590204_พุทธศาสนาตามภูมิ-เรื่อง-จุลศีล-มัชฌิมศีล
คลิกที่นี่เพื่อดาวโหลดเสียง
พ่อครูว่า…วันนี้วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ 2559 แรม 12 ค่ำเดือนยี่ปีมะแม เราก็มาศึกษาเล่าเรียนเพิ่มภูมิปัญญา เพิ่มฐานะของความเป็นมนุษย์ ก็หมายความว่าเรารู้จักความเป็นมนุษย์ ชนิดที่รู้ถึงปรมัตถ์ เข้าไปถึงจิตเจตสิกรูปนิพพาน เป็นมนุษย์หรือจิตสูงจิตประเสริฐ รู้จักประโยชน์ในความเป็นชีวิต จนเป็นคนมีประโยชน์ถ่ายเดียว เรียกว่าพหุชนหิตายะ สร้างประโยชน์ให้แก่มวลมนุษยชาติไม่มีโทษไม่มีภัย ไม่มีสิ่งเสียหายอะไรสำหรับท่านเลย
ไม่ง่ายทีเดียวแต่เป็นเรื่องจริง เรื่องประเสริฐยิ่งใหญ่มาก ทุกวันนี้คนอ่อนแอในทางภูมิปัญญาทุกอำนาจโลกโลกีย์ครอบงำดึงลงต่ำ จนปัญญาเลิกเถอะ ปัญญาความรู้ที่ควรจะรู้ทั้งที่เป็นพุทธศาสนิกชน แล้วก็เรียน เสร็จแล้วก็ได้ ลาภได้ยศ ได้ ชั้นของความเป็นโลกโลกและออกไปบำเรอ ไปสร้างความต่างให้แก่ตนเองต่อไป มันน่าสังเวชใจ ที่พูดอยู่ในแวดวงศาสนาพุทธแต่ใช้ความรู้ของพระพุทธเจ้า จริงๆแล้วไม่ได้ใช้ความรู้ของพระพุทธเจ้า แต่ใช้เล่ห์กล ใช้กิเลสของตนเอง เอาภาพของพระพุทธเจ้าบางหน้า คนใช้กิเลสของตนเองนั้น สร้างกิเลสทับถมตนเอง สร้างโทษภัยให้สังคมประเทศชาติสังคมโลก
อย่างเหตุการณ์ในเมืองไทย มันเห็นชัดเจนมากสำหรับผู้ที่ควรจะได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำ เป็นผู้ที่เป็นตัวอย่างสำคัญเป็นไอดอลของศาสนาพุทธ ที่ยกว่าเป็นเบอร์ 1 ของวงการศาสนาเสร็จแล้ว ทุเรศทุรังการ มันน่าเศร้าจริงๆในวงสังคมศาสนาพุทธ ของเมืองไทย
ถ้าพูดอย่างความรู้สึกของคนคนนะมันสุดจะเจ็บแสบ ก็ต้องช่วยกันตัดไฟแต่ต้นลม อาตมาก็ไม่ได้มีหน้าที่ที่ทางราชการตั้งด้วยซ้ำไป
มาดู Sms 2ก.พ.59 บ้าง
0893867xxx กราบขอบคุณพ่อครูฯนำพระตปฎ.มาสอนพร้อมกับคำแปลพาหุง มหาการุณิโกที่ผู้น้อยสวดทุกคืนก่อนนอนสาธุ
พ่อครูว่า…อาตมาสบายใจที่ได้นำหลักฐานเบอร์หนึ่งของโลกสำหรับศาสนาพุทธมาอธิบาย อันไหนไม่ตรงก็ติงไปบ้างแต่ถือว่าใช้ได้มากแล้ว ก็เป็นการฟื้นดึงเอาสัจจะหลักฐาน ที่เป็นพุทธสัจจะขึ้นมากอีก อาตมาก็ตั้งใจจะทำไปนานเท่านาน พระไตรปิฎกมีอีกเยอะ อ่านไปได้อีกจนตาย ตอนนี้วนอยู่ที่ศีล ซึ่งเป็นธรรมนูญของศาสนาพุทธ
0893867xxx คนที่จะทำปชธต.คืออำนาจใหญ่ยิ่งเป็นของปชช. คงมีแต่คนที่มีจิตปริโยทาตาที่ถึงพร้อมด้วยวิชชาจรณะจริงดังพ่อครูกล่าว!
