660222 มาเถอะมาอย่าช้าเพิ่มสัมประสิทธิ์มาสู่โลกุตระ พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก ดาวโหลดเอกสารที่ https://docs.google.com/document/d/1zJ9OT0amsK599vVE0e4uOZZxD9Xf1cK-a3bs_jLjHTU/edit?usp=sharing ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1DUPfik3qAP7pbeBKTn18cKbs45Rjf_ZW/view?usp=sharing ดูวิดีโอได้ที่ https://youtu.be/MUNnaoKrrrc และ https://fb.watch/iRPRh-gDb2/ สมณะเดินดิน… วันนี้วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บวรราชธานีอโศก เหลืออีกประมาณ 10 วันจะถึงงานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ปีนี้เป็นปีปาฏิหาริย์ เพราะว่าพ่อครูตอนกลับมาจากสันติอโศกก็คิดว่า ไม่สะดวกในการที่จะเดินทางไปไหนมาไหนอีกแล้ว แต่ว่าหลังจากงานฉลอง อัฏฐาริยสัจจายุ ดูว่าสุขภาพพ่อครูจะดีขึ้นเรื่อยๆ จากการสังเกตว่า 1 ชั่วโมงครึ่งจะไม่พอให้พ่อครูเทศน์แล้ว พ่อครูวิ่งยาวถึง 2 ชั่วโมงได้สบายๆ ก็เลยมีการดำริว่า ที่จะไม่ไปก็เปลี่ยนใจว่า จะเดินทางไปแล้ว ก็ยังมีคนถามอาตมาอีกว่าจะไปแน่หรือเปล่า คนที่ถามแสดงว่าตั้งอยู่บนอนิจจัง พ่อครูดำริว่าจะไป แต่ถ้าไปไม่ได้ก็เป็นเรื่องสุดวิสัยที่เราพร้อมจะ.. พ่อครู ไปก็ดีไม่ไปก็ได้ คิดว่างานพุทธาภิเษกของเราเหมือนกับร้างลา ที่จะได้พบหน้าพร้อมเพียงกันมาหลายปีตั้งแต่มีโควิด ก็จะได้กลับไปลงสนาม งานปลุกเสกงานพุทธาเหมือนกับงานสัมมนาภายในของเรา ที่จะไปทบทวนในสิ่งที่เราควรจะได้เน้นย้ำ ทำให้หมู่กลุ่มภายในของเราแน่นแข็งแรงสมบูรณ์ขึ้นได้อย่างไร ครั้งที่จะจัดนี้เป็นครั้งที่ 47 ไม่ได้ไปปฐมอโศกตั้งนานแล้ว อาตมาไปก็เกือบเข้าไม่ถูกเหมือนกัน ตอนนั้นไปงานศพ เขาปิดประตูช่วงโควิด ก็เลยไปเข้าข้างหลัง ดูเหมือนคนก็ยังไม่พร้อมจะเปิดสักเท่าไหร่ ต้องไปเจรจา เข้าไปก็เหมือนเราไม่ได้เจอมานานแล้ว ลงไปเห็นต้นไม้ที่พวกเราปลูกกันมาร่วม 40 ปีต้นไม้มันใหญ่แน่นมาก เห็นแล้วขนลุกเลย ต้นไม้ทุกต้นที่นั่นพวกเราปลูกทั้งนั้น ปฐมอโศกเป็นชุมชนแรกแรกเลยที่พ่อท่านตั้งใจสร้างขึ้นมา นครปฐมอโศกคล้ายๆบ้านราษฎร์ มีพวกเราถวายเงินมาทุกบาททุกสตางค์ก็จะไปตั้งต้นสร้างปฐมอโศก เราก็จะได้ดูความสำเร็จของปฐมอโศกที่เดินทางมาเกือบ 40 ปี ก็มีความสำเร็จ น่าจะมีข้อคิดให้พวกเราได้ศึกษาหลายๆอย่าง ในฐานะที่เป็นชุมชนแรก ที่ก่อตั้งกันขึ้นมา พวกเราจะได้ไปดู อะไรที่อาจจะเป็นอนาคตของพวกเราก็ได้เพราะชุมชนนี้ตั้งมาก่อนเพื่อน คนก็จะค่อยๆชรตา ไปเรื่อยๆ เป็นการไปให้กำลังใจแก่พวกเราที่เดินทางกันมาถือว่ายาวนานเกือบๆ 40 ปี งานนี้ก็เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ถึง 10 ส่วนวันที่ 6 เป็นวันมาฆบูชา ปีนี้งาน พุทธาภิเษก กับปลุกเสกอยู่ห่างกันนิดเดียว ประมาณเดือนหนึ่งก็จัดงานปลุกเสกต่อ ไม่เป็นไรพระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า การอยู่อย่างมีความเพียรแม้วันเดียวก็ประเสริฐกว่าอยู่ตั้ง 100 ปีที่จะอยู่อย่างเกียจคร้าน พวกเราถ้าอยู่เป็นร้อยปี แต่อยู่อย่างไม่ไปไม่มาไม่ขยับเขยื้อน อยู่อย่างนี้ร้อยปีก็ไม่มีความหมาย ถ้าอยู่อย่างมีความเพียร แม้วันเดียวก็มีคุณค่าประเสริฐกว่าอยู่อย่างเกียจคร้านแม้ร้อยปีก็ตาม เรายังมีลมหายใจมีเรี่ยวแรงแล้วก็คงจะเดินหน้า ปรารภสิ่งที่ให้ตัวเรามีคุณค่าประเสริฐให้ได้มากที่สุด ตอนนี้ก็มีอะไรประเสริฐกว่าที่เราจะได้ฟังสัจจะโลกุตระเพื่อเพิ่มสัมมาทิฏฐิของเราให้ยิ่งๆขึ้นไป ขออาราธนาพ่อครูครับ พ่อครูผู้สถาปนาโลกุตระสู่เมืองไทยในยุคกึ่งพุทธกาล พ่อครูว่า… เจริญธรรมพวกเราทุกคน การมีชีวิตอยู่ มีลมหายใจอยู่ ยังไม่ตาย อย่างที่ท่านเดินดินพูดเกริ่นขึ้นมาก่อนแล้วว่า ถ้ามีความพากเพียร มีความอุตสาหะ แม้จะพากเพียรในการพยายามมีสติสัมปชัญญะรู้ตัวทั่วพร้อม แล้วก็มีความตั้งใจ เรียนรู้ถึงความเจริญ จะเจริญแบบโลกีย์ก็ตาม เข้าใจเรื่องคำว่า ความดีกับความชั่วต่างกัน แล้วก็พากเพียรปฏิบัติตนให้ดีขึ้น มันก็ไม่เสียชาติเกิด ยิ่งมาเข้าใจโลกุตรธรรมแล้วไม่ใช่รู้แต่แค่ความดีความชั่ว แล้วก็ทำตนให้เป็นคนดี ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสรู้นั้นมีเรื่อง จิต เจตสิก รูป นิพพาน สามารถที่จะทำจิตเป็นประธาน ให้รู้จักจิตเจตสิกต่างๆ ซึ่งเป็นต้นทาง เป็นต้นเหตุแห่งการทำชั่วทำดีก็ดี จนกระทั่งดับเหตุคือดับความชั่วสนิท เหลือแต่ความดี ทำแต่ดี เข้าใจโลก เข้าใจเหตุปัจจัยที่ปรุงแต่งกัน เรียกว่าสมมุติสัจจะหรือสมมุติกับปรมัตถ์ก็แล้วแต่ เป็นสมมุติทางโลกีย์ก็ตาม ก็เข้าใจโลกีย์เขาที่เขายึดอย่างนี้ว่าดี เราก็ดีตามโลกๆโลกีย์เขา ไม่ได้ขัดแย้งอะไร ยิ่งเป็นโลกุตระ เป็นปรมัตถสัจจะ มันทวนกระแสกันกับความดีความชั่วที่ยึดมั่นถือมั่นต้องมี กลับเป็นไม่ต้องมี ไม่ต้องยึดมั่นถือมั่น ปลดปล่อย เลิกละไปอีก วาง จนกระทั่งซับซ้อนลึกซึ้งมาก วางได้ตั้งแต่เราเป็นๆ หลุดพ้นได้ตั้งแต่ตอนเป็นๆ ไม่ติดยึดในโลกต่างๆ ในอัตตาต่างๆ จิตเจตสิกต่างๆ หลุดพ้นได้ อย่างยืนหยัดยืนยันเลยเจ้าตัวจะรู้ได้ด้วยตน ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ จะรู้ได้ด้วยตนว่าความหลุดพ้นเป็นเช่นนี้ ความไม่ติดไม่ยึดเป็นเช่นนี้แต่เรายังมีชีวิต แต่เราจะต้องอาศัย ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกที่มันยังมีอยู่ มันปรุงแต่งกันอยู่ คนที่ติดเขาก็เป็นทาส เราไม่ติดแล้วเราก็อยู่เหนือเป็นอุตตระ อยู่เหนือสิ่งนั้นไม่เป็นทาส แม้ไม่เป็นทาสแล้วเราก็ไม่ไปตั้งตัวเป็นนายอีกด้วย ไม่ไปข่มไปเบ่งสิ่งที่เราหลุดพ้นมาได้แล้ว อย่างนี้เป็นต้น มีแต่เห็นใจเขา เมตตาเขา เห็นเขาอยู่ในสงสารที่ตกต่ำหรือตกอยู่ในสงสารก็ช่วยกัน หาทางบอกทางกล่าว หาทางที่จะช่วยกันให้ได้พัฒนาขึ้นมาให้ได้ อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งพวกเรา เป็นชาวโลกุตระที่อาตมาทำงานมาเกิดมาในชาตินี้ปางนี้ พ.ศ. 2500 กว่าปีมานี้ ศาสนาพุทธมันเสื่อมมากจริงๆ เสื่อมมากจนไม่เหลือโลกุตระตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสพยากรณ์เอาไว้ ตั้งแต่ท่านทรงพระชนม์ชีพว่า ศาสนาของท่าน ศาสนาพุทธนี้ มันจะเสื่อมในอนาคตเหมือนกลองอานกะ อย่างนี้เป็นต้น ก็พูดถึง ยืนยันอ้างอิงมานานหลายที แล้วก็จริง มันจริงๆๆ ใครจะไม่เชื่อก็ไม่มีปัญหา แต่ผู้เชื่อก็ได้ประโยชน์ แล้วก็รู้ว่าโลกุตระคืออะไร ผู้นำโลกุตระมาสถาปนาลงไป อย่างพยายามสถาปนาตั้งมั่นให้เกิดทั้งรูปทั้งนาม ให้เกิดขึ้นเป็นตัวตนของผู้ที่มาเอง บรรลุได้ด้วยทั้งรูปทั้งนามเอง อย่างพวกเราชาวอโศก อาตมานำพานี้ได้ ทำได้ มีผู้ที่มาก่อนอาตมา กล่าวถึงคำว่าโลกุตระ หรือทำสภาพโลกุตระทางรูปธรรม ท่านไม่มีรายละเอียดเหมือนอาตมา ท่านก็ได้แต่นำพาให้คนรู้ แต่ทีนี้คนไทยมี DNA โลกุตระอยู่ลึกๆ แต่มันเสื่อมไปจนกระทั่งมันจะหมดเชื้อแล้ว แต่มันก็ยังไม่ใช่หมดเชื้อ พอมันได้รับการกระตุ้นอีกมันก็ขึ้นมา ใครมีอยู่เชื้อเยอะอย่างพวกคุณอย่างพวกชาวอโศก โอ้โห.. อย่างนี้ใช่ ก็รีบมาๆๆ จึงมาทัน 40-50 ปีอาตมาจึงกอบกู้ขึ้นมาได้ประมาณนี้ ทุกวันนี้ก็ดีขึ้น ชาวไทยก็มีแรงต้านแรงที่เข้าใจว่าอาตมานี้หลงทางพาผิด มากบฎต่อศาสนาพุทธ จะเอาอาตมาตาย อาตมาก็ยืนหยัดยืนยันจน ธัมโม หเว รักขติ ธัมมะจาริง ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม อาตมาก็นำพาสำเร็จรอดได้จนถึงทุกวันนี้ ก็เหลือแต่ผู้ที่ยังไม่มั่นใจพอ เขาก็ยังไม่มา แม้รู้แล้วแต่เขายังติดโลกียะอยู่ ติดใน ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข ก็แล้วแต่ เขาก็ติดตามศึกษาตามอยู่ แต่ไม่มาชาตินี้ ก็รับฟังอยู่ ติดตามอยู่ ก็มีเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นอยู่ ซึ่งอาตมาก็พยายามที่จะเพิ่มมวลของโลกุตรบุคคลให้ยิ่งๆๆๆขึ้น เห็นอัตราการก้าวหน้าตามภูมิปัญญาของอาตมา ก็วัดค่าอยู่ว่า มันมีอัตราการก้าวหน้าที่น่าพอใจมาก อาตมาก็ยิ่งเห็น ก็ยิ่งเห็นความลึกซึ้งของธรรมะ มันมีมากเหลือเกิน ลึกซึ้งมาก อาตมาก็จำเป็นเหมือนกันว่า จะต้องพูดเอาไว้ จะต้องสาธยายเอาไว้ให้มีผู้รับสืบทอด รับรู้ เก็บไป แล้วก็จะได้เป็นเชื้อถ่ายทอดสืบทอดกันต่อๆๆๆ ไปได้ ช่วยกัน มันเป็นเรื่องไม่เสียหาย มีแต่เรื่องดีกับดี มีแต่เรื่องเจริญกับเจริญ อาตมาจึงพยายาม ทั้งพยายามที่จะสืบทอดต่อ ยังไม่ยอมตาย ยังพยายามที่จะพากเพียรเพิ่ม อาตมานึกถึงภาษาไทย สัมประสิทธิ์ ซึ่งเป็นภาษาทางคณิตศาสตร์เขา แต่อาตมาเอามาใช้ทางพุทธศาสตร์ สัมประสิทธิ์เป็นภาษาทางคณิตศาสตร์ เป็นอัตราการก้าวหน้าในระดับคูณขึ้นไป ของพระพุทธเจ้าก็มีระดับคูณขึ้นไปเป็นอัตราการก้าวหน้าระดับคูณซึ่งมันเหนือชั้นกว่าบวก บวกมันทั้งช้าทั้งไม่มีพลังฤทธิ์ที่สูง ที่จะตกต่ำได้ง่าย แต่ถ้ามันคูณแล้วขึ้นไป บวก คูณ ยกกำลัง ถ้าถึงขั้นขีดยกกำลัง มันก็ยิ่งจะมั่นคง แน่นอน เที่ยงแท้ถาวร ใช่ไหม ยิ่งขึ้นๆ มันก็เป็นสัจจะของมันอย่างนั้น อาตมาก็เห็นว่า อัตราการก้าวหน้าพวกนี้มันมีจริง แม้.อาตมาพิสูจน์ตัวเองต่ออายุไข นี่ถ้าอาตมาอายุขัยไปถึงร้อย อีก 10 กว่าปีนิดหน่อย ประมาณ 11 ปี ตอนนี้ 89 แล้วไปถึง 100 ถ้าไปอีก 11 ปี อาตมาว่ามันไม่ใช่เล่นนะ 11 ปีกับที่ขันธ์อาตมาต้องพากเพียร ต้องอุตสาหะอาตมารู้ตัว ไม่ใช่เล่น แล้วพลังงานที่มันเพิ่มสัมประสิทธิ์นั้นๆ ขึ้นมา มันจะยิ่งเพิ่มขึ้นอีก เพราะฉะนั้นประสิทธิภาพของสัมประสิทธิ์ที่มันได้นั้น มันจะช่วยให้ยิ่ง Fresh up มันยิ่งจะสดใหม่ หนุ่มขึ้น ยิ่งขึ้นเรื่อยๆๆๆเลย อันนี้เป็นเรื่องของอจินไตย เป็นเรื่องของสิ่งวิเศษเหนือสามัญธรรมดาที่มันเกิดจริง มันก็เป็นการพิสูจน์สัจจะอันนี้อีก เห็นไหม อาตมาฟังศาสตราจารย์ดอกเตอร์อะไรสักอย่างเมื่อกี้ เขาเปิดทางมือถือให้ฟัง เขาบอกว่าอาจารย์นี้อธิบาย ค้นพบมณีแดง มันก็คือสเต็มเซลล์ที่ว่า แต่ทีนี้อันนี้มันรู้สึกว่าจะเป็นจริงเป็นจัง กว่าดอกเตอร์สำลี สเต็มเซลล์ น่ะ อันนี้มณีแดงของอาจารย์คนนี้ มันดูจะมีผลจริงและรองรับกันดี มีผลวิจัยอะไรต่ออะไรดีกว่า อาตมาก็เห็นว่าการก้าวหน้าที่จะเพิ่มถือว่าอายุ เป็นยาอายุวัฒนะ ที่จิ๋นซีค้นหากัน ฮ่องเต้จิ๋นซีค้นมันไม่เจอในยุคโน้น แต่ในยุคนี้มันจะมี ดีไม่ดีจะได้โนเบิลไพรซ์ ถ้าพิสูจน์อย่างจริงจัง ได้สูตรที่สมบูรณ์แบบของมณีแดงนี้อย่างถาวรและได้พิสูจน์กันทดสอบกันอย่างจริงจังแล้ว มันจะสุดยอดเลย เขาเรียกมณีแดงยาต้านแก่ ไทยค้นพบครั้งแรกของโลก มณีแดงยาต้านความชรา ก็ดูไป เพราะฉะนั้นในชั่วอายุของอาตมาที่จะพยายามรักษาขันธ์นี้ให้มันไปได้ มันก็จะมีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาไล่เลี่ยกัน มันมีอะไรไล่เลี่ยมาตลอดเลยอาตมา ชีวิต อาตมาทำงานก็มีไล่เลี่ย คนอื่นมาเกิดหนุนซ้อนๆๆ ทำให้เกิดการเจริญได้สมบูรณ์แบบได้เรื่อยๆ เขาบอกว่ายังไม่จัดจำหน่ายอยู่ในขั้นการทดลองกับสัตว์ ไม่ได้เป็นผลไม้หรืออาหารเสริม แต่เป็นยาฉีดเท่านั้น ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง 1 เข็มมีอายุประมาณ 4 เดือน มณีแดงเป็นชื่อกระบวนการที่ทำให้ DNA เสถียรช่วยต่อต้านความชรา นี่ก็เป็นการพัฒนาของทางโลก ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์วิทยาศาสตร์ทางโลก คนก็คิดกันทั้งโลกพวกที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่นี่คนไทยเราก็ไม่ได้ด้อยกว่าคนต่างประเทศเขา ก็คิดได้ อันนี้จริงๆแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องของทางธรรมะนะ แต่มันก็เป็นคุณธรรมอันหนึ่งที่มนุษย์ต้องการ มันเป็นรูปธรรม มันเป็นวัตถุธรรม ที่จะเข้ามาช่วยสรีระ ไม่ใช่นามธรรมทีเดียว แต่ชีวะชีวิตของสัตว์โลก มันก็ต้องมีทั้งรูปทั้งนามช่วยกัน ถ้ารูปมันช่วย นามก็พลอยไปได้ด้วยกัน ก็ค่อยๆพัฒนาไป อันนี้อาตมาขอเวลา เขาฝากโฆษณาด้วย เชิญเข้าค่ายอุโบสถศีลออนไลน์ จะเรียกว่ามักง่ายก็ได้ อยู่บ้านใครบ้านมันก็เปิดมือถือ เปิดโทรทัศน์ เปิดคอมพิวเตอร์ก็ได้ .. ขอเชิญทุกท่านร่วมเข้าค่ายอุโบสถศีลออนไลน์ ครั้งที่ 15 “เข้าหาแก่นในแดนพุทธะ” เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 24 ถึงวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 สมัครง่ายๆ โดยการแสกน QR Code จากหน้าจอ เพื่อเข้าร่วมกลุ่มไลน์โอเพ่นแชท เมื่อเข้ากลุ่มแล้ว ท่านจะได้รับรายละเอียดการสมัครและกิจกรรมต่างๆ จากผู้ดูแลกลุ่ม อย่ารอช้า รีบสมัครเลย!! แล้วมาพบกับหมู่กลุ่มมิตรดีที่ บวรออนไลน์ นะคะ พ่อครูว่า… SMS วันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ 2566 3 สถาปัตยกรรมที่พ่อครูพาทำช่วงสุดท้ายมีความหมายอย่างไร _สว่างแสง ขวัญดาว · พ่อครูคะ ลูกได้ฟังมาว่าพ่อครูจะคอยดูความสำเร็จของการก่อสร้างภูเฮา สะพานโค้งรุ้ง เรือโคกใต้ดิน ลูกขอกราบเรียนถามพ่อครูว่า สิ่งก่อสร้างแต่ละอย่างให้ข้อคิดข้อเตือนใจอย่างไรคะ น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ พ่อครูว่า… ก็มีข้อคิดเตือนใจมีทั้งที่ให้เห็นว่าคนก็ต้องสร้างสรร สร้างสรรค์ไม่มี ค ควายการันต์นะ สรร ตัวนี้แปลว่า เลือกเฟ้น แต่ สรรค์ แปลว่าสร้าง มันเลือกเฟ้นแล้วจึงสร้าง ถ้าไปสร้างโดยไม่เลือกเฟ้นมันจะผิด เพราะฉะนั้นที่อาตมาทำนี้เลือกเฟ้นมาแล้วจึงสร้าง ซึ่งอาตมาก็เหลืออยู่ประมาณนี้มี ภูเฮา มีโคกใต้ดิน กับสะพานโค้งรุ้ง 3 สิ่งนี้ทำแล้วอาตมาก็จะเพลา มันหนักทั้งที่เงินที่จะเอามาใช้ ทั้งอะไรอีกหลายอย่าง ก็ขอผ่านๆไปก็แล้วกัน เพราะฉะนั้นที่คุณสว่างแสงถามมาก็คือ มันชี้ให้เห็นทั้งการสร้างสรร ที่ไม่มี ค และสร้างสรรค์ที่มี ค หรือจะไม่การันต์ก็แล้วแต่ สรรค แปลว่า สร้าง เพราะฉะนั้น มันเลือกแล้วพิจารณาแล้วว่ามันควรจะทำหรือควรสร้าง ภู คำว่า ภู นี่ มันเท่ากับ ความเป็นดิน หรือว่าเป็นหิน เป็น ดิน น้ำ มันไม่มีน้ำอะไรมากมายหรอกก็พอช่วยกัน มันก็เป็นองค์ประกอบของดินน้ำลมไฟ ทำให้มันเป็นเนินสูงขึ้นเป็นธรรมชาติธรรมดา เป็นธรรมชาติ ภูนี่ เพราะฉะนั้นคำว่า ภู เป็นธรรมชาติ ทีนี้คำว่า สะพาน ไม่ใช่ธรรมชาติ แต่ก็เกิดเป็นธรรมชาติให้เรา เราใช้มันเป็นธรรมชาติเอง มันพาดอยู่ มันเชื่อมต่อกันอยู่ สะพานคือที่เชื่อมต่อกัน เราก็ใช้อาศัยมันเป็นที่เชื่อมต่อที่เป็นวัตถุก็ได้ แล้วคนก็ต้องอาศัยเครื่องเชื่อมต่อ ตั้งแต่เป็นวัตถุจนกระทั่งถึงนามธรรม สะพานเชื่อมต่อก็คืออายตนะ หรือรูปกับนาม ที่มันต้องมีการสัมผัสกันแล้วเกิดอายตนะ นี่คือสะพานเชื่อมต่อเป็นต้น นี้เป็นนามธรรม มันเป็นความสำคัญที่จะต้องเรียนรู้และต้องเกิดต้องเป็นตั้งแต่อาศัยมัน ตั้งแต่วัตถุ จนกระทั่งอาศัยทางนามธรรม ส่วนเรือ อันนี้ซับซ้อนลึกซึ้งยิ่งกว่า ภู ยิ่งกว่าสะพาน เรือ มันหมายถึงทั้งนามธรรม หมายถึงวัตถุธรรม ศาสนาเทวนิยมเขาก็เห็นความสำคัญของเรือเหมือนกัน ซึ่งเขาสรุปว่า เรือของเขาคือเรือโนอาห์ เป็นเรือที่เกิดช่วยคนที่เหลือเมื่อโลกมันจะแตก น้ำมันจะท่วมโลก คน สัตว์จะตายหมด ถ้าได้อยู่ในเรือนี้ เขามองเป็นน้ำท่วมโลก ทางพุทธเรามองเป็นไฟไหม้โลก เป็นกลียุค