660913 ฌานวิสัย คืออจินไตย 4 ที่พ่อครูมีในตน พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก
ดาวโหลดเอกสารที่ https://docs.google.com/document/d/1FxgizMcs8uqcVAlE9QwPy1i8vqiYkDGG/edit?usp=sharing&ouid=101958567431106342434&rtpof=true&sd=true
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1b-1GKe7UQVd2KTaqYglII1bjVmLDdAID/view?usp=sharing
และ https://podcasters.spotify.com/pod/show/dhamaporkru/episodes/660913-108—4-_-e29918q
ดูวิดีโอได้ที่ https://youtu.be/1dP5zs0519c
และ https://www.facebook.com/100078722032092/videos/1387113891869948/
มีซับ https://youtu.be/wiuyrEIlDeU
สมณะเดินดิน… วันนี้วันพุธที่ 13 กันยายน 2566 แรม 13 ค่ำเดือน 9 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก ช่วงนี้บรรยากาศบ้านราชฯ ก็กำลังคึกคัก เพราะเรากำลังจะได้รับต้อนรับแขกคนสำคัญของเราคือน้องน้ำ กำลังจะมาเยี่ยมเยียน วันนี้พ่อครูอาจจะแสดงธรรมไม่ได้ครบคอร์ส เพราะหลังการเทศน์จะมีการประชุมวางแผนเตรียมต้อนรับ น้องน้ำ เราจะพยายามขนของตอนแห้งๆ ตอนที่น้ำยังไม่มามากหนัก เราทำอย่างเซฟตี้เลย ไม่ต้องสงสัยว่าจะท่วมหรือไม่ท่วม เราย้ายไปที่ชั้น 2 เฮือนบวรเลย วันนี้เราก็หน่วยพยาบาลโฮ่งปัวไปไว้ที่ชั้น 2 เรียบร้อยแล้ว
น้ำมาแต่ละทีเป็นเครื่องเช็คเครื่องตรวจสอบพวกเรา ใครมีทรัพย์สมบัติมากก็จัดทุกข์ทรมานมาก จะไม่ได้ทุกข์ทรมานเฉพาะเจ้าของ แต่ทำให้ท่านมือมั่นทุกข์ทรมานด้วย
พ่อครูว่า… เราก็ไล่ไปตาม SMS ชั่วโมงนึงรู้สึกว่าเป็นเรื่องจ้อยๆ ชั่วโมงครึ่ง – 2 ชั่วโมงก็ยังได้ เพราะกำลังมันยังดี
SMS วันจันทร์ที่ 11 รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม
_ใบฟ้า ธรรมะธารา นาวาบุญนิยม . ๑๐ อันดับเพลงโลกุตระที่โดนใจไพเราะ ของ “ครูรัก รักพงษ์”ในทรรศนะของ ลูกคนนี้
๑๐.ผกาดั่งนารี ๙.คนโลกเก่า คนโลกใหม่ ๘.สมรรถนะ ๗.ป่ากาม ๖.กองทัพพุทธธรรม ๕.แม่จ๋า ๔.อีกหนึ่งฟากฟ้า อีกฟากฟ้าหนึ่ง ๓.ขันติต้องไม่จาง (พ่อครูว่า…เขาชื่อว่า แสงธรรมต้องทอบวร) ๒.ก่อนสิ้นแสงตะวัน ๑.บูรณะภาพ
ขอกราบขอบพระคุณ ครูรัก รักพงษ์ พ่อครูสมณะโพธิรักษ์สำหรับศิลปะโลกุตระนี้ ด้วยสุดเศียรเกล้าฯ ค่ะ
พ่อครู เล่าความหลังได้อย่างมี “อภิปปโมทยัง จิตตัง” ลูกๆ ก็คงจะรื่นรมย์กันทั่วหน้า เช่นเดียวกับลูกคนนี้ค่ะ กราบขอได้กรุณาเล่าสู่แบบนี้เรื่อย ๆ นะเจ้าคะ