พ่อครูว่าใช้ศัพท์อันเป็นองค์ธรรมหนึ่งในห้าของอุเบกขาเลย อันนี้แสดงถึงภูมิคนเขียนว่าเข้าใจอุเบกขาได้ไม่ใช่น้อย เมื่อสั่งสมอุเบกขาก็จะบริสุทธิ์ขาวรอบชัดเจนขึ้น คนที่มีจิตศรัทธาบริสุทธิ์เป็นฐานอรหันต์ ก็ทำงานไป ปฏิบัติธรรมแบบพระพุทธเจ้าไม่ได้ให้หยุดทำงาน ในขณะพูด เป็นสัมมาวาจาในขณะคิดมีสัมมาสังกัปปะ ก็มีจิตวิเคราะห์วิจัย เป็น analysis ไม่ใช่ hypnosis เขาไปสะกดจิตให้เกาะที่หนึ่งเดียว เป็นการสะกดจิตตรงๆ.
ยิ่งมีการปฏิบัติมรรค ๗องค์จิตก็จะยิ่งแคล่วคล่องว่องไว เป็นกายปาคุญญตา มีธรรมะสองไป แล้วจะเกิดความชำนาญในธรรมะสอง มีความรู้รอบเร็วไว จิตก็ยิ่งดีมากทั้งเวทนาสัญญาสังขาร เรียกว่าหมวดเจตสิก ๓ ทางเจโตเป็นจิตหัวอ่อนก็แววไวปรับได้ง่าย จะมีตัวรู้ปัญญาที่รู้เร็วไวปรับได้ง่าย ไม่ใช่กระด้างแข็งทื่อเลย เป็นจิตกายกัมมัญญตา เป็นธรรมะสอง เพราะเป็นกาย มีองค์ประชุมรูปนาม ประกอบกรรมทำการงาน โดยมีสติ รู้จิตของตนว่า ตนใช้จิตเรา จะสังขารอย่างไร อภิสังขารอย่างไรให้จิตเราเป็นอย่างไรก็ มีจิตเป็นประธาน เป็นจิตที่อุเบกขา
อาตมาว่าตั้งแต่อนาคามีถึงอรหันต์จิตจะมีคุณสมบัติเช่นนี้แน่นอน
Sms 3 ก.พ.59
0892297xxx ลูกอยู่ไกลแต่ชอบฟังพ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้าเย็นทุกวัน ไม่มีเบื่อเลยเจ้าค่ะเบิกบานเข้าใจดีและพากเพียรทำเจ้าค่ะ
0893867xxx พ่อครูสอนการปฏิบัติไปสู่ความเป็นพุทธแท้ตามพระตปฎ.เล่ม9ทุกพระสูตรที่รวมกันในไตรสิกขามีจรณะ15วิชชา9!
ส.บินก้าวแจ้งมาทางไลน์ว่า..
แจ้งข่าว ครูทราย ที่เคยขอให้พ่อครู อธิบายเพลง… อาจารย์เธอ เอาด้วย ตอนนี้กำลังบรรเลงจัดหมวดหมู่ว่า เพลงพ่อครูแต่ละเพลง…แล้วอธิบายออกมาเป็นหลักวิชาการ… บางเพลงก็คิดออกไง ตอนนี้ บางเพลงก็คิดไม่ออก..
จุดหมาย คือ แต่ละเพลงตรงกับทฤษฎีอะไรในญาณวิทยา…
ทฤษฎี ในญานวิทยา1. เหตุผลนิยม2. ประจักษ์นิยม3.เพทนาการนิยม4. อนุมานนิยม5. อัชฌัติกญาณนิยม6. จิตนิยม7. สัจนิยม8. ปฏิบัตินิยม
เธอถามมาบ่อย ๆ เช่น.. ครูว่ามันเข้ากับทฤษฎีไหนค่ะ ?
