 5 ประการ มีจริงในศาสนาพุทธ ผู้ใด ตรวจสอบสภาวะ 5 ประการในการฟังธรรมทุกที ทุกที ทุกที ไปตรวจสอบตัวเองดู ๑. ผู้ฟังย่อมได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง (อัสสุตัง สุณาติ) ๒. ย่อมเข้าใจชัดในสิ่งที่ได้ฟังแล้ว (สุตัง ปริโยทเปติ) ๓. ย่อมบรรเทาความสงสัยเสียได้ (กังขัง วิหนติ) ๔. ย่อมทำความเห็นให้ถูกตรง (ทิฏฐิง อุชุง กโรติ) . ๕. จิตของผู้ฟังย่อมเลื่อมใส (จิตตมัสสะ ปสีทติ) (พตปฎ. เล่ม ๒๒ ข้อ ๒๐๒) นี่สุดยอดทั้งนั้น ที่นี้พูดให้ฟังธรรมะจากสัตบุรุษทุกวันนี้ไม่มีพระพุทธเจ้า อาตมาก็ประกาศว่าอาตมาเป็นสัตบุรุษแล้วไม่ได้หลอกไม่ได้พูดผิด ถ้าหากอาตมาพูดผิดตัวเองไม่ได้เป็น แล้วไปหลอกชาวบ้านบาปกินหัวหนัก อาตมาไม่ทำบาปให้แก่ตัวเอง มั่นใจไม่ได้ทำบาปให้แก่ตัวเองเพราะอาตมามีปัญญาพอที่จะรู้ว่า อาตมาทำนี้มันจริงหรือไม่จริงถูกหรือไม่ถูก ไม่มีปัญญาพอจริงๆ เพราะฉะนั้นปัญญาข้อที่ 2 ที่คุณแสงอรุณเขียนมาว่าเขาใช้ข้อนี้ เพราะยุคนี้ไม่มีพระพุทธเจ้ามีแต่สัตบุรุษ แล้วก็ถามแล้วถามอีก จะเกิดหิริโอตตัปปะ อย่างแรงกล้าในปัญญา 8 ได้อย่างไร _แสงอรุณ…ถามคำถามหลวง จากหนังสือปัญญา หลวงปู่เขียนไว้ในหน้า ๑๑๓ ว่า “เมื่อได้มาศึกษากับพระพุทธเจ้า หรือจากสัตตบุรุษ หรือจาก ผู้ที่อยู่ในฐานะครูที่สัมมาทิฎฐิจริงก็จะเกิด “ปัญญา” ข้อที่ 1 ซึ่งใน “ปัญญา” ข้อที่ 1 นี้ มันต้องอธิบายสาธยาย แจกแจงกันอย่างสำคัญมาก เพราะมันลึกซึ้งในทาง “จิตวิญญาณ” ชั้น “ปัญญา เหลือล้ำ เพราะผู้จะมี “ปัญญา” นั้นจะมี “ความละอาย (หิริ)” เป็น “เทวธรรม” ข้อแรกกันจริงๆ แต่แง่ “ ความละอาย” นี้ ก็เป็นความลึกล้ำของ “ปัญญา” อย่างยิ่งยวด ที่อาตมาก็ยังสาธยาย ให้ลึกไปกว่านี้ได้ไม่เท่าไหร่เลย” หลานขอความเมตตาจากหลวงปู่ ขยายความ ประเด็น ความละอายที่ทำให้เกิดปัญญาโลกุตระ อย่างสัมมาทิฏฐิด้วยเจ้าค่ะ กราบขอบพระคุณหลวงปู่ด้วยความเคารพบูชาอย่างยิ่ง แสงอรุณ ๒๑/๑๒/๒๕๖๕ พ่อครูว่า… มันลึกซึ้งจริงๆ แค่ความละอาย เป็นสัจธรรมที่ต้องมีจริงในมนุษย์ทุกคน ยกตัวอย่างเช่น ขออภัยวันนี้ ขออภัยต่อท่านประยุทธ์ปยุตโต ท่านประยุทธ์ ปยุตโตดูถูกดูแคลนไม่ใช่ทำเล่นด้วย เอาจริงๆจนอาตมาติดคุกด้วย แต่เขาขอให้อยู่นอกคุก 2 ปีรอลงอาญา 2 ปี เอาขนาดนั้นเลย ท่านประยุทธ์นี้เอาอาตมาขนาดนั้น และท่านไม่เคยรู้หรอก เดี๋ยวนี้อาตมาก็ยังไม่รู้ว่าท่านจะรู้สึกละอายหรือยัง อาตมาก็ยังเชื่อว่าท่านยังไม่ละอาย หากท่านละอายคงจะมี signal มา ถ้าเกิดความละอายบ้าง ก็จะได้ อัญญธาตุ อาตมาสาธยายไปแต่ท่านไม่ถึงขีดที่จะรู้สึกสำนึกสำเหนียกว่า เราได้ไปดูถูกดูแคลนท่านโพธิรักษ์ ตายๆๆๆ ท่านจะรู้สึกละอาย เพราะฉะนั้นการจะเกิดความละอายนี่คือ เทวธรรม คือธรรมะความเจริญ แต่ถ้าไม่เกิดอันนี้คือยังไม่เจริญ ท่านประยุทธ์ไม่ได้เกิดความละอายที่ได้มาดูถูกดูแคลนสมณะโพธิรักษ์ ยังไม่สำนึกเมื่อใด ไม่มีละอายเมื่อใด มันจะเกิดจริงในจิต ละอาย หิริโอตตัปปะ อย่างแรงกล้าด้วย เพราะดูถูกอย่างแรง ข่ม ดูถูกอาตมามาก เพราะว่าจะรู้สึกแรงสำหรับคนที่เข้าใจสัจธรรม แต่อาตมาว่า ท่านก็คงจะยากอยู่ที่จะรู้สึก หรือท่านจะรู้สึกแล้ว หากท่านรู้สึกแล้วอาตมาขออนุโมทนา น่าจะมีสัญญาณมาบอกบ้าง signal มาบอก แต่นี่ไม่มีสัญญาณมาบอกว่าท่านรู้สึก อาตมากับท่านเคยสัมพันธ์ติดต่อกัน คือ เมื่อท่านด่าอาตมา เขียนหนังสือตำหนิอาตมามาอย่างนี้ อาตมาก็เขียนจดหมายขอบคุณท่านไป ท่านก็เงียบ ไม่มีตอบ เขียนด่าต่อ เขียนว่าต่ออีก 3 เล่มหนังสือ อาตมาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็พยายามญาติดีกับท่าน จนครั้งหนึ่งท่านไม่สบาย อาตมาเขียนจดหมายแสดงความเห็นใจ ว่าท่านไม่สบายก็ขอให้หายวันหายคืนตามประสาโลกๆเขานั่นแหละ เพื่อทำความสมานเสมอ เขียนจดหมายอันนี้ไป ท่านก็ส่งหนังสือของท่าน 2 เล่มมาให้อาตมา หนังสือพจนานุกรมของท่านสำคัญ อาตมาก็ยังได้อาศัย ใช้ 2 เล่มนั้น ส่งมาให้ โดยเขียน