พ่อครูว่า…ถ้าเผื่อว่าอาตมาแก่จริงก็คงจะต้องพูดเรื่องเก่าๆ ก็คงจะดูไป พวกเราชาวดูไป
_โกสุม นาวา . น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่งเจ้าค่ะ ฟังธรรมวันนี้เวลาที่พ่อพูดถึงอดีตที่ผ่านมา ลูกรู้สึกว่า พ่อครูมีพลังและมีความสุข ลูกๆไม่ได้ฟังธรรมะก็ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ จะได้เป็นการให้พ่อครูได้พักและผ่อนคลายเจ้าค่ะกราบนมัสการเจ้าค่ะ
พ่อครูว่า…ก็เป็นความเห็นหนึ่ง
ความตั้งใจแต่เด็กของพ่อครูที่จะทำให้ได้
_ใจธรรม สิทธินาวิน . ฟังประวัติพ่อครูสนุกมากค่ะ ชอบค่ะ ได้ดูรูปเก่า ๆ ได้บรรยากาศมากเลยค่ะ
พ่อครูว่า…รูปแรกซ้ายมือชุดขาว ตอนเรียนโรงเรียนเพาะช่าง ภาพที่ 2 ก็เป็นโรงเรียนเพาะช่างกำลังไหว้ครูกัน พระวิษณุ ส่วนภาพที่ 3 ภาพนี้ต้องเล่าเพราะเกี่ยวถึงเพลง กระจุกที่กำลังยืนอยู่ทั้งหมดคือนักร้องที่ร้องกัน ไม่มีอาตมายืนอยู่ในตรงนี้ แต่อาตมาอยู่ในที่นี้ นี่เป็นที่สถานีวิทยุรักษาดินแดน นักร้องเป็นเมียพี่ล้วน คือพี่สะอาด นิลอร่าม ข้างหลังนี่ก็บุญส่ง นี่ก็เป็นเรื่องเก่าที่แต่ก่อน ก็อยู่กับวงการพวกนี้ร้องเพลง
อาตมานี่ชอบ เรียงคำไว้เลยนะ ตั้งแต่เด็ก เราเกิดมาชาตินี้จะต้องเป็นให้ได้ทั้งหมดเลยคือ 1. ร้อง แสดง แต่ง เรื่อง เพลง วาด พากย์ ถ่าย
คือ 1.จะต้องเป็นนักร้อง 2. จะต้องเป็นนักแสดง 3. จะต้องเป็นนักแต่ง และแต่งจะร้ต้องแต่งทั้งเรื่อง ทั้งเพลง ทั้งเป็นนักวาด ทั้งวาดภาพ ทั้งถ่ายภาพ เรียงไว้เลยตั้งแต่เด็ก ร้อง แสดง แต่ง เรื่องเพลงวาด พากย์ ถ่าย แต่ก่อนเขามีหนังก็เคยเป็นนักพากย์ แต่ไม่มาก แม้แต่ในโทรทัศน์ก็ได้พากย์ เขาให้ไปพากย์แต่หนังการ์ตูน หนังดีๆเขาก็ไปพากย์กับพระเอกนางเอก เราก็ว่าเราแน่เหมือนกันนะแต่ก็ไม่ได้ ทั้งๆที่เราชีวิตเป็นฆราวาสแต่ก่อนอยู่โทรทัศน์ก็ทำมาก่อนด้วย
อยู่กับนักพากย์ชั้น 1 ของประเทศเลยนะ คือ เพ็ญ ปัญญาพล กับเมียแก ศรี ปัญญาพล พากย์หนัง ยึดโรงหนัง เท็กซัส ฉายหนังแขก แก้พากย์คู่ผัวเมีย คู่เดียวนี่แหละจนกระทั่งตายเลย พากย์จนแก่จนตาย พากย์หนังอินเดีย หนังเท็กซัสโรงหนัง เท็กซัสเป็นที่รู้กันเลยฉายหนังอินเดีย ถนนหน้าโรงหนังเท็กซัส ขายข้าวแกงกะหรี่ เสร็จแล้วก็มีร้านขายน้ำหวาน เขาจะหั่นแตงโม น้ำหวานใส่โหลแก้ว แล้วหั่นแตงโมสุกเป็นชิ้นๆ เป็นลูกเต๋าใส่น้ำหวาน เดี๋ยวนี้สภาพเก่าๆหายไปหมดแล้วไม่เหลือพวกนี้เลย ประวัติศาสตร์พวกนี้
