661201 พ่อครูคือผู้สถาปนาโลกุตระปัญญา ล้างอวิชชาในยุคนี้ พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก
ดาวโหลดเอกสารที่ https://docs.google.com/document/d/1_1zC-A9fZTqlbxHkY7hLctnVuNoVjhBu/edit?usp=sharing&ouid=101958567431106342434&rtpof=true&sd=true
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/14jTKhNvyprUP8rb22dR_h1ctD30csjlu/view?usp=sharing
และ https://podcasters.spotify.com/pod/show/dhamaporkru/episodes/661201-108-1-e2cm0bc
ดูวิดีโอได้ที่ https://fb.watch/oFtU0fE4P_/
และ https://youtu.be/9HYUNN3J48s
สมณะฟ้าไท… วันนี้วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก วันนี้วันเริ่มต้นเดือนธันวาคม อีก 8 วัน จะมีงานศิษย์เก่าที่จะมีกิจกรรมงานบูชาพ่อวันที่ 9-10 ธันวาคม เขาบอกว่าคนลงทะเบียนประมาณซัก 300-400 คนที่เป็นศิษย์เก่า แต่ว่ามีผู้ติดตามมาด้วยอาจจะเป็น 500-600 คน มาที่ชุมชนราชธานีอโศก จะมาพักค้างประมาณ 100 คน ชาวราชธานีอโศกทุกคนถือว่าเป็นเจ้าภาพไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กผู้ใหญ่ สมณะ สิกขมาตุ
อาคารเฮือน0 ชั้น 3 ให้เป็นที่พักของผู้ที่มีครอบครัว ชั้นเฮือนศูนย์สูญ 2 ให้ผู้หญิงโสด ส่วนฝ่ายชายโสดให้พักที่อาคารบวร มี 3 ที่ใหญ่ๆที่จะให้พัก มีห้องน้ำมีสถานที่พักพอเพียงที่จะต้อนรับได้ เด็กเขามาเราก็ทักทายว่ามีที่พักหรือยัง บอกว่าเฟส 2 เขาไม่รู้เรื่องกับเรานะแต่ต้องพาเขาไป ถ้าเราไม่รู้เราก็ให้คนอื่นช่วยพาไป ทุกคนช่วยกันต้อนรับลูกหลานเรากลับมาบ้านทีนานๆ จะได้เห็นว่าชุมชนที่นี่น่าอยู่นะ พ่อแม่พี่น้องยินดีต้อนรับ บางคนเอาลูกหลานมาด้วยบางคนเอาพ่อแม่มาด้วย บางคนไม่เคยมาก็จะเข้าไม่ถูกแน่นอน
พ่อครูว่า… มีทั้ง SMS มีทั้งกวี มา อ่านกวีก่อนก็แล้วกัน
อโศกสัมปวังโก ขยันเขียนมา บางทีซ้ำซากก็อาจจะไม่อ่านทุกอัน ก็บอกไว้ก่อน บางอันไม่อยู่ในโอกาสก็ขอผ่านไป วันนี้คิดว่าจะอธิบายเรื่องนี้แล้วก็พอดีอ่านก็แล้วกันจะได้อธิบายต่อ
รูปฌาน ๔ (สามัญญผลสูตร)
ฌานหนึ่ง มีวิตก ที่จิตยก ขึ้นมาอ่าน
จากนั้น มีวิจารพฤติการณ์ จิตตามมา
ปิติ และสุขอันวิเวกนั้น ให้เกิดนา
อีกเอ-กัคคตาบ่มีอา-รมณ์ใดปาน
ฌานสอง วิตกไซร้สงบไป พร้อมวิจาร
สมา-ธิถึงกาลเข้ารับงาน ต่อทันใด
ปิติ และสุขนั้นจึงวิศัลย์ ยิ่งขึ้นไป
เอกัค-คตาไซร้ก็ทรงไว้ อย่างชินชา
ฌานสาม สติอันสัมปชัญ-ญะคู่ขา
เกิดด้วย องค์คุณห้าอุเปกขา พรรณราย