ด้วยสาราณียธรรมต่อท่านโพธิรักษ์ ระลึกถึง สาราณียธรรม นี่ก็เล่าเรื่องที่ผ่านมาจริง มีปรากฏการณ์จริง พจนานุกรมฉบับประมวลธรรม แล้วก็มีอีกเล่มหนึ่ง พจนานุกรมพุทธศาสนาฉบับประมวลศัพท์ ท่านเก่งพยัญชนะ แต่ท่านไม่เก่งสภาวะ นี่ขออภัยที่พูดความจริง อาตมาก็ยังนึกอยู่เลย ท่านจะเข้าใจคำว่ากายหรือยัง ท่านจะเข้าใจถึงสภาวะคำว่ากายที่เป็น สักกะหรือยัง เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องธรรมดา บุญ งั้นท่านไม่เข้าใจแน่ เพราะท่านเข้าใจบุญว่าเป็นกุศล ท่านก็ยังเข้าใจว่า อปุญญะ เป็นบาปอีก ซึ่งมันไม่ใช่ เพราะบุญมันเป็น One Way Traffic บุญมันมีทางเดียว เอกังสะ ส่วนเดียว มันทำงาน กำจัดกิเลสหมดสิ้นแล้วบุญก็หมดไป บุญไม่เหลือค้างอยู่ที่ไหน ฉะนั้นศาสนาพุทธที่มันผิด ไปสะสมบุญ ไปเอาบุญ ไปสร้างบุญ อะไรพวกนี้ พยัญชนะมันก็พาให้สภาวะผิด ผิดหมดเลย บุญมันสะสมไม่ได้ บุญมันเอาไม่ได้ บุญใครไม่อยากมีหรอก เป็นอรหันต์แล้วเป็นคนไม่มีบุญ ถ้ายังไม่เป็นอรหันต์คุณอยากได้บุญอยู่ด้วยความโง่ทั้งนั้น คนที่ยังไม่เป็นอรหันต์อยากได้บุญด้วยความโง่ๆทั้งนั้น พูดอีก 100 ครั้งก็อย่างนี้ ผู้ที่ยังไม่เป็นอรหันต์ก็อยากได้บุญทั้งนั้น นี่โง่ แล้วผิดใช้พยัญชนะผิดสภาวะผิด สุดท้ายก็เลยไม่ได้เจริญไปถึงไหน หลานขอความเมตตาจากหลวงปู่ ขยายความ ประเด็น ความละอายที่ทำให้เกิดปัญญาโลกุตระ อย่างสัมมาทิฏฐิด้วยเจ้าค่ะ กราบขอบพระคุณหลวงปู่ด้วยความเคารพบูชาอย่างยิ่ง พ่อครูว่า….เมื่อกี้อธิบายขยายความไปบ้างแล้ว ว่า ความละอาย ไม่ละอาย เพราะไม่เกิดความจริง ไม่เกิดความละอาย ความรู้สึกจริงๆเป็นเวทนา ละอาย ละอายจริงๆ มันเป็นความรู้สึกจริงๆของจิตใจเลย ไม่ใช่เรื่องพูดตื้นๆ เล่นๆ แต่สำนึกละอายจริงๆ พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ในปัญญาข้อที่ 1 ข้อที่ 2 มีความละอายจริงๆ ไม่ใช่ละอายเล่นๆด้วยแต่ละอายอย่างแรงกล้า เพราะอะไร เพราะคนเรามันโง่มาหนัก โง่เป็นเทวนิยม โง่เป็นอัตตา สิ่งที่โง่มาจนถึงทุกวันนี้คือยังไม่เป็นอรหันต์นี่แหละ ผู้เป็นอรหันต์จึงจะหยุดโง่ หมด เกลี้ยง สิ้นความโง่ สิ้นเกลี้ยง ยังไม่หมดก็ เป็นโสดาบันก็ลดลงไปส่วนหนึ่ง เป็นสกิทาคามีก็ลดลงไปส่วนหนึ่ง ถ้าอนาคามีก็ลดลงไปส่วนหนึ่ง เป็นอรหันต์ทั้งหมด ก็หมดอวิชชา ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆสัจธรรมเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นถ้าผู้ใดไม่สามารถที่จะศึกษาสัมมาทิฏฐิจริง ก็ไม่บรรลุธรรมในชาตินั้น อาตมาเคยพูดว่ายังสงสัยอยู่ว่า ผู้ไม่บรรลุธรรมในชาตินี้อย่างท่านประยุทธ์ ไม่รู้แม้แต่โสดาบัน แต่เก่งที่ท่านศึกษา เป็นนักศึกษา learned man ทุกวันนี้ท่านก็ยังศึกษา สังขารร่างกายท่านก็ป่วยเจ็บอยู่หลายรอบ แล้วท่านก็บอกว่า ท่านทำงานยังไม่เสร็จเพราะท่านศึกษายังไม่จบ แต่ท่านไม่ได้ปฏิบัติธรรมให้ตนเองบรรลุธรรมในชาตินี้ ท่านก็เลยกลายเป็นที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าผู้ที่เป็นเช่นนี้คือ ผู้ที่เป็น ปทปรมบุคคล ผู้ที่มีแต่ธรรมะโดยบท ไม่ได้ธรรมะโดยธรรม ไม่ได้ธรรมะโดยสภาวะ ได้แต่ธรรมะโดยบท พยัญชนะบทบัญญัติบทภาษาเท่านั้น คือ ผู้ที่ปทปรมบุคคล คือผู้ที่ทรงจำธรรมะของพระพุทธเจ้าไว้ก็ได้มาก ท่องบ่นได้มากทรงจำได้มาก สอนคนอื่นอยู่ได้มาก แต่ตนเองไม่ได้บรรลุธรรมในชาตินั้นๆ นี่อาตมาก็ยังสงสัยอยู่ว่า ท่านจะเป็น ปทปรมบุคคล แต่ท่านเป็นผู้ที่ทรงจำธรรมะพระพุทธเจ้าได้มาก ท่องบ่นได้มาก สั่งสอนได้มากจริงๆแล้ว แต่ท่านจะบรรลุธรรมในชาตินี้ไหม แม้โสดาบัน ขออภัยนะท่านประยุทธ์ ขณะนี้ที่อาตมาพูด เป็นความเมตตาและเป็นความสงสารเกื้อกูลกัน ความสงสารคำนี้ก็หมายความว่า ยังเห็นท่านยังวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏ ไม่ได้หมายความว่าอาตมาต้องมีใจไปสงสารท่าน ท่านสูงกว่าอาตมา ท่านมีคนนิยมชมชอบ ยกย่องสรรเสริญยิ่งกว่าอาตมาเยอะ ท่านควรจะสงสารอาตมา เพราะอาตมาด้อยกว่า