พูดถึงฉากนี้อยากจะเล่านิดนึง ฉากนี้คือฉากเวที แล้วอาตมาก็จัดการแสดงฉากที่เห็นคือฉากสุโขทัย เจดีย์สุโขทัย เป็น operetta ซึ่งไม่ใช่ Opera คือ Operetta นี้ มันต่างกันกับ Musical play ถ้า Musical play ก็คือละครเพลง แสดงและอาจจะมีร้องเพลงด้วย มีบทพูด มีภาษาพูดแทรกเข้าไปแล้วก็มีเป็นเรื่องราว
แต่ Opera หรือ operata และ operetta ก็คือ Opera น้อยๆ Opera ก็คือของฝรั่งเขา ใหญ่เลย คือเป็นการร้องเพลงกันทั้งเรื่องเลย เช่นเรื่องโรมิโอ – จูเลียต ก็ร้องกันทั้งพระเอกนางเอก ตัวประกอบทุกคนร้องอย่างไม่มีคำพูดเลย ส่วน Operetta ก็ร้องเหมือนกันทั้งเรื่อง แต่เป็นเรื่องที่เล็กกว่าสั้นกว่า อาตมาทำ Operetta แค่ 20 กว่านาที แสดงตั้งแต่เป็นเด็กนักเรียนเพาะช่างอยู่ ทำเรื่องนี้แล้วก็ออกแสดงงานศิลปหัตถกรรม แสดงแล้วอาจารย์สมโรจน์ เป็นผู้ดำเนินการ งานศิลปหัตถกรรม เขาก็อยากได้เรื่องนี้อีก ชอบมากให้ไปแสดงซ้ำอีก ก็เลยไปแสดงซ้ำ แต่นักแสดงชุดใหม่ อาตมาก็ต้องไปซ้อมเป็นเดือนนะ ทั้งร้องทั้งออกท่าทาง อาตมาก็เป็นคนดีไซน์ อาตมาเป็นคนหัดฝึกหัดแสดง ให้มันซิงโครไนซ์กันให้มันเข้ากันได้ ก็ได้ทำสิ่งเหล่านี้มาถ้าอาตมาอยู่ทางฆราวาสอาจจะสร้าง Opera นะ ให้คนไทยร้อง Opera เลย
_อัมพร กุลศักดิ์ศิริ . ชอบฟังพ่อครูเล่าเรื่องเก่า ๆ ครับ และอยากให้เด็กรุ่นใหม่ร้องเพลง “แม่มูล”
พ่อครูว่า…เดี๋ยวนี้เขาเปลี่ยนชื่อเพลงเป็นเพลงแม่จ๋าแล้ว มันร้องค่อนข้างยากอยู่ ถ้าจะให้ร้องเพราะต้องมีความสามารถหน่อยเพลงนี้ อุมาพรร้องได้ดีทีเดียว เสียงต้นฉบับที่ร้องพอได้คือเกศินี เป็นนักร้องขวัญดาว อาตมาคัดขึ้นมาร้อง เสียงแกค่อนข้างจะแข็งหน่อย ใช้คำใช้อะไรออกมามันก็แข็งอยู่บ้าง มันไม่เหมือนอุมาพรร้องออกมาได้ดี ถ้อยคำอะไรเสียงที่ออกมา Vibration ก็ดีพอสมควร ส่วนเกศินี vibration จะมากกว่าหน่อย แต่อุมาพรนี้ได้พอดีๆ ร้องได้ดีมาก vibration คือเสียงลูกคอ
ฟังลูกทุ่งชายที่ลูกคอมากก็คือมนต์สิทธิ์ คำสร้อย ลูกคอเขาจะกี่ชั้นก็ได้ ยิ่งสุนทราภรณ์แล้วก็โฉมเอยโฉมงาม เพลงแกร้องไม่มีลูกคอเลย สุนทราภรณ์
ปฏิสัมภิทาญาณของพ่อครูเป็นเช่นไร
_สว่างแสง ขวัญดาว . น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงสุดค่ะ ลูกขอกราบเรียนถามพ่อครูว่า พ่อครูเป็นสมณะผู้มีปฏิสัมภิทาญาณ คืออย่างไรคะ น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงสุดค่ะ
