610619_ทีม สมอ. สัมภาษณ์พ่อครู เรื่องสัมประสิทธิ์ กับ ปชต. เศรษฐกิจ
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://drive.google.com/open?id=1G3hwMBnzVxocEubiqe2TA-wzSE6DiQJqdyX_Fd0xM24
ดาวโหลดเสียงที่..
ดูยูทิวป์ได้ที่… https://www.youtube.com/watch?v=ZQ7C58Imsvs&t=1154s
-
พ่อครูจะใช้สัมประสิทธิ์เพื่อต่ออายุให้ยืนยาว สัมประสิทธิ์ของพ่อครูหมายถึงอะไ
-
ใครๆก็บอกว่าประเทศไทยเป็นเผด็จการ แต่พ่อ ครูกับยืนยันว่า ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่ดีที่สุดในโลกเพราะอะไร
-
ความหมายของคำว่าเศรษฐกิจที่ดีที่สุด คืออย่างไร
-
ชุมชนของเราบางแห่ง มีการเติบโตและได้การยอมรับจากสังคมภายนอกอย่างสูงแต่ภายในมีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง กรณีอย่างนี้จะมีทางออกอย่างไร
อาต้อยว่า…มีผู้กล่าวว่าชาวอโศกถูกสอนให้เป็นคนดีและจะเป็นคนดีที่สุดได้ แต่ถ้าจะเป็นคนไม่ดี ชาวอโศกจะเป็นคนไม่ดีที่น่ากลัวซับซ้อนกว่าคนข้างนอก เพราะมีความฉลาดลึกซึ้งกว่า พ่อท่านมีความเห็นอย่างไร
พ่อครูว่า…เป็นได้ความฉลาดที่ว่าคือความฉลาดเฉโก ไม่ใช่ความฉลาดปัญญา เป็นความฉลาดขี้โกงแกมโกง โกงหนักก็เป็น เฉโก ได้ขนาดขั้นอัจฉริยะก็ได้ แต่เป็นอาริยะไม่ได้ เพราะว่าความฉลาดนี้คือแยกไม่ออก ความฉลาด เฉโก เป็นโลกียะ ความฉลาดของปัญญาเป็นโลกุตระ ถ้าหากแยกความฉลาด 2 ชนิดนี้แยกไม่เป็นแยกไม่ได้ ไม่รู้นัยว่า จะฉลาดอย่างโลกุตระที่เป็นปัญญาทำอย่างไร การฉลาดที่อยู่ในกรอบของโลกียะเป็นฉลาด เฉโก หากแยกไม่ออก ไม่มีความรู้แยกออกจริงๆ คุณปฏิบัติธรรมไม่มีทางบรรลุผล
นิยามของความฉลาดปัญญานั้น สั้นๆ คือ เป็นความฉลาดที่รู้จักกิเลสถูกต้อง แล้วก็ทำกิเลสให้ลดได้ นี่คือนิยามของความฉลาดแบบโลกุตระ คือผู้ที่รู้จักตัวกิเลสจริงๆ มีตัวญาณเป็นธาตุรู้ จับอาการ ของเราที่มันเกิดในจิตของเรา ว่านี่แหละคือตัวสักกายะ ตัวตนของกิเลส แล้วมีอุบายเครื่องออกมีวิธีการ ทำให้กิเลสลดได้