แต่ของศาสนาเทวนิยมเขาเป็นน้ำท่วมโลก ของเราไฟไหม้โลกซึ่งละเอียดกว่า อาตมาไม่ลงลึกในเรื่องของน้ำท่วมกับไฟไหม้ พูดสังเกตนิดหน่อยว่า น้ำท่วมนี้มันเหลือเศษไหม ไฟไหม้นี่ อะไรเหลือเศษมากกว่ากันกับน้ำท่วม น้ำท่วมเหลือเศษหยาบกว่า ไฟไหม้นี้แหลกรานกว่า ไม่เหลือเศษเท่า เป็นธุลีผงเป็นขี้เถ้าไปยิ่งกว่า เพราะฉะนั้นความละเอียดละออของพระพุทธเจ้า ที่ใช้ไฟ แต่ทางศาสนาเทวนิยมเขาใช้น้ำ ต่างกันโดยนัยยะประมาณนี้แหละ เพราะฉะนั้นอาตมาจึงสร้าง จะไปดูถูกก็ไม่ได้ เรือก็คือมีความหมายอย่างที่ว่ามาแล้ว ก็สำคัญ ไม่ใช่เราไม่รู้ความสำคัญ ก็เลยจึงสร้างความสำคัญว่าเราก็เข้าใจนะ เรือ นี่ก็เป็นอจินไตยว่า ทำไมอาตมาต้องไปเสียเงินเสียทองอยู่กับการอนุรักษ์เรือ ทั้งๆที่ทุกวันนี้เรือ เขาไม่ใช้กันแล้วเป็นพาหนะ ใช้กันอยู่ในทะเล ใช้อยู่ในแม่น้ำใหญ่ๆที่มีเหลืออยู่บ้าง แต่เขาไปใช้เครื่องบิน มาใช้รถ ใช้พาหนะทางบกทางอากาศได้เร็วยิ่งกว่าเรือ สะดวกยิ่งกว่าเรือ ลัดทางได้ยิ่งกว่าเรือ มีประสิทธิภาพมากยิ่งกว่าเรือ แต่เราอย่าลืมว่า วัฏสงสารมันวนไป ตั้งแต่หยาบจนถึงละเอียด เพราะฉะนั้น เรือมันก็จะต้องผ่าน เอาละจะมาถึงเครื่องบิน มาถึงรถยนต์ มาถึงอะไร จนกระทั่งเดี๋ยวนี้มันเป็นฤทธิ์เดชแบบสมัยนี้ มันไม่ใช่ฤทธิ์เดชแบบสมัยโบราณที่เหาะเอาเองเลย เดินน้ำดำดินเองเลย เดินบนน้ำ ดำลงไปในดิน ไปเองเลย แต่สมัยนี้มันหาได้ที่ไหนเล่า พลังงานทางจิตที่มันจะวิเศษขนาดนั้น มันไม่ได้ มันก็จะต้องใช้สิ่งที่มันเป็นไปตามยุคตามสมัยอย่างนี้แหละ เพราะฉะนั้นอาตมาก็จึงทำให้มันครบถ้วน ก็ยังเหลือสิ่งที่พูดไปแล้วนี่ เพราะฉะนั้นก็พยายามทำให้มันครบถ้วนตามภูมิ ตามกาละ เทศะ ฐานะที่มันถึงยุคสมัยก็ทำไป เพราะฉะนั้นก็ยังเคยนึกอยู่เหมือนกันว่า ทำไมเราจะต้องมาเสียแรง เสียเวลา เสียเงินเสียทองกับไอ้เรือเนี่ย แล้วก็คิดว่าจนกระทั่งไปถึงกลียุคนี่ เรือที่เราพากันใช้อยู่หรือพากันอนุรักษ์ มันคงจะได้ใช้ประโยชน์น้อยลงๆๆๆ แน่ๆ ซึ่งอาตมาก็เอา ต้องพยายามทำตามประสาแหละ จะไปดูถูกดูแคลน จะไปตีทิ้งซะทีเดียวก็ไม่ได้ ไม่มีใครทำแล้วอาตมาว่าในประเทศไทยขณะนี้ มีนี่แหละอยู่บ้านราชเมืองเรือ ก็อีกแหละ ทำไมต้องชื่อบ้านราชแล้วก็เมืองเรือ อันนี้ก็เป็นอจินไตยอย่างหนึ่ง มันต้องเป็นอย่างนี้ พอ อธิบายไปมากกว่านี้ก็จะยาว อาตมาก็ได้แต่ขอบคุณคนที่ช่วยในเรื่องที่รักษาดูแลซ่อมแซมเรือ ระมัดระวังทำอยู่นี่ โดยเฉพาะกล้าวางหรือกล้าทน เขาดูแลอะไรต่ออะไรอยู่พวกนี้ก็ต้องขอบคุณอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นคนอื่นๆที่มาช่วยบ้างอะไรต่ออะไรบ้าง ไม่ว่าจะช่วยด้วยแรงงาน ไม่ว่าจะช่วยด้วยแรงทุน เงินทองอะไรก็แล้วแต่ ก็ขอบคุณทุกคน คนละไม้คนละมือ ช่วยกันเสริมสร้างสิ่งที่มันเป็น จะพูดไปแล้วมันก็เป็นเรื่องซับซ้อนลึกซึ้งเป็นอจินไตย แต่ก็พูดอย่างที่อธิบายสู่ฟังนี่แหละ ก็ผ่านอันนี้ก็แล้วกัน _ธัญญภัทร ดรุณพันธุ์ : ตอนที่ได้พบและกราบสิกขมาตุกล้าข้ามฝัน ช่วงงานตลาดอาริยะ สิกขมาตุก็มีความปฏิสันถารดีนะคะ สัมผัสได้ถึงความเมตตามาก ๆ ค่ะ พ่อครูว่า… นี่ก็แสดงออกมา ก็ขอบคุณ _คอยใคร · กราบเคารพพ่อครูครับ เมื่อเช้าฟังสิกมาตุกล้าข้ามฝันพูดเรื่องหาทางไล่นกพิราบไม่ให้มาขี้ที่เฮือนบวร ยามดึกจะให้หน่วยซิลมาเดินจงกรมคอยกระตุกเชือกที่ผูกกระป๋องนมไล่นก หรือจะจ้างเหยี่ยวมาไล่ ราคาเป็นแสน ที่ว่ามาผมรู้ว่าท่านพูดเล่นครับ ประเด็นอยู่ที่ว่าการไล่นกที่มาอาศัยพักพิงแบบนี้เป็นการไม่มีเมตตาธรรมไหมครับ บ้านผมก็นกเยอะเพราะผมบ้าปลูกต้นไม้จนคนที่บ้านบ่นว่าตากผ้าขี้นกตกใส่ประจำ ผมก็แก้โดยไม่ให้มันมีที่เกาะครับ เสียงบ่นก็หายไป โรงรถ นกก็มาขี้ใส่หลังคารถคนที่บ้านก็บ่นอีก(แต่ผมคนล้างไม่รู้จะบ่นทำไม) ผมก็หาวิธีให้มันไม่มีที่เกาะตรงหลังคารถเสียงบ่นก็หายไป เพราะให้ไล่คงยากครับเดี๋ยวมันก็มาอีกครับ ส่วนตัวผมเคารพและชอบฟังสิกขมาตุกล้าข้ามฝันเทศน์มากครับ จัดให้อยู่ในดรีมทีมเทศน์ของผมเลยครับ นำโดยท่านฟ้าไท ท่านถักบุญ สิกขมาตุกล้าข้ามฝัน สิกขมาตุผาแก้ว อยากให้จัดเป็นทีมเทศน์สักครั้งครับ สรุปผมไม่มีจิตอคติใดๆต่อท่านเลย แค่สงสัยในเรื่องการใช้วิธีไล่นั้นดีหรือไม่ดีประการใด กราบขอพ่อครูชี้แนะด้วยครับ กราบขอบพระคุณพ่อครูครับและขอให้พ่อครูอยู่กับลูกๆ ไปถึงร้อยกว่าปีด้วยครับ พ่อครูว่า… แล้วคุณจะสร้างอาคารให้มันไม่มีที่ให้นกเกาะ คุณสร้างยังไง คุณจะสามารถทำยังไงอาตมานึกไม่ออก อาตมาก็ไม่วิจัยต่อก็แก้ไขกันไปเท่าที่ได้นะ ก็พยายามทำ ส่วนคุณจะมองว่าไม่เมตตา คุณจะไปเมตตาอันไม่มีประมาณ เมตตาสัตว์ต่างๆให้มันมาขี้รดหัวคนอยู่อย่างนั้น คุณก็มีเมตตาสูงก็อนุโลมเอา ก็อนุโมทนายินดีด้วย แต่อาตมาว่าอาตมาพยายามหาหลักเรื่องป้องกันต่างๆนานากันอยู่ แต่มันก็อย่างว่าทุกอย่างมันไม่ใช่ของง่ายๆในหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง ก็พยายามกันไปก็แล้วกัน ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น _แก้วตะวัน พวงบุบผา · น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพบูชาอย่างสูงยิ่งค่ะ..ประทับใจคำพูดพ่อครูที่กล่าวว่า”แสวงหาความสุข จึงสร้างเหตุแห่งทุกข์ ” ถ้าไม่อยากทุกข์ ก็ต้องหยุดแสวงหาความสุขให้ได้ กราบสาธุค่ะ พ่อครูว่า… ภาษามันง่ายนะ แต่จริงๆแล้วมันกว่าจะปฏิบัติประพฤติดับเหตุแห่งทุกข์ มันก็ไม่ต้องแสวงสุขอีกเหมือนกัน พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วก็นำมาสอน ก็ศึกษาแล้วปฏิบัติก็แล้วกัน ใกล้จะเลือกตั้งพ่อครูว่าเราควรสนับสนุนใคร _สื่อฟ้าศิลป์ ภูวนาถ · เลือกตั้งหน้าฯพ่อครูสนับสนุนใคร? จะขอเลือกตั้งเดินตามหลังพ่อครูที่ไม่เคยเลือกผู้นำผิดทำนองคลองธรรมเพื่อประโยชน์สุขอาณาราษฎรใต้ร่มพระบารมีฯเลยมา ๒ แผ่นดินฯกราบอนุโมทนาธรรมพ่อครูเพื่อมวลมนุษชาติสาธุ พ่อครูว่า… อาตมาไม่ไปชี้แนะอะไรมากมาย ถ้าใครติดตามอาตมาอยู่ ก็จะรู้ ว่าอาตมาควรจะสนับสนุนใคร เพราะฉะนั้นพูดก็ได้ไม่พูดก็ไม่เป็นไร อาตมาก็สนับสนุนผู้ที่เห็นควรว่า เป็นผู้ที่มีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเปรียบเทียบ เช่น อุ้งอิ้ง กับนายกตู่อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งขณะนี้เป็นคู่ที่กระแสสังคมเขารู้สึกว่าเป็นคู่เทียบกัน เขาเรียกกันสวยๆว่าแคนดิเดต นายกครั้งหน้า อุ๊งอิ๊งกับนายกตู่ อาตมาว่ามันเทียบกันได้หรือ คนหนึ่งมีผลงานมา สำคัญคือวัยวุฒิ คุณวุฒิประสบการณ์ก็ดี มันเกินหน้าอุ๊งอิ๊ง มันควรหรือ จะเสี่ยง เอาล่ะ อุ๊งอิ๊ง จะบอกว่าเสี่ยง แล้วเหตุปัจจัยของอุ๊งอิ๊งมาจากทักษิโนมิก ไอ้ประเด็นแค่นี้อาตมาก็ว่า ทำไมจะฉลาดน้อยกันได้ มันจะฉลาดน้อยกันไปถึงไหน ก็ความล้มเหลวของทักษิณ ของอา ของน้าเขย ของนอมินีต่างๆทักษิณ มันไม่เป็นเหตุปัจจัยที่จะพอเป็นหลักฐานพอเพียงที่จะเอามาใช้เป็นเครื่องตัดสิน หรือ เวลา 8 ปีเหมือนกัน เวลาของทักษิณเขาก็ใช้นอมินี แล้วผลงานเขาก็เห็น 8 ปีของพลเอกประยุทธ์ผลงานก็เห็น นัยยะรายละเอียดมีอีกตั้งเยอะ แค่นี้เหตุปัจจัยต่างๆเป็นเหตุผลประกอบ แล้วก็เอาไปสรุปผลให้แก่ตัวเองไม่ได้ก็แล้วไป อาตมาก็ขอพูดแค่นี้ก็แล้วกัน อาตมาบอกไปกรายๆแล้ว ที่จริงอาตมาเกิด 3 แผ่นดิน แผ่นดินรัชกาลที่ 8 รัชกาลที่ 9 แล้วก็รัชกาลที่ 10 อาตมาเกิดทัรัชกาลที่ 8 นะ สามแผ่นดิน รัชกาลที่ 7 นั้น อาตมาเกิดปี 2477 รัชกาลที่ 7 ท่านสละราชบัลลังก์ 2475 แล้วก็เลยเปลี่ยนมาเป็นรัชกาลที่ 8 เพราะฉะนั้นอาตมาก็เริ่มต้นที่รัชกาลที่ 8 ก็นิดหน่อยเอาให้ชัดๆตรงๆเท่านั้นเอง _จนแท้ บุญคุ้มมาจน · คืนวันศุกร์ที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา พ่อครูสดใสเหลือเกินครับ.