651005 สงบอบอุ่นสร้างสรรค์พัฒนาโลกนี้ให้ดีด้วยกสิกรรม พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ
ดาวโหลดเอกสารที่
https://docs.google.com/document/d/16MQNK-c64yxWkX0Z5v4pI8IlG57OUkOdaO3imMJQwtI/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1ZE1bO0jtIIZcuvB5yZmZaNu3MmTYvNXP/view?usp=sharing
ดูวิดีโอได้ที่ https://youtu.be/Y2glEweiSEw
และ https://fb.watch/fZdUoskMQu/
ธรรมิกราช 2 องค์ และสัปปายะ 4 ของประเทศไทย
พ่อครูว่า…วันนี้วันพุธที่ 5 ตุลาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก วันนี้อาตมาอายุ 88 ปี 4 เดือนเต็ม ย่างเข้าปี 89 เต็มในวันที่ 5 ตุลาคม ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณ ท่านผู้ใหญ่ท่านผู้มีเกียรติมาเยี่ยมยามอาตมา ก็พอดีอาตมากำลังฉันข้าวก็ไม่ได้ไปต้อนรับ ก็ต้องขออภัยเป็นอย่างมาก มีแต่ผู้ใหญ่บ้านยืนแช่น้ำ ท่านก็อยู่ในเรือ ผู้ใหญ่บ้านก็ตัวท้วมๆ ยืนอยู่ในน้ำ มันก็ไม่ใช่ธรรมดา น้ำก็ท่วม ทางโน้นก็อยู่หน้าเฮือนบวร ก็เลยไม่ได้ลงไป ก็ต้องขออภัยอย่างมากเลยนะ ที่พอดีมันจังหวะไม่ได้ มีใครต่อใครมาเยอะ
_เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี นำโดย ดร.อุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุพล ฟองงาม นายนริศ เชยกลิ่น นายวัชระ กรรณิการ์ นายสุทธิชัย จรูญเนตร นางสาวโชนรังสี เฉลิมชัยกิจ รองโฆษกพรรค นายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร กรรมการบริหาร นายเชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ 7 นายวิชัย สวัสดิภาพ นางสาวโยธากาญจน์ ฟองงาม ลงพื้นที่อำเภอวารินชำราบ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและให้กำลังใจพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยในศูนย์พักพิงเทศบาลวารินชำราบ
ขอประกาศให้นำกองทัพธรรมที่คุณเปี๊ยกตายแน่ และหมู่กลุ่มได้ออกไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเอาข้าวของไปแจกจ่ายกัน ก็บอกกันหน่อย ใครจะไปสมทบรวมกันก็ไปที่ศีรษะอโศก ตอนนี้เขาไปกันทุกวัน
ตั้งแต่ พ.ศ. 2531 น้ำท่วมปักษ์ใต้อะไรต่ออะไร เรื่องช่วยน้ำท่วมเราก็ทำมาเยอะ มาถึงวันนี้ก็ยังทำอยู่ เพราะมันยังมีอุทกภัย เมืองไทยมีดีอยู่อย่างหนึ่ง จะมีภัยพิบัติอะไรไม่มาก อย่างมากก็อุทกภัย วาตภัยก็ยังไม่มีมาก แผ่นดินไหวก็มีน้อยสึนามิก็มีน้อย ยิ่งภูเขาไฟระเบิด ยิ่งไม่มีใหญ่เลย
นี่แหละเป็นสถานที่ เรียกว่า เสนาสนะสัปปายะ เป็นสถานที่ที่ครบของชมพูทวีป ที่มีเสนาสนะ มีบุคคล มีอาหาร มีธรรมะ สัปปายะ 4 ครบครัน สิ่งเหล่านี้ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ไม่ใช่เรื่องฟลุ๊คๆ ไม่ใช่เรื่องจับเล่นแร่แปรธาตุขึ้นมา แต่มันเป็นเรื่องของความลงตัวพอดีจะต้องลงตัวอย่างนี้ ในการเคลื่อนไหวของมหาจักรวาลหรือเอกภพนี้ก็ตาม การเคลื่อนไหวของดวงดาวก็ตาม การเคลื่อนไหวของมวลมนุษยชาติในโลกก็ตาม มันไม่ได้ไปแตกต่างอะไรกันมากมาย มันจะต้องมีเหตุปัจจัยที่จะต้องสังเคราะห์ สังขารกัน แล้วลงตัวกันได้
แม้แต่ทางนามธรรม อันนี้เป็น อจินไตย ยิ่งทางนามธรรม ยิ่งอจินไตย ถ้าเป็นรูปธรรมเขาก็คำนวณการทางโหราศาสตร์ ดาราศาสตร์ก็คำนวณได้ ทางนามธรรมนี้คำนวณยาก ยากจะรู้จัก แต่มันก็ต้องมีเหตุปัจจัยที่สังเคราะห์ สังขารลงตัวกัน
อย่างประเทศไทย จะมีเหตุปัจจัยที่ลงตัวกันถึงขั้น มีธรรมิกราช 2 องค์ เกิดในยุคนี้ ขอยืนยันเลยนะ ไม่ได้พูดพล่อย ไม่ได้พูดเพ้อเจ้อ ไม่ได้พูดหลงเลอะเทอะ มีตัวตนจริง จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ ก็ระบุไปแล้ว แล้วก็ได้ทำงานจริง องค์หนึ่งสวรรคตไปแล้ว อีกองค์หนึ่งก็ยังทำงานอยู่ ยังไม่สิ้นชีพตักษัย ก็ดำเนินไป ยืนยันไปกับความเป็นจริงอยู่ จริงๆยังเป็น ทิฏฐกาละหรือทิฏฐธรรม หมายความว่า ยังอยู่ในปัจจุบันชาติอยู่ในกาละ ยังมีตัวตนจริงของบุคคลที่ยืนยันว่าเป็นธรรมิกราชที่ดำเนินการอยู่ ก็พูดชัดๆ ก็คือ อาตมานี่แหละ ยังทำงานยืนยันความจริงนี้อยู่ ก็ไม่ใช่ว่าจะไปท้าทาย แต่เป็นการเชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ เอหิปัสสิโก ก็มาพิสูจน์ความจริงกัน
เรามีหลักฐานเป็นพระไตรปิฎกยังยืนยันอยู่จริง แล้วก็มีอะไรต่างๆที่อาตมาขยายความอธิบายมา แม้ในปัจจุบันนี้ก็ได้ ทั้งพูด ทั้งเขียน ขยายความกันมากมาย
เขียนหนังสือ จนกระทั่งล่าสุด มีหนังสือเล่มล่าสุดนี้ ปัญญา 8 เล่ม 1 เพิ่งวางตลาด เล่ม 2 ก็กำลังเตรียมจัดการอยู่เสร็จแล้ว เล่ม 3 กำลังเขียนอยู่ เล่ม 3 เกิน 500 หน้าแล้ว ยังไม่รู้ว่าจะไปเป็นเล่มที่ 4 หรือเปล่า เขายังไม่อยากให้มันมากไปจนกระทั่ง ก็พยายามแต่ก็มีอะไร เขียนต่ออีก ตอนนี้เขียนต่อไป 500 กว่าหน้าแล้ว ก็มันมีอะไรละเอียด ที่ควรจะต้องบันทึกเอาไว้ อาตมาก็เลยไม่พยายาม ปล่อยปละละเลยเท่าไหร่ เสียดาย
สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องจริงที่อาตมาไม่ได้ไปขโมยใครมา ไม่ได้ควักของใครมา ควักของตัวเองออกมาทั้งหมด ตั้งแต่ต้นทำงานมา 50 กว่าปีนี้ อาตมาเป็นคนไร้การศึกษาและอ่อนด้อยการศึกษา ไม่เคยได้ศึกษา จะไปค้นคว้าตำราอันนั้นอันนี้มา เพื่อจะเอามารวม แล้วก็ผสม ผเสไป
นอกจาก พระไตรปิฎกแล้วก็อรรถกถาจารย์ อาตมาก็ไม่ค่อยจะได้อ่าน แม้แต่อรรถกถาจารย์ก็ไม่ค่อยได้อ่าน อ่านก่อนแต่พระไตรปิฎก อ้างอิงพระไตรปิฎกเป็นหลัก ทำอยู่แค่นี้อาตมาก็ว่าเยอะแล้ว มากแล้ว แน่นแล้ว มั่นคงแล้ว พระไตรปิฎกนี้ก็เถอะ นอกจากว่า คนที่ไม่เชื่อพระไตรปิฎก ไม่เห็นว่า พระไตรปิฎกเป็นของน่าเชื่อถือ ก็แล้วไป มันก็พูดไม่รู้เรื่องหรอก
ผู้ใดที่เห็นว่า พระไตรปิฎกนี่แหละ อาตมาใช้ฉบับสยามรัฐฉบับเดียวเป็นหลักด้วย ฉบับมหายานก็มีเยอะแยะ อาตมาใช้ฉบับสยามรัฐ แปลจากบาลีเป็นไทยมาแล้ว เป็นหลัก แล้วก็ยืนยันอ้างอิงอันนี้ ยืนยันอ้างอิงแล้วก็เอามาพิสูจน์
เช่น พิสูจน์ลักษณะ สาราณียธรรม 6 พิสูจน์ไปจนกระทั่งถึงสาธารณโภคี แล้วก็ยืนยันอธิบายไปถึง วรรณะ 9 อธิบายไปถึงปฏิจจสมุปบาท 11 แม้แต่เวทนา 108 อาตมาก็อธิบายรูป 28 อุปาทายรูป 24 นาม 5 ขยายความให้เห็นปฏิสัมพันธ์กัน ให้เห็นว่ามันมีการสังขาร อภิสังขารร่วมกัน อาตมายังไม่ตายยังพูดได้ ยังมีเสียง ยังมีกำลังวังชาจะแสดงอยู่ ก็พยายามพิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้า
พยายามฝืนขันธ์ ประคองขันธ์ ให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตั้งเป้าไว้ 100 กว่าปี เอามัน 133 ปีตอนนี้ แต่ก่อนตั้งไปเล่นๆ 151 ปี มันมีเหตุเหมือนกัน
เล่าเล่นๆ ประกอบว่า คือ อาตมาคบหากันกับหมออารีย์ เขาก็บอกว่าเขาจะอายุให้ได้ 120 ปี อาตมาก็บอกว่า อาตมาก็มาทางธรรมะ อาตมาก็จะพยายามปฏิบัติตัวเอง พยายามที่จะเลี้ยงขันธ์ คุณเอา 120 ปี อาตมาจะเอา 121 ปี เกทับเขาไปปีหนึ่ง เขาก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้นผมจะต้องเอา 150 ให้ได้ อาตมาก็เลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้น อาตมาเอา 151
เลข 151 มันขึ้นมา มีเหตุปัจจัยอย่างนี้ พูดเล่นกัน ก็เลยมี 151 ขึ้นมาเป็นตัวเลข ทีนี้ อาตมาก็เลยบอกว่า ดีเหมือนกัน ใช้ตัวเลขเป็นนิมิตนำ นำหน้าไป หมออารีย์ วชิรมโน
เสร็จแล้วพอมาถึงเหตุการณ์จริงเป็นจริง อาตมาอายุมากเข้า มากเข้า 60 70 80 เอ๊.. ชัก ต้องมาคิดจริงๆ เราก็งอกแงกบ้าง มันไม่เหมือนอายุ 20 – 30 นะ ใครเชื่อไหม อาตมานี่ สรีระยังไงมันก็ไม่เหมือน พลังงานมันก็ไม่เหมือน อะไรต่างๆเปลี่ยนแปลงไม่เที่ยงแน่นอน แต่มันก็โดยค่ารวมแล้วโดยค่าเฉลี่ยของมวลมนุษย์คนทั่วไปแล้ว อาตมาก็ว่า องค์รวมของสรีระ กิริยากำลังวังชา ก็ใช้ได้นะ อาตมาว่า อยู่ในองค์ประกอบที่แข็งแรงในระดับที่กำลังจะ 90 เนี่ย ตอนนี้ 88 ปีย่าง 89 ปี ถึง 5 มิถุนายน 66 ก็เต็ม 89 ปี ขึ้น 90 ปี พอถึงมิถุนายน 67 ก็เต็ม 90
อาตมาขออนุญาตเอา SMS
SMS วันที่ 30 ก.ย. – 2 ต.ค. 2565
_ต้นกล้า อโศก พี่น้องบ้านราช · สู้ๆเด้อค่ะ ขอให้ปลอดภัยทกท่านนะคะ
_พลังเพ็ญ คำด้วง · กราบนมัสการค่ะ ท่านสมณะและสิกขมาตุค่ะ น้ำท่วมขนาดนี้ จะจัดงานตลาดอาริยะปีใหม่ ได้หรือคะ กราบนมัสการค่ะ
พ่อครูว่า… นั่นสิ น้ำท่วมขนาดนี้จะไปจัดตลาด ใครจะมา จะจัดตลาดน้ำหน่อยเด้อ น่าสนุกก็จะมีแต่พวกเราเท่านั้นละมั้ง คงไม่ค่อยคุ้มกันเท่าไหร่ ไม่ได้ประกาศล่วงหน้าไม่ได้โฆษณาไป คงไม่ค่อยเข้าทีหรอก พฤศจิกายนหรือธันวา ถ้าจะจัดกัน ปีใหม่เราจัด ก็เลยไม่ได้เตรียมกัน มันฉุกละหุกทั้งน้ำท่วม ทั้ง covid อะไรต่ออะไรหลายๆอย่าง แล้วน้ำท่วมก็ไม่ใช่ท่วมน้อยด้วย ก็เลยขอตอบไม่ได้ เอาไว้ก่อน ไม่รู้ มันอาจจะฟิตจัดเป็นไปได้ก็แล้วแต่ ถือว่าไม่ได้สนุกอย่างนั้นก็แล้วกัน ถ้ามันไม่ได้ก็แล้วแต่ วันนี้ระดับน้ำท่วมขึ้นเกินปี 2562 ตอนบ่ายนี้เกินไป 5 cm. แล้ว
_เยาวลักษณ์ วัฒนเสรีกุล · น้อมกราบนมัสการพ่อครูและสมณะสิกขมาตุเคารพรักคำสอนที่สอนให้คนที่อยู่บ้านราชทุกคนลดละกิเลส ไม่ทุกข์ และสู้ ต่อยามวิกฤต สู้ต่อสถาณการณ์น้ำท่วมบ่อยครั้ง ขอซึ้งในน้ำใจผู้ปฏิบัติทุกท่านค่ะ อนุโมทนา สาธุ
เมื่อปี 2562 หลังน้ำลด พอทางไปวัดได้แล้ว โยมก็ไปช่วยทำความสะอาดด้วย เพราะฟังธรรมะชาวอโศกที่สอนดี ให้เราเป็นผู้ให้ เสียสละ ทนต่อความลำบากแล้วไม่สุขไม่ทุกข์ค่ะ
_สมนึก ไลลักษ์ · กราบนมัสการพ่อครู มีคนทำงานราชการ เอาหน้าที่ไปหลอกคนนั้น คนนี้ไปทั่ว เขาจะบาป มากหรือน้อย ใครจะช่วยหยุดเขาได้ค่ะ พ่อครู
