660531 มีปัญญารู้ตนด้วยเจโตปริยญาณ 16 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก
ดาวโหลดเอกสารที่
https://docs.google.com/document/d/1iCGlDpUpwWNo8csbiaxqEBjoiwFuIPr-/edit?usp=sharing&ouid=101958567431106342434&rtpof=true&sd=true
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/12fhvH8xn1emZPAJRu5evC4SeC7qj6DjE/view?usp=share_link
ดูวิดีโอได้ที่
และ https://www.facebook.com/300138787516163/videos/621300900061375
สมณะเดินดิน… วันนี้วันพุธที่ 31 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 12 ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก วันนี้เราก็ได้ทำพิธีนำร่างของคุณประทับใจ เป็นร่างที่ไร้วิญญาณ กลับคืนสู่ดินน้ำไฟลม
มีคนมาร่วมงานมากทีเดียว เพราะเป็นคนสำคัญเกี่ยวข้องกับรายกิจการ เป็นที่รู้จักกันในหมู่พวกเราหลายแวดวง จะได้เห็นความอัศจรรย์ของพลังงาน ที่พ่อครูพาพวกเราปฏิบัติธรรมแบบลืมตา เดินมรรคมีองค์ 8 ทำให้มีพลังงานพิเศษที่จะพัฒนาขับเคลื่อนอะไรได้หลายๆด้านพร้อมกัน
คิดดูว่าคนธรรมดาๆเจอพ่อนอนติดเตียงที่เขาต้องแบกรับภาระ คนทั่วไปก็แทบไม่มีพลังงานเหลือจะไปทำอะไรแล้วล่ะ มีน้องเขย น้องสาว หลาน หมุนเวียนกันมาคอยดูแลคนป่วยอย่างเดียว เป็นงานใหญ่งานหนักทีเดียวที่ต้องรับผิดชอบ แต่โจทย์อันนี้เขาก็ผ่านได้สบายๆ คือถ้ามีปริโภชน์หรือความกังวลใจก็จะทำไม่ได้
และสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้คือสามารถเรียนปริญญาเอกไปด้วยสามารถลงคลุกกับดินทำกสิกรรมทั้งวัน ไม่สงสัยที่ตัวดำ ไปทำงานไม่เห็นใส่หมวก เป็นสาวๆแต่ไม่สนใจเรื่องแต่งเนื้อแต่งตัว ลุยงานหนักตลอด คนเขาเชื่อว่าการเรียนกับการทำงานหนักไปด้วยกันไม่ได้หรอก แต่เขาก็สามารถทำทั้งสองอย่างควบคู่กัน ทั้งที่สัมภาระวิบากก็ยังมี
แค่นั้นก็ยังไม่พอยังเป็นคุรุที่เอาภาระ ฟังเด็กๆที่เขามาเปิดใจที่พี่เขาได้พาให้เขาฝึกอดทน เห็นคุณค่ากสิกรรม แต่สามารถทำให้เด็กผู้ชายบางคนบอกว่าโตขึ้นไปเขาจะทำอาชีพกสิกรรมนี่แหละ การถ่ายทอดของเขาสามารถลงไปสู่เยาวชนได้ แค่งานรับผิดชอบเด็กๆสอนหลายห้องอีกด้วย แค่เรื่องเดียวก็หนักแล้วสำหรับชีวิต แต่พลังงานของเขาสามารถเอามาใช้ขับเคลื่อนได้หลายด้านพร้อมๆกัน
ยังทำสื่ออีกด้วย เป็นแอดมินเพจบุญนิยมทีวีด้วย เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ ที่พลังงานมนุษย์สามารถเอามาใช้ขับเคลื่อนหลายด้านได้
คนเราถ้าทำอะไรไม่สะดุด แค่พ่อป่วย ถ้าหากจิตใจสะดุดก็ทำอะไรไม่ได้แล้วอย่างอื่น แต่จิตใจเขาอ่อน ไว สามารถผ่านเรื่องราวหลายๆด้านไปพร้อมกัน ปฏิบัติธรรมไปได้อย่างน่าอัศจรรย์กับชีวิตชีวิตหนึ่งที่ขับเคลื่อนหลายด้านได้พร้อมกัน
แต่ว่าเวลาชีวิตของแต่ละคนก็มีเหตุปัจจัยได้ตามวิบากของตนเอง เขาได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าที่สุดแล้วอย่างที่มนุษย์ทั่วๆไปยังทำได้ยาก เป็นเพราะพลังของโลกุตระที่พ่อครูได้นำมาปลูกฝัง แล้วท่านก็บอกอยู่แล้วว่า ทุกวันนี้ท่านฝืนสังขาร เพื่ออยากเห็นสิ่งที่ท่านสอนลงไป จนนี่ดีกว่ารวยยังไง ทำให้คนเสียสละได้อย่างไร การหลับตา ลืมตามีคุณค่าประโยชน์ต่างกันอย่างไร จะเห็นถึงความอัศจรรย์ของคำสอนพระพุทธเจ้าที่พ่อครูนำมาเผยแพร่ ทำให้มนุษย์เกิดความมหัศจรรย์ได้จริงๆ
พ่อครูว่า… เอาละเราก็พูดกันถึงบีเข้ามาเยอะแล้วนะ ทีนี้เราก็มาฟังธรรม ฟังไปแล้วก็พูดพาดพิงเกี่ยวเนื่องเมื่อเวลาถึงอะไรที่มันมีความเกี่ยวเนื่องถึงพฤติกรรมของเขา เท่าที่เขาได้ทำมา
SMS วันที่ 27-28 พ.ค. 2566
_อัศวิน · กราบขอบพระคุณ..ท่านปัจฉา ที่กรุณา เล่าสู่ฟัง up 2 date สุขภาพของ’พ่อครู’ ให้ได้สดับ..เจ้าค่ะ รับทราบ.ข่าวสุขภาพ..ของพ่อครู..ด้วยจิตที่..ร่าเริง…เบิกบาน..เจ้าค่ะ
_เมฆงาม โชควิบูลย์กิจ · รายการที่ท่านปัจฉาทั้ง 3 ท่านนี้ดีที่สุดยอดจริงๆ นะค่ะ
ปลูกผักคอนโดกินได้ตลอดชีวิต
_จรรยา ประเสริฐ · ดิฉันอยู่บ้าน ปลูกกระเพรา โหระพา ไชยา ผักต่าง ๆ ไว้กินเองแล้วค่ะ ตะไคร้ ใบมะกรูด มะนาว ส้มจี๊ด มีไม่ขาด สามารถเก็บมาผัดกินได้อย่างเรียบง่าย ทำได้ทีละขั้นแล้ว ไม่กังวลว่า อนาคต ไม่มีใครมาเลี้ยง อยู่กับเราจะทำยังไง?? อยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุด ไม่กลัวอนาคต กราบสาธุค่ะ