ถ้าคุณเองมีความรู้แล้ว มีทฤษฎีแล้ว เสร็จแล้วคุณก็ไปปฏิบัติ เมื่อคุณปฏิบัติ คุณโกรธคุณก็จับตัว กายะ เรียก สักกายะ คือตัวตนของเรา สักกะ ของเรา ตัวตนเรา กายคือรูปนามองค์ธรรมสอง อ่านอาการปรุงแต่งของ 2 อันนี้ได้นี่แหละคือการแยกตัวเหตุ ที่มันปรุงแต่งเป็นตัวกิเลสตัณหาเป็นเหตุอาริยสัจ จับอาการตัวนี้ได้ อย่างชัดเจนพ้นวิจิกิจฉา เสร็จแล้วคุณก็มี ศีลพรต มีศีล สมาธิ ปัญญาที่ได้ศึกษาแล้ว ที่จะกำจัด กิเลสตัวนี้ได้ แล้วคุณเข้าจัดการทำ ไม่ใช่รู้อยู่ เพราะกิเลสก็รู้ ก็เห็นอยู่ ลูบคลำเล่นอยู่อย่างปรามาส แต่ไม่ยอมกำจัดมันเสียที แม้แต่พ้นสักกายะทิฏฐิ วิจิกิจฉา แต่ศีลก็เป็นสีลัพพตปรามาส ลูบคลำเล่นหัวกับกิเลส ไม่จัดการมันเสร็จที คุณก็ไม่ได้ขึ้นเป็นโสดาบัน ไม่ได้มรรคผลเป็นโลกุตระบุคคล นี่คืออธิบายสภาวะธรรมของ มรรค ที่เป็นสัจธรรมของจิตเจตสิกต่างๆให้ฟัง
ฟังดีๆ จะรู้จักเลย จะบรรลุได้ เห็นชัดเจน ความจริงดังที่ว่านี้
ก็มีความเห็นว่า เป็นไปได้พวกที่ เฉโกได้ซับซ้อนมากมาย แต่หากไม่เฉโก ก็จะได้ ปัญญา ตัวอย่าง เฉโก อย่างทักษิณอย่างนี้ เฉโกหน้าไม่อาย หน้าด้าน เฉโก อย่างโกงเห็นๆ ไม่ซื่อสัตย์ กระทำการทุจริตอย่างโจ่งแจ้งไม่น่าอาย ยกตัวอย่างในวันที่ 31 ธันวาคมเป็นวันหยุด เขาก็ไม่ยอมหยุดเพราะว่าให้เกิดผลประโยชน์ส่วนตัว
อาต้อย…บรรยากาศของงานอโศกรำลึกปีนี้มีความพิเศษอย่างไรบ้างคะ
พ่อครูว่า…จะบอกว่าพิเศษมันก็มีพิเศษ มันก็ก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ มันสนิทเนียน มีภาวะความเจริญ เพราะพวกเราเข้าใจ แล้วก็พัฒนาตนเอง เมื่อเข้าใจแล้วก็พัฒนาตัวเองจึงเกิดผลของการกระทำ มีการกระทำไปได้ก็แล้วแต่มันก็ดีขึ้นๆ จะมาฉลอง งานอะไรต่างๆ ก็เท่ากับเรามาสรุปผล เอาผลที่ เราเองได้ปฏิบัติมาทำมา เอามาชื่นชม ชื่นใจก็ฉลอง เราก็ทำมาแบบนี้ธรรมดาคนที่เขาใช้กัน เราก็ทำไปตามประสาคนด้วย แต่เรื่องไหนเราไม่ได้ทำก็ไม่เป็นไร ตามประสาคนที่จะมีฐานของจิตที่จะต้องมีความ ชูใจ มีพลังงานที่มา stimulate จิตใจบ้า
อาต้อย…ปีนี้เรามีความรู้สึกว่าพวกเรามีความพร้อมเพียงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันดี
พ่อครูว่า…ก็เกิดเห็นจริงเป็นจริงอย่างนั้น
อาต้อย…พ่อท่านจะใช้สัมประสิทธิ์เพื่อต่ออายุให้ยืนยาวอย่างไร
