660125 ฟังสาธยายธรรมจากคำถามของคนจริง พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก ดาวโหลดเอกสารที่ https://docs.google.com/document/d/10DahgLIMQqrK1Ws9NAOM8765ZR2lTVrlAVPvucK_ano/edit?usp=sharing ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1kSAjARgLS7hIHq8897reGdeY2Z2EokRo/view?usp=share_link ดูวิดีโอได้ที่ https://youtu.be/40mQuI3mPVQ และ https://fb.watch/igTNYMg4Xy/ อาหารเป็น 1 ในโลก ยิ่่งใหญ่ที่สุดในโลก สมณะเดินดิน… วันนี้วันพุธที่ 25 มกราคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก เป็นวันขึ้น 4 ค่ำเดือน 3 ปีเถาะ ช่วงนี้อากาศที่บ้านราชก็เหมือนอยู่ต่างประเทศ มีความหนาวเย็นวันนี้ระดับ 15 องศาตอนเช้า เขาบอกพรุ่งนี้จะลดเหลือ 13 องศา ช่วงนี้เป็นโอกาสของพืชผักฤดูหนาว กำลังงาม ที่อยู่หน้าโต๊ะเรานี้ พ่อครูว่า… มีกะหล่ำปลีปลูกจากสวนอุทยานของ บ้านราชนี้เอง สวนนี้อยู่ที่กุดระงม อ.ข้าดิน เป็นคนปลูกขึ้นมา เขาวัดระยะ เอากางมือวัดเกือบเมตร นี่ กะหล่ำปลีลูกเดียวมันบานกว้างออกไป ถ้าแข็งแรงมันจะยืดออกไปเต็มที่เกือบ 1 วาเลยนะ คิดดูกะหล่ำปลีหัวกลางๆมันโตกว่าหัวคนอีก หัวมันกว้าง 1 ฟุตเลย นี่คือกะหล่ำปลีบ้านราช สมณะเดินดิน… มี 2 สวน ที่วางอยู่นี่ไม่รู้สวนไหนจะใหญ่กว่ากัน มีสวนอุทยานกับสวนเพื่อฟ้าดิน พ่อครูว่า… เราแข่งกันทำพืชธัญญาหารให้งามให้มีคุณค่าทางอาหาร ไร้สารพิษเป็นอาหารเป็น กวฬิงการาหาร เป็นเครื่องบริโภคของชีวิต ชีวิตแต่เราจะอาศัยสิ่งเหล่านี้ไปจนตาย มีชีวิตมีสิ่งเหล่านี้อยู่อุดมสมบูรณ์อยู่มีอยู่พออยู่พอกิน เหลือกินแจกกันอยู่อย่างนี้แหละ อาตมาว่าเป็นที่สุดของชีวิตดีที่สุดแล้วชีวิตแบบนี้ ใครจะไปหลงใหลสร้างอาวุธเข่นฆ่ากันแกงกันก็เรื่องของเขา หรือใครจะไปมีหน้าที่สร้างเครื่องไม้เครื่องมือเครื่องใช้อื่นๆก็อาศัยบ้าง แต่อาหารเป็นหนึ่งในโลก อาหารที่เป็น กวฬิงการาหาร เป็นหนึ่งในโลก พระพุทธเจ้าตรัสไว้ยืนยันและก็จริงที่สุดเลย เพราะฉะนั้นเราอยู่กับสิ่งที่เป็นหนึ่งในโลก เราทำให้สิ่งที่เป็นหนึ่งในโลกนี่แหละเจริญงอกงามไพบูลย์มากมายเหลือเฟือให้คนอื่นๆ คนทุกคนไม่ว่าชาติไหนศาสนาไหน อาศัย กวฬิงการาหาร อาศัยพืชพันธุ์ธัญญาหาร มีคนอีกเยอะที่ไม่อาศัยเนื้อสัตว์กินมังสวิรัติกินเจมีอยู่ในโลกนี้เยอะไม่ใช่น้อย แต่พืชพันธุ์ธัญญาหารต้องกินทุกคน แม้คุณจะหลงกินแต่เนื้อสัตว์ เช่นคนในขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้ หาพืชพันธุ์ธัญญาหารกินไม่ได้ กินเนื้อสัตว์ คุณก็อยู่ได้ชีวิตไม่นาน เพราะว่าคนไม่ใช่สัตว์กินเนื้อ อายุไม่ยืน อายุคนขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้เฉลี่ยแล้ว 20 กว่าปี มีอายุยืนยาวสูงสุด 40 ปีเอง อายุค่าเฉลี่ย 25 ปีตาย และคิดดูสิเป็นคนเกิดมาอายุ 25 ปีตาย พวกเรากำลังหนุ่มแน่นหนุ่มสาวกันเลย ถ้าจะเจริญวัยไปอีก 80 ปีก็ได้ เพราะฉะนั้นอันนี้จึงแสดงชี้บ่งให้เห็นว่าอาหารของมนุษย์คือพืชพันธุ์ธัญญาหารไม่ใช่ไปหลง หรือว่าจำเป็นต้องไปตกอยู่ในขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้ก็ได้กินแต่เนื้อสัตว์เพราะไม่มีพืชอยู่มีแต่น้ำแข็ง ก็เลยกินแต่เนื้อสัตว์กินปลากินเนื้อหมี มีสัตว์อื่นบ้างหรือไม่ก็ไม่รู้ อาตมาเห็นมีหมีมีหมีขาวด้วยนะ เขากินปลากันตลอดเวลา ปลาอายุยืนกว่ากินเนื้อสัตว์อื่นนะ กว่าเนื้อสัตว์ 4 ขาเนื้อสัตว์ต่างๆกินปลานี้อายุยืนกว่าด้วยซ้ำ ขนาดอายุยืนก็แค่เฉลี่ย 40 ปี นี่คือสัจจะไม่ใช่ไปใส่ความ เพราะฉะนั้นพวกเราเกิดมาไม่ได้เป็นพวกที่ถูกบังคับหรือจำนนจะต้องเป็นคนขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้ เราเป็นคนอยู่ในภูมิประเทศที่เลือกได้ และก็อยู่ในภูมิประเทศที่อุดมด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหารและเราก็ปลูกเป็นธรรมเป็น นี่แหละทำอยู่ทำกิน ชีวิตหนอพออยู่พอกิน โอ้ เป็นคำอุทานที่ซาบซึ้งทรวงในเหลือเกินแล้วเราก็ทำสำเร็จแล้วทุกคน ยังเหลือแต่ว่าพวกที่ยังลงดินไม่ได้ ก็พยายามลงบ้างมาเป็นคนติดดินมาเป็นกสิกรแข็งขันกระดูกสันหลังของชาติ ใครก็รู้ดีว่ากสิกรผู้ปลูกผักพืชเป็นกระดูกสันหลังของชาติ กระดูกสันหลังของชาติเป็นแกนนะเป็นแกนของร่างกายของชีวิตด้วย และประสาทสำคัญอยู่ในนี้ ถ้ามันบกพร่องก็กลายเป็นคนพิการไป ดีไม่ดีตายได้ง่ายๆ ไปถึงสมองหัวใจอะไรอย่างนี้ตายง่าย _สู่แดนธรรม… ข้อมูลใหม่ครับ ผักที่โชว์อยู่นี้มีมาจาก 3 สวน 1.สวนเพื่อฟ้าดิน 2.สวนอุทยาน และ 3.กลุ่มศรีโคตรบูรณ์ พ่อครูว่า… ได้ข่าวว่ากลุ่มศรีโคตรบูรณ์จะมาปลูกแตงโมให้แล้ว ดีปลูกมาแจกกันกินเอาไปปันสุข ปลูกที่เรา ปลูกกันเป็นหลายสิบไร่บางทีเป็นร้อยไร่ปลูกแตงโม เรากินที่เดียวไม่หมดหรอก เราก็ไม่ค่อยได้ขายเราไม่ใช่นักขายเท่าไหร่เราขายบ้าง แต่ไม่ได้เลี้ยงชีพด้วยการขายพืชพันธุ์ธัญญาหารเลี้ยงชีพ มันไม่พอเลี้ยงชีพหรอก _สู่แดนธรรม… พวกเราเป็นชาวอโศกปลูกผักปลูกพืช ทำไมปลูกแล้วมันแจกง่ายให้ง่าย คนข้างนอกเขาปลูกแล้วหวงแหน พ่อครูว่า… ก็กิเลส มันเห็นแก่ได้มันเห็นแก่ตัว ก็แสดงว่าพวกเรามันไม่มีกิเลสหรือมีกิเลสน้อย มันก็แจกได้ และมันก็เห็นจริงมีความเอื้อเฟื้อเจือจานเอ็นดู ถูกต้องตามหลักพระพุทธเจ้าเลย ปฏิบัติธรรมแล้วจิตวิญญาณมันก็จะมีความไม่เห็นแก่ตัวกิเลสมันลด มันก็แสดงออกเป็นปรากฏการณ์อย่างที่คุณถาม มันเป็นความจริงยืนยันความจริงเป็น phenom เป็นปรากฏการณ์จริงของสัตว์โลกของมนุษย์ มนุษย์อย่างนี้ก็มีนะ _สู่แดนธรรม… แปลกตรงที่ใครหลุดเข้ามาในวงโคจร ก็จะถูกขัดเกลาให้เป็นคนเสียสละไปตามหมู่กลุ่มได้ด้วย พ่อครูว่า… พร้อมด้วย มันมีทั้งความขัดเกลา มีความซึมซับออสโมซิสเข้าไปอยู่ในนี้ อยู่ไปแล้วจะได้รับการซึมซับ ขัดเกลาพัฒนาขึ้นมาเป็นคนชนิดนี้ คนชนิดที่จะไปสู่จุดสูงสุดของพระพุทธเจ้า พาไปเป็นพระอริยะเป็นพระอรหันต์ เป็นผู้มีกิเลสหมดเรียกว่าถึงนิพพาน นี่เป็นความจริงที่ชาวอโศก เราพิสูจน์ยืนยันว่าเป็นผู้ที่ประสบมรรคผล เป็นผู้ที่สำเร็จในโลกุตรธรรมอารยธรรมของพระพุทธเจ้าอยู่ยืนยันอยู่ อาตมาพูดนี้ไม่ได้หลงผิด ไม่ได้เข้าใจผิด ในหมู่คนชาวอโศกว่าเป็นผู้ที่กิเลสออกได้จริงฆ่ากิเลสได้จริงเป็นอารยะ โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ อาตมายืนยันเป็นคนที่บรรลุธรรมได้จริงมีอยู่ในโลกยืนยันคำสอนพระพุทธเจ้า สมณะเดินดิน… องค์ประกอบของบ้านราช ในฤดูหนาวก็จะมีพืชผักฤดูหนาวให้กิน ในฤดูร้อนก็มีพืชผักฤดูร้อนให้กิน ในบ้านราช มีคนเสนอว่าปลูกมัน 5 นาทีกินดีกว่าเพราะแรงงานเราไม่พอ แต่ว่าเรามีเทวดามาจากศรีโคตรบูรณ์มาเนรมิตที่ริมมูลของเรา ให้มีทั้งแตงโมแตงไทยบริบูรณ์ ฤดูร้อนก็มีผักฤดูร้อนเป็นสัปปายะ ฤดูฝนก็หมุนเวียนเป็นพืชผักฤดูฝน พวกเราปลูกพืชเป็นฤดูกาล องค์ประกอบตัวนี้ดูเหมือนพ่อท่านจะไปจากบ้านราชได้ยาก ที่อื่นไม่มีองค์ประกอบที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้ที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรงทั้งอาหารทั้งอากาศอย่างนี้ พ่อครูว่า… ถ่ายภาพกับกะหล่ำปี ที่จริงเราจะเรียกว่าภาคภูมิใจดีใจชื่นชมกับผลงาน โดยเฉพาะเป็นพืชพันธุ์ธัญญาหาร อาตมาบอกแล้วพระพุทธเจ้าท่านบอกว่าอาหารเป็นหนึ่งในโลก แล้วอาตมาก็นำมายืนยันเอามาบอก บอกแก่มนุษย์ทั้งหลายให้เห็นว่า มันเป็นหนึ่งในโลก คำว่าหนึ่งในโลกนี้อะไรจะใหญ่กว่าล่ะ หนึ่งในโลกนี้มันใหญ่กว่าอะไรเลยนะ อาหารนี้ใหญ่ในความเป็นชีวิตของมนุษย์ เพราะฉะนั้นพวกเรานี้ภูมิใจเถอะที่ได้มาเป็นคนที่ให้แรงงานหรือเวลาความรู้ความสามารถ เราก็ได้เอามาสร้างอาหาร เรากินไม่หมดหรอก เราสร้างเราปลูกขึ้นมาเราจะกินสักเท่าไหร่กันเชียวหนึ่งชีวิต ก็เผื่อแผ่ผู้อื่นไป นี่หัวเดียวกินได้สัก 10 คนกระมัง แล้วคิดดูสิเราปลูกหัวเดียวที่ไหนเราปลูกเป็นร้อยเป็นพัน เพราะฉะนั้นถึงบอกว่ามันเป็นความอุดมสมบูรณ์ มันเป็นสิ่งที่ยังชีพต่อชีพ ทำให้ชีวิตเจริญงอกงามไพบูลย์อยู่เย็นเป็นสุขไป ที่หลงไปสร้างสารพิษ ไปสร้างอาวุธ หรือไปสร้างอะไรที่คุณค่ามันสู้ไม่ได้ นอกจากไม่ได้แล้วเป็นโทษอีกอย่างเช่น สร้างอาวุธนี้เป็นโทษ แต่ความไม่รู้ความไม่เข้าใจของคน มันไปหลงอำนาจบาตรใหญ่ จิตใจมันโหดเหี้ยม มันเห็นการตายเป็นเรื่องเล็กน้อย เอ๊ คนเรากว่าจะเกิดมาได้เป็นคนคนหนึ่งมันไม่ใช่สามัญเลยนะ ไม่รู้จักความเป็นชีวิตของมนุษย์เลย ไม่เห็นคุณค่าของความเป็นชีวิตของมนุษย์เลย ฆ่ากันเป็นผักเป็นปลา มันเป็นคน มิลักขะ เป็นคนยังเถื่อน ยังโง่ ยังไม่เจริญ ยังไม่ฉลาดพอ คนที่ยังไปสร้างอาวุธฆ่ากันยังโง่ยังไม่ฉลาดพอ ยังเถื่อนถ่อย เพราะฉะนั้นสังคมมนุษยชาติอย่างใด อยู่อย่างไม่สร้างอาวุธ อยู่อย่างสร้างพืชพรรณธัญญาหารเป็นหลักเลย เป็นสัมมาอาชีพ เป็นผลผลิตหลักของชีวิตแต่ละคน ๆๆ มีความรู้ความสามารถ มีพื้นที่ทุกคนเกิดมาจน กลายเป็น DNA เลยในชีวิต เกิดมามันเป็นสัญชาตญาณ ทำพืชพันธุ์ธัญญาหารเป็นหมดเลย มันติดในสัญชาตญาณเลยนะ สัญชาตญาณไม่ต้องเรียน ไม่ต้องฝึก คุณออกมาคุณก็รู้เลยว่ามันเป็นอย่างนี้ สัญชาตญาณ รู้เลยว่าสัญชาตญาณเป็นกสิกร อย่างนี้เป็นต้น อาตมาอยากให้ชาวอโศกคนไทยนี้เข้าใจอย่างนี้นะ ปลูกฝัง DNA นี้เลย ปลูกฝังสัญชาตญาณให้เกิดมาเป็นชาวกสิกร ใครเกิดมาก็จะหาคนที่เป็นความสามารถอื่นนิดหน่อย แต่อันนี้เป็นหลัก เป็นทั้งสินค้าส่งออก เป็นทั้งสิ่งที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตมนุษย์ เป็นทั้งสิ่งที่เป็นงานเอก แล้วก็เห็นคุณค่าเป็นงานประเสริฐด้วยอย่างนี้ อาตมาพูดไปคนจะหาว่าเวอร์ ไม่เห็นว่ามันน่ายกย่องเชิดชู คุณจะเห็นว่า Over ก็ไม่เป็นไร อาตมาจะเห็นจริงอย่างนั้นตามความเห็นจริงของอาตมา มันอาจจะเป็นความเห็นจริงที่ต่างกัน คุณอาจจะเห็นว่าเอาเวลาไปสร้างอาวุธเจริญกว่าเอาเวลาไปหาเงินมามากๆ เอาเปรียบเอารัดคนอื่นได้กำไรแล้วก็จะได้เงินสะสมก้อนเงิน คุณก็ต้องใช้เงินมาซื้อของเรากินหรือรับแจกจากเราไปกิน จนกระทั่งพวกเราเมื่อมีอาหารการกินมีพืชพันธุ์ธัญญาหารเลี้ยงชีพในแต่ละวัน ธนบัตรหรือแบงค์โน๊ตที่เขาเรียกว่า วัตถุสารพัดนึก ลดค่า จำเป็นน้อยลง ลดค่าลง รู้สึกอย่างนั้นไหมเงินธนบัตรในแต่ละวัน ถามสามัญธรรมดา ถามว่า วันๆหนึ่ง คุณไม่ได้ใช้เงินเลยนี่ ไม่ได้ใช้เงินทุกวัน บางคน 2 วัน 3 วัน 4 วัน 5 วันไม่ได้ใช้เงินเลย ใครเป็นอย่างนี้บ้างยกมือ …พรึ่บ นี่คือคนประเภทหนึ่งในโลก อยู่นี่ มีชีวิตอยู่เหมือนพวกคนทั้งหลายและถามสิว่าคนในกรุงเทพฯ วันๆหนึ่งเขาไม่ได้ใช้เงินเขาจะอยู่ได้ไหม …ไม่ได้ อย่าว่าแต่กรุงเทพเลย ออกจากบ้านคุณก็.. โอ้โห..