พ่อครูว่า…ก็ผู้บังคับบัญชาเขา คุณก็บอกๆ ให้สัญญาณผู้บังคับบัญชาเขาบ้าง ที่เอาหน้าที่ตำแหน่งไปหลอกคนมัน ก็บาปซิ มากหรือน้อยก็แล้วแต่กรรมกิริยาที่เขาทำ เขาหลอกมากหลอกน้อย หลอกหยาบ ซึ่งก็แล้วแต่ มันก็เป็นบาป จะไปทำทำไม จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่ พระพุทธเจ้าสอนบาปแม้มีประมาณน้อยอย่าทำเสียเลยดีกว่า
_กรรณิกา หนึ่งน้อย · พ่อคะวันนี้ลุงตู่ได้ไปต่อ..ลูกดีใจที่สุดเลย..ที่ประเทศไทยมีคนดีๆอยู่มากกว่าคนไม่ดีค่ะ
พ่อครูว่า…อาตมาก็จะยังไม่พูดมากหรอก คนออกจะหมั่นไส้อาตมามากไปแล้ว
พ่อครูเชียร์ลุงตู่ไม่ได้เชียร์เพราะยึดตัวบุคคล
(พ่อครูไอตัดออกด้วย)
_Sak Srei ศักดิ์ ศรี · เชียร์ลุงตู่เกินไป น่าจะใช้หลักกาลามสูตรพิจารณาดีกว่านะครับ จะได้ไม่มีความหลงในตัวบุคคลเกินไป พระพุทธเจ้าก็สอนไม่ให้ยึดตัวบุคคลไม่ใช่เหรอ
พ่อครูว่า…กาลามสูตร พระเจ้าตรัสเป็นกลางๆแต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ยกคนดี ข่มคนชั่ว คำสอนพระพุทธเจ้ามีให้ยกคนดี ข่มคนชั่ว นิคฺคเณฺห นิคฺคหารหํ ปคฺคเณฺห ปคฺคหารหํ ควรข่มคนที่ควรข่ม ยกย่องคนที่ควรยกย่อง
ก็เป็นธรรมดาก็ต้องทำตามพระพุทธเจ้าสอนนั่นแหละ ไม่ได้ผิดอะไรเลย กาลามสูตรนั้น ท่านตรัสไว้กลางๆเท่านั้น
เมื่อมีเหตุปัจจัยคนดี คนชั่ว ถึงกาละ เทศะ ฐานะ ที่จะต้องพูดต้องสาธยาย ยิ่งเป็นเหตุ เป็นปัจจัยที่ทำอยู่เป็นปัจจุบันเลย หนักหนาสาหัสด้วย ยิ่งต้องพูดมากๆหนักๆ
_สู่แดนธรรม… พระพุทธเจ้าอนุญาตให้ไตร่ตรองแล้ว ยกใครไม่สมควรก็ยกเลิกได้
พ่อครูว่า… ใช่ ต้องพูดความจริง สมควรยกก็พูดตามจริง สมควรข่ม ก็พูดตามจริง ไม่ได้มีอคติอะไรเลย
เราไม่ได้หลงนะ คำว่า หลง คุณต้องทำความเข้าใจให้ดีๆ เราไม่ได้หลง แต่เรากำหนดได้ถูกต้อง กำหนดแม่น กำหนดได้ชัดคมดี กำหนดได้แม่นไม่ได้ลงและเถอะไม่ได้เพิ่มเพื่อน ตรงแม่น ยกคนที่ควรยก ข่มคนที่ควรข่ม ถูกต้องเลย คุณต้องเอาให้ชัด ไม่อย่างนั้นไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องไปยกใครไม่ต้องไปข่มใคร
พระพุทธเจ้าสอนไม่ให้ยึดตัวบุคคล เราก็ไม่ได้ยึดตัวบุคคล เราก็ดูพฤติกรรมของเขาที่ทำดี ไม่ได้ยึดที่บุคคล แม้บุคคลนี้ทำไม่ดีอีก เราก็เปลี่ยนได้ เราก็ไม่ได้ไปยึด เราก็จะถล่มเหมือนกัน บอกแล้ว แต่ถ้ายังทำดี ดียิ่งขึ้นก็จะยกยิ่งขึ้น ก็เป็นตามธรรมดาเป็นตามเหตุปัจจัยที่แท้
อาตมาพูดแล้วก็ยืนยันว่า อาตมานี่เอาปัจจุบันธรรมเป็นหลัก เอาปัจจุบันธรรมเป็นหลักตัดสิน อดีตก็ดี อนาคตก็ตาม อาตมาเอาปัจจุบันนี้เป็นหลัก เพราะฉะนั้นในปัจจุบันที่ใครทำแล้วก็ยืนยันปัจจุบันต่อเนื่องไปอยู่เรื่อยๆ ก็ดูตามทุกปัจจุบัน ถ้าเปลี่ยนแปลงสะดุดเมื่อไหร่ ก็สะดุดเหมือนกัน ถ้าเปลี่ยนเลยเสื่อมเลยทีนี้ก็เปลี่ยนหมด นี่เป็นสัจธรรมตามนั้น คงจะพอสมควร
คนมาเอาความรู้พ่อครูไปทำปริญญาเอกโดยพ่อครูไม่มีปริญญาสักใบ
_Sangaroon Sungkomsilp แสงอรุณ สังคมศิลป์ · รออ่านหนังสือปัญญา ๘ ฉบับจริงอยู่ค่ะหลวงปู่ และตั้งใจว่าจะเอาไปทำปริญญาเอกพระพุทธศาสนาด้วยค่ะ แต่ตอนนี้ต้องจบโทให้ได้ก่อนค่ะหลวงปู่ ^^
พ่อครูว่า… เมื่อเช้านี้ยังพูดอยู่เลยว่า อาตมาไม่มีใบรับรองเป็นปริญญาเป็นทางการอะไรเลย แม้แต่ปริญญากิตติมศักดิ์ก็ไม่ได้รับรองทางโลกเลยสักใบ แม้แต่กิติมศักดิ์ที่รับรองว่าปริญญาตรี อย่าไปพูดถึงปริญญาเอกเลย ให้ปริญญากิตติมศักดิ์ ปริญญาตรีแก่โพธิรักษ์ก็ไม่มี ปริญญาโทก็ยิ่งไม่มี ปริญญาเอกยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย ไม่มี แต่คนที่มาเอาที่อาตมาพูดอาตมาอธิบาย อาตมาขยายความ อาตมาแสดงธรรมเนื้อหาสาระต่างๆ เอาที่อาตมาพูดไปทำปริญญาโท ปริญญาเอก เยอะ แล้วก็ส่งวิทยานิพนธ์มาให้อาตมา ตอนนี้เขาใส่ตู้ ใส่ห้องสมุดเอาไว้ ใครต่อใครบ้าง โอ้โห หลายสิบคนหรือยังจะเป็นร้อยหรือยัง แม้แต่ต่างชาติก็ยังมาทำ แล้วก็เป็นปริญญาเอก ก็มีอย่างนี้เป็นต้น
เพราะฉะนั้นขออภัยที่พูดนี้มันเป็นการคุยตัว มันเป็นการเหมือนยกตัวยกตน แต่อาตมาพูดความจริงสู่ฟังเพื่อยืนยันความจริงเท่านั้นเองว่า อาตมาเป็นคนๆหนึ่งในโลกยุคนี้ ที่ยังตามพิสูจน์ได้ อาตมาประพฤติจริงอย่างไร มีความคิดความเห็นอย่างไร แล้วก็มีหลักฐานมาให้คนประพฤติปฏิบัติ มีทั้งวัตถุ หลักฐานที่ มีทั้งสิ่งก่อสร้าง อาคารบ้านเรือน หมู่บ้านชุมชน มีทั้งบุคคล มีทั้งพฤติกรรม มีทั้งวัฒนธรรม มีทั้งแนวคิด มีทั้งหลักฐานทางด้านเศรษฐศาสตร์ ทางด้านสังคมศาสตร์ ทางด้านรัฐศาสตร์ ต่างๆนานา
สามารถจัดการเก็บรายละเอียดของความจริงเหล่านี้ เอามาพิสูจน์ มาประมวล ยืนยันความเป็นจริงที่ อาตมาพูดไปนี้ ยถาวาที ตถาการี ยถาการี ตถาวาที พูดอย่างไรทำอย่างนั้น และอย่างที่มีที่เป็นก็เป็นอย่างที่อาตมาพูด พระพุทธเจ้าเรียกว่า อนุสาสนีปาฏิหาริย์ เป็นปาฏิหาริย์ของคำพูดคำสอน อันเกิดจริงเป็นจริง พิสูจน์ได้ยืนยันได้ นี่แหละเป็นสัจจะที่ อาตมาพูดไปแล้วคนไม่ชอบใจ ไม่ศรัทธาเลื่อมใส ก็จะหมั่นไส้ว่า คุยตัวคุยโว