เพลงฝั่งฟ้าฝากฝัน…ช่วยหนูคิดหน่อย… นู๋สมองตันไปหมดแล้ว
พ่อครูว่า ลองมาคุยกันดู อาตมารู้สึกสนุก ถ้าทำเป็นวิชาการยิ่งดีอยากอธิบาย อยากคุยด้วย
มาต่อในจุลศีล จากเมื่อวาน
(8) เธอเว้นจากการพรากพืชคามและภูตคาม
(9) เธอฉันหนเดียว เว้นการฉันในราตรี งดจากการฉันในเวลาวิกาล
(10) เธอเว้นจากการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรีและดูการเล่น อันเป็นข้าศึกแก่กุศล (พ่อครูว่า ทุกวันนี้ออกข่าวการบันเทิง กีฬานี้ลงทุนหนัก ทั้งที่เป็นอบายมุข จนทำเป็นอาชีพที่เป็นนรกปหาสะ แต่ถ้าเราสัมผัสการละเล่นอะไรก็ตามมันทำให้กิเลสฟูฟองไม่ละหน่ายคลาย นั่นคือการเป็นข้าศึกแก่กุศล แต่เดี๋ยวนี้ไม่เข้าใจแล้วหลงตนว่าเป็นศิลปิน ซึ่งที่จริงศิลปะแท้จริงมี ๕ แขนงหลักแต่ทุกวันนี้เลอะเทอะไปหมดแล้ว แล้วไม่เข้าใจว่า งานที่ทำมาไม่ว่าจะแง่ไหน คนสัมผัสงานแล้วอย่าให้เกิดกิเลสอันเป็นข้าศึกแก่กุศล ถ้าคุณเขียนรูปโป๊เปลือยแล้วคนสัมผัสแล้วกิเลสลดเป็นมงคลอันอุดม กับคนสัมผัสแล้วกิเลสขึ้น เป็นข้าศึกแก่กุศล
อาตมาแบ่งศิลปะเป็น ๑.ลามก ๒.ราคะ ๓.สาระ ๔.ธรรมะ ๕.โลกุตระ
แต่งานของเขาที่ลามกหรือยั่วราคะก็ไม่ใช่ศิลป์แต่เร่ิมมีสาระก็เป็นศิลป์ต้องมีสุนทรียศิลป์และสารศิลป์ผสมผสานกัน สุนทรีย์ศิลป์คือสิ่งที่ชี้ชวนให้ชมให้ดู แต่ถ้าสารคดีก็จะมีวิชาการแท้ๆ แต่ศิลปะต้องมีทั้งสาระและสุนทรียะ แต่คนต้องไม่ให้ติดในสุนทรียะ เช่นยานั้นขมไม่น่ากิน ก็เลยเอาน้ำตาลเคลือบใส่สี ให้เด็กกินได้ ผ่านคอแล้วเป็นยา สีหรือน้ำตาลไม่เป็นพิษภัยด้วย แต่ทุกวันนี้เยิ้มเลย น้ำตาลสีสัน เต็มไปด้วยสุนทรียะ แล้วหาเอกลักษณ์ของตนให้คนมาติดงานของฉัน
ทุกวันนี้มอมเมากันด้วยการกีฬาถึงขั้นเป็นโอลิมปิคแข่งกันเด่นดังมอมเมากันจัดจ้านหรูหรายิ่งใหญ่ พากันฉิบหายกันมอมเมาด้วยจิตหลงใหลได้ปลื้มไม่เข้าใจถึงสาระ ชาวอโศกเราเข้าใจสัจธรรม ไม่ได้ไปยิ่งใหญ่พวกนี้ เด็กๆฟังให้ดีๆอย่าไปหลงใหลมันเป็นแค่สิ่งประกอบ เป็นการใช้อาศัยอยู่ relax นิดหน่อยแต่ไม่ใช่เป็นงานที่ต้องเอาเป็นอาชีพเลย ในการบันเทิงและการกีฬา ถ้าเอาไปเป็นอาชีพก็จะพัง อินเดียเขาเข้าใจสาระไม่ไปเอาเด่นดังทางนี้ ต่างกับจีน ที่ไปทางการกีฬาเยอะ ส่วนทางการบันเทิงอินเดียก็เชยๆส่วนจีนนั้นไปทั่วโลก