ตกต่ำกว่า ดูถูกดูแคลน เป็นผู้ใดก็ควรถูกสงสารแต่ท่านเป็นผู้สูง อาตมาจะไปสงสารท่านได้ยังไงท่านต้องสงสารอาตมา แต่อาตมาสงสารท่าน นี่เป็นสิริมหามายา เป็นความซับซ้อนของ 2 สภาพ แทนที่ท่านจะสงสารอาตมา อาตมากลับสงสารท่าน อันนี้เรื่องจริงใจที่พูดสงสาร สงสารท่านที่ท่านเป็นนักวิชาการ เป็นนักศึกษา learned man ศึกษาจริงๆ แต่ไม่ได้ธรรมะมันน่าเสียดาย ก็ขอเอาใจช่วยให้ท่านบรรลุส่วนใดส่วนหนึ่งหรือหลายๆส่วนหรือบรรลุอรหันต์เถิด ก็ขอพูดถึงท่านเท่านี้ แล้วอาตมาก็ขอขอบคุณท่านเยอะ ที่อาตมาได้อาศัยคำศัพท์ ท่านรู้จักบัญญัติท่านรวบรวมคำศัพท์ต่างๆไว้เยอะ อาตมาก็ใช้ศัพท์ที่ท่านรวบรวมไว้ มีผิดบ้าง ไม่ตรงบ้าง ไม่ถูกบ้าง นิดหน่อย นอกนั้นใช้ได้ ที่เขาบัญญัติกันมา ท่านก็เก็บรวบรวมบันทึกไว้ เหมือนคลังความรู้ อาตมาก็ได้อาศัยบัญญัติพวกนี้ ก็ดีก็ขอบคุณ _สู่แดนธรรม… ผมขอเอาคำถามของคุณคนนี้ เอามาให้พ่อท่านอธิบาย เขาถามว่า ความละอายที่จะทำให้เกิดปัญญาโลกุตระอย่างสัมมาทิฏฐิ พ่อท่านจะสอนให้ละอายอย่างแรงกล้าได้อย่างไร พ่อครูว่า… อาตมาไม่บังอาจที่จะทำให้คนไหนเกิดความละอายอย่างแรงกล้าได้ เช่นที่ ไม่สามารถทำให้ท่านประยุทธ์เกิดความละอายอย่างแรงกล้านี่แหละ อาตมาไม่สามารถทำ คนจะเกิดความละอายอย่างแรงกล้านั้น เป็นสำนึกของตนเอง เป็นภูมิธรรมของตนเอง ที่รู้สึก ตายๆๆ เราทำผิดไป เช่น เราอวิชชามากี่ชาติๆ เพิ่งจะมาเริ่มรู้ซึ้งสัมมาทิฏฐิของพุทธเจ้านี้ปั๊บ จะรู้สึกว่าเรานี้โง่มา โอ้โห ดักดานจริงๆ คนที่กว่าจะรู้ว่าตัวเองโง่นี้ต้องมี อัญญธาตุ เลย 50% ขึ้นไป พูดตามที่เคยอธิบายเหมือนโกณฑัญญะ ไม่ใช่ว่าจะเริ่มต้นแล้วก็จะหายโง่เลย หรือระลึกได้เลยว่า โอ้โห โลกุตรธรรมเป็นอย่างนี้เลยหรือ กว่าจะรู้ว่าโลกุตรธรรมเป็นอย่างนี้ต้องมี อัญญธาตุ เกิน 50% สั่งสมมา จนมาถึง อัญญธาตุ ที่มีจริงในบุคคลนั้นเกิน 50% 60% 70% โอ้โห เป็นอย่างนี้หรือ เพราะฉะนั้น โกณฑัญญะเกิด อัญญธาตุ ที่เป็นธาตุ อัญญา หรือ ธาตุรู้ที่เป็นพหูพจน์ เกิน 50% ขึ้นไป เป็น 60% 70% แล้วเมื่ออัญญาโกณฑัญญะเกิด อัญญธาตุ สว่างขึ้นมา พระพุทธเจ้าท่านมีญาณหยั่งรู้ โอ้ โกณฑัญญะรู้แล้ว คือรู้โลกุตรธรรม เป็นคนแรกในศาสนาพุทธของพระสมณโคดม ที่เริ่มรู้โลกุตระธรรมของพระพุทธเจ้า โกณฑัญญะแปลว่าโง่ โกณะ ที่จริง ทัตตะ แปลว่า ทั้งฉลาดทั้งโง่ นี่เป็นเรื่องที่อาตมาอธิบายได้ พูดอย่างที่อธิบายนี้ _สู่แดนธรรม… หน้าที่ของผู้ที่จะไปสำนึกเองนั้น ก็ต้องเป็นเรื่องของเขาเอง พ่อครูว่า… ถูกต้อง หน้าที่ของเขาเอง ถ้าเขาไม่ทำหน้าที่นี้ เขาไม่เรียนก็ไม่สนใจ เขาไม่มีวันสำนึก _สู่แดนธรรม… ผมเห็น คนที่จะรู้สึกสำนึกได้จะต้องมีปัจเวกขณ์ ต้องพิจารณาด้วยตัวเขาเอง พ่อครูว่า… ใช่ ปัจเวกขณ์ก็แปลว่าตัวเองอยู่แล้ว เอาไปแปลว่าพิจารณา ก็ตัวเองนั่นแหละต้องพิจารณา การวัดคุณค่าของมนุษย์กับสิ่งสร้างขึ้นของมนุษย์ อาตมาวันนี้คิดว่าจะเอา การวัดคุณค่าของมนุษย์กับสิ่งสร้างขึ้นของมนุษย์ สิ่งที่สร้างแล้วก็มาตีราคาตีค่ากันขึ้นมาแล้วก็วัดค่า การวัดค่า วัดคุณค่าของมนุษย์ เช่น ค่าของเงิน กับค่าของอาหารที่คนบริโภค เช่น รายได้ของอาวุธทำลาย กับการเสียสละพืชพันธุ์ธัญญาหาร 2 คู่นี้ อาตมาหยิบขึ้นมาเอาพยัญชนะจับสภาวะ 2 อย่างนี้ มาอธิบายในวันนี้ เอาคู่แรกก่อน ค่าของเงินกับค่าของอาหารที่คนบริโภค เงินเป็นกระดาษที่มาสมมุติขึ้น ตีราคาตีค่าตีตัวเลขได้ว่า เงิน เป็นกระดาษไม่มีค่าจริงๆเลย แต่ พืชพันธุ์ธัญญาหาร เป็นสิ่งที่มีค่า ของมนุษย์ มนุษย์ต้องกินอาหาร จะสูงส่งขนาดเป็นพระพุทธเจ้าก็ต้องฉันอาหาร เสวยอาหาร มีค่ายิ่งกว่ากระดาษเงิน มีค่าจริงๆ อาหารที่คนบริโภค กับเงิน เปรียบเทียบกันแล้ว ค่าของอาหารที่คนบริโภค สูงกว่าค่าของอาวุธ ต่อให้ประเสริฐ ต่อให้ทำลายได้เก่งมีประสิทธิภาพ ตูมเดียวประเทศนี้แหลกไปหมดทั้งประเทศเลยก็ตาม นั่นแหละยิ่งชั่วหนัก ยิ่งโง่หนัก ยิ่งบาปหนัก แต่อาหารนี่ เริ่มตั้งแต่ กวฬิงการาหาร อาหารคือคำข้าวที่กินเข้าไปในปาก ทุกคนชาติไหนศาสนาไหนทุกคนต้องกินอาหาร เครื่องอาศัยที่กินเข้าไปสังเคราะห์ ปรุงแต่งร่างกาย ให้ร่างกายมันทรงอยู่ได้ ค่ามันต่างกันมากที่สุด แต่อาหารราคาแพงไม่ได้ อาวุธราคาแพงเท่าไหร่มันก็ใส่เข้าไป แพงเข้าไป เท่าไหร่ๆ ก็ไม่มีใครห้ามอยู่หรอก เอาเปรียบเอารัดมนุษย์พวกนี้บาปๆๆๆ นอกจากสร้างอาวุธมาเพื่อฆ่าคนแล้ว ยังมาโลภโมโทสัน ขายให้แพงสร้างอำนาจในการสร้างอาวุธได้เก่งแล้วก็เบ่งอำนาจกัน คนๆนี้ อย่างอเมริกาเบ่งกับยูเครนส่งอาวุธให้ยูเครน ยูเครนก็ต้องสยบแก่อเมริกา อเมริกาสร้างโดยวิธีส่งอาวุธให้แก่ยูเครนไปสู้กับรัสเซียอย่างนี้เป็นต้น สร้างอำนาจบาตรใหญ่ สร้างอาวุธมาเพื่อจะสร้างค่าให้แก่ตัวเอง อย่างสหรัฐทำนี้บาปกินหัวจริงๆสหรัฐเอย ไม่รู้จักสัจจะความจริงอันนี้น่าสงสาร อาตมาพูดนี้พูดจริงๆ สงสารอเมริกา ทำไมทำโง่ไม่เสร็จจริงๆเลย แล้วใหญ่ เดี๋ยวนี้เขาใหญ่ไม่เท่ากันหรอก อเมริกาลดลงไปเยอะแล้ว แต่เขาไม่รู้ตัว พูดจริงๆแล้วอเมริกากับจีน จีนนั้นใหญ่กว่าอเมริกาเยอะ ทั้งพลเมืองทั้งทางด้านนามธรรมทางจิตวิญญาณด้วย อเมริกานี่ยิ่งไปใหญ่เลย แทนที่จะใหญ่กลับไม่ใหญ่เลย ลงนรก ขออภัยที่อาตมาพูดความจริงมากๆ ตำหนิอเมริกา ตำหนิด้วยความเมตตา ตำหนิด้วยความสงสาร ไม่ใช่ตำหนิด้วยความหวังร้าย หวังข่ม ไม่ใช่ แต่สงสาร โง่ไม่เสร็จนี้สงสารจริงๆ เพราะฉะนั้นประเทศหรือว่าสหรัฐ เขาไม่ได้เรียกประเทศเพราะเขามีรัฐต่างๆมารวมกัน เขามีระบบบริหารแบบนั้น แล้วทุกวันนี้มันก็เสื่อมลง เสื่อมลง สักวันก็จะแตกแบบรัสเซีย สหรัฐนี้ รัฐต่างๆก็จะแข็งตัวแข็งข้อ ขอแยก สหรัฐในอนาคตไม่ช้าจะเกิดการแข็งข้อ แยกรัฐ คือมันยังแย่งอำนาจกัน วิธีการบริหารปกครองเหมือนกันเป็นวิธีการบริหารที่เป็นประชาธิปไตยขาเดียว กษัตริย์มีทศพิธราชธรรม แต่ประธานาธิบดีไม่มีทศพิธราชธรรม มันเป็นเรื่องมุขขึ้นมา ว่าไอ้คนนี้ใหญ่ เชิดขึ้นมาด้วยกลยุทธ์กลวิธี มันไม่มีความสืบทอด มันไม่มีสันตติวงศ์ ไม่มีกฎมณเฑียรบาล ไม่มีการฝึกตน ไม่มีการสืบทอด ตั้งแต่ DNA มาเลย ไม่มี ใครก็ได้ มุขขึ้นมา สมมุติขึ้นมาดื้อๆง่ายๆ ซึ่งมันเป็นเรื่องพิการ มันเป็นเรื่องไม่สมบูรณ์แบบ มันเป็นเรื่องของสองมันเป็นเรื่องหนึ่ง ทุกอย่างอุบัติขึ้นมาในโลกที่มีจิตวิญญาณกับวัตถุมันเป็น 2 อย่าง รวมตัวกันมีมหาภูตรูป 4 อุปาทยรูป 24 รวมกันแล้ว จิตวิญญาณก็รู้ นี่รูปคู่ของสภาพนามรูป ที่สังขารกันอยู่ รายละเอียดพวกนี้พระพุทธเจ้าตรัสรู้ อาตมาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ก็ศึกษารู้ตามพระพุทธเจ้ามาทุกวันนี้ ตามที่อาตมาอธิบายตามภูมิของอาตมา อาตมาก็อธิบายขยายความให้ฟัง พยายามที่จะอธิบายแบบสมัยใหม่ให้เขาฟังบ้าง โดยพยายามที่จะฟังองค์ประกอบของคนที่จะมาสื่อสภาวะ ค่าของเงินนี้ไม่มีค่าเลย แต่ค่าของอาหารไม่มีมาก อย่างนี้เป็นต้น หรือรายได้ของอาวุธทำลาย คู่นี้ยิ่ง เยี่ยมยอดมากเลยคู่นี้ รายได้ของอาวุธทำลาย กับการเสียสละพืชพันธุ์ธัญญาหาร ไม่ใช่อาวุธนะ (พ่อครูไอตัดออกด้วย) สมณะฟ้าไท… เรื่องนี้พ่อครูเอามาให้พวกเราได้ดูว่า อาหารกับเงิน คนโลกีย์เลือกเงินก่อน กล้วยตก 1 หวีกับเงิน 100 บาท เขาจะหยิบเงิน 100 บาทก่อน พ่อครูว่า… 5 บาท 10 บาทสิ เทียบกับกล้วย 1 หวี ถ้า 100 นึง แน่นอนเขาต้องเก็บ 100 บาทเพราะมันสูงกว่า แต่ถ้า 5 บาท 10 บาทก็เก็บ 5 บาท 10 บาทก็ไม่เก็บกล้วยหรอกกล้วยมันราคากว่า 5 บาท 10 บาทนะ สมณะฟ้าไท… กล้วย 1 หวีละ 30 40 บาท พ่อครูว่า… เขาเห็นธนบัตรดีกว่า ก็เคยพูดของที่ทิ้งขว้าง ไม่รู้ชิ้นนั้นชิ้นนี้เละเทะ เดินผ่านเฉย แต่ถ้าธนบัตร 5 บาท 10 บาทวางอยู เก็บทุกคน เด็กก็เก็บ ผู้ใหญ่ก็เก็บ แต่ของเหล่านั้นไม่มีคนช่วยเก็บ นี่แหละคือคนไม่รู้จักค่าเงิน ค่าของสิ่งที่สำคัญ อาหารเป็นหนึ่งในโลก พระพุทธเจ้าท่านตรัส โดยเฉพาะ กวฬิงการาหาร แล้ว กวฬิงการาหาร อาหารคำข้าวที่ใส่เข้าไปในปาก คนฝรั่งก็กินขนมปัง