651216 ทศพิธราษฎรธรรมมีจริงในชาวอโศก พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช
ดาวโหลดเอกสารที่
https://docs.google.com/document/d/1nu0aG4rhrBlTpn4IENM1sksLS-Xj6WuZUajzQip0gIU/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1MQ5nbc99Ebr21zFW7fpVymfEclwxOBml/view?usp=share_link
ดูวิดีโอได้ที่ https://youtu.be/w-CZ7saXAHc
และ https://fb.watch/hs7ZCMRu8Z/
สมณะฟ้าไท… วันนี้วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก แรม 8 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ตอนนี้เราก็ใกล้งานตลาดอริยะเข้าไปทุกที เหลืออีกประมาณ 2 อาทิตย์ เขาก็มีตารางทำงานออกมาแล้ว เป็นการบำเพ็ญคุณบำเพ็ญธรรมเพื่อฟ้าดิน
ตารางงาน “บำเพ็ญคุณ-บำเพ็ญธรรม เพื่อฟ้าดิน”(สอบ ว.บบบ.) ปี ๒๕๖๖
ณ บ้านราชเมืองเรือฯ วันอาทิตย์ที่ ๒๕ ธันวาคม – วันศุกร์ที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๕
รายการวันที่ |
ทวช. ๐๔.๐๐ -๐๕.๓๐ น.ตีระฆัง ๓.๔๕ น.สวดมนต์ ๔.๐๐ น. |
บำเพ็ญคุณ๐๖.๓๐ – ๐๘.๓๐ น. |
พุงยิ้ม ๐๙.๐๐ -๑๒.๐๐ |
ประชุมหรือพบสมณะสิกขมาตุประจำกลุ่ม๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐น. |
บำเพ็ญคุณ๑๓.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. |
พักผ่อน๑๖.๐๐ – ๑๘.๐๐น. |
รายการภาคค่ำอาคาร เฮือนศูนย์สูญ๑๘.๐๐ – ๒๐.๐๐น. |
อาทิตย์ที่๒๕ธันวาคม |
ลงทะเบียน ผู้เข้าสอบ ว.บบบ. พร้อมจัดเข้ากลุ่มตั้งแต่วันที่ ๒๐ – ๒๕ ธ.ค.๒๕๖๕ ที่ชั้น ๑ เฮือนศูนย์สูญ |
ปฐมนิเทศ ว.บบบ.พบสมณะ-สิกขมาตุประจำกลุ่ม |
|||||
จันทร์ที่๒๖ ธันวาคม |
บำเพ็ญธรรมทวช.โดยสมณะสิกขมาตุ |
บำเพ็ญคุณตามกลุ่ม |
รับประทานอาหาร |
ประชุมหรือพบกลุ่ม |
บำเพ็ญคุณตามกลุ่ม |
ธรรมเทศนาโดยพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ |
|
อังคารที่๒๗ ธันวาคม |
ธรรมเทศนาโดยพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ |
||||||
พุธที่๒๘ ธันวาคม |
ประชุมเตรียมความพร้อมตลาดอาริยะ |
||||||
พฤหัสฯที่๒๙ ธันวาคม |
เตรียมตลาดอาริยะ |
เตรียมตลาดอาริยะ |
เตรียมตลาดอาริยะ |
พักผ่อน |
เชิญร่วมปฏิบัติธรรมข้ามปี ทำชีวิตให้พ้นภัย ๕* ในงาน“ตลาดอาริยะ” ปีใหม่ ๒๕๖๖
ณ บ้านราชเมืองเรือ วันศุกร์ที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๕ – วันอาทิตย์ที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๖
(พ้นภัย ๕* = มรณภัย ; ทุคติภัย;ภัยจากการทำมาหากิน; ภัยจากการถูกนินทาว่าร้าย และภัยเกิดจากความครั่นคร้ามในการเข้าสู่ที่ประชุม)
รายการวันที่ |
บิณฑบาต๐๖.๐๐ –๐๗.๓๐ น. |
กิจกรรมในงาน๐๗.๓๐ –๑๖.๐๐ น. |
พักผ่อนตามอัธยาศัย๑๖.๐๐ – ๑๘.๐๐ น |
รายการภาคค่ำที่เวทีอาคารบวร๑๘.๐๐ – ๑๙.๓๐ น. |
|
ศุกร์ที่๓๐ ธ.ค. ๖๕ |
พักผ่อน |
งดบิณฑบาต |
วันที่ ๓๐ ธ.ค. เปิดตลาดอาริยะ เวลา ๐๗.๓๐ น.๑. ตลาดอาหาร เปิดขาย ๐๖.๓๐ – ๑๕.๓๐ น.๒. ตลาดอาริยะ เปิดขาย ๐๘.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. |
สัมภาษณ์ปฏิบัติกร“ความมั่นคงทางอาหาร” |
|
เสาร์ที่๓๑ ธ.ค. ๖๕ |
สืบทอดพุทธประเพณีบิณฑบาตด้วยอาหารมังสวิรัติ ๒ สาย ที่หน้าอาชีวะ กับ หน้าน้ำตก |
ฟังธรรมจากพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ “ส่งท้ายปีเก่า” |
|||
อาทิตย์ที่๑ ม.ค ๖๖ |
ฟังธรรมจากพ่อครู สมณะโพธิรักษ์“ต้อนรับปีใหม่” |
หมายเหตุ วันที่ ๓๐ ธ.ค ๖๕ เวลา ๐๗.๓๐ น. ผวจ.อุบลราชธานี เปิดงาน “ตลาดอาริยะ ปีใหม่ ๒๕๖๖”
บำเพ็ญคุณ – บำเพ็ญธรรม ๒๖ – ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๕ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
_ผู้ใหญ่ให้มาลงทะเบียนแบ่งกลุ่มคละบวร ชุมชน ให้กระจายตัวตามกลุ่มต่างๆเพื่อให้ได้ฝึกปฏิบัติธรรมร่วมกัน ส่วนเด็กนักเรียนไม่ต้องลงทะเบียน ให้ทีมงานการศึกษาแบ่งกลุ่มมาเลย เวลาทำงานบำเพ็ญคุณก็มารวมกับกลุ่มผู้ใหญ่
_การให้คะแนนกลุ่มเพื่อพัฒนาตน มี 4 ระดับ ได้แก่ 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ต้องปรับปรุง
ให้คะแนนตามตัวชี้วัด ๑.ตรงต่อเวลา ๒.สามัคคีพร้อมเพรียง ๓.งานสำเร็จ
พ่อครูว่า… ของเราสวดตามแบบพระพุทธเจ้าเลย สวดแล้วไม่อาบัติ ไม่ผิดมุสาวาทวรรคข้อที่ 4 ห้ามสวดใส่ทำนอง ลากเสียงอันยาวก็ผิด
เอา sms ก่อน