พ่อครูว่า… อันนี้อาตมาก็อยากให้ใครต่อใครได้พิสูจน์เหมือนคุณจรรยาว่า ปลูกผักพืช อาตมาเคยพูดถึงขั้นว่า แม้คุณไม่มีที่ดิน แต่คุณมีบ้าน มีชายคาบ้าน คุณก็ทำผักคอนโด ห้อยชายคาบ้านลงมาเลยเป็นกระถางต่อกันมา 10 ชั้นเลย เรียงกัน รดน้ำกระถางบนก็ถึงกระถางที่ 10 ได้ พูดมาหลายทีแล้ว ผักที่คุณชอบมีเยอะแยะเอามาปลูกลงไปในกระถาง เก็บกินได้เลยรอบบ้าน เป็นคอนโดเรียงกันเลย 10 กระถางรอบบ้าน คนเก็บกินแค่นี้ หมดแล้วก็เอาลงต่อ คุณเวียนกินได้ตลอดชีวิตเลย รดน้ำเอง
จะรู้สึกว่าชีวิตนี้มันสะดวกได้ สบายดีเหลือเกิน เพราะว่าพืชพันธุ์ธัญญาหารมันงามไม่มีหยุดเลย กลางวัน กลางคืนมันโตของมันทั้งวัน ยิ่งบางชนิดโตเร็วเห็นทันตาเลย ใครเคยไปดูหน่อไม้ ยืนดูหน่อไม้มันโตให้เห็นทันตาเลยนะ คุณดูเถอะไปเป็นชั่วโมงจะเห็นว่ามันโตขึ้นมา ยาวออกมาให้เห็นๆเลย อย่างนี้เป็นต้น
เรามีชีวิตอยู่ในสังคมพวกเราเข้าใจสิ่งเหล่านี้จะเห็นได้ว่าชีวิตมันเบา มันไม่หนัก มันไม่ยาก คือมันถูกดึงเอาความคิดไปปรุงแต่งไปวุ่นกับเรื่องไร้สาระเสียเยอะ สาระแท้ๆในชีวิตไม่มีอะไร ปัจจัย 4 พระพุทธเจ้าท่านก็บอกไปแล้ว อาหาร ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย
อาหารเราก็มีที่จะกินจะใช้อยู่ตลอดเวลาแล้วนอกนั้นก็ไม่มีอะไรกังวลมาก เอาละก็ว่าสรุปไปที่เน้นสิ่งที่กระทำกัน
สวยดูดีแบบโลกุตระมันทวนกระแสกับทางโลก
_…มองเห็นว่า คนเพิ่งเข้ามาปฏิบัติธรรม กับพ่อใหม่ ๆ นี่ ถ้าเป็นผู้หญิง หน้าตาสวย ขาว ดูดี ไปตามประสาชาวโลก แต่พอเข้ามาปฏิบัตินาน ๆ เข้า จากหน้าตา ขาว สวย หมวย ดูดี เปลี่ยนไปตามธรรม เพราะธรรมเจริญมากขึ้นในตัว ความสวยทั้งหลายแหล่ หายไปเลย มีแต่หน้าตาดำ ๆ ผอม ๆ อย่างนางฟ้า พิมพ์เพชรรุ้ง ป้าเข่ง บุญยิ่งแก้ว และอีกหลาย ๆ คนที่เห็นในจอค่ะ เจริญในธรรม กันไปตามลำดับของแต่ละคน ขออภัยที่ยกตัวอย่าง เพราะเห็นอย่างคนโลกีย์มองอย่างนั้น ว่าสวย แต่ก็มองในความเจริญในโลกุตระ ด้วยค่ะ เดี๋ยวนี้ในจอที่ถ่ายทอดสด ไม่มีแล้วคนสวยทางโลก มีแต่เจริญและสวยทางธรรมค่ะ สาธุค่ะ
พ่อครูว่า… จะเห็นได้ว่านี่คือสิ่งที่เปรียบเทียบกันระหว่างโลกุตระกับโลกียซึ่งมันจะแตกต่างกันไป ปฏิโสตัง ทวนกระแสโลกไปเรื่อยๆ จะเห็นได้ชัดเจนว่ามันจริง เสียดายกันบ้างไหมนี่ เสียดายโลกียะ แต่ก่อนก็เคยเต็มที่เต็มที่กันมาไม่ใช่น้อย
ถ้าเด็กลูกหม้ออยู่ที่นี่แล้วโตขึ้นไป เกิดมาเป็นอย่างนั้นก็แล้วไปเถอะ แต่นี่พวกคุณเพิ่งมากัน ยังคนอายุ 50 60 70 ขึ้นไป ก็เคยเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนที่จะมา แต่พอมาทางนี้แล้ว ยิ่งจิตของเรามันเป็นจริง จิตของเราหลุดพ้นจากโลกียะจึงมาเป็นโลกุตระแท้ๆ มันยิ่งจะเห็นว่า โอ้หนอ น่าสงสารคน ที่จริงก็สงสารตัวเองนั่นแหละ แต่ก่อนตัวเองก็ช่างไม่เข้าใจจริงๆ เห็นแล้วมัน มันรู้แล้วก็ดูไม่ยาก คนไม่รู้นี่จะดูยาก คือมันเป็นคนส่วนน้อย แย้งกับคนส่วนมากเขา เราก็ยืนยันไป
เราไม่ได้ทำเพื่ออวดโอ่ ไม่ได้ทำเล่นทำหัวอะไร แต่มันเป็นสัจจะ ที่เดินตามพระพุทธเจ้า แล้วก็จะเห็นจริง ก็ทำก็ว่าไป
_แก้วตะวัน พวงบุบผา · น้อมกราบนมัสการพ่อครู ท่านสมณะ ท่านสิกขมาตุด้วยความเคารพบูชาอย่างสูงยิ่ง..ได้ฟังธรรมวันนี้มีประโยชน์ได้อ่านใจตัวเองว่ามีความรู้สึกอย่างไรกับคนที่ comment แบบหยาบคาย ก็เข้าใจเขานะว่า เขายังมีความเห็นแบบนั้นเพราะนิสัย เขาเอง ข้อมูลที่เขารับฟังมาด้วย และแรงกระตุ้นจากสังคม เขาอาจไม่รู้ตัวว่าเขาทำกรรมที่เป็นบาปหนักที่กล่าวคำหยาบและอาฆาตมาดร้ายกับผู้ทรงศีล …ธรรมะอันทรงคุณค่าก็จะได้การตอบรับจากคนทรงคุณค่า เพราะปฏิบัติแล้วได้มรรคได้ผล หลุดพ้นจากความทุกข์
_แก้วลา ไชยวงค์ · อาจารย์หมอพรทิพย์ ท่านมารายการคุณต้น ท๊อปนิวส์ ว่าประเทศไทยมีหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า มีผู้รักษาธรรมปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ค้ำจุนประเทศไทยไว้ ไม่มีใครทำอะไรได้ ดิฉันคิดถึงชาวอโศก พ่อครู ท่านสมณะ สิกขมาตุ ญาติธรรม ทุกพุทธสถาน และกลุ่มแพทย์วิถีธรรม ท่านอาจารย์หมอเขียว เป็นผู้นำธรรมค้ำจุนประเทศไทย🙏🇹🇭🙏🇹🇭🙏🇹🇭🙏🩵💛💜💜🧡🙏
พ่อครูว่า… ก็ดีศึกษาและมีตัวอย่างที่เราเห็นได้ มีของจริง ไม่ใช่พูดไปใดๆหรือคุยโม้โฆษณาใช้เครื่องมือเทคโนโลยีช่วยโฆษณาตัวเองไป แต่แท้จริงแล้วสัจธรรม รูปแบบที่เป็นเรื่องยากยิ่งเป็นโลกุตระนี้มันปลอมไม่ได้ มันลอกเลียนยาก มันต้องเป็นของจริงมันถึงจะเป็นได้ ก็ยืนยันไปเป็นการพิสูจน์สัจธรรม เมืองไทยเป็นเมืองพุทธมีโลกุตรธรรม ที่อื่นไม่มี ในโลกไม่มี แม้แต่ในประเทศที่นับถือศาสนาพุทธมากเหมือนกัน อย่างพม่า อย่างลาว อะไรพวกนี้ เขาก็ถือเป็นพุทธกันเยอะเหมือนกัน แต่ว่ายังสู้ประเทศไทยไม่ได้ ประเทศไทยมีโพธิสัตว์หลายรูป