คนไทยก็กินข้าว คนอีสานกินข้าวกับปลาแดก คนไทยเขาไม่กินปลาแดกเท่าไหร่ แล้วพระพุทธเจ้าก็สอน กินคำข้าวนี่แหละจะเกิดกิเลส ด้วยผัสสะ ด้วยเจตนา ด้วยวิญญาณโง่ๆ ให้ศึกษาด้วยรูปนามซะ วิญญาณนี้ศึกษาด้วยรูปนามว่ามันโง่ยังไง มันถึงเกิดตัณหา มันถึงเกิดเวทนาจึงไปติดยึดอยู่ ผัสสะเข้าไปดูเวทนาเป็นสุขเป็นทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ เจตนาก็อยากได้สมตัณหา อย่างนี้สุข อย่างนี้ไม่เอา อย่างนี้ทุกข์ มีผลักดูด อะไรอย่างนี้ _สู่แดนธรรม… รายได้ของอาวุธที่ทำลาย นี่คือค่าของรายได้ใช่ไหมครับ พ่อครูว่า… ใช่ เสียสละพืชพันธุ์ธัญญาหาร ก็กำลังขยายความ คนมันหลงรายได้ที่ได้จากอาวุธ นึกว่ามันยิ่งใหญ่ นึกว่ามันเป็นเรื่องประเสริฐเรื่องเลอเลิศอะไร ที่จริงแล้วมันยิ่งชั่วมันยิ่งโง่มันยิ่งบาป ที่สร้างอาวุธขึ้นมาฆ่าคนได้เก่งอย่างไรมันก็ยิ่งบาปเท่านั้น ส่วนพืชพันธุ์ธัญญาหารนั้น มันเป็นเรื่องหนึ่งในโลกที่มนุษย์ทุกชาติ ทุกประเทศ ทุกภาษา ทุกคนต้องกินพืชพันธุ์ธัญญาหาร แล้วสร้างแล้วเสียสละ ไม่พยายามที่จะเอาเปรียบพยายามที่จะให้หรือขายแลกเปลี่ยนด้วยราคาที่ถูกหรือให้ฟรี เหมือนอย่างชาวอโศกที่เราทำ ฉะนั้นความแตกต่างระหว่างเงินกับอาหารก็ดี ความแตกต่างระหว่างค่าของรายได้จากการขายอาวุธหรือการเสียสละอาหารของมนุษย์ ค่าของรายได้จากอาวุธ กับค่าการเสียสละอาหารของมนุษย์ มนุษย์สร้างอาหารแล้วก็เสียสละ ไม่ใช่มานั่งเอาเปรียบนะ หรือขายแพง แต่สร้างอาวุธนี้สร้างขึ้นมาให้ขายราคาแพงๆๆๆ แล้วเอาไปฆ่าคน พืชพันธุ์ธัญญาหารนี้ ให้คนมีชีวิต แล้วเสียสละให้ด้วย มันย้อนกันคนละข้าง กลับกันเลย ชาวอโศกเข้าใจไหม ชาวอโศกสร้างอาวุธไหม มีรายได้จากอาวุธไหม …ไม่มี แม้แต่ไม้กลัดเอาไปแทงเขา ก็ไม่ได้ทำไม้กลัดเอาไปแทง อย่าว่าแต่จะไปสร้างดาบเลย _สู่แดนธรรม… พวกเราขายแต่มีดที่ทำสวนเท่านั้นเองครับ พ่อครูว่า… เขาเอาไปใช้ผิด ให้ไปทำสวนแต่เขาเอาไปฆ่ากัน มันก็ใช้ผิดประเภท บาปอีกเหมือนกัน ใช้ผิดประเภท เพราะฉะนั้น ผู้ที่มีอาชีพสูงสุดในโลกคือ ผู้สร้างพืชพันธุ์ธัญญาหาร พืชพันธุ์ธัญญาหาร มีค่าสูงกว่าเอาสัตว์มากิน เพราะฉะนั้นคนที่เอาสัตว์มากิน ไปล่าสัตว์มากิน ยังบาป มีวิบากอะไรอีกเยอะ แล้วไม่ประเสริฐเลย มันไม่ใช่อาหารของคนด้วย เป็นอาหารโง่ เนื้อสัตว์ ฉะนั้นผู้ที่ถึงขั้นไม่กินเนื้อสัตว์ เข้าใจในสัจธรรม จิต เจตสิก รูป นิพพาน เข้าใจถึงกรรมวิบาก เข้าใจถึงพลังงานของจิตวิญญาณ ที่มีความอาฆาตพยาบาทเคียดแค้น ทำลายกัน จองเวรจองภัยกัน เพราะเรากินพืชพันธุ์ธัญญาหารมันก็เจริญแล้ว สบายแล้ว ไม่ตายแล้ว ไม่ตายกินพืชพันธุ์ธัญญาหารอย่างไรก็ไม่ตาย ไม่กินเนื้อสัตว์อย่างไรก็ไม่ตาย ดีไม่ดีกินแต่เนื้อสัตว์ไม่กินพืชพันธุ์ธัญญาหารนั้นอายุสั้น สั้นกว่าคนกินพืชพันธุ์ธัญญาหารด้วย นี่เป็นสัจจะวิทยาศาสตร์เขาก็ยืนยัน คนก็ยังโง่ไม่เสร็จอยู่นั่นแหละกินเนื้อสัตว์ แล้วก็ไปฆ่าสัตว์ ศีลข้อที่ 1 ของพระพุทธเจ้านั้นไม่ให้ฆ่าสัตว์ ลึกซึ้งถึงขั้นไม่ให้ค่าแม้แต่สัตว์เล็กสัตว์น้อย เพราะเป็นชีวะเริ่มเป็นชีวะเป็นจิตนิยามขึ้นมาตั้งแต่เซลล์เดียว จนกระทั่งถึงล้านๆๆๆ เซลล์ มาเป็นคน มันเป็นเรื่องที่มันเกิดมาแล้วในโลกเปลี่ยนตระกูลจากพีชะมาเป็นจิตนิยาม นี่เป็นการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า นักวิทยาศาสตร์ไหนก็คิดไม่ได้ มีนักวิทยาศาสตร์อย่างพุทธเจ้าที่ตรัสรู้เรื่องนี้ เป็นคนค้นพบ ซึ่งแม้แต่รางวัล Nobel prize ก็ไม่เข้าใจว่าพระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ ความรู้ที่สุดยอด เขาไม่มีภูมิ เขาเป็นเทวนิยม ชาวกรรมการของ Nobel prize เป็นเทวนิยม เขาไม่ใช่ชาวอเทวนิยม ไม่ใช่ชาวพุทธ เขาไม่รู้หรอกว่า ข้าวมันสูงสุดขนาดไหน คนไทยไม่เป็นพุทธและมีโลกุตรธรรมเข้าใจโลกุตระอย่างที่อาตมาพูด งานที่สูงสุดคืองานสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารไปให้แก่มนุษยชาติให้แก่โลก