_เพื่อนสอน มุ่งสู่โลกุตตระ · กราบนมัสการ สัตบุรุษ และเจริญธรรม ลูกศิษย์สัตบุรุษ ทุกคน วันนี้ติดตามฟังมาแต่ต้น….# อยากจะแสดงความเห็นเกี่ยวกับการแสดงธรรมในแต่ละครั้ง…เห็นพ่อท่าน อ่าน SMS และให้ความสำคัญของ FC มากๆ…ในจุดนี้ เป็นความเห็นของส่วนตัวที่พ่อครูให้ความสำคัญ ก็ขอยกไว้
…..แต่ที่มากกว่านั้น ด้วยความเห็นส่วนตัว มีแนวคิดค้านแย้งอยู่หลายครั้ง อยากจะให้ แสดงความรู้ความเห็นโปรดปราน ลูกศิษย์ในยุคต้นๆ นั่นคือ ยุคตามหาญาติของกองทัพธรรม ลูกศิษย์หลายคน ทั้งที่เป็นราชการและเกษียณและแก่แล้ว ได้ถดถอยออกจากวงการอโศก เพราะเหตุปัจจัยหลายอย่าง คนเก่าแก่หลายคนรู้อยู่เต็มอกเรื่องเหตุปัจจัย แต่คนใหม่ที่เข้ามาอยู่ในวงการ ไม่มองประวัติศาสตร์ในการเจริญของราชธานีอโศก จึงทำให้เกิดการลักลั่น เกิดกำแพงไร้สภาพ ในการที่จะสมัครสมานและเข้ามาอยู่ในหมู่กลุ่มใหญ่ได้ คนเก่าแก่หลายคนที่เคยบุกเบิกสร้างราชธานีอโศก กลับมองข้ามไปเป็นประวัติศาสตร์ที่ตายแล้ว…
…..ข้อมูลใหม่ที่รับมา…พ่อครูก็เดินหน้าอย่างเดียวตามข้อมูลที่รับมา จึงทำให้ระบบสาธารณโภคี เดินเครื่องไม่ได้ไม่เต็มที่
……คนเก่าแก่ก็ไม่มี power ที่จะออกสิทธิ์ออกเสียงแสดงความเห็น…คงเกรงใจ ญาติมิตรคนสนิทของพ่อครู นี่คือ ทัศนะส่วนตนที่จับตามองมาตลอด(พ่อครูว่า..ก็เพราะไม่เข้ามาจึงไม่ได้มีสิทธิ์ออกสิทธิ์ออกเสียง )
….จุดบอดจุดที่ควรแก้ไข พ่อครูเคยเทศนาว่า อาตมาไม่อยากทำผิดจะพูดแต่ความจริง นี่คือข้อมูลที่น่าจะ ทำให้และสร้างศรัทธาใหม่สำหรับผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิยังไม่ตรง ให้ตรงขึ้นได้(พ่อครูว่า..เออ คุณเองนั่นแหละทำให้ตรงก่อน )
……ณ ตอนนี้ ราชธานีเป็นเมืองเปิดแล้ว คนที่เคยหลุดออกไปหรือห่างออกไป น่าจะกลับมาได้แล้ว มีคำพูดใดที่จะปลอบใจ ดึงดูดใจ สร้างแรงจูงใจ ให้เขากลับมาอยู่ในขอบเขต “พุทธบริษัท”ได้….ก็ขอกราบนมัสการความรู้สึกนึกคิดไว้แต่เพียงเท่านี้…สำนึกดีเสมอกราบนมัสการพ่อท่านด้วยความเคารพยิ่ง
พ่อครูว่า…มาเลยๆ คุณก็เข้ามาแล้วมาช่วยกันไปมันได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น อาตมาเคยพูดแล้วก็บอกแล้วว่า อาตมาไม่เป็นคนที่ไปชอบรบเร้า ชอบหว่านล้อม อาตมาต้องการคนที่มีปัญญาของตนเองจริงๆว่าอะไรควร อะไรไม่ควร เมื่อผู้ใดเห็นควรจะเข้ามาเราก็เปิดประตูรับอยู่คนเก่า คนที่มีพื้นฐาน คนที่มีศีล 5 ศีล 8 ได้แล้วยิ่งดีใหญ่ก็ไม่เข้ามาเอง ฟุ้งซ่านออกไปเอง ถูกโลกดึงไปเอง คุณตกต่ำเอง
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเลยว่าหมู่กลุ่มนี้ เป็นทั้งหมดทั้งสิ้นของพรหมจรรย์ไม่ใช่ครึ่งเดียวด้วย หมูกลุ่มที่ดีนี้ เพราะฉะนั้นควรจะเข้ามาอยู่ในหมู่กลุ่มที่ดีนี้ จะไปห่างๆอยู่ทำไม
ถ้าแค่นี้เข้าใจไม่ได้ คุณก็ไม่ได้เข้าหมู่กลุ่ม
_นิราศ แสงดี · กราบนมัสการครับ ผมติดตามฟังเทศน์ประจำ ได้นำไปฝึกลดละ อบายมุข ชีวิตมีความสุขขึ้นครับ
พ่อครูว่า…ดีมาก ได้เรื่องอบายมุข แล้วจากนั้นก็เป็นเรื่องกามเรื่อง ปฏิฆะ จนหมดกาม หมดราคะ หมดปฏิฆะแล้ว ก็เข้าไปสู่ภูมิอนาคามีภูมิ รูปราคะ อรูปราคะ และสังโยชน์เบื้องสูงต่อไป
_แก้วตะวัน พวงบุบผา · น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพบูชาศรัทธายิ่งค่ะ…คำตอบของพ่อครูเรื่องเป็นสมณะแล้วไม่พูดทางโลกนั้น พ่อครูตอบแบบชัดๆว่าเราอยู่ในโลกก็ต้องพูดเรื่องทางโลก ไม่ใช่อยู่นอกโลกอยู่ดาวดวงอื่นจะได้พูดเรื่องนอกโลก…ขนาดพ่อครูพูดเรื่องในทางโลก คนในโลกยังเข้าใจแค่นี้ เป็นกลุ่มชนชาวอโศกกลุ่มเล็กๆถ้าเทียบกับคนส่วนใหญ่ในประเทศ แล้วยังมีคนที่ใจหยาบหนามากล่าวเพ่งโทษพ่อครู กล่าวดูถูก ถึงขั้นเหยียดหยาม..ลูกๆชาวอโศกฟังแล้วต้องตั้งสติและเงี่ยโสตสดับในสิ่งที่พ่อครูตอบขยายความทีละเปราะ ตามญาณปัญญาและความเมตตาที่พระโพธิสัตว์พึงมีต่อมวลมนุษยชาติ น้อมกราบขอบพระคุณพ่อครูที่ให้ความสว่างเพิ่มขึ้นในจิตวิญญาณของลูกค่ะ
พ่อครูว่า…ถูกต้องอาตมาก็ทำไปตามที่คุณว่ามาอยู่
คนที่มีสัมมาทิฏฐิแล้วจะเข้าสู่กลุ่มหรือมาไม่ได้ก็จะปฏิบัติตาม
_พิเชษฐ์ บุญวิรุณ (จางคลาย) · กราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพยิ่ง ผมเชื่อว่าพ่อครูเป็นของแท้ เป็นพุทธที่แท้จริง แต่กับพระสายอื่น ๆ นั้น ผมจะถือว่าเป็น “เขตบุญภายนอกศาสนาพุทธ” ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ไหมครับ?