ปิติ ต้องจากไปมอบสุขให้ นามกาย
ภายนอก บ่ขาดหายเชื่อมกับภาย-ในได้การ
ฌานสี่ จิตสิ้นสุขพร้อมกับทุกข์ อวสาน
ของบุญ ผู้สังหารกิเลสลาญ-ชนม์คว้าชัย
องค์คุณ อุเปกขาจึงรักษา สติไว้
ให้ฌา-นิกอาศัยเป็นฐานใช้ เติมเมตตา
ดูกร บุตรสัตถุ อันจักษุ เอื้อปัญญา
อีกญาณ และวิชชาเกิดเพราะอา-โลกอวยแล
อโศก สัมปวังโก
หมายเหตุ กาพย์บทนี้ร้อยเรียงจากหนังสือคนจนที่มีแบบเล่ม ๒ หน้า ๒๗๓-๒๘๐ เนื่องจากเป็นองค์ธรรมที่เกินภูมิของผู้เรียบเรียง จึงใช้โลกจินตามากกว่าโลกสัจจะหลายเท่า หากถ้อยความใดไม่ตรงตามสัจจะ กราบขออภัยพ่อท่าน และแฟนคลับรายการพุทธศาสนาตามภูมิด้วยนะครับ
พ่อครูว่า… อาโลก ตัวสุดท้ายคือแสงสว่างโลกมีแสงสว่างเปิดเพราะฉะนั้นฌานที่แสงสว่างไม่มีไม่เปิดโลกไปหลับตาไม่ใช่ฌานของพระพุทธเจ้า แค่นี้เขาก็ไม่สะดุดใจ เข้าใจไม่ได้ในเรื่องฌาน พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ อโศกสัมปวังโกหยิบมาแล้วอธิบายในสามัญผลสูตรและในอีกหลายๆแห่งเยอะแยะเรื่องฌาน
ความเสื่อมของศาสนาพุทธมันเสื่อมจริงๆ เดี๋ยวค่อยๆลุยเลือดกันเรื่องความเสื่อมต่อ ขออ่าน SMS ก่อน ไปถึงจุดใดจุดหนึ่งก็อาจจะขยายความเรื่องฌานต่อไปเลย
SMS วันที่ 29 พ.ย.- 1 ธ.ค. 2566
อะไรคือเป้าหมายหลักของพุทธเจ้า
_ประเสริฐ ยศทะแสน . อะไรคือเป้าหมายหลักของพุทธเจ้าครับ
_สู่แดนธรรม… ผมขอตอบก่อนครับ พระพุทธเจ้าต้องสร้างพระพุทธศาสนาให้สำเร็จครับ
พ่อครูว่า… ก็เข้าท่าเหมือนกันเนาะ ต้องประกาศศาสนาต้องสร้างศาสนาขึ้นมาในโลก เป็นศาสนาของพระองค์ให้สำเร็จ โดยที่จะต้องมีผู้รับศึกษารู้ความ แล้วก็เอาไปปฏิบัติได้บรรลุมรรคผลและมีผู้ที่สืบทอด ขยายผลของความรู้หรือของธรรมะหรือพุทธธรรม ยาวต่อไปเป็นประโยชน์แก่ประชาชน จนกระทั่งถึงกัปป์ของแต่ละพระองค์ อย่างพระสมณโคดมพุทธกัปป์ของพระองค์ก็ 5,000 ปีจะต้องยืนยาวไปถึงขนาดนั้น สิ่งเหล่านี้เป็นสัจจะที่ยิ่งใหญ่ที่เป็นจริง เป็นอจินไตย มีคนเข้าใจไม่ได้ง่ายๆ
จะบอกว่าเป้าหมายหลักคือการสร้างความรู้ สร้างความจริง ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ความรู้ความจริง แล้วก็เอาความรู้ความจริงที่พระองค์ได้มาประกาศลงไป ในขณะที่ท่านไม่ประกาศออกมา ท่านสั่งสมเหมือนอย่างอาตมา อาตมาเป็นผู้ที่ศึกษาตามแล้วก็ตั้งใจจะไปเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง แล้วก็จะทำหน้าที่คล้ายๆพระพุทธเจ้าทุกองค์ ในยุคใดยุคหนึ่งก็สะสมความรู้สะสมความจริงนั้นไป