660814 ชีวกสูตรคือเจาะจงฆ่าไม่ใช่เจาะจงชื่อคนกิน รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #36 ราชธานีอโศก
ดาวโหลดเอกสารที่ https://docs.google.com/document/d/1Pqd4THo8mv45PK4Nim5Z8RCfm2lrFa2m/edit?usp=sharing&ouid=101958567431106342434&rtpof=true&sd=true
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1NcIzYEPTEDj-y5MbvBcIHcatkkhp0rTV/view?usp=sharing
และ
ดูวิดีโอได้ที่
และ https://www.facebook.com/100078722032092/videos/683616463147766/
พ่อครูว่า… วันนี้วันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม 2566 แรม 13 ค่ำเดือน 8(2) ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
นั่นคือวันเวลาที่นี้ก็มาสู่สาระที่เราจะได้พบกัน
ชีวิตควรจะมีสาระ พูด-ทำ-คิด มีแต่สาระ ไม่เอาเวลาไปพูด ไม่เอาเวลาไปคิด ไม่เอาเวลาไปถมกับสิ่งที่ไม่เป็นสาระ ผู้มีสาระ ผู้สำคัญในสาระก็ได้สาระ ผู้ไม่สำคัญในสาระก็ไปสำคัญในสะเปะสะปะเป็นธรรมดา ตามภูมิของแต่ละบุคคล
SMS
_เพียรผ่องพุทธ กล้าจน · กราบนมัสการท่านสมณะ,ท่านสิกขมาตุด้วยความเคารพ ข้าพเจ้าเริ่มเข้าชุมนุมตั้งแต่วันแรกที่ตั้งเวทีพันธมิตร ปี 2549ที่สนามหลวง วันต่อๆมาได้ฟังธรรมะพ่อครู และได้เข้าไปอาศัยกินอาหารมังสวิรัติเลี้ยงชีวิตตนเอง ต่อมาก็มีเพื่อนญาติธรรม มีความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นจนได้มาอาศัยรอนพักค้างร่วมกับกลุ่มชาวอโศก แล้วสบายใจ อบอุ่น มีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย จนถึง ปี 2557 ค่ะปัจจุบันได้มาอาศัยใบบุญอยู่ที่บ้านราชค่ะ.
พี่น้องญาติธรรมที่ทำหน้าที่เสาหลักใช้ธรรมะปราบอธรรม
พ่อครูว่า…อันนี้เป็นสัจจะที่ยิ่งใหญ่ที่เราไปชุมนุม เราใช้ธรรมะปราบอธรรม ดูเหมือนรุนแรงแต่ที่จริงสุภาพเรียบร้อยราบรื่นง่ายงามเย็นอบอุ่น มีทั้งเย็น มีทั้งอบอุ่นในที
_ได้สำเร็จ เป็นแบบอย่างของโลก
พ่อครูว่า…อาตมาก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน พูดไม่รู้กี่ทีว่าเมืองไทยใช้โพรเทส ที่อาตมาใช้ศัพท์เรียกว่า Neo-protest เป็นการประท้วงซึ่งแต่ละประเทศเขาก็มีการประท้วงกันทั้งนั้นประท้วงจนกระทั่งฆ่ากันตายมีเยอะ เดี๋ยวนี้ก็ยังมีอยู่ทำอยู่ แต่เมืองไทยทำแล้วตั้งแต่พ.ศ. 2549 มาจนกระทั่ง 2557 มีผลสำเร็จที่เป็นตัวอย่าง จนทุกวันนี้พวกที่จะมาประท้วงมีหมู่คนมาประท้วง แต่ประท้วงอย่างที่มาแล้วก็โดนเรไม่เรียบร้อย ไม่สุภาพ ไม่มีปัญญา เขาเรียกด้วยภาษาว่าม็อบ ไม่ใช่โพรเทสอย่างนี้เป็นต้น มันก็ต่างกัน
ทุกวันนี้เมืองไทยมีพวกม็อบเหลืออยู่น้อยเป็นเศษ เป็น After Shock เป็น momentum ของ After Shock มันเกิดจากหลังจากแผ่นดินไหวแล้วก็จะเกิดคลื่นตามมาเป็นความรุนแรงค่อยๆเฉื่อยเหลืออยู่ทำตามมาเท่านั้น มันไม่มีฤทธิ์แรงอะไรมากมาย ดูแล้วเหมือนหมาน้อยเห่าหมาใหญ่ แง่งๆๆๆ
_นักรบแห่งธรรม ฝึกจิตวิญญาณขัดเกลากิเลสกับผัสสะ สนามรบการเมืองของเหล่ามารโลกียะ ให้ถอยกลับไปได้ค่ะ.