สาธุ… พ่อครูว่า… สาธุให้จริงเถอะ _สุดาวรรณ ตั่นติกุล · ดิฉันได้พ่อครูสอนค่ะ ดิฉันจึงมีกำลัง! สอนตัวเองเสมอๆ.ให้สู้ๆ!กับกิเลส,ผัสสะ”ร้ายแรงมากๆ!! รอบตัวดิฉันค่ะ โชคดีเหลือเกินที่มีพ่อครูสอน(ไม่เช่นนั้น?!แพ้มันแน่!? เพราะมันเป็นสิ่งที่คนรอบตัวดิฉันเขาต้องการ(ตรงกันข้าม เขาไม่สามารถรู้ได้เลยค่ะ/) พ่อครูว่า… เอ้า วิบากใครวิบากมัน พยายามแก้ไขปรับปรุงให้ได้ ขอเอาใจช่วย _wommstaff5153 วูมสตั๊ฟ5153 • น้อมกราบนมัสการพ่อครูสมณะสิกขมาตุทุกๆท่านเจ้าค่ะ ทุกวันนี้ลูกได้รับฟังพ่อครูเทศน์ ลูกก็จะเอามาปฎิบัติตามบ้าง อย่างลูกปลูกกล้วย เวลาขายก็ขายถูก ๆ อย่างกล้วยน้ำว้าที่อื่นเขาขายหวีละ 35-40 บาท แต่ของลูกขายแค่ 25 บาท กล้วยหอมทองที่อื่นขายหวีละ 45,50,60 บาท ลูกขาย 35,25 บาท เท่านี้ล่ะเจ้าค่ะ ต่อนี้ไปลูกขออนุโมทนาบุญกุศลกับพ่อท่านมีสุขภาพแข็งแรงมีความสุขอายุยืนยาว 130 ปี นะเจ้าคะ สาธุเจ้าค่ะ พ่อครูว่า… สาธุดี ดีมากช่วยอาตมาและก็ช่วยประเทศชาติ ช่วยสังคมมนุษย์ ช่วยสังคมโลก ช่วยเศรษฐกิจด้วยการประพฤติปฏิบัติแบบนี้ ช่วยยืนยันว่าเศรษฐกิจเจริญต้องคนลดการโลภ ลดเอาเปรียบ ลดที่จะถึงขั้นยอมขาดทุนได้อย่างที่เราพาทำหรือแจกฟรี อย่างนี้ต่างหากคือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จะยังไม่ต่อคำว่า แก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยแนวคิดบุญนิยม จะได้อธิบายกันอีกซึ่งพูดมานานแล้วแต่ก็ต้องพูดอีก เพราะว่ามันยาก มันเป็นโลกุตรธรรม แล้วมันจริง ขอให้สมพรปากคุณ 130 ปี อาตมาตั้งใจว่าจะอยู่ 133 ปี _บุรุษ ไร้นาม · ชอบเปลว สีเงินครับ ชัดเจนมาก พ่อครูว่า… ดี อาตมาก็เป็นแฟนนานุแฟนของคุณเปลวเหมือนกัน อาตมาก็อ่านที่แกเขียนทุกวัน ประวัติส่วนหนึ่งของการเป็นนายแพทย์ นพ.สุรินทร์ และ นพ.ฝน _ต้อย ปลูกขวัญ ปฐมอโศก..ในโอกาสคล้ายวันเกิด คุณเจิดจินดา โชติยะปุตตะ วันที่ 17 ก.พ.2566 คุณพ่อกุลศักดิ์ โชติยะปุตตะ ประธานมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ได้นำรถเกี่ยวข้าวและรถดำนามาถวายพ่อท่านให้เป็นประโยชน์กับสาธารณะโภคีต่อไป …(มีภาพ) และเพื่อจะอุทิศส่วนกุศลให้เพื่อนคือ ลุงป๊อด (ดร.ธัชชัย แสงสิงห์แก้วเป็นลูกของ นพ.ฝน แสงสิงห์แก้ว)ซึ่งเป็นเพื่อนพ่อท่านด้วยค่ะ พ่อครูว่า… ดี ป๊อด อาตมารู้จักดี เป็นน้องชายหมอจี๊ด ก็เป็นลูกอาฝนนี่แหละ อาตมาก็รู้จักดีกันกับอาฝน เพราะว่าลุงหมอของอาตมาเป็นเพื่อนกันรุ่นเดียวกันกับอาฝน เป็นหมอรุ่นเดียวกัน แต่ว่าเคยพูดอธิบายไปแล้ว คือลุงอาตมาอายุแก่กว่าอาฝน จบ ม.7 แล้วทีนี้ศิริราชเขาจะเปิดรับสอนนายแพทย์ เขาก็รับตั้งแต่ ม.7 แล้วก็ ม.8 ที่จริง ม.8 นั่นแหละเป็นหลัก ทีนี่อาฝนเขาไม่อยากจะไปเรียน อยากจะจบ ม.8 ก่อนถึงจะไปเรียนจึงจะเป็นขั้นตอนที่ดี อาฝนเขาก็เรียน ม.8 ต่อ ส่วนลุงอาตมาบอกว่า ไม่เอาแล้วล่ะอายุมากแล้ว ก็เลยไปเรียนก่อนไปเรียนที่ศิริราช ศิริราชรุ่นนั้นจึงเป็นรุ่นประกาศนียบัตร ยังไม่ได้เป็นปริญญา ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงคำว่าใบรับรองเป็นใบปริญญา ยังเป็นใบประกาศนียบัตรอยู่ ลุงหมออาตมาก็เลยได้รับจบแพทย์มาด้วย ได้รับประกาศนียบัตรรุ่นสุดท้าย หมอฝน จบ ม.8 แล้วไปเรียนเป็นรุ่นต่อมา จึงได้เป็นนายแพทย์ปริญญารุ่นที่ 1 นี่ก็เป็นเรื่องเล่าแถมให้ฟัง อาตมาก็สนิทสนม เพราะว่าอาตมาก็เป็นลูกลุงเหมือนกัน เอาไปเลี้ยงตั้งแต่เล็กๆจนกระทั่งมาเรียน ลุงก็ดูแลอยู่ตลอด เพราะแม่อาตมาเสียตั้งแต่อายุ 40 กว่า เพราะฉะนั้นก็อยู่กับลุง ลุงเลี้ยงดูอุ้มชูมาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่ลุงยังไม่มีลูก เอาอาตมาไปเลี้ยงเป็นลูกคนแรก ก็เลยเป็นพี่คนโตของน้องๆเขา น้องๆลูกของลุงที่ใช้นามสกุลพรหมพิทักษ์ อาตมามาทางแม่ แม่ก็มาใช้นามสกุลพ่อก็คือ รักพงษ์ แต่ที่จริงก็คือตระกูลพรหมพิทักษ์ หรือว่าสุวรรณภูมิ พรหมพิทักษ์นี่คือลุงเป็นคนตั้ง จากพรหมวงศานนท์ ก็เลยมาใช้ พรหม เพราะว่าคุณตาชื่อพรหมสุรินทร์ ก็เลยเอาคำว่า พรหมมา แล้วก็ชื่อคุณตานั่นแหละ ชื่อท้าวพรหมสุรินทร์ พรหมวงศานนท์เป็นชื่อของอีกสายหนึ่ง ส่วนสุรินทร์นี้เป็นชื่อของคุณตาอาตมา ก็คือพ่อของคุณลุงนั่นแหละ คุณลุงเป็นพี่ของแม่ ก็นามสกุลกับชื่อ ชื่อท้าวสุรินทร์ ตาอาตมาชื่อท้าวสุรินทร์ ก็เลยเอาคำว่า พรหมมาใส่ เอาคำว่าพรหมมาบวกกับสุรินทร์ แล้วคุณลุงก็ตั้งชื่อตัวเองว่าสุรินทร์ เอาพรหมพิทักษ์ มาตั้งเป็นตระกูลพรหมพิทักษ์ เป็นสกุลพรหมพิทักษ์ ก็เล่านิดหน่อย ด็อกเตอร์ธัชชัยหรือว่าป๊อด ก็รู้จักกันดี ธัชชัย แสงสิงแก้ว _พลังเพ็ญ คำด้วง กราบนมัสการค่ะ ดีใจมากค่ะที่รู้ว่าพ่อครูจะมางานพุทธาที่ปฐมอโศก นิมนต์พ่อครูเดินทางมาก่อนเพื่อปรับสภาพร่างกาย ไม่ให้พ่อครูเหนื่อยกับการเดินทางมากเกินไป จากลูกๆชาวสันติฯ กราบขอบพระคุณค่ะ พ่อครูว่า… เขากำหนดวันเดินทางแล้ว ซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วไม่มีปัญหาอะไร SMS วันที่ 20-21 ก.พ. 2566 _รักษ์ธรรม กล่อมอำภา (ผรช. กลุ่มชลบุรีอโศก): รายงานการอ่านหนังสือปัญญา ๘ ผมได้รับหนังสือ ปัญญา ๘ เล่ม ๑ เมื่อวันที่ ๘ ต.ค ๖๕ เริ่มอ่าน ๙ ต.ค ๖๕ ถึงวันที่ ๒๙ ม.ค๖๖ ผมอ่านจบไปแล้ว ๓ รอบ กำลังจะอ่านรอบที่ ๔ แต่โชคดี ประชุมกลุ่ม วันที่ ๔ ก.พ ท่านสมณะชนะผี ได้นำหนังสือ ปัญญา ๘ เล่ม ๒ เอามาแจก ผมก็เริ่มอ่าน เล่ม ๒ แทนเมื่อวันที่ ๕ ก.พ ๖๖ และอ่านจบเมื่อวันที่ ๒๑ ก.พ ๖๖ หนังสือ ปัญญา ๘ เล่ม ๑ เปรียบเป็นเหมือนผลกระท้อน ผมอ่านไป เหมือน พ่อท่านทุบแล้วทุบอีก ผลกระท้อนน่วมแล้วน่วมอีก ผมอ่านเล่ม ๒ ต่อ พ่อท่านก็นวดแล้วนวดอีกต่อ ผมอ่านมาถึง หน้าที่ ๔๘๖ บรรทัด ๑๗ ความว่า ขณะใด เมื่อใดที่เราปฏิบัติตามทฤษฎีของพระพุทธเจ้าเป็น”สัมมาทิฏฐิ”จริง ได้”ความรู้สึก”ของเราก็สามารถ”แยก”เป็น”๒”และทำ”๒ให้เป็น๑”ได้แล้วอาศัย”๑ที่อยู่ใน๒” ได้โดยไม่สับสนว่า เมื่อใดเป็น”๑” เมื่อใด อาศัย”๒” ผมอ่านตรงนี้ถึงบางอ้อ เริ่มเห็น”แสงเงินแสงทอง”แล้วครับ กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง ครับ พ่อครูว่า… อนุโมทนาสาธุที่คุณสามารถเข้าใจสื่อบัญญัติหรือพยัญชนะต่างๆไปเข้าใจสภาวธรรมในตัวเอง อนุโมทนาสาธุ เอาใจช่วย พากเพียรปฏิบัติ อ่านแต่หนังสือเข้าใจเฉยๆไม่พอ ปฏิบัติตัวเองให้รู้จักฐานของตัวเองแล้วปฏิบัติไปตามฐานของตัวเองให้ถูกแล้วมันจะไม่สับสน มันจะไม่หลงเลอะ ว่ายน้ำให้เป็นก่อนไปช่วยคนอื่นจึงถูกวิธี _เล็ก ดินเพ็ญไพร…กราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพเจ้าค่ะ..