..บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ… พ่อพระผู้สร้างแผ่นดินพุทธ
วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม 2561
ช่วงนี้ราชธานีอโศกรับแสงอรุณ ส่องหล้าตั้งแต่ก่อน 6 โมงเช้า หลังจากพ่อครูตื่นนอน ท่านกราบพระรัตนตรัย ออกกำลังกาย 4 ท่าตามปกติเช้านี้พ่อครูเพิ่ม co-efficient ในการวิดพื้นอีก 1 ครั้งเป็น 12 ครั้ง ดูท่าทีพ่อครูยังสบายๆสามารถไปต่อได้อีก และด้วยการเพิ่มแบบทีละน้อยๆจึงทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายไม่ตึงเครียดหรือปวดเมื่อยแต่อย่างไร คณะท่านปัจฉาสมณะมากราบนมัสการพ่อครูตามปกติ ส่องผ่านเลนส์ สังเกตเห็นขันใส่น้ำอุ่นเช็ดหน้าพ่อครูเป็นกะลาที่ดูเก่าและมีรอยแตกหลายที่ พ่อครูเคยเล่าให้ฟังว่ากะลาใบนี้ใช้มา 50 กว่าปีแล้ว ปัจจุบันพ่อครูก็ยังใช้อยู่ จะเห็นมีรอยแตกแต่ก็มีการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว เห็นถึงความพอเพียง การไม่ติดยึดในรูปแบบของบริขารใดๆ มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว.. ทุกวินาทีของพ่อครูเป็นวินาทีแห่งการเผยแพร่ธรรมะที่เป็นโลกุตระเสมอแม้ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน…
พ่อครูลงมาฉันภัตตาหารเวลา 11.23 นาที ช่วงหลังฉันภัตตาหารเสร็จ พ่อครูเดินมาที่หน้าน้ำตกผาแหงน เห็นคนงานกำลังเก็บเศษไม้จากลังที่ใส่อุปกรณ์ทำลิฟท์เป็นที่กำบังแดดแบบเรียบง่าย..วันนี้ไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์จึงไม่ค่อยเห็นผู้คนมาเล่นน้ำซักเท่าไหร่..พ่อครูมาที่บริเวณน้ำโตน ท่านมีดำริว่าให้นำรูปหล่อพ่อครูยืนปางอภัยทานที่พระวิหารพันปีสันติอโศกมาไว้ที่น้ำโตนโดยยืนบนแท่นปูนปั้นที่เหมือนจัดวางไว้แล้ว ให้ตั้งติดผนังผาแหงน ซึ่งรูปหล่อโลหะมีความสูง 4 เมตรก็จะมองเห็นเด่นชัด ถ้าเปิดน้ำตกก็ยิ่งจะเพิ่มความงดงามมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเป็นปางอภัยทาน ซึ่งชาวอโศกบางคนก็ยังไม่ได้ทันสังเกตเลยว่ารูปหล่อนี้อยู่ที่ไหน ลักษณะอย่างไร เมื่อนำมาติดตั้งที่ราชธานีอโศกจะเกิดความสง่างามเป็นที่น่าสนใจมากขึ้น…
พ่อครูได้รับรายงานว่ายังมีปัญหาในเรื่องการยกเรือเอี๊ยมจุ๊นทั้ง 3 ลำจึงได้ขึ้นรถสัญญาตะวันมาดูที่บริเวณจะวางเรือ ที่เมื่อวานทำได้เพียงยกและเคลื่อนย้ายจากบริเวณสุสานเรือ ยกขึ้นมาวางข้างฐานที่จะตั้งเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถยกขึ้นได้เพราะต้องรอรถเครน 50 ตันจากอีกบริษัทหนึ่งที่วันนี้ไม่สามารถมาได้ ทำให้ต้องเลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้ พ่อครูนั่งรถผ่านมาทางป้ายหน้าหมู่บ้านราชธานีอโศกมาที่อาคารบวร ท่านด่วนดีมารายงานเรื่องรถเครนไม่สามารถมาได้ แต่อากล้าทนสามารถซ่อมรถเครน 50 ตันของเราเสร็จแล้วและให้ลูกชายคือนายขวัญเมืองราช ชาวหินฟ้าซ้อมยกรถเครนอยู่เป็นประจำ ท่านปัจฉาได้นิมนต์ท่านด่วนดี ขึ้นรถสัญญาตะวันไปด้วยกัน เพื่อไปดูสถานที่สำหรับทำถนนและท่าเรือบริเวณริมแม่น้ำมูน เมื่อพ่อครูไปถึงมีดำริให้ทำท่าเรือบริเวณริมแม่น้ำมูน ให้กว้างพอที่จะให้รถบัสกลับรถได้สะดวก พวกเรายังเห็นว่างบประมาณเรามีน้อยน่าจะทำถนนก่อนแต่พ่อครูยังคงมีเจตนาที่จะทำท่าเรือให้มีความสะดวกมากขึ้นก่อน ท่านสนทนากับท่านด่วนดีและท่านข้าฟ้าเรื่องเตรียมพื้นที่ทำท่าเรือเสร็จ ก็นั่งรถสัญญาตะวันไปที่ลานเบิ่งฟ้าทันที สังเกตบริเวณริมมูนมีสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวยทำให้นกกระจาบมาทำรังมากมายเป็นเหมือนหมู่บ้านนกกระจาบหลากหลายรูปแบบ ที่หายากในยุคที่มนุษย์ยังเบียดเบียนสัตว์ จนสัตว์น้อยใหญ่แทบไม่มีที่อยู่อย่างปลอดภัยแล้วในโลกใบนี้.. มาถึงลานเบิ่งฟ้าอากล้าทนมากราบนมัสการพ่อครู รายงานพ่อครูว่าผู้ที่ชำนาญในการขับและยกเครนคือลูกชาย นายกระทกรกหรือ ขวัญเมืองราช ชาวหินฟ้า รถเครน 50 ตันคันนี้ จอดไม่ได้ใช้เป็นเวลานาน อากล้าทนและลูกชายได้ซ่อมจนสำเร็จ พ่อครูเดินไปยืนเทียบความสูงที่บริเวณเส้นผ่าศูนย์กลางล้อรถเครน ล้อยังสูงเกินศีรษะพ่อครู ไม่นานนัก อากล้าทนก็ได้สตาร์ทรถเพื่อเตรียมเคลื่อนย้ายพอดีกับ นายกระทกรก มาถึงก็ได้ขึ้นประจำที่ พ่อครูบอกให้เคลื่อนย้ายไปบริเวณที่กำลังจะยกเรือเลย พ่อครูจะนั่งรถสัญญาตะวันเป็นรถนำทางไปให้ .. ..โดยปกติหมู่บ้านเราถ้าต้องยกอะไรที่ใหญ่และหนักก็จะต้องจ้างรถเครนจากบริษัทในเมืองซึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายเป็นหลักหมื่น ถ้ารถเครน 50 ตันคันนี้ใช้ประโยชน์ได้อย่างดีก็จะทำให้ทางชุมชนประหยัดค่าใช้จ่ายได้หลักหมื่นต่อครั้งเลยทีเดียว พ่อครูใส่ใจและคอยมองการเดินทางของรถเครนคันนี้ตลอดเส้นทางหยุดรอเป็นช่วงๆหวังว่า รถเครนคันนี้จะช่วยงานปรับภูมิทัศน์ภายในชุมชนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะได้ นายกระทกรกหรือ ขวัญเมื่องราช มาเป็นพลขับซึ่งยังมีงานอีกหลายส่วนที่จะต้องเคลื่อนย้ายสิ่งของขนาดใหญ่และหนัก… ..ในที่สุดรถเครน 50 ตันคันนี้ก็มาถึงบริเวณที่จอดเรือได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยท่านสมณะถักบุญ อาจิตปุญโญ ผ่านมากราบนมัสการลาพ่อครูเดินทางไปกรุงเทพเพื่อที่เตรียมงานไปขนย้ายเรือกระแชงจากชลบุรี และรูปหล่อพ่อครูปางอภัยทานที่พระวิหารพันปี สันติอโศก พ่อครูได้แนะนำในการเคลื่อนย้ายซึ่งไม่ต้องนำฉากโลหะด้านหลังมา นำมาเฉพาะรูปยืนลอยของพ่อครูเท่านั้น..รถเครน 50 ตันของชาวบวรราชธานีอโศกก็ต้องรอถึงวันพรุ่งนี้ถึงจะทำงานร่วมกันกับรถเครนที่เราจ้างมาจากในเมือง …
..พ่อครูจึงเดินทางกลับที่พัก ผ่านเรือรามรักษ์ได้ยินเสียงไทเทิดธรรม(ผู้ซ่อมแซมเรือ)ทำงานอยู่ด้านบน พ่อครูและท่านปัจฉาจึงได้ทักทายกันเล็กน้อยก่อนที่พ่อครูจะกลับขึ้นไปพักผ่อนที่ชั้น 4 เฮือนศูนย์สูญ..