พ่อครูว่า…อันนี้แม้แต่นักรัฐศาสตร์เขาก็ยังไม่เชื่อ ว่าธรรมะชนะอธรรม เขาไม่เชื่อว่าเป็นพลังประชาชนรัฐประหารรัฐบาล เขาไม่เชื่อกันเท่าไหร่ เพราะมันยังไม่มีสวยงามเหมือนอย่างที่เมืองไทยทำมา เมืองไทยทำมา มันเป็นตัวอย่างแรก เป็น Pioneer เป็นหัวเจาะนำขบวนมาในโลก คนก็เลยรู้สึกว่าอะไรนี่ แต่เขาก็เห็นแล้วนะ เขารับซับทราบไปแล้ว แต่เขายังไม่ซาบซึ้ง ยังไม่รู้สึกว่านี่เป็นธรรมฤทธิ์ที่สามารถทำให้เกิดความสำเร็จ ที่จบลงได้อย่างสวยงามที่สุด
มิลักขชน กับ อาริยกชน ต่างกันอย่างไร
_กราบขอบพระคุณความเมตตาที่ได้ช่วยเหลือมวลมนุษยชาติค่ะ
ลูกกำลังศึกษาเรื่องว่า ธรรมะการเมืองโลกุตรธรรม
พ่อครูว่า…อันนี้ก็เป็นเรื่องใหม่ ธรรมะจะเข้าไปในการเมืองและยังเป็นการเมืองโลกุตรธรรมอีกด้วย เขาจะหมุนสมองให้ทันสมัยได้อย่างไร เขาจะพยายามเพิ่มพลังความเข้าใจ เพิ่มพลังความเฉลียวฉลาดที่จะมารับรู้ ความหมายรับรู้ความจริงที่ว่านี้ มันก็คงจะต้องค่อยๆว่าไป แต่เริ่มต้นพวกเราเข้าใจแล้วก็ใช้ศัพท์ได้ แต่คนที่ยังไม่เข้าใจในสภาวะธรรมลึกซึ้ง เขาก็ได้แต่ฟังๆว่ามันอะไรกันนะ ภาษาทะแม่งๆไม่เคยได้ยิน ภาษาใหม่หูบ้างอะไรไป
_ของผู้นำของชาวอโศก เพราะลูกมีแรงบันดาลใจคำว่าโลกุตรธรรมที่ยังมีความรู้ความเข้าใจยังน้อยอยู่ ปัญญายังไม่มากพอ แต่ลูกก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเมื่อเราตั้งใจเพิ่มอธิศีลในการลดกิเลส ทำความสบายใจให้แก่ตน มีความเพียรในการศึกษาค้นหาความจริง ก็จะได้รับอานิสงส์จากการฟังธรรมที่ได้เข้าใจชัดยิ่งขึ้นไป ศาสนาพุทธที่มีโลกุตรธรรม ธรรมะกับการเมืองเป็นเรื่องเดียวกัน เป็นสังคมของชุมชนชาวอโศกที่สร้างโลกให้อยู่เย็นเป็นสุขเป็นโมเดลของชุมชนคนที่มีความสุขจริงค่ะ
พ่อครูว่า…อันนี้บรรยายมาเป็นสัจจะความจริง คนยังไม่มีภูมิธรรม เขาเข้าใจไม่ได้ ยังมองไม่ออก เขายังเป็นมิลักขชน ยังเป็นคนที่ยังไม่มีอาริยธรรม ยังไม่มีความเฉลียวฉลาดอย่างอาริยะ เขายังมีความเฉลียวฉลาดแบบมิลักขชน
คำ 2 คำนี้ มันลึกซึ้งมาก อาริยกะกับ มิลักขชน เป็นคำเก่าๆมาแต่ไหนแต่ไรแล้วที่ชี้ชัด ความเป็นมิลักขชน อาตมาตัวอย่างให้ฟังพวกเรานี้ถ้าอาตมาจะบอกพวกเรานะ คนอื่นเขาไม่เข้าใจหรอก อาตมาจะบอกว่าอเมริกานี้เป็นมิลักขชน ประเทศไทยเป็นอาริยชน เราก็จะเข้าใจ มองไปถึงสภาวธรรม อะไรที่มันหมายถึง อาริยะ อะไรมันหมายถึง มิลักขชน
มิลักขชน หมายถึงคนที่ยังเถื่อนๆป่าๆ ยังไม่รู้เรื่องของสังคมคนเจริญที่แท้จริง
สังคมคนเจริญที่แท้จริงคือสังคมที่มีความ อิสระ สบาย สงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส ใจเกื้อกูล และเพิ่มพูนความเสียสละ
เราพูดนี้เป็นเรื่องจริงไม่ใช่มีแต่คำโก้ๆคำโม้ๆคุยไว้ว่า เอาอันนี้มาสอน เอาอันนี้มาแจก เอาอันนี้มาให้ในอนาคต ซึ่งมีทางเป็นไปได้หรอกที่พูดไว้จะเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ยังไม่รู้ แต่ของเรานี้เป็นไปได้และเป็นไปได้แล้ว ได้อาศัยแล้ว เข้าใจแล้ว เป็นจริงแล้ว มันต่างกัน
ทำไมในวิโมกข์ 8 ต้องตรวจถึง เนวสัญญานาสัญญายตนะ
_สว่างแสง ขวัญดาว · น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ พ่อครูคะ ในวิญญาณฐีติ7 กิเลสตายที่อากิญจัญญายตฌาน และในวิโมกข์8ก็มีอากิญจัญญายตฌาน แต่กิเลสไม่ตายเพราะอะไร จึงทำให้ต้องมีเนวสัญญานาสัญญายตนขึ้นคะ และกิเลสไปตายที่สัญญาเวทยิตนิโรธคะ น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ
พ่อครูว่า…พวกเรานี้ก็ลึกซึ้งดีถามมานี้ลึกซึ้ง ฟังดีๆ
คำว่าจบที่กิเลสตายหรือจบที่ อากิญจัญญายตนฌาน ก็หมายความว่าผู้นี้มีสัมมาทิฏฐิ ปฏิบัติธรรมแล้วไม่มีข้อสงสัยมาตั้งแต่ ฌาน 1
ใน วิญญาณฐิติ 7 คนที่เป็นมิจฉาทิฏฐิแล้วก็ยังเข้าใจไม่ได้ข้องใจส่วนตัว ส่วนที่สัมมาทิฏฐิ 7 แล้ววิญญาณฐิติเข้าใจหมดทั้ง 7 ว่าทำอย่างไรตามลำดับ
ทีนี้ วิโมกข์ มี 8 ใน วิญญาณฐิติ 7 กับวิโมกข์ 8 ต่างกันอยู่ว่า
ข้อ 1 2 3 4 วิญญาณฐิติ ส่วนวิโมกข์ 1 2 3
วิญญาณฐิติ 1 2 3 4 คือ กายกับสัญญา
แต่วิโมกข์ 1 2 3 คือ อธิบายลักษณะธรรมให้ปฏิบัติ มีรูปเป็นต้นในข้อ 1 รูปีรูปานิ ปัสสติ ข้อ 2 อัชฌัตตัง อรูปสัญญี เอโก พหิทารูปานิ ปัสสติ ก็บอกภายนอกภายใน สามารถศึกษาปฏิบัติฝึกฝนเข้าไปเห็นภายนอกแล้วมาเห็นตามลำดับเข้าไปสู่ภายใน จนถึงอรูปสัญญี อรูป ใช้สัญญากำหนดว่ารู้ตามไปถึงภายในได้ ก็เป็นการอธิบายการปฏิบัติ ลักษณะของคนที่จะปฏิบัติ ต้องปฏิบัติรู้จักรูป รู้จักสิ่งที่ถูกรู้ แล้วจะต้องมีนาม มีปัสสติ มีสัญญากำหนดรู้
ใช้สัญญากำหนดรู้ แล้วก็รู้ ก็เห็น ปัสสติ เห็นโดยการมีภายนอกด้วย พหิทาภายนอก มีรูปภายนอก จนกระทั่งเข้าไปถึงรูปภายใน อัชฌัตตัง มีรูปาวจร แล้วไปสู่อรูปาวจร ครบหมดทั้ง 3 ภพ กามภพ รูปภพ อรูปภพ ครบบริบูรณ์ นี่เป็นการบอกลักษณะของธรรมะ
ส่วนข้อที่ 3 นั้น สุภัณเตว อธิมุตโต(โมกโข) โหติ หมายความว่าคนนี้มีจิตสำเร็จ โดยมีทิศทาง โน้มไปหรือ เข้าใจเป็นภาษาอังกฤษว่า Trend (เทรนด์) มันมีTrend มีจิตใจที่นำไป โน้มไป สู่ในทางที่เป็นสุภะ(สุภันเตวะ) แล้วมีปัญญารู้ด้วย คือมีอันเตวะ อันนั้น สิ่งที่มันควรจะเป็นไปตามทิศทางที่ถูกต้อง โดยความหมายของธรรมะอันนี้ ข้อ 3 ให้ทราบถึงสภาวธรรมมีภูมิปัญญา ที่จะรู้ทิศทาง ที่จะนำไปสู่สุภะ ความควร ความน่าได้ น่ามี น่าเป็น เป็นผลสำเร็จ มีทั้งปัญญา มีทั้งพฤติกรรมที่สำเร็จในตัว
