660519 เก่งที่สุดกว่าทุกประเทศ คือเปรตแท้ พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก
ดาวโหลดเอกสารที่
https://docs.google.com/document/d/1AVCxkERmC_YKtGnlgW-benYBw1R-GGNY/edit?usp=sharing&ouid=101958567431106342434&rtpof=true&sd=true
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1xg5Eej7p-6_nUZQ85qPv4QcfgwMVHH3C/view?usp=share_link
ดูวิดีโอได้ที่
และ https://www.facebook.com/300138787516163/videos/1016111512888017
สมณะฟ้าไท… วันนี้วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม 2566 แรม 15 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
พูดถึงความไม่เที่ยงตอนนี้ พรรคที่มีเสียงข้างมากตอนนี้ก็กำลังฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาล ส่วนพวกไปชนที่รักชาติก็เตรียมรองเท้า หากว่ามีการแตะ ม.112 เมื่อไหร่ ก็พร้อมออกๆ คึกคักน่าดู
อ.ปานเทพ ดูว่า รัฐบาลนี้น่าจะพ่ายแพ้คุณธรรม เพราะประเทศไทยมีประชาชนไทยที่มีคุณธรรม คนชั่วไม่สามารถทำอะไรได้ เขาว่าอย่างนั้นนะ ศาลสถิตยุติธรรมก็จะช่วยด้วย
พ่อครูว่า… ถ้าคุณพิธามีคุณธรรมจะอยู่รอดตามคำทำนายนี้ แต่ถ้าเขาไม่มีคุณธรรมเขาก็จะอยู่ไม่รอด
สมณะฟ้าไท… เขาบอกว่าดวงเมืองตอนนี้มันเป็นอย่างนั้นครับ
พ่อครูว่า… เป็นสัจจะด้วยไม่ต้องเอาหมอมอมาพูด
สมณะฟ้าไท… มันก็สอดคล้องกัน แล้วสหรัฐอเมริกาก็ไม่มีเงินใช้หนี้ ประเทศอเมริกาก็ยังเป็นหนี้ประเทศไทย
พ่อครูว่า… ตามความรู้สึกอาตมา มองตามแง่ลีลาของสัจธรรมว่า ระบอบของสหรัฐอเมริกาที่ใช้ปกครองประเทศ มันเป็นในระบบบริหารปกครอง ชนิดที่เป็น เฉโกประดิษฐ์ มันคิดขึ้นมาใหม่จะของอังกฤษ เหมือนกับคนที่คิดอยู่ในปัจจุบันนี่แหละคือคน พิโถ พิโธ่ จะเกิด พิโธมิกส์ ดูซิจะแข่งกับทักษิโนมิกได้ไหม คำว่าพิโธก็ใกล้กับพิโถนะ ก็ดูถูกดูแคลนกันไม่ได้ ให้เขาทำไปก่อน ก็เป็นตระกูลแซ่ลิ้มกลุ่มหนึ่งเหมือนกัน แซ่ลิ้มเป็นกลุ่มใหญ่ของจีนเลย
สมณะฟ้าไท… วันนี้มาฟังเพลงบูรณภาพก่อน
บุพเพสันนิวาสของประเทศไทยในยุค เก่งที่สุดกว่าทุกประเทศ คือเปรตแท้
เพลง บูรณภาพ
คำร้อง-ทำนอง : ครูรัก รักพงษ์
แม้ภัยพิฆาต ชาตินี้มีวิบาก
สุดยาก ตรากตรำ ซ้ำเติม ย้ำตาม
ก็พยายาม สุดความ อุตสาหะเสริม
ภัยร้ายปานใด ไม่ท้อ คงเดิม
ยิ่งเติม เพิ่มแรง แห่งเพียร
สุดลึกพระคุณ สุดเกล้าสุดเศียร
แม้เจียนใจขาด ชาตินี้มิอาจ ขยาดใด
เพื่อฟ้า เพื่อดิน ถิ่นรักชาติไทย
เชิดชูบูรณภาพ จนตราบ อสงไขย
ไทยคือไท เทิดไท้สุดใจ
สิ้นใจเพื่อไท นิรันดร์กาล
แต่งคำร้อง ทำนอง ในคืนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บ้านราชเมืองเรือ
พ่อครูว่า… ตอนนี้วันนี้มันวันที่ 19 วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม 2566 แรม 15 ค่ำพอดี กำลังมืดมิดพอดี เดือน 6 ปีเถาะกระต่าย
วันที่ 3 มิถุนายนนี้ ยังอีก 10 กว่าวัน ตรงกับวันวิสาขบูชา มันใกล้ๆกันกับวันที่ 5 มิถุนายน และก็ใกล้กันกับวันที่ 9 มิถุนายน วันสำคัญๆของเราอยู่นะ ก็มีคนติงมาว่า
จะจัดงานยังไงผนวกกันไหม 3-10 ทั้งหมด 8 วัน เราก้าวหน้าอยู่ไม่ถึงกับก้าวไกลนะ ก็คิดๆกันดูยังอีกหลายวันพวกเราจัดงานเร็วเนรมิตได้ พวกเราไม่ยากหรอก ทำตามประสากระยาจก ทำง่ายไม่ยากเย็น
เมื่อกี้ได้ยินได้ฟังเพลงบูรณภาพ ซึ่งเป็นเพลงสุดท้าย ที่จริงอาตมาแต่งไว้จมหายไปเขาไปควักขึ้นมา อาตมาก็จำไม่ได้ เดี๋ยวนี้ความจำแย่มาก ของเก่าๆมีอยู่ ของใหม่ใส่เข้าไปมันไม่ค่อยจะรับแล้ว เพราะฉะนั้นการศึกษาใหม่ของอาตมาจะไม่มีไม่เกิดเลยในชีวิต ระดับนี้ต่อไป ไม่มีอะไรใหม่เกิดเลย มันก็มีแต่ของเก่า อันนี้ก็ดี
ของเขาก้าวไกลเกินไปเพราะฉะนั้นเอาของเก่ามาถ่วงไว้หน่อย ก็คงจะได้ผล
เพราะฉะนั้นสิ่งที่มันเกิดอยู่นี่มันเป็นนิยาย เหตุ นิทาน สมุทัย มันเป็นตอนหนึ่งของบุพเพสันนิวาสของประเทศไทย เป็นเหตุนิทานสมุทัยปัจจัย มีเรื่องราว เป็นเรื่องราวจริงของประวัติศาสตร์หรือของตำนานในเรื่องเกี่ยวกับสังคมประเทศไทยที่มันดำเนินไป มามองกันในแง่ของรัฐศาสตร์หรือมองในแง่การบริหารปกครองดูแลกัน มีผู้ขึ้นมาเป็นหัวหน้านำ เป็นท่านขุนของเผ่า แล้วก็นำหมู่กลุ่มเผ่าพันธุ์ดำเนินไป มีมาแต่เดิมแต่ไหนแต่ไร จนกระทั่งมาตั้งชื่อหัวหน้าเผ่าเป็นอะไรต่ออะไร เดี๋ยวนี้มีภาษาอีกเยอะ เรียกพระเจ้าแผ่นดินแล้วเรียกพระมหากษัตริย์ เรียกว่าราชาธิบดีก็ได้ เป็นภาษาที่ใช้แทนกัน จนกระทั่งเป็นหัวหน้า เรียก ประธานาธิบดี หรือภาษาอะไรอื่นก็แล้วแต่
มันก็เป็นธรรมชาติ ถ้าเผื่อว่าฟังเนื้อหาเนื้อความของเพลงบูรณภาพ ครบ ดูแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรคือจิตวิญญาณของเราอย่างเต็ม บูรณะแปลว่าเต็ม ยังมีสภาพเต็มที่จะมีบทบาท มีการกระทำ จากจิตวิญญาณที่ลึกซึ้งที่เราเทิดทูนสุดเกล้าสุดเศียรต่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
ตั้งแต่ประเทศไทยเกิดมาจนถึงปัจจุบันเป็นประเทศที่มีชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่เป็นประเทศที่เกิดมาไม่มีพระมหากษัตริย์เหมือนสหรัฐอเมริกา ก็ดำเนินไปแบบของเรา
ก็เป็นเรื่องของธรรมชาติของมนุษย์ มนุษย์จะต้องมีธรรมชาติพวกนี้มันเป็นสัจจะที่ใช้อาศัยอยู่ในสังคมโลก สังคมมนุษยชาติก็ต้องเป็นไป
เราก็ต้องมาขยายความเอาพฤติกรรมจริง เอาหลักการทฤษฎีความจริงมาวิเคราะห์วิจัย ลองดูว่ามันพอจะเข้ากับหลักไหน แล้วเราก็ศึกษาเกิดความรู้ไปในแต่ละชาติๆ ก็ได้เกิดความรู้ผ่านชาติไป