_Noong Ning หนุงหนิง · เจริญธรรมค่ะ 🙏ฝากผ่านไลฟ์สดพ่อท่าน ท่านใดที่เห็นข้อความนี้ กรุณาช่วยบอกแม่รักบุญ อโศกตระกูล โทรกลับหาลูกสาว หนิง ด้วยนะคะ ติดต่อไม่ได้ 2 วันแล้วค่ะ ไม่สบายหรือเปล่าคะ สาธุค่ะ🙏🙏🙏
_Boonyakorn Pattanasattaporn บุญญากร พัฒนสัตถาพร · ทรงเอ” หรือ “ผู้ชายทรงเอ” ย่อมาจากคำว่าเอเย่นต์ นิยมใช้เรียกผู้ชายที่มีลักษณะคล้ายกับพวกค้ายาเสพติด
ศัพท์สมัยนี้ไม่ทราบที่มาครับ
_Namoil Nuyimsai นำออย นุยิ้มใส · กราบนมัสการท่านพระครู 55555 เหนื่อยกับพรรค ก้าวไป ไม่ถึงไหน
_ชุมพล ยอดสะเทิน · ผมมีความรู้สึกว่าถ้าเราไม่ออกมาปกป้องพ่อท่านบ้าง มันจะคล้ายๆกับลุงตู่ที่ทำดีแทบตายแต่โดนขบวนการใส่ร้ายจนคนโง่เห็นตามที่เขาสร้างกระแสโกหกจนคนเชื่อตาม คนเลวยังกล้าโกหกหน้าตาเฉย เราคนดีก็น่าจะมีหน่วยปกป้องปรามกลับไปบ้างเพื่อถ่วงดุล ไม่ให้คนเข้าใจผิดพ่อท่านหรือลุงตู่ กราบนมัสการครับ
พ่อครูว่า… ที่จริงก็อาจจะมีบ้าง เราไม่ได้เป็นคนไปตอบโต้ เขาจะเข้าใจผิด ใครจะด่าจะทอ จะ Comment ตามความคะนอง ตามความคิดของเขา มันก็เป็นธรรมชาติของสังคม ยิ่งสังคมในยุคนี้สังคม Social Media เจ้าประคุณเอ๋ย อยากจะทำอะไรก็ทำออกมา แทนที่จะอยู่แต่ในหัวใจตัวเองก็แสดงออกมาให้คนอื่นเขารู้ด้วย ก็ว่าไป ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร มันเป็นการพิสูจน์ด้วยซ้ำไปนะ
ว่าคนเขาตำหนิเราหรือถึงขั้นด่าเรา อะไรต่ออะไร เราก็ฟังเขาอย่างที่พระพุทธเจ้าสอนมา มันก็เป็นประโยชน์ เราก็ใช้เป็นประโยชน์เป็นโจทย์ในการที่จะทำข้อสอบให้แก่ตนเอง
ตัดสินดีชั่วถูกผิดต้องใช้วิจารณญาณอย่างดี
_Somnuek Khampan สมนึก คำพัน· หลวงปู่มองเห็นเหรอครับ ว่าใครคนดีคนไม่ดีถึงตัดสินออกมาเยี่ยงนี้ ทำไมหลวงปู่ถึงมองว่า ลุงตู่เป็นคนดีและคนอื่นเป็นคนไม่ดีครับ หลวงปู่อยากให้ประเทศแตกแยกเหรอครับ
พ่อครูว่า… ให้ข้อหาอาตมามาเลยว่าอาตมากำลังทำให้ประเทศแตกแยก คำว่า ลุงตู่เป็นคนดี และคนอื่นเป็นคนไม่ดี แล้วก็เอาอาตมาไปโยงถึงขั้นว่า จะเป็นการกำลังโดนข้อหานะ โยงไปให้ข้อหาอาตมาว่า อาตมากำลังทำให้ประเทศแตกแยก
เอาละไม่ขยายความตรงที่ว่า คนกับประเทศมันคนละอย่าง ขอผ่านไปก่อน จริงๆแล้วอาตมาวิจัยหรือแยกแยะให้ฟัง
ความดีกับความไม่ดีของคน อาตมาไม่ได้ทำให้ประเทศแตกแยก อาตมาอธิบาย วิจัยเหตุปัจจัยเกี่ยวข้องกับลุงตู่ กับคนอื่นที่ไม่ได้ระบุชื่อเขานัก ระบุบ้างบางคน ซึ่งมันมีเยอะ ลุงตู่ก็มีคนเดียวนอกนั้นก็มีเยอะ แล้วก็มีกรรมกิริยา พฤติกรรมพฤติการณ์ ของคนที่เขาทำ มันมีจริงนะ อาตมาพูดถึงสิ่งที่เป็นจริง ไม่ได้พูดสิ่งที่ไปสร้างเรื่อง เขียนเรื่องอะไรกันมา มุขขึ้นมาเอง ไม่ใช่ เอาเรื่องจริงมายืนยันประกอบให้เห็นได้ว่า อันไหนมันควรจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง อันไหนเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อันไหนเป็นสิ่งดี อันไหนเป็นสิ่งไม่ดี อธิบายสัจธรรมขยายสัจธรรมสู่ฟัง
ผู้ที่ฟังด้วยดีจะได้ปัญญา ผู้ที่ฟังเพ่งโทษ ยิ่งไปยึดผิด ไปยึดสิ่งที่ผิดเป็นถูก ไปยึดสิ่งที่ถูกเป็นผิด เราจะอธิบายสิ่งที่ถูกต้องอย่างไรก็ยาก เพราะเมื่อไปยึดเสียแล้ว มันจะฟังอีกอันหนึ่งไม่เข้าใจ นอกจากไม่เข้าใจแล้วจะเห็นความแตกต่างขัดแย้ง ซึ่งเป็นคนละความหมาย เขาเข้าใจว่าอันนี้ถูก พอเรายิ่งอธิบายยิ่งมีเหตุผลมากมันก็ยิ่งแตกต่างก็เลยทำให้ยิ่งทำให้เขาเข้าใจผิด ยิ่งเขาเห็นเสริมหรือว่ามันยิ่งผิดไปใหญ่ก็เป็นเรื่องธรรมดา เป็นไปตามธรรมก็ต่างคนต่างศึกษาไป
ต่างคนต่างความเห็นแล้ว ถ้าไม่ศึกษาให้ดี ไม่ปฏิบัติธรรมตามหลักธรรมพระพุทธเจ้าอย่างจริงจังแล้ว จนกระทั่งมีสัมมาทิฏฐิแล้วปฏิบัติไปถึงจะเกิดความเจริญของสัมมาทิฏฐิ สัมมาปฏิบัติ สัมมาปฏิเวธ สูงขึ้น ถ้าเผื่อว่าไม่มีสัมมาทิฏฐิ เป็นมิจฉาทิฏฐิกันแล้วล่ะก็ ยิ่งจะแย้งกันแล้ว ยิ่งจะยึดถือ ยิ่งจะเพ่งโทษ ยิ่งจะเก็บเม็ดเล็กเม็ดน้อยที่มันต่างกันเข้าไปสะสม มันยิ่งจะเห็นแย้งหนักเข้าไปเรื่อย