พูดถึงเงินกองกลาง พูดถึงสาธารณโภคี อาตมาเกิดมาในชาตินี้มีผลสำเร็จในการนำธรรมะพระพุทธเจ้ามาให้พวกเราปฏิบัติ ประพฤติจนมีผลเป็นสังคมสาธารณโภคีนี้ได้ อาตมาภาคภูมิใจจริงๆ มันเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ ซึ่งเป็นคนที่อาตมาพูดแล้วว่า เป็นคนที่เป็นสังคมหมู่กลุ่มที่เสียภาษีให้ส่วนกลาง 100% คอมมิวนิสต์เขาก็ต้องการภาษีจากคนในสังคมของเขา ให้เสียภาษีมากที่สุดด้วยการบังคับ คอมมิวนิสต์จะบังคับมาก ส่วนประชาธิปไตยจะบังคับน้อย ใช้ไปตามหลักกฎหมาย คอมมิวนิสต์เขาก็ใช้กฎหมายเป็นกฎบังคับ เขาบังคับเอาคนที่รวยมากได้มาก ส่วนประชาธิปไตยอนุโลมกันมากมายเห็นแก่นายทุนเยอะ ประชาธิปไตยก็ต้องการคนเสียภาษีเข้ากองกลางมากที่สุดเหมือนกัน แต่ของเราเสียภาษีเข้าส่วนกลาง 100% มีชาติไหนในโลกที่ทำได้ เราไม่ได้ทำเล่นวันเดียวด้วยนะ เท่าที่อาตมาพาทำมาประมาณ 50 ปีแล้ว สังคมทุกชุมชนชาวอโศกที่มีชุมชนชาวอโศก ชุมชนเล็ก ชุมชนน้อยและชุมชนใหญ่กระจายอยู่ทั่วประเทศ 20, 30 ชุมชนก็แล้วแต่ ดูเหมือนมีคนเคยรวบรวมว่ามีประมาณ 50 ชุมชน ชุมชนมีเล็กๆน้อยๆ ชุมชนละ 8 คน 10 คน อย่างเราว่าจะให้ถึง 777 นี่ยังไม่ถึงได้แค่ 400-500 เป็นชุมชนใหญ่ที่สุดแล้ว นอกนั้นก็ไม่ได้จดสถิติเท่าไหร่ บางทีกรุงเทพที่สันติอโศกอยู่กันอย่างเล่นๆไม่เหมือนอยู่กับชีวิต มันมีชีวิตคือรวมกันเป็นหมู่ มีจารีตประเพณีวัฒนธรรมอยู่กันอย่างนี้ อาตมาว่าชีวิตคุณเกิดมาก็ต้องตายและเราก็มาตกในหมู่นี้ หลายคนมาตั้งแต่อายุยังน้อย บางคน.. ถามเด็กชายมะขามเกิดที่นี่ตอนนี้อายุเท่าไหร่แล้ว(มะขามตอบว่า 20 ปีครับ) ยังไม่เกณฑ์ทหาร ถ้าได้เป็นทหารก็ได้ไปรับใช้ชาติอย่างเช่น ธารบุญ ส่วนกระทงหลุด อาตมาว่า ชาตินี้อาตมามาทำงานภาคภูมิใจ เป็นสุข เห็นว่าไม่เสียชาติเกิดชาตินี้ พาคนมาให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หลักสูตรหรือทุกอย่างเรียกว่าของพระพุทธเจ้า เป็นหลักเกณฑ์ เป็นหลักสูตร เป็นแนวทางของการดำเนินชีวิตอันประเสริฐเรียกว่า อาริยะ สอดคล้องกับโลกเขาที่เป็นอริยะหรืออารยะ เป็นคนเจริญ ไม่ใช่มิลักขะ เป็นอาริยกะ เป็นพวกเจริญจริงๆ ได้แล้ว อาตมาตายเมื่อไหร่ ก็สบายใจได้ผลสำเร็จอย่างนี้พอใจพอใจ ทำได้ขนาดนี้ พูดว่าพอใจๆ นึกถึงท่านมหาบัวพอใจ พอใจ คือท่านพยายามใช้ภาษา จะใช้คำว่าขอบใจขอบคุณมันก็ไม่เท่เท่าไหร่ มันเหมือนชาวบ้านอย่างหนึ่ง แสดงจิตใจของเราต้องมีตอบมีรับมีให้มีรับอะไรต่ออะไร ขอบใจมันข้างนอก พอใจมันข้างใน ใช้ได้ๆ SMS วันที่ 20-22 มกราคม 2566 _สว่างแสง ขวัญดาว · น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ ลูกขอกราบเรียนถาม พ่อครูเป็นพระโพธิสัตว์ระดับสูงผู้ประเสริฐสุดของยุคนี้ แต่พ่อครูเปรียบชะตาชีวิตเป็นเหมือน”สุนัขกลางตลาด” สิบกว่าปีก่อนนี้พ่อครูเปรียบตนเองเป็นดั่ง”พญาแร้ง” วันนี้พ่อครูก็เปรียบตนเองเป็น”คนกวาดถนน” ลูกเชื่อว่าพ่อครูเป็นพระโพธิสัตว์ระดับสูง แต่การสื่อความหมายที่โลกียะให้ค่าต่ำอย่างนี้ มีความหมายอย่างไรคะ น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ พ่อครูว่า… อาตมาชื่อว่าคุณสว่างแสง เชื่อมั่นอย่างจริงใจว่าอาตมาเป็นโพธิสัตว์ระดับสูง คนเขาให้ค่าอาตมาต่ำเพราะว่าเขาไม่รู้ว่าไม่เข้าใจว่าอาตมาเป็นผู้ประเสริฐผู้เจริญ คนต้องมา คบสัตบุรุษที่บริบูรณ์จะได้ฟังธรรมที่บริบูรณ์จะได้มีศรัทธาที่บริบูรณ์ จะได้มีโยนิโสมนสิการที่บริบูรณ์ จะได้สังวรสำรวมอินทรีย์ที่บริบูรณ์ มีสุจริตกรรม 3 ที่บริบูรณ์ มีโพชฌงค์ 7 ที่บริบูรณ์ มีวิชาและวิมุตที่บริบูรณ์จริง ไม่ใช่ว่าเอาแต่พยัญชนะมาพูดแต่พวกเราได้ดำเนินตามสายธรรมมาอย่างได้ผลจริงตรวจสอบความจริงได้เลยว่าวิชาและวิมุติคืออะไร โพชฌงค์ 7 คืออะไรสติปัฏฐาน 4 คืออะไร เราได้ปฏิบัติกันจริงไหมมีพฤติการณ์พฤติกรรมของเราจริงไหม สำรวมอินทรีย์ก็ดีหรือทำให้ทุจริตมันสุจริตขึ้น จริงไหมไม่ใช่มีแต่พยัญชนะปากเปล่าพูดเอาโกโก้เอาความหมายเฉยๆ แต่ชีวิตจริงเราไม่ได้ประพฤติปฏิบัติทางกายวาจาจนกระทั่งจิตมันเปลี่ยนแปลง จิตมันพัฒนาจริงๆโดยมีญาณปัญญารู้กิเลสรู้เหตุแล้วฆ่าเหตุ สร้างปัญญาให้มีคุณสมบัติ ธาตุปัญญาเป็นธาตุพลังงานที่เผาราคะโทสะโมหะให้ละลายหายไปจากชีวิตจิตวิญญาณเราจริงๆได้ มันเป็นจริง อันนี้ก็ขยายความไปจากเนื้อความที่คุณสว่างแสงว่ามา _Petcharat Rank เพชรรัตน์ แรงค์· กราบขอบพระคุณพ่อท่านที่เป็นแบบอย่างของผู้ที่ยอม.. เพราะในวันที่ลูกพบกับคนที่แม้รู้ว่าเราถูกแต่พยายามพูดให้เราผิดให้ได้.. แม้เราจะปฏิบัติธรรมน้ำตานองหน้าเพราะเจอผัสสะที่เรายังทนได้ยากมันก็เปลืองพลังงานน่าดูค่ะ.. แต่เมื่อระลึกถึงพ่อท่านก็ทำให้ยอมแล้วยอมอีกและมีเรื่องต้องยอมอีกค่ะ… น้อมกราบด้วยปฏิบัติบูชาค่ะ พ่อครูว่า… อาตมาเป็นคน ดันสุรัง แปลว่า ยืนหยัดยืนยัน ไม่ใช่ดันทุรังอย่างที่เขาเป็น สุระ สุรัง กับทุระทุรัง คุณเพชรรัตน์เห็นคุณค่าของความยอม เห็นพฤติกรรมของอาตมาแล้วเห็นว่าอันนี้มันเป็นพฤติการณ์ที่ดี เราก็ไปทำพฤติกรรมของเราด้วยให้เป็นอย่างนี้ ก็อย่างนี้แหละคนเราก็เห็นดีเห็นงามตามกัน _Chainarong Petsiri ชัยณรงค์ เพชรศิริ · กราบพ่อครูด้วยความเคารพอยู่สูงครับจะขอมาอยู่วัดได้อายุมากแล้วอยู่ได้หรือไม่ครับ พ่อครูว่า… มาๆๆ อาตมาแต่ก่อนนี้ก็บอกว่าอายุเกิน 60 อย่ามาเลย แต่เดี๋ยวนี้อายุ 60 แข็งแรงก็มาได้ แต่ถ้ามีโรคภัยหอบหามมา เราก็ไม่ใช่รังเกียจหรอกนะ แต่ว่าจะเอาอย่างนั้นหรือ มันจะเป็นภาระมากนะ จะไม่ไหวนะ ถ้าพอสมควรมาได้ก็มาเลย ทำไมพ่อครูใส่นาฬิกา _ธรรมจักร ชนะพรหมลิขิต · สงสัยที่พ่อครู…ใส่นาฬิกาครับ พ่อครูว่า… บอกไปหลายทีแล้วยังสงสัย บอกอีก นาฬิกานี้ไม่ใช่นาฬิกาทอง ไม่ใช่นาฬิกาเพชร หรือนาฬิกาเท่ๆโกโก้อะไร มันเป็นนาฬิกา ดำๆกลมๆมืดๆเฉยๆ เขาให้ใส่เพื่อตรวจดูแลสุขภาพของอาตมา นาฬิกามันเป็นนาฬิกาแถมดูวันที่ได้ เดือน พ.ศ.