(11) เธอเว้นขาดจากการทัดทรงประดับ และตบแต่งร่างกายด้วยดอกไม้ ของหอมและเครื่องประทินผิว อันเป็นฐานแห่งการแต่งตัว พ่อครูว่า…เรื่องดอกไม้ศาสนาพุทธไม่เอามาบูชา ดอกไม้ของหอมผู้หญิง เป็นวัตถุที่อย่าไปยุ่งเกี่ยว พวกนี้ไม่ใช่เครื่องบูชาให้ปฏิบัติบูชา ศาสนาทั่วไปใช้ดอกไม้กันทั้งนั้น เป็นวัตถุอนามาสทั้งนั้น โดยเฉพาะดอกไม้ของหอมเต็มวัดเต็มวา เป็นเรื่องนอกรีตกันทั้งนั้น
(12) เธอเว้นขาดจากการนั่งนอนบนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ พ่อครูว่าเป็นเครื่องแสดงศักดิ์ฐานะ จะเป็นอุปโภคอะไรที่หรูหราใหญ่โตที่โลกเขาใช้กัน อย่างธรรมกายเป็นตัวอย่างอันนอกรีตไปไกลทั้งหรูหราประดิดประดอย เต็มคราบ ล้มล้างของพพจ.สิ้นเชิงเลย
(13) เธอเว้นขาดจากการรับทองและเงิน
(14) เธอเว้นขาดจากการรับธัญญาหารดิบ
(15) เธอเว้นขาดจากการรับเนื้อดิบ
(16) เธอเว้นขาดจากการรับสตรีและกุมารี
(17) เธอเว้นขาดจากการรับทาสีและทาส พ่อครูว่า ภิกษุในศาสนาพุทธมีลูกศิษย์คือทาสและทาสีไม่ได้ แต่ในวัดจะมีลูกศิษย์มารับใช้แล้วหาเงินส่งเสียให้เด็กเรียนหนังสือ ไม่ใช่มาศึกษาธรรมะนะ ถ้ามีคนมารับใช้เป็นลูกศิษย์ หาเงินให้ร่ำเรียนจบไปเป็นบุญคุณกันไป อันนี้ภิกษุไม่มีหน้าที่นี้ ผิดถนัด
แต่ถ้าเขามาเพื่อศึกษาธรรมะอันนี้เป็นลูกศิษย์แท้ไม่ใช่คนรับใช้ ผู้รู้เนื้อหาแท้ก็จะไม่ทำ แต่ทางโลกจะทำบ้างก็แล้วแต่ แต่ภิกษุไม่มีหน้าที่เลย
(18) เธอเว้นขาดจากการรับแพะและแกะ พ่อครูว่า จะต้องอาศัยขนและนม
(19) เธอเว้นขาดจากการรับไก่และสุกร พ่อครูว่าอาศัยเพื่อฆ่ากินเลย
(20) เธอเว้นขาดจากการรับช้าง โค ม้า และลา พ่อครูว่า อาศัยเพื่อใช้แรงงานของมันเลย ยิ่งไปเลี้ยงแบบสัตว์เลี้ยงแล้วผูกพันกันจะเกิดเดเวรกรรมอจินไตย ถ้าคุณเร่ิมผูกพันไปกับสัตว์ตัวนี้ เช่นผูกพันกับหมา กับหมู กับไก่ มันเป็นสัตว์เดรัจฉานที่กำลังพัฒนาไม่ใช่จะมาเป็นคนได้ง่ายๆ คนได้คุณสมบัติได้ร่างเป็นคนแล้วก็เป็นคุณสมบัติอันหนึ่งเป็นขีด เสร็จแล้ววิบากตัดก็เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน แต่สัตว์ที่ไม่เคยเป็นคนเลย ไม่ถึงขีดเป็นคน ชั้นต่ำ แต่ก็เอามาเลี้ยงจนผูกพันไปอีกหลายชาติ คุณจะผูกพันไปจนสมสู่กับสัตว์ อย่าทำเป็นเล่นไป มีจริงด้วย และมันดีนักหรือที่คนต้องสมสู่กับสัตว์ อย่าไปผูกพัน เรารู้ไม่ได้ว่าสัตว์นี้จะอยู่ระดับไหน แล้วมันจะเกิดมาอีกหลายชาติ คุณต้องเกิดมาอีกสักวันหนึ่งจะได้สมสู่กับสัตว์ ผู้หญิงก็ได้สัตว์เป็นผัว ผู้ชายก็ได้สัตว์เป็นเมีย