แต่จริงๆแล้วทุกวันนี้อาตมามองโดยรวมแล้ว ประเทศไทยมันมีเชื้อของโลกุตระ อย่างไรอย่างไรอย่างพวกเราทำงานถึงทุกวันนี้แล้วไม่ง่าย อาตมาพาพวกเราทำมา 50 ปียังได้แค่นี้ แต่มันของจริง อาตมาไม่ได้หวั่นเกรงว่าสิ่งที่พาทำแล้ว นอกจากไม่หวั่นเกรงแล้วอาตมามั่นใจว่ามันถาวรยั่งยืน นอกจากจะไม่หวั่นใจแล้ว ยังมั่นใจด้วยว่าจะพัฒนาก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นยิ่งขึ้น
แต่แน่นอนมันไม่ใช่เรื่องโลก ไม่ใช่เรื่องทำเป็นแฟชั่น ไม่ได้หรอก ทำไม่ได้ทำเป็นแฟชั่นแบบที่เขาทำอย่างโลกๆไม่ได้เพราะเราปลอมไม่ได้ มันหลอกไม่ได้ ปลอมไม่ได้ มันต้องเป็นจริง มันเป็นเรื่องของสัจจะตั้งแต่เริ่มต้น อิสรเสรีภาพแล้ว คนจะต้องใช้ความจริงของตนเอง เราไม่ได้ใช้วิธีหลอกล่อประเล้าประโลมอย่างที่เขาทำ เอากิเลสมาเป็นตัวตั้ง แล้วก็หลอกเอากิเลสสะสมให้เขาอยากได้อยากเป็นอยากมี
ให้เขามาเห็นดีเห็นงามตาม เราไม่ได้ทำเลย แล้วเราระวังด้วยกลัวที่จะไปหลอกเขา ไม่อยากให้ใครที่มาที่นี่มาด้วยความถูกหลอก อยากให้มาด้วยความอิสรเสรีภาพ ภูมิปัญญาของแต่ละคน เห็นจริงเองจริงๆ เป็นความจริง เป็นสัจธรรม แล้วมาแล้วมันจบ ถ้าถูกหลอกมาแล้วมันจะไม่จบ มันจะมาเละข้างใน มันจะมารวนข้างในอีก เสียหายมาก
เพราะฉะนั้นที่อาตมาให้ความเข้าใจ ทำอะไรต่ออะไรไป ก็ไตร่ตรอง ก็ไม่ได้ทำอะไรผลีผลาม ไม่ได้ทำอะไรอย่างอวดดิบออย่างอวดดิบอวดดีหรือสุ่มสี่สุ่มห้าทำ
พ่อครูไม่ได้ติเรือทั้งโกลน ควรเตือนกันด้วยหวังดี
_บาง อารมณ์ · ถ้าคนส่วนใหญ่พยายามนำประเทศชาติไปในทางที่ดีทั้งที่เจริญมากขึ้น แล้วมีคนส่วนน้อยพยายามมีการพฤติกรรมต่อต้านแสดงออกมาเหมือนกัน เปรียบเสมือนอะไรครับ ขออนุญาตสอบถามหน่อยครับ
สุดท้ายก็เป็นพี่น้องกันทางคนไทยเหมือนเดิมใช่ไหมครับหลวงพ่อ
ต้องรักและสามัคคีกันแล้วก็ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัวถูกต้องไหมครับ
พ่อครูว่า… ขอบคุณที่ให้สติอาตมา อาตมาก็ให้สติกับคุณเหมือนกัน อาตมาออกมาต่อต้านแสดงออกขัดแย้งกับที่เขาแสดงออกมาอย่างที่ทำไป ก็เพื่อให้สติเตือนกันไว้ มันเป็นเรื่องเจตนาดี เป็นเรื่องสมควรทำ
เรื่องจะเป็นส่วนน้อยหรือจะเป็นส่วนใหญ่ จุดสำคัญก็ปรารถนาดี อาตมาว่า ที่เขาทำกันอยู่ก็ปรารถนาดี แต่มันเป็นทิฏฐิของเขา ทิฏฐิของเขากับทิฏฐิของอาตมา แน่นอนมันคงมีความแตกต่างกันแน่นอน ก็ปรารถนาดี คุณมาเตือนอาตมา อาตมาก็เตือนเขา ต่างคนก็ต่างเตือนกันไว้เพราะว่าเราพี่น้องกันจริงๆ นี่ไม่ได้ไปทะเลาะกันเรา ไม่ได้ไปตีรันฟันแทงกัน ก็เตือนกันนี่แหละถือว่าเตือนกัน ว่ากัน บอกเหตุบอกผลกันด้วยดี อะไรดีอะไรไม่ดี อะไรถูกอะไรไม่ถูกก็เอามายืนยันกันไป นี่คือความรักสามัคคีนะที่ทำอยู่นี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่กำลังจะทะเลาะวิวาททำให้ประเทศแตกอย่างที่คุณว่า ไม่ใช่ มันไม่ถึงขั้นนั้นแน่นอน เราก็ทำอย่างรักสามัคคีร่วมกัน ช่วยกันระวังเตือนกันไว้
ยิ่งที่เราทำ อาตมาพยายามอธิบายเอาแต่พูดจากความคิดแล้วก็มาใช้คำพูด แล้วก็เอาไปพูด เป็นความหมายเป็นเหตุปัจจัยเฉพาะได้แต่พูด กับอีกอันหนึ่งทำลงมือทำเลย มีความคิดแน่นอนเป็นประธานจิตวิญญาณทำจนสำเร็จ กับเอาแต่พูดยังไม่ได้ทำ ทำยังไม่สำเร็จ อาตมากำลังเน้นตัวนี้
อาตมาเคยพูดว่า ยังไม่ได้ดูถูกเขาทีเดียว เพราะเขายังไม่ได้ทำก็ดูเขาไปก่อน แต่แนวคิดหรืออะไรก็แล้วแต่ตามปฏิภาณของเรา เราก็รู้ว่า มันเวอร์ไปนะ มันเป็นไปได้ยาก เราก็ติง
เขายังไม่ได้ทำจะไปติเรือทั้งโกลนก็ทำยังไม่ได้ ก็ดูกันไปบ้าง มันมีหลายๆอย่างอาตมาดูแล้ว จะบอกว่าเป็นความเห็นส่วนใหญ่กับความเห็นส่วนน้อย
จริงๆพวกเราหรือแม้แต่ลุงตู่มาทำตอนแรกก็ไม่ได้เป็นส่วนใหญ่แต่เป็นส่วนน้อย แต่ทำแล้วส่วนใหญ่เห็นดีขึ้นมากขึ้น แต่ตอนนี้มันมีข้อมูลใหม่ของพวกเขาที่ระดมทำกันมา เขาก็ทำกันมานานแล้วนะ พรรคก้าวไกล พรรคอนาคตใหม่เขาทำกันมา ทั้งธนาธรและปิยบุตร และตัวละครมาถึงพิธา ไปกันเรื่อยๆ เขาก็ว่ากันไป เพราะฉะนั้นก็ดูในเรื่องตัวละครมีอะไรต่ออะไร อาตมาว่าสนุกกว่าบุพเพสันนิวาสนะ ดูให้ดีจะสนุกเพราะมีเนื้อหาสาระกว่ากันเยอะ
_งามใบตอง นิลมณี · น้อมกราบนมัสการท่านสมณะทั้งสามรูปด้วยความเคารพค่ะ เสียดายน้องบีคนดี เคยรู้จักคุ้นเคยกันตอนอยู่สีมาอโศกค่ะ เหตุเกิดกระทันหัน รู้สึกเศร้าใจและเสียดายน้องมากค่ะ แต่พอได้ฟังคลิปพ่อครูพูดทางโทรศัพท์กับน้องตี้แล้วค่อยจางคลายความเศร้าลงได้ค่ะ กราบสาธุค่ะ
_บุญนิยมทีวี · ปีนี้บี ,ตี้ ปลูกมันเทศได้เยอะมาก ด้วยความวิริยะอุตสาหะ.
