610423_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ศีลเป็นตัวกำหนดอธิจิตจนถึงเวทนาแท้
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://drive.google.com/open?id=1LDiaAlw18r1jduKHsc8et6mu0W75_Q7H-Xtn_y7fpSU
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1mTaHGa4qZ1Q9lx3YD5FcJVMKqHB32Lmx
ดูyoutube:- https://youtu.be/ue8e8xv9S3M
สมณะเดินดินว่า…วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2561 เมื่อวานนี้เป็นวันสำคัญของโลกเป็นวันพิทักษ์สิ่งแวดล้อมโลก แต่ในเดือนมิถุนายนเป็นเดือนที่มีวันสำคัญของพวกเขามีวันที่ 5 มิถุนายนเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ตอนนี้คนเอาใจใส่เรื่องสิ่งแวดล้อมกันมากเพราะอากาศแปรปรวนมาก เดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝน เราควรคิดคำนึงช่วยกันทำอย่างไรให้สิ่งแวดล้อมโลกดีขึ้น
ในวันที่ 5 มิถุนายนเป็นวันสำคัญที่เราจะจัดงานครบรอบ 84 ปี พ่อครู และ 48 พรรษา ปีนี้ พวกเราหลายแห่งก็เข้ามาช่วยกันเตรียมงาน ตอนนี้มีพวกเราที่ชำนาญเรื่องเห็ดก็จะมาปักหลักทำเห็ดตั้งแต่ตอนนี้เลย อากาศร้อนมากพวกเราก็อดทนช่วยกันทำงาน บางคนบอกว่าชีวิตนี้ไม่อยากเกิดอีกเลย แต่การเกิดของเรานั้นที่หมายแท้จริงคือการไม่เกิดกิเลสอีก การถือศีลของพวกเราอาจจะได้แค่รูปแบบ ไม่ฆ่าสัตว์ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่ว่าจิตใจไม่สอดคล้องกัน ไม่ฆ่าสัตว์เอาแต่รูปแบบเป๊ะๆ แต่ความเอื้อเฟื้อเมตตาก็ไม่ค่อยมี ก็จะได้เพียงแต่รูปแบบที่รักษาไว้ ไม่ได้เข้ามารักษาจิตใจ ให้เป็นอธิจิต อธิปัญญา ให้กิเลสลดน้อยลงไปได้อย่างไร การฟังธรรมพ่อครูในแต่ละวันจะช่วยเพิ่มความเข้าใจเพิ่มความแยบคายในจิตให้ได้มากขึ้น อันเป็นส่วนสำคัญ ไม่อย่างนั้นเราอาจได้เพียงรูปแบบภายนอกที่รักษาเอาไว้ แต่ไม่มีผลต่อการขัดเกลาชำระจิตใจ ให้เกิดความเอื้อเอ็นดูได้เพียงพอ
พ่อครูว่า…เอาวันนี้มีผู้เขียนมาถาม
สื่อธรรมะพ่อครู(อัตตา) ตอน อยากก้าวหน้าต้องละอัตตาแล้วให้หมู่พาทำ
_เกรียงไกร แจ๊คหม่า สมคิด จะทำให้เกิด co efficience ของโลกียะ เป็นเวทนาเทียมยกกำลังมากกว่า10 พุทธศาสนิกชนจะรับมืออย่างไร หากไม่เปลี่ยนแปลงตนเองเป็นพุทธบริษัท แล้วจะเปลี่ยนความเชื่อเป็นความเชื่อมั่นในศีลได้อย่างไร ถ้าไม่ฟังสัทธรรมจากสยังอภิญญา