อย่าเอามาเลี้ยงให้สัตว์มันเกิดมารับวิบากไป ส่วนตนเองที่เกิดเป็นคนแล้วกลับเป็นสัตว์อีกก็ไปรับวิบากไป ยิ่งไปเลี้ยงมากิน มาขายมาฆ่า แล้วคุณจะไม่รับวิบากหรืออย่างไร
แค่วิบากกับคนนี่ก็เยอะแยะไม่ถ้วนแล้ว จนพพจ.ว่า คนที่เกิดมานี้หาได้ยากที่จะไม่ได้เป็นพ่อแม่พี่น้องกัน เพราะคนในยุคที่เกิดมาในยุคเดียวกันก็จะมีวิบากร่วมกัน เป็นเทือกเขาเหล่ากอกัน โดยเฉพาะเป็นสัตว์ด้วย พ่อแม่ปู่ย่าตายยายก็เกิดมาเป็นสัตว์เราจะไปกินได้อย่างไรเนื้อพ่อแม่พี่น้องญาติเรา
(21) เธอเว้นขาดจากการรับไร่นาและที่ดิน พ่อครูว่า มีคนเอาที่ดินมาถวายอาตมา จนเดี๋ยวนี้เป็นที่ดินชาวอโศก อาตมาไม่เคยรับมาเป็นของตน ไม่ใส่ชื่อตนเลย ไม่เคยคิดเลย รับมาก็เป็นของชาวอโศกส่วนกลางเป็นเรื่องลึกซึ้งวิเศษมาก เพราะตอนนี้ที่ดินนั้นเป็นเจ้าของกันหมดละเมิดกันไม่ได้ แม้วันนี้ก็มีคนมาละเมิดที่ดิน เราก็ต้องไปดูว่าละเมิดหรือไม่
ใครจะมาบริจาคที่ดินให้ชาวอโศกก็ไม่ให้ตั้งเงื่อนไข ถ้าจะมาถวาย แต่ถ้มีเงื่อนไขก็ไม่รับ แม้แต่เราจะเอาไปทำอะไรจะเอาไปขายก็แล้วแต่ ที่นี่แม้ผู้จะมาบวชเป็นพระ พอเริ่มต้นเป็นเณรก็ต้องไปสละทรัพศฤงคารก่อน ของเราเข้มงวดขนาดนี้ ภิกษุเราไม่มีชื่อเป็นเจ้าของที่ดินแม้สิกขมาตุก็เช่นเดียวกัน มาแต่ตัวกับหัวใจ โภคขันธาปหายะ แต่เดี๋ยวนี้หย่อนยานมากแล้ว
(22) เธอเว้นขาดจากการประกอบทูตกรรมและการรับใช้ พ่อครูว่าจะไปเผยแพร่ศาสนาก็ทำได้แต่ถ้าเป็นไปเพื่อกิจแบบโลกๆไม่ได้ แม้ที่สุดไปรับใช้เอาค่าตอบแทนไม่ได้ คนรับจ้างนั่นคือคนรับใช้ ทำงานเพื่อเอาสิ่งตอบแทนคือคนรับใช้
คำว่า โลกานุกัมปายะ(รับใช้โลก ช่วยโลก) คือคนรับใช้โลก อนุเคราะห์โลกช่วยโลกคือคนรับใช้ผู้อื่นจริงแต่ไม่ใช้คนรับจ้าง ผู้ใดไปทำงานให้เขาแม้จะเทศน์ให้ฟังแต่คุณก็รับเงินจากเขาอันนี้ไม่พ้นมิจฉาอาชีวะข้อ ๕
กุหนา คือโกง ลปนาคือหลอกลวง เนมิตกตา คือหลอกลวง นิปเปสิกตาคือมองตนในทางผิด ลาเภนลาภังนิชิคิงสนตา คือทำงานเอาลาภแลกลาภ แต่ไม่เอามาทำก็ล่อกันเละเลย