ได้ แต่มันมีอื่นๆอีก สามารถที่จะวัดอะไรต่ออะไรในตัวอาตมาจากเครื่องเทคนิค นาฬิกาเรือนนี้ มันวัดได้เขาอาศัยเป็นเครื่องวัด เครื่องแมะ เครื่องจับ เครื่องวัดของหมอ มันแปะที่ร่างกายของอาตมามันวัดได้ เขาก็จะมีเครื่องที่รับไปจากอันนี้ของอาตมาอีก อย่างท่านแสนดินเป็นหมอมาก่อนก็มีเครื่องมือเห็นว่ากดอันนี้ดูแล้วก็รู้ว่าค่าเป็นอย่างไร สามารถบอกรู้ได้ว่าอันนี้บกพร่องผิดพลาดจะได้ช่วยกันทัน เป็นการดูแลช่วยเหลือกันเป็นเครื่องช่วยชีวิต ไม่ใช่เครื่องที่ทำให้เท่ให้โก้เอามาประเทืองตัวเองอะไรต่ออะไร มันไม่ได้ผิดวินัย ไม่ใช่เครื่องประเทือง ไม่ใช่มีเจตนาอย่างนั้น มันดูดีด้วยซ้ำไปถ้าไม่มีมันเบาด้วยนะ แต่อาตมาจำเป็นจะต้องเอามาผูกแขนไว้ ผูกข้อมือไว้มันหนัก มันก็ต้องมีอะไรอันหนึ่งนะมันไม่คล่องมันไม่เบา ไม่ได้รู้สึกเท่ รู้สึกโก้ รู้สึกหรูหรา มันจะต้องใส่ให้อะไรอวดอ้างไม่มี มีแต่ว่าจำเป็นต้องใช้เขาเอามาให้ใช้จำเป็น มันก็มีประโยชน์ ยิ่งอาตมาสุขภาพร่างกายชีวิตอายุประมาณนี้เขาก็ต้องช่วย สมณะเดินดิน… วันหลังคงกำหนดว่าอันนี้คืออุปกรณ์ทางการแพทย์ นาฬิกาเพื่อสุขภาพ เครื่องมือตัวนี้อยากจะรู้ว่าพ่อท่านนอนอยู่ที่สันติอโศกกับที่บ้านราชเป็นอย่างไรก็รู้ โยมว่า เขาเรียกว่านาฬิกาเพื่อสุขภาพ พ่อครูว่า… พยายามเข้าใจให้มันดีๆอย่าเพ่งโทษมากนัก อย่ามองไปในทางร้ายมองไปในทางดี อาตมาเป็นพระอาริยะระดับนี้แล้ว อาตมาไม่มีกิเลสอย่างที่เป็นโลกๆเขาจะเป็นหรอก นี่ก็พูดตรงๆนะ สงสัยที่พ่อครูใส่นาฬิกาขยายความแล้วหายสงสัยหรือเปล่า _จันทรพนา สิทธิพันธุ์ · น้ำเสียง..กระแสความ..ของ..ท่านเดินดิน..เต็มไปด้วย..ความเทิดทูน..รัก..ห่วงใย..”พ่อครู”…เป็นอย่างน่า..อบอุ่น..ชื่นใจยิ่ง พ่อครูว่า… น้องสาวท่านเสียงศีล มองสิ่งเหล่านี้จากท่านเดินดินก็ดี _Natchawan Sriphatsongsaeng ณัชวรรณ ศรีพัฒน์ส่องแสง · ฟังธรรมพ่อครูเมื่อวันศุกร์ที่ 20 ม.ค. สนุกมากๆ ทีแรกนอนตีลังกาฟัง พอฟังๆไป ลุกนั่งฟังอย่างสนุกและเข้าใจเพิ่มขึ้นคะ พ่อครูว่า… ดีมากยังเป็นประโยชน์ อาตมาเทศน์แล้วเขาก็ฟังแล้วเข้าท่า อย่างนี้อาตมามีความหวัง อย่างนี้ ก็ได้ความหวัง จะว่าหวังเพราะไม่ถึงขั้นอยาก แต่ว่าเออ เป็นเจตนารมณ์ มุ่งหมายว่าให้เป็นเช่นนี้ ได้เช่นนี้ก็ได้ดังว่านี้ก็ดีแล้ว เอาแล้วเจริญพัฒนา อาตมาก็มีเจตนาเช่นนี้ ส่วนคนที่เขาไม่ได้ก็ไม่ได้ ดีไม่ดีเห็นว่าเป็นผิด เห็นว่ามาทำลายสิ่งที่เขายึดถืออีก อาตมาก็ต้องขออภัย อาตมาไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น แต่คุณเข้าใจไม่ได้ คุณเข้าใจอย่างนั้นก็ตั้งใจฟังด้วยดีอาจจะได้ปัญญา _เยาวลักษณ์ วัฒนเสรีกุล · น้อมกราบนมัสการพ่อครูสุดเศียรสุดเกล้าและท่านสมณะ สิกขมาตุทุกรูปค่ะ โยมฟังแล้วนำมาปฏิบัติตามที่พ่อครูสอนนำมาจากพระไตรปิฏกของพระพุทธเจ้าแบบโลกุตรธรรม คือลดกิเลสตัว รู้เท่าทันบ้าง ไม่ทันบ้างกับกิเลสที่เกิดขึ้น ไม่ยึดไม่จับเอามาคิดกับเรื่องที่ทำให้เราทุกข์ ทุกอย่างก็คลายสลายไปเอง กิเลสเช่น รัก ลดกิเลสรัก แบบเอาปัญญามาใช้ทำใจไว้บ้าง โลภ คิดเอาจะโลภแค่ไหน โกรธ ลดอาการอย่าให้แรง หลง รู้เท่าทันความหลง หลงแบบใช้ปัญญาคิด ความเศร้าก็เป็นกิเลส ดูอาการของมันอย่าให้มันแรง (ที่โยมกล่าวมานี้ได้จากฟังพ่อครูและสมณะสิกขมาตุทุกวันค่ะ) ถ้าเพื่อนๆทางเฟสอยากไม่ทุกข์ก็ กดติดตามFBบุญนิยมทีวี ธรรมะของพระพุทธเจ้าแบบโลกุตรธรรมที่พ้นทุกข์จริงค่ะ ขออนุญาตพ่อครูโพธิรักษ์ผู้นำชาวอโศกด้วยค่ะ โยมกล่าวถูกไหมค่ะ พ่อครูเผยแพร่ให้ชาวโลกค่ะ พ่อครูว่า… ถูกต้อง ผู้ที่ฟังธรรมอาตมาแล้วเป็นอย่างที่คุณเยาวลักษณ์อธิบายมานี้นั่นแหละเป็นคนปฏิบัติธรรม มีสัมมัปปธาน 4 มีสติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 มีโลกุตรธรรม โลกุตรธรรม 37 คือ สติปัฏฐาน 4 อิทธิบาท 4 สัมมัปปธาน 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 มรรคมีองค์ 8 คุณฟังแล้วพิจารณาองค์ประกอบกายนามรูปที่สาธยายมานี้ นี่แหละคือการปฏิบัติธรรมะพระพุทธเจ้า ไม่ใช่เป็นนั่งหลับตา สะกดจิตไป ไม่ใช่ อันนั้นเป็นโลกียะเป็นเดียรถีย์ด้วย ไม่ใช่เป็นของพระพุทธเจ้า ของพระพุทธเจ้านั้นเป็นโพธิปักขิยธรรม 37 อย่างที่อธิบาย เดี๋ยวนี้ไปเข้าใจผิด ศาสนาพุทธมันเสื่อมจนไปยึดถือว่านั่งหลับตาปฏิบัติ ซึ่งมันเป็นทางสมถะเท่านั้นและมันก็ออกนอกรีตไปเลย แล้วไปหลงก็ได้มิจฉาผล เลยเป็นอรหันต์เก๊แล้ว ก็นับถืออรหันต์เก๊กันก็น่าสงสาร น่าสงสาร อาตมาจึงมายืนยันสิ่งที่พูดสิ่งที่ผิด อาตมาก็ว่าผิดด้วยความจริงใจไม่ได้ไปดูถูกดูแคลนอะไร แต่พูดถูกว่าเขาผิด เขาผิดมันก็ต้องดูให้ถูก แล้วมันก็ต้องพูดข่ม พูดกดความผิด อาตมาก็ใช้พยัญชนะสาธยายความเป็นจริงของพฤติกรรมของอาตมาแต่คนเข้าใจไม่ได้หาว่ายกตนข่มท่านไปดูถูกคนอื่นต่างๆนานา ซึ่งไม่มีลักษณะอย่างที่คุณพูด มันไม่เกิดในเจตนาของอาตมา มันเกรงใจด้วยซ้ำ อาตมาเกรงใจด้วยซ้ำแต่จำเป็นต้องพูด เพราะมันจะต้องพูดความจริงให้รู้เรื่อง ซึ่งอาตมาทำอยู่ แต่มันก็ไปทีละน้อย คนฟังทางโน้นฟังเยอะ พูดอย่างอภิธรรมหรือพยัญชนะอะไรกัน อย่างสายอื่นเขานี้หรือว่าไปนั่งพาทำหลับตา เดินย่างหนอ ก้าวหนอมีเยอะ แฟนนานุแฟนมีเยอะ อาตมามีแฟนนานุแฟนน้อยเพราะฟังแล้วมันทวนกระแสใจ มันขัดกิเลส มันไม่ยอมตามใจที่คุณอยาก เป็นธรรมดาธรรมชาติก็ได้แค่นี้ พ่อครูเป็นสยังอภิญญา ไม่ใช่ผู้ตรัสรู้เอง _ป้าแจ๊ว…. กราบพ่อครู ผู้สยังอภิญญา ที่ตรัสรู้คำสอนมา (พ่อครูว่า… สยังอภิญญา ยังไม่ใช่ผู้ตรัสรู้ ยังเป็นผู้เรียนตามพระพุทธเจ้าอยู่ แต่มีอภิญญามาแต่ชาติก่อนชาตินี้ก็มีมา โดยที่ชาตินี้ไม่ต้องมีครูบาอาจารย์ เป็นของตัวเองก็เอามาประกาศอธิบาย ซึ่งอธิบายอยู่แล้วตรงกันข้ามกับที่อาจารย์เขามีมาก่อน มันก็ขัดแย้งกัน แต่อาตมาก็นำพามาจน 50 ปีแล้วยืนยันอภิญญาหรือความรู้ที่อาตมา ไม่ใช่ว่าอาตมาตรัสรู้ อาตมาเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้าผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ ) ดิฉันฟังธรรมซ้ำๆ (พ่อครูว่า… ต้องฟังซ้ำ พระพุทธเจ้าสอนให้ฟังซ้ำแล้วซ้ำ ปัญญาข้อที่ 2 ปัญญาข้อที่ 1 หรือแม้แต่ในอวิชชาสูตร ต้องมีการฟังธรรมให้บริบูรณ์เป็นอาหาร คบสัตบุรุษให้บริบูรณ์เป็นอาหาร จะได้สัทธรรมที่บริบูรณ์จะได้มีศรัทธาที่บริบูรณ์ บ่อยๆซ้ำๆ คนที่ฟังนิดหน่อยก็บอกว่ารู้แล้ว คนนั้นไม่มีทางที่จะเจริญเพราะเขาจะไม่เห็นธรรมรส เขาจะไม่เห็นการฟังแล้วยิ่งมีอานิสงส์ 5 ประการ มันจะมีอะไรใหม่ๆอีกในอานิสงส์ 5 ประการ มันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ฟังธรรมะฟังซ้ำๆ _เรียนเขียน ฟังแล้วก็ไปย่อยธรรมะเสมอๆค่ะ จิตที่เป็น สัตว์ หรือสัตตาวาส 9 เอาแต่ใจ ถือสายึดมั่น จิตแท้ๆ จิตคนมีธรรมะ 2 สัตว์ออกไปหมดสิ้น (พ่อครูว่า… นั่นแน่ เป็นอรหันต์แล้วหรือ) ตายหมดสิ้น ตาย แต่จิตแท้ๆ ยังมีสติสมาธิปัญญา (พ่อครูว่า… ผู้ที่ไม่รู้ภาษาแต่เขียนจากสภาวะของตัวเอง ฟังแล้วถูก ..ถูก ที่จริงคนไม่รู้ภาษานี่แหละ แล้วก็เขียนออกมาอย่างคนไร้เดียงสาอย่างกับเด็กๆ มันก็สื่อของจริงซื่อๆ ชัด) _จิตแท้ๆ ยังมีสติสมาธิปัญญา มีความเพียรในการเขียน ร่างแล้วทิ้ง เขียน 2 วัน คิดว่าเขียนพอใช้ ปัจจุบันมือขวามาช่วย (พ่อครูว่า หมายถึงคน) เขาชื่อน้องพร เป็นน้องกลีบบัว อยู่ที่อุทยาน งานที่ดิฉันทำตื่นตี 3 ตี 4 ต้มข้าว 5 อย่าง ตี 5 ทำเสร็จ พี่น้องกินน้ำข้าวและต้มน้ำโคคลาน น้ำขิง ดิฉัน 3+ 4 วัน ให้น้องพรทำได้ดี ดิฉัน รูป แขน ขาดี ๑. คำถาม มือขวา ธรรมะคืออะไรคะ ๒. มือซ้ายดิฉันพอพึ่งได้ค่ะ พ่อครูว่า… อาตมาก็เลยยังไม่เข้าใจว่า ถนัดมือขวาหรือมือซ้าย พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าพระสารีบุตรเป็นอัครสาวกเบื้องขวา พระโมคคัลลานะเป็นอัครสาวกเบื้องซ้าย มันก็ต้องมีความหมายและก็เป็นที่รู้กันอยู่ว่า คนเรานี้เป็นธรรมชาติมันถนัด ขวา มากกว่า ซ้าย เป็นธรรมชาติ หลายคนก็ทำได้พอกันทั้งสองมือเลย บางคนถนัดซ้าย ขวาไม่ถนัดแต่มีส่วนน้อย จริงก็เป็นเช่นนั้นถนัดขวา จึงถือขวาเป็นเอกซ้ายเป็นรอง มือขวาคือธรรมะเอก มือซ้ายคือธรรมะรอง คืออย่างนี้แหละ มันก็ต้องพึ่งพากันซ้ายกับขวา SMS วันที่ 23 – 24 ม.ค. 2566 _บุญสูง สาดา · ปรับทุกข์ปลุกธรรมนำสมัย เนื้อในปรับปลุกไม่ทุกข์โศก พ่อปลุกลูกหลานทำงานเพื่อโลก ชาวอโศกโชคดีมีพ่อครูพาสู่แดนธรรม ลูกขอกราบซับซาบซึ้งใจ ปฏิบัติไปตามแนวแววสร้างสรร โลกุตระละนิวรณ์ตามพ่อสอนนั้น ทุกคืนวันสรรสร้างทางที่ควร กราบนอบน้อมพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ครับ พ่อครูว่า… นักกลอนนอนเปล่าก็เศร้าใจเขียนกลอนมาเนื้อหาก็ใช้ได้ กลอนยังต้องฝึกอีกนิดหน่อย _Montree Uthairat มนตรี อุทัยรัตน์ · อีกสามปีเจอกันที่บ้านราชนะครับ พ่อครูว่า… นานนะ ตั้ง 3 ปี เอาละคุณก็เก็งไว้ 3 ปีเอานะ เร็วขึ้นหน่อยก็ดี 3 ปีก็ดีแล้ว เป็นคนมีจุดหมายมีที่มุ่งหมาย เจตนาที่มาอยู่บ้านราชนี่แหละอีก 3 ปีเอาให้ได้ มันมีภาระมีหน้าที่ที่จะต้องทำก็ว่าไป ขอเอาใจช่วย จะแก้ไขอุปาทานนิรมาณกายในตนได้อย่างไร _Sutas Supapattarnon สุทัศน์ สุภาภัทรานนท์ · เคยเห็นภาพคน แต่ไม่มีตัวตนมีแต่ภาพ เหมือนฉายหนัง อย่างนี้คืออะไรครับ พ่อครูว่า… คืออุปทาน เมื่อพูดมาอย่างนี้อาตมาก็เข้าใจแล้วว่าเป็นอุปาทานอย่างหนึ่ง อุปาทานคืออะไร อุปาทานคือสิ่งที่สร้างขึ้นเห็นภาพก็คือสิ่งที่หลอกตา อย่างเช่น คนเห็นผีหรือว่าคนเห็นเทวดาเป็นรูปร่างอะไรต่างๆ เขาเห็นด้วยตาเขาสัมผัสว่าเขาเห็น แต่มันคือการสร้างเป็นนิรมานกาย เป็นกายทิพย์ ซึ่งกายทิพย์นี้ไม่ใช่ของดีนะ เป็นเรื่องที่มันละเอียดมันรู้ไม่ได้ง่าย แต่คุณสร้างขึ้นมาของคุณเอง คุณปรุงแต่งขึ้นมาด้วยจิตของคุณเอง โดยเกิดจากคุณไปเชื่อที่เขาสอนมา ได้ยินได้ฟังจากชาติไหนก็แล้วแต่มาถึงชาตินี้ คุณก็ยังจำได้เห็นได้ อย่างคนที่มีอุปาทานยึดติด อย่างเช่น คนเข้าทรงจำ ได้ในชาติโน้นชาตินี้หรือผ่านมาในชาติไหนก็แล้วแต่ เราก็ทำเป็นสั่นแล้วทำให้ตัวเองไม่รับรู้ดับสัญญา สะกดจิตสะกดสัมปชัญญะตัวเองให้มันไปตามเรื่อง มันก็มีแต่สัญญาที่คุณจำได้ว่าต้องออกท่าทีอย่างนี้ อาตมาผ่านมาจะว่าเล่นก็จริงๆตั้ง 8 ปี ไสยศาสตร์เข้าทรงทำมาแล้วแล้วก็มาเรียนรู้ธรรมะพระพุทธเจ้าจึงรู้สิ่งนั้น ว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นกิเลสอุปาทานทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นความจริงเห็นสิ่งจริงก็คือตากระทบรูป คนส่วนมากเห็นอย่างไร กระทบหัวกะหล่ำปลี คนที่ตาดีตาไม่เบี้ยวตาไม่เพี้ยนสี พบรูปร่างสีสันอะไรมันก็เห็นรูปร่างสีสันอย่างนี้เหมือนกัน นี่เรียกว่าความจริง ความเป็นอุปาทานก็คือความที่เพี้ยนไปจากความจริง ปั้นเองเนรมิตเองแล้วก็หลงไปเป็นตาทิพย์ตาทองตาวิเศษอะไร นั่นก็คือความโง่อวิชชา วิชชาจริงๆคือความรู้ความจริงตามความเป็นจริง ตากระทบรูปอย่างไรคนธรรมดาสามัญไม่ว่าเชื้อชาติศาสนาไหนก็จะเห็นเหมือนกันหมด ไม่แย้งหรอก อาจจะใช้ภาษาต่างกันเรียกไปเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นนี่เป็นเรื่องของอุปาทานที่คุณพูดมานี้ เคยเห็นภาพคนแต่ไม่มีตัวตน มีแต่ภาพเหมือนฉายหนัง อย่างนี้คืออะไร ก็อธิบายมาแล้ว แล้ว เดี๋ยวนี้มีเยอะอย่างนี้คนยังหลงเลอะเทอะอย่างนี้ อย่างเช่น หมอปลาไปปราบผีปราบสางอะไรนี่แหละ ไม่รู้จะทำอย่างไร เสร็จแล้วเขาก็มีเจตนาทำให้หายไปขั้นหนึ่ง เปลี่ยนแปลงค่อยยังชั่วไปขั้นหนึ่ง แต่ยังไม่ค่อยถูกต้องตามวิชชาศาสนาพระพุทธเจ้า อย่างอาตมานี้ พอมาเรียนพุทธศาสนาก็กลับไปช่วยคนที่เคยเข้าไสยศาสตร์เข้าทรงเหล่านี้ บางคนเคยเล่ามาแล้ว ไปหลงว่ามีสามีเป็น พระพรหม เขามีอายุ 16 ,17 ปี อาตมาก็อธิบายให้ฟังทำให้เขาหาย ไม่หลงเลอะเทอะที่จะไปสร้างอุปาทาน คนที่จะมีอุปาทานต่างๆนานาเป็นเทวดาผีสาง นางไม้ อะไรต่ออะไรที่พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้สอนหรอกเป็นเรื่องที่เขามีมาเก่าเป็นพวกเดียรถีย์ ยึดติดแล้วก็เอามาเล่าแล้วก็ทำกันไป พระพุทธเจ้าก็ดึงกลับมาสอนให้รู้ความจริง จนกระทั่งสุดท้ายจริงๆแล้ว สิ่งที่เป็นความจริงที่สุดคือ ปัจจุบันธรรมที่ ตากระทบรูป หูกระทบเสียง จมูกกระทบกลิ่น ลิ้นกระทบรส โผฏฐัพพะกระทบภายนอก เย็นร้อนอ่อนแข็ง นี้คือ ความจริงสิ่งเดียว นอกนั้นเป็นเรื่องของสัญญา อุปาทานเป็นเรื่องของสัญญาที่เป็นอย่างโน้นอย่างนี้บ้าง นอกไปกว่าความจริง คุณเห็นอย่างที่กะหล่ำปลีนี้มันก็เป็นอย่างนี้ สีมันอย่างนี้ ใบมันอย่างนี้ รูปร่างอย่างนี้ กลิ่นมันอย่างนี้ มันก็อย่างนี้ทั้งนั้นอย่างเดียว และก็รู้ต่อว่ามันเป็นอาหารได้ เป็นสิ่งที่เลี้ยงชีพได้ ก็ใช้มันให้ตรงตามที่มันเป็น ที่ควร มันดีกว่าทองคำนะ บางทีมีแต่ทองคำไม่ดี สิ่งเหล่านี้ตายกินไม่ได้ แต่มีสิ่งเหล่านี้แล้วไม่ต้องมีทองคำ อยู่รอดไหม ก็อยู่รอดอย่างนี้เป็นต้น เพราะฉะนั้นจะรู้ความจริงลึกซึ้งขึ้นไปอีก หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤษดากร บอกไว้ว่า เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาเป็นของจริง อะไรอย่างนี้ นี่ก็เป็นปฏิภาณปัญญารู้ความจริงขึ้นมา เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาสิของจริง ต้องหมดกามภพก่อนจึงเห็นรูปภพ หมดรูปภพจึงเห็นอรูปภพ _สว่างแสง ขวัญดาว · น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ พ่อครูคะ ลูกฟังที่พ่อครูได้เปรียบเทียบการประหารกิเลสในภพทั้ง ๓ มี กามภพ รูปภพ อรูปภพ เหมือนกับการสลายภูเขาที่มี ๓ ชั้น หากว่าได้สลายภูเขาชั้นแรกภพนอกสุดอันคือกิเลสกามภพหมดสิ้นแล้ว พ่อครูว่า… มันเหลือไง กามภพกามาวจรมันหมดแล้ว กิเลสกามหมดแล้วไม่เหลือแล้ว กิเลสขั้นที่เหลือเรียกว่า รูปภพ ไม่ได้หลับตาเข้าไปหรอก ถ้าคนที่หลงผิดก็ไปหลับตา แล้วบอกว่ากิเลสชั้น 2 จากการหลับตาคือรูปภพ เขาก็ไปทำเป็นในรูปภพอย่างนั้น ดีไม่ดีลัดเป็นอรูปที่มันหมดอีกชั้น หมดหยาบไปเหลืออรูป แล้วเขาก็หลงไปทำโดยที่เขาไม่ทลายกิเลสกามภพ ที่เป็นภายนอกภูเขาก่อนแล้วเขาจะทะลุไปทำลายชั้น 2 เข้าไปทำลายชั้น 3 ได้อย่างไร เขาก็จินตนาการฝันเพ้อของเขาเองซึ่งมันไม่ได้มันไม่ถูกต้องมันเป็นอย่างนั้น นี่คือการสมมุติให้เห็นเป็นภาพเป็นภูเขาอะไรให้ชัด คนที่ปฏิบัติลัดปฏิบัติผิด ศาสนาพระพุทธเจ้ามีการปฏิบัติเป็นลำดับอันน่าอัศจรรย์ ช่วงนั่งหลับตาเข้าอยู่ในรูปภพ อรูปภพ แล้วไปนั่งหลับตาสะกดจิตอีก ทำให้เป็นสมถะเท่านั้น ให้หยุดจิต ไม่ให้มีอะไร กลายเป็น อสัญญีสัตว์ เลยตกเป็นสภาพ อสัญญีสัตว์ กันเยอะเลย ก็เลยน่าสงสาร ใครฟังรู้ดีก็เลิกเสียอย่างที่ควรจะเลิก อย่างที่มันผิดอย่าไปหลงใหลอยู่ คุณฟังดีๆเชื่อถือก็หยุดได้ไม่ต้องไปเสียเวลาแรงงาน ทุนรอนไปทางโน้นอีกเลย มาปฏิบัติจรณะ 15 วิชชา 8 ที่เป็นของพระพุทธเจ้า ที่เป็นพุทธคุณแท้ๆของศาสนาพุทธนี้เถอะ _ขณะนี้เป็นขณะที่ต้องประหารกิเลสในรูปภพอันอยู่ในฐานะภพนอกสุดใช่ไหมคะ ความเป็น”กาย” ในขณะนี้เป็นการที่ทวาร๕ผัสสะกับรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสแล้วเกิดเฉพาะกิเลสรูปภพใช่ไหมคะ ไม่อาจเกิดกิเลสกามภพได้อีก และไม่อาจเข้าไปรู้หรือประหารกิเลสในอรูปภพได้ใช่ไหมคะ ตามที่ลูกกราบเรียนถามพ่อครูมานี้ผิดถูกประการใดขอพ่อครูโปรดสั่งสอนลูกด้วยค่ะ น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ พ่อครูว่า… อาตมาอ่านภาษาของคุณสว่างแสง นี่เข้าใจ คือกามภพหมดแล้ว มันก็ยังอยู่ที่กามาวจรในภพ ยังดำเนินอยู่ตากระทบรูปแต่กิเลสกามมันหมดก็เหลือกิเลส รูปภพ ถูก สัมผัสแล้วก็เหลือแต่กิเลสและรูปภพ ไม่อาจเกิดกิเลสกามภพได้อีก ก็ใช่ ไม่อาจไปประหารอรูปภพได้ ก็ใช่ ต้องทำ รูปภพหมดก่อน แล้วจึงไปทำอรูปภพต่ออีก รับรองว่าความเข้าใจของคุณถูกต้อง อย่างนี้แหละต้องมีลำดับอย่างถูกต้องและทำไปไม่ใช่ไปทำเลอะเทอะอย่างที่เขาทำผิดๆกัน นั่งสมาธิหลับตาแล้วบอกว่าหลุดพ้นเป็นความเพ้อพกของเดียรถีย์ _สหายเยี่ยม · การนั่งสมาธิเพียงเพื่อให้รู้เท่าทันสังขาราเท่านั้นนะพระคุณเจ้า เมื่อรู้เท่าทันสังขารก็สามารถกำหนดจิตได้ว่า ต้องการอะไร ส่วนผลบุญจะเกิดหรือไม่ขึ้นอยู่กับผลบุญอดีตชาติต่อเนื่อง มิใช่เกิดแล้วกินแต่ผลบุญเก่า ผลบุญใหม่ไม่มีมิใช่และภาษาก็เช่นกันเป็นเพียงสื่อความหมาย แต่เมื่อภาษาเอาวัตรปฏิบัติเป็นตัวกำหนดต้นแบบ เช่น พระเดินจงกรมตลอดทั้งวัน ทุกอิริยาบถของท่านคือสำรวมก็เกิดสมาธิเมื่อเกิดสมาธิย่อมเกิดปัญญา สิ่งนี้ต่างหากคือวัตถุของสัตว์สองขาพูดได้แสวงหาทั้งปวงทำยาก แต่อรหันต์ทำได้ เมื่อทำได้จึงหลุดพ้นจากพันธนาการทั้งปวง ให้สังเกตหลวงปู่ชา สุภัทโท ท่านเรียนจบ.