พ่อครูว่า…ปฏิสัมภิทาญาณ หมายความว่า มีญาณปัญญามาก มีญาณปัญญายิ่ง มีญาณปัญญาอันยิ่ง ซึ่งประกอบไปด้วย อัตถปฏิสัมภิทา ธรรมะปฏิสัมภิทา นิรุตติปะฏิสัมภิทา ปฏิภาณปฏิสัมภิทา
๑. สุกขวิปัสสโก (ผู้เห็นแจ้งโดยปัญญาเพรียวๆ)
๒. เตวิชโช (ผู้ใช้วิชชา ๓)
๓. ฉฬภิญโญ (ผู้ได้อภิญญา ๖ ฝ่ายเจโตสมถะ)
๔. ปฏิสัมภิทัปปัตโต (ผู้บรรลุปฏิสัมภิทา ทั้ง ๔ ได้แก่…
อัตถปฏิสัมภิทา ฉลาดในเนื้อแท้แห่งสัจจะ-เป้าหมาย
ธัมมปฏิสัมภิทา ฉลาดในสภาวธรรมต่างๆ ทั้งหมด
นิรุตติปฏิสัมภิทา ฉลาดในการมีภาษาบอกกล่าว
ปฏิภาณปฏิสัมภิทา ฉลาดในเชาวน์ไหวพริบ
(จากคัมภีร์วิสุทธิมรรค)
ประกอบด้วย 4 อย่าง 1. คือในความรู้มีความรู้ยิ่งมีความรู้อันยิ่งมีปัญญาอันยิ่ง มันพร้อมไปด้วย 1) เนื้อแท้ เนื้อหาสาระ 2) พร้อมไปด้วยธรรมะ 3) พร้อมไปด้วยภาษา นิรุตติ ภาษาพยัญชนะต่างๆมีมากพอ 4) ปฏิภาณ ไหวพริบ เป็นความเฉลียวฉลาดอยู่ในนั้น ทั้ง 4 ประการ อาตมาก็พอมีสิ่งนี้อยู่
ผู้ที่มีความรู้ก็สามารถรู้ได้ เป็นผู้ที่จัดอยู่ในพวกยอดของผู้รู้ ซึ่งมีเกจิหรือพระอรรถกถาจารย์ท่านเรียงเอาไว้ เป็น 4 ชั้น
อรหันต์ที่เป็นอรหันต์ไม่มีอะไรเลยคือสุขวิปัสสโก มีแต่วิปัสสนาญาณอย่างเดียวแล้วก็รู้แจ้งบรรลุ
ส่วนอีกคนหนึ่งมีเตวิชโช ก็ถือว่าเตวิชโชนี้สูงกว่าสุขวิปัสสโก อาตมานั้นถ้าจะว่าจริงๆน่าจะเอาสุขวิปัสสโกสูงกว่าเตวิชโช พวกเตวิชโชเป็นพวกสมถะ ส่วนสุขวิปัสสโกเป็นพวกวิปัสสนาไม่ใช่สมถะ
ขั้นที่ 3 คือฉฬภิญโญคือมีอภิญญา 6
ส่วนขั้นที่ 4 คือปฏิสัมภิทัปปัตโต คือมีพวกปฏิสัมภิทาญาณ อัตถปฏิสัมภิทา ธรรมะปฏิสัมภิทา นิรุตติปะฏิสัมภิทา ปฏิภาณปฏิสัมภิทา
_สื่อฟ้าศิลป์ ภูวนาถ . มนุษย์หูเทียมคุ้นชินการฟังธรรมะพ่อครูโดยการอ่านปากมาแต่เอ็ฟเอ็มทีวี จนถึงบุญนิยมตั้งแต่กู้ชาติ ๔๘ ในนาม ๓ สาว สกก.ปฝ.ฉช. มาต่อมวลมหาปชช.๕๗ ถึงปีล่าสุด ๖๖ ช่วงที่เครื่องช่วยฟังเสียไปกับการชุมนุมบ้าง อุบัติเหตุบ้าง เหตุสุดวิสัยบ้าง คุ้นกับน้ำเสียงพ่อครูเทศนาธรรมมาสิบๆปี แม้อยู่ในโลกเงียบ กราบอนุโมทนาธรรมพ่อครู สาธุ
พ่อครูว่า…เก่งนะเขาอ่านมือก็ว่ายากแล้ว แต่อ่านปากรู้ได้ด้วยละเอียดนะ อ่านปากแล้วก็รู้ว่าพูดอะไร เขาถนัดย่อคนนี้ อาตมาก็ถนัดงงเหมือนกัน สนใจธรรมะก็ดีแล้วคนนี้เขาก็เป็นศิลปินเหมือนกันหากินทางวาดรูป