นี่ถ้าเมืองไทยเจริญ ด้วย กสิกรแข็งขลังเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ไทยจะเรืองอำนาจเพราะไทยเป็นชาติกสิกรรม แท้จริงเลย ฉะนั้นเมืองไทยขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นนายก ตอนนี้นายกตู่ ไม่ว่าจะเป็นรองนายกจุรินทร์ กำลังพยายามที่จะช่วย กสิกร กสิกรรม ช่วยเรื่องเหล่านี้ และเริ่มเข้าใจพวกนี้แล้ว นายกก็เริ่มเข้าใจ รองนายกจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ก็เริ่มเข้าใจ เพราะฉะนั้น ช่วย ตอนนี้ให้เพิ่มเติมตรงนั้นตรงนี้ อุดหนุน อย่าไปอุดหนุนด้วยเงิน การพัฒนาเศรษฐกิจนี้ เอาเงินเป็นตัวตั้ง เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจที่ล้มเหลว การพัฒนาเศรษฐกิจที่จะเอาเงินเป็นตัวตั้ง เอาเงินเป็นหลักประกัน เป็นความล้มเหลวของการพัฒนาเศรษฐกิจ ต้องสอนให้คนมาหัดจน จะเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ถาวร มั่งคั่ง ยั่งยืน เพราะชาวอโศกมีความมั่งคั่ง ประชาชนเป็นคนจนที่มหัศจรรย์ เป็นคนจนที่อุดมสมบูรณ์เป็นคนจนที่พออยู่พอกิน เป็นเศรษฐีเงินถังแต่สตังค์ไม่มี เป็นเศรษฐี เสฏโฐ แปลว่าผู้เจริญแต่ไม่ได้ยี่หระกับเรื่องเงินทอง มันประหลาด อาตมาว่า เมื่อกี้นี้ มีอันนี้มา ที่บอกว่า ชาวบ้านต่างๆที่ไม่ใช่ชาวอโศกเข้ามาหากินอยู่ในซาอุบลฯ เป็นซา ของอุบลฯ ชาวอโศกนี่คือ ซา รู้จักซาไหม ซา คือผู้ใหญ่ของทางตะวันออกกลาง เขาเป็น ซา พระเจ้าซาร์ นี่แหละคือ ซาอุบลฯ ซาอุ ไม่ใช่ ซาอุส เจ้าซาร์คือพระเจ้าแผ่นดินผู้ยิ่งใหญ่นะ ที่บอกว่าชาวบ้านเขาร่ำลือว่าเราร่ำรวย จริงๆเลยนะมันเป็นเรื่องลึกซึ้ง เป็นเรื่องสิริมหามายาที่สุด พวกเรานี้จนที่สุด และจนด้วยความจริงด้วย ไม่ใช่พูดเล่น จนจริงๆแต่เรารวยจริงๆ เป็นสิริมหามายาอย่างยิ่งกว่านักมายากล จนจริงๆแต่รวยจริงๆ ยิ่งกว่ามายากล แต่เป็นสัจจะด้วย ใช่ไหมเราเป็นคนจนจริงๆ แต่เราอุดมสมบูรณ์ เราไม่ได้ขาดแคลน เราไม่ได้ไปเบียดเบียนใคร มีแต่เราเอื้อเฟื้อเจือจานแจกจ่ายคนอื่น นี่เป็นคุณสมบัติคุณธรรม คุณวิเศษ ของสัจธรรมพุทธ ของศาสนาพุทธของพระพุทธเจ้าค้นพบ แล้วเราก็นำมาศึกษาจนสำเร็จ ปฏิบัติได้ผลสำเร็จด้วย บรรลุอริยสัจจริงด้วย นี่คือสุดยอด คุณช่อทิพย์บอกว่า…ดิฉันพยายามอธิบายเรื่องคนจนมหัศจรรย์ ให้ชาวบ้านฟัง ชาวบ้าน..ไม่เข้าใจเลย.. พ่อครูว่า… เขาไม่เข้าใจหรอก เขาไม่ได้แกล้ง คนที่จนที่สุดคือคนที่รวยที่สุด พูดผิดพูดใหม่ได้นะ เหมือนในหลวง ร.9 ท่านตรัสว่า ขาดทุนของเราคือกำไรของเรา มาเอาแบบคนจน นี่เป็นเครื่องยืนยันว่า ท่านเป็นธรรมิกราชแท้ ตรัสอันนี้ แล้วอาตมาก็พูดเรื่องนี้สนับสนุนเรื่องนี้และพาทำเรื่องนี้ด้วย ในหลวงร.9 ไม่ได้พาคนมาจนแบบอาตมาหรอก แต่ท่านเข้าใจ ท่านตรัสจริง แต่ท่านไม่ได้อยู่ในฐานะที่ทำได้เหมือนอาตมา แต่อาตมานี้ทำสำเร็จ มีปรากฏการณ์จริงได้จริง มาพาคนมาจนได้จริง แต่ในหลวงท่านยังไม่ได้อยู่ในฐานะที่ท่านจะทำได้ แต่ท่านเป็นโพธิสัตว์ที่เริ่มเข้าใจแล้ว สมณะฟ้าไท… แสดงว่าโพธิสัตว์ระดับ 7 ขึ้นไป จึงพาคนมาจนได้ พ่อครูว่า… ใช่ ระดับ 7 ถึงจะเริ่มมีพลังงาน มีประสิทธิภาพ ที่จะสามารถทำความจริงอันนี้ได้ เพราะฉะนั้น คนเราไม่รู้จักค่าหรือราคาหรือคุณค่าที่แท้จริง ไปยินดีในรายได้การขายอาวุธ แล้วก็ได้รายได้เป็นธนบัตร Bank Note ซึ่งเป็นเศษกระดาษปั๊มตัวเลขเฉยๆ มันไม่ใช่เป็นกล้วยลูกนึง เป็นข้าวกำมือหนึ่ง ข้าวทัพพีนึง มันไม่ใช่เลย ข้าวทัพพีหนึ่ง กล้วยลูกหนึ่ง มีค่ากว่าธนบัตรใบละ 1,000 ใบละหมื่น มีค่ากว่าเยอะ _สู่แดนธรรม… แต่ถ้าเขาก็จะเถียงได้ว่า เงินทองนี่แหละคือแก้วสารพัดนึกที่จะบันดาลกล้วยก็ได้ พ่อครูว่า… เถียงได้ มันคือสังคมคนโง่เขาทำกัน สังคมชาวอโศกนี้เอาเงินมาซื้อพวกนี้ไม่ได้ สมณะฟ้าไท… เวลาน้ำท่วมมีเงินก็ไม่มีอาหารกิน ต้องรอเอาไปแจก พ่อครูว่า… น้ำท่วมนี้ชาวบ้านเขาไม่ได้เป็นชาวอโศกเขาไม่มีจะกิน แต่บ้านราชนี้น้ำท่วมมากกว่าเขามีอาหารไปแจกเขา