อาตมาก็ว่า ถ้าไม่พูดยกดีไม่พูดชมดี ไม่พูดถึงความดีว่ามันดีไม่ย้ำด้วยซ้ำ แล้วจะไปพูดอะไร จะไปถล่มความชั่วก็ไม่ใช่อาตมาไม่ถล่ม แต่ไปถล่มความชั่ว อาตมาไม่ค่อยไปถล่มใครมากนัก นอกจากคนที่หนักๆจะโดนอาตมาถล่ม คนที่ชั่วอื่นๆทั่วๆไป อาตมาไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่หรอก ก็ไม่ได้เอามาเท่าไหร่ แต่คนที่ชั่วหนักที่สำคัญๆมีอิทธิพลต่อบ้านเมือง อาตมาก็ถล่ม ถล่มหนักด้วย ก็ไม่กี่คน ว่ากันจริงๆนับหัวได้ ไม่ถึง 10 ขอยืนยัน
ดีใจนะ ที่มีคนกระหาย อยากจะลิ้มชมหนังสือที่อาตมาเขียน ก็น่าชื่นใจนะ
_Thanyaphat Darunphan ธัญพัฒน์ ดรุณพันธุ์ ·.. ลูกขอหนังสือที่พ่อครูจะแจกด้วยค่ะ ธัญภัทร ดรุณพันธ์ ขณะนี้กำลังปฏิบัติธรรมอยู่ที่พุทธสถานศาลีอโศก กราบนมัสการมาด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
_พันธุ์ พอเพียง · กราบนมัสการครับ 30 กัญญา มีค่าเท่ากับ 1 อัญญา หรือเปล่าครับ เพราะตุลาการท่าน คม ใช้ได้เลยครับ (เป็นความมหัศจรรย์ ของเดือนกันยายน กับ ตุลาคม ของปีนี้หนะครับ)
พ่อครูว่า… อัญญา เป็นความฉลาดเฉลียวที่เป็นความฉลาดหรือคุณธรรมของโลกุตรธรรมเริ่มหน่วยกิตของโลกุตรธรรม อัญญธาตุ อัญญธาตุ เป็นพหูพจน์ไปเรื่อยๆก็เป็น อัญญา จากอัญญา ก็มาเป็นปัญญา ปัญญาก็เป็นความฉลาดแบบโลกุตระ ปัญญาความรู้ความฉลาดที่ต่างจากโลกีย์ ที่เรียกว่า เฉโก อันนี้อาตมาก็ขยายความอยู่ทุกวัน
ซึ่งมันดูไม่น่ายากแต่มันก็ยาก มันซับซ้อนที่มันไม่น่ายากแต่มันยาก เป็นสิริมหามายาเป็นมายาอย่างหนึ่งเหมือนกัน
_สู่แดนธรรม… คุณคนนี้บอกว่าถ้าจะได้ 1 อัญญา ต้องได้ 30 กัญญา ได้ไหมครับ
พ่อครูว่า… ได้ ที่จริงต้องนับ อัญญธาตุ ไปถึง 50 อัญญา จึงนับเป็นปัญญา คุณจะบอก 30 กัญญาเป็น 1 อัญญา แล้ว 50 อัญญาเป็นหนึ่ง ปัญญาก็ได้
จริงๆพยัญชนะก็ดี ภาษาก็ตามบัญญัติภาษา มันก็เป็นของคู่กันที่ใช้แทนกันสลับกันเป็นอย่างนี้สนุก ถ้าจะเล่นภาษาพยัญชนะแล้วเล่นสภาวะพวกนี้สนุกเหมือนกัน อาตมาว่ามันจะเสียเวลาเกินไป ผู้จะใช้อันนั้นเป็นเรื่องสนุกเป็นบันไดหรือเป็นกระษัยสำหรับนำพาไปเรื่อยๆอย่างนั้นให้มันเจริญทางธรรมก็เอา
_ฟ้าพรห์มไพร นาวาบุญนิยม · กราบเรียนทั้งท่านเดินดิน แลท่านจันทร์ค่ะ..ฟังท่านพูดเรื่องซองกฐินเป็นภาษีสังคมจริงอย่างยิ่งเลยค่ะ…ไม่ใช่แค่ซองกฐินนะคะที่ขูดรีดชาวบ้านทุกวันนี้..ตั้งแต่เข้าพรรษาจนออกพรรษาดิฉันได้มาอยู่บ้านอำเภอตระการพืชผลเพื่อมาดูแลแม่..ทุกๆวันผู้ใหญ่บ้านประกาศขอบริจาคชาวบ้านเพื่อสมทบทำบุญสังฆทาน รู้สึกจะไม่ใช่แค่เฉพาะตำบลบ้านดิฉันนะคะ..เท่าที่ฟังประกาศทั่วทุกบ้านในอำเภอก็ว่าได้ เพราะฟังดูไกลข้ามเขตตำบลหลายๆบ้าน..ดิฉันฟังดูประกาศขอบริจาควันละ 2 หมู่บ้านเพราะได้ยิน ผญ.บ.บอกว่า ซองเยอะมากกลัวไม่ทันออกพรรษา เลยขอบริจาควันละ 2 บ้าน…ดิฉันฟังแล้วเศร้าใจมาก รู้สึกว่าขูดรีดชาวบ้านมากเกินไป..เป็นการเบียดเบียนชาวบ้านโดยเอาบุญมาอ้าง ญาติโยมก็อยากได้บุญ จนขนาดไหนก็ทำทุกวัน พ่อดิฉันก็เอาบริจาคทุกวัน จนทำให้ดิฉันอดบอกพ่อไม่ได้ว่า..ทำบุญแบบนี้มันไม่ได้บุญ ส่งเสริมให้พระพอกพูนกิเลส…แกก็เข้าใจนะคะธรรมมะชาวอโศก แต่แกก็ทำตามชาวบ้านเพราะอยู่ร่วมเขา..ทำยังไงจะมีการปฏิรูปสังคยนาพระคะ…เพราะสงสารชาวบ้าน..ในพรรษาก็ทำบุญสังฆทาน..ออกพรรษาก็ซองกฐินมีการเจาะจงบ้านละ 500 บาท…คิดดูสิคะไม่ใช่ครั้งเดียวตลอดหมดเทศกาลอีก..บุญเดือนสามอีก..บุญเดือนเมษารดน้ำดำหัว..บุญทั้งปีทั้งชาติเลย..แต่จะทำบุญทั้งชาติมันเดือดร้อนชาวบ้านมากเลยค่ะ ..เศร้าใจจริงค่ะ…
พระบ้านดิฉันนะคะ เล่นหวยมากกว่าชาวบ้านเพราะเงินเยอะกว่า งวดละหมื่นก็มี
นี้พวกพี่ๆเขาเล่าให้ฟังนะคะ..เวลามีงานแต่งหรืองานที่มีการฆ่าวัวควาย..ชาวบ้านก็ทำลาบแดงๆๆไปให้พระกินตั้งแต่เช้าตรู่ โดยเฉพาะพระผู้ใหญ่โยมศรัทธาเอาไปให้กินก่อนพระผู้น้อยแต่เช้าตรู่…ดิฉันเลยมาคิดว่า พระเนี่ยบาปมากกว่าฆราวาส..อะไรๆก็ได้ฟรีหมด สิทธิพิเศษก็มากกว่าโยม…แต่ประพฤติตัวไม่สมฐานะที่โยมยกให้..ศาสนาจึงเสื่อม…คนที่พอมีปัญญาหน่อยเขาหันไปนับถือคริสต์เลย…ดิฉันเห็นอย่างนี้แล้วเศร้าใจยิ่งนัก…อ้อ.ยังมีอีกเรื่องที่พี่เขาเล่าให้ฟัง พอหน้าแล้งพระหลายๆวัดก็นัดรวมกันมากินข้าว โดยญาติโยมทอดแหกินก้อยปลาต้มปลาก้อยกุ้งดิบ…ฟังแล้วรับไม่ได้ค่ะท่าน ได้แต่สังเวช…ทุกวันได้ยินเสียงเขาประกาศเสียงดังมาก เปิดเพลงเสียงดังหูจะแตก..ดิฉันอยากบอกว่า เหมือนมาอยู่ในเมืองนรกยังไงยังงั้น ..แต่ก็ทนเอา เพราะหน้าที่มันบังคับ..