อย่างธรรมกายนี้หลอกลวงคนเก่งฉิบหาย เอาภพชาติหน้ามาหลอกคน คุณต้องเอาการล้างภพปัจจุบันเป็นสำคัญ แต่ไปสร้างภพชาติหน้าให้กัน ไม่ต้องพูดถึงอนาคต หากสัจจะคุณเป็นของแท้เป็นกุศลก็จะได้กุศลในอนาคตแน่นอน ส่วนในอนาคตนั้นจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้แต่ที่จริงที่สุดคือ กิเลสความต้องการอยู่ข้างหน้าคืออนาคต เส้นทางไปเถิดวันนี้พรุ่งนี้จะรวย หลอกกันไปด้วยการสร้าง top ไม่ได้เป็นไปเพื่อเขาความลดละภพชาติเป็นการเอาภพชาติมาสะสมได้แก่คนการไปบอกว่าอนาคตจะได้อะไร ว่าครั้งหน้าจะมีอะไรจะมีวิบากเป็นผลเป็นกุศล บาปก็มีกุศลก็มี แต่ไม่ต้องมาสร้างวิมานหลอกล่อเพราะมันเป็นภพชาติ แต่ให้มาเรียนรู้ปัจจุบันล้างภพชาติในปัจจุบันจะเข้าใจไปตามลำดับ
(23) เธอเว้นขาดจากการซื้อการขาย
(24) เธอเว้นขาดจากการโกงด้วยตราชั่ง การโกงด้วยของปลอม และการโกงด้วยเครื่องตวงวัด
(25) เธอเว้นขาดจากการรับสินบน การล่อลวง และการตลบตะแลง
(26) เธอเว้นขาดจากการตัด การฆ่า การจองจำ การตีชิง การปล้น และกรรโชก แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง
พ่อครูว่า เป็นความหมายของการทำร้ายตั้งแต่การตัดการฆ่า ไปเป็นลำดับ จุลศีลนี้ใช้ละล้างกิเลสส่วนตน แล้วมัชฌิมศีลเป็นการขยายรายละเอียดส่วนตนนี้เพิ่มขึ้นมีเกี่ยวกับเดรัจฉานกถา ส่วนมหาศีลเป็นศีลส่วนรวม
3.2 มัชฌิมศีล
(1) ภิกษุเว้นขาดจากการพรากพืชคามและภูตคาม เช่นอย่างที่สมณะพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังประกอบการพรากพืชคามและภูตคาม เห็นปานนี้ คือ พืชเกิดแต่เง่า พืชเกิดแต่ลำต้น พืชเกิดแต่ผล พืชเกิดแต่ยอด พืชเกิดแต่เมล็ด เป็นที่ครบห้า แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง
(2) ภิกษุเว้นขาดจากการบริโภคของที่ทำการสะสมไว้ เช่นอย่างที่สมณะพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังประกอบการบริโภคของที่ทำการสะสมไว้ เห็นปานนี้ คือ สะสมข้าว สะสมน้ำ สะสมผ้า สะสมยาน สะสมที่นอน สะสมเครื่องประเทืองผิว สะสมของหอม สะสมอามิส แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง
พ่อครูว่า อย่างของพวกเรานี้ สมณะจะฉันจะรับต้องได้รับประเคนจากฆราวาส ถึงกินถึงใช้ได้นะ มันอยู่ใกล้กันกับครัว บางทีก็เดินไปสังสรรที่ครัวไม่ใช่หน้าที่ของภิกษุ โดยเฉพาะเรื่องอาหารต้องให้ฆราวาสอนุญาตให้กิน แม้ฉันเสร็จแล้วก็ต้องคว่ำบาตรสะสมไม่ได้อาหาร มีบางอย่างที่เรียกว่ายา ยาวกลิก ยาวชีวิก บางอย่างเก็บได้เท่านี้วันก็ต้องวิกัปอีก บางอันสะสมไม่ได้เลยด้วย