แล้วก็เอาความรู้ความจริงนั้นไปประกาศลงไปให้แก่มนุษยชาติ ในยุคที่มนุษยชาติไม่มีความรู้ความจริงอันยิ่งใหญ่นี้ ความรู้ความจริงอันประเสริฐ ไปเป็นความรู้และความเลวหรือความหลอกลวงความไม่เป็นประโยชน์เป็นโทษเป็นภัยด้วย ในสังคมมนุษยชาติ ซึ่งมันก็เลยไม่มีความสงบ ไม่มีความสบาย ไม่มีสิ่งที่จะเกิดคุณค่าประโยชน์อย่างแท้จริงแก่กันและกัน ในความเป็นมนุษย์ในสังคมนะ นี่เป็นเรื่องที่รู้ยาก
อย่างชาวขออภัยต้องพูดจริงๆ กล่าวความจริงชาวเทวนิยมศาสนาพระเจ้า ไม่ได้รู้ความรู้ความจริงที่บริบูรณ์ รู้ความจริงความรู้ที่มีแต่ส่วนโลกียะมีดีกับชั่ว ก็พยายามสร้างให้คนทำความดีก็ไม่เสียหลายหรอกแต่ว่า มันวนแล้วมันก็ไม่ได้เกิดความสงบสุขอันสมบูรณ์แบบอะไร อย่างที่เป็นกันอยู่ทั่วโลก ที่ความรู้เป็นเทวนิยม แม้มาได้พระพุทธศาสนาแล้วมีศาสนาพุทธตราลงไปในประเทศแต่ละประเทศ แต่ก่อนเกิดที่อินเดียขยายผลไปสู่ประเทศนั้นประเทศนี้จนกระทั่งอินเดียไม่เหลือแล้วกลายเป็นเทวนิยมสมบูรณ์ แบบฮินดูอะไรไป มันเสื่อมกลับไปเป็นอย่างนั้น
ก็เหลืออยู่ทางเอเชีย ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็มีประเทศไทยรับไว้ได้ที่มีแก่นโลกุตรธรรมอยู่ทุกวันนี้ ที่มีนี่ ในยุคนี้ 2,500 ปีผ่านมา ที่มีแก่นโลกุตรธรรมอยู่ในประเทศไทย อยู่ได้นี้ก็เพราะผู้มีแก่นเอาแก่นมาประกาศลงไปอีก ประเทศไทยในยุค 2,500 ปีนี้จึงมีโลกุตรธรรมขึ้นมา แก่น ส่วนใครเป็นผู้เอามาประกาศนั้น อาตมาไม่บอกว่าเป็นใคร ก็ไปสืบสาวหาความรู้เอา ใน Google ก็คงบอกไม่ได้ Google นี้บอกได้สารพัดแต่เรื่องนี้อาตมาว่า Google บอกไม่ได้ ไม่มีภูมิพอ
สรุปแล้วเป้าหมายหลักนั้นคือสิ่งที่รู้แจ้งความรู้และความจริงอันยิ่งใหญ่ ในความเกิดดับของจิตวิญญาณ สรุปเข้าเป้าอย่างนี้ ศาสนาพุทธรู้จักจิตวิญญาณที่เป็นประธานชีวิต ชีวิตของคนทุกคน และจัดการกับจิตวิญญาณนี้ได้สมบูรณ์แบบ สรุปจบตรงนี้
สมบูรณ์แบบก็ขอขยายความอีกนิดก่อนจะจบ
-
ขั้นสามัญ รู้จักดีชั่วตามสมมติสัจจะแล้วก็ไม่ปฏิบัติชั่วเลยปฏิบัติแต่ดี
-
รู้จักสุขรู้จักทุกข์แล้วก็ไม่เป็นทาสสุขทุกข์ เป็นอรหันต์
-
เป็นมนุษย์ที่จะนำความรู้นี้รู้โลกรู้อัตตา รู้สิ่งที่รวมกันอยู่ใน ทุกสิ่งอย่างร่วมกับนามนี้ แล้วก็เอามาประกาศละเอียดไป ขยายความไปถึงกรรม และสิ่งที่มันเกิดอยู่ในกาละ จนสุดท้ายรู้ทุกสิ่งทุกอย่างของโลกและอัตตาที่จะจัดการโลกและอัตตา ไปตามกาล จนกระทั่งจากกาละไปเลย สมบูรณ์แบบ