พ่อครูว่า…ได้ อาตมาขอพูดชัดๆตรงๆอย่างนี้ว่าได้ เพราะถ้าสัมมาทิฏฐิแล้ว เขาจะเข้ามาเลย ไม่รอรั้ง เพราะว่าเห็นว่าอันนี้เป็นสิ่งที่ควรจะต้องเข้ามาใกล้ ตามคำสอนพระพุทธเจ้าเลย เมื่อเจอแล้วต้องเข้าใกล้ ต้องมาร่วมฟัง ต้องเข้ามาเป็นหมู่กลุ่ม รับรู้ภาคปฏิบัติแล้วก็ปฏิบัติร่วมกันไปแล้วมันจะเจริญ
-
ถ้าไม่มีอินทรีย์พละถึงขนาดนั้น ไม่มีบารมีถึงขนาดนั้นก็จะตั้งใจฟัง แม้เดี๋ยวนี้สื่อสารออกไปไกล ทำให้คนมักง่าย เราใช้สื่อสารออกไปทางโทรทัศน์ทางสื่อสารอะไรต่ออะไรพวกนี้ ก็ได้ มันก็ช้ากว่าแหละมันก็ได้น้อยกว่าแหละ ก็ถ้าเข้ามาเลยมันชัดกว่า และร่วมมาจะเกิดปัญญา 8 อย่างชัดเจนเลย เพราะฉะนั้นเข้ามานี่มันก็จะได้เข้ามาสู่หมู่กลุ่มจะได้ชัดเจนในเรื่องความสงบ 2 ประการลึกซึ้งขึ้น
ความสงบ 2 ประการนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดานะ มันเข้าใจไม่ได้ง่ายๆนะจะเกิดความสงบของพระพุทธเจ้านี้ สงบของพระพุทธเจ้าต้องเป็นโลกุตระ ความสงบของพระพุทธเจ้านั้นกายกรรมยิ่งแคล่วคล่อง วจีกรรมยิ่งคล่องแคล่ว เพราะกิเลสมันหมดฤทธิ์ กิเลสมันไม่มีฤทธิ์ลงไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นความแคล่วคล่องของกายกรรมวจีกรรมจะเพิ่มขึ้น
ไม่ใช่เข้าใจว่ายิ่งสงบยิ่งนั่งบื้อนั่งแข็งไม่พูดไม่จาเป็นหลวงพ่อเกษมอย่างนี้เป็นต้น นั่งเฉยๆ ใครมานั่งมองเพ่งอยู่ทั้งวัน ก็ไม่พูดไม่จาอะไรเลย มันมิจฉาทิฏฐิไปไกลมันผิด โดยเฉพาะไปสายนั่งหลับตา สายออกไปนั่งบื้อๆ อย่างหลวงพ่อเกษมที่ว่านี้ ไปป่าช้า สุสานไตรลักษณ์
อาตมาไม่ได้เกลียดชังคนที่ยกตัวอย่างมาที่เขาทำผิดๆนะ ไม่ว่าจะเป็นทักษิณหรือธัมมชโยหรือหลวงตาบัว หรือพูดถึงหลวงพ่อเกษมอย่างนี้เป็นต้น ไม่ได้ไปชิงชัง แต่สงสาร เข้าใจเห็นใจ ก็ต้องช่วยกัน จะตำหนิก็ต้องตำหนิสิ่งที่ผิด
_หนึ่ง ความฝัน · ขอกราบนมัสการพ่อครูค่ะ อยากไปอยู่กับชาวอโศกแต่ยังเลิกทานเนื้อสัตว์ไม่ได้ ส่วนข้ออื่นๆไม่มีปัญหาเลยค่ะ ลูกจะทานมังสวิรัตได้เฉพาะช่วงเขากินเจเท่านั้นค่ะ
พ่อครูว่า…ถ้ามาที่นี่ เอาเนื้อสัตว์มากินไม่ได้ สายตาเพ่งคุณ รับรองว่าคุณอยู่ได้ไม่กี่วันหรอก สายตาเหล่านี้มีพลังนะ มีแสงโง้วกวง ทำเป็นเล่นไปนะ
_ช่อทิพ หนูทอง · พ่อครูใจกว้างมาก รับฟังทุกความเห็น
พ่อครูว่า…ไม่เห็นจะต้องไปปิดบัง ใครจะว่าอะไรมาก็รับฟังทั้งนั้นแหละ ด่าหนักๆหนาๆ ก็ฟังได้ หากพอจะทำความเข้าใจเขาได้ก็ทำ ทำความเข้าใจเขาไม่ได้ก็ปล่อยไปก่อน มันสุดวิสัยก็จำเป็นต้องผ่านไป อะไรอย่างนี้
_ศรีนวล อินปล้อง · รับฟังและปฏิบัติตามพ่อท่านกระจ่างขึ้นมาเลย ลูกเดินทางผิดกับศาสนาพุทธมานาน หลงทำอาหารเนื้อสัตว์ใส่บาตรมันเป็นบาป พอมาฟังหมอเขียวกับท่าน ลูกก็ปฏิบัติตัวใหม่ ลดกิเลสทีละเรื่อง ทีละตัว จะเลิกเนื้อสัตว์และศึกษาธรรมมะตามพ่อครูและหมอเขียวตลอดชีวิตเลยค่ะ
พ่อครูว่า…ก็ไม่ใช่คุณเท่านั้น มีเยอะที่เดินทางผิดนะ แม้เดี๋ยวนี้ก็มีเดินทางผิดมากกว่ามาก อาตมาไม่ได้อวดดี แต่พูดตามความเป็นจริง สงสารแต่ก็ไม่รู้จะทำอะไรก็ได้แต่พูดความจริง ใครจะบอกว่าอาตมาว่าคนอื่น แล้วยกตัวว่าดีกว่า ของคนอื่นผิดหมดเลย กลุ่มใหญ่มโหฬารก็ผิด
อาตมาขอยืนยันว่ากลุ่มใหญ่นั้นผิด มีกลุ่มเล็กกลุ่มอโศกเท่านั้นที่ถูก ก็พูดความจริงอย่างซื่อๆ ไม่ได้ไปเขินไปอาย ไม่ได้ไปเหนียมอะไรหรอก ก็จริงใจเต็มใจพูด
เนื้อสัตว์มันเป็น อกัปปิยะ เป็นสิ่งที่ไม่ควร เอาเนื้อสัตว์ไปถวายพระพุทธเจ้าหรือสาวกพระพุทธเจ้ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควร
_ป้ารัตน์ หนึ่งในธรรม · กราบนมัสการพ่อท่านที่เคารพอย่างสูง มีสิ่งดีเข้ามาชุมชน อุบลราชธานี ยกตัวอย่างตลาดประชารัฐ ก้าวไปอีกขั้น คงเป็นเพราะพ่อเป็นพระโพธิสัตว์ระดับ 8 มีกรรมรองรับตั้งแต่การเอื้อผู้ที่ทุกข์จากน้ำท่วม ให้พบสิ่งที่เขาคลายทุกข์ โดยมีการขายสินค้าเท่าทุน เป็นต้น ส่วนรายการทีวีก็มีอาจารย์ยักษ์มาร่วมรายการ ได้ฟังสิ่งดีๆ เกี่ยวกับ ร 9 ที่ไม่เคยได้มาก่อน กราบสาธุค่ะ
พ่อครูว่า…คงหมายถึงชุมชนราชธานีอโศกนี้
_ซึ้งซื่อ วิเชียร : กราบนมัสการ พ่อท่านด้วย สุดเศียรเกล้าครับ เนื่องในวันที่ ๕ ธ.ค ๖๕ ที่ผ่านมา ซึ่งเป็น วันพ่อ แห่งชาติ ผมขอกราบนมัสการ พ่อท่าน ด้วย