บางอย่างต้องเป็นบริขาร ก็ยากที่จะระบุตายตัว แต่ใจของผู้ที่มาปฏิบัติจะรู้ว่าต้องเอาออกไปไม่สะสม อย่าไปหวงแหนว่าเป็นของข้าๆ ต้องรู้สึกว่าเรารักเราชอบอะไรต้องตัดใจสละ ผู้ปฏิบัติต้องรู้ ของบางอย่างเราไม่หวงแหน แต่บางอย่างผ่องถ่ายไม่ทัน บางอย่างต้องเรียนรู้ต้องทำงานไม่ใช่สะสม ย่ิงอาตมาเป็นโพธิสัตว์ก็ต้องบริหารทำงานก็เลยดูเหมือนมีอะไรตุนไว้ มีสภาวะซับซ้อน บริสุทธิ์อยู่ที่ใจ ต้องอ่านใจถ้าเราผูกพันหวงแหนมันเป็นของเรา ทั้งที่น่าจะเอาอื่นแทนได้ บางอย่างติดใจชอบใจจะเป็นอะไรก็ต้องสละออกล้างออก ไม่เช่นนั้นจะผูกพันเป็นปลิโพทะ ไปตลอด ปฏิบัติโภคขันธาปหายะ แค่ใช้สอย ต้องอ่านใจว่าตนติดยึด เราหวงแหนอาลัยอาวรอยู่เราต้องเรียนรู้อาการจิต ที่จะสละปล่อยเลิกยึดถือยึดมั่นแม้เนื้อหนังมังสาท่านก็ไม่ให้ยึดเป็นเราเป็นของเรา ถ้าไม่ฝึกตัดขาดจริงไม่ได้หรอก
(3) ภิกษุเว้นขาดจากการดูการเล่นอันเป็นข้าศึกแก่กุศล เช่นอย่างที่สมณะพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังขวนขวายดูการเล่นอันเป็นข้าศึกแก่กุศล เห็นปานนี้ (พ่อครูว่ายังมีน้ำหน้าทำอย่างนั้นอีกหรือ) คือ การฟ้อน การขับร้อง การประโคมมหรสพ มีการรำเป็นต้น การเล่านิยาย การเล่นปรบมือ การเล่นปลุกผี การเล่นตีกลอง ฉากภาพบ้านเมืองที่สวยงาม การเล่นของคนจัณฑาล การเล่นไม้สูง การเล่นหน้าศพ ชนช้าง ชนม้า ชนกระบือ ชนโค ชนแพะ ชนแกะ ชนไก่ รบนกกระทา รำกระบี่กระบอง มวยชก มวยปล้ำ การรบ การตรวจพล การจัดกระบวนทัพ กองทัพ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง
พ่อครูว่า อย่างโทรทัศน์นี่จะดู กว่าอาตมาจะตัดสินเอาโทรทัศน์มาตั้ง ตั้งแต่แรกๆ อาตมากำกับเลย ให้มีหลักเกณฑ์ในการดู
๑.เกิดอาริยญาณ ๒.ทำการปฏิบัติ ต้องดูแล้วรู้เลยว่าอันนี้มันดึงกิเลสเรานะ ต้องรู้ว่าถ้ามันจัดจ้านดึงเรามากก็เลิกดู ยิ่งมันเชิงรักดูดดึงอร่อยดีอันนั้นกิเลสกินตายเลย ทุกวันนี้สื่อสารฯมันเยอะ สัมผัสแล้วต้องปฏิบัติธรรม ๓.อัดพลังกุศล อันไหนเป็นกุศลที่เราประทับใจก็ดี ๔.ฝึกฝนโลกวิทูเพิ่มพหูสูตร เราไม่เป็นคนตกโลก อันไหนแรงไปสัมผัสไม่ได้ก็อย่าไปสัมผัส ต้องซื่อสัตย์ต่อตนเอง ถ้าไม่ซื่อมันทับถมเราตายเลย ต้องมีหลักเกณฑ์บังคับไว้บ้าง ป้องกันไว้สำหรับนร.หรือชาวชุมชนหรือใครๆ แม้แต่โทรศัพท์มือถือเราก็จำกัด ไม่ใช่เราบังคับกดขี่โดยไม่มีหลักปัญญา ทิดเดิมแท้เอาหลัก ๔ อย่างนี้ไปเผยแพร่ในการดู พวกนักบวชก็ว่ามีด้วยหรือประหลาดดี เขาก็ทึ่งว่าใช้ได้ๆ จบ