ป.4.แต่สามารถสอนนักปรัชญาชาวฝรั่งที่เรียนรู้ทุกศาสนาทั่วโลกมาแล้วรู้เรื่องด้วย ดังนั้นการใช้ศัพท์หรือภาษาบาลีคือการอวดผลการเรียนการปฏิบัติแห่งตน ยากจะนำไปสู่ความหลุดพ้นจากพันธนาการของบ่วงแห่งกิเลสความอยากแต่มิใช่หมายความว่าภาษามคธต้นสังกัดเดิมจะไม่สำคัญ ควรจะใช้ในระดับสูงของนักเรียนทฤษฎีธรรมของสงฆ์ด้านเปรียญธรรม ส่วนชาวบ้านนั่งหลับหมดไม่เข้าใจนัยยะแห่งการนั่งขัดสมาธิ เดินจงกรม คือเพียงใช้ให้รู้เท่าทัน ท่านจะรู้ถึงขั้นไหนผู้ตอบได้คือตัวท่านเอง เมื่อหลุดพ้นแล้วจะพบกับสภาวะว่างเปล่าของขอบจักรวาลแห่งตัวเอง วันนั้นจึงเรียกหลุดพ้นค้นพบสัจจธรรมที่แท้จริง พ่อครูว่า… คุณไปเรียนดีๆเดินจงกรมเป็นการทำสมถะเท่านั้น เลิกได้แล้ว ให้ลืมตาปฏิบัติอย่างมี โพธิปักขิธรรม 37 มาเรียนสมาธิของพระพุทธเจ้าไม่ใช่สมถะ สมาธิของพระพุทธเจ้าไม่ใช่คือสมถะ สมาธิที่เป็นสมถะเป็นสมาธิของเดียรถีย์ สมาธิของพระพุทธเจ้านั้นคือจิตหมดกิเลส จิตสะอาดจากกิเลส ยิ่งเป็นสมาธิ ยิ่งแคล่วคล่อง ทั้งภายนอกและภายใน เป็น กายปาคุญญตา จิตปาคุญญตา ขออภัยที่ต้องใช้พยัญชนะบาลีกำกับ กายก็แคล่วคล่องว่องไว รับรู้เร็วไว ไม่ใช่ไปซึมช้าหนอย่างหนอ ก้าวหนอ มันคนละวิธีปฏิบัติ คนละทางเลยอันโน้นไม่มีทางมาเป็นอย่างนี้ได้ คุณไปเดินจงกรมอยู่นั่นแหละไม่มีทางบรรลุธรรม ขอยืนยันต้องมาเรียนรู้จรณะ 15 วิชชา 8 สัมผัส มี อปัณณกปฏิปทา 3 มีศีลเป็นหลักทำไปตามลำดับจึงจะเกิดสัทธรรม 7 เกิดฌาน ฌานก็ลืมตาปฏิบัติอย่างนี้ _สู่แดนธรรม… บรรทัดแรกเขาอ้างว่าการนั่งสมาธิเพียงเพื่อให้รู้เท่าทันสังขาราเท่านั้น เราก็ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น เราก็ใช้ชีวิตปกติเราก็รู้เท่าทันสังขาราของกิเลสโลกได้เหมือนกัน พ่อครูว่า… ไอ้ที่พูดนี้รวมความแล้วมันไม่เป็นอย่างที่คุณพูด คุณพยายามช่วยเขา พยายามอธิบายช่วยเขาแต่มันไม่เป็นอย่างที่ว่า องค์รวมของเขามันเป็นสมถะหมด ชีวิตจะมีปัญญารู้เท่าทันการเคลื่อนไหวอย่างเร็วไวเป็น มุทุภูตธาตุ กายปาคุญญตา จิตปาคุญญตา ยิ่งรู้เท่าทันเร็วไวเลย ไม่ใช่ไปนั่งเซื่องซึม มันคนละทิศ ปฏิบัติคนละทิศเข้าใจคนละทาง ตระกูลศรัทธาก็เป็น สังขิตฺตํจิตตํ ตระกูลปัญญาก็ วิกขิตฺตํจิตตํ แล้วก็ทำให้มันเจริญขึ้นเรียกว่าเป็น มหัคคตะ นี่คือเจโตปริยญาณ 16 ปฏิบัติแล้วจะรู้ขั้นตอนอย่างนี้ เจริญขึ้นเป็นอย่างนี้เป็น มหัคตะ มันไม่ใช่ไม่เจริญไม่ออกเรียกว่า อมหัคตะ แต่เจริญเป็นมหัคตะ มันมีจิตที่ดีกว่านี้ยังมีอีก มันก็จะมีปฏิภาณรู้ว่า ยังไม่จบ อนุตรจิต คือ จิตที่จะสูงสุดจบ จบด้วยการทำให้กิเลสหมด จบ ตกผลึกลงตั้งมั่นเรียก สมาหิตังหรือสมาหิโต คือสมาธิของพระพุทธเจ้า จิตที่ตั้งมั่นยืนยันอยู่นี่แหละ ให้ตรวจสอบว่ากิเลสยังเหลือหรือไม่เรียกว่าเป็นวิมุติหรือวิมุตติญาณทัสสนะ อ่าน ตรวจแล้วตรวจอีกว่าเป็นวิมุตจริงถไหม สุดท้ายเลย วิมุติ ไม่ใช่เหลือเศษเป็นอวิมุติ ตรวจสอบจนครบ 16 เจโตปริยญาณ อาตมามีสภาวะจึงอธิบายขยายความเป็นภาษาง่ายๆให้ฟัง เพราะอาตมาทำได้หมดผ่านมาหมด พูดไปแล้วเหมือนอวดตัวอวดตนแต่พูดยืนยันความจริง อย่างที่คุณทำไม่เกิดปัญญา มันเป็นสัญญาที่คุณฉลาดขึ้น นึกว่ารู้อะไรมันเป็นความรู้ที่เพ้อๆ กลายเป็นสัญญา กลายเป็นอดีต 18 กลายเป็นอนาคต 44 โน่น มันไม่เกิดปัญญา ปัญญาต้องเกิดในขณะลืมตาปฏิบัติ ปัญญา ปัญญินทรีย์ ปัญญาพละ ธรรมวิจัยสมโพชฌงค์ สัมมาทิฏฐิ มัคคังคะ อย่างพวกคุณนั้นไม่มีอรหันต์ ทำได้อย่างพวกคุณเป็นอรหันต์เก๊ อย่างที่พวกคุณทำได้เป็นอรหันต์อย่างผิดๆ ความหลุดพ้นคุณก็หลงเข้าใจผิดเอาเองว่าหลุดพ้น ขออภัยนะต้องพูดความจริงว่าอาจารย์ชา สอนฝรั่งนั้นคือได้สมถะ ยังไม่ใช่จรณะ 15 วิชชา 8 ขอยืนยันความจริงนี้ จริง มีตื่น อ.ชาสอนความตื่น ความรู้เท่าทัน แต่ว่าธัมมวิจัยสมโพชฌงค์ยังไม่บริบูรณ์ สติปัฏฐาน 4 ก็ตื่น แต่ธรรมวิจัยสัมโพชนี้ลึกซึ้งมาก มีวิจัยเป็นวิตกวิจาร สังกัปปะ 7 ต่างๆนานา อ่านเลยว่า ปัญญาเป็นอย่างนี้ ปัสสัทธิเป็นอย่างนี้ สงบเป็นอย่างนี้ เจริญเป็นอย่างนี้ แยกได้ ทำให้กิเลสลดลงได้ อัปปนา เป็นจิตที่ตั้งมั่น static อัปปนา พยัปปนา เจตโสอภินิโรปนา แต่อาจารย์ชาจะยืนยันแต่อัปปนา ตัวเดียว ยืนยันแต่เป็นสมถะไม่เป็นปัสสัทธิ ปัสสัทธิคือตื่นเห็นแต่กิเลสมันหมด แต่สมถะคือกิเลสมันเกาะตัวแนบแน่น อัปปนา แปลว่า แน่วแน่ แนบแน่น พยัปปนา เจริญขึ้นกว่านั้นคือแน่วแน่แนบแน่น ยิ่งกว่านั้น เจตโสอภินิโรปนา เจริญไปสู่สูงสุด ยิ่งแน่วแน่ ยิ่งแนบแน่น ยิ่งแคล่วคล่อง ยิ่งว่องไว มันเป็นสิริมหามายา เป็นสภาวะ 2 เป็น dialectic ที่เข้าใจได้ยาก ซึ่งไปสอนฝรั่งให้เขามีสมถะ ยิ่งสอนให้เขาตื่นอยู่บ้าง สำหรับการสอนของอาจารย์ชา ซึ่งก็ยังมีตัวที่ดีที่ถูกต้องอยู่บ้าง แต่ยังไม่บริบูรณ์เท่านั้นเอง ขออภัยไม่ได้ไปข่ม อาจารย์ชา แต่อาศัยสัจจะ อาจารย์ชา เผยแพร่ยืนยันความจริงอธิบายสัจจะของอาจารย์ชาให้ได้เข้าใจ โดยไม่ได้ต้องการไปทำลายส่วนดี ส่วนไหนที่ยังไม่ถูกก็บอกว่ายังไม่ถูก ฝรั่งที่เป็นเทวนิยมเขามาได้อันนี้ เจริญขึ้น ก็ดีแล้ว อาตมายืนยันอ้างอิงหลักฐานจากบาลีต้นคำของพระพุทธเจ้าต่างหากไม่ใช่ไปอวดตน คุณเข้าใจว่าอาตมาอวดตนอาตมาก็พูดแล้วอาตมาไม่มีอาการอวด ไม่มีสาเฐยจิต คุณมารู้จิตอาตมาไม่ได้หรอก คุณไปเพ่งโทษอาตมาเองมันเป็นบาปนะที่จริง ซึ่งคุณนั่นแหละยาก อาตมานะ บรรลุแล้ว อาตมาพูดถึงบาลีคำศัพท์พระพุทธเจ้าก็อธิบายสภาวะทั้งนั้นเป็นภาษาไทยให้รู้ทั้งนั้น