แต่ละคนที่เกิดมามีชีวิตผ่านปัจจุบันไป มันก็จะบันทึกสิ่งที่เราผ่าน สิ่งที่เราสัมผัส สิ่งที่เราได้เกี่ยวข้องมา เกี่ยวข้องอย่างมีเหตุปัจจัยที่เราไปเกี่ยวข้องอย่างสำคัญมากสำคัญน้อยอะไรก็แล้วแต่ ก็เป็นธรรมชาติของแต่ละคน เป็นประวัติศาสตร์ เป็นเรื่องราวของแต่ละคน
อาตมาเคยพูดไว้ว่า
“เลวที่สุดในแผ่นดิน คือหากินบนคำว่าช่วยเขา”
อาตมาก็มาได้คิดต่ออีกนิดหน่อย ว่า
“เก่งที่สุดกว่าทุกประเทศ คือเปรตแท้
แพร่กระจาย สยายข้อมูลข่าวสาร
ประหารศัตรูคู่แข่ง แอ้งแม้งได้ยอดสุด”
พ่อครูว่า… ตอนนี้เราจะเห็นได้ชัดเจนว่า กำลังเริ่มต้นกันด้วย ระบบเลือกตั้ง ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีนะ แต่เริ่มต้นแล้ว เริ่มต้นมีสมมุติบัญญัติ จะเรียกว่าสมมุติสัจจะก็เอา กำลังเกิดสมมุติกันในกรอบของกรรมกิริยาของระบบเลือกตั้ง แล้วเขาก็พยายามที่จะเก่ง
เก่งที่สุดในแผ่นดิน เก่งที่สุดกว่าทุกประเทศ คือสยายข้อมูลข่าวสารประหารศัตรูคู่แข่งแอ้งแม้งไปได้ยอดสุด เขาชนะแล้ว เขาใช้แล้ว ใช้ข้อมูลข่าวสารใช้ io แถมด้วย AI อาตมาแปล AI ว่า เฉโก ประดิษฐ์ ไม่ได้แปลว่าปัญญาประดิษฐ์หรอกเพราะว่าคนคิดเครื่องกลมันคิดขึ้นมา คิดเครื่องมืออันนี้ขึ้นมา มันเป็นความคิดของชาว เฉโก หรือชาวเทวนิยม ไม่ใช่ความคิดของชาวบุญนิยมหรือชาวพุทธชาวโลกุตระ มันไม่ใช่ทฤษฎี ไม่ใช่รูปแบบวิธีการของชาวโลกุตระ ไม่ใช่วิธีการของชาวพุทธแท้ๆเขาก็เป็นชาวพุทธนะ แต่เป็นชาวพุทธแบบ เฉโก เป็นชาวพุทธที่มิจฉาทิฏฐิ
ก็ดูไป วิธีการที่เขาใช้ทั้ง io และ AI แต่ว่ามันเป็นการกระทำที่มีผลงาน แล้วผลงานที่ออกมามันก็จะ..ทุกอย่างมาแต่เหตุ ถ้าเหตุของเขาเป็นเหตุที่ถูกต้อง เป็นเหตุที่จริงทั้งจิตใจทั้งกรรมกิริยาทั้งความสามารถของเขา ถ้าของเขาสมบูรณ์แบบออกมาครบ โอ้โห.. เราจะดีใจมากเพราะอายุเขายังหนุ่มเลยยังไม่ถึง 60 เขาจะทำงานให้แก่ประเทศชาติได้ดีมาก ก็ต้องดูความจริงไป
เราก็ดูแล้วตอนนี้ก็อย่าเพิ่งไปประมาททีเดียว หรืออย่าเพิ่งไปเผลอใจหรือดีใจมากเกินไป เหมือนเราเคยทุ่มใจให้แก่ทักษิณ ตกกระไดขาเป๋เลย ทุ่มใจให้ทักษิณตกกระไดขาเป๋เลย อกหักๆ ยังไม่หมดเยื่อใยนะทักษิณ เขายังมีเยื่อใยอยู่ ยังมีเหตุปัจจัยเข้ามา เป็นน้ำยาผสมสัดส่วนอยู่ในระบบวิธีการเมืองของไทย ยังไม่สิ้นเชื้อ
เพราะฉะนั้นก็เลยยังประมาทอะไรไม่ได้ มันยังไม่สิ้นเชื้อ ก็เห็นอยู่ว่า เป็นส่วนผสมของพิษ มันยังมีพิษเป็นส่วนผสมอยู่ในระบบการเมืองของเราอยู่ เพราะฉะนั้น เราก็ระมัดระวังค่อยๆดูกันไป
เพราะฉะนั้นในเรื่องของการเมืองมันก็เป็นนิยายที่จะว่าไปแล้วตอนนี้กำลังขึ้นบทใหม่ ผ่านระบบวิธีที่โลกนิยมกันคือระบบการเลือกตั้ง อาตมาว่ามันไม่ใช่ระบบประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบ เลือกตั้งเป็นเพียงแต่วิธีการส่วนย่อย
ประชาธิปไตยเนื้อแท้นั้นคือความจริงของบุคคล ที่ได้มีทั้งอดีตปัจจุบัน ที่มีน้ำหนักของอดีตกับปัจจุบัน มี background หรือมีภูมิหลังมีบทบาทมี ไม่ใช่พระเอกขี่ม้าขาวพรวดออกมาปั๊บ กอบกู้ประเทศขึ้นมาเป็นม้าขาวเลย อย่างนั้นมันอาจจะมีนานๆฟลุ๊คสักที แปลกจริงๆนะขี่ม้าขาวมา เพราะฉะนั้นเราก็เลยไม่ค่อยไว้ใจ
แต่พระเอกที่มีประวัติมี background มีเรื่องราวมีเหตุปัจจัยของอดีตปัจจุบันที่เอามารวมกันแล้ว เราก็รู้ว่ามันมีเหตุมีผลอะไรต่างๆนานา ที่เป็นสิ่งที่เรายอมรับว่าอย่างนี้มันไม่ใช่พระเอกขี่ม้าขาวมาจากไหนก็ไม่รู้ แล้วมาเก่ง อาจจะพระเอกจริง มันก็เลยยังไม่รู้ว่าพิธาจะเป็นพระเอกม้าขาวหรือเปล่า
ยิ่งเอาเบื้องหลังที่เขาขุดกันมาอยู่บ้าง เบื้องหลังก็ดูไม่เละเทะจนเกินไปนะ ก็มีข้อบกพร่อง ก็เป็นธรรมดาธรรมชาติชีวิต คนต้องมี Error มีผิดพลาดบกพร่องบ้างนิดๆหน่อยๆ ซึ่งอาตมาว่าจะเอาอันนั้นมาเป็นเหตุปัจจัยตีทิ้งพิธาเขายังไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นเอาเถอะชีวิตของมนุษยชาติ ไม่ต้องห่วงหรอก อย่าเพิ่งรีบปรินิพพานเป็นปริโยสาน แม้คุณจะเป็นอรหันต์แล้วก็ดูนิยายเรื่องนี้ต่อไปก็แล้วกัน ดูไป พวกเราพวกชาวดูไป พวกเราไม่ใช่ชาวดูไบ ซึ่งไม่สามารถเก่งร่ำรวยจนกระทั่งสร้างแผ่นดินจากทะเล ทำได้ตามแปลนเลยนะ มีกิ่งก้านสาขาเป็นต้นไม้เลยนะ สร้างเองเลยยิ่งกว่าพระเจ้า ความสามารถอย่างนั้นคนจึงได้ทึ่ง
อย่างทักษิณนี้คนทึ่งเลย ไปเป็นสมาชิกชาวดูไบ แต่ดูเหมือนไม่ได้เป็นสัญชาติดูไบนะ มีสัญชาติมอนเตรเนโกร ก็เป็นคนอาศัยต้องต่อวีซ่าต่อพาสปอร์ตต่อบัตรประชาชนอยู่ อะไรอย่างนี้ ก็เป็นไป
ทุกอย่างเป็นตัวละครของบุพเพสันนิวาส เป็นตัวละครของเรื่องราวนิทานหรือนิยายของโลก โดยเฉพาะเป็นตัวสำคัญๆ อย่างทักษิณเขาก็ทำไปแล้ว ตอนนี้ก็ของ พิธามารับบทแสดงก็ดูกันไป
มาเข้าถึงความรู้ที่เราควรได้ศึกษาได้คิด
SMS วันที่ 17-18 พ.ค. 2566
_จรรยา ประเสริฐ · ดีแล้ว นักบวชพูดเรื่องการเมือง เราจะได้ตาสว่าง
พ่อครูว่า… ถ้าให้แบบไม่ใช่นักธรรมะมามันจะมีธรรมะในเรื่องการเมืองได้อย่างไร อย่างน้อยเป็นนักบวชก็ต้องมีธรรมะ แต่ถ้าเผื่อว่าไม่ใช่นักธรรมะนักบวชจริงก็พาเข้าป่า แต่ถ้าเป็นนักธรรมะนักบวชที่มีทฤษฎีที่สัมมาทิฏฐิที่จริงมันก็จะเป็นอีกอย่างหนึ่ง ก็ดูไป นี่เป็นละครของชีวิตละครของโลกทั้งนั้น
Do it Best, Let it Be. อะไรที่ดีก็ควรสนับสนุน อะไรที่ไม่ดีก็ควรต่อต้าน
_แก้วตะวัน พวงบุบผา · น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพบูชาอย่างสูงยิ่งค่ะ..
ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ตั้งความหวังไว้เล็กน้อย (ถามพวกเรา ใครตั้งความหวังไว้มาก หรือเล็กน้อย ) เพราะเห็นการตอบรับลุงตู่จากประชาชนดีมาก แต่พอก้าวไกลคะแนนมาสูงได้ ส.ส.มากกว่าทุกพรรคก็เลยผิดคาดไป ความเชื่อที่ว่าพระสยามเทวาธิราชจะช่วยเมืองไทย แต่ตอนนี้ลูกสงสัยว่าพระสยามเทวาธิราชนั้นยังอยู่ในเมืองไทยหรือไม่(ลูกเข้าใจว่าพระสยามเทวาธิราชก็คือสำนึกดี คุณธรรมความดีของคนไทย)
…พระสยามเทวาฯพาสงสัย
สถิตใน ไทยนั่น นั้นจริงหรือ
ไยหมางเมินทำมืดมนให้คนลือ
คนสัตย์ซื่อผลักไสไม่นิยม
ต่อจากนี้ต้องกลมเกลียวอย่างเหนียวแน่น
อยู่ในแดนคนดีที่งามสม
มีพ่อครูเปี่ยมปัญญาน่าชื่นชม
แดนอุดมโลกุตระธรรมชื่นฉ่ำเย็น
พ่อครูว่า… คำว่าโลกุตรธรรมก็หมายความว่า เป็นน้ำหนักของความปล่อยวาง ของความเห็นตามความเป็นจริงว่าทุกอย่างไม่เที่ยงมันมีความเป็นไป มันมีอย่างนี้ก็ได้อย่างนั้นก็ได้ เราก็ดูไป เข้าสู่โหมดดูไป ไม่น้ำขึ้นน้ำลง ไม่หวือหวาวูบวาบ ดีใจเสียใจเกินไป เราก็ดูละครของโลกมันก็เป็นไปตามธรรม ก็ไม่น่าจะมีอะไรมาก
เพราะเราก็ยังเป็นผู้มีสำนึกยังเป็นผู้มีกรรมกิริยา ยังพอตัดสิน ยังพอทำงานอยู่กับสังคมโลกมนุษย์อยู่ ถ้าเห็นสมควรอย่างไรเราก็ทำตามสมควรตามเหมาะสมนั้นๆ ก็ไม่น่ามีปัญหาเราก็ไม่ต้องตีตนไปก่อนไข้ ยังไม่รู้ว่ามันจะเกิดเหตุร้ายแรงอะไร เขาอาจจะมีอะไรใหม่ๆที่เรายังนึกไม่ถึง เขาก็พยายามจะนำเสนอ
แต่ข้อเสนอของเขาอาตมาเห็นแล้วก็ โอ้โห.. ฟังนโยบายต่างๆที่เขาว่า..อาตมาดูแล้ว มันล้ำหน้าไปไกลตามชื่อพรรคของเขา ก้าวไกล อาตมาก็ได้วิจารณ์ไปบ้างว่า มันจะเป็นก้าวไถล ก้าวเกินนะ ขาฉีกขาฉิ่งขาหักขาเป๋ไป มันไม่ก้าวไปตามลำดับให้พอเหมาะพอควร มันถึงแล้วเหรอเหตุการณ์ควรจะเป็นอย่างนั้น
เพราะเราดูแล้วมันไม่อยู่ในกรอบของ cyclic order ออกนอกกรอบไปหวือหวายิ่งกว่าสตาร์วอร์ จะบอกว่าถอยหลังไปหา Harry Potter ของ JK rowling ถอยหลังเข้าเป็นนิยายดึกดำบรรพ์ก็ไม่ใช่ มันไปเป็นนิยายสตาร์วอร์หรือ the ring ออกไปนอกโลก มันจะมีอย่างนั้นหรือ ถอยหลังไปอย่าง Harry Potter ก็คงไม่ จะหวือหวาไปเหมือน Star Wars เลย อาตมาว่ามันก็โอเวอร์ไปนะ คงไม่เป็นไปถึงขนาดนั้น
เพราะฉะนั้นเราก็ไม่ต้องไปตกอกตกใจอะไรมาก เพราะข้อเสนอคนนำเสนออะไรก็ได้ก็ดูเขาไปเขาจะทำอะไรได้แค่ไหน อะไรที่เหมาะควรรับได้ตามเหตุปัจจัย กาละ เทศะ ฐานะ ที่เหมาะสมของมัน เราก็ไปด้วย
อะไรที่รู้สึกว่ามันไม่ไหวนะ มันควรต่อต้านมันอย่างที่เคยทำมาก็ต้องออกไปต่อต้าน เดี๋ยวนี้มีคนคิดนำหน้าอาตมาแล้วที่เตรียมตัวไปต่อต้าน มีแล้ว เพราะฉะนั้นอาตมาไม่จำเป็นต้องเป็นตัวนำตัวคิดตัวตนออกไปเป็นตัวตามได้ ถ้าถึงเวลาวาระจะมาควรใครจะไปบ้าง ยกมือกันเพียบ บางคนไม่ยกมือกลัวหรือ
_ตุ๊ก อัศวิน : การได้รับ..’สัมมาทิฎฐิ’..จากพ่อครู จากรายการ ‘ปรับทุกข์-ปลุกธรรม’ (วันจันทร์ที่15/5/2566) ในเรื่องทำใจในใจ..หลังรู้ผลของการเเลือกตั้ง..อ่ะเจ้าค่ะ
ดุจ..’ลูกศรปักคาใจ’..ได้รับการถอนออกด้วย ‘ธรรมวิธี’..เจ้าค่ะ กาละนี้..วางใจได้บ้างแล้วเจ้าค่ะ Do it Best, Let it Be. หน้าที่แห่งตนได้ทำเต็มที่แล้ว (ทุ่มเทใจ/กาย ช่วย ‘ลุงตู่’ )
ต่อไปเป็นหน้าที่ของ’กฎแห่งกรรม’..เจ้าค่ะ
น้อมกราบ._/\_.ขอบพระคุณ ในเมตตาธรรม..เจ้าค่ะ
พ่อครูว่า… ทำให้ดีที่สุดแล้วก็ดูไป ไม่ใช่ปล่อยปะละเลยนะ Let It Be อยากไปแปลว่าปล่อยปละละเลย เราก็เอาอันที่ดีที่สุด Do it Best และ Let It Be
พวกเราจะไม่ทุกข์ก็ตรงที่มีปัญญาปฏิภาณเข้าใจ พวกเราศึกษาธรรมะแล้วเอาไปใช้จิตใจก็ไม่ทุกข์ยากพอสมควรเข้าใจเหตุการณ์เข้าใจเหตุปัจจัยแล้วก็ทำได้ทำใจได้
_Juju-sc7ub จุ๊จุ๊ • ลุงตู่ไม่มีเงินแจก ผลเลยออกมาอย่างที่เห็น ต่อไปชาวบ้านคงรวยแล้ว มีแม่ค้าอุบลคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อบอกยุคลุงตู่หากินลำบากเป็นหนี้ ต่อไปคงรวยแล้วหมดหนี้ ฟังแล้วน้อยใจแทนลุงเลยทำงานเพื่อประชาชนแท้ๆ
พ่อครูว่า… อย่างนี้แหละควรจะเอามาวิเคราะห์ ค่ารวมที่ลุงตู่ทำงานมา 8 ปี มันน่าจะเป็นราคาหรือค่าการทำงานของนายกประยุทธ์ ว่ามันเป็นการช่วยคนส่วนมากเป็น พหุชนหิตายะ พหุชนสุขายะ โลกานุกัมปายะ มันไม่น่าไปตัดสินราคาตัดเคิร์ฟได้ ไม่ใช่องค์รวมของคนหมู่ใหญ่ แต่เป็นความคิดของแม่ค้าคนนี้ แน่นอนก็ต้องมีบ้างเล็กๆน้อยๆ
แม่ค้าคนนี้ก็เลยคิดว่า พิโธมิกส์ จะทำให้เขาดีขึ้นเมื่อออกมาปฏิบัติ แต่ตอนนี้เรื่องราวยังคาราคาซังอยู่เลย ความคิดนำหน้ามันมีไปหลายอย่างก็ค่อยๆดูไปเรื่อยๆ
_Jandme เจแอ่นด์มี • ท่านนายกฯประยุทธ์ก็บอกเสมอว่าท่านไม่ใช่ คนเก่งในทุกเรื่อง แต่ท่านมีความ รัก ความจริงใจ จงรักภักดี ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต
ส่วน พิธา ก็ไม่ใช่คนเก่ง อะไร ทุกอย่างมีการจ้าง คนอื่น ทำให้ และการช่วยเหลือ หนุนหลังจากต่างชาติ เราก็ดูกันไป ว่า อนาคตของชาติจะเป็น อย่างไร กับ นโยบาย อบายมุข เสรี แบบ ครบวงจร สังคมไทยก็เสื่อมโทรมมากยิ่งกว่าที่เป็นปัจจุบัน และอื่นๆ อีก ล้วนแต่ ทำลายความเป็นมนุษย์ชาติ สมใจอมริกา
พ่อครูว่า… มันเข้ากันกับที่อาตมาว่าเลยนะ
“เก่งที่สุดกว่าทุกประเทศ คือเปรตแท้
แพร่กระจาย สยายข้อมูลข่าวสาร
ประหารศัตรูคู่แข่ง แอ้งแม้งได้ยอดสุด”
ตอนนี้อาวุธที่สำคัญคือเขาใช้ AI และ io นี่แหละ เป็นนวัตกรรมของโลก คือสิ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์ใช้ แล้วเอามาใช้เป็นประโยชน์หรือเป็นโทษที่คนใช้
สรุปอยู่ที่ดูไปตลอด นโยบายอบายมุขนิยม ก็คงจะทำให้ประเทศไทยแย่ลง
_Limonsrinama ไลมอน ศรีนามา และ Pimsupaaksornsawas พิมพ์สุภา อักษรสวัสดิ์ • กราบนมัสการค่ะ ชอบฟังคำสอนของพ่อท่านและการตอบคำถามจาก sms เป็นสัจธรรมทั้งหมด
_Chanlakbitkub ฉันล่ะบิตคัพ : จะช่วยประชาชนช่วยประเทศได้อย่างไร ประชาชนเลือก 2 พรรค ถล่มทลาย
พ่อครูว่า… ก็คงเป็นพรรคก้าวไกลกับเพื่อไทย ฟังน้ำหนักภาษา คงจะไม่เห็นด้วยกับที่ประชาชนเห็นกัน ที่เขาเอามาขู่ในสภาว่า ต้องเคารพเสียงประชาชนนะ ผ่านเลือกตั้งมาเขาได้คะแนนมากจริงๆต้องเคารพอันนี้นะ
เราก็เข้าใจ Majority Rule กฎเกณฑ์ของโลกมันเป็นอย่างนี้ เรารู้ แต่พวกเรามันเป็นพวก Minority Right เป็นพวกน้อย เป็นสิทธิของเราที่จะคิดตามนี้ได้มาว่าเราไม่ได้ ซึ่งคำว่า Right คือความถูกต้อง มันสามารถถูกต้องได้อยู่นะอย่าเพิ่งดูถูกดูแคลน ตกลงก็ต้องดูไปก่อนจะไปติเรือทั้งโกลน
_user-qt9qr1ci3m คิวที 9 • กราบนมัสการค่ะ.สาธุค่ะ./หลังเลือกตั้งหนูเศร้าใจหนักอยู่ 2วัน.เลยมาตามฟังธรรมจากสมณะชาวอโศก.ฟังจากอ.หมอเขียว คลายใจหายทุกข์แล้วค่ะ.