พ่อครูว่า…ยกตัวอย่างเป็นบุคคลสามเส้า พวกบุญนิยมเดินทางกัน แต่ไม่ต้องกังวลจะไม่ทันเขาสู้ไหวไหม ประเด็นนี้อาตมาว่าอย่ากังวลว่าจะทันเขาไหม เรามาตั้งใจทำของเราเท่านั้นไม่ต้องเสียแคลอรี่เลย ไหนว่าสิ่งที่เราทำนี้ถูกตรงไหม ถ้าแน่ใจแล้วอยู่กับหมู่ หมู่พาทำ จะเรียกว่าในชาวอโศกมีอาตมาเป็นผู้นำ แต่อาตมาก็ไม่ได้ยึดอย่างที่อาตมาพูด พูดไปแล้วอาตมาก็ทำแล้วทำอยู่ แต่ไม่ได้กังวลเรื่องเหล่านั้น มีแต่ตั้งใจรักษาพลังงานรักษาแคลอรี่ของเราไปมันจะได้ประโยชน์ เพราะการก้าวหน้าของพลังงานทางจิตทางกายของคน ทั้งรูปทั้งนาม มันขึ้นอยู่กับตัวพลังงาน ตัวพลังงานมันชัดเจน แล้วเราก็จัดสรรให้มันสมดุล ให้เป็นพลังงานที่มีธรรมะ 2 ให้เป็นธรรมะ 1 ให้เป็นปฏิภาคทวีก้าวหน้าเจริญไปได้ ที่อาตมาพูดด้วยภาษาง่ายๆ หรือจะสูตร E=C(mc2+A) อย่างนั้นก็ได้
อาตมาว่ามาอยู่กับหมู่กลุ่ม ให้มาโดยอิสระเสรี แต่ถ้าคุณต้องการก้าวหน้าจริงๆ พระพุทธเจ้าจึงบอกว่า มิตรดี สหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดี เป็นทั้งหมดทั้งสิ้นของพรหมจรรย์ เป็นความเจริญบริบูรณ์เลย เป็นทั้งหมดทั้งสิ้นของพรหมจรรย์ มันชัดเจนในตัวมันเอง อย่างนั้นอยู่แล้วหากเราอยู่กับหมู่เราถอดตัวตน ไม่มีอัตตาตัวเราแล้วเราก็ตามหมู่ไป เราจะไปร่วมตรงไหนจริตเราจะเป็นเหตุ จริตเราไม่ค่อยลงตัวไม่ชอบอันนี้เท่าไหร่ เราตามใจความชอบมากไปก็ไม่ดี จึงจำเป็นต้องไม่ตามความชอบตัวเองเกินไป เอาสิ่งที่เป็นเหตุปัจจัยหมู่ที่มีอะไรอย่างไร แบ่งเป็นสองให้ได้
-
เรา 2.หมู่ นั่นก็เป็นสองแล้ว แต่เราเอาหมู่เป็นใหญ่ อย่าไปเอาเราเป็นใหญ่ ไม่ได้หมายถึงว่าเราไม่มีตัวตน จนไม่มีความคิดอ่านอะไรเลยก็ไม่ใช่ ข้อสำคัญตัวตนของเราต้องสอนตัวเองว่า ตัวเราก็เท่านี้ ของเราเหมาะสมเท่าไหร่ เหมาะสมเท่านี้เราก็ควรถ่อมตน อย่าไปอยากใหญ่โตอะไร ต้องจัดสรรตรวจสอบให้ได้
สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน จัดระเบียบศีลให้แม่นตรงอยู่ในวงเล็ก
อาตมากำลังเน้นขยายความให้รู้ว่าการกำหนดของศีล ตัวสำคัญ ศีล เป็นตัวกำหนดความเจริญของ อธิจิต อธิปัญญา อธิวิมุติ
เราต้องอยู่ในกรอบของศีล อย่าไปคิดว่าเราจะเอามากทีเดียวเยอะ ต้องมีศีลให้แม่นให้ตรงคม หากเราคิดว่าเราบกพร่องอะไรคิดไม่ออก อย่างน้อยเราออกจากหลักเกณฑ์ใหญ่ไม่ได้เลย
หลักเกณฑ์ก็คือ
-
เราสัมพันธ์กับสัตว์กับคนในโลก
-
เราสัมพันธ์กับสิ่งของ
สัตว์เป็นจิตนิยาม พืชเป็นพีชนิยาม ไม่มีเวทนาไม่มีวิญญาณ จะไม่มีผลต่อวิบาก กำหนดรวมเป็นสอง เราเองต้องจัดการกับสิ่งเหล่านี้
-
คือตาหูจมูกลิ้นกายทวารข้างนอกต้องสัมผัส กับ จิตของเรานี่ มันสัมพันธ์กันแล้วสังเคราะห์สังขารเป็นรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส สัมผัสนอกก่อน เราไปหลงเอร็ดอร่อย หยาบมากเราก็ลดเหลือกลางเหลือน้อย ลดอย่างสัมมาทิฏฐิ