ดิฉันมีตะปูตัวใหญ่ตรึงใจกับบุพการี และตะปูตัวเล็กกับพี่ จะทำอย่างไรถึงจะเอาออกได้ ฟังมาหลายวิธี แต่มันก็แค่โยกนิดหน่อย พอเจอผัสสะที่เราไม่ชอบ ไม่เป็นดังใจ มันก็ตีตะปูตัวเองลงไปอีก รู้ว่าโง่ที่ทำแบบนี้แต่จิตมันก็โง่จริงๆ เลยมาขอความเมตตาจากพ่อครู ให้วิธีปฏิบัติที่ถูกตรงเพิ่มเติมเจ้าค่ะ (*)(*)(*) ดิฉันรู้สึกว่าถ้าเราถอนออกไม่ได้ ความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมของเรา มันไม่ไปไม่มาเจ้าค่ะ แต่ด้วยความโง่ของจิต มันก็ยังยึดตรึงอยู่นั่นแหละ ตอนนี้เหมือนคนมึน ขมุกขมัว ไม่ชัดเจนเจ้าค่ะ กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ พ่อครูว่า… คุณก็ต้องแยกความเกี่ยว ความเกี่ยวพันกัน ทุกอย่างมันจะเกี่ยวพันกันมา หรือความเป็นจริง อ่านความเป็นจริงแท้ของลักษณะที่มันเกี่ยวพันนี้ให้ชัดๆว่า คนน่ะ ถ้าเผื่อว่าคุณเองนะ ไม่ว่ายน้ำให้เป็นให้แข็งแรงพอเสียก่อนแล้ว ฟังให้ดีนะตรงนี้ ถ้าคนเราหรือคุณนั่นแหละ ถ้าไม่หัดว่ายน้ำให้แข็งแรงเสียก่อนแล้ว แล้วคุณก็จะมัวแต่ไปได้เที่ยวช่วยคนอื่น เห็นคนตกน้ำ เราก็ว่ายน้ำไม่เป็น ว่ายน้ำไม่แข็ง กระโดดลงไปช่วย แล้วจะเป็นอย่างไร มันจะช่วยกันได้ไหม เห็นตายมาเยอะแล้ว คนมันไม่นึกถึงตัวเอง จะบอกว่าเห็นแก่ตัวก็ไม่ใช่ พระพุทธเจ้าก็ตรัสชัดเจนว่า จงทำคุณอันสมควรก่อน แล้วสอนผู้อื่นจะได้ไม่มัวหมองหรือช่วยผู้อื่น ต้องทำของตนเองให้สำเร็จก่อน แม้แต่ในศาสนาคริสต์นี่แหละพระเยซู สอนว่า ช่วยตัวเองให้สำเร็จก่อนแล้วพระเจ้าจะช่วยในภายหลัง แหม..ฉลาดนะ พระเจ้าเนี่ย นั่นก็ถูก อย่างนี้เป็นต้น เอาละที่เขียนมาก็อธิบายมาพอประมาณ ยังมีต่ออีก _Kasem Santhong เกษม แสนทอง · ไม่ควรพูดว่ากินมัง(ส์) เพราะคือกินเนื้อ ควรพูดให้เต็มว่ากินมังสวิรัติ จึงจะหมายถึง อาหารปราศจากเนื้อสัตว์ครับ พ่อครูว่า… อ้าว ก็เคร่งเครียดไปทำไมมากมาย พูดพอสั้นๆ พอฟังกันรู้เรื่องก็เอาแล้วนะ มันไม่น่าจะไปซีเรียสอะไรเกินไป เอาล่ะผ่าน หากนักการเมืองซื้อเสียงเราไม่ควรส่งเสริม _ฟ้าพรห์มไพร นาวาบุญนิยม · พ่อท่านคะตอนนี้ทางบ้านหนูอำเภอตระการพืชผล พรรค ภ.ท.มาแจกเงินชาวบ้านหัวละ 100 บาท.สองรอบแล้วค่ะ .. พ่อครูว่า… วงเล็บเปิดอาตมาเขียนเองตรงนี้ คุณเขียนมานี่เป็น ภ สำเภานะไม่ใช่พอพาน ทองแท้นะ คุณเขียนมานี่ ภ.สำเภา ท.ทหาร มาแจกเงินชาวบ้านหัวละ 100 บาท 2 รอบแล้ว อาตมาไม่รู้ความจริงอันนี้ พูดไปนี้ ขอยืนยันว่าอาตมาไม่ได้รู้จริงหรอกนะว่า ภ ท หมายถึงพรรคการเมืองพรรคหนึ่งไปแจกเงิน 100 บาท อาตมาไม่รู้ ก็พูดได้แต่ว่าทุจริตของใครก็ทุจริตของมัน สุจริตของใครก็สุจริตของมัน สัจธรรมเป็นสัจธรรม อาตมาไม่รู้ความจริงได้ ตัดสินไม่ได้ แนะนำไม่ได้ ถ้าเรารู้ทุจริตเราก็ไม่ต้องไปส่งเสริม ถ้าแน่นอนจริงจังนะ ถ้าเอาแต่ว่าข่าวคราวเดี๋ยวนี้มัน Fake News เยอะ ข่าวโกหกข่าวหลอกลวงเยอะ เอาให้ชัดๆมั่นๆจริงๆ ถ้ามันมั่นจริงๆก็อย่าไปส่งเสริมสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เราส่งเสริมสิ่งที่ถูกต้องก็แล้วกัน อาตมาก็ยังไม่อยากวิเคราะห์ลงไปในเรื่องของการเมืองตอนนี้ ในประเด็นที่หยิบประเด็นอันนี้มาขยายความก็ได้อีกยาวเยอะ เพราะว่าการเลือกตั้งนี้มันเป็นเพียงองค์ประกอบนิดหน่อย ดีไม่ดีมันเป็นงานการเมือง ที่ไม่ใช่เนื้อแท้ของประชาธิปไตย ประชาธิปไตยนั้น อาศัยสัจจะในพฤติกรรมและสิ่งที่เป็นพฤติหรือประพฤติหรือกระทำของคนจริงๆ อันนั้นมันเป็นวิธีการ การเลือกตั้งเป็นวิธีการตื้นๆ ซึ่งมันเกิดจากพวกประชาธิปไตยขาเดียว เขาไปมองเผินๆตื้นๆว่าอาศัยคนมาลงคะแนนเสียง เพื่อแสดงถึงสถิติของคนว่า ใครจะเลือกใครแท้ แต่คนที่รู้ความซับซ้อนสับสนกลในวิธีการต่างๆในการที่จะให้คนมาเลือกตั้ง แม้แต่เรื่องการซื้อเสียงอย่างที่พูดผ่านไป หรือการสร้างค่ายกล สร้างวิธีการ สร้างการครอบงำอะไรต่ออะไรต่างๆอีกมากมายก่ายกอง ที่จะให้คนมาลงคะแนนเสียงให้ ทั้งๆที่เขาไม่ใช่คนดี คนจริง คนที่ควรจะมาบริหาร แต่มันก็อาศัยไปตามประสา มันเป็นเรื่องรอง ถ้าผู้ที่อยู่ในภูมิธรรม เช่นคนไทยเรานี่ มันน่าจะมองออกในเรื่องของวิธีการ กับเรื่องของพฤติกรรมที่จริง รายละเอียดของกฎเกณฑ์ หลักเกณฑ์ วิธีการ กับพฤติกรรมที่จริง เดี๋ยวค่อยๆลงลึกละเอียดในเรื่องนี้ อาตมาพูดขยายความเรื่องนี้มาหลายประเด็น หลายมุม หลายแง่แล้ว เดี๋ยวค่อยว่ากัน ขอผ่านไปก่อน _พอใจ รักดี · ลูกคนชลบุรี อยู่มา 30 กว่าปีไม่เคยมีโพลไหนมาถามความคิดเห็นสักครั้งเลยค่ะ ลูกสนับสนุนลุงตู่ค่ะ พ่อครูว่า… คนเขาก็อ้างอิง มีข่าวชลบุรี เขามีโพล เลือกตั้งเขาบอกว่ามีอะไรแสดงออกมาตามโพลของเขา อาตมาก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร ก็คนที่เขามาอยู่ คนที่เขามี มันไม่มีคุณร่วมอยู่ด้วยนี่น่ะ คุณเป็นคนชลบุรี คุณก็ไปถามสิ ถามว่าโพลเขาไปจับกลุ่มที่ไหน ฉันเป็นคนชลบุรีทำไมไม่เอาไปด้วย ก็เอาตามความอิสระของคุณเถอะ อย่าให้ใครมาครอบงำ เพราะฉะนั้นเขาจะครอบงำด้วยวิธีการใดๆ ก็ต้องฉลาดเท่าทัน ทุกวันนี้ มันมีวิธีการสารพัดที่จะทำให้คนต้องไปลงคะแนนเสียงให้เขา เอาละขอผ่านก่อน รายละเอียดพวกนี้ยังมีอีกจะได้พูด พระเจ้าคือส่ิงลึกลับ พระพุทธเจ้าเป็นความเปิดเผย _ป้ารัตน์ หนึ่งในธรรม · กราบนมัสการค่ะ พ่อท่านด้วยความเคารพ อย่างสูงค่ะ ประชาธิปไตยมีในสมัย พระพุทธเจ้า โดยแต่ละหัวเมืองยังมีการรวมกันเเละมีการฟังเสียงกษัตริย์ต่างๆ ไม่ใช่เสียงจากพระพุทธเจ้าอย่างเดียว มีมานานแล้ว สมัยนี้แข่งขันกันน่าดู เพื่อคะแนนเสียงโดยวิธีต่างๆ น่าสงสาร กราบสาธุค่ะ พ่อครูว่า… คนยุคไหนๆก็ต้องศึกษาโลกุตรธรรมนี่แหละ มันถึงจะอยู่เหนือโลก อยู่เหนือองค์ประกอบที่คนมันสารพัดที่จะทำด้วยกิเลส มันก็มีความเฉลียวฉลาดแบบโลกีย์ เรียกว่าความเฉลียวฉลาดเฉโก คือความเฉลียวฉลาดแกมโกงมันไม่บริสุทธิ์สะอาด มันเป็นธรรมดาธรรมชาติ เพราะฉะนั้นก็ต้องทำตนให้อยู่เหนือหรือหลุดพ้นให้ได้ บรรลุความจริงอย่างอิสระ แม้แต่พระเจ้า ระวังนะ.. พระเจ้าก็ยังเป็นนายของเรา นายของเทวนิยม เป็นแต่เพียงในสายโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้าเท่านั้น พระเจ้าเป็นนายชาวพุทธที่มีสัมมาทิฏฐิที่เป็นโลกุตระแท้ๆ ไม่ได้ พระเจ้าจะมาครอบงำเราไม่ได้ ไม่ใช่ไปขบถต่อพระเจ้า แต่เราพิสูจน์ความจริงจนชัดเจนแล้วว่า พระเจ้ายังลึกลับอยู่เลย ยังไม่สามารถสัมผัส ทางตาหูจมูกลิ้นกาย กันอย่างกระจะกระจ่างได้ มันเป็นแต่เพียงความสมมุติ อยู่ในห้วงความคิดเท่านั้น พระเจ้า ผู้เป็นพระบุตรที่เอาคำสอนมา ซึ่งอาตมาอธิบายซ้อนแล้ว พระบุตรหรือพระศาสดาแต่ละองค์ของเทวนิยมไม่รู้จักการเกิดการตาย ไม่รู้จักกรรมวิบาก ไม่รู้จักว่าความรู้และความจริงที่ตนเองมีของพระศาสดาแต่ละองค์ เป็นของท่านไม่ใช่ของพระเจ้าที่ไหนหรอก แต่ท่านก็ไม่รู้ตัวเอง นอกจากไม่รู้แล้วยังไม่เชื่อมั่นด้วยว่าความรู้ขนาดนี้มันมีด้วยหรือ เราสามารถด้วยหรือ ไม่มั่นใจตัวเองก็เลยไปฝากไว้ที่พระเจ้า แล้วก็ครอบงำคนอื่นให้ศรัทธาพระเจ้า อย่ามาเชื่อฉัน อ้าว อย่างนี้ก็พิสูจน์กันโต้งๆตรงนี้มันไม่เต็มที่สิ นี่เป็นนัยยะละเอียด พวกนี้นี่. ขออภัยที่อาตมาพูดไม่ได้ไปข่มเบ่งพระเจ้าของศาสนาเทวนิยม แต่เป็นวิชาการเป็นสัจจะที่อาตมาวิจัยวิจารณ์ออกมาให้เห็น สภาวะความจริง อันนี้อาตมาวิจัยไว้เยอะในหนังสือ เขียนแล้วก็พูดบรรยาย มาก โดยเฉพาะหนังสือเขียนนี้พูดรายละเอียดไว้เยอะเลย ให้เห็นว่า พระเจ้าที่อยู่ในความลึกลับ เป็นสิ่งลึกลับจริงๆ คุณก็ต้องจำนน เพราะคุณไม่มีพระเจ้ามายืนยันได้ แต่ของพระพุทธเจ้านี้หมายถึง จิตวิญญาณ ที่เป็นพระเจ้า ใช้ศัพท์ตัวเดียวเรียกก็ได้ โดยศัพท์เรียกว่า ข้าพระพุทธเจ้า ศัพท์ ข้า ก็คือพระพุทธเจ้า ผู้ใดสามารถที่จะเชื่อพระพุทธเจ้า ก็ชื่อว่า ข้าพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าก็คือเป็นพระศาสดาองค์หนึ่ง ข้าพระพุทธเจ้า ผู้ใดที่เชื่อพระพุทธเจ้าก็คือ เชื่อความรู้ที่เขาเองยังไม่ได้ ยังลึกลับ แต่ของพระพุทธเจ้าเอามาเปิดเผยไม่ให้เป็นความรู้ที่ลึกลับ ให้เป็นความรู้ความจริงที่ชัดเจนชัดแจ้งอีกต่างหาก พิสูจน์ได้ยืนยันได้ แม้ที่สุดพระเจ้าเองยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าจะทำให้ตนเองสูญไปจากความเป็นจิตนิยามหรือเป็นธาตุ เป็นปรินิพพานเป็นปริโยสาน ซึ่งเลิกสุข เลิกทุกข์ เลิกวนเวียนอยู่ในวัฏสงสารนี่เลย ศาสนาเทวนิยมพระเจ้าไม่รู้จัก แต่ของพระพุทธเจ้ารู้จักและทำได้จริง ทำให้สูญได้และจะอยู่อย่างยาวนานเหมือนพระเจ้าก็ได้ เป็นอมตบุคคล อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งก็มีผู้พิสูจน์อยู่ ยืนยันด้วยเหมือนกัน ว่าศาสนาพุทธมีพระอวโลกิเตศวร จะอยู่นิรันดร จะช่วยรื้อขนสัตว์ให้หมดในโลกแล้วถึงจะปรินิพพานเป็นคนสุดท้าย นี่ก็เป็นปณิธานที่ยืนยันได้ อย่างนี้เป็นต้น จะบอกว่าพระอวโลกิเตศวรลึกลับ ก็ยังมีตัวตน ยังพอมีตำนาน แต่พระเจ้านี้ไม่มีใครรู้ตำนานเลย เป็นมาอย่างไรไม่มี พระเจ้าของศาสดาแต่ละศาสดา ตำนานไม่มีเลย เกิดมาแล้วก็เป็นพระเจ้าสร้างทุกอย่าง พระเจ้ามาจากไหนไม่มีต้นธาตุต้นธรรมเลย ต้นธาตุต้นธรรมของความเป็นพระเจ้ามาจากไหน พิสูจน์ไม่ได้เลย เอาอะไรมาเสกพระเจ้า ฤาษีมาเสกพระเจ้า แล้วเอาฤาษีมาจากไหน จบ พูดไม่ถูก ฤาษีก็คือคน คนสร้างพระเจ้า เขาบอกว่าคนสร้างพระเจ้าไม่ได้ พระเจ้าไปสร้างคนไม่ได้ สับสนไหม เพราะฉะนั้นยังงงยังลึกลับ วิจิกิจฉา ไปทั้งหมด เพราะฉะนั้นศาสนาพระพุทธเจ้าจึงพ้นวิจิกิจฉานุสัย สมบูรณ์แบบ _ใบฟ้า ธรรมะธารา นาวาบุญนิยม · กราบนมัสการพ่อครูด้วยเศียรเกล้าฯ กราบนมัสการท่านสมณะและท่านสิกขมาตุ ด้วยความเคารพยิ่ง เจริญธรรมพี่น้องทุกฐานะ และลูกหลานที่น่ารักทุกคนค่ะประทับใจอย่างยิ่ง กับคำว่า”คนจนที่สงบเสงี่ยม” และ”คนจนที่สุขสำราญเบิกบานใจกับการที่ได้เสียสละ(ให้)” นอกจากนี้ ยังรู้สึก ปิติยินดีอย่างยิ่งค่ะ ที่”พระนิยตโพธิสัตว์เจ้า” ได้ขยายสายรุ้งแห่งโลกุตรธรรม เข้าสู่โหมด”การเมืองบุญนิยม” ตามกาละ เทศะ ฐานะ โดยมี “พรรคสัมมาธิปไตย”ค่ะ กราบขอบพระคุณพ่อครู ผู้นำทางจิตวิญญาณ และการบริหารปกครอง ที่ไม่มีผู้ใด สามารถเทียบเทียม ด้วยเศียรเกล้าฯ ค่ะ พ่อครูว่า… คุณก็เห็นได้ตามภูมิของคุณแล้วก็ยกย่องยกยออาตมา คนอื่นเขาก็ยอมเห็นได้ตามภูมิของตนของใครของเขาเอง เขาก็อาจจะไม่ยกยอยกย่อง คนเขาอาจจะข่มหรือดูถูกดูแคลนอาตมาด้วยก็เป็นธรรมดาไม่มีปัญหาอะไรตัวใครตัวใครก็สิทธิของความรู้ ของตนเองทั้งนั้น _จรรยา ประเสริฐ · เสียดาย หมอวรงค์ หมอเหรียญทอง ท่านท้อหรือยังหนอ??? คนดี ๆ มีอีกสักกี่คน ???? พ่อครูว่า… อาตมาเคยพูดว่า โลกหรือว่าสังคมนี้มันแย่เพราะคนดีท้อแท้ อาตมาว่าอาตมาไม่ท้อแท้ พากเพียรอยู่เนี่ย แม้จะตายก็ยังไม่ยอมตายง่ายๆ เพราะฉะนั้นอาตมาเลยได้เป็นคนดี นี่เล่นโวหารนิดหน่อย อ้าวพอก่อน ผ่าน หมอวรงค์ก็ดี หมอเหรียญทองก็ดี ก็มีคุณค่าต่อสังคมไม่ใช่น้อย ช่วยกัน คนดีก็ต้องช่วยกัน _ชีวิต อยู่ที่การตั้งค่า · ตอนเนี้ผู้สมัครจากพรรคการเมืองเขามาจดชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งแล้วครับ..ประเทศไทย สุดท้าย..เงินไม่มา กาไม่เป็น(ส่วนใหญ่)พ่อครูและชาวอโศกต้องยอมรับข้อนี้ครับ โลกโลกุตระกับโลกโลกีย์ยะแม้เป็นโลกลูกเดียวกัน แต่คนในนั้นต่างกันชัดเจน ซึ่งแน่นอนว่า..คนโลกีย์ย่อมมากกว่า ผมยังเชื่อว่าคนไทย(ส่วนมาก)ยังจมปลักอยู่กับทักษิณ…เพราะความโง่งี่เง่า.. ว่าทักษิณรวยแล้วจะบริหารประเทศ(คนในประเทศ)ให้รวยได้..คนจึงยังฝันลมๆ แล้งๆอยู่..เพราะฉะนั้นทักษิณส่งใครลงก็ช่าง..พวกเขาก็จะยังเลือกอยู่..ครับ(ความคิดเห็นส่วนตัวครับ) พ่อครูว่า… ก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของคุณ ส่วนคนไทยนั้น อาตมาว่าจะพอมีปัญญาขึ้นมาจริงหรือไม่ อาตมาก็ไม่เชื่อเหมือนกัน เหมือนอย่างที่คุณเชื่อหรอก อาตมาไม่เชื่อตรงตามคุณเชื่อ คุณเชื่อทักษิณ คนจะโง่เง่าตกเป็นเหยื่อของทักษิณหรือระบบทักษิณ ตอนนี้ก็คืออุ๊งอิ๊ง ของพรรคเพื่อไทย อาตมาเห็น กระแสคนไทยนะ ตอนนี้ เขาวิ่งขึ้นจากปลักตมกันหมดแล้ว เขาไม่ได้จมอยู่กับทักษิณกัน อย่างมีปรากฏการณ์จริงนะอาตมาเห็นอยู่ ก็ไม่รู้ล่ะ ภูมิปัญญาของอาตมาหรือดวงตาของอาตมาเห็นอย่างนั้น คุณไม่เห็นบ้างเลยหรือ หรือว่าคุณก็คือคนที่จมอยู่ในปลักตมคนหนึ่งเหมือนกัน ขึ้นมาเถอะหรือจะให้คุณชัช อุบลจินดาช่วย ขึ้นมาซะ _พรศรี ทองเกษร · ลูกมีความสุขกับการได้ติดตามฟังธรรมะพ่อท่านทุกวัน ลูกจะพยายามปฏิบัติตามคำสอนพ่อท่าน พ่อท่านกล่าวความจริงทุกเรื่อง ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ฟัง เรื่องที่พ่อท่านสอน เขาน่าสงสารมากๆ นักการเมืองควรได้รับฟังมากๆ เลย เป็นอันดับต้น เขาจะได้ลดละความอยากลงบ้าง ลูกหวังว่าคนไทยคงไม่โชคร้ายเหมือนที่ผ่านมา การเลือกตั้งคราวหน้า ขอบารมีพ่อท่านช่วยให้คนไทยได้นักการเมืองที่เป็นคนเสียสละเพื่อประชาชนคนไทยมากขึ้น ทำประโชน์ต่อประเทศชาติจริงๆ พ่อครูว่า… อาตมาว่าผู้มีปัญญาเขาเข้าใจอย่างที่คุณเข้าใจก็คงพอมีอยู่นาา ทุกวันนี้ก็เริ่มลืมตาขึ้นมาบ้างแล้ว จากหลงหลับตากันมานานแล้ว หลับตานี่นะ ฟาดหางไปสู่พวกหลับตาปฏิบัติด้วย ช่วยกันได้เท่าใดก็ดีเท่านั้นแหละ ไม่มีใครเก่งเกินตนเองไปหรอก ไม่มีใครเก่งเกินตัวเองไปได้ อาตมาก็ จะว่าเจียมตนก็พอรู้ตัวเองว่า มีบารมีหรือมีความรู้ความสามารถเท่านี้แหละ แต่อาตมาไม่เคยท้อก็ทำอย่างเต็มที่ เท่าที่ยังมีแรงมีชีวิตอยู่ ไม่ได้ท้อถอย ไม่ได้ถดถอยเลย มันบังคับความรู้หรือปัญญาของคน มันบังคับไม่ได้ อาตมาเขียนหนังสือปัญญา คำว่า ปัญญา ที่พระพุทธเจ้าท่านแจกไว้ถึง 8 อย่าง ขยายความอยู่นี่เป็นเล่ม 1 เล่ม 2 เล่ม 3 ยังไม่ได้ตัดให้เขาเลยเล่ม 3 มีเล่ม4แน่นอน จะมีเล่ม 5 หรือไม่เท่านั้นเอง ปัญญา 8 ตอนนี้เล่ม 3 ก็ยังไม่ได้ออกมา อาตมายังไม่ได้ตัดส่ง มันปาเข้าไป 700 กว่าหน้าแล้วเล่ม 3 นี่ ถ้าตัด 400 กว่าหน้าก็เป็นเล่ม 3 เหลืออีก 300 กว่าหน้าเป็นเล่ม 4 จะจบหรือไม่จบยังไม่รู้เลย ก็พยายามบอกตัวเองว่าอย่าขยายเพิ่มอีกเลย ขนาดนี้ก็ยากแล้ว ก็มันอดไม่ได้ที่อยากให้ชัดเจน มันรู้สึกว่าไม่ใช่ง่ายที่มันควรจะรู้ น่าจะให้คนเขารู้นะ เรารู้แล้วจะหวงแหนไว้ทำไม อาตมาก็เลยไม่ค่อยลงได้ง่ายๆ ก็พยายาม ที่จะไม่ให้เกินเล่ม 5 ไม่เกิน 5 เล่ม จะพยายามอยู่นะ สัญญาๆๆๆ แต่มันเลยไปอย่าเพิ่งเอาโทษอาตมานะ _เคยตามหาและอยากมีชีวิตคู่ (โลกสวย)… จะสู้ด้วยกันผ่านอุปสรรคไปด้วยกัน ประสบความสำเร็จในทางโลกียะ แต่ความจริง ไม่มีสิ่งที่ฝัน ชีวิตที่รอดมาได้ถึงทุกวันนี้เพราะเห็นความทุกข์ของแม่ และถ้าเรามีคู่มันก็จะทุกข์ มันก่อทุกข์ เราคงไม่แข็งแกร่งเหมือนแม่ที่แกร่งมาก เคยคิดว่าดิฉันเป็นคนที่โชคร้าย แต่ตอนนี้ดิฉันเป็นบุคคลที่โชคดีที่สุดในบรรดาญาติพี่น้อง เพราะมีสัมภาระน้อย มีกลุ่มคนชาวอโศกที่ให้โอกาสทำงาน คอยชี้แนะ คอยตำหนิ คอยสอนให้ชีวิตมีสัมมา มีปัญญาเพิ่มขึ้น ถึงจะช้า แต่ตอนนี้ไม่ต้องการแล้วความรักแบบสองเรา มีแต่ความรักเป็นญาติธรรม (พี่ๆเพื่อนๆลุงป้าน้าอาที่ทำให้เห็นทุกข์ ในการมีคู่ ก็ขอบคุณพี่ป้าน้าอาทุกคน ขอบคุณหลวงปู่ มากๆๆๆ)…ลูกหมาน่อย พวกเราดูแลตัวเองได้แล้วแข็งแกร่ง พ่อครูว่า… สาธุๆๆ เจริญๆเถอะ มาเถอะมาอย่าช้าเพิ่มสัมประสิทธิ์มาสู่โลกุตระ กว่าจะหมด SMS 3-4แผ่น เลยไม่ได้พูดสิ่งที่อยากจะพูด เอ้า ก็ท้าวความอีกนิดหน่อยว่า ศาสดาเทวนิยม ทุกองค์เลย คนปุถุชนสามัญทั่วไปทั้งหมดทั้งโลกนี่แหละ มีความรู้ความฉลาดและความจริงอยู่เพียง อยู่ในกรอบของโลกียะเท่านั้น โลกียะก็คือของเทวนิยม แม้ชาวพุทธแท้ๆทุกวันนี้ก็เสื่อมไปมาก ก็รู้ฉลาดและมีความจริงกันแค่โลกียธรรมคือ ความเป็น 2 ของความดีความชั่ว ตามสมมุติของแต่ละกลุ่ม แต่ละสังคม