พ่อครูว่า… นี่เป็นการรายงานความจริงของคนในประเทศนะ ใครได้รับกระทบและมีความรู้สึกความคิดอย่างไร และดีหายทุกข์ได้ไว
การเมืองไทยยังอยู่ในขั้นตอนคัดเลือกตัวแสดงรอบแรกอยู่
_user-fu1cj4mg9x เอฟยู 1 • ศาสนาพุทธสอนให้ทุกคน ทุกหมู่เหล่ารักใคร่สามัคคีกัน สอนให้เป็นทางสายกลาง ไม่รู้ว่าท่านนับถือศาสนาอะไรสอนให้คนอื่นรักคนนั้น เกลียดชังคนนี้ ถ้าท่านนับถือพุทธ มันมีรูปแบบการสอนพุทธศาสนิกชนในรูปแบบนี้ด้วยหรอ ผมงง แล้วก็งง ไม่มีใครอายุ 1 พันปีหรอก เดี๋ยวก็ตายกันทุกคน ดังนั้นควรสอนให้คนรักใคร่ สามัคคีกันดีกว่ามาชังนั่น รักนี้ แบบนี้เป็นกรรม เป็นบาปหรือไม่
พ่อครูว่า… อาตมาบอกว่าดูไปอย่าไปติเรือทั้งโกลน คุณก็ฟังธรรมะอาตมาไปดีๆ ถ้าหากอาตมาไปด่าไปว่าคนนั้นคนนี้เกินไป อาตมาว่าอาตมายังไม่ได้ด่าคุณพิธาเลยนะ ก็ยังบอกให้ดูไป ความรู้สึกก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่นะพูดเป็นจริงตามความรู้สึก ยังไม่ได้มีน้ำหนักไปดูถูกดูแคลนเขา
แต่แน่นอนว่ามันไม่เข้ากับสิ่งที่อาตมาได้มีมาแต่เดิม นี่ของเขามีของใหม่พิธาเขามาเสนออันใหม่ อาตมาก็ยังไม่ได้ดูถูกทีเดียว เขาเสนอโครงสร้างใหม่พิมพ์เขียวใหม่นโยบายอะไรใหม่ๆ ขึ้นเขายังไม่ได้ทำ ก็ไม่ได้ดูถูกเขาทีเดียวอาจจะดีแต่มันเหมาะสมกับยุคสมัยหรือมวลมนุษย์คนไทยในขณะนี้เหมาะสมแล้วหรือ ก็ยังไม่รู้ ตอนนี้ก็ทำอะไรยังไม่ได้มาก
ตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้มีตำแหน่งนายกที่บริหารได้เต็มรูป นิยายเรื่องนี้ยังไม่ได้บรรจุตัวแสดงเลย เป็นแต่เพียงกำลังคัดเลือกตัวนะ รอบแรกอาจจะพอดูผ่านๆ แล้วก็คัดไว้ ได้ตัวพอรู้ๆกันเห็นๆ แต่ว่ามันยังไม่ลงตัว กรรมการยังมีอีกหลายหมู่กลุ่มยังมีเหตุปัจจัยอีกหลายอย่างก็ให้ดูไป แหม..ดูไปนี้ดีจังเลยใช้ได้เรื่อยๆ
นายกฯลุงตู่ใช้บ้านใช้น้ำใช้ไฟของหลวงผิดด้วยหรือ
_Kocharin Manikul กชริน มานิกุล · ที่นายกฯตู่อยู่บ้านหลวง ใช้น้ำใช้ไฟหลวงเป็นการเอาเปรียบไหม ? บวชเพื่ออะไร
พ่อครูว่า… อาตมาก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องนี้ อาตมาก็ใช้แต่น้ำของราษฎร จะว่าไปแล้วถ้าเผื่อว่าหลวงใจแคบ ก็ถือว่าผิด แต่ถ้าหลวงหรือรัฐบาลใจไม่แคบนัก เขาก็ทำงานให้ประเทศ ก็แค่ที่พักบ้านพัก มันจะกี่พันกี่หมื่นกันเชียว ค่าเช่าบ้านจะเป็นเดือนละแสนเชียวหรือ แต่เขาทำงานอาตมาว่าราคามันมากกว่าแสนนะ ถ้าคิดอย่างนี้อาตมาก็ว่าไม่เสียหลายอะไรหรอก แต่ใครจะคิดอย่างตัวเองคิดด้วยวิธีคิดที่ต่างกันมันก็ได้ คุณก็ว่าเป็นการเอาเปรียบ แต่ถ้าเผื่อว่าคิดให้ดีมันไม่น่าจะเอาเปรียบ
อย่างเราเรามีตลาดประชาราษฎร์ คนมาขายของที่นี่ มาเช่าที่เราก็ไม่ได้คิดค่าเช่าที่ น้ำไฟก็ใช้ของเรา ใช้ฟรีของเรา เขาก็มาค้าขายได้เงินไปเลี้ยงชีวิตเลี้ยงครอบครัวเขา ในตลาดประชาราษฎร์ของเรา ตอนนี้คนยังไม่ค่อยมาก ผู้ที่จะมาค้าขายก็ยังไม่มากยังไม่กรูเกรียว รถทัวร์ยังไม่เข้ามาก แขกเหรื่อยังไม่มากก็เลยยังไม่มีพ่อค้าแม่ค้ามามาก ถ้าหากไปในอนาคตคนมาก ซื้อขายมากคนจะมาสมัคร ก็คงจะมากขึ้น เราก็จะเป็นที่กลางให้เขามาค้าขายใช้น้ำใช้ไฟ หรือแม้จะมาทำงานหารายได้เลี้ยงตัวเองในหมู่บ้านชุมชนราชธานีอโศก ก็เลี้ยงชีวิตมาหลายสิบปีมีหลายครอบครัว อย่างนี้เราก็ช่วยกันไป ที่พูดไม่ได้ยกอ้างอิงเอาบุญคุณ เอาหน้าเอาตานะ มันเป็นพฤติการณ์ของมนุษย์ที่พึงอาศัยกันและกัน เราทำได้เราไม่ได้เป็นหนี้ที่เราช่วยเขาเราไม่ได้เป็นหนี้สิน เราช่วยเขาได้ก็ช่วยกันไป นี่คือการอาศัยซึ่งกันและกันอย่างนี้แหละ ไม่ได้ไปหาทางเอาเปรียบเอารัด แต่เสียสละไปนี้ก็อย่าไปหวังว่า เราได้เสียสละเราได้เป็นคนมีบุญคุณต่อเขาอย่าไปคิดอย่างนั้นนี่คือวิธีคิด
บวชเพื่ออะไร
_บวชเพื่ออะไร?