(พ่อครูไอตัดออกด้วย)
สมณะเดินดิน… คนมางานอโศกรำลึกคงจะได้มันเทศกลับไปด้วย
_Khunyhaa Natty คุณหยา นัตตี้ : กราบนมัสการพ่อครู สมณะทั้งหมด สิขมาตุทั้งหมด ดิฉันเข้ามาก็อยากฟังธรรมจากสมณะ ฟังเพื่อขัดเกลาทุกวัน อยากไปงานวันวิสาขะมาก กำลังตัวคนเดียวไปไม่ถึงอุบลเจ้าค่ะ สาธุเจ้าค่ะ
พ่อครูว่า… ดีแล้วล่ะมีจิตใจอยากมาแต่ก็มาไม่ได้เพราะมีกำลังคนเดียวต้องใช้กำลังหลายคนจึงจะมาได้ ก็คงจะต้องรอคนจะมาช่วย
ควรเสียเวลาอธิบายให้คนฟังไม่ใช่อธิบายให้ผึ้งฟัง
_killer whale คิลเลอร์ วาฬ : ผู้มีปัญญาท่านได้กล่าวไว้ว่า เหล่าผึ้งไม่เสียเวลาพวกมันอธิบายกับแมลงวันหรอกว่า น้ำผึ้งมันดีกว่าขี้ยังไง
พ่อครูว่า… คุณคนนี้ก็เห็นว่าความรู้หรือความฉลาดเฉลียว มีปัญญา ผึ้งมีปัญญามากกว่า พูดชัดๆก็คงมาติงอาตมาว่าอาตมาเสียเวลาทำไม ไปพูดอธิบายสิ่งที่มันแตกต่างกันอยู่แล้ว ผึ้งมันรู้แล้วมันไม่เสียเวลาอธิบายหรอกว่าขี้กับน้ำผึ้งมันดีกว่ากันอย่างไร ก็มาติงๆไว้
จริงๆแล้วอาตมาก็ขอพูดตามความเห็นของอาตมาว่า อาตมายังไม่ใช่ผึ้งแล้ว อาตมามีปัญญามากกว่าผึ้งแล้วนะ เพราะฉะนั้นผึ้งมันก็เห็นอย่างที่คุณว่า คุณไปรู้ความคิดของผึ้งก็เก่ง แต่อาตมาไม่ไปรู้ความคิดของผึ้งปานนั้น อาตมาว่าอาตมามีความรู้ความเห็นของอาตมาและพูดนัยยะสำคัญที่มันแตกต่างกันสู่คนด้วยกันฟัง อาตมาไม่ได้พูดในแง่ประเด็นแค่ผึ้ง
สัตว์มันก็มีความรู้ขั้นหนึ่ง อาตมาเป็นคนแล้วนะ ก็มีความรู้อีกขั้นหนึ่ง และก็รู้ว่าควรเสียเวลาหรือไม่ควรเสียเวลา อาตมาว่าควรเสียเวลาอธิบายสู่คนด้วยกันฟังนี่แหละ
เพราะฉะนั้นผู้เป็นคนด้วยกันก็จะรู้ ส่วนผู้ยังรู้ไม่ได้หรือว่ายังไม่ใช่คน ก็มักจะ ก็ทำไม่ได้หรือฟังไม่เข้าใจ ก็มันยังไม่ใช่คนก็ฟังไม่เข้าใจ อาตมาก็อธิบายไป คนเขาก็ฟังได้ แต่สัตว์มันฟังอาตมาไม่เข้าใจหรอกเป็นคนเท่านั้นฟังเข้าใจ ก็เป็นความจริง อาตมาก็ทำตามจริงอย่างนั้น ขออภัยที่ตอบความจริงนะอาตมาไม่ได้ไปว่าคุณ
_user-jp1cv8lh8k • ผมขอขอบคุณความกระจ่างจากเรื่องการเมืองในปัจจุบันเยอะมากจากการฟังธรรมจากสมณะท่านและรู้สึกมีสติและสงบขึ้นและมีมุมมองอย่างเข้าใจและเข้มแข็งขึ้นมาก
พ่อครูว่า… ดีมาก ได้ประโยชน์จากการฟังธรรมที่เราพยายามพูดกันอธิบายกัน
SMS วันที่ 29-30 พ.ค. 2566
_จรรยา ประเสริฐ · ลีน่าจัง บอกว่า ประยุทธ ประวิตร ภูมิใจไทย นั่งดูอยู่บนภู ฟังแล้วขำ ลีน่าจัง วิเคราะห์ได้ยังไง??? คนอายุอย่างลีน่าจัง เรียกว่าเจนสังเวียนมาเยอะแล้ว พอมองอะไรออกมั้ง ในทางโลก
ในหลวงคือจิตวิญญาณ ประชาชนคือร่างกายของประเทศ
_คอยใคร . กราบเคารพพ่อครูครับ
วันนี้ในรายการวิปัสนาข่าวผู้ดำเนินรายการพูดว่า แม้แต่ยืนคนเดียวในโรงหนังก็จะยืน ผมก็นึกถึงคุณใหม่เสมอที่คุยในรายการวิปัสนาข่าวเช้าเหมือนกันแต่นานแล้ว คุณใหม่เสมอบอกว่า “ผมไปดูหนังในโรงหนังเห็นคนยืนตรงตอนเพลงสรรเสริญฯขึ้นนับได้12คนทั้งโรงหนัง”
ผมเลยมานึกถึงตอนผมไปหัวลำโพงตอนเช้า พอเพลงชาติขึ้นทุกคนในหัวลำโพงก็ยืนตรงเคารพธงชาติแถมมีก้มหัวเคารพตอนเพลงจบด้วยผมก็ทำ แต่ทำไมตอนเพลงสรรเสริญฯในโรงหนังคนจึงให้ความสำคัญน้อยกว่าเพลงชาติ
หรือว่าไม่มีคำว่า “โปรดยืนตรงเคารพธงชาติ” งั้นถ้าในโรงหนังก็ให้มีคำว่า “โปรดยืนตรงเคารพในหลวง” ด้วยจะดีไหมครับ ถ้าผมเป็นนายกผมจะออกกฎให้โรงเรียนประกาศ “โปรดยืนตรงเคารพธงชาติ” ตอนเปิดเพลงชาติและประกาศ “โปรดยืนตรงเคารพในหลวง” ตอนเปิดเพลงสรรเสริญ” ครับ เพราะ ชาติ ศาสนา พระมหากษัติย์ ต้องอยู่คู่กัน ในเมื่อโรงเรียนมีสวดมนต์ร้องเพลงชาติแล้วพระมหากษัตริย์ไปไหน ถ้าปลูกฝังตั้งแต่ในโรงเรียนตอนเด็กๆเลยพ่อครูคิดว่าจะดีไหมครับหรือว่าจะเป็นการบังคับจิตใจกันเกินไปครับ กราบขอความกระจ่างแจ่มให้กับผมด้วยครับ ขอกราบขอบพระคุณพ่อครูครับ
พ่อครูว่า… ก็ทำตามที่คุณแนะนำมาก็ดีเหมือนกัน แต่อย่าให้มันแข็งๆเกินไป หาวิธีไหนที่จะให้เด็กเขาได้เข้าใจได้รู้สึกว่าได้ฝึกกระทำมา เหมือนการให้เด็กเคารพธงชาติ อย่างโรงเรียนต่างๆก็เคารพทุกโรงเรียน สวดมนต์ก็มีสวด แต่การเคารพกษัตริย์เวลามีเพลงสรรเสริญเขาก็ไม่ค่อยทำกัน ที่จริงเขาก็ทำกันนะแทบทุกโรงเรียน บางโรงเรียนไม่ทำเท่านั้นเอง อาตมาก็ว่าน่าจะเกือบทุกโรงเรียน เพลงสรรเสริญขึ้นก็เคารพในหลวง
แต่มันมีคน พยายามที่จะล้มล้าง เอาให้ชัด ขอพูดลัดๆสั้นๆพยายามจะล้มล้างสถาบัน พยายามจะไม่ให้มีในหลวง อันนี้ต่างหากมันทำให้กระแสที่ทำให้เด็กที่เขายังอ่อนไหวยังเยาว์วัย หรือจะอายุมากหรือจะเป็นหนุ่มเป็นสาวก็ตามที่ยังเยาว์ ยังอ่อนเยาว์ ยังมีภาวะปัญญายังด้อยอยู่ มันก็ไปตาม
อาตมาก็ขอเน้นเข้าหาสาระก็แล้วกันว่า ในคนนี้ มันมี 2 ชนิด มันมีจิตวิญญาณกับมีร่างกาย เพราะฉะนั้นจิตวิญญาณมันก็เท่าเทียมกับกษัตริย์ในสังคมประเทศ ประชาชนเท่ากับร่างกาย จิตวิญญาณนี้เท่ากับกษัตริย์
ถ้าในรัฐในประเทศมันมีแต่ร่างมีแต่ประชาชน มันไม่มีกษัตริย์มันไม่มีจิตวิญญาณหรือหัวใจ มันล้มเหลว เรื่องนี้เป็นเรื่องลึกซึ้งมากเลย มันเป็นอจินไตย เป็นเรื่องที่อาตมาขยายความมาหลายทีแล้ว แต่ก็ยังเข้าใจยาก จนกระทั่งเข้าใจผิด กลายเป็นว่าอิสรเสรีภาพ มองเห็นสถาบันเป็นศักดินา เป็นเรื่องอภิสิทธิ์ การเอาเปรียบเอารัด ไม่เสมอภาคอะไรไป
ซึ่งมันไม่จริง ไปมองอย่างเผินๆ ละเอียดลึกซึ้งเขามองไม่ออกในความลึกซึ้ง โดยเฉพาะอาตมาเคยอธิบายว่า กษัตริย์
ที่ผู้ที่เกิดมาอยู่ในประยูรวงศ์ อยู่ในกษัตริย์ เป็นราชวงศ์ เป็นเจ้าเป็นลูกหลานเจ้า สืบทอดสันตติวงศ์มาอยู่ในกรอบของผู้ที่จะต้องฝึกฝนตนเอง เป็นผู้ที่มีคุณธรรมเป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณอันสูงส่ง จะต้องประพฤติเพื่อที่จะดูแลมวลประชาชน จะต้องเตรียมเพื่อจะดูแลมวลประชาชน บริหาร บริบาลมวลประชาชน เหมือนลูกๆ
อันนี้ผู้ที่ศึกษามาดีๆเข้าใจหมด ส่วนผู้ที่ไม่ค่อยมีปัญญาไม่ค่อยมีความฉลาดพอ ก็แน่นอนจะคิดไปแบบไม่เอากษัตริย์
เพราะฉะนั้นผู้ที่ไม่เข้าใจบริบูรณ์ด้วยสัจธรรมว่าชีวิตต้องมี 2 ประเทศต้องมีกษัตริย์ ต้องมีประชาชน อย่างที่อาตมาอธิบายคร่าวๆแล้ว ในหลายเวลาเคยอธิบายเรื่องนี้มามากแล้ว และก็จะต้องอธิบายต่อ แต่วันนี้ก็ขออธิบายผ่านๆก็แล้วกัน
แล้วพิสูจน์ในประเทศที่เห็นแล้ว เป็นประเทศที่ไม่มีกษัตริย์แล้ว จนกระทั่งมีการแสดงออกถึงขั้นอย่างฝรั่งเศส เขาก็ล้มล้างกษัตริย์ ตอนหลังก็โหยหาอยากได้กษัตริย์กลับมา ซึ่งก็ยากแล้วจะสร้างขึ้นมาอีก จะเอาตั้งต้นจากตรงไหนเขาก็ทำตรงนี้ไม่ได้อย่างนี้แหละ เสร็จแล้วก็ได้แต่อยากได้เพราะเห็นแล้วว่ามันไม่มีจิตวิญญาณอย่างนี้เป็นต้น แล้วมันจะเป็นตัวอย่างต่อไปอีก
อาตมาว่า ไปอีก 10 ปี 20 ปี 30 ปี 40 ปีอีก 100 ปี จะยิ่งเข้าใจชัดเจนเรื่องนี้ เพราะความจริงมันกำลังปรากฏตัว จะเป็นประชาธิปไตยขาเดียวที่ไม่มีวิญญาณ ก็กำลังแสดงผลล้มเหลว แสดงให้เห็นว่าไปไม่รอดหรอก สังคมประเทศที่บริหารปกครองโดยทฤษฎีที่พิกลพิการไม่เต็มเต็งไปไม่รอด ไปได้ไม่นาน เดี๋ยวก็คว่ำเดี๋ยวก็ล้ม เดี๋ยวก็จะเห็นจะรู้ได้
อันนี้อาตมามองเปรียบเทียบถึงอินเดีย อินเดียนั้นไปล้มล้างกษัตริย์ลง แต่มีลึกซึ้ง ว่าอินเดียนี้เขาไม่มีกษัตริย์ก็จริง แต่จิตวิญญาณของเขาเป็นสายเจโต เป็นสายศรัทธา ที่อยู่ในหลักเกณฑ์หลักธรรม
หลักธรรมอะไร หลักธรรมสงบ แม้จะเป็นความสงบแบบเจโตแบบศรัทธา ไม่ใช่ปัญญา มันก็นิ่ง มันก็อยู่กับตัวเอง ไม่ไปเที่ยวกระทบกับคนอื่น คล้ายๆกับพืช แต่ถูกสะกดไม่ได้เป็นปัญญา ถ้าเป็นปัญญาแล้วไม่ต้องสะกดจะเข้าใจแล้วว่าอยู่สงบมันดีแล้ว อย่างพวกเรา
พวกเราชาวไทยจะเป็นผู้ที่ไขความอันนี้ ว่าคุณธรรมที่บริบูรณ์ด้วยสภาพ 2 คำว่าสอง หรือเทวะ หรือสิ่งที่เป็นมนุษยชาติ จิตนิยามต้องมี 2 สภาพ มีภายนอกกับภายใน มีกายกับจิต มีสิ่งที่จะต้องสัมพันธ์กันแยกกันไม่ได้ ช่วยเหลือกัน ไปมีอันเดียวจะมีแต่จิตอย่างเดียว อย่างอินเดียเน้นจิตอย่างเดียวมันก็จะเป็นแบบนั้น ช้าๆ ก็เงียบ ก็สงบ ก็เบา ก็ไม่ไปวุ่นวายอะไรกับใคร ไม่ไประรานใคร แม้จะมีพลเมืองมาก
ทีนี้จีน สายทางปัญญา สายทางไม่ใช่เจโตทีเดียว เสร็จแล้วก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมา มันซับซ้อนจนกระทั่งก็ได้พิสูจน์อีกชั้นหนึ่ง โดยพิสูจน์แล้ว มีปัญญาเข้าใจถึงความสงบ แต่กระนั้นก็ดีก็ยัง อาตมาก็ยังเห็นว่า ขณะนี้อาตมาให้คะแนน สีจิ้นผิง ว่าสีจิ้นผิงเข้าใจก็ดูแลไป ประชาชนจีนเขาก็เข้าใจเขาก็ยังยอมรับว่าอันนี้ดี
เพราะฉะนั้นจีนจึงอยู่ในลักษณะที่สงบ แต่ก็ยังแสดงท่าทีออกให้รู้ว่า อย่านะ ข้าก็สร้างอาวุธเหมือนกันนะ แต่ก็ไม่โฉ่งฉ่าง ไม่ทำเป็นไปขู่เขาเหมือนกับเกาหลีเหนือ เกาหลีเหนือก็น่าเห็นใจเขา เขาต้องแสดงออกอย่างนั้น ไม่อย่างนั้นมันเหมือนกับหมาน้อย ต้องยิงฟันร้องเวลาถูกหมาใหญ่เขารังแก มีแค่แหลมๆกัดเจ็บเหมือนกันนะ ขู่ไว้ คล้ายๆอย่างนั้น เขาก็ต้องทำ แต่จีนเขาไม่ต้องทำอย่างนั้นหรอก พลเมืองเขามาก เขาก็ไม่ไปประกาศจะทดลองอาวุธให้ดูว่าฉันสร้างได้นะเหมือนกับเกาหลีเหนือ