จึงกราบเรียนมาให้ท่านทราบดังนี้ค่ะ…ขออภัยนะคะ เขียนยาวมากไปหน่อย เพราะมันมีประเด็นพอดีท่านกำลังพูดถึง เรื่องที่ตรงกันกับบ้านดิฉันพอดี..กราบนมัสการค่ะ
พ่อครูว่า…เรี่ยไรคำเดียว นี่ บาปแล้ว พระไม่มีหน้าที่ไปเรี่ยไร แม้แต่ฆราวาสเรี่ยไรก็บาป อาตมาถึงได้ถล่มมหาบัวนี่ เรี่ยไรทั่วประเทศ นี่บาป ที่ไปโฆษณาว่าจะได้กุศลโดยอ้างอิงประเทศไทยเป็นตัวประกัน แล้วก็อ้างว่า ประเทศไทย คนก็ช่วยสิอ้างอิงใหญ่เลยแล้วก็เอาสถาบันเบื้องบนมาประกอบ เอาละพอ เดี๋ยวจะแวะไปไกล
นี่ก็เป็นเรื่องจริง อาตมาว่า มันคงจะบูรณะศาสนาพุทธจากแกนเดิมยากแล้ว ขออภัยนะที่ต้องพูดความจริง คุณมาร่วมกับพวกอาตมาสร้างฐานใหม่ไปดีกว่า จะไปสลายหรือไปทำลายฐานเดิมนี้ยาก ยากมากๆ เพราะเป็นกระแสหลัก ประชาชนก็ยังยึดมั่นถือมั่นฐานของ สถานะต่างๆถึงขั้นสถาบัน ก็ยังรับรองทางโน้นอยู่ เพราะฉะนั้นจึงขอยืนยันว่า ยากสสส..
เพราะฉะนั้น ก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรม คนจะค่อยๆจะมีปัญญา เรามาระดมกันให้เกิดความรู้ความจริงกันในชาวอโศกดีกว่า จะได้ไม่ไปทำร้ายทำลายอะไรกัน ให้เป็นไปตามธรรมชาติ ก็จะเสื่อมโทรมไป ถ้าเผื่อว่า ประชาชนเราร่วมเข้าใจ เรามาระดมความถูกต้องความดีงามขึ้นเป็นตัวชู ทางโน้นก็ปล่อยเขา มันก็จะเกิดสภาพไปเอง สภาพ 2
1 สภาพมันเหม็น กับอีก 1 สภาพมันหอม สภาพเหม็น ผู้ที่นิยมความเหม็นก็ให้เขาอยู่กับความเหม็นไป สภาพหอม เราก็มาเพิ่มความหอม เพราะฉะนั้น คนที่นิยมความเหม็น สักวันเขาอาจจะเบื่อแล้วก็เลิกมา เปลี่ยนมาดมความหอมบ้าง ก็ปล่อยเขา ส่วนใครเขาจะติดความเหม็นหนักมากขึ้นก็ช่วยไม่ได้หรอก คนซาดิสม์ คนมาโซคิสม์ ก็ปล่อยเขาไป เอาอย่างนี้ดีกว่าเราจะได้ไม่ไปทะเลาะกับใคร เลือกเอาตามธรรม
SMS วันที่ 3 ตุลาคม 2565
_บัวดาว พรมเลิศ · รายการตุ้มตะลุ่มตุ้มม้ง วันที่ 3 ต.ค. 65 เสียงพ่อครูเหมือนพ่อครูเป็นหวัดเจ้าค่ะ
_บุญสูง สาดา · พ่อท่านครับผมยังไม่ได้รับหนังสือปัญญา๘ครับ
_รุ่งศรี แก้วดวงศรี : ขอน้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง ขณะที่เขียนนี้ลูกอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ของจังหวัดบุรีรัมย์แห่งหนึ่ง มากับสามี ลูกขอแยกตัวลงมานั่งในห้าง แทนที่จะไปตระเวนซื้ออะไหล่กับเขาเหมือนทุกครั้ง ลูกได้มาอ่านดูอีกทีว่านี่คือกิเลสของลูก ที่ไม่ยอมเขาทั้งหมด มีความรู้สึกผลักเพราะคิดว่ามานั่งอ่านหนังสือสมาธิพุทธที่ลูกเอามาด้วยดีกว่า หรือไม่ก็มานั่งเขียนบันทึกสภาวธรรมจะดีกว่า ในใจลูกจริง ๆ ไม่อยากมามากนักเพราะติดพันการทำความสะอาดที่นอนที่ลูกเริ่มแยกออกมานอนลำพังโดยดัดแปลงเอาแทงค์น้ำเก่าซึ่งชั้น 2 มีสภาพแข็งแรงดีเป็นที่นอน ดูๆ ไปก็คล้ายที่นอนของนายพรานเวลาไปล่าสัตว์ ซึ่งลูกมีกิเลสตัวว่า, ชอบมากเหมือนเคยนอนแบบนั้นมาหลายภพชาติ เหตุเพราะไม่มีบันไดขึ้น ลูกใช้บันไดช่างขึ้นไปก่อน สามีกับพี่สาวถามว่าคิดได้อย่างไรลูกก็บอกว่ามันคิดขึ้นมาเอง นอนคืนแรกรู้สึกแบบเบาสบายโล่งใจมาก ก่อนจะไปนอนลูกก็บอกสามีว่า “ขอไปลองนอนบ้านน้อยดูนะ” โดยที่ลูกก็ไปปัดกวาดที่นอนให้สามีตามปกติ ซึ่งก่อนหน้านั้นเราก็นอนมุ้งเดียวกันตลอด
ขณะที่ลูกได้แต่งที่นอนใหม่อยู่นั้น มีความรู้สึกถึงความ จาง พราก คลาย และเห็นใจสามีว่าเขาคงจะมีความรู้สึกอย่างเดียวกันนี้กระมัง (กิเลส) ลูกมีความใจหายจนน้ำตาซึมอยู่คนเดียว ดีที่ว่าลูกได้บอกสามีไปก่อนหน้านั้นแล้วว่า “พ่อการที่เรายังนอนด้วยกันอยู่นี่มันคือ กามนะ เราต้องหัดพรากจากกันจริงๆ แล้ว” หลังจากนั้นลูกถึงมองเห็นว่าแท้งน้ำนั้นมีที่ว่างพอจะดัดแปลงเป็นที่นอนได้สบายๆ
เกือบเดือนแล้วที่ลูกรู้สึกว่า การเรียนธรรมนี้ยากมาก เพราะแค่การจะพูดออกมาก็คือกิเลสแล้ว โดยเฉพาะพูดต่อหน้าผู้คนมากมาย โดยเฉพาะในซูมยิ่งต้องมีสมาธิสูงยิ่ง ว่าจะพูดด้วยกิเลสตัวไหน กาม ราคะ โทสะ โมหะ หรือ มานะ อัตตา… ความละเอียดปานฉะนี้ลูกได้เรียนรู้จากการอ่านเพิ่มเติมในหนังสือสมาธิพุทธ
ลูกรู้สึกว่าการจะอ่านให้เข้าใจสภาวะก็ต้องมีเช่นกัน เหมือนที่อาปุ้ยเคยพูดไว้ว่า..