พ่อครูว่า… ประเด็นที่ 1 บวชเพื่อตัดกิเลส ถามต่อมาว่าได้ตัดหรือเปล่า ก็ตอบว่าได้ ทำไมรู้ได้อย่างไรว่าได้ตัด อาตมาก็ต้องศึกษาตามพระพุทธเจ้า ก็ต้องรู้สิ
มันเกิดธาตุรู้ที่เป็นปัญญา ธาตุรู้ที่รู้จักจิต เจตสิก รูป นิพพาน มันรู้จริงๆรู้อาการของจิตคือเจตสิกต่างๆ แยกแยะออกเป็นสังขารเป็นเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ตั้งแต่รูป เวทนา สัญญา สังขารวิญญาณแล้วแยกรายละเอียดลงไปได้อีก แล้วไปที่กรรมฐานใหญ่คือเวทนา 108 ก็แยกได้ชัดแล้วแยกเป็นภาษาด้วยและเป็นสภาวะที่ตามภาษา บัญญัติพยัญชนะภาษา ระบุว่าอาการอย่างนี้เป็นอย่างนี้
อาการสุขเป็นอย่างนี้ อาการทุกข์เป็นอย่างนี้ อาการไม่สุขไม่ทุกข์เป็นอย่างนี้ ไม่สุขไม่ทุกข์แบบเดียรถีย์ก็ทำได้ รู้วิธี อาตมาทำได้
แล้วไม่สุขไม่ทุกข์แบบพระพุทธเจ้าแบบโลกุตระคือลืมตาเห็นเหตุปัจจัยทุกอย่างชัดเจน จิตใจก็ไม่ได้ติดใจ ไม่ผลัก ไม่ดูด ไม่สุขไม่ทุกข์เป็นอุเบกขา ชัดเจนเพราะว่าเรามีปัญญารอบ รู้รอบถ้วนทุกอย่างในจิตใจอย่างนั้นอย่างนี้ ทุกอย่างมันก็ตถตาเขาก็เป็นอย่างนั้น ก็อยู่ด้วยกันไปได้อันไหนพอร่วมกันก็ได้ก็ร่วมกันไป อันไหนไม่ได้ ร่วมกันไม่ได้ก็ต่างคนต่างไป หนักๆก็เป็นนานาสังวาสต่างคนต่างทำตามที่ตัวเองเห็น
มันมีที่จบมีที่ตัดสินได้ ไม่ได้เดือดร้อนอะไร อาตมาใช้ภาษาสื่อสภาวะพวกนี้มันละเอียดละออ คุณติดตามดู ศึกษาฝึกฝนตามที่อาตมาเอาธรรมะพระพุทธเจ้ามาอธิบาย จนกระทั่งได้มรรคผลจากการบวช บวชเพื่อได้มรรคผลแล้วก็ออกมาเป็นตัวจริงของอาตมา แล้วก็แสดงอยู่กับสังคมขนาดนี้ คุณอาจจะมาพบอาตมาใหม่ๆดูไปต่อได้ ให้ศึกษาดีๆ อย่าเพิ่งตั้งข้อสังเกตเพ่งโทษไว้ อย่าเพิ่งโทษ ทำใจกลางๆเหมือนกับถ้วยน้ำชาที่เทน้ำชาเก่าออก แล้วค่อยๆรับน้ำชาที่อาตมารินเข้าไป แล้วจะได้รู้ว่าเป็นน้ำชาดี น้ำชามอมเมา หรือน้ำชาพิษ
ข้อสำคัญคุณจะมีปฏิภาณปัญญาพอที่จะตัดสินว่า สิ่งที่อาตมาทั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมที่ประพฤติออกไป คุณสามารถรับได้จับได้ พิจารณาได้ ตัดสินได้หรือไม่ เท่านั้นเอง
ก็อยู่ด้วยกันอย่างนี้แหละเป็นคน มันก็อยู่กันได้ด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมพวกนี้ ก็ไม่น่ามีอะไรอื่นมากกว่านี้ที่สามารถรู้กันได้ เป็นกายกรรม วจีกรรม ศึกษาให้ดี
สรุปยอดอีกที อาตมาบวชเพื่อล้างกิเลสให้หมดไป คุณอาจจะไม่เคยได้ยินว่า อาตมาล้างได้หมดแล้ว อาตมาเป็นพระอรหันต์และเป็นพระโพธิสัตว์ อธิบายไปมากแล้วและอาตมาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ด้วย คุณจะได้มีอะไรใหม่ๆ ศึกษาตามให้ดี สิ่งที่อาตมาพูดไปนี้ไม่ใช่พูดพล่อย แต่เป็นความจริงทั้งนั้น ที่อาตมาพูดว่าเป็นเช่นนั้นเช่นนี้เป็นต้น ติดตามดีๆแล้วจะได้ประโยชน์
เก่งกว่าทุกประเทศคือเปรตแท้
“เก่งที่สุดกว่าทุกประเทศ คือเปรตแท้
แพร่กระจาย สยายข้อมูลข่าวสาร
ประหารศัตรูคู่แข่ง แอ้งแม้งได้ยอดสุด”
พ่อครูว่า… เปรตก็หมายถึงคนนี่แหละ ที่มีพฤติกรรมไม่ดี มันเป็นตัวบงการ เป็นพระเจ้า เป็นตัวนายของชีวิตของคุณ ของคนไหนก็แล้วแต่ มันเป็นความคิดที่ไม่ดีเท่าไหร่ แล้วก็เลยแพร่กระจายข้อมูลข่าวสารเอาไปประหารศัตรูคู่แข่ง โดยใช้ข้อมูลข่าวสาร ใช้ io มาปราบศัตรูคู่แข่งจนชนะ ศัตรูคู่แข่งแอ้งแม้งไปได้อย่างที่เห็นมีผลสำเร็จแล้ว เพราะฉะนั้นก็ดูไปก่อน เขาใช้วิธีนี้เครื่องมือนี้อย่างนี้ ซึ่งมันยังตัดสินไม่ได้ อาตมาตัดสินด้วยซ้ำแล้ว ถ้าเธอว่าเขาเข้ากับหลักเกณฑ์ที่อาตมาพูดไว้ว่า เลวที่สุดในแผ่นดินคือหากินบนคำว่าช่วยเขา
ถ้าคุณเอาคำว่าช่วยเขาเป็นนโยบายนำ แล้วก็สร้างต่างๆนาๆเลย ว่าจะได้ผลอย่างนี้อย่างนี้คาดว่าจะได้อย่างนี้ ถ้าเลือกผมนะจะได้อย่างนี้คาดไว้ มันเป็นการติดสินบนไว้ก่อนทั้งนั้น คุณจะทำสำเร็จหรือไม่อาตมาก็ให้ดูไป ไม่ได้ตีทิ้งเขาทีเดียว ดูเขาไป เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งมาลงโทษอาตมาว่าอาตมาไปดูถูกดูแคลนกันทีเดียว แต่อาตมายังไม่เชื่อไง เพราะคุณยังไม่ได้ทำ
แต่ลุงตู่ทำมาแล้วก็มีผลสำเร็จที่อ้างอิงยืนยันได้ อาตมาก็เชื่อสิ แต่คุณยังอยู่ในความฝัน ในจินตนาการ ในความคาดคิดซึ่งมันยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง มันยังไม่เป็นเรื่องเป็นราว ไม่เป็นตัวเป็นตนอะไรออกมา เพราะฉะนั้นเราจะไปตัดสินก่อนได้ไง ก็ต้องดูไปก่อน
Economy กับ Luxury : Progressive กับ Conservative
ทีนี้อาตมาอยากจะให้ข้อคิดอยู่ในประเด็นที่เขาพูดผ่านมาบ้างแล้ว ว่าความรู้กับการกระทำ ความรู้นั้นมันรู้อะไรก็คิดไปตามรู้ได้มันมาก แต่การกระทำจริงๆ มันจะตรงกับที่เรารู้ไหมนั่นก็หนึ่ง และ 2 มันไม่ตรง มันก็ไปกันใหญ่
เช่น มันเป็นแค่นักมายากลยังไม่แม่นเป้า มาเล่นตลก เช่น คุณบอกว่าคุณจะมาช่วยเศรษฐกิจ มนุษยชาติ คุณก็มาลงมือช่วยทำ แต่คุณช่วยเศรษฐกิจมนุษยชาติ คุณทำอย่างไร คุณช่วยให้คนฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย คุณช่วยคนจะให้คนร่ำรวยหรูหราฟู่ฟ่ามีมากฟุ่มเฟือย คุณทำอย่างนี้ แต่คุณบอกว่าคุณอยากจะช่วยเศรษฐกิจ
ที่นี่ภาษาคำว่าเศรษฐกิจภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Economy ซึ่งไม่ได้แปลว่าฟุ่มเฟือย ไม่ได้แปลว่าหรูหราฟู่ฟ่า Economy มันแปลว่าประหยัด