นี่ความซับซ้อนพวกนี้อาตมาเล็งเห็นและยิ่งชัดเจนยิ่งเข้าใจถึงมนุษยชาติ ที่จะต้องรักษาเนื้อรักษาตัว ที่จะต้องป้องกันตัวเอง ที่จะต้องแสดงออก ที่จะต้องสร้างคุณงามความดี
แต่ที่เข้าใจผิดไม่เป็นคุณงามความดี แต่เขาไม่เจตนานะไม่ว่าที่ไหน อเมริกาเขาก็ไม่เจตนาจะไม่สร้างคุณงามความดีเกาหลีเหนือเขาก็ไม่เจตนาจะไม่สร้างคุณงามความดี เขาคิดว่าเขาสร้างความดีทั้งนั้น แต่จริงๆแล้วมันจะเทียบกันได้ มันจะตัดสินตามสัจธรรม ดูไปเรื่อยๆเราจะ เห็นความจริงเข้าไปเรื่อยๆ ตัดสินตอนไม่จบไม่ได้
นี่เป็นละครของโลก เป็นบุพเพสันนิวาสของโลก เป็นเรื่องใหญ่ดูแล้วโครงสร้างไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ก็ค่อยๆดูไป
_user-nx1ho7hj9o • ความสัมพันธ์ พ่อท่านเทศน์เข้าใจเป็นที่สุด แต่ถ้าเผลอใจไปนิดเดียว เป็นการผูกพันไปโดยไม่รู้สึกตัวจริง ๆ ทุกคนเกิดมามีความสัมพันธ์กันก่อน รู้จักกัน ร่วมงานกัน และ ยึดติด ว่าเขาดี เป็นคนดี ทำกุศล น่าชื่นชม และประทับใจในการทำงานด้วยกัน ถ้าเผลอใจ ก็เป็นการผูกพันกันไปโดยปริยาย เพราะเผลอใจ จากความสัมพันธ์ กลายเป็นความผูกพัน คนหนึ่งตายจาก เสียใจ พอท่านตายจาก เหมือนโลกถล่มทลาย ไปในพริบตา กว่าจะรู้สึกตัว ต้องฟังเทศน์พ่อท่าน กว่าจะฟื้นได้ แทบตาย กราบสาธุค่ะ
พ่อครูว่า… อาตมาว่ามันเป็นการศึกษา เป็นเรื่องจริง เป็นบทเรียนสำคัญที่มีค่ามาก ดู ศึกษาเอาประโยชน์จากสัจธรรมพวกนี้ ที่อาตมาว่าสัจธรรมของพระพุทธเจ้าที่อาตมาเอามาประกาศต่อ เอามาขยายความต่อ เอามาสืบสานต่อ นี่แหละมันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่แล้วตั้งใจดีๆก็แล้วกัน
_ซึ้งซื่อ วิเชียร • ครับขอกราบนมัสการพ่อท่านด้วยสุดเศียรเกล้าครับ ในวันที่ 26-28 พฤษภาคม 66 ผมได้เข้าค่ายอุโบสถศีล On line ทาง zoom อยู่ที่บ้านได้รับฟังธรรมะและได้ร่วมทำกิจกรรมกับหมู่มิตรดีทั้งหลายจนจบ ก็ได้รับความรู้แล้วน้อมนำมาปฏิบัติอยู่ที่บ้านก็ทำได้ครับ โดยกิจกรรมนี้ท่านสมณะแสนดินที่มีความเมตตาได้จัดให้มีขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งที่ 18 แล้วครับ มีครั้งต่อไปก็จะเข้าร่วมอีกครับและผมขอสัมมาทิฏฐิพ่อท่านกรุณาอธิบาย สภาวะของ พระสกทาคามีให้ผมได้ทบทวนด้วยครับ กราบขอบพระคุณพ่อท่านด้วยความเคารพสูงยิ่งครับ
พ่อครูว่า… คุณซึ้งซื่อก็เขียนมาอย่าง สุดเศียรสุดเกล้า คนเขาฟังก็อาจจะหมั่นไส้ ว่าหลงใหลยกยอยกย่องกันจริง แต่มันเป็นเรื่องจากจิตใจเขารู้สึกอย่างนั้นจริงๆเรื่องนี้ก็ค่อยๆขยายความกัน เป็นเรื่องลึกซึ้ง เป็นสัจจะที่เกิดจากใจ เรื่องนี้ก็ค่อยๆอธิบายศึกษากันไป ทำให้มีจริงในตัวเองขึ้นมาเถอะ แล้วจะเกิดประโยชน์คุณค่ามากทีเดียว
เหลือเวลาอีก เกือบครึ่งชั่วโมง
ก่อนจะถึงอโศกรำลึก วิสาขบูชา เริ่มวันที่ 3 ก็อยากจะไล่ๆเรื่องที่อธิบายไว้เอามาอ่านต่อ ว่าเศรษฐกิจดีหรือเศรษฐกิจไม่ดีคืออย่างไร ก็ว่ากันไปไม่ค่อยจะต่อเนื่องเท่าไหร่เลย อาตมาอธิบายมาถึงข้อ 12 แล้ว
เศรษฐกิจดี(ประหยัด)หรือเศรษฐกิจไม่ดี(ฟุ่มเฟือย)คืออย่างไร
12) แต่นั่นไม่ใช่ผู้เจริญแบบ“โลกุตระ”ที่นับเป็น“อาริยกะ(ผู้เจริญ)” คือ ผู้มีจิตเป็น“อาริยคุณ”ที่รับประกันได้ว่า “จิต“เป็น“ผู้เข้ากระแสโลกุตระ(โสตาปันนะ)” เป็น“ผู้ไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา(อวินิปาตธรรม) เป็นผู้เที่ยงแล้วในเส้นทางโลกุตระ (นิยตะ) เป็นผู้จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า(สัมโพธิปรายนะ) ตามพระไตรปิฎก เล่ม 19
ข้อ 1574 จึงจะเป็นผู้อยู่กับสังคมที่มี“เศรษฐกิจ”แม้มันจะอยู่ในสภาพที่ดีหรือไม่ดีอย่างไร ก็มี“ปัญญา”ที่จะอยู่กับสภาพนั้นๆชนิดที่“ไม่ทุกข์-ไม่เดือดร้อน-ไม่ตกนรก”ตามฐานานุฐานะของความเป็นอาริยบุคคลแต่ละคนนั้นๆ เป็นอนาคามีจะไม่ทุกข์ไม่สุขกับการขึ้นลงของเศรษฐกิจเลย
ซึ่งคนผู้“จิตยังไม่มีอาริยคุณ”เป็น“จิตเข้ากระแสโลกุตระ(โสตาปันนะ)”นั้น ยังรับประกันไม่ได้ว่า จะ“เที่ยงแท้(นิยตะ)”ต่อการไม่ตกต่ำไปสู่นรกเด็ดขาด
แม้จะเป็น“คนร่ำรวยล้นฟ้า”ปานใดก็ไม่พ้นตกนรกไปได้หรอก!