ความเคารพอย่างสูงยิ่งครับ ที่พ่อท่านได้ให้ความเมตตากรุณาสอนสั่งธรรมะให้ลูกได้มีชีวิตใหม่ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณได้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ จนทุก
วันนี้ลูกได้รู้จักสุขทุกข์ได้ดี และได้มีศีล ปฏิบัติ จรณะ๑๕ ได้ครับ ขอให้พ่อท่านได้
ปฏิบัติจนบรรลุธรรมขั้นสูงด้วยเถิด กราบนมัสการขอบพระคุณอย่างสูงยิ่งครับ
พ่อครูว่า…สำคัญนะ คนที่รู้จักสุขทุกข์ได้ดี สุขทุกข์มันเป็นมายา สุขทุกข์มันเป็นของเก๊ โดยเฉพาะตัวสุขนั่นแหละเป็นตัวมายาที่ร้ายแรง เรียนดีๆแล้วอ่านเวทนา อ่านความรู้สึก อ่านจิตที่มันเป็นเวทนา ความรู้สึก ที่เป็นความรู้สึกสุขทุกข์ เรียนรู้กาย เวทนา จิต ธรรม แล้วก็ทำเวทนาให้ไม่เป็นสุขเป็นทุกข์ให้ได้ นี่สรุปแล้ว
SMS วันที่ 12 – 13 ธ.ค. 2565
_ติ๋ม ศิริหาทับ · น้อมกราบนมัสการพ่อครูอย่างสูง.เป็นนิมิตหมายยิ่งที่อาจารย์อานนท์ได้มาเรียนความจริงให้สังคมได้ศึกษารู้ความจริงแท้ๆขอบคุณคะ
พ่อครูว่า…ดร.อานนท์ ก็ได้มาแจ้งความจริงเรื่องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เรื่องที่คนพูดผิด ก็เอามาทำให้มันถูกต้องด้วยหลักด้วยฐาน
สังคมใดที่ไม่มีกษัตริย์เป็นสังคมพิการ
_ใบฟ้า ธรรมะธารา นาวาบุญนิยม · ขอบพระคุณ อ.ดร.อานนท์ เป็นอย่างสูงค่ะ ท่านเป็นนักวิชาการฝ่ายคุณธรรมโดยแท้ ซาบซึ้งถึงความมุ่งมั่น ปกป้องพระเกียรติ ของพ่อหลวงร.9 และเทิดทูนสถาบัน หนังสืออันทรงคุณค่าเล่มนี้ ควรแก่การนำไปเผยแพร่ในทุกรูปแบบของการสื่อสาร ค่ะ กราบขอบพระคุณพ่อครูด้วยเศียรเกล้าฯที่ได้กรุณาให้สัมมาทิฏฐิ ตอกย้ำถึง ความเป็นจิตวิญญาณของ สถาบันกษัตริย์ ที่ต้องมี ในสังคมประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตยอย่างสัมบูรณ์ค่ะ
พ่อครูว่า… สถาบันกษัตริย์ต้องมี หากไม่มีสถาบันกษัตริย์ ท่านจะต้องเรียนรู้เพื่อสร้างทศพิธราชธรรมสร้างคุณธรรมที่ยิ่งใหญ่ ต้องทำ ของพระพุทธเจ้านี้ กษัตริย์ต้องมีทศพิธราชธรรมอย่างนี้เป็นต้น มันจะต้องครบครัน ถ้าไม่มีมันไม่ได้
อย่างลัทธิการเมือง ประธานาธิบดี เขาบอกว่าประธานาธิบดีเป็นประชาธิปไตยที่เอกที่หนึ่งเลย นั่นแหละคือ ความหลงผิดที่เตลิดเปิดเปิงจากความเป็นคนที่มีทั้งรูปทั้งนาม มีทั้งจิตวิญญาณและร่างกาย เขาไม่รู้เรื่องเลย คนที่ไม่มีทศพิธราชธรรม ไม่เคยมีกฎมณเฑียรบาล ไม่เคยศึกษาฝึกฝน ไม่เคยสืบสันตติวงศ์มาเลย เป็นคนโลกๆ เป็นคนที่ก็เหมือนปุถุชนชาวโลกทั้งหลายแหล่ มีวิธีการทางโลกหาเสียงสร้างอำนาจบาตรใหญ่อะไรต่ออะไร แล้วก็ให้คนรับรองเชิดชูให้เป็นที่หนึ่ง มันเป็นสังคมพิการ
คอยดูไปเถอะ อาตมาพูดนี้ยิ่งใหญ่นะ สังคมที่มีประธานาธิบดี ไม่ใช่สังคมที่มีกษัตริย์ สังคมชาติที่ไม่มีกษัตริย์เป็นสังคมพิการ จบตรงนี้ก็แล้วกัน
_เกษม สันทอง · อ.มหาวิทยาลัยบางคนที่สอนศิษย์ไปในทางบิดเบือนความจริงถือว่าเขา เป็นผู้ชักชวนศิษย์ไปผิดทาง ขาดคุณธรรมของความเป็นครูอย่างน่าตำหนิเลยทีเดียว ขอบคุณ อ.อานนท์ที่เขียนเป็นหนังสือชี้แจงความจริงครับ ถือว่าเป็นหนังสือดีมีคุณค่าอย่างยิ่งครับ
_ซึ้งซื่อ วิเชียร · กราบนมัสการ พ่อท่านด้วยสุดเศียรเกล้าครับพ่อ มีชาวบ้านเขาเห็นว่าพ่อท่านมักพูดถึงคือ
๑.พูดถึงพระสงฆ์ ส่วนใหญ่สายหลับตา สายพระป่า ว่าเป็นแบบโน้นแบบนี้ ซึ่งเขาไม่ชอบกัน
๒.พูดถึงการบ้านการเมือง เขาเห็นว่าพระไม่ควรยุ่งกับการเมือง
๓.พูดถึงเรื่องเศรฐกิจทั้งในและนอกประเทศ เขาเห็นว่าพ่อท่านควรอยู่นิ่งๆ แบบพระทั่วไป แต่ผมเห็นว่า พ่อท่านพูดเป็นธรรมแล้วครับ อยากให้พ่อท่านอธิบายให้พวกเขาเหล่านั้นได้เข้าใจเพราะผู้มี ธุลี ในดวงตาน้อยๆ ยังมีอยู่ จะได้มีธรรมะขึ้นมาบ้างกราบนมัสการพ่อท่านที่เมตตาอย่างสูงยิ่งครับ
พ่อครูว่า… จำไว้ 3 ข้อนี้อ่าน SMS จบแล้วจะมาวิจารณ์ 3 ข้อนี้แหละ
_รักกันฉันพี่น้อง · ตอนนี้ดิฉันเห็นคนมาช่วยบ้านราชกันมาก โดยเฉพาะสมาชิกแพทย์วิถีธรรม และกลุ่มอุโบสถศีล
หลังปีใหม่ก็อยากจะให้อยู่ต่อไปนะจ๊ะ เพื่อช่วยให้บ้านราชมีสมาชิกถึง 777 ได้จริงๆน่าเสียดายคนที่มาอยู่แล้ว แต่คิดจะออกไป เพราะถูกคำพูดกระทบแรงๆ เช่น พวกบ้านราชเขาเกลียดคุณทั้งนั้น คุณนี่ไม่ได้มาตรฐาน มาอยู่ชุมชนไม่ได้หรอก และถ้าอย่างกระทบเบาๆที่สุดก็คือ ไม่พูดด้วย ไม่ทักทาย หรือทำหน้าบึ้งๆใส่ ค่ะ