คุณบอกว่าจะมาช่วยเศรษฐกิจ Economy แล้วเศรษฐกิจจะต้องประหยัดแต่คุณดันจะไปช่วยให้คนร่ำรวย ให้คนมีมากได้ฟุ่มเฟือยให้ความร่ำรวยมีมากนั้นภาษาอังกฤษเรียกว่า Luxury หรูหราฟุ่มเฟือยมีมาก ซึ่งขี้โกหก ก็บอกว่าจะมาทำให้ดีแต่ว่าถ้าให้มนุษยชาติหลงความหรูหราฟู่ฟ่าและจะบอกว่าให้รวยๆ เศรษฐกิจดีแล้วจะรวยแล้วรวยแล้ว มันตลบแตลงหรือเปล่า
ตรงนี้ลึกซึ้งนะ ความหมายของคำว่า economy Economic มันหมายถึงมาน้อย ไม่ได้หมายถึงพวก Luxury ที่เป็นภาษาอังกฤษที่แปลว่าหรูหราฟุ่มเฟือยมากมาย ลักษณะอย่างนี้แหละเรียกว่ามายา คุณพูดอย่างหนึ่งแต่คุณพามาทำอีกอย่างหนึ่ง อันนี้มันลึกซึ้งตรงนี้ มากเรื่องเลย
จิตตัวเองเป็นยอดมายาหลอกตัวเอง หลอกด้วยคำว่าสุข
คำว่าสุขด้วยความหมายของโลกียะ คำว่าสุขแบบโลกียะหรือแบบคนโลกๆคือสุขเพราะได้ ลาภเยอะ ได้ยศเยอะ ได้ตำแหน่งสูง ได้คำสรรเสริญเยินยอมาก ได้เสพทางตาหูจมูกลิ้นกายใจสมกิเลสสมตัณหาก็พอใจ ก็เป็นสุข มันเป็นโลกียสุขแท้ๆ
โลกียสุขไม่เที่ยงยั่งยืนโลกียสุขคือกิเลส คุณก็เสพสุขไปแล้วก็ไม่เที่ยงคุณก็จะหมุนเวียนได้บ้าง ไม่ได้บ้าง จมไปเกิดชาติแล้วชาติเล่าต้องยาวไปอีกไม่รู้กี่ชาติ
กว่าจะรู้สึกว่า กว่าจะรู้สึกว่าเราก็หลงไปกับสุข เหมือนหมาแทะกระดูก ที่มันไม่มีเนื้อ ไม่มีหนังอะไรแล้วมีแต่กระดูกเป็นแคลเซียม มันก็ดูดน้ำลายอร่อย แคลเซียมมันไม่ได้มีอะไรอร่อยๆ แต่คุณก็ดูดมันอยู่อย่างนั้นแหละ ขออภัยยกตัวอย่างคุณเป็นหมาไป มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ทีนี้ลึกลงไปในพยัญชนะเลย คำว่า สุข
สุ แปลว่าดี ข แปลว่าว่าง
ถ้าคุณบอกว่าจิตจะไปอร่อยไม่อร่อยไม่มี ว่างกลางเลย ข คือว่าง ถ้าคุณเห็นว่าอย่างนี้แหละถูกต้องแหละดี คุณจบเลย แต่คุณไม่ว่างนี่สิ มันก็เลยขบถกับคำว่าสุข พยัญชนะสุขมันก็ดีของมัน แต่เสร็จแล้วมาเบี้ยวตัวเอง ขบถตัวเองไปผิดเพี้ยนคำว่าสุข ไปเป็นอร่อยและดีสมใจและดีได้บำเรอกิเลสแล้วดี มันก็เป็นขบถ
อาตมาใช้พยัญชนะจนถึงคำว่า สุ กับ ข
คำว่าอร่อยกับไม่อร่อย อัสสาทะ
คนไปหลงโง่ว่ามันมีอะไรทั้งๆที่ไม่มีอะไร
มันไม่มีอะไร แต่คุณไปหลงว่ามันมีอะไร คุณก็มีไป คุณมีคุณก็ต้องเกิดอีกๆๆๆ แต่ถ้าคุณตายลงไปด้วยการไม่มี สุญญตนิพพาน อนิมิตนิพพาน อัปนิหิตตนิพพาน ตายสูญไปเลย ไม่ต้องคิดอะไร ไม่มีนิมิตอะไร ตายด้วยนิพพาน 3 ไม่มีนิมิต ไม่มีความตั้งจิต สูญไปเลยแยกธาตุเป็นดินน้ำไฟลมก็จบ
ผู้ที่ฟังตามได้ไหวและทำจิตทำใจให้ได้ตามนี้ ไม่ต้องมีใครมาตัดสินให้คุณเป็นอรหันต์เลย ไม่ต้อง สัจธรรมเป็นผู้พิพากษาเอง คุณตัดสินผิดคุณก็ผิดของคุณเอง คุณตัดสินถูกก็ถูกของคุณเอง สัจธรรมอิสระเสรีภาพมันสุดยอดอย่างนี้
เพราะฉะนั้นคนทุกวันนี้ เข้าใจแค่ Economy กับ Luxury เข้าใจแค่ประหยัดมีน้อยมักน้อย กับการไปหลงมีมากมากๆ พยัญชนะบาลีหลักการพระพุทธเจ้าก็คือ อัปปิจฉะกับมหัปปิจฉะ
มักน้อยคืออัปปิจฉะ มีน้อยๆหรือสูญไปเลยก็ได้
กับ มหัปปิจฉะ มีมากเท่าไหร่ก็ไม่มีขอบเขต ไม่พอ มีมากเท่าไหร่นับไม่ถ้วนจนไม่มีประมาณเลย อัปปมัญญา มันก็พูดกันไม่รู้เรื่องคนที่มีไม่พอ มากเท่าไหร่ก็เอา กับคนที่มีที่จบ มีที่ศูนย์ มีที่พอ มีกรอบ พอแค่นี้อาศัยแค่นี้มี 1 มี 2 มี 3 มี 4 มี 5 อย่างมากก็แค่มี 5 ก็พอแล้ว ปัญจะมีเลข 5 อย่างดีถ้าคุณสามารถควบคุมได้ก็เป็น 7 มีพลังงานส่วนเหลือส่วนเกินก็เอาไปทำงานรับใช้ผู้อื่น
แต่ถ้าคุณมีส่วนเกินที่มากกว่า 5 แล้วคุณก็เอามาโลภ เอาไปทำร้ายผู้อื่น กรรมวิบากของคุณก็ต้องเป็นจริง แต่ถ้าคุณซื่อสัตย์รับใช้ให้แก่ผู้อื่น กรรมวิบากของคุณก็ดี เรียนรู้กรรมวิบากอันนี้เป็นสัจจะความจริงเลยไม่มีใครแย้งได้
เพราะฉะนั้นเรื่องประหยัดกับเรื่องมักมาก แค่นี้ก็ยังเข้าใจไม่ได้ในความจริง แล้วคุณก็ประพฤติจริงอยู่ในร่องในรอยของคำพูดนั่นแหละ บัญญัติหรือมักมากฟุ่มเฟือยหรูหรา
ทีนี้เราก็ไปมองดูคนส่วนใหญ่ คนส่วนใหญ่มักมากหรือมักน้อย …มักมาก มันเป็นธรรมชาติของกิเลสของเขา (พ่อครูไอตัดออกด้วย)
สมณะฟ้าไทว่า… รัฐบาลนี้จะขึ้นค่าแรง 450 บาทต่อวันภายใน 100 วัน ได้ข่าวว่าจะมีการไล่คนงานออก ตอนเขามาหาเสียงคนงานก็ดีใจ แต่ตอนถูกไล่ออกจะเสียใจ แล้วเขาบอกว่าขึ้นทุกปีด้วย บริษัทไหนมันจะไหว มันจะไปรอดได้อย่างไรล่ะ
อย่างนักเรียนเขาก็จะให้เลิกชุดนักเรียน ใส่ชุดอะไรก็ได้ มันคงเละดี
พ่อครูว่า… เละ มันเป็นคำประชดซ้อนอยู่ในตัว เละมันไม่ดี มันต้องได้สัดส่วนที่พอเหมาะ มันถึงจะดี
สมณะฟ้าไท… เอา โลกียสุขมาหลอกคน คนก็ชอบสิ เหมือนประเทศอื่นที่เขาให้เงินประชาชนเยอะๆ อย่างเวเนซูเอล่า เดี๋ยวก็เงินเฟ้อหรอก
พ่อครูว่า… อาร์เจนติน่าล้มละลายจนเงินตกขนาดนี้ มันเป็นตัวอย่างที่เป็นไปได้ อะไรจะขนาดนั้นอย่างนี้เป็นต้น ก็ดูจะมีตัวอย่างในประเทศอื่นโดยเฉพาะอเมริกากำลังทำท่าที ว่าเงินดอลลาร์นี้เขาจะพยายามรักษาค่าให้ได้ อาตมาก็ยังไม่รู้ลึกๆนะว่าในอเมริกานี้เขามีน้ำมันหรือเขามีทองคำมากพอหรือเปล่า ในประเทศอเมริกาขณะนี้ เขาไม่ได้เปิดเผยว่ามีทองคำหรือมีคงคลังเท่าไหร่ มีการสะพัดเท่าไหร่ ประเทศไทยเปิดเผยนะ แต่อเมริกายังไม่ยอมเปิดเผย คนเขาก็พอรู้ไต๋ได้ เพราะว่ามันมีพฤติการสัมพันธ์กับสังคมอยู่ เขาก็เอาสิ่งนั้นมาประมวลตัดสินบอกราคา ตีค่าของอเมริกาได้