”หนังสือคนคืออะไรทำไมสำคัญนักถ้าไม่มีสภาวะจะไม่เข้าใจ” ลูกว่าสมาธิพุทธนี้ก็เช่นเดียวกัน ลูกเพิ่งอ่านถึงหน้า 293 แต่ละครั้งที่อ่านได้ถึง 10 หน้าก็ทั้งยาก เพราะถ้าไม่เข้าใจลูกจะไม่ข้ามไป
ก่อนหน้านั้นสามีเห็นหน้าลูกหมองๆ ระหว่างกินข้าวลูกก็มีกิเลสเพราะเห็นเพื่อนๆ เริ่มมาบ้านราชบ้างแล้ว ลูกก็เลยบอกว่า “ปีใหม่ไปบ้านราชกันนะ” สามีพยักหน้า ล่าสุดลูกมีปัญญา(ลูกสาว)เค้าเป็นคนพูดเอง “เดี๋ยวพายายแหลมไปบวชซะหรอก” ลูกก็มีปิติ(กิเลส)นิดๆ
สุดท้ายนี้ลูกขอเป็นฟันเฟืองเล็กๆ เพื่อช่วยเข็นกงล้อธรรมจักรอีกแรง ให้พ่อครูแข็งแรงตราบนานเท่านาน สุดแต่พ่อครูจะเห็นสมควรแล้วเมตตา เอาอีกแล้วยังไม่รู้เลยว่าเราผ่านมาเนี่ยขอน้อมกราบนมัสการลาด้วยค่ะความเคารพอย่างสูงยิ่ง…
รุ่งศรี แก้วดวงสี
พ่อครูว่า… อ่านแล้วก็ อบอุ่นใจ ใน sms ขณะนี้แต่ละคน ที่ติดต่อมารายงานมา มันพร้อมมันดีจังเลย อยากจะขออ่านข้อเขียน ที่คุณทิพานัน
_’ทิพานัน’ โชว์ตัวเลขจดทะเบียนโรงงานใหม่อวยผลงานเศรษฐกิจ ‘บิ๊กตู่’
5 ตุลาคม 2565
สงบอบอุ่นสร้างสรรค์พัฒนาโลกนี้ให้ดีด้วยกสิกรรม
‘ทิพานัน’ เปิดตัวเลขจดทะเบียนโรงงานอุตสาหกรรมใหม่ปีงบ 65 พุ่ง 1.9 พันแห่ง จ้างงานเพิ่ม 5.6 หมื่นคน มากกว่าโรงงานขอเลิกถึง 2-3 เท่า สะท้อนผลสำเร็จมาตรการ พล.อ.ประยุทธ์
05 ต.ค.2565 – น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีมาตรการส่งเสริมการลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้สิทธิประโยชน์ตามกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยพบว่าสถานการณ์ในรอบเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการขอจดทะเบียนโรงงานอุตสาหกรรมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมใหม่ จำนวน 172 แห่ง เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น 3,812 คน
ทั้งนี้ในภาพรวมปีงบประมาณ 2565 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 สิงหาคม 2565 มีโรงงานอุตสาหกรรมที่จดทะเบียนใหม่ 1,914 แห่ง เกิดการจ้างงาน 56,263 คน ขณะที่มีโรงงานอุตสาหกรรมที่ขอเลิกกิจการ 870 แห่ง มีลูกจ้างได้รับผลกระทบทั้งหมด 21,917 คน จะเห็นได้ว่าโรงงานอุตสาหกรรมที่ขอจดทะเบียนใหม่นั้น มีจำนวนสูงกว่าโรงงานที่ขอเลิกกิจการถึง 2 เท่า และเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าของการขอเลิกกิจการ แม้ที่ผ่านมาจะต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และผลกระทบด้านพลังงาน จากสงครามรัสเซียกับยูเครนก็ตาม แต่รัฐบาลไม่เคยทอดทิ้ง ได้ออกมาตรการต่าง ๆ มาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว รวมทั้งนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลสิทธิประโยชน์ของลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานและประกันสังคม พร้อมให้การช่วยเหลือในการเตรียมจัดหางาน ฝึกอาชีพและการเข้าถึงแหล่งทุน เพื่อให้มีงานทำอย่างยั่งยืน
“ที่ผ่านมาภายใต้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์มีนโยบายต่าง ๆ เพื่อให้นักลงทุนเชื่อมั่น ตัวเลขดังกล่าวจึงสะท้อนผลสำเร็จของมาตรการของภาครัฐ ที่ส่งเสริมและจูงใจเพื่อให้ผู้ประกอบการเชื่อมั่นในการลงทุน มีผลต่อการจ้างงาน และการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ”น.ส.ทิพานัน กล่าว
พ่อครูว่า… เป็นพฤติกรรมจริงของมนุษย์ ที่มีพฤติกรรมอยู่ในสังคมมนุษยชาติ ก็เข้าท่า รวมแล้วผลไปในทางที่พัฒนาเจริญ มากขึ้น อาตมายังมั่นใจในเรื่องของความเป็นจริงที่ว่า ความรู้ก็ดี กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่เป็นพฤติกรรมของมนุษย์ ความรู้และพฤติกรรมของคนไทย ที่เป็นจริงกันอยู่ขณะนี้ มันเป็นพฤติการณ์พฤติกรรมของคน ที่มีอัตราการก้าวหน้าเจริญขึ้นเรื่อยๆ
เจริญขึ้นอย่างเป็นความรู้โลกุตระ ไม่ใช่ความรู้แบบโลกียะเท่านั้น ที่บอกว่าเป็นความรู้โลกุตระนั้นมีภาวะซับซ้อน คือเป็นความรู้ที่ก้าวหน้าขึ้นตามเหตุปัจจัย ที่เป็นเหตุปัจจัย ไม่ใช่เหตุปัจจัยแบบยั่วยวน ล่อลวงให้ทำตาม แต่เป็นเหตุปัจจัยทำให้เกิดปัญญา โลกุตระนี้จะมีปัญญา เกิดปัญญาเข้าใจว่าเราควรจะพัฒนา ก้าวหน้าอย่างนี้ แม้จะเป็นพัฒนาทางการสร้างสรรค์ขึ้นมา
อาตมาเน้นการสร้างสรรค์ โดยเฉพาะคนไทย (พ่อครูไอตัดออกด้วย)
_สู่แดนธรรม… พ่อท่านกำลังหมายถึงว่า เน้นการสร้างสรรค์
พ่อครูว่า… เน้นการสร้างสรรค์ทางด้านกสิกรรม อาตมาเน้น การสร้างสรรค์ทางด้านกสิกรรม พยายามเน้น แต่คนยังไม่เข้าใจชัดว่าทำไมอาตมาต้องเน้นกสิกรรม
กสิกรรม คือ พืชพันธุ์ธัญญาหาร ทั้งอาหารกินและยา ในพืชพันธุ์ธัญญาหารเป็นยาด้วยและเป็นอาหารการกินที่เข้าไปสังเคราะห์เลี้ยงกายขันธ์อยู่ตลอดเวลา กวฬิงการาหาร สำคัญยิ่งมนุษย์ทุกคนไม่ว่าโลกยุคไหน สัตว์เดรัจฉานก็ตาม ก็ต้องกินอาหารทั้งนั้น
เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า อาหารเป็นหนึ่งในโลก โดยเฉพาะ กวฬิงการาหาร จะกล่าวถึงผัสสาหาร มโนสัญเจตนาหาร วิญญาณอาหาร
สำคัญอาหาร คือ พืชพันธุ์ธัญญาหาร อาตมาไม่ได้พยากรณ์นะ แต่อาตมาจะพูดถึงเหตุการณ์ มันน่าจะเป็น เดาๆ ว่างั้นเถอะ มันจะลดถอยลง เพราะว่าคนไปนิยมก่อสร้างทางวัตถุ ก่อสร้างทางด้านเทคโนโลยี ก่อสร้างทางด้านอื่นไป ที่ลึกซึ้ง