เพราะฉะนั้น วิโมกข์3 ข้อนี้รวมแล้ว คือ มีคุณธรรม ได้แล้วจึงจะเป็นวิโมกข์ในรายละเอียดคือ อากาสานัญจายตนะ วิญญานัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ เนวสัญญานาสัญญา จนกระทั่งถึง สัญญาเวทยิตนิโรธ เป็นขั้นๆไป
คือจากอากาศจากวิญญาณจนถึงมันไม่มี จนสุดท้ายถึงขั้นบรรลุ เนวสัญญานาสัญญายตนะ ก็คือสภาพที่ คนที่สัมมาทิฏฐิถ้าถึง เนวสัญญานาสัญญายตนะ รู้ว่าอันที่มันน่าสงสัย แม้แต่บางคนที่มีภูมิธรรมไม่ดี มาถึงจุดนี้ก็จะสงสัยว่ามันหมดหรือยังนะ เนวสัญญานาสัญญายตนะ จะว่ามันไม่มี มันก็มีเหมือนมีน้อย เคยพูดหลายทีแล้วว่าเหลือน้อยกับหมดนี้ มันอะไร มันน้อยอะไร มันหมดแล้ว
คือความคม ความเก่งของคนบางคนยังไม่มี จึงเหลือส่วนความเป็น เนวสัญญานาสัญญายตนะ ส่วนคนที่มีความคมชัดเป๊ะเลยก็จะจบที่อากิญจัญญายตนะ ไม่มี เนวสัญญานาสัญญายตนะ ignore เลย จบ ไม่มีต่อ
มันจบไม่มีกิเลสเลยเมื่อไม่มีกิเลสเลย มันก็นิโรธ ไม่ต้องไปถึง สัญญาเวทยิตนิโรธ มีสัญญากำหนดรู้ตลอดกาลและมีตัวจบตรงที่ อากิญจัญญายตนะ
สัญญาทำงานมาตลอด สัญญาเวทยิตตัง นิโรธัง โหติ สัญญามันอ่านรู้เวทนากำจัดกิเลสไปจนนิโรธได้เลย ปัจจุบัน
อาตมามีสภาวะเรื่องนี้จึงอธิบายเรื่องนี้ได้ชัดเจน ถ้าคนยังไม่มีภูมิจะสับสน ใครสับสนยกมือ อย่าอาย… มีบ้าง 3-4 คน ในจำนวนร้อย ดี อาตมาสอบได้ มี Error มีคนเข้าใจไม่ได้บ้าง จะโทษอาตมาคนเดียวไม่ได้ ไม่เข้าใจธรรมะต้องเพราะคุณด้วย อาตมาด้วย อาตมาอธิบายไม่เก่งตรงนี้ คุณก็เก่งเท่านั้น มันก็เลยได้เท่านี้
พูดไปเหมือนกับพูดเล่นๆแต่มันเป็นความจริงทั้งนั้น
จะอธิบายได้ที่ถามว่ากิเลสมันไม่ตายเพราะอะไร ก็เพราะว่ามันไม่รู้ ถ้าคุณรู้มีปัญญา มันก็มีธรรมฤทธิ์ ปัญญาเป็นธรรมฤทธิ์ กิเลสก็เป็นตัวมาร มันรู้ ปัญญาเห็นหน้ามันแล้วมันวิ่งจู๊ดเลย อาตมาอธิบายเป็นสภาวะได้เท่านี้อย่างที่พระพุทธเจ้าท่านก็ตรัส พระพุทธเจ้าบอกว่าเราเห็นเธอแล้วมาร มารก็บอกเพื่อนเลยว่า ตถาคตเห็นเราแล้ว ก็พาพวกวิ่งหนีไปเลย
ไม่มีความเลวร้ายรุนแรงอะไรเลย มาร ผี กิเลส ตัวร้าย กับปัญญาพระพุทธเจ้านี่ มันเป็นฤทธิ์ทำลายกันเท่านั้นเอง มันไม่ได้มีความเหี้ยมโหดรุนแรงอะไรต่ออะไรเลย มันมีการแพ้ชนะกันอย่าง ธรรมาธรรมะสงคราม ที่สวยสดงดงาม คงเข้าใจแล้วนะ
_ตุ๊ก อัศวิน · ขอบพระคุณ คลิปของพ่อครู ที่ท่าน ส.เดินดิน นำเสนอเจ้าค่ะ
‘..นโม_ตัด_สะ..’ ชั๊วะๆๆๆ..สะบั้นกิเลส..เจ้าค่ะ ปล ประทับใจในทุกคลิปฯ ของ พ่อครู เจ้าค่ะ โดยเฉพาะ ที่มี ตัวอักษร กำกับ สำทับไปตามทุก ‘โพธิรักษ์วจน’ ของพ่อครู ทำให้ ซาบซึ้ง แจ่มแจ้ง ในธรรม ได้ดียิ่งขึ้น ทั้งเป็นประโยชน์หลายๆต่อผู้มี ‘หูทิพย์’ เจ้าค่ะ
กราบขอบพระคุณ ทีมสื่อ ทุกรูป ทุกท่าน เจ้าค่ะ You all are beautiful !!