_จนแท้ บุญคุ้มมาจน. กราบคารวะพ่อครู รัตภูมิ สงขลาภาพเสียงชัดเจนครับ
พ่อครูว่า…ตอบรับทางเทคนิคมา
_ชาญณรงค์ จินดาธรรม . ท่านผู้ใดผู้ทรงคชาธาร ทำยุทธหัตถีชนะขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด ผู้มีอัชฌาสัยอันทนไม่ได้ต่อความกรุณา ข้าพเจ้าขอกราบคารวะด้วยเบญจางคประดิษฐ์ ด้วยอัษฎางคประดิษฐ์ แทบเท้าพระนิยตโพธิสัตว์เจ้าองค์นั้น ด้วยความรักอย่างยิ่ง ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ด้วยความศรัทธาอย่างยิ่งครับ
พ่อครูว่า…ไม่รู้ผู้ใดผู้ทรงคชาธาร ทำยุทธหัตถีชนะขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด พวกเราว่า พ่อขุนรามคำแหง
วันอังคารที่ 12 รายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ภาคทบทวน
_จิ แก้วประดิษฐ์ . หนูโชคดีมากค่ะท่าน ได้เจอผัสสะทุกวันแล้วก็ได้อ่านผัสสะทุกวันสนุกทุกวันค่ะ สาธุค่ะ
พ่อครูว่า…ดีมาก ฟังธรรมะเข้าใจ แล้วก็รู้ว่า ผัสสะนี่แหละเป็นตัวสำคัญของการปฏิบัติธรรม อย่างพวกนั่งหลับตาอาตมาบอกว่าให้เลิกเถอะ มันไม่มีอปัณณกปฏิปทา 3 มันไม่ใช่ศาสนาพุทธ จะทำยังไงเขาจะได้รู้สึกรู้สา ว่าเอ๊.. จริงหรือ น่าจะสะดุดใจบ้าง ตรวจสอบดีๆ อ่านพระไตรปิฎกให้แตกๆ อ่านดีๆ ตั้งแต่พระสูตรแรก ก็อ่านไปเถอะพระสูตรเดียวก็ได้ พรหมชาลสูตร อ่านดีๆเถอะ ไม่มีผัสสะเป็นปัจจัย ไม่มีฐานที่ตั้งแห่งการปฏิบัติและมันก็โมฆะในศาสนาพุทธเท่านี้แหละ จุดเท่านี้แหละ ถ้าอ่านเข้าใจก็จะรู้สึกสะดุ้งเฮือกเลยนะ โอ้โห..ไปหลงงมงายหลับตาปฏิบัติอยู่ได้ เป็นลูกศิษย์เดียรถีย์ ลูกศิษย์ชาวนอกพุทธกัน จนกระทั่งเดี๋ยวนี้นี่มันเสื่อมมาตั้งหลายร้อยปีแล้วแล้วก็ไปโง่เง่าเสื่อมกันมาเรื่อยๆ มันก็เป็นจริงนะ ก็ไม่อยากให้เสื่อมก็บอกกัน ผู้ฟังด้วยดีได้ปัญญา ฟังดีๆพิจารณาดีๆแล้วก็ตรวจสอบดีๆ
ปุถุชนกับพระอาริยะทำใจในใจต่างกันอย่างไร
_ศศิกาญจน์ เพียรเริงพุทธ . น้อมกราบนมัสการท่านสมณะ ท่านสิกขมาตุ ด้วยความเคารพศรัทธายิ่ง ได้ฟังการเเสดงธรรมเเล้วทำให้เข้าใจความยินดี การทำใจในใจ มากยิ่งขึ้นค่ะ ตั้งเเต่เข้ามาศึกษาธรรมะสายอโศกยิ่งเข้าใจชัดเจน และมีความตั้งใจว่าจะตั้งใจฝึกฝนพากเพียรในการศึกษาธรรมะเเละนำความรู้ไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันให้อยู่เหนือทั้งทุกข์เเละสุขค่ะ..🙏🙏