พ่อครูว่า… เมื่อเช้าก็พูดกันเปิดเผยว่า มาอยู่เลย คุณจะตั้งรกราก ตั้งครัวเลยก็ได้ คุณมีคณะพอสมควรแล้วรับผิดชอบไม่มีปัญหาอะไร เราก็เชื่อมืออยู่แล้วว่า พวกคณะนี้เขาทำได้ดี ก็ไม่มีปัญหาอะไร แล้วเราก็บอกว่าคุณจะอยู่ที่นี่เลยก็ได้นะ แล้วก็บริหารต่อไปเลยยังได้เลยไม่ว่ากัน นี่ พูดด้วยความจริงใจ เพราะเรารู้ว่าเราแก่แล้ว ให้หนุ่มสาวเขารับไปต่อ
ของเรามีสมาชิกประจำอยู่ที่นี่ประมาณ 400-500 คน กลุ่มของหมอเขียวเขามาสมทบนี่ได้ถึง 777 เลยนะ ถึงแล้วนะจริงไหม เอาน่า เขาฟังอยู่ แต่เขาก็มีสาขาเขาเยอะ ไม่ต้องห่วงสาขาก็อยู่ไป เหมือนอาตมาไม่ใช่ไม่มีสาขา ชุมชนอโศกอาตมามีไม่รู้กี่สาขา อาตมาก็อยู่ที่นี่แหละ แล้วเราก็ออกโทรทัศน์ได้ทั้งนั้นก็รับไปสิ สื่อสารมวลชนทุกวันนี้มันก็ Globalization สบายจะตาย
ซึ่งอันไหนมันดูไม่ดีไม่เข้าท่าก็แก้ไขปรับปรุงกันก็แล้วกัน
SMS วันที่ 14 – 15 ธ.ค. 2565
_จรรยา ประเสริฐ · ดิฉันเคยคิดว่า ทำไมคนนี้ปฏิบัติธรรมอยู่กับอโศกมา เป็นเวลา 10 , 20, 30, 40 ปี ทำไมเขาไม่เจริญเลย เห็นอยู่อย่างไร ก็อยู่อย่างนั้น ….เดี๋ยวนี้ไม่คิดอย่างนั้นแล้วค่ะ คิดว่า ถ้าเขายังอยู่กับอโศก ดูเหมือนจะไม่เจริญ แต่เขาเจริญค่ะ ตราบใดยังอยู่ ยังฟังธรรมพ่อท่านได้ ปฏิบัติอยู่กับหมู่กลุ่มได้ นี่ก็นับว่าเจริญแล้ว ผิดกับคนทั่วไปที่อยู่ข้างนอก ไม่เคยเห็นกิเลสตัวเองเลย มีแต่หลง อย่างเดียว ดิฉันคิดอย่างนี้ค่ะ กราบสาธุค่ะ
ย้ำ ปฏิบัติหลับตาแบบพระป่าเป็นสิ่งผิด ไม่พาบรรลุ
_ซึ้งซื่อ วิเชียร · กราบนมัสการ พ่อท่านด้วยสุดเศียรเกล้าครับพ่อ มีชาวบ้านเขาเห็นว่าพ่อท่านมักพูดถึงคือ
๑.พูดถึงพระสงฆ์ ส่วนใหญ่สายหลับตา สายพระป่า ว่าเป็นแบบโน้นแบบนี้ ซึ่งเขาไม่ชอบกัน
พ่อครูว่า…อาตมาแสดงธรรมไม่ใช่เพื่อคนชอบหรือไม่ชอบ อาตมาไม่เล้าโลมใจใคร อาตมาแสดงธรรมด้วยความตรงไปตรงมา จนอาตมาได้ฉายาว่าขวานจักตอก แต่ไหนแต่ไรมาอาตมาไม่ได้ไปปะเหลาะ ไม่ได้ไปเอาใจใคร เพื่อคัดคน
เพราะฉะนั้น อาตมาทำงานมาถึง 50 ปีกว่าแล้ว อาตมาถึงได้คนที่ไม่เลอะเทอะ เพราะฉะนั้นอาตมาจะได้คนอ่อนแอ อนุโลมเข้ามาหาอาตมา อาตมายุ่ง บริหารไม่ไหว อาตมาไม่เก่งถึงขนาดนั้น ที่จะต้องการคนหมู่มากด้วยปริมาณ อาตมาต้องการได้คนคุณภาพ เพราะฉะนั้นอาตมาจึงทำอย่างนี้ เข้าใจให้ได้เข้าใจให้ดีๆ อาตมาว่าทำไม่ผิดหรอก อาตมามีเจตนาอย่างไรและเข้าใจว่าควรทำอย่างไร อาตมาก็ทำอย่างที่พูด
ที่เขาไม่ชอบแน่นอน เพราะเขาถูกตำหนิ อาตมาไม่ได้ตำหนิธรรมดา ตำหนิแรง ตำหนิหนัก ตำหนิยกอ้างพระไตรปิฎก ยกอ้างสัจธรรม ทุกอย่าง ขยายความ มากมายเลย
ย้ำอีกว่า พระไปหลับตาก็ดี เข้าป่าก็ดี มันนอกรีต เป็นเดียรถีย์ ศาสนาพุทธไม่ได้ออกป่า จรณะ 15 วิชชา 8 ไม่ได้อยู่ในป่า อาจารย์ผู้ที่มีจรณะ 15 วิชชา 8 อยู่ในเมือง ในอัมพัฏฐสูตร พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ชัดเจนว่า ความเสื่อม 4 ประการ (พ่อครูไอตัดออกด้วย)
ความเสื่อม 4 ประการ
-
ผู้ยังไม่มีวิชชาและจรณะ แต่ไปแสวงหาอาจารย์ในป่า โดยเก็บผลไม้หล่นกินบำรุงชีพ อย่างมักน้อยมากๆ
-
ไม่เก็บผลไม้กิน แต่ถือเสียม ตะกร้า หาขุดเหง้าไม้ หาผลไม้กินระหว่างออกแสวงหาอาจารย์ในป่า
-
สร้างเรือนไฟไว้ใกล้หมู่บ้าน แล้วบำเรอไฟรออาจารย์
-
สร้างเรือนมีประตูสี่ด้านไว้ที่หนทางใหญ่สี่แพร่ง แล้ว สำนักรอท่านผู้อยู่มีวิชชาและจรณะอยู่ (อัมพัฏฐสูตร เล่ม ๙ ข้อ ๑๖๓)
พ่อครูว่า… พระป่านั่งหลับตาปฏิบัติตีทิ้งได้เลย มาเรียนรู้ลืมตา ปฏิบัติลืมตา ธรรมะพระพุทธเจ้านั่งสมาธิลืมตา ฌานก็ลืมตา นิโรธก็ลืมตา นิพพานก็ลืมตาเป็นทิฏฐธรรมนิพพานทิฏฐิ
เพราะฉะนั้นนิพพานจะต้องเป็น ทิฏฐธรรม ต้องเป็นปัจจุบันชาติ มีแสงสว่างมีจักษุ ญาณ ปัญญา วิชชา อาโลก อย่างนี้ ตรัสรู้