เขาก็ปิดข่าวไม่ให้รู้ ดูว่าเขาจะทำได้นานแค่ใด เพราะจริงๆแล้วเขาเอง เขาก็จะต้องลงทุนสร้างเครื่องไม้เครื่องมือที่เขามีความเก่งตรงนี้ สามารถสร้างอาวุธสามารถ สร้างเทคโนโลยีต่างๆเอามาอยู่ ซึ่งเขาต้องใช้เงินทุนซ้อน ถ้าเขาหมดแล้วหรือเขาเป็นหนี้วัตถุดิบที่จะเอามาสร้าง คนอื่นเขาไม่ให้แล้ว คุณมีเองพอไหมมีวัตถุดิบ มีโลหะ มีสิ่งที่จะเอามาเป็นเหตุปัจจัยในการสร้างเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ แล้วเอาสิ่งเหล่านี้มาขายได้เงินให้เลี้ยงพลเมืองในประเทศตนเองจะไหวไหม
ถ้าไม่ไหว เหตุปัจจัยมันไม่สมดุลพอมันก็ต้องคว่ำให้เห็น มันก็จะล้มละลายให้เห็นแน่นอน เพราะฉะนั้นสิ่งนี้มันก็จะต้องดูไป ดูกันจริงๆ มันยังไม่จบทีเดียวเพราะเขายังไม่ยอม วางมือ ยังไม่ยอมแพ้ เหมือนกันกับทักษิณ มันยังไม่ยอมแพ้ยังไม่ยอม ตอนนี้ไม่ได้เป็นตัวพระเอกขอเป็นพระรองก็แล้วกันขอเล่นบทนี้ เอาก็เอาว่ะ เรียกด้วยศัพท์ของสังคมว่าขอโหนไปก็ยังดีนะ เกาะไปโหนไปก่อน ยังไม่ได้ที่ 1 ทีเดียว สักวันหนึ่งเถอะ ถ้าจะรอให้หัวหน้าตัวเองก่อน หรือได้ทีก็คว่ำหัวหน้าลง เราไม่รู้ได้อันนี้เราไม่กล้าไปตัดสิน
แต่อาตมาดูท่าทีเขาก็ทำอยู่อย่างนี้
สรุปแล้วมันเป็นเหตุผลหรือเหตุปัจจัยที่คนละเรื่อง เรื่องที่เขาทำนี้อาตมาว่า เป็นวิธีการ แล้ววิธีการที่ทำมันก็จะออกผลอย่างนี้
ส่วนเรามีวิธีการอีกอย่างหนึ่งทำแล้วผลมันจะออกมาอีกอย่างหนึ่ง นี่มีนัยยะรายละเอียดที่แตกต่างกัน
เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จะไปตัดสินกันทีเดียวไม่ได้ ถ้าเอาภาษามาเรียกให้ตัวเองภาษาง่ายๆว่า พวกคอนเซอร์เวทีฟกับพวก Progressive
ของเขาก้าวไกลของใหม่เป็น Progressive ของเราเป็นพวกอนุรักษ์นิยมเป็นคอนเซอร์เวทีฟ ของโบราณแต่เราก็โบราณนวทัศน์นะ ของเราโบราณไม่ใช่งุ่มง่ามไม่รู้โลก แต่เรารู้ กาละ เทศะ ฐานะ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ แล้วคุณจะเข้าใจที่เราพูดไหม เราใช้คำว่า กาละ เทศะ ฐานะ
แล้วเนื้อแท้กาละคือความเคลื่อนไปทุกอย่างก็ไปเรื่อยๆเป็นกาลเวลามันไม่ถอยหลังไปเรื่อยๆ
เทศะ ในสิ่งที่เป็นไปมันมีความแตกต่างกันมันมีสภาพ 2 เสมอ ตั้งแต่วัตถุมันก็จะมีบวกกับลบ พอมีชีวะขึ้นมา จะมีธาตุรู้กับเหตุปัจจัยที่เป็นรูปธรรม ไปด้วย
ธาตุรู้ในระดับ พีชะ มันก็ปรุงแต่งของมัน มันเป็นประธานควบคุมตัวมันเองแต่มันไม่ไปเบียดเบียนใคร
ใครเข้าใจคุณสมบัติคุณลักษณะพิเศษของพืช มันเป็นตัวเอง วันนี้เป็นฐานอาศัยของศาสนาพุทธต้องทำจิตวิญญาณให้อยู่ในฐานะพืช คุณก็เป็นประโยชน์แก่คนแก่สัตว์ทั้งหมด พืชมันเป็นประโยชน์แก่คนแก่สัตว์ทั้งหลายนะ มันไม่ได้เกิดมาเพื่อตัวมันเองเลย มันก็เป็นตัวมันของมันอยู่อย่างนี้
เช่น ผลหมากรากไม้ข้างหน้านี้ มีกล้วย มีมะไฟ มีเงาะ มีมะม่วงเยอะแยะของมัน มันก็เป็นของมันแล้วมันก็ทำขึ้นมาให้คนสัตว์ได้อาศัยใช้กินแล้วมันก็ไม่ได้มีอะไร จนกว่าพลังงานของแต่ละตระกูลแต่ละเชื้อ เชื้อชาติเงาะ เชื้อชาติมะไฟ เชื้อชาติมะม่วง หมดเชื้อมันก็สลายไป มันยังมีเชื้ออยู่มันก็ปรุงแต่งของมันไป เอาเชื้อไปปลูกต่อขยายต่อ หรือจะมีใครมาช่วยให้มันขยายผลใหม่อีกมันก็เป็นธรรมชาติที่คนผู้ที่เรียนรู้วิทยาศาสตร์มาก็ไม่ได้ประหลาดอะไร
พระพุทธเจ้าถึงบอกว่าให้ทำจิตวิญญาณของเราให้เป็นเหมือนอย่างพืช ปลอดภัยที่สุดมีประโยชน์ให้แก่สัตว์โลกและมนุษย์ สุดยอด
อุตุ พีชะ จิต กรรม ธรรมะ
อาตมาเอามาขยายความให้พวกเราทำ แล้วทำได้พวกเราจึงมีทิฐิอย่างนี้มีศีลสามัญญาตา ทิฏฐิสามัญญา จึงมาร่วมกันมีพฤติกรรมกายวาจาใจมีศีลสมาธิปัญญาอยู่อย่างนี้ก็สร้างสรรค์อย่างนี้ พวกเราจึงมาเป็นพวกที่จะสร้างพืชพรรณธัญญาหาร
เราไม่สร้างอาวุธ เราไม่สร้างสิ่งมอมเมา เราไม่สร้างสิ่งที่เป็นพิษ ยกตัวอย่างเช่น พืชชนิดหนึ่งเรียกว่ากัญชา แน่นอนพวกเราไม่เอากัญชา เพราะมันล่อแหลมที่จะเป็นพิษ มันเอียงข้างไปเป็นพิษแล้วเราไม่สร้างกัญชา
จะบอกว่าเป็นอาหาร มันไม่ใช่ จะบอกว่าเป็นยาอยู่บ้าง ก็เข้าใจ ยามันไม่ใช่เนื้อแท้ๆที่จะไปกินมากนะ ยาก็เป็นแค่เมื่อมีสิ่งไหนบกพร่องเอาอันนั้นมาเติมนั่นเรียกว่ายา เป็นโอสถ เป็นสิ่งที่ขาดมันพร่อง มันไม่เต็มมันจะต้องอาศัยเนื้อนี้ เอาเนื้อนี้มาเติมให้มันเต็มนั่นคือยา
ส่วนอาหารนั้นมันจะต้องใช้ทุกอย่าง ที่จะต้องใช้สังเคราะห์สังขารเป็นเนื้อหนังมังสาให้มีเรี่ยวแรงมีความคิด ทำงานอยู่ในโลก นั่นคืออาหาร อาหารและยาก็มีนัยยะต่างๆ
เราก็อาศัยจากพืชพันธุ์ธัญญาหารมาเป็นทั้งยาทั้งอาหารและเราจะได้สร้างสิ่งเหล่านี้ อาตมาก็ขอบอกพวกเรา
พวกเรายังมีพลังงานเหลือที่จะไปทำพืชพันธุ์ธัญญาหารได้อีก แผ่นดินเราก็ยังพอมี เหตุปัจจัยที่จะไปสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารได้มากก็ยิ่งดี ถ้ามันมีมากกว่านี้ก็ช่วยกันเผยแพร่ ช่วยกันกระจายให้คนอื่นต่อไป ถ้าเราเข้าใจอันนี้สมบูรณ์แล้วทุกคนก็มีวิริยะอุตสาหะ
เป็น วิริยารัมภะ เป็นคนปรารภความเพียร เป็นคนระดมความเพียร กระตุ้นอย่าให้เป็นคนเฉย คนชา คนหยุด มันมีแรงอยู่ก็รู้พักรู้เพียร เรายังมีแรงมีโอกาสมีเหตุปัจจัยก็ช่วยกันทำ ให้เก่งเป็นกสิกรเป็นนักสร้างสรรค์พืชพันธุ์ธัญญาหาร อย่างเต็มที่ สร้างให้ท่วมโลกไปเลย พูดให้มันเวอร์ๆ เสร็จแล้วก็ช่วยกันเก็บส่งขยายกระจายไป