พ่อครูว่า…คนทุกคน เกิดความยินดีได้ คนทุกคนทำใจในใจได้เพราะการทำใจในใจมันเป็นสัญชาตญาณ ทุกคนต้องทำใจในใจ แต่เป็นการทำใจในใจที่มีกิเลสเป็นเจ้าเรือน มีกิเลสเป็นเจ้านายก็เลยมีกิเลสเป็นตัวบัญชาการในการทำใจในใจ ใจในใจมันจึงล้มเหลว ใจในใจจึงเกิดกรรม เกิดการกระทำออกมา อย่างที่กิเลสมันเป็นตัวบงการ เพราะฉะนั้นวิธีปฏิบัติของพระพุทธเจ้าจึงให้มีผัสสะมีเวทนา จึงจะเกิดสมาธิ เพราะฉะนั้นสมาธิที่ไม่มีผัสสะ ไม่มีเวทนาเป็นตัวปฏิบัติจึงไม่ใช่สมาธิของพระพุทธเจ้าตามมูลสูตร นี้ชัดๆ
ต้องมีผัสสะและมีเวทนา จัดการกับเวทนา เอากิเลสออกจากเวทนาจึงเป็นกรรมฐาน เวทนา 108 อาตมาก็อธิบายยืนยันหลักฐานอ้างอิงมาหมด จนป่านนี้แล้ว 50 กว่าปีแล้ว บรรยายธรรมะ
ทำเวทนาให้เป็น 1 ซึ่งมันมี 2 มันมีเวทนาเก๊กับเวทนาแท้ ทำให้เวทนาเก๊เลิกไปหมดไปให้เหลือเวทนาเดียว ธรรมทั้งสองเหล่านี้ รวมเป็นอันเดียวกันกับเวทนา โดยส่วนสอง อธิบายไปหมดแล้วตามที่พระพุทธเจ้ายืนยันไว้ในพระไตรปิฎก ล.10 ข.60(เทฺว ธมฺมา ทฺวเยน เวทนาย เอกสโมสรณา ภวนฺติ ฯ )
ทำดีๆศึกษาดีๆอาตมาพูดทีไรก็สงสารพวกนั่งหลับตาปฏิบัติเกิดมาชาติหนึ่งเสียเวลาเปล่า เขารักศาสนา เขาอยากได้นิพพาน แต่มันเพี้ยนมันผิดทาง ไม่รู้จะทำยังไง มันเสื่อมจริงๆเสื่อมตามครูบาอาจารย์ที่เสื่อมกันมาก่อน เดี๋ยวนี้ก็ยังหลงครูบาอาจารย์เก่าอยู่ ยังไม่มี ปรโตโฆษะ มันก็เลยไม่เกิดสัมมาทิฏฐิ ไม่ฟังคนอื่นบ้าง
ดีไม่ดีมาตีอาตมาว่าเป็นกบฏ แล้วก็ไปยึดถือเถรสมาคมที่ยึดถือกันผิดๆ ครูบาอาจารย์ที่ผู้รู้ที่ศึกษาพยัญชนะ จบเปรียญ 9 จบ ด็อกเตอร์มา จากพุทธศาสนานอกประเทศ ซึ่งไปถูกเขาครอบงำมาทั้งๆที่นอกประเทศมันไม่มีพุทธศาสนา มันก็ได้แต่ศาสนาโลกีย์มา ศาสนาพระพุทธเจ้าเป็นโลกุตรศาสนาพระพุทธเจ้าเป็นโลกุตระ
จะมีประเทศไหนเขามีความรู้พุทธศาสนาโลกุตระถ้าไม่ประเทศไทย แต่มันเสื่อมจริงๆ ยืนยันยุคนี้มันเสื่อมไปโลกุตระหายไปตามที่พระพุทธเจ้าตรัสพยากรณ์ไว้ใน อาณิสูตร กลองอานกะ มันเสื่อมไปจริงแล้วอาตมาก็ยืนยัน อาตมาก็พูดจำนน จำเป็น จำต้อง จำยอม บอกว่าตัวเองเป็นผู้มากอบกู้เอาโลกุตระมาสถาปนาลงไปใหม่ เพราะมันหายไปจริงๆ ก็ยืนยันแล้ว จนป่านนี้แหละ จนจวนจะตายอยู่แล้ว ถ้าพูดอย่างนี้แล้วยังไม่เชื่อยังไม่ชัดเจน คนก่อนจะตายนี้ยังไงก็พูดความจริงนะ อาตมาก็ใกล้จะตายแล้วก็เชื่อบ้างเถอะ
_ธนกฤต สินหศิริ . รับชม รับฟัง ที่ตำบลนาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ ภาพและเสียงชัดเจนครับ