เพิ่งจะอ่านข่าวของผู้ที่ได้รางวัล Nobel prize ปีนี้ เป็นผู้ที่ได้รางวัลทางด้านการคิดค้นสูตร ถึงไม่ใช่มาทางพืชพันธุ์ธัญญาหาร อาหารการกิน แต่มันเป็นไปในทางอื่น ทางด้านความคิด สามผู้ไขปริศนาความพัวพันเชิงควอนตัม พิชิตโนเบลฟิสิกส์ 2022
ซึ่งกรรมการของ Nobel prize เขาเป็นทางเทวนิยมไม่ใช่มาทาง อเทวนิยมหรือทางพุทธ เพราะฉะนั้นเมืองไทยพุทธศาสนา จะได้รางวัล Nobel prize ยากมาก เพราะว่ากรรมการเขาไม่มีความรู้ทางด้านโลกุตระ เพราะงั้นจะเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องไปคิดอะไรมากหรอก เพราะเขาไม่รู้เขาจะให้ได้อย่างไร เขาไม่เข้าใจว่า มันมีค่าสุดลึกซึ้งวิเศษอย่างไร เขาเข้าใจไม่ได้ เขาไม่รู้ ดีไม่ดีจะหาว่า บ้าบอเพ้อเจ้อด้วย เขายังมองไม่ออกเป็นนามธรรม เป็นอรูป เกินไปที่เขาจะสัมผัสติด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เขาไม่มีคณะที่จะเป็นคณะปัญญาชน เขาเป็นปัญญาชน
อาตมาก็คิดอยู่ว่าไม่น่าจะเกินร้อยปีก็พอจะเข้าใจได้ กรรมการ Nobel prize นี่แหละ เพราะว่าโลกุตรธรรมที่อโศกก็ร่างสร้างตัวขึ้นมาภายใน 5-10 ปี อาตมาว่าจะโตขึ้นเรื่อยๆ ถ้าอย่างน้อยร้อยปีไม่แน่หรอก อาจจะไม่ถึงร้อยปีก็ได้ กรรมการ Nobel prize จะเห็นได้ แต่กรรมการทางด้านเอเชีย อย่างน้อยทางด้านเกาหลี มองเห็นอาตมา ให้รางวัลอาตมามาก่อนแล้ว อาตมาเกิดมานี้เพิ่งได้รางวัลนี่
รางวัลที่ 1 นายกสัญญา ธรรมศักดิ์ให้โล่มา ตอนนั้นท่านก็ยังเป็นนายกอยู่ ตอนนั้นอาตมายังเคร่งอยู่ ยังไม่ได้ลงเลยเขายังไม่ได้ยินดียินร้ายอะไร ก็ยังเก็บเอาไว้มาอยู่ จะว่าไปนี่เป็นรางวัลแรก ที่จริงรางวัลแรกจาก พี่ล้วน ควรธรรม ซึ่งด่าอาตมามา แทนที่จะให้รางวัล ด่าส่งเลย ด่าหยาบคายด้วยว่า ให้เขาเสียเงินมาซื้อรางวัลมาให้ นี่เป็นรางวัลแรก
รางวัลที่ 2 จากต่างประเทศ มีใบชมเชยและให้เงินมาด้วย 100 ล้านวอน รับรองมา เป็นของมูลนิธิแมนเฮ องค์กรของเกาหลี ให้รางวัล โดยบอกว่า เป็นผู้ที่นำสันติภาพ มาสู่โลก นี่เขามองออก นี่ล่ะ เป็นรางวัล แล้วมีอีกตามมา มีถ้วยรางวัล เป็นองค์กรอีกองค์กรอยู่เกาหลีด้วย วัดชิลซังซา ของเกาหลีเหมือนกัน ก็สนับสนุนมาอีก เป็นรางวัลเสริมให้
เป็นถ้วยรางวัลเป็นรูปนกฟีนิกซ์ และประกอบอื่นๆ อันนี้ลำลองมา สวยได้มา นี่แหละรางวัลเท่าที่อาตมามี เท่าที่อาตมาได้มาในชีวิตนี้ อายุ 80 กว่าปี ทำงานทางด้านสังคมมาตั้งแต่อายุ 36 ถือว่าตั้งแต่มาบวช ทำงานด้านสังคม ได้ใบชมเชยรับรองมาประมาณนี้
ที่จริงไม่ได้ร่ำร้องว่าจะได้ แต่มันมีสัจจะจริงเกิดขึ้น ก็เอามาพูดถึงกันไปให้ฟังเท่านั้นเอง ซึ่งอาตมาก็ไม่ได้เสียกำลังใจอะไร แม้ไม่ได้รางวัลอะไร หรือพูดกันตรงๆ แม้จะได้รางวัลอาตมาก็ไม่ได้กระดี๊กระด๊าเกินการ แต่ก็ชื่นใจอยู่ เป็นธรรมชาติธรรมดาเท่านั้นเอง
_สู่แดนธรรม… ผมจะขอชวนพ่อท่านกลับมาสู่เรื่องที่พ่อท่าน มีเจตนามีวิสัยทัศน์อย่างไรที่จะชูประเด็นเรื่องกสิกรรม เรื่องอาหารเป็นเรื่องเด่น ทั้งที่ ผู้บริหารที่ผมเคยรู้จัก รัฐมนตรีการพาณิชย์ที่จะทำรายได้ให้แก่ประเทศ มักจะไม่สนใจกสิกรรมให้เป็นรายได้หลักให้แก่ประเทศเลย เขาบอกว่า มันไม่ได้เงินเข้าประเทศมากเลยเรื่องกสิกรรม
พ่อครูว่า… อันนี้ถูกต้อง อาหารขายแพงไม่ได้ เป็นสัจจะ มันมัดตัวมาก อาหารขายแพงคนจนตาย นี่เป็นสัจจะ อาหารขายแพงไม่ได้ อาหารต้องขายถูก ขายข้าวแพงไม่ได้ ข้าวเป็นอาหารหลักด้วย ไม่ได้ คนจนก็ต้องกินข้าว คนรวยก็ต้องกินข้าว อันอื่นๆก็ยังเป็นองค์ประกอบแต่ข้าวเป็นหลัก กินข้าวเป็นหลักกัน ขายแพงไม่ได้ สรุปแล้วอาหารการกิน ขายแพงไม่ได้
ในทางเศรษฐศาสตร์ของอาริยะโลกุตระ ขาดทุนของเรา คือกำไรของเรา นี่คือ อาริยชน อาริยกะแท้ๆ อาริยะ โลกุตระ มันจะทวนกระแสของโลกโลกีย์ ทางโลกีย์เขาต้องได้กำไรได้เปรียบเท่าไหร่ นั่นคือเจริญทางเศรษฐศาสตร์ของเขา แต่เศรษฐศาสตร์ของโลกุตระนั้นยิ่งเสียสละยิ่งขาดทุนให้แก่ผู้อื่นได้ โดยสุจริตและเลือดเนื้อของเรา เราเสียสละแรงงาน กำลัง ทุนรอน สิ่งที่รวบรวมแล้ว ให้ผู้อื่นได้มากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นการยืนยันความเจริญ ความพัฒนา ความประเสริฐของมนุษย์จริงๆ เป็นเรื่องจริง คนเข้าใจอย่างนี้ได้ก็แสดงว่ามีปัญญา มีปฏิภาณ พัฒนาขึ้นๆ พัฒนาขึ้นไปอย่างนี้เป็นต้น
เพราะฉะนั้นความเจริญทางเศรษฐกิจ เศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ของโลกุตระจึงทวนกระแสกับโลกีย์เขา
เพราะฉะนั้น มาสัมพันธ์กับเรื่องพืชพันธุ์ธัญญาหารที่จะสร้าง พืชพันธุ์ธัญญาหารก็จะต้องให้มากยิ่งขึ้น มีการสร้างอย่างไร้สารพิษ อย่างมีคุณภาพ และอาหารที่สร้างนั้นทั้งมีคุณภาพและจำหน่ายจ่ายแจกให้ถูกลงไปอีก จนถึงขั้นแจกฟรี ซึ่งชาวอโศกเราทำได้ แต่มันยาก มันมีจำนวนน้อย แต่เราก็ทำด้วยความเต็มใจ ความชื่นใจ พอใจที่จะทำ ไม่ได้หยุดหย่อนแล้วก็ทำเพิ่มขึ้น ไม่ได้หลงผิดไม่ได้คิดผิดว่าเราคิดผิดไปแล้วไม่ได้เรื่องไม่ใช่ แต่มันได้เรื่องได้ดีที่สุดประเสริฐที่สุด ไม่หยุดยั้งหรอก จะให้มากยิ่งขึ้น ไปชวนคนให้มันเป็นอย่างนี้มากขึ้นไปในโลก
ถ้าคนในโลกมาแล้วในทางนี้มากขึ้นเท่าไหร่ ประเทศชาติจะสงบอบอุ่นและสร้างสรรค์ ไม่หยุดหย่อน
_สู่แดนธรรม… นโยบายแบบนี้ไม่ได้หวังร่ำรวยอะไรใช่ไหมครับ