พ่อครูว่า… อาตมาเอาคำของพระเก่าแก่ทางอีสานนี่แหละที่บอกว่านะโมตัดสา พระพุทธเจ้าบอกให้ ตัดสา เอาสำเนียงท่านนั้นมาใช้บาลีเรียกว่า ตัสสะ ไม่ได้แปลว่าตัดเสียหรอก
นะโม แปลว่า นอบน้อมต่อพระองค์นั้น อาตมาว่าดีมากสำหรับการขึ้นตัวหนังสือเป็น subtitle มีทีมทำงานกันอยู่หลายคน
นิมิตในภาษาบาลีมีทั้งนิมิตจริงและอุปาทาน
_จับใจ ธนะโภค · กราบนมัสการพ่อครูฯ ขอน้อมกราบเรียนถาม ค่ะ
-
เรื่องที่ดิฉันจะถามไม่ได้อวดอุตริ มีดังนี้ ช่วงเริ่มต้นการ มาปฎิบัติธรรมกับหมู่กลุ่มชาวอโศก วันหนึ่ง ดิฉันมีสติ สัมปชัญญะเต็ม และอยู่ๆ ก็เกิดนิมิตมีภาษาบาลีไหลมา(เยอะมาก)ให้ดิฉันเห็น ดิฉันตกใจมาก จึงตั้งจิตอย่างแรงกล้า ว่า ยังไม่ขอรับรู้ภาษาบาลี เพราะยังมีสภาวะไม่มากพอที่จะใช้ภาษาบาลีมารองรับ และตั้งแต่บัดนั้น จนถึงบัดนี้ภาษาบาลีก็ไม่โผล่มาให้เห็นอีกเลย ค่ะ
พ่อครูว่า…มันก็เป็นนิมิตหรือเป็นอุปาทานได้
นิมิต หมายถึงสิ่งที่เป็นเครื่องหมายให้เรารู้ เราอาจจะเคยมีมาผ่านมา ผ่านมาแต่ชาติก่อนๆก็ได้ แล้วตอนนี้มันก็ขึ้นมา ไม่ใช่ได้รู้ทันที อย่างอาตมากลัวจะเก็บของเก่าไม่ทัน ค่อยๆระลึกขึ้นมาก็ใช้เวลา พระพุทธเจ้าก็เช่นกันแต่ท่านเก่งกว่าอาตมาเยอะ ท่านก็ระลึกได้เต็มทันที ส่วนอาตมานั้นทยอยมา ค่อยๆตามมา ทุกวันนี้ก็ยังทยอยเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ก็เป็นแบบเดียวกัน แต่ว่ามันมีมากกว่ากัน มีได้วิจิตรพิสดาร ก็คือเยี่ยมยอดกว่ากัน มันก็ดีกว่ากัน เพราะฉะนั้นที่คุณปฏิเสธ คุณคิดว่าถ้าเกิดภาษาบาลีมาแล้วเราจะยังไม่รู้เรื่อง ไม่ใช่ฐานะ ปฏิเสธมันก็ไม่มา จิตคุณก็ปิดประตูของคุณเอง
-
ถึง ณ วันนี้ ดิฉันปฎิบัติธรรม พอจะงมๆ ซาวๆ ได้บ้าง(สภาวะธรรม) ขอถาม ว่า จะทำจิตอย่างไรให้เข้าใจภาษาบาลีที่มีความสำคัญกับสภาวะธรรม ค่ะ