แต่ละประเทศนั้นๆ ซึ่งแตกต่างกันไปตามอุปาทานและตัณหาของแต่ละคน แตกต่างกันทั้งนั้น ศาสนาของเทวนิยมทั้งหลายจึงมี ความรู้ความฉลาด ความจริง อยู่แค่เทวะหรือภาวะ 2 ของความดีความชั่ว เป็นหลักสำคัญ เขาก็ยึดถือความดีความชั่วกันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่เท่านั้น ทั้งนั้น ซึ่งแตกต่างจากพุทธศาสนาที่มีพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวในโลก อาตมาขอยืนยันเป็นอย่างนั้น มีพระองค์เดียวในโลก ที่มีวิสัยทัศน์ ละเอียดลออลึกซึ้ง ซับซ้อน ก็คือ อาตมาเอาประเด็นนี้มาพูดเท่านั้นคือ ประเด็นของคำว่าเศรษฐศาสตร์ หรือเศรษฐกิจ คือเชื่อว่าการเพิ่มตัวเลขของเงินได้ ทุกวันนี้ทั่วไปส่วนใหญ่ นึกว่า GDP เป็นศั ย่อๆ ของ Gross Domestic Product เขาเชื่อว่าตัวเลขของเงินได้คือความเจริญ เป็นความพัฒนาก้าวหน้าของสังคมประเทศ นี่แหละเป็นแนวคิดของพวกทุนนิยม หรือพวกโลกีย์ เขาคิดและทั่วโลก นักเศรษฐศาสตร์ แม้แต่นักสังคมศาสตร์คือความรู้สามัญทั่วไป เขาจะเข้าใจและเป็น Concept เป็นวิสัยทัศน์ของเขาอย่างนี้ ซึ่งมันตรงกันข้ามกับบุญนิยมหรือโลกุตระ คนละทิศคนละทางเลย หันหลังชนกันเลย แล้วก็เดินไปกันคนละทาง โลกุตระกับโลกียะ เพราะวิสัยทัศน์ของคนที่เชื่อว่า การเพิ่มพฤติกรรมหรือการลงมือทำงานจริงๆของคน ที่สร้างสรรค์แล้วก็เกิดผลผลิตได้ขึ้นมาให้คนได้อาศัยใช้สอยกินอยู่กันแท้ๆนั่นต่างหากคือความเจริญ ที่เป็นความเจริญของมนุษย์ ของสังคมชาติทั้งหลายแหล่ จริงกว่า การไปนับไปยึดถือเอารายได้ เป็นตัวเลขของเงินได้ เป็นเครื่องยืนยัน เป็นเครื่องวัด มันเป็นเงินหรือรายได้ที่มาเป็นตัวบอก มันเป็น by Product มันไม่ใช่แก่นแท้ มันไม่ใช่ Product แท้ๆ เห็นไหมว่ามีความเพี้ยนความเหลื่อมกันอยู่อย่างนี้ เข้าไปลึกกว่านั้น วิธีการของคนที่จะได้เงิน ที่จะได้ธนบัตรมามากๆแล้วมายืนยันว่าเป็นความเจริญ มีความซับซ้อนด้วยวิธีโกง วิธีเอาเปรียบ เล่ห์กลต่างๆ ที่จะได้เงินมา ได้ตัวเลขของธนบัตร ตัวเลขของเงินมายืนยันว่า นี้ฉันเจริญ ฉันเจริญ เพราะทำตัวเลขนี้ได้ คุณได้ธนบัตรมาจริง แต่คนพวกนี้ส่วนมากที่เป็นเศรษฐี เป็นคนร่ำรวย เป็นกระฎุมพี ในโลกนี้เข้าวัดด้วยองค์กรฟอร์ป เอาตัวเลขของคนที่รวยนี้มาเปิดเผยด้วยวิธีการซับซ้อน มันเป็นวิธีโกงวิธีเอาเปรียบ วิธีไม่ได้เสียสละ เขาก็ได้ด้วยวิธีการต่างๆนานาแล้วก็ไปหลงดีใจ เขาไม่ได้ทำสักคน อย่างเช่น แจ็คหม่าไม่ได้ทำงานไม่ได้ผลิตอะไรเลย เล่นกลวิธีพวกนี้ แล้วเขาได้เงินจริงๆนะ ได้รวยจริงๆ แล้วก็ไปหลงเอาตัวนั้นมาเสนอต่อคนว่า ทำอย่างนี้สิ มันผิวเผิน มันไร้สาระ มันขี้โกง มันเอาเปรียบ มันไม่ใช่มนุษย์ที่เจริญแท้เลย มนุษย์เจริญแท้ต้องมีพฤติกรรม มีการลงมือทำ มีการสร้างจริงๆแล้วรู้จักปัจจัยสาระของมนุษยชาติของโลก อาหารเป็นหนึ่งในโลก อย่างนี้เป็นต้น สร้างอาหารสิ สร้างจริงๆเลย ยิ่งกสิกรรมยิ่งวิเศษ เขาไม่มีความลึกซึ้งในเรื่องพวกนี้เลย ซึ่งไปบังคับเขาไม่ได้ เขาหลงอย่างนั้นอยู่ ก็บังคับเขาไม่ได้ เพราะฉะนั้นในแนวคิดของพระพุทธเจ้าหรือโลกุตรธรรม อาตมาก็มั่นใจว่ามันเป็นปัจจัย 4 พระพุทธเจ้าก็สรุปลง ข้าว ผ้า ยา บ้าน ยิ่งข้าวหรืออาหาร ยารักษาโรค ที่เอามาจากพืชพันธุ์ธัญญาหาร เอามาจากพืช ไม่ใช่ที่เขาเรียกว่า เป็นยาสมุนไพร ยาออแกนิค ยาที่ไม่ใช่สารเคมี มันเยี่ยมยอดกว่า เอาเถอะ ไม่ลงในรายละเอียดนี้ อาตมาจะพิสูจน์ พิสูจน์ความจริงที่ว่า ผู้สร้างสิ่งที่มันไม่ใช่เป็นปัจจัย 4 ที่บานปลายออกไปมาก นั่นแหละ เป็นคนหลงทาง ถ้าผู้ที่มาสร้างปัจจัย 4 ด้วยความรู้ที่แน่วแน่ไม่หลงทางออกไป มาช่วยกันพิสูจน์เลยในโลกนี้ ระดมกันออกมาเลย ใครจะอยู่หอคอยงาช้าง อยู่ที่ไหนๆอยู่ที่สูงไปสร้างอะไรอยู่ มาทำกสิกรรม ในดินแดนของตน อยู่ในโซนที่ปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารให้ได้ดีๆนี้มีอยู่กว้าง ในโลกนี้ กว้างมากกว่าในโซนที่ปลูกพืชพันธธัญญาหารได้มาก โซนที่ปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารได้น้อยมีน้อยกว่า เพราะฉะนั้นอาตมามั่นใจว่า ถ้าคนเข้าใจในเรื่องการปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหาร อาตมาไม่เน้นปศุสัตว์ ไม่เน้นประมง เพราะมันมีวิบากที่ซ้อนลึก แต่เขาก็ต้องทำกันอยู่สำหรับคนที่จำนน เขายังตกอยู่ในวัฏสงสารที่เขาจะต้องเป็นอย่างนั้น เขาก็ต้องทำบาปกันไปอยู่ แต่เรานี้หลุดพ้นบาปเพราะว่าเราเข้าใจกรรมวิบากที่เป็นอจินไตยลึกซึ้งไปหมดเลยจริงๆ เพราะฉะนั้นเราก็ไม่ไปทำ เราก็จะไปทำของเรานี่แหละ แบบที่เราเข้าใจอย่างที่อาตมาว่า อาตมาเข้าใจในแนวลึกพวกนี้ พาสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหาร นี่แหละ หรือกสิกรรมนี่แหละ เพราะฉะนั้นถ้าเผื่อว่าอันนี้มีคนเห็นด้วย เห็นดี แล้วก็ช่วยกันทำมากขึ้น ไม่ว่าประเทศไทย ประเทศอยู่ในโซนที่ปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารได้ดี ทำเลย แล้วมนุษยชาติในโลกในสังคมจะมีสิ่งที่อาศัยใช้กิน โดยเฉพาะมีอุดมคติ อย่างพวกเรา คืออาหารไม่ใช่สินค้าที่จะมาค้าขายเอากำรี้กำไรกัน แต่เป็นสิ่งที่แจกจ่ายเกื้อกูล แบ่งปันกันกิน อาหารถ้าราคาแพง คนจนเท่านั้นจะตาย คนรวยไม่ตายหรอก มีเงินมันก็ซื้อกินได้ แต่มันต้องกิน ไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจนต้องกินอาหารทั้งนั้น เพราะฉะนั้นอย่าไปทรมานคนจนเลย คนจนมันมีมาก คนรวยมีน้อย เพราะฉะนั้นจึงต้องมีแนวคิด จะต้องพากันมาจน อย่างที่เราพยายามทำนี่แหละ มันเป็นปรัชญาหรือว่าเป็นความจริง เป็นหลักการ หลักวิชา ที่ยิ่งใหญ่ พาคนมาจน พาคนมารู้จักแก่นสาร รู้จักงาน รู้จักสิ่งที่ควรจะต้องมาระดม มาช่วยกันทำ อย่างน้อยชาวอโศกเรานี่ ได้คิดอย่างที่อาตมาว่าถ้าเข้าใจแล้ว ระดมมา เดี๋ยวนี้อาตมาว่า เราแจกทันอยู่นะ คุณทำมาให้มากๆเถอะ ชาวอโศกผลิตกันมา แจก พวกเราเพียงพอแล้วแจกหรือไม่ ก็ขายให้ถูก ส่งไปทั่วโลก การขนส่งที่จะเผื่อแผ่ไปสู่ผู้อื่น มันก็สะดวกง่ายขึ้น ทุกวันแล้ว เพราะฉะนั้นพยายามเถอะ อาตมาว่าอาตมาไม่ได้ชักชวนผิด อาตมาว่าอาตมาชักชวนถูก เพราะฉะนั้นนักการเมือง หรือว่านักบริหาร หรือว่านักศึกษาวิชาการต่างๆก็ตาม ถ้าเข้าใจอย่างที่อาตมาเข้าใจแล้วนี่ แล้วเอานำมาพูดนำเสนออยู่นี่ แล้วมาร่วมนำเสนอร่วมกันกับอาตมา หรือลงมือมาทำกันจริงๆ ตอนนี้ชาวอโศกเชื่อว่าจะเชื่ออาตมาที่พูดว่าจริงๆจริงๆนะ นี่คือสำนวนอาตมา จริงๆๆๆๆ จริงๆนะ ไม่เชื่อก็บังคับกันไม่ได้ อาตมาเน้นแต่ว่ามันเป็นความจริงที่จริงๆ มันไม่ผิด มาพยายามร่วมมือกันสร้างจริงๆ ในบ้านราช ยังมีที่ที่จะให้ปลูกฝังกันอยู่ มาเลย เรายังจ้างคนงานผู้ที่มาช่วยทำ นี่แหละช่วยปลูก ปู่เถาว์เดือนหนึ่งก็จ้างไม่ใช่น้อย คนข้างนอกมาทำ พวกเราก็ทำ ไม่ใช่ไปแย่งงานเขาหรอก เราไม่ได้ไปไล่เขา แต่เราเพิ่มผลผลิต มันมีที่ดินน้ำท่าเราก็เยอะแยะ น้ำท่าไม่หมดง่ายหรอก แม่น้ำมูลมีเยอะ น้ำดีด้วย แม่น้ำมูลนี้ดีกว่าน้ำบาดาล รดพืชพันธุ์ธัญญาหารได้ดีกว่าเพราะว่ามีสารอาหารที่จะให้พืช น้ำบาดาลมันเป็นน้ำกลั่นน้ำกรองเข้าไปจากพื้นดิน เพราะฉะนั้นธาตุอาหารน้ำบาดาลสู้น้ำจากแม่น้ำไม่ได้ น้ำแม่น้ำมีธาตุอาหารมากกว่าน้ำบาดาลเยอะแล้วเราก็มีด้วย เครื่องมือก็ไม่ยาก การสูบการส่ง อะไรต่างๆนานา ทุกวันนี้สะดวก ง่าย ทำได้ สรุปก็คือ มาเถอะมาอย่าช้า อยู่ไหนรีบมา คว้ามีดพร้าและจอบเสียม ไม่ใช่เอาไปรบฆ่าใครนะ เอามาทำกสิกรรม เอามาช่วยกัน อาตมาจะเน้นๆย้ำๆซ้ำๆซากๆอยู่ เพื่อที่จะให้เข้าใจ ไม่ใช่ดูถูกว่าไม่ค่อยเข้าใจหรอก แต่คนเรามันไม่ค่อยอยากลงไปดู มันร้อน มันหนัก มันเหนื่อย มันสกปรก มันเปื้อนอะไรต่ออะไร… ปัดโธ่! เปื้อนมันก็ล้างก็เช็ดก็ถูได้ เราไม่ได้ไปหาพิษภัยอะไรมากมาย มีแต่วันสะอาด มีแต่ทำให้สะอาดขึ้นไปเรื่อยๆ เราก็รู้เราก็ฉลาด อย่างพืชพันธุ์ธัญญาหารของเรา แจกจ่ายกันไป พากเพียรกันไป เฉลี่ยกันไป นี่ ตอนนี้ศาลาปันสุขเป็นอย่างไรแล้วล่ะ รู้สึกจะอ่อนแรง ไม่ขยันนำไปใส่มันเลยดูแห้งแล้ง ศาลาปันสุข ฮือฮากันหน่อยเดียว ทำไมล่ะ การเสียสละ การสร้างสรรค์ การทาน การเผื่อแผ่ มันเลวหรือไง? พูดให้กระชากๆ กระตุกเข้าหน่อย มันไม่ได้เลวนะ มันดีจริงๆ เพราะฉะนั้นใครมี กาละ เวลา ปลีกเวลามา พยายามมีความฉลาดเฉลียวที่จะมาทำสิ่งที่ดีจริงๆ แต่คนมันน้อยที่จะมาระดมกันทำ ทำเผินๆ เสียเวลา วันเท่ากัน กาละเวลา หมุนไป แต่ละวินาทีทุกคนเท่ากันหมด แล้วก็ความรู้ความฉลาดก็ฟรี ทุกคนมีความรู้ความฉลาดที่พัฒนาได้ฟรีทั้งนั้น ได้แล้วไม่ทำ รู้แล้วไม่ทำ มันเป็นคนเสื่อมหรือคนเจริญ …เสื่อม ฟังให้ชัดนะ เสื่อม แล้วอยู่ในทางเสื่อมหรือทางเจริญ ควรจะอยู่ในทางเจริญ อาตมาก็ได้แต่พูดไม่ได้แก้ตัวนะว่าอาตมาทำไมไม่ลงไปทำเอง แก้ตัวคืออยู่ในวินัยพระพุทธเจ้า เป็นภิกษุแล้วจะไปทำมันผิดวินัย มันก็ซับซ้อนอธิบายแล้วทำไมพระพุทธเจ้าไม่ให้ไปปลูกไปทำ สมณะที่บรรลุธรรมจริงๆจะขยัน โสดาขึ้นไปก็หมดแล้วเรื่องขี้เกียจ เป็นอบายมุข สกิทาคามีก็ยิ่งขยันเพิ่มขึ้น อนาคามีก็ยิ่งขยัน เป็นพระอรหันต์ เลยอรหันต์ก็ยิ่งขยันจริงๆ เพราะฉะนั้นถ้าให้พระภิกษุไปทำ 1.มันไม่พึ่งกันและกัน ให้ฆราวาสนั้นเขาเอาอาหารมาให้ภิกษุกิน ถ้าพระก็ไปปลูกไปฝังกินเองเลย มันก็ขาดกันกับฆราวาส ก็ให้ฆราวาสเขาเป็นทายก ภิกษุเป็นปฏิคาหก เป็นผู้รับ ให้เขาเป็นผู้นำมาให้กิน จะได้สัมพันธ์กันหรือเรียกว่าบุญคุณแก่กันและกัน พึ่งพาอาศัยกันและกันไป ถ้าให้ไปทำ มันก็ไปแย่งอีก มันก็ไม่ดี ก็แบ่งกันบ้าง นี่โดยสัจจะนะ แต่มีเป็นช่องทางอีกเหมือนกันว่า ภิกษุขี้เกียจ ก็ไม่บรรลุธรรม ภิกษุขี้เกียจก็บาปก็มีวิบากบาปแน่เป็นสัจจะ ภิกษุขี้เกียจ ทำกินทำใช้ก็ไม่คุ้มตัวคุ้มกิน ก็วิบากไป แล้วมันราคาบาปมันแพงกว่าฆราวาสเขา เพราะว่ามีอภิสิทธิ์ มีอะไรต่ออะไรที่ได้รับ จากกฎวินัยธรรมะของพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นถ้ามันมาทำตัวอย่างนี้มันก็ซับซ้อน บาปมากขึ้นบาปมากขึ้น เพราะฉะนั้นภิกษุก็จึงต้องทำสิ่งที่มันไม่ผิดวินัย ทำอะไรที่มันไม่ผิดวินัย พวกเราก็ยังทำกันอยู่หลายอย่างหลายประการ ที่ไม่ผิดวินัย มีคำเดียวที่ยากก็คือว่า อย่ารับใช้เป็นการรับใช้ อันนี้อาตมาก็เคยขยายความว่า รับใช้นี่มันไม่เสียหายแต่อย่ารับจ้าง ภิกษุอย่าไปรับจ้าง ไปเอาสิ่งตอบแทนจากฆราวาส รับจ้างมันต่างกันกับคำว่ารับใช้ แต่รับใช้เถอะ มันซับซ้อนอยู่ในคำนี้ คำว่ารับจ้างหรือคำว่ารับใช้ คือ 1.เราไปช่วยฆราวาสเขา (พ่อครูไอตัดออกด้วย) ทำงานที่ไม่ผิดวินัย โดยไม่เอาค่าจ้าง อย่าว่าแต่เอาค่าจ้างเลย ทำงานให้เขาแล้วไม่คิดเป็นบุญคุณ ไม่ตั้งความหวังอะไรที่เขาจะมาตอบแทนเป็นอันขาด แม้สาเปกโข แม้แต่ความหวังก็ไม่มีทำแล้วทิ้งตัด ทำแล้วจบ ทำแล้วทำให้เกิดผลผลิตที่ดีๆแล้วก็จบไม่ต้องเป็นของเรา มันจะได้ลดกิเลสอัตตากับอัตนียา ตัวเราของเรา มันจะได้ขาด นี่ อาตมาก็พยายามอธิบายเอาของพระพุทธเจ้ามาขยายความให้ฟัง ทำจริงๆมันก็จะยิ่งเยี่ยมยอด ทาน หรือให้ อย่างไม่มีสาเปกโข ปฏิพัทธจิตโต สันนิธิเปกโข ไม่มีปริภุญชิตสามีติ คือทำแล้วก็ยิ่งสร้างภพชาติ จะเอาไว้กินต่อในชาติหน้าๆๆ แล้วเมื่อไหร่คุณจะตัดภพจบชาติสักที เห็นไหม ซึ่งมันผิดหมดเลย อาตมาขยายความไปจนกระทั่งถึง แม้แต่สวรรค์เราก็ไม่ฝัน เราก็ไม่เอา สวรรค์ยังเป็นภพเป็นชาติ แม้แต่สวรรค์ สวรรค์ถึงขั้น ปรินิมิตวสวัตตี ปรนิมมิตวสวัตตี ทำทานเพราะว่า อยากได้ปลื้มใจ(อตฺตมนตาโสมนสฺสํ) ผู้ที่รบกันเป็นยักษ์ เป็นมารแย่งชิงฆ่าแกงกัน เป็นจตุมหาราช กว่าจะฟื้นมันเลิกจตุมหาราชได้ แล้วได้มาแล้วจะได้ไปชนะ สะสมไว้เป็นของกูยาวนาน มีดาวดึงส์ คือ ตาวติงสา แปลว่า อาการที่ 33 คนเรามีแค่ 32 แต่ไปสร้างวิมานขึ้นมาอีกวิมานหนึ่งเรียกว่าวิมานที่ 33 มันลมๆแล้งๆเพ้อเจ้อแต่ไม่รู้นึกว่ามันมีจริงเป็นจริงเป็นสวรรค์ ทั้งนี้แหละซ้อนอยู่ในสวรรค์ 6 ชั้นนี่แหละ เป็นภพเป็นชาติ เป็นสวรรค์ 6 ชั้น นึกว่าเป็นจตุมหาราช นึกว่าเป็นยามา นึกว่าเป็นดาวดึงส์ นึกว่าดาวดึงส์คือเสวยอาการ 33 เสพสุขในดาวดึงส์ เพราะฉะนั้นสวรรค์ดาวดึงส์คือสวรรค์ ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข สวรรค์โลกีย์ 100% ยิ่งโง่หยาบเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นดาวดึงส์หยาบมากเท่านั้น ยามา คือ ให้ได้เสพดาวดึงส์นี่แหละนานเท่าไหร่ไม่รู้จักหยุดจักพัก จนกว่าจะเลิกจะพักจะหยุดเข้าไปหาดุสิต ดุสิต แปลว่า เย็น แปลว่า พัก เป็นที่พักของพระโพธิสัตว์ทั้งนั้น พยัญชนะว่า พระโพธิสัตว์พักอยู่ที่ดุสิต คือยังมีภพมีชาติที่ไม่สูญสลาย ก็พักอยู่ที่ดุสิต ดุสิตะคือสงบ สิตะคือเย็น สงบ พัก แต่ก็ไม่พักจริง ฟุ้งซ่านหรือว่า ยังไม่รู้จริง ก็กลายเป็นนิมมานรดี ซับซ้อนไปอีก กลายไปเป็นปรนิมิตวสวัตตี สวรรค์ลึกซึ้งซับซ้อน ยังเป็นนักสร้าง นิมมานเนรมิตเป็นนิมมานรดี ให้ผู้อื่นมาสร้างอีกเป็นปรนิมิตวสวัตตี ไม่หมดตัวตน หมุนรอบเชิงซ้อนที่โง่ลงไปโง่ลงไปละเอียดลึกซึ้งเข้าไปอีก ละเอียดลึกซึ้งจนลึกลับจนโง่ไม่รู้เรื่องแล้วก็ไปทำสิ่งที่ไม่รู้เรื่องอย่างนั้น นี่คือ สภาพหมุนรอบเชิงซ้อน ที่อาตมาใช้ภาษาไทยๆแปลมาจากคำว่าคัมภีราวภาโส ปฏินิสสัคคะ ก็ดี ที่เป็นพยัญชนะบาลี เป็นสภาพที่มันซับซ้อนลึกซึ้งๆ สรุปสำหรับวันนี้ก็คือ มาศึกษาโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้านี่แหละ ก็ขอขอบคุณที่พวกคุณมีปัญญาและก็ขอให้เพิ่มสิ่งที่อาตมาได้ย้ำไปแล้วว่า เพิ่มเถอะพลังงานเป็นของเรา กรรมเป็นของเรา ทำแล้วจะว่าไม่ใช่จะยึดเป็นของเรา มันก็ต้องซ้อนๆอยู่ในนั้นอีก ลึกซึ้ง หมุนรอบเชิงซ้อน ของเราที่เราไม่ยึดเป็นเราเป็นของเรา มันก็เป็นของเรา กัมมัสกตา เป็นของเราที่เราไม่ได้ยึดเป็นของเรา แต่มันก็เป็นทายาทกรรมของเราเองนี่แหละ มันเป็นเรื่องที่เราทำแล้วก็อาศัยไปหรือเราทำแล้วก็พาเราเป็นเราไป กัมมัสโกมหิ กัมมทายาโท กัมมโยนิ กัมมพันธุ กัมมปฏิสรโณ กัมมังสัตเตวิภัชติ กัมมุนาวัตตติโลโก เพราะฉะนั้น คุณศึกษาดีๆแล้ว เชื่อกรรม เชื่อวิบาก เชื่อกรรมเป็นของของตน เชื่อกรรมเป็นของของตน เชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้า นี่ก็มีเป็นคำสอน ในศรัทธา กัมมสัทธา วิปากสัทธา กัมมัสสกตาสัทธา ตถาคตโพธิสัทธา ในศรัทธา 4 นี้เป็นศรัทธาที่มีปัญญา เป็นศรัทธาที่ชัดเจน เป็นศรัทธาที่อาตมาก็นำมาศึกษา มาจากพระไตรปิฎกเล่ม 23 ข้อ 4 หมดเวลาแล้ว สำหรับวันนี้ สมณะเดินดิน… สรุปจบ Categories: ธรรมะพ่อครู, ศาสนาBy Samanasandin22 กุมภาพันธ์ 2023Tags: พุทธศาสนาตามภูมิวิถีอาริยธรรม Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:660220 สัจจะยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติที่เรียกว่าการเมือง รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 12NextNext post:660224 ชาวอโศก ทำแล้ว ทำอยู่ และกำลังทำโลกุตระต่อไป พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศกRelated Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024