เพราะนรกนั้นคือแดนของ“อาริยกะ(ผู้เจริญ)”ที่มี“ปัญญา” แต่สวรรค์นั้นคือ แดนของ“มิลักขะ(ผู้ยังเถื่อนถ่อย)” ที่ยังมีแต่“เฉโก” ยังพ้น“ความโง่(อวิชชา)”ไม่ได้
ถ้าคนผู้ใด“จิต”ไม่เจริญ“เข้ากระแสโสดาบัน”ขึ้นไป ก็แน่นอนว่า คนผู้นั้นยังจะต้องตกต่ำ คือ ต้อง“ตกนรก”อยู่ ยังจะหนักหน้าไปกับ“ทุกข์ร้าย” คนผู้นี้ยังไม่“พ้นนรก”ไปได้ แม้จะเป็นคน“ร่ำรวย” มีอำนาจล้นฟ้าเป็น“เจ้าโลก”ก็ตาม
13) จนกว่า“จิต”ของคนผู้ใด จะมี“การเกิด(โยนิ)เข้ากระแสโลกุตระ” จึงจะรับประกันคนผู้นี้ได้ “ไม่ว่าจะตาย-จะเกิดอีกกี่ชาติ” คนผู้นี้ก็ไม่ตกต่ำ นั่นคือ“ไม่ตกนรก”และ“ไม่ทำบาป”อีกแล้ว อย่าง“เที่ยงแท้ (นิยตะ)”ไปตามลำดับ (นิจจังคือเที่ยงที่ไม่เที่ยงเป็นโลกียะ ส่วน นิยตะคือเที่ยงที่เที่ยงเป็นโลกุตระ)
เพราะ“จิต”มี“อาริยคุณ”ที่เป็น“โลกุตระ”แท้ได้จริง เที่ยงแท้ ยั่งยืน ตามฐานานุฐานะแห่งความเป็น“อาริยบุคคล”นั้นๆ ตั้งแต่โสดาบันบุคคลขึ้นไป
“การเกิด(โยนิ)”ของ“จิตวิญญาณ”เป็น“อาริยชน”นี้เป็น“การเกิด(ชาติ,โยนิ)” ที่คนผู้มี“ปัญญา”จริง เริ่มจากมี“สัมมาทิฏฐิ”แล้วปฏิบัติตนเองมี“การทำใจในใจ(มนสิการ)”ของตนเองให้มี“การเกิดผล(ภาวนา)”เป็น“โยนิโสมนสิการ” คือ “การทำใจในใจ”ของตนมีคุณผลถึงขั้น“การเกิด(โยนิ)ของใจในใจ”ที่จิตเจริญขึ้นๆจนกระทั่งมี“ความตั้งมั่น(สมาธิ)”แบบ“โลกุตระ”จึงจะ“เที่ยงแท้(นิยตะ)”ไปแต่ละขั้นได้ “จิตตั้งมั่น”เป็นลำดับ สูงสุดตามหลัก“เจโตปริยญาณ 16”ก็สูงสุด“สมาหิโต”
นั่นคือ “จิตวิญญาณของคนผู้นั้นมีการเกิด(โยนิ)”ขึ้นจริง ศัพท์ของ“การเกิดทางจิตวิญญาณ”มีว่า“โอปปาติกโยนิ” เป็น“การเกิดคุณผล”กันจริงๆ
14) และผู้ทำ“การเกิดอาริยคุณ”นี้ได้คือ ผู้เป็น“สิริมหามายา”แท้ ที่มีคุณผลเป็น“สิทธัตถะ”ไปตามลำดับๆ ที่มี“ความเที่ยง”หรือ“ความตั้งมั่น”ที่เรียกว่า“สมาหิโต” ที่เป็น“สมาธิ”เจริญแบบ“โลกุตระ”มี“เจโตปริยญาณ 16”กันจริงๆ เห็นความไม่ยึดมั่นถือมั่นไหม เราก็มีพระเจ้าได้ มีสิริมหามายาได้ สิทธัตถะได้ มีได้แต่เราไม่ได้ยึดมั่นถือมั่น
ขอขยายความเจโตปริยญาณ16 คนที่ไม่เคยได้ฟังอาจจะสงสัย ของดีบอกหน่อยได้ไหม
เจโตปริยญาณ 16 เป็นวิชชา 8 ที่เป็นความรู้ขั้นที่ 5 ใน 16 มีอะไรบ้าง 1. ราคะ 2. โทสะ 3. โมหะ
3 ตระกูลนี้เป็นกิเลส เราต้องกำจัดมันให้หมดไปจากจิตเรา มันมีในจิตถ้าเราเอาไว้ทำไม ต้องให้มันไม่มีราคะโทสะโมหะ ศัพท์ก็ว่า
-
วีตราคะ 5. วีตโทสะ 6.วีตโมหะ
ปฏิบัติขั้นแรก ก็จะเกิดผลเป็น 7. สังขิตฺตํจิตตํ. (จิตเกร็ง-จับตัวแน่น หด คุมเคร่งอยู่) . 8. วิกขิตฺตํจิตตํ . (จิตกระจาย-ดิ้นไป ฟุ้ง จับไม่ติด)
สังขิตฺตํจิตตํ คือตระกูเจโต วิกขิตฺตํจิตตํ คือตระกูลปัญญา สังขิตฺตํจิตตํ กายก้อน เหมือนหัวเป็นก้อนสังขตังจับตัว ส่วน วิกขิตฺตํจิตตํ กระจายฟุ้งเอารวมมาในจิตยังไม่เก่ง
คล้ายๆกับ อุทธัจจะกุกกุจจะ( วิกขิตฺตํจิตตํ ) กับ ถีนมิทธะ ( สังขิตฺตํจิตตํ )
เราก็รู้ว่า 2 อันนี้ยังไม่เจริญ ทำได้บ้างแล้วรู้ทิศทางบ้างแล้วแต่มันแยกไม่ออกก็ยังมืดหรือกระจายยังพร่า วิกขิตฺตํจิตตํ ยังจับเนื้ออะไรไม่ติด คือ 2 อย่าง ก็ต้องทำให้มันเจริญขึ้นเป็น 9. มหัคคตจิต (จิตเจริญยิ่งใหญ่ขึ้น) 10. อมหัคคตจิต (จิตไม่เจริญขึ้น)
ทำให้เจริญได้ก็เป็น มหัคตจิต ทำไม่ได้ก็เป็น อมหัคตจิต พยัญชนะเหล่านี้บอกสภาวะจริงในตัวเราที่เราปฏิบัติแล้วมันเจริญได้จริงไหมล่ะ ถ้าคุณเจริญยังไม่ได้ก็เป็น อมหัคตะ คุณก็ต้องศึกษาฝึกฝนต่อไปอีกพยายามพากเพียร มันไม่ชัดมันไม่จริงก็ถามอาจารย์ถามผู้รู้ต่อผู้รู้ที่จะช่วยกันบอกมันเป็นอย่างไร เหตุปัจจัยมันเป็นอย่างไรกิเลสมันเป็นอย่างไรทำไมมันไม่เจริญเราต้องทำให้มันเจริญได้เป็น มหัคตะ เจริญไปเรื่อยๆก็เป็น สอุตรังจิตตัง
-
สอุตตรจิต (จิตมีดีแต่ยังมีดียิ่งกว่านี้-ยังไม่จบ) แล้วจะมีปฏิภาณรู้ดีของตัวเองว่ามันยังไม่จบ มันยังไม่ครบ มันยังไม่สมบูรณ์มันเจริญจริง อย่างนี้แหละกำลังมันเลยเราปฏิบัติธรรมมี สอุตรังจิตตัง เนื้อๆทั้งนั้นเลยแต่มันยังไม่ถึงที่สุดที่จบที่จบอยู่ในยู้ฮู ไปเรื่อยๆเลยโอ้โห สนุก แต่ก็เมื่อย พากเพียรไปพากเพียรไป จนกว่าจะจบเรียกว่า อนุตตรังจิตตัง
-
อนุตตรจิต (จิตไม่มีจิตอื่นสูงยิ่งกว่า) เป็นที่สุดไม่มีอะไรจบกว่านี้อีกแล้ว อีกคู่หนึ่ง ทีนี่ก็มีอีก 2 คู่
-
สมาหิตจิต (จิตตั้งมั่นเป็นประโยชน์ดีแล้ว) 14. อสมาหิตจิต (จิตยังไม่ตั้งมั่นไม่เป็นประโยชน์) 15. วิมุตตจิต (จิตหลุดพ้น) . . . 16. อวิมุตตจิต (จิตยังไม่หลุดพ้นสิ้นเกลี้ยง) . (พตปฎ. เล่ม 9 ข้อ 135)