เราไม่ขายเอาเปรียบ เราไปขายอย่างขาดทุนหรือแจกฟรี นี่เป็นอุดมคติอุดมการณ์ของเราเป็นความจริงใจ ไม่ใช่ดัดจริต ไม่ใช่เรื่องช่วยเขาแล้วก็จะไปเก็บกวาดเอาดอกเบี้ย เอารายได้ทีหลัง เราไม่เอา เราให้ไปสดๆให้แล้วก็ตัดบัญชีๆๆเลย เราอย่าประมาทให้จนกระทั่งเราเองไม่พอกินพอใช้เราก็แย่ แต่เราก็ทำเป็นอยู่แล้ว
สรุปพระพุทธเจ้าว่าคนมีสมรรถนะมีความขยัน มีความรู้ความสามารถสร้างสรรค์พืชพันธุ์ธัญญาหาร ไม่ต้องไปสร้างอาวุธ ไม่ต้องไปสร้างสิ่งมอมเมา ไม่ต้องไปสร้างสิ่งที่เป็นพิษ สร้างพืชพันธุ์ธัญญาหาร เรามีสมรรถนะ มีความรู้อันนี้และขยัน ให้รู้เพียร มันเพียรเต็มที่ ไม่ย่อหย่อน แล้วก็พัก อปฏิฐัง อนายูหัง เราไม่พักอยู่ (อัปปติฏฐัง) เท่ากับยังเพียรต่อไป เราไม่เพียรอยู่ (อนายูหัง) เท่ากับพักหรือไม่ต่ออายุอิทธิบาท เราเป็นผู้ข้ามโอฆสงสารได้แล้ว (โอฆมตรินติ)
ถ้าเราทำตรงอย่างที่อาตมาพูดไปคร่าวๆ เป็นกสิกรแข็งขันเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ของประเทศ ของโลกเลย ให้มันกระจายไปแก่ประเทศอื่นๆได้เผยแพร่ประเทศอื่นๆได้ ถ้าเผื่อว่าเราสามารถสร้าง เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า ที่คนต้องกินต้องใช้ แล้วเราก็ส่งออกไป
จะมีวิธีคิดถนอมอาหารได้ก็ดี ไม่ต้องถนอมอาหารส่งให้สดๆไปกินไปใช้ได้ก็ดีก็ทำ ถ้าเราทำอันนี้ได้อย่างอุดมสมบูรณ์ ได้อย่างมากๆๆๆ เท่าไหร่ มันก็จะเป็นเครื่องชี้บ่งความเจริญก้าวหน้า ไม่ใช่ความเจริญก้าวไกล แต่เป็นความเจริญก้าวหน้าเท่านั้น
เราไม่ได้ก้าวไกลจนกระทั่ง มีแผนที่ไกลออกไป แต่เราก้าวทุกก้าวที่เรามีความรู้ว่า เราก้าวไปข้างหน้านี้เราจะก้าวไปได้ เราไม่เวอร์ไปจนกระทั่งวาดฝันไปไกลเกินกว่าคิด
เราประมาณเท่าที่เราจะสามารถว่าเราไกลขนาดนี้ เราไม่เหลือบ่ากว่าแรง สํานวนไทยไม่เหลือบ่ากว่าแรงทำได้ โดยประมาณแล้วไม่เหลือบ่ากว่าแรงเป็นสำนวนไทยที่ประมาณแล้วพอดี เราก็ทำไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าเพิ่มความสามารถได้เพิ่มขึ้นก็ทำเพิ่มขึ้น คุณเพิ่มความขยันได้มากขึ้น คุณก็เติมความขยัน ไม่ได้ไปเบียดเบียนใคร เป็นความขยันของเรา ความสามารถของเราก็ไม่ได้ไปเบียดเบียนใคร มันออกมาจากพลังงานประสิทธิภาพของเรา เราก็สร้างก็ทำเต็มที่ ๆๆ
ผลผลิต จะเรียกว่า By Product ผลได้ ที่ตามสมรรถนะความสามารถของเราก็เป็นผลที่ตามมา ที่จริง ไม่ใช่ผลพลอยได้แต่เป็นผลตรงตามเหตุปัจจัยที่ผลิต เหตุมีก็ต้องมีผลตามนี้ ไม่ได้ผิดจากความจริงตรงไหนเลย เราไม่ได้ผิด ไม่ได้พลาด ไม่ได้เผลอไปตกต่ำอะไร เราทำพืชพันธุ์ธัญญาหาร
ถ้าเผื่อว่าเราไม่ต้องไปคำนึงเพราะอะไร เพราะอาหารเป็นหนึ่งในโลก นี่ก็เป็นคำสอนของพ่อเรา ใช่ไหม อาหารนี้เป็นหนึ่งในโลก คนต้องอาศัยทั้งนั้นเลย คนไม่ต้องอาศัยปืนผาหน้าไม้ คนไม่ต้องอาศัยสิ่งมอมเมา คนไม่ต้องอาศัยสิ่งที่เป็นพิษ คนไม่ต้องอาศัยสิ่งที่เป็นแฟชั่น เป็นสิ่งที่จะประเทืองหลอกล่อหรูหราฟู่ฟ่า เราเอาสิ่งที่มันชัดเจนเลย มาใช้ ไม่ต้องแค่น่านิยมแฟชั่น แต่เอาตัวชัดๆจริงๆเที่ยงๆว่าเราใช้มาแล้วเป็นมาแล้ว ไม่ผิดพลาดเป็นเนื้อแท้เนื้อหา ก็เต็มที่
นี่ อาตมา ได้ขยายความและบอกนัยยะสำคัญของสิ่งที่กำหนดกันผิดพลาด Economy หรือ Luxury ที่เป็นภาษาฝรั่ง ว่า คุณจะประหยัดมักน้อยหรือคุณจะทำให้ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยไป อะไรกันแน่
ในความกำหนดหมายของคุณ สัญญาอย่างหนึ่งแต่คุณก็ไปทำให้มันเป็น ภาพ เป็นสิ่งที่เกิดเป็นกาย เป็นการปรุงแต่งของรูปของนามอีกอย่างหนึ่งมันก็เป็นกบฏ มันก็ใช้ไม่ได้
ในความลึกซึ้งคำสอนพระพุทธเจ้าวิญญาณฐิติ 7 ถ้าเข้าใจ คุณจะสมัยใหม่เป็นอาภัสรา คุณก็ทำไปด้วยปัญญาให้ชัดเจน อย่าไปทำให้มันมืดๆงมงาย เป็นวิญญาณฐีติข้อที่ 4
แม้คุณจะทำวิญญาณฐีติข้อที่ 4 คุณก็มีแสงสว่างในตัวเอง มีสัมมาทิฏฐิเป็นตัวตัดสิน สิ่งที่รู้ยังไม่ชัดแต่เรามีไฟ เป็นไฟพิเศษแสงสว่างพิเศษเห็นความจริงอันนี้ชัดเจน ไม่คลุมเครือ แม้จะอยู่ในที่มืดเรียกว่า กิณหา เราก็มีแสงสว่างเป็น สุภะ เป็น สุภกิณหา ทำอันนี้อย่างมีแสงสว่าง อย่างมีความรู้เป็นสัมมาทิฏฐิ จัดการสิ่งนี้อย่างสมบูรณ์แบบ ก็จบลงที่ วิญญาณฐิติข้อที่ 4
ส่วนข้อที่ 3 เป็นอาภัสราคือสว่างแจ้งชัดเจนก็ไม่มีปัญหาอะไร ทำทุกอย่างถูกต้องตามที่รู้ที่เห็น มีเหตุปัจจัยถูกต้องสมบูรณ์แบบ อาภัสรา
ส่วนในเหตุปัจจัยที่มันไม่สว่างขนาดนั้น มันก็มีกิณหามันมืด มันดำมันคล้ำบ้างแต่เราก็ต้องทำปัญญาของเราให้เป็น สุภะ อย่าให้มันวิปลาสไปในสุภะ อย่าให้เข้าใจ อสุภะเป็นสุภะ เมื่อเราชัดเจนไม่วิปลาสมี สุภะ มันเก่งกล้าสมบูรณ์ตามเหตุปัจจัย
นี่คือคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ขยายความรู้ลึกไปถึงวิญญาณฐิติ 7
1 นั้นมันเละเทะ 2 นั้นมันจัดสัดส่วนได้เป็นปฐมฌาน ได้สัดส่วนที่พอมาพอดีได้ อันนั้นก็ทำ
แต่ทีนี้เหตุปัจจัยมันมากขึ้นก็ด้วยภูมิปัญญา หรือความสามารถที่พอดีทำสิ่งที่เป็นอาภัสรา เป็นสิ่งที่อาศัยใช้สอยอย่างชัดเจนสดสวยงดงามน่ารัก แม้เหตุปัจจัยมันลงไป มันจะคล้ำ มันจะมืด มันจะยากสักหน่อย เราก็จะต้องเติมความรู้ความสามารถเรียกว่า สุภะ อย่าสูงไป อย่าให้ผิดพลาด
ก็เป็นอันที่ 4 ของวิญญาณฐิติ ลืมตาอย่างมีเหตุปัจจัยครบ ไม่ใช่ทำอย่างงมคลำ
ส่วนอันที่ 5 ที่ 6 ที่ 7 วิญญาณฐิติอีก 3 อัน อันนี้เป็นเรื่องของเหตุปัจจัยของ cyclic order ของสามเส้า
-
อากาศ อากาสานัญจายตนะ ที่ว่าง
-
วิญญานัญจายตนะ