นี่คือความวิเศษ ความมหัศจรรย์ของสังคม ที่ดูพิลึกพิลึกคือ ประหลาด มันทวนกระแส ปฏิโสตัง แล้วมันยังไง รวย แล้วบอกว่าจน จนจริงๆ ไม่ได้พูดเล่น ไม่ได้โกหก ไม่ได้มาหลอกลวงอะไร สมณะฟ้าไท… จนแต่เปิดตลาดอาริยะขายของขาดทุน พ่อครูว่า… นี่ก็จะเปิดตลาดอาริยะปีใหม่จะขาดทุนสัก 10 ล้าน เป็นเรื่องจริงก็พูดไปแล้ว ไม่ได้พูดเล่นพูดจริงๆ เราไม่ได้ทำหลายปี มีเงินเหลือ _สู่แดนธรรม… พ่อท่านเคยพิสูจน์ว่าพวกเราแต่ละคน เอากระเป๋าตังค์มาเปิดดู เงินซิ ว่า มีเงินเท่าไหร่ พ่อครูว่า… บอกเขาสิ เอาชาวบ้านมา ควักเงินจากกระเป๋า ชาวบ้านจะมีมากหรือชาวอโศกจะมีมากกว่ากัน พิสูจน์ได้เลย _สู่แดนธรรม… นี่แหละคือ ชาวอโศก จนจริงๆ พ่อครูว่า… ใช่ จริงๆ ไม่ได้พูดหลอกลวง ไม่ได้มาแกล้ง ไม่ได้พูดเอาโก้ เอาเท่เอางาม เป็นเรื่องจริง เป็นเรื่องสุดยอด ฉะนั้น ธรรมะของพระพุทธเจ้าจึงเป็นธรรมะที่สุดยอดจริงๆ โลกจะเข้าใจ อย่างเทวนิยมเขาจะไม่เข้าใจอย่างที่อาตมาเอาของพระพุทธเจ้ามาพูดมาอธิบาย สุดยอดเลยนี่ ฉะนั้นเมืองไทยจึงมีเมืองเดียว ขอยืนยันว่ามีประเทศเดียว ประเทศไทยประเทศเดียวในโลก ที่ชัดเจนในเรื่องคนจน แล้วผู้บริหารประเทศเป็นรัฏฐาธิปัตย์ของประเทศ พระเจ้าแผ่นดินมีภูมิธรรมเข้าใจคนจน เอาแบบคนจน มาเป็นผู้ขาดทุน คนขาดทุน ขาดทุน ขาดทุน ขาดทุน And the ขาดทุน แล้วมันจะไปรวยได้อย่างไร ใช่ไหม เด็กๆเข้าใจไหม คนที่มีแต่ขาดทุน ขาดทุน ตัวเองขาดทุน คนๆนี้จะรวยไหม ไม่มีรวยหรอก แล้วก็ไม่มีปัญหา แม้จะขาดทุนก็อยู่ได้อย่างอุดมสมบูรณ์ นี่เป็นภาษาสิริมหามายาแล้ว อ้าว ก็จนทำไมมีอุดมสมบูรณ์ อุดมสมบูรณ์พืชพันธุ์ธัญญาหารน่ะ แล้วพืชพันธุ์ธัญญาหารนี่นะขายแพงไม่ได้ เพราะคนจนในโลกมันมีมากกว่าคนรวย คนรวยนี่ ข้าวกระสอบละล้าน คนรวยมันก็ไม่เดือดร้อน แต่ถ้าขายข้าวกระสอบละ อย่าว่าแต่ล้านเลย ขายกระสอบละหมื่น คนจนตายเกลี้ยงเลย เพราะฉะนั้นต้องขายให้ถูกเข้าไว้ เพื่อคนจนจะได้มีชีวิตจะอยู่ได้ด้วย ข้าวไม่ใช่สินค้า จริงๆแล้ว…. ข้าวเป็นอาหารที่ต้องแบ่งปันกันกิน แต่เอาเถอะจะค้าจะขายก็ขายให้ราคาถูกๆ เพราะฉะนั้น ในสังคมประเทศไทยขณะนี้ ไม่ว่านายกหรือรองนายก ส่งเสริม เกื้อกูล ระวังแต่ชาวนาจะผิด จะเข้าใจผิดตรงที่ว่า อย่างไรรัฐบาลก็ช่วยเรา เราก็เลยขี้เกียจ เราก็ไม่ขวนขวาย เราก็ไม่ได้พยายามทำให้เจริญ อย่าทำอย่างนั้นนะ ชาวนาเอ้ย พยายามจะเข้าใจได้ว่าหนี้ชาวนารัฐบาลเห็นใจแล้วนะ จงดีใจเถอะ รัฐบาลเห็นใจชาวนา ถูกแล้ว อย่าไปเห็นใจพวกนักเศรษฐกิจ นายทุนที่เขาเองเขา ตอนนี้เขาจนลงแล้วนะเขาขาดทุนไป ให้มันขาดทุนไปเยอะๆบ้าง นั่นคือการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ให้คนรวยจนลง นี่คือการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ตามในหลวงรัชกาลที่ 9 ตรัสไว้ว่า ต้องพัฒนาบริหารประเทศด้วยวิธีแบบคนจน ฟังให้เข้าใจ ไปบริหารส่งเสริมให้คนรวยนี่ผิด จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยการทำให้คนรวยมันผิด ไม่มีทางแก้เสร็จเลย โลกแตกไปพันโลก หมื่นโลก ก็ไม่เสร็จ แก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยการทำให้คนรวย อยากทำให้คนเป็นคนจนสำเร็จ อย่างคนชาวอโศกนี้เป็นคนจนสำเร็จรูปแล้ว เป็นคนจนสมบูรณ์แบบสบาย อิสระ สบาย สงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส มีใจเกื้อกูล คนจนมีใจเกื้อกูล คนจนมีประโยชน์ นี่ ราชธานีอโศกนี้ ซาอุบลฯ คนมาทำงานที่นี่ คนชาวบ้านชาวช่องมาทำงานที่นี่ เอาเงินจ่ายไป ทำไป จ่ายไป ราไม่ได้ไปหาเงิน เขาก็เห็นว่าที่นี่มันรวยอย่างไร มันเอาเงินมาจากไหน สมณะฟ้าไท… ถึงปีใหม่ก็มีโบนัสข้าวสาร อาหารแห้ง แจกอีก พ่อครูว่า… ใช่ มันเอาเงินมาจากไหน ? มันก็ไม่ได้เที่ยวไป วัดวาก็ไม่เคย นี่ จัดงานแล้วก็จะได้มาทำทานบริจาค ไม่ได้ทำเลย ที่นี่มันยังไรมันเป็นพุทธหรือเปล่า ไม่เคยจัดงานหาเงินจากเหมือนที่อื่นๆเลย ปิดทองลูกนิมิต