คุณจะให้เรียนแต่พระภิกษุ ทำไมใจแคบจัง ฆราวาสเขาก็ฟังอาตมาได้ พวกคุณที่นั่งอยู่นี่เป็นชาวบ้านแล้วหลับหมดหรือเปล่า ใครหลับยกมือ ใครไม่หลับยกมือขึ้น แต่คนหลับคงตื่นแล้วล่ะพูดเสียงซะดัง ซึ่งคุณก็ไปจมอยู่การนั่งสมาธิเดินจงกรมนั่นแหละ ตื่นเถิดชาวไทยอย่าหลับไหลลุ่มหลง ชาติจะเรืองดำรง ซึ่งอ่านของคุณสหายเยี่ยมแล้วคุณเพ้อไปจริงๆ มันเป็นภาษาที่คุณเพ้อพกจริงๆ ถ้าอย่างคุณที่เข้าใจอยู่นี้อาตมาขอยืนยันว่าคุณไม่มีวันที่จะหลุดพ้น หรือจะค้นพบสัจธรรม ศึกษาใหม่ตั้งใจดีๆฟังให้ดีๆ ถ้าคุณฟังไม่ดี คุณไม่ได้ปัญญา คุณได้แต่หลงใหล เพ้อพกไปตามที่คุณเข้าใจ มันก็น่าเสียดายเวลานะคุณนะตั้งใจดีๆ มาฟังธรรมะอาตมาดีๆหน่อย มีปรโตโฆษะ เอาน่า… แบ่งใจให้อาตมาบ้าง ฟังอาตมาบ้าง (พ่อครูไอตัดออกด้วย) สมณะเดินดิน… สหายเยี่ยมอาจไม่เคยรู้จักประวัติพ่อครู สมัยก่อนพ่อครูท่านทั้งนั่งเป็นคืนๆ เดินจงกรมเดินมามากแล้ว พ่อครูว่า… อาตมาทำมาหมดอย่างที่คุณพูด ทำมาไม่ใช่น้อยๆ อาตมามาพูดนี้ไม่ใช่เหมือนหมาเห็นองุ่นเปรี้ยว ไม่เคยได้ลิ้มรสองุ่นเลยมาพูด อาตมาพิสูจน์ กินองุ่นมาไม่รู้กี่สวนกี่เถาแล้ว ผ่านมาหมดแล้ว นี่ไม่ได้คุยนะแต่พูดความจริง ไม่ใช่มาหลงใหลยกยอตัวเองอะไร เอาละมันค่อยๆว่าไป _ช่อทิพ หนูทอง · เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมาพ่อครูไอบ่อยมาก สงสารท่านที่สุด พ่อครูว่า… ขอบคุณมาก หน้าหนาวอาตมารู้สึกว่าจะไอมาก _เมฆงาม โชควิบูลย์กิจ · พ่อครูสอนให้เห็นชัดเจนที่การแต่งงานมีครอบครัวตัวอย่างไม่ดียิ่ง พระสงฆ์ชักจูงความเศร้าหมองให้คนมีคู่บาปกรรม ท่านที่ไม่ต้องการแต่งงานจะพ้นทุกข์ พ่อครูว่า… ขอยืนยันว่าคุณเมฆงามถูก พระภิกษุห้ามชักจูงให้ชายหญิงเป็นผัวเมียกัน อาตมาเหยียบเบรกอย่างแรงเลย ที่เขาไปรดน้ำแต่งงานในโบสถ์ มีสมเด็จ 2 รูปเลยนะเห็นดีเห็นงามที่จะไปให้แต่งงานกันในโบสถ์ ศาสนาพุทธเอาอย่างศาสนาคริสต์ที่เขาไม่รู้เรื่อง ว่าคนนั้นแต่งงานเป็นการรนไปหาทุกข์ คุณเมฆงามเขาก็ตั้งตนเป็นคนโสด เขาไม่ได้แต่งงานจนบัดนี้ก็เลยรู้อันนี้ดี แล้วก็เข้าใจเพราะว่าเขาก็มีพี่มีน้องที่เขาแต่งงานเขาก็เห็นความทุกข์สัมผัสอยู่ ทั้งๆที่ตัวเขาเองได้เข้าไปช่วยพี่น้องที่เขาเป็นทุกข์มีลูกมีหลานต่างๆนานา ลูกหลานดีก็ค่อยยังชั่ว ลูกหลานไม่ดีก็ทุกข์หนัก ทำตนให้มีคุณอันสมควรก่อนพร่ำสอนผู้อื่นจึงไม่มัวหมอง _จาก ช่อลัดดา กทม. · เพื่อนรุ่นน้องของดิฉันแต่งงานกับสามีเชื้อสายจีน มีบุตรชายฝาแฝดคู่หนึ่ง เขาอยู่กินกันเรื่อยมา จนกระทั่งลูกเรียนอยู่ชั้นม.2 หรือม.4 (นี่แหละ) ในร.ร.รัฐบาลที่มีชื่อแห่งหนึ่ง ตอนนี้สามีเริ่มมีพฤติกรรมรุนแรงกับเขา เขาทนไม่ได้จึงออกจากบ้านโดยไม่บอกใครๆเลยเป็นเวลา 3 เดือน พอกลับมาคิดว่าเขาคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและสามีคงจะดีขึ้น ที่ไหนได้ยังคงเลวร้ายเหมือนเดิม เขาจึงชวนสามีไปหย่ายังที่ทำการ แต่สามีก็ทำเป็นโอ้เอ้วิหารราย จนกระทั่งสุดท้ายก็ไม่ได้หย่า ครั้งนี้เขาคิดจะหนีออกจากบ้านอีก (ซึ่งอาศัยอยู่กันแบบกงสีและแน่นอนว่าถ้าเขาไม่อยู่ ทางครอบครัวสามีก็จะดูแลลูกชายทั้งสองของเขา) โดยจะหางานทำพอให้มีเงินใช้บ้างมีที่อยู่ที่กินเลี้ยงตัวไป พ่อท่านมีคิดเห็นเป็นประการใดกรุณาชี้แนะด้วยค่ะ เพราะตอนนี้เขาคิดหาทางออกได้เพียงเท่านี้ค่ะ นมัสการขอบพระคุณค่ะ พ่อครูว่า… อาตมาก็ไม่รู้จะชี้อย่างไร จะให้แยกก็ไม่ถูก มันแต่งงานแล้ว อาตมาจะไปยุแหย่ให้หย่ามันก็ไม่ถูก คุณจะทำยังไง แม้จะอยู่คุณก็อยู่อย่างปรารถนาดี ปฏิบัติดี ประพฤติดีให้สามีได้เจริญขึ้น พัฒนาขึ้นบ้าง มันสำคัญอยู่ที่ตัวเรา ตัวเราต้องปฏิบัติตนก่อน แล้วสอนผู้อื่นจะไม่มัวหมอง ทำตนให้เจริญให้เป็นอาริยะที่ดี แล้วมันจะมีปฏิภาณปัญญารู้ว่าควรทำเช่นนี้ เหมาะ พอสมควร เป็นกัมมัญญา ทีนี้ สามีจะเห็น เขาปฏิบัติธรรมนี้เจริญ เขาก็จะโน้มมาว่า อ๋อ ถ้าปฏิบัติธรรม แต่ก่อนผัวเมียอยู่ด้วยกันมา กิริยาคลุกคลีอยู่ด้วยกัน มันจะไม่โง่พอจะไม่รู้ว่า เจริญขึ้นหรือเลวลง นอกจากคุณซวยหน่อยได้สามีที่โง่ๆจนกระทั่งไม่รู้ความเจริญความพัฒนา ว่าดีขึ้นหรือเลวลง เขาไปทำดีก็เข้าใจผิดตรงกันข้ามก็ซวยมากหน่อย แต่ถ้าไม่ซวยมากมันก็จะพอมีปฏิภาณปัญญาสามัญ พอจะรู้ได้ เข้าใจ พอเข้าใจได้ในสิ่งที่ถูกที่ผิด สรุปแล้วก็คือเอาตัวเองก่อน ทำตัวเองให้พัฒนา ทำคุณอันสมควรก่อนแล้วก็ช่วยผู้อื่น สอนผู้อื่นในภายหลังจะไม่มัวหมอง คุณจะได้กลายเป็นสารถี ผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้ในอนาคต เหมือนอย่างพระพุทธเจ้า เหมือนอย่างอาตมาเดินตามพระพุทธเจ้า ก็เป็นสารถีฝึกบุรุษผู้สมควรฝึก อย่างพวกคุณเป็นบุคคลที่สมควรฝึกอาตมาก็ฝึกได้ แต่ไม่ถึงขนาดเก่งเหมือนกับพระพุทธเจ้าที่ไม่มีใครยิ่งกว่า พระพุทธเจ้ายิ่งกว่า อาตมาก็เป็นโพธิสัตว์ ทำได้คุณสมบัติเหล่านั้นตามพระพุทธเจ้ามาตามลำดับ สมณะเดินดิน… สรุปจบ Categories: ธรรมะพ่อครู, ศาสนาBy Samanasandin25 มกราคม 2023Tags: พุทธศาสนาตามภูมิวิถีอาริยธรรม Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:660123 รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 10 ออกจากกาละได้โดยใช้ มูลสูตร 10 และวิญญาณฐิติ 7NextNext post:660127 ในยุคนี้ต้องมาเรียนกับพ่อครูจึงจะบรรลุอรหันต์ได้ พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศกRelated Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024