[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=ijsWF4gXuSQ[/embedyt]
บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ…สังคมบุญนิยม คือคนจนมหัศจจรย์ แบ่งปันตลอดกาล
วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม 2561
เช้านี้ยามเช้าอากาศค่อนข้างเย็น พ่อครูวิดพื้น 31 ครั้งและสนทนากับคณะท่านปัจฉา ถึงเรื่องการขยายความ ในเรื่องการสวดมนต์ที่ยังมิจฉาทิฐิในสังคมพุทธเมืองไทย
11.30 น.พ่อครูลงมาฉันภัตตาหาร ซึ่งก็ยังมีใบป่าช้าเหงาหรือหนานเฉาเหว่ยที่พ่อครูดำริจะฉันวันละ 2 ใบสดๆร่วมกับอาหารชนิดอื่นๆ หลังจากพ่อครูฉันเสร็จ ได้เดินย่อยอาหารตามปกติ ออกมาด้านหลังถนนตรงมูน งานก่อสร้างถนนคืบหน้าไปทุกๆวัน พ่อครูเดินมาป้ายหินหน้าน้ำตกผาแหงน ดูรูปหล่อองค์พ่อครูปางอภัย ซึ่งยังไม่ลงตัวในการจัดวางต้องรอให้รถเครนมาลองวาง และจัดสรรดูว่าควรจะวางไว้ที่หินฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวาถึงจะเหมาะสมพ่อครูเดินมาด้านหน้าอาคารบวรหลังจากทำถนนเสร็จกำลังทำท่อระบายน้ำ พ่อครูเดินมาในตลาดนัดบุญนิยม อาเดือนแก้วได้ทำอาหารแห้งมังสวิรัติมาขายในตลาดราคาถุงละ 10 บาทมีทั้งเห็ดที่เก็บเอง แล้วนำมาแปรรูปเอง เป็นเห็ดเค็มบ้าง เห็ดทอดบ้าง ขายหมดไม่หมดไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเหลือก็แจกจ่ายให้คนชุมชนหรือลูกหลานรับประทานกัน
พ่อครูเดินไปห้างปันกัน มีญาติธรรมที่เกษียณแล้วสนใจธรรมะมาเยี่ยมชมบ้านราชเข้ามากราบพ่อครู บอกว่าชีวิตในวัยเกษียณสุขสําราญ ตอนนี้มีอาชีพเป็นจิตอาสาสบายใจดีกว่าตอนที่ยังทำงานอยู่มากมาย พ่อครูเดินเข้าไปในห้างปันกัน ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคปัจจัย 4 ที่จำเป็นสำหรับท้องถิ่น รวมทั้งมีสินค้าจากชุมชนชาวอโศกในที่ต่างๆ พ่อครูแวะดูสินค้าที่เป็นทั้งอาหาร เครื่องชง ยาสมุนไพรทั้งแบบสดและแบบแห้ง ตามชั้นวางต่างๆ ช่างดอนมาซื้อเต็นท์สำหรับไปกางเป็นที่พัก พวกเราแซวว่าช่างดอนมาซื้อบ้าน ซึ่งชาวอโศกมักจะมีบ้านประจำตัวก็คือมุ้ง กลดหรือเต๊น?เล็กๆสำหรับไปพักตามสถานที่ต่างๆ บางคนก็อาศัยอยู่แค่เพียงเต้นท์ 1 หลังก็สุขสำราญเบิกบานใจได้ อาน้อยผู้รับใช้ห้านปันกัน บอกว่ารับของมาจากช่องจอม มาวางไม่กี่วันก็หมด เพราะพวกเราขายถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปในราคาบุญนิยม ลูกค้าทราบก็จะตามมาซื้อจนของขาดร้านบ่อยๆ พ่อครูสนใจหัตถกรรมกะลาที่เป็นงานหัตถกรรมกระเป๋าคล้องคอราคา 25 บาทบ้าง 15 บ้าง พ่อครูบอกว่าราคานี้ยังมีขายอยู่หรือ …ซึ่งร้านค้าของชาวชุมชนบวรราชธานีอโศกห้านปันกัน เป็นร้านที่จำหน่ายสินค้าจำเป็นในท้องถิ่น ในราคาบุญนิยม คือต่ำกว่าท้องตลาด บางสินค้าก็จะจำหน่ายในราคาเท่าทุน บางช่วงเทศกาลอย่างเช่นงานตลาดอาริยะก็จะจำหน่ายสินค้าบางชนิดในราคาต่ำกว่าทุน ซึ่งเราถือว่าเป็นพาณิชย์บุญนิยม ที่แบ่งปัน เกื้อกูลในสังคมในยุคเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวในขณะนี้ พ่อครูเดินผ่าน “ห้านนี่มีซือนะ” ศิษย์เก่าหนิง ศิษย์เก่าจุ๋ม ศิษย์เก่าเล็ก มากราบนมัสการพ่อครู ท่านยืนมองสินค้าภายในร้านซึ่งเป็นสินค้าสำหรับเหมาะสำหรับท้องถิ่นเช่นกัน อาทิเสื้อผ้าที่เป็นผ้าฝ้ายและสินค้าแบบไทยๆก็มีจำหน่าย
พ่อครูเดินไปห้างปันกัน มีญาติธรรมที่เกษียณแล้วสนใจธรรมะมาเยี่ยมชมบ้านราชเข้ามากราบพ่อครู บอกว่าชีวิตในวัยเกษียณสุขสําราญ ตอนนี้มีอาชีพเป็นจิตอาสาสบายใจดีกว่าตอนที่ยังทำงานอยู่มากมาย พ่อครูเดินเข้าไปในห้างปันกัน ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคปัจจัย 4 ที่จำเป็นสำหรับท้องถิ่น รวมทั้งมีสินค้าจากชุมชนชาวอโศกในที่ต่างๆ พ่อครูแวะดูสินค้าที่เป็นทั้งอาหาร เครื่องชง ยาสมุนไพรทั้งแบบสดและแบบแห้ง ตามชั้นวางต่างๆ ช่างดอนมาซื้อเต็นท์สำหรับไปกางเป็นที่พัก พวกเราแซวว่าช่างดอนมาซื้อบ้าน ซึ่งชาวอโศกมักจะมีบ้านประจำตัวก็คือมุ้ง กลดหรือเต๊น?เล็กๆสำหรับไปพักตามสถานที่ต่างๆ บางคนก็อาศัยอยู่แค่เพียงเต้นท์ 1 หลังก็สุขสำราญเบิกบานใจได้ อาน้อยผู้รับใช้ห้านปันกัน บอกว่ารับของมาจากช่องจอม มาวางไม่กี่วันก็หมด เพราะพวกเราขายถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปในราคาบุญนิยม ลูกค้าทราบก็จะตามมาซื้อจนของขาดร้านบ่อยๆ พ่อครูสนใจหัตถกรรมกะลาที่เป็นงานหัตถกรรมกระเป๋าคล้องคอราคา 25 บาทบ้าง 15 บ้าง พ่อครูบอกว่าราคานี้ยังมีขายอยู่หรือ …ซึ่งร้านค้าของชาวชุมชนบวรราชธานีอโศกห้านปันกัน เป็นร้านที่จำหน่ายสินค้าจำเป็นในท้องถิ่น ในราคาบุญนิยม คือต่ำกว่าท้องตลาด บางสินค้าก็จะจำหน่ายในราคาเท่าทุน บางช่วงเทศกาลอย่างเช่นงานตลาดอาริยะก็จะจำหน่ายสินค้าบางชนิดในราคาต่ำกว่าทุน ซึ่งเราถือว่าเป็นพาณิชย์บุญนิยม ที่แบ่งปัน เกื้อกูลในสังคมในยุคเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวในขณะนี้ พ่อครูเดินผ่าน “ห้านนี่มีซือนะ” ศิษย์เก่าหนิง ศิษย์เก่าจุ๋ม ศิษย์เก่าเล็ก มากราบนมัสการพ่อครู ท่านยืนมองสินค้าภายในร้านซึ่งเป็นสินค้าสำหรับเหมาะสำหรับท้องถิ่นเช่นกัน อาทิเสื้อผ้าที่เป็นผ้าฝ้ายและสินค้าแบบไทยๆก็มีจำหน่ายเช่นกัน พ่อครูเดินมาด้านหลังอาคารบวรด้านหน้าเวที ซึ่งยังคงนำข้าวพันธุ์กข 43 มาตากไว้ แล้วจึงเดินกลับมาที่ด้านหน้าอาคารไปที่ “เดิ่นเขาม่วน”
ก่อนข้ามถนนอาดาวเพ็ญเพิ่งกลับมาจากสวน 48 ไร่ 48 พรรษาโคกหนองนาโมเดลในตะกร้ามีผักหลายชนิด ได้จอดจักรยานกราบเรียนพ่อครูว่า วันนี้เริ่มได้กินผักจากสวนแล้วมีทั้งผักแขยง แตงต่างๆ ซึ่งป้าดาวเพ็ญกำลังจะนำผักเหล่านี้ไปเข้ารายการวิเคราะห์ข่าววิปัสสนา พ่อครูมาถึง”เดิ่นเข่ามวน”ลานค่อนข้างแฉะ เพราะฝนตกทั้งวัน พ่อครูทดลองนั่งที่ปีกหินถ้าจัดภูมิทัศน์เสร็จเรียบร้อย ต้นไม้เติบโตเต็มพื้นที่ คงเป็นลานที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน นำอาหารมารับประทานกัน โดยมีต้นโพธิ์ 7 ต้นล้อมรอบพื้นที่ ตรงกลางลานปีกหินพ่อครูดำริให้นำต้นไม้ใหญ่จะเป็นต้นแหน(สะตือ)หรือต้นหว้าแล้วแต่เหมาะสมหรือหามาได้ มีญาติธรรมจากสันติอโศกเข้ามากราบนมัสการพ่อครู หลังจากนั่งไม่นานท่านเดินกลับมาที่หน้าน้ำตกผาแหงน เดินเข้ามาพร้อมชาวชาวกศน.ของอำเภอน้ำยืนที่กำลังมาทัศนศึกษาพอดี
พ่อครูสังเกตเห็นต้นตะคร้อ หน้าน้ำโตน กิ่งหักลงมา พ่อครูดำริให้มาเลื่อยหรือตัดออกไม่เช่นนั้น กิ่งนี้จะฉีกถึงโคนต้นเสียหายมากไปกว่านี้ พ่อครูเดินกลับมาขึ้นที่บันไดมอส ซึ่งตอนนี้มอสได้ขึ้นคลุมราวบันไดทางขึ้น สวยงดงามตามธรรมชาติ ขึ้นมาพบคุณครูดนตรีไทยซึ่งเป็นจิตอาสามาจากจังหวัดศรีสะเกษ มากราบนมัสการพ่อครู ก่อนที่พ่อครูจะพักในช่วงบ่าย
ในช่วงเวลาเย็น18.00 น. วันนี้เป็นวันแรกสำหรับการจัดรายการ “สำมะปี๋ซี่วิต” ที่พ่อครูดำริให้เป็นรายการแบบสนทนาถามตอบปัญหา สารพัดสารพัน จิปาถะแบบพ่อลูกเป็นกันเอง ในทุกปัญหา ทางทีมงานบุญนิยมทีวีจึงได้จัดองค์ประกอบให้เหมือนการตั้งวงสนทนา ให้คล้ายกับช่วงเช้าตรู่ที่พ่อครูตื่นนอนและสนทนาธรรมกับท่านปัจฉา ถือว่าเป็นรายการที่จำลองตามดำริของพ่อครูได้ดีพอสมควร ซึ่งท่านทางคณะท่านปัจฉาแจ้งว่ารายการนี้จะจัดสัปดาห์ละ 2 วันคือวันพฤหัสบดีและวันเสาร์ ส่องผ่านเลนส์สังเกตเห็นความตื่นตัวของลูกๆมีความเบิกบานในการสนทนาในปัญหาจิปาถะ ที่ส่งคำถามมาถามพ่อครูและพ่อครูเองก็ปฏิบัติตนแบบสบายๆขนาดการครองผ้าหรือห่มจีวรก็ยังมีผู้ชมทางบ้านสงสัยจนพ่อครูตอบว่าก็เป็นรายการสบายๆจะครองผ้าอย่างไรก็ได้ เห็นถึงความกรุณาของพ่อครูที่ปฏิบัติทุกวินาที ให้เป็นวินาทีที่เผยแพร่ธรรมะโลกุตระช่วยให้คนพ้นทุกข์ มีสัมมาทิฏฐิแข็งแรงจนสามารถช่วยเหลือเผื่อแผ่ไปถึงผู้อื่นและสังคมได้อย่างสุขสำราญ เบิกบานใจ