พ่อครูว่า… ความหวังร่ำรวยเป็นเรื่องพื้นฐานมากเลยสำหรับอุดมคติชาวโลกุตระ ประเทศชาติไม่ต้องไปรวย อย่างในหลวง ร.9 ไม่ได้หวังร่ำรวย เรา ขาดทุนของเราคือกำไรของเรา จะว่าไม่รวย เราก็รวยอยู่บ้าง เราไม่ได้อยากก้าวหน้าอย่างโลกที่เขาเข้าใจ การก้าวหน้าอย่างนั้นเป็นการถอยหลังและถอยหลังอย่างน่ากลัว ที่ก้าวหน้าแบบทุนนิยมแบบชาวโลกโลกีย์ มันเป็นการก้าวหน้าที่ถอยหลังอย่างน่ากลัว
แต่ก็มาอย่างโลกุตระที่ชาวเราทำ อย่างที่คนไทยในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านตรัส อาตมาก็พูดมาตั้งแต่เริ่มต้นพัฒนามา ทำงานมา 50 กว่าปีนี้ ก่อนที่จะบวชด้วยซ้ำ
ขอยืนยันว่า ในหลวงท่านเป็นพระโพธิสัตว์ มันก็ต้องตรงกันกับอาตมา ไม่มีปัญหาอะไร เพราะฉะนั้นเมื่อแนวคิดทัศนคติมันเป็นแนวทางเดียวกัน คือเป็นโลกุตระด้วยกัน คนไทยไม่ใช่มีแต่ในหลวงหรือว่ามีแต่อาตมา คนไทยส่วนใหญ่เลยเป็นพุทธศาสนา เป็นพื้นมาตั้งแต่สร้างประเทศ เพราะฉะนั้นเชื้อของโลกุตระอยู่ในจิตลึกๆในแกนของ DNA เพราะมันเป็นศาสนาพุทธ แก่นแกนของศาสนาพุทธมาตั้งแต่ต้น
เพราะฉะนั้น แม้มันจะเสื่อม ศาสนาพุทธมันจะเสื่อมเพราะถูกลืมไป อาตมาเอามาขุดคุ้ยใน พ.ศ. 2500 พอสมควรแล้ว อาตมาบวชตั้งแต่ พ.ศ. 2513 พัฒนาขึ้นมา ปลุก ปลุกให้ตื่นขึ้นมา มันก็มีอยู่แล้วเพราะเราเองเป็นคนมีเชื้อ ตื่นขึ้นมาได้
แล้วจะตื่นขึ้นมารับรู้ว่า อันนี้มันต้องเร่งรัดพัฒนากัน ช่วยให้ประเทศชาติได้มีสิ่งที่พัฒนาเจริญขึ้นไป มันก็ยิ่งน่าจะต้องพัฒนา
_สู่แดนธรรม… พ่อท่านเคยปรารภว่า อยากให้ประเทศไทยมีพลังที่เป็นมหาอำนาจในเชิงพระคุณ มันจะเป็นไปได้ไหมครับ
พ่อครูว่า… พูดไปแล้วภาษามันใหญ่ คำว่า มหาอำนาจ อาตมาว่า ไม่ค่อยสะดวกใจไม่ค่อยรื่นใจเท่าไหร่ อำนาจมันผนวกกับบาตรใหญ่ เป็นอำนาจบาตรใหญ่ มันเป็นพลังงานชนิดหนึ่ง เป็นพลังงานที่ไม่ใช่อำนาจบาตรใหญ่ แต่เป็นพลังงานอำนาจอุ้มชู ช่วยเหลือ เกื้อกูล สงเคราะห์ อนุเคราะห์ มันเป็นพลังงานอย่างนั้น เป็นพลังงานเสียสละและเป็นพลังงานที่ให้ ไม่ใช่เป็นพลังงานที่เอา เป็นพลังงานที่ให้เพื่อผู้อื่น
_สู่แดนธรรม… เพราะฉะนั้นต้องเปลี่ยนศัพท์ใหม่ ไม่ใช่ประเทศมหาอำนาจแต่เป็นประเทศมหาอภิบาล ได้ไหมครับ
พ่อครูว่า… อภิสงเคราะห์ อภิอนุเคราะห์ เพราะฉะนั้นคุณธรรมพวกนี้ อาตมาว่า แม้คนที่มีกิเลสมากมาย ฟังแล้วก็จะเข้าใจ ฟังแล้วเชื่อ เข้าใจได้ ไม่มีใครค้านแย้งอะไร คนที่ใฝ่ดี พากเพียรแสวงหาอยู่ ซึ่งคนแสวงหา ไม่ใช่ไม่แสวงหา ก็คิดว่า แนวโน้มเทรนด์จะมาทางนี้ มันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เทรนด์มาทางโลกุตระ แต่แน่นอน คนเห็นดี แต่ยังไม่มาเพราะมันยาก แต่เราไม่ท้อถอย โดยเฉพาะ เอาเข้าเป้า
ประเทศไทยมีหลักอันนี้แล้ว ขอพูดยืนยันเลยนะว่า ประเทศไทยเป็นต้นแบบของทุกประเทศก่อนประเทศอื่น เป็นต้นแบบของเศรษฐศาสตร์โลกุตระ เป็นต้นแบบของสังคมศาสตร์โลกุตระ เป็นต้นแบบของรัฐศาสตร์โลกุตระ ปักหมุดลงไปเลย
ประเทศไทยเป็นต้นแบบ เศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ เป็นต้นแบบของโลกุตระ ก็ต้องขอใช้คำทับศัพท์ว่าเป็นโลกุตระไปก่อน เป็นแบบที่มันไม่เหมือนโลกียที่เขาเป็นกันมา ไม่ใช่แค่พันปีนะ เป็นล้านๆปีแล้วโลกียะน่ะ
โลกุตระนี้จะเข้ามาเกิดในสังคมมนุษย์โลกเป็นคราวๆ ในยุคพระสมณโคดมนี้ก็เกิดมาแล้ว 2,500 กว่าปี แล้วก็จะเกิดยาวไปเป็นพุทธกัปป์ของสมณโคดม 5,000 คุณธรรมโลกุตระอันวิเศษจะหมดสิ้นไปในโลก ว่างเว้นจากคุณธรรมนี้ในโลกจะไม่มีคุณธรรมโลกุตระ จะเกิดกลียุค มนุษยชาติจะฆ่าฟัน ห้ำหั่นกัน ไม่มีอะไรคานไว้เลยในโลก โลกุตระไม่มีฤทธิ์ ไม่มีอำนาจ ไม่มีแรงพอที่จะคานไว้เลย โลกียะจะบ้าเลือดกันไปใหญ่ ประหารกันล้างโลก นี่ไม่ใช่เป็นเรื่องพยากรณ์ ในสัจจะมันต้องเป็นเช่นนั้น ยิ่งกว่าพยากรณ์นะเนี่ย สัจจะมันจะเป็นเช่นนี้
เพราะฉะนั้นตอนนี้ ผู้ใดที่พบโลกุตรธรรมแล้วอย่าช้า อยู่ไหนรีบมาคว้ามีดพร้าและจอบเสียม มา มาเลยจริงๆ นี่พูดไม่ได้พูดเล่น พูดไม่ให้มันหนัก พูดให้มันสนุกบ้าง
โลกุตระของพระพุทธเจ้า มันเป็นคุณธรรมสุดพิเศษแล้ว ที่ความเป็นคนจะค้นพบแล้วเอามาประกาศให้มนุษย์นำมาพิสูจน์ นำมาปฏิบัติตาม ของพระสมณโคดม ที่จริงของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ของพระสมณโคดมเอามาประกาศเมื่อ 2,500 กว่าปี เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็น แม้มันจะเสื่อม จนกระทั่งอาตมาต้องเอามาสถาปนาขึ้นมาใหม่ นี่ก็พูดอย่างยืนยัน ใครจะบอกว่า พูดเอาโก้ก็ต้องโก้ ก็ต้องใช้ เพราะอาตมาเป็นคนย้ำยืนยันเรื่องนี้ แล้วเป็นคนนำพาทำได้จนเป็นกอบเป็นกำขึ้นมา อย่างยืนยันความเป็นจริงได้ ถึงขั้นทำประชาชนให้มาเป็นวัฒนธรรมสาธารณโภคี สรุปลงไป สาธารณโภคีทางสังคมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ ทำได้ถึงขนาดนั้น ขออภัยที่ต้องใช้ศัพท์พวกนี้สั้นๆไว้ก่อน เพราะไม่มีเวลาจะขยายความ
เพราะฉะนั้นก็ขอสรุปว่า ประเทศไทยยังจะต้องรังสรรค์ รังสรรค์โลกุตตรธรรมเพิ่มขึ้นอีก อาตมาเน้นเข้าไปที่กสิกรรม กสิกรรมเป็นทรัพย์ ไม่ต้องไปเน้นในทางวิศวกรรม หรือว่าอะไรอุตสาหกรรม แต่เอากสิกรรมนำหน้า แล้วไม่ต้องไปตะกละ เพราะกสิกรรมแพงไม่ได้ เอาตัวเลขเป็นที่ตั้งไม่ได้ แต่เอาคุณภาพและปริมาณของพืชพันธุ์ธัญญาหารของผลของกสิกรรม ให้เป็นตัวยืนยัน ทำให้ได้มีคุณค่าดี ปริมาณมาก แล้วเราก็แจกจ่ายตามระบบของโลกุตรธรรม คือแจกจ่ายเผยแพร่ออกไป ช่วยแบบโลกุตรธรรม คือ
-
ถ้าจะขายก็ขายให้ต่ำกว่าราคาตลาด นี่อย่างเร็วที่สุดแล้ว
-
เท่าทุน ขายอย่างเท่าทุน
-
ขายให้ต่ำกว่าทุน
-
แจกฟรี