ก็เห็นใจเพราะคนเข้าใจไม่ได้ง่ายๆ คนที่เข้าใจยากเพราะโง่ ไปนึกว่าการตรัสรู้จะต้องหลับตาจะต้องอยู่ในที่มืดจะต้องเป็นกลางคืนเหมือนพระพุทธเจ้า ท่านบอกว่าท่านตรัสรู้ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 กลางคืน แล้วก็นึกว่าท่านนั่งสมาธิหลับตา แต่ที่จริงไม่ใช่ ท่านระลึกชาติออกมาเท่านั้น ท่านไม่ได้ตรัสรู้ตรงนั้น ท่านรู้มาแล้วและท่านก็มาระลึกได้ ระลึกได้เสร็จ เสวยวิมุติอีก 49 วัน ก่อนจะไปโปรดปัญจวัคคีย์ อ่านตำนานของพระพุทธเจ้าแล้วเขาไม่เข้าใจความเป็นจริงที่ชัดเจน ละเอียดลออ ซึ่งมันก็ไม่ง่าย ก็เลยเพี้ยนออกไปจนกระทั่งถึง 2,500 กว่าปี มันเพี้ยนไปไกลมาก อาตมาจึงจำเป็นต้องมากอบกู้ความถูกต้อง เหมือนที่พระพุทธเจ้าท่านพยากรณ์ไว้ว่า กลองอานกะ ความเสื่อมมันจะต้องมีแล้วมันก็เสื่อมไปหมดแล้วมีแต่ชื่อว่าเป็นพุทธ แต่ว่าแก่นสารสาระแท้ของศาสนาพุทธนั้น มันไม่มี ทุกวันนี้มีแต่จารีตประเพณี มีแต่สวดมนต์ ทำมาหากิน ที่มาบวชอยู่ในกลุ่มใหญ่นี้เป็นกลุ่มที่ทำมาหากินทั้งนั้น แม้จะไปเป็นพระป่ามักน้อยสันโดษบ้าง ก็ยังทำมาหากินอยู่ในภพใน อยู่ในรูปภพ อรูปภพ อยู่นั้นเอง
บางคนก็ยังมีความซับซ้อนเช่น ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เสพแล้วก็เป็นสุขโดยที่ไม่เข้าใจตนเอง อย่างเช่น หลวงพ่อคูณที่นั่งชันเข่า ก็ไม่รู้ตัวเอง ยังหลงหาเงินได้มาก แล้วหาเงินขายอะไร ขายพระเครื่อง ขายเดรฉานวิชชา ซึ่งมันทำให้คนเข้าใจผิดว่า หลวงพ่อคูณเป็นพระอริยะมันก็เสื่อมสิ แต่เข้าใจพระมิจฉาทิฏฐิเดรัจฉานวิชาว่าเป็นพระที่ถูก อย่างนี้เป็นต้น
หลวงพ่อคูณไม่ใช่เป็นพระที่จะต้องน่านับถืออะไรหรอก ขออภัย ใจดีที่ ได้เงินทองเอาไปบริจาคเป็นประโยชน์ อันนี้เป็นสภาพที่ไปล่อคนให้มานับถือ ซ้อนลงไป คนก็นับถือนับถือแบบนั้นเหมือนมหาบัว เรี่ยไรเงินได้ เอาประเทศชาตินี้แหละเป็นตัวประกัน ก็เรี่ยไร คนก็ให้สิเพราะเอาประเทศชาติเป็นตัวประกัน เอาสถาบันเป็นเครื่องเคียง ไปเรี่ยไรก็ได้เงินมาสิ แล้วเอาเงินมาเข้าคงคลัง แล้วบอกว่าอย่าไปใช้นะ
ยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นของข้าของตัวเอง แล้วไม่รู้ในนัยยะลึกซึ้งของสัจธรรม ปรมัตถ์อาตมาขอขยายความจริงให้ฟัง ไม่ใช่อาตมาไปโกรธไปเกลียดชัง แต่ท่านมีกิเลสหนามาก ไม่รู้ตัวเองที่ปฏิบัติ เพราะฉะนั้นศึกษาให้ดีๆ มองผู้ที่ถูกต้อง มองผู้ที่ผิดอยู่ให้ออก
แล้วประเด็นที่บอกว่า แบบนี้เขาไม่ชอบ คุณไม่ชอบนี่สิยิ่งถูก แต่ไปชอบในสิ่งที่ผิดคุณซวย จบตรงนี้ก็แล้วกัน
พระ สมณะ ควรหรือไม่ควรที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง
_๒.พูดถึงการบ้านการเมือง เขาเห็นว่าพระไม่ควรยุ่งกับการเมือง
พ่อครูว่า… เหตุเพราะคนพูดว่าพระไม่ควรยุ่งกับการเมือง เขาพูดถูกในสถานะของเขา คือสังคมที่มีจิตอ่อน สังคมที่ไม่มีภูมิธรรม มันก็ถูกการเมืองพวกที่นักหลอกนักล่อ เอามาเป็นหัวคะแนน ช่วยหาเสียงสิ ก็เสร็จเขา เอาเงินมาล่อให้เป็นหัวคะแนนก็หาเสียงให้หมด
ฉะนั้นในวงการของคนหัวอ่อนในวงการสงฆ์ที่ไม่แข็งแรงอย่างนั้น ก็ไม่ควรจะไปยุ่ง อย่างเราก็ไม่ได้ไปยุ่งกับการเมืองพวกนั้นเลย เขาไม่ใช่ไม่ยุ่งหรอก เขาเข้ามาหาเราไม่ได้ด้วย เขาจะมาให้เราเป็นหัวคะแนน ไม่ได้ พวกนี้ อย่ามาเล่นเสียให้ยากเลย อย่างนี้เป็นต้น มันเป็นสัจจะของมันโดยตรง
เพราะฉะนั้นผู้ที่มีจิตวิญญาณ มีปัญญา มีภูมิธรรมสูงแล้ว ไม่เป็นเหยื่อของการเมือง แต่การเมืองนั้นพระต้องพูด เพราะผู้เป็นสมณะ เป็นอาริยะ เป็นผู้ที่มีทศพิธราชธรรม 10 ข้อแน่นอน ถ้าพระไม่มีแล้วใครจะมีล่ะ ฆราวาสหรือในพระเจ้าแผ่นดินจะต้องมี ทศพิธ คือ 10 อย่าง ในคุณธรรมที่แท้จริง 10 อย่างจริงๆเลย ต้องมี พระต้องมี
เพราะฉะนั้น พระจึงเป็นผู้ที่เอื้อต่อประชาชนให้รู้จักทศพิธ ซึ่งเป็นคุณธรรมของมนุษยชาติ เพราะฉะนั้นพระเจ้าแผ่นดินเรียกว่า ราชะ ต้องมีทศพิธราชธรรม
ฉะนั้น ธรรมะพระราชา ต้องมีทศพิธ เหมือนพระ พระเป็นปุโรหิต ของพระเจ้าแผ่นดิน ก็สอนทศพิธราชธรรมให้พระเจ้าแผ่นดิน แล้วพระเจ้าแผ่นดินก็ต้องมีทศพิธราชธรรม จึงจะเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ดี
อย่างเมืองไทยเรานี้ ในหลวง ร.9 เป็นต้น มีทศพิธราชธรรมที่แท้ ซึ่งก็สาธยายถึงสภาพที่ดีงาม ไม่ง่าย ไม่หมดหรอก ละเอียดลออ ครบ อย่างนี้เป็นต้น
เพราะฉะนั้นผู้ที่ไม่รู้คำว่า การเมือง คุณก็ไปเอาการเมืองของพวกที่ เสือ สิงห์ กระทิงแรด พวกการเมืองเสือ สิงห์ กระทิง แรด ไม่ใช่การเมืองที่มีภูมิธรรม มีทศพิธ
ผู้ที่เป็น ผู้ที่มีภูมิปัญญา ก็ต้องมีทศพิธ แม้ไม่ใช่พระเจ้าแผ่นดิน ทุกคนที่เป็นพุทธศาสนิกชนก็ต้องมีทศพิธ
ทศพิธราชธรรม
๑. ทาน (การให้) .