พ่อครูว่า…สัมประสิทธิ์ของอาตมามีความหมายลึกซึ้ง เป็นพลังงานของจิต สัมประสิทธิ์คือพลังงานของจิต ในทางวัตถุในทางโลกเขาก็เรียน สัมประสิทธิ์ ของวัตถุต่างๆก็มี ทั้งสสารวัตถุเขาก็เรียนเขาก็ใช้สัมประสิทธิ์ อาตมาก็เอาโครงสร้างนำมาใช้ เหมือนกัน แต่แทนที่จะใช้พลังงานของวัตถุ เท่านั้น ก็เอามาเป็นพลังงานทางจิต ไม่ใช่พลังงานทางสสาร เป็นพลังงานทางจิตใจ ให้เกิดสภาวะจริง ของจิต ที่ผู้เป็นเจ้าของจิตทำพลังงานนี้ถึงขั้นสัมประสิทธิ์ อย่างที่ทางโลกเขาเข้าใจทั้งวัตถุ เอามาใช้ของทางธรรมะ
เพราะฉะนั้นเราจะต้องเข้าใจอาการของจิต พลังงานของจิต แล้วก็สร้างสัมประสิทธิ์นี้ขึ้นได้ ใช้ได้ ได้มันก็จะมีประสิทธิภาพ ของผู้นั้น ผู้นั้นจะมีประสิทธิภาพในการทำพลังงานให้มันมีอัตราการก้าวหน้าได้ สัมประสิทธิ์นี้ เขานับเอาอัตราการก้าวหน้าในระดับ คูณ เป็นต้นไปด้วยซ้ำ ขั้นการบวกไม่นับ เอาคันที่คูณยกกำลัง ถึงจะเรียกว่าสัมประสิทธิ์ มีอัตราก้าวหน้าปฏิภาคทวีไปถึงขั้นคูณและยกกำลัง นี่คือนิยามของสัมประสิทธิ์
วัตถุเขาเรียนรู้ทางวัตถุแล้วก็เอามาสร้างระเบิดไฮโดรเจนระเบิดปรมาณู ทางสันติภาพก็เอามาใช้สร้างปรมาณูเพื่อสันติภาพ จิตวิญญาณก็เหมือนกันถ้าเข้าใจ จึงต้องมีความรู้ในเรื่องของนามธรรม ในความเป็นนาม ความเป็นรูป รูปคือสิ่งที่ถูกรู้ ถ้าผู้ใดมีสัญญาคือธาตุ กำหนดรู้กำหนดหมาย ธาตุจิต เจตสิกที่เรียกบัญญัติว่าสัญญา
เราได้ฝึกสัญญาของเราให้สามารถกำหนดอ่านจิตในจิต อ่านกายในกาย อ่านจิตในจิต เวทนาในเวทนา ธรรมในธรรม นั่นแหละคือหลักธรรมะพระพุทธเจ้าเราจึงจะสามารถ รู้อาการพลังงานของจิต ขั้นที่มันมีรูปกับนาม ประชุมกันทำงาน
แล้วเราก็ทำการอภิสังขารจัดการอย่างเก่ง จัดการให้มันสังขารปรุงแต่งกัน จัดการกันสร้างสรรค์กัน ให้มันเป็นพลังงานที่ไม่มีตัวที่ทำให้มันเกิด ความไม่เจริญความไม่ก้าวหน้า มันมีตัวต้าน ตัวถ่วง คือกิเลส ตัณหา พลังงานที่เรียกว่ากิเลสตัณหามันทำให้จิตของเราไม่เป็น มุทุธาตุ ให้เป็นพลังงานที่คล่องแคล่วว่องไวมีความรวดเร็วมีประสิทธิภาพสูงมีอุเบกขาที่เป็นประสิทธิภาพสูงสุด พลังงานอุเบกขาจะมีความบริสุทธิ์ ปริสุทธา ปริโยทาตา มีความบริสุทธิ์ออกมาทำงานได้ก็ยังมีความบริสุทธิ์ มีความที่เป็นกรรมการงานเจริญประกอบด้วย อัญญธาตุ ประกอบด้วยกัมมัญญา เชิญที่สุดได้ประโยชน์สูงสุดจิตก็ยิ่งเจริญก้าวหน้าเป็นจิตประภัสสร นี่คือ องค์ 5 ของอุเบกขานี้