ทำไมมันไม่ทำเหมือนวัดวาอื่นเขาบ้าง ไม่ทำ ไอ้นั่นมันผิดไปจากศาสนาพุทธแล้ว มันเป็นบาป ปิดทองลูกนิมิต อย่างที่อาตมาพูดไปแล้ว สมณะฟ้าไท… แถมน้ำท่วมเยอะด้วย พ่อครูว่า… น้ำท่วมแล้วก็ยังมาอยู่ อยู่แล้วก็ บูรณะให้อุดมสมบูรณ์มีเหลือแจกจ่ายคนอื่นได้ด้วย สิ่งนี้เป็นความประเสริฐ เป็นความฉลาด ชาวอโศกฉลาด ประเสริฐ อยู่ในที่ที่คนอยู่ยากได้ แล้วก็อยู่อย่างอยู่รอด อยู่อย่างเหลือเฟือแจกจ่ายเจือจานเกื้อกูลผู้อื่นได้ นี่เป็นคุณสมบัติหรือเป็นความเจริญ เป็นความประเสริฐ ที่มีประสิทธิภาพ ย้อนแย้ง กับคนในโลกที่เขานึกว่าเขาฉลาด ไปหาทางรวย ไปหาทางสร้างเศรษฐกิจให้คนรวย คนจะรวยนี่เขาคิดว่า การรวยคือการมีเงินมาก ไม่ใช่มีพืชพันธุ์ธัญญาหารมาก หรือไปมีอาวุธ สร้างอาวุธได้เก่ง แล้วก็ขายได้ราคาแพง ก็เลยได้เงินมาก นั่นคือคนรวย ฉะนั้น คนที่สร้างอย่างนั้น ดำเนินชีวิตอย่างนั้น เป็นการดำเนินชีวิตไปทางบาป นี่อาตมาพูดสัจธรรมนะ เป็นบาปจริง ไม่ใช่อาตมาไปขี้ตู่เขา น่าสงสาร เขาไม่รู้ เขานึกว่ามันเป็นประสิทธิภาพ เป็นประสิทธิภาพ เราสร้างอาหาร ถ้าประเทศไทยประเทศเล็กๆนี่แหละ สร้างอาหารได้มากทั้งคุณภาพและปริมาณ มากจนกระทั่งเป็น การ Export เป็นสินค้าออกให้แก่ประเทศอื่นๆได้กิน ประเทศไทยเรามีอยู่มีกินกันเหลือเฟืออุดมสมบูรณ์สบายแล้ว ยิ่งกว่าน้ำมัน ประเทศที่มีน้ำมัน แล้วก็ขายได้เงินมาเลี้ยงประเทศ มีโถทองคำ เช่น บรูไน อย่างนี้เป็นต้น ไม่เท่าไหร่เลย แต่สร้างอาหาร สร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารนี่ขึ้นมา แล้วในประเทศก็อาศัยกินกัน อุดมสมบูรณ์ อิ่มหนำสำราญหมดแล้ว ขายออกราคาถูก ไล่แจกประเทศต่างๆ มีทูตไปดูประเทศนั้นประเทศนี้ แล้วส่งข่าวดูซิ ประเทศนี้วัดแล้วควรจะแจกจ่าย ควรจะส่งพืชพันธุ์ธัญญาหารไปให้แก่ประเทศนั้น ประเทศนั้น เกื้อกูลเขา พึ่งตนเองรอด มีเหลือเฟือ เสียสละเกื้อกูล นี่เป็นสุดยอดมนุษย์ แล้วไม่ต้องไปสำคัญในเรื่องธนบัตรเรื่องเงินเรื่องทองเรื่องทองคำ เรื่องเพชร ก็ไม่ต้อง มันกินเพชรไม่ได้หรอก มันกินทองคำไม่ได้หรอก มันต้องกินพืชพันธุ์ธัญญาหาร อาหาร กวฬิงการาหาร เป็นหนึ่งในโลก พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงอันนี้ _สู่แดนธรรม… พ่อท่านเคยพูดว่า ถ้าประเทศไทยเราทำได้อย่างนี้ ประเทศอื่นจะไม่กล้ามาทำสงครามกับเราเลย พ่อครูว่า… ใช่ คุณพูดอันนี้ว่าจะเข้าประเด็นอันนี้ก็ไม่ถึง ขี่ม้ารอบค่ายอยู่ ถ้าเราทำอาหารแจกจ่ายประเทศไหนๆ คนเขามาฆ่าเรา จะเอาอาวุธมายิงเราให้ตาย แต่ประเทศเราก็ยืนยันสร้างอาหารนี่แหละ ให้ แจกจ่ายมนุษย์ไปทั่ว ต่อไปคนอื่นจะรู้ว่าเรานี่เป็นประเทศพลาธิการ เป็นสิ่งที่คนจะต้องอาศัยอาหารการกิน เป็นสินค้าออกของโลก เขาจะช่วยป้องกันหมดแหละ โดยเราไม่ต้องมีอาวุธเลย ไม่ต้องเสียเงินซื้ออาวุธเลย สร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารนี่เป็นธรรมาวุธ แจกจ่ายชาวโลกเขา ประเทศเล็กๆนี่แหละ แจกจ่ายไปเถอะ แม้เราขายราคาถูก เป็นสินค้าส่งออกประเทศไหนเราก็ขาย เดี๋ยวนี้ยิ่งโลจิสติกส์ไว ส่งได้ อีกหน่อยก็มีรถไฟส่งของไปไหนได้เยอะแยะเลย พูดไปเวลามันหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ อร่อย พูดไปสนุก สมณะฟ้าไท… นี่ ขนาดพ่อครูเริ่มต้นบอกว่าเมื่อยนะ ถ้าไม่เมื่อยจะขนาดไหน แต่สิ่งหนึ่งที่พ่อครูว่า จะเข้าใจบัญญัติศาสนาพุทธมันไม่ใช่ง่ายจริงๆ ถ้าไม่มีสภาวะจริงๆ Categories: ธรรมะพ่อครู, ศาสนาBy Samanasandin23 ธันวาคม 2022Tags: พุทธศาสนาตามภูมิวิถีอาริยธรรม Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:651221 ลักษณะอันสูงสุดของมนุษยชาติ 7 ประการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชNextNext post:651226 รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 8 พ่อครูพบ คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรมRelated Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024