๒. ศีล (ความประพฤติดีงาม)
๓. ปริจจาคะ (การบริจาค)
๔. อาชชวะ (ความซื่อตรง)
๕. มัททวะ (ความอ่อนโยน)
๖. ตปะ (การเพ่งเผากิเลส)
๗. อักโกธะ (ความไม่โกรธ)
๘. อวิหิงสา (ความไม่เบียดเบียน)
๙. ขันติ (ความอดทน)
๑๐. อวิโรธนะ (ความเที่ยงธรรม ไม่คลาดธรรม)
(พตปฎ. เล่ม ๒๘ ข้อ ๒๔๐)
พ่อครูว่า… หลักทศพิธราชธรรมใหญ่พวกนี้ ไม่ได้หมายความว่า พระเจ้าแผ่นดินเท่านั้นต้องมี ทุกคนที่เป็นพุทธศาสนิกชนต้องมี ทาน ศีล ใช่ไหม ปริจาคะ หมายความว่า สละของทั้งเล็กทั้งใหญ่ที่เป็นประโยชน์ คือมันเป็นการทานเป็นการเสียสละที่ใหญ่ที่กว้างขึ้น รอบ ปริจาคะนี้รอบ อย่างนี้เป็นต้น
พิธะ แปลว่า ต่างๆ หลากหลาย วาไรตี้ ต้องมี 10 ข้อนี้เป็นหลักสำคัญ เป็นคุณธรรมที่แท้จริง หลักปฏิบัติอยู่ในทศพิธมีทั้งนั้น
จะบอกว่า ราชธรรม ซึ่ง ราษฎรธรรมะก็มี
คนที่มีคุณธรรมทางธรรม สรุปเป็นโลกุตรธรรม
โลกุตรธรรมคืออะไร
โลกุตรธรรมคือธรรมะที่ผู้ปฏิบัติแล้ว อ่านจิต เจตสิก รูป นิพพาน ของตนเองได้ แยกจิตแยกกิเลสได้ แล้วสามารถทำให้กิเลสลดละ จางคลาย ถึงดับได้ นั่นคือ โลกุตรธรรม
ส่วนโลกียธรรมนั้น ไม่รู้ความจริงในเรื่องนี้ โลกียธรรมแม้แต่เป็นชาวพุทธ แม้แต่เป็นพระเกจิอาจารย์ เป็นพระป่า พระกรรมฐานอะไรต่ออะไรที่ไม่ได้รู้รายละเอียดพวกนั้น สาธยายอย่างที่อาตมาพูดไม่ได้หรอก ได้แต่นั่งสงบ สะกดจิต ดับไป หยุดคิด หยุดพูด หยุดทำ นั่นแหละเป็นผู้ที่เหมือนหลวงพ่อเกษมอย่างที่ว่า หรือใครที่พูดน้อยเท่าไหร่ไม่พูดเลยยิ่งดี แล้วไม่ต้องไปกระดุกกระดิกอะไร นั่ง ถึงเวลานอนก็นอน ไม่นอนเลยก็ยิ่งดี นั่งเนสัชชิเป็นพระป่าร้อยเปอร์เซ็นต์เลย ซึ่งมันไปใหญ่เลย ออกสุดโต่ง ไม่เป็นประโยชน์ต่อตนต่อสังคม
ศาสนาพุทธนั้นเป็นประโยชน์ต่อตน ต่อสังคม อย่างรอบถ้วน เพราะฉะนั้นจึงเป็นศาสนาที่มีการเมือง เป็นศาสนาที่ช่วยสังคม ช่วยเศรษฐกิจ ช่วยการเมือง ช่วยสังคม ไม่ว่าทางเศรษฐกิจ ทางรัฐกิจหรือสังคมกิจ ช่วยทั้งนั้นจริงๆ
ฉะนั้นเข้าใจผิดก็เสื่อม นั่นแหละความเสื่อมที่เข้าใจผิดก็เสื่อมแล้ว ประเด็นที่อาตมาพูดมา เขาบอกว่าพระไม่ควรพูดถึงการเมืองก็อธิบายไปแล้ว พระที่ไม่มีภูมิปัญญา กลายเป็นคนที่จะถูกครอบงำ กลายเป็นหัวคะแนนเป็นต้น หรือเป็นพวกการเมือง เสือ สิงห์ กระทิง แรดเป็นต้น ก็ไม่ควรจะไปยุ่งพวกนี้
พ่อครูพิสูจน์การเมืองเศรษฐกิจสังคมแบบพุทธสูงสุดถึงสาธารณโภคี
_๓.พูดถึงเรื่องเศรฐกิจทั้งในและนอกประเทศ เขาเห็นว่าพ่อท่านควรอยู่นิ่งๆ แบบพระทั่วไป แต่ผมเห็นว่า พ่อท่านพูดเป็นธรรมแล้วครับ อยากให้พ่อท่านอธิบายให้พวกเขาเหล่านั้นได้เข้าใจเพราะผู้มี ธุลี ในดวงตาน้อยๆ ยังมีอยู่ จะได้มีธรรมะขึ้นมาบ้างกราบนมัสการพ่อท่านที่เมตตาอย่างสูงยิ่งครับ
พ่อครูว่า…คุณมีสิทธิ์อะไรจะให้อาตมาอยู่นิ่ง อย่ามาพูดเสียให้ยากเลยพระทั่วไปอาตมาไม่เอาเป็นตัวอย่างหรอก ปัดโธ่.. คุณคนนี้เห็นว่าอาตมาพูดเป็นธรรมะ
ตกลงเอาตรงนี้แหละ 36 นาที ตั้งหลักรับนะ พระสายเถรสมาคมและพระป่าทั้งหลาย ตั้งหลักรับดีๆ ตอนนี้กำลังจะปล่อยแสงโง้วกวงแล้ว
ศาสนาทุกวันนี้ มันเสื่อม เสื่อมจนกระทั่งพูดไปแล้วหลายที วงการศาสนาวงการหมู่ใหญ่ มีแต่อาบัติกับอาบัติจนถึงปาราชิก
อาบัติตั้งแต่สวดมนต์ ก็อาบัติโดยไม่รู้ไม่เข้าใจ นอกนั้นก็อาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ มีเงินมีทอง ใช้เงินใช้ทองอะไรต่างๆนานา ไปจนกระทั่งถึงปาราชิก ก็ยังเล่นกันอยู่อย่างนั้น อาตมาก็จึงลาออกมา นานาสังวาสขอแยก ไม่ไหวอยู่กับหมู่ที่เฟะๆอย่างนั้นไม่ได้ ขออภัยที่อาตมาพูดความจริง ต้องขออภัยจริงๆเลย แต่ต้องพูดสัจจะ มันเลี่ยงจากสัจจะไม่ออก
เพราะมันเสื่อมจริงๆแล้วอาตมาไม่ได้พูดเอาเอง พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้แล้วว่า มันจะเสื่อม เมื่อถึงกาลเวลาที่มันจะเสื่อมมันก็เสื่อม ก็นี่แหละมายืนยันความจริงว่ามันเสื่อม อาตมาก็ยืนยันว่าเรามากอบกู้สิ่งที่ถูกให้มาปฏิบัติ ก็ยืนยันหลักฐาน จนกระทั่งกลายเป็นชุมชน สังคมมนุษย์ ที่เป็นสังคมมีศีลมี อปัณณกปฏิปทา 3 มีสัทธรรม 7
ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ พหูสูต วิริยะ สติ ปัญญา