ผู้ที่เรียนรู้จริงเรียนรู้สภาวะต่างๆ ของบัญญัติต่างๆ แม้แต่ ปริสุทธิ์คืออะไร ปริโยทาตา มีอะไรกระทบกระแทกกระเทือน มีอะไรมาเปื้อนอย่างไรก็ไม่เปื้อนสะอาดผ่องใสตลอดเวลา แล้วจิตก็ยิ่งมีประสิทธิภาพเป็นองค์รวมของจิตที่เล็ก มุทุภูตธาต สูงขึ้นสูงขึ้นจึงเป็นจิตที่เอาไปทำงานได้เจริญ กัมมัญญา เป็นจิตที่ผ่านการสร้างจิตที่เก่งสิทธิประเสริฐแล้ว ทำงานเสร็จแล้ว กัมมัญญา ไม่มีเศร้าหมองเลยคนนี้ประภัสสร
คุณเคยเห็นหน้าตาอาตมาเศร้าหมองไหมตั้งแต่คบกันมา อาตมาจึงให้ชื่อพวกเราที่ปฏิบัติธรรมกันว่าพวกอโศก
อาต้อยว่า…พ่อท่านว่า ทุกครั้งที่เราสู้กับกิเลสคือการเพิ่มสัมประสิทธิ์ได้ไหมคะ
พ่อครูว่า…แน่นอน ใช้ศัพท์ซ้อน ใช้สัมประสิทธิ์คือค่ารวม ก็ทำการกำจัดกิเลสให้ได้ กำจัดได้จิตก็เจริญก้าวหน้าเป็นอุเบกขา 5 อย่างที่อธิบาย
ชนะไปด้วยสัมประสิทธิ์ก็เพิ่มขึ้นด้วยเรื่อยๆ
เนกขัมมสิตอุเบกขา นั้นเป็นจิตฐานิพานที่ใช้งานตลอดมีปฏิภาคทวีเจริญก้าวหน้า ทับ ถมไปเรื่อย ยิ่งกว่าดอกเบี้ยทบต้น อาตมาเป็นนักทุนนิยมที่สร้างดอกเบี้ยทบต้นได้เก่งที่สุด
อาต้อยว่า…แต่มันมีอีกว่า แต่ละชั้นเราจะเบาขึ้นเจริญขึ้น เบาสบายโล่ง เราก็เลยไม่ได้ล้างมันจะถึงที่สุดเป็นไปได้ไหม คะ
พ่อครูว่า…หากเราทำที่สุดเป็นแล้ว เราก็จะใช้กับผู้อื่นตามเหมาะควร เราจะมีจิตของเราที่สมบูรณ์บริบูรณ์ เหมือนเรามีเงินอยู่ล้านๆ เราจะทำงานกับใคร อันนี้จะลงทุนเท่านี้เราก็เอามา ก็มีเท่าไหร่ก็เอามาใช้ได้ เวลาทำงานกับคนอื่น ก็เอามาทำงานกับคนอื่นอย่างพอเหมาะ ไม่ใช่ว่าเราจะเอา ทุนมาข่มเขาเลยไม่เหมาะควร เราไม่ข่มเบ่งใคร
ทุนนิยมเขาต้องลงทุน ให้ตนเองเป็นผู้ชนะมีความเหนือกว่า แต่ของเราลงทุนแล้วเราน้อยกว่าเขาก็ได้ คุณจะเป็นนาย เป็นอะไรก็ได้ เราก็ทำงานของเรา ถ้าคุณทำไปด้วยดีคุณรับผิดชอบได้รับความก้าวหน้าดีก็ทำไปแต่ถ้าทำไปขี้โกงทำให้เกิดประสิทธิภาพไม่ดี เราก็ไม่ลงทุนกับคุณ ได้ เราอยู่เหนือหมดเลย อยากจะยอมแพ้อยากเป็นลูกน้องก็ได้อยากจะเป็นนายก็ได้
อาต้อยว่า…แม้แต่เขาโกงเราไปหรอกก็ไม่เป็นไร
พ่อครูว่า…นั่นแหละสุดยอดเลย
อาต้อยถามว่า ข้อ 2. ใครๆก็บอกว่าประเทศไทยเป็นเผด็จการ แต่พ่อ ครูกับยืนยันว่า ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่ดีที่สุดในโลกเพราะอะไร