พ่อครูว่า…ขอบคุณ ตอบรับมาอย่างนี้ก็เป็นประโยชน์ ขอบคุณ
_สาริน ทองธรรมชาติ . กราบนมัสการพ่อครู ท่านสมณะและท่านสิกขมาตุทุกรูปด้วยความเคารพยิ่งคะ อนุโมทนาสาธุคะ ร่วมรับชมที่มหาสารคามชัดเจนดี ขอบคุณทีมสื่อบุญนิยมมากๆๆค่ะ ได้รับสัมมาทิฐิมากๆๆ คะทุกๆ ครั้งที่ชมคะ
พ่อครูว่า…ดี
_สว่างแสงบุญ บุญสุข . กราบนมัสการท่านสมณะท่านสิกขมาตุด้วยความเคารพค่ะ รับชมอยู่ที่อุทยานฯอุบลฯ ค่ะ ที่นี่ฝนกำลังตกค่ะ
ฌานวิสัย คืออจินไตย 4 ที่พ่อครูมีในตน
_ซึ้งซื่อ . วิเชียรครับ ขอกราบนมัสการพ่อท่านด้วย สุดเศียรสุดเกล้าครับ
ผมขอให้พ่อท่านช่วยอธิบายคำว่า อจินไตย 4 ด้วยครับ อันมี
1.พุทธวิสัยของพระพุทธเจ้า 2.ฌานวิสัยของผู้ได้ฌาน
3.วิบากแห่งกรรม 4.ความคิดเรื่องโลก
ขอกราบขอบพระคุณ พ่อท่านอย่างสูงยิ่งครับ
พ่อครูว่า…อันนี้คงจะอธิบายกันได้ยาว
อจินไตย คืออะไร อจินไตย แปลว่ามันไม่ใช่ความคิดของคนที่จะคิดเอาได้ ใช้ตรรกะใช้เหตุใช้ผล ฟังให้ดีนะใช้เหตุผล คนที่ศึกษาธรรมดาธรรมชาตินี่ใช้เหตุผล เหตุผลเป็นเรื่องสมมุติสัจจะ เป็นสมมุติธรรม มันไม่เข้าถึงปรมัตถธรรม หรือปรมัตถสัจจะ
ปรมัตถสัจจะคือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน เพราะฉะนั้นคนที่ศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้า มันไม่ผ่านมันไม่พ้น อจินไตย มันยังอยู่ในภาวะที่ ยังไม่เข้าไปถึงปรมัตถธรรมปรมัตถสัจจะ รู้เยอะแยะ
ในเถรสมาคมมีกองเจ้งเผ้งเลย แต่รู้แต่พยัญชนะรู้แต่สมมุติสัจจะ ไม่สามารถมี ภูมิธรรม ลึกเข้าไปอ่านจิตในจิต คือจะต้องรู้จักทั้ง กายในกาย
กายในกาย คำว่า กายในกาย มันก็ต้องมีนอก ใช่ไหม ถ้าไม่มีนอกจะเรียก กายในกายได้อย่างไร ก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจ
กายในกาย แล้วก็ เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม
เพราะฉะนั้นมี อจินไตย ยังเข้าไม่ถึงสภาวะ กายคืออะไร และในกายคืออะไร คำว่า กายก็ยังไม่สัมมาทิฏฐิ กายในกาย จะไปปฏิบัติเข้าไปถึงกายในกายได้อย่างไร เขาก็จะหลงผิดชัดเจน
ชัดเจนคืออย่างไร เขาก็จะเข้าไปอยู่ กายในกาย ตามพยัญชนะเพราะฉะนั้นเขาก็หลับตา เห็นไหม ก็บอกกายในกาย เขาก็หลับตาทิ้งกาย เขาก็ไปข้างใน ข้างนอกไม่เอา ตัดข้างนอกทิ้ง