สัทธรรม 7 มีความเชื่อ มีความเชื่อ มีความเห็น ศรัทธาที่มีปัญญา ปัญญาเข้าใจว่าสิ่งนี้ควรละอาย เถรสมาคม ไม่ละอายที่ตัวเองเต็มไปด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข เต็มไปด้วยสิ่งที่เสพ รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส เต็มไปด้วยเดรฉานวิชชา เต็มไปด้วยสิ่งที่อาบัติอยู่
เถรสมาคมไม่รู้ จมอยู่กับอาบัติที่ไม่รู้จักอาบัติ แม้แต่อาบัติปาจิตตีย์จนไปถึงอาบัติปาราชิก เขารู้กันว่าปาราชิก หลายคนช่วยกันปิดบังด้วยซ้ำไป เพราะต่างคนต่างปาราชิก
ปาราชิกข้อที่เป็นกันมากคือ เรื่องเงิน บกพร่องเอาจริงๆละเอียดเข้าเรื่องเงินนี้ปาราชิกกันเกือบหมดแหละ จะเรียกว่าหมดก็แทบจะได้นะ ยกเว้นพระที่เด็ดเดี่ยวจริงๆไม่เล่นกับเงินเลย ก็ไม่ปาราชิก ไม่มีนิสสัคคิยปาจิตตีย์ อย่างนี้เป็นต้น
นี่ อาตมาพูดธรรมะไม่ได้ด่าไปว่าอะไร ใครที่ไม่เป็นก็ไม่ถูกด่า แต่คนที่เป็นคนจะรับคำด่าแล้วเอาไปแก้ไขปรับปรุง คำด่าเป็นสัจธรรม ซึ่งก็แปลว่าตำหนินั่นเอง
ตำหนิก็คือ นิคคัณหะ อาตมาก็อยู่ในหลักไม่ได้ออกนอกรีตนอกรอย ตำหนิคุณ คุณควรตำหนิ
มันเป็นสิ่งที่ควรตำหนิอยู่ใช่ไหม แล้วจะไม่ให้ตำหนิ คุณอย่ามาห้ามเสียให้ยาก อาตมาฟังแต่อาตมาไม่ทำตาม อาตมาไม่ทำสิ่งที่ไม่เข้าท่า
_สู่แดนธรรม… ถ้าพ่อท่านไม่ตำหนิแสดงว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ใช่ไหมครับผิดมาตรา 157
พ่อครูว่า… โอ้โห 157 เออดี เอากฎหมายมา อาตมาจะผิดกฎหมายมาตรา 157 เลยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ผิดเลย นี่ อาตมาต้องทำ ดี คุณยกอ้าง กฎหมายมาใหม่
ต่อจากนี้ไปอาตมาก็จะพูดถึงเรื่อง ยก ทีนี้ เมื่อกี้พูดถึงเรื่องตำหนิไปพอสมควร พูดมากกว่านี้ก็ได้ แต่มันจะตำหนิมาก แต่ยกก็อีกแหละ ที่จะยกก็เป็นพวกอโศก แหม มันยากจริงๆเลย จะตำหนิก็ไปว่าเขา จะชมก็มายกตัวเองยกเรา ไม่รู้จะทำอะไร
อาตมาก็ขอยืนยันว่า ทุกวันนี้อาตมาพยายามทั้งสร้างสถานที่สัปปายะ สร้างบุคคลสัปปายะ สร้างอาหารสัปปายะ สร้างธรรมะสัปปายะ
สัปปายะ แปลว่า สบาย สบายคำนี้ อาตมาแยกแยะออกไปเป็น อิสระ สบาย สงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส
เพราะฉะนั้น ผู้ที่จะมาศึกษาและเห็นดีเห็นงามกับอโศก ไม่มีใครไปบังคับคุณหรอก คุณเห็นด้วยภูมิปัญญา เห็นอย่างยิ่งเลยว่าควรจะมาอยู่ร่วมกลุ่มที่นี่เลย ที่นี่มีเสนาสนะสัปปายะ มีสถานที่ที่สบาย สัปปายะแปลว่าเจริญ แปลว่าประโยชน์ แปลว่ากำไร แปลว่าที่ๆควรได้ เป็นสถานที่ควรได้ บุคคลที่ควรได้ สิ่งที่อาศัยควรได้ อาหารที่ควรได้ จะเป็นธรรมะที่ควรได้
_สู่แดนธรรม… ตรงข้ามกับคำว่า อบาย
พ่อครูว่า… ครบถ้วนบริบูรณ์ทั้งสบายและอบาย เถรสมาคมมีแต่อบาย ตราบใดที่ยังเต็มไปด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข อยู่นี่ มีสมเด็จมีเจ้าคุณ ระดับอะไรต่างๆนานา แล้วก็มีนิตยภัต มันเป็นเรื่องนอกศาสนาพระพุทธเจ้าทั้งนั้นเลย พูดไปแล้วเถียงอาตมาไม่ออกหรอก อ่านพระไตรปิฎกเล่มเดียวกัน นอกจากจะตะแบงเท่านั้นเอง เบี้ยวบาลีอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าเอากันตรงๆแล้ว อาตมาพูดตรงทั้งนั้น ถูกต้องตามหลักธรรมพระพุทธเจ้า
อาตมาว่าโชคดีมากที่มีพระไตรปิฎกเล่มนี้ด้วยกัน ฉบับสยามรัฐนี่แหละ ถ้าเป็นพระไตรปิฎกคนละเล่มก็น่าจะยากเหมือนกัน แต่นี่เล่มเดียวกันก็ง่ายอยู่บ้าง ยังโชคดีมาก ถ้าไม่อย่างนั้นแย่
ที่นี่ชุมชนที่บริบูรณ์ อาตมาภาคภูมิใจที่เอาธรรมะพระพุทธเจ้ามาเปิดเผย คนเข้าใจ ผู้ที่มีธุลีในดวงตาน้อยอย่างคุณซึ้งซื่อพูดมา ก็ฟังรู้อย่างพวกคุณก็เลยเข้ามาปฏิบัติ เสร็จแล้วก็มาอยู่ร่วมกัน เป็นสังคมกลุ่มที่มีสาราณียธรรม 6 ซึ่งมีสาธารณโภคีในข้อที่ 4 ของสาราณียธรรม 6 ข้อนี้เป็นสุดยอดเลยข้อ 4 เป็นสุดยอดของการยืนยันธรรมะพระพุทธเจ้าว่า เก่าสมัย ใหม่เสมอ แล้วเก่ามาเป็นสมัยไหนมาก็ตาม ก็ใหม่เสมอตลอดกาลนาน ธรรมะของพระพุทธเจ้านี้ จะเก่ามากี่เก่า เก่าแล้วก็เก่าอีก เก่าอีกเก่าแล้ว เก่าสมัยไหนก็แล้วแต่ ใหม่เสมอตลอดกาลนาน ธรรมะพระพุทธเจ้านี้ ใหม่ทุกวันนี้
-
ใหม่ ที่มีเศรษฐกิจสมบูรณ์แบบ
-
ใหม่ ที่มีการเมืองสมบูรณ์แบบ
-
ใหม่ ที่มีสังคมสมบูรณ์แบบ