พ่อครูว่า…เพราะว่าความเข้าใจความเป็นประชาธิปไตยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน Concept ของอาตมาก็เป็นของอาตมา ใน Concept ของอาตมานั้น ประชาธิปไตยหมายความว่าอย่างไร มันก็ไม่เหมือนกับConcept ของคนอื่นที่เขาหมาย Concept ของคนส่วนใหญ่ตื้นๆง่ายๆคือ ประชาธิปไตยต้องมีการเลือกตั้ง ถ้าคนมาบริหารไม่ผ่านการเลือกตั้งไม่เป็นประชาธิปไตย ก็เอาแค่นี้ไปตัดตอนเพื่อเขาจะได้มีส่วนร่วม แต่เขาไม่เอาเนื้อหาของความประพฤติหรือการปฏิบัติประพฤติ ของคนที่ปฏิบัติ ของคนที่ประพฤติของคนที่ทำงาน
งานประชาธิปไตยของผู้ปฏิบัติกับสังคม คนหนึ่งก็ตามเป็นคณะก็ตาม เรียกเต็มๆว่าคณะบริหาร เข้าบริหารงาน โดยมีการทำงานเพื่อประชาชนจริงๆ ไม่ได้เห็นแก่ตัวไม่ได้เห็นแก่ได้ ไม่ได้เห็นแก่ผลประโยชน์ไม่เห็นแก่พรรคแก่พวกอะไรเลย เขาทำงานจริงใจที่จะทำให้เกิดผลประโยชน์แก่สังคมประเทศชาติ แก่มวลมนุษยชาติของสังคมเขา อย่างดีที่สุดเท่าที่เขามีความสามารถและจริงใจไม่มีอะไรแฝงแบ่งส่วนได้มาให้แก่พรรคพวก ทำให้แก่ประชาชนอย่างเป็นสัจจะ การทุจริตหรือขี้โกงทิ้งไปได้
เราก็ทำกับประชาชนโดยมีความรู้ในเรื่องของมวลประชาชนกลุ่มหมู่ประชาชน กลุ่มสูง กลาง ต่ำ กลุ่มสารพัดงาน เหมือนนายกฯตู่ออกมาแจงกับประชาชนทุกวันว่าทำอะไรไปตามโรดแมป ตามแผน แล้วก็ทำไปแล้วก็บอกผลอะไรที่ทำได้ เป็นคนที่ทำงานมีแผนผัง พิมพ์เขียว มีการออกแบบมีการจัดการ แล้วเขาก็ทำไปอย่างจริงใจเท่าที่เขามีสมรรถภาพ มีผู้ช่วยงานทำงานอยู่จริง เป็นคนทำงานครบครันในการบริหารเท่าที่อาตมาเห็นนายกมา 29 คนนี้ แล้วแสดงออกมาให้รับรู้ได้ด้วย คนอื่นเขาไม่เข้าใจก็แสดงออก เขาทำอะไรคิดอะไรเขาก็บอก ก็มีผลได้ ไม่ใช่ว่าทำง่ายๆนะการทำงานกว่าจะได้ผล แน่นอนก็มีที่ไม่เป็นไปได้ไม่มีผลสำเร็จบ้างมันก็เป็นธรรมดาธรรมชาติ มีได้บ้างสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้างแต่ผลสำเร็จไม่มีความก้าวหน้าและมันถูกหลักการหลักวิชาการ ถูกสัจธรรมทำได้เก่งที่สุด อาตมาว่าเป็นประชาธิปไตยที่ทำงานถูกต้องทำงานเพื่อประชาชน ไม่มีทุจริตไม่ให้ มีขี้โกงก็ยอมรับกันอยู่ แล้ว ก็ไม่เห็นมีกินแฝงประสมประสาน ประสิทธิภาพมีเท่าไหร่เขาก็เอามาทำเต็มๆ จะให้ทำอะไรอีก(วะ) ก็คนไม่เข้าใจไม่รู้จักรายละเอียดของสิ่งเหล่านี้ ก็เจตนาจะติเตียน เอ็งจะทำดีอย่างไรกูก็ไม่ฟัง กูจะเข้าไปบริหารกูจะแย่งตำแหน่งหน้าที่อำนาจเท่านั้นเองที่เขาโวยวายกันตอนนี้