เพราะฉะนั้นเมื่อตัดข้างนอกทิ้ง ผิดเลย เพราะคำว่ากาย ตัดข้างนอกทิ้งไม่ได้เลย ธรรมะพระพุทธเจ้า ต้องมีข้างนอกด้วย ต้องมีข้างในด้วยเสมอไป เป็น เทวะ เป็นภาวะ 2
ปฏิบัติหลับตาไม่มีกายภายนอก โมฆะ ผิดเลย พูดเท่าไหร่ๆเขาก็ยัง อจินไตย ไม่รู้เรื่อง คือ รู้แต่พยัญชนะ อาตมาพูดไปถึงปรมัตถสัจจะ ปรมัตถธรรม เขาก็ยังเหมือนไม่กระเตื้อง จบเปรียญ 9 ได้รับตำแหน่งยศศักดิ์ไปถึงขั้น ขออภัยถึงสมเด็จพระสังฆราช สมเด็จทุกชั้น ถือว่า เป็นเครื่องชี้บ่งความสูงของทางพุทธ ศาสนาพุทธกระแสหลัก
เพราะฉะนั้นคำว่า กาย คำแรกไม่สัมมาทิฏฐิ ไม่พ้น สักกายทิฏฐิ คำแรก สังโยชน์คำแรกในสังโยชน์ 10 ปฏิบัติธรรมะก็เป็น อจินไตย โมฆะ ได้แต่ ปทปรมบุคคล คือได้แต่ธรมรมโดยบท ได้ธรรมะแต่เพียงบท บทความ บทภาษา บทพูด ปทปรมบุคคล แปลว่าอะไร แปลว่า ผู้ที่ฟังพุทธพจน์ก็มาก บอกสอนก็มาก ซึ่งไม่ใช่ไม่รู้นะ ปทปรมบุคคล แปลว่า บัวใต้โคลน เป็นบัวเหล่าที่ 4 คือผู้ฟังพุทธพจน์ก็มาก บอกสอนก็มาก มีอีกอันคือ ทรงจำไว้ก็มาก บอกสอนก็มาก แต่ไม่ได้บรรลุมรรคผลในชาตินี้ นี่คือผู้ ปทปรมบุคคล
แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าเขาเป็น ปทปรมบุคคล ไม่ใช่คนไม่รู้นะ เป็นคนรู้พระพุทธพจน์มากด้วย มีคนยกย่องนับถือกันเลยว่ารู้มาก จำได้มาก สอนได้มาก เป็นพระไตรปิฎกเคลื่อนที่อะไรอย่างนี้ แต่ ไม่บรรลุธรรมในชาตินี้ ไม่เข้าถึงธรรม
ตัดกรอบบรรลุธรรม อาจจะพอพูดอย่างโมเมว่าน่าจะพ้นโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อธิบายไปถึงจิต เจตสิก รูป ไปถึงนิพพานไหม เขาสาธยายไม่ได้หรอก อธิบายไม่ได้ ไม่เหมือนอาตมาชี้แจงสาธยาย
เพราะฉะนั้นคำว่า อจินไตย จึงหมายความว่าได้แต่ตรรกะ ได้แต่ภาษา ไม่รู้สัจจะความจริงได้
อจินไตย4
พุทธวิสัยเป็นวิสัยของพระพุทธเจ้า อาตมาก็ไม่อาจเอื้อม อาตมาก็ต้องถือเป็น อจินไตย ยังล่วงล้ำเข้าไปไม่ถึงเขตขีดของพระพุทธเจ้า ไม่บังอาจ ถ้าอาตมาเป็นมหาโพธิสัตว์เป็นระดับ 8 เออ น่าจะพอพูดได้เพราะว่ามันชิดแล้ว ใกล้พุทธวิสัยแล้ว แต่อาตมายังคั่นอยู่ อาตมาเป็นแค่ระดับ 7 ยังไม่ประกาศ ไม่อาจเอื้อม
แต่อาตมาพูดถึงส่วนหลายส่วนของพระพุทธเจ้า ที่อาตมาฝึกเพื่อจะไปเป็นพระพุทธเจ้านี่แหละ แน่นอนอาตมาก็มีไม่ใช่น้อยแล้วเหมือนกัน แต่อาตมาก็ต้องรู้ระดับ รู้สัดรู้ส่วน
เพราะฉะนั้นพุทธวิสัยคือวิสัยของพระพุทธเจ้า เราก็เอาไว้ก่อน
-
หมายถึง ฌานวิสัย ตัวนี้ต้องพูดกันนาน มาถึงฌานวิสัย