1 มันไม่รู้จริงๆว่าเขาถูกต้องทำดีและควรทำต่อไป 2 แม้มันจะรู้ กูก็จะทำ กูทำไม่ได้เก่งเท่านี้ก็ช่างกู กูจะทำเพื่อแย่งอำนาจเท่านั้นเองไม่มีอะไร เท่านั้นเอง นั่นแหละไปบันทึกเขียนให้มันชัดๆภาษาที่อาตมาว่านี้
ไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้วพวกนี้ ดีไม่รู้จักดีควรไม่รู้จักควร แล้วเข้า nuisance(ก่อความรำคาญ) อยู่อย่างนั้น มันจะยุ่งไปถึงไหน สามัคคีกับเขาบ้างไม่ได้หรือยังไง คัดค้านอย่างพอเหมาะพอดีก็ดี แต่การค้านแบบไม่มีเหตุผลนี้ไม่ดี
อาต้อยว่า….ความหมายของคำว่าเศรษฐกิจที่ดีที่สุดคืออย่างไร
พ่อครูว่า…เศรษฐกิจที่ดีที่สุดก็คืออย่างชาวอโศกทำสำเร็จแล้วอยู่ในสังคมประเทศไทย เรียงความเศรษฐกิจประชาธิปไตย เป็นเศรษฐกิจประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบ เป็นเศรษฐกิจประชาธิปไตยที่สูงสุดได้ผลสูงสุดคือเป็นสาธารณโภคี คือประชาชนนี้ ทำงานแล้วก็เสียภาษีให้ส่วนกลาง เต็มร้อย ไม่มีประเทศในสังคมโลกในธรรมได้หรอก แบบนี้ จะเรียกว่าสุดยอดแห่งคอมมิวนิสต์ก็ได้ สุดยอดแห่งประชาธิปไตยก็ได้ ไม่มีใครมาเผด็จการ ทุกคนสมัครใจทุกคนอิสระเสรีภาพทุกคนยินดีเต็มใจชื่นใจ เป็นความร่วมใจมาทำอย่างนี้เพราะว่าเห็นว่าเป็นสังคมมนุษยชาติที่ดีที่สุด
ที่ตอบไม่ได้ยกยอชาวอโศก แต่ยกยอทฤษฎีของพระพุทธเจ้าที่ชาวอโศกนำมาปฏิบัติจนเกิดผลสำเร็จเป็นเอหิปัสสิโก เชิญมาดูได้ สอบถามได้ศึกษาได้ ยินดี อธิบายให้ พาทำด้วยแต่เขาไม่ค่อยเชื่อ เขาไม่รู้ แม้เขารู้ก็คิดว่าทำไม่ได้ แต่ที่เห็นมันได้อยู่นี่ พูดไปพูดมาก็วน อยู่ที่ความรู้ไม่พอ คนไม่รู้จักว่าอโศกคือประชาธิปไตยสูงสุดเหนือกว่าคอมมิวนิสต์เหนือกว่าเผด็จการ เป็นการปกครองตามทฤษฎีพระพุทธเจ้าที่สูงที่สุดแล้วในเรื่องของความเป็นมนุษยชาติ และสังคม สูงสุดมีเท่านี้ ซึ่งอาตมาเอามาทำสำเร็จนะ พูดตดรงๆ ไม่ด้คุยโม้ใหญ่โต ให้นักวิชาการมาศึกษาได้เลย
อาต้อยว่า…มีคนบอกว่า ยุคต่อไปจะศาสนาจะรุ่งโรจน์ ขณะนี้มีการปฏิบัติการกอบกู้ศาสนาพุทธ
พ่อครูว่า…เป็นปรากฏการณ์ว่าศาสนาพุทธมีผลทำให้เกิดความเจริญ เราก็เป็นจิ๊กซอว์อันหนึ่ง ที่เป็นผลคือ
1 ทฤษฎีที่ที่สุดคือของพระพุทธเจ้า 2 ทำแล้วได้ผลเกิดจริงมันก็เกิดเป็นรูปธรรม จึงมีผลสำเร็จ ของสังคมมนุษยชาติ เท่าที่จะปฏิบัติจริงประพฤติจริงไป มันก็เป็นผลรูปธรรมที่ปรากฏในโลก เพราะฉะนั้นประเทศไทยจึงเป็น พฤติกรรมตัวอย่าง สังคมตัวอย่าง ที่ใช้ทฤษฎีเอกของพระพุทธเจ้า เมืองไทยเป็นเมืองพุทธก็เข้าใจพยายามพัฒนาพุทธศาสนาให้ดีให้สำเร็จได้จนกระทั่งมาถึงเรา เราเอาสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนจนเป็นผลมายืนยันด้วย คนอื่นเขาก็ถ้ามีสัมมาทิฎฐิตรงกัน มีผลของสัมมาทิฏฐิ รวมกันเป็นน้ำหนัก เป็นมวลรวมของผลที่มันมารวมกันโดยสัจธรรม มันก็เลยเกิดพลังงาน ก้าวหน้า พลังงานที่ดำเนินไป
และมันยืนยันว่า คนไทยมีความลึกซึ้งในเรื่องราวกระทำที่เป็นของพระพุทธเจ้า พูดอย่างสรุป ถึงปล่อยให้โลกุตรธรรมนี้ที่ทุกคนคนไทยมีอยู่ในเชื่ออนุสัยให้ดำเนินไป พวกที่ไม่รู้จริงๆแล้วมันก็อยากไปอำนาจ มันก็ดึงอำนาจไปส่วนตัวก็มีผลเป็นธรรมดาธรรมชาติ จะให้คนรู้หมดทั้งประเทศ รู้หมดทั้งสังคมมันไม่ได้ มันต้องมีคนโง่ส่วนหนึ่งมันก็เป็นธรรมดา
ให้โลกรู้ว่าในโลกนี้ยังมีสีเทาสีดำซึ่งมีน้อยมากเท่าเทาจาง ไทยเราก็เลยมีความขาวเด่นขึ้นมา มากกว่าระบอบที่ทำกันอยู่ในโลก ประชาธิปไตยขาเดียวก็ผิด ประชาธิปไตยสองขาก็ผิด สองขาของอังกฤษเป็นต้นแบบ เขาก็ไม่ได้พัฒนาการเพราะเขาไม่มีหลักฐาน ของ อเทวนิยม ไม่มีในตำราวิชาการที่จะพัฒนาจิตวิญญาณให้สูงสุด เหมือนกับศาสนาพุทธ มันก็เป็นเทวนิยม ก็เลยได้อยู่เท่านั้น
ประเทศไทยที่ก้าวหน้าได้ อาตมาบอกได้ว่า ประชาธิปไตยของไทยเป็นประชาธิปไตยที่เจริญกว่าอังกฤษที่เจริญแบบเทวนิยม แต่ของไทยมีอาจเทวนิยมเป็นรากเหง้า จึงทำให้เกิดความสำเร็จได้ ไม่ได้พูดข่มดูถูกใครนะ แต่พูดได้วิชาการเป็นความรู้เป็นทฤษฎีสัจธรรม
ขออภัย ไม่มีใครพูดได้อย่างอาตมาพูดอยู่ ถ้าใจฟังด้วยใจเป็นกลางจะเข้าใจดี ที่อาตมากำลังสาธยายเป็นความรู้ เป็นทฤษฎีพิเศษ ….จบ